Milrem: บริษัทด้านการป้องกันชั้นนำแห่งยุโรปยื่นเสนอโครงการระบบยานภาคพื้นไร้คนขับต่อคณะกรรมาธิการยุโรป

Logo

บรัสเซลส์–(BUSINESS WIRE)–24 กันยายน 2562

กลุ่มบริษัทที่นำโดย Estonian Milrem Robotics และประกอบด้วยบริษัทด้านการป้องกัน การสื่อสารและความมั่นคงทางไซเบอร์ชั้นนำ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ด้านเทคโนโลยีชั้นสูงซึ่งก่อตั้งขึ้นในสหภาพยุโรป ได้ยื่นหนังสือถึงโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศยุโรป หรือ EDIDP (European Defence Industrial Development Programme) ของคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อเสนอโครงการพัฒนาระบบยานภาคพื้นไร้คนขับ (Unmanned Ground System) สำหรับภารกิจแบบผสม ที่สามารถทำงานร่วมกับยานภาคพื้นและอากาศยานแบบที่มีคนขับ

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190924005469/en/

The system will consist of a robust and modular unmanned ground vehicle (UGV) equipped with an electronic warfare resistant command, control and communications solution and secure autonomous mobility software that enables the operator to simultaneously and safely control multiple land and air platforms.  (Graphic: Business Wire)

ระบบดังกล่าวประกอบด้วยยานภาคพื้นไร้คนขับ (UGV) ที่แข็งแรงและสามารถประกอบเข้ากับยานอื่น ๆ ได้ มาพร้อมกับโซลูชันคำสั่ง ควบคุม และสื่อสารเพื่อต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และซอฟต์แวร์ secure autonomous mobility ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมยานภาคพื้นและอากาศยานได้พร้อมกันและปลอดภัย. (กราฟิก: Business Wire)

ระบบดังกล่าวประกอบด้วยยานภาคพื้นไร้คนขับ (UGV) ที่แข็งแรงและสามารถประกอบเข้ากับยานอื่น ๆ ได้ มาพร้อมกับโซลูชันคำสั่ง ควบคุม และสื่อสารเพื่อต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และซอฟต์แวร์ secure autonomous mobility ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมยานภาคพื้นและอากาศยานได้พร้อมกันและปลอดภัย

ยานภาคพื้นไร้คนขับจะถูกออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับยานภาคพื้นและอากาศยานแบบที่มีคนควบคุมได้ เพื่อจุดประสงค์ด้านความยืดหยุ่น ความสามารถในการประกอบเข้ากับยานประเภทอื่น และความอเนกประสงค์เพื่อการทำภารกิจในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มการป้องกัน ความยั่งยืน และประสิทธิภาพด้านปฏิบัติการทางการทหาร และยกระดับการตระหนักรู้ในสภานการณ์กองกำลังภาคพื้น

ระหว่างโครงการ จะมีการรวบรวมความรู้เชิงขั้นตอนด้านปฏิบัติการและพัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับการใช้งานยานประเภทที่มีผู้ควบคุมและไม่มีผู้ควบคุม พร้อมกับพิจารณาแง่คิดด้านจริยธรรมที่สามารถนำไปปรับใช้กับยานที่ขับเคลื่อนด้วยหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอย่างเป็นอิสระ นอกจากนี้ยังจะมีการสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่ทันสมัย ทั้งแบบเสมือนจริงและแบบสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุง

โครงการนี้มีชื่อว่า iMUGS (integrated Modular Unmanned Ground System) ซึ่งเกิดจากกรอบความร่วมมือโครงสร้างถาวร หรือ PESCO (Permanent Structured Cooperation) โครงการ iMUGS ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการจากรัฐมนตรีกลาโหมของยุโรปจากทั้งหมด 25 ประเทศ และถูกบรรจุอยู่ในรายชื่อโครงของ PESCO ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 ที่ผ่านมา โดยมีประเทศเอสโตเนียเป็นผู้นำโครงการ และมีการทำความตกลงด้านข้อกำหนดทางเทคนิคกับประเทศฟินแลนด์ ลัตเวีย เยอรมนี เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส และสเปน โครงการนี้มีความสอดคล้องกับประเด็นสำคัญ 11 ข้อในแผนพัฒนาขีดความสามารถประจำปี 2561 ของหน่วยงานด้านกลาโหมแห่งยุโรป

"ประเทศในยุโรปหลายประเทศจะเริ่มใช้ยานแบบไร้คนขับทั้งในการขนส่งและภารกิจด้าน ISR เพื่อลดภาระทั้งด้านแรงงานและสมอง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับกองพลของเรา การบูรณาการขีดความสามารถรูปแบบใหม่กับขีดความสามารถและโครงสร้างของกองทัพในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบจึงเป็นเรื่องสำคัญ” Kuldar Väärsi ซีอีโอแห่ง Milrem Robotics อธิบาย “และที่สำคัญไม่แพ้กัน คือระบบไร้คนขับเหล่านี้จะต้องมีความปลอดภัยในการใช้งานและปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ นี่คือขอบเขตที่ iMUGS ให้ความสำคัญ" Väärsi อธิบายเพิ่มเติม

ความร่วมมือครั้งนี้มีการลงชื่อในบันทึกความเข้าใจโดย 14 องค์กร ประกอบด้วย Milrem Robotics, GT Cyber Technologies, Safran Electronics & Defense, NEXTER Systems, Krauss-Maffei Wegmann, Diehl Defence, Bittium Wireless, Insta DefSec, (Un)Manned, dotOcean, Latvijas Mobilais Telefons, GMV Aerospace and Defence, the Estonian Military Academy และ Royal Military Academy of Belgium ความร่วมมือระดับนานาชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้จะรวมความเชี่ยวชาญและทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นจากทั่วทั้งยุโรปเพื่อบรรลุก้าวที่สำคัญของโดเมนนี้

โครงการ EDIDP มีเป้าหมายที่จะสร้างประโยชน์ให้กับความเป็นอิสระเชิงกลยุทธ์ของสหภาพยุโรป และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมือของระหว่างประเทศสมาชิก โดยมีหัวข้อที่ให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ อย่างการสนับสนุนปฏิบัติการทางการทหารที่มีขีดความสามารถสูง โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษทางด้านข่าวกรองและการสื่อสารที่มีความปลอดภัย และด้านไซเบอร์ ส่วนการดำเนินการจะประกอบด้วยการพัฒนาขีดความสามารถในการรบภาคพื้นดินแห่งอนาคต และโซลูชันด้านปัญญาประดิษฐ์ ความเป็นจริงเสมือน (virtual reaity) และเทคโนโลยีไซเบอร์

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190924005469/en/

ติดต่อ:

Gert Hankewitz
Milrem Robotics
gert.hankewitz@milrem.com

Mary Kay ร่วมมือกับหน่วยงานของสหประชาชาติเปิดตัวโครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Logo

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะลงทุนในด้านการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงทั่วโลก

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)– 23 ก.ย. 2562

ในวันนี้ Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนชั้นนำด้านการเสริมสร้างศักยภาพและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator หรือ ตัวเร่งการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มแบบหลายพันธมิตรที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ที่ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมได้อย่างไร้อุปสรรค โครงการริเริ่มใหม่โครงการนี้เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ได้รับการพัฒนาโดยการปรึกษาหารือกับหน่วยงานสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ UN Women สำนักงานความร่วมมือแห่งสหประชาชาติ (UNOP) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) International Trade Center (ITC) , UN Global Compact (UNGC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)

โครงการนี้จะนำเสนอหลักสูตรดิจิทัลที่มีคนช่วยสอนผ่านการฝึกอบรมและการให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนในการขจัดสิ่งกีดขวางและอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการผู้หญิง เริ่มตั้งแต่ด้านความสามารถด้านดิจิทัลไปจนถึงการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการเติบโตของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โครงการจะสนับสนุนความพยายามระดับโลกในการสนับสนุนให้ธุรกิจต่าง ๆ สร้างและขยายความสัมพันธ์กับธุรกิจของผู้หญิง รวมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กร ทั้งนี้การขยายตัวในอนาคตของโครงการจะรวมถึงโอกาสการระดมทุนที่สามารถเข้าถึงได้โดยผู้หญิงที่จบหลักสูตรนี้

“Mary Kay ได้เพิ่มศักยภาพให้ผู้หญิงผ่านการเป็นผู้ประกอบการและสนับสนุนแรงบันดาลใจให้พวกเขาเพื่อความมั่นคงและความเป็นอิสระทางการเงินมานานกว่า 56 ปี” Deborah Gibbins หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay กล่าว “องค์กรภาครัฐและเอกชนจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อทำให้มั่นใจว่าผู้ประกอบการสตรีทุกคนสามารถเข้าถึงเครื่องมือและการศึกษาที่พวกเขาต้องการเพื่อทำให้ความฝันของพวกเขาเกี่ยวกับอิสรภาพทางการเงินเป็นจริง และช่วยยกระดับครอบครัวและชุมชน”

โครงการ The Women’s Entrepreneurship Accelerator จะมีให้บริการในหกภาษาและจะเพิ่มภาษามากขึ้นเมื่อโครงการขยายตัวไปสู่ 192 ประเทศ ที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาของโครงการนี้ประกอบด้วยผู้ประกอบการ คนดัง และผู้สนับสนุน เพื่อให้การดูแลและส่งเสริมการขยายตัวของโครงการ

“ผู้หญิงที่มีความรู้ที่มีเงินในกระเป๋าเป็นผู้หญิงที่มีพลัง และด้วยจำนวนนักนวัตกรรมหญิงที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน จึงทำให้ผู้ประกอบการหญิงและการเสริมพลังให้ผู้หญิงกำลังเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมาก” Phumzile Mlambo-Ngcuka ผู้อำนวยการบริหารของ UN Women กล่าว “ผู้ให้การสนับสนุนจากทั่วโลกที่ได้เข้าร่วมโครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator จะทำให้ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นกว่าที่เคยกลายเป็นผู้ประกอบการที่มีความรู้ ช่วยผลักดันและปลูกฝังความเป็นอิสระทางการเงิน และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นของพวกเขา”

“ที่ ITC เราหวังว่าจะได้เข้าร่วมโครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator ของเราผ่านทาง SheTrades Initiative เพื่อบรรลุความก้าวหน้าที่แท้จริงในการบรรลุ SDG5 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทุกคน” Arancha González ผู้อำนวยการบริหารของ International Trade Center กล่าว “ด้วยการเป็นหุ้นส่วนในครั้งนี้ เราจะช่วยให้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงสามารถไล่ตามความฝันการเป็นผู้ประกอบการและเตรียมทักษะที่จำเป็นในการเปลี่ยนความฝันเหล่านั้นให้กลายเป็นความสำเร็จทางธุรกิจ”

โครงการ The Women’s Entrepreneurship Acceleratorเป็นขั้นตอนล่าสุดในการดำเนินการโดย Mary Kay ในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงและปรับปรุงชีวิตของพวกเขาทั่วโลก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Mary Kay ได้ร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจและบริษัทที่ทำตามพันธกรณีของหลักการส่งเสริมพลังสตรีซึ่งเป็นโครงการร่วมกันของ UN Global Compact และ UN Women ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเน้นเรื่องธุรกิจที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ นอกจากนี้ Mary Kay ยังเป็นผู้ลงนามใน UN Global Compact ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มเพื่อความยั่งยืนขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ Mary Kay จะเป็นผู้สนับสนุน WE Empower UN SDG Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันธุรกิจระดับโลกครั้งแรกสำหรับผู้ประกอบการสตรีโดยมีนักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง Diane von Furstenberg เป็นผู้ดำเนินรายการ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator โปรดไปที่  www.WE-accelerate.com.

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 55 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆ ให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.marykay.com.

เกี่ยวกับ UN Women

UN Women เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติที่อุทิศตนเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิง โดย UN Women เป็นองค์กรส่งเสริมผู้หญิงและเด็กผู้หญิงระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเร่งความคืบหน้าในการตอบสนองความต้องการของพวกเขาทั่วโลก

UN Women สนับสนุนประเทศสมาชิกสหประชาชาติในการกำหนดมาตรฐานระดับโลกเพื่อก่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทางเพศ พร้อม ๆ ไปกับการทำงานร่วมกับรัฐบาลและภาคประชาสังคมในการออกแบบกฎหมาย นโยบาย โครงการ และการบริการที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรฐานต่าง ๆ ถูกดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้หญิงจริง ๆ นอกจากนี้ UN Women ยังได้ทำงานไปทั่วโลกเพื่อสร้างวิสัยทัศน์ของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals ให้เกิดขึ้นจริงสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และคอยสนับสนุนผลักดันการมีส่วนร่วมของผู้หญิงอย่างเท่าเทียมกันในทุกด้านของชีวิตโดยมุ่งเน้นที่สี่ยุทธศาสตร์สำคัญคือ

UN Women ยังประสานงานและส่งเสริมการทำงานของระบบสหประชาชาติในการส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศและในด้านข้อพิจารณาและข้อตกลงทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับวาระ 2030 โดยองค์กรได้วางตำแหน่งด้านความเสมอภาคทางเพศไว้ให้เป็นหลักการพื้นฐานของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และโลกที่ทุกคนได้รับประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น

เกี่ยวกับ International Trade Center (ITC)

ความคิดริเริ่มของ SheTrades International Trade Center (ITC) มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการสตรีและธุรกิจที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ 3 ล้านคนเข้ากับตลาดต่างประเทศภายในปี 2564 ทั้งนี้ SheTrades จะทำงานร่วมกับรัฐบาล บริษัท และองค์กรสนับสนุนธุรกิจเพื่อทำวิจัย กำหนดนโยบาย และกฎระเบียบทางการค้า อำนวยความสะดวกด้านการเงิน และขยายการเข้าถึงการประมูลสาธารณะและซัพพลายเชนขององค์กร

SheTrades มอบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลายให้กับผู้ประกอบการสตรีด้วยหลักสูตรที่ยืดหยุ่นผ่าน shetrades.com.  ซึ่งรวมถึงหลักสูตรออนไลน์ฟรีแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการแบบตัวต่อตัว การมีส่วนร่วมผ่านการสัมมนาผ่านเว็บในหัวข้อที่หลากหลายเพื่อการสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับตลาดของพวกเขา การพัฒนาภายใต้กรอบของวาระการช่วยเหลือเพื่อการค้า (Aid-for-Trade agenda) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations’ Sustainable Development Goals)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.intracen.org และติดตาม ITC ได้บน Twitter | Facebook | LinkedIn | Instagram

เกี่ยวกับ United Nations Global Compact

ในฐานะที่เป็นโครงการความคิดริเริ่มพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติงาน the United Nations Global Compact คือความพยายามเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ จัดให้มีการดำเนินงานและกลยุทธ์ตามหลักการสากลสิบประการในด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต องค์กรซึ่งเปิดตัวในปี 2543 นี้มีหน้าที่ให้คำแนะนำและสนับสนุนชุมชนธุรกิจทั่วโลกในการพัฒนาเป้าหมายและค่านิยมขององค์การสหประชาชาติผ่านแนวทางปฏิบัติขององค์กร ทั้งนี้ ด้วยว่ามีบริษัทมากกว่า 9,500 แห่ง และสมาชิกที่ไม่ใช่องค์กรธุรกิจอีก 3,000 ราย ในกว่า 160 ประเทศ และเครือข่ายท้องถิ่นมากกว่า 60 เครือข่าย มันจึงเป็นโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดตาม @globalcompact บนโซเชียลมีเดียและเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.unglobalcompact.org.

เกี่ยวกับ United Nations Office for Partnerships

The United Nations Office for Partnerships (UNOP) ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ระดับโลกสำหรับการเร่งปฏิกิริยาและการสร้างพันธมิตรแบบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่มเพื่อความก้าวหน้าในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) โดย UNOP จัดทำแพลตฟอร์มสำหรับการมีส่วนร่วมของพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพและการทำงานเพื่อยกระดับสินทรัพย์และความเชี่ยวชาญของคู่ค้าที่หลากหลายในการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน  UNOP จะกำกับดูแลกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (the United Nations Fund for International Partnerships) กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งสหประชาชาติ (the United Nations Democracy Fund) ศูนย์ปฏิบัติการ SDG และผู้ให้การสนับสนุน SDG ของสำนักงานเลขาธิการ  the Secretary-Generals’ SDG Advocates

เยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมที่: https://www.un.org/partnerships/content/welcome-united-nations-office-partnerships.

เกี่ยวกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2462 และอุทิศตนให้กับการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม และสิทธิมนุษยชนและแรงงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลโดยการปฏิบัติภารกิจตามพันธกิจว่าด้วยสันติภาพแรงงานซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จ  ในวันนี้ ILO ช่วยสร้างความก้าวหน้าในด้านการสร้างงานที่ดีและสภาพเศรษฐกิจและการทำงานที่เหมาะสมให้ผู้คนและนักธุรกิจมีส่วนร่วมในสันติภาพ ความเจริญ และความก้าวหน้าที่ยั่งยืน โครงสร้างไตรภาคีช่วยวางแพลตฟอร์มที่ไม่เหมือนใครในการส่งเสริมการทำงานที่ดีสำหรับผู้หญิงและผู้ชายทุกคน

โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีของ ILO (ILO-WED) เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และดำเนินงานมานานกว่าทศวรรษ โดย ILO-WED ทำงานเพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิงโดยดำเนินการอย่างเป็นทางการเพื่อสนับสนุนผู้หญิงในการเริ่มต้นธุรกิจ การจัดทำเอกสารทางการและการเติบโตทางธุรกิจของพวกเขา โดยการทำให้ประเด็นความเสมอภาคทางเพศถูกรวมเข้าสู่การทำงานของ ILO ในด้านการพัฒนาองค์กร

เว็บไซต์: www.ilo.org/wed | ทวิตเตอร์ – @ILOWED | Facebook – ILO WED (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ)

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190923005285/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Mary Kay Inc.

Michael Wassmer

media@mkcorp.com

+1-972-687-5332

ICF Next

Grace Kramer

grace.kramer@icfnext.com

+1-847-363-9077

UN Women

Oisika Chakrabarti

oisika.chakrabarti@unwomen.org

+1-646-781-4522

International Trade Centre

Jarle Hetland

hetland@intracen.org

+41 (0)22 730-0145

ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงีและท่าอากาศยานฮ่องกงเป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ

Logo

ภูมิภาคเอเชียเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยาน 18 แห่งจากการจัดอันดับ 50 อันดับของ  Top 50 Global และเป็นที่ตั้งของ 11 ท่าอากาศยานจาก 25 อันดับท่าอากาศยานสำหรับกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำของ LCC Megahubs

ข้อค้นพบที่สำคัญ

  • ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (SIN) อยู่อันดับที่เก้าของโลก  เป็นสนามบินที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นปีที่สองติดต่อกัน
  • สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) เป็นเมืองที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ LCC Megahub
  • สองสนามบินหลักของอินเดีย ได้แก่ สนามบินเดลี (DEL) และสนามบินมุมไบ (BOM) ติดอันดับอยู่ใน 50 อันดับแรกของ Top 50 Global Megahubs

สิงคโปร์ – (BUSINESS WIRE) – 23 ก.ย. 2562

OAG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลกด้านข้อมูลการเดินทางและข้อมูลเชิงลึกที่ได้เปิดเผยดัชนีชี้วัดของ Megahubs Index 2019 ในวันนี้ โดยการวิเคราะห์ในครั้งนี้แสดงผลว่าด้วยสนามบินที่มีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุด 50 อันดับในโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190922005002/en/

The Top 5 Megahubs in the World (Photo: Business Wire)

5 อันดับต้น ๆ หรือ Top 5 Megahubs ในโลก (ภาพ: Business Wire)

สิงคโปร์ (SIN) ยังคงเป็นผู้นำในเอเชียแปซิฟิกในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยอยู่ในอันดับที่เก้าของโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน ฮ่องกงตามมาที่อันดับที่สองในระดับภูมิภาค โดยก้าวกระโดดจากลำดับที่ 13 มาอยู่ที่ลำดับ 10 ในการจัดลำดับโลก เพราะมีการเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างประเทศร้อยละ 1.5

สนามบินอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิกอีก16 แห่งติดอันดับ Top 50 Global Megahubs เช่นกัน โดยมี อินชอน (ICN), กัวลาลัมเปอร์ (KUL), กรุงเทพ (BKK) และจาการ์ตา (CGK) ติดอันดับใน 20 อันดับแรก ส่วนสนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง (PVG) ติดอันดับ 25 อันดับแรก และเป็นสนามบินที่อยู่ในอันดับสูงที่สุดสำหรับประเทศจีน

สนามบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีสถานะที่แข็งแกร่งในกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ low-cost carrier (LCC) เช่นกัน โดยที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ยังคงความเป็นผู้นำในฐานะ LCC Megahub ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก โดยมีแอร์เอเชียเป็นสายการบินแกนนำที่โดดเด่นด้วยเที่ยวบินร้อยละ 41ของเที่ยวบินทั้งหมด สนามบินอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับสูงด้าน  LCC Megahubs ได้แก่ มะนิลา (MNL) ซึ่งขยับขึ้นมาสองอันดับจากปีที่แล้วมาอยู่ที่อันดับที่สอง ตามมาด้วยสนามบินนิวเดลี (DEL) และสนามบินดอนเมืองประเทศไทย (DMK)

“การเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารที่เชื่อมต่อด้วยตนเองและนักเดินทางทั่วโลกทำให้เกิดความต้องการ Megahubs แบบที่มีต้นทุนต่ำ – และสนามบินในเอเชียเป็นศูนย์กลางของแนวโน้มนี้” Mayur (Mac) Patel หัวหน้า JAPAC ของ OAG กล่าว

ดูดัชนี Megahubs เต็ม ปี 2562 ได้ ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทางชั้นนำระดับโลกที่เสริมสร้างการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศตั้งแต่ปี 2472

เราเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ระดับโลก ตลอดจนถึงสนามบิน สายการบิน และผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อออกแบบบริการที่ดีที่สุดในปัจจุบันและนวัตกรรมที่ดีที่สุดของวันพรุ่งนี้

OAG ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร มีการดำเนินงานทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, ลิทัวเนีย และจีน

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190922005002/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Caroline Mather

pressoffice@oag.com

ส่องการประชุม “S BLOCK Dubai 2.0 Summit”

Logo

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์—(BUSINESS WIRE)–20 กันยายน 2562

การประชุม “S BLOCK Dubai 2.0 Summit” มีกำหนดการจัดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน ณ เฟสติวัล อารีน่า นครดูไบ การประชุมจะเน้นอภิปรายเนื้อหาด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมถึง 3,500 คน การประชุมนี้แสดงถึงสัญลักษณ์ความสำเร็จในการอัปเกรดระบบนิเวศและมติมหาชนระดับโลกของ S BLOCK 

กระเป๋าเก็บเงินดิจิทัล Interstellar เข้าสู่ยุค 2.0

ภายใต้คอนเซ็ปต์หลักของบล็อกเชน การซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ การลงทุน และเทคโนโลยีการเก็บเงินดิจิทัลได้เริ่มเป็นที่รู้จักต่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง S BLOCK จึงใช้โอกาสนี้ในการส่งต่อมติมหาชนระดับโลกอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น 3 เดือนในการลงสู่ตลาด ระบบซื้อขาย Interstellar ก็พร้อมสำหรับการอัปเกรดรอบสอง และพร้อมเดินหน้าเข้าสู่ยุค 2.0

S BLOCK พร้อมเป็นชุมชนที่ดูแลการเก็บข้อมูลรายการทำธุรกรรมสาธารณะ สร้างฟังก์ชั่นการทำงานหลักผ่านทางออนไลน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม 6 บริการ ได้แก่ กระเป๋าเก็บเงิน ดิจิทัลแบบ cross-chain การซื้อขายหุ้น Plan Flash ระบบ S Pay, MasterNodes และ Wormhole Chat

ในงานนี้มีการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญคริปโตเคอเรนซี่ระดับโลก การรวมมติมหาชนของชุมชนระดับโลก การให้ความสำคัญกับสื่อแนวหน้าเพื่อเป็นสักขีพยายานในการเปิดตัวแผนกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมดของ S BLOK 

ฟังก์ชั่นออนไลน์หลักของกระเป๋าเก็บเงิน Interstellar Wallet 2.0

1. เป็นกระเป๋าเก็บเงินดิจิทัล cross-chain แบบ HD

ฟังก์ชั่นของกระเป๋าเก็บเงินดิจิทัล cross-chain แบบ HD ประกอบด้วย:

-สร้างกระเป๋าเก็บเงินดิจิทัลที่มีข้อมูลรายการทำธุรกรรมสาธารณะ ตั้งค่า PIN และแบ็คอัพ mnemonic

-นำเข้ากระเป๋าเก็บเงินผ่าน mnemonic

-แสดงข้อมูลสินทรัพย์และบันทึกการชำระเงิน

-แสดงข้อมูลปริมาณคริปโตเคอเรนซี่ต่าง ๆ และการแปลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทั้งหมด

-สามารถแปลงสินทรัพย์ (*สัญลักษณ์) เพื่อซ่อนจากอินเทอร์เฟซ

2. ชนิดของโทเค็นเพิ่มขึ้น รวมทั้งโทเค็นสำหรับซื้อขาย

ทางเราสามารถรวบรวมผู้ใช้/ผู้ใช้โทเค็น/ผลตอบแทนจากการลงทุนของตลาดหุ้นหลักพร้อมกับชุมชนขนาดใหญ่ โดยรวบตึงปริมาณทั้งหมดเข้าด้วยกัน

3. SBO สามารถแลกเปลี่ยนเป็น BTC, ETH, USDT (ERC20) ได้

4. เพิ่มการรายงานเชิงปริมาณของ Interstellar 

-แสดงการแลกเปลี่ยนปริมาณเครดิตของ Interstellar สถิติการบันทึกเชิงปริมาณ และข้อมูลอื่น ๆ ข้อมูลแฟ้มเชิงปริมาณ SROBOT

5. การสร้างโหนด MasterNodes 

เทคโนโลยีการขุดเงินดิจิทัลของ MasterNodes ที่พัฒนาอย่างสมบูรณ์จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ ระดับค่าตอบแทนคาดการณ์ว่าสูงกว่าปริมาณของ Interstellar 

6. Lightning Project: การปล่อยเช่า DPU เสร็จสิ้น

DPU จะกลายเป็นแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้แบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูล

7. ช่องทางการสมัคร S PAY – S Card 

ในการประชุมครั้งนี้ เราจะทำการประกาศช่องทางการสมัคร S PAY – S Card ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถสมัคร S PAY – S Card และรับการ์ดบนจุด ส่วน S Pos และ S ATM จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190919005963/en/

ติดต่อ:

SBLOCK FOUNDATION PTE. LTD

Jennifer Bialek

contacts@sblock.com

www.sblock.com

การเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อเสริมสร้างการร่วมมือด้านการค้าและการเงิน

Logo

ปักกิ่ง–(BUSINESS WIRE)–20 กันยายน 2562

งานแสดงสินค้าระหว่างประเทศจีนและอาเซียน ครั้งที่ 16 มีกำหนดการจัดขึ้นที่หนานหนิง มณฑลกว่างซี ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่วันที่ 20- 23 กันยายน พ.ศ.2562 ตามที่นาย หวัง เล่ย ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานเลขาธิการการจัดงานแสดงสินค้าเอ็กโปรระหว่างจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่าจะมีการจัดนิทรรศการการบริการด้านการเงินขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการนานาชาติหนานหนิง โดยสถาบันการเงินมีความประสงค์ที่จะแสดงการนิทรรศการณ์เพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศ การตั้งฐานด้านการเงินระหว่างประเทศ, Fintech, ITFIN โดยมีสถาบันการเงินบางแห่งได้ยืนยันการเข้าร่วมกับข้อตกลงนี้ เช่น ธนาคารแห่งประเทศจีน ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน ธนาคารเพื่อการก่อสร้างของจีน ธนาคาร DBS แห่งประเทศสิงคโปร์ ฯลฯ

จากข้อมูลมีธนาคารจาก 10 ประเทศของสมาชิกอาเซียน ได้จัดตั้งสาขาอยู่ในประเทศจีนทั้งหมด 36 แห่ง โดยธนาคารจากสิงคโปร์และประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นธนาคารที่มีจำนวนสาขาในประเทศจีนมากที่สุด ธนาคารของประเทศไทยจำนวน  3 ธนาคาร ได้เปิดสาขาอยู่ในประเทศจีนทั้งสิ้น  9 แห่งซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ ธนาคารกรุงเทพได้จัดตั้งสาขาจำนวน 4 แห่งในกรุงปักกิ่ง และเซียงไฮ โดยธนาคารเหล่านี้ได้ทำหน้าที่เป็นสถาบันการเงินเพื่อส่งเสริมธุรกิจต่าง ๆ เช่นธุรกิจขายส่งและค้าปลีก ธนาคารเหล่านี้ดำเนินธุรกิจด้านการธนาคารและยังคงมีความหลากหลาย ในทางกลับกันจำนวนสาขาของสถาบันการเงินของประเทศจีนก็กำลังเพิ่มขึ้นในในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย

นอกจากนี้จีนและกลุ่มประเทศอาเซียนยังส่งเสริมการจัดตั้งธนาคารเครือข่ายการตั้งถิ่นฐานแบบทวิภาคีของ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตั้งถิ่นฐานการค้าระหว่างประเทศ โดยจีนได้แนะนำการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยตรง รวมถึงค่าเงินหยวนเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ริงกิตและเงินบาท สร้างรายชื่อเงินหยวนกับเงินเรียลของประเทศกัมพูชา ประเทศจีนยังได้บรรลุข้อตกลงกับสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทยและประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มนักลงทุนสถาบันเงินที่ผ่านการรับรองจากหยวน (RQFIIs) โดยมีมูลค่าการลงทุนเท่ากับ 200,000 ล้านหยวน และเครื่อข่ายการแลกเปลี่ยนสกุลเงินท้องถิ่นรูปแบบทวิภาคีมีจำนวนเท่ากับ 650 ล้านหยวน การตั้งถิ่นฐานการค้าระหว่างประเทศ ช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ลดต้นทุนการแลกเปลี่ยนในการชำระบัญชีขององค์กร ในปีพ.ศ. 2561 ประเทศจีนได้ออกแผนโดยรวมของเขตปกครองตนเองกว่างซี จ้วงเพื่อสร้างการเปิดตัวทางการเงินสู่อาเซียน และ  แผนโดยรวมของทางเดินทะเลฝั่งตะวันตกใหม่ของประเทศ  ในปี2562 ประเทศจีนได้อนุมัติให้จัดตั้งเขตการค้าเสรีนำร่องในกว่างซี เพื่อขยายความร่วมมือกับอาเซียนส่งเสริมการเปิดเสรีการลงทุนและนวัตกรรมบริการด้านการเงิน เงินลงทุนเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการก่อสร้างที่เสนอโดยความร่วมมือทางการเงินของบีอาร์ไอ โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างชุมชนจีน-อาเซียนให้เป็นสังคมที่มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นในอนาคต

งานแสดงสินค้าเอ็กโปรระหว่างประเทศจีนและกลุ่มประเทศอาเซียนได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่นนิทรรศการบริการด้านการเงินการประชุมสุดยอดของประเทศจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน ในด้านความร่วมมือทางการเงินและการพัฒนาซึ่งจัดขึ้นเป็นจำนวน 10 ครั้ง มีสถาบันเข้าร่วมมากกว่า 1,000 แห่ง ผู้นำการเงินและผู้นำธุรกิจกว่า 3,500 คนจากประเทศจีน ประเทศอาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆได้เข้าร่วมงานแสดงนี้อย่างล้นหลาม

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ยูจี

บ. คิวฉี มีเดีย คาลเจอร์ จำกัด

E-mail:media.yu@foxmail.com

เว็บไซต์: www.queqicn.com

เบอร์โทร.: 17740545989

ตัวละคร Nero จาก Devil May Cry Series ถูกรวมเข้าไปใน TEPPEN ให้ผู้เล่นพร้อมใช้งานในการแข่งขัน World Championship ในเดือนธันวาคม

Logo

ผู้เล่นสามารถร่วมลุ้นการแจกของรางวัลซึ่งเป็นการฉลองการดาวน์โหลดครบ 3 ล้านครั้ง ภายในระยะเวลาที่จำกัด

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–19 กันยายน 2562

อีกหนึ่งตำนานของ Capcom กำลังจะถูกรวมเข้าไปใน TEPPEN ซึ่งทันเวลาพอดีสำหรับการแข่งขัน TEPPEN World Championship ครั้งแรก! โดย GungHo Online Entertainment, Inc. (GOE) (TOKYO: 3765) ประกาศว่าตัวละคร Nero จาก Devil May Cry ซีรีส์ จะเป็นตัวละครใหม่ล่าสุดที่เข้ามาสมทบตัวละครที่น่าทึ่งตัวอื่น ๆ จากจักรวาล Capcom โดย Nero จะเข้าร่วมฮีโร่อีกเก้าคนซึ่งรวมถึง ริวและชุนหลีจาก Street Fighter และยังมี Morrigan จาก Darkstalkers และ Dante จาก Devil May Cry ทั้งนี้ Nero และและชุดการ์ดเสริมของ TEPPEN ใหม่จะได้รับการวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2562

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่:https://www.businesswire.com/news/home/20190919005291/en/

GungHo Online Entertainment announced Nero of the Devil May Cry series will be the latest addition to the amazing cast of icons from the Capcom universe. Nero will join nine other heroes including the likes of Street Fighter series’s Ryu and Chun-Li, Darkstalkers series’s Morrigan, and Devil May Cry series's Dante. Nero and a new TEPPEN card set expansion will be released in November 2019 and will be playable at the first-ever TEPPEN World Championship tournament taking place on Dec. 21, 2019 (Graphic: Business Wire)

GungHo Online Entertainment ประกาศว่า Nero จากซีรีส์ Devil May Cry จะเป็นตัวละครชื่อดังตัวใหม่ล่าสุดที่มาจากจักรวาล Capcom ที่จะเข้าร่วมฮีโร่อีกเก้าคน ซึ่งรวมถึง Ryu และ Chun-Li ซีรี่ส์ Street Fighter และยังมี Morrigan จาก Darkstalkers และ Dante จากซีรีส์ Devil May Nero ทั้งนี้การ์ดชุดเสริมของ TEPPEN ชุดใหม่นี้จะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2562 และจะสามารถถูกใช้เล่นได้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก TEPPEN ครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2562 (ภาพ: Business Wire)

แฟน ๆ ของ Nero จะมีความสุขที่จะได้รู้ว่าพวกเขาสามารถเล่นเป็นตัวละครตัวนี้ได้ในช่วงการแข่งขัน TEPPEN World Championship ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 21 ธันวาคม 2562 โดยผู้เล่นจากทั่วโลกจะแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัล 50 ล้านเยน (ประมาณ 5 แสนเหรียญสหรัฐ)

ผู้เล่นสามารถผ่านเข้าไปแข่งขันในรายการนี้ได้โดยผ่านการคัดตัวออนไลน์ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 2 ตุลาคม รอบคัดเลือกจะแบ่งออกเป็นสี่ภูมิภาค ญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย หลังจากจบรอบคัดเลือก ผู้เล่นสามอันดับแรกจากแต่ละภูมิภาคจะแข่งขันเพื่อชิงแชมป์โลก TEPPEN สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการลงทะเบียนสำหรับรอบคัดเลือก สามารถเข้าไปที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 29 กันยายน GungHo จะฉลองการเพิ่มขึ้นของการดาวโหลดเกมครบ 3 ล้านครั้งโดยให้รางวัลกลับคืนสู่แฟน ๆ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้เล่นจะได้รับตั๋วแบบ Pack Ticket "DAY OF NIGHTMARES" หนึ่งใบต่อวันเพียงแค่ล็อกอินเข้าสู่ระบบ และจะมีผู้เล่นโชคดีที่ถูกสุ่มมาจำนวน 10 คน ที่จะได้รับรางวัลตั๋ว DAY OF NIGHTMARES” Pack Tickets แบบ 30 ใบ

เกี่ยวกับ TEPPEN

มีทางเดียวเท่านั้นที่จะขึ้นไปสู่จุดสูงสุด นั่นก็คือการเล่น TEPPEN! โดย TEPPEN เป็นเกม Ultimate Card Battle ที่คุณสามารถเล่นในแบบเรียลไทม์พร้อมการใช้ท่าแอคชั่นแบบมีไดนามิกที่มีการโจมตีแบบ สุดยอดจนหน้าจอของคุณแทบจะระเบิด ด้วยกราฟิกที่น่าอัศจรรย์และระบบการต่อสู้ที่ทันสมัย TEPPEN จึงเป็นเกมไพ่ที่เหนือกว่าเกมไพ่อื่น ๆ ทั้งหมด! เล่นเป็นตัวละครฮีโร่ยอดนิยม จาก Monster Hunter, Devil May Cry, สตรีทไฟท์เตอร์, Resident Evil และซีรีส์อื่น ๆ ในการต่อสู้แอ็คชั่นแบบรวมดาวตัวละครจาก Capcom ที่สุดยอดที่สุด!

©GungHo Online Entertainment, Inc. All Rights Reserved.

©CAPCOM CO., LTD. ALL RIGHTS RESERVED.

©CAPCOM U.S.A., INC. ALL RIGHTS RESERVED.

เว็บไซต์ทางการ TEPPEN: https://teppenthegame.com/

Twitter: https://twitter.com/PlayTEPPEN

Google Play Store

https://play.google.com/store/apps/details?id=jp.gungho.teppen

App Store

• มาเลเซีย

https://apps.apple.com/my/app/id1460764653

• สิงคโปร์

https://apps.apple.com/sg/app/id1460764653

• ไทย

https://apps.apple.com/th/app/id1460764653

• ฟิลิปปินส์

https://apps.apple.com/ph/app/id1460764653

• ออสเตรเลีย

https://apps.apple.com/au/app/id1460764653

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190919005291/en/

ติดต่อ:

GungHo Online Entertainment, Inc.

ฝ่ายการขายและการตลาด

Mayumi Mori

+81-3-6895-1672

mmori@gungho.jp

Mary Kay เผยการค้นพบครั้งใหม่เกี่ยวกับแรงต้านแรงโน้มถ่วงในงานประชุมประจำปีสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนังครั้งที่ 49

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–18 กันยายน 2562

Mary Kay Inc. ผู้นำด้านนวัตกรรมดูแลผิว สานต่อความมุ่งมั่นด้านศาสตร์การดูแลผิวพรรณที่ยาวนานกว่าทศวรรษ ด้วยการเปิดเผยงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการหาสาเหตุและกระบวนการที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ในงานประชุมประจำปีครั้งที่ 49 ของสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนังหรือ European Society for Dermatological Research (ESDR) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน ในเมืองบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูเนื้อหาแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190917006232/en/

งานประชุมประจำปีครั้งที่ 49 ของ ESDR ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Connecting Skin Science and Health” ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังระดับแถวหน้าของยุโรปมารวมกัน และเปิดโอกาสให้ Mary Kay ได้เผยถึงความก้าวหน้าล่าสุดด้านเทคโนโลยีและการค้นพบใหม่ ๆ เกี่ยวกับสุขภาพผิว

การที่ผิวหนังหย่อนคล้อยไม่กระชับนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นกับคนในช่วงวัยอายุสี่สิบหรือห้าสิบ โดยไม่เกี่ยวกับรูปแบบการใช้ชีวิตหรือสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอแต่อย่างใด แต่การที่ร่างกายต้องเจอกับแรงโน้มถ่วงโดยธรรมชาตินั้นเป็นสาเหตุให้ผิวหน้าบริเวณร่องแก้มเกิดริ้วรอยและผิวหนังบริเวณกรอบหน้าและคอหย่อนคล้อย

“เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องผิวหนังหย่อนคล้อย เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยยกกระชับผิวแบบเฉพาะจุด” Dr. Lucy Gildea ผู้อำนวยการสูงสุดด้านวิทยาศาสตร์แห่ง Mary Kay Inc. กล่าว “นักวิทยาศาสตร์ของเราได้ทำการทดสอบวัตถุหลายร้อยชนิดกับเซลล์ผิวหนังของมนุษย์เพื่อหาส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการช่วยเพิ่มกรดไฮยาลูรอนและคอลลาเจนที่มีตามธรรมชาติ ซึ่งการลดลงของสารสองชนิดนี้เป็นสาเหตุให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เพปไทด์และเซลล์เจริญที่มีคุณสมบัติเฉพาะจากบัวบกหรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica มีประสิทธิภาพที่โดดเด่น นั่นเป็นสาเหตุที่เราเลือกให้เป็นส่วนผสมสำหรับเซรั่มเพื่อความงามของเรา ซึ่งประสิทธิภาพของเซรั่มดังกล่าวผ่านการรับรองจากห้องทดลองของเราและผ่านการทดสอบทางคลินิกกับผิวหนังโดยผู้หญิง* นี่คือวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์เซรั่มยกกระชับผิว TimeWise Repair® Volu-Firm® ของเรา” Dr. Gildea อธิบาย

ภายใต้การนำของ Dr. Gildea ทีมวิจัยและพัฒนาของ Mary Kay ประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงที่คว้าปริญญาเอกและจบหลักสูตรขั้นสูงในสาขาวิชาต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ ชีววิทยาผิวหนัง ชีววิทยาของเซลล์ เคมี ชีวเคมี และอื่น ๆ อีกมากมาย นักวิทยาศาสตร์ทีมนี้มีความมุ่งมั่นที่จะค้นหาแนวโน้มและเทคโนโลยีที่ทำให้บริษัทสามารพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการและมีประโยชน์ให้กับผู้บริโภค

ในทุก ๆ ปี Mary Kay จะทำการทดสอบทางวิทยาศาสตร์กับผลิตภัณฑ์และส่วนประกอบหลายแสนครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานสูงสุดทั้งด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพ Mary Kay เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรกว่า 1,500 รายการ ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดศูนย์ผลิตและวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ที่มีความทันสมัยและมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ในลูอิสวิลล์ รัฐเท็กซัส

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 55 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนใน 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ MaryKay.com

*ในการศึกษาทางคลินิก ผู้หญิง 45 คน ใช้เซรั่มทาผิวหน้าวันละสองครั้งเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าผิวหน้าเต่งตึงและกระชับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ผ่านไป 4, 8 และ 12 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ นอกจากนี้ อย่างน้อย 98% ของผู้ใช้พบความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลาย ๆ ด้านเกี่ยวกับการยกกระชับตามแนวใบหน้า (แก้ม/กรอบหน้า)

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190917006232/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

Zynga เปิดตัว Merge Magic! เกมปริศนาใหม่ที่จะพาคุณสู่การผจญภัยเพื่อถอนคำสาป

Logo

หลังการเปิดตัวเกมยอดฮิตอย่าง Merge Dragons! เกม Merge Magic! พร้อมให้ผู้เล่นร่ายมนต์เพื่อปลุกสิ่งมีชีวิตในตำนานตัวใหม่ขึ้น

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–18 กันยายน 2562

วันนี้ Zynga Inc. (Nasdaq: ZNGA) ผู้นำด้านอินเทอร์แอคทิฟเกมระดับโลก ได้ประกาศถึงการเปิดตัวทั่วโลกของเกม Merge Magic! เกมปริศนาผจญภัยใหม่ล่าสุดที่ให้ผู้เล่นถอนคำสาปในโลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ด้วยการจับคู่ไอเท็มที่ต่อกันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทต่าง ๆ เพื่อคว้ารางวัลที่จะช่วยปลดล็อคเซอร์ไพรส์ที่น่าหลงใหลตลอดเส้นทางการผจญภัย

New Puzzle Adventure Game Merge Magic! (Graphic: Business Wire)

Merge Magic! เกมพัซเซิลผจญภัยใหม่ล่าสุด (กราฟิก: Business Wire)

Merge Magic! พัฒนาขึ้นโดย Gram Games สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังเกมอย่าง Merge Dragons!, 1010! และ Six! ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มาพร้อมกับกราฟิกใหม่ที่หรูหราสวยงามและดึงดูด ให้คุณรู้สึกเหมือนท่องเที่ยวอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยสัตว์ในนิยายที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หากคุณเคยสงสัยว่าหากนกยูงและแมวมารวมกันหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร Merge Magic! จะพาคุณไปรู้จักกับสัตว์ที่มีชื่อว่า ‘Peacat’ หนึ่งในสัตว์ที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหน ซึ่งเกิดจากการผสมผสานที่คุณไม่เคยจินตนาการมาก่อน และสามารถหาชมได้ในเกมนี้เท่านั้น

“เราต้องการสร้างเกมปริศนารูปแบบใหม่ที่ผู้เล่นสามารถผสมผสานอะไรก็ได้เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตในตำนานตัวใหม่ที่ไม่เคยมีผู้คนเคยพบเห็นมาก่อนขึ้นมา” Eren Yanik ผู้อำนวยการสูงสุดด้านผลิตภัณฑ์ของ Gram Games กล่าว ““สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน Merge Magic! เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก และเป็นการนำเกมประเภท ‘จับคู่ภาพ’ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเราไปสู่มาตรฐานใหม่ที่จะทำให้ผู้คนหลงใหลยิ่งขึ้น ผู้เล่นจะได้สนุกกับเรื่องราวการออกสำรวจที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและดำดิ่งไปในการผจญภัยของพวกเขา ขณะที่ในอนาคต ผู้เล่นยังจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเกมในรูปแบบต่าง ๆ และสนุกกับการเล่นเกมมากขึ้น ซึ่งเรามีแผนที่จะปล่อยส่วนเสริมเกมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและวันฮาโลวีนที่กำลังจะถึงนี้”

ใน Merge Magic! ผู้เล่นจะได้พบกับเรื่องเล่าที่น่าติดตามพร้อมการทำภารกิจในโลกที่เต็มไปด้วยความลึกลับอย่าง Mythia สถานที่ที่พวกเขาสามารถสร้างไอเท็มชนิดใหม่ที่ทรงพลังสำหรับการผจญภัยด้วยการ ‘ผสมผสาน’ สิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ในเกม ความหวังเดียวที่จะยกเลิกคำสาปจากดินแดนต้องมนต์นี้ได้ขึ้นอยู่กับพลังของผู้เล่นในการนำไข่ ต้นไม้ หีบสมบัติ ดวงดาว ดอกไม้วิเศษ และสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายมาผสมผสานกันขึ้นเป็นไอเท็มใหม่

Merge Magic! จะพาผู้เล่นเดินทางสู่โลกแห่งจินตนาการใบใหม่ ที่พวกเขาจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตในตำนาน เช่น ยูนิคอร์นที่มีพลังวิเศษ และนางฟ้าฟีสตี้y และสร้างสิ่งมีพันธ์ใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน เช่น ช้างที่ถูกนำมาผสมกับผีเสื้อเป็นสัตว์ที่มีชื่อว่า butterphant” Bernard Kim ประธานฝ่ายเผยแพร่เกมของ Zynga กล่าว “ผู้เล่นจะได้ใช้เวลาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานในการค้นหาของวิเศษใหม่ ๆ สร้างสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ขึ้น และแก้คำสาปในอาณาจักรลี้ลับแห่งใหม่”

ไข่สามารถฝักออกมาเป็นสัตว์ประหลาด ซึ่งจะเติบโตขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิตลูกผสมชนิดใหม่ที่มีพลังวิเศษ ผู้เล่นจะได้พบและแก้ปริศนาต่าง ๆ ในแต่ละด่าน ซึ่งพวกเขาจะต้องจับคู่ไอเท็มเพื่อชนะ จากนั้นนำรางวัลที่ได้กลับไปยังสวนของพวกเขาเพื่อสะสมและปลูกสิ่งพืชใหม่ ๆ ขึ้น

เตรียมตัวให้พร้อมกับการเผยเวทมนต์จากการสร้างสิ่งมีชีวิตใหม่ ๆให้กับสวนของคุณ และฟูมฟักสิ่งมีชีวิตอันน่าทึ่งที่คุณไปผู้ให้กำเนิด!

คุณสมบัติเกม:

  • ค้นหาของวิเศษที่มีมากกว่าร้อยชิ้น จับคู่และผสมผสานกันเพื่อเอาชนะด่านต่าง ๆ กว่า 80 ด่าน!
  • ปลุกชีวิตสัตว์ในตำนานอย่างนางฟ้า ยูนิคอร์น มินะทอร์ และสิ่งมีชีวิตพันธ์ผสมที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน เช่น Peacats (นกยูงผสมแมว) และอื่น ๆ อีกมากมาย
  • ต่อสู้เพื่อกำจัดหมอกที่ปกคลุมสวนที่ต้องคำสาปอยู่และถอนคำสาปนั้นเพื่อปลุกสิ่งมีชิวิตขึ้นใหม่ และพาเหล่าสิงสาราสัตว์กลับบ้าน!
  • คอยระวังเหล่าแม่มด: ระหว่างการผจญภัยที่เต็มไปด้วยปริศนา ผู้เล่นอาจจะต้องเผชิญหน้ากับแม่มดร้ายระหว่างทาง ต้องระวังให้ดี!
  • เข้าร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเก็บรางวัลและไอเท็มที่จะช่วยผ่านด่าน และนำกลับไปยังสวนของคุณ

Merge Magic! พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้ที่ iOS และ Android

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:

  • ดูส่วนสนับสนุนสำหรับเกม Merge Magic! รวมถึงวิดีโอตัวอย่าง กรุณาคลิกที่นี่

เกี่ยวกับ Zynga Inc.

Zynga คือผู้นำระดับโลกด้านความบันเทิงแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเป้าหมายเชื่อมโยงโลกด้วยเกม ปัจจุบัน มีผู้เล่นเกมที่เป็นแฟรนไชส์ของ Zynga อย่าง CSR Racing™, Empires & Puzzles™, Merge Dragons!™, Words With Friends™ และ Zynga Poker™ มากกว่าหนึ่งพันล้านคน เกมของ Zynga สามารถเข้าถึงได้จากกว่า 150 ประเทศและสามารถเล่นผ่านสื่อออนไลน์และอุปกรณ์มือถือได้จากทุกแห่งทั่วโลก Zynga ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครซานฟรานซิสโก และมีสำนักงานหลายแห่งทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์  อินเดีย ตุรกีและฟินแลนด์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.zynga.com หรือติดตาม Zynga ผ่านทาง Twitter และ Facebook

เกี่ยวกับ Gram Games

Gram Games เป็นสตูดิโอพัฒนาเกมมือถือที่มีพันธกิจในการนำเสนอเกมโซเชียลคุณภาพสูงที่จะเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันผ่านการเล่นเกม บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ก่อนที่จะถูก Zynga เข้าซื้อกิจการไปเมื่อปี 2018 บริษัท Gram Games ได้สร้างทีมที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มุ่งมั่นกับการสร้างสรรค์เกมสำหรับมือถือจากสตูดิโอมในลอนดอนและอิสตันบลู ซึ่งเกมเหล่านั้นประกอบด้วย Merge Dragons! และ 1010! สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.gram.gs

แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า ที่เกี่ยวข้องกับ และเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มส่วนเสริมเกม Merge Magic! ในอนาคต แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้ามักประกอบด้วยข้อความ เช่น “สังเกตการณ์” “คาดการณ์” “วางแผน” “ตั้งใจ” “จะ” “คาดหมาย” “เชื่อว่า” “ตั้งเป้า” “คาดหวัง” และคำแถลงรณ์ในอนาคตที่แสดงความหมายล่วงหน้า การบรรลุผลและความสำเร็จของเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าจะเกี่ยวข้องกับภัยเสี่ยง ความไม่แน่นอน และการสันนิษฐานสำคัญ ๆ ความน่าเชื่อถือที่ไม่เพียงพอไม่ควรบรรจุไว้ในแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าว ซึ่งจะอยู่ในข้อมูลปัจจุบันของเรา เราขอรับผิดชอบพันธกรณีในการเปลี่ยนแปลงคำแถลงการณ์ดังกล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยเสี่ยง ความไม่แน่นอน และการสันนิษฐานได้รับ/หรือจะได้รับการอธิบายด้วยรายละเอียดชัดเจนขึ้นในหนังสือชี้ชวนสาธารณะของเราต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) การคัดลอกสามารถทำได้โดยเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์แผนกความสัมพันธ์นักลงทุนที่ http://investor.zynga.com หรือเว็บไซต์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ www.sec.gov

ดูคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52091866/en

ติดต่อ:

Sarah Ross | Zynga
saross@zynga.com | 310-924-1404

หรือ

Kjell Vistad | Gilberto Williams-Gamboa
ONE PR Studio (สำหรับ Zynga ในสหรัฐอเมริกา) / zynga@oneprstudio.com / (510) 893-3271


อเมซอน สตูดิโอเผยนิวซีแลนด์เป็นสถานที่ถ่ายทำสำหรับซีรี่ส์ใหม่อิงเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์

Logo

โคลเวอร์ซิตี้ แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–17 ก.ย. 2562

(NASDAQ: AMZN) – อเมซอน สตูดิโอประกาศวันนี้ว่าซีรีส์ที่อิงจากนวนิยายแฟนตาซีในตำนานของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ลอร์ดออฟเดอะริงส์ จะถ่ายทำที่นิวซีแลนด์  พรีโปรดักชั่นได้เริ่มขึ้นแล้วและการผลิตซีรีย์จะเริ่มขึ้นในโอ๊คแลนด์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“ในการค้นหาสถานที่ที่เราจะสามารถเนรมิตความงามในยุคที่สองแห่งมิดเดิลเอิร์ธได้ เราทราบดีว่าเราต้องหาสถานที่อันสง่างามที่มีชายฝั่ง ป่าไม้ และภูเขาธรรมชาติบริสุทธิ์ที่มาพร้อมกับฉาก สตูดิโอ และบุคลากรที่มีทักษะและประสบการณ์ระดับโลก  เรายินดีที่จะยืนยันได้อย่างเป็นทางการว่านิวซีแลนด์จะเป็นบ้านของเราสำหรับการผลิตซีรีส์ใหม่ที่อิงเรื่องราวของ ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน” โปรดิวเซอร์นำและผู้อำนวยการผลิต J.D. Payne and Patrick McKay “เราขอขอบคุณประชาชนและรัฐบาลของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองโอ๊คแลนด์ที่ให้การสนับสนุนพวกเราในช่วงก่อนการผลิต  ความเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวกีวี่ที่ได้ต้อนรับเราทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่บ้านของเราเองและเราตั้งตารอที่จะเพิ่มความเป็นหุ้นส่วนของเราในปีต่อๆ ไป”

ซีรีย์ที่มีเรื่องราวในแดนมิดเดิลเอิร์ธจะนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ก่อนเรื่อง มหันตภัยแห่งแหวน ของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน  โดยเป็นผลงานวรรณกรรมที่โด่งดังระดับโลกและชนะรางวัล International Fantasy Award และ Prometheus Hall of Fame Award ลอร์ดออฟเดอะริงส์ เป็นนวนิยายที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนังสือเล่มโปรดของลูกค้าอเมซอนแห่งสหัสวรรษในปีค.ศ. 1999 และได้รับการยกย่องว่าเป็นนวนิยายยอดนิยมตลอดการของอังกฤษโดย The Big Read ของ BBC ในปี 2003  ชุดภาพยนตร์โดย New Line Cinema และผู้กำกับปีเตอร์ แจ็คสันทำรายได้รวมกันเกือบ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯทั่วโลกและคว้ารางวัล Academy Awards ถึง 17 รางวัลรวมถึง Best Picture

ผู้อำนวยการผลิตและโปรดิวเซอร์นำของซีรีย์นี้ ได้แก่ JD Payne และ Patrick McKay. JA Bayona (The Orphanage, Jurassic Park: Fallen Kingdom) จะกำกับสองตอนแรกและยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการผลิตร่วมกับคู่หู Belén Atienza  ผู้อำนวยการผลิตได้แก่ Lindsey Weber (10 Cloverfield Lane), Bruce Richmond (Game of Thrones), Gene Kelly (Boardwalk Empire), Sharon Tal Yguado, Gennifer Hutchison (Breaking Bad), Jason Cahill (The Sopranos), and Justin Doble (Stranger Things)

เกี่ยวกับ Prime Video

Prime Video เป็นบริการสตรีมมิ่งที่มอบประสบการณ์การชมวิดีโอดิจิตอลที่หลากหลายแก่ลูกค้า – โดยเป็นที่ที่สามารถค้นพบเนื้อหาที่ชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย

  • มาพร้อมกับ Prime: ชมภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ยอดนิยม รวมถึงรายการต้นฉบับที่ได้รับการยกย่องของ Amazon ซึ่งได้แก่รายการที่ได้รับรางวัล Emmy Award Marvelous Mrs. Maisel, Tom Clancy’s Jack Ryan, The Boys, Homecoming, Hanna, Fleabag, Good Omens, Donald Glover’s Guava Island หนังรางวัล Academy Award Manchester by the Sea และ The Salesman หนังชิงรางวัล The Big Sick และ Cold War, และ Beautiful Boy ที่ได้รับการยกย่อง รายการพิเศษ การถ่ายทอดสดกีฬา รวมถึงอเมริกันฟุตบอลคืนวันพฤหัส และเนื้อหาต้นฉบับและที่ได้รับลิขสิทธิ์จากกว่า 200 ประเทศและทวีปทั่วโลก
  • รับชมมากขึ้นด้วย Prime Video Channels: สมาชิก Prime สามารถเพิ่มช่องมากกว่า 150 ช่องในสหรัฐอเมริกาเช่น HBO, Cinemax, STARZ, SHOWTIME, CBS All Access, NBA League Pass และ MLB.tv โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นพิเศษหรือสมัครแพคเกจเคเบิล  โดยจ่ายเฉพาะช่องที่คุณต้องการและสามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา ดูรายชื่อช่องที่มีทั้งหมดได้ที่ amazon.com/channels
  • เช่าหรือซื้อ: เพลิดเพลินไปกับหนังหลายพันเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์ที่ออกใหม่และซีซั่นล่าสุดที่เปิดให้ลูกค้าของ Amazon เช่าหรือซื้อ
  • รับชมทันที: รับชมได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยแอพ Prime Video บนสมาร์ททีวี, อุปกรณ์มือถือ, Fire TV, แท็บเล็ต Fire, Apple TV, Chromecast, คอนโซลเกม, Comcast X1 หรือบนเว็บ ดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เลือกชมได้ทั้งหมดได้ที่ amazon.com/howtostream
  • ประสบการณ์ที่อลังการยิ่งขึ้น: รับชมทุกรายการได้อย่างเต็มที่ด้วยเนื้อหา 4K Ultra HD- และ High Dynamic Range (HDR)  ชมเบื้องหลังของภาพยนตร์และรายการทีวีที่คุณชื่นชอบด้วยX-Ray access โดย IMDb  เก็บไว้ชมภายหลังด้วยการเลือกดาวน์โหลดบนมือถือสำหรับการดูแบบออฟไลน์

นอกจากภาพยนตร์และรายการทีวีที่รวมอยู่ใน Prime แล้ว สมาชิก Prime ยังได้รับสิทธิจัดส่งด่วนฟรีสำหรับสินค้าทุกประเภทที่มีใน Amazon  เพลงมากกว่าสองล้านเพลงและเพลย์ลิสต์และสถานีนับพันรายการด้วย Prime Music จัดเก็บภาพอย่างปลอดภัยด้วย Prime Photos อ่านอย่างไม่จำกัดด้วย Prime Reading รับฟังหนังสือเสียงแบบดิจิทัลได้อย่างไม่จำกัดด้วย Audible Channels สำหรับ Prime เกมดิจิตอลฟรีแบบหมุนเวียนและไอเทมในเกมด้วย Twitch Prime โปรโมชั่นลดราคา Lightning Deals ส่วนลดราคาพิเศษเฉพาะรายการ และอื่นๆ อีกมากมาย  สมัคร Prime หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ amazon.com/prime

ดูต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190917006066/en/

ติดต่อ Amazon Prime Video
Alana Russo
Alana.Russo@amazonstudios.com

Tamara Golihew
tamara.golihew@amazonstudios.com

Enapter เปิดโรงงานผลิตเครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสแบบทีละชิ้น

Logo

กระบวนการผลิตแบบใหม่สามารถลดต้นทุนได้ 20 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มกำลังการผลิตได้ถึงแปดเท่า และผลิตไฮโดรเจนได้ในราคาที่สามารถจับต้องได้ยิ่งขึ้น

ปิซา, อิตาลี–(BUSINESS WIRE)–17 กันยายน 2562

Enapter ผู้ผลิตเครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสแบบแยกส่วน ประกาศเปิดโรงงานผลิตเครื่องผลิตไฮโดรเจนแบบทีละชิ้นแห่งใหม่ในเมืองปิซา กระบวนการผลิตที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ Enapter ได้ถึงแปดเท่าและลดต้นทุนเครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสได้มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ การยกระดับครั้งนี้ทำให้การผลิตไฮโดรเจนตามสถานที่ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้จริงและในราคาที่สามารถจับต้องได้ และสามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลายในทั่วทุกมุมโลก ได้แก่ อุปกรณ์เก็บพลังงาน พลังงานสำรอง พลังงานความร้อน การผลิตไฮโดรเจนสำหรับอุตสาหกรรม และยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน

การผลิตไฮโดรเจนมีแนวโน้มที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด ซึ่งยังคงถูกจำกัดด้วยเรื่องต้นทุนและความสามารถในการรองรับการขยายตัว เครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสรุ่น EL 2.0 ของ Enapter ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยี Anion Exchange Membrane (AEM) ที่จดสิทธิบัตร โดยเทคโนโลยี AEM ของ Enapter สามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งานของเครื่องผลิตไฮโดรเจนได้โดยใช้เพียงพืชในปริมาณที่เหมาะสมและไม่จำเป็นต้องใช้โลหะมีตระกูลใด ๆ การผลิตเครื่องแบบทีละชิ้นทำให้ Enapter ทำให้เครื่องผลิตไฮโดรเจนรุ่น EL 2.0 เข้าถึงฐานลูกค้าได้ในวงกว้างมากขึ้น ไปพร้อมกับการเพิ่มกำลังการผลิตรุ่น EL 2.1 ที่กำลังจะมาถึง

“โรงงานผลิตแห่งใหม่นี้เปรียบเสมือนอีกก้าวของความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับเรา” Sebastian-Justus Schmidt ประธานบริษัท Enapter กล่าว “ภารกิจของเราคือการทำให้การผลิตไฮโดรเจนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล และกระบวนการนี้จะช่วยให้เราผลิตเครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสให้กับโครงการต่าง ๆ ทั่วโลกได้ นี่คือก้าวที่สำคัญที่จะทำให้เครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสมีมาตรฐานและเป็นสินค้าที่มีคุณค่า ที่สามารถแข่งขันกับแหล่งพลังงานที่ล้าสมัยแล้วได้”

ด้วยการออกแบบให้สามารถวางซ้อนกันได้ โรงงานทุกขนาดจึงสามารถใช้เครื่องรุ่น EL 2.0 ได้ ปัจจุบัน เครื่องผลิตไฮโดรเจนระบบอิเล็กโทรลิซิสของ Enapter ถูกนำไปใช้กับระบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับเกาะ อุปกรณ์เก็บพลังงานตามฤดูกาลบนเทือกเขาแอลป์ ระบบทำความร้อนในบ้านเรือนในประเทศเนเธอร์แลนด์ กระบวนการผลิตก๊าซมีเทนทดแทนในประเทศออสเตรเลีย กระบวนการกลั่นไนโตรเจนในประเทศโปรตุเกส การเติมเซลล์เชื้อเพลิงให้กับอากาศยานไร้คนขับในประเทศจีน และอื่น ๆ อีกมากมาย ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันต่าง ๆ จาก Enapter ได้ที่ https://enapter.com

เกี่ยวกับ Enapter

Enapter เป็นผู้ผลิตเครื่องผลิตไฮโดรเจนแบบประกอบประสิทธิภาพสูง โดยใช้กระบวนการ Anion Exchange Membrane Electrolysis เทคโนโลยีหลักของบริษัทได้รับการยอมรับมาตลอด 10 ปี และเป็นรากฐานให้กับการผลิตเครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ขนาดพกพาที่มีราคาต่ำ เครื่องรุ่น EL 2.0 ออกแบบมาให้วางซ้อนกันได้ และสามารถติดตั้งเข้ากับระบบจัดการพลังงานของ Enapter ได้ง่าย ซึ่งระบบของ Enapter มีการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในหลายประเทศ เช่น อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมพลังงาน ทีมงานของบริษัทประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าเคมีและไอทีที่จะคอยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจพลังงานไฮโดรเจน และ Enapter มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เบอร์ลิน ปิซา กรุงเทพมหานคร และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก https://www.enapter.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190917005280/en/

ติดต่อ:

Antenna
Kalena Gravina
enapter@antennagroup.com
201-465-8013

Enapter
Vaitea Cowan
vaitea@enapter.com
+39 050 644 281

The Bangkok Reporter