ประเทศไทยเตรียมประเมิน THeMIS RCV ของ Milrem Robotics

Logo

กรุงเทพฯ–(บิสิเนสไวร์)–26 พ.ย. 2562

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) จะทำการประเมินยานยนต์ต่อสู้ THEMIS ของ Milrem Robotics (RCV) ในปีหน้าเพื่อพิจารณาความเหมาะสมสำหรับกองทัพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีฟีเจอร์มัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191125005334/en/

Thailand to Evaluate Milrem Robotics’ THeMIS RCV (Photo: Business Wire)

ประเทศไทยเตรียมประเมิน THeMIS RCV ของ Milrem Robotics (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

THeMIS RCV จัดแสดงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในงาน Asian Defense & Security Exhibition ในกรุงเทพฯ โดยจะทำการทดสอบร่วมกับกองทัพบกไทย  การทดสอบจะประเมินความสามารถของยานพาหนะในสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่สาหัสของกองกำลังท้องถิ่น

DTI จะพิจารณาว่า THeMIS RCV จะสามารถช่วยเหลือกองทัพในการขนส่งทางบกได้อย่างไร และการเป็นพาหนะติดอาวุธแบบไร้คนขับที่ควบคุมจากระยะไกล โดยจะดำเนินการร่วมกับ Electro Optic Systems (EOS) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ  ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ชื่อว่า D-Iron จะมี THeMIS RCV พร้อมด้วยสถานีอาวุธระยะไกล R400S-MK2 (RWS) โดย EOS

ระบบดังกล่าวได้ถูกนำเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศไทยรวมถึงแขกวีไอพีท่านอื่นๆ จากอาเซียนในระหว่างการจัดนิทรรศการที่กรุงเทพฯ

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Milrem Robotics และ Electro Optic Systems (EOS) กับ THeMIS RCV และสถานีอาวุธระยะไกล R400-MK2 30mm M230LF เพื่อเพิ่มความสามารถของกองทัพไทยด้วยระบบไร้คนขับที่มีประสิทธิภาพ  เราจะทำการทดสอบกับผู้ใช้งานหลายคนในปี 2563 สำหรับการใช้งานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการเป็นหุ่นยนต์ต่อสู้ยานเกราะ” พล.อ.อ. ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการอาวุโสของ DTI กล่าว

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ DTI และกองทัพบกไทยในระหว่างการประเมินนี้  THeMIS พิสูจน์แล้วว่าเป็น RCV ที่มีความสามารถมากที่สุดสำหรับสภาพแวดล้อมที่สาหัส  Milrem Robotics มุ่งมั่นที่จะให้กองทัพบกไทยมีความสามารถของระบบสงครามหุ่นยนต์ในสนามรบ” Kuldar Väärsi ประธานกรรมการบริหารของ Milrem Robotics กล่าว

THEMIS เป็นยานยนต์ต่อสู้หุ่นยนต์ไฮบริดแรกในโลกที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์บรรทุกอุปกรณ์ได้หลากหลายเช่นอาวุธขนาดใหญ่และขนาดเล็กและสามารถใช้เป็นแพลตฟอร์ม ISR การขนส่งทางบก และระบบ EOD

ยานพาหนะสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 1200 กิโลกรัมและเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. โดยสามารถติดตั้งชุดนำทางแบบจุดต่อจุดอย่างอิสระและติดตามขบวนรถหรือยูนิตที่ลงจากรถ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191125005334/en/

ติดต่อ:

Gert Hankewitz
ผู้อำนวยการฝ่ายส่งออก
gert.hankewitz@milrem.com