Mary Kay แต่งตั้ง Wendy Wang ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Logo

แบรนด์ความงามระดับโลกและผู้สนับสนุนการเสริมสร้างพลังของสตรี ประกาศบทบาทความเป็นผู้นำครั้งใหม่เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–27 ตุลาคม 2563

Mary Kay Inc. องค์กรชั้นนำผู้สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความเป็นผู้นำของผู้หญิงทั่วโลกด้วยการแต่งตั้ง Wendy Wang ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการขาย (Chief Commercial Officer) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจะประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแอดดิสัน ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่ here: https://www.businesswire.com/news/home/20201026005152/en/

The appointment of Wang is the latest in Mary Kay Inc.’s decades-long commitment to empowering women to serve in leadership positions. (Photo: Mary Kay Inc.)

การประกาศแต่งตั้ง Wang ครั้งนี้นับเป็นครั้งล่าสุดของการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของ Mary Kay Inc. ที่จะเสริมสร้างพลังให้กับสตรีผ่านการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับผู้นำ (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับการประกาศแต่งตั้ง Wendy Wang ให้รับตำแหน่งผู้นำระดับสูงในครั้งนี้” KK Chua ประธาน Mary Kay ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ความมุ่งมั่นที่จะได้เห็นผู้หญิงทั่วทั้งเอเชียมีชีวิตที่ดีขึ้นรวมถึงความเชี่ยวชาญของเธอจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเดินหน้าพันธกิจอันแน่วแน่ของเราในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงในเอเชียแปซิฟิก Wendy เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้ที่มีความเฉียบแหลมทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในระดับโลก รวมถึงมีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในการนำอุตสาหกรรมความงามซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะแบรนด์ความงามระดับโลกที่มุ่งมั่นต่อการเสริมสร้างพลังให้กับสตรี เราตระหนักว่าการมีผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำระดับสูงเป็นพลังขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั่วโลกที่ต่อเนื่องของเรา”

Wang ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการขาย จะเป็นผู้กำหนดและขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของภูมิภาคเพื่อให้เกิดความสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของบริษัท รวมถึงจะเป็นผู้นำทีมระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนงานขาย การตลาด เทคโนโลยีธุรกิจ รวมถึงการดำเนินงานต่าง ๆ ของสำนักงานสาขาย่อนในเอเชียแปซิฟิก Wang เริ่มงานกับ Mary Kay ประเทศจีนเมื่อปี 2545 ในตำแหน่งที่ปรึกษาในแผนกกฎหมายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระหว่างดำรงตำแหน่งรองประธานและรองที่ปรึกษาทั่วไป ซึ่งเป็นตำแหน่งล่าสุดของเธอ Wang เป็นผู้ดูแลทีมบุคลากรด้านกฎหมายที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านกฎหมายทั้งหมดของ Mary Kay ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ เธอยังสวมบทผู้นำการพัฒนาและยกระดับโครงการต่อต้านการทุจริตทั่วโลกของ Mary Kay อย่างต่อเนื่อง และยังดำรงตำแหน่งหัวหน้างานบริหารความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ของบริษัทอีกด้วย

“ฉันตื่นเต้นอย่างมากที่ได้สานต่อการสนับสนุนสตรีในเอเชียแปซิฟิกรวมถึงครอบครัวของพวกเธอ” Wang กล่าว “การได้ทำงานให้กับบริษัทที่มุ่งมั่นยกระดับชีวิตของผู้หญิงเป็นเอกสิทธิ์อันยอดเยี่ยมสำหรับฉัน และฉันจะทุ่มเททุกความพยายามเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้ให้กับเหล่าที่ปรึกษาอิสระด้านความงาม พวกเรามุ่งเน้นอย่างมากกับการมอบโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่สุด ซึ่งต่อยอดขึ้นจากค่านิยมที่ Mary Kay ยึดถือเป็นรากฐานในวัฒนธรรมองค์กรและพันธกิจของเรา กว่าหลายสิบปีที่บริษัทของเราเข้าไปมีบทบาทในการก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ที่ยึดถือกันมาเพื่อช่วยให้สตรีบรรลุศักยภาพสูงสุดทั้งด้านธุรกิจและชีวิตส่วนตัว และฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำให้พันธกิจนี้เดินหน้าต่อไป”

การประกาศแต่งตั้ง Wang ครั้งนี้นับเป็นครั้งล่าสุดของการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของ Mary Kay Inc. ที่จะเสริมสร้างพลังให้กับสตรีผ่านการดำรงตำแหน่งระดับผู้นำในสำนักงานทั่วโลก Mary Kay เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิง และค่านิยมนี้สะท้อนให้เห็นผ่านข้อมูลความหลากหลายทางเพศของพนักงานที่ Mary Kay ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค (ข้อมูลเมื่อกันยายน 2563) ดังนี้

  • 61% ของพนักงาน Mary Kay ทั่วโลกเป็นเพศหญิง
  • 59% ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้อำนวยการขึ้นไปเป็นเพศหญิง
  • 51% ของรองประธานฝ่ายต่าง ๆ ในระดับโลกเป็นเพศหญิง
  • 50% ของทีมผู้บริหารระดับโลกของ Mary Kay เป็นเพศหญิง

เช่นเดียวกัน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำในทุกระดับส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เมื่อเดือนสิงหาคมของปี 2562 ที่ผ่านมา Katherine Weng ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ในประเทศจีน ซึ่งนั้นทำให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Mary Kay เป็นผู้หญิงทั้งหมดแบบ 100% โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศของพนักงาน Mary Kay ในเอเชียแปซิฟิกที่สำคัญ ๆ (ข้อมูลเมื่อกันยายน 2563) ดังนี้

  • 57% ของพนักงาน Mary Kay ในเอเชียแปซิฟิกเป็นเพศหญิง
  • 69% ของผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างานระดับภูมิภาค (ตั้งแต่ผู้อำนวยการขึ้นไป) เป็นเพศหญิง
  • 100% ของตำแหน่งผู้นำในตลาดเอเชียแปซิฟิกเป็นเพศหญิง

ในฐานะผู้สนับสนุนการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิงทั่วโลกและเพื่อเป็นการฉลองครบรอบปีที่ 57 บริษัทจึงได้ประกาศเปิดตัวแคมเปญ Mary Kay Pink Power ในเอเชียแปซิฟิก และด้วยตระหนักถึงความท้าทายจากการระบาดของโรค แคมเปญนี้จึงจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างพลังและความเป็นผู้นำของสตรีในระดับองค์กรทั้งภายในและภายนอกบริษัทผ่านที่ปรึกษาอิสระด้านความงามของ Mary Kay และครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้กำลังใจ ส่งต่อพลัง และพากันก้าวสู่ศักยภาพสูงสุดของตัวเอง ในเวลาไม่กี่เดือนนับจากนี้ แคมเปญนี้จะเริ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ก่อตั้งที่เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทอย่าง Mary Kay Ash และการนำเสนอเรื่องราวการเสริมพลังของผู้นำสตรีจากทุกภูมิหลังและทุกช่วงชีวิตผ่านแฮชแท็ก #MKPinkPower

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 57 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201026005152/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NTTVC เปิดตัวกองทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ร่วมกับ NTT

Logo

นายทุนและผู้ประกอบการ Vab Goel ได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อช่วยขยายธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างรวดเร็วจากแนวคิดไปสู่ระดับโลก

การลงทุนห้าโครงการแรกกำลังขับเคลื่อนอนาคตขององค์กรและสุขภาพดิจิทัล

พาโล อัลโต แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–26 ต.ค. 2563

NTTVC ประกาศกองทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพได้เติบโตสู่ระดับโลกอย่างรวดเร็วด้วยการใช้ประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วน  บริษัทร่วมทุนอิสระนี้ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการและนักลงทุน Vab Goel โดยร่วมมือกับเทคโนโลยีบริการระดับโลกของ NTT  บริษัทยังประกาศการลงทุนในห้าสตาร์ทอัพที่กำลังมอบนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจและผู้บริโภค: Celona, Eko, nference, Shoreline และ UDP Labs

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201026005262/en/

NTTVC Founding Partner Vab Goel and Partner Fay Hazaveh Costa (Photo: Business Wire)

ผู้ร่วมก่อตั้ง NTTVC Vab Goel และหุ้นส่วน Fay Hazaveh Costa (รูปภาพ: บิสิเนสไวร์)

NTTVC ลงทุนอย่างกว้างขวางในทุกขั้นตอนและทุกภาคส่วน โดยให้ความสำคัญกับอนาคตขององค์กร สุขภาพดิจิทัล และนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดย AI การเรียนรู้ของเครื่องและข้อมูล  ด้วยการรวมความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทีมการลงทุนกับเครืออิทธิพลของ NTT บริษัทจึงสามารถเข้าถึงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ลูกค้า ผู้ประกอบการ ผู้นำธุรกิจ ผู้วางระบบ และผู้ให้บริการที่สามารถช่วยให้สตาร์ทอัพตัดสินใจได้ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น

NTT เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลกที่มีมูลค่า 109,000 ล้านดอลลาร์ที่ให้บริการผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ 75 ล้านราย ธุรกิจ 3 ล้านราย และลูกค้าระดับองค์กร 120,000 ราย โดยมีสำนักงานใน 80 กว่าประเทศ  บริษัทมีประวัติอันยาวนานในการสนับสนุนสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จในระดับโลก  ด้วยการร่วมมือกับ Goel เพื่อจัดตั้งกองทุนร่วมที่ขับเคลื่อนด้วยผลตอบแทน NTT กระชับความมุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวในระบบนิเวศของผู้ประกอบการ  ในทางกลับกัน บริษัทในพอร์ตโฟลิโอของ NTTVC มีทางเลือกและโอกาสที่จะดำเนินการผ่าน NTT เพื่อช่วยขยายธุรกิจของตน

“ภารกิจของเราคือการใช้เทคโนโลยีที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายทางสังคมสำหรับผู้คน ลูกค้า และชุมชน” Jun Sawada ประธานและซีอีโอของ NTT Corporation กล่าว “เราเชื่อมาโดยตลอดว่าระบบนิเวศของสตาร์ทอัพมีความสำคัญต่อคำมั่นสัญญานี้  นั่นคือเหตุผลที่เราเลือกที่จะร่วมมือกับ NTTVC เพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยียุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงโลก”

โดยรวมแล้ว ทีมงานของ NTTVC ได้ก่อตั้ง ให้คำแนะนำ ช่วยขยายขนาด และลงทุนในสตาร์ทอัพกว่าร้อยราย  แรงผลักดันในการสนับสนุนผู้ประกอบการเกิดจากประสบการณ์ตรงในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้ร่วมทุน  ก่อนที่จะก่อตั้ง NTTVC, Goel ได้เป็นเป็นหุ้นส่วนของ Norwest Venture Partners เป็นเวลา 19 ปีและช่วยสร้างเทคโนโลยีพื้นฐานมากมายของอินเทอร์เน็ตในฐานะผู้ประกอบ การผู้ร่วมทุน และนักเทคโนโลยี  หุ้นส่วน Fay Hazaveh Costa ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Goel ที่ Norwest Venture Partners และช่วยเปิดตัวกลุ่มร่วมทุนของ Hewlett Packard Enterprise.  Mike Koenig หุ้นส่วนด้านการพัฒนาพอร์ตโฟลิโอเป็นผู้นำด้านการขายและการพัฒนาธุรกิจที่ช่ำชองซึ่งเป็นผู้บริหารระดับต้นของบริษัทสตาร์ทอัพสองแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจาก Goel.  Koenig ช่วยสนับสนุนบริษัทในพอร์ตโฟลิโอของ NTTVC ผ่านเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพของบริษัท

“เรายังคงอยู่ในช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม โดยจะสร้างโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับสตาร์ทอัพ” Vab Goel กล่าว “เรามีความกระตือรือร้นในการร่วมมือกับผู้ประกอบการในทุกขั้นตอนของการเดินทางเพื่อสร้างบริษัทที่มีผลกระทบต่อสังคม”

“NTTVC นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่ผู้ประกอบการ: รูปแบบการลงทุนที่เป็นอิสระและคล่องตัวควบคู่ไปกับการเข้าถึงเครือข่ายทั่วโลกของเราโดยเฉพาะ” Fay Hazaveh Costa กล่าว “การผสมผสานที่ทรงพลังนี้ทำให้สตาร์ทอัพมีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างแท้จริงในการขยายขนาดและบรรลุวิสัยทัศน์”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อ่านบล็อกโพสต์ของบริษัทและเยี่ยมชม nttvc.com

เกี่ยวกับ NTTVC

NTTVC เป็นบริษัทร่วมทุนอิสระที่ก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือกับ NTT  ด้วยการใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นความร่วมมือและเครือข่ายอุตสาหกรรมเชิงลึก NTTVC จะปลดล็อกความสัมพันธ์ที่สามารถช่วยให้สตาร์ทอัพก้าวไปสู่ระดับโลกได้  ด้วยกองทุนเปิดตัวมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ บริษัทได้ลงทุนอย่างกว้างขวางในการเริ่มต้นด้านเทคโนโลยีในทุกขั้นตอนและภาคส่วน โดยให้ความสำคัญกับอนาคตขององค์กร สุขภาพดิจิทัล และนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดย AI การเรียนรู้ของเครื่องและข้อมูล  NTTVC มีสำนักงานใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ nttvc.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201026005262/en/

ติดต่อ:

Marisa Lam
GMK Communications สำหรับ NTTVC marisa@gmkcommunications.com 
650.544.3350

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Brightcove ผู้นำระดับโลกและระดับอุตสาหกรรมด้านวิดีโอเปิดตัวรูปลักษณ์แบรนด์ใหม่ที่โดดเด่น

Logo

ผู้สร้างสรรค์ในวิดีโอที่เชื่อถือได้สำหรับองค์กรชั้นนำยกระดับแพลตฟอร์มของแบรนด์ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–22 ต.ค. 2563

Brightcove Inc. (NASDAQ: BCOV) ผู้นำระดับโลกด้านวิดีโอสำหรับธุรกิจ ประกาศในวันนี้ถึงการปรับภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดของแบรนด์ซึ่งรวมถึงการปรับตำแหน่งทางการตลาด (positioning) และการสื่อสาร (voice)  ซึ่งรวมถึงกราฟิกของแบรนด์ตัวใหม่ที่โดดเด่น การรีแบรนด์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่วิดีโอได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่จากทั้งผู้บริโภคและธุรกิจในทุกภาคส่วน สิ่งนี้ทำให้พันธกิจของบริษัทในการเป็นผู้นำเรื่องด้านแพลตฟอร์มวิดีโอทั่วโลก ในการโฮสต์วิดีโอ แชร์ สร้างรายได้และประสบการณ์ มีความชัดเจนมากขึ้น พร้อม ๆ ไปกับการทำให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายผ่านเทคโนโลยีชั้นนำ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201022005373/en/

Brightcove เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมวิดีโอมานานกว่า 15 ปีโดยเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมและสร้างสรรค์เทคโนโลยีและบริการที่ได้รับรางวัลซึ่งมีลูกค้าเป็นองค์กรสื่อและองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก ในช่วงเวลาที่ตลาดด้านวิดีโอได้มีการเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและเติบโตแบบทวีคูณ ภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ที่สดใสนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของ Brightcove ในการผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้ในด้านวิดีโอ โดยการให้ความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในการทำให้ลูกค้าสามารถบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา

“นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมของเรา และความต้องการวิดีโอจะยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้าใจว่าวิดีโอมีศักยภาพมากแค่ไหนในการส่งมอบเพื่อรวมพลังคน สร้างการมีส่วนร่วม และสนับสนุนการสื่อสาร” Jeff Ray ซีอีโอของ Brightcove กล่าว “ ลูกค้าของเราเป็นตัวแทนของบริษัท ที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกและเราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับพวกเขาเพื่อสร้างช่วงเวลาสำคัญ ๆ วิวัฒนาการของแบรนด์เราสะท้อนให้เห็นว่าเราปัจจุบันเราเป็นใคร อะไรคือความทะเยอทะยานสำหรับอนาคต และแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อบริษัทต่าง ๆ ที่มีวิดีโอเป็นศูนย์กลางของธุรกิจพวกเขา อีกด้วย"

ด้วยการมีสิทธิบัตรที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมกว่า 50 รายการ Brightcove หายใจเข้าออกเป็นวิดีโอ ซึ่งนี่เป็นข้อความหลักที่บริษัทเน้นย้ำอย่างชัดเจนผ่านวิวัฒนาการของแบรนด์นี้  ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโซลูชันสำหรับการแพร่ภาพหรือการเผยแพร่ การตลาด การสื่อสารขององค์กร กิจกรรมเสมือนจริงหรือการสตรีมสดก็ตาม ทีม Brightcove มีความภาคภูมิใจในการทำให้การสร้างสรรค์วิดีโอง่ายขึ้นสำหรับคู่ค้า และยังไม่พบว่าจะมีปัญหาด้านวิดีโอใด ๆ ที่เราไม่สามารถจัดการและหาโซลูชั่นระดับนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยได้

Brightcove นำเสนอโซลูชั่นวิดีโอที่สร้างความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกเกมให้กับลูกค้ากว่า 3,381 รายทั่วโลก รายชื่อนี้รวมถึงผู้นำในอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมสื่อใหญ่ ๆ เช่น SXSW และ AMC Networks ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่ม Chick-Fil-A และ Dunkin Brands หน่วยงานด้านความบันเทิงเช่น Academy of Motion Picture Arts and Sciences และ Tribeca Film Festival รวมไปถึง MasterClass ที่เป็นบริษัทที่สอนบทเรียนเสมือนจริง พร้อมด้วยพันธมิตรด้านกีฬาเช่น US Open ของ USGA และอื่น ๆ

เกี่ยวกับ Brightcove

เมื่อทำวิดีโออย่างถูกต้อง วิดีโอจะมีประสิทธิภาพและมีผลในใจยาวนาน ช่วยเปิดใจ  เปลี่ยนความคิด ทำให้ความคิดสร้างสรรค์เจริญงอกงาม ตั้งแต่ 2548 Brightcove ได้ช่วยให้ลูกค้าค้นพบและสัมผัสกับพลังอันน่าทึ่งของวิดีโอผ่านเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลซึ่งช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในกว่า 70 ประเทศทั่วโลกสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ด้วยวิธีที่โดดเด่นและสร้างสรรค์

Brightcove ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ในการสนับสนุนลูกค้าโดยไม่มีใครเปรียบได้ และใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ปัจจุบันนี้ วิดีโอเป็นสื่อที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นที่สุดในโลก เยี่ยมชม www.brightcove.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม Video That Means Business.™

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201022005373/en/

ติดต่อ:

Chris Royal

brightcove@id-pr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Srijan คว้ารางวัล Acquia Engage ประจำปี 2563 จาก EzContent

Logo

นิวเดลี, อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–22 ตุลาคม 2563

Srijan มีความยินดีเป็นอย่างมากที่ EzContent ระบบกระจายเนื้อหา Drupal ของตนได้รับเลือกให้ชนะรางวัลผู้พัฒนาเทคโนโลยีโอเพนซอร์สยักษ์ใหญ่ในหมวดหมู่ Builders จากเวที Acquia Engage 2020 รางวัล Acquia Engage ซึ่งได้จัดพิธีมอบในงานประชุม Acquia Engage ประจำปีสำหรับผู้นำธุรกิจ นักการตลาด และนักพัฒนา จะมอบให้กับประสบการณ์ดิจิทัลอันยอดเยี่ยมที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มประสบการณ์ดิจิทัลแบบเปิดของ Acquia

EzContent เป็นระบบกระจายเนื้อหา “อัจฉริยะ” สำหรับผู้เผยแพร่เนื้อหาและนักการตลาดของ Drupal โดย EzContent สามารถจัดการกับยูสเคสต่าง ๆ ขององค์กรตลอดทั่วทั้งโมเดลการจัดการเนื้อหาแบบครบวงจร (content-as-a-service) ทั้งแบบ coupled, headless และ decoupled และยังรวมความสามารถด้าน SEO ที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม การสร้างแบบจำลองเนื้อหาที่ยืดหยุ่น และความสามารถในการบูรณาการเทคโนโลยี AI และ ML ไว้ในข้อมูลเชิงลึกของเนื้อหา

“ความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของทีมและความปรารถนาที่จะตอบแทนให้กับชุมชน Drupal นำเรามาสู่การพัฒนา EzContent” Ashish Goyal ซีอีโอของ Srijan กล่าว “จากนี้ องค์กรต่าง ๆ จะสามารถส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดและเข้าถึงให้กับกลุ่มผู้ใช้ที่ตรงเป้าหมายและในเวลาที่เหมาะสมได้ทุกช่องทาง สิ่งนี้ยังเป็นเครื่องยืนยันให้กับลูกค้าของ Srijan ที่ได้ตัดสินใจเลือกระบบกระจายเนื้อหา EzContent ไปก่อนหน้านี้หลังผ่านการวิเคราะห์คุณลักษณะเชิงลึกและการตรวจสอบระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) อื่น ๆ ในวงกว้างอีกด้วย”

ผู้ที่ได้รับรางวัลผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการที่มีชื่อเสียง ซึ่งประเมินผลงานที่ส่งเข้ามาจากฟังก์ชันการทำงาน การควบรวม ประสิทธิภาพ และประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้

“พันธมิตรและลูกค้าของ Acquia ยังคงเดินหน้าสร้างความก้าวล้ำทางด้านประสบการณ์ลูกค้าอย่างไม่หยุด” Lynne Capozzi ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการตลาดของ Acquia กล่าว “ผู้ที่ได้รับรางวัลได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพขั้นสูงด้านนวัตกรรมในแพลตฟอร์มประสบการณ์ดิจิทัลแบบเปิดของ Acquia เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรและลูกค้าที่มีความสามารถอันน่าทึ่ง และพวกเรามีความยินดีที่ได้จัดงานมอบรางวัล Acquia Engage ให้กับผู้ชนะในปีนี้”

ไม่ว่าจะผ่านช่องทางการให้การสนับสนุนการจัดงาน การนำเสนอที่เชี่ยวชาญ การแบ่งปันโค้ด การให้คำแนะนำปรึกษากับคอมมิวนิตี หรือความเป็นเลิศทางเทคนิค Srijan จะยังคงสนับสนุน Drupal และคอมมิวนิตีต่อไปเพื่อให้การนำ Drupal ไปใช้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นสำหรับนักสร้างสรรค์เนื้อหา ผู้ดูแลระบบ บรรณาธิการ นักพัฒนาและลูกค้าของพวกเขาต่อ

เกี่ยวกับ Srijan

Srijan Technologies เป็นบริษัทด้านวิศวกรรมระดับโลกและบริษัท Drupal ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ที่มีวิศวกร Drupal มากกว่า 350 คน รวมถึงนักพัฒนาที่ได้การรับรองจาก Acquia กว่า 80 คน Srijan ที่เติบโตจากบริษัทสตาร์ทอัพสู่องค์กรระดับ Fortune 500 ได้ช่วยสร้างเส้นทางการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลสู่อนาคตที่ดีกว่า Srijan ได้พัฒนาเทคโนโลยีโอเพนซอร์สมากมายตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยนำความสามารถทางด้านวิศวกรรมขั้นสูงและหลักปฏิบัติที่มีความคล่องตัวมามอบให้กับบริษัทชื่อดังมากมายในหลากหลายอุตสาหกรรม

Srijan ยังได้รับการรับรองต่าง ๆ อย่าง Acquia Preferred Partner, AWS Advanced Consulting Partner และ Apigee Consulting Partner อีกด้วย Srijan ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศอินเดีย มีสำนักงานใน 9 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201021006163/en/

ติดต่อ:

Rajat Lal
rajat.lal@srijan.net
9818643521

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัว IC ไดรเวอร์มอเตอร์ H-bridge แบบคู่พร้อม PWM Control สำหรับอุปกรณ์พกพาและเครื่องใช้ภายในบ้าน

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–22 ต.ค. 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("โตชิบา") ได้เปิดตัวไดรเวอร์มอเตอร์ H-bridge รุ่น "TC78H660FNG" ซึ่งอยู่ในแพ็คเกจ TSSOP16 พร้อมการกำหนดพินที่กว้าง  อุปกรณ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Toshiba ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไดร์เวอร์สำหรับ DC แบบแปรงและสเต็ปปิ้งมอเตอร์สำหรับการใช้งานที่รวมถึงอุปกรณ์พกพาและเครื่องใช้ภายในบ้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201021006141/en/

Toshiba: an H-bridge motor driver TC78H660FNG (Graphic: Business Wire)

Toshiba: ไดรเวอร์มอเตอร์ H-bridge รุ่น TC78H660FNG (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

กระบวนการ DMOS รุ่นใหม่ของ Toshiba ช่วยให้ TC78H660FNG มีความต้านทาน ON ต่ำ 0.48Ω ที่พิกัดสูงสุด 18V/2.0A[1] และลดการสร้างความร้อนเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Toshiba

ไดรเวอร์ใหม่มีตัวควบคุมสำหรับการขับเคลื่อนวงจรภายในและสามารถขับเคลื่อนมอเตอร์ที่มีแหล่งจ่ายไฟเดียวตั้งแต่ 2.5V ถึง 16V  การใช้งาน ได้แก่ อุปกรณ์พกพาที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 3.7V, อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจาก USB 5V และอุปกรณ์ระบบ 12V สำหรับเครื่องใช้ภายในบ้าน  นอกจากนี้ยังรองรับอินเทอร์เฟซ 1.8V ต่ำ

คุณสมบัติ

  • ไดรฟ์พลังงานเดียว มีการควบคุม PWM ที่ง่ายดาย
  • ความต้านทาน ON resistance ต่ำช่วยลดการสร้างความร้อนเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของโตชิบา (Ron=0.48Ω (upper + lower: typ.) @VM=12V, Ta = 25°C)
  • การสิ้นเปลืองกระแสไฟต่ำ (กระแสสแตนด์บายต่ำพิเศษ: 0.1μAหรือน้อยกว่า @Ta=25°C)

การใช้งาน

อุปกรณ์พกพาที่ใช้แบตเตอรี่ รวมทั้งหุ่นยนต์และของเล่น เครื่องใช้ในบ้านรวมทั้งตู้เย็น สมาร์ทมิเตอร์ ฯลฯ

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TC78H660FNG

แรงดันไฟฟ้า (ช่วงการทำงาน)

2.5V ถึง 16V

แรงดันขาออก (ค่าสูงสุด)

18V @ เอาต์พุตเปิด

20V @ เอาต์พุตปิด

กระแสเอาต์พุต (ค่าสูงสุด)

2A

จำนวน ช่องสัญญาณ H-bridge

2ch

มอเตอร์ที่รองรับ

แปรงมอเตอร์ DC (สามารถควบคุมมอเตอร์คู่ได้) เต็ปปิ้งมอเตอร์แบบสองขั้ว

ความต้านทานเอาท์พุท (บน + ล่าง)

0.48Ω (typ.)@VM=12V, Ta=25℃

ฟังก์ชันความปลอดภัย

การตรวจจับกระแสเกิน การปิดเครื่องเพราะความร้อน การล็อกเอาท์แรงดันไฟฟ้า

ฟังก์ชันเอาท์พุทสำหรับการตรวจจับกระแสเกินและการปิดเครื่องเพราะความร้อน

คุณสมบัติ

การใช้กระแสไฟในโหมดสแตนด์บาย: 0.1μA หรือน้อยกว่า

ไดรฟ์พลังงานเดี่ยว

รองรับการควบคุม 1.8V I/F

การควบคุม PWM แบบตรง

หรือ

การควบคุมกระแสคงที่โดยไม่มีกระแสตัวต้านทานความรู้สึก

แพคเกจ

TSSOP16 (ขนาด: 5.0มม.×6.4มม.)

การตรวจสอบสต๊อกและการซื้อ

ซื้อทางออนไลน์

[1] กระแสของมอเตอร์ขับเคลื่อนจริงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งานและปัจจัยต่างๆ เช่นอุณหภูมิแวดล้อมและแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TC78H660FNG

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IC ไดรเวอร์มอเตอร์ของ Toshiba โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/motor-driver-ics.html

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TC78H660FNG.html

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:

System Devices Marketing Dept.I (ฝ่ายการตลาดอุปกรณ์)

Industry Marketing Group II (ฝ่ายการตลาดอุตสาหกรรม)

โทร : +81-3-3457-3249  https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ผสมผสานความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาแห่งประสบการณ์  นับตั้งแต่กลายเป็นบริษัทอิสระในเดือนกรกฎาคม 2560 บริษัท ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์ทั่วไปและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSI และ HDD

พนักงาน 24,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  บริษัทตั้งตารอที่จะสร้างยอดขายต่อปีได้ทะลุ 750 พันล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201021006141/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department (แผนกการตลาดดิจิทัล)
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mediacorp จากสิงคโปร์แต่งตั้ง Srijan Technologies เป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–21 ตุลาคม 2563

Srijan Technologies Pte Ltd บริษัทสาขาในสิงคโปร์ของ Srijan Technologies Private Limited ซึ่งเป็นบริษัท Drupal ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Mediacorp เครือข่ายสื่อแห่งชาติของสิงคโปร์ เพื่อยกระดับพอร์ทัลด้านประสบการณ์ของลูกค้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัยในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ดิจิทัล (เว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ) ของ Mediacorp ต่อไป

Mediacorp เป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์รายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์และเป็นเครือข่ายสื่อแห่งชาติ เจ้าของช่องโทรทัศน์ 6 ช่อง สถานีวิทยุ 11 สถานี และแพลตฟอร์มดิจิทัลมากมาย รวมถึงแอปพลิเคชันข่าวที่มีผู้ใช้มากที่สุดในสิงคโปร์อย่าง CNA และแพลตฟอร์มวิดีโอดิจิทัลอย่าง meWATCH

Srijan คว้าธุรกิจนี้ไปได้ผ่านการยื่นประมูลแข่งขัน และจะเข้าไปมีส่วนในภารกิจนี้เป็นระยะเวลา 36 เดือน ร่วมกับพันธมิตรด้านการออกแบบและเอเจนซีที่มีประสบการณ์ด้านแบรนด์อย่าง VMLY&R โดยขอบเขตของภารกิจครั้งนี้ประกอบด้วยงานออกแบบ UI-UX งานสถาปัตยกรรมโซลูชัน การพัฒนาแพลตฟอร์มหลัก การเปิดตัวเว็บไซต์ของแบรนด์และงานสนับสนุนต่าง ๆ

Srijan ใช้เทคนิค Component-and-Layouts ซึ่งเป็นที่ยอมรับของบริษัท ในการสร้างขั้นตอนการทำงานด้านบรรณาธิการที่มีความทันสมัยและส่วนประสบการณ์ผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในทุกช่องทางดิจิทัลของแบรนด์ โดยส่วนประสบการณ์ดิจิทัลจะครอบคลุมตลอดเส้นทางของผู้บริโภคตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และรวมถึงประสบการณ์ของลูกค้าในแบรนด์ดิจิทัลทั้งหมด

"Srijan ตื่นเต้นที่ได้รับเลือกจาก Mediacorp ให้เป็นพันธมิตรที่จะเข้ามาพลิกโฉมประสบการณ์ด้านบรรณาธิการของพวกเขาเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันในแต่ละแบรนด์ โดยใช้สถาปัตยกรรมดิจิทัลที่ทันสมัย มีความคล่องตัว ปลอดภัย และสามารถขยายขนาดรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้ การร่วมงานกับ VMLY&R ในฐานะพันธมิตรด้านการออกแบบ ช่วยให้เราสามารถนำเสนอแผนงานที่ชัดเจนในการสร้างแบรนด์ดิจิทัลให้กับ Mediacorp ที่จะส่งมอบประสบการณ์อันเข้มข้นให้กับผู้ชม และสร้างการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นกับผู้บริโภคในหลากหลายช่องทางด้วยเนื้อหาที่มีบริบทสมบูรณ์และทันท่วงที" – Ashish Goyal ซีอีโอแห่ง Srijan Technologies กล่าว

“การรวมความเชี่ยวชาญด้าน CX และกระบวนการคิดเชิงออกแบบของเราเข้ากับการพัฒนาเทคโนโลยีและศักยภาพในการส่งมอบของ Srijan ช่วยให้เราสามารถเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางใหม่ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับประสบการณ์ให้กับผู้อ่านและบรรณาธิการในทุกแพลตฟอร์มของ Mediacorp และเราหวังถึงโอกาสที่จะได้เสริมสร้างความเป็นพันธมิตรกับ Srijan ในภูมิภาคนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” – Preethi Sanjeevi กรรมการผู้จัดการ VMLY&R Singapore

Srijan Technologies เป็นบริษัท Drupal ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ผู้สร้างสรรค์โซลูชันด้านการสร้างตัวตนและเนื้อหาบนโลกดิจิทัลที่ออกนอกกรอบให้กับธุรกิจต่าง ๆ Srijan เป็นผู้สร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัลและโซลูชันที่ทันสมัยให้กับลูกค้า เช่น Johnson and Johnson, Globe Telecom, CrownWorldWide, PTT Global Chemical, Insurance Australia Group, Estee Lauder, TUI, OnCorps, Related.com, Diversey และอื่น ๆ อีกมากมาย

Srijan ยังได้รับการรับรองต่าง ๆ อย่าง Acquia Preferred Partner, AWS Advanced Consulting Partner และ Apigee Consulting Partner อีกด้วย Srijan ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศอินเดีย มีสำนักงานใน 9 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201020006346/en/

ติดต่อ:

Rajat Lal
rajat.lal@srijan.net
9818643521

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Jefferies ประกาศ เป็นพันธมิตรด้านแบรนด์กับบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ในประเทศไทย

Logo

นิวยอร์ก ฮ่องกง ลอนดอน และกรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–21 ต.ค. 2563

Jefferies ประกาศในวันนี้ว่าได้สร้างพันธมิตรร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด สำหรับธุรกิจตราสารทุนในประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว Jefferies จะเผยแพร่การวิจัยด้านตราสารทุนเกี่ยวกับบริษัทในประเทศไทยที่จัดทำโดยบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ให้กับกับฐานลูกค้าทั่วโลกของ Jefferies บนพื้นฐานการเป็นพันธมิตรด้านแบรนด์ร่วม นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จะให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศแก่ Jefferies และลูกค้าต่างประเทศด้วย

บริษัทหลักทรัพย์  ทิสโก้ จำกัด ก่อตั้งมายาวนานและเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย ทีมงานในประเทศให้บริการการวิจัย การขายและการซื้อขาย การเข้าถึงการซื้อขายขององค์กร หรือ corporate access trading และการบริการลูกค้าสถาบันต่าง ๆ ในท้องถิ่นและทั่วโลก  ทิสโก้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 ในฐานะวาณิชธนกิจแห่งแรกในประเทศไทยโดยได้เข้าเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี พ.ศ. 2518 และได้รับการยอมรับจากสาธารณชนในฐานะผู้นำด้านความคิด การวิจัยและให้คำปรึกษาด้านตราสารทุนและได้รับรางวัล Best Equity House และ Best Research House หลายรางวัลจากสถาบันในประเทศ และรางวัลด้านสิ่งพิมพ์ระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงรางวัล SET Awards จาก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analysts Association หรือ IAA) และ Asiamoney

บริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้เป็น บริษัท ย่อยของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SET:  ทิสโก้) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับรางวัล Best Company Performance จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2561-2562 ติดต่อกัน

การเป็นพันธมิตรกับทิสโก้ช่วยยกระดับแฟรนไชส์หุ้นที่เติบโตของ Jefferies ในเอเชียและเป็นอีกก้าวในการลงทุนระยะยาวของ Jefferies ในภูมิภาคนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Jefferies ได้ขยายธุรกิจอย่างมากในภูมิภาคนี้โดยเพิ่มพนักงานของ Jefferies อีกประมาณ 200 คนในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพื่อให้บริการฐานลูกค้าสถาบันทั่วโลกได้ดียิ่งขึ้น

Murray Wilson ประธาน บริษัท Jefferies Asia กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้ในความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและขยายธุรกิจการวิจัยการขายและการค้าที่มีมายาวนานของ Jefferies โดยเน้นที่การตอบสนองความต้องการของฐานลูกค้านักลงทุนทั่วโลกของเรา  เราตั้งตาคอยการได้ร่วมงานกับทีมงานที่ทิสโก้ในครั้งนี้”

ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นความร่วมมือกับ Jefferies เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสในการให้บริการคำปรึกษาและการดำเนินการที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าสถาบันทั่วโลกโดยอาศัยเครือข่ายทั่วโลกของ Jefferies และ  ทิสโก้ ที่มีชื่อเสียงในตลาดตราสารทุนไทยมายาวนาน เรามั่นใจว่า Jefferies และบล. ทิสโก้ จะสามารถสร้างความร่วมมือสำหรับความร่วมมือในอนาคตเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรในธุรกิจนี้

Jefferies มีข้อตกลงที่คล้ายกันกับบริษัทหลายแห่งทั่วเอเชียรวมถึง Mandiri Sekuritas ในอินโดนีเซีย KAF Securities ในมาเลเซีย JB Securities ในศรีลังกา Fubon Securities ในไต้หวันและ Regis Partners, Inc ในฟิลิปปินส์ โดยรวมแล้ว Jefferies และพันธมิตรครอบคลุมบริษัทประมาณ 1,500 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิค โดยให้บริการลูกค้าด้วยงานวิจัยด้านหุ้นที่มีประสิทธิภาพและมีความครอบคลุมการวิจัยตราสารทุนที่ในภูมิภาค Jefferies และมีพันธมิตรในกว่า 3,000 บริษัท ทั่วโลก

Jefferies Group LLC เป็น บริษัทวาณิชธนกิจอิสระระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยมุ่งเน้นที่การให้บริการลูกค้ามาเกือบ 60 ปี Jefferies เป็นผู้นำในการให้ข้อมูลเชิงลึก ความเชี่ยวชาญ และการดำเนินการแก่นักลงทุน บริษัท และรัฐบาล บริษัทของเราให้บริการด้านวาณิชธนกิจที่ปรึกษาการขายและการค้าการวิจัยและการบริหารความมั่งคั่งในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย Jefferies Group LLC เป็น บริษัทในเครือของ Jefferies Financial Group Inc. (NYSE: JEF) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201020006152/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Richard Khaleel, +1 212 284 2556, rkhaleel@jefferies.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ฝ่ายการธนาคารพาณิชย์ของ Goldman Sachs จับมือกับทีมบริหารโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลชั้นนำและลงทุนเงินถึง 500 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มศูนย์ประมวลผลข้อมูลระดับโลก

Logo

นิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–20 ต.ค. 2563

Goldman Sachs Merchant Banking Division (“GS MBD”) ประกาศในวันนี้ว่าได้ร่วมมือกับทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์นำโดย Scott Peterson ผู้มีประสบการณ์ยาวนานในการบริหารอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลเพื่อก่อตั้ง Global Compute Infrastructure LP (“Global Compute” หรือ “บริษัท ”) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลระดับโลกที่ได้ก่อตั้งขึ้นใหม่

ในช่วงแรก GS MBD ได้ลงทุนสูงถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่มาจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน West Street Infrastructure Partners III, LP (“WSIP III”) เพื่อให้สามารถลงทุนระยะสั้นได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา  Global Compute มุ่งมั่นที่จะเติบโตผ่านการรวมกันของการเข้าซื้อกิจการและการพัฒนาตามปกติเพื่อให้บริการลูกค้าในพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่มีแนวโน้มและมีศักยภาพต่อการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล  การใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และผลงานของทีมผู้บริหาร Global Compute จะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาและพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผล การจัดเก็บ การเชื่อมต่อ และการปรับใช้โคโลเคชั่นที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ต่างๆ ในโลก

ทีมผู้บริหาร Global Compute นำโดยซีอีโอ Scott Peterson อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนและผู้ร่วมก่อตั้ง Digital Realty (“DLR”) ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลมากกว่า 18 ปีและกว่า 30 ปีในเวทีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์  ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งที่ DLR ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปี 2561 คุณ Scott เป็นผู้นำกิจกรรมการลงทุนทั้งหมดและรับผิดชอบปริมาณการซื้อขายรวม 17 พันล้านดอลลาร์ทั้งในการควบรวมกิจการและการพัฒนาตามปกติ คุณ Scott จะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารจำนวนมากในวงการศูนย์ข้อมูล ได้แก่ Christopher Kenney ผู้ร่วมก่อตั้ง DLR ในฐานะซีโอโอ และอดีตผู้บริหารอาวุโส DLR ใน EMEA Stephen Taylor ในฐานะหัวหน้าฝ่ายยุโรป  คุณ Chris เป็นผู้รับผิดชอบส่วนใหญ่ในการขยาย DLR ในระดับสากลและ Stephen เป็นผู้นำโครงการริเริ่มเหล่านั้นมากมายทั่วทั้ง EMEA  ทีม Global Compute มีประสบการณ์เฉพาะทาง ความสัมพันธ์เชิงลึกกับลูกค้า และความสามารถในการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลที่ดีที่สุดในระดับโลก  เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 Global Compute ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ ATM S.A. (“ATM”) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลและธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารชั้นนำในโปแลนด์จากกลุ่มกองทุนที่บริหารจัดการโดย MCI Capital ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำที่เน้นหุ้นนอกตลาดใน CEE และ Mezzanine Management ซึ่งเป็นกองทุนชั้นลอยชั้นนำในภูมิภาค  โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงวอร์ซอ ศูนย์ข้อมูลระดับโลกของ ATM  เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร ฐานลูกค้า และชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในตลาดทำให้ Global Compute เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจในตลาดศูนย์ข้อมูลในยุโรปกลางและยุโรปที่เติบโตอย่างรวดเร็ว  Global Compute มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสำเร็จของ ATM และความเป็นผู้นำทางการตลาดด้วยการวางตำแหน่งบริษัทเพื่อให้บริการตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันในโปแลนด์และภูมิภาค CEE ที่กว้างขึ้น

“Goldman Sachs เป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเราในขณะที่เรามองหาโอกาสการลงทุนระดับโลกในด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล” Scott Peterson ซีอีโอของ Global Compute กล่าว “ประสบการณ์และเครือข่ายระดับโลกที่รวมกันของเรา พร้อมกับการเข้าถึงเงินทุนที่เติบโตอย่างกว้างขวางของ GS MBD จะช่วยให้แพลตฟอร์ม Global Compute ไม่เพียง แต่ตอบสนองความต้องการที่สำคัญของลูกค้าทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังสร้างและปลดล็อคคุณค่าให้กับคู่ค้าของเราด้วย  การลงทุนครั้งแรกของเราใน ATM S.A. เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับความร่วมมือนี้  เรามีความกระตือรือร้นอย่างมากเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรกับ Goldman Sachs ซึ่งทำให้เราสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์สำหรับลูกค้าทั่วโลก

“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับ Scott และทีม Global Compute” Leonard Seevers กรรมการผู้จัดการของ Goldman Sachs กล่าว “เราเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในพื้นที่ศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการด้านคอมพิวเตอร์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและเราเชื่อว่าทีม Global Compute ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทรัพยากรทั่วโลกของ Goldman Sachs อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในการนำเสนอโซลูชันระดับโลกเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว”

GS MBD ได้รับคำปรึกษาจาก Davis Polk & Wardwell LLP  ทีมผู้บริหาร Global Compute ได้รับคำปรึกษาจาก PJT Park Hill และ Mayer Brown ในขณะที่ Global Compute ได้รับคำปรึกษาจาก Torch Partners และ White & Case LLP ในส่วนที่เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ ATM SA

เกี่ยวกับ Goldman Sachs Merchant Banking Division

โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2412 The Goldman Sachs Group, Inc. เป็นบริษัทวาณิชธนกิจ หลักทรัพย์ และการจัดการการลงทุนชั้นนำระดับโลก  Goldman Sachs Merchant Banking Division (MBD) เป็นศูนย์กลางหลักสำหรับกิจกรรมการลงทุนหลักในระยะยาวของ บริษัท  MBD เป็นหนึ่งในนักลงทุนนอกตลาดชั้นนำของโลกที่มีการลงทุนนอกตลาด โครงสร้างพื้นฐาน หนี้ส่วนบุคคล การเติบโต และอสังหาริมทรัพย์

เกี่ยวกับ Global Compute

Global Compute เป็นหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล  นำโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมระหว่างประเทศรวมกันมากกว่า 50 ปี  บริษัทตั้งใจที่จะซื้อ พัฒนา และดำเนินการสินทรัพย์ศูนย์ข้อมูลทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา  เรามุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกและลูกค้าของพวกเขาด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และสร้างสรรค์สำหรับความสามารถในการประมวลผลและความต้องการในการเชื่อมต่อในตลาดที่มีการเติบโตสูงและเป็นที่ยอมรับ  Global Compute ได้รับการสนับสนุนโดย Goldman Sachs Merchant Banking Division

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201020005407/en/

ติดต่อ:

Goldman Sachs
Leslie Shribman
+1 212 902 5400

leslie.shribman@gs.com

Global Compute
Christopher J Kenney
+1 213 810-8732
ckenney@gc-infra.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Fiorano ขับเคลื่อนการแปลงดิจิตอลที่ Seylan Bank

Logo

ธนาคารบรรลุผสสำเร็จในด้านการทำการตลาดอย่างรวดเร็วและนำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ มาใช้เร็วขึ้น

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–20 ต.ค. 2563

Fiorano Software ผู้นำด้าน Enterprise Integration Middleware ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ API และโซลูชันการธนาคาร ประกาศในวันนี้ว่า Seylan Bank ประเทศศรีลังกา ประสบความสำเร็จในการใช้งาน Fiorano Hybrid Integration Platform  (HIP) ทำให้กลายเป็นธนาคารแห่งแรกในศรีลังกาที่เปิดเผย API ทั้งหมดในบนเว็บ อนึ่ง โซลูชันนี้ดำเนินการโดย Fiorano ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Transnational Group

ในปี 2562 Seylan ได้เริ่มต้นใช้งาน Digital Drive ที่มีความทะเยอทะยาน การย้ายไปยังแพลตฟอร์มที่ใช้ไมโครเซอร์วิสอย่างเช่น Fiorano นี้ ได้ช่วยในความพยายามผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ผ่านบริการบนเว็บบนแพลตฟอร์ม ESB ของเรา เพื่อบูรณาการและพัฒนาบริการใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น และมีความปลอดภัยและความคล่องตัวมากขึ้น เราได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมากในการพัฒนาความปลอดภัยด้านไอทีการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านคลังข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วทั้งธนาคาร การนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทันสมัยมาใช้และการเติบโตทางดิจิตอลของเราซึ่งเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับลูกค้าของเราอย่างมากในขณะที่การใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการของเราก็เพิ่มขึ้นด้วยHarsha Wanigatunga, CIO, Seylan Bank กล่าว

เรามีความยินดีที่ประสบความสำเร็จในการใช้งาน Fiorano middleware stack ที่ Seylan Bank” Sunimal Weerasooriya,  ผู้อำนวยในการในประเทศ

Fiorano HIP ผสานรวมระบบ Core Banking System, Finastra Equation และ Payment Switch (Euronet) ของธนาคารบน AS / 400, เซิร์ฟเวอร์ iSeries IBM เข้ากับแอปพลิเคชันอื่น ๆ บนระบบที่ใช้ Unix และ Microsoft ได้อย่างง่ายดาย

เกี่ยวกับ Seylan Bank:

Seylan Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่มีหัวใจ ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 ธนาคารได้รับรางวัล "ธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับการดำเนินงาน Back-end อย่างราบรื่น" และได้รางวัล "ธนาคารแห่งปีสำหรับการผนวกรวมทางการเงิน" ซึ่งเป็นธนาคารที่มีนวัตกรรมระดับแนวหน้าซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสินทรัพย์ 2.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอันดับที่สองสำหรับความโปร่งใสในการรายงานขององค์กรจาก Transparency Global นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองว่ามีความมั่นคงทางการเงินโดยมีการจัดอันดับระยะยาวของ Fitch ไว้ให้อยู่ในระดับ "A (lka)" ตอนนี้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี S&P Dow Jones SL 20

เกี่ยวกับ Fiorano:

Fiorano Software ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ใน Silicon Valley เป็นผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้สำหรับการผสานรวมแบบไฮบริดและเทคโนโลยี API ที่ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันสร้างความสามารถในการทำกำไร และสร้างแหล่งรายได้ใหม่ตั้งแต่ปี 2538 โดย Fiorano ดำเนินงานผ่านสำนักงานทั่วโลกและเครือข่ายพันธมิตรด้านเทคโนโลยีทั่วโลกและผู้ค้าปลีกที่มีมูลค่าเพิ่ม บริษัทระดับโลกรวมถึง Federal Bank, NASA, Bank of Kigali, Commercial Bank of Africa, Canadia Bank และ US Coast Guard ได้ใช้บริการ Fiorano เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยโซลูชันที่ให้ผลิตผลสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201019005829/en/

ติดต่อ:

Sumit Kuhite

+1 650 326 1136

mediarelations@fiorano.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Prevailion ได้รับเลือกให้เป็น “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม” ด้านการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยและข่าวกรองด้านภัยคุกคาม ในรายงานประจำปี 2563 โดยการ์ทเนอร์

Logo

โคลัมเบีย, แมรีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 ตุลาคม 2563

Prevailion ผู้นำระดับโลกด้านข่าวกรองไซเบอร์ ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้รับเลือกจากการ์ทเนอร์ (Gartner) ให้เป็นผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม (Cool Vendor) ในรายงานผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมด้านการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยและข่าวกรองด้านภัยคุกคามฉบับล่าสุด

ในรายงานของการ์ทเนอร์กล่าวว่า “ผู้จำหน่ายที่ผู้นำด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงควรพิจารณาเมื่อประเมินภัยคุกคามอุบัติใหม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีสำหรับปฏิบัติการด้านความปลอดภัยที่ใหม่ที่สุด” การ์ทเนอร์ยังเขียนไว้ว่า “ผู้นำด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงต่างกำลังมองหาโซลูชันที่ให้พวกเขามองเห็นสภาพแวดล้อมของระบบไอทีได้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ทัศนคติทางด้านความปลอดภัยของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงจัดลำดับความสำคัญช่องโหว่ในการควบคุมด้านความปลอดภัยและวิธีในการรับมือกับปัญหาที่จำแนกตามความเสี่ยงของธุรกิจ” นอกจากนี้ ในรายงานยังกล่าวว่า “องค์กรกำลังประสบปัญหาในการลดความเสี่ยงต่าง ๆ เป็นเพราะไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญความเสี่ยงเหล่านั้นได้ เนื่องจากขาดความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เป็นภัยคุกคาม”*

การขาดความสามารถในการมองเห็นภัยคุกคามในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่กลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับองค์กร และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ Prevailion ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ Prevailion ใช้เซ็นเซอร์ลับที่กระจายอยู่ทั่วโลกในการตรวจจับการโจมตีทางไซเบอร์หลายพันครั้งแบบเรียลไทม์ รวมถึงตรวจจับการสื่อสารของมัลแวร์หลายพันล้านครั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งสุดยอดข้อมูลข่าวกรองที่บริษัทสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันเครือข่ายของพวกเขา

“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกโดยการ์ทเนอร์ในครั้งนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นการยืนยันถึงเทคโนโลยีหลักที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มของเรา รวมถึงการทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมงาน” Karim Hijazi ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Prevailion กล่าว “ที่ Prevailion เราได้กำหนดทิศทางใหม่ให้กับการข่าวกรองด้านภัยคุกคามด้วยการช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถมองเห็นผู้คุกคามที่ตั้งเป้าโจมตีเครือข่ายของพวกเขาและเครือข่ายของพันธมิตรที่ใกล้ชิดมากที่สุดได้มากขึ้น การไล่ล่าในโครงสร้างพื้นฐานของผู้โจมตีทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอาชญากรรมและกิจกรรมที่เป็นการมุ่งร้ายของเเฮกเกอร์ระดับชาติและรายชื่อเป้าหมายได้ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งนี้ช่วยให้ทีมที่ดูแลด้านความปลอดภัยขององค์กรสามารถจัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการพุ่งเป้าไปที่การโจมตีที่ได้รับการยืนยันแล้วเท่านั้น แทนที่การพึ่งพาระบบแจ้งเตือนที่ส่งเสียงดังและมีแนวโน้มเป็นข้อผิดพลาดหรือดัชนีชี้วัดความเสี่ยงที่มีความคลุมเครือ”

ข้อมูลเชิงลึกพิเศษด้านกิจกรรมภัยคุกคามทางไซเบอร์

ปัจจุบัน Prevailion ติดตามองค์กรต่าง ๆ ที่ถูกคุกคามราว 28,000 แห่งทั่วโลก ทั้งบริษัทมหาชนและพันธมิตรที่เป็นซัพพลายเชน ไปจนถึงหน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและอื่น ๆ อีกมากมาย หลายครั้ง การคุกคามทางไซเบอร์ที่ Prevailion ตรวจพบหลุดรอดการตรวจจับหรือไม่ถูกรายงานโดยองค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ

จากข้อมูลข่าวกรองของ Prevailion พบว่า 22% ของบริษัทที่มีรายชื่อในการจัดอันดับ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกโดยฟอร์จูน (Fortune 500) พบกิจกรรมที่เป็นภัยคุกคามหรือมีการตรวจพบกิจกรรมที่เป็นภัยคุกคามโดยอาชญากรหรือแฮกเกอร์ที่มีหน่วยงานของรัฐอยู่เบื้องหลังเมื่อไม่นานมานี้ และจากกิจกรรมทางด้านไซเบอร์เมื่อไม่นานมานี้ ยังพบว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (79%) และเภสัชกรรม (64%) เป็นสองอุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าสูงสุด

ความสามารถด้านข่าวกรองทางไซเบอร์ที่มีความเฉพาะช่วยให้ Prevailion ตรวจจับการบุกรุกภายในเครือข่ายขององค์กรขณะที่เกิดขึ้นได้แบบทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในเครือข่ายหรือรอการยืนยันจากองค์กรที่ได้รับผลกระทบ การที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้ ทีมข่าวกรองของ Prevailion จะต้องพุ่งเป้าไปที่เครือข่ายของอาชญากรเพื่อยับยั้งการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นตัว “สั่งการและควบคุม” ของแฮกเกอร์ กับมัลแวร์ที่แฮกเกอร์ปล่อยออกมา ความสามารถในการดักฟังกิจกรรมของอาชญากรช่วยให้ Prevailion มีข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ที่สำคัญอย่างมากเกี่ยวกับปฏิบัติการเจาะระบบที่เกิดขึ้นทั่วโลก และยังช่วยให้สามารถคาดการณ์การโจมตีครั้งใหม่ได้ล่วงหน้าอีกด้วย

แพลตฟอร์ม APEX ของ Prevailion เป็นแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งรวบรวมข้อมูลหลายพันชุดเกี่ยวกับการบุกรุกที่ไม่ถูกรายงาน และยังให้ข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับการโจมตีครั้งใหม่ การบุกรุกที่มีการยกระดับ และความพยายามในการรับมือขององค์กรแบบ 24 ชั่วโมง

*“ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมด้านการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยและข่าวกรองด้านภัยคุกคาม” โดยการ์ทเนอร์ Mitchell Schneider, Ruggero Contu, John Watts, Craig Lawson, 13 ตุลาคม 2563.

ข้อสงวนสิทธิ์ของการ์ทเนอร์

การ์ทเนอร์ไม่ได้ให้การรับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ปรากฏชื่อในรายงานการวิจัยของบริษัท และไม่ได้แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกใช้เฉพาะผู้จำหน่ายที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดเท่านั้น รายงานการวิจัยของการ์ทเนอร์ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรการวิจัยของการ์ทเนอร์ และไม่ควรตีความเสมือนเป็นข้อเท็จจริง การ์ทเนอร์ปฏิเสธการรับรองทั้งหมดที่ปรากฏในรายงานการวิจัยฉบับนี้ ทั้งที่ระบุชัดเจนหรือบอกเป็นนัย รวมถึงไม่รับประกันว่าเนื้อหาที่ปรากฏจะตรงตามความต้องการของตลาดหรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ หรือไม่

เกี่ยวกับ PREVAILION

Prevailion เป็นบริษัทด้านข่าวกรองภัยคุกคามผู้พลิกโฉมวิธีในการลดความเสี่ยงและการตัดสินใจด้านธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ ข้อมูลที่มีรูปแบบเฉพาะและก้าวล้ำไปอีกขั้น รวมถึงแพลตฟอร์มที่มีการทำงานอย่างลื่นไหลช่วยให้ Prevailion จัดเตรียม “หลักฐานภัยคุกคาม” หรือ EOC ที่ยืนยันแล้ว ให้กับลูกค้าซึ่งครอบคลุมถึงระบบนิเวศของพันธมิตรได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Prevailion ได้ที่ www.prevailion.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201019005166/en/

ติดต่อ:

Michael Sias
inquiry@firm19.com
954-361-3963

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter