P&G ซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปตะวันตก

Logo

ซินซินแนติ–(บิสิเนสไวร์)–24 ต.ค. 2562

บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (NYSE: P&G) ประกาศว่าได้บรรลุเป้าหมายปี 2563 ในการซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา  บริษัทได้ก้าวล้ำเป้าหมายเดิมโดยขยายการซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ไปยังยุโรปตะวันตก  ทั้งสามเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของไฟฟ้าที่ P&G ซื้อ  ความมุ่งมั่นนี้ได้สำเร็จก่อนวันกำหนดและเป็นจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของ P&G ในเป้าหมายการซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทน 100% ทั่วโลกภายในปี 2573

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191024005503/en/

ผู้มีส่วนร่วมรายใหญ่ที่สุดของ P&G ในการผลิตพลังงานทดแทนคือฟาร์มกังหันลมใน Tyler Bluff รัฐเท็กซัสซึ่งชดเชยกระแสไฟฟ้าที่จำเป็นได้ 100% สำหรับโรงงานผลิตสิ่งทอและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาบ้านในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาสำหรับแบรนด์เช่น Tide, Downy, Cascade และ Mr. Clean รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและชีวมวลในเมือง Albany รัฐจอร์เจียซึ่งผลิตไอน้ำที่จำเป็นสำหรับ Bounty และ Charmin ได้ 100%  นอกเหนือจากโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้แล้ว บริษัทกำลังลดการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิตผ่านโครงการพลังงานทดแทนที่หลากหลายซึ่งเน้นเรื่องใบรับรองพลังงานลม แสงอาทิตย์ ความร้อนใต้พิภพ พลังงานน้ำ และพลังงานหมุนเวียน

“เราภูมิใจในความพยายามของเราในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการทำให้โลกนี้เป็นที่ที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นหลัง” Virginie Helias หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของ P&G กล่าว  “เป้าหมายหลักที่ยั่งยืนของเราคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าที่ผู้บริโภคไว้วางใจได้ โดยมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ของ P&G นั้นอยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่จะรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”

ด้วยมรดกของความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม P&G ได้บรรลุเป้าหมาย 2563 ด้านความยั่งยืนของพลังงาน น้ำ และขยะไปแล้ว โดยมีความคืบหน้าที่มองเห็นได้ทั่วทั้งแบรนด์และภูมิภาคต่างๆ  ด้วยการซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปตะวันตก P&G จะสามารถบรรลุเป้าหมาย 2563 ด้านพลังงานงานทดแทนและก๊าซเรือนกระจก

P&G คาดว่าโครงการใหม่ๆ และการซื้อไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องจะทำให้บริษัทสามารถกระตุ้นนวัตกรรม การลงทุน และการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนให้กับสาธารณูปโภคพลังงานในภูมิภาคเกือบ 150 แห่งทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศของ P&G ไปที่ https://us.pg.com/blogs/pg-purchases-renewable-electricity

เกี่ยวกับพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล

P&G ให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกด้วยหนึ่งในรายชื่อแบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและไว้วางใจได้ ซึ่งได้แก่ Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks®, และ Whisper®  ชุมชน P&G รวมการดำเนินงานในประมาณ 70 ประเทศทั่วโลก กรุณาเยี่ยมชม http://www.pg.com เพื่อรับข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเกี่ยวกับ P&G และแบรนด์ต่างๆ

ดูต้นฉบับใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191024005503/en/

ติดต่อ P&G สำหรับสื่อ

Robyn Schroeder
ฝ่ายสื่อสารทั่วโลก P&G
Schroeder.rm@pg.com

Tommy Hilfiger แต่งตั้ง Michael Scheiner เป็นหัวหน้าผู้บริหารฝ่ายการตลาดระดับโลก

Logo

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–21 ตุลาคม 2562

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ มีความยินดีที่จะประกาศการแต่งตั้ง Michael Scheiner ในตำแหน่งหัวหน้าผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2562

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191021005511/en/

Michael Scheiner, Chief Marketing Officer, Tommy Hilfiger Global (Photo: Business Wire)

Michael Scheiner, หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายการตลาด, Tommy Hilfiger Global (ภาพ: Business Wire)

Michael มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในการบริหารแบรนด์ระดับโลก เขาร่วมงานกับTommy Hilfiger จาก Hollister Co. ซึ่งเขาดำรงตำแหน่ง SVP ฝ่ายการตลาดทั่วโลก ผลงานของเขาช่วยให้ Hollister ติดลำดับแบรนด์ 5 อันดับแรกในหมู่วัยรุ่นในการสำรวจฤดูใบไม้ร่วงปี 2562 ของ Piper Jaffray หรือ Piper Jaffray’s Fall 2019 Taking Stock  นอกจากนี้เขายังให้การสนับสนุนจนทำให้ Hollister กลายเป็นผู้นำการค้าปลีกชั้นนำแบบติดต่อสื่อสารหลายช่องทางหรือ Omni-Channel เรามั่นใจว่า Michael จะใช้แรงผลักดันและประสบการณ์ของเขาในการนำ TOMMY HILFIGER เข้าสู่ยุคใหม่ของกลยุทธ์การตลาดระดับนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านแพลตฟอร์มดิจิตอลและแพลตฟอร์มประสบการณ์ เพื่อเข้าถึงและดึงดูดผู้บริโภคยุคต่อไป

“ในฐานะหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทีมการตลาดของเราทั่วโลกมีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจที่น่าตื่นเต้นและดึงดูดผู้บริโภคของเรา” Daniel Grieder ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe กล่าว “ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ Michael เข้าร่วมกับองค์กรการตลาดระดับโลกของเรา และเชื่อว่าเขาจะช่วยเติมพลังการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอลของเราอย่างต่อเนื่องทำให้เราสามารถตอบสนองเชิงกลยุทธ์ต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และช่วยทำให้ TOMMY HILFIGER  เป็นผู้นำในหมู่คู่แข่ง"

“นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมแบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงเช่นนี้” Michael กล่าว “ นวัตกรรมและความเป็นผู้นำของ TOMMY HILFIGER  ที่ถูกแสดงให้เห็นตั้งแต่เริ่มแรกถือเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมาก ผมตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับทั้ง Tommy และ Daniel และทีมการตลาดที่มีความสามารถทั่วโลกเพื่อสร้างการผจญภัยบทต่อไปของ TOMMY HILFIGER  เพื่อฉลองครบรอบ 35 ปีในปีหน้า”

Michael กับครอบครัวของเขา จะย้ายไปที่สำนักงานใหญ่ระดับโลกของ TOMMY HILFIGER ในอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลกที่มีชื่อและเอกลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ความคิดริเริ่มด้านการตลาดของบริษัทนั้นมีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นของการเป็นที่รู้จักของ TOMMY HILFIGER ผ่านการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการรับรู้แบรนด์ระดับโลก และกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นผู้บริโภคเป็นหลักซึ่งสร้างและรักษาฐานแฟน ๆ ที่ภักดีได้เป็นอย่างดี วันนี้การเป็นที่ยอมรับของแบรนด์อยู่ในระดับสูงตลอดกาล อันเป็นผลมาจากคอลเลกชันยอดเยี่ยมแคมเปญพันธมิตรต่าง ๆ และการใช้เทคนิค consumer activation ของผู้บริโภคทั่วโลก

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

ด้วยพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่มีทั้ง TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS จึงทำให้ TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ดีไซเนอร์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก โดยมุ่งเน้นการออกแบบและการตลาดเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสำหรับบุรุษ เสื้อผ้าสตรี ชุดกีฬา เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าคอลเล็คชั่น ผ้ายีนส์ ชุดชั้นใน (รวมถึงชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลอง) รองเท้าและอุปกรณ์เสริม ที่มีคุณภาพสูง โดย Tommy Hilfiger นำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เสริม เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม เครื่องแต่งกายกีฬา ชุดกอล์ฟและชุดว่ายน้ำ) ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ สินค้าไลฟ์สไตล์ และกระเป๋าเดินทาง สายผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ยีนส์และรองเท้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เครื่องประดับ และน้ำหอม สินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS มีให้บริการสำหรับผู้บริโภคทั่วโลกผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ตามห้างร้าน ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกออนไลน์บน tommy.com.

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH กำหนดมาตรฐานของสไตล์ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้ามาโดยตลอด ผลงานที่โดดเด่นของเรารวมถึงTOMMY HILFIGER, CALVIN KLEIN, Van Heusen, IZOD, ARROW, Speedo*, Warner’s, Olga และ Geoffrey Beene, ตลอดไปจนถึงแบรนด์ชุดชั้นใน True & Co. ที่มีความเป็นดิจิตอลสูง เราทำการตลาดสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศและเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ของตนเอง PVH มีพนักงานมากกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศและมีรายรับต่อปีเกือบ 9,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้คือพลังของ PVH

* Speedo เป็นแบรนด์ได้รับใบอนุญาตสำหรับอเมริกาเหนือและแคริบเบียนแบบถาวรจาก Speedo International Limited

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995) คือ แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่ เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแค่ (i) แผนกลยุทธ์วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สิน อันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่บริษัท ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการปรับปรุงแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลมาจากการได้รับข้อมูลใหม่ๆ หรือจากเหตุการณ์ในอนาคตหรืออื่น ๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191021005511/en/

ติดต่อ Tommy Hilfiger

Baptiste Blanc

Sr. Director, แผนก Communications and Earned Media

อีเมล: Baptiste.Blanc@tommy.com

โทร: +31 62904 2334

Zhiyun เปิดตัวกิมบอล WEEBILL-S ทั่วประเทศไทย

Logo

กิมบอล Weebill-S เจาะตลาดไทยและเอเชียด้วยการออกแบบอเนกประสงค์และทรงพลังมากขึ้น

เซินเจิ้น จีน–(บิสิเนสไวร์)–21 ต.ค. 2562

Zhiyun ผู้ผลิตไม้กันสั่นหรือกิมบอลชั้นนำของโลกเปิดตัวกิมบอลรุ่น WEEBILL-S ที่เผยโฉมในงานพิเศษในกรุงเทพฯ ประเทศไทย  Weebill-S ออกแบบมาสำหรับกล้อง mirrorless และ DSLR และเลนส์คอมโบ  กิมบอลใหม่นี้ให้การส่งภาพที่มีความล่าช้าต่ำเป็นพิเศษใน 1080p พร้อมโมดูล TransMount Image Transmission Module ใหม่ทั้งหมด  ViaTouch 2.0 เปลี่ยนโทรศัพท์ของคุณให้กลายเป็นจอแสดงผลมืออาชีพและรีโมทควบคุมอเนกประสงค์

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191020005089/en/

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: บิสิเนสไวร์)

รายละเอียดงาน

กิจกรรมได้แก่พิธีเปิดงาน คำกล่าวโดยบริษัท Zhiyun, Weebill-S และ KOL, การแสดงพิเศษและการสาธิต Weebill-S อาหารเย็นและจบด้วยการจับรางวัล โดยได้มีการไลฟ์สดในเพจ Facebook, Instagram และ YouTube ของ Zhiyun ช่วงเวลา 19.00 น. – 21.30 น. เมื่อวานนี้เวลาจีน

แบรนด์ที่เข้าร่วม

งานในประเทศไทยมีตัวแทนจาก Canon, Nikon, Sony, Panasonic, Olympus และ Fujifilm โดยได้เน้นย้ำถึงการทำงานร่วมกับ Zhiyun  นอกจากนี้ซีอีโอของ Z Cam คุณ Kinson และผู้ร่วมก่อตั้งคุณ Eric ได้เข้าร่วมงานเช่นกัน

การสาธิต

Zhiyun ได้จัดแสดง Weebill-S มากกว่า 20 ชุดโดยได้ติดตั้งกับกล้องชั้นนำ (Canon, Nikon, Sony, Panasonic, Olympus, Fujifilm, BMPCC, Z Cam)  ผู้เข้าร่วมสามารถทดสอบและใช้งาน Weebill-S เพื่อทำความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์และศักยภาพ  นอกจากนี้ ในงานยังมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Zhiyun จากฮอลแลนด์ (Chung Dha) สิงคโปร์ (Sean Seah) และออสเตรเลีย (Rah Sharma) มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของพวกเขาเกี่ยวกับกิมบอล Weebill-S

กิมบอล Weebill-S

กิมบอล Weebill-S ของ Zhiyun เป็นกิมบอลใหม่ล่าสุดและน้ำหนักเบาที่สุดในปัจจุบัน โดยมีประสิทธิภาพสูง ความกะทัดรัด และสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์หลายชนิด  จอแสดงผลมาพร้อมกับโมดูล TransMount Image Transmission Module ใหม่ ซอฟต์แวร์ ViaTouch 2.0 และ SmartFollow 2.0, sync motion การควบคุมแบบไร้สาย smart calibration การใช้งานเคลื่อนที่แบบง่ายดาย จุดโฟกัส และการสาธิตที่มีประสิทธิภาพและทนทาน  สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติที่ทำให้กิมบอลของ Weebill-S โดดเด่นจากผู้แข่งขันรายอื่น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WEEBILL-S กรุณาเยี่ยมชม หน้าผลิตภัณฑ์ WEEBILL-S และวิดีโอ WEEBILL-S

เกี่ยวกับ Zhiyun

Zhiyun Tech เป็นผู้บุกเบิกและผู้นำระดับโลกในด้านกิมบอลและเครื่องทรงตัวสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์มืออาชีพและนักถ่ายวิดีโอส่วนตัว เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Zhiyun Tech ที่ www.zhiyun-tech.com หรือเยี่ยมชมเพจ Facebook: Zhiyun Thailand หรือติดตามเราบน Instagram: @zhiyunthailand

ดูฉบับที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191020005089/en/

ติดต่อ:

Zhiyun Tech
Nikki Li
+86 18826046902
nikki@zhiyun-tech.com

RIMES เปิดศูนย์กลางด้านปฏิบัติการแห่งใหม่ในกรุงมะนิลา

Logo

มะนิลา, ฟิลิปปินส์–(BUSINESS WIRE)–18 ตุลาคม 2562

วันนี้ RIMES Technologies ผู้นำด้านการบริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จและผู้ให้บริการโซลูชัน RegTech สำหรับผู้จัดการสินทรัพย์ เจ้าของ บริการและธนาคาร ประกาศเตรียมเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 21 ตุลาคม นี้

สำนักงานแห่งใหม่จะมีการดำเนินการเป็นกะ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสามารถที่เป็นที่ยอมรับของ RIMES ในการมอบบริการให้กับลูกค้าทั่วโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด ศูนย์กลางที่จะคอยสนับสนุนการปฏิบัติงานแห่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการ การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงาน และทักษะด้านไอทีอื่น ๆ ที่พวกเขาต้องการเพื่อนำไปใช้ในการจัดการข้อมูลและการดำเนินการด้านข้อบังคับอื่น ๆ สำนักงานแห่งนี้สร้างขึ้นจากรอยเท้าของ RIMES ที่มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งในเอเชียแปซิฟิกและสั่งสมมาเป็นเวลากว่า 10 ปี รวมถึงมีสำนักงานที่ดูแลด้านการขายและการสนับสนุนต่าง ๆ ในสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ และซิดนีย์

Christian Fauvelais ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง RIMES แสดงความคิดเห็นว่า “ศูนย์กลางแห่งใหม่ของเราในมะนิลามีความสำคัญทางกลยุทธ์อย่างมากกับ RIMES ไม่เฉพาะบทบาทในการช่วยให้เรารู้สึกถึงความทะเยอทะยานที่จะเติบโตในตลาดเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น แต่ยังเป็นการเติมเต็มที่เป็นประโยชน์ต่อโมเดลที่ประสบความสำเร็จของเราอย่าง ‘follow the sun’ ซึ่งเราบริการลูกค้าทั่วโลกอย่างเต็มที่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนหรือในเขตเวลาใด”

สำนักงานแห่งนี้มีพนักงานประจำ 12 คนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่มีทักษะขั้นสูง โดย RIMES มีแผนที่จะเพิ่มพนักงานในอนาคต วิธีนี้จะช่วยให้ RIMES แสดงความต้องการที่จะขยายบริการการจัดการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จและโซลูชัน RegTech ทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างในภูมิภาคที่มีความสำคัญแห่งนี้

Christian Fauvelais กล่าวเพิ่มเติมว่า “ศูนย์กลางในมะนิลาเป็นแหล่งรวมงานที่อ้างอิงข้อมูลที่มีความซับซ้อนจำนวนมาก ที่รองรับบริการของเรา และจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าของเราแก้ปัญหาด้านการจัดการข้อมูล รวมถึงปัญหาด้านข้อบังคับต่าง ๆ ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ ตั้งแต่การขยายตัวอย่างมหาศาลของข้อมูล (data explosion) ไปจนถึงการเล็ดลอดของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น สิ่งที่ทำให้งานนี้ง่ายขึ้นมากคือในฟิลิปปินส์เราสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เรารักษาความเป็นผู้นำด้านการจัดการข้อมูลในระดับโลก”

เกี่ยวกับ RIMES

RIMES เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลและเทคโนโลยีการกำกับดูแลที่คว้ารางวัลมามากมาย และเข้าใจถึงความท้าทายที่ลูกค้าเผชิญอยู่อย่างแท้จริง บริษัทให้บริการลูกค้ากว่า 350 รายที่เป็นนักจัดการสินทรัพย์ เจ้าของ บริการและธนาคารต่าง ๆ ใน 45 ประเทศทั่วโลก โดยมีบริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อดูจากมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) 60 แห่งจากทั้งหมด 100 แห่ง และเป็นผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด 9 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่ง www.rimes.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20191018005295/en/

ติดต่อ:

Alessandro Ferrari
Marketing@rimes.com
+44 20 7743 6040

 

คฤหาสน์เบลแอร์ระดับประวัติศาสตร์ของ Conrad Hilton ถูกนำเข้าสู่ตลาดในราคา 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Logo

เบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2562

Casa Encantada คฤหาสน์ของ Conrad Hilton ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษนับตั้งแต่ถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 2481 เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ถูกสร้างขึ้นมาในยุคทองของฮอลลีวู้ด  โดยในสมัยนั้น Louis B. Mayer และ Jack Warner ได้นำเสียงและภาพเคลื่อนไหวมาสู่วงการภาพยนตร์ ซึ่งมีดาราดังอย่าง Greta Garbo, Joan Crawford, Clark Gable, Katherine Hepburn และ Spencer Tracy นำแสดง คฤหาสน์นี้เป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมที่เป็นเครื่องตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดูแลรักษาอย่างพิถีพิถันซึ่งสามารถมองเห็นผ่านทุกแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์ที่ล้ำค่าแห่งนี้

ผลงานชิ้นเอกสไตล์จอร์เจียนอันทันสมัยขนาด 40,000 ตารางฟุตที่ได้รับการปรับปรุงใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินที่ยื่นออกไปสู่ทะเลที่มีขนาดพื้นที่กว่าแปดเอเคอร์ในเบลแอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเบเวอร์ลี่ฮิลส์เพียง 10 นาที โดยสถาปนิกชื่อดัง James E. Dolena ออกแบบให้สถานที่ที่มีห้องพัก 60 ห้องแห่งนี้มาพร้อมกับวิวเมือง วิวทะเล และวิวสวน การตกแต่งและการออกแบบภายในถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์โดย T. H. Robsjohn-Gibbings เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการออกแบบบ้านที่หรูหรา สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นงานอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยชิ้นสำคัญที่สุดของนักออกแบบผู้นี้

Conrad Hilton เป็นเจ้าของบ้านมานานกว่าสองทศวรรษ คฤหาสน์และพื้นที่แห่งนี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมทางสังคมการกุศลและการเมืองที่สำคัญที่สุดในสหรัฐอเมริกา เช่นการต้อนรับประธานาธิบดีหลายคนและดาวดังของฮอลลีวูดในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่าประชากรของลอสแองเจลิสจะเติบโตจาก2 ล้านคนในปี 2481 เป็น 10 ล้านคนในปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้คฤหาสน์หลังนี้ยังคงไร้เพื่อนบ้านและมีพื้นที่กว้างขวางที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัย

Gary Winnick ผู้บุกเบิกไฟเบอร์ออปติกและผู้ที่ชอบช่วยเหลือสังคม และ Karen ภรรยาของเขาที่คบกันมานานกว่า 45 ปี ได้ว่าจ้าง Peter Marino สถาปนิกและนักออกแบบที่มีทีมช่างฝีมือในสังกัดกว่า 250 คน โดยใช้เวลามากกว่าสองปีในการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณค่าระดับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สามีภรรยาคู่นี้ ยังเป็นเจ้าของบ้านมาเกือบสองทศวรรษและได้รับเกียรติให้เป็นโฮสต์ของบ้านแห่งนี้อีกด้วย

Casa Encantada ยินดีต้อนรับแขกด้วยความรู้สึกใกล้ชิดที่เป็นกันเองอย่างเหลือล้น ตั้งแต่ที่ก้าวพ้นประตูเหล็กโค้งสง่างามที่ออกมาจากฐานหิน  ถนนทางเข้าจะพาคุณผ่านสภาพแวดล้อมที่เขียวชอุ่มซึ่งนำผู้มาเยือนสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของที่พักหลัก โถงทางเข้าอันน่าทึ่งนำไปสู่เพดานสูง 18 ฟุตซึ่งเปิดออกสู่โถงต้อนรับอันงดงามรวมไปถึงห้องรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ชั้นที่สองของคฤหาสน์ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่นที่ถูกสร้างให้กลมกลืนไปกับเรื่องราวความบันเทิงซึ่งเป็นธีมของที่พักตั้งแต่ชั้นหนึ่งของคฤหาสน์

ห้องริมสระว่ายน้ำระดับสถาปัตยกรรม ประกอบไปด้วยห้องฉายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ บาร์ที่สามารถใช้งานได้อย่างเป็นทางการ และทิวทัศน์ของสวนกุหลาบและที่อื่น ๆ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้แก่ สนามเทนนิส สนามบาสเกตบอล สร้างแยกออกมาต่างหาก เกสต์เฮาส์เต็มรูปแบบและโรงเรือนเพาะชำหลายแห่ง บ่อปลาคาร์ฟ และภูมิทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร ช่วยทำให้อสังหาริมทรัพย์แห่งนี้เป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์กรุณาติดต่อ Jeff Hyland of Hilton & Hyland ที่ jeff@jeffhyland.com หรือ (310) 278-3311.

เกี่ยวกับ Winnick & Company

Winnick & Company เป็นบริษัทการลงทุนภาคเอกชนในลอสแองเจลิส ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Gary Winnick นักการเงินและผู้ที่ทำงานเพื่อสังคม โดย Winnick & Company ร่วมมือกับบริษัทหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับโซลูชั่นที่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191017005875/en/

ติดต่อ:

Tracy Williams

310.824.9000

tracy@olmsteadwilliams.com

โตชิบาเปิดตัวไดโอด TVS ที่เก็บประจุไฟฟ้าต่ำเหมาะสำหรับการป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับ Thunderbolt 3 และสายสัญญาณความเร็วสูงอื่นๆ

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–17 ต.ค. 2562

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("โตชิบา") เริ่มจัดส่งไดโอด TVS ที่เก็บประจุไฟฟ้าต่ำสองตัว (ไดโอดป้องกันไฟฟ้าสถิต) ที่รองรับมาตรฐานการสื่อสารความเร็วสูงเช่น Thunderbolt 3, HDMI® 2.1 และ USB 3.1. “DF2B5M4ASL” รุ่นใหม่นี้รองรับแรงดันย้อนกลับสูงสุดที่ 3.6V และรุ่น “DF2B6M4ASL” ที่รองรับ 5.5V

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191017005265/en/

Toshiba: Low capacitance TVS diodes "DF2B5M4ASL" and "DF2B6M4ASL" suitable for ESD protection for high speed signal lines. (Photo: Business Wire)

โตชิบา: ไดโอด TVS ที่เก็บประจุไฟฟ้าต่ำ "DF2B5M4ASL" และ "DF2B6M4ASL" สำหรับการป้องกันสายสัญญาณความเร็วสูง (Photo: บิสิเนสไวร์)

แท็บเล็ต พีซี แล็ปท็อป และเครื่องเล่นเกมนั้นลดเวลาในการถ่ายโอนข้อมูลวิดีโอหรือไฟล์ขนาดใหญ่โดยใช้มาตรฐานการสื่อสารความเร็วสูง 10Gbps หรือ 48Gbps  ด้วยการย่อขนาดของไอซีคอนโทรลเลอร์ที่ใช้ในการสื่อสารความเร็วสูงเหล่านี้ ทำให้ความทนต่อช่วงเคลื่อนไฟฟ้าสถิตลดลงและจำเป็นต้องปรับปรุงมาตรการจัดการกับไฟฟ้าสถิตและไฟกระชากจากจุดเชื่อมต่อ โดยหากขาดการปรับปรุงมาตรการจัดการจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่สำคัญ เช่นการสื่อสารผิดพลาดและความเสียหายของไฟล์

นอกจากนี้ ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับสายการสื่อสารความเร็วสูงมีผลกระทบอย่างมากต่อสัญญาณ โดยชิ้นส่วนพาสซีฟบนแผงวงจร เช่นตัวเก็บประจุและตัวต้านทานสามารถบิดเบือนรูปคลื่นของสัญญาณได้

ผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการเก็บประจุที่ลดลงซึ่งเหมาะสำหรับการสื่อสารความเร็วสูง  นอกจากนี้ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถมอบการเก็บประจุ (Typ.) 0.15pF ซึ่งต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันประมาณ 25% [1]  สิ่งนี้จะช่วยก่อให้เกิดวงจรที่มั่นคงในการสื่อสารความเร็วสูง

การประยุกต์ใช้งาน

· การป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับสายสัญญาณความเร็วสูง (แท็บเล็ต พีซี แล็ปท็อป เกมคอนโซล AR และ VR ฯลฯ)

คุณสมบัติ

· การเก็บประจุไฟฟ้าต่ำ: Ct= 0.15 pF. (typ.)

· ระดับแรงดันไฟฟ้าสถิตสูง [2]:

VESD= ±16kV (DF2B5M4ASL)

VESD= ±15kV (DF2B6M4ASL)

· พื้นผิวและแพคเกจติดตั้งขนาดเล็ก: SL2 (รหัสแพคเกจ:. SOD-962, 0.62×0.32×0.3mm (typ.))

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(@Ta=25 ℃)

หมายเลขชิ้นส่วน

แพคเกจ

รูปแบบ

ระดับสูงที่สุด

แรงดันย้อนกลับสูงสุด

VRWM

max

(V)

การเก็บประจุไฟฟ้าทั้งหมด

Ct

@VR=0 V

(pF)

การทนทานแบบไดนามิก

RDYN

typ.

@IPP1=8 A

to IPP2=16 A

[3]

(Ω)

แรงดันหนีบ

VC

สูงสุด

@IPP=2 A

[4]

(V)

เช็คสต็อก

และซื้อสินค้า

ชื่อ

(รหัสแพคเกจ)

ขนาดปกติ

(mm)

แรงดันไฟฟ้าสถิตย์

VESD

[2]

(kV)

typ.

max

DF2B5M4ASL

SL2

(SOD-962)

0.62×0.32×0.3

สองช่องทาง

±16

3.6

0.15

0.2

0.7

15

ซื้อออนไลน์

DF2B6M4ASL

±15

5.5

0.15

0.2

0.7

15

ซื้อออนไลน์

หมายเหตุ:

[1] ผลิตภัณฑ์ในรุ่น DF2BxM4SL

[2] @IEC61000-4-2 (สัมผัส)

[3] พารามิเตอร์ Z0=50Ω, tp=100ns, tr=300ps ช่วงเฉลี่ย t1 = 30ns ถึง t2 = 60ns

[4] @ ขึ้นอยู่กับ IEC61000-4-5 8/20μs pulse

ติดตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไดโอด TVS Diodes (ไดโอดป้องกันไฟฟ้าสถิต) ของโตชิบา

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/diode/esd-protection-diode.html

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมใช้งานของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ กรุณาไปที่:

DF2B5M4ASL

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/buy/stockcheck.DF2B5M4ASL.html

DF2B6M4ASL

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/buy/stockcheck.DF2B6M4ASL.html

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์

ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์สัญญาณขนาดเล็ก

โทร: + 81-3-3457-3411

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.htm

ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

อิเล็กทรอนิกส์ของโตชิบาโตชิบารวมพลังของ บริษัท ใหม่เข้ากับภูมิปัญญาของประสบการณ์ นับตั้งแต่การเป็น บริษัท อิสระในเดือนกรกฎาคมปี 2017 เราได้ดำเนินการในกลุ่ม บริษัท อุปกรณ์ชั้นนำทั่วไปและเสนอลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของเราในการแก้ปัญหาที่โดดเด่นในเซมิคอนดักเตอร์แยกระบบ LSI และ HDD

พนักงาน 22,000 คนทั่วโลกแบ่งปันความมุ่งมั่นในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของเราและเน้นการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ เราหวังว่าจะสร้างยอดขายต่อปีเกินกว่า 800 ล้านเยน (7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเพื่อสนับสนุนอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูรุ่นแหล่งที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191017005265/en/

สอบถามข้อมูลสื่อ:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
ฝ่ายการตลาดดิจิตอล
Chiaki Nagasawa
โทร: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

Chicago Booth ช่วยให้ผู้นำในเอเชียแปซิฟิกสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ทางดิจิตอลด้วยโปรแกรม Executive Education ระดับนวัตกรรม

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2562

The University of Chicago Booth School of Business Executive Education ตื่นเต้นที่จะประกาศว่าโปรแกรมคิดเชิงกลยุทธ์วิทยาเขตฮ่องกง (Strategic Thinking – Hong Kong program) จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2563 โดยโครงการได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์ในการยอมรับและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

หลักสูตรนี้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถพัฒนาทักษะเชิงกลยุทธ์เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขา ผู้เข้าร่วมประชุมจะได้เรียนรู้วิธีการประเมินกลยุทธ์ที่เหมาะกับปัจจุบัน วิธีพัฒนาแนวทางที่อิงตามผลลัพธ์ของนวัตกรรมและกรอบการทำงานสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม โดยผู้บริหารระดับสูงที่สำเร็จจากโปรแกรมจะมีเครื่องมือและทักษะในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอลสำหรับกลยุทธ์ขององค์กรของตน ทั้งนี้หลักสูตรนี้สอนโดย Marc Knez ศาสตราจารย์กด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ของ Chicago Booth และคณะผู้อำนวยการแผนกการคิดเชิงกลยุทธ์

“ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนี้ ผู้บริหารจะต้องมีทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ที่กว้างและลึก  ทั้งในพื้นที่ปฏิบัติการและในระดับองค์กร เพื่อความสำเร็จและการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี” Knez กล่าว

Knez มีความเชี่ยวชาญด้านการเชื่อมช่องว่างระหว่างการวิจัยเชิงวิชาการและการตัดสินใจเชิงประยุกต์ในบริบทของการวางแผนเชิงกลยุทธ์และกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี การวิจัยเชิงวิชาการของเขาในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ตลาด การพัฒนากลยุทธ์ และโครงสร้างองค์กร งานของเขาปรากฎใน Harvard Business Review และ  Journal of Business และ Journal of Labor Economics

โปรแกรมการคิดเชิงกลยุทธ์ซึ่งจะจัดขึ้นที่วิทยาเขตฮ่องกงของสถาบันซึ่งมีชื่อว่า The Hong Kong Jockey Club University of Chicago Academic Complex | University of Chicago Francis and Rose Yuen Center จะเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันขององค์กร พร้อม ๆ ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับมืออาชีพกับธุรกิจอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านการทำงานร่วมกันในห้องเรียน โปรแกรมนี้ถูกนำกลับมาตามคำเรียกร้องเนื่องจากความนิยมอย่างสูงที่โปรแกรมได้รับ เราขอแนะนำให้ผู้สนใจลงทะเบียนล่วงหน้า  หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการคิดเชิงกลยุทธ์ของ Chicago Booth โปรดเยี่ยมชม Chicagobooth.edu/STHK.

เกี่ยวกับ University of Chicago Booth School of Business

คณะวิชาธุรกิจ University of Chicago Booth เป็นคณะวิชาธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองในสหรัฐอเมริกา และเป็นสถาบันแรกที่สอนผู้บริหาร ในฐานะที่เป็นสถาบันด้านวิชาการและการศึกษา Chicago Booth ได้ดึงดูดนักวิชาการและนักศึกษาจากทั่วโลกมายังวิทยาเขตในชิคาโก (Hyde Park, downtown Chicago), ลอนดอน และ ฮ่องกง สถาบันอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโรงเรียนธุรกิจชั้นนำของโลก และผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยรวมถึงผู้นำธุรกิจที่โดดเด่นหลายสิบคนในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก สมาชิกของสถาบันเก้าท่านของสถาบันเป็นผู้ชนะรางวัลโนเบล โดยสามท่านจากเก้าท่านกำลังสอนอยู่ ณ สถาบัน แห่งนี้

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191016005945/en/

โปรแกรมการศึกษาสำหรับผู้บริหาร ติดต่อ:

Mark Lewis

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการศึกษา

The University of Chicago Booth School of Business

+1.312.464.8732

exec.ed@chicagobooth.edu

S BLOCK ร่วมจัดงาน WBF NYC 2019 Tech Conference พร้อมเปิดตัวระบบนิเวศซูเปอร์บล็อกเชนใน DAO

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–15 ตุลาคม 2562

วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา งานประชุมด้านเทคโนโลยี "WBF2019 New York Technology Conference" ได้เริ่มต้นขึ้น ณ อาคารอัลต์แมนในนิวยอร์ก โดย S BLOCK ผู้ให้บริการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้จากสวิตเซอร์แลนด์ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูเนื้อหาเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191015005569/en/

Photo: S BLOCK

รูป: S BLOCK

S BLOCK – กระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับสกุลเงินหลากหลายและจัดการด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

S BLOCK คือกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับเงินหลากหลายสกุลเงินซึ่งพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน ด้วยโพรโทคอลด้านการสื่อสารแบบรูหนอนที่ล้ำสมัย ระบบสามารถจัดการบริหารเงินหลายรายการสำหรับรับและส่งเงินข้ามสกุลเงิน เมื่อรวมกับการส่งเงินผ่านระบบ Interstellar และการทำสัญญากู้ยืม จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับบุคคลที่สามในเรื่องของความปลอดภัยในการเข้าถึงบริการที่แสวงหากำไรและบริการอื่น ๆ นอกจากนี้ S BLOCK ยังได้นำเสนอสถานการณ์สมมติเกี่ยวกับการชำระเงินแบบออฟไลน์ด้วยการสร้างระบบนิเวศการใช้งานที่สมบูรณ์ และได้ปรับปรุงอัตราการใช้งานและอัตราการหมุนเวียนของเหรียญ SBO เพื่อเพิ่มมูลค่าด้วย

S BLOCK จับมือกับ WBF เพื่อจัดงานแสดงเทคโนโลยีใหม่อันยอดเยี่ยมที่วอลสตรีท

WBF ร่วมกับ S BLOCK เดินหน้าพัฒนา DAO ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

DAO ตั้งเป้าดึงดูดชุมชนทั่วโลกให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา S BLOCK ด้วยการรวมโทเค็นคุณภาพอย่าง DASH, HT และ OKB เข้าด้วยกัน ผ่านการออก ATO (โทเค็นของ DAO) ทำให้ S BLOCK ได้รับฉันทามติจากทั่วโลก การรวมกันของผู้ให้บริการ ผู้พัฒนาและผู้ค้า คือการเดินหน้าสู่การสร้างองค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์ หรือ DAO ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่างเป็นทางการของ S BLOCK

โหนด Million Community ของ WBFex และ S BLOCK จะผนึกกำลังเข้าด้วยกันเพื่อแบ่งปันและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มี และในที่สุด การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของทั้งสองจะสร้าง “Thousands of Consensus” ของเหรียญ SBO และระบบซูเปอร์อีโคซิสเต็มของ DAO ด้วยการดึงดูดผู้ใช้ให้มากขึ้น

ทุกโปรเจกต์ที่เเลกเปลี่ยนผ่าน WBF จะมีโอกาสเข้าร่วมโปรแกรม DAO ซึ่งโอกาสนี้ครอบคลุมถึงโปรเจกต์ต่าง ๆ 110 โปรเจกต์ ซึ่งอยู่บน WBFex ณ ปัจจุบัน และจะมีอีก 260 โปรเจกต์ถูกเพิ่มเข้าใน WBFex ภายในสิ้นปีนี้ โปรเจกต์หลายร้อยโปรเจกต์ที่ถูกนำมารวมกันโดยการพัฒนาที่รวดเร็วของ WBFex จะมีโอกาสเข้าร่วมโปรแกรม DAO ด้วย

โหนด Million Community ของ WBFex และ S BLOCK จะผนึกกำลังเข้าด้วยกันเพื่อแบ่งปันและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มี และในที่สุด การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของทั้งสองจะสร้าง “Thousands of Consensus” ของเหรียญ SBO ด้วยการดึงดูดผู้ใช้ให้มากขึ้น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20191015005569/en/

ติดต่อ:

SBLOCK FOUNDATION PTE. LTD
Jennifer Bialek
contacts@sblock.com
www.sblock.com

อินโดนีเซียลงทุนในโรงงานแปรรูปปลายน้ำ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ลงทุนในโรงงานแปรรูปปลายน้ำ

Logo

PT Borneo Alumina Indonesia แต่งตั้ง Black & Veatch เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคสำหรับโครงการโรงถลุงแร่อะลูมินา

จาการ์ตา อินโดนีเซีย–(บิสิเนสไวร์)–16 ต.ค. 2019

การสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหมืองแร่และการแปรรูปแร่ธาตุเพื่อเพิ่มมูลค่าแร่ของอินโดนีเซีย ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถในการแปรรูปปลายน้ำเป็นหัวใจหลักของการทำเหมืองแร่และกฎหมายการส่งออกแร่ของอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 2552

PT Borneo Alumina Indonesia ได้มอบหมายให้ Black & Veatch เป็นผู้นำของกลุ่มบริษัทร่วมค้าในการจัดการโครงการ (Project Management Consortium – PMC) เพื่อพัฒนาโรงงานแปรรูปแห่งแรกในอินโดนีเซียที่ตอบโจทย์หัวใจหลักข้างต้น  Black & Veatch ให้บริการโซลูชั่นด้านวิศวกรรมแก่ลูกค้ากลุ่มพลังงานในอินโดนีเซียผ่านทางบริษัท PT Bina Viktori Indonesia (PT BVI)

โรงถลุงแร่ในกาลิมันตันตะวันตก (West Kalimantan) จะประกอบด้วยโรงถลุงอะลูมินาคุณภาพสูงขนาด 1 ล้านตันต่อปี (Million Tonne Per Annum – MTPA) โรงแปรรูปถ่านหินเป็นก๊าซขนาด 2×40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (Nm3/hr) และโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 3×25 เมกะวัตต์ (MW)

“การพัฒนาอุตสาหกรรมปลายน้ำเพื่อการแปรรูปแร่ธาตุจะช่วยสร้างงานและขยายเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย Black & Veatch ในฐานะผู้นำ PMC พร้อมที่จะนำความเชี่ยวชาญระดับโลกทุกหน่วยธุรกิจเพื่อสนับสนุนผู้รับเหมาก่อสร้างจากจีนทั้งด้านวิศวกรรม การจัดซื้อและการก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction – EPC) เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับคุณภาพ ความปลอดภัย และคุณค่าที่พวกเขาต้องการ” Jim Spenceley  รองประธานอาวุโสฝ่ายเหมืองแร่ Black & Veatch กล่าว

ในฐานะผู้นำกลุ่มการค้าร่วม Black & Veatch จะทำการทบทวนการออกแบบ ตรวจสอบอุปกรณ์ และให้ความเชี่ยวชาญในเรื่องพลังงานและการแปรสภาพถ่านหินเป็นแก๊ส  Progesys หนึ่งในกลุ่มบริษัทร่วมค้า จะจัดการขอบเขตการออกแบบกระบวนการถลุงแร่อลูมินาในขณะที่บริษัท Jaya CM จะจัดหาวิศวกรและผู้ตรวจสอบ

Progesys เป็นบริษัทวิศวกรรมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในแคนาดา Jaya CM เป็นบริษัทบริหารงานก่อสร้างจากอินโดนีเซีย

ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ กลุ่มบริษัทร่วมค้าจะรับผิดชอบในการประเมินงานวิศวกรรม การจัดซื้อ และการเสนอราคาการก่อสร้าง และการทบทวนการออกแบบทางวิศวกรรม กลุ่มบริษัทร่วมค้าจะดูแลควบคุมการจัดหาอุปกรณ์ที่สำคัญและดำเนินการทดสอบการทำงานของโรงงาน  นอกจากนี้ยังจะดูแลการก่อสร้างและสัญญาการว่าจ้าง

ความเชี่ยวชาญของ Black & Veatch ในด้านหลักเกณฑ์และมาตรฐานทางวิศวกรรมระหว่างประเทศและเฉพาะประเทศและโครงสร้างสัญญานั้นช่วยลดต้นทุนโครงการและกำหนดความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ  ด้วยการทำหน้าที่เป็นส่วนต่อประสานระหว่างมาตรฐานทางวิศวกรรมต่างๆ Black & Veatch มอบการรับประกันแก่ลูกค้าว่าผู้รับเหมาก่อสร้าง EPC จะส่งมอบภาระผูกพันตามโครงการเฉพาะอย่างมีประสิทธิภาพ

Black & Veatch ให้การสนับสนุนลูกค้าทั่วโลกเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยใช้นวัตกรรมทางวิศวกรรมเพื่อจัดการกับความซับซ้อนทางเทคนิคในอุตสาหกรรมหนักเช่นการทำเหมืองแร่

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดภาพประกอบ

หมายเหตุบรรณาธิการ:

  • Black & Veatch มีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 100 คนในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันทำงานเป็นผู้รับเหมา EPC มากกว่า 4.5 กิกะวัตต์ของโครงการผลิตไฟฟ้าในอินโดนีเซีย
  • นับตั้งแต่ปี 2512 Black & Veatch ได้ดำเนินโครงการพลังงาน น้ำและน้ำมัน และก๊าซเกือบ 100 แห่งใน 24 จังหวัดทั่วประเทศอินโดนีเซีย  ในการผลิตกระแสไฟฟ้า บริษัทได้มีส่วนร่วมกับการติดตั้งกำลังผลิตเกือบ 15,000 MW เมกะวัตต์

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatchที่มีพนักงานเป็นหุ้นส่วน เป็นผู้นำระดับโลกในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของมนุษย์ที่สำคัญในด้านพลังงาน น้ำ โทรคมนาคม และบริการภาครัฐ  ตั้งแต่ 2458 เราได้ช่วยลูกค้ายกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนกว่า 100 ประเทศผ่านการให้คำปรึกษา วิศวกรรม การก่อสร้าง การดำเนินงาน และการจัดการโปรแกรม  รายได้ของเราในปี 2561 รวม 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ  ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และในโซเชียลมีเดีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Black & Veatch
Emily Chia

+65 6761 3511 p
+65 9875 8907 m
ChiaLP@BV.com

สายด่วนสื่อ 24 ชั่วโมง
+1 866 496 9149

Forter Fraud Attack Index เปิดเผยว่ามีการฉ้อโกงเพิ่มขึ้นถึง 89% ใน Loyalty Program

Logo

ผู้ฉ้อโกงได้เปลี่ยนการมุ่งเน้นไปใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในกลยุทธ์การป้องกันการฉ้อโกงของบรรดาผู้ค้า ซึ่งคุกคามตลาดที่มีมูลค่ากว่า 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก

นิวยอร์ค นครนิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–15 ตุลาคม 2019

Forter ผู้นำในด้านการป้องกันการฉ้อโกงอีคอมเมิร์ซ ประกาศการเปิดตัว Fraud Attack Index รุ่นที่เจ็ดของบริษัทในวันนี้ รายงานนี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของธุรกิจออนไลน์ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย

Fraud Attack Index ฉบับล่าสุดระบุว่าการฉ้อโกงได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบมากกว่าแค่จุดการทำธุรกรรม โดยยังมีการส่งผลกระทบต่อบัญชีต่างๆ เช่น Loyalty Program และการละเมิดนโยบายการส่งคืน การฉ้อโกงในโปรแกรมแรงจูงใจนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 89% ปีต่อปี ในขณะที่จำนวนเม็ดเงินดอลลาร์ทั้งหมดในการฉ้อโกงทางออนไลน์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 12% ปีต่อปี

“กำลังเกิดเทรนด์ใหม่ที่ชัดเจนในการฉ้อโกงทางออนไลน์” Michael Reitblat ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Forter กล่าว “อุตสาหกรรมในภาพรวมมีการทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงในการชำระเงินที่จุดทำธุรกรรม สิ่งนี้จะกำจัดพวกมือใหม่ออกไป เราจึงพบว่าตอนนี้ผู้ฉ้อโกงได้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายการดำเนินการใน Customer Journey เร็วขึ้น ซึ่งทำให้เข้าถึงบัญชีต่างๆ ของลูกค้าได้” 

Fraud Attack Index แสดงให้เห็นว่าผู้ฉ้อโกงมีอัตราการประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างมากในการโจมตีเพื่อเข้ายึดบัญชี (ATO) บุคคลกว่า 1.5 ล้านรายที่บัญชีถูกโจมตีจนเกิดความเสี่ยง ได้มีผู้เปิดบัญชีเพิ่มเติมโดยใช้ชื่อของพวกเขา ผู้ฉ้อโกงจะโอนเงินทุนไปยังบัญชีเหล่านี้จากบัญชีต่างๆ ที่ถูกกฎหมายของเหยื่อ ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากจุดสูงสุดก่อนหน้า

“เทรนด์ที่สอง” Reitblat กล่าวต่อ “แสดงให้เห็นว่าผู้ฉ้อโกงกำลังกระจายทรัพย์สินไปยังสกุลเงินที่อ่อนลง ซึ่งไม่ใช่สกุลเงินหลักในอุตสาหกรรมการเงิน และได้มีการดำเนินการมากกว่าการฉ้อโกงบัตรเครดิต โดยได้มีความเคลื่อนไหวในด้านอื่นๆ เช่น การฉ้อโกงบัญชีโปรแกรมแรงจูงใจ และการละเมิดนโยบาย”

โดยใช้ประโยชน์จากไซโลที่แยกการปฏิบัติงานของบริษัทที่มีหน้าร้านจริงและการปฏิบัติงานทางออนไลน์ออกจากกัน การฉ้อโกงการซื้อทางออนไลน์และส่งคืนที่ร้านค้า (BORIS) เพิ่มขึ้น 23% และการซื้อออนไลน์จากนั้นมารับที่ร้าน (BOPIS) ก็เพิ่มขึ้น 23% เช่นกัน นอกจากนั้น การละเมิดคูปองก็เพิ่มขึ้นเป็น 10%

“วันนี้ Customer Journey ได้กลายเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้นเพราะลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในจุดสัมผัสบริการที่หลากหลายเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ได้ประสบการณ์แบบหลายช่องทางที่แท้จริง” Jordan McKee ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ 451 Research กล่าว “ข้อมูลใน Fraud Attack Index ฉบับล่าสุดเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เมื่อการชำระเงินทั่วโลกและระบบอีคอมเมิร์ซได้มีการเปลี่ยนแปลง อาชญากรรมออนไลน์ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อการฉ้อโกงเปลี่ยนแปลงไปยังจุดที่อ่อนแอกว่าในระบบ ผู้ค้าจึงต้องขยายการเอาใจใส่เพื่อป้องกันร้านค้าและลูกค้าในจุดสัมผัสบริการทั้งหมดด้วยเช่นกัน”

“ผู้ค้าต้องตอบสนองโดยปรับใช้แนวทางในการประเมินสถานการณ์ที่มีความต่อเนื่องและปฏิบัติงานได้ด้วยตัวเองใน Customer Journey ทั้งหมด” Reitblat กล่าว “การมุ่งเน้นไปที่การฉ้อโกงการขอคืนยอดชำระและบัตรเครดิตที่จุดทำธุรกรรมไม่เพียงพออีกต่อไป แพล็ตฟอร์มการป้องการการฉ้อโกงแบบบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบเท่านั้นที่จะช่วยให้ผู้ค้าแก้ปัญหาการฉ้อโกงได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำในทั่วทั้ง Customer Journey”  

เกี่ยวกับ Forter

Forter คือผู้นำในด้านการป้องกันการฉ้อโกงในอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปกป้องธุรกรรมการค้าทางออนไลน์กว่า 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐให้กับลูกค้ากว่า 500 ล้านรายทั่วโลกจากการฉ้อโกงบัตรเครดิต การเข้ายึดบัญชี การขโมยข้อมูลประจำตัว และอื่นๆ โซลูชั่นการป้องกันการฉ้อโกงที่ใช้ข้อมูลประจำตัวของบริษัทจะตรวจจับกิจกรรมการฉ้อโกงในเวลาจริง ในประสบการณ์ของลูกค้าทางออนไลน์ทั้งหมด

แพล็ตฟอร์มการป้องการการฉ้อโกงแบบบูรณาการของ Forter จัดทำโดย Global Merchant Network ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยการฉ้อโกงเชิงพยากรณ์และการจำลองแบบ และความสามารถในการจัดทำแพล็ตฟอร์มตามความต้องการแบบเจาะจงสำหรับลูกค้า ด้วยเหตุนี้ Forter จึงเป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Fortune 500 ต่างๆ ในการนำเสนอความแม่นยำที่ยอดเยี่ยม ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และช่วยยกระดับการขายด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า

Forter มีเงินทุนเป็นจำนวน 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐจากกลุ่มการร่วมทุนทางธุรกิจชั้นแนวหน้า ซึ่งรวมถึง Sequoia, NEA และ Salesforce

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191015005167/en/

ติดต่อ:

Gary Schwartz

VP Brand and Communications, Forter

gary.schwartz@forter.com

The Bangkok Reporter