NTT Com เตรียมสร้างสายเคเบิลใต้น้ำแบบออฟติคอลที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์ที่สามารถรับรองขนาดข้อมูลได้สูงและ latency ต่ำ

Logo

จะสามารถใช้งานร่วมกับระบบ 400Gbps optical wavelength division multiplex และเป็นสายเคเบิลใต้น้ำที่เร็วที่สุดระหว่างญี่ปุ่นสหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–30 ตุลาคม 2017

NTT Communications Corporation (NTT Com) บริษัทโซลูชั่นด้านไอซีทีและธุรกิจสื่อสารมวลชนภายในกลุ่มบริษัท NTT Group (TOKYO: 9432) ประกาศในวันนี้ว่ากลุ่มบริษัทที่ประกอบด้วย SoftBank, Facebook, Amazon, PLDT และ PCCW Global ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อ 27 ตุลาคมเพื่อเข้าร่วมในการก่อสร้างและบำรุงรักษาสายเคเบิลใต้น้ำขนาดเล็กที่สามารถรับรองขนาดข้อมูลได้สูงและ latency ต่ำของ JUPITER ระหว่างเอเชียและสหรัฐอเมริกา

ระบบสายเคเบิลของ JUPITER จะมีความยาวทั้งสิ้น 14,000 กิโลเมตรโดยเชื่อมต่อกับญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์ และมี  initial design capacity ที่ 60Tbps  ระบบจะมีจุดเชื่อมโยง 2 แห่งในญี่ปุ่นคือสถานี Shima Landing Station ในจังหวัดมิเอะและสถานี Maruyama Landing Station ในจังหวัดชิบะรวมถึงสถานีเชื่อมโยงที่สหรัฐฯ ที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียและสถานี Daet Cable Landing ในฟิลิปปินส์

สาย Asia Submarine-Express (ASE), Asia Pacific Gateway (APG) และสาย Pacific Crossing-1 (PC-1) ของ NTT Com จะเชื่อมต่อกับ JUPITER เพื่อต่อเป็นโครงสร้างสามเส้นทางที่เชื่อมโยงกับเมืองใหญ่ ๆ ในเอเชีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาด้วยเครือข่ายระหว่างประเทศที่เสถียรและปลอดภัย (ภาพที่ 1)

ระบบ JUPITER จะมี ROADM (reconstructive optical-drop-multiplexer) รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้สวิตช์เลือกสัญญาณแบบ WSS (wavelength selective switch) สำหรับการกำหนดค่าแบนด์วิธแบบ gridless และยืดหยุ่น  JUPITER คาดว่าจะเปิดตัวในต้นปี 2020 โดยมี initial design capacity ที่ 60Tbps ซึ่งจะมีการขยายในภายหลังเพื่อตอบสนองความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและเสริมระบบสายเคเบิลที่มีอยู่

คุณสมบัติ

·         ระบบ 400Giga-bit-per-second (Gbps) WDM จะเป็นระบบที่เร็วที่สุดระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา

JUPITER จะเป็นระบบ 400Gbps wavelength-division multiplex (WDM) ที่ใช้เทคโนโลยีเส้นใยและการออกแบบล่าสุดโดยเป็นสายที่เร็วที่สุดระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา  JUPITER จะสามารถส่งวิดีโอความละเอียดสูงความยาวหกชั่วโมง (หนังประมาณ 3 เรื่อง) ภายในหนึ่งวินาที

·         เทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการเปลี่ยนเส้นทางระยะไกลที่รวดเร็วและยืดหยุ่น

JUPITER จะติดตั้งหน่วยย่อยที่ทำงานร่วมกับ WSS ROADM เพื่อการเปลี่ยนเส้นทางการส่งผ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น  เส้นทางการส่งสัญญาณจะสลับไปมาได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความต่อเนื่องทางธุรกิจรวมทั้งในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือปัญหาอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิดในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศญี่ปุ่น
 

·         สถานีเชื่อมโยงที่มีความปลอดภัยสูงในคาบสมุทรโบโซจังหวัดชิบะประเทศญี่ปุ่น

NTT Com จะสร้างสถานีเชื่อมโยงที่มีความปลอดภัยสูงใหม่ Minamiboso Landing Station ขึ้นที่ Minamiboso จังหวัดชิบะซึ่งจะเป็นส่วนขยายจาก Maruyama Landing Station ที่มีอยู่เดิมและเป็นจุดสิ้นสุดของ JUPITER ของ NTT Com  สถานีเชื่อมต่อสายอื่น ๆ ที่จบที่ระบบ JUPITER มีความปลอดภัยเป็นอย่างดีเช่นกัน  JUPITER จะใช้สถานี Shima Landing Station ใน Shima จังหวัดมิเอะ (ภาพที่ 2) NTT Com จะให้บริการเชื่อมต่อกับระบบเคเบิลอื่น ๆ ผ่านทางสถานีเชื่อมต่อ Minamiboso และ Shima เพื่อเพิ่มทางเลือกในการรับส่งข้อมูลเพื่อรองรับการขยายธุรกิจทั่วโลกโดยลูกค้า

นอกจากนี้ NTT Com จะเชื่อมต่อ Minamiboso Landing Station กับศูนย์ข้อมูลในกรุงโตเกียวและสถานีเชื่อมต่อ Shima Landing Station กับศูนย์ข้อมูลในโอซาก้าโดยใช้สาย low-loss optic fiber ในการเพิ่มการรับส่งข้อมูลภายในประเทศญี่ปุ่น  นอกจากนี้ NTT Com จะดำเนินการและบำรุงรักษาสถานีเชื่อมโยงใน Minamiboso, Shima และลอสแอนเจลิส โดยตรงเพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการระหว่างประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา

เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอินเทอร์เน็ต บริการคลาวด์ และการสื่อสารไร้สาย 5G NTT Com จะขยายกำลังการผลิตเคเบิลในภูมิภาคเอเชียและทรานส์แปซิฟิกอย่างต่อเนื่องรวมทั้งเชื่อมต่อระบบเคเบิลหลายสายเข้ากับศูนย์ข้อมูลของตนเองและเพิ่มความซ้ำซ้อนของสายเคเบิลเพื่อนำเสนอบริการเครือข่ายระดับโลกที่ความเสถียรสูง  ในเวลาเดียวกัน NTT Com จะสนับสนุนการริเริ่มการขยายธุรกิจของลูกค้าโดยรวมศูนย์ข้อมูลบริการ คลาวด์ และเครือข่ายเข้าด้วยกัน

ภาพรวมของ JUPITER Undersea Cable

Design capacity ทั้งหมด

:

60 Tbps (initial)

ความยาวสายเคเบิลรวม

:

14,000km

สถานี

:

ญี่ปุ่น (2 ที่), สหรัฐอเมริกาและฟิลิปปินส์

กลุ่ม

:

NTT Com, SoftBank, PLDT, PCCW Global, Facebook and Amazon

เปิดตัว

:

ต้นปี 2020

เกี่ยวกับ NTT Communications Corporation
 

NTT Communications ให้บริการด้านที่ปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัย และระบบคลาวด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสภาพแวดล้อม ICT ขององค์กร  การให้บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของบริษัท รวมถึงเครือข่าย tier-1 IP ระดับชั้นนำระดับโลก เครือข่าย Arcstar Universal One ™ VPN ซึ่งครอบคลุม 196 ประเทศ/ภูมิภาค และศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยกว่า 140 แห่งทั่วโลก  โซลูชั่นของ NTT Communication ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั่วโลกของกลุ่มบริษัท NTT ได้แก่ Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA

www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับใน businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20171029005086/en/

ติดต่อสำหรับสื่อมวลชน
NTT Communications
Yoshio Sato (Mr.), Takahiko Shibata (Mr.), Miho Kanzaki (Ms.), +81 (0)3 6700 7549
Service Infrastructure
gcable-nw@ntt.com