Kioxia สาธิต Form factor NVMeTM SSD ยุคใหม่สำหรับคลาวด์และศูนย์ข้อมูลแบบองค์กร

Logo

EDSFF[1]  ( Enterprise and Datacenter SSD Form Factor หรือ ฟอร์มแฟคเตอร์ Enterprise และ Datacenter แบบSSD) รุ่น E3.S ช่วยเพิ่มความหนาแน่นและประสิทธิภาพในการปรับเพิ่มขนาดของศูนย์ข้อมูล

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–30 มิถุนายน 2563

Kioxia Corporationได้พัฒนาและเริ่มจัดส่งตัวอย่างทางวิศวกรรมของฟอร์มแฟคเตอร์ SSD แห่งยุคอนาคตสำหรับ Enterprise  และ Datacenter  Form Factor ( Enterprise & Datacenter SSD Form Factor EDSFF) รุ่น E3.S ซึ่งเป็นมาตรฐานโดย SNIA SFF TA Technical Work Group

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200629005901/en/

Kioxia’s E3.S SSD evaluation samples being mounted on a 2U-size rack mounted server prototype that can install 48 units of E3.S SSDs (Image photo) (Photo: Business Wire)

ตัวอย่างการประเมิน SSD E3.S ของ Kioxia ที่ติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ต้นแบบที่ประกอบเข้ากับแร็คขนาด 2U ที่สามารถติดตั้ง SSD มาตรฐาน E3.Ss 48 ยูนิต ได้  (ภาพ: Business Wire)

E3.S เป็นมาตรฐานฟอร์มแฟคเตอร์ใหม่สำหรับ NVMe™ SSD ในศูนย์ข้อมูลคลาวด์และขององค์กร   (Cloud and enterprise data centers) โดยการกำดหนดเป้าโดยเฉพาะไปที่ระดับตั้งแต่ PCIe® 5.0 ขึ้นไป ทั้งนี้มาตรฐาน E3.S จะมีส่วนร่วมในการกำหนดการออกแบบและพัฒนาระบบรุ่นต่อไป เช่น คลาวด์เซิร์ฟเวอร์แบบ hyper-converged และแบบใช้งานทั่วไปและ ระบบแฟลชอาเรย์หรือ All Flash Array  (AFA) ในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูลระดับองค์กร

รายละเอียดจำเพาะของมาตรฐาน E3.S ช่วยในเรื่องขนาด ตัวเลือกด้านพลังงานและความจุ โดยทั้งหมดมาพร้อมกับขั้วต่ออันเดียวกัน เพราะมีการออกแบบมาสำหรับ PCIe แห่งอนาคตที่ให้พลังงานที่สูงขึ้นแต่ประหยัดงบประมาณ ดังนั้น EDSFF E3.S มอบประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในด้านการระบายความร้อนและความยืดหยุ่นที่เหนือกว่าฟอร์มแฟคเตอร์อื่น ๆ

ตัวอย่างระดับวิศวกรรมมาตรฐาน E3.S ของ Kioxia ใช้มาตรฐาน CM6 ซีรี่ส์ PCIe 4.0 NVMe 1.4 SSD ของ Kioxia ในรูปแบบฟอร์มแฟคเตอร์ขนาด 2.5 นิ้วแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่สูงขึ้นประมาณ 35% เมื่อใช้คอนโทรลเลอร์เดียวกันและหน่วยความจำแฟลช TLC BiCS FLASH™ 3D ในรูปแบบฟอร์มแฟคเตอร์ EDSFF E3.S ที่มีเลน x4 เลน และกำลังไฟฟ้า 28W (+ 40%)

ผลประโยชน์ EDSFF E3.S ประกอบด้วย:

– ความหนาแน่นที่สูงขึ้นของที่ flash storage เพื่อการใช้พลังงานพื้นที่เก็บข้อมูลและการปรับใช้ชั้นวางระบบที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

– รองรับ PCIe 5.0 ขึ้นไป โดยมีการเพิ่มความสมบูรณ์ของสัญญาณมากขึ้น

– ระบายความร้อนได้ดีขึ้น

– ประสิทธิภาพและประโยชน์มากกว่าแค่รุ่นฟอร์มแฟคเตอร์ 2.5 นิ้ว

– สถานะไดรฟ์สามารถแสดงได้โดยไฟ LED แสดงสถานะ

– รองรับการกำหนดค่าเลน x8 PCIe

หมายเหตุ

[1] ผู้สนับสนุน EDSFF Working Group ประกอบด้วยระบบเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น Dell EMC, Facebook, HPE, Lenovo และอื่น ๆ Kioxia เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะผู้มีส่วนร่วม

* NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าของ NVM Express, Inc.

* PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG.

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการที่กล่าวถึงในที่นี้อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

สอบถามสำหรับลูกค้า:

Kioxia Corporation

กองส่งเสริมการขาย

โทร: +81-3-6478-2421

https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อนั้นมีความถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูเวอร์ชันค้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200629005901/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:

Kioxia Corporation

กองวางแผนกลยุทธ์การขาย

Koji Takahata

โทร: +81-3-6478-2404

CoinFLEX เปิดตัวศูนย์กลางตลาดซื้อคืนสินทรัพย์

Logo

สะพานระหว่างเทรดเดอร์ perpetual, spot, ผู้กู้และผู้ให้กู้

ตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สแบบส่งมอบสินค้าจริงแห่งแรกนี้มอบความยืดหยุ่นของการเทรดให้กับนักลงทุนคริปโท

ฮ่องกง–(บิสิเนสไวร์)–29 มิถุนายน 2563

วันนี้ CoinFLEX ตลาดฟิวเจอร์สสกุลเงินดิจิตอลแบบส่งมอบสินค้าจริงแห่งแรกของโลก เปิดตัวศูนย์กลางตลาดซื้อคืนแห่งแรกของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนโดยฟิวเจอร์สแบบ perpetual  CoinFLEX เป็นตลาดซื้อขายแห่งแรกที่ได้พัฒนาและนำเสนอฟิวเจอร์สแบบ perpetual ที่ส่งมอบสินค้าจริง

ตลาดซื้อคืนของ CoinFLEX มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนมีโอกาสเข้าถึงการปล่อยสินเชื่อและเงินกู้ที่มีสภาพคล่องสูงโดยไม่จำเป็นต้องทำงานผ่านช่องทางของตลาดซื้อคืนแบบดั้งเดิมเช่นธนาคารหรือตัวกลางอื่นๆ ส่งผลให้การซื้อขายมีความยืดหยุ่นและเข้าถึงผลกำไรมากขึ้น CoinFLEX สร้างตลาดซื้อคืนและฟิวเจอร์แบบ perpetual สำหรับคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมตลาดโดยเพิ่มสภาพคล่องและลดต้นทุนอย่างมาก

Mark Lamb ซีโอของของ CoinFLEX กล่าวว่า “การสร้างตลาดซื้อคืนนั้นเป็นการสร้างตลาดซื้อขายที่ยุติธรรม โปร่งใส และยืดหยุ่นสำหรับผู้เข้าร่วมตลาดทั้งหมด  การนำเสนอฟิวเจอร์สแบบ perpetual ที่ส่งมอบสินค้าจริงจะช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตราสารอนุพันธ์ที่มีสภาพคล่องสูงและมีเลเวอเรจพร้อมตัวเลือกในการส่งมอบ โดยเป็นเครื่องมือการลดความเสี่ยงแบบใหม่สำหรับนักลงทุน”

เขากล่าวต่อว่า “ตลาดซื้อคืน CoinFLEX กับ FutFable Deliverable Perpetual Futures เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลประโยชน์จากการซื้อขายแบบดั้งเดิมในตลาดอัตราดอกเบี้ยใหม่สำหรับคริปโทซึ่งสามารถรับผลตอบแทนจากการลงทุนได้  ในโลกการเงินแบบดั้งเดิมที่ให้ผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน ความสามารถในการเก็บผลตอบแทนจากคริปโทเคอร์เรนซีเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักลงทุนที่ใช้ดอลลาร์หรือคริปโท

CoinFLEX เปิดตัวในต้นปี 2562 โดยให้บริการแก่ผู้ค้ารายย่อยเช่นเดียวกับตลาดป้องกันความเสี่ยงเชิงพาณิชย์ ซึ่งรวมถึงบริษัทขุดคริปโท บริษัทซื้อขาย OTC และบริษัทตลาดซื้อขายกรรมสิทธิ์ระดับโลกและเป็นรายแรกที่เปิดตัวการซื้อขายฟิวเจอร์ของโทเค็น Polkadot และ Dfinity  CoinFLEX ทำการซื้อขายหลายร้อยล้านสัญญาต่อวันในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมาและความสำเร็จได้นำไปสู่การสนับสนุนจากนักลงทุนอย่างกว้างขวางรวมกว่า 10 ล้านดอลลาร์จาก Polychain Capital, Digital Currency Group, Dragonfly Capital, B2C2 และ Grapefruit Trading.

นักเทรดและนักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าถึง CoinFLEX โดยการลงทะเบียนออนไลน์ที่ https://coinflex.com/

เกี่ยวกับ CoinFLEX

CoinFLEX (Coin Futures and Lending Exchange) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2562 โดย Mark Lamb และ Sudhu Arumugam เป็นตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สแบบส่งมอบสินค้าจริงรายแรกของโลกที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายและป้องกันความเสี่ยงคริปโทเคอร์เรนซีโดยมีความเสี่ยงจากดัชนีหรือการส่งมอบที่ต่ำ

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200629005543/en/

ติดต่อ:

Carissa Felger
Gasthalter & Co.
coinflex@gasthalter.com

มาม่า จัดแคมเปญประทับใจ MY OWN MAMA CUP ชวนผู้บริโภคสร้างมาม่าคัพถ้วยเดียวในโลก ในงาน SAHAGROUP Fair Online เท่านั้น

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–29 มิถุนายน 2563

img“มาม่า” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอันดับ 1 ของประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ MY OWN MAMA CUP”     เพื่อมอบประสบการณ์ความประทับใจให้ผู้บริโภคได้สร้างมาม่าคัพในแบบฉบับของตัวเอง โดยมาม่าได้นำนวัตกรรมการผลิตมาม่าคัพแบบ Customize ที่สามารถผลิตมาม่าคัพตามสไตล์คุณได้ถ้วยเดียวในโลกได้      ซึ่งภาพถ่ายสุดประทับใจของทุกคนจะได้มาอยู่บนถ้วยมาม่าคัพเพียงถ้วยเดียวเท่านั้น และนอกจากจะเก็บไว้เป็นความประทับใจแล้ว ยังสามารถส่งมอบความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้อื่นได้ด้วย

กิจกรรม MY OWN MAMA CUP จะเริ่มขึ้นในวันที่ 2 – 5 กรกฎาคม 2563 เฉพาะในงาน SAHAGROUP Fair Online เท่านั้น ผู้ที่สนใจอยากมีมาม่าคัพที่ไม่เหมือนใคร สามารถกดสั่งซื้อมาม่าคัพรุ่น MY own MAMA CUP ได้จากทาง www.sahagroupfair.com ในราคา 99 บาท ฟรีค่าจัดส่งเฉพาะงานนี้เท่านั้น สามารถคุณอัปโหลดรูป พร้อมตกแต่งภาพและพิมพ์ข้อความได้ ในแบบของตัวเอง จากนั้นกดยืนยัน สั่งซื้อสินค้า เพียงเท่านี้ก็จะได้มาม่าคัพสุดพิเศษ ถ้วยเดียวในโลกที่เป็นของคุณเท่านั้น และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line Official Account มาม่าอร่อย และ Facebook Mamalover

###

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์ โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

Toshiba เปิดตัวโฟโตคัปเปลอร์แรกของอุตสาหกรรมสำหรับการสื่อสารความเร็วสูงที่สามารถทำงานด้วยกระแสไฟเพียง 2.2V

Logo

สนับสนุนวงจรต่อพ่วงที่ใช้กระแสไฟฟ้าต่ำและช่วยลดจำนวนชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบ

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–29 มิถุนายน 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เปิดตัวโฟโตคัปเปลอร์ตัวแรกของอุตสาหกรรมสำหรับการสื่อสารความเร็วสูงที่สามารถทำงานกับแหล่งจ่ายไฟที่ต่ำเพียง 2.2V อุปกรณ์ทั้งสองได้แก่ รุ่น“ TLP2312” ซึ่งให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่ 5Mbps ตามปกติ และรุ่น “ TLP2372”  ที่ให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่ 20Mbps การจัดส่งเริ่มต้นวันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200628005005/en/

Toshiba: Industry's first photocouplers TLP2312 and TLP2372 for high-speed communications that can operate with a power supply as low as 2.2V. (Photo: Business Wire)

Toshiba: โฟโตคัปเปลอร์ตัวแรกของอุตสาหกรรมรุ่น TLP2312 และ TLP2372 สำหรับการสื่อสารความเร็วสูงที่สามารถทำงานกับแหล่งจ่ายไฟที่ต่ำเพียง 2.2V (ภาพ: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้รับการออกแบบให้ทำงานได้ ณ แรงดันไฟฟ้าต่ำเริ่มต้นที่ 2.2V เพื่อให้สามารถทำงานกับแรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่าของวงจรต่อพ่วงได้ เช่น การใช้ในวงจรแรงดันไฟฟ้าต่ำ ที่ 2.5V ของ LVCMOS เป็นต้น วิธีการนี้ช่วยลดความต้องการในการแยกแหล่งจ่ายไฟต่างหากเพื่อขับเคลื่อนโฟโต้คัปเปลอร์ พร้อม ๆ กับลดจำนวนชิ้นส่วนประกอบ

ด้วยการมีเกณฑ์กระแสไฟอินพุต (inpur current) ที่ต่ำที่ 1.6mA (สูงสุด) และกระแสซัพพลาย (supply current) ที่ต่ำที่ 0.5mA (สูงสุด) ในช่วงอุณหภูมิ -40 ℃ และ + 125 ℃ โฟโต้คัปเปลอร์ตัวใหม่สามารถขับเคลื่อนโดยไมโครคอนโทรลเลอร์โดยตรง ช่วยลดการใช้พลังงาน

โฟโต้คัปเปลอร์ตัวใหม่นั้นบรรจุอยู่ในแพ็คเกจ SO6 แบบ 5 พินที่มีความสูงสูงสุดที่ 2.3 มม. ทำให้ดูไม่ขัดตา (low profile) และให้อิสระในการจัดวางส่วนประกอบบนแผงวงจรมากขึ้น

การใช้งาน

อินเตอร์เฟสดิจิตอลความเร็วสูง

(คอนโทรลเลอร์โลจิกที่ตั้งโปรแกรมได้ หรือ programmable logic controllers (PLC), อินเวอร์เตอร์สำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป, อุปกรณ์ตรวจวัด และอุปกรณ์ควบคุม ฯลฯ )

คุณสมบัติ

  • แรงดันไฟฟ้าการดำเนินงานต่ำ: VDD=2.2V to 5.5V
  • เกณฑ์กระแสอินพุตต่ำ: IFLH=1.6mA (สูงสุด)
  • กระแสซัพพลายต่ำ: IDDH, IDDL =0.5mA (สูงสุด)
  • อัตราการทำงานในอุณหภูมิสูง: Topr max=125℃
  • อัตราการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง:
    5Mbps (typ.) (TLP2312)
    20Mbps (typ.) (TLP2372)

คุณสมบัติหลัก

(@Ta= -40 to +125℃ นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น,)

หมายเลขชิ้นส่วน

TLP2312

TLP2372

อัตราการถ่ายโอนข้อมูล typ. (Mbps)

5

20

บรรจุภัณฑ์

ชื่อ

5pin SO6

ส่วนสูงที่สุด (มม.)

2.3

อัตราสูงสุด

อุณหภูมิทำงานสูงสุด Topr max (℃)

125

กระแสเอาต์พุตสูงสุด IO (mA)

@Ta=25℃

8

ช่วงของปฏิบัติการ

แรงดันไฟซัพพลาย VDD (V)

2.2 to 5.5

ลักษณะเฉพาะทางด้านไฟฟ้า

กระแสซัพพลาย IDDH, IDDL max (mA)

0.5

เกณฑ์กระแสอินพุต (L/H) IFLH max (mA)

1.6

ลักษณะของการสวิตช์

เวลาดีเลย์ของการถ่ายทอด tpHL, tpLH max (ns)

250

60[2]

ภูมิคุ้มกันชั่วคราวโหมดทั่วไป

CMH, CML นาที (kV/μs)

@Ta=25℃

±20

ลักษณะไอโซเลชั่น

แรวดันไฟฟ้าไอโซเลชั่น BVS min (Vrms)

@Ta=25℃

3750

ตรวจสอบสินค้า

Buy Online

Buy Online

หมายเหตุ:

[1] เทียบกับบรรดาโฟโต้เปลอร์ IC เอาท์พุท ต่าง ๆ สำหรับการสื่อสารความเร็วสูงตามการสำรวจโดย Toshiba ณ เดือนมิถุนายน 2563

[2] At VIN=2.5V, RIN=470Ω, CIN=68pF

ติดตามลิงค์ด้านล่างเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้

TLP2312

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TLP2312

TLP2372

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TLP2372

คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ออปติคัลเซมิคอนดักเตอร์ของ Toshiba

อุปกรณ์ออปติคัลเซมิคอนดักเตอร์

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/optoelectronics.html

เพื่อตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ในหมู่ผู้จัดจำหน่ายออนไลน์ กรุณาไปที่:

TLP2312

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TLP2312.html

TLP2372

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TLP2372.html

สอบถามสำหรับลูกค้า:

Optoelectronic Device Sales & Marketing Dept.

โทร: +81-3-3457-3431

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2560 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD

พนักงานของเราจำนวน 24,000 คน ทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ เจ็ดแสนห้าหมื่นล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200628005005/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Digital Marketing Department หรือ ฝ่ายการตลาดดิจิตอล

Chiaki Nagasawa

โทร: +81-3-3457-4963

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แพทย์ชี้ 4 สัญญาณเตือน เสี่ยงเป็น “โรคต้อกระจก” แนะตรวจสุขภาพตาปีละ1 ครั้ง รู้เท่าทัน รีบป้องกันก่อนตาบอด

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–26 มิถุนายน 2563

imgหลายคนไม่อาจปฏิเสธได้ว่า  การมองเห็น” มีความสำคัญกับชีวิต นอกจากการทำให้เราได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุขแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นหน้าคนที่เรารัก ได้เห็นโลกกว้าง ได้อ่านหนังสือ ได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองโดยไม่ต้องเป็นภาระกับใคร  หลายคนจึงกลัวที่จะสูญเสียการมองเห็น  หลายคนกลัวหากต้องอยู่ในโลกมืด  ดังนั้น การดูแลสุขภาพ “ดวงตา” ให้ดีอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ  เพราะ“ดวงตา” เป็นอวัยวะที่บอบบาง และหากสูญเสียมันไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้

โรคต้อกระจก” เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ตาบอด  โดยผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีภาวะเลนส์ตาขุ่น  และจะมีอาการหลักคือ ตามัว มองเห็นภาพไม่ชัด สายตาเลือนราง  ซึ่งลักษณะการมองเห็นภาพไม่ชัดนั้นมีหลายแบบ แต่ส่วนมากแล้วอาการต่าง ๆ จะค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลาเป็นเดือนหรืออาจเป็นปี เมื่อมีอาการมากขึ้นจะส่งผลทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งในเรื่องนี้ แพทย์หญิงพรรักษ์ ศรีพล แพทย์เฉพาะทางจักษุ ด้านการผ่าตัดต้อกระจก ต้อหิน และจอประสาทตา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ โรงพยาบาลในเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์” จะมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจ วิธีสังเกตอาการ และสัญญาณเตือนของ “โรคต้อกระจก” รวมไปถึงแนวทางการรักษามาฝากกัน 

สาเหตุของการเกิดต้อกระจก

สาเหตุของการเกิดต้อกระจกมาจาก อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจกได้ง่าย  รวมไปถึงผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid) โดยกลุ่มที่มีโอกาสได้รับยา กลุ่มนี้ ได้แก่  ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้, โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคเอสแอลอี (SLE) นอกจากนี้ผู้ที่รับประทานยาต้ม        ยาหม้อ ยาสมุนไพร ซึ่งอาจมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ การได้รับอุบัติเหตุทางตา และการได้รับแสงอัลตราไวโอเลต (UV) เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดต้อกระจกทั้งสิ้น

4 อาการเสี่ยงเข้าข่ายเป็นโรคต้อกระจก

สำหรับ 4 สัญญาณเตือนของโรคต้อกระจก มีดังนี้ 1.มองเห็นภาพไม่ชัด 2.มองเห็นภาพซ้อน 3.มองเห็นภาพมัวในที่ ๆ มีแสงจ้า  4.สายตาเปลี่ยนบ่อย  ไปวัดแว่นทีไรไม่ชัดสักที  เมื่อมีอาการดังกล่าวข้างต้น อย่านิ่งนอนใจควรรีบพบแพทย์ทันที  หรือ แม้จะไม่มีสัญญาณเตือน แต่เราก็ควรที่จะตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาภาวะผิดปกติ

ภาวะแทรกซ้อน อันตรายที่ต้องเฝ้าระวัง

ในผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกมานานจนสุกแล้ว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน นั่นคือ “ภาวะต้อหินจากต้อกระจกที่บวมเป่ง (Phacomorphic Glaucoma)” เกิดจากเลนส์ตาสุกเต็มที่แล้วบวม จนปิดทางระบายน้ำในลูกตา ทำให้น้ำในลูกตาระบายไม่ได้ ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตาเฉียบพลัน  ตาแดง เมื่อส่องไฟจะเห็นเลยว่า ตาดำจะขาวผิดปกติ หากปวดในกรณีนี้ไม่มียาที่สามารถระงับอาการปวดได้และถือว่าอันตรายมาก

ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา วิธีรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

โรคต้อกระจก มีวิธีการรักษาเพียงวิธีเดียวคือ การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการรักษามาตรฐานในปัจจุบันทั่วโลก และวิธีที่นิยมมากที่สุดคือ การทำเฟโกอีมัลซิฟิเคชั่น (Phacoemulcification) ด้วยการใช้เครื่องเสียงความถี่สูงเข้าไปสลายเลนส์ตาเก่าให้มีขนาดเล็กแล้วใส่เลนส์ตาใหม่เข้าไป ทำให้มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กมากเพียง 3 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่จึงไม่ต้องมีการเย็บปิดแผล  นับเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 10 – 30 นาทีเท่านั้น  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและความยากของเคส

ปัจจุบัน โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ มีการรักษาโรคต้อกระจกด้วยเครื่องมือทันสมัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  ซึ่งคนไข้ที่เข้ามารับการผ่าตัดโรคตาต้อกระจกกับทางโรงพยาบาล  ไม่เพียงแต่จะได้การรักษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถกลับมามองเห็นได้ชัดขึ้น  แต่ยังได้มีส่วนร่วมในการทำบุญอย่างยิ่งใหญ่ ในโครงการปันโลกสดใส ภายใต้โครงการแพทย์ผู้ให้  ด้วยการเปิดโอกาสในการมองเห็นให้กับผู้ที่ขาดโอกาสเข้าถึงการรักษาดวงตาอีก 1 คน  โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เปรียบเสมือนการผ่าตัด 1 ได้เห็น 2

ชีวิตใหม่หลังผ่าตัดต้อกระจก

หลังจากได้รับการผ่าตัดต้อกระจกแล้ว ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่  เนื่องจากสามารถมองเห็นได้ชัดมากขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งการผ่าตัดต้อกระจกไม่เพียงแต่ทำให้กลับมามองโลกสดใส แต่ยังเป็นการแก้ไขภาวะสายตาสั้น ยาว เอียง หรือสายตามองใกล้ที่ผิดปกติได้  รวมทั้งช่วยลดความดันตาในผู้ป่วยต้อหินอีกด้วย

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคต้อกระจก หรือเรื่องสุขภาพอื่น ๆ สามารถขอคำปรึกษาจาก ทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด  ได้ทั้ง 9 แห่ง ใน 8 จังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาล พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ  จังหวัดสมุทรปราการ  โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1  และโรงพยาบาล พริ้นซ์ ปากน้ำโพ 2 จังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก โรงพยาบาลพิษณุเวช อุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์   โรงพยาบาลพิษณุเวช พิจิตร จังหวัดพิจิตร โรงพยาบาล ศิริเวชลำพูน จังหวัดลำพูน  และโรงพยาบาลวิรัชศิลป์ จังหวัดชุมพร  และสามารถติดตามสาระดี ๆ เกี่ยวกับการแพทย์ได้ที่เฟซบุ๊ก : Principal Healthcare Company

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th   

เครือสหพัฒน์ เปิดช่วง Flash Sale พร้อมไลฟ์สด ในงาน “สหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63” แบรนด์ดังร่วมครีเอตกิจกรรมโดนใจนักช้อป พร้อมดึงดาราดังร่วมสร้างสีสัน 2-5 ก.ค.นี้

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–26 มิถุนายน 2563

imgนายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มหกรรมช้อปหยุดโลก สหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคมนี้ที่ http://www.sahagroupfair.com/ ทางเครือสหพัฒน์ได้เตรียมยกทัพแบรนด์ดังในเครือมาจัดช่วง Flash Sale และไลฟ์สด ควบคู่ไปกับการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษลดสูงสุด 80%

โดยในช่วง Flash Sale มีแบรนด์ดังเข้าร่วมเกือบ 100 แบรนด์ อาทิ วาโก้ เวียนนา กีลาโรช อองฟองต์ ไลอ้อน สหพัฒน์ จีเอสพี ซีแอนด์ดี จูสส์ เคเอ็มเอ เบเนคอล คิวพี เชอรีลอน le coq sportif บีเอสซี ARTY เพียวแคร์ BSC Cosmetology ชีเน่ เวลแคร์ MAXIMUS เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมารีวิวสินค้าและแนะนำสินค้าใหม่ที่กำลังอยู่ในความสนใจของนักช้อป พร้อมทั้งแนะนำโปรโมชันโดนใจ นาทีทอง ที่นักช้อปไม่ควรพลาด

ในช่วง Live สดจะมีทั้งแฟชั่นโชว์ เวิร์กชอป และมีดาราและเซเลบริตี้มาร่วมสร้างสีสัน โดยมีแบรนด์ดังเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย อาทิ แฟชั่นโชว์ จากแบรนด์ กี ลาโรช เวิร์คชอป จะมีการสอนแต่งหน้าจาก MTI, เวิร์คชอปแต่งหน้ากับฟ้าใส ปวีณสุดา, สอนเย็บหน้ากากจากโครงการประชารัฐเครือสหพัฒน์, สอนพับผ้า Furoshiki จากวาเซดะ และพลาดไม่ได้กับ ช่วงไลฟ์พูดคุยกับดารานักแสดงชื่อดัง อาทิ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ จากแบรนด์ข้าววรรณภพ, สกาย-วงศ์รวี ปิ่น-เก็จมณี จากแบรนด์เปา, อาเล็ก-ธีรเดช ปราง-กัญญ์ณรัณ มีน-พีชญา จากแบรนด์ซอลส์ เจมส์-ธีรดนย์ จากแบรนด์ซิสเท็มมา ไมค์-ภัทรเดช และ ยิหวา ปรียากานต์ จากบีเอสซี ซอย

ผู้สนใจดูรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63 ได้ที่ http://www.sahagroupfair.com/ ส่วนการช้อปจะเปิดให้ช้อปพร้อมกันทาง http://www.sahagroupfair.com/ LAZADA SHOPEE และ JD CENTRAL ในวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ต้องการสั่งซื้อล่วงหน้าจะเปิดให้มีพรีออเดอร์ (PRE SALES) สินค้าใหม่ ในวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2563 เฉพาะที่ LAZADA

#sahagroupfair #sahagroupfaironline #ช้อปหยุดโลก #คลิ๊กแล้วคุ้ม #LAZADA #SHOPEE #JDCentral #ลุ้นรางวัล

สื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

เร้ดแฮทแต่งตั้ง อินแกรม ไมโคร เพื่อขยายบริการให้กับผู้ให้บริการไอทีและคลาวด์

Logo

ช่วยให้พันธมิตรนำเสนอบริการคลาวด์ได้อย่างมีคุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดของโอเพ่นซอร์ส

กรุงเทพฯ – 25 มิถุนายน 2563 – เร้ดแฮท อิงค์ (Red Hat, Inc) ผู้นำระดับโลกด้านโอเพ่นซอร์สโซลูชั่นประกาศแต่งตั้ง บริษัท อินแกรม ไมโคร อิงค์ (Ingram Micro, Inc ) เป็นผู้แทนจำหน่ายโปรแกรมสำหรับผู้ให้บริการด้านไอทีและคลาวด์ที่ได้รับการรับรอง (Certified Cloud and Service Provider: CCSP) จากเร้ดแฮท เพื่อดูแลประเทศกลุ่มอาเซียน (อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย) และฮ่องกง โดย อินแกรม ไมโครจะทำงานร่วมกับเร้ดแฮทในการสรรหา คัดเลือก และดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ในโปรแกรม CCSP ต่อไป 

โปรแกรม CCSP นี้ ประกอบด้วยผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการรวมระบบและเทคโนโลยี (SI) และผู้ให้บริการการบริหารจัดการ (managed service providers) ในเอเชียแปซิฟิกหลายร้อยราย เพื่อทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเร้ดแฮทในการโฮสต์ระบบทั้งแบบติดตั้งฮาร์ดแวร์ (Physical) และแบบเวอร์ชวลแมชชีน (VM) เพื่อใช้งานไพรเวทและพับลิคคลาวด์ รวมถึงการให้บริการการบริหารแอปพลิเคชั่น และบริการด้านการพัฒนาคอนเทนเนอร์ต่าง ๆ การแต่งตั้งอินแกรม ไมโครเป็นผู้แทนจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นการตอบสนองต่อความสนใจการใช้งานโซลูชั่นบริหารจัดการมัลติและไฮบริดคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ 

imgIDC[1]] คาดการณ์ไว้ว่าค่าใช้จ่ายการบริการด้านพับลิคคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตลอดช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้ โดยจะมีอัตราการเติบโตในระยะเวลา 5 ปี รวมกันอยู่ที่ปีละ 33% ทั้งนี้ภายในปี 2566 ค่าใช้จ่ายจะแตะระดับ 77.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โปรแกรม CCSP ของ
เร้ดแฮทช่วยให้ผู้ให้บริการโซลูชั่นในภูมิภาคนี้ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีความยืดหยุ่นและปรับขยายได้เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบเปิดที่ทำงานอยู่บนคลาวด์

พันธมิตรที่จะได้รับการรับรองเข้าโปรแกรม CCSP ของเร้ดแฮทนี้ จะต้องผ่านการทดสอบและการรับรองความสามารถในการให้บริการที่สามารถปรับขนาดได้ สามารถให้การสนับสนุนและมอบสภาพแวดล้อมที่สอดคล้องกัน ด้วยการใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับคลาวด์ระดับองค์กร โปรแกรม CCSP ที่เป็นหนึ่งเดียวทั่วโลกนี้ เป็นการให้ความมั่นใจกับลูกค้า ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ และพันธมิตรว่าโซลูชั่นที่ใช้นั้นได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของเร้ดแฮทแล้ว เพื่อเป็นการเริ่มต้นใช้งานคลาวด์บนโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในการใช้คลาวด์ต่อไป

ผู้ให้บริการที่ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการ CCSP จะสามารถเข้าใช้งานโซลูชั่นต่าง ๆ ของเร้ดแฮทที่ไม่เพียงแต่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สร้างพับลิคและไพรเวทคลาวด์ที่มีความปลอดภัยและปรับขนาดได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วย DevOps ในการพัฒนา ใช้งาน และจัดการแอปพลิเคชั่นหลากหลายได้อย่างลงตัวมากขึ้น ตัวอย่างโซลูชั่นที่สามารถเข้าใช้งานได้ เช่น Red Hat Enterprise Linux, Red Hat OpenShift Container Platform และ Red Hat OpenStack Platform โดยผู้ให้บริการสามารถใช้โซลูชั่นเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพิ่มความยืดหยุ่น ขยายบริการด้านไฮบริดคลาวด์ และนำเสนอแอปพลิเคชั่นของนักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระที่สามารถปรับขนาดและพร้อมใช้งานสูงสุดบนเทคโนโลยีต่าง ๆ ของเร้ดแฮทได้

คำกล่าวสนับสนุน

นายแอนดรูว์ แฮบกู๊ด ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายพันธมิตรและพาร์ทเนอร์ของเร้ดแฮท ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

“เรายินดีที่ได้ร่วมงานกับอินแกรม ไมโคร ผู้แทนจำหน่ายโปรแกรม CCSP ของเร้ดแฮท และเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศพันธมิตรของเร้ดแฮท เรามุ่งมั่นที่จะเสนอทางเลือกที่หลากหลายในการใช้งานคลาวด์ให้กับลูกค้าและนักพัฒนาทั้งหลาย และหัวใจสำคัญที่จะทำให้ความมุ่งมั่นนั้นเป็นจริงได้ คือการทำให้การใช้คลาวด์นั้น ๆ สร้างอยู่บนระบบนิเวศพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและใช้แอปพลิเคชั่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือจากอินแกรม ไมโคร อย่างต่อเนื่องในการร่วมสร้างการเติบโตของระบบนิเวศพันธมิตรไปกับเร้ดแฮท”

นายฟรานซิส ชู รองประธานและหัวหน้าผู้บริหารระดับประเทศ, อินแกรม ไมโคร เอเชีย ประจำฮ่องกง

“เราภูมิใจและยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม CCSP ของเร้ดแฮท ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริการของเราที่มีอยู่ในเส้นทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ซึ่งโซลูชั่นที่เป็น hybridisation ไมโครเซอร์วิส และโอเพ่นซอร์สล้วนเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ธุรกิจต่าง ๆ คำนึงถึงเมื่อต้องการสร้างและจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน เราเชื่อมั่นว่าจะสร้างสิ่งที่ดีที่สุดด้วยพอร์ตโฟลิโอด้านความปลอดภัยไซเบอร์และโซลูชั่น SaaS ที่แข็งแกร่งของเรา การทำงานร่วมกับคอมมูนิตี้ของพันธมิตรและผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระต่าง ๆ รวมกันออกมาเป็นโซลูชั่นไอทีรุ่นต่อไปนำเสนอให้กับพาร์ทเนอร์ของเราและลูกค้าของพวกเขา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะคงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเร้ดแฮทยิ่ง ๆ ขึ้นไป”

ติดต่อเร้ดแฮท

เกี่ยวกับเร้ดแฮท

เร้ดแฮท คือผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สโซลูชั่นสำหรับองค์กร โดยใช้พลังของสังคมโอเพ่นซอร์ส เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี Linux, hybrid cloud, container และ Kubernetes ที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสูง เร้ดแฮท ให้การสนับสนุนลูกค้าในการผสานรวมแอปพลิเคชันใหม่และที่ใช้อยู่เดิม ในการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ cloud-native เพื่อยกระดับระบบปฏิบัติการชั้นนำของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงบริหารจัดการสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนให้เป็นระบบอัตโนมัติและปลอดภัย ด้วยการบริการด้านการสนับสนุน อบรม และให้คำปรึกษาที่ได้รับความเชื่อถือและการยอมรับด้วยรางวัลมากมาย เร้ดแฮท จึงได้รับการไว้วางใจในการเป็นที่ปรึกษาแก่บริษัทในเครือ Fortune 500 ด้วยบทบาทของ เร้ดแฮท ในการเป็นพันธมิตรต่อผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผนวกรวมระบบ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ลูกค้า และชุมชนโอเพ่นซอร์ส เร้ดแฮท จะสามารถสนับสนุนและผลักดันองค์กร เพื่อพร้อมรับกับโลกดิจิทัลแห่งอนาคต

###

Red Hat, Red Hat Enterprise Linux, Red Hat OpenShift and the Red Hat logo are trademarks or registered trademarks of Red Hat, Inc. or its subsidiaries in the U.S. and other countries. Linux® is the registered trademark of Linus Torvalds in the U.S. and other countries. The OpenStack Word Mark is either a registered trademark/service mark or trademark/service mark of the OpenStack Foundation, in the United States and other countries, and is used with the OpenStack Foundation's permission. Red Hat is not affiliated with, endorsed or sponsored by the OpenStack Foundation, or the OpenStack community


[[1]] Source: IDC Asia Pacific Public Cloud Spending Guide, 1H 2019

เคแบงก์ ผนึกพลังพันธมิตรให้ลูกค้า K PLUS กว่า 13 ล้านรายช้อปสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามจากผู้ประกอบการชั้นนำทั่วประเทศได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา บน K+ Market

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–26 มิถุนายน 2563

imgกสิกรไทย จับมือ สรรพสินค้าเวลเนส (WELLNESS departmentstore) เปิดให้ลูกค้า ช้อปสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามจากผู้ประกอบการชั้นนำทั่วประเทศ บน K+ Market ผ่าน K PLUS ให้ลูกค้าช้อปสะดวกไม่มีสะดุด ผ่าน K PLUS หรือแลกซื้อด้วยคะแนนสะสมของบัตรเครดิตกสิกรไทย

นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า K+ Market เป็นแพลตฟอร์มบนแอปพลิเคชัน  K PLUS ที่เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อที่มีจำนวนมากกว่า 13 ล้านราย กับผู้ขายซึ่งมีทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย เจ้าของแบรนด์ กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยต่างๆ กว่า 900 ร้านค้า ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพและความงาม แม่และเด็ก เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนสินค้าความบันเทิงและไลฟ์สไตล์อื่นๆ

นับตั้งแต่เปิดให้บริการ มีลูกค้าที่เข้าหน้า K+ Market กว่า 9 ล้านราย โดยธนาคารคัดเลือกเฉพาะสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์ รวมถึงร้านค้าที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ในด้านการขายของออนไลน์ ที่สำคัญลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินได้ทั้งเงินสด หรือชำระด้วยคะแนนสะสมบัตรเครดิตแบบดีลสุดคุ้มใน K+ Market และในอนาคตจะยังสามารถใช้คะแนนของพันธมิตร และ บัตรเครดิตมาชำระค่าสินค้าได้ด้วย

“ความร่วมมือกับ สรรพสินค้าเวลเนส (WELLNESS departmentstore) นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสการขายบนช่องทางดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจด้านสุขภาพและความงามเริ่มต้น 8 แบรนด์ที่ให้บริการทั้งในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ หัวหิน ภูเก็ต และ พัทยา แล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด 19 (Covid-19)   นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสในการใช้คะแนนสะสมบัตรเครดิต ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าหรือบริการที่ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น เพราะมีสินค้าและบริการที่หลากหลายครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงการให้สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า    K PLUS ด้วยการให้โค้ดส่วนลดสูงสุดถึง 1,000 บาท”

นายทรงวุฒิ ตรีเทพจุลยากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง สรรพสินค้าเวลเนส (WELLNESS departmentstore) กล่าวว่า หนึ่งในแหล่งรายได้หลักของประเทศไทยมาจากอุตสาหกรรมสุขภาพโรงแรมและสปาของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งจากคนไทยและต่างประเทศซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2563 กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมสุขภาพโรงแรมและสปาของไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 (Covid-19) เป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้  บริษัท สรรพสินค้าเวลเนส จำกัด เล็งเห็นถึงศักยภาพการจำหน่ายสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามแบบออนไลน์ จึงเป็นตัวแทนประสานงานผู้ประกอบการด้านสุขภาพและความงามชั้นนำ เช่น ชีวาศรม ปัญญ์ปุริ โอเอซิส และ เล็ทส์ รีแลกซ์ สปาเป็นต้น ร่วมกันคัดสรรสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามเพื่อจำหน่ายบน แพลตฟอร์ม K+ Market ผ่าน K PLUS ซึ่งเป็นผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้ง เป็นการเปิดตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อบน K PLUS กว่า 13 ล้านราย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้บริการด้านสุขภาพในวงกว้างขึ้นตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนธุรกิจโรงแรมและสปาของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมและสปาในอนาคต

สินค้าและบริการในกลุ่มอุตสาหกรรม WELLNESS จะเริ่มให้จำหน่ายบน K+ Market ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป พร้อมโปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุด 40% เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการจนถึงวันที่  30 พฤศจิกายน2563 ชมวิธีการซื้อสินค้าบน K+ Market ผ่าน KPLUS ได้ที่  https://kbank.co/38IhY1l

RELX Technology เปิดตัวอุปกรณ์รุ่น Infinity ที่นำเสนอประสบการณ์ใหม่อย่างสมบูรณ์แบบให้กับผู้ใช้ในตลาดโลก

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–25 มิถุนายน 2563

RELX Technology ประกาศในวันนี้ถึงการเปิดตัวบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ รุ่น Infinity และ Essential ซึ่งนำนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงมาสู่ภารกิจในการช่วยเหลือผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกในการเปลี่ยนไปสู่ทางเลือกที่ดีขึ้น โดยรุ่น Infinity จะใช้นวัตกรรมล่าสุดของ RELX Technology ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในด้านคุณภาพของไอระเหย(vapor quality) ด้านความคล่องตัว และด้านประสบการณ์การใช้งานโดยรวม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ RELX ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในหมวดหมู่สินค้าพรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ยังมีราคาที่ไม่สูงมาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบของรุ่น Infinity ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200625005026/en/

RELX Infinity: Smooth As A Breeze

RELX Infinity: ราบรื่นราวกับสายลม

Infinity และ Essential สามารถบรรลุรสชาติที่สมบูรณ์กว่าและการสูบที่เนียนนุ่มตั้งแต่ต้นจนจบอันเป็นผลมาจากเทคโนโลยี Super Smooth™ ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทเอง ด้วยความทุ่มเทมากกว่าหนึ่งปีในกระบวนการออกแบบทำให้เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ได้รับการพัฒนาโดยการกำหนดองค์ประกอบหลักห้าประการที่ทำให้มีการสูบที่สมบูรณ์แบบ โดยบริษัทได้ทำการทดสอบทางประสาทสัมผัส 76 ครั้ง และปรับปรุงพารามิเตอร์ที่วัดประสิทธิภาพ RELX Super Smooth™ ซ้ำ ๆ เพื่อให้เทคโนโลยีสมบูรณ์แบบและสร้างประสบการณ์การสูบที่ดีที่สุด อนึ่ง Infinity และ Essential จะเริ่มขายในตลาดโลกบางแห่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2563

Kate Wang ซีอีโอของ RELX กล่าวว่า“ อินฟินิตี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ฉันภูมิใจในทีม RELX ทั่วโลกสำหรับการสร้างอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าและด้วยความทุ่มเทต่อนวัตกรรมของ RELX ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในขณะนี้ เป้าหมายสูงสุดของเราคือการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบันที่ไม่สามารถเลิกหรือที่ไม่ต้องการที่จะเลิก มีทางเลือกที่ดีกว่าอย่างมั่นใจ เรารู้สึกว่าการที่อุปกรณ์ Essential เป็นมิตรกับงบประมาณนั้นยังจะช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสกับคุณสมบัติคุณภาพระดับพรีเมียมของ RELX ได้อีกด้วย”

การออกแบบอุปกรณ์รุ่น Infinity นั้นได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมมากกว่า 40 ครั้ง และถูกทดสอบมากกว่า 12,000 พ็อด เพื่อให้มั่นใจถึงมาตรฐานคุณภาพสูงและความต้านทานการรั่วไหล โดย RELX ได้ส่งคำขอรับสิทธิบัตรสำหรับนวัตกรรมมากกว่า 50 รายการที่ใช้ในอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงการออกแบบป้องกันการรั่ว e-liquid pods และเคสชาร์จไร้สาย ในเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา  Infinity ได้รับรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ประจำปี 2563 จาก Red Dot Award

เกี่ยวกับ RELX Technology

RELX ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2561 เป็นแบรนด์บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของเอเชีย โดย RELX พัฒนาผลิตภัณฑ์บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ด้วยตัวเองที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาในเซินเจิ้นประเทศจีน ภารกิจของ RELX คือการเพิ่มขีดความสามารถในการสูบบุหรี่ของผู้บรรลุนิติภาวะผ่านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์อย่างมีจริยธรรม RELX ยังคงลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในการวิจัยและพัฒนา การทดสอบ e-liquid และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ RELX ได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการมาตรฐาน CNAS เป็นแห่งแรกสำหรับแบรนด์ที่ผลิตบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์เอง บริษัท RELX เป็นที่สนใจของบริษัทระดับโลกอย่าง Uber, Proctor and Gamble, Huawei, Beats และ L’Oréal โดยนักลงทุนของ RELX รวมถึง บริษัท ร่วมทุนชั้นนำอย่าง Source Code Capital, IDG Capital และ Sequoia Capital

เว็บไซต์: https://relxnow.com

ทวิตเเตอร์: @Relxtech

Facebook: @Relxnow

Instagram: relxtech

Linkedin: RELX Technology

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200625005026/en/

ติดต่อ:

Yasha Wolfman
yasha.wolfman@relxtech.com

Aimee Ren
aimee.ren@relxtech.com

คนไทยไม่ทิ้งกัน “ไลอ้อน ประเทศไทย” ร่วมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้คนขับแท็กซี่ “มอบถุงปันสุข” 1,000 ถุง วันที่ 29 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–24 มิถุนายน 2563

imgบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ห่วงใยในปัญหาความเดือดร้อนของผู้ขับรถแท็กซี่ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการแท็กซี่ยังลดลง จึงได้จัดโครงการ มอบถุงปันสุข จำนวน 1,000 ถุง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่ขับรถแท็กซี่ โดยภายในถุงปันสุขประกอบด้วยสินค้าอุปโภค อาทิ ผงซักฟอกเปา น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ เจลล้างมือคิเรอิคิเรอิ แปรงสีฟัน ยาสีฟันซิสเท็มมา แชมพูคิวลีน ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ และหน้ากากผ้านาโนซิงค์ออกไซด์

ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องการรับถุงปันสุข สามารถมารับได้ที่บริเวณหน้าบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ถนนพระราม 3 ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น.

###

สื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

The Bangkok Reporter