วิทยุขั้นสูงของ Hytera แบบหลายโหมดพร้อมโซลูชั่น RoIP ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–27 พ.ค. 2563

วิทยุแบบหลายโหมดขั้นสูงของ Hytera พร้อมโซลูชั่นRoIP ช่วยให้บุคลากรด้านความปลอดภัยสาธารณะมีเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  การใช้แพลตฟอร์มที่นำบรอดแบนด์และแนโรว์แบนด์มารวมกันแบบคอนเวอร์เจนซ์ทำให้โซลูชั่นRoIP ของ Hytera สามารถให้บริการโรมมิ่งได้แบบหลายเครือข่าย และยังสามารถใช้กับงานที่ต้องการบรอดแบนด์ที่รวดเร็ว อย่างเช่น การสนทนาทางวิดีโอ ได้อีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200521005340/en/

Hytera Multi-mode Advanced Radios with RoIP Solution Enhance Public Safety Response (Graphic: Business Wire)

วิทยุขั้นสูงของ Hytera แบบหลายโหมดพร้อมโซลูชั่น RoIP ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ (ภาพ: Business Wire)

หน่วยฉุกเฉินต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจากวิกฤตด้านความปลอดภัยสาธารณะ เช่น การโจมตีของผู้ก่อการร้าย การระบาดของโรค รวมไปถึงภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ไฟป่าและน้ำท่วม บุคลากรด้านความปลอดภัยสาธารณะจะต้องสามารถตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ วิทยุที่ใช้งาน RoIP แบบหลายโหมดขั้นสูงของ Hytera สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ โดยวิทยุที่ใช้งานได้ง่าย ๆ และอย่างชาญฉลาดตัวนี้จะช่วยลดภาระงานและอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาธารณะ ทำให้พวกเขาสามารถมีสมาธิกับงานที่สำคัญที่สุดได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นวิทยุขั้นสูงแบบหลายโหมดล่าสุดของ Hytera กรุณาเยี่ยมชม: pardot.hytera.com/MAR-form-th/pr

RoIP คืออะไร

เครือข่ายวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่แบบมืออาชีพแบบแนโรว์แบนด์แบบดั้งเดิม หรือ narrowband professional mobile radio  (PMR)  มักมีพื้นที่การครอบคลุมที่จำกัด และไม่สามารถรองรับการสื่อสารบรอดแบนด์แบบมัลติมีเดียที่กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นในด้านการบริการฉุกเฉินและในผู้ใช้งานด้านการสื่อสารที่มีภารกิจด่วนสำคัญ อย่างไรก็ตามการบริการเสียงแบบกดเพื่อพูดที่ใช้ในภารกิจด่วนสำคัญ หรือ การบริการแบบ push-to-talk (PTT)  ยังคงมีบทบาทสำคัญในการทำงานประจำวันของบุคลากรด้านความปลอดภัยสาธารณะต่อไป วิธีการแก้ปัญหานี้ก็คือการติดตั้งวิทยุแบบหลายโหมดขั้นสูงของ Hytera ที่ยังเก็บการสื่อสารด้วยเสียงที่สำคัญต่อภารกิจด่วนเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็รองรับแอปพลิเคชั่นบรอดแบนด์ใหม่ ๆ ที่องค์กรด้านความปลอดภัยสาธารณะต้องการเข้าถึง

โซลูชั่น RoIP ของ Hytera  ซึ่งมาในรูปแบบของ Voice over IP (VoIP) ที่มีคุณสมบัติการทำงานแบบ PTT สำหรับภารกิจด่วนสำคัญ ร่วมกับ Hytera HyTalk Pro และระบบการเดินสายแบบแนโรว์แบนด์ สามารถให้บริการแพลตฟอร์มอัจฉริยะในการส่งมอบภารกิจด้านเสียงที่ใช้แนโรว์แบนด์ทั้งแบบหนึ่งต่อหนึ่ง และแบบหนึ่งต่อบริการเสียงหลายรายการ (one-to-one and one-to-multiple voice services) และบริการบรอดแบนด์มัลติมีเดียหลากหลายประเภท เช่น การสนทนาผ่านวิดีโอ video pulling ข้อความมัลติมีเดีย และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือผ่านเครือข่าย 3G, 4G, WLAN และเครือข่าย LTE ส่วนตัว การผสานการทำงานอย่างลึกซึ้งนี้จะมอบประสบการณ์การสื่อสารแบบครบวงจรและประสบการณ์คอนเวอร์เจนซ์ครบรูปแบบที่หรูหรายิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้

หนึ่งในกุญแจสำคัญของประสบการณ์การเต็มรูปแบบแบบคอนเวอร์เจนซ์ คือ กลไกการเลือกเครือข่ายอัจฉริยะ โดยที่วิทยุจะสลับระหว่างเครือข่ายแนโรว์แบนด์และบรอดแบนด์โดยอัตโนมัติตามความแรงของสัญญาณและความต้องการด้านการใช้งาน วิทยุขั้นสูงแบบหลายโหมดจะต่อกับเครือข่ายแนโรว์แบนด์สำหรับบริการด้านเสียง แต่ถ้ามีสัญญาณอ่อนหรือไม่มีสัญญาณวิทยุก็จะสลับไปยังเครือข่ายบรอดแบนด์โดยอัตโนมัติ โดยที่รหัสวิทยุยังคงเหมือนเดิมไม่ว่าจะใช้เครือข่ายใด

3 สถานการณ์ของผู้ใช้ทั่วไป

1.การตอบสนองฉุกเฉิน

โซลูชั่น RoIP บนวิทยุช่วยให้มั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องตอบสนองต่อเหตุการณ์สามารถเข้าถึงการสื่อสารด้วยเสียงที่เชื่อถือได้ ที่มีความพร้อมด้านการใช้งานตลอดเวลา และที่สามารถใช้ได้ทันที เมื่อพวกเขาอยู่ในพื้นที่นอกเครือข่ายแนโรว์แบนด์ พวกเขาสามารถพูดคุยกันโดยใช้เครือข่ายบรอดแบนด์สาธารณะ เจ้าหน้าที่สามารถสตรีมวิดีโอสดเพื่อคุยกับห้องควบคุมการส่งเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้สถานการณ์ให้ดีขึ้น ทำให้ตำรวจสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นและส่งผลให้พวกเขาสามารถตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2.การดับเพลิง

นักผจญเพลิงที่เข้าไปทำงานในอาคาร ห้องใต้ดิน หรือในอุโมงค์ อาจเจอกับสถานการณ์ที่สัญญาณเครือข่าย แนโรว์แบนด์ของพวกเขาหายไป แต่ RoIP ในวิทยุขั้นสูงแบบหลายโหมดของพวกเขาจะช่วยให้พวกเขาสื่อสารระหว่างกันและกันได้โดยใช้เครือข่ายบรอดแบนด์สาธารณะ นักผจญเพลิงสามารถใช้ความสามารถบรอดแบนด์ในวิทยุของพวกเขาเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมบลูทูธแบบแฮนด์ฟรี ซึ่งสามารถตรวจสอบสัญญาณชีพและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังศูนย์บัญชาการแบบเรียลไทม์ได้

3.การลาดตระเวนพื้นที่

ตำรวจที่ทำงานลาดตระเวนในวงกว้างสามารถพึ่งพาการเลือกเครือข่ายอัจฉริยะและการใช้งานวิทยุที่ใช้งานง่าย เพื่อให้สามารถใช้งานการสื่อสารด้วยเสียงผ่านสัญญาณวิทยุได้ หากพวกเขาลาดตระเวนออกจากพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายแนโรว์แบนด์ วิทยุจะสลับไปยังเครือข่ายบรอดแบนด์สาธารณะโดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้ไม่ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นเสียด้วยซ้ำ

Hytera ยังมีอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายเช่น Carkit และ convert camera โดยตัววิทยุสามารถติดตั้งในรถสายตรวจโดยใช้ Carkit และเชื่อมต่อกับจอแสดงผลขนาดใหญ่ เช่น แท็บเล็ต ส่วน convert camera แบบ VM220 พร้อมชุดหูฟังช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพูดคุย บันทึกวิดีโอ และส่งการพูดคุยและวิดิโอนั้นไปยังศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์โดยที่ไม่ต้องถือวิทยุเอง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200521005340/en/

ติดต่อ:

Lingran Tao

Lingran.Tao@hytera.com

Blue Ocean Robotics คว้ารางวัลหุ่นยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2563 สำหรับหุ่นยนต์ฆ่าไวรัส UVD

Logo

รางวัล Frost & Sullivan “Best Practices Award” ตระหนักถึงประโยชน์ของหุ่นยนต์ UVD Robots ของบริษัทในการฆ่าเชื้อไวรัสเช่น COVID-19 และหุ่นยนต์บริการอื่นๆ ของบริษัท ได้แก่ GoBe Robots และ PTR Robots

โอเดนเซ เดนมาร์ก–(บิสิเนสไวร์)–26 พฤษภาคม 2563

วันนี้ Blue Ocean Robotics ประกาศว่าได้รับการคัดเลือกจาก Frost & Sullivan สำหรับรางวัลการดำเนินงานยอดเยี่ยม “2020 European Professional Service Robots Product Leadership” ทางบริษัทได้รับรางวัลนี้เนื่องจากการทำงานกับบริษัทย่อย UVD Robots ซึ่งรวมเทคโนโลยีหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ากับแสงอุลตร้าไวโอเลตเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสเช่น COVID-19

The self-driving disinfecting UVD Robots have been rolled out to more than 50 countries worldwide, to date, with great success. "Before we received the UVD robot, six doctors at our hospital in Sardinia had been infected with coronavirus," says Christiano Huscher, chief surgeon at Gruppo Poloclinico Abano, which operates a number of private hospitals in Italy and recently began using UVD robots. ¨Since we started using the robots two months ago to disinfect, we haven't had a single case of COVID-19 among doctors, nurses or patients." (Photo: Business Wire)

หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ UVD Robots ที่ขับเคลื่อนตนเองได้ออกสู่ตลาดกว่า 50 ประเทศทั่วโลกด้วยความสำเร็จอย่างยิ่ง “ก่อนที่เราจะได้รับหุ่นยนต์ UVD แพทย์หกคนที่โรงพยาบาลของเราในซาร์ดิเนียได้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า” Christiano Huscher หัวหน้าศัลยแพทย์ที่ Gruppo Poloclinico Abano กล่าว ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในอิตาลีและได้เพิ่งเริ่มใช้หุ่นยนต์ UVD “ตั้งแต่เราเริ่มใช้หุ่นยนต์เพื่อฆ่าเชื้อเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาเราไม่เคยมีกรณี COVID-19 เพียงครั้งเดียวในบรรดาแพทย์ พยาบาล หรือผู้ป่วย” (รูปภาพ: บิสิเนสไวร์)

UVD Robotics ในเดนมาร์ก บริษัทย่อยของ Blue Ocean Robotics ได้ตอบโจทย์การกำจัดเชื้อโรคภายใน 10-15 นาทีในห้องผู้ป่วย  หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองของบริษัทได้ให้บริการใน 50 ประเทศทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

“การได้รับการยอมรับจาก Frost & Sullivan ด้วย รางวัล 'Best Practice Award' เป็นการยกย่องหัวใจ แรงผลักดัน และความมุ่งมั่นที่เราอุทิศต่อการสร้างนวัตกรรม การพัฒนา และความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ "Claus Risager ซีอีโอของ Blue Ocean Robotics กล่าว "เราภูมิใจมากที่ได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาของโลกแล้ว ยังเป็นการลงทุนที่มั่นคงและสร้างกำไรสำหรับเจ้าของของเรา”

รางวัล Frost & Sullivan Best Practices Awards มอบให้กับบริษัทที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมของพวกเขา สามารถเจาะเทรนด์ที่เกิดขึ้นใหม่ก่อนที่จะกลายเป็นมาตรฐานในตลาด และได้สร้างเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อกระตุ้นและเปลี่ยนอุตสาหกรรม

"ผลิตภัณฑ์เรือธงของ Blue Ocean Robotics ซึ่งก็คือ หุ่นยนต์ UVD Robots ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถลดการแพร่กระจายของโรคโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ "Rohit Karthikeyan ผู้จัดการอุตสาหกรรมของ Frost & Sullivan กล่าว "เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่อิสระตัวแรกและรายเดียวที่ทำลายพื้นผิวด้วยแสง UV-C ซึ่งมอบผลประโยชน์ที่เหนือกว่าคู่แข่งโดย  นอกจากนี้ หุ่นยนต์ UVD สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยแท็บเล็ต”

เกี่ยวกับ About Blue Ocean Robotics

Blue Ocean Robotics พัฒนา ผลิต และจำหน่ายหุ่นยนต์บริการในการดูแลสุขภาพ การต้อนรับ การก่อสร้าง การเกษตร และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก  ผลงานของหุ่นยนต์รวมได้แก่แบรนด์ UVD Robots หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อเคลื่อนที่ GoBe Robots Gobe หุ่นยนต์การติดต่อสื่อสาร และ PTR Robots  หุ่นยนต์เคลื่อนที่สำหรับการจัดการผู้ป่วยอย่างปลอดภัยและการฟื้นฟูสมรรถภาพ  หุ่นยนต์แต่ละตัวจะอยู่ในบริษัทย่อยของตน ทำให้ Blue Ocean Robotics เป็นบริษัทร่วมทุนด้านหุ่นยนต์แรกของโลก

ดาว์นโหลดคู่มือสื่อได้ที่นี่

ดูคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52225159/en

ติดต่อ:

Merima Cikotic
Blue Ocean Robotics
+45 71-99-56-06 mc@blue-ocean-robotics.com

เร้ดแฮทเร่งพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การฝ่าฟันอุปสรรค ไปจนถึงการปรับขนาดการให้บริการต่าง ๆ

Logo

  • เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้วิสัยทัศน์ของลูกค้าสามารถ ‘สร้างได้ทุกอย่าง ใช้งานได้ทุกที่’
    ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ edge ไปจนถึงไฮบริดคลาวด์และมัลติคลาวด์
  • OpenShift virtualization และ Advanced Cluster Management for Kubernetes ของเร้ดแฮท ช่วยขจัดอุปสรรคต่าง ๆ ในการใช้งานแอปพลิเคชั่น และเพิ่มการควบคุมการใช้งานทรัพยากรที่กระจายกันอยู่
  • แพลตฟอร์ม Kubernetes ชั้นนำเวอร์ชั่นล่าสุดสำหรับองค์กรช่วยให้นักพัฒนาและทีมงานที่ดูแลระบบ ใช้งานบนคลาวด์-เนทีฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กรุงเทพฯ – 25 พฤษภาคม 2563 – เร้ดแฮท อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สประกาศข้อเสนอใหม่เพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาด และอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์ ปรับขยายหรือปกป้องการปฏิบัติงานด้านไอทีได้อย่างไม่ยุ่งยาก เพื่อรับมือกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เร้ดแฮทเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน และต้องการช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างแอปพลิเคชั่นได้ตามความต้องการและใช้งานได้ทุกที่ โดยการเตรียมระบบพื้นฐานโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ที่มีความเสถียรและยืดหยุ่นให้กับลูกค้า โซลูชั่นที่เร้ดแฮทนำเสนอใหม่นี้เกิดจากวิสัยทัศน์ดังกล่าวข้างต้น    เป็นโซลูชั่นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการส่งมอบบริการ การเข้าถึงเพื่อใช้งาน และเพิ่มความเที่ยงตรงให้กับบริการและแอปพลิเคชั่นสำคัญต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่บนโครงข่ายไฮบริดคลาวด์ระดับโลก

เร้ดแฮทเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องพัฒนาไอทีให้ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้บริการดิจิทัลและการเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท เช่น ด้านการดูแลสุขภาพ   โลจิสติกส์ ค้าปลีก บริการทางการเงิน ส่วนงานภาครัฐ ภาคการศึกษา กำลังมีการปรับตัวแบบเรียลไทม์   เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นและบริการที่จำเป็นได้รวดเร็วขึ้น และเข้าถึงได้จากหลากหลายช่องทางมากขึ้น ในขณะที่ยังต้องคงความเสถียรของการทำงานไว้ได้ เช่น ในอุตสาหกรรมด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งมีการใช้งานที่มีปริมาณพุ่งขึ้นสูงกว่า 50% ในบางภูมิภาคของโลก ส่งผลให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมต้องขยายกำลังในการให้บริการ และเร่งให้เกิดการใช้งาน 5G และ edging computing  ให้เร็วขึ้น และเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการทดสอบความพร้อมของระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์

เร้ดแฮทเชื่อว่าเทคโนโลยีที่จำเป็นในการตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ ไม่ได้ผูกติดอยู่กับซอฟต์แวร์   สแต็คแบบดั้งเดิม หรือต้องมีอยู่ในเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ที่มีราคาแพงเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม นวัตกรรมโอเพ่นซอร์สคือคำตอบที่จะช่วยตอบโจทย์เหล่านี้ได้ โอเพ่นซอร์สช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มคลาวด์-เนทีฟได้ทุกที่ ตั้งแต่ edge และ on-premises ดาต้าเซ็นเตอร์ ไปจนถึงระบบมัลติเพิลพับลิคคลาวด์ต่าง ๆ เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สต่าง ๆ เช่น Linux และ Kubernetes นอกจากจะช่วยให้องค์กรเข้าถึงนวัตกรรมที่ช่วยให้สร้างสิ่งที่จำเป็นต่ออนาคต และอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมแล้ว ยังช่วยให้การทำงานต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินงานอยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีทุกแห่งเป็นอัตโนมัติ ปรับและขยายขนาดการทำงานได้ตามต้องการ ด้วยความยืดหยุ่นมากกว่าเทคโนโลยีแบบมีลิขสิทธิ์จะสามารถจัดให้ได้

เทคโนโลยีเพื่อการรวมและจัดการแอปพลิเคชั่นแบบดั้งเดิม และแบบคลาวด์-เนทีฟเข้าเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่ระบบงานหลักจนถึงอุปกรณ์ปลายทาง

การที่เร้ดแฮทเป็นผู้นำในชุมชนโอเพ่นซอร์สนั้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อการตลาดหรือเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกใด ๆ เร้ดแฮทมีส่วนร่วมในการพัฒนา Kubernetes เคียงคู่มากับ Google และยังคงเป็นองค์กรชั้นนำที่ร่วมสนับสนุน Kubernetes เร้ดแฮทกำลังช่วยพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญที่ล้ำหน้าให้กับ Kubernetes และโอเพ่นซอร์สโปรเจคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้เกิดวิวัฒนาการด้านไอทีในอุตสาหกรรมทุกประเภท

เร้ดแฮทบุกเบิกแพลตฟอร์ม Kubernetes ระดับองค์กร ด้วย Red Hat OpenShift ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้แอปพลิเคชั่นแบบคลาวด์-เนทีฟ และยังรองรับการใช้แอปพลิเคชั่นแบบดั้งเดิมที่ลูกค้าใช้อยู่ และด้วยความสามารถที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้ Red Hat OpenShift ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกภาค อุตสาหกรรม เร้ดแฮทเปิดตัวความสามารถพิเศษต่าง ๆ ที่จะช่วยให้นำเวิร์กโหลดใหม่ ๆ มาใช้งานบน OpenShift ได้ มาให้บริการกับลูกค้าไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดก็ตาม เพื่อช่วยขจัดอุปสรรคระหว่างการใช้แอปพลิเคชั่นแบบดั้งเดิมกับแบบคลาวด์-เนทีฟ ดังนี้:

OpenShift virtualization เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดให้ทดสอบในสถานะ Technology Preview ภายใต้ Red Hat OpenShift ซึ่งได้มาจากโครงการ KubeVirt ซึ่งเป็นโครงการด้านโอเพ่นซอร์ส    ที่จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถพัฒนา ใช้ และบริหารจัดการแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยเวอร์ชวลแมชชีน คอนเทนเนอร์ และเซิร์ฟเวอร์เลส เป็นแพลตฟอร์มทันสมัยที่รวมเวิร์กโหลดแบบดั้งเดิมและแบบคลาวด์-เนทีฟไว้เป็นหนึ่งเดียว (all in one) ในขณะที่ผู้ขายเทคโนโลยีบางรายพยายามที่จะคงการใช้งานเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมด้วยการย้ายฟังก์ชั่นของ Kubernetes และคลาวด์-เนทีฟไปไว้เบื้องหลังระบบเวอร์ชวลไลเซชั่นแบบเดิม แต่เร้ดแฮททำในสิ่งตรงกันข้าม คือเร้ดแฮทนำแอปพลิเคชั่นแบบดั้งเดิมออกมาไว้บนเลเยอร์ของนวัตกรรมโอเพ่นซอร์ส เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทรานสฟอร์มได้อย่างแท้จริงด้วยความเร็วที่มี โดยไม่มีการล็อคกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถใหม่ ๆ เกี่ยวกับคอนเทนเนอร์-เนทีฟ เวอร์ชวลไลเซชั่น ของ OpenShift virtualization ได้ที่นี่

Red Hat OpenShift 4.4 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของแพลตฟอร์ม Kubernetes สำหรับองค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่มีความเรียบง่ายและมีสเกลตามแบบของ Kubernetes Operators ทั้งนี้ OpenShift 4.4 ที่สร้างระดับการทำงานใหม่บน Kubernetes 1.17 นั้นให้มุมมองแบบรวมศูนย์แก่นักพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นมุมมองด้านตัวชี้วัดแพลตฟอร์มและการติดตามตรวจสอบเวิร์กโหลด        การตรวจสอบการทำงานร่วมกันของ Red Hat Operators การจัดการค่าใช้จ่ายในการประเมินทรัพยากรและค่าใช้จ่ายที่แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ใช้อยู่บนไฮบริดคลาวด์ทั้งหมดใช้ไป และอื่น ๆ อีกมาก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติใหม่ ๆ ของ Red Hat OpenShift 4.4 ได้ที่นี่ 

นอกจากนี้ เร้ดแฮทยังได้เปิดตัวโซลูชั่นด้านการจัดการแบบใหม่เพื่อจัดการกับความท้าทาย ในการบริหารจัดการการใช้งานคลาวด์-เนทีฟแอปพลิเคชั่นในสเกลขนาดใหญ่ การผลิตและการกระจาย คลัสเตอร์ Kubernetes ต่าง ๆ อนึ่ง Red Hat Advanced Cluster Management for Kubernetes จะพร้อมให้บริการเร็ว ๆ นี้ในรูปแบบของ Technology Preview ระบบจัดการนี้      จะสามารถควบคุม และตรวจสอบและใช้ OpenShift คลัสเตอร์ จากจุดเดียวได้อย่างง่ายดาย เพื่อช่วยให้การกำกับดูแลเป็นไปตามนโยบาย และระบบการจัดการ Lifecycle ของแอปพลิเคชั่น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Red Hat Advanced Cluster Management for Kubernetes ได้ที่นี่

เป็นรากฐานแห่งนวัตกรรม อยู่ในทุกที่ทุกเวลา

นวัตกรรมเป็นอะไรที่มากกว่าแค่การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นเดียวกันกับผลงานด้านโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ทั้งหมดของเร้ดแฮทที่ผ่านมา โซลูชั่นเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบทั้งการสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และการให้บริการ รวมทั้งจากความเชี่ยวชาญในด้านการบูรณาการและการทำงานด้านนวัตกรรมแบบเปิดของเร้ดแฮทที่มีอยู่อย่างมากมาย นอกจากนี้ เร้ดแฮทยังมอบความเชื่อมั่นในการซัพพอร์ตผลิตภัณฑ์ระดับองค์กรที่ยาวนานให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ทั้งหมด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในครั้งนี้

ความล้ำหน้าเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่ในฮาร์ดแวร์เพียงชิ้นเดียว หรือผู้ให้บริการคลาวด์เพียงรายเดียว แต่เร้ดแฮทได้นำเสนอนวัตกรรมนี้ให้กับการใช้งานที่ครอบคลุมระบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย

  • ผู้ให้บริการพับลิคคลาวด์รายใหญ่ทุกรายใน Amazon Web Services, Google Cloud, IBM Cloud และ Microsoft Azure รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์เฉพาะทาง
  • โซลูชั่นที่ได้รับการจัดการผ่าน OpenShift Dedicated, Azure Red Hat OpenShift และ IBM Red Hat OpenShift Kubernetes Service ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ได้รับประโยชน์จาก Kubernetes ระดับองค์กรโดยไม่มีภาระในการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน
  • รองรับสถาปัตยกรรมการประมวลผลหลายรูปแบบ รวมถึง x86, IBM Power และเมนเฟรม

นอกเหนือจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ เร้ดแฮทยังได้ลงทุนเพื่อช่วยให้องค์กรได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว ซึ่งประกอบด้วย

  • การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Red Hat Insights ด้วยการนำเสนอการบริหารจัดการความเสี่ยงและการรักษาความปลอดภัยเชิงรุกแบบ as-a-service ซึ่งช่วยให้ทีมไอทีสามารถตรวจสอบ วินิจฉัย และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตหรือผู้ใช้ปลายทาง ทั้งนี้ Insights ไม่ได้เป็นส่วนเสริม แต่มีการติดตั้งเป็นค่าเริ่มต้นให้กับสมาชิก Red Hat Enterprise Linux อยู่แล้ว 
  • Red Hat Ansible Automation Platform ช่วยแก้ไขความซับซ้อนด้านความต้องการในการขยายเครือข่ายและการทำงานของโครงสร้างพื้นฐาน โดยการปรับการทำงานแบบแมนวลที่ใช้เวลามากให้เป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมไอทีสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกเหนือไปจากการบริการตามปกติ

การฝึกอบรมและการออกใบรับรองของเร้ดแฮท มีให้สำหรับทีมไอทีที่ต้องการขยายทักษะอย่างรวดเร็วตามความต้องการในการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้น เร้ดแฮทมีองค์ความรู้ไว้เพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีได้รับทักษะความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้พื้นฐานของ Kubernetes ระดับองค์กร ไปจนถึงการได้รับการรับรองด้านสถาปัตยกรรมด้านโทรคมนาคม เพื่อให้สามารถรับมือกับระบบเครือข่ายที่มีความสำคัญมากขึ้น

คำกล่าวสนับสนุน

นายพอล คอร์เมียร์ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร เร้ดแฮท 

“ความต้องการที่ไม่เหมือนกันของแต่ละองค์กรนั้นอยู่ในรูปแบบที่ให้ความสำคัญเจาะจงไปยังสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นการเฉพาะมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน บางองค์กรต้องการการทำงานที่ปรับขนาดการดำเนินงานในทันที เพื่อตอบโจทย์การให้บริการที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่บางองค์กรต้องการวิธีการที่จะช่วยให้การดำเนินงานด้านไอทีหลักมีความเข้มแข็งและคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ ดังนั้น เร้ดแฮทจึงให้บริการชุดโซลูชั่นระบบเปิดที่ยืดหยุ่นให้กับลูกค้าของเรา เราให้สิ่งที่ลูกค้าต้องการบนระบบที่พวกเขาต้องการ แทนที่จะมอบเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว ซึ่งอาจจะเป็นแพลตฟอร์ม Linux ระดับองค์กร ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับแนวหน้าของโลก เพื่อใช้ขับเคลื่อนความมั่นคงในการดำเนินงานที่มากขึ้น หรือแพลตฟอร์ม Kubernetes สำหรับองค์กร ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้สามารถปรับขนาดการให้บริการได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดความต้องการสำคัญ ๆ แพลตฟอร์มทั้งหมดที่กล่าวมานี้ได้รับการเกื้อหนุนจากความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือชุมชนทั่วโลก ไม่ใช่แต่เฉพาะลูกค้าปัจจุบันของเราเท่านั้น”

ข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อเร้ดแฮท

###

เกี่ยวกับ Red Hat

Red Hat คือผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์โซลูชันโอเพ่นซอร์สสำหรับองค์กร โดยใช้พลังของสังคมโอเพ่นซอร์ส เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี Linux, hybrid cloud, container และ Kubernetes ที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสูง Red Hat ให้การสนับสนุนลูกค้าในการผสานรวมแอปพลิเคชันใหม่และที่ใช้อยู่เดิม ในการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ cloud-native เพื่อยกระดับระบบปฏิบัติการชั้นนำของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงบริหารจัดการสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนให้เป็นระบบอัตโนมัติและปลอดภัย ด้วยการบริการด้านการสนับสนุน อบรม และให้คำปรึกษาที่ได้รับความเชื่อถือและการยอมรับด้วยรางวัลมากมาย Red Hat จึงได้รับการไว้วางใจในการเป็นที่ปรึกษาแก่บริษัทในเครือ Fortune 500 ด้วยบทบาทของ Red Hat ในการเป็นพันธมิตรต่อผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผนวกรวมระบบ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ลูกค้า และชุมชนโอเพ่นซอร์ส Red Hat จะสามารถสนับสนุนและผลักดันองค์กร เพื่อพร้อมรับกับโลกดิจิทัลแห่งอนาคต

Forward-Looking Statements

Certain statements contained in this press release may constitute "forward-looking statements" within the meaning of the Private Securities Litigation Reform Act of 1995. Forward-looking statements provide current expectations of future events based on certain assumptions and include any statement that does not directly relate to any historical or current fact. Actual results may differ materially from those indicated by such forward-looking statements as a result of various important factors, including: risks related to the ability of the Company to compete effectively; the ability to deliver and stimulate demand for new products and technological innovations on a timely basis; delays or reductions in information technology spending; the integration of acquisitions and the ability to market successfully acquired technologies and products; risks related to errors or defects in our offerings and third-party products upon which our offerings depend; risks related to the security of our offerings and other data security vulnerabilities; fluctuations in exchange rates; changes in and a dependence on key personnel; the effects of industry consolidation; uncertainty and adverse results in litigation and related settlements; the inability to adequately protect Company intellectual property and the potential for infringement or breach of license claims of or relating to third party intellectual property; the ability to meet financial and operational challenges encountered in our international operations; and ineffective management of, and control over, the Company's growth and international operations, as well as other factors. In addition to these factors, actual future performance, outcomes, and results may differ materially because of more general factors including (without limitation) general industry and market conditions and growth rates, economic and political conditions, governmental and public policy changes and the impact of natural disasters such as earthquakes and floods. The forward-looking statements included in this press release represent the Company's views as of the date of this press release and these views could change. However, while the Company may elect to update these forward-looking statements at some point in the future, the Company specifically disclaims any obligation to do so. These forward-looking statements should not be relied upon as representing the Company's views as of any date subsequent to the date of this press release.

###

Red Hat, Red Hat Enterprise Linux, the Red Hat logo, Ansible and OpenShift are trademarks or registered trademarks of Red Hat, Inc. or its subsidiaries in the U.S. and other countries. Linux® is the registered trademark of Linus Torvalds in the U.S. and other countries. The OpenStack Word Mark is either a registered trademark/service mark or trademark/service mark of the OpenStack Foundation, in the United States and other countries, and is used with the OpenStack Foundation's permission. Red Hat is not affiliated with, endorsed or sponsored by the OpenStack Foundation, or the OpenStack community.

บริหารความมั่งคั่งแบบซิตี้โกลด์ ด้วยการลงทุนหลากหลาย การกระจายความเสี่ยง มีเทคโนโลยีชั้นนำช่วย พร้อมแนะลงทุนแบบประจำ (RSP) เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–25 พฤษภาคม 2563

imgเพราะเราทุกคนต่างมีความฝันและมีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่จะทำให้ความฝันหรือความต้องการเป็นจริงได้ต้องใช้หลายปัจจัยมาสนับสนุน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ปฎิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญก็คือ “เงิน” ที่จะมาช่วยให้ความฝันและความต้องการเป็นจริงได้ง่ายมากขึ้น แน่นอนว่าการจะทำให้เงินเพิ่มพูนมากขึ้นและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เจ้าของ เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างกันไปและเทรนด์การลงทุนก็เป็นหนึ่งในวิธีที่คนนิยมกัน และปัจจุบันการลงทุนก็มีหลากหลายประเภทให้ผู้ลงทุนได้เลือกตัดสินใจ เนื่องจากแต่ละบุคคลย่อมตั้งเป้าหมายการลงทุนไว้แตกต่างกัน ไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง การลงทุนเพื่อการท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ การลงทุนเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคง การลงทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานในอนาคต ตลอดจนการลงทุนระยะยาวเพื่อช่วงชีวิตวัยเกษียณ ฯลฯ เป็นต้น

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้โกลด์ พร้อมมอบบริการด้านบริหารความมั่งคั่งรวมถึงให้คำปรึกษาด้านการลงทุนสำหรับลูกค้าคนสำคัญ ด้วยการนำเสนอบริการในการกระจายการลงทุนทั่วโลกกว่า 200 กองทุนจากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ. ในประเทศและ 13 บลจ. ต่างประเทศ ครอบคลุมความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์และภูมิภาคของการลงทุน

นอกจากนี้สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมหนึ่งคือ การลงทุนแบบประจำ (Regular Savings Plan) หรือ RSP สำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ เพื่อลดผลกระทบความผันผวนของตลาด โดยการลงทุนแบบประจำ คือ

  • ลงทุนในจำนวนเงินสัดส่วนที่เท่ากันทุกเดือน โดยผู้ลงทุนสามารถแจ้งความจำนงที่จะซื้อกองทุนรวมด้วยการตัดเงินจากบัญชีธนาคารอัตโนมัติทุก ๆ เดือนได้โดยตรง เป็นการสร้างวินัยในการลงทุนอีกช่องทางหนึ่งทำให้ผู้ลงทุนบรรลุจุดประสงค์ทางการเงินในระยะยาวได้
  • ลงทุนสม่ำเสมอมั่นคงกว่าการลงทุนเพียงครั้งเดียว RSP เป็นการใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบทยอยลงทุน หรือ Dollar Cost Average (DCA)  ที่นักลงทุนไม่ต้องคอยถามว่า “ลงทุนช่วงเวลาไหนดี” และไม่พลาดโอกาสการลงทุนในทุกช่วงเวลา เนื่องจากสภาวะตลาดและการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
  • ผลตอบแทนที่มั่นคง ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนทบต้นทบดอก ซึ่งนักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนแบบ RSP ในหลากหลายสินทรัพย์ลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และตรงกับเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ

ทั้งนี้ซิตี้แบงก์พร้อมมอบประสบการณ์ด้านการบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าซิตี้โกลด์ให้สะดวกสบายและง่ายขึ้นผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ซิตี้แบงก์ ออนไลน์ และ ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน อาทิ การโอนเงินระหว่างบัญชีธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพอร์ทการลงทุน การทำธุรกรรมผ่านทางออเธอไรเซชั่น คอร์เนอร์ (Authorization Corner) ฟังก์ชั่นที่ให้ลูกค้าสามารถทำการตรวจสอบยืนยันเอกสารคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ดูเอกสารที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน OTP โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินตราต่างประเทศได้สูงสุด 8 สกุลเงินโดยทันทีภายใต้บริการ ซิตี้ โกลบอล วอลเลท (Citibank Global Wallet) เพื่อใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศหรือซื้อสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ โดยสามารถทราบอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอนในขณะที่ทำการแลกเงิน ตลอดจนบริการใหม่ล่าสุด International Telegraphic Fund Transfer ให้ลูกค้าสามารถโอนเงินต่างประเทศด้วย 38 สกุลเงินทั่วโลกโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมบริการ

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ซิตี้แบงก์มอบโปรโมชั่นพิเศษเวลคัมโบนัสและดับเบิ้ลอัพคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ดสูงสุด 230,000 คะแนน พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์และการลงทุนต่าง ๆ มากมาย อาทิ เครดิตการสั่งอาหารจากร้านอาหารระดับมิชลินมูลค่าสูงสุด 30,000 บาทต่อปี เครดิตเงินคืนบริการจาก Grab มูลค่าสูงสุด 1,500 บาทต่อเดือน ฯลฯ ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ตลอดจนมอบข้อเสนอช่วงเวลาสุดพิเศษสำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์อีลีทที่มีเงินลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.8% นาน 6 เดือน เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารฯ กำหนด สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th/th/newcitigoldcustomer/index.htm

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิตี้โกลด์ กรุณาติดต่อธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย โทร. 0-2081-0999หรือ www.citibank.co.th/th/citigold  หรือเพิ่ม Citi Thailand เป็นเพื่อนทาง LINE

###

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th | เฟซบุ๊ก: Citi Thailand  | LINE: Citi Thailand

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

wanvisa.komindr@citi.com

เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์  JC&CO PUBLIC RELATIONS

ณภัทร กาญจนะจัย / +668 1355 9221 / napatk@jcpr.co.th

นิกรณ์กานต์ วิจักษณ์ไพศาล / +669 7230 0528 / nikornkarnw@jcpr.co.th

MEDIA HOTLINE : 02-634-4557 / 6681-486-3407 (ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์)

“ซังซัง” แจกต่อเนื่อง บุกทางด่วนดาวคะนอง-ดินแดง เสิร์ฟนมถั่วเหลืองคั้นสดเติมพลังผู้ใช้รถ

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–25 พฤษภาคม 2563

imgยังคงแจกกันอย่างต่อเนื่องกับแบรนด์ “ซังซัง” รอบนี้บุกทางพิเศษเพิ่มที่ด่านดาวคะนอง และด่านดินแดง แจกนมถั่วเหลืองคั้นสด ขนาด 125 ml. ให้กับผู้ใช้รถบนทางด่วนได้ดื่มเติมพลัง และอร่อยไปกับความหอมมันของนมถั่วเหลืองคั้นสดคุณภาพดีจากประเทศแคนาดา ให้ประโยชน์เต็มกล่อง มีน้ำตาลน้อยกว่า 2% เตรียมพบกับ ”ซังซัง” ได้ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00น. ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง และในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดินแดง

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

ประเมินสักนิด คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็น “โรคเข่าเสื่อม” หรือยัง? “ไบโอฟาร์ม” แนะข้อควรปฏิบัติเพื่อข้อเข่าที่แข็งแรง

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–25 พฤษภาคม 2563

imgช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายยังคงต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ไม่ให้กลับมาระบาดระลอก 2 จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อได้ง่าย ควรอยู่บ้านให้มากที่สุด และเมื่อต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน อาจมีโรคอื่น เช่น “เข่าเสื่อม” มาเยี่ยมเยียนได้  เรามีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเข่าเสื่อม และข้อควรปฏิบัติเพื่อข้อเข่าที่แข็งแรง จากทีมเภสัชกรไบโอฟาร์มมาฝากกัน

ผู้ที่มีความเสี่ยง เป็นโรค “เข่าเสื่อม”

ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการผลิตคอลลาเจนและน้ำหล่อลื่นบริเวณข้อต่อในร่างกายก็เริ่มลดลงทำให้บริเวณข้อเข่าขาดน้ำหล่อลื่นที่จะช่วยลดแรงกระแทกระหว่างกระดูก เมื่อกระดูกเกิดการเสียดสีกันโดยตรงมาก ๆ เป็นสาเหตุของเข่าเสื่อมและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในที่สุด

ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ เช่น รูมาตอยด์ เกาต์  กลุ่มคนเหล่านี้มักพบกับอาการปวดบริเวณข้อได้ง่ายอยู่แล้ว เมื่อบริเวณข้อมีการอักเสบเป็นประจำหรือเป็นเรื้อรังนาน ๆ ก็อาจะส่งผลให้เกิดโรคเข่าเสื่อมได้เช่นกัน ดังนั้น หากเป็นโรคเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาให้หาย เพื่อลดความเสี่ยงในการปวดเรื้อรัง

“เข่าเสื่อม” ไม่ได้เป็นปัญหาสุขภาพของผู้สูงวัยเท่านั้น  คนอายุน้อยก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ หากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เช่น น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การออกกำลังกายที่ใช้แรงกระแทก หรือ การเป็นโรคเกี่ยวกับข้อเข่าอักเสบ 

พฤติกรรมเสี่ยงเป็นโรคเข่าเสื่อม

ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน จะทำให้ขาต้องรับน้ำหนักตัวมากเกินไป ส่งผลให้เกิดแรงกดทับบริเวณข้อเข่ามากกว่าปกติ โดยเฉพาะผู้ที่มีปริมาณไขมันมาก และมีมวลกล้ามเนื้อน้อยจะยิ่งทำให้เกิดภาระในการรับน้ำหนักตัว ทำให้เกิดการเสียดสีของกระดูกบริเวณข้อเข่ามากกว่าปกติ จึงอาจทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมและมีอาการปวดข้อเข่าได้

ผู้ที่ออกกำลังกายที่มีการกระแทกมาก  การวิ่ง การยกน้ำหนัก อาจทำให้เกิดแรงกดทับบริเวณข้อต่อมากกว่าปกติ  โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินมาตรฐาน ควรเลือกออกกำลังกายเบา ๆ ก่อน     ไม่ควรเริ่มด้วยการวิ่งเร็ว ๆ เพราะอาจทำให้เกิดแรงกดทับบริเวณข้อเข่ามากเกินไปจนอาจทำให้เกิดอาการปวดบริเวณข้อเข่าหากทำเป็นประจำ ควรใช้อุปกรณ์ที่ช่วย Support บริเวณข้อเข่า และออกกำลังกายแต่พอดี ไม่หักโหมมากจนเกินไป

นอกจากนี้ พฤติกรรมการนั่งพับเพียบ การนั่งคุกเข่านานต่อเนื่องเป็นประจำ ก็ทำให้เกิดแรงกดทับได้มากเช่นกัน  ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเข่าเสื่อมได้เช่นกัน

ข้อควรปฏิบัติเพื่อข้อเข่าที่แข็งแรง

เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเข่าเสื่อม ควรรักษาน้ำหนักตัวให้มีความสมดุล และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวร่างกาย และลดแรงกดทับจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป

อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสม ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ การออกกำลังกายทางน้ำ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่ออักเสบ หรือ ข้อเสื่อมอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแต่กลัวปัญหาเรื่องแรงกระแทก เพราะน้ำจะช่วยพยุงร่างกายและลดแรงกระแทกได้ดี  ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีเช่นกัน

สารสกัดที่ช่วยบำรุงข้อ ลดความเสี่ยง เข่าเสื่อม และลดอาการปวดข้อ

อาหารเสริมเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ  ในการช่วยบำรุงข้อ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเข่าเสื่อม ปัจจุบัน UC-II คือ คอลลาเจน Type II เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสหรัฐอเมริกา นับว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีส่วนช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน  บำรุงข้อต่อ เพิ่มน้ำหล่อลื่นบริเวณข้อต่อ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของกระดูกบริเวณข้อต่อได้ อีกทั้งสารสกัดจากขมิ้นชัน นับว่ามีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บปวดบริเวณข้อเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหาโรคข้อเสื่อมสามารถป้องกันได้ และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคก็เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยไม่ต้องรอให้เกิดอาการก่อน  ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับไบโอฟาร์มทาง Line Official : @biopharm ติดตามเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ www.facebook.com/healthyclub.by.biopharm

นูทานิคซ์แต่งตั้ง คริสเตียน อวาเรซ เป็นหัวหน้าฝ่ายพันธมิตรช่องทางการขายระดับโลก

Logo

กรุงเทพฯ – 21 พฤษภาคม 2563 – นูทานิคซ์ (NASDAQ:NTNX) ประกาศเลื่อนตำแหน่งนาย

คริสเตียน อวาเรซ เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายพันธมิตรช่องทางการขายระดับโลก มีผลตั้งแต่บัดนี้

ในฐานะผู้นำด้านนี้ นายอวาเรซ จะดูแลและกำหนดกลยุทธ์ภาพรวมของธุรกิจกับพันธมิตร พร้อมสนับสนุนให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์และการพัฒนาการขายในระดับโลกรวมถึงโปรแกรมการกระจายสินค้าสำหรับ value-added reseller (VARs), distributors, OEMs, GSIs และ พันธมิตรด้าน Telco/XSP

imgนายอวาเรซ กล่าวว่า “นูทานิคซ์นำทรัพยากรที่เหมาะสม การลงทุน และความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ มานำเสนอเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรของเรา ช่วยให้พันธมิตรสามารถเพิ่มการให้บริการใหม่ ๆ และสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดของตนเองได้ เพื่อทำให้รายได้เติบโตขึ้น ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเป็นผู้นำธุรกิจทำงานร่วมกับพันธมิตรองค์กรในระดับโลกของ

นูทานิคซ์ในช่วงการเติบโตต่อจากนี้ ในขณะเดียวกันเรากำลังช่วยให้พันธมิตรของเราพัฒนาผลกำไรด้วยการบริหารจัดการแบบมืออาชีพและการให้บริการคลาวด์ เราเห็นโอกาสอย่างต่อเนื่องมหาศาลในอนาคต เนื่องจากเราปรับตัวอย่างระมัดระวังให้เข้ากับตลาดที่มีการตื่นตัวและคาดการณ์ได้ยากเช่นปัจจุบัน”

นายอวาเรซเป็นหัวหน้าฝ่ายพันธมิตรช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์

ด้วยประสบการณ์อันหลากหลายกว่า 2 ทศวรรษ ช่วยพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิผล ตรงต่อเป้าหมายทางธุรกิจต่อนานาประเทศอย่างมาก นายอวาเรซเริ่มร่วมงานกับนูทานิคซ์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562

ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายช่องทางการขายในทวีปอเมริกา หลังจากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการหัวหน้าฝ่ายขายพันธมิตรระดับโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นับจากนั้น นายอวาเรซทำให้ภาพรวมของการขายของพันธมิตรและโปรแกรมการตลาดต่าง ๆ เพื่อทำให้ได้ผลทางธุรกิจสำหรับลูกค้าและพันธมิตรเติบโตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผลต่อการหยุดชะงักของทีมงานทั้งโลก และทำให้พนักงานในองค์กรต่าง ๆ ต้องพากันทำงานที่บ้าน ทำให้ Nutanix VDI กลายเป็นสิ่งจำเป็นในระดับโลก นายอวาเรซช่วยออกโปรแกรมโซลูชั่นใหม่ ๆ สำหรับพันธมิตร และให้ความช่วยเหลือพันธมิตรให้สามารถช่วยให้ลูกค้าของตนนำเทคโนโลยีไปใช้ได้เร็วและง่ายขึ้น รวมถึงการใช้งาน FastTrack for VDI และ Xi Frame Test Drive นายอวาเรซยังเป็นผู้นำการพัฒนาโปรแกรม Nutanix Special Financial Assistance Program เพื่อสนับสนุนให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินแก่พันธมิตรอย่างรวดเร็วที่สุด

นายคริส คาดดาราส รองประธานบริหารฝ่ายขายระดับโลกของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “คริสเตียนเป็นนักนวัตกรรม เป็นนักคิดนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ และช่วยสนับสนุนให้เกิดการทำงานร่วมกันทั่วทั้งองค์กร เนื่องจากพันธมิตรช่องทางขายกำลังขับเคลื่อนไปสู่ระบบดิจิทัลสำหรับคลาวด์ นูทานิคซ์เป็นเพียงหนึ่งในบริษัทที่เดินหน้ามุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยีที่หลากหลายและระบบมัลติคลาวด์ คริสเตียนเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะผลักดันให้พันธกิจระดับโลกของเราเกิดขึ้น ช่วยให้ทั้งพันธมิตรและลูกค้าของเราปรับตัวสู่การทำงานที่ใดก็ได้นี้ได้”

นายอวาเรซยังคงดูแลช่องทางการขายในทวีปอเมริกาจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้มารับตำแหน่งแทน

############

เกี่ยวกับนูทานิคซ์

นูทานิคซ์เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ ช่วยให้การประมวลผลทางคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นได้ทุกที่ บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกใช้ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ เพื่อใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเพียงแพลตฟอร์มเดียว ในการบริหารจัดการแอปพลิเคชั่นได้ทุกแอป ทุกที่ และทุกขนาด ไม่ว่าแอปพลิเคชั่นนั้นจะอยู่บนสภาพแวดล้อมแบบไพรเวท ไฮบริด และมัลติคลาวด์ก็ตาม เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนูทานิคซ์ได้ที่ www.nutanix.com หรือติดตามทางทวิตเตอร์ที่ @nutanix

© 2020 Nutanix, Inc. All rights reserved. Nutanix, the Nutanix logo and all Nutanix product and service names mentioned herein are registered trademarks or trademarks of Nutanix, Inc., in the United States and other countries. All other brand names mentioned herein are for identification purposes only and may be the trademarks of their respective holder(s). This release contains links to external websites that are not part of Nutanix.com. Nutanix does not control these sites and disclaims all responsibility for the content or accuracy of any external site. Our decision to link to an external site should not be considered an endorsement of any content on such a site.

ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ

นภา สุทธิญาณโสภณ

บริษัท เอฟเอคิว จำกัด

โทรศัพท์ 02 970 6051

อีเมล: napa@pc-a.co.th

รางวัล GCSA 2020 มอบให้แด่ผู้ที่สร้างความยั่งยืนเพื่อโลกของเรา

Logo

เปิดให้เข้าร่วมเสนอชื่อรับรางวัลองค์กรพัฒนาอย่างยั่งยืนนานาชาติ (Global Corporate Sustainability Awards – GCSA) ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 – หลากหลายบริษัทในระดับนานาชาติทั่วโลก ที่ได้ดำเนินพันธกิจในการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด ถึงเวลาแล้วที่จะได้มีโอกาสที่จะได้รับการจารึกและประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ โดยเข้าร่วมการมอบรางวัลการองค์กรพัฒนาอย่างยั่งยืนนานาชาติ หรือ Global Corporate Sustainability Awards (GCSA) ประจำปี ค.ศ. 2020

สำหรับงานมอบรางวัล GCSA 2020 นี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2030  (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ซึ่งร่างขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ (UN) ในปีที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับรางวัลเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิเช่น ฮิวเล็ตต์ แพ็กการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ จากสหรัฐอเมริกา, ซีเมนส์จากเยอรมัน, เอซุสเทคจากไต้หวัน, จีเอสบีจากประเทศไทย, พีที วาล์ว อินโดนีเซีย ทีบีเค จาก อินโดนีเซีย และ จานาจาลจากอินเดีย เป็นต้น  ผู้เข้าร่วมทั้งหมด จะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติจากหลายภาคส่วน อาทิ ตัวแทนจากภาครัฐ, ภาคการศึกษา และ ภาคเอกชน เป็นต้น

วัตถุประสงค์ของการมอบรางวัล GCSA มีทั้งหมด 4 ข้อ โดยอาศัยแนวทางเดียวกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ประกอบด้วย

1. ประชาสัมพันธ์หลักการและข้อปฏิบัติแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้รับรู้วงกว้าง

2. ส่งเสริมให้องค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

3. ส่งเสริมให้องค์กรจัดทำและเผยแพร่รายงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านเศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม, สังคมและการปกครอง ให้มีความชัดเจน ถูกต้อง เพื่อส่งแรงกระเพื่อมในเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปสู่สังคมในวงกว้าง

4. ส่งเสริมให้บุคคลทั่วไป ได้มีความตั้งใจอุทิศตนเพื่อสร้างพลังด้านบวก เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสังคม

การมอบรางวัล GCSA มี 3 ประเภทหลัก ดังนี้ รางวัลความเป็นมืออาชีพยอดเยี่ยม, รางวัลการจัดทำรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนยอดเยี่ยม และ รางวัลผลการปฏิบัติงานยอดเยี่ยม

รางวัลความเป็นมืออาชีพยอดเยี่ยม : มอบให้แก่บุคคลทั่วไปที่ได้อุทิศตนเพื่อสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในองค์กรที่สังกัด โดยเปิดโอกาสผู้เข้าร่วมเสนอชื่อมาจากหลายภาคส่วน อาทิ ข้าราชการในภาครัฐ, พนักงานบริษัทในองค์กรเอกชน หรือ นักวิชาการจากภาคการศึกษา เป็นต้น

รางวัลการจัดทำรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนยอดเยี่ยม : มอบให้แก่องค์กรต่างๆ ที่จัดทำรายงานเปิดเผยรายละเอียดความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีความสมบูรณ์ น่าเชื่อถือ และ โปร่งใส

รางวัลผลการปฏิบัติงานยอดเยี่ยม : มอบให้แก่องค์กรธุรกิจที่ริเริ่มปฏิบัติงานในโครงการทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมลงทะเบียนได้ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2020 และจะปิดรับลงทะเบียนวันที่ 10 สิงหาคม 2020 การประกาศผลผู้ได้รับรางวัลจะประกาศในวันที่ 4 ตุลาคม 2020 และจะมีการจัดงานมอบรางวัลในวันที่ 18  พฤศจิกายน 2020 ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในงานสัมนาองค์กรการพัฒนาอย่างยั่งยืนนานาชาติ (Global Corporate Sustainability Forum – GCSF) ณ กรุงไทเป , ไต้หวัน

รายละเอียดเพิ่มเติมงานมอบรางวัล  GCSA 2020  กรุณาดูได้ที่ bit.ly/2xM22i2

ประวัติย่อของสถาบันความยั่งยืนด้านพลังงานไต้หวัน (Taiwan Institute for Sustainable Energy – TAISE)

TAISE ก่อตั้งและได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานความยั่งยืนด้านพลังงานในปี 2007 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและวิจัยการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน รวมทั้งประชาสัมพันธ์โครงสร้างพื้นฐานของระบบพลังงานที่ยั่งยืนอีกด้วย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TAISE กรุณาดูที่ https://www.taiseen.org.tw/

Media Contact

Kayla Lee

GlobalPR agency

kayla@globalpr.agency

Amazon ประกาศโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดสาธารณูปโภคจำนวน 5 โครงการเพื่อขับเคลื่อนกิจการทั่วโลกในประเทศจีน ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

Logo

ห้าโครงการประกอบด้วยโครงการพลังงานทดแทนแห่งแรกของ Amazon ในประเทศจีน โครงการที่สองในออสเตรเลีย โครงการที่สองและสามในโอไฮโอ และที่ 12 ในเวอร์จิเนีย ด้วยกำลังการผลิตเพิ่มเติมรวม 615 เมกะวัตต์และคาดหวังการผลิตพลังงานที่ปีละ 1.2 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี หรือเพียงพอต่อการใช้พลังงานใน 113,000 บ้านในสหรัฐโดยเฉลี่ย

โครงการจะจะจัดหาพลังงานทดแทนให้กับศูนย์ขนส่งและศูนย์ข้อมูล AWS ที่สนับสนุนลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลก

Amazon มีโครงการพลังงานหมุนเวียน 91 โครงการทั่วโลกที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 2,900 เมกะวัตต์และส่งมอบพลังงานมากกว่า 7.6 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีเพื่อสนับสนุนพันธสัญญาว่าด้วยสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุข้อตกลงปารีสก่อนเวลา 10 ปีและถึงเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583

ซีแอตเทิล–(บิสิเนส ไวร์)–21 พฤษภาคม 2563

วันนี้ Amazon (NASDAQ: AMZN) ประกาศโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ห้าโครงการในประเทศจีน ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนความมุ่งมั่นของ Amazon ในการเข้าถึงพลังงานทดแทน 80% ภายในปี 2024 และ 100% ภายในปี 2573 (หรืออาจจะภายในปี 2568) รวมถึงเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583

โครงการพลังงานทดแทนแห่งแรกของ Amazon ในประเทศจีนคือโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์ (MW) ในมณฑลซานตง  เมื่อเสร็จสิ้นโครงการคาดว่าจะสร้างพลังงานสะอาดได้ 128,000 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ต่อปี

โครงการพลังงานทดแทนที่สองของ Amazon ในออสเตรเลียเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 105 เมกะวัตต์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์  โครงการนี้จะมีความสามารถในการสร้างพลังงานสะอาด 250,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงในแต่ละปีซึ่งเพียงพอที่จะให้พลังงานแก่บ้านของชาวออสเตรเลียโดยเฉลี่ย 40,000 หลัง

โครงการพลังงานทดแทนใหม่ล่าสุดของ Amazon ในสหรัฐอเมริกาประกอบด้วยโครงการใหม่สองโครงการในโอไฮโอ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 200 เมกะวัตต์และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 80 เมกะวัตต์ นอกจากนี้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 130 เมกะวัตต์ในรัฐเวอร์จิเนียทำให้จำนวนโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดในรัฐอยู่ที่ 12 เมื่อเปิดใช้งานแล้วโครงการทั้งสามแห่งของสหรัฐจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเท่ากับ 69,000 ครัวเรือนโดยเฉลี่ยในแต่ละปี

เมื่อเสร็จสิ้นแล้วโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ของ Amazon ห้าโครงการรวม 615 เมกะวัตต์จะจัดหาพลังงานทดแทนเพิ่มเติมประมาณ 1.2 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมงให้กับต่อเครือข่ายขนส่งของบริษัทและศูนย์ข้อมูล Amazon Web Services (AWS) ซึ่งให้บริการ Amazon และลูกค้านับล้านทั่วโลก

จนถึงปัจจุบัน Amazon ได้ประกาศโครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์ขนาดสาธารณูปโภคจำนวน 31 โครงการและโซลาร์เซลล์ 60 หลังคาบนศูนย์ขนส่งและจัดเรียงทั่วโลก  เมื่อรวมกันแล้วโครงการเหล่านี้มีกำลังการผลิตรวมกว่า 2,900 เมกะวัตต์จะส่งมอบพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 7.6 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีซึ่งเพียงพอต่อ 680,000 ครัวเรือนในสหรัฐอเมริกา

“ในฐานะผู้ลงนามในพันธสัญญาว่าด้วยสิ่งแวดล้อม เรามุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายของข้อตกลงปารีสเร็วกว่ากำหนด 10 ปีและมีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วทั้ง Amazon ภายในปี 2583” Kara Hurst รองประธานฝ่ายความยั่งยืนของ Amazon กล่าว “โครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ทั้งห้านี้เป็นส่วนสำคัญของแผนงานของเราในการบรรลุเป้าหมายนี้  ในความเป็นจริง เราเชื่อว่าเป็นไปได้ที่จะเข้าถึงพลังงานทดแทน 100% ภายในปี 2568 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่เราได้ประกาศไปเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วเป็นเวลา 5 ปี  แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่เราก็มีแผนการที่จะไปให้ถึง”

“อนาคตพลังงานของเวอร์จิเนียนั้นสดใส  ด้วยการลงทุนในพลังงานสะอาดเราจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนและสร้างการจ้างงานเพื่อช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว” วุฒิสมาชิกเวอร์จิเนีย Senator Jennifer L. McClellan กล่าว “การประกาศโครงการโซล่าร์ใหม่ของ Amazon จะช่วยให้รัฐบรรลุเป้าหมายสิ่งแวดล้อมของเราและมีส่วนช่วยในการเติบโตทางเศรษฐกิจของเรา  กฎหมายธุรกิจสะอาดของเวอร์จิเนียจะช่วยผลักดันการลงทุนพลังงานสะอาดมากขึ้นเช่นนี้เพื่อทำให้เวอร์จิเนียเป็นศูนย์กลางแห่งชาติสำหรับงานพลังงานสะอาด”

“การสร้างงานพลังงานสะอาดเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจในรัฐในระยะยาว” ตัวแทนเวอร์จิเนีย Richard C. Sullivan Jr. กล่าว “ผมดีใจที่ Amazon ยังคงลงทุนในอนาคตพลังงานสะอาดของเวอร์จิเนียต่อไป กฎหมายธุรกิจสะอาดของเวอร์จิเนียทำให้เราอยู่บนเส้นทางสู่พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์และ บริษัทอย่าง Amazon มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”

เยี่ยมชมเว็บไซต์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ Amazon สำหรับข้อมูลและตัวชี้วัดความยั่งยืนที่แบ่งปันความคืบหน้าของบริษัทสำหรับการบรรลุเป้าหมายพันธสัญญาว่าด้วยสิ่งแวดล้อม  เป้าหมาย ความมุ่งมั่น การลงทุน และโปรแกรมต่าง ๆ สร้างขึ้นจากความมุ่งมั่นในระยะยาวของ Amazon ที่มีต่อความยั่งยืนผ่านโครงการนวัตกรรมที่มีอยู่รวมถึง Shipment Zero ซึ่งวิสัยทัศน์ของ Amazon เพื่อให้การขนส่งทั้งหมดมีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์โดยมีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ 50% ในปี 2573 ความคิดริเริ่มบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนเช่นบรรจุภัณฑ์ปลอดความยุ่งยากและจัดส่งในคอนเทนเนอร์ของตัวเองซึ่งช่วยลดปริมาณขยะบรรจุภัณฑ์ลง 25% ตั้งแต่ปี 2558 โปรแกรมพลังงานหมุนเวียน การลงทุนในระบบเศรษฐกิจแบบวงกลมด้วย Closed Loop Fund และโครงการริเริ่มอื่นๆ มากมายที่เกิดขึ้นทุกวันและนำโดยทีมงานทั่ว Amazon

เกี่ยวกับ Amazon

Amazon นำโดยหลักการสี่ประการ: การครองใจลูกค้ามากกว่ามุ่งเน้นที่คู่แข่ง ความหลงใหลในการประดิษฐ์ ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และการคิดเชิงไกล ความคิดเห็นของลูกค้า การช็อปปิ้ง 1 คลิก คำแนะนำส่วนบุคคล Prime, Fulfillment โดย Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, Fire tablet, Fire TV, Amazon Echo และ Alexa เป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่บุกเบิกโดย Amazon สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม amazon.com/about และติดตาม @AmazonNews

เกี่ยวกับ Amazon Web Services เป็น

เวลา 14 ปีที่ Amazon Web Services เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ครอบคลุมและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก  AWS มีบริการที่โดดเด่นกว่า 175 รายการสำหรับการประมวลผล การจัด เก็บฐานข้อมูล เครือข่าย การวิเคราะห์ หุ่นยนต์ การเรียนรู้ของเครื่อง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ (IoT) โทรศัพท์มือถือ ความปลอดภัย ไฮบริด โลกเสมือนจริงและสภาพแวดล้อมเสมือน (VR และ AR ) สื่อ และการพัฒนาแอพพลิเคชั่น การใช้งาน และการจัดการจาก 76 Availability Zone (AZs) ภายใน 24 พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ พร้อมประกาศแผนสำหรับ Availability Zone อีกเก้าแห่งและอีกสามภูมิภาค AWS ในอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และสเปน  ลูกค้านับล้านรายรวมถึงบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุด องค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐชั้นนำไว้วางใจ AWS ในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและลดต้นทุน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS โปรดไปที่ aws.amazon.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200521005212/en/

ติดต่อ:

Amazon.com, Inc.

สายด่วนสำหรับสื่อ

Amazon-pr@amazon.com

www.amazon.com/pr

Skilling ขยายการดำเนินการทั่วโลกหลังได้รับใบอนุญาต FSA ในเซเชลส์

Logo

นิโคเซีย, ไซปรัส–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2563

Skilling แพลตฟอร์มซื้อขาย Forex และ CFD ออนไลน์ ก้าวสู่ความสำเร็จไปอีกขั้นในปีนี้หลังได้รับใบอนุญาต FSA จากเซเชลส์เพื่อขยายการดำเนินการไปทั่วโลก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200519005391/en/

Forex and CFD online trading platform Skilling Expands Its Global Footprint with FSA Seychelles Licence. (Graphic: Business Wire)

Skilling แพลตฟอร์มซื้อขาย Forex และ CFD ออนไลน์ ขยายการดำเนินการทั่วโลกหลังได้รับใบอนุญาต FSA ในเซเชลส์ (กราฟิก: Business Wire)

หลังก่อตั้งขึ้นในปี 2559 Skilling ได้รับใบอนุญาต CySEC ในปี 2561 ซึ่งทำให้บริษัทสามารถให้บริการซื้อขายในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ได้ จากนั้นบริษัทได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสาขา FCA UK ในเดือนมกราคมปี 2563 เพื่อดำเนินกิจการในสหราชอาณาจักรต่อหลังการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

“การได้รับใบอนุญาตจากสาธารณรัฐเซเชลส์เป็นก้าวความแห่งสำเร็จที่สำคัญอย่างมากต่อการขยายการดำเนินการไปทั่วโลก นับตั้งแต่การเปิดตัวในยุโรปของเราในปีที่ผ่านมา เราได้ประจักษ์ถึงความต้องการต่อผลิตภัณฑ์ของเราที่มีอย่างสูงด้วยความปลาบปลื้มยินดี เราทำงานกันไม่หยุดตลอดเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหลมากขึ้น ขณะนี้ เรามีความพร้อมที่มากขึ้นที่จะนำเสนอแพลตฟอร์มซื้อขายที่เราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ซึ่งมีการกำหนดราคาตามการแข่งขันในตลาดอย่างโปร่งใส การดำเนินการที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และการช่วยเหลือที่รองรับในหลายภาษาสำหรับให้บริการนักซื้อขายจากทั่วโลก” André Lavold ซีอีโอแห่ง Skilling Group กล่าว “Skilling มีความพร้อมอย่างมากที่จะเติบโตในระดับนานาชาติ และเมื่อได้รับใบอนุญาตจากเซเชลส์แล้ว ลูกค้าของเราที่อยู่นอกยุโรปจะได้รับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมแบบเดียวกับที่ Skilling มอบให้ลูกค้าของเราในยุโรป”

Seychelles Financial Services Authority (FSA) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารในสาธารณรัฐเซเชลส์ ก่อตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน พ.ศ. 2556 (Financial Services Authority Act, 2013) โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาต การกำกับดูแล และการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารของสาธารณรัฐเซเชลส์ผ่านระบบกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ

“ช่วงเวลาอันน่าตื้นเต้นรอเราอยู่ข้างหน้า และทั้งตัวผมเองและทีมงานตื้นเต้นกันอย่างมาก” คุณ Lavold กล่าวเพิ่มเติม

Skilling (Seychelles) Ltd ได้รับอนุญาตจากและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Services Authority (FSA) ใบอนุญาตเลขที่ SD042 (‘บริษัท’) ตั้งอยู่ที่ Suite 3, Global Village, Jivan's Complex, Mont Fleuri, Mahe, Seychelles

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200519005391/en/

ติดต่อ:

Pavel Spirin
marketing@skilling.com