นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–28 กันยายน 2018
สถาบันการศึกษาออนไลน์ Badiri E-Academy เปิดสอนโดยสถาบันการศึกษาออนไลน์ NAMA Women's Advancement ของ Sharjah ที่จัดขึ้นที่การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 73 ในนิวยอร์กโดยนำเสนอทรัพยากรทางการศึกษาและหลักสูตรวิชาชีพที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ทางออนไลน์
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะด้านมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180928005252/en/
ระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวัน NAMA Badiri E-Acad ระหว่างงาน UNGA ในนิวยอร์ก (ภาพ: NAMA Badiri E-Acad Program)
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างความทุ่มเทให้กับการสนับสนุนสตรีในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และพัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อเอาชนะอุปสรรคที่ขัดขวางการเข้าถึงความรู้และการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
ในขณะที่มีการคัดเลือกหลักสูตรและทรัพยากรทางการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อความก้าวหน้าของสตรีในกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาวิชาชีพ E-Academy เปิดให้ทั้งหญิงและชายจากทั่วโลก สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของ NAMA ว่าทุกคนมีสิทธิ์ เพื่อเข้าถึงแหล่งความรู้
สถาบัน Badiri E-Academy ก่อตั้งขึ้นตามร่วมมือกับแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิตอลจากบราซิล FazINOVA ในรูปแบบ MOOCs (Massive Online Open Courses) และให้บริการฟรีผ่านทางเว็บไซต์: www.badiriacademy.org และแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ
เนื้อหาการศึกษานี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานด้านการศึกษาและการฝึกอบรมนานาชาติและบุคคลทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้หญิงและผู้ชาย นักศึกษามหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้หางาน และทุกคนที่ต้องการพัฒนาทักษะวิชาชีพและชีวิตของตนเอง
สถาบัน Badiri E-Academy กำลังเปิดตัวด้วยแคมเปญ "#IWishILearned" ที่เน้นความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิตและเน้นทักษะหรือความรู้ที่จะทำให้ผู้คนก้าวหน้าในอาชีพและชีวิตส่วนตัว
ขอเชิญชวนทุกคนแชร์วิดีโอเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาอยากจะเรียนรู้โดยใช้แฮชแท็ก #IWishILearned
ในช่วงเริ่มต้น E-Academy จะจัดหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพธุรกิจ การริเริ่มธุรกิจ วัฒนธรรม ทฤษฎี และวิทยาศาสตร์ในภาษาอาหรับและภาษาอังกฤษ โดยจะขยายให้มีหลักสูตรและภาษาเพิ่มเติมในอนาคต
สถาบัน E-Academy ได้เรียกร้องให้สถาบันอุดมศึกษา สถาบันการศึกษา และอาชีวศึกษาทุกแห่ง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญมานำเสนอเนื้อหาของตนในเวทีการเรียนรู้ฟรีนี้
ลิงก์ไปยังวิดีโอ: https://we.tl/t-zhSGiGOkQN
ดูเวอร์ชันของแหล่งที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180928005252/en/
ติดต่อ:
NAMA Women Advancement Establishment
National Network Communications NNC
Mousa Nimer, +971502220561
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินไทยโค้งสุดท้ายปี 2561
กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–28 กันยายน 2561
ดร.เชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินไทยโค้งสุดท้ายปี 2561 ภาพรวมการขยายตัวเศรษฐกิจทั้งปีปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4.6% ตามการขยายตัวที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจปรับขึ้น ขณะที่แนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ยังเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่องจากจำนวนที่อยู่อาศัยค้างขายสะสม ณ ธนาคารกสิกรไทย อาคารพหลโยธิน เมื่อเร็ว ๆ นี้
ติตต่อ:
ธนาคารกสิกรไทย
ส่วนบริหารเครือข่ายสื่อ
ฝ่ายสื่อสารและองค์การสัมพันธ์
โทร. 02-4702653-8
Slice Labs ระดมทุนพิ่ม 20 ล้านดอลลาร์เพื่อขยาย Series A เป็นคลาวด์แพลตฟอร์ด้านประกันภัยระดับโลก
บริษัท The Co-operators ให้งบประมาณเพิ่มเติมจนได้ยอดรวมถึง 31.6 ล้านดอลลาร์ในการขยายผลิตภัณฑ์ Series A
นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–26 กันยายน 2018
Slice Labs ผู้นำการให้บริการด้านประกันภัยแบบออนดีมานด์บนคลาวด์แพลตฟอร์ม ประกาศในวันนี้ว่าได้ทำการระดมทุนเพิ่มอีก 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการจัดตั้งกองทุน Series A โดยมีแกนนำหลักอย่างบริษัท The Co-operators และด้วยความร่วมมือจาก XL Innovate Horizons Munich Re/ HSB Ventures SOMPO Veronorte ซึ่งเป็นสาขาการลงทุนย่อยของ Grupo Sura และ JetBlue Technology Ventures การระดมทุนรอบพิเศษครั้งนี้จะนำไปใช้เพื่อจัดการกับความต้องการของตลาดโลกที่สูงเกินคาดต่อบริการประกันภัยบนคลาวด์ (Insurance Cloud Services – ICS) จาก Slice
Slice เปิดตัวในปี 2016 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยน พัฒนา และวางรูปแบบใหม่ให้กับการประกันภัย บริการประกันภัยบนคลาวด์ (ICS) ของบริษัท กำลังจะพลิกโฉมบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิมให้กลายมาเป็นผู้ให้บริการแบบดิจิทัล โดยการให้บริษัทประกันภัยเหล่านี้เข้ามาใช้แพลตฟอร์มเพื่อจะได้เห็นภาพ ทดลอง ทดสอบ และปรับใช้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบออนดีมานด์รูปโฉมใหม่นี้ บริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลกเพิ่งได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบออนดีมานด์ โดยใช้ ICS ไปเมื่อไม่นานมานี้ และ Slice จะใช้แผนการจัดหาเงินใหม่นี้เพื่อขยายฐานของผลิตภัณฑ์ต่อไปในระดับโลก
“เมื่อแพลตฟอร์ม ICS กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันที่บริษัทประกันภัยต่างก็ตระหนักเพิ่มขึ้นว่าจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มที่อยู่บนคลาวด์เพื่อไปสู่จุดที่ได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งในด้านประกันภัยออนดีมานด์แบบดิจิทัล” นาย Tim Attia ซึ่งเป็นซีอีโอของ Slice กล่าว “แผนอันยอดเยี่ยมของนักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่นี้จะกลายเป็นทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลได้ เพราะว่าเรายังคงดำเนินการปรับขนาดธุรกิจของเราต่อไป และทำการทดลองด้วยศักยภาพที่ไม่สอดคล้องกันของการประกันภัยแบบดิจิทัล”
แพลตฟอร์ม ICS เป็นบริการคุณภาพสูงที่สามารถให้บริษัทประกันภัยสามารถออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลออนดีมานด์รูปแบบใหม่ภายในไม่กี่สัปดาห์ แพลตฟอร์มนี้ทำงานด้วยส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) การร่วมวิเคราะห์ข้อมูลรวมขั้นสูง และผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอก สาขาพฤติกรรมศาสตร์ในด้านระบบสมาชิกแบบรายเดือน รวมทั้งการตั้งราคาแบบ API การออกใบอนุญาต ขั้นตอนการเคลมและและการประกันการจัดจำหน่ายอัตโนมัติ ICS จึงแสดงให้เห็นถึงอีกขั้นของการพัฒนาเทคโนโลยีประกันภัยขั้นสูง
“เนื่องจากเศรษฐกิจของโลกดิจิทัลนั้นขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นแพลตฟอร์มและกลยุทธ์อันโดดเด่นของ Slice จะต้องทำให้เกิดนวัตรกรรม ความรวดเร็ว และการประกันภัยที่ตรงต่อความต้องการของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว” นาย Rob Wesseling ประธานและซีอีโอของ The Co-operators กล่าว “การเป็นหุ้นส่วนกับ Slice เราไม่ได้เพียงแค่ลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่ทำให้เรายืนอยู่ในฐานะผู้นำของโซลูชันเหล่านี้เท่านั้น เรายังลงทุนกับความสามารถระยะยาวของเราเพื่อทำตามความต้องการที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอของสมาชิกและลูกค้าของเราอีกด้วย”
ในช่วงเริ่มแรก Slice ใช้เทคโนโลยีที่ล้าหลังกว่า ICS เพื่อออกผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกในเดือนตุลาคม 2016 และเปิดตัวแพลตฟอร์มออนดีมานด์ในรูปแบบดิจิทัลเป็นครั้งแรกใน 50 รัฐเมื่อปีที่แล้ว ทางบริษัทได้แนะนำให้รู้จักกับแพลตฟอร์ม ICS ให้ตลาดได้รู้จักในเดือนมกราคม 2018 และมองเห็นถึงความต้องการของตลาดจากทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการประกาศรายชื่อของลูกค้ารายใหม่ทั้ง 3 ราย โดยประกอบไปด้วย XL Catlin Legal & General และ The Co-operators ผู้พัฒนาประกันภัยออนดีมานด์เวอร์ชันใหม่หลากหลายรูปแบบ นอกเหนือไปจากนี้เพื่อสนับสนุนแรงกระตุ้นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่นานมานี้ Slice ประกาศร่วมงานกับประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเติบโตของบริษัทอย่าง Philippe Lafreniere ประธานบริหารงานประกันภัยผู้มีประสบการณ์ และในเดือนสิงหาคมจะได้รู้กันว่าใครจะมีบทบาทที่ครบถ้วนสมบูรณ์ในการช่วยบริษัทประกันภัยระดับโลกตระหนักว่าคุณค่าของโมเดลประกันภัยออนดีมานด์แบบดิจิทัลนั้น สามารถหาได้จากประสบการณ์การใช้งานของบรรดาลูกค้า
เกี่ยวกับ Slice Labs
Slice Labs คือผู้นำการให้บริการด้านประกันภัยแบบออนดีมานด์บนคลาวด์แพลตฟอร์ม ซึ่งให้บริษัทประกันภัยสามารถส่งมอบสิ่งดี ๆ ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ผ่านการประกันโดยตรงหรือผ่านโมเดลตัวแทนประกัน โดยไม่ต้องลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานใด ๆ เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่สามารถออกแบบได้เองและไม่มีการเก็บเงินล่วงหน้า บริการประกันภัยบนคลาวด์ (ICS) จาก Slice ทำงานด้วยส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และเทคโนโลยีขั้นสูงในการเก็บข้อมูลจำนวนมาก ควบคู่ไปกับผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอก สาขาพฤติกรรมศาสตร์ ICS จึงเป็นเหมือนรากฐานของผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่บริษัทประกันภัยชั้นนำทั่วโลกจะนำไปใช้ และยังจะเป็นฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลที่ Slice เพื่อรองรับเศรษฐกิจรูปแบบใหมที่กำลังจะเปลี่ยนไป
ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180926005145/en/
ติดต่อ:
Slice Labs Inc. PR
Emily Kosick, 303-886-5708
pr@slice.is
โตชิบาเปิดตัวไอซีไดรเวอร์มอเตอร์แบบแปรงถ่านกระแสตรง (DC Brushed Motor Driver IC) พร้อมการตรวจจับกระแสไฟ
– เครื่องส่งสัญญาณกำหนดระดับกระแส Limiter สามารถป้อนกลับฟีดแบ็คได้
โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–26 ก.ย. 2018
Toshiba Electronics Devices and Storage Corporation (โตชิบา) เปิดตัว IC ไดร์เวอร์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าชนิด H-bridge แบบ dual ที่มีฟังก์ชั่นจำกัดกระแสเอาท์พุทที่อัตรา 50V / 3.0A อุปกรณ์ TB67H401FTG รุ่นใหม่นี้ สามารถจัดการกับการใช้งานที่จำเป็นต้องมีการติดตามตรวจสอบและตอบสนองต่อสภาวะมอเตอร์ เช่น อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเอทีเอ็ม เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ห่นยนต์เครื่องทำความสะอาด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180925006329/en/
โตชิบา: IC ไดรเวอร์ แบบแปรงถ่านกระแสตรง H bridge รุ่น "TB67H401FTG" ที่มีฟังก์ชั่นจำกัดกระแสไฟเอาต์พุต (ภาพ: Business Wire)
ก่อนหน้านี้ การควบคุมมอเตอร์แปรงถ่านกระแสตรงให้ปลอดภัยจะจำกัดอยู่ที่การจำกัดเพดานบนของกระแสมอเตอร์ผ่านการจำกัดความคงที่ของกระแส กระแสไฟฟ้าที่มากเกินไปถูกสร้างขึ้นโดยมอเตอร์และถูกอ่านจากตัวต้านทานภายนอกผ่านวงจรภายนอก เครื่องขยายสัญญาณ วงจรคอมพาราเตอร์ซึ่งจะเพิ่มจำนวนส่วนประกอบและความซับซ้อนของวงจร
ผลิตภัณฑ์รุ่น TB67H401FTG ผสานรวมกับกระบวนการ BiCD ของโตชิบาและมีวงจรเอาท์พุทแบบ inbuilt ซึ่งจะตรวจสอบสถานะของกระแสและระบุเมื่อถึงขีดสูงสุด นี่หมายความถึงการสิ้นสุดของความจำเป็นในการใช้วงจรภายนอกและให้โซลูชั่นมอเตอร์ขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่าใช้จ่าย BOM ที่ลดลง
ผลิตภัณฑ์รุ่น TB67H401FTG สนับสนุนโหมดขับเคลื่อนสี่รูปแบบ ไปข้างหน้า (CW), ย้อนกลับ (CCW), เบรค (short brake) และหยุด (off) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการสลับโหมดที่ขยายช่วงการใช้งาน โหมด Single-Bridge รองรับช่องสัญญาณแบบเดี่ยวได้ถึง 6.0A ในขณะที่โหมด dual-bridge ช่วยให้สามารถใช้มอเตอร์ได้ 2 ตัวใช้ IC เดี่ยวขับเคี่ยวถึง 3.0A ต่อมอเตอร์
MOSFETs ความต้านทานต่ำที่รวมอยู่ในสะพาน H (ด้านสูง + ด้านต่ำ = 0.49Ω typ) ทำให้เกิดความสูญเสียต่ำและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ตัวควบคุมภายในช่วยให้อุปกรณ์สามารถขับเคลื่อนจากแหล่งจ่ายไฟ 5 โวลต์ได้
อุปกรณ์ขนาดเล็กติดตั้งอยู่ในแพ็คเกจรุ่น QFN48 ขนาด 7 มม. x 7 มม. x 0.9 มม. ซึ่งรวมถึงระบบปิดอัตโนมัติเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้า และระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าตก สัญญาณตรวจหาข้อผิดพลาดโดยทั่วไปช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบโดยการแจ้งเตือนไปยังตัวควบคุมระบบหลัก
ผลิตภัณฑ์รุ่น TB67H401FTG กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตออกจำหน่ายเป็นจำนวนมาก
การใช้งานต่าง ๆ
การใช้งานที่จำเป็นต้องตรวจสอบและฟีดแบคเกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์รวมถึงอุปกรณ์สำนักงาน และตู้เอทีเอ็ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และหุ่นยนต์ทำความสะอาด
คุณสมบัติหลัก
1. ฟังก์ชันเตือนเอาท์พุท
ฟังก์ชันเตือนเอาท์พุทflag output จะแสดงผลลัพธ์จากการตรวจจับข้อกระแสไปยังอุปกรณ์ภายนอก ช่วยลดจำนวนเครื่องขยายเสียงและคอมพาราเตอร์ภายนอก
2. ฟังก์ชันเปลี่ยนโหมดการทำงาน (ระหว่างโหมด Single-Bridge และ Dual-Bridge)
Single-Bridge รองรับไดรฟ์ที่มีกระแสโหลดสูง (ไดรฟ์ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน 6.0 A) โหมด Dual-Bridge สนับสนุนการขับเคลื่อนมอเตอร์สองตัวด้วย IC ตัวเดียว (3.0 A / 2 ช่อง) ซึ่งช่วยขยายช่วงของการใช้งาน
3. ตรวจจับข้อผิดพลาดอื่น ๆ การตรวจสอบการ
การปิดด้วยความร้อน การป้องกันกระแสเกิน และการป้องกันกระแสไฟฟ้าตก สัญญาณตรวจจับข้อผิดพลาดสามารถส่งออกไปยังอุปกรณ์ภายนอกช่วยเพิ่มความปลอดภัย
ข้อมูลจำเพาะ |
||
หมายเลขชิ้นส่วน |
TB67H401FTG |
|
คอนโทรล I / F |
อินพุตแบบขนาน |
|
อัตรากระแสสมบูรณ์สูงสุด |
50 V, 6.0 A (โหมดสะพานเดี่ยว) 50 V, 3.0 A (โหมดสะพานแบบ Dual) |
|
แพคเกจ |
QFN48 (ขนาด 7 มม× 7 มม× 0.9 มมส พิทช์ของหมุด: 0.5 มม.) |
|
โหมด |
ขับเคลื่อนไปข้างหน้า (CW), ย้อนกลับ (CCW), เบรค (short brake), หยุด (OFF) |
|
คุณสมบัติอื่น ๆ |
เอาท์พุทในตัวที่แสดงผลของการตรวจจับกระแส ฟังก์ชันสลับระหว่างโหมด single-bridge และโหมด dual-bridge ฟังก์ชันการจำกัดดระแสในตัว (constant current PWM control) ฟังก์ชั่นให้สัญญาณเมื่อกระแสเอาต์พุตผิดพลาด (การปิดความร้อน, การป้องกันกระแสไฟเกิน และการลดแรงดันไฟ) รองรับการเปิดเครื่องตามลำดับ single power drive |
|
ตรวจสอบสต็อคและ ซื้อสินค้า |
||
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โปรดไปที่:
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/linear/motordriver/detail.TB67H401FTG.html
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
Mixed Signal IC Sales and Marketing Department
โทร + 81-44-548-2876
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html
* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์เนื้อหาบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เกี่ยวกับโตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น
โตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2017 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD
พนักงานของเราจำนวน 19,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเราและให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ 7 แสนล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html
ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180925006329/en /
สื่อมวลชน:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Chiaki Nagasawa, + 81-3-3457-4963
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
IWBI ประกาศผู้เข้าร่วม WELL Portfolio รายแรก
Pathway ใหม่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มพูนการอัพเกรดสุขภาพและสุขภาพข้ามพอร์ต
นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2018
International WELL Building Institute™ (IWBI™) ประกาศว่าผู้เข้าร่วม WELL Portfolio ™ รายแรก ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ในการรับรอง WELL Certification™ สำหรับอาคารใหม่และที่มีอยู่แล้วหลายแห่งและพื้นที่เช่าในส่วนงานเดียว โดยปล่อยตัวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่อง WELL v2™ ซึ่งเป็นการย้ำครั้งล่าสุดของ WELL Building Standard™ (WELL™) เป็นส่วนหนึ่งของชุดการปรับปรุงของ WELL เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมอาคารสำหรับโปรแกรมที่ช่วยให้เจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้เช่าปรับปรุงและทำการปรับปรุงด้านสุขภาพให้กับสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ของตน
การประกาศเกิดขึ้นภายหลังการเปิดตัว WELL v2 ซึ่งเป็นโครงการตัวที่สองของ WELL Building Standard ของ IWBI การเพิ่มกระบวนการตรวจสอบเฟสต้นเพื่อให้โครงการต่างๆสามารถแสวงหาการแต่งตั้ง WELL D&O™ ซึ่งได้ริเริ่มใน WELL v2 ทำให้โครงการในพอร์ตโฟลิโอสามารถดำเนินการผ่านกระบวนการรับรองได้อย่างคล่องตัวและเป็นระบบมากขึ้น โดยมุ่งเน้นนโยบาย โปรแกรม และแนวทางการจัดซื้อ WELL Portfolio Pathway จะสนับสนุนให้เจ้าของมองเส้นทางสู่ WELL เป็นกระบวนการแทนที่จะเป็นจุดหมายปลายทางและทำการปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอต่างๆ ตลอดเวลาเพื่อติดตามความคืบหน้าของพวกเขาทั้งกระบวนการ
ผู้เช่า ผู้พัฒนา และนักลงทุนจากยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชียต่างแสดงความสนใจในการเดินตามเส้นทางของ WELL Portfolio Pathway หลายคนเคยใช้ WELL สำหรับอาคารแต่ละแห่งแล้วและต้องการนำเสนอคุณค่าและประสิทธิภาพตามหลักฐานเดียวกันกับพอร์ตของตนตัวอย่าง โดยแสดงตัวอย่างความมุ่งมั่นของพวกเขาในการปรับปรุงสุขภาพคนในระดับใหญ่โต
ภายหลังการประชุมโต๊ะกลม การอภิปรายโดยผู้เชี่ยวชาญ และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย องค์กรต่างๆ จากทั่วโลกมีพันธะสัญญาที่จะนำตัวอย่างผลงานของอาคารที่มีคุณสมบัติเหมาะสม การมีส่วนร่วมของพวกเขาในการพัฒนาเส้นทางนี้ผ่านกระบวนการนำร่องช่วยให้มั่นใจได้ว่าโครงการจะมอบผลประโยชน์ทันทีและสามารถวัดได้สำหรับทั้งผู้ใช้งานช่วงต้นและผู้ที่เข้ามาภายหลัง
ตัวอย่างองค์กร:
Barclays
Brandywine Realty Trust
CBRE Global Investors and CBRE
Charter Hall
Forest City Realty Trust
Gro
Investa
JLL Asia Pacific
The Lendlease managed Australian Prime Property Fund (APPF) Commercial
Miron Construction Co., Inc.
Prologis, Inc.
Shaw Industries
SL Green Realty Corp
ความตื่นเต้นเกี่ยวกับ WELL Portfolio Pathway ในบรรดาผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้อาคารของเราเป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องมือเพื่อปรับปรุงสุขภาพของเราและเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของเรา” ซีอีโอและประธาน IWBI Rick Fedrizzi กล่าว “องค์กรต่างๆ รู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพนั้นเกินขึ้นในระดับใหญ่โต และนั่นคือแรงผลักดันในการริเริ่มนี้"
Fedrizzi ระบุว่าการอนุญาตให้มีการใช้คุณลักษณะ WELL ในหลายอาคารในพอร์ทโฟลิโอจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในวิธีที่เจ้าของสามารถติดตามการรับรอง WELL ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นโครงการ WELL Portfolio Pathway จะได้รับดัชนีชี้วัดที่กำหนดเอง ซึ่งเหมาะสำหรับพอร์ตอาคารที่เกี่ยวข้อง และจะได้รับคำแนะนำในการปรับปรุงผลงานตลอดช่วงเวลา เจ้าของอาคารจะสามารถกำหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพด้านสุขภาพและการสร้างอาคารที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ ทั้งจากพอร์ตการลงทุนของตนเองและพอร์ตการลงทุนของบุคคลอื่นๆ
เนื่องจากความยั่งยืนของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน WELL Building Standard ได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกันได้ด้วยมาตรฐานอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก นักพัฒนาและผู้จัดการทรัพย์สินที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างอาคารสีเขียวโดยใช้ LEED, BREEAM, Green Star หรือ Living Building Challenge อยู่ในสถานะที่เหมาะสำหรับการใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ มากมายที่มีอยู่ในอาคาร WELL Certified™
“ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของอาคารที่ต้องการแยกแยะพื้นที่ของเขาเพื่อทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้เช่า หรือ บริษัทที่ต้องการรักษาและดึงดูดบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน หรือลดต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพ ผลประโยชน์ที่ได้รับจากพนักงานที่มีสุขภาพดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นคุ้มค่าอย่างยิ่งกับการลงทุนในอาคารเพียงครั้งเดียว ผลการพิสูจน์ของ WELL กลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้นำทั่วโลกที่ต้องการออกแบบพื้นที่ให้กับตัวเองหรือผู้เช่าให้มอบประโยชน์ต่อสุขภาพในทันทีและสามารถวัดผลได้สำหรับทุกคนในอาคาร” Fedrizzi กล่าว
คำพูดของผู้เข้าร่วม
"SL Green ประสบความสำเร็จอย่างมากกับโครงการ LEED Volume Program ของ USGBC ซึ่งช่วยให้เราปรับปรุงกระบวนการรับรองได้ง่ายกว่าในพื้นที่ 15 แห่งเพื่อให้เราสามารถเห็นประโยชน์ของ WELL Portfolio" Laura Vulaj รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนของ SL Green กล่าว "เรากำลังริเริ่ม WELL ที่ One Vanderbilt และเราจะสามารถใช้บทเรียนที่ได้เรียนรู้กับโครงการนำร่องนี้ได้ในระดับกว้างๆ ที่สำคัญที่สุด เรามุ่งมั่นที่จะรักษาสุขภาพผู้อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านความร่วมมือกับ IWBI"
“JLL Asia Pacific รู้สึกตื่นเต้นที่จะมีส่วนร่วมใน Pilot Portfolio Pilot ซึ่งเราใช้ในการมุ่งเน้นที่อสังหาของ JLL และเพื่อช่วยลูกค้าของเราในการมุ่งสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” Matthew Clifford หัวหน้าภาคพลังงานและบริการเพื่อความยั่งยืน JLL Asia Pacific กล่าว "เครื่องมือใหม่นี้มีศักยภาพที่จะช่วยสร้างโอกาสทางสุขภาพในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นเพื่อมอบประโยชน์อันมหาศาลให้กับชีวิตของพนักงานลูกค้าและประชาชน"
Nina James ผู้จัดการทั่วไปด้านการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัทที่ Investa กล่าวว่า "Investa มองว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เช่าของเราถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างสถานที่ทำงานที่เจริญรุ่งเรืองทั่วประเทศและเพื่อความสำเร็จขององค์กรที่เราเป็นเจ้าภาพ Portfolio pathway การจะช่วยให้เราสามารถระบุแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพและผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดโดยใช้ WELL v2 scorecard. Investa รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องนี้ด้วยการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำของโลกในการร่วมสร้างโซลูชั่น WELL ที่มีศักยภาพสำหรับอาคารที่มีอยู่"
"การมีส่วนร่วมในโครงการนำร่อง WELL Portfolio Pilot ซึ่งรวมสุขภาพของพนักงานและองค์ประกอบด้านสุขภาพเข้ากับการออกแบบอาคารอย่างลงตัวนั้น เหมาะสมกับแนวทางของ Prologis ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการดูแลองค์กร" Grant Stevens กรรมการผู้จัดการบริษัท Global Construction and Development Services, Prologis กล่าว "อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อมาตรฐานการออกแบบอย่างยั่งยืนสูงสุดไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานให้กับลูกค้าและบริษัทของเรา แต่ยังส่งเสริมสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วย”
“ทั่วโลก เราเห็นนักลงทุนใช้ผลงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมไม่ใช่แค่เพื่อเป็นพลเมืองที่ดี แต่เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ในการส่งมอบผลตอบแทนที่ได้รับในระยะยาว" Josh McHutchison กรรมการผู้จัดการของ Lendlease Investment Management Australia กล่าว “สภาพการเป็นอยู่คือหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันการสร้างเขตที่ดีที่สุดที่ผู้คนอยากทำงาน และผู้เช่าของเราเห็นสุขภาพเป็นวิธีการดึงดูดและรักษาคนที่ดีที่สุด”
“พื้นที่ที่เราอาศัย ทำงาน เล่น เรียนรู้ และพักผ่อนมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของเรา การออกแบบ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามามีส่วนสำคัญในการทำงานของเราทุกวัน” Susan Farris รองประธานฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสื่อสารองค์กรที่เมืองชอว์กล่าว "ความมุ่งมั่นของเราในการออกแบบ Cradle to Cradle ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเป็นจุดสนใจที่สำคัญของเรา การมีส่วนร่วมใน WELL Portfolio เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ผ่านทางสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น เช่นเดียวกับลูกค้าจำนวนมากของเรา เราตระหนักถึงโอกาสที่จะช่วยให้ผู้คนเจริญเติบโตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดีที่เรามีให้แก่พนักงานของเรา“ Farris กล่าวต่อ
เกี่ยวกับ the International WELL Building Institute
International WELL Building Institute (IWBI) เป็นผู้นำการเคลื่อนไหวทั่วโลกในการแปลงอาคารและชุมชนให้ผู้คนได้เจริญเติบโต โครงการริเริ่ม WELL v2 เป็นหนึ่งในรุ่นที่เปิดตัวจาก WELL Building Standard ยอดนิยม พร้อมกับโครงการนำร่อง WELL Community Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับเขตที่กำหนดมาตรฐานระดับโลกใหม่สำหรับชุมชนที่มีสุขภาพดี WELL มุ่งเน้นวิธีการที่สิ่งปลูกสร้างและชุมชน และทุกสิ่งทุกอย่างในพื้นที่เหล่านี้สามารถปรับปรุงความสะดวกสบายของเรา ผลักดันทางเลือกที่ดีกว่า และเสริมสร้าง แทนที่จะขัดขวาง สุขภาพและความเป็นอยู่ของเรา IWBI รวบรวมและระดมพลเมืองด้านสุขภาพผ่านการจัดการของข้อมูลประจำตัว WELL AP การแสวงหาการวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาทรัพยากรทางการศึกษา และการสนับสนุนนโยบายที่ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ทุกแห่ง
สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WELL ได้ที่นี่.
ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180925006028/en/
ติดต่อสำหรับสื่อ:
Jamie Matos
516.941.7176
กองทุน Abu Dhabi บรรลุข้อตกลง TOB กับ MINDOL
~”Fusion of subculture and block chain technology” จะเปิดให้เล่นเกมต่อสู้ออนไลน์ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการออดิชันทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "TO DO & DIE" ซึ่งมีแผนเปิดตัวทั่วโลกในปี 2020
ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2018
Abu Dhabi Dubai STOB Series 22 Investment Limited Partnership (”จากนี้เรียกว่า AbuDhabi22”) และ MINDOL HOLDINGS LIMITED (จากนี้เรียกว่า ”MINDOL”) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต Coinsuper ในฮ่องกง (https://www.coinsuper.com) บรรลุข้อตกลงในการให้ AbuDhabi22 ได้รับ 33% ของสกุลเงินคริปโต MINDOL (MIN)(http://mindol.net) ซึ่งออกโดย TOB
เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180925005523/en/
การออดิชันทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "TO DO & DIE" มีแผนเปิดตัวทั่วโลกในปี 2020! (กราฟฟิก: Business Wire)
การนำ TOB มาใช้จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านพันธมิตรกับ MINDOL โดยทั้งสองบริษัทเลือก TOB ให้เป็นกลยุทธ์เพื่อซื้อในราคาที่ทรงตัว เนื่องจากว่าราคาเข้าซื้อที่ AbuDhabi22 กำหนดไว้ในแผนอาจจะเกินราคาที่ซื้อผ่านตลาดเเลกเปลี่ยนทั่วไปเป็นอย่างมาก การใช้ TOB ในระยะที่ 1 ได้สิ้นสุดแล้ว และขณะนี้ได้มีการเริ่มใช้ TOB ด้วยราคาซื้อสำหรับระยะที่ 2
ตามวิสัยทัศน์ด้านการจัดการในปี 2019 MINDOL ตั้งเป้าขยับมูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) ให้ขึ้นมาอยู่ภายใน 20 อันดับแรก (ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 55 ข้อมูลสิ้นสุดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018) และมีเงินคริปโตจดทะเบียนมากกว่า 2000 สกุล กำหนดให้ ”Fusion of subculture and block chain” เป็นธุรกิจหลัก พัฒนาเกมออนไลน์โดยมีงบประมาณในการพัฒนาที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขั้นแรก จะพัฒนาเกมต่อสู้ที่สามารถออกสู่ตลาดทั่วโลก โดยใช้ตัวละครซึ่งนำไปใช้ในการประกวดที่สนับสนุนโดย MINDOL คาดว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดทั่วโลก เนื่องจากผู้เล่นมีโอกาสได้รับเงินสกุล MIN จากผู้แพ้ หากสามารถชนะได้ในแมตช์นั้น นอกจากนี้ ยังจะพัฒนากระเป๋าเงินแบบเอ็กซ์คลูซิฟสำหรับ MINDOL ที่สามารถใช้ได้กับสมาร์ตโฟนและกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น การโหวตอินฟลูเอนเซอร์และเกมออนไลน์ที่ต้องการให้พัฒนาในอนาคต รวมถึงการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง และการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันของญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ด้านสื่อ นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะสนับสนุนภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "TO DO & DIE" ที่มีกำหนดเริ่มผลิตในปี 2019 ก่อนออกฉายทั่วโลกในปี 2020 และการจัดกิจกรรม "MINDOL × TO DO & DIE World Audition 2019" ตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งจะปรากฎในภาพยนต์ "TO DO & DIE" ด้วยเช่นกัน นักแสดงที่ผ่านการออดิชันจะได้ร่วมการถ่ายทำในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียดจะมีการประกาศเพิ่มเติมในภายหลัง PAN Entertainment และ SKY INFINITY GROUP ได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านอำนวยการผลิตภาพยนต์เรื่อง "TO DO & DIE" และ Spencer Jay Kim ได้รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ งานขายจะดูแลโดย LOTUS Entertainment และ Number 11 Films และมีการเตรียมการโครงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดโดยทีมนักแสดงและผลิตสุดหรูจากทั้งญี่ปุ่นและฮอลลีวูด
ราคาและระยะเวลา
ราคาซื้อ: 2.69USD (TOB STAGE2) ~5.86USD (TOB ระยะ 5)
หมายเลขอ้างอิง 1: ราคาขายสุดท้าย 0.45USD
หมายเลขอ้างอิง 2: ราคาเริ่มต้น 0.54USD
ระยะเวลา: ภายใน 10 วันหลังจากวันที่ TOB เสร็จสมบูรณ์
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการสรรหา: จำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของ MIN (MINDOL) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยน Coinsuper จำนวนขั้นต่ำ 3000 MIN ในวันที่เข้าสู่ตลาด
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดการซื้อและจุดประสงค์ สามารถดูได้จาก URL ด้านล่างนี้
http://mindol.net
ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180925005523/en/
ติดต่อ:
Abu Dhabi Dubai STOB Series 22 Investment Limited Partnership
Mohiuddin Mohamed
ซีอีโอ
ที่อยู่: อาคาร TECOM, ดูไบอินเทอร์เนตซิตี, ถนนเชคซัยยิด 73000 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
mindoltob@ad22stob.org
หรือ
MINDOL HOLDINGS LIMITED
Fumihiro Fukuhara
ซีอีโอ
ที่อยู่: ห้อง 2012 20/F อาคาร 1 The Gateway 25 ถนนแคนตัน จิมซาจุ่ย เกาลูน ฮ่องกง
info@mindol.net
Twitter: https://twitter.com/mindolproject
telegram: https://t.me/MINDOLGLOBAL (ทั่วโลก)
telegram: https://t.me/MINDOLGROUP (ญี่ปุ่น)
โตชิบาเปิดตัวเครื่องขยายเสียงสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ที่มีความต้านทานสูงต่อไฟกระชาก
โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2018
โตชิบาอิเลคทรอนิคส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น เปิดตัวเครื่องขยายเสียง 4 ช่องใหม่สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์รุ่น "TCB503HQ" ที่ให้แรงต้านไฟกระชากสูง การจัดส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเริ่มต้นตั้งแต่ในวันนี้โดยมีกำหนดจะเริ่มผลิตออกจำหน่ายตามท้องตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่:
https://www.businesswire.com/news/home/20180924006129/en/
โตชิบา: เครื่องขยายเสียง 4 ช่องสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์รุ่น "TCB503HQ" ที่ให้แรงต้านสูงต่อไฟกระชาก (รูปภาพ: Business Wire)
การพัฒนาต่อเนื่องด้านความสามารถในการพัฒนา ICs สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ของโตชิบาทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มีความเชื่อถือได้สูงขึ้น ด้วยกระบวนการปรับแบบอะนาล็อกที่ทนทานต่อไฟกระชาก ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ยังสนับสนุนการดำเนินงานแบบ 6 โวลต์ ที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบติดหรือดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณลักษณะนี้จะยับยั้งเสียงดังกระชากที่จะเกิดขึ้นเมื่อแรงดันไฟฟ้าผันผวน
คุณสมบัติอื่น ๆ ได้แก่ ตัวกรองในตัว (built-in filter)เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อเสียงรบกวนจากภายนอกและป้องกันเสียงรบกวนที่ผิดปกติ ถึงแม้จะเป็นเสียงรบกวนความถี่สูง จากคลื่นวิทยุ โทรศัพท์มือถือ และการปรับกระจกมองข้าง ก็ตาม
การใช้สัญญาณการตรวจจับคลิปเพื่อควบคุมระดับเสียงและวงจรควบคุมโทนเสียง ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของชุดผลิตภัณฑ์
ข้อมูลจำเพาะ |
||
หมายเลขชิ้นส่วน |
TCB503HQ |
|
กำลังส่งสูงสุด |
50Wx4ch (Vcc = 15.2V, RL = 4Ω, JEITA สูงสุด) |
|
แรงดันไฟฟ้า(supply voltage) |
6V ถึง 18V |
|
แรงดันออฟเซ็ตเอาท์พุท |
70mV |
|
แรงดันเสียงรบกวนเอาต์พุท |
45μV (BW = A-weights) |
|
ฟังก์ชันและคุณสมบัติ |
•พลังเอาต์พุตสูงและความเพี้ยนต่ำ • ฟังก์ชั่นปิดและสแตนด์บายแบบอยู่ในตัว การตรวจจับชดเชยการลัดวงจรและการตรวจจับคลิปเอาท์พุท •การใช้งาน 6V (ความสามารถในการลดการทำงานขณะเครื่องยนต์ทำงาน) •วงจรป้องกันในตัว (กรร๊ความร้อนสูงเกิน กำลังไฟมากเกิน ไฟฟ้าช็อตลงเครื่อง ชอร์ตกราวด์ และโหลดช็อต) |
|
แพคเกจ |
HZIP25-P-1.00F |
|
ราคาตัวอย่าง (รวมภาษี) |
500 เยน |
|
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ กรุณาเยี่ยมชมที่:
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/assp/audio-ic/detail.TCB503HQ.html
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ฝ่าย
Mixed Signal IC Sales and Marketing Department
โทร: + 81-44-548-2876
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html
* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์เนื้อหาบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เกี่ยวกับโตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น
โตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2017 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD
พนักงานของเราจำนวน 19,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเราและให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ 7 แสนล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html
ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180924006129/en /
สื่อมวลชน:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Chiaki Nagasawa, + 81-3-3457-4963
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Rocket Software ขยายกิจการในเอเชีย
บริษัทแต่งตั้ง Paul Lin เป็น senior channel manager ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–23 กันยายน 2018
Rocket Software ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่ช่วยให้บริษัท Fortune 500 และหน่วยงานของรัฐปฏิรูปการใช้งานขององค์กรที่มีความสำคัญ ได้ประกาศการเพิ่ม Paul Lin ให้กับทีมผู้บริหารฝ่ายขายระดับอาวุโสของบริษัท Lin จะดูแลผู้ค้าปลีกและฝ่ายขายของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การดำเนินการครั้งนี้นับเป็นการขยายยุทธศาสตร์ของ Rocket ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ซึ่งบริษัทได้ทำข้อตกลงกับสถาบันการเงินต่างๆเช่น CIMB Bank, Erste Group Bank, Westpac Banking Group และ PT Bank Central Asia Tbk
Lin เข้าร่วม Rocket หลังจากทำหน้าที่ senior channel and partner management ที่ Prysm Inc, BT Group และ Cisco โดยเป็นผู้นำธุรกิจที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 20 ปีในการจับคู่ธุรกิจ การบริหารลูกค้า ช่องทางการขาย และการพัฒนาธุรกิจในอุตสาหกรรมไอที Lin นำประวัติที่แข็งแกร่งในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจ การสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับ C-level โดยพัฒนาการจับคู่ธุรกิจและโปรเจคที่ซับซ้อน เขาคล่องในภาษาอังกฤษและจีน
"ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาได้เข้าร่วมบริษัท Paul ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นสมาชิกที่ทรงคุณค่าของทีม channel management ของเราแล้ว" รองประธานฝ่ายการขายในต่างประเทศของ Rocket, Chip Salyards กล่าว “ด้วยความรู้ทางวัฒนธรรมในวงกว้างและประสบการณ์ในการจัดการช่องทางการสื่อสารและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ Paul จะช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่สำคัญต่างๆ ผมตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับเขาและทีม APAC เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคที่สำคัญนี้"
"ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมใน APAC ของ Rocket ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว" Lin กล่าว “ทุกๆ วันบริษัทและรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกใช้โซลูชั่นของ Rocket เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยให้กับแอพพลิเคชันด้านการเงิน การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และการผลิตที่สำคัญที่สุดในโลก ปัจจุบันมีความต้องการในตลาด APAC มากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีประเภทนี้ จึงก่อให้เกิดความสนในโซลูชันของเรา
Rocket ปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คู่ค้าที่มีอยู่ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ IBM®, Silverlake, Multipolar Technology, Metro Systems และ S&I Systems ปัจจุบันบริษัทกำลังดำเนินการโครงการริเริ่มต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งรวมถึงโครงการเพื่อยกระดับเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อกับประชาชนทั่วไปได้ดีขึ้นและช่วยให้ธนาคารต่างๆ สามารถให้บริการที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกค้า
นายเอกชัยลิ้ม ประเสริฐ รองประธานกลุ่มธุรกิจดิจิตอลโซลูชั่นส์ที่บริษัทเมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีด้านไอทีในกรุงเทพฯ ที่ทำการปรับแต่งโซลูชั่นของ Rocket ให้กับ ธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในตลาดเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "MSC และ Rocket มีความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งวัดได้จากผลประกอบการทางการเงินในปัจจุบัน Rocket มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับเราเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ในขณะที่สร้างโอกาสในการบุกเบิกตลาดใหม่ๆ "
เกี่ยวกับ Rocket Software
Rocket Software ((www.rocketsoftware.com) เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ช่วยองค์กรต่างๆ ในระบบนิเวศน์ของ IBM สร้างโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการในปัจจุบันพร้อมทั้งขยายมูลค่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีของพวกเขาต่อไปในอนาคต บริษัทหลายพันแห่งไว้วางใจ Rocket ในการแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ท้าทายที่สุดโดยช่วยให้พวกเขาใช้โครงสร้างพื้นฐานและข้อมูลที่มีอยู่รวมถึงการขยายสินทรัพย์เหล่านั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ การวิเคราะห์ และนวัตกรรมในอนาคตอื่นๆ Rocket ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 ตั้งอยู่ที่เมืองวอลแทม รัฐแมสซาชูเซตส์และมีที่ตั้งในยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย
ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180923005021/en/
ติดต่อ:
VerbFactory for Rocket Software
Richard Berman, +1-415-359-4906
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเริ่มเปิดทำการอีกครั้งหลังจากความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่น
สำนักงานการท่องเที่ยวของคันไซผลิตวิดิโอออนไลน์ตัวใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับมา หลังจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของท่าอากาศยาน
โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–21 ก.ย. 2018
สำนักงานการท่องเที่ยวของคันไซเปิดตัววิดีโอออนไลน์มุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศในวันนี้ โดยแจ้งว่าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 กันยายน ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกู้ได้ฟื้นตัวกลับมาให้บริการได้เกือบทั้งหมดทุกฟังก์ชั่นการดำเนินงาน หลังจากได้รับความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงต้นเดือนกันยายนจากไต้ฝุ่น 21 ซึ่งทำให้สนามบินต้องปิด ซึ่งส่งผลให้มีการลดลงของนักท่องเที่ยวขาเข้าในภูมิภาคเป็นอย่างมาก
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180921005195/en/
(รูปภาพ: Business Wire)
ไต้ฝุ่น 21 ได้เข้ามาสู่เขตคันไซเมื่อวันที่ 4 กันยายนซึ่งส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักในภูมิภาคคันไซ รวมถึง สนามบินนานาชาติคันไซ รันเวย์ถูกน้ำท่วมและอาคารและอุปกรณ์ที่อาศัยระบบไฟฟ้าและสะพานเทียบเครื่องบินได้รับความเสียหาย ส่งผลต่อการดำเนินงาน อย่างไรก็ดี ตอนนี้บริการกลับคืนมาสู่ระดับก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วด้วยการสนับสนุนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
สำนักงานการท่องเที่ยวคันไซ ร่วมกับองค์กรด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวต่าง ๆ และรัฐบาลท้องถิ่นในพื้นที่คันไซ เพื่อสนับสนุนมาตรการต่างๆในการส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว วิดีโอดังกล่าวนี้เป็นการแจ้งผู้เดินทางมายังคันไซจากส่วนต่าง ๆ ของเอเชีย เกี่ยวกับการฟื้นตัวของท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ซึ่งตอนนี้สามารถมีการดำเนินงานตามปกติแล้ว ประธาน Masayoshi Matsumoto และทุก ๆ คนในสำนักการท่องเที่ยวคันไซหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่คันไซอีกครั้ง
ดูวิดีโอที่นี่:
ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180921005195/en/
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
สำนักการท่องเที่ยวคันไซ
Munehisa Kuwahara / Shuichi Tsuboi, + 81-6-6223-7200
tsuboi-shuichi@kansai.gr.jpโยะ
ที่อยู่: อาคาร Osaka Nakanoshima, 7F 2-2-2 Nakanoshima, Kita-ku, Osaka 530-0005
ชาร์จาห์ประกาศเปิดศูนย์บริการนักลงทุนครบวงจรแห่งแรกของรัฐ
ศูนย์ลงทุนแห่งใหม่จะเป็นใจกลางที่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกเข้าถึงบริการ และเป็นหัวใจสำคัญในการส่งเสริมบริการสำหรับนักลงทุนภายในรัฐ
ชาร์จาห์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–19 กันยายน 2018
ด้วยความพยายามที่จะสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติที่มีความสนใจขยายการเติบโตด้านการลงทุนในตลาดต่างประเทศอย่างเช่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐชาร์จาห์ ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของประเทศ ได้ประกาศเปิดศูนย์บริการนักลงทุน ซึ่งเป็นโครงการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจแบบดิจิทัลที่เข้มแข็ง
เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180919005444/en/
ทัศนียภาพทั่วไปของชาร์จาห์ (รูปภาพ: Shurooq)
Shurooq หน่วยงานด้านการลงทุนและพัฒนาของรัฐ ได้ร่วมกับ Injazat Services พัฒนาศูนย์อำนวยความสะดวกที่มีความทันสมัยแห่งนี้ขึ้น เพื่อมอบบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจอย่างครบวงจร ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้เล่นรายใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาลงทุนบนแผ่นดินสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หน่วยงานของรัฐแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยความสะดวกหลักสำหรับเจ้าของธุรกิจจากทั่วโลกและนักลงทุนในชาร์จาห์เอง โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีคอยให้บริการ ศูนย์บริการแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนทั้งระดับสูงและระดับกลางในทุกภาคส่วนภายในรัฐ
ด้วยศูนย์บริการแห่งนี้ นักลงทุนจะสามารถติดต่อกับหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐได้โดยตรง และสามารถเข้าถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการออกใบอนุญาตด้านการค้าและการดำเนินการด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในชาร์จาห์ เพื่อทำให้ทุกอย่างมีความโปร่งใส ได้คุณภาพและมีประสิทธิภาพ
เจ้าหน้าที่จาก Shurooq ได้กล่าวถึงเบื้องหลังการก่อตั้งศูนย์บริการแห่งนี้ว่ามีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการดึงดูดด้านธุรกิจให้กับรัฐชาร์จาห์ด้วยการให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่มีความทันสมัย โดยไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นด้วยตนเอง
เศรษฐกิจของชาร์จาห์มีความหลากหลายมากขึ้นในช่วงเวลาอันรวดเร็วและมีการเติบโตอย่างสูงในภาคส่วนอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากน้ำมัน เช่น การท่องเที่ยว สุขภาพ การคมนาคมและการขนส่ง อุตสาหกรรมเบา การพิมพ์และอื่น ๆ ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติในรัฐสร้างการเติบโตด้านเศรฐกิจมูลค่า $1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา
-สิ้นสุดเนื้อหา-
ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180919005444/en/
ติดต่อ:
SHUROOQ
Mousa Nimer
มือถือ +971 50 222 0561
m.nimer@nncpr.com
You must be logged in to post a comment.