OPPLE ร่วมมือกับ 4 แบรนด์สินค้าตกแต่งบ้านเพื่อก่อตั้งพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำของจีนระดับโลก (GACTB) มุ่งสู่การพัฒนาช่องทางการขายในต่างประเทศ

Logo

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนสไวร์)–23 มิ.ย. 2563

วันที่ 18 มิถุนายน 2563 ได้มีการก่อตั้งพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำของจีนระดับโลก (Global Alliance of Chinese Top BrandsGACTB) เป็นครั้งแรกโดย OPPLE, Dongpeng, Micoe, Robam และHolike  ทั้งห้าเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมการตกแต่งบ้าน โดยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือผ่านระบบคลาวด์เนื่องจากการระบาดของโรค Covid-19  GACTB มุ่งมั่นที่จะให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับบริการตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพสูง

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200623005619/en/

Founding of the Global Alliance of Chinese Top Brands (Graphic: Business Wire)

การก่อตั้งพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำของจีนระดับโลก (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

เพื่อขยายช่องทางการขายผ่านพันธมิตรแบรนด์

เมื่อชีวิตและการทำงานกลับสู่ภาวะปกติหลังจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 เจ้าของบ้านในต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี  เพราะเหตุนี้ชื่อเสียงของแบรนด์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในกระบวนการตัดสินใจของลูกค้า  GACTB จะรักษาคุณค่าของการสร้างแบรนด์ สังคม ลูกค้าและสมาชิก เพิ่มช่องทางการขายในต่างประเทศโดยการแบ่งปันทรัพยากรลูกค้า และเพิ่มความร่วมมือในการพัฒนาตลาดใหม่ การประมูลโครง การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการจัดจำหน่าย และส่งเสริมแบรนด์บนพื้นฐานประโยชน์ส่วนรวม

เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในตลาดโลกผ่านการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

เนื่องจากสมาชิก GACTB แต่ละรายมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่โต มีชื่อเสียงที่โด่งดัง และมีความพรีเมียมของแบรนด์ในภาคธุรกิจของตนนั้น GACTB จะส่งเสริมอิทธิพลของแต่ละแบรนด์ต่อไป  นอกจากนี้สมาชิกแต่ละรายมีความสามารถในการวิจัยและพัฒนาการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

“จีนเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมไฟ เรามุ่งที่จะร่วมมือกับสมาชิก GACTB และเปลี่ยนประสิทธิภาพการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนให้มีอิทธิพลในระดับโลก โดยมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วโลกในราคาที่ต่ำลง” Jin Xin ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ OPPLE Lighting กล่าว

เกี่ยวกับ OPPLE

OPPLE ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 โดยมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนา การผลิต การจัดจำหน่าย และบริการหลังการขายของแสงไฟ การติดตั้ง และการควบคุมแสงสว่าง โดยดำเนินธุรกิจในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาคในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้  OPPLE ขยายสายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องไปยังสวิตช์ศิลปะ การตกแต่งบ้านแบบรวม ห้องครัว และเครื่องใช้ในห้องน้ำและอุปกรณ์เสริม ด้วยเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการระบบแสงและอุปกรณ์ในบ้านแบบครบวงจรชั้นนำในอุตสาหกรรม  OPPLE มีร้านค้ากว่า 100,000 แห่งที่ขายสินค้าหลากหลายประเภท  OPPLE เป็นบริษัทจดทะเบียนในปี 2559

อ่านที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200623005619/en/

ติดต่อ:

OPPLE Lighting
Jenny Qian, +86 21 38550000
Globalservice@opple.com


Hilton CleanStay มาตรฐานการบริการทางด้านความสะอาดแบบใหม่เพื่อการท่องเที่ยวทั่วโลก

Logo

มาตรฐานการบริการใหม่จากการพัฒนาร่วมกันกับ RB ผู้ผลิต Lysol และ Dettol พร้อมกันทั่วโลก 15 มิถุนายนนี้

ประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–12 มิถุนายน 2563

Hilton แนะนำมาตรฐานการบริการใหม่ทางด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อ ภายใต้ชื่อ Hilton CleanStay ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Hilton, RB ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ Lysol และ Dettol และ Mayo Clinic ในการพัฒนามาตรฐานการบริการและแนวทางการปฏิบัติ เพื่อการส่งมอบความมั่นใจ และประสบการณ์ในการเข้าพักที่สะอาดและปลอดภัยให้แก่แขกผู้เข้าพักในโรงแรมฮิลตันทั่วโลก โดยจะเริ่มต้นมาตรฐานการบริการแบบใหม่นี้ภายในสัปดาห์หน้า

img

Hilton CleanStay มาตรฐานการบริการทางด้านความสะอาดแบบใหม่เพื่อการท่องเที่ยวทั่วโลก)

การร่วมมือกันระหว่าง Hilton และ RB ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานการบริการเดียวกัน รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจาก RB ในโรงแรมในเครือฮิลตันทั่วโลก

“กว่า 100 ปีที่ผ่านมา ความปลอดภัยของแขกและพนักงานเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอมา ในธุรกิจการโรงแรมที่ความคาดหวังของแขกได้เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันจากไวรัสโคโรนานี้ มาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay จึงได้ถูกพัฒนาขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความอุ่นใจและความมั่นใจให้กับแขกตลอดการท่องเที่ยว รวมทั้งการดูแลพนักงานของเราด้วยเช่นกัน” คริส นาสเซตตา ประธานและประธานกรรมการบริหารฮิลตัน กล่าว

“แม้ว่าการต้อนรับของเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาเพียงสั้น ๆ นี้ แต่เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับทุกท่านอีกครั้งที่โรงแรมฮิลตันทั่วโลก พร้อมทั้งส่งมอบประสบการณ์อันแสนประทับใจ และเป็นไปตามความคาดหวังของแขกทุกท่าน”

แขกผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของการบริการภายในโรงแรมฮิลตันทั้งหมด 18 แบรนด์ทั่วโลก ที่จะต้อนรับทุกท่านด้วยมาตรฐานการบริการแบบใหม่ Hilton CleanStay ภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้

มาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay เพื่อดูแลแขกทุกท่านตั้งแต่เช็คอินถึงเช็คเอาท์

  • ออนไลน์: เพื่อการวางแผนก่อนการเดินทาง รายละเอียดเกี่ยวกับ Hilton CleanStay จะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ Hilton.com/cleanstay และบนหน้าเว็บไซต์ของแต่ละโรงแรม เพื่อให้แขกทุกท่านได้รับทราบถึงข้อมูลของมาตรฐานการบริการดังกล่าวในส่วนต่าง ๆ ตลอดการเข้าพัก

  • ล็อบบี้: แอปพลิเคชัน Hilton Honors เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับแขกที่มีความประสงค์ในการเลี่ยงการสัมผัสในขั้นตอนการเช็คอิน โดยให้บริการการเช็คอินแบบดิจิทัล บริการเลือกห้องพัก ดิจิทัลคีย์ เพื่อใช้แทนคีย์การ์ดในการเข้า-ออกห้องพัก และเช็คเอาท์ได้บนโทรศัพท์มือถือ ทางเลือกในการเช็คอินเลี่ยงการสัมผัสนี้ สามารถใช้บริการได้กว่า 4,700 โรงแรมในเครือฮิลตันทั่วโลก ในกรณีที่แขกทำการสำรองห้องพักของโรงแรมผ่านทางแอปพลิเคชัน Hilton Honors หรือบนเว็บไซต์ Hilton.com หากท่านใดมีความประสงค์เช็คอินด้วยการให้บริการจากพนักงาน จะมีมาตรการการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อการเช็คอินและเช็คเอาท์อย่างปลอดภัย

  • ห้องพัก: Hilton CleanStay Room Seal หรือ แผ่นปิดหน้าห้องพักพร้อมสัญลักษณ์ Hilton CleanStay จะถูกปิดผนึกไว้ที่หน้าประตูห้องพักแขกทุกห้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าห้องพักได้ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ห้องพักแขกจะได้รับการฆ่าเชื้อ โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น สวิตช์ไฟ มือจับประตู รีโมตโทรทัศน์ แผงควบคุมอุณหภูมิ และอื่น

  • การบริการทำความสะอาดห้องพัก: ห้องพักจะได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างละเอียดระหว่างเข้าพัก โดยการบริการทำความสะอาดห้องพักจะขึ้นอยู่กับความประสงค์ของแขกแต่ละท่าน ในกรณีที่แขกบางท่านอาจไม่ต้องการให้พนักงานเข้ามาภายในห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก เช่น ผ้าปูที่นอน และเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ จะให้บริการเมื่อแขกมีความประสงค์ และส่งมอบให้แก่แขกในบรรจุภัณฑ์เพื่อปกป้องสิ่งของเหล่านั้น โดยวางไว้ที่หน้าประตูห้องพัก
  • พื้นที่สาธารณะ: พื้นที่สาธารณะจะได้รับการดูแลและเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด สำหรับห้องออกกำลังกายได้มีการจัดตารางเวลาทำความสะอาดบ่อยครั้ง รวมถึงการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเน้นระยะห่างระหว่างบุคคล และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการในแต่ละครั้งด้วย เช่นเดียวกันกับสระว่ายน้ำและบริเวณโดยรอบ ที่มีการทำความสะอาดบ่อยครั้งในระหว่างวัน และมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดวางเจลแอลกอฮอล์ และแผ่นเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อไว้ให้บริการที่บริเวณทางเข้า และจุดต่าง ๆ ที่มีการสัญจรไปมาบ่อยอีกด้วย
  • อาหารและเครื่องดื่ม: ภายในห้องอาหารของโรงแรมจะมีการจัดวางโต๊ะและเก้าอี้ให้มีระยะห่างระหว่างบุคคล เลือกใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารที่สามารถย่อยสลายได้หรือใช้ครั้งเดียว และให้บริการเมื่อแขกมีความประสงค์ นำเสนอตัวเลือกในการให้บริการอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็น การนำกลับไปรับประทานที่อื่น การคลุมอุปกรณ์รับประทานอาหาร การให้บริการอาหารแบบตามสั่ง หรือการให้บริการอาหารที่โต๊ะโดยพนักงาน สำหรับการสั่งอาหารมารับประทานที่ห้องพัก จะเน้นการลดการสัมผัสระหว่างบุคคลเป็นสำคัญ โดยอาหารและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียว จะถูกวางไว้ที่ด้านหน้าประตูห้องพัก
  • การจัดประชุมและการจัดอีเว้นท์: โปรแกรม Hilton EventReady with CleanStay เป็นโปรแกรมที่จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำมาตรฐานใหม่ในการให้บริการการจัดประชุมและการจัดอีเว้นท์ภายในโรงแรมฮิลตัน โดยมุ่งเน้นถึงความสะอาด ความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์ การให้บริการเทคโนโลยีที่ทันสมัย และแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืน พนักงานของเรามีความพร้อมในการดูแลอย่างเต็มความสามารถและทันท่วงทีในทุกขั้นตอนของการประชุมตั้งแต่การวางแผนตลอดจนการดำเนินการโดยคำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเป็นหลัก

นับตั้งแต่การประกาศความร่วมมือระหว่าง Hilton และ RB ในการพัฒนา Hilton CleanStay เพื่อเป็นมาตรฐานการบริการใหม่ทั่วโลก ในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา ได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์จาก Lysol และ Dettol และดำเนินการตามมาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay ในขณะเดียวกัน Lysol และ Dettol จะถูกนำไปใช้ในโรงแรมฮิลตันในประเทศต่าง ๆ รวมถึง Sagrotan ในประเทศเยอรมนี และ Napisan ในประเทศอิตาลีอีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์ของ RB มีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต โดยมีการอ้างอิงจากการศึกษาโดย American Journal of Infection Control ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ Dettol และ Lysol มีความสามารถในการยับยั้งเชื้อโวรัสโควิด-19 ได้

“การปกป้องผู้คนจากการเจ็บป่วยเป็นหัวใจสำคัญของ RB และแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกของเรา” ราฮุล คาเดียน รองประธานบริหารด้านสุขอนามัยและครัวเรือนประจำอเมริกาเหนือ กล่าว “แบรนด์ของเราเกิดขึ้นจากความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์ และความมุ่งมั่นในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อโรค การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ส่งมอบมาตรฐานสูงสุดทางด้านสุขอนามัย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มั่นใจและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่โรงแรมฮิลตันด้วย”

ตลอดการพัฒนามาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay นี้ Mayo Clinic ได้ให้การสนับสนุนและให้คำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อการพัฒนาการฝึกอบรม ถึงแนวทางการปฏิบัติในการทำความสะอาด และการประกันคุณภาพ นอกจากนี้ Mayo Clinic ยังได้ให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภายในโรงแรมฮิลตันอีกด้วย

“ความปลอดภัยส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด เมื่อธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง” สเตซี่ ริซซา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ Mayo Clinic กล่าว “เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำความเชี่ยวชาญและความรู้มารับมือกับโรคโควิด-19 ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Hilton ในการให้คำแนะนำหลักสูตรการฝึกอบรมด้วย”

มาตรฐานการบริการ Hilton CleanStay ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้การดูแลแขกทุกท่านตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาภายในโรงแรม และตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการ เพื่อให้มั่นใจถึงสุขอนามัยที่ดีของแขกและพนักงาน โดยยังคงให้การต้อนรับและการบริการด้วยมิตรไมตรีจิตแบบที่ฮิลตันได้ปฏิบัติตลอดมา

การฝึกอบรมเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของมาตรฐานการบริการแบบใหม่ทางด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าพนักงานของเราได้รับทราบถึงขั้นตอนของการให้บริการ รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานและผู้อื่น พนักงานของเราพร้อมให้การต้อนรับ ทักทาย และให้บริการอย่างมีมิตรไมตรีจิต ในขณะที่พวกเขาใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และให้ความสำคัญในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลด้วย

###

เกี่ยวกับฮิลตัน
ฮิลตัน (NYSE: HLT) บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจโรงแรมแห่งหนึ่งของโลก ที่มีแบรนด์โรงแรมระดับโลกภายใต้การบริหารของบริษัทถึง 18 แบรนด์ มากกว่า 6,100 แห่ง และมีห้องพักเกือบ 977,000 ห้อง ใน 118 ประเทศและเขตการปกครองอื่น ๆ ฮิลตัน ทุ่มเทอย่างยิ่งเพื่อให้บรรลุพันธกิจในการเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจการบริการที่ดีที่สุดในโลก ฮิลตัน ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของโลกปี 2561 และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมระดับโลกจากกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ปี 2561 และได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 3 พันล้านคนตลอดระยะเวลา 100 ปีของการเปิดให้บริการ ตลอดจนการบริหารโปรแกรมสมาชิกฮิลตัน ออนเนอร์ส ซึ่งมีสมาชิกกว่า 106 ล้านคนสำรองห้องพักผ่านช่องทางของฮิลตันโดยตรง และได้รับสิทธิประโยชน์โดยทันที รวมไปถึงบริการเช็คอินแบบดิจิทัลและบริการเลือกห้องพัก ดิจิทัลคีย์ และคอนเนครูม ติดตามข้อมูลของฮิลตันได้ที่ newsroom.hilton.com หรือติดตามผ่าน Facebook, TwitterLinkedInInstagram และ YouTube

เกี่ยวกับ RB

RB* ขับเคลื่อนด้วยวัตถุประสงค์ในการปกป้องรักษาเพื่อสรรสร้างโลกที่สะอาดและมีสุขภาพดีอย่างไม่หยุดยั้ง เราต่อสู้เพื่อการเข้าถึงสุขอนามัยที่มีคุณภาพอย่างสูงสุด ทั้งในเรื่องของสุขภาพ และการดูแล ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิทธิพิเศษ แต่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม RB มีความภูมิใจในแบรนด์ครัวเรือนที่เชื่อถือได้และได้รับความไว้วางใจกว่า 190 ประเทศ โดยแบรนด์ครัวเรือนเหล่านี้ รวมไปถึง Enfamil, Nutramigen, Nurofen, Strepsils, Gaviscon, Mucinex, Durex, Scholl, Clearasil, Lysol, Dettol, Veet, Harpic, Cillit Bang, Mortein, Finish,  Calgon, Woolite, Air Wick และอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ของเราถูกจัดซื้อและจำหน่ายโดยผู้บริโภคทั่วโลก กว่า 20 ล้านชิ้นต่อวัน

RB คำนึงถึงผู้บริโภคและบุคคลทั่วไปก่อนเป็นหลักในการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้านที่เราสรรสร้าง โดยร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นตัวกำหนดและชี้นำเราเสมอ ต่อแนวทางการทำงานของเพื่อนพนักงานกว่า 40,000 คน ที่หลากหลายและมีพรสวรรค์ทั่วทุกมุมโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ http://www.rb.com

*RB คือชื่อการค้าของกลุ่ม บริษัท Reckitt Benckiser

เกี่ยวกับ Mayo Clinic

Mayo Clinic เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มุ่งเน้นเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมในเวชปฏิบัติ การศึกษา และการวิจัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการตอบปัญหาและชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจต่อผู้ต้องการเข้ารับการรักษา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข่าวสาร สามารถติดตามได้ที่ Visit the Mayo Clinic News Network  และ An Inside Look at Mayo Clinic

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52234394/en

PVH Corp. ประกาศการเปลี่ยนแปลงด้านผู้นำ ณ Tommy Hilfiger และ PVH Europe

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–2 มิ.ย. 2563

PVH Corp. (NYSE:PVH) เจ้าของพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งรวมถึง TOMMY HILFIGER และ CALVIN KLEIN ประกาศในวันนี้ว่า Daniel Grieder จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tommy Hilfiger Global & PVH Europe หลังจากการทำงาน 23 ปีในบทบาทการจัดการต่าง ๆ มากมายภายในองค์กร โดยเขาจะออกจากบริษัทเพื่อไปทำสิ่งอื่น ๆ ที่เขาสนใจ ทั้งนี้ Martijn Hagman จะมาดำรงตำแหน่งแทน Grieder และจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe ซึ่งมีผลในวันที่ 2 มิถุนายน 2563

ปัจจุบัน Hagman ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe และหัวหน้าฝ่ายการเงิน Tommy Hilfiger Global ดูแลการดำเนินงานการเงิน การเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นดิจิทัล เทคโนโลยี การพัฒนาธุรกิจและโครงการความยั่งยืนระดับโลกของ Tommy Hilfiger เขาทำงานเป็นเวลา 12 ปีในทีมผู้นำของ Tommy Hilfiger และเป็นบุคคลสำคัญในการขยายตัวทั่วโลกที่น่าประทับใจของ Tommy Hilfiger ตลอดจนถึงกลยุทธ์ที่นำไปสู่การเติบโตที่มั่นคงของ PVH ยุโรป ทุก ๆ ปี ตลอดมานี้

“Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe เริ่มต้นปีนี้บนเส้นทางที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่พวกเขาเป็นมาตลอดโดยมีแนวโน้มการขายที่แข็งแกร่งและมีการพัฒนาการรับรู้ของแบรนด์และการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค” Manny Chirico ประธานและซีอีโอ PVH Corp. กล่าว "Daniel เป็นบุคคลที่กระตุ้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของบริษัทเราและขยายขอบเขตการเข้าถึง TOMMY HILFIGER ไปทั่วโลก ช่วยผลักดันมายด์เซ็ตแบบที่ให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นการทำงานในรูปแบบดิจิทัลที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่งมาก”

“มันเป็น 23 ปีที่พิเศษมาก” Grieder กล่าว “ ขณะที่เราอยู่ท่ามกลางจุดหัวเลี้ยวหัวต่อในอุตสาหกรรมของเรา เราพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ผมเชื่อว่าจะขับเคลื่อนเราไปสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้รู้ว่าผมสามารถส่งต่อเก้าอี้ของผมให้แก่ Martijn เพราะเขาเป็นเพื่อนแท้ที่สนิทไว้ใจได้ และเป็นเพื่อนร่วมงานที่เชื่อถือได้มาตลอด 12 ปีที่ผ่านมาของการเดินทางครั้งนี้ ไม่เคยมีเวลาใดที่เหมาะสำหรับการออกจากองค์กรที่คุณรัก คุณมีทางเลือกสองอย่างคือไม่ออกช้าไปก็ออกเร็วเกินไป และผมรู้ว่าผมต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ยังคงมองโลกในแง่ดี ยังมีเรี่ยวแรงและแรงผลักดันที่ผมยึดถือมาตลอดในอาชีพของผม”

ภายใต้ความเป็นผู้นำของ Grieder บริษัท Tommy Hilfiger ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในสินค้าประเภทเดียวกัน มีความเป็นผู้นำในด้านความผูกพันกับผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบดิจิทัลและความรับผิดชอบต่อองค์กร ตั้งแต่ Grieder กลายเป็น CEO ของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe ในปี 2557 ธุรกิจ Tommy Hilfiger เติบโตขึ้นจาก 6 พันล้านดอลลาร์สู่ 9 พันล้านดอลลาร์ในยอดค้าปลีกในปี 2562 และธุรกิจ Calvin Klein ในทวีปยุโรปเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทั้งในส่วนของรายได้และกำไร

Stefan Larsson ประธาน PVH กล่าวว่า“ Daniel และ Martijn ร่วมกันปลูกฝังวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการไปสู่อนาคต การทำให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและการสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลิตภัณฑ์ เราขอขอบคุณสำหรับความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ Daniel ผมมีความมั่นใจอย่างมากใน Martijn ในฐานะผู้นำที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตัวขับเคลื่อน มูลค่าพื้นฐานของธุรกิจ ความคิดที่ว่าผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของเขา และความเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัลจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในยุคต่อไปของการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลกำไรให้กับ Tommy Hilfiger และภูมิภาคยุโรป”

Hagman กล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ PVH Europe ควบคู่ไปกับทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยแรงผลักดัน ผมยังต้องขอขอบคุณ Daniel สำหรับการสนับสนุนที่ไม่เสื่อมคลายและโอกาสในการพัฒนาและความเป็นผู้นำที่เขามอบให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามีความมั่นใจในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งเน้นของเราในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่การฟื้นตัวและการกลับคืนตัวของธุรกิจทั่วโลกของเราหลังจากที่มีการระบาดของ COVID-19 "

Grieder จะช่วยส่งต่อความรับผิดชอบของ  Hagman ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้านี้ เพื่อทำให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่นและประสบความสำเร็จ

ทั้ง Grieder และ Hagman ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ก่อตั้งแบรนด์และหัวหน้าดีไซเนอร์ คุณ Tommy Hilfiger มาเป็นเวลาหลายปี

“ความเชื่อและความตื่นเต้นของผมสำหรับอนาคตของแบรนด์ของเรานั้นไม่เคยแข็งแกร่งไปกว่านี้” Tommy Hilfiger กล่าว “ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Daniel สู่องค์กรของเรานั้น คือการเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับผู้บริโภคของเรามากขึ้น และสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรที่อุทิศให้กับการอยู่บนความทันสมัยของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และวัฒนธรรม ตัว Martijn เองก็เดินทางอยู่ในเส้นทางนี้แล้ว และเราจะร่วมกันเขียนอนาคตของแบรนด์ของเรา ควบคู่ไปกับเหล่าพันธมิตรและผู้บริโภคทั่วโลก”

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH ได้สร้างมาตรฐานของสไตล์ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้ามาโดยตลอด ผลงานที่โดดเด่นของเรารวมถึงTOMMY HILFIGER, CALVIN KLEIN, Van Heusen, IZOD, ARROW, Speedo*, Warner’s, Olga และ Geoffrey Beene, ตลอดไปจนถึงแบรนด์ชุดชั้นใน True & Co. ที่มีความเป็นดิจิตอลสูง เราทำการตลาดสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศและเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ของตนเอง PVH มีพนักงานมากกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศและมีรายรับต่อปีเกือบ 9,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ระดับการขายของเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องของบริษัท ทั้งกับลูกค้าขายส่งและในร้านค้าปลีกระดับการขายใบอนุญาตของ บริษัท ในการค้าส่งและค้าปลีกและขอบเขตของส่วนลดและราคาโปรโมชั่น ซึ่งบริษัทและผู้รับใบอนุญาตและพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ จะต้องมีส่วนร่วม ซึ่งทั้งหมดนี้อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน การลดลงของการเดินทาง แนวโน้มแฟชั่น การรวมกันของบริษัทและการล้มละลายในอุตสาหกรรมค้าปลีก การเปลี่ยนตำแหน่งแบรนด์โดยผู้อนุญาตของบริษัท และปัจจัยอื่น ๆ (iv) ความสามารถของบริษัทในการจัดการการเติบโตและสินค้าคงคลัง รวมไปถึงความสามารถของบริษัทในการหาประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการ เช่น การเข้าซื้อกิจการที่รอดำเนินการซึ่งระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ (v) ข้อจำกัดด้านโควต้า การกำหนดมาตรการควบคุม ป้องกัน และการกำหนดหน้าที่หรือภาษีศุลกากรของสินค้าจากประเทศที่บริษัทหรือที่ผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ประหยัดต้นทุน หรือในประเทศที่ต้องการแรงงานและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค เช่น ภาษีศุลกากรที่ถูกกำหนดเมื่อไม่นานมานี้และที่คุกคามการเพิ่มภาษีศุลกากรของสินค้าที่นำเข้าสหรัฐฯ จากประเทศจีน ซึ่งอาจจะจำกัดความสามารถในการผลิตสินค้าในประเทศที่ประหยัดต้นทุนกว่าหรือในประเทศที่มีแรงงานและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเฉพาะ หรือที่กำหนดให้บริษัทต้องรับภาระต้นทุนหรือพยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้และกำไรของบริษัท (vi) ความพร้อมและต้นทุนของวัตถุดิบ (vii) ความสามารถของบริษัทในการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบทางการค้าและการโยกย้ายและการพัฒนาของผู้ผลิต (ซึ่งอาจส่งผลต่อที่ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถผลิตได้ดีที่สุด) ได้อย่างทันเวลา (viii) การเปลี่ยนแปลงในโรงงานและความสามารถในการขนส่ง การเพิ่มค่าจ้างและค่าขนส่ง ความขัดแย้งทางพลเรือน ทางสงคราม หรือการก่อการร้าย การคุกคามของสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น หรือความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือแรงงานในประเทศใด ๆ หรือผลิตภัณฑ์ของคู่ค้าทางธุรกิจอื่น ๆ ที่มีการขาย มีการผลิตหรือวางแผนที่จะขายหรือผลิต (ix) การระบาดของโรคและข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น การระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันซึ่งอาจส่งผล (และในกรณีของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อไปนี้) ให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเนื่องจากโรงงานปิด แรงงานลดลง การขาดแคลนวัตถุดิบ การตรวจสอบหรือห้ามส่งสินค้าที่ผลิตในพื้นที่ได้รับผลกระทบ การปิดร้านค้า การลดปริมาณการใช้และการซื้อของผู้บริโภคเพราะผู้บริโภคป่วยหรือมีข้อจำกัดหรือหยุดช้อปปิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือการที่รัฐบาลกำหนดให้ปิดกิจการ ข้อจำกัดการเดินทางหรือมาตรการที่คล้ายกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และการเปลี่ยนแปลงของตลาดหรืออื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการเสื่อมค่าของค่าความนิยมของบริษัทและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น ๆ การดำเนินงานด้านสิทธิการดำเนินงานตามสัญญาเช่า และที่ดินอาคารและอุปกรณ์ (x) การได้มาและการขายกิจการและปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อการขายกิจการและการทำธุรกรรมที่เสนอ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความสามารถในการรวมกิจการหรือธุรกิจที่ได้มาเข้ากับบริษัท โดยไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจการที่ได้มา การดำเนินงานที่มีอยู่ ความสัมพันธ์ของพนักงาน ความสัมพันธ์กับผู้ขาย ความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือผลประกอบการทางการเงินและความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัทหลังจากการขายหรือการขายบริษัทย่อย ธุรกิจ หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ของบริษัท (xi) ความล้มเหลวของผู้ได้รับใบอนุญาตของบริษัทในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือเพื่อรักษาคุณค่าของแบรนด์ของบริษัท หรือการใช้เครื่องหมายการค้าของบริษัทในทางที่ผิด (xii) ความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศซึ่งบริษัทมีการทำธุรกรรมในระดับธุรกิจที่สำคัญในค่าเงินนั้น (xiii) ค่าใช้จ่ายในการวางแผนการเกษียณอายุของบริษัท ที่บันทึกไว้ตลอดทั้งปีคำนวณโดยใช้การประเมินตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งรวมถึงข้อสมมติฐาน และการประมาณการเกี่ยวกับตลาดการเงิน ภาวะเศรษฐกิจและประชากร และความแตกต่างระหว่างผลลัพธ์โดยประมาณกับผลลัพธ์จริง ที่บันทึกไว้ในผลกำไรโดยทั่วไปในไตรมาสที่สี่ของปี; (xiv) ผลกระทบของกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีใหม่และที่ได้รับการแก้ไข; และ (xv) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200602005248/en/

ติดต่อ:

Dana Perlman

เหรัญญิกและรองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์

ออฟฟิศ (212) 381-3502

มือถือ (917) 579-1374

investorrelations@pvh.com

Virginia Ritchie

รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรการตลาด อินฟลูเอ็นเซอร์และประสบการณ์

+31643184870

Virginia.Ritchie@Tommy.com

Mary Kay Inc. ยังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างพลังสตรีผ่านการประชุมออนไลน์เสมือนจริง TIME’S UP ของ International Women’s Forum

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–19 พ.ค. 2563

Mary Kay Inc. ทำงานต่อเนื่องในการสนับสนุนผู้ประกอบการหญิง และการเสริมสร้างพลังอำนาจและความเป็นผู้นำทางความคิด ในฐานะผู้สนับสนุนชั้นนำสำหรับการประชุมฟอรัมสตรีสากล หรือ International Women's Forum (IWF) Virtual Cornerstone Conference 2020 โดยกำหนดดั้งเดิมจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 13-15 พฤษภาคมในกรุงลอนดอน แต่มีเหตุให้การประชุมถูกเปลี่ยนเป็นรูปแบบดิจิทัลเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้เนื้อหาและวิทยากรที่เปี่ยมประสบการณ์ที่แทบจะเหมือนของกำหนดการเดิมจะถูกออกอากาศไปทั่วโลกในรูปแบบเซสชันเสมือนที่จะได้รับการแชร์ทุกสัปดาห์ที่ https://www.iwforum.org/.

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200519005709/en/

Carolyn Passey, General Manager, Mary Kay United Kingdom & Ireland (Photo: Mary Kay Inc.)

Carolyn Passey, ผู้จัดการทั่วไป, Mary Kay สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ในวันที่ 21 พฤษภาคม Mary Kay จะเข้าร่วมในเซสชันออนไลน์เสมือนจริง (virtual session)ในหัวข้อ“ สนทนากับ TIME'S UP UK หรือ Conversation with TIME’S UP UK ” เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ เช่น #MeToo และการเคลื่อนไหวของ TIME'S UP ที่มานำไปสู่การเปลี่ยนความคิดในเรื่องความปลอดภัยของผู้หญิงในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ ตลอดจนถึงในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั่วโลก โดย Carolyn Passey ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์จะเป็นผู้เปิดเซสชันที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งนี้ TIME'S UP UK กำลังค้นหาวิธีเข้าไปทำงานในเรื่องนี้โดยคำนึงถึงเส้นแบ่งบาง ๆของเรื่องส่วนบุคคลและความเป็นมืออาชีพ พร้อม ๆ ไปกับการช่วยเหลือผู้ที่ค้นพบว่าตนเองมีความเสี่ยงและมีโอกาสในการถูกละเมิดในกองถ่าย

“ที่ Mary Kay เราสนับสนุนให้เกิดการเสริมสร้างพลังอำนาจและความเท่าเทียมทางเพศของผู้หญิง และเราได้ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ที่มีภารกิจแบบเดียวกัน” Passey กล่าว “ในวันนี้ เนื่องจากวิกฤต COVID-19 ทำให้โอกาสเผชิญความเสี่ยงของผู้หญิงและความไม่เท่าเทียมทางเพศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น1 เราตระหนักได้ว่าความเชื่อมั่นและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เป็นมาสำหรับผู้หญิงในการเติบโตในการงานของพวกเขา สถานที่ทำงานควรเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยและมีเกียรติสำหรับเราทุกคน เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถทำให้สิ่งนี้หรือเรียกร้องให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ ฉันตั้งตารอที่จะได้อภิปรายในหัวข้อนี้กับผู้นำทางความคิดจากทั่วโลก”

วิทยากรในเซสชั่นนี้ยังรวมถึง:

  • Dame Heather Rabbatts ประธาน TIME'S UP UK กรรมการผู้จัดการของ Cove Pictures; ประธานของโรงละครโซโหและกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารของ Arts Alliance
  • Ita O’Brien ผู้ประสานงานชั้นนำของสหราชอาณาจักรและผู้ก่อตั้ง Intimacy on Set ซึ่งเป็น บริษัทของเธอซึ่งเธอได้พัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับความใกล้ชิดและการเปลือยในภาพยนตร์ โทรทัศน์ และในโรงละคร นอกจากนี้เธอยังทำงานผ่าน Intimacy on Set เพื่อฝึกอบรมผู้ประสานงานด้านความใกล้ชิด หรือ Intimacy Coordinators ทั่วโลก อีกด้วย

“เป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นกว่าเดิมที่จะต้องดำเนินการสนทนาเกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและความเท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงในอุตสาหกรรมบันเทิงและอีกมากมาย ” Stephanie O'Keefe ซีอีโอของ IWF กล่าว “ในขณะที่โลกพัฒนาวิธีใหม่ ๆ ในการทำงานในบริบทที่คำนึงถึง COVID-19 ฉันหวังว่าจะมีกลยุทธ์ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้หญิงจะสามารถกลับเข้าสู่สถานที่ทำงานได้อีกครั้งด้วยความมั่นใจว่าพวกเธอจะปลอดภัยและได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม Mary Kay เป็นผู้สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศมาเป็นเวลานาน และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะต่อสู้กับพวกเขาต่อไปเพื่อทำให้แน่ใจว่าโลกจะมีความเท่าเทียมกันทางเพศมากกว่านี้”

ลิงค์สำหรับดูงานกิจกรรมจะมีอยู่ในเว็บไซต์ IWF และบนหน้า YouTube ในวันที่ 26 พฤษภาคม: https://www.youtube.com/channel/UCdLPNS7ai1_XHaqgEnhEjtg

1 บทสรุปนโยบายของเลขาธิการสหประชาชาติเกี่ยวกับผลกระทบของ COVID-19 ต่อสตรีวันที่ 9 เมษายน 2563

https://www.un.org/sites/un2.un.org/files/policy_brief_on_covid_impact_on_women_9_apr_2020_updated.pdf

พร้อมกับ บทความจากบล็อกโดย United Nations Foundation บทความบล็อกโดย Michelle Milford Morse กับGrace Anderson วันที่ 14 เมษายน 2563

https://unfoundation.org/blog/post/shadow-pandemic-how-covid19-crisis-exacerbating-gender-inequality/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่  MaryKay.com.

เกี่ยวกับ International Women’s Forum (IWF) and the Leadership Foundation

IWF เป็นองค์กรที่ผู้ที่เป็นสมาชิกต้องได้รับเชิญเท่านั้น เป็นองค์กรที่มีผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จและที่มีความหลากหลายจำนวนกว่า 7,000 คน จาก 33 ประเทศในหกทวีป IWF ส่งเสริมความเป็นผู้นำของผู้หญิงและความเท่าเทียมกันทั่วโลกโดยการเชื่อมโยงผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จทั้งในระดับโลกและในระดับท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน สมาชิกขององค์กรประกอบด้วยผู้บริหารที่ติดอันดับใน Fortune 500 ผู้นำรัฐบาลจากท้องถิ่นสู่ระดับผู้นำสูงสุด ผู้นำขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรระดับนานาชาติและผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษา และจากผลงานด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.iwforum.org.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200519005709/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายการสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com


Keio Plaza Hotel Tokyo ขอเสนอบุฟเฟ่ต์ขนมหวานสตรอเบอรี่ พร้อมวางมาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่า

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–31 มี.ค. 2563

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) หนึ่งในโรงแรมนานาชาติที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ที่ชินจุกุ โตเกียวได้จัดงานบุฟเฟ่ต์ขนมพิเศษที่มีชื่อว่า “Strawberry Dessert Buffet” เป็นเวลาสามเดือนที่ร้านอาหาร Jurin บนชั้นสองของโรงแรม  เนื่องจากความนิยมของกิจกรรมนี้เราตัดสินใจที่จะขยายเวลาไปถึง 31 พฤษภาคม 2563 และได้สร้างสรรค์ของหวานธีม “สตรอเบอร์รี่และนม” โดยเฉพาะ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20200331005392/en/

Strawberry dessert buffet created in the theme of "Strawberries and Milk" will start from May 1 to May 31, 2020. (Photo: Business Wire)

บุฟเฟ่ต์ของหวานสตรอเบอร์รี่ที่สร้างขึ้นตามธีม “สตรอเบอร์รี่และนม” จะมีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2563 (รูปภาพ : บิสิเนสไวร์)

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมทางโรงแรมจะนำเสนอธีมที่สี่ของชุด “สตรอเบอร์รี่และนม” พร้อมกับขนมพิเศษที่สร้างขึ้นจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสตรอเบอร์รี่สดและนมเข้มข้นสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่  หนึ่งคุณสมบัติพิเศษของชุดสุดท้ายนี้ได้แก่ "การเปรียบเทียบรสชาติของวิปครีมโฮมเมด" ซึ่งมีวิปครีมที่ทำขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยเชฟผู้ชำนาญของเราโดยใช้ครีมสดสามประเภท ได้แก่ ครีมไขมันต่ำสองชนิดและครีมน้ำตาลต่ำหนึ่งชนิด  คนทำขนมของเราจะเสิร์ฟขนมหวาน 30 ชนิดในบุฟเฟ่ต์บนจานแยกเพื่อให้สามารถถ่ายภาพที่ระลึกและยังเป็นหนึ่งในนโยบายป้องกันไวรัสโคโรน่าของเรา

นอกจากนี้ เราได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของแขกในการป้องกันการแพร่ระบายของไวรัสโคโรน่า  เราได้ทำความสะอาดทั่วบริเวณร้านอาหาร เปลี่ยนภาชนะต่างๆ เป็นประจำ และมีพนักงานประจำที่ตามโต๊ะอาหารเพื่อบริการแขก 

ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของแขกและพนักงาน เรามุ่งมั่นที่จะวางนโยบายป้องกันเพื่อมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

คลังข่าวประชาสัมพันธ์

Keio Plaza Hotel

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) ตั้งอยู่ในชินจูกุใจกลางเมืองหลวงของโตเกียว เป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติของญี่ปุ่น โรงแรมของเรามีร้านอาหารและบาร์กว่า 15 แห่ง  เราเป็นเจ้าภาพงานมากมายให้กับแขกทั้งในและต่างประเทศด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การต้อนรับที่อบอุ่น และบริการที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้แขกได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงประสบการณ์งานแต่งงานกิโมโน พิธีชงชา และอื่นๆ อีกมากมาย  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา YouTube, Facebook หรือ Instagram

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200331005392/en/

ติดต่อ:

Keio Plaza Hotel Tokyo
Keiko Kawashima, +81-3-5322-8010
Public Relations Manager (ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์)

โรงงานผลิตต่าง ๆ ของ Mary Kay ร่วมบริจาคผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ (hand sanitizer) เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรค COVID-19

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)– 27 มีนาคม 2563

Mary Kay Inc. ประกาศว่า บริษัทจะอุทิศห่วงโซ่อุปทานโลกของบริษัท และความสามารถในการผลิตทั่วโลกของบริษัทส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ในการจัดทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่กำลังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ผลิตภัณฑ์ชุดแรกที่ผลิตออกมาจะถูกนำไปบริจาคให้กับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับการระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200326005766/en/

David Holl, Chairman and CEO, Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

David Holl,ประธานและซีอีโอของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

“แม้ว่าเรากำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากการระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก แต่ทั้งโลกต่างก็กำลังหาทางปรับตัวเพื่อรับมือกับภัยในครั้งนี้” David Holl ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mary Kay Inc. กล่าว “ การผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือเพื่อต่อสู้วิกฤติการณ์ในครั้งนี้เป็นวิธีที่เราจะสามารถให้การสนับสนุนผู้ที่มีความใกล้ชิดต่อโรคและมีความเสี่ยงต่อโรคสูงที่สุด”

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ The Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เนื่องจากว่ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดการขาดตลาดของผลิตภัณฑ์ล้างมือที่มีคุณภาพตามที่ CDC แนำนำให้ใช้ ทั้งในระดับที่อยู่อาศัยและสถานพยาบาลต่าง ๆ

บริษัท Mary Kay ได้ทำงานอย่างหนักตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อเริ่มต้นการผลิต โดยเริ่มต้นจากการจัดหาวัตถุดิบ การกำหนดความพร้อมด้านบรรจุภัณฑ์ การเตรียมสายการผลิต จนไปถึงการทำให้แน่ใจว่าจะสามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ได้

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือชุดแรกจะถูกมอบให้กับมูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas  โดย Baylor Scott & White เป็นระบบเครือข่ายการดูแลสุขภาพที่ไม่แสวงหากำไรที่ใหญ่ที่สุดในเท็กซัสและที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เครือข่ายประกอบด้วยโรงพยาบาลจำนวน 52 แห่ง สถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยมากกว่า 800 แห่ง แพทย์ที่พร้อมทำงาน 7,500 คน และพนักงานอีกกว่า 47,000 คน

“ในช่วงเวลาที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเช่นนี้ ทีมแพทย์ที่แข็งขันของเรายังคงให้บริการผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ที่สุด” Kristi Sherrill Hoyl หัวหน้าฝ่ายนโยบายและเจ้าหน้าด้านที่ชุมชนของ Baylor Scott & White Health กล่าว “ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเกื้อหนุนจากนวัตกรรมของ Mary Kay ในการผลิตสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยและพนักงานของเรา เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานกับองค์กรในชุมชนที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสร้างความแตกต่าง”

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่  MaryKay.com.

เกี่ยวกับ Baylor Scott & White Health

ในฐานะที่เป็นเครือข่ายสุขภาพที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเท็กซัส Baylor Scott & White Health ได้ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในครอบครัวและชุมชน เครือข่ายการส่งมอบการดูแลแบบบูรณาการของที่นี่ยังรวมไปถึงแผนสุขภาพ Scott and White Health Plan,  สถาบันวิจัย Baylor Scott & White และพันธมิตรระดับคุณภาพที่หลากหลายของ Baylor Scott & White เครือข่ายของเราสามารถให้การดูแลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับปฐมภูมิไปจนถึงการดูแลพิเศษทั่วทั้งเท็กซัสและผ่านจุดยุทธศาสตร์ (virtual touchpoints) ที่ได้รับรางวัลการันตี ด้วยการทำงานกับโรงพยาบาล 52 แห่งและจุดเชื่อมต่อมากกว่า 1,000 จุด รวมถึงศูนย์การแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับในเมืองดัลลัสและเท็มเพิล ถ้าหากเทียบพื้นที่ให้บริการของเครือข่าย Baylor Scott & White Health กับรัฐรัฐหนึ่งในประเทศแล้ว จะถือว่ามันจะใหญ่เป็นลำดับที่แปด โดยสามารถดูแลประชากรได้มากกว่าประชากรรัฐจอร์เจียเสียอีก เครือข่าย Baylor Scott & White  ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในฐานะองค์กรด้านการบำบัดรักษาของชาวคริสเตียนมีความภาคภูมิใจกับเกียรติยศที่สืบทอดมายาวนานนับศตวรรษด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการเข้าถึงการรักษา ราคาที่เป็นธรรม และประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าทุกคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม BSWHealth.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200326005766/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

marykay.com/newsroom

972.687.5332 or media@mkcorp.com


จากการวิเคราะห์โดย OAG การห้ามการเดินทางครั้งใหม่ส่งผลกระทบผู้โดยสารสายการบินเกือบ 2 ล้านที่นั่ง

Logo

10.9% ของเที่ยวบินระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และ 16.9% ของผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางระหว่างประเทศจะได้รับผลกระทบ

ลอนดอน & สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–12 มีนาคม 2563

OAG ผู้ให้บริการข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เผยแพร่บทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับผลกระทบทั่วโลกที่เกิดขึ้นในตลาดการเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศจากการระบาดของโคโรนาไวรัส

การห้ามเดินทางจากยุโรปมายังสหรัฐอเมริกาจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก โดยจะส่งผลกระทบต่อ 10.9% ของสายการบินระหว่างประเทศทั้งหมด และ 16.9% ของผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศในกลุ่มเชงเกน โดยรวม เที่ยวบิน 6,747 เที่ยว และผู้โดยสารราว 2 ล้านที่นั่งจะได้รับผลกระทบในแต่ละเที่ยวการเดินทางตลอดสี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้

สายการบินเดลต้าและสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลนส์เป็นสายการบินของสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบของทั้งสองสายการบินรวมกันมีถึง 31% สายการบินลุฟต์ฮันซาเป็นสายการบินยุโรปที่ได้รับผลกระทบสูงสุด (13%) สำหรับประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบสูงสุด ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งให้บริการเที่ยวบินคิดเป็น 57% ของเที่ยวบินทั้งหมดที่บินระหว่างกลุ่มประเทศเชงเกนและสหรัฐฯ

“ไวรัส COVID-19 ได้ทำให้เกิดการหยุดชะงักในวงกว้างที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในตลาดการเดินทางทางอากาศ” John Grant นักวิเคราะห์ด้านการบินอาวุโสของ OAG กล่าว “สถานการณ์ตอนนี้ไม่แน่นอนเอามาก ๆ เป็นเพราะข้อห้ามการเดินทางต่าง ๆ จำนวนและตารางของสายการบินที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน คาดว่าจะมีการยกเลิกเที่ยวบินจากสหรัฐฯ ไปยังยุโรปอีกจำนวนมหาศาลในวันอีกไม่กี่วันหลังจากนี้”

จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ในเดือนเมษายน 2563 นี้มีเที่ยวบินแบบเดินทางเที่ยวเดียวทั้งหมด 13,169 เที่ยวที่มีกำหนดเดินทางจากยุโรปไปยังสหรัฐฯ รวมทั้งจากสหราชอาณาจักร ประเทศที่มีเที่ยวบินกำหนดเดินทางสู่สหรัฐฯ มากที่สุดได้แก่สหราชอาณาจักร (4,121 เที่ยว) เยอรมนี (1741 เที่ยว) ฝรั่งเศส (1,570 เที่ยว) เนเธอร์แลนด์ (1,212 เที่ยว) และสเปน (851 เที่ยว)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปยังหน้าเว็บไซต์ของ OAG ที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่: https://www.oag.com/coronavirus-airline-schedules-data

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทางชั้นนำระดับโลกที่เสริมสร้างการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศตั้งแต่ ปี 2472

OAG มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรมีการดำเนินงานทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ลิทัวเนีย และจีน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่: www.oag.com และสามารถติดตามเราทาง Twitter ได้ที่ @OAG Aviation.

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200312005629/en/

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
UK & ROW
Katy Ludwell
ผู้จัดการการตลาด
pressoffice@oag.com

ACI เผยสนามบินที่มอบประสบการณ์ดีที่สุดในโลกให้แก่ลูกค้า

Logo

มอนทรีออล–(บิสิเนสไวร์)–9 มีนาคม 2563

สภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (ACI) World ได้เปิดเผยผู้ชนะรางวัลบริการสนามบิน Airport Service Quality Awards

รางวัลดังกล่าวยกย่องสนามบินทั่วโลกที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดตามความเห็นของผู้โดยสาร

ในปีนี้ได้แจก 140 รางวัลแก่สนามบิน 84 แห่ง สามารถดูรายชื่อผู้ชนะทั้งหมดได้ที่นี่

ผู้ชนะอย่างหลายสมัยได้แก่ท่าอากาศยานนานาชาติอินเดียแนโพลิส กรุงปักกิ่ง สิงคโปร์ชางงี โตรอนโตเพียร์สัน ฟีอูมิชิโน่ของโรม ฉัตรปตี ศิวาจีของมุมไบ อินทิรา คานธีของนิวเดลี เซี่ยงไฮ้ผู่ตง และเชเรเมเตียโวของมอสโก

ปีนี้ผู้ได้รับรางวัลครั้งแรกได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติโคโตกา (อักกรา กานา) มังกาลอร์ (มังกาลอร์ อินเดีย) สุปาดิโอ (ปนตีอานัก อินโดนีเซีย) อาเลซันด์ (อาเลซันด์ นอร์เวย์) ฮิเอโร (วัลเวเด้ สเปน) เมลียา (เมลียา สเปน) ซานเซบาสเตียน (ซานเซบาสเตียน สเปน) โบโด (โบโด นอร์เวย์) อิซเมียร์ อัดนัน เมนเดอเรส (อิซเมียร์ ตุรกี) โคเปนเฮเกน (โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก) กาลาปากอส (กาลาปากอส เอกวาดอร์) แคปิตอล (แลนซิง สหรัฐอเมริกา) สนามบินสตอกโฮล์ม บรอมมา (สตอกโฮล์ม สวีเดน) และเซนต์จอห์น (เซนต์จอห์น แคนาดา)

“รางวัล Airport Service Quality Awards เป็นเกียรติที่สูงที่สุดสำหรับผู้ประกอบการสนามบินทั่วโลกโดยตระหนักถึงความเป็นเลิศในประสบการณ์ของลูกค้า” Angela Gittens ผู้อำนวยการ ACI World กล่าว

“ปีนี้มีผู้รับรางวัลมากมายจากทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งอุตสาหกรรมในการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้า

“การนำเสนอประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้นเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญในอุตสาหกรรมสนามบินที่มีการแข่งขันสูงขึ้น  โปรแกรม ASQ ทั่วโลกของ ACI เป็นโปรแกรมเดียวที่ไม่เพียง แต่ตระหนักถึงความเป็นเลิศเท่านั้น แต่ยังให้มาตรฐานและเกณฑ์การวัดที่เป็นกลางเพื่อช่วยในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของสนามบิน

“เรามีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าห้าสนามบินที่ชนะในหมวดหมู่ 'สนามบินที่ดีที่สุดตามขนาดและภูมิภาค Best airport by size and region (ต่ำกว่าสองล้านคนต่อปีในยุโรป)’ เป็นผู้ชนะรางวัล ASQ ครั้งแรกทั้งหมด”

Airport Service Quality เป็นโปรแกรมการวัดประสบการณ์การเป็นลูกค้าชั้นนำของโลกและโปรแกรมการเปรียบเทียบ  ในปี 2562 มีนักเดินทางกว่า 8 พัน 8 ร้อยล้านคนจากทั่วโลกเดินทางผ่านสนามบิน ASQ

สนามบินที่ชนะจะมารวมตัวกันในงานมอบรางวัล ASQ ซึ่งจะจัดขึ้นในงานกระสบการณ์ลูกค้า ACI Customer Experience Global Summit ที่เมือง คราโคว ประเทศโปแลนด์ในเดือนกันยายน

ติดต่อ:

Bojana Jeremic
Manager, External Relations ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
อีเมล: mediarelations@aci.aero

ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดตัว “บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต” โฉมใหม่ พร้อมสิทธิประโยชน์ใหม่ รับความคล่องตัวทุกการจับจ่าย

Logo

·        บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต (Citi Ready Credit) บัตรเดียวจบครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด เบิกถอนเงินสดฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากร้านค้าชั้นนำมากมาย

      กรุงเทพฯ 19 กุมภาพันธ์ 2563 – ธนาคารซิตี้แบงก์ เผยโฉมรูปลักษณ์ใหม่ “บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต” (Citi Ready Credit) ที่ได้ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความเรียบง่าย อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบัตรเอาไว้ โดยซิตี้ เรดดี้เครดิตเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของซิตี้แบงก์ ที่มาตอบโจทย์ครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด ให้ลูกค้าเบิกเงินสดได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ การกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ รวมถึงต่างประเทศโดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม การรับเงินก้อนโอนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 1 วันทำการ แล้วเลือกแบ่งจ่ายตามยอดขั้นต่ำ หรือแบ่งชำระเป็นรายเดือน ซึ่งทำรายการได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางซิตี้แบงก์ ออนไลน์ ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชั่น หรือผ่านทางเจ้าหน้าที่โดยช่องทางโทรศัพท์ โดยในปี 2563 นี้ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนชำระสินค้าหรือบริการผ่านระบบแบ่งจ่ายรายเดือน Citi PayLite เลือกผ่อนชำระ 0% หรือดอกเบี้ยสุดพิเศษนานสูงสุดถึง 48 เดือน รวมถึงรับสิทธิและบริการพิเศษด้านไลฟ์สไตล์หลากหลายในช่วงเวลาที่มีโปรโมชั่น หรือในเดือนเกิด ตลอดจนรับเครดิตเงินคืน เป็นต้น ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการบริหารเงินสดในทุกโอกาส ให้ทุกความต้องการเป็นจริงได สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th/ready-credit/citi-ready-credit

          มร. ซานดีพ บาตระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้มีการปรับรูปลักษณ์บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต แบบใหม่ โดยมีการดีไซน์ตัวบัตรให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความเรียบง่าย อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบัตรเอาไว้ ซึ่ง “บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต” เป็นหนึ่งในบริการจากซิตี้แบงก์ ที่มาตอบสนองครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด เปลี่ยนวงเงินให้เป็นเงินสดได้ง่าย ๆ ให้ทุกความต้องการเป็นจริง สำหรับลูกค้าซิตี้แบงก์ที่มีความต้องการใช้เงินสดหรือเงินก้อน โดยบัตรดังกล่าวสามารถใช้เบิกเงินสดได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ ผ่านการทำธุรกรรมทางการเงินหลากหลายช่องทาง อาทิ การกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศโดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม รวดเร็วด้วยการเบิกเงินก้อนผ่านระบบซิตี้โฟน แบงก์กิ้ง หรือสั่งผ่านซิตี้แบงก์ ออนไลน์ หรือซิตี้ โมบายล์ แอป โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยภายใน 1 วันทำการ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่ อีกทั้งเพิ่มความมั่นใจปลอดภัยทุกการใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีชิปการ์ด ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้เงินในทุกโอกาส

มร. ซานดีพ กล่าวต่อว่า นอกจากความคล่องตัวที่มอบให้ลูกค้าในการบริหารจัดการสภาพคล่องด้านเงินสดแล้ว “บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต” ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนชำระสินค้าผ่านระบบแบ่งจ่ายรายเดือน “ซิตี้ เพย์ไลท์” (Citi PayLite) เลือกผ่อนชำระ 0% หรือดอกเบี้ยสุดพิเศษนานสูงสุดถึง 48 เดือน อีกทั้งลูกค้ายังสามารถรับสิทธิประโยชน์ ของกำนัล และบริการพิเศษด้านไลฟ์สไตล์หลากหลายในเดือนเกิด ตลอดจนรับเครดิตเงินคืน เมื่อมียอดกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มตามกำหนด ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการชำระคืน โดยมีช่องทางการชำระคืนที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมหลากหลายช่องทาง รวมถึงการชำระเงินผ่านทางโมบายล์ แอปพลิเคชั่น เพื่อให้วงเงินคืนกลับมาทันที พร้อมกันนี้ ซิตี้แบงก์ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบริการด้านดิจิทัลต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซิตี้ เรดดี้เครดิต ให้สามารถเปลี่ยนรหัสกดเงินสดได้ทันที ขอวงเงินเพิ่มชั่วคราว ตรวจสอบวงเงินคงเหลือ และรายการเคลื่อนไหวล่าสุดได้ง่ายๆ  ผ่าน “ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน” (Citi Mobile® Application)

            “บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต บัตรเดียวจบครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด เป็นบัตรที่มาตอบสนองการใช้ชีวิตให้กับลูกค้าซิตี้แบงก์ให้ได้รับความสะดวกสบายด้านความต้องการในการใช้เงินสดหรือเงินก้อน ช่วยสานฝันทุกความต้องการของลูกค้าให้เป็นจริงได้ เพราะธนาคารซิตี้แบงก์เข้าใจทุกความต้องการทางการเงินเป็นอย่างดี”

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมของตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล พบว่ายังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนบัญชีและยอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคล พบว่า มีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 9.87 ในปี 2562 (เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนตุลาคม 2562) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับร้อยละ 5.27 โดยปัจจุบันมีจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น 15.49 ล้านบัญชี ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2562 ประกอบด้วยสินเชื่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์จำนวน 3.04 ล้านบัญชี คิดเป็น ร้อยละ 19.60 และกลุ่มนอนแบงก์จำนวน 12.45 ล้านบัญชี คิดเป็นร้อยละ 81.40 (ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย)

ในขณะที่อัตราการเติบโตสำหรับบัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิตของธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ในปี 2563 คาดการณ์ยอดเติบโต 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักมีอายุระหว่าง 25 – 45 ปี และส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล มร. ซานดีพ กล่าวทิ้งท้าย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th/ready-credit/citi-ready-credit

#ธนาคารซิตี้แบงก์ #CitiReadyCredit #บัตรกดเงินสดซิตี้เรดดี้เครดิต #JCCOTH    

###

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citigroup.com | ทวิตเตอร์: @Citi | ยูทูป: www.youtube.com/citi | บล็อก: http://new.citi.com | เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/citi | ลิงก์อิน: www.linkedin.com/company/citi

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

wanvisa.komindr@citi.com


Keio Plaza Hotel Tokyo ฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระด้วยการจัดดอกไม้ที่สวยงาม อาหารแสนอร่อย และศิลปะซากุระดิจิตอล

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–27 ก.พ. 2563

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) หนึ่งในโรงแรมนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในชินจูกุโตเกียวเตรียมจัดงานพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระด้วยรายการเมนูพิเศษในธีมดอกซากุระโดยเชฟแนวหน้าที่ร้านอาหารแปดแห่งของเราระหว่างวันที่ 1 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2563  นอกจากการบานของดอกซากุระแล้วฤดูใบไม้ผลิยังเป็นฤดูที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสำหรับหลายๆ คนที่เฉลิมฉลองโอกาสต่างๆ เช่นการเริ่มและจบการศึกษาและการเริ่มงานใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200227005388/en/

A magnificent large flower arrangement using "Sakura" cherry blossoms will be displayed in the third floor main lobby to provide guests with a ideal location to take commemorative photographs from the beginning of April. (Photo: Business Wire)

ในล็อบบี้หลักบนชั้นสามจะปรากฏการจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ที่งดงามโดยใช้ดอกซากุระจะในเพื่อให้แขกที่เข้าพักได้ถ่ายรูปที่ระลึกตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน (ภาพ: บิสสิเนสไวร์)

ในช่วงนี้จะมีการจัดดอกไม้ที่สวยงามโดยศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น Hiroki Maeno ที่ล็อบบี้ชั้นสามและบริเวณทางเดินชั้นสองของโรงแรม  นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากต่างประเทศมักเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมดอกซากุระที่สวยงาม  และเนื่องจากดอกซากุระยังเบ่งบานในระยะเวลาสั้นๆ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ อาหารพิเศษและงานจัดดอกไม้ของของจึงมีมาเพื่อยืดระยะเวลาที่แขกสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระและถ่ายภาพที่ระลึกได้

ในร้านอาหาร “Jurin” ของเรานั้นบริษัท Restaurant, NAKED Inc., ที่ทำเกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์ การออกแบบพื้นที่ และงานสร้างสรรค์จะเข้าร่วมในกิจกรรมฤดูใบไม้ผลินี้โดยการสร้างวิดีโอฉายภาพคู่กับอาหารและเครื่องดื่ม  วิดีโอจะสื่อถึงช่วงเวลาวิเศษอันแสนสั้นของการบานของดอกซากุระและฤดูใบไม้ผลิ

เกี่ยวกับโรงแรม Keio Plaza

Keio Plaza Hotel Tokyo (KPH) ตั้งอยู่ในชินจูกุใจกลางเมืองหลวงของโตเกียว เป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติของญี่ปุ่น โรงแรมของเรามีร้านอาหารและบาร์กว่า 15 แห่งและเราเป็นเจ้าภาพงานมากมายให้กับแขกทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การต้อนรับที่อบอุ่น และบริการที่เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้แขกได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงประสบการณ์งานแต่งงานกิโมโน พิธีชงชา และอื่นๆ อีกมากมาย  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา YouTube, Facebook หรือ Instagram

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200227005388/en/

ติดต่อ:

Keio Plaza Hotel Tokyo
Keiko Kawashima, +81-3-5322-8010
Public Relations Manager (ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์)
keiko-kawashima@keioplaza.co.jp

The Bangkok Reporter