Toshiba เริ่มการขนส่งโฟโต้รีเลย์ที่ผ่านการรับรอง UL508 สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ควบคุมในงานอุตสาหกรรม

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2018

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย UL508 จากสหรัฐอเมริกาสำหรับผลิตภัณฑ์โฟโต้รีเลย์จำนวนแปดรุ่น ได้แก่โฟโต้รีเลย์ในแพ็คเกจ 4pin SO6 รุ่น “TLP172GM”, “TLP176AM”, และ “TLP3122A” และโฟโต้รีเลย์ในแพ็คเกจ DIP4 รุ่น “TLP240A”, “TLP240D”, “TLP240G”, “TLP240GA” และ “TLP240J”

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180712005258/en/

Toshiba: 4pin SO6 (left) and DIP4 (right) packages for photorelays. (Photo: Business Wire)

Toshiba: แพ็คเกจ 4pin SO6 (ซ้าย) และแพ็คเกจ DIP4 (ขวา) สำหรับโฟโต้รีเลย์ (รูปภาพ: Business Wire)

โฟโต้รีเลย์ที่ผ่านการรับรองเหล่านี้มีวางจำหน่ายแล้วและสามารถนำมาใช้กับอุปกรณ์ควบคุมสำหรับงานอุตสาหกรรมที่กำหนดให้มีใบรับรอง UL508 ซึ่งทำให้โฟโต้รีเลย์เหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายอยู่ในตลาดทั่วโลก โฟโต้รีเลย์เหล่านี้ยังผ่านการรับรอง NRNT[1] อีกด้วย

การรับรอง UL508 กำหนดให้มีมาตรฐานเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่เคร่งครัด โซลิดสเตตรีเลย์ (SSR) เป็นหนึ่งในหมวดหมู่ของชิ้นส่วน และอุณหภูมิของเรซินภายในโซลิดสเตตรีเลย์ถูกจำกัดอยู่ที่ 105 องศาเซลเซียส (ขีดจำกัดบน)[2] โซลิดสเตตรีเลย์จะต้องทำงานในอุณหภูมิไม่เกินขีดจำกัดบน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง UL ของเรา บริษัทสามารถผลิตอุปกรณ์ควบคุมที่รองรับมาตรฐาน UL และยังคงไว้ซึ่งการคำนวณออกแบบ Thermal Design ที่จำเป็นสำหรับโซลิดสเตตรีเลย์อีกด้วย

การใช้งาน

  • อุปกรณ์อุตสาหกรรม (PLC, อินพุต/เอาต์พุตอินเทอร์เฟซ, อุปกรณ์ควบคุมเซนเซอร์ เป็นต้น)
  • ระบบก่อสร้างอัตโนมัติ (ระบบทำความร้อน ระบายอากาศและปรับอากาศ (HVAC) เทอร์โมสตัต เป็นต้น)
  • อุปกรณ์ทดแทนรีเลย์สำหรับงานเครื่องกล (ระบบ AC24 ถึง 400V ระบบ DC24 ถึง 125V)

คุณสมบัติเด่น

  • ผ่านการรับรอง UL508 (NRNT)
  • ผ่านการรับรอง UL1577
  • รองรับอุณหภูมิ (สูงสุด): Tc=105°C

คุณลักษณะจำเพาะหลัก

(@Ta=25)

รหัสชิ้นส่วน

แพ็คเกจ

อัตราการใช้งานสูงสุด

กระแสกระตุ้น LED
IFT
สูงสุด
(mA)

ความต้านทานขณะเปิด
RON
(Ω)

ความสามารถในการประจุกระแสไฟฟ้าขาออก
COFF
typ.
(pF)

เวลาเปิดใช้งาน
tON
สูงสุด
(ms)

เวลาปิดใช้งาน
tOFF
สูงสุด
(ms)

แรงดันไฟขาออกขณะปิด
VOFF
(V)

กระแสไฟขณะเปิด
ION
(A)

กระแสไฟขณะเปิด
(pulsed)
IONP
(A)

อุณหภูมิเคส
Tc
(℃)

อุณหภูมิขณะทำงาน
Topr
(℃)

typ.

สูงสุด

TLP172GM

4pin SO6

350

0.110

0.33

105

-40 ถึง 85

3

22

35

30

1

0.5

TLP176AM

60

0.700

2.1

105

-40 ถึง 85

3

0.15

2

100

3

0.5

TLP3122A

60

1.4

4.2

105

-40 ถึง 85

3

0.13

0.25

100

3

1

TLP240A

DIP4[3]

60

0.500

1.5

105

-40 ถึง 85

3

0.6

2

130

3

1

TLP240D

200

0.250

0.750

105

-40 to 85

3

5

8

80

3

1

TLP240G

350

0.100

0.300

105

-40 to 85

3

25

35

30

2

1

TLP240GA

400

0.120

0.360

105

-40 to 85

3

17

28

80

2

1

TLP240J

600

0.090

0.270

105

-40 to 85

3

30

40

75

2

1

หมายเหตุ:
[1] หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ UL: สวิตช์ควบคุมอุตสาหกรรม อุปกรณ์ควบคุมโซลิดสเตตสำหรับการโหลดที่ไม่ใช้มอเตอร์
[2] ค่าจำกัดอุณหภูมิสำหรับพลาสติก (อีพอกซี)
[3] มีตัวเลือกอุปกรณ์สำหรับยึดกับพื้นผิว

ดูผลิตภัณฑ์ใหม่และกลุ่มผลิตภัณฑ์โฟโต้รีเลย์เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/opto/photocoupler/photorelay.html

ลูกค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แสง
โทร: +81-3-3457-3431
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาผลิตภัณฑ์และข้อมูลจำเพาะ เนื้อหาด้านการบริการและข้อมูลในการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นบริษัทใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและประสบการณ์นับตั้งแต่แยกตัวออกจากบริษัทเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 เราได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุปกรณ์ทั่วไปและได้นำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ ระบบ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของเรา

เรามีพนักงานจำนวน 19,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความตั้งใจร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุดและให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มยอดขายต่อปีซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 700 พันล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ให้สูงขึ้นเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน
ดูเกี่ยวกับเราเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180712005258/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

Toshiba พัฒนาไดโอดรอยต่อชอทท์กี้กระแสย้อนกลับต่ำพร้อมเพิ่มสมรรถนะทางความร้อน

Logo

  • แพคเกจใหม่นี้ออกแบบมาให้ช่วยลดอุณหภูมิในส่วนของตัวต้านทานความร้อนลงถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับแพคเกจรุ่น USC ธรรมดา

โตกียว–(BUSINESS WIRE)–10 กรกฎาคม 2018

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไดโอดชอทท์กี้ตัวใหม่รุ่น “CUHS10F60” โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้เหมาะสำหรับการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับเป็นกระแสตรงและการป้องกันกระแสไฟไหลย้อนกลับสำหรับวงจรของแหล่งจ่ายไฟ เริ่มขยายการผลิตและพร้อมจัดส่งแล้ววันนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยไฟล์มัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180710005424/en/

Toshiba: A new Schottky barrier diode product "CUHS10F60" in a new US2H package. (Photo: Business Wi ...

Toshiba: ผลิตภัณฑ์ไดโอดชอทท์กี้รุ่นใหม่ "CUHS10F60" ซึ่งประกอบอยู่ในแพคเกจ US2H ล่าสุด (รูปภาพ: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ CUHS10F60 รุ่นใหม่นี้ต้านทานอุณภูมิต่ำสุดได้ถึง 105 °C/W[1]  ซึ่งอยู่ในแพคเกจ US2H ที่ได้รับการพัฒนามาใหม่ มาพร้อมรหัสแพคเกจ “SOD-323HE” ตัวต้านทานความร้อนในแพคเกจนี้ได้รับการพัฒนาให้ช่วยลดอุณหภูมิลงถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับ USC รุ่นธรรมดา และเพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดอุณหภูมิ

ด้วยการพัฒนาไปอีกขั้นในด้านสมรรถนะเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ในตระกูลเดียวกัน ไดโอดชอทท์กี้รุ่น CUS04[2] จะมีปริมาณกระแสไฟฟ้าที่จะไหลย้อนกลับสูงสุดลดลงประมาณ 60% ต่อ 40µA[3]  โดยมีส่วนทำให้เกิดการใช้พลังงานต่ำในอุปกรณ์ที่ต้องใช้พลังงานจากส่วนนี้ ยิ่งไปกว่านี้กระแสไฟฟ้าที่ไหลย้อนกลับยังเพิ่มขึ้นจาก 40V เป็น 60V โดยผลิตภัณฑ์ล่าสุดนี้ยังสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภทมากกว่ารุ่นเดิมอย่าง CUS10F40[4]

การใช้งาน

  • วงจรแหล่งจ่ายไฟ (การแปลงไฟฟ้ากระแสสลับเป็นกระแสตรงและการป้องกันกระแสไฟไหลย้อนกลับ และอื่น ๆ)

คุณสมบัติ

  • แรงดันไบแอสตรงระดับต่ำ: VF=0.56 V (typ.) @IF=1.0 A
  • กระแสไฟฟ้าไหลย้อนกลับต่ำ: IR=40 μA(max)@VR=60 V
  • แพคเกจ surface mount ขนาดเล็ก: ขึ้นรูปด้วยความหนาแน่นสูงที่มาพร้อมกับแพคเกจ US2H(SOD-323HE)

ข้อมูลจำเพาะ

(@Ta=25°C)

หมายเลขรุ่น

กระแสไฟสูงสุด

คุณสมบัติทางไฟฟ้า

ชื่อแพคเกจ

แรงดันไบแอสกลับ

VR

(V)

กระแสไฟในวงจรเรียงโดยเฉลี่ย

IO

(A)

แรงดันไบแอสตรง

VF

ทั่วไป

(V)

กระแสไฟที่ไหลย้อนกลับ

IR

สูงสุด

@VR=60
V

(μA)

@IF=0.5
A

@IF=1
A

ขนาดโดยทั่วไป

(มม.)

CUHS10F60

60

1.0

0.46

0.56

40

US2H

(SOD-323HE)

2.5×1.4

หมายเหตุ:
[1] ขึ้นรูปบนบอร์ด FR4 (25.4 มม. x 25.4 มม. X 1.6 มม. Cu Pad: 645mm2)
[2] กระแสไฟสูงสุด: VRRM=60V, IF(AV)=0.7A
[3] สภาพทั่วไปในการทดสอบ: กระแสไฟย้อนกลับ VR=60V
[4] กระแสไฟสูงสุด: VR=40V,IO=1.0A

ลูกค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
แผนกขายและการตลาดอุปกรณ์ส่งสัญญาณขนาดเล็ก
โทร: +81-3-3457-3411
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาผลิตภัณฑ์และข้อมูลจำเพาะ เนื้อหาด้านการบริการและข้อมูลในการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นบริษัทใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและประสบการณ์ นับตั้งแต่แยกตัวออกจากบริษัทเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 เราได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุปกรณ์ทั่วไป และได้นำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ ระบบ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของเรา

เรามีพนักงานจำนวน 19,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความตั้งใจร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มยอดขายต่อปีซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 700 พันล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ให้สูงขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180710005424/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp


H3 Dynamics เปิดตัว H3 Zoom AI สำหรับเมืองอัจฉริยะที่บุกเบิกการตรวจสอบอาคารสูงโดยใช้ A.I. และ โดรน

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2018

H3 Dynamics Holdings ประกาศการเปิดตัว H3 Zoom.AI ซึ่งเป็นระบบบริการใหม่ที่ใช้ระบบคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ในการเชื่อมต่อกับกล้องของโดรนให้สามารถทำการตรวจสอบและบำรุงรักษาที่ปลอดภัย รวดเร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับกระบวนการปัจจุบันที่อันตราย ยากต่อการเข้าถึง หรือใหญ่โตทั่วโลก โดยสามารถปรับปรุงความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ ลดช่วงต่อระหว่างการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะด้านมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180708005041/en/

Artificial intelligence meets building inspections for the cities of tomorrow.(Photo: Business Wire)

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการตรวจสอบอาคารสำหรับเมืองแห่งอนาคต (รูปภาพ: Business Wire)

โดยมุ่งเน้นไปที่เมืองอัจฉริยะ H3 Zoom จะเปิดตัว Façade Inspector (วีดีโอ) ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจสอบภาพที่ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของเครื่องและโดรนเพื่อปฏิรูปกระบวนการตรวจสอบและบำรุงรักษาอาคารสูง  Façade Inspector โดย H3 Zoom จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน 2018 World Cities Summit – Singapore Pavilion (บูธ S30) ในวันที่ 9-11 กรกฎาคม

ด้วยข้อบังคับใหม่ที่เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบและการเติบโตของจำนวนอาคาร Façade Inspector ของ H3 Zoom ตอบสนองความท้าทายในการขยายการเติบโตด้วยการนำเสนอกระบวนการดิจิทัลที่สามารถสแกนอาคารสูงภายในไม่กี่นาทีแทนที่จะใช้เวลาเป็นสัปดาห์ โดยสามารถหลีกเลี่ยงเครื่องซ่อมบำรุงอาคารและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่  ระบบ AI ของ H3 สามารถจัดเรียงภาพ HD หลายพันภาพและหลายพันล้านพิกเซลเพื่อระบุข้อบกพร่องต่างๆ ซึ่งจะแสดงผ่านจอรายงานผลแบบโต้ตอบได้

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสามารถเข้าสู่ระบบ H3 Zoom.AI หาแผนที่ระดับความสูงของอาคารที่คุ้นเคย ดูข้อสรุปและข้อบกพร่องโดยเรียงตามความรุนแรงและตามประเภท (รอยแตกบนพื้นผิว เปลือกสีหรือรอยกัดกร่อน และข้อบกพร่องอื่นๆ ) ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถมองเห็นเป็นภาพซ้อนทับบนแผนที่  ลักษณะการโต้ตอบของระบบนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถ "ซูม" เข้าภาพ HD ใดๆ ก็ได้ที่ได้มีการระบุปัญหา  คำอธิบายข้อบกพร่องแต่ละตัวยังมาพร้อมกับระดับความรุนแรงที่เครื่อง AI ได้เรียนรู้จากข้อมูลที่ถูกป้อนโดยผู้เชี่ยวชาญ

Façade Inspector ของ H3 Zoom ได้ประสบความสำเร็จในขั้นตอนการทดสอบที่สิงคโปร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มด้านนวัตกรรมที่นำโดย JTC ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำของประเทศภายใต้กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม  ระบบสามารถนำไปใช้กับขั้นตอนการทำงานด้านวิศวกรรมที่มีความแม่นยำสูงที่มีอยู่ ทำให้ผู้รับเหมา เจ้าของอาคาร และผู้จัดการสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างง่ายดาย

Mark Koh ผู้อำนวยการกลุ่มด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและการจัดการอสังหาริมทรัพย์ JTC กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ H3 Zoom.AI เพื่อจัดหาการวิจัยพัฒนาและทดสอบการสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับการบุกเบิกนวัตกรรมใหม่นี้  เราหวังว่าโซลูชั่นเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นนี้จะช่วยให้ภาคการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถบรรลุการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น"

H3 Zoom ถูกทดสอบในอาคารของ JTC หลายแห่งรวมถึงอาคารสถานที่สำคัญในเขต one-north เช่น Fusionopolis, Biopolis, Ayer Rajah Crescent ตลอดจนโครงสร้างอาคารรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย

พันธมิตรการเปิดตัว H3 Zoom (วิดีโอ) เพิ่มเติม ได้แก่หน่วยงานที่ดินของสิงคโปร์ และ IBM ซึ่ง H3 Zoom กำลังทำงานร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะมีการประกาศในไม่ช้า "เราเข้าใจดีว่าบริการ AI ที่สำเร็จจะต้องมีความเฉพาะงาน เฉพาะกรณี และมีใช้งานได้ทั่วทั้งองค์กร  H3 Zoom.AI จะเปลี่ยนกระบวนการที่เฉพาะเจาะจงเหล่านี้เป็นรูปแบบดิจิตอลที่เทียบเท่าเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น” Shaun Koo ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ H3 Zoom Pte. Ltd. กล่าว

โดยนำเสนอเป็นบริการสมัครสมาชิกบนระบบคลาวด์ Façade Inspector ยังมีให้บริการในรูปแบบ API เพื่อให้สามารถรองรับการผสมผสานระหว่างผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ ในเมืองอัจฉริยะได้  นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสในการให้บริการใหม่ๆ แก่บริษัทผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบ ผู้รับเหมา นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของและผู้ประกอบการนับพันๆ ราย

H3 Zoom Pte. Ltd. http://www.h3zoom.ai/

H3 Zoom เป็นแพลตฟอร์มบริการแบบดิจิทัลบนระบบคลาวด์ที่ใช้ระบบ AI ที่ครอบคลุมกรณีการใช้งานการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานที่เฉพาะเจาะจงในหลายอุตสาหกรรม  แพลตฟอร์มนี้จะมีบริการสมัครสมาชิกแบบดิจิทัลต่างๆ ที่มีระบบรายงานความผิดปกติแบบอัตโนมัติโดยอิงจากข้อมูลการตรวจจับด้านภาพ ความร้อน หรือสารเคมีที่รวบรวมโดยเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมและหุ่นยนต์เซ็นเซอร์ที่ดำเนินการจากระยะไกลจำนวนมาก

H3 Dynamics Holdings Pte. Ltd. http://www.h3dynamics.com/

H3 Dynamics ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ H3 Zoom.AI เป็น บริษัทผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ประกอบธุรกิจที่รวมบริการข้อมูลปัญญาประดิษฐ์บนระบบคลาวด์/การเรียนรู้ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้หุ่นยนต์และโดรนตรวจสอบแบบอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้การรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ การถ่ายโอนข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลสามารถทำเป็นระบบอัตโนมัติแบบ end-to-end

H3 Dynamics เป็นบริษัทในสิงคโปร์ที่มีสาขาในยุโรปที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในสหรัฐอเมริกาในออสติน เท็กซัส รวมถึงตัวแทนในญี่ปุ่นและบราซิล

ดูเวอร์ชันของแหล่งที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180708005041/en/

ติดต่อ:

สำหรับ H3 Dynamics Holdings Pte. Ltd.

Riki Lie

riki@h3zoom.ai

Toshiba แนะนำโฟโตคัปเปลอร์ที่มีวงจรเอาต์พุตแบบอนาล็อกรุ่นใหม่สำหรับอุปกรณ์ยานยนต์

Logo

– อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับความสามารถในการสื่อสารด้วยความเร็วสูงสำหรับสภาพแวดล้อมภายในรถยนต์

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 กรกฎาคม 2018

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ประกาศเปิดตัวโฟโตคัปเปลอร์ที่มีวงจรเอาต์พุตแบบอนาล็อกรุ่นใหม่ ที่จะทำให้อุปกรณ์ภายในรถยนต์สื่อสารได้ด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด (HEV)

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย สามารถดูฉบับเต็มได้ที่นี: https://www.businesswire.com/news/home/20180704005392/en/

Toshiba: A new analog output IC photocoupler "TLX9309" that enables high-speed communications in aut ...

Toshiba: โฟโตคัปเปลอร์วงจรเอาต์พุตแบบอนาล็อกรุ่น "TLX9309" ที่จะทำให้อุปกรณ์ภายในรถยนต์สื่อสารด้วยความเร็วสูง (รูปภาพ: Business Wire)

อุปกรณ์ใหม่รุ่น TLX9309 นี้ประกอบด้วยไดโอดเปล่งแสง(LED) ที่มีอลูมิเนียมกัลเลียมอาร์เซไนล์ (AlGaAs) เป็นสารกึ่งตัวนำ จับคู่กับอุปกรณ์ตัวจับความเร็วสูง โดยอุปกรณ์ตรวจจับประกอบด้วยโฟโตไดโอดและทรานซิสเตอร์ที่รวมกันอยู่ในชิปแผ่นเดียว ฟาราเดย์ชิลด์ถูกนำมารวมในชิปอุปกรณ์รับสัญญาณแสงเพื่อยกระดับความต้านทานไฟกระโชกแบบช่วงสั้นให้มากขึ้น โดยสามารถต้านทานได้สูงสุด 15kV/μs ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดีมากในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าของยานยนต์

การแยกโฟโตไดโอดและอุปกรณ์ขยายสัญญาณทรานซิสเตอร์ออกจากกันทำให้ความสามารถในการประจุกระแสไฟฟ้าของคอลเลกเตอร์ลดลง ส่งผลให้เวลาหน่วงน้อยลงและทำให้เอาต์พุตแบบ open-collector ของ TLX9309 ทำงานได้รวดเร็วกว่าอุปกรณ์เอาต์พุตของทรานซิสเตอร์ ซึ่งมีการรับรองระยะเวลาหน่วงที่ระหว่าง 0.1μs และ 1.0μs โดยมีค่าความต่างระหว่างสัญญาณจากสูงไปต่ำและจากต่ำไปสูง (|tpLH-tpHL|) ไม่เกิน 0.7μs ทำให้อุปกรณ์มีความเหมาะสมสำหรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูง เช่น การควบคุมอินเวอร์เตอร์ หรือการนำมาใช้เป็นอินเตอร์เฟสสำหรับโมดูลพลังงานอัจฉริยะ (IPM)

อุปกรณ์ชิ้นนี้มีค่าไอโซเลชันที่ 3750Vrms มีระยะห่างตามผิวฉนวนและระยะห่างในอากาศที่ 5.0มม.สำหรับการไอโซเลชันที่ปลอดภัย ทำงานด้วยแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงในระยะ -0.5 ถึง 30V และสามารถเพิ่มได้ถึง 25mA เมื่อแรงดันสูงขึ้นถึง 20V อัตราการถ่ายโอนกระแสอยู่ในระยะ 15-300%

TLX9309 มาพร้อมแพ็คเกจ SO6 แบบ 5 ขา ขนาด 3.7มม. x 7.0มม. x 2.2มม. ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน RoHs ทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิระหว่าง -40 องศาเซลเซียส ถึง +125 องศาเซลเซียส อุปกรณ์ชิ้นนี้ผ่านการรับรอง AEC-Q101 สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์สำหรับยานยนต์

อุปกรณ์รุ่น TLX9309 อยู่ระหว่างการผลิตเพื่อจำหน่าย

การใช้งาน

อุปกรณ์สำหรับยานยนต์

  • การสื่อสารสัญญาณระหว่างอุปกรณ์อินพุต/เอาต์พุตในวงจรควบคุมอินเวอร์เตอร์
  • ส่งสัญญาณสื่อสารภายในอุปกรณ์

คุณสมบัติเด่น

  • อุปกรณ์เอาต์พุตแบบอนาล็อก (แบบ open collector)
  • อัตราการสื่อสารข้อมูล: 1 Mbps (typ.) @NRZ
  • เมื่อเทียบกับเอาต์พุตทรานซิสเตอร์ เวลาในการหน่วงจะเร็วกว่า:

    สัญญาณจากสูงเป็นต่ำ=0.8 μs (สูงสุด) สัญญาณจากต่ำเป็นสูง=1.0 μs (สูงสุด)

  • ผ่านการรับรอง AEC-Q101

คุณลักษณะเฉพาะ

 (@Ta=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

TLX9309

อัตรา

การใช้งาน

สูงสุด

กระแสตาม IF (mA)

15

กระแสเอาต์พุต IO (mA)

25

แรงดันซัพพลาย VCC (V)

-0.5 ถึง 30

แรงดันเอาต์พุต V(V)

-0.5 ถึง 20

คุณลักษณะ

ด้านไฟฟ้า

แรงดันเอาต์พุตระดับต่ำ VOL สูงสุด (V)

0.4

อัตราการถ่ายโอนกระแส IO/IF ต่ำสุด/สูงสุด (%)

15 / 300

กระแสซัพพลายระดับสูง ICCH สูงสุด (μA)

1

คุณลักษณะ

การสลับ

อัตราการสื่อสารข้อมูล typ. (Mbps)

1

ระยะเวลาหน่วง (จากสูงไปต่ำ) tpHL สูงสุด (μs)

0.8

ระยะเวลาหน่วง (จากต่ำไปสูง) tpLH สูงสุด (μs)

1.0

ค่าความต่างระยะเวลาหน่วง |tpLH-tpHL| สูงสุด (ns)

0.7

คุณลักษณะ

การแยก

แรงดันไอโซเลชัน BVS ต่ำสุด (Vrms)

3750

ระยะห่างในอากาศต่ำสุด (มม.)

5.0

ระยะห่างตามผิวฉนวนต่ำสุด (มม.)

5.0

แพ็คเกจ

ชื่อ

5pin SO6

ประเภทขนาด (มม.)

3.7×7.0×2.2

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่และกลุ่มผลิตภัณฑ์โฟโตคัปเปลอร์สำหรับอุปกรณ์รถยนต์ โปรดเยี่ยมชมที่
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/opto/photocoupler/automotive.html

ลูกค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์
Tel: +81-3-3457-3431
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาผลิตภัณฑ์และข้อมูลจำเพาะ เนื้อหาด้านการบริการและข้อมูลในการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นบริษัทใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและประสบการณ์ นับตั้งแต่แยกตัวออกจากบริษัทเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 เราได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุปกรณ์ทั่วไป และได้นำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ ระบบ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของเรา

เรามีพนักงานจำนวน 19,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความตั้งใจร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มยอดขายต่อปีซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 700 พันล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ให้สูงขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180704005392/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Chiaki Nagasawa, +81-3-3457-4963
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp


การรถไฟฯ ปรับตัวเข้าสู่ยุค 4.0 จับมือกสิกรไทย พร้อมรับชำระค่าตั๋วรถไฟด้วย QR Code แล้ววันนี้

Logo

กรุงเทพมหานคร–(THAI BUSINESS NEWS)–5 กรกฎาคม 2561

วันนี้ (5 กรกฎาคม 2561) ณ  สถานีกรุงเทพ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทยจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวการรับชำระเงินค่าตั๋วรถไฟด้วยคิวอาร์โค้ด (QR Code) ผ่านทางเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ  ร่วมสร้าง “สังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด” เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการในยุค 4.0 โดยมี นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ และ นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมเป็นประธานในงานแถลงข่าว

นายวรวุฒิฯ กล่าวว่า การรถไฟฯ นำระบบการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด  ผ่านเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระค่าตั๋วรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ รองรับสังคมไร้เงินสดและประเทศไทย 4.0โดยในช่วงที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ดำเนินการติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ เพื่อรองรับการชำระค่าตั๋วโดยสารด้วยบัตรวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด ในวันนี้นับว่าเป็นก้าวสำคัญของสังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด กับการรับชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยคิวอาร์โค้ด โดยสแกนผ่าน Mobile Banking บนสมาร์ทโฟนทุกธนาคาร  พร้อมใช้งานใน 56 สถานีหลัก จำนวน 140 เครื่อง เช่น สถานีกรุงเทพ เชียงใหม่ อุบลราชธานี หนองคาย ชุมทางหาดใหญ่ ชุมพร เป็นต้น โดยสถานีกรุงเทพมีการติดตั้งมากที่สุด จำนวน 14 เครื่อง ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการทยอยติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติเพิ่มเติม เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนที่มาใช้บริการให้ครอบคลุมและทั่วถึง

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้พัฒนาการใช้ QR Code เพื่อชำระค่าตั๋วให้กับระบบขนส่งมวลชนมาแล้วหลายรูปแบบ ทั้งเครื่องบิน เรือ และรถสาธารณะ ในส่วนของรถไฟก็เป็นระบบขนส่งมวลชนที่อยู่คู่คนไทยมานาน มีเอกลักษณ์สร้างประสบการณ์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร จึงมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทั้งคนไทยที่ใช้รถไฟเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวันและเพื่อการท่องเที่ยว รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางด้วยรถไฟ ความร่วมมือในวันนี้รองรับไลฟ์สไตล์ของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป จะช่วยให้ผู้โดยสารรถไฟไทยได้รับความสะดวกรวดเร็ว และช่วยสนับสนุนการสร้างประสบการณ์สังคมไร้เงินสดให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ การชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยคิวอาร์โค้ดยังช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการให้กับการรถไฟ และช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ อีกด้วย

ปัจจุบัน จำนวนผู้โดยสารรถไฟทั่วประเทศทั้งชาวไทยและต่างชาติมีประมาณ 2.4 ล้านคนต่อเดือน  หรือราว 80,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะหลังการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่จะแล้วเสร็จในอนาคต ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นรถไฟที่มีความทันสมัยมากขึ้น ในปัจจุบันผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังคงนิยมชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยเงินสดกว่าร้อยละ 92  มีเพียง ร้อยละ 6 เท่านั้นที่ชำระด้วยบัตรเครดิต ดังนั้น รูปแบบของรถไฟที่ทันสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มคุ้นชินกับการชำระเงินด้วย QR Code จึงมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะเป็นบริการที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค

นายวรวุฒิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้มีการอบรม แนะนำวิธีการใช้ระบบชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด ผ่านเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ ให้กับเจ้าหน้าประจำสถานีเรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานี โดยผู้ใช้บริการสามารถร่วมสร้าง “สังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด” และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

โรงแรม Keio Plaza ในโตเกียวปรับโฉมห้องพักอารยสถาปัตย์

Logo

-ตกแต่งห้องพักใหม่ 10 ห้อง พร้อมเปิดห้องพักอารยสถาปัตย์สุดหรูอีก 3 ห้องในเดือนธันวาคม

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–03 กรกฎาคม 2018

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) หนึ่งในแรงแรมระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชินจูกุของกรุงโตเกียว จะเริ่มทำการปรับปรุงห้องพักประเภทอารยสถาปัตย์ (universal design) จำนวนสิบห้อง (ขนาด 35.5 ตารางเมตร) ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 30 ของโรงแรม ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป พร้อมสร้างห้องพักที่มีความหรูหราและออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์อีกสามห้อง ประกอบด้วยห้องพักขนาด 47.0 ตารางเมตรจำนวนสองห้อง และห้องพักขนาด 67.4 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้โรงแรมมีจำนวนห้องพักประเภทอารยสถาปัตย์ทั้งหมดรวม 13 ห้อง พร้อมเปิดให้บริการกลางเดือนธันวาคมปีนี้ โดยทางโรงแรมได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 400 ล้านเยน เพื่อปรับปรุงห้องพักประเภทอารยสถาปัตย์ 13 ห้อง และปรับปรุงห้องพักทั่วไปอีกสี่ห้องซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรมเช่นกัน เพื่อเป็นการยกระดับดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมให้ดีขึ้น ตามความมุ่งมั่นของโรงแรมที่อยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ที่จะมอบการเข้าถึงที่สะดวกสบายและรองรับกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180703005021/en/

New Luxury Type Universal Design Room (47.0sqm) will be added to increase the flexibility of accommo ...

ห้องพักสุดหรูที่ออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ (ขนาด 47.0ตรม.) ที่จะเข้ามาเติมเต็มตัวเลือกห้องพักสำหรับแขกของเรา (รูปภาพ: Business Wire)

ห้องพักที่ออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ปัจจุบัน ของเราเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2002 การเข้าสู่ห้องพักที่ง่ายขึ้นรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่หลากหลายของห้องพักประเภทนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าพักของเราตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา การปิดปรับปรุงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของโรงแรม Keio Plaza Hotel Tokyo ซึ่งต้องการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระดับที่มากขึ้นจากบริการทางด้านการแพทย์และความต้องการพิเศษอื่นๆ ที่มาพร้อมกับห้องพักที่สวยงามของโรงแรมของเรา การปรับปรุงห้องพักครั้งนี้จะมีการขยายขนาดห้องน้ำให้ใหญ่ขึ้น และเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปเพื่อความสะดวกสบายที่มากกว่าเดิม ขณะที่ยังคงแนวคิดเดิมของการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานไว้ คือ “สามารถปรับแต่งได้” และ “มีความยืดหยุ่น” ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้เข้าพักมาตลอด ขณะเดียวกันจะมีการออกแบบระบบไฟแบบพิเศษสำหรับผู้เข้าพักที่มีความบกพร่องด้านการมองเห็น และมีการออกแบบพิเศษสำหรับผู้เข้าพักที่มีความบกพร่องด้านการได้ยินเช่นกัน

Keio Plaza Hotel Tokyo เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมโรงแรมในการมอบสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการที่รองรับผู้เข้าพักที่ครอบคลุมนับตั้งแต่เข้าร่วมงาน World Congress of Rehabilitation International ในปี 1988 การปรับปรุงห้องพักตามหลักอารยสถาปัตย์ครั้งนี้จะทำให้แขกได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นระหว่างเข้าพักที่โรงแรมของเรา ซึ่งมีการนำความความคิดเห็นและคำแนะนำจากผู้เข้าพักที่มีความต้องการพิเศษมาผสมผสานในการออกแบบ รวมถึงจะนำเอาเทคโนโลยีที่มีวิวัฒนาการอันรวดเร็วและบริการภายใต้หลักอารยสถาปัตย์มาไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพักด้วยเช่นกัน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180703005021/en/

ติดต่อ:

Keio Plaza Hotel Tokyo
Keiko Kawashima, +81-3-5322-8010
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
keiko-kawashima@keioplaza.co.jp

Qantas Airways และ Hong Kong Airlines ได้รับคะแนน 5 ดาวในการจัดอันดับความตรงต่อเวลา On-time Performance Star Ratings ของ OAG

Logo

การค้นพบที่สำคัญ:

  • Qantas Airways ของออสเตรเลีย (OTP 85.7%) เป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคที่ได้รับคะแนน 5 ดาว
  • Hong Kong Airlines (92.4% OTP) เป็นหนึ่งในห้าสายการบินทั่วโลกที่มีคะแนนสูงกว่า 90%
  • 25 ใน 53 สนามบินทั่วโลกที่ได้รับคะแนน 5 ดาวอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยสนามบิน 19 แห่งตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

สิงขโปร์–(BUSINESS WIRE)–02 กรกฎาคม 2018

สายการบินและสนามบินในเอเชียแปซิฟิกมีผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจในช่วง 12 เดือนถึงพฤษภาคมปี 2018 โดย OAG ซึ่งเป็นผู้นำด้านข้อมูลเที่ยวบินเปิดเผยผลการปฏิบัติงานตรงต่อเวลา  On-time Performance (OTP) Star Ratings ซึ่งให้การรับรองกับสายการบินชั้นนำและสนามบินรอบโลกสำหรับประสิทธิภาพการทำงานตรงต่อเวลาที่เหนือกว่า

คะแนน OTP ที่น่าประทับใจของสายการบิน Hong Kong Airlines และ Qantas Airways ทำให้ทั้งสองสายการบินได้รับคะแนน 5 ดาว กลายเป็นหนึ่งใน 15 สายการบินที่ตรงต่อเวลาที่สุดในโลก  ผู้ได้รับ 5 ดาวรายใหม่อื่นๆ ได้แก่ T’Way Air ของเกาหลี และ Fuji Dream Airlines ของญี่ปุ่น  สายการบินต้น low-cost Jetstar Asia ของสิงคโปร์ Japan Airlines, All Nippon Airways และ Singapore Airlines ได้รับดาว 4 ดวงและเป็นหนึ่งใน 25 สายการบินชั้นนำของโลกด้านความตรงต่อเวลา

สนามบินญี่ปุ่นมีผลงาน OTP ประจำปีที่น่าประทับใจ โดยมี 19 ท่าอากาศยานที่มีสถานะ 5 ดาว ซึ่งรวมถึงฮับใหญ่ Osaka International Itami (88.2%) และ Tokyo International Haneda (86.0%)

“ด้วยเส้นทางการบินและสายการบินที่หลากหลายให้เลือกสำหรับการเดินทางภายในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวเอเชียมักจะเปรียบเทียบตัวเลือกการเดินทางก่อนที่จะตัดสินใจจอง และความตรงต่อเวลานับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของพวกเขา” Mayur Patel ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาค ของ JAPAC, OAG กล่าว “เพราะความตรงต่อเวลาเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงคุณภาพการให้บริการ หลายสายการบินและสนามบินในเอเชียต่างก็มีการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อรักษาจำนวนผู้โดยสาร"

เกี่ยวกับการให้คะแนน OTP ของ OAG

เพื่อให้ได้คะแนนระดับ OTP สายการบินและท่าอากาศยานจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์สองอย่างคือ: ทุกสายการบินและสนามบินต้องมีการดำเนินงานอย่างน้อย 600 เที่ยวต่อเดือนและ OAG จะต้องได้รับข้อมูลสถานะเที่ยวบินในอัตราร้อยละ 80 ของเที่ยวบินที่กำหนดภายในระยะเวลา 12 เดือน

ดาวน์โหลดสำเนารายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นผู้ให้บริการข้อมูลเที่ยวบินดิจิทัลชั้นนำระดับโลกและจัดหาข้อมูลและแอพพลิเคชันที่แม่นยำ ตรงเวลา และปฏิบัติได้จริงทั่วทั้งภาคการท่องเที่ยวให้กับสายการบิน สนามบิน หน่วยงานราชการ ผู้ผลิตเครื่องบิน บริษัทที่ปรึกษา และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:  www.oag.com และติดตามเราได้ที่ Twitter  @OAG Aviation

ดูเวอร์ชันของแหล่งที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180701005074/en/

ติดต่อ:

สำหรับ OAG:

Esther Molina, +86 13671793896

esthertsj@outlook.com

โรงงานผลิตไฟฟ้า AP100 ซันเหมิน แห่งแรกของ Westinghouse เริ่มทำการเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้า

Logo

ซันเหมิน 1 เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้า

ซันเหมิน ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–30 มิถุนายน  2018

บริษัท Westinghouse Electric Companyและเหล่าลูกค้าของบริษัทซึ่งได้แก่ China State Nuclear Power Technology Corporation (SNPTC) และ บริษัท CNNC Sanmen Nuclear Power Company Limited (SMNPC) ได้ประกาศให้ทราบในวันนี้ว่าโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของโลกที่ตั้งอยู่ที่เมืองซันเหมิน จังหวัดเจ้อเจียง ประเทศจีนได้เริ่มเชื่อมต่อกับสายไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหัน (turbine generator) ของ Sanmen 1 ได้เริ่มเชื่อมต่อกับสายไฟฟ้าและได้เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้า

José Emeterio Gutiérrez ประธานและซีอีโอของ Westinghouse กล่าวว่า "วันนี้เราได้เป็นสักขีพยานการกำเนิดโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า AP1000 ของเราครั้งแรก ที่มีชื่อว่า ซันเหมิน (Sanmen) 1 โดยได้เริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าและจัดหาพลังงานที่ปลอดภัยเชื่อถือได้และสะอาดให้กับลูกค้าของเราในประเทศจีน" เขายังได้กล่าวเสริมว่า "ความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนอย่างต่อเนื่องของลูกค้าชาวจีนของเรา"

ซันเหมิน 1 สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1,117 เมกะวัตต์เมื่อผลิตอย่างเต็มกำลัง นอกจากนี้ยังเป็นโรงงานแห่งแรกในกลุ่มโรงงาน AP1000 อีก 4 แห่ง ในภาคตะวันออกของจีน และจะให้พลังงานที่ปลอดภัยเชื่อถือได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไปในอีก 60 กว่าปีข้างหน้า

David Durham รองประธานอาวุโส Westinghouse ของ New Projects Business กล่าวถึงความสำเร็จล่าสุดของ Westinghouse ในประเทศจีนว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้ง Westinghouse กลุ่มลูกค้าจากจีน และอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ ในช่วงเวลาที่เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เข้าใกล้การผลิตกำลังไฟฟ้าและการปฏิบัติการณ์เชิงพาณิชย์ 100 เปอร์เชนต์ที่โรงงาน ซันเหมิน 1"

ปัจจุบัน Westinghouse มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ AP1000 จำนวน 6 แห่งที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ทดสอบ และเริ่มดำเนินการ โครงการเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยผลิตแห่งในเมืองซันเหมิน จังหวัดเจ้อเจียง ประเทศจีน และหน่วยผลิตอีกสองแห่งใน ไห่หยาง มณฑลซานตงประเทศจีน รวมทั้งหน่วยผลิตที่กำลังก่อสร้างอยู่อีก 2 แห่งที่โรงงานผลิตไฟฟ้า Electric Generating Plant ใกล้เมืองเวย์เนสโบโร รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขณะนี้ Westinghouse กำลังให้บริการออกแบบอุปกรณ์ที่สำคัญ การฝึกอบรมและการทดสอบสำหรับแต่ละหน่วย ของ AP1000 อีก 6 หน่วย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180630005033/en/

ติดต่อ:

บริษัท Westinghouse Electric Company

Sarah Cassella, +1 412-374-4744

ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารภายนอก

cassels@westinghouse.com

www.westinghousenuclear.com