แมรี่ เคย์ อิงค์ร่วมกับ SPICE เพื่อร่วมกำหนดอนาคตการผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน

Logo

ดัลลัส–(บิสิเนสไวร์)–28 ก.พ. 2563

แมรี่ เคย์ อิงค์ผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและองค์กรประกาศการเข้าร่วมโครงการบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อความยั่งยืน Sustainable Packaging Initiative for Cosmetics (SPICE) พร้อมกับ 17 องค์กรสมาชิก ได้แก่ Hermes, Chanel, Coty, Estee Lauder และอื่นๆ เพื่อกำหนดแนวทางนโยบายการผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน ผลักดันนวัตกรรม และตอบสนองความคาดหวังด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200228005099/en/

Richard R. Rogers (R3) Manufacturing/R&D Center. (Photo: Mary Kay Inc)

ศูนย์การผลิต/การวิจัยและพัฒนา Richard R. Rogers (R3) (ภาพ: แมรี่ เคย์ อิงค์)

“ที่แมรี่ เคย์เราเชื่อว่าสีชมพูคือสีเขียวใหม่” Keith Learn รองประธานฝ่ายจัดซื้อและพัฒนาซัพพลายเออร์ของแมรี่ เคย์กล่าว “โดยร่วมกับ SPICE และผู้นำอุตสาหกรรมอื่นๆ แมรี่ เคย์มุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนมากขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป”

SPICE ก่อตั้งขึ้นโดย L'Oréa lและ Quantis ในปี 2561 เพื่อพัฒนาและเผยแพร่วิธีการและข้อมูลเชิงธุรกิจเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของห่วงโซ่บรรจุภัณฑ์ทั้งหมด โดยสมาชิกจะแบ่งปันประสบการณ์และความรู้เพื่อความอย่างยั่งยืนบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางในระดับกว้างขวาง

การเข้าร่วม SPICE เป็นเพียงก้าวล่าสุดในหลายขั้นตอนที่แมรี่ เคย์ได้ดำเนินการเพื่อสานต่อความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน ในปี 2561 บริษัทได้เปิดศูนย์ผลิต/การวิจัยและพัฒนา Richard R. Rogers ในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเท็กซัสเพื่อเป็นศูนย์ฝังกลบขยะที่ได้รับการรับรอง LEED Silver โดย LEED นั้นย่อมาจากผู้นำด้านการออกแบบพลังงานและสิ่งแวดล้อม Leadership in Energy and Environmental Design เป็นระบบจัดอันดับอาคารสีเขียวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลกที่พัฒนาโดย US Green Building Council (USGBC)  การรับรอง LEED นั้นมอบให้แก่โครงการที่มีการออกแบบ สร้าง บำรุงรักษา และดำเนินการโดยใช้หลักปฏิบัติที่ดีต่อสุขภาพ มีประสิทธิภาพสูง และยั่งยืน  นับเป็นสถานที่ที่สองของแมรี่ เคย์ที่ได้รับการรับรอง LEED  ในปี 2560 สำนักงาน Mary Kay China ในเซี่ยงไฮ้ได้รับการรับรอง LEED Gold สำหรับความเป็นผู้นำในอาคารสีเขียวและความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน

เกี่ยวกับแมรี่ เคย์

โดยเป็นหนึ่งในผู้ที่ก้าวผ่านเพดานสังคมรายแรก แมรี่ เคย์ แอชได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอเมื่อ 56 ปีก่อนโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ: มอบโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้หญิง สร้างผลิตผลิตภัณฑ์มีเสน่ห์ที่ไม่อาจห้ามใจได้  และทำให้โลกดียิ่งขึ้น   ความฝันดังกล่าวได้งอกงามเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ   แมรี่ เคย์ลงทุนกับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางสี และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและน้ำหอม   แมรี่ เคย์มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว การสร้างความสวยงามให้กับชุมชนต่างๆ และการกระตุ้นให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ของแมรี่ เคย์ แอชยังคงส่องประกาย – ในลิปสติกทุกแท่ง  เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200228005099/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications (ฝ่ายสื่อสารองค์กร แมรี่ เคย์ อิงค์)
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

Validity เข้าสู่ข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อนำ 250ok มาขยายพอร์ตอีเมลที่ดีที่สุด

Logo

การซื้อกิจการเป็นการนำผู้นำระดับสูงในตลาดอีเมลมารวมกันเพื่อสร้างเครือข่ายของผู้ให้บริการการวิเคราะห์การจัดส่งใด ๆ ของข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–28 ก.พ. 2563

Validity ซึ่งเป็นชื่อที่น่าเชื่อถือที่สุดในด้านคุณภาพข้อมูลของลูกค้าประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อรับการวิเคราะห์อีเมลและผู้ให้บริการส่งมอบ 250ok ตั้งแต่ปี 2554 250ok ได้พัฒนาซอฟต์แวร์การจัดการอีเมลและเครื่องมือระดับนวัตกรรมที่ใช้โดยธุรกิจทุกขนาด การซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้ Validity ขยายขีดความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ให้บริการอีเมลทั่วทั้งระบบนิเวศทั่วโลก

อีเมลยังคงเป็นช่องทางที่สำคัญสำหรับนักการตลาดในการดึงดูดและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า อย่างไรก็ตามยังมีความท้าทายในการป้องกันไม่ให้ข้อความไปตกอยู่ในโฟลเดอร์สแปมและการทำให้ผู้รับอีเมลยังคงชื่นชอบ ผู้ให้บริการกล่องจดหมาย (mailbox) ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องผู้ใช้จากสแปม ภัยคุกคาม และกล่องจดหมายที่เต็มไปด้วยวิธีการทางการตลาดที่สุ่มและไม่เฉพาะเจาะจง (unoptimized, spray-and-pray approaches to marketing) หากไม่มีข้อมูล เครื่องมือ และคำแนะนำที่ถูกต้องแล้ว แม้แต่ผู้ส่งอีเมลที่ดีที่สุดก็ยากที่จะสามารถฝ่าฟันกล่องจดหมายเข้ามาและส่งผลกระทบ โดยสำหรับผู้ค้าปลีกออนไลน์แล้ว การทำให้อีเมลไม่ตกอยู่ในโฟลเดอร์สแปมมีผลกระทบอย่างมากต่อโอกาสรายได้และการแปลง (conversion) ทั้งนี้ 250ok ช่วยให้นักการตลาดสามารถส่งอีเมลได้ถึงเป้าหมายมากขึ้น ด้วยวิธีที่ถูกต้องสำหรับเป้าหมายที่ถูกต้อง และเพลิดเพลินกับการแปลง (conversion) และผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น

250ok เริ่มสร้างนวัตกรรมในตลาดซอฟต์แวร์การวิเคราะห์และการส่งมอบในปี 2554 โดยบริษัทถูกก่อตั้งโดยอดีตผู้เชี่ยวชาญการส่งอีเมล Greg Gregios จาก ExactTarget ในวันนี้ 250ok ปฏิวัติซอฟต์แวร์การจัดการอีเมลโดยการสร้างเครื่องมือระดับนวัตกรรมสำหรับผู้ส่งอีเมลยุคปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง Marketo, CDW, National Geographic, Crutchfield, Furniture Row และ PETA ด้วยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ Validity จะรวมตัวผู้ที่มีความสามารถอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรมอีเมลเพื่อช่วยให้แน่ใจว่าข้อความจะไม่ไปตกอยู่ในโฟลเดอร์สแปม

Mark Briggs ประธานและซีอีโอของ Validity กล่าวว่า“ ในบรรดาผู้เล่นจำนวนมากในตลาดอีเมล แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ที่รวมความเชี่ยวชาญด้านอีเมลและการเข้าถึงผู้ให้บริการอีเมลของ 250ok ที่กว้างที่สุดนำมาซึ่งมูลค่ามหาศาลแก่นักการตลาดทั่วโลก”

ลูกค้าอีเมลรายใหญ่ที่สุดของ Validity ใช้ทั้ง 250ok และ Return Path จาก Validity เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญอีเมลของตน ด้วยการซื้อกิจการครั้งนี้ โซลูชั่น Validity for Email ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นด้วยเทคโนโลยีและบริการ 250ok ซึ่งรวมถึง:

  • การส่งมอบและชื่อเสียง (Deliverability and Reputation)
  • การวิเคราะห์ Engagement
  • การปรับใช้ DMARC
  • ตัวอย่างการออกแบบ (Design Previews)
  • การตรวจสอบรายชื่อ (List Validation)

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราทำงานอย่างหนักเพื่อให้เป็นที่โดดเด่นในตลาดที่มีผู้คนหนาแน่น ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักการตลาดทางอีเมลทุกที่” Greg Kraios ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ 250ok กล่าว “ เมื่อผมพบ Mark Briggs ซีอีโอของ Validity เป็นครั้งแรก ผมรู้ว่ามีโอกาสที่จะได้สนทนาเรื่องใหม่ ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอีเมลและทิศทางที่มันควรจะเป็น ตอนนี้เป็นในฐานะส่วนหนึ่งของ Validity เราสามารถผลักดันนวัตกรรมและความเป็นเลิศให้กับทุกคนในระบบนิเวศทางอีเมล”

ด้วยการเข้าซื้อกิจการ 250ok ทาง Validity จะยังคงขยายตลาดและขยายพอร์ตโฟลิโอของโซลูชั่นชั้นนำสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการขายและการตลาด ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Validity ได้ทำการซื้อที่สำคัญดังต่อไปนี้:

  • CRMfusion แอปพลิเคชั่นชั้นนำสำหรับคุณภาพข้อมูล CRM ระดับองค์กร
  • BriteVerify แพลตฟอร์มระดับโลกที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการตรวจสอบอีเมล
  • Return Path ผู้นำระดับโลกในการทำให้อีเมลไม่ไปตกอยู่ในโฟลเดอร์สแปม
  • AppBuddy แอปพลิเคชันกริดอันดับต้น ๆ สำหรับ Salesforce และแพลตฟอร์มอื่น ๆ และ
  • 250ok แพลตฟอร์มการวิเคราะห์อีเมลชั้นนำ

เงื่อนไขทางการเงินของข้อตกลงไม่ถูกเปิดเผย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 250ok เข้าไปชมที่ https://250ok.com.

เกี่ยวกับ Validity

กว่า 20 ปีที่ผ่านมาองค์กรนับหมื่นแห่งทั่วโลกใช้โซลูชัน Validity ในการกำหนดเป้าหมายติดต่อมีส่วนร่วมและรักษาลูกค้าโดยใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นข้อได้เปรียบหลัก ผลิตภัณฑ์เรือธงของ Validity ซึ่งได้แก่ – DemandTools, BriteVerify, Return Path, Trust Assessments และ GridBuddy – เป็นโซลูชั่นอันดับ # 1 สำหรับการจัดการข้อมูล CRM การตรวจสอบที่อยู่อีเมล ความสามารถในการส่งข้อความเข้าและการหลีกเลี่ยงโฟลเดอร์สแปม และแอปพลิเคชั่น CRM แบบกริด โซลูชั่นเหล่านี้นำเสนอแคมเปญที่ชาญฉลาด สร้างโอกาสในการขายมากขึ้นสร้างยอดขายได้มากขึ้นและช่วยให้เติบโตเร็วขึ้นในที่สุด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม Validity.com และเชื่อมต่อกับเราใน LinkedIn, Instagram และ Twitter.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200227005774/en/

ติดต่อ:

Validity Media Relations

Charlie Ungashick

pr@validity.com

เคแบงก์มอบประกันชีวิต COVID-19 ฟรี!!! ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ ลูกค้า K PLUS ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทันที

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–28 กุมภาพันธ์ 2563

imgธนาคารกสิกรไทย ใส่ใจและห่วงใยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ด้วยการมอบกรมธรรม์ประกันชีวิต COVID-19 ให้กับลูกค้า K PLUS ฟรี! คุ้มครอง 30 วัน วงเงินสูงสุด 100,000 บาท และคุ้มครองชดเชยรายได้ 1,000 บาทต่อวัน สูงสุด 15 วัน โดยลูกค้า K PLUS สามารถรับสิทธิ์ได้ง่าย ๆ เพียงลงทะเบียนผ่าน LINE KBank Live ตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ. ถึง 15 มี.ค. 2563

นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)  ทำให้ธนาคารเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่จะมีส่วนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับลูกค้าธนาคารในทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อย ลูกค้าผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ขอมอบ “ประกันชีวิต COVID-19” ฟรี ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ K PLUS ซึ่งมีจำนวนกว่า 12.4 ล้านราย เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน LINE KBank Live โดยไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม 2563 สำหรับประชาชนที่สนใจรับสิทธิ์ดังกล่าว สามารถสมัคร K PLUS และลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน LINE KBank Live ได้ทันที ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มาตรการการดูแลลูกค้าในครั้งนี้ จะช่วยคลายความวิตกกังวลและสร้างความอุ่นใจในการดำเนินชีวิตของลูกค้า

ความคุ้มครองของ “ประกันชีวิต COVID-19” ของธนาคารกสิกรไทย

ตารางรายละเอียดความคุ้มครอง

จำนวนเงิน

  1. คุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี

1,000  บาท

  1. คุ้มครองการเสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)

100,000 บาท

  1. ค่าชดเชยรายวัน ในฐานะผู้ป่วยใน จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) สูงสุดไม่เกิน 15 วัน

1,000 บาท/วัน

  • ผู้ขอเอาประกันภัยต้องมีอายุไม่เกิน 70 ปี ณ วันที่ลงทะเบียน
  • ลูกค้า 1 หมายเลขบัตรประชาชน ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น
  • ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน (วันที่เริ่มมีผลคุ้มครอง เวลา 00.01 น. จากวันที่ลูกค้าได้รับการยืนยันการรับสิทธิ์ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)

วิธีการลงทะเบียนรับสิทธิ์

1) ลงทะเบียนผ่าน LINE KBank Live

2) ลูกค้ากรอกข้อมูลส่วนตัว

3) ลูกค้ารับ OTP เพื่อยืนยันตัวตน

4) ลูกค้ารับข้อความเพื่อยืนยันได้รับสิทธิ์ผ่าน LINE KBank Live

5) ลูกค้าที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์แล้ว กรมธรรม์จะเริ่มคุ้มครองในวันถัดไปจนถึงวันที่สิ้นสุดความคุ้มครอง 30 วัน

ประชาชนที่สนใจรับสิทธิ์ดังกล่าว สามารถสมัคร K PLUS และลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน LINE KBank Live ได้ทันทีสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K Contact Center 02 888-8888 หรือ https://kbank.co/3ckXSNV 

Keio Plaza Hotel Tokyo ฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระด้วยการจัดดอกไม้ที่สวยงาม อาหารแสนอร่อย และศิลปะซากุระดิจิตอล

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–27 ก.พ. 2563

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) หนึ่งในโรงแรมนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในชินจูกุโตเกียวเตรียมจัดงานพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระด้วยรายการเมนูพิเศษในธีมดอกซากุระโดยเชฟแนวหน้าที่ร้านอาหารแปดแห่งของเราระหว่างวันที่ 1 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2563  นอกจากการบานของดอกซากุระแล้วฤดูใบไม้ผลิยังเป็นฤดูที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสำหรับหลายๆ คนที่เฉลิมฉลองโอกาสต่างๆ เช่นการเริ่มและจบการศึกษาและการเริ่มงานใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200227005388/en/

A magnificent large flower arrangement using "Sakura" cherry blossoms will be displayed in the third floor main lobby to provide guests with a ideal location to take commemorative photographs from the beginning of April. (Photo: Business Wire)

ในล็อบบี้หลักบนชั้นสามจะปรากฏการจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ที่งดงามโดยใช้ดอกซากุระจะในเพื่อให้แขกที่เข้าพักได้ถ่ายรูปที่ระลึกตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน (ภาพ: บิสสิเนสไวร์)

ในช่วงนี้จะมีการจัดดอกไม้ที่สวยงามโดยศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น Hiroki Maeno ที่ล็อบบี้ชั้นสามและบริเวณทางเดินชั้นสองของโรงแรม  นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากต่างประเทศมักเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมดอกซากุระที่สวยงาม  และเนื่องจากดอกซากุระยังเบ่งบานในระยะเวลาสั้นๆ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ อาหารพิเศษและงานจัดดอกไม้ของของจึงมีมาเพื่อยืดระยะเวลาที่แขกสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระและถ่ายภาพที่ระลึกได้

ในร้านอาหาร “Jurin” ของเรานั้นบริษัท Restaurant, NAKED Inc., ที่ทำเกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์ การออกแบบพื้นที่ และงานสร้างสรรค์จะเข้าร่วมในกิจกรรมฤดูใบไม้ผลินี้โดยการสร้างวิดีโอฉายภาพคู่กับอาหารและเครื่องดื่ม  วิดีโอจะสื่อถึงช่วงเวลาวิเศษอันแสนสั้นของการบานของดอกซากุระและฤดูใบไม้ผลิ

เกี่ยวกับโรงแรม Keio Plaza

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) ตั้งอยู่ในชินจูกุใจกลางเมืองหลวงของโตเกียว เป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติของญี่ปุ่น โรงแรมของเรามีร้านอาหารและบาร์กว่า 15 แห่งและเราเป็นเจ้าภาพงานมากมายให้กับแขกทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การต้อนรับที่อบอุ่น และบริการที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้แขกได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงประสบการณ์งานแต่งงานกิโมโน พิธีชงชา และอื่นๆ อีกมากมาย  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา YouTube, Facebook หรือ Instagram

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200227005388/en/

ติดต่อ:

Keio Plaza Hotel Tokyo
Keiko Kawashima, +81-3-5322-8010
Public Relations Manager (ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์)
keiko-kawashima@keioplaza.co.jp

Energous ได้รับการอนุมัติด้่นกฎระเบียบเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมสำหรับเทคโนโลยี WattUp สุดล้ำหน้าด้านการชาร์จแบบไร้สายในญี่ปุ่น

Logo

เทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สาย 2.0 ของ บริษัท ได้รับการอนุมัติให้ถูกจัดส่งได้ใน 112 ประเทศทั่วโลก

ซานโฮเซ่ คาลิฟอร์เนีย.–(BUSINESS WIRE)– 27 กุมภาพันธ์ 2563

วันนี้ Energous Corporation  (Nasdaq: WATT) ผู้พัฒนา WattUp® ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายที่ปฏิวัติวงการ 2.0 ประกาศว่าเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สาย WattUp Near Field  ของบริษัทได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบในญี่ปุ่น

Stephen R. Rizzone ประธานและซีอีโอของ Energous Corporation กล่าวว่า“ การที่เทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายของ WattUp ได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบในญี่ปุ่นนั้นเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ Energous “นี่เป็นการเปิดประตูสู่การขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานร่วมกับ WattUp ในตลาดเอเชียแปซิฟิกที่สำคัญแห่งหนึ่ง”

เทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย WattUp ของ Energous ได้รับการทดสอบโดยห้องปฏิบัติการทดสอบที่ได้รับการรับรองและได้รับการรับรองว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดทั้งหมดในญี่ปุ่น

Dan Lawless รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของ Energous Corporation กล่าวว่า“ การอนุมัติ WattUp ในญี่ปุ่นเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Energous และลูกค้าของเรา “ เรากำลังกำหนดกรอบการกำกับดูแลสำหรับการปรับใช้ขนาดใหญ่ของการชาร์จไร้สาย 2.0 ผ่านการมีส่วนร่วมที่สำคัญของเราในองค์กรคลื่นความถี่และมาตรฐานระหว่างประเทศที่สำคัญ ร่วมไปกับการทำงานโดยตรงของเรากับรัฐบาลทั่วโลก”

“ปัจจุบัน เทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สาย – โซลูชั่นการชาร์จแบบไม่ใช้ขดลวดโดยเฉพาะยังไม่ได้เจาะไปที่ตลาดญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะในอดีตมีการพบว่าญี่ปุ่นมีกระบวนการอนุมัติที่เข้มงวดมากกว่าที่อื่น ตอนนี้ Energous Corporation กำลังปูทางสำหรับอุตสาหกรรมในตลาดญี่ปุ่นด้วยการได้รับการอนุมัติเทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย WattUp เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม ด้วยความสำเร็จครั้งนี้ Energous ยังคงแสดงความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยี WattUp เพื่อตอบสนองความต้องการของบริษัท คู่ค้าและลูกค้า” Dinesh Kithany นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม พลังงานไร้สายและแหล่งจ่ายไฟของ Omdia กล่าว.

ประโยชน์บางประการของเทคโนโลยี WattUp ของ Energous สำหรับผู้ผลิต ได้แก่ :

  • ขนาดที่เล็กช่วยให้ WattUp สามารถรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์หลากหลายฟอร์มแฟ็คแตอร์รวมถึงอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีขอบโค้งหรือไม่มีพื้นผิวเรียบ
  • อิสระรอบทิศทางและการรองรับมุม 90 องศาการตรวจจับวัตถุแปลกปลอมกำจัดปัญหาเรื่องความร้อนด้วยโลหะและวัสดุอื่น ๆ
  • สามารถทำงานร่วมกันกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานร่วมกับ WattUp ทั้งหมด แม้กระทั่งจากผู้ผลิตที่แตกต่างกัน

จนถึงปัจจุบัน Energous ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยสำหรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายของ WattUp ในประเทศต่อไปนี้:

อัฟกานิสถาน

แอลเบเนีย

อันดอร์รา

แองโกลา

แอนติกาและบาร์บูดา

อาร์เจนตินา

อาร์เมเนีย

อารูบา

ออสเตรเลีย

ออสเตรีย

อาเซอร์ไบจาน

บาฮามาส

บาร์เบโดส

เบลารุส

เบลเยียม

เบลีซ

เบอร์มิวดา

โบลิเวีย

บอสเนียและเฮอร์เซโก

บอตสวานา

บราซิล

บรูไน

บัลแกเรีย

บูร์กินาฟาโซ

กัมพูชา

แคนาดา

เกาะเคย์แมน

สาธารณรัฐอัฟริกากลาง

ชิลี

โคลอมเบีย

คอสตาริกา

โครเอเชีย

คูราเซา

ไซปรัส

สาธารณรัฐเช็ก

เดนมาร์ก

จิบูตี

สาธารณรัฐโดมินิกัน

โดมินิกา

เอกวาดอร์

อียิปต์

เอลซัลวาดอร์

เอริเทรี

เอสโตเนีย

สาธารณรัฐเอธิโอเปีย

ฟินแลนด์

ฝรั่งเศส

จอร์เจีย

เยอรมัน

กานา

กรีซ

เกรเนดา

กัวเตมาลา

กายอานา

ฮอนดูรัส

ฮังการี

ประเทศไอซ์แลนด์

อินเดีย

อินโดนีเซีย

ไอร์แลนด์

อิตาลี

เกาะจาเมกา

ญี่ปุ่น

จอร์แดน

โคโซโว

ลัตเวีย

นสไตน์

ลิธัวเนีย

ลักเซมเบิร์ก

มาซิโดเนีย

มาลาวี

มัลดีฟส์

เกาะมอลตา

เม็กซิโก

โมนาโก

มองโกเลีย

มอนเตเนโก

โมซัมบิก

เมียนมาร์ (เดิมชื่อพม่า)

เนปาล

เนเธอร์แลนด์

นิวซีแลนด์

นิการากัว

นอร์เวย์

ปานามา

เปรู

ฟิลิปปินส์

โปแลนด์

โปรตุเกส

โรมาเนีย

เซอร์เบีย

สโลวีเนีย

เกาะโซโลมอน

สโลวะเกีย

แอฟริกาใต้

สเปน

ซูรินาเม

สวีเดน

สวิสเซอร์แลนด์

ไต้หวัน

ทาจิกิสถาน

แทนซาเนีย

ประเทศไทย

ตรินิแดดและโตเบโก

ไก่งวง

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ยูกันดา

สหราชอาณาจักร

สหรัฐ

อุรุกวัย

อุซเบกิ

เวเนซุเอลา

Energous คาดว่าจะได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบในหลายตลาดเพิ่มเติมในปีนี้

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Energous กรุณาเยี่ยมชม Energous.com หรือติดตามบริษัทบน Twitter, Facebook และ LinkedIn.

เกี่ยวกับ Energous Corporation

Energous Corporation (Nasdaq: WATT) เป็นผู้นำการชาร์จไร้สายรุ่นแห่งอนาคต – การชาร์จแบบไร้สาย 2.0 – ด้วยเทคโนโลยี WattUp® ที่ได้รับรางวัล ซึ่งสนับสนุนการชาร์จที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพการติดต่อ รวมไปถึงการชาร์จในระยะไกล WattUp เป็นเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายที่ปรับขนาดได้ตาม RF ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จแบบใช้การสัมผัสการตรวจจับวัตถุแปลกปลอม อิสระรอบทิศทาง และประสิทธิภาพการระบายความร้อนเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีการชาร์จแบบเก่าที่ใช้ขดลวด เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถออกแบบเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดต่าง ๆ สำหรับบ้านและสำนักงานรวมไปถึงอุตสาหกรรมทางการแพทย์ อุตสาหกรรมค้าปลีก และยานยนต์และช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันระหว่างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ Energous พัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายโอนพลังงานแบบไร้สาย (WPT) ที่ใช้ซิลิคอนและการออกแบบอ้างอิงที่ปรับแต่งได้ ซึ่งรวมไปถึงชิปซิลิกอน นวัตกรรมเสาอากาศ และซอฟต์แวร์สำหรับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย เช่น สมาร์ทโฟน fitness tracke rอุปกรณ์เก็บข้อมูลเซ็นเซอร์ทางการแพทย์และอื่น ๆ Energous ได้รับการรับรองจาก FCC Part 18 เป็นรายแรกของโลกสำหรับการชาร์จแบบไร้สายระยะไกลและ บริษัท ได้รับสิทธิบัตร 220 รางวัลสำหรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายของ WattUp ในปัจจุบัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม Energous.com.

แถลงการณ์ Safe Harbor

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่อธิบายถึงแผนการและความคาดหวังในอนาคตของเรา ข้อความเหล่านี้โดยทั่วไปใช้คำเช่น "เชื่อ" "คาดหวัง" "อาจ" "จะ" "อาจจะ" "ควร" "น่าจะ" "แสวงหา" "ตั้งใจ" "วางแผน" "ประเมิน" "คาดการณ์" หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ตัวอย่างของแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าของเราในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ของเราเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคู่ค้า และนวัตกรรมการชาร์จแบบไร้สาย แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าของเราจะมีผลเฉพาะวันนี้เท่านั้น ข้อมูลจะขึ้นอยู่กับความคาดหวังในปัจจุบันและเราไม่มีหน้าที่ในการอัพเดท ปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างจากที่เราคาดไว้ ซึ่งได้แก่ เวลาที่ไม่แน่นอนของการอนุมัติตามกฎระเบียบที่จำเป็น ช่วงเวลาของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของลูกค้า และความสำเร็จของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของลูกค้า การพึ่งพาคู่ค้าสำหรับการจัดจำหน่ายของเรา และการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง เราขอให้คุณพิจารณาปัจจัยเหล่านั้นและความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่อธิบายไว้ในรายงานประจำปีล่าสุดของเราในแบบฟอร์ม 10-K และรายงานรายไตรมาสที่ตามมาในแบบฟอร์ม 10-Q ในการประเมินข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าของเรา

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200226005882/en/

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Energous

PR@energous.com

(408) 963-0200

ฝ่ายลงทุนสัมพันธ์ Energous

Mike Bishop

(415) 894-9633

IR@energous.com

กสิกรไทยติดตั้ง Thermoscan 5 อาคารหลัก ปกป้องลูกค้าและพนักงานจากไวรัสโคโรนา 2019

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–27 กุมภาพันธ์ 2563

imgธนาคารกสิกรไทย ยกระดับการดูแลลูกค้าและพนักงานจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานธนาคาร  โดยติดตั้งจุดคัดกรองด้วยเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Thermoscan)  เพื่อดูแลผู้ที่เข้า 5 อาคารขนาดใหญ่ของธนาคาร ได้แก่ อาคารราษฎร์บูรณะ อาคารพหลโยธิน อาคารแจ้งวัฒนะ อาคาร KBTG และอาคารสีลม ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป กรณีผู้ที่ผ่านเครื่อง Thermoscan แล้วพบว่ามีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะไม่อนุญาตให้ขึ้นอาคารเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งมาตรการใหม่นี้จะทำให้ผู้ที่จะขึ้นอาคารทั้ง 5 แห่ง อาจจะไม่ได้รับความสะดวกเช่นเดิม เนื่องจากต้องเข้า-ออกอาคารผ่านประตูที่กำหนดที่มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเท่านั้น

สำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานในสาขาได้มีการจัดเตรียมหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบการใช้งานมากขึ้น และธนาคารมีการกำหนดแนวทางดูแลพนักงานและข้อปฏิบัติที่เข้มงวดที่พนักงานต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดย ณ ขณะนี้ยังไม่มีพนักงานของธนาคารที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID-19


นูทานิคซ์ช่วยธุรกิจในเอเชีย จัดการกับผลกระทบที่รุนแรงจากโควิด-19

Logo

ด้วยการให้องค์กรธุรกิจใช้บริการเวอร์ชวลเดสก์ท็อปฟรี เพื่อช่วยให้พนักงานที่ติดขัดเรื่องการเดินทางสามารถทำงานได้  และธุรกิจต่าง ๆ ดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ – 27 กุมภาพันธ์ 2563 – นูทานิคซ์ (Nasdaq: NTNX) ผู้นำด้านระบบปฏิบัติการคลาวด์สำหรับองค์กร ประกาศให้องค์กรธุรกิจในเอเชียได้ทดลองใช้เฟรม (Frame) ซึ่งเป็นโซลูชั่นบริการเดสก์ท็อป (Desktop as a Service: DaaS) โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในส่วนของไลเซนส์ซอฟต์แวร์ สำหรับบริษัทที่ประสบกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วยให้พนักงานที่ไม่สามารถเข้ามาทำงานที่สำนักงานได้ ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากธุรกิจในภูมิภาคนี้ ต่างต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านการเดินทางของพนักงานและการร่วมประชุมกลุ่มใหญ่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

Nutanix Frame เป็นโซลูชั่นที่ทำงานบนระบบคลาวด์ ในลักษณะเป็นเวอร์ชวลเดสก์ท็อป ที่มีความยืดหยุ่น และมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทั้งยังสามารถเข้าถึงเพื่อใช้งานได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือใช้ฮาร์ดแวร์ใด ๆ

แน่นอนว่าเทคโนโลยีคลาวด์ได้ช่วยให้การทำธุรกิจมีความต่อเนื่อง การใช้บริการพับลิค ไพรเวท และไฮบริดคลาวด์ทำให้การเข้าถึงข้อมูลสำคัญและความพร้อมใช้งานของข้อมูลสำคัญยังคงอยู่

ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านจากการทำงานบนฮาร์ดแวร์ไปเป็นการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่การควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเดินทาง หรือเข้าถึงดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง และสามารถบริหารจัดการได้จากระยะไกล หรือด้วยพนักงานหลักเพียงคนเดียว ดังนั้น องค์กรต่าง ๆ ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยสิ่งเหล่านี้ 

การที่ Frame เป็นโซลูชั่นที่ทำงานบนระบบคลาวด์ เป็นเวิร์คสเปซแบบเสมือนสำหรับพนักงาน ทีมงาน ลูกค้า หรือพาร์ทเนอร์ ที่สามารถติดตั้งและเริ่มทำงานได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ดังนั้น พนักงานที่ไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้จะสามารถเข้าใช้แอปพลิเคชั่นใด ๆ ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย จากเว็บบราวเซอร์ที่บ้านของพวกเขา โดยไม่ต้องมีการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือการอัปเกรดใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ประโยชน์ที่แท้จริงที่องค์กรจะได้รับคือ ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างคล่องตัว และมีความยืดหยุ่น ในขณะที่ข้อมูลทางธุรกิจยังคงมีความปลอดภัย และไม่กระทบต่อผลงานหรือประสิทธิภาพ ระบบช่วยให้พนักงานทำงานได้จากทุกที่ บนอุปกรณ์ทุกประเภทอย่างปลอดภัย และสามารถเข้าใช้งานเดสก์ท็อป ไฟล์ และเน็ตเวิร์คของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นายแมตต์ ยัง รองประธานอาวุโส นูทานิคซ์ เอเชียแปซิฟิคและประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “เราพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการทำให้แน่ใจว่า ธุรกิจและเศรษฐกิจของเอเชียจะยังคงสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ยากจะคาดการณ์เช่นนี้ได้ ความปลอดภัยและความมั่นใจของพนักงานเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรก และเราสามารถช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมและทำงานผ่านซอฟต์แวร์ที่มีและเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย”

นูทานิคซ์ยินดีที่จะให้องค์กรธุรกิจในเอเชียได้ทดลองใช้ Frame ฟรีเป็นเวลา 30 วัน โดยไม่จำกับจำนวนผู้ใช้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าจะพัฒนาไปอย่างไร

เอเชียเป็นภูมิภาคหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และมีแรงกดดันมากมายมาสู่ธุรกิจในภูมิภาคนี้ทั้งจากระดับท้องถิ่น ในประเทศ และต่างประเทศ นูทานิคซ์มีความแน่วแน่ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจได้เข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจในเอเชียก้าวผ่านสถานการณ์ยากลำบากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ไปด้วยกันได้

###########

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอในการใช้ Frame ฟรี เพิ่มเติมได้ที่นี่ (https://docs.frame.nutanix.com/account-management/sign-up.html)

เกี่ยวกับนูทานิคซ์

นูทานิคซ์เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์และโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ ช่วยให้ฝ่ายไอทีไม่ต้องกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และสามารถมุ่งเน้นกับความสำคัญบนแอปพลิเคชั่นและบริการที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ บริษัททั่วโลกใช้ซอฟต์แวร์ Enterprise Cloud OS ของนูทานิคซ์ เพื่อให้บริหารจัดการแอปพลิเคชั่นได้ในคลิกเดียวและสามารถโยกย้ายไปมาได้ทั้งพับลิคคลาวด์ ไพรเวทคลาวด์ และดิสทริบิวเต็ดเอจด์คลาวด์ ดังนั้นจึงสามารถใช้แอปพลิเคชั่นได้ทุกขนาดและทุกรูปแบบด้วยต้นทุนรวมที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้องค์กรสามารถให้บริการสภาพแวดล้อม
ไอทีประสิทธิภาพสูงตามความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ดูแลการทำงานของแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ สัมผัสประสบการณ์เสมือนคลาวด์อย่างแท้จริง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nutanix.com หรือติดตามเราได้ที่ทวิตเตอร์ @nutanix

© 2020 Nutanix, Inc. All rights reserved. Nutanix, the Nutanix logo and all Nutanix product and service names mentioned herein are registered trademarks or trademarks of Nutanix, Inc. in the United States and other countries. All other brand names mentioned herein are for identification purposes only and may be the trademarks of their respective holder(s). This release may contain links to external websites that are not part of Nutanix.com. Nutanix does not control these sites and disclaims all responsibility for the content or accuracy of any external site. Our decision to link to an external site should not be considered an endorsement of any content on such a site.

การรักษาโรคมะเร็งแบบใหม่ถูกพัฒนาขึ้นที่ NTHU

Logo

HSINCHU, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)– 27 กุมภาพันธ์ 2563

ทีมวิจัยนำโดยดร. Yunching Chen และ Tsai-Te Lu จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ Tsing Hua หรือ National Tsing Hua University ได้พัฒนาวิธีการรักษาโรคมะเร็งขึ้นมาใหม่ซึ่งเส้นเลือดภายในเนื้องอกมะเร็งนั้นจะถูกปรับค่าให้เป็นปกติโดยการฉีดนาโนโมเดลที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับไนตริกออกไซด์ (NanoNO) ซึ่งอำนวยความสะดวกในการส่งมอบยารักษาโรคมะเร็งและอิมมูโนไซต์เข้าไปในเนื้องอก งานวิจัยที่ก้าวล้ำของพวกเขาได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Nanotechnology.อันทรงเกียรติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติด้านมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200226005036/en/

Dr. Yunching Chen (left) and Tsai-Te Lu of NTHU have recently developed a new treatment for cancer. (Photo: National Tsing Hua University)

ดร. Yunching Chen (ซ้าย) และ Tsai-Te Lu แห่ง NTHU เพิ่งพัฒนาวิธีการรักษาโรคมะเร็งใหม่ (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติซิงหัว)

Chen เปรียบครงสร้างของร่างกายมนุษย์เหมือนเป็นเมือง และเปรียบเซลล์มะเร็งให้เป็นแก๊งของนักเลงที่อยู่ในเมือง การปล่อยสาร angiogenesis ชักนำให้หลอดเลือดโดยรอบหาสารอาหารที่ขยายตัวเองเพื่อป้องกันเนื้อร้าย hypoxic ของเซลล์มะเร็ง ในปัจจุบันรูปแบบของการรักษาโรคมะเร็ง เช่น เคมีบำบัดและการใช้กลุ่มยาเป้าหมายส่วนใหญ่จะใช้วิธีการฆ่าเซลล์มะเร็งหรือเส้นเลือดที่มีเนื้องอก แต่ก็ก่อให้เกิดความผิดปกติในการทำงานและโครงสร้างของหลอดเลือด นอกจากนี้เมื่อเซลล์มะเร็งใด ๆ รอดชีวิตมากได้ พวกมันจะดื้อรั้นเพิ่มขึ้น เฉกเช่นเดียวกับ นักเลงที่ยิ่งฮึกเหิม จึงเพิ่มโอกาสของการกำเริบหรือการแพร่กระจาย

สิ่งที่ทำให้การรักษาที่เป็นนวัตกรรมนี้น่าสนใจเป็นพิเศษคือการใช้เส้นเลือดเนื้องอกซึ่งได้รับการมองว่าเป็นสิ่งที่ส่งเสริมเซลล์มะเร็งโดยตรง Chen อธิบายว่าหลังจากที่เส้นเลือดมะเร็งถูกปรับค่าให้ปกติ พวกมันสามารถช่วยเสริมการทำงานของยาต้านมะเร็งและเซลล์ภูมิคุ้มกัน

เป็นช่วงที่กำลังพิจารณาวิธีที่จะรับมือกับเส้นเลือดที่น่ากลัวนี่เอง ที่ Chen ไปพบกับ Lu โดย Lu กล่าวว่าไนตริกออกไซด์สามารถส่งเสริมการขยายตัวของหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นจึงใช้ในการรักษากรณีต่าง ๆ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายและความดันโลหิตสูงในปอด อย่างไรก็ตามเนื่องจากอายุการใช้งานที่สั้นของไนตริกออกไซด์ ส่วนใหญ่จึงถูกใช้ในการรักษาอาการเฉียบพลัน และใช้ไม่ได้ผลสำหรับโรคเรื้อรังอย่างเช่นมะเร็ง

ทีมพัฒนาระบบ nanodelivery ที่ใช้โพลีเมอร์ซึ่งประกอบด้วยกรดแลคติคและกรดไกลโคลิกเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับสารประกอบทางเคมี biomimetic dinitrosyl iron complex (DNIC) ซึ่งปล่อยไนตริกออกไซด์ ดังนั้นจึงขยายเวลาที่โมเลกุลของไนตริกออกไซด์ถูกปลดปล่อยอย่างมีประสิทธิภาพจากระดับนาทีไปสู่ระดับวัน ช่วยให้มันสามารถสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อเนื้องอกและฟื้นฟูเส้นเลือดที่ผิดปกติให้เป็นปกติ เมื่อมาถึงจุดนี้ยาต้านมะเร็งและเซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถเจาะเข้าไปในเนื้องอกทำลายเซลล์มะเร็งในคราวเดียว

Immunotherapy ได้กลายเป็นหัวข้อสำคัญในการวิจัยการรักษามะเร็งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Chen กล่าวว่าทีมของเธอได้ใช้ท่อนาโนไนตริกออกไซด์ร่วมกับภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดเนื้องอกตับในหนูได้สำเร็จ

Lu กล่าวว่า biomimetic DNIC ซึ่งเป็น carrier ตัวใหม่สำหรับไนตริกออกไซด์ สามารถสังเคราะห์ได้ง่ายในสามขั้นตอน และการทำสูตรก็สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยการเพิ่มขั้นตอนเพียงหนึ่งขั้นตอน ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตเป็นจำนวนมาก ทางทีมได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรในไต้หวันและสหรัฐอเมริกาเพื่อพัฒนา nanocarrier ไนตริกออกไซด์ และพวกเขากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้สำหรับความร่วมมือกับโรงพยาบาลในประเทศและบริษัทยาต่างประเทศ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200226005036/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh

National Tsing Hua University

(886)3-5162006

hoyu@mx.nthu.edu.tw

HeadSpin ประกาศการระดมทุนรอบ Series C 60 ล้านดอลลาร์ที่การประเมินมูลค่า 1 พัน 16 ล้านดอลลาร์และเพิ่ม Nikesh Arora เป็นประธานคณะกรรมการ

Logo

โดยคาดว่าจะบรรลุเป้ารายได้ประจำปี 100 ล้านดอลลาร์ในต้นปี 2563 ในเวลาเพียงกว่าสี่ปีหลังจากการลงทะเบียน โดยการลงทุนใหม่จะช่วย HeadSpin ในการเสริมสร้างตำแหน่งบริษัทในระบบนิเวศของคลาวด์

พาโล อัลโต แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–26 ก.พ. 2563

HeadSpin บริษัท ที่สร้างประสบการณ์ระบบเชื่อมต่อที่ไร้ที่ติผ่านเว็บ มือถือ IoT และ 5G ประกาศในวันนี้ถึงการระดมทุนรอบ Series C 60 ล้านดอลลาร์นำโดย Dell Technologies Capital และ ICONIQ Capital โดยมีส่วนร่วมจากนักลงทุนสถาบัน Tiger Global Management, Kearny Jackson และ Alpha Square Group  การระดมทุนรอบนี้ได้ระดมเงินกว่า 117 ล้านดอลลาร์  HeadSpin จะใช้เงินทุนเพื่อพัฒนาข้อเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายกิจการไปยังกลุ่มตลาดใหม่ และวางตำแหน่งในระบบนิเวศของคลาวด์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ HeadSpin ยังประกาศว่า Nikesh Arora ประธานกรรมการบริหารของ Palo Alto Networks ได้เข้าร่วมคณะกรรมการในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท  คุณ Arora เป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Google และล่าสุดดำรงตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ SoftBank ก่อนที่จะร่วมงานกับ Palo Alto Networks

นอกจากนี้ รอบการลงทุนนี้ยังมีนักลงทุน angel investor ชั้นนำ ได้แก่ Jeff Weiner ของ LinkedIn, Shiva Rajaraman ของ We, Alex Will ของ Calm, Akshay Kothari ของ Notion, Derek Callow ของ Bumble, Gokul Rajaram, Manik Gupta ของ Uber, Amber Feng ของ Stripe, Kevin Weil และ Andrea Moore ของ Facebook, Sheila Tran ของ OpenDoor, Sunil Pai ของ AngelList, Jason Sew Hoy ของ Supercast, Michael Katz ของ mParticle, Cheryl Sew Hoy ของ SVB, Thejo Kote ของ AirBase, John Bonten ของ Spotify, Lisa Kleinsorge ของ Twitter และ Ali Altaf ของ Pinterest

“เทคโนโลยีพิเศษของ HeadSpin ได้ทำลายกำแพงและกำหนดขอบเขตใหม่ของการทดสอบ ตรวจสอบ และการวิเคราะห์ข้ามอุปกรณ์ สถานที่ และเครือข่ายเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์การเชื่อมต่อของลูกค้า ซึ่งหมายความว่าทีมธุรกิจ พัฒนา พัฒนาการปฏิบัติ และผลิตภัณฑ์ จะสามารถทำงานแบบบูรณาการและมุ่งเน้นที่สิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งก็คือการมอบประสบการณ์นวัตกรรมดิจิทัลที่มีคุณภาพสูงผ่านเว็บ มือถือ IoT และ 5G” Nikesh Arora กล่าว

HeadSpin เข้าใจว่าประสบการณ์การเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีเว็บ มือถือ IoT และ 5G ได้กลายเป็นจุดหลักของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและลูกค้าและได้พัฒนา Connected Intelligence Platform™ ระบบแรกของโลกเพื่อรวมการทดสอบ ตรวจสอบและการวิเคราะห์ผ่านแอพพลิเคชั่น อุปกรณ์ และเครือข่าย  สิ่งนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประสบการณ์การเชื่อมต่อตลอดทั้งวงจรการพัฒนาและระบบนิเวศที่ซับซ้อนมากขึ้นผ่านซอฟต์แวร์และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เพื่อเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกในปัจจุบัน

"HeadSpin นั้นมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในเวลาเพียงสี่ปี" Deepak Jeevankumar กรรมการผู้จัดการของ Dell Technologies Capital กล่าว "ทีมงานได้จัดการการดำเนินการขายที่ยอดเยี่ยมและได้สร้างหมวดหมู่โซลูชั่นใหม่ขึ้นมาเป็นมาตรฐานสำหรับผู้บริโภคและองค์กร G2000 ให้มีประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้และลูกค้าของพวกเขา  ในวันนี้ HeadSpin เป็นหนึ่งในบริษัทซอฟต์แวร์ที่ขยายตัวได้เร็วที่สุกที่ผมเคยเห็นใน 10 ปีของการลงทุนและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแท้จริง”

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2558 HeadSpin เพิ่มรายได้ต่อปีเป็นสองเท่าในปีที่ผ่านมาและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า องค์กร และผู้ประกอบการกว่า 1,000 ราย  ลูกค้าใหม่ขององค์กร HeadSpin ได้แก่ Microsoft, Tik Tok, Bandai Namco Studios, Yahoo!, Uber, DeNA AirBnB, Kohls, ByteDance, BYJUs, Optus, Australian Post, Telefonica และ Walmart  โดยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทเพิ่งเปิดสำนักงานภูมิภาคในกรุงลอนดอน เทลอาวีฟ เบอร์ลิน และเคปทาวน์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

“HeadSpin อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดที่ใหญ่โตนี้ในช่วงที่ผู้ประกอบการหันมามอบบริการเทคโนโลยีดิจิตอลและโทรศัพท์มือถือคุณภาพสูงขึ้น” Manish Lachwani ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ HeadSpin กล่าว “เรามีโอกาสที่จะสามารถโตบริษัทด้วยทีมหุ้นส่วนและนักลงทุนที่ยอดเยี่ยมของเรา”

HeadSpin มีสำนักงานใหญ่ในพาโล อัลโต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ไปที่ www.headspin.io หรือติดตาม HeadSpin บน Twitter (@headspin_io) and LinkedIn

เกี่ยวกับ HeadSpin

HeadSpin ให้บริการระบบ Connection Intelligence Platform™ รายแรกของโลกที่ให้บริการเว็บ มือถือ IOT และ 5G เพื่อรวมการทดสอบ ตรวจสอบ และการวิเคราะห์ข้ามแอปพลิเคชัน อุปกรณ์ และเครือข่าย  HeadSpin เสริมสร้างการพัฒนา QA การดำเนินงาน และทีมผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การเชื่อมต่อและสร้างความมั่นใจในความสำเร็จของธุรกิจดิจิตอล เรียนรู้ถึงความเชื่อถือที่โลกมีต่อ HeadSpin ได้ที่ https://www.headspin.io บน Twitter @HeadSpin_IO และบน LinkedIn ที่ https://www.linkedin.com/company/headspin/

เกี่ยวกับ Dell Technologies Capital

Dell Technologies Capital เป็นบริษัทร่วมทุนระดับโลกของ Dell Technologies  ทีมการลงทุนสนับสนุนผู้ก่อตั้งขั้นต้นที่ผลักดันนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับองค์กร  นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2555 ทีมงานได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโต 150 ล้านดอลลาร์ต่อปีและลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพกว่า 100 แห่งโดย 40 แห่งได้ถูกซื้อกิจการและ 5 แห่งได้จดทะเบียนสาธารณะแล้ว  บริษัทในพอร์ตโฟลิโอยังสามารถเข้าถึงตลาดของ Dell Technologies (Dell, Dell EMC, VMWare, Pivotal, RSA, Secureworks) การลงทุนที่โดดเด่นได้แก่ Adallom, Arista Networks, Cylance, Docusign, Graphcore, JFrog, MongoDB, Netskope, Nutanix, RedLock, RiskRecon, TwistLock, Wavefront และ Zscaler.  Dell Technologies Capital มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่พาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานสาขาในบอสตัน ออสติน และอิสราเอล  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.delltechcapital.com

เกี่ยวกับ ICONIQ Capital

ICONIQ Capital เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนเอกชนและเป็นหุ้นส่วนที่ผู้ประกอบการผู้นำและสถาบันที่โดดเด่นทั่วโลกเลือก  ทางบริษัทลงทุนในสินทรัพย์เทคโนโลยีที่เติบโตและและอสังหาริมทรัพย์และมีระบบนิเวศที่โดดเด่นเพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน  ICONIQ เป็นที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ที่เสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ที่มีความหมายทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพื่อจัดหาแนวคิดที่ทรงพลัง ขยายผลกระทบทั่วโลก และสนับสนุนผู้ประกอบการและบริษัทรุ่นใหม่ สำหรับรายการการลงทุนที่ทำโดย Iconiq Growth บริษัทในเครือของ Iconiq ทุนกรุณาไปที่นี่

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200225005402/en/

ติดต่อ:

Sriram Krishnan
sriram@headspin.io 
+1-408-601-0523

มอสเฟตกำลังชนิด N-channel 100V รุ่นใหม่ของ Toshiba ช่วยลดการบริโภคพลังงานของอุปกรณ์ยานยนต์

Logo

– ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ U-MOS X-H ใช้การประมวลผลเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดจาก Toshiba –

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 กุมภาพันธ์ 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวมอสเฟตกำลังชนิด N-channel ขนาด 100V ใหม่ รุ่น “XK1R9F10QB” สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ยานยนต์ขนาด 48V เช่น โหลดสวิตซ์ การสลับแหล่งจ่ายไฟ และการขับมอเตอร์ โดยจะเริ่มการจัดส่งตั้งแต่วันนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200224006003/en/

Toshiba: New 100V N-channel power MOSFET “XK1R9F10QB” for automotive equipment. (Photo: Business Wire)

Toshiba: มอสเฟตกำลังชนิด N-channel ขนาด 100V รุ่น “XK1R9F10QB” สำหรับอุปกรณ์ยานยนต์ (รูปภาพ: Business Wire)

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นมอสเฟตรุ่นแรกจากซีรีส์ใหม่อย่าง U-MOS X-H ของ Toshiba ที่มีโครงสร้างแบบราง และผลิตขึ้นโดยใช้ระบบประมวลผลเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด[1] ของบริษัท ติดตั้งบนแพ็คเกจ TO-220SM(W) ที่มีความต้านทานต่ำ และให้ค่า On-resistance[2] ต่ำที่สุดของอุตสาหกรรม พร้อมค่า On-resistance สูงสุดที่ 1.92mΩ ซึ่งลดลงราว 20% เมื่อเทียบกับรุ่น “TK160F10N1L” ที่จำหน่ายในปัจจุบัน ความก้าวล้ำนี้ช่วยลดการบริโภคพลังงานของอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงขณะสลับการจ่ายพลังงานเนื่องจากได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติในการเก็บประจุไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น ซึ่งช่วยลด EMI[3] ของอุปกรณ์ลง นอกจากนี้ ความกว้างแรงดันขีดเริ่มถูกทำให้แคบลงที่ 1V เพื่อเพิ่มการสลับการซิงโครไนเมื่อมีการใช้ควบคู่กัน

การใช้งาน
อุปกรณ์ยานยนต์ (โหลดสวิตช์ การสลับแหล่งจ่ายไฟ ตัวขับมอเตอร์และอื่น ๆ)

คุณสมบัติ
・มอสเฟตตระกูล U-MOS X-H ที่มีโครงสร้างแบบราง
・ค่า On-resistance ต่ำสุดในอุตสาหกรรม
  RDS(ON)=1.92mΩ (สูงสุด) @VGS=10V
・ผ่านการรับรอง AEC-Q101

คุณสมบัติจำเพาะหลัก

(เมื่อTa=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

กระแส

ไฟฟ้า

ระดับค่าสูงสุดสัมบูรณ์

ค่า On-resistance

RDS(ON) สูงสุดของขาเดรน-ขาซอส

(mΩ)

ค่าอิมพีแดนซ์ความร้อนชาแนล-เคส

Zth(ch-c)

สูงสุด

(℃/W)

แพ็คเกจ

ซีรีส์

แรงดันขาเดรน-ขาซอส

VDSS

(V)

กระแสขาเดรน

(DC)

ID

(A)

กระแสขาเดรน

(pulsed)

IDP

(A)

อุณหภูมิชาแนล

Tch

(℃)

@VGS

=6V

@VGS

=10V

XK1R9F10QB

ชนิด N-channel

100

160

480

175

3.31

1.92

0.4

TO-220SM(W)

U-MOS X-H

หมายเหตุ:
[1] ข้อมูลเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2563
[2] เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีค่า VDSS สูงสุดเท่ากันและแพ็คเกจประเภทเดียวกัน อ้างอิงจากผลสำรวจโดย Toshiba เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2563
[3] EMI (สัญญาณรบกวนที่เกิดจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า)

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/mosfet/detail.XK1R9F10QB.html

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอสเฟตสำหรับยานยนต์จาก Toshiba ได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/automotive/automotive-mosfet.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์กำลัง
โทร: +81-3-3457-3933
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาเกี่ยวกับบริการและข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบันในวันที่เผยแพร่เอกสารนี้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นบริษัทใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและประสบการณ์ นับตั้งแต่แยกตัวออกจากบริษัทเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2560 เราได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุปกรณ์ทั่วไป และได้นำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ ระบบ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของเรา

พนักงานจำนวน 24,000 คนทั่วโลกของเรามีความตั้งใจที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายต่อปีซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 7.5 แสนล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ให้สูงขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200224006003/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Chiaki Nagasawa
โทร: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp