HULFT Pte. Ltd. เซ็นข้อตกลงเป็นพันธมิตร HULFT Implementation กับ Fujitsu Indonesia เพื่อเพิ่มกำลังกรอบงานการขายและการซัพพอร์ตการติดตั้ง สำหรับซีรี่ส์ HULFT ในอินโดนีเซีย

Logo

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–30 มกราคม 2017

SAISON INFORMATION SYSTEMS CO., LTD. (JASDAQ: 9640) (สำนักงานใหญ่: Toshima-ku, โตเกียว; ประธาน: Kazuhiro Uchida; ต่อจากนี้คือ “SAISON INFORMATION SYSTEMS”) วันนี้ได้ประกาศว่าบริษัทลูกในสิงคโปร์ HULFT Pte. Ltd. ได้เซ็นข้อตกลงเป็นพันธมิตร HULFT Implementation Partner Agreement (*1) กับ PT. Fujitsu Indonesia (สำนักงานใหญ่: จาการ์ต้า; ประธานอำนวยการ: Achmad Sunuadji Sofwan; ต่อจากนี้คือ “Fujitsu Indonesia”) เป็นพาร์ทเนอร์ทำงานในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ HULFT ในภูมิภาคนี้ HULFT เป็นซีรี่ส์ของผลิตภัณฑ์มิดเดิลแวร์ไฟล์ทรานสเฟอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 4 ในเรื่องของการขายทั่วโลก(*2)  และเป็นผู้นำส่วนแบ่งการตลาดท้องถิ่นในญี่ปุ่น(*3)

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20170129005037/en/

[รูปภาพ: จากซ้ายไปขวา] Wana Sedayu, JOC ผู้นำทีมการขายของ PT. Fujitsu Indonesia Hirotatsu Kawata, JOC ผู้นำการขายระดับประเทศของ PT. Fujitsu Indonesia Kazuhiro Uchida, ประธานและ CEO ของ SAISON INFORMATION SYSTEMS CO., LTD. Yasuko Sakurai กรรมการผู้จัดการ HULFT Pte. Ltd. (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

ภูมิหลังของการตกลง HULFT Implementation Partnership Agreement

ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในภูมิภาค ASEAN โดยเฉพาะอินโดนีเซียได้มีบริษัทญี่ปุ่นมากมายมีการผลิตและปฏิบัติการในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งได้นำไปสู่ความต้องการของการบูรณาการข้อมูลระหว่างบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทลูกต่างชาติ หรือผู้ร่วมลงทุนที่ได้มีขึ้นกับบริษัทต่างชาติ โดยพวกเขาได้พยายามประสานงานระหว่างระบบบัญชีและการจัดการการผลิตที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุที่เครือข่ายนั้นมีความเปราะบางมากกว่าในญี่ปุ่น มันจึงมีความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการสูญเสีข้อมูลและการส่งผ่านข้อมูลปริมาณมาก องค์กรที่ใช้ HULFT ในอินโดนีเซียเริ่มที่จะต้องการความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้น เราจึงรู้สึกถึงความต้องการพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้สามารถติดตั้งและพัฒนาผลิตภัณฑ์ HULFT ให้เราสามารถสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ จึงเป็นเหตุให้เราเซ็นข้อตกลงกับ Fujitsu Indonesia ที่มีประสบการณ์และผลงานที่พิสูจน์ได้ และมีชื่อเสียงยอดเยี่ยมในบริษัทญี่ปุ่นมากมาย 

แผนในอนาคตด

ข้อตกลงนี้จะทำให้ HULFT Pte. Ltd. และ Fujitsu Indonesia สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ขึ้นและขยายการปฏิบัติการในการบูรณาการการส่งผ่านไฟล์ ข้อมูล และเซกเตอร์การคอนเวิร์ตข้อมูลในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนของการขาย การติดตั้ง และซัพพอร์ทสำหรับผลิตภัณฑ์ HULFT ซีรี่ส์ นอกจากการซัพพอร์ทด้านเทคนิค เทรนนิ่ง ซัพพอร์ทต่างๆ เกี่ยงกับส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ HULFT ซีรี่ส์ที่ขึ้นกับ HULFT Implementation Partner (HIP) Program ทาง HULFT Pte. Ltd. จะให้ซัพพอร์ทอย่างยิ่งกับ Fujitsu Indonesia สำหรับการปฏิบัติการของเขาในอินโดนีเซีย 

เครื่องหมายการค้า

-“HULFT” และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ “HULFT” ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SAISON INFORMATION SYSTEMS CO., LTD.

-ชื่อของบริษัทอื่น ผลิตภัณฑ์ และบริการ เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายจดทะเบียนของบริษัทนั้นๆ

อ้างอิง

*1 โปรแกรมพาร์ทเนอร์ที่ได้รับรองโดยมุ่งไปที่การคิดค้นบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ HULFT ซีรี่ส์ เป็นส่วนของ HULFT Partner Program (HPP) ซึ่งเป็นโปรแกรมพาร์ทเนอร์ระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ HULFT ซีรี่ส์

*2 แหล่งข้อมูล: IDC, พฤศจิกายน 2015, “Worldwide Managed File Transfer Software Market Shares, 2014: Year of Steady Growth” (#259975)

*3 แหล่งข้อมูล: Fuji Chimera Research Institute, Inc., “New Market of Software Business 2015” (ขึ้นกับแพ็กเกจ/มูลค้าทางการเงิน)

HULFT

(รายละเอียดผลิตภัณฑ์): https://www.hulft.com/en/hulft-mft)

HULFT เกิดขึ้นมาร่วมกันกับแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เติบโตขึ้นตั้งแต่เปิดตัวในปี 1993 โดย HULFT เป็นมิดเดิลแวร์ส่งไฟล์ที่มีฟังก์ชั่นที่ลูกค้าต้องการในการแชร์ไฟล์ระหว่างระบบธุรกิจ ณ ขณะนี้มีการอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตร HULFT อยู่ที่ 185,800(*4) ใช้โดยบริษัท 8,600 แห่งใน 43 ประเทศทั่วโลก ในหลากหลายอุตสาหกรรม นอกจากการส่ง รับ และบริหารจัดการงานส่งไฟล์ ผลิตภัณฑ์รวมถึงฟังก์ชั่นรอบนอกที่สำคัญกับการส่งไฟ รวมถึงความปลอดภัยและการบูรณาการข้อมูลก่อนและหลังการโอนถ่ายข้อมูล 

*4: ณ ปลายเดือนกันยายน 2016

PT. Fujitsu Indonesia

PT. Fujitsu Indonesia ก่อตั้งในปี 1995 โดยใช้ชื่อว่า PT Fujitsu Systems Indonesia มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จาการ์ต้าโดยมีจุดให้บริการในเมืองใหญ่เช่นจาการ์ต้า สุราบายาและผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตมากกว่า 75 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย Fujitsu Indonesia มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้าน ICT โซลูชั่นส์ที่โฟกัสสำหรับลูกค้า และให้บริการในอินโดนีเซีย Fujitsu ให้โซลูชั่นส์แบบวันสตอปและเอ็นทูเอ็น โดยครอบคลุมตั้งแต่ PCs แบบคุณภาพสูง ไปยังเซอร์เวอรส์ที่สำคัญ การใช้งานในธุรกิจ โรงงาน และโครงสร้างพื้นฐาน ICT ลูกค้าของ Fujitsu Indonesia มีหลากหลายภาคอุตสาหกรรมและภาพส่วนเช่นรัฐบาล โรงงาน ค้าปลีก น้ำมันและก๊าซ รวมถึงโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดและบริษัทโรงงานต่างๆ ในอินโดนีเซีย

ชื่อ: PT. Fujitsu Indonesia (FID)

สำนักงานใหญ่: Wisma Keiai (10F), JI. Jend.Sudirman Kav.3, จาการ์ต้า, 10220, อินโดนีเซีย

ก่อตั้ง: มกราคม 1995

ประธาน: Achmad Sunuadji Sofwan (ประธานอำนวยการ)

เว็บไซต์: http://www.fujitsu.com/id/

SAISON INFORMATION SYSTEMS CO., LTD.

สำนักงานใหญ่: Sunshine 60 (21F), 3-1-1 Higashi-Ikebukuro, Toshima-ku, โตเกียว 170-6021, ญี่ปุ่น

ก่อตั้ง: 1 กันยายน 1970

ประธาน: Kazuhiro Uchida (ประธานและ CEO)

เงินทุน: ¥1,367,687,500

กิจกรรมทางธุรกิจ: ระบบการเงิน, ระบบบริการค้าปลีก และไอทีโซลูชั่นส์ HULFT

Securities code: 9640 (ตลาดหุ้นโตเกียว, ตลาด JASDAQ Standard)

เว็บไซต์: http://home.saison.co.jp/english/

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170129005037/en/

กสิกรไทยผนึกกำลัง 3 สายงานชูธงเป็นธนาคารอันดับ 1 ในใจลูกค้าด้วยบริการที่ประทับใจยิ่งกว่าเดิม

Logo

กสิกรไทยจัดทัพใหม่เสริมความแข็งแกร่ง ดูแลลูกค้า 3 กลุ่ม ให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้นและประทับใจยิ่งกว่าเดิม ตั้งเป้าปี 2560 สินเชื่อขนาดใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอีเติบโต 4-6% เพิ่มฐานลูกค้าบุคคลเป็น 14.1 ล้านราย หรือเติบโต    5-6% เพิ่มลูกค้า Mobile Banking Application เป็น 7.1 ล้านราย หวังเป็นที่ 1 ในใจลูกค้าทุกกลุ่ม

ธนาคารกสิกรไทยมอบหมายให้นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ดูแล 3 สายงานธุรกิจ ทั้งสายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัท สายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ และสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายการให้บริการ ร่วมกับ 3 รองกรรมการผู้จัดการ เพื่อให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ตรงตามความต้องการ เชื่อมโยงการให้บริการลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ประทับใจยิ่งขึ้น

นายสุวัฒน์ เตชะวัฒนวรรณา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของสายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัทซึ่งดูแลลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เติบโตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย ณ สิ้นปี 2559 มียอดสินเชื่อรวม 511,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% มีรายได้รวม 21,400 ล้านบาท เพิ่ม 7% จากปีก่อนหน้า สำหรับในปี 2560 ตั้งเป้าหมายยอดสินเชื่อเติบโต 4-6% และรายได้เติบโต 1-2% โดยอุตสาหกรรมที่น่าจะเติบโตได้ดี ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ก่อสร้าง บริการสุขภาพ และยานยนต์

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยมองว่าลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ควรเตรียมความพร้อมที่สำคัญ คือ การระดมทุนผ่านตลาดทุนเพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ การจัดสรรเงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ที่จะเอื้อต่อการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและสร้างโอกาสทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดยในปี 2560 สายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัทยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้ให้บริการหลัก (Main Bank) เพื่อตอบทุกโจทย์ธุรกิจขนาดใหญ่ผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก คือ การเป็นธนาคารที่ให้บริการด้านแหล่งทุนที่ดีที่สุด ด้วยการระดมทุนที่หลากหลาย และเป็นผู้ให้บริการด้านธุรกรรมการเงินที่ดีที่สุด เพื่อเชื่อมโยงช่องทางการรับและจ่ายเงินของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการแข่งขันให้กับลูกค้าและในห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) ของลูกค้า รองรับการทำธุรกรรมจำนวนมากได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งสกุลเงินกลุ่ม AEC+3 และสกุลเงินหลักทั่วโลก

ด้านนายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าในปี 2559 สายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการมียอดสินเชื่อรวม 657,000 ล้านบาท เติบโต 6% มีรายได้รวมอยู่ที่ 43,100 ล้านบาท เติบโตกว่า 1% โดยธนาคารกสิกรไทยยังคงครองความเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 28% สำหรับปี 2560      ตั้งเป้ายอดสินเชื่อขยายตัว 4-6% รายได้เติบโต 2-3% โดยธนาคารมองว่ากลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีแนวโน้มเติบโตดีในปีนี้ ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจท่องเที่ยวบริการด้านสุขภาพ และธุรกิจออนไลน์

ในปีที่ผ่านมาธนาคารยังคงมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าในทุกห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ใน   3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การบริโภค อุตสาหกรรมหนัก และโครงสร้างพื้นฐาน/พลังงาน ให้ได้รับเงินทุน ทั้งเงินกู้ระยะยาวและเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งการสนับสนุนตลอดห่วงโซ่ธุรกิจและการบริหารเงินทั้งขารับและขาจ่ายในห่วงโซ่นั้นๆ จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

สำหรับปี 2560 ธนาคารต้องการตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ทั้งในด้านตลาดสินเชื่อและเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด ด้วยการมุ่งมั่นดูแลลูกค้าในทุกเรื่องธุรกิจ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ

การตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอีแบบครบวงจรในทุกมิติ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองลูกค้าเฉพาะกลุ่มรวมถึงกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ และยังคงมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าในรูปแบบห่วงโซ่ธุรกิจ พร้อมทั้งสนับสนุนลูกค้าในด้านองค์ความรู้ นำเสนอเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ช่วยบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือการสร้างเครือข่ายคู่ค้าเพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าเอสเอ็มอีต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มได้

การพัฒนานวัตกรรมการเงินดิจิทัลแบงกิ้ง เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่น   การรับจ่ายเงิน การค้าระหว่างประเทศ และบริการหนังสือค้ำประกันผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจออนไลน์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วยการนำเทคโนโลยี    มาปรับปรุงกระบวนการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพและลดต้นทุน รวมถึงสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าผลการดำเนินงานด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยธนาคารกสิกรไทยในปี 2559 ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์และทำได้ในระดับเดียวกันกับภาพรวมของตลาดมียอดสินเชื่อลูกค้ารายย่อย 374,000 ล้านบาทเติบโต 2% รายได้ค่าธรรมเนียม 31,000 ล้านบาทเติบโตกว่า 1% สำหรับในปี 2560 ธุรกิจลูกค้ารายย่อยยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อทำให้ลูกค้า “ประทับใจยิ่งกว่าเดิม” และเป็นธนาคารที่ลูกค้าใช้เป็นหลักโดยมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของธนาคารที่ทันสมัย รวมถึงขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพร้อมบริการในทุกเรื่องการเงินในทุกเวลาที่ลูกค้าต้องการในทุกที่ที่ลูกค้าไปใน 4 ด้าน คือ

ดิจิทัลแบงกิ้ง เน้นการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแพลทฟอร์มโมบายแบงกิ้งให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินด้วยตัวเองทุกที่ทุกเวลาบน K-Mobile Banking PLUS โดยในปีนี้ฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว คือการออกบัตรเดบิตได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องไปสาขา

ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ (New Payment) ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจรับชำระเงินด้วยการเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ร่วมมือกับ Alipay และ WeChat พันธมิตรระดับโลกให้ร้านค้าสามารถรับชำระค่าสินค้าและบริการจากลูกค้าชาวจีนที่มาท่องเที่ยวไทย ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการ Alipay แล้วในธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน และแบรนด์ร้านค้าที่เข้าร่วมภายใต้กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลคลับ 21 กลุ่มจัสปาล ส่วน WeChat สามารถใช้บริการได้ที่คิง เพาเวอร์ โดยในปี 2560 จะเพิ่มการให้บริการในอีกหลายบริการ

เค-เซอร์วิส (K-Service) สร้างเครือข่ายการให้บริการรับชำระบิลผ่านเคาน์เตอร์พันธมิตรของธนาคารโดยในเดือน ก.พ.นี้ ลูกค้าจะสามารถจ่ายบิลได้ที่สาขาของเจมาร์ท (Jaymart) ทั่วประเทศและกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการกับพันธมิตรรายอื่น ๆ เพิ่มขึ้น

การเป็นที่ปรึกษา (Advisory) ยกระดับคุณภาพการเป็นที่ปรึกษาเพิ่มช่องทางการให้คำปรึกษาของ K-Expert ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงยกระดับคุณภาพการบริการผ่านสาขาเทียบเท่ามาตรฐานโลก

ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตฐานลูกค้าบุคคลในปี 2560 เป็น 14.1 ล้านรายหรือเติบโต 5-6% เพิ่มลูกค้า Mobile Banking Application เป็น 7.1 ล้านราย รักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ดิจิทัลแบงกิ้งอย่างต่อเนื่อง

อสังหาริมทรัพย์ของ Picasso ถูกขายให้กับประธานของ Scepter คุณ Rayo Withanage

Logo

มูแกงส์, ฝรั่งเศส–(บิสิเนส ไวร์)–27 มกราคม 2017

อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และบ้านหลังสุดท้ายของ Pablo Picasso ในมูแกงส์ ประเทศฝรั่งเศส ได้ขายให้กับ Rayo Withanage นักการเงินชาวบรูไน ในราคาที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ นายกเทศมนตรีของมูแกงส์คอนเฟิร์มในข่าวประชาสัมพันธ์เรื่องการขาย รายงานโดย The Wall Street Journal

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20170127005359/en/

L'Antre du Minotaure ในมูแกงส์ ประเทศฝรั่งเศส (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)logo

Mr. Withanage ซึ่งเป็นประชากรของเบอร์มิวดาและลอนดอน เป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Scepter Partners ซึ่งเป็นผู้ลงทุนและเป็นธนาคารสำหรับนักลงทุนภาครัฐ เขาเป็นผู้ก่อตั้ง The BMB Group กับเจ้าชาย HH Prince Abdul Ali Yil Kabier ของราชวงศ์บรูไนอีกด้วย

อสังหาริมทรัพย์ระดับสูง L’Antre du Minotaure (the Den of The Minotaur) นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสตอนใต้ 

อสังหาริมทรัพย์นี้ ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ให้สวยงามภายในการนำโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง Axel Vervoordt ครอบคลุม 3 เฮกเตอร์ด้วยป่ามะกอกที่มีอายุมากกว่า 500 ปี อสังหาริมทรัพย์นี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่นั้นๆ 

Picasso ได้เก็บสตูดิโอของเขาอยู่ในตัวบ้าน โดยอาศัยอยู่ที่นั่นกับภรรยา Jacqueline และลูกสาว Cathérine บ้านและสวนนี้ได้รับการออกแบบเองโดย Picasso และยังเก็บงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์แบบดั้งเดิมเอาไว้ เมื่อเขาเสียชีวิตไป บ้านหลังนี้ได้เป็นที่เก็บงานศิลปะมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญ 

ก่อนหน้านี้ที่ Picasso จะเป็นเข้าของ บ้านหลังนี้เป็นของตระกูล Guinness และมีชื่อเสียงในการเป็นบ้านพักตากอากาศฤดูร้อนของ Winston Churchill ที่วาดภาพอสังหาริมทรัพย์นี้มากมาย เดิมที บ้านหลังนี้ย้อนยุคไปมากกว่าพันปี และอยู่ติดกับ Notre-Dame-De-Vie ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค สวนนี้ได้รับการยกย่องในฝรั่งเศสว่ามีต้นวีสทีเรียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีดอกไม้นานาพันธุ์ปลูกโดย Picasso เอง

ภายใต้เจ้าของคนใหม่ อสังหาริมทรัพย์นี้จะใช้เพื่อการกุศลโดยมูลนิธิในท้องถิ่น และเป็นการโปรโมทงานศิลปะผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการบริจาคเงินก็เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาแบบยั่งยืนทั้งหลายที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โมนาโก

อสังหาริมทรัพย์นี้มีเจ้าของก่อนหน้าคือนักธุรกิจชาวดัตช์ Tom Moeskops และ BMB Alliance การขายนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้าง BMB Group ซึ่งหมุนเวียนสินทรัพย์เพื่อสร้าง Scepter Partners และเซ็นสัญญาแล้วปลายปีที่แล้ว 

เกี่ยวกับ Rayo Withanage

Rayo Withanage เป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Scepter Partners ซึ่งเขาได้รับการฝึกฝนเป็นนักกฎหมาย M&A โดยมีปริญญาโทจาก London School of Economics เขาเป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาของการธนาคารวาณิชธนกิจและธุรกิจการลงทุนของ Scepter Partners ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเงินทุนของครอบครัวและนักลงทุนภาครัฐ ทีมบริหารระดับสูงของ Scepter หมุนเวียนมาจาก Blackstone Group ภายใต้การนำของ Anthony Steains ในปี 2015 บริษัท Scepter มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เบอร์มิวดาโดยมีสำนักงานอยู่ในนิวยอร์กและฮ่องกง ได้รับการสนับสนุน 1.4 หมื่นล้านเหรียญ ในสินทรัพย์ และ ก่อตั้งขึ้นเพื่อซื้อสินทรัพย์แบบ large cap โดยมุ่งในด้านทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ และสื่อรวมถึงโทรคมนาคม Mr. Withanage เป็นคนศรีลังกาและโปรตุเกส เกิดบนเกาะฟิจิและโตในเบอร์มิวดา นิวซีแลนด์ และบรูไน

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170127005359/en/

ติดต่อ:

Hill+Knowlton Strategies

Caleb Barnhart, 212-885-0310

caleb.barnhart@hkstrategies.com




International Coalition นำคดีไปฟ้องร้องที่ศาลชั้นต้นของรอตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการคอรัปชั่นและฉ้อโกงที่ถูกกล่าวหาของตัวแทนจำนวนหนึ่งและผู้บริหารของ Petroleo Brasiliero

Logo

รอตเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์–(บิสิเนส ไวร์)–24 มกราคม 2017

กองกำลังพันธมิตรนานาชาติประกาศวันนี้ว่าได้นำคดีไปฟ้องร้องที่ศาลดัชท์เมื่อวานนี้ โดยเป็นตัวแทนของกลุ่มนักลงทุนที่ต้องสูญเสียหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในการลงทุนใน Petroleo Brasiliero SA (“Petrobras”) กองกำลังพันธมิตรมองหาคำสั่งศาลแสดงสิทธิ์ของโจทก์อันเป็นผลจากการคอรัปชั่นของบริษัทและผู้บริหารที่ได้รับกล่าวหาไป ทางกองกำลังพันธมิตรเป็นตัวแทนของนักลงทุนที่ซื้อหลักทรัพย์ Petrobras ในตลาด BM&FBOVESPA ในบราซิลและหลักทรัพย์อื่นๆ ที่ซื้อผ่านการซื้อขายของ (แต่ไม่ครอบคลุมโดย) การดำเนินคดีในสหรัฐอเมริกา กลุ่มนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายเชื่อว่าเนเธอร์แลนด์มีอำนาจศาลที่เหมาะสมในการดำเนินคดีทางกฎหมายได้ ซึ่งเป็นที่ที่ Petrobras Global Finance B.V. และบริษัทและภาคส่วนอื่นๆ ของ Petrobras ตั้งอยู่ นอกจากนี้ ระบบกฎหมายของดัชท์ได้เป็นแบบอย่างของโลกสำหรับนักลงทุนนานาชาติที่มองหาค่าชดเชยจากความสูญเสียที่เกิดจากการฉ้อโกงและการฝ่าฝืนกฎหมายหลักทรัพย์นานาชาติ

ในหมายศาล 172 หน้ากล่าวหาว่า เมื่อการฉ้อโกงและการติดสินบนที่ซับซ้อนกระทำโดยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ Petrobras ได้เปิดเผยขึ้นสู่สาธารณะในปี 2014 นั้น นักลงทุนได้สูญเสียหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ยูโร และเงินเรียลของบราซิล อันเป็นผลจากการลดมูลค่าทางบัญชีของทรัพย์สินอันเป็นสาระสำคัญลงและการลดลงอย่างมากในราคาหุ้น Petrobras 

หมายศาลนี้ได้ออกโดย Stichting Petrobras Compensation Foundation (“Foundation”) ของดัชท์ ที่มีตัวแทนคือกองกำลังพันธมิตรสถาบันทนายของดัชท์ อเมริกา บราซิล และอังกฤษ และได้รับการสนับสนุนโดยนักลงทุนนานาชาติกลุ่มใหญ่ และองค์กร International Securities Associations and Foundations Management Company Ltd. (“ISAF”) ทาง Foundation ไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไรที่เป็นตัวแทนของนักลงทุน Petrobras ที่ได้รับความเสียหาย ทาง Foundation นี้นำโดยคณะกรรมการผู้มีประสบการณ์สูงและเป็นอิสระ ประกอบไปด้วย: Mr. H. Th. Bouma (ประธาน), อดีตพาร์ทเนอร์นักกฎหมายที่ Pels Rijcken & Droogleever Fortuijn และอดีตรองผู้พิพากษาที่ศาลอุทธรณ์ในเดอะเฮก; Mr. A.H. Korthals อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของรัฐบาลดัชท์; Mr. C.J. Vriesman อดีตนายกเทศมนตรีของเดน เฮลเดอร์และอดีตผู้อำนวยการทั่วไปของ National Forest Service และ the Ministry of Housing, Spatial Planning and the Environment

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะกรรมการของ Foundation สามารถอ่านได้ที่เว็บไซต์ของ Foundation (http://www.pbcompensation.com/)

เป้าหมายของการดำเนินคดีและการทดแทนความเสียหาย 

การดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ได้รับการสนับสนุนและช่วยด้านการเงินโดย ISAF และให้พาหนะสำหรับนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายเพื่อการดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหาย และเพื่อก่อให้เกิดการจัดการหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี นักลงทุน Petrobras ที่มีสิทธิมีส่วนร่วมในฐาน “ค่าความสำเร็จเท่านั้น" โดยไม่มีความเสี่ยงหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ทาง Foundation เชิญ Petrobras ในการร่วมหารือถึงการแก้ปัญหาจากความสูญเสียนี้ที่เกิดขึ้นกับนักลงทุน ที่มีตัวแทนคือ Foundation จนถึงปัจจุบันนี้ คำเชิญนั้นยังไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้นการดำเนินคดีจึงได้เริ่มขึ้น

อำนาจในการตัดสินคดี

เนเธอร์แลนด์มีอำนาจในการตัดสินคดีสำหรับการฟ้องร้อง Petrobras ในกรณีนี้ 

นักลงทุนดัชท์และนานาชาติมองหาการดำเนินคดีทางกฎหมายผ่านทาง Foundation ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ที่ Petrobras Global Finance B.V. และบริษัทและภาคส่วนอื่นๆ ของ Petrobras ตั้งอยู่ นอกจากนี้ ผลกระทบของการฉ้อโกงที่กล่าวหานี้ขยายมาสู่เนเธอร์แลนด์ การดำเนินคดีและการหาข้อยุติของ Foundation ครอบคลุมถึงหลักทรัพย์หลักของ Petrobras ซื้อขายใน BM&FBOVESPA ในเซาเปาโลและผ่านทางตลาดที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น Latibex ที่ตลาดหลักทรัพย์มาดริด และตราสารหนี้สกุลยูโร สเตอร์ลิง และดอลลาร์สหรัฐ ที่อิชชูผ่าน Petrobras Global Finance B.V. การตัดสินใจของกำลังพันธมิตรในการดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ยังพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่าถ้าแต่ละฝ่ายตัดสินใจที่จะยอมความระหว่างการดำเนินดี ระบบกฎหมายของดัชท์มีบรรทัดฐานของโลกสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่หาค่าทดแทนที่เกิดจากกรณีฉ้อโกงหรือการขัดต่อกฎหมายหลักทรัพย์นานาชาติ

คดีความหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา 

คดีความที่ฟ้องร้องในอเมริกาแทนนักลงทุน ครอบคลุมถึงการสูญเสียใน American Depository Shares ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและตราสารหนี้ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสูญเสียตั้งแต่หุ้นที่ซื้อใน BM&FBOVESPA และบอนด์อื่นๆ รวมถึงยูโร ที่ไม่ได้รวมอยู่ในการดำเนินคดีของสหรัฐและคดีความ opt-out

อนุญาโตตุลาการบราซิล

ISAF และการร่วมมือสัมพันธมิตรกับสำนักงานทนาความนานาชาติได้ทำการค้นคว้าวิจัยถึงโปรสเป็คของอนุญาโตตุลาการระหว่างนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายและ Petrobras ก่อน Market Arbitration Chamber ของตลาดหลักทรัพย์ BM&FBOVESPA ในบราซิล การวิเคราะห์นี้ บวกกับการวิเคราะห์โดยนักลงทุนที่เป็นอิสระจาก ISAF นำพาไปสู่บทสรุปว่ากลยุทธ์การดำเนินคดีของดัชท์จัดโดย Foundation และ ISAF เป็นเส้นทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่การช่วยเหลือที่มีความหมายต่อนักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย

เกี่ยวกับ Shareholder Foundation

องค์กร Foundation: Stichting Petrobras Compensation Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งอยู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของนักลงทุน Petrobras ที่ได้รับความเสียหาย ได้แต่งตั้ง ISAF ให้ติดต่อกับนักลงทุน สำนักกฎหมาย ผู้ให้บริการและสื่อมวลชนในการทำหน้าที่ต่างๆ รวมถึงการเก็บข้อมูลการซื้อขายของลูกค้า การคำนวณความเสียหาย ใบรับรองการสูญเสีย และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ISAF จะให้เงินสนับสนุนค่าดำเนินคดี รวมถึงค่าทนาย ค่าผู้เชี่ยวชาญ กระบวนการ การเกิ็บข้อมูล ค่าธุรการ ค่าธุรการเกี่ยวกับการร้องเรียน 

สำนักงานทนายความ: Lemstra Van der Korst N.V. ซึ่งเป็นสำนักทนายความชั้นนำของดัชท์เป็นตัวแทนของ Foundation และให้คำปรึกษากับสำนักการดำเนินคดีความหลักทรัพย์คือ Motley Rice และ Lowey Dannenberg Cohen & Hart และ Withers LLP และสำนักกฎหมายบราซิล

การวิเคราะห์ข้อร้องเรียนและกระบวนการ: Battea Class Action Services, LLC ซึ่งเป็นผู้นำนานาชาติในด้านการร้องเรียนด้านหลักทรัพย์ยังเก็บข้อมูลลูกค้าและทำการคำนวณความสูญเสียของนักลงทุน

 สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170123006220/en/

ติดต่อ:

ISAF

Adam Foulke, +1 203-252-3378

media@isafpetrobras.com

โตชิบาเปิดตัวพาวเวอร์แอมพลิไฟเออร์ IC ป้อนกลับด้วยกระแสสำหรับเสียงในรถยนต์ พร้อมมีตัวจับออฟเซ็ตตลอดเวลาแบบบิลด์อิน

Logo

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–25 มกราคม 2017

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) วันนี้ประกาศเปิดตัว “TCB502HQ” พาวเวอร์แอมพลิไฟเออร์ IC 4 ช่อง ที่สามารถจับแรงดันเอ้าต์พุตออฟเซ็ต ที่เป็นปัจจัยในการทำให้เกิดความล้าของสปีกเกอร์ การผลิตจำนวนมากเริ่มทำในวันนี้

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/20170125005472/en/

โตชิบา: “TCB502HQ” พาวเวอร์แอมพลิไฟเออร์ IC 4 ช่องสำหรับเสียงในรถยนต์ ที่สามารถจับแรงดันเอ้าต์พุตออฟเซ็ต ที่เป็นปัจจัยในการทำให้เกิดความล้าของสปีกเกอร์ (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)logo

IC ใหม่นี้นำเอาวงจรการจับออฟเซ็ตที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ที่สามารถจับแรงดันเอ้าต์พุตออฟเซ็ตแม้ในช่วยที่กำลังผลิตเสียงซ้ำ ทำให้ช่วยลดความล้าของสปีกเกอร์

โรงงานมักหาสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยการพัฒนาคุณภาพเสียงในรถและ IC ใหม่ที่สนับสนุนสิ่งนี้ด้วยการบูรณาการนำเอาระบบการป้อนกลับด้วยกระแสมาใช้ ที่จะทำให้เกิดเสียงที่ดี จะช่วยลดการทำลายคุณภาพเสียงหากมีช่วงความถี่ของคลื่นวิทยุสูงและช่วยประกันคุณภาพเสียงที่คงที่

สเป็คหลัก
หมายเลขชิ้นส่วน TCB502HQ
เอ้าต์พุตพาวเวอร์สูงสุด 49Wx4ch (Vcc=15.2V,RL=4Ω, JEITA max)
แรงดันซัพพลายในการปฏิบัติงาน 6V ถึง 18V
แรงดันเอ้าต์พุตออฟเซ็ต 70mV
แรงดันเอ้าต์พุตน้อยส์ 33uV (BW=A-weight)
ฟังก์ชั่นและฟีเจอร์
  • เอ้าต์พุตสูงและการดีสทอร์ต่ำ
  • ฟังก์ชั่นเงียบและสแตนบายแบบบิลด์อิน จับออฟเซ็ต จับกระแสไฟฟ้าขาด และจับกระแสไฟฟ้าครึ่งหนึ่ง
  • การปฏิบัติงาน 6V (ความสามารถในการลดการพักเครื่อง)
  • วงจรปกป้อง (ความร้อน, แรงดันมากไป, เอ้าต์พุตไปที่ VCC, เอ้าต์พุตไปที่ GND, เอ้าต์พุตไปที่การป้องกันเอ้าต์พุต)
ราคาตัวอย่างแพ็กเกจ (รวมภาษี) 500 เยน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ กรุณาติดต่อ:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/automotive/power-amp.html

ลูกค้าติดต่อ

Mixed Signal IC Sales and Marketing Department

โทร: +81-44-548-2821

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา

โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ www.toshiba.co.jp/index.htm

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170125005472/en/

สื่อมวลชนติดต่อ:

Toshiba Corporation

Storage & Electronic Devices Solutions Company

Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

โตชิบาเปิดตัวไบโพลาร์สเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดร์ฟเวอร์ IC ที่ไม่ต้องใช้ตัวจับแรงดันที่ผ่านตัวต้านทานวัดกระแส

Logo

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–24 มกราคม 2017

บริษัท สตอเรจ แอนด์ อิเล็กทรอนิกส์ ดีไวเซส โซลูชันส์ (Storage & Electronic Devices Solutions Company) ในเครือของโตชิบา คอร์ปอเรชั่น (Tokyo:6502) วันนี้ประกาศเปิดตัว “TB67S508FTG” ไบโพลาร์สเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดร์ฟเวอร์ที่ให้แรงดันสูง 40V และกระแส 3.0A โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวจับแรงดันที่ผ่านตัวต้านทานวัดกระแสภายนอก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เริ่มส่งออกวันนี้

สามารถรับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/news/home/20170124005691/en/

logo

โตชิบา: ไบโพลาร์สเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดร์ฟเวอร์ “TB67S508FTG” ให้แรงดันสูง 40V และกระแส 3.0A โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวจับแรงดันที่ผ่านตัวต้านทานวัดกระแสภายนอก (รูปภาพ: บิสิเนส ไวร์)

เครื่องปริ้นเตอร์ อุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ กล้องวงจรปิด เครื่องมือของธนาคารเช่น ATM เครื่องตรวจธนบัตร เครื่องเกมส์ และอุปกรณ์ในบ้าน ได้ถูกลดขนาดลงเพื่อให้ประหยัดพื้นที่และเพื่อการออกแบบที่พัฒนาขึ้น การใช้พลังงานน้อยเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ลดบอร์ด IC และลดความร้อนภายในในตัวผลิตภัณฑ์

IC ตัวใหม่นี้ได้ใช้โครงสร้าง ACDS[1] ของโตชิบา ซึ่งได้นำมาใช้ก่อนหน้านี้ในยูนิโพลาร์สเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดร์ฟเวอร์ IC ซึ่งมันช่วยให้ลดการใช้ตัวต้านทานภายนอกสองตัวที่ต้องใช้จับกระแสมอเตอร์ โดยการใช้แพ็กเกจขนาดเล็ก QFN36 (พื้นที่ 5 มม. × 5 มม.) ทำให้ IC ตัวใหม่นี้ลดพื้นที่ไปได้ 66% ของผลิตภัณฑ์โตชิบาปัจจุบัน[2] ACDS ยังลดการสูญเสียพลังงานและความผิดพลาดของตัวต้านทาน และทำให้เกิดการใช้พลังงานต่ำและมีการควบคุมกระแสได้อย่างแม่นยำสูง

ลักษณะหลักของผลิตภัณฑ์ใหม่มีดังนี้

  • ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวต้านทานภายนอกในการจับกระแส
  • ACDS ซึ่งเป็นโครงสร้างดั้งเดิมของโตชิบา มีการควบคุมกระแสมอเตอร์ที่แน่นอนแม่นยำสูง โดยไม่ต้องใช้ตัวต้านทานภายนอกในการจับกระแส
  • ความร้อนต่ำขณะใช้มอเตอร์
  • เอ้าต์พุตแบบบิลด์อิน DMOS ด้วย on-resistance ต่ำ (0.45Ω (upper + lower: typ.)) ลดการใช้ความร้อนไป 13% เมื่อสเต็ปปิ้งมอเตอร์ใช้งานอยู่ที่ 1A เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์โตชิบาขณะนี้[3]
  • แพ็กเกจขนาดเล็ก
  • แพ็กเกจทนความร้อนสูงขนาดเล็ก QFN36 ช่วยลดพื้นที่และราคา
สเป็คหลัก
หมายเลขชิ้นส่วน TB67S508FTG
ฟังก์ชั่น สเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดร์ฟเวอร์
แพ็กเกจ QFN36
I/F Clock input and phase input
โหมดของสเต็ปเรโซลูชั่น เต็ม, ครึ่งหนึ่ง, หนึ่งในสี่
เอ้าต์พุตเรตติ้ง (แรงดัน) 40V
เอ้าต์พุตเรตติ้ง (กระแส) 3A
เอ้าต์พุตออนรีซิสเตอร์ (upper + lower) 0.45Ω (typ.)
พาวเวอร์ซัพพลาย Support single power drive
การจับแบบไม่ปกติ การปิดโดยไม่ตั้งใจ การจัดกระแสที่มากเกินไป การจับแรงดันต่ำหรือพลังงานน้อย และการจับ OSCM terminal component open / short detection
ฟังก์ชั่นอื่นๆ ACDS and ADMD[4]

หมายเหตุ:

1: ACDS: Advanced Current Detect System

2: การเปรียบเทียบ

ผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน: ตัวจับต้านทาน 2 ตัว (5 มม. × 2.5 มม.) เชื่อมต่อกับกระแส IC (7 มม. × 7 มม.) ด้วยแพ็กเกจ QFN48

ผลิตภัณฑ์ใหม่: 5 มม. × 5 มม.)

3: เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน TB62213AFTG (เอ้าต์พุตเรตติ้งมากสุด 40V/3A)

4: ADMD: Advanced Dynamic Mixed Decay

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ กรุณาติดต่อ:

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TB67S508FTG&region=apc&lang=en

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดร์ฟเวอร์ของโตชิบา กรุณาติดต่อ: https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/linear/motordriver/stepping-motor.html

ลูกค้าติดต่อ:

Mixed Signal IC Sales and Marketing Department

โทร: +81-44-548-2821

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบา

โตชิบา คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัท Fortune Global 500 นำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันล้ำสมัย รวมถึงระบบต่างๆ ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงาน (Energy) เพื่อทุกวันของชีวิตที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอย่างยั่งยืน, โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการจัดเก็บข้อมูล (Storage) เพื่อสนับสนุนสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารที่ก้าวล้ำ โตชิบาส่งเสริมการดำเนินงานทั่วโลก และสนับสนุนการสร้างสรรค์โลกเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อๆ ไป ภายใต้รากฐานความมุ่งมั่นของโตชิบา กรุ๊ป ที่ว่า “ความมุ่งมั่นต่อประชากร, ความมุ่งมั่นต่ออนาคต”

โตชิบาก่อตั้งขึ้นในโตเกียวเมื่อปี 1875 และปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทในเครือกว่า 550 แห่ง ด้วยจำนวนพนักงาน 188,000 คนทั่วโลก และยอดขายต่อปีกว่า 5.6 ล้านล้านเยน (5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2016)

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโตชิบาได้ที่ www.toshiba.co.jp/index.htm

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170124005691/en/

สื่อมวลชนติดต่อ:

Toshiba Corporation

Storage & Electronic Devices Solutions Company

Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

MHI ขยายกำลังการผลิตเครื่องปรับอากาศ ที่ MACO บริษัทร่วมทุนในไทย

Logo

มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ เทอร์มอล ซิสเต็มส์ สร้างโรงงานแห่งที่สาม เพื่อเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ไฟฟ้า

โตเกียว 25 มกราคม .. 2560 – บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ เทอร์มอล ซิสเต็มส์ จำกัด    (MTH) ในเครือกลุ่มบริษัท MHI กำลังขยายกำลังการผลิตที่ บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ มหาจักร แอร์ คอนดิชั่นเนอร์ส จำกัด (MACO) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในประเทศไทย เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในครัวเรือนและเชิงพาณิชย์ จุดมุ่งหมายของการขยายกิจการคือเพื่อการตอบสนองที่มีความยืดหยุ่นต่อความต้องการจากทั่วโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นสำหรับระบบปรับอากาศที่มีความสะดวกสบายและความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในครัวเรือนและเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย พร้อมๆไปกับการขยับขยายเครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ในการผลิต ของโรงงานที่ 1 และ โรงงานที่ 2 สำหรับการประกอบและการผลิตชิ้นส่วน จะมีการก่อตั้งโรงงานที่ 3 และโรงงานผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าควบคู่กันไป โดยทั้ง 2 โรงงานใหม่นี้มีกำหนดที่จะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงต้นปี พ.ศ. 2561 โดยคาดว่าจะมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านหน่วยภายในปีพ.ศ. 2563 ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2558 

MACO ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2531 ร่วมกับ บริษัท มหาจักร อินดัสตรี่ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของไทย โดยมีการก่อสร้างโรงงานที่ 1 และโรงงานที่ 2 ขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ เพื่อผลิตชิ้นส่วนและประกอบเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในครัวเรือนและเชิงพาณิชย์

จากโรงงานใหม่ทั้ง 2 แห่งที่จะก่อสร้างขึ้นนั้น โรงงานที่ 3 จะผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและแผ่นโลหะสำหรับเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในครัวเรือนและเชิงพาณิชย์ สำหรับโรงงานผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าจะประกอบแผงวงจรไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญของเครื่องปรับอากาศ ยอดรวมของเงินลงทุนทั้งหมดรวมทั้งการขยับขยายสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงงานที่มีอยู่เดิมจะอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านเยน การก่อสร้างมีกำหนดที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2560

การลงทุนครั้งนี้จะเพิ่มกำลังการผลิตของ MACO ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตผ่านการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและวิธีการผลิต รวมทั้งการประสานงานด้านการประกอบชิ้นส่วน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านค่าใช้จ่ายและช่วยลดจำนวนสินค้าคงคลังของสินค้ากึ่งสำเร็จรูปและสินค้าสำเร็จรูปได้อีกด้วย

ธุรกิจเครื่องปรับอากาศได้กลายเป็นที่แข่งขันกันมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อจุดอิ่มตัวของตลาดภายในประเทศญี่ปุ่น และการเพิ่มขึ้นของผู้ผลิตในตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอิงจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกสำหรับการปรับอากาศที่สะดวกสบาย MTH จะใช้ฐานการผลิตของ MACO อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาธุรกิจทั่วโลกได้อย่างมีศักยภาพ

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์

บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว เป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกที่มีพนักงานในเครือ 80,000 คน และมีรายได้รวมต่อปีอยู่ที่ประมาณ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเวลากว่า 130 ปีมาแล้วที่บริษัทได้ทำให้ความคิดใหญ่ ๆ กลายเป็นโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมและเชิงบูรณาการที่ช่วยขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้าได้ MHI เป็นเจ้าของผลงานทางธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร โดยครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ และแม้แต่ในอวกาศด้วยเช่นกัน MHI ส่งมอบโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมและเชิงบูรณาการในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การบินเชิงพาณิชย์และการคมนาคมไปจนถึงโรงไฟฟ้าและกังหันลม และตั้งแต่เครื่องจักรกลและโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงยุทโธปกรณ์เชิงบูรณาการด้านกลาโหมและระบบอวกาศด้วยเช่นกัน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ MHI: www.mhi-global.com

สำหรับ Technology, Trends และ Tangents กรุณาเยี่ยมชมสื่อออนไลน์โฉมใหม่ของ MHI ที่ชื่อ SPECTRA: spectra.mhi.com

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:

Joseph Hood ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ จำกัด 

อีเมล: mhi-pr@mhi.co.jp 

โทรศัพท์: +81-(0)3-6716-2168, โทรสาร: +81-(0)3-6716-5860

International Olympic Committee และ Alibaba Group เปิดตัวความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ โดย Alibaba จะมาเป็นผู้สนับสนุนโอลิมปิกทั่วโลกจนถึงปี 2028

Logo

ดาวอส, สวิตเซอร์แลนด์–(บิสิเนส ไวร์)–23 มกราคม 2017

International Olympic Committee (IOC) และ Alibaba Group (NYSE:BABA) วันนี้ประกาศร่วมกันเปิดตัวความสัมพันธ์ระยะยาวจนถึงปี 2028 เมื่อ Alibaba ร่วมกับโปรแกรมการเข้าร่วมสปอนเซอร์ทั่วโลก The Olympic Partner (TOP) ทำให้ Alibaba จะเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ให้ “บริการคลาวด์” และ “บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ส” อย่างเป็นทางการ รวมถึงเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ร่วมก่อตั้ง Olympic Channel

ความสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ประกาศในวันนี้ที่ World Economic Forum ในดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีประธานของ IOC คุณ Thomas Bach, ผู้ก่อตั้งและประธานของ Alibaba Group คุณ Jack Ma รวมถึง Group CEO ของ Alibaba คุณ Daniel Zhang

Thomas Bach ประธานของ IOC กล่าวว่า: “ในโลกดิจิทัลนี้ Alibaba ได้มีจุดยืนในตลาดที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในการช่วย IOC ให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์หลักต่างๆ ที่ได้เขียนไว้ใน Olympic Agenda 2020 ในขณะที่ได้ทำอนาคตของ Olympic Movement ให็เป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่และมีนวัตกรรมสุดล้ำ และจะช่วยขับเคลื่อนประสิทธิผลของการจัด Olympic Games จนถึงปี 2028 ในขณะที่สนับสนุนการพัฒนาของโลกในด้านโอกาสทางดิจิทัล รวมถึง Olympic Channel”

“การร่วมเป็นพันมิตรของ Alibaba และ IOC นั้นก่อร่างขึ้นบนพื้นฐานของค่านิยมร่วมกัน รวมถึงวิสัยทัศน์ที่คล้ายกันในการเชื่อมต่อโลกและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดีขึ้น”​ Jack Ma ผู้ก่อตั้งและประธานของ Alibaba Group กล่าว “เราภูมิใจที่ได้สนับสนุน Olympic Agenda 2020 โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีของเราในการช่วยให้ Olympic Games เกิดวิวัฒนาการในยุคแห่งดิจิทัล”

ในการเป็นพันธมิตรนี้ ทาง Alibabay จะข่วย Olympic Movement ดังนี้คือ: 

    •    โครสร้างพื้นฐานระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม และบริการคลาวด์ในการช่วยให้ Olympic Games มีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงสนับสนุนความต้องการในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีปริมาณมาก;

    •    การสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์สของโลกสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโอลิมปิกในการมีส่วนร่วม เชื่อมต่อกับแฟน ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ ผลิตโดยผู้ที่ได้รับใบอนุญาตของโอลิมปิก และผลิตภัณฑ์กีฬาที่เลือกสรรค์ ในระดับโลก;

    •    ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมีเดียที่เป็นผู้นำของ Alibaba และความรู้ในการพัฒนาและปรับใช้ Olympic Channel สำหรับผู้ชมชาวจีน

“Alibaba ภูมิใจที่จะให้ International Olympic Committee มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงมาสู่ดิจิทัลนี้ ในขณะที่ขยับใกล้เข้าไปอีกขั้นหนึ่งในการทำให้บรรลุเป้าที่จะให้บริการลูกค้า 2 พันล้านคน” Daniel Zhang ซึ่งเป็น CEO ของ Alibaba Group กล่าว “เราจะใช้ประสบการณ์ในการให้บริการฐานผู้ใช้ที่มีอายุน้อยเพื่อช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อกับผู้คนอายุน้อยอื่นๆ มาที่ Olympic Movement เพื่อช่วยในการทำให้แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นผ่านการจับมือครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้” 

Tsunekazu Takeda ซึ่งเป็นประธานด้านการตลาดของ IOC กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะทำงานระยะยาวกับ Alibaba เพื่อผลประโยชน์ของ Olympic Movement การเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์นี้เน้นย้ำถึงความน่าดึงดูดในคุณค่าของ Olympic และเป็นการเปิดฉากใหม่ที่น่าตื่นเต้นในยุคแห่งดิจิทัลนี้”

Alibaba เป็นบริษัทแรกที่มีสัญญาระยะยาวกับ IOC ถึงปี 2028 และเป็นบริษัทจีนบริษัทแรกที่สนับสนุน Olympic Winter Games Beijing 2022 เป็นทางการ

Alibaba จะสนับสนุนองค์กรใน Olympic Games แต่ละครั้ง และ Olympic Movement ทั่วโลก ลิขสิทธิ์นี้จะรวมถึงการใช้โฆษณาและโปโมชั่นของเครื่องหมาย Olympic และ Olympic Games รวมถึงเครื่องหมายจาก National Olympic Committees

ลิขสิทธิ์ของ Alibaba จะรวมถึง the Olympic Winter Games PyeongChang 2018, the Olympic Games Tokyo 2020, the Olympic Winter Games Beijing 2022 และ the Olympic และ Olympic Winter Games in 2024, 2026 และ 2028 ในเมืองที่จะคัดเลือกโดย IOC

รายละเอียดของการประชุมทางโทรศัพท์:

Alibaba Group และ IOC จะจัดการประชุมทางโทรศัพท์ในการปรึกษาหารือเรื่องการเป็นพันธมิตรระดับโลกครั้งใหม่นี้เวลา 15 นาฬิกา CET / 9 นาฬิกา EST ในวันที่ 19 มกราคม 2017

เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขการประชุม:

    •    นานาชาติ: +65 6713 5330

    •    สหรัฐอเมริกา: +1 844 760 0770

    •    สหราชอาณาจักร: +44 203 713 5084

    •    ฮ่องกง: +852 3018 8307

    •    Conference ID: 56463850

เสียงบันทึกดิจิทัลของการประชุมทางโทรศัพท์จะมี 2 ชั่วโมงหลังจากการเจรจาสิ้นสุด ถึงวันที่ 22 มกราคม สามารถเข้าฟังได้โดย:

    •    Encore Dial-In Numbers: http://www.intercallapac.com/web/encorenumbers

    •    Conference ID: 56463850

การถ่ายทอดการแถลงข่าวผ่านทางเว็บไซต์ 

งานแถลงข่าวจะถ่ายทอดสดและบันทึกโดย World Economic Forum ผ่านลิ้งค์นี้: https://www.weforum.org/events/world-economic-forum-annual-meeting-2017/player?p=1&pi=1&id=87396

เกี่ยวกับ IOC

International Olympic Committee เป็นองค์กรนานาชาติอิสระที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งประกอบไปด้วยอาสาสมัคร ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างโลกที่ดีขึ้นผ่านกีฬา ซึ่งได้แบ่งกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ให้กับการเคลื่อนไหวด้านกีฬาในวงกว้าง ซึ่งหมายความว่าในทุกวัน ประมาณ 3.25 ล้านเหรียญสหรัฐจะไปช่วยนักกีฬาและองค์กรกีฬาในทุกระดับทั่วโลก 

เกี่ยวกับ Alibaba Group

พันธกิจของ Alibaba Group คือสามารถทำธุรกิจที่ไหนก็ได้ บริษัทตั้งเป้าที่จะสร้างโครงสร้างของการพาณิชย์แห่งอนาคต ซึ่งได้วาดภาพไว้ว่าลูกค้าของเขาจะสามารถพบปะ ทำงาน และใช้ชีวิตที่ Alibaba และนั่นจะเป็นบริษัทที่มีชีวิตอยู่อย่างน้อย 102 ปี

สื่อมวลชนติดต่อ:

ทีมสื่อมวลชนสัมพันธ์ของ Alibaba:

เอเชีย

Rachel Chan

+852 9400 0979

rachelchan@alibaba-inc.com

Rico Ngai

+852 9725 9600

rico.ngai@alibaba-inc.com

สหรัฐอเมริกา & ยุโรป

Brion Tingler

+1 917 528 1992

brion.tingler@alibaba-inc.com

Steve Hickok

+1 609 977 7381

steve.hickok@fleishman.com

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์องค์กรใหม่ของ Alibaba: Alizila.com

ทีมสื่อมวลชนสัมพันธ์ของ IOC:

โทร: +41 21 621 6000

อีเมล์: pressoffice@olympic.org

หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ www.olympic.org

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์องค์กรใหม่ของ Alibaba: Alizila.com

วิดีโอ: YouTube: http://www.youtube.com/iocmedia

ฟุตเทจคุณภาพสูงสำหรับโทรทัศน์: IOC Newsroom: http://iocnewsroom.com/

ภาพ: สามารถดูรูปภาพสำหรับสื่อมวลชนในแต่ละอีเว้นท์ได้โดยการติดตาม IOC บน Flickr หากต้องการภาพหรือฟุตเทจใดกรุณาติดต่อ: images@olympic.org

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170119005521/en/

“RETAILTECH JAPAN” และ “SECURITY SHOW”: การจัดการแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในด้านระบบข้อมูลและโซลูชั่นส์เพื่อความปลอดภัย กำลังจะจัดขึ้น

Logo

โตเกียว–(บิสิเนส ไวร์)–24 มกราคม 2017

Nikkei Inc. จะจัดการแสดงสินค้าที่เป็นที่นิยมนี้พร้อมกัน ซึ่งในงานแรก “RETAILTECH JAPAN” จะแสดงอุปกรณ์และระบบ IT ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบเพื่อขับเคลื่อนการตลาดไปข้างหน้าและกิจกรรมทางซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมค้าปลีกและกระจายสินค้า และ “SECURITY SHOW” ที่จัดขึ้นพร้อมกันจะแสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ เช่นกล้องรักษาความปลอดภัยและระบบควบคุม

"RETAILTECH JAPAN" เป็นการแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่มุ่งในการแนะนำระบบข้อมูลที่ออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีกและกระจายสินค้า งานแสดงสินค้านี้จะแนะนำเครื่องมืออุปกรณ์และระบบด้านข้อมูลเพื่อรองรับความต้องการของรูปแบบทางธุรกิจด้านค้าปลีกและกระจายสินค้ในมุมกว้าง ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีนั้นจะประกอบไปด้วย POS (ระบบขายหน้าร้าน) และระบบการจ่ายเงินอื่นๆ ระบบสำนักงานใหญ่ ลอจิสติกส์ โปรโมชั่นการขายบนมือถือ การค้าปลีกที่เชื่อมโยงช่องทางการตลาดต่างๆ ไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ข้อมูลขนาดใหญ่ IoT, AI บริการคลาวด์ หุ่นยนต์การกระจายสินค้า ระบบการซื้อออนไลน์และอีกมากมาย และจะมีโซนพิเศษที่เกิดขึ้นมาเพื่อโฟกัสในการ

แนะนำป้ายดิจิทัลและระบบ POP

"SECURITY SHOW" จะแสดงกล้องรักษาความปลอดภัยรุ่นใหม่ล่าสุด ระบบควบคุม บริการด้านความปลอดภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่ทันสมัยมากมาย ที่จะให้มั่นใจในความปลอดภัย ปกป้องธุรกิจและสาธารณะจากความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงอาชญากรรม การก่อการร้ายและภัยพิบัติ เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ได้รับการยอดรับเป็นอย่างสูงมากมายของญี่ปุ่น ตั้งเป้าไปที่ Tokyo Olympics ที่จะจัดในปี 2020 ก็จะได้รับการเผยโฉมที่นี่ ซึ่งรวมถึงบริการที่ใช้โดรนส์ในการรักษาความปลอดภัยจากอากาศ และระบบการวิเคราะห์ภาพเพื่อให้สามารถแยกบุคคลที่หน้าสงสัยผ่านจากการจับใบหน้าโดยภาพจากกล้องคุณภาพสูง

Nikkei Inc. มีการจัดงานแสดงสินค้าพร้อมๆ กันแปดงาน ซึ่งรวมถึงทั้งสองงานนี้ ภายใต้อีเว้นท์หลักที่ชื่อว่า "Nikkei Messe" สามารถเข้าชมงานได้ฟรีโดยการลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็บไซต์หลัก เราหวังว่าจะได้พบผู้เข้างานชาวต่างชาติที่นี่ 

"RETAILTECH JAPAN" และ "SECURITY SHOW"

วันจัดงาน: 7 มีนาคม (อังคาร) ถึง 10 (ศุกร์) 2017

สถานที่: Tokyo Big Sight

จำนวนผู้เข้างานที่ประมาณการ: 130,000

สเกลการจัดงาน: RETAILTECH JAPAN, 207 บริษัท, 977 บู้ทส์ / SECURITY SHOW, 186 บริษัท, 666 บูทส์

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของงานได้ที่: 

RETAILTECH JAPAN= http://www.retailtech.jp/en/

SECURITY SHOW= http://www.securityshow.jp/en/

 สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170123005386/en/

ติดต่อ:

NIKKEI MESSE สำนักงานต่างประเทศ

(Space Media Japan Co., Ltd.)

Chihiro ISAMI, +81-3-3512-5670

tradefairs2017@smj.co.jp

นักนวัตกรรม นั กการเงิน ผู้นำในอุตสาหกรรม และ บริษัท รวมตัวกันในสิงคโปร์สำหร ับการเปิดฉาก Datacloud Asia 2017 วันที่ 23 กุมภาพันธ์

Logo

ลอนดอน & สิงคโปร์–(บิสิเนส ไวร์)–23 มกราคม 2017

เนื่องจากเมกาคลาวด์ได้ก่อให้เกิดการเติบโตด้านศูนย์ข้อมูลอย่างยิ่งใหญ่ทั่วทั้งภาพพื้นเอเชียแปซิฟิค ทาง BroadGroup ซึ่งเป็นกลุ่มที่จัดอีเว้นท์นานาชาติและให้คำปรึกษา จะจัดงาน Datacloud Asia (http://www.datacloudasia.com/) เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นฟอรั่มระดับโลกสำหรับศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ในประเทศสิงคโปร์ การเปิดฉากอีเว้นท์ได้นำนักนวัตกรรม นักลงทุน ผู้นำในอุตสาหกรรมและบริษัทมาพูดคุยโต้วาทีในเรื่องการขับเคลื่อนเอเชีย ความท้าทาย และโอกาสองค์กรในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในการสร้างเครือข่ายชั้นน้ำของโลกและสภาการสร้างการซื้อสำหรับศูนย์ข้อมูลและคลาวด์

งานอีเว้นท์ของอุตหสกรรม 1 วันนี้จะมีวิทยากรชั้นนำจากภาคส่วนภูมิภาคและนานาชาติที่จะให้โปรแกรมการขับเคลื่อนองค์กรที่น่าประทับใจ 

“2017 จะประกาศความเคลื่อนไหวของ Internet of Things ในสเกลที่ใหญ่ และความต้องการของกลยุทธ์ด้านคอมพิวเตอร์ใหม่” Philip Low, ประธานของ BroadGroup กล่าว “เอเชียมีโอกาสในการสร้างความเคลื่อนไหวด้าน IT ที่เพิ่มมากขึ้นโดยบริษัทท้องถิ่นและนานาชาติ และมันเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมในการนำเอาการสร้างเน็ตเวิร์คและฟอรั่มที่เน้นด้าน ROI ในการช่วยสนับสนุนกระบวนการนี้”

ในตลาดเอเชียแปซิฟิค ทาง Asher Ling ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Kingsland Data Center ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดศูนย์ข้อมูลแบบโฮลเซล 5 ชั้น มูลค่า 100 ล้านเหรียญในจูร่ง ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า “โครงสร้างพื้นฐาน IT มหึมาที่สนับสนุนการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ในด้านข้อมูล Artificial Intelligence [AI] และ Internet of Things [IoT] จะขับเคลื่อนการพัฒนาและความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในตลาดไฮเปอร์สเกลและศูนย์ข้อมูลแบบรีเทล อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างหลากหลายในภูมิภาคเป็นความท้าทายที่หลากหลายสำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้ามาหรือพัฒนาในตลาดนี้”

Ling กล่าวต่อว่า “ในการมองหาพาร์ทเนอร์ที่ใช่นั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จท้้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุผลที่เกิดอีเว้นท์อย่าง Datacloud Asia ขึ้น ซึ่งสามารถให้โอกาสในการสร้างเน็ทเวิร์คกับผู้บริหารระดับสูงจากทุกส่วนของเอเชีย ผู้ที่เข้าใจว่าการทำธุรกิจที่นี่ต้องผ่านอะไรบ้าง”

ในห้วงเวลาพิเศษเกี่ยวกับโอกาสของเอเชีย จะปรึกษาหารือในเรื่องสถานที่ตั้งของศูนย์ข้อมูล พลังงานที่มี และการเชื่อมต่อสื่อสาร ตามด้วยกลุ่มเครือข่ายส่วนตัวสำหรับการปรึกษาหารือต่อไปในอนาคต Datacloud Asia Awards ครั้งแรก จะจัดขึ้นในเย็นของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ประเทศสิงคโปร์ รางวัลนี้จะให้เกียรติกับนวัตกรรมและที่สร้างวิวัฒนาการต่อเนื่องให้กับภาคส่วนนี้ งานประกาศรางวัลในปีนี้ ซึ่งรวมถึงอาหารเย็น จะเป็นค่ำคืนที่น่าตื่นเต้นที่สุดในปีนี้ ในการเฉลิมฉลองผู้ที่เป็นผู้นำและดีที่สุดในธุรกิจโลกมูลค่าหลายพันล้าน ที่เป็นส่วนขับเคลื่อนให้เกิดศูนย์ข้อมูลแะลคลาวด์ดังทุกวันนี้ 

การรับประทานอาหารเย็นและเข้างานแจกรางวัลนี้ เปิดโอกาสให้กับผู้ถือบัตรทองที่มาในงาน Datacloud Asia 2017.

Datacloud Asia 2017

Capella Hotel

1 The Knolls

Sentosa Island

Singapore 098297

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ http://www.datacloudasia.com/

เกี่ยวกับ BroadGroup

BroadGroup เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อข้อมูลและให้บริการมืออาชีพ ก่อตั้งในปี 2002 บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการเป็นที่ยอมรับและได้รับการเติบโตจากการให้การวิจัยที่มีคุณภาพและข้อมูลด้านตัวเลขของตลาดเฉพาะและที่เกิดใหม่ในด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยี Data Center and Cloud เป็นผู้นำตลาดในการตรวจสอบข้อมูลพาณิชย์ (commercial due diligence), การวิจัย วิเคราะห์สำหรับภาคส่วนนี้ การจัดงานของบริษัทประกอบไปด้วยแบรนด์ Datacloud, Datacloud Awards, Finance and Investment Forum และ Dark Fibre Convention ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างเน็ตเวิร์คนานาชาติที่มีคุณภาพสูงและอีเว้นท์ที่ให้โอกาสทางธุรกิจ http://www.broad-group.com/

สามารถรับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20170122005007/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

For BroadGroup

Julia Vockrodt, +44(0)7710942943 (mobile)

julia@vp-pr.com