NTT Com พัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย

Logo

ศูนย์ใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ IT load สูงถึง 45MW จะเปิดเปิดให้บริการในอินโดนีเซียในปลายปี 2020

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)– 28 มิถุนายน 2019

NTT Communications Corporation (NTT Com) โซลูชั่นด้านไอซีทีและธุรกิจการสื่อสารระหว่างประเทศภายใน NTT Group (TOKYO: 9432) ประกาศในวันนี้ว่าจะพัฒนาศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ที่เบอกาซี ประเทศอินโดนีเซีย  ศูนย์ใหม่นี้จะเป็นที่รู้จักในนาม “Indonesia Jakarta 3 Data Center” (JKT3) และสามารถรองรับพื้นที่ด้านไอทีได้ถึง 18,000 ตารางเมตร (7,800 ช่อง) และ IT load จำนวน  45MW เมื่อดำเนินการแล้วอย่างเต็มที่  นับว่าเป็นโครงการแรกของ NTT Global Data Centres (GDC) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างธุรกิจศูนย์ข้อมูล

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติด้านมัลติมีเดีย ดูการเปิดตัวเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190627005990/en/

Exterior image of "Indonesia Jakarta 3 data center" (Graphic: Business Wire)

ภาพภายนอกของ "Indonesia Jakarta 3 data center" (กราฟิก: Business Wire)

ในอินโดนีเซีย ความต้องการได้รับการกระตุ้นโดยการใช้งานของศูนย์ข้อมูลของสถาบันการเงินเนื่องโดยคำสั่งของรัฐบาลอินโดนีเซีย(*1)  นอกจากนี้ยังมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจาก OTT (*2) ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปยังประชากรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก)  ด้วยแนวโน้มของตลาดเหล่านี้ อัตราการเติบโตของตลาดศูนย์ข้อมูลอยู่ที่ 21% ต่อปี

ศูนย์ข้อมูลสี่ชั้นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงจาการ์ตา 30 กม.ไปทางตะวันออก  เนื่องจาก JKT3 ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งห้องเซิร์ฟเวอร์และให้พื้นที่จัดวาง colocation เป็นรายช่อง JKT3 สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก OTTs และสถาบันการเงินที่ต้องการการจัดตั้งที่ยืดหยุ่น

  • สิ่งอำนวยความสะดวกที่เสถียรและขยายขนาดได้
    JKT3 เป็นไปตามมาตรฐาน "Nexcenter™" (*3) ของ NTT Com ที่สอดคล้องกับศูนย์ข้อมูลทั่วโลกซึ่งประกอบด้วยมากกว่า 300 รายการขึ้นไปและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่เสถียรและมีประสิทธิภาพสูง  JKT3 มีโรงไฟฟ้าสองแห่งเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าตามสองเส้นทางที่ต่างกัน  สิ่งอำนวยความสะดวกด้านพลังงานในศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศ และความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารล้วนมีความซ้ำซ้อน JKT3 จึงได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแง่ของความน่าเชื่อถือ  นอกจากนี้ระบบการสร้างแบบแยกส่วนยังสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ใช้พื้นที่ศูนย์ข้อมูลอย่างยืดหยุ่น สอดคล้องกับการขยายธุรกิจ
  • มาตรการดำเนินงานที่เข้มงวดและมาตรการรักษาความปลอดภัย
    ใน JKT3 นั้น NTT Com มีกระบวนการดำเนินงานที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีใน 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปีเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานมีเสถียรภาพเกี่ยวกับระบบไอทีของลูกค้า
  • สภาพแวดล้อมเครือข่ายที่ยอดเยี่ยม
    ในอาคารศูนย์ข้อมูล NTT Com ออกแบบเพื่อติดตั้งสายเคเบิลของผู้ให้บริการหลักตามเส้นทางที่แตกต่างกัน  ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากบริการเครือข่ายที่หลากหลาย เช่นการเชื่อมต่อกับ major IX(*4) จาก JKT2 ผ่านบริการการเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลสื่อสาร IP ความจุและความเร็วสูงของ "Global IP Network" และบริการบริการ VPN ที่เถียรและความเร็วสูงของ "Arcstar Universal One"  สภาพแวดล้อมเครือข่ายที่ยอดเยี่ยมนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถออกแบบระบบไอทีที่ใช้กับผู้ให้บริการรายใดก็ได้และสร้างสร้างสภาพแวดล้อมด้านไอซีทีแนวตั้งที่รวมบริการคลาวด์หลายบริการ รวมถึงศูนย์ข้อมูล NTT Com และบริการของ บริษัทอื่นๆ ทั่วโลก

เกี่ยวกับการสื่อสาร

NTT NTT Communications แก้ปัญหาความท้าทายทางเทคโนโลยีของโลกโดยการช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ให้เอาชนะความซับซ้อนและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อม ICT ด้วยโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีการจัดการ  โซลูชั่นเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของเรา รวมถึงเครือข่ายชั้นนำระดับอุตสาหกรรม เครือข่ายสาธารณะและเอกชนระดับ tier-1 ทั่วโลกซึ่งมีมากกว่า 190 ประเท /ภูมิภาคและศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดในโลกกว่า 400,000m2  ทีมบริการระดับมืออาชีพระดับโลกของเราให้คำปรึกษาและสถาปัตยกรรมเพื่อความยืดหยุ่นและความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จทางธุรกิจของคุณและขนาดและความสามารถระดับโลกของเรานั้นไม่มีใครเทียบได้  เมื่อรวมกับ NTT Data, NTT Security, NTT DOCOMO และ Dimension Data เราคือ NTT Group

*1:

The Electronic Commerce Act (Law No. 11 of 2008)

และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง “The 82nd Ordinance of the Year 2012 (Presidential Decree)” มีผลบังคับใช้ในประเทศอินโดนีเซีย  ตามกฎระเบียบเหล่านี้ ผู้ประกอบการที่จัดการข้อมูลสาธารณะ (ข้อมูลลูกค้า) จะต้องใช้ศูนย์ข้อมูลในประเทศภายในเดือนตุลาคม 2017  นอกจากนี้ กฎหมาย 82nd Ordinance (Presidential Decree) ฉบับแก้ไขได้ถูกส่งไปยังรัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 และคาดว่าผู้ประกอบการจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลลูกค้าในศูนย์ข้อมูลในประเทศหรือต่างประเทศ

*2:

คำย่อของ Over the Top ผู้ประกอบการที่ให้บริการเนื้อหาเช่นวิดีโอและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต นอกเหนือจากผู้ให้บริการโทรคมนาคม

*3:

Nexcenter™ เป็นแบรนด์ศูนย์บริการข้อมูลของ NTT Com.  NTT Com ให้บริการศูนย์ข้อมูลคุณภาพสูงในกว่า 20 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก

*4:

ตัวย่อของ Internet Exchange จุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายราย

ดูฉบับแหล่งที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190627005990/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

Mr. Hiroshi Seo

Cloud Services

NTT Communications

Mail: wg-cl@ntt.com

โรงแรม Keio Plaza Hotel Tokyo เปิดให้สัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารสุดล้ำ

Logo

แขกจะได้ดื่มด่ำกับอาหารค่ำในบรรยากาศสุดมหัศจรรย์ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยี Projection Mapping

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 มิถุนายน 2019

The Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) หนึ่งในโรงแรมระดับสากลที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชินจูกุของกรุงโตเกียว  มีความยินดีที่จะประกาศถึงความร่วมมือกับบริษัทผลิตสื่อสร้างสรรค์ NAKED Inc. เพื่อมอบประสบการณ์รับประทานอาหารค่ำสุดล้ำในชื่อ “Candle Beer Night collaborated with NAKED” จนถึงวันจันทร์ที่ 30 กันยายนปีนี้ ที่ห้องอาหาร “Jurin” ของเรา เทคโนโลยีฉายภาพบนพื้นผิว แสงเทียน และการตกแต่งอื่น ๆ ได้ถูกเตรียมไว้ที่ด้านหลังของห้องอาหาร “Jurin” ขนาด 60 ที่นั่ง เพื่อสร้างประสบการณ์ดินเนอร์สุดมหัศจรรย์ให้กับแขกของเราได้ดื่มด่ำระหว่างรับประทานอาหาร

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย สามารถดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190627005381/en/

NAKED Inc. ทำหน้าที่ผลิตเนื้อหาวิดีโอสุดพิเศษโดยใช้เทคโนโลยีฉายภาพบนพื้นผิว ซึ่งเนื้อหาวิดีโอแบ่งเป็นสามธีม คือ “สายลม สายน้ำ ดอกไม้ และฤดูร้อนในญี่ปุ่น” “จุดเทียนในใจของผู้คน” และ “การเฉลิมฉลอง” โดยจะมีการฉายภาพทุก ๆ 20 นาที สำหรับวิดีโอ “สายลม สายน้ำ ดอกไม้ และฤดูร้อนในญี่ปุ่น” จะแสดงภาพต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับบรรยากาศหน้าร้อนในญี่ปุ่น เช่น ปลาทอง กังหันน้ำ สายน้ำที่ไหลเอื่อย และดอกทานตะวันที่กำลังเบ่งบาน ในส่วนของธีม “จุดเทียนในใจของผู้คน” จะนำเสนอภาพของแขกที่เข้าพักในโรงแรมในอิริยาบถต่าง ๆ ที่กำลังเพลิดเพลินกับบริการจากทางโรงแรม พร้อมบรรยากาศของย่านชินจูกุตะวันตกยามค่ำคืนที่รายล้อมโรงแรมของเรา นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้ประดับที่จะส่องแสงระยิบระยับล้อไปกับแสดงเทียน Luminara เพื่อสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก สำหรับธีม “การเฉลิมฉลอง” ซึ่งจะแสดงตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม เป็นต้นไป จะประกอบด้วยภาพแชมเปญและของขวัญ และความตื่นตาตื่นใจจากการแสดงพลุในช่วงซัมเมอร์ สำหรับราคาอาหารค่ำที่ประกอบด้วยอาหารห้าคอร์ส พร้อมเครื่องดื่มแบบเติมได้ไม่อั้น อยู่ที่ 6,600 เยน ต่อท่าน

คลังเอกสารประชาสัมพันธ์

รูปภาพภายในงาน: 

https://drive.google.com/drive/folders/1DZgmSZ8w8qBnGcgbAg0-bVgQXLOBri8j?usp=sharing

เกี่ยวกับ Keio Plaza Hotel

โรงแรม Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุซึ่งเป็นใจกลางสำคัญของโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ เป็นหนึ่งในโรงแรมระดับนานาชาติชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีชื่อในเรื่องของภัตตาคารและบาร์มากกว่า 15 แห่ง เราได้ให้การต้อนรับแขกทั้งจากในและต่างประเทศ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เชิญชวนให้ผู้เข้าพักเดินทางมาสัมผัส การต้อนรับอันอบอุ่น และการบริการที่มีเอกลักษณ์ ที่ให้พวกเขาได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึง ประสบการณ์สวมชุดกิโมโนในงานแต่งงาน พิธีชงชา และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของเรา สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของเรา รวมถึง YouTubeFacebook หรือ Instagram

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190627005381/en/

ติดต่อ:

Keio Plaza Hotel Tokyo 
Keiko Kawashima, +81-3-5322-8010 
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ 
keiko-kawashima@keioplaza.co.jp

S BLOCK ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ค้นพบเวียดนามและดานัง ค้นพบบล็อกเชนและ S BLOCK

Logo

เบิร์น สวิตเซอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–27 มิถุนายน 2019

การประชุมสุดยอดแอปพลิเคชันเศรษฐกิจดิจิทัลโดย S BLOCK จัดขึ้นเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2019 ในดานัง ประเทศเวียดนาม  การประชุมสุดยอดครั้งนี้จัดขึ้นโดยชุมชน S BLOCK Vietnam และ Magic Kingdom Club โดยมีความร่วมมือกับ Top Market Group Finance และ Black Hole Finance media

เมื่อเร็วๆ นี้เนื่องจากการเกิดขึ้นของโครงการที่มีคุณภาพสูงเช่น S BLOCK เวียดนามได้จุดฉนวนกระแสบล็อกเชนขึ้นอีกครั้ง!  เมื่อเร็วๆ นี้จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ชุมชน S BLOCK Vietnam ได้จัดประชุมสุดยอดทางเศรษฐกิจที่สำคัญในเวียดนามเมื่อปลายเดือนมิถุนายน  มีผู้นำอุตสาหกรรมมากกว่า 100 คน สื่อเศรษฐกิจและบล็อกเชนที่เป็นที่รู้จักดี 500 แห่ง และกว่า 2,000 อุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลกได้เข้าร่วมงาน  วัตถุประสงค์หลักของการประชุมสุดยอดคือเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเวียดนาม และเพื่อร่วมมือและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบล็อกเชน จากข่าวที่เกี่ยวข้อง และเนื่องจากการเกิดขึ้นของโครงการคุณภาพสูงเช่น S BLOCK  เวียดนามกลับมาเป็นศูนย์กลางของคลื่นบล็อกเชนอีกครั้ง!

เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ (รวมถึงบล็อกเชน) และถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เป็นตัวเลือกแรกสำหรับโครงการคุณภาพรวมถึง S BLOCK สำหรับการเปิดตัวโปรโมชั่น

หลังจากการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ผู้เข้าชมส่วนใหญ่ได้เดินทางไปยังดานัง สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกพร้อมกับดื่มด่ำกับวัฒนธรรมในเวียดนาม  การเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดที่ประสบความสำเร็จนี้ช่วยให้เวียดนามยกสถานะและศักดิ์ศรีในเวทีโลกและได้รับความเชื่อมั่นจากทั่วโลกและความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น แม้กระทั่งโดยผู้ที่ไม่รู้จักเวียดนามมากนัก  เวียดนามเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีพลวัตในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและบล็อกเชนอาจกลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ในเวียดนาม หนึ่งในผู้จัดงานประชุมสุดยอดกล่าว

รายงานอย่างเป็นทางการของชุมชน S BLOCK Vietnam

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190627005341/en/

ติดต่อ:

S BLOCK FOUNDATION PTE. LTD

Jennifer Bialek

contacts@sblock.com

www.sblock.com

Phunware เริ่มจำหน่ายเหรียญโทเคน Phun ทั่วโลก

Logo

ออสติน, เทกซัส–(BUSINESS WIRE)–26 มิถุนายน 2019

Phunware, Inc. (NASDAQ: PHUN) (“บริษัท”) แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับองค์กรแบบครบวงจรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ โซลูชัน ข้อมูลและบริการต่าง ๆ กับแบรนด์ทั่วโลก เผยว่า ขณะนี้บริษัทได้เริ่มจำหน่ายเหรียญโทเคนสำหรับเข้าใช้บริการ (utility token) ที่ชื่อ Phun ในตลาดต่างประเทศแล้ว

“Phun คือโทเคนสำหรับเข้าใช้บริการใหม่ที่ให้ชุมชนทั่วโลกสามารถเข้าถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนของเรา รวมถึงระบบนิเวศที่จะสร้างความภักดีต่อแบรนด์ของลูกค้าผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไปพร้อมกับการที่เรากำลังเดินหน้าขับเคลื่อนให้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้และเกิดการสร้างตลาดฟิวเจอร์สขึ้นทั่วโลก” Randall Crowder ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ Phunware กล่าว

Phunware มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส และได้สร้างความสำเร็จร่วมกับองค์กรขนาดใหญ่ระดับโลกมาเป็นเวลาถึง 10 ปี บริษัทได้มีส่วนสร้างประสบการณ์เล่นเกมและชมภาพยนตร์ที่สมจริงให้กับค่าย Paramount Pictures International ขับเคลื่อนอุปกรณ์สำหรับบริการระบุตำแหน่งด้วยแอปพลิเคชันของ Juniper, Cisco และ HP Aruba รวมถึงเชื่อมโยงระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EHR) อย่าง Epic หรือ Cerner เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ป่วย นอกจากนี้ บริการ Multiscreen as a Service (MaaS) ของ Phunware ยังได้มีส่วนช่วยบริษัทกว่า 1000 แห่งทั่วโลกสร้างมาตรฐานและปรับปรุงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสร้างการมีส่วนร่วม การจัดการ และการสร้างรายได้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งระบบ iOS และ Android รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันนับแสนครั้งต่อวินาทีทั่วโลก

“ในแต่ละเดือน แพลตฟอร์ม MaaS ของเราเข้าถึงอุปกรณ์ที่ไม่ซ้ำกันมากกว่า 1 พันล้านเครื่อง และจัดการกิจกรรมต่าง ๆ เฉลี่ยมากกว่า 4 พันล้านครั้งต่อวันทั่วโลก” Alan S. Knitowski ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Phunware กล่าว “ก่อนที่จะเริ่มเปิดให้ผู้คนทั่วไปสามารถซื้อได้ในช่วงปลายปีที่แล้ว เรามีนักลงทุนเชิงกลยุทธ์รายใหญ่ที่ประกอบด้วยบริษัทอย่าง Cisco Systems, Samsung, WWE และ PLDT ขนะเดียวกัน โซลูชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเราก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านซอฟต์แวร์ ข้อมูล และแอปพลิเคชันขององค์กรต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่องค์กรในวงการกีฬาอย่างเช่น NFL, NASCAR และ Olympic ไปจนถึงองค์กรในอุตสาหกรรมค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ สุขภาพ เทคโนโลยี การบิน และการบริการ”

เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทข้อกำหนดในปัจจุบัน Phunware จึงได้ทำการเปิดตัวโครงสร้างเหรียญโทเคนแบบคู่ และขณะที่ Phun เป็นเหรียญโทเคนสำหรับการเข้าถึงบริการ ที่ให้ผู้บริโภคสร้างรายได้จากกิจกรรมด้านดิจิทัลเมื่อพวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดรายได้กับแบรนด์ PhunCoin จะยังคงเป็นเหรียญโทเคนที่มีลักษณะคล้ายหลักทรัพย์ (security token) ที่ให้ผู้บริโภคสามารถสร้างรายได้จากตัวตนทางดิจิทัลของพวกเขา รวมถึงจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือครองเหรียญอีกด้วย

จากสภาพแวดล้อมของข้อกำหนด ณ ปัจจุบัน ในช่วงเริ่มต้นจะมีการจำหน่าย Phun เฉพาะนอกประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น นักลงทุนที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาและแคนาดาสามารถลงทะเบียนเพื่อซื้อเหรียญ Phun ได้ที่ https://buy.phuntoken.com/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Phun โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.phuntoken.com/ หรือติดต่อเราทางอีเมลที่ phun@phunware.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190625006051/en/

ข้อมูลสำหรับสื่อและประชาสัมพันธ์
Brent Brightwell 
bbrightwell@phunware.com 
โทร: (512) 693-4199 x6604

นักลงทุนสัมพันธ์
Phunware, Inc. 
investorrelations@phunware.com 
โทร: (512) 693-4199

Secure-24 บริษัท NTT Communications เตรียมซื้อ Symmetry ผู้ให้บริการบริการการจัดการ SAP Managed Service ชั้นนำในสหรัฐอเมริกา

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–26 มิถุนายน 2019

NTT Communications Corporation (NTT Com) โซลูชั่นไอซีทีและธุรกิจการสื่อสารระหว่างประเทศภายใน NTT Group (TOKYO: 9432) และ Symmetry Holding Inc. (Symmetry) ผู้ให้บริการ SAP managed services ชั้นนำของสหรัฐอเมริกาประกาศในวันนี้ว่า Secure-24 Intermediate Holdings, Inc. (Secure-24) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NTT Com ได้สรุปสัญญาในวันที่ 26 มิถุนายน (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น) โดย Secure-24 จะเข้าซื้อกิจการ Symmetry ทั้งหมด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติด้านมัลติมีเดีย ดูตัวเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190625006084/en/

บริการที่มีการจัดการเป็นหนึ่งในความสามารถหลักที่ NTT Com กำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดิจิตอลของลูกค้าในฐานะ DX Enabler™.  Secure-24 มีบทบาทสำคัญในการส่งมอบความสามารถดังกล่าวโดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา  Symmetry มีความเชี่ยวชาญอย่างกว้างขวางในบริการการจัดการ SAP ซึ่งมอบให้กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต การผลิต และเทคโนโลยีขั้นสูงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับบริการด้านการจัดการ  Symmetry ยังมีบริการโอนย้ายและดำเนินการสำหรับ SAP S/4 HANA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นและความเร็วสูงที่คาดว่าจะนำไปใช้อย่างกว้างขวาง

“การเข้าซื้อกิจการของ Symmetry ช่วยให้เราสามารถเสริมบริการที่มีการจัดการที่ครอบคลุมให้กับลูกค้าของเราในขณะที่เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ” Mike BeDell ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Secure-24 กล่าว “ด้วยความเชี่ยวชาญที่ผสมผสานกันระหว่างทั้งสองบริษัทและบริการที่มีการจัดการอย่างกว้างขวางของ Symmetry ทำให้เราอยู่ในฐานะที่จะมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเราทั่วโลก”

“มากกว่า 20 ปีที่ Symmetry มุ่งมั่นที่จะมอบ SAP โฮสติ้งคลาวด์และบริการการจัดการแอปพลิเคชันคุณภาพสูงสุดให้กับตลาดและลูกค้าของเรา” Pete Stevenson ประธานและซีอีโอของ Symmetry กล่าว “เราหวังว่าจะส่งมอบคุณค่าที่มากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าด้วยการนำเสนอการขยายตัวและทรัพยากรระดับโลกด้วย Secure-24 โดยไม่ต้องเสียสละการสนับสนุนสัมผัสสูงและความมุ่งมั่นของทีมงานของเราที่ลูกค้าของเราได้คาดหวัง”

การซื้อขายคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2019 โดยเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ  ด้วยการเข้าซื้อกิจการ 100 เปอร์เซ็นต์ จุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Symmetry จะถูกรวมเข้ากับระบบนิเวศของ NTT Com อย่างสมบูรณ์ รวมถึงบริการด้านไอทีที่ได้รับการจัดการ รวมถึงบริการคลาวด์ เครือข่าย และศูนย์ข้อมูลเพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

NTT Com จะพัฒนาระบบด้านเทคนิคและธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนซึ่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสำหรับลูกค้า

ภาพรวมของ Symmetry

Corporation:

Symmetry Holding Inc.

ก่อตั้งขึ้น:

1998

ประธานและซีอีโอ:

Pete Stevenson

สำนักงานใหญ่:

วิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา

ธุรกิจ:

บริการจัดการด้านไอทีที่มุ่งเน้นที่ SAP

อุตสาหกรรมหลัก:

ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต การผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูง

เกี่ยวกับ NTT Communications

NTT Communications ตอบโจทย์ความท้าทายด้านเทคโนโลยีโดยการช่วยให้องค์กรสามารถเอาชนะความซับซ้อนและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อม ICT ด้วยโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีการจัดการ  โซลูชั่นเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของเรา รวมถึงเครือข่ายชั้นนำระดับอุตสาหกรรม เครือข่ายสาธารณะและเอกชนระดับชั้น 1 ทั่วโลกซึ่งมีมากกว่า 190 ประเทศ/ภูมิภาคและศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดในโลกมากกว่า 400,000m2  ทีมบริการระดับมืออาชีพระดับโลกของเราให้คำปรึกษาและสถาปัตยกรรมเพื่อความยืดหยุ่นและความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จทางธุรกิจของคุณและขนาดและความสามารถระดับโลกของเรานั้นไม่มีใครเทียบได้ เมื่อรวมกับ NTT Data, NTT Security, NTT DOCOMO และ Dimension Data เราคือ NTT Group

www.ntt.com | Twitter @ NTTcom | Facebook @ NTTcom | LinkedIn @ NTTcom

เกี่ยวกับ Secure-24

Secure-24 ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารของ NTT มีประสบการณ์ 18 ปีในการให้บริการแอปพลิเคชั่นที่สำคัญต่อการโฮสต์ การจัดการไอทีที่ครอบคลุม และบริการคลาวด์ให้กับองค์กรทั่วโลก  Secure-24 ให้ความสำคัญกับบริการที่เหนือกว่า การสนับสนุน การกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และได้ขับเคลื่อนอัตราความพึงพอใจของลูกค้าชั้นนำในอุตสาหกรรม  บริษัทเป็นผู้ให้บริการ Hosting, HANA และ Cloud Partner ที่ได้รับการรับรองจาก SAP, Microsoft Gold Partner และ Oracle Gold Partner และได้จัดการ Oracle E-Business Suite, PeopleSoft, JD Edwards และแอปพลิเคชัน Hyperion ในทุกอุตสาหกรรมสำหรับธุรกิจทุกขนาด  Secure-24 ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ทำงานที่ดีที่สุดใน Computerworld เป็นเวลาหกปีติดต่อกัน

เยี่ยมชม www.secure-24.com เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ Secure-24

เกี่ยวกับ Symmetry

Symmetry™ จัดการการใช้งาน SAP ที่ซับซ้อนในระดับโลกสำหรับองค์กรชั้นนำของโลกมากกว่า 200 แห่ง  ด้วยรูปแบบธุรกิจที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง – วิถีทางของ Symmetry – รวมกับแพลตฟอร์มโฮสติ้ง SAP ที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมและชุดซอฟต์แวร์ ControlPanelGRC® ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม Symmetry นำเสนอบริการการจัดการแอพพลิเคชั่น SAP ระดับผู้เชี่ยวชาญในทุกสภาพแวดล้อม รวมถึงคลาวด์ส่วนตัวและสาธารณะแบบประจำสถานที่ แบบโฮสต์ และแบบส่วนตัว  ด้วยธุรกิจที่ยาวนานกว่า 23 ปี Symmetry ได้สร้างฐานความเชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้จากผู้ให้บริการรายอื่นของ SAP  โดยเป็นพันธมิตรของ SAP ตั้งแต่ปี 2005 Symmetry ได้รับการรับรองใน SAP Hosting, Cloud และ SAP HANA Operations.  Symmetry ตั้งอยู่ใน บรูคฟิลด์ รัฐวิสคอนซินและมีที่ตั้งอยู่ทั่วอเมริกาเหนือและยุโรป

เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://symmetrycorp.com

ชื่อบริษัทและชื่อบริการที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นเครื่องหมายการค้า ตราบริการสินค้า และเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของแต่ละบริษัท

ดูฉบับแหล่งที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190625006084/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

Masaki Nomoto, Osamu Inoue

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

ฝ่าย วางแผนองค์กร

NTT Communications

โทรศัพท์: +81 3 6700 4010

อีเมล: pr-cp@ntt.com

IGNITE Consulting ในนาม Secure-24

Kathleen Sullivan, 303-439-9365

secure-24@igniteconsultinginc.com

ประสิทธิภาพการทำงานตรงเวลาที่โดดเด่นของ ASPAC สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความตรงต่อเวลา จากการจัดอันดับ OTP ล่าสุดของ OAG

Logo

GARUDA INDONESIA, BANGKOK AIRWAYS และ NIPPON AIRWAYS ได้รับรางวัล 5 ดาว ในขณะที่ Indigo ได้รับ 4 ดาว

สิ่งสำคัญที่ค้นพบ:

  • ภูมิภาคนี้เป็นที่ตั้งของ 8 จาก 13 สายการบินที่ได้รับสถานะระดับ 5 ดาวในปีนี้
  • All Nippon Airways (ร้อยละ 85.2) เป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคที่ได้รับ5 ดาว
  • IndiGo (ร้อยละ 81.5 ) เป็นผู้ให้บริการแบบโลว์คอสต์รายใหญ่ที่สุดที่จะได้รับสี่ดาว ร่วมกับเจ็ทสตาร์เอเชีย (ร้อยละ 84.6 ) ไทยแอร์เอเชีย (ร้อยละ 83.8) และ Solaseed (ร้อยละ 83.7 ) ที่ได้รับ 4 ดาว เช่นเดียวกัน
  • 29 จาก 50 สนามบินทั่วโลกที่ได้รับ 5 ดาวอยู่ในเอเชียแปซิฟิก โดยมีจำนวน 22 แห่งที่อยู่ในญี่ปุ่น รวมถึง Osaka International Itami (ร้อยละ 88.3) และ Tokyo International Haneda (ร้อยละ 86.4)

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–25 มิถุนายน 2019

OAG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลกในด้านข้อมูลการเดินทางและข้อมูลเชิงลึก ได้เปิดตัวการจัดอันดับผลการปฏิบัติงานที่เป็นไปตามกำหนดเวลา หรือ On-time Performance (OTP) Star Ratings (OTP) ประจำปี ซึ่งรับรองสายการบินชั้นนำและสนามบินทั่วโลกด้านประสิทธิภาพความตรงต่อเวลาที่เหนือกว่า

ผลการบินตรงเวลาที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องทั่วเอเชียสะท้อนให้เห็นจากการที่มีผู้ให้บริการ 8 รายที่ได้รับการจัดอันดับระดับ 5 ดาว รวมถึงสายการบิน All Nippon Airways (ร้อยละ 85.2 ) และ Garuda Indonesia (ร้อยละ 91.6 ) Indigo เป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุด (ร้อยละ 81.5 ), Japan Airlines (ร้อยละ 84.3 ),Qantas ( ร้อยละ 84.3), ไทยแอร์เอเชีย (ร้อยละ 83.8 ) และสิงคโปร์แอร์ไลน์ (ร้อยละ 83.2 ) ยังให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ อีกด้วย

ญี่ปุ่นครองความเป็นผู้นำของสนามบินของภูมิภาคนี้ ด้วยการส่งมอบผลงาน OTP ประจำปีที่น่าประทับใจอีกครั้ง เนื่องจากมีสนามบินญี่ปุ่น 22 แห่งได้รับการจัดอันดับระดับ 5 ดาว ซึ่งรวมถึงศูนย์กลางขนาดใหญ่อย่าง Osaka International Itami (ร้อยละ 88.3) และ Tokyo International Haneda (ร้อยละ 86.4 ) สนามบินเกาะสมุย (USM) ในประเทศไทยและสนามบินนานาชาติ Nausori (Suva) ฟิจิ ได้รับคะแนน 5 ดาวเช่นกัน

“ ด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในด้านนี้ของการปฏิบัติงานของสายการบินในภูมิภาคนี้” Mayur Patel หัวหน้า JAPAC ของ OAG กล่าว

เกี่ยวกับระดับดาว OTP ของ OAG

ระบบการจัดอันดับประจำปีของ OAG เป็นโปรแกรมที่ได้รับการรับรองระดับโลก (ผลงานตรงเวลาในช่วง 12 เดือนถึงพฤษภาคม 2019) ที่การันตีการปฏิบัติงานที่ตรงต่อเวลาหรือ OTP ที่ยอดเยี่ยมในทุกสนามบินและสายการบิน โดยไม่คำนึงถึงขนาด

สามารถดูรายชื่อสายการบินและสนามบินที่ได้รับรางวัลทั้งหมดที่ awarded airlines and airports.

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทางชั้นนำระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร OAG มีการดำเนินงานทั่วโลกใน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ลิทัวเนีย และจีน

www.oag.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190625005945/en/

สื่อ:

Caroline Mather

OAG

pressoffice@oag.com

You Bank แพลตฟอร์มธนาคารสินทรัพย์ดิจิตอลแห่งแรกของโลก ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม Washington Elite AI Blockchain Summit

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–25 มิถุนายน 2019

Washington Elite AI Blockchain Summit จัดขึ้นที่ Convention and Exhibition Center ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. You Bank  ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการธนาคารสินทรัพย์ดิจิตอลได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดและกล่าวสุนทรพจน์  หลักจากเปิดตัวในตลาดยุโรป You Bank ได้เข้ามาในสหรัฐอเมริกาเพื่อสร้างบริการระดับโลกและสร้าง "ธนาคารกลาง" ของโลกดิจิตอล

ธนาคารกลางแห่งโลกดิจิตอล

You Bank ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นโดยครอบครัว Richmond หนึ่งในเก้าตระกูลชาวยิวซึ่งเป็นที่รู้จักในนามครอบครัว Rothschild ในโลกดิจิตอล Daniel ซีอีโอระดับโลกของ You Bank แพลตฟอร์มธนาคารสินทรัพย์ดิจิตอล ได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ในวันแรก  เขาระบุว่าจุดประสงค์ดั้งเดิมของ You Bank คือการสร้างธนาคารดิจิทัลที่สามารถดำเนินงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  You Bank ครอบคลุมการจัดการสินทรัพย์ดิจิตอล การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล การจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก กองทุนดิจิตอล สัญญาดิจิตอล การประกันทรัพย์สินดิจิทัล และบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุม  แพลตฟอร์มสินทรัพย์ธนาคารดิจิตอลของ You Bank มุ่งมั่นที่จะให้บริการผู้ใช้ทั่วโลกด้วยการจัดการสินทรัพย์ดิจิตอล "หนึ่งแอพพลิเคชั่นสำหรับทุกคน" และกลายเป็น "ธนาคารกลาง" ของโลกดิจิตอล

5 ฟังก์ชั่นที่กำจัดภาวะฟองสบู่เพื่อให้สามารถเก็บรักษาและเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างธนาคารสินทรัทย์ดิทิตอล You Bank Digital และกระเป๋าเงินอื่นๆ อยู่ในรูปแบบการทำกำไรและความสามารถในการกำจัดภาวะฟองสบู่  ทีมงาน You Bank มีประสบการณ์ด้านการอาร์บิทราจการต่ออายุทางการเงินทั่วโลกผ่าน A. การทำธุรกรรมที่มีปริมาณและความถี่สูง B. การให้กู้ยืมเงินแบบดิจิตอล C. การชำระเงินแบบดิจิตอล D. การประมวลผลสินทรัพย์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ E. การควบรวมและเข้าซื้อกิจการและการปรับโครงสร้างสินทรัพย์  ทีมปฏิบัติการด้านการเงินระหว่างประเทศระดับมืออาชีพสามารถสร้างผลตอบแทนสินทรัพย์ที่มีมากที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก

ตรึงคุณค่าของสกุลเงินดิจิตอลอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ You Bank เป็นแพลตฟอร์มแรกและรายเดียวในโลกที่สามารถตรึงมูลค่าของโทเค็นดิจิทัล  เงินดิจิทัลทอดสามารถตรึงมูลค่าระยะยาวของระบบนิเวศทั่วโลกของ You Bank และการถือสินทรัพย์ดิจิทัลของ You Bank สามารถสร้างผลตอบแทนมูลค่าสูงอย่างต่อเนื่อง  ระบบนิเวศทางเศรษฐกิจทั่วโลกของ You Bank ทำให้สินทรัพย์บล็อกเชนสร้างผลตอบแทนการเติบโตสูง เป็นการสร้างแพลตฟอร์มที่ยึดมูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลทั่วโลก

ดูฉบับของแหล่งที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190625005659/en/

ติดต่อ:

You Bank

CHEN YING

ybt@youbank.top

งานเปิดตัว S BLOCK ครั้งแรกของโลกจัดขึ้นในสิงคโปร์เมื่อ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา

Logo

เบิร์น, สวิตเซอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–24 มิถุนายน 2019

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการจัดสัมมนาด้านเทคโนโลยี 2019 WBF Singapore Technology Conference ที่มีชื่อเสียงระดับโลกขึ้น ณ โรงแรม Marina Bay Sands โดย S BLOCK ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วม ได้เปิดตัวและประกาศถึงพันธกิจที่ชื่อ “Unleash your digital assets” เป็นครั้งแรก งานสัมมนาดังกล่าวได้รวบรวมผู้คนที่เป็นหัวกะทิในแต่ละอุตสาหกรรมและผู้ที่มีความสนใจด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน รวมถึงผู้ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมดังกล่าวมากกว่า 500 ท่านจาก 30 ประเทศ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บราซิล ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา และแคนาดา ซึ่งผู้คนในวงการได้มาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมในทั่วทุกมุมโลก งานสัมมนานี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากอุตสาหกรรมบล็อกเชนทั่วโลก

งานเปิดตัวทั่วโลกของ S BLOCK ในสิงคโปร์

ในช่วงเช้าของวันที่ 22 มิถุนายน Ivan ประธาน S BLOCK Global Foundation ได้รับเชิญให้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Next Generation Digital Currency Wallet” ในงานสัมมนาแห่งนี้ ยังได้มีการเปิดตัว S BLOCK อย่างเป็นทางการในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการเปิดทางสู่โลกที่ไร้พรมแดนในอนาคต ในขณะเดียวกัน S BLOCK ยังได้ลงนามในข้อตกลงเชิงกลยุทธ์กับ DUSD และ WBFex ในงานนี้ ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาของ S BLOCK ให้เกิดเร็วขึ้น

ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน S BLOCK ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานสังสรรค์ในธีม “Fortune Night” ซึ่งบุคคลที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมได้มารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก และนำเสนอไอเดียที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ ๆ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมในปี 2019

เส้นทางระดับโลกของ S BLOCK

สำหรับไฮไลต์ภายในงาน WBF World Tour Singapore Technology Conference ได้มีการเชิญ Paul Brody หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Ernst & Young, Franklyn Richards ผู้ร่วมก่อตัง LiteCoin, Dr. Daniel Diemers จาก PwC Strategy & Partner และ Tom Menner จาก EMEA รวมถึงผู้บริหารอีกหลายท่านมาให้ความรู้ภายในงาน โดยเน้นความรู้ที่เกี่ยวกับ “แนวปฏิบัติที่ดีในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการกำกับดูแล” (regulatory technology practices) และโลกดิจิทัลแห่งอนาคตเพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มต่าง ๆ ในยุคบล็อกเชน 2.0 งานสัมมนาที่จัดขึ้นเป็นเวลาสองวันนั้นได้ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 4000 คน พันธมิตรด้านสื่อมากกว่า 500 ราย และวิทยากรมากกว่า 100 ท่าน และสร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้กับผู้เข่าร่วมงาน ซึ่งคาดว่าจะได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้และผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชน

เพื่อพัฒนาโครงสร้างระบบนิเวศธรุกิจให้ดียิ่งขึ้น และยกระดับการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ S BLOCK จะเดินหน้าพัฒนาธรุกิจการเงินดิจิทัลให้กับโลก และสร้างระบบนิเวศทางการเงินดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบในที่สุด S BLOCK ตั้งเป้าทำพันธกิจ “making assets more free” ให้สำเร็จและจะขยายธุรกิจไปทั่วโลก เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า

ดูเนื้อหาต้นฉบับ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190624005372/en/

ติดต่อ:

SBLOCK FOUNDATION PTE. LTD 
Jennifer Bialek 
contacts@sblock.com 
www.sblock.com

Terns Pharmaceuticals ประกาศข้อตกลงลิขสิทธิ์และความร่วมมือกับ GENFIT เพื่อพัฒนาและทำการค้า Elafibranor ในภูมิภาคจีน

Logo

การเป็นหุ้นส่วนกับ GENFIT ขยายพอร์ตโฟลิโอของ Terns โดยมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ระยะที่ 3 พร้อมด้วยกลไกการทำงานที่ลงตัวเหมาะกับการรวมเข้ากับสินทรัพย์ NASH ของ Terns-

ฟอสเตอร์ ซิตี้, แคลิฟอร์เนีย & เซี่ยงไฮ้–(BUSINESS WIRE)–24 มิ.ย. 2019

Terns Pharmaceuticals, Inc. ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตและข้อตกลงความร่วมมือกับ GENFIT (GNFT) บริษัท เวชภัณฑ์ชีวภาพขั้นปลายซึ่งอุทิศตนเพื่อการค้นพบและพัฒนาโซลูชั่นการรักษาและวินิจฉัยระดับนวัตกรรมในโรคเมแทบอลิซึมและตับ ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้ Terns ได้รับสิทธิพิเศษในการพัฒนา ลงทะเบียน และเป็นผู้ทำการตลาดในการรักษาโรค  non-alcoholic steatohepatitis  (NASH) หรือ ไขมันสะสมคั่งในตับ และท่อน้ำดีอักเสบแข็งปฐมภูมิ หรือ primary biliary cholangitis  (PBC) ในประเทศจีน (จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) GENFIT จะได้รับการจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะมีสิทธิ์ได้รับเงินจำนวนมากถึง 193 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการชำระเงินครั้งต่อไปหากบรรลุเป้าหมายทางคลินิก กฎระเบียบ และหลักการเชิงพาณิชย์ ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันในการวิจัยและพัฒนาที่กำลังดำเนินอยู่สำหรับ NASH และ PBC ความพยายามในการวิจัยและพัฒนาเหล่านี้รวมถึงการรวมกันของ elafibranor ซึ่งเป็นอัลฟา / เดลต้า (PPAR α / δ) agonist peroxisome proliferator – agonist  ร่วมกับผู้ร่วมพัฒนา ซึ่งรวมถึง TERN-101, a farnesoid X receptor (FXR) agonist, TERN-201, เซมิคาร์บาไซด์ที่ไวต่อเอมีนออกซิเดส หรือ semicarbazide-sensitive amine oxidase (SSAO) inhibitor, และ ตัวรับฮอร์โมนไทรอยด์ หรือ their thyroid hormone receptor (THR) และ โครงสร้าง β-selective agonist and apoptosis signal-regulating kinase 1 (ASK1) inhibitor programs.

“ Terns มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอวิธีการรักษาแบบใหม่ที่ทันสมัยสำหรับการรักษาโรคตับไปยังประเทศจีนและตลาดระดับโลกอื่น ๆ ความร่วมมือของเรากับ GENFIT เป็นขั้นตอนอีกขั้นต่อไปสำหรับเราในฐานะบริษัท ” Weidong Zhong, Ph.D. ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Terns กล่าว “ เราเชื่อว่าการบำบัดแบบผสมผสานจะกลายเป็นมาตรฐานการดูแลรักษาไขมันสะสมคั่งในตับ หรือ NASH อย่างรวดเร็ว และกลยุทธ์ของเราตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นนี้ ทั้งนี้ Elafibranor เป็นสารประกอบขั้นปลายที่มีกลไกของการทำงานร่วมกันกับการรักษาที่มีอยู่ของเราเอง ทำให้มันสมบูรณ์แบบในการเป็นกลยุทธ์ของเราที่จะพัฒนาวิธีการรักษาแบบรวมสำหรับโรคตับเรื้อรัง เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเพิ่ม elafibranor ในแฟ้มสะสมผลงานของเราเพื่อขยายการมุ่งเน้นไปที่โรคตับเพื่อรวมโรคโรคตับแข็งทางเดินน้ำดี  PBC และเพื่อสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับGENFIT ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคตับ”

Pascal Prigent รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของ GENFIT กล่าวว่า“ ทีมงานของ Terns มีประวัติอันยาวนานในด้านการพัฒนายารวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จะประสบความสำเร็จในการพัฒนา ลงทะเบียน และการทำการตลาดใหม่ ๆ “เรามีความเชื่อมั่นอย่างมากในบริษัท และทีมผู้บริหาร ในขณะที่เราทำงานเพื่อนำ elafibranor มาสู่ผู้ป่วยในประเทศจีนและเพื่อร่วมมือกันในการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับอนาคตและกลยุทธ์การรวมกัน”

ข้อตกลงใบอนุญาตและความร่วมมือกับ GENFIT เป็นไปตามประกาศปี 2018 ที่ Terns ได้รับสิทธิพิเศษระดับโลกในการพัฒนาและจำหน่ายสินทรัพย์ NASH สามรายการ หรือ  three NASH assets จาก Eli Lilly และจากบริษัท ข้อตกลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Terns ในการปรับปรุงท่อส่งต่อการเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับภูมิภาคและระดับโลก นอกเหนือไปจากความพยายามในการค้นพบภายในเพื่อเร่งการรักษาแบบผสมผสานที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง

เกี่ยวกับ elafibranor

Elafibranor เป็นผู้ดำเนินการผลิตภัณฑ์ท่อลำเลียงของ GENFIT โดย Elafibranor เป็นยาทานวันละครั้งที่ใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ออกฤทธิ์ผ่านทางคู่เพอรอกซิโซมทั้งที่ proliferator-active alpha / delta pathways ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรักษาโดย steatohepatitis (NASH) โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับการรับรองแบบ Fast Track Designation ทั้งนี้ GENFIT เชื่อว่าจากผลลัพธ์ทางด้านการแพทย์นับจนถึงปัจจุบันแสดงว่า elafibranor นั้นมีศักยภาพในการจัดการกับปัญหาหลาย ๆ ด้านของ NASH รวมถึง การอักเสบ ความไวต่ออินซูลิน ความไวของไขมัน / เมแทบอลิซึม และอาการของตับ ผลลัพธ์จากการศึกษาระยะที่ 3 ในผู้ป่วยที่เป็น NASH คาดว่าจะออกมาในไตรมาสที่สี่ของปี 2019 ผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 แสดงให้เห็นว่า elafibranor อาจเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับ PBC ซึ่งเป็นโรคตับอย่างรุนแรง โดย Elafibranor ได้รับรางวัลการค้นพบ Breakthrough Therapy Designation จากผลในระยะนี้ด้วย.

เกี่ยวกับ NASH

ภาวะไขมันสะสมคั่งในตับ(NASH) เป็นรูปแบบที่รุนแรงของโรคตับไขมันแบบ non-alcoholic fatty liver disease หรือ NAFLD ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ โดย NASH เกี่ยวข้องกับการอักเสบของตับเรื้อรังและการบาดเจ็บของเซลล์ตับที่อาจนำไปสู่การเกิดพังผืด โรคตับแข็ง และมะเร็งตับหรือตับวายในที่สุด อัตราการเกิดของ NAFLD และ NASH ทั่วโลก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วควบคู่กับอัตราการเพิ่มขึ้นของโรคอ้วน ขณะนี้ยังไม่มียาที่ได้รับการรับรองสำหรับการรักษา NASH

เกี่ยวกับ PBC

PBC เป็นโรคเรื้อรังซึ่งความเสียหายต่อท่อน้ำดีที่สามารถยับยั้งความสามารถของตับในการกำจัดสารพิษในร่างกายและสามารถนำไปสู่การเกิดแผลเป็นของเนื้อเยื่อตับที่เรียกว่าโรคตับแข็ง

เกี่ยวกับ Terns Pharmaceuticals

Terns Pharmaceuticals, Inc. เป็น บริษัท เวชภัณฑ์ทางคลินิกที่มุ่งเน้นการค้นคว้าและพัฒนายาสำหรับโรคตับเรื้อรังและมะเร็ง บริษัทตั้งอยู่ในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา บริษัทกำลังพัฒนาการส่งต่อยาสำหรับรักษาโรค non-alcoholic steatohepatitis (NASH) หรือ ไขมันสะสมคั่งในตับ และมะเร็งในหลาย ๆ ด้าน ทั้งนี้  Terns ยกระดับความเชี่ยวชาญระดับโลกในด้านชีววิทยาโรค เคมียา และการพัฒนาทางคลินิกเพื่อนำเสนอวิธีการรักษาใหม่ ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้ป่วยในประเทศจีน และในตลาดโลกอื่น ๆสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.ternspharma.com and www.ternspharma.com.cn

เกี่ยวกับ GENFIT

GENFIT เป็น บริษัท ชีวเวชภัณฑ์ขั้นปลาย ที่อุทิศตนเพื่อการค้นพบและพัฒนาโซลูชั่นการรักษาและวินิจฉัยที่เป็นนวัตกรรมในโรคที่เกี่ยวกับเมตาบอลิซึมและตับซึ่งมีความยังมีความต้องการด้านการแพทย์  GENFIT เป็นผู้นำในด้านการค้นพบยาที่ใช้ตัวรับพลังงานนิวเคลียร์ที่มีประวัติอันยาวนานและมรดกทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งซึ่งครอบคลุมเกือบสองทศวรรษ โดยมียา elafibranor ที่ทันสมัยที่สุดกำลังอยู่ในระหว่างการประเมินผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 (“ RESOLVE-IT”) สำหรับเป็นแนวทางในการรักษา NASH  หรือ ไขมันสะสมคั่งในตับ อีกทั้ง GENFIT วางแผนที่จะเริ่มการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ใน PBC ในปลายปีนี้ หลังจากการได้รับเห็นผลที่ดีในระยะที่ 2  ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการที่ครอบคลุมของ GENFIT ในการจัดการทางคลินิกของผู้ป่วยไขมันสะสมคั่งในตับ ทางบริษัทยังได้พัฒนาวิธีการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาผู้ป่วยที่เป็นไขมันสะสมคั่งในตับ ซึ่งอาจเป็นผู้ทดลองสำหรับการรักษาด้วยยานี้ที่เหมาะสม  ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในลีลและปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเคมบริดจ์แมสซาชูเซตส์สหรัฐอเมริกา บริษัทมีพนักงานประมาณ 160 คน ทั้งนี้ GENFIT เป็น บริษัท มหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq Global Select Market และในส่วน B ของตลาดที่มีการควบคุมของ Euronext ในปารีส (Nasdaq และ Euronext: GNFT)

www.genfit.com

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งรวมถึงแถลงการณ์ที่อยู่ในความหมายของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 ที่เกี่ยวกับ GENFIT ซึ่งรวมถึงศักยภาพและความสำเร็จทางการค้าของ Elafibranor ในประเทศจีน และผลของกฎระเบียบใหม่ใน ประเทศจีนเพื่อเร่งและอำนวยความสะดวกในการอนุมัติยา การใช้คำบางคำซึ่งรวมถึงคำว่า“ เชื่อ”“ ศักยภาพ”“ คาดหวัง” และ“ จะ” และสำนวนที่คล้ายกันมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ถึงแม้ว่าบริษัทจะเชื่อว่าการคาดการณ์ของบริษัทขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ในปัจจุบันและสมมติฐานที่สมเหตุสมผลของฝ่ายบริหารของบริษัท แต่แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อยู่ภายใต้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่รู้และที่ไม่รู้จำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างออกไปอย่างมาก ทั้งที่ถูกคาดการณ์ไว้โดยนัยหรือที่คาดการณ์ไว้โดยชัดแจ้ง ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้รวมถึงความไม่แน่นอนที่มีอยู่ในการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งรวมถึงด้านความปลอดภัย, ดัชนีชี้วัดทางชีวภาพ, ความก้าวหน้า และผลจากการทดลองทางคลินิกอย่างต่อเนื่องและตามแผนการทบทวนและการอนุมัติโดยหน่วยงานกำกับดูแล ผู้สมัครและความสามารถอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการระดมทุนเพื่อเป็นทุนในการพัฒนารวมถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่กล่าวถึงหรือระบุในเอกสารที่เปิดเผยต่อสาธารณะของบริษัท กับAutorité des marchés financiers (“AMF”) ของฝรั่งเศส รวมถึงที่ระบุไว้ในส่วนที่ 4“ ความเสี่ยงหลักและความไม่แน่นอน” ของเอกสารการจดทะเบียนของบริษัทในปี 2018 ที่ยื่นต่อ AMF เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 ภายใต้ n ° D.19-0078 ซึ่งมีอยู่ในเว็บไซต์ของ GENFIT (www.genfit.com) และบนเว็บไซต์ของ AMF (www.amf-france.org) และเอกสารที่ยื่นต่อสาธารณะและรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (“ SEC”) รวมถึง หนังสือชี้ชวนสุดท้ายของบริษัท ลงวันที่ 26 มีนาคม 2019 และเอกสารและรายงานที่ตามมาที่ยื่นต่อ AMF หรือ SEC หรือที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยบริษัท นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของ บริษัท ผลประกอบการฐานะทางการเงิน และสภาพคล่องและการพัฒนาของอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานจะสอดคล้องกับแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ดังกล่าวแต่ก็อาจจะไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์หรือการพัฒนาในอนาคต ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้เป็นการกล่าวไว้เฉพาะในวันที่เผยแพร่เอกสารนี้เท่านั้น นอกเหนือจากสิ่งที่กำหนดบังคับไว้ตามกฎหมายที่บังคับใช้กับบริษัท บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลหรือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นผลของข้อมูลใหม่เหตุการณ์ในอนาคตหรืออื่น ๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190624005672/en/

Terns Pharmaceuticals, Inc.

ติดต่อสำหรับสื่ออเมริกัน:

Margaret Robinson

mrobinson@ternspharma.com

+1 (415) 690 0084

ติดต่อสำหรับสื่อจีน:

Yan Wan

ywan@ternspharma.com

+86 186 1196 5371

GENFIT

ฝ่ายลงทุน

Naomi EICHENBAUM – Investor Relations | Tel: +1 (617) 714 5252 | investors@genfit.com

สื่อ

Hélène LAVIN – Press Relations | Tel: +333 2016 4000 | helene.lavin@genfit.com

Razer และ Visa ประกาศความร่วมมือเพื่อพลิกโฉมระบบรับชำระเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

  • รวมโซลูชันผลิตภัณฑ์แบบเติมเงินของ Visa เข้ากับระบบชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ Razer เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินได้ที่ร้านค้ากว่า 54 ล้านร้านทั่วโลกที่อยู่ภายใต้เครือข่าย Visa
  • นำบริการทางการเงินแบบครบวงจรมาสู่ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่สามารถเข้าถึงบริการจากทางธนาคารได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–24 มิถุนายน 2019

Razer™ แบรนด์ไลฟสไตล์ชั้นนำระดับโลกของนักเล่นเกม และ Visa ผู้ให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ประกาศความร่วมมือเพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน ซึ่งจะพลิกโฉมระบบชำระเงินในอุตสาหกรรมเกมด้วยการให้ผู้ใช้อี-วอลเลตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Razer Pay สามารถชำระเงินที่ร้านค้าภายใต้เครือข่ายของ Visa ที่มีอยู่ทั่วโลกได้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูเนื้อหาแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190623005044/en/

Razer Fintech and Visa Executives, including Razer Co-Founder, Min Liang-Tan. (Photo: Business Wire)

ทีมผู้บริหารของ Razer Fintech และ Visa ประกอบด้วย Min Liang-Tan หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Razer (รูปภาพ: Business Wire)

การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกันครั้งนี้ Razer Fintech บริษัทด้านเทคโนโลยีการเงินในเครือ Razer จะร่วมกับโครงการ fintech fast-track ของ Visa ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อให้ธุรกิจทางการเงินที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ สามาถเข้าถึงเครือข่ายรับชำระเงินของ Visa ที่มีอยู่ทั่วโลกได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Razer Fintech และ Visa จะร่วมกันพัฒนาโซลูชันบัตรเครดิตเสมือนจริงระบบเติมเงินของ Visa มาฝังไว้ในระบบอี-วอลเลต Razer Pay ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการของ Razer ราว 60 ล้านคนสามารถชำระเงินให้กับร้านค้าที่เป็นเครือข่ายของ Visa ซึ่งมีมากกว่ากว่า 54 ล้านแห่งทั่วโลกได้

Chris Clark ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Visa กล่าวว่า “พวกเรามีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีวิสัยทัศน์และไม่หยุดคิดค้นพัฒนาบริการใหม่ ๆ และยังมีความเข้าใจถึงคุณค่าและความสำคัญในการขยายการเข้าถึงระบบชำระเงินดิจิทัลให้กว้างขึ้น การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงการให้ความสำคัญในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในเรื่องของดิจิทัล ความร่วมมือระหว่าง Visa และ Razer Fintech ไม่เพียงเป็นการพลิกโฉมประสบการณ์การชำระเงินของกลุ่มนักเล่นเกม แต่ยังรวมถึงสร้างโอกาสให้กับประชากรในภูมิภาคเอเชีที่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่สามารถเข้าถึงบริการได้”

Min-Liang Tan ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Razer กล่าวว่า “Razer Fintech คือบริการหลักที่จะสร้างการเติบโตให้กับ Razer จากการที่เราเดินหน้าผลักดันระบบรับชำระเงินดิจิทัลในตลาดเกิดใหม่หลาย ๆ แห่ง เริ่มจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่แรก พวกเรามีความตื่นเต้นอย่างมากที่โซลูชันชำระเงินที่เราคิดค้นขึ้นจะถูกนำไปให้บริการลูกค้าหลายล้านคน รวมถึงเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับเครือข่ายร้านค้าที่มีอยู่มากมายทั่วโลก การร่วมเป็นพันธมิตรกับ Visa ครั้งนี้ยังเป็นการยกฐานะของ Razer Fintech เป็นเครือข่ายระบบชำระเงินดิจิทัลแบบ offline-to-online ที่ใหญ่ที่สุดในภภูมิภาคอีกด้วย”

รวมโซลูชันบัตรเติมเงินของ VISA เข้ากับระบบชำระเงิน RAZER PAY

Razer Fintech และ Visa เตรียมเปิดตัวบัตรเติมเงิน Visa ภายใต้แบรนด์ Razer ที่รวมบริการเข้ากับระบบอี-วอลเลต Razer Pay ให้สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันขนาดเล็ก ซึ่งจะเสริมความแกร่งให้ Razer Pay เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียแปซิฟิก

เครือข่ายร้านค้าของ Visa ที่มีอยู่ทั่วโลกช่วยให้ผู้ใช้ Razer Pay สามารถชำระเงินได้ทุกแห่งที่รับบัตร Visa โซลูชันบัตรแบบเติมเงินจะเข้ามาเติมเต็มบริการของ Razer Pay ในปัจจุบันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งได้แก่บริการที่มีการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างการเติมเงินผ่านโทรศัพท์ บัตรเครดิตเสมือนจริง และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิงอย่างเช่นเพลง หรือชำระค่าบริการประเภทสตรีมมิง ผู้ใช้จะได้เพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์และรางวัลที่น่าสนใจต่าง ๆ เมื่อใช้บัตรประเภทเติมเงินในการทำธุรกิจผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ และเมื่อซื้อสินค้าจากต่างประเทศ

โซลูชันบัตรเติมเงินดังกล่าวยังให้ผู้ใช้สามารถเติมเงินและถอนเงินผ่าน Razer Pay ได้อย่างสะดวกเช่นเดิม รวมถึงยังให้ความสำคัญในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการใช้งานเช่นเดิม Razer Pay ยังได้ร่วมกับพันธมิตรที่ไม่หยุดคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีในปัจจุบันให้กว้างขึ้น ได้แก่ บริการชำระค่าโดยสาร ซื้อตั๋วภาพยนตร์ และชำระค่าสาธารณูปโภคผ่านแอปพลิเคชันขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

นำบริการทางการเงินแบบครบวงจรมาสู่ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากกว่า 438 ล้านคน1 ที่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้การร่วมมือกันระหว่าง Razer Fintech และ Visa เป็นการเพิ่มแนวโน้มให้กับการขยายบริการทางการเงินในระดับจุลภาคให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ นอกจากนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของเยาวชนและคนยุคมิลเลเนียมมากกว่า 213 ล้านคน2

การร่วมมือกันระหว่าง Razer Fintech และ Visa มีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มอำนาจในการจับจ่ายให้กลับคนกลุ่มดังกล่าวซึ่งมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย รวมถึงแนะนำคุณสมบัติในการวางแผนทางการเงินที่เข้าใจง่ายและสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ซึ่งดัดแปลงจากผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มนักเล่นเกมของ Razer คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยยกระดับระดับความรู้ความเข้าใจทางการเงินของประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การร่วมมือกันระหว่าง Razer Fintech และ Visa ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมอบเครื่องมือทางการเงินที่มีความทันสมัยให้กับเยาวชนและกลุ่มคนยุคมิลลิเนียมสามารถมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจไร้เงินสดทั่วโลก

Razer Fintech และ Visa เตรียมเปิดให้บริการโซลูชันดังกล่าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉพาะบางประเทศในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ก่อนที่จะขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วโลก

เกี่ยวกับ RAZER

Razer™ เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ เครื่องหมายการค้ารูปงูสามหัวของ Razer ถือเป็นหนึ่งในตราสัญลักษณ์ที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดในชุมชนเกมมิ่งและอีสปอร์ตระดับโลก โดยบริษัทได้ออกแบบและพัฒนาเครือข่ายสำหรับผู้เล่นเกมโดยเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งผสานฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน ภายใต้ฐานลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกทวีป

Razer มีฮาร์ดแวร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงประสิทธิภาพสูงสำหรับเกมมิง เกมมิงโน้ตบุ๊กตระกูล Blade รวมถึง Razer Phone ที่ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ขณะเดียวกันแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์จาก Razer ที่รวมแล้วมีผู้ใช้งานมากกว่า 60 ล้านรายนั้น ประกอบด้วย Razer Synapse (แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์) Razer Chroma (ระบบเทคโนโลยีแสงไฟ RGB เอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท) และ Razer Cortex (ซอฟต์แวร์เพื่อปรับปรุงการเล่นเกมและศูนย์รวมบริการ) นอกจากนี้ยังมี Razer zGold ที่เป็นบริการเครดิตแบบเสมือนสำหรับเกมเมอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกรายหนึ่ง โดยเกมเมอร์สามารถซื้อสินค้าและไอเทมได้จากเกมต่าง ๆ มากกว่า 2,500 เกม

Razer ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโกและสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีสำนักงานทั้งหมด 9 แห่งทั่วโลก และถือเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านเกมมิงทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ทั้งนี้ Razer เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (รหัสหลักทรัพย์: 1337)

เกี่ยวกับ VISA INC.

Visa Inc. (NYSE: V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจต่าง ๆ และเศรษฐกิจสามารถเจริญเติบโตได้ เครือข่ายประมวลผลระดับโลกที่ทันสมัยของเราอย่าง VisaNet ให้บริการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ทั่วโลก และมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที บริษัทมีความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วของการค้าที่เชื่อมโยงผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ และเป็นแรงผลักดันความฝันในการสร้างสังคมไร้เงินสดในอนาคตสำหรับทุกคนและทุกสถานที่ ขณะที่โลกเปลี่ยนจากระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัล Visa จะใช้แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ พนักงาน เครือข่ายและขอบเขตธุรกิจของเรา ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพาณิชย์ในอนาคต ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.visa.com.sg.

Razer – For Gamers. By Gamers.

1 KPMG Fintech: Opening the door to the unbanked and underbanked in Southeast Asia สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่: https://home.kpmg/xx/en/home/insights/2016/04/fintech-opening-the-door-to-the-unbanked-and-underbanked-in-southeast-asia.html 

2 ASEAN’s First ASEAN Youth Development Index 2017

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190623005044/en/

ติดต่อ:

VISA

Grace Tan 
Visa Worldwide Pte. Limited 
โทร: +65 6671 5468 
อีเมล: grtan@visa.com

Adrian Wong 
Ruder Finn Asia 
โทร: +65 9157 8826 
อีเมล: WongA@ruderfinnasia.com

RAZER

สหรัฐอเมริกา 
Kevin Allen 
Kevin.Allen@razer.com

ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา 
Maren Epping 
Maren.Epping@razer.com

จีน 
Evita Zhang 
Evita.Zhang@razer.com

เอเชียแปซิฟิก 
Ian Tan 
Ian.tan@razer.com

ทั่วโลก 
Jan Horak 
Jan.Horak@razer.com