Parse Biosciences ขยายการเข้าถึงทั่วโลกด้วยความร่วมมือกับ Spinco Biotech ในอินเดีย

Logo

SEATTLE–(BUSINESS WIRE)–7 พฤศจิกายน 2023 

Parse Biosciences ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการจัดลำดับเซลล์เดี่ยวที่เข้าถึงได้และปรับขนาดได้ ประกาศข้อตกลงกับ Spinco Biotech ในอินเดียในวันนี้ ในการขยายขอบเขตการเข้าถึงในเอเชีย นี่คือการขยายธุรกิจครั้งล่าสุดของ Parse ในภูมิภาค APAC ตามข้อตกลงเมื่อปีที่แล้วกับ Research Instruments Pte Ltd เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“เราเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันการจัดลำดับเซลล์เดี่ยว Evercode ของ Parse ทั่วเอเชีย และเราเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์ของเราพร้อมสำหรับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในอินเดียเช่นกัน” ด็อกเตอร์ Alex Rosenberg, CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Parse Biosciences กล่าว “ด้วยความร่วมมือกับ Spinco เรากำลังช่วยให้กลุ่มการวิจัยของพวกเขาให้สามารถมีวิธีการนำเทคโนโลยีการจัดลำดับเซลล์เดี่ยวชั้นนำมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย”

ข้อตกลงของบริษัทกับ Spinco Biotech จะช่วยให้นักวิจัยในอินเดียสามารถเข้าถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เซลล์เดี่ยวของบริษัทได้อย่างเต็มที่ รวมถึง Evercode™ Whole Transcriptome, Evercode TCR, Evercode Cell Fixation, Evercode Nuclei Fixation, Gene Capture, CRISPR Detect และโซลูชันการวิเคราะห์ข้อมูลของ Parse Biosciences ข้อตกลงนี้เป็นความต่อเนื่องของการแนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทในตลาดต่างประเทศที่สำคัญอย่างต่อเนื่องของ Parse โดยปัจจุบันมีจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อิสราเอล และนิวซีแลนด์

Thyagarajan Srinivasan ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Spinco Biotech กล่าวว่า “Parse เป็นผู้บุกเบิกที่สำคัญในการจัดลำดับเซลล์เดี่ยว และนักวิจัยที่นี่จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยี Evercode เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นพันธมิตรกับ Parse เพื่อแนะนำเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้แก่ชุมชมเทคโนโลยีชีวภาพของอินเดีย”

เกี่ยวกับ Spinco Biotech

Spinco เป็นบริษัทผู้ให้บริการโซลูชันและจัดจำหน่ายชั้นนำในอินเดีย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมือการวิเคราะห์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ตั้งแต่ปี 1981 Spinco มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในทุกฟังก์ชันของธุรกิจ โดยการนำบุคลากร องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีมารวมกัน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดและบริการระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้แก่ลูกค้า

ก่อตั้งขึ้นบนปรัชญาที่แข็งแกร่งในการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า ความเป็นเลิศที่ Spinco ไม่เพียงการดำเนินการในระยะสั้นๆ แต่เป็นวิถีชีวิตที่แน่วแน่ Spinco มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดเฉพาะด้าน พร้อมนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมชั้นนำจากผู้บุกเบิกระดับโลกมาสู่วงการวิทยาศาสตร์ในอนาคตของอินเดีย

เกี่ยวกับ Parse Biosciences

Parse Biosciences เป็นบริษัทด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพระดับโลกที่มีภารกิจเพื่อเร่งความก้าวหน้าด้านสุขภาพของมนุษย์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แนวทางการบุกเบิกดังกล่าวช่วยให้นักวิจัยสามารถจัดลำดับเซลล์เดี่ยวในขนาดที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยให้สามารถค้นพบวิธีการใหม่ๆ ในการรักษาโรคมะเร็ง การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ โรคไตและตับ การพัฒนาสมอง และระบบภูมิคุ้มกัน

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นที่ The University of Washington โดยผู้ร่วมก่อตั้ง Alex Rosenberg และ Charles Roco ช่วยให้ Parse สามารถระดมทุนได้มากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และปัจจุบันมีลูกค้าใช้งานมากกว่า 1,000 รายทั่วโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่กำลังเติบโต ได้แก่ Evercode Whole Transcriptome, Evercode TCR, Gene Capture, CRISPR Detect และซอฟต์แวร์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล

สำนักงานใหญ่ของ Parse Biosciences และห้องปฎิบัติการอันล้ำสมัยตั้งอยู่ในย่าน South Lake Union ที่มีชีวิตชีวาของ Seattle หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.parsebiosciences.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jay Roberts, SRPR
jay@shevrushpr.com | 917.696.2142

แหล่งข้อมูล: Parse Biosciences

Resolian เข้าซื้อกิจการ Denali Medpharma บริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพในจีน

Logo

MALVERN, Pa. & CHONGQING, จีน–(BUSINESS WIRE)–1 พฤศจิกายน 2023

Resolian บริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพระดับโลกที่เชี่ยวชาญการเมแทบอลิซึมของยาและเภสัชจลนศาสตร์สำหรับโมเลกุลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ได้เข้าซื้อกิจการ Denali Medpharma ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพชั้นนำของจีน ขณะนี้ Resolian จึงมีห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทางชีวภาพในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และจีน บริษัทสามารถริเริ่มโครงการใน 4 ทวีป และถ่ายโอนวิธีการที่ผ่านการตรวจสอบแล้วไปยังห้องปฏิบัติการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้การทดลองรักษาโรคสามารถขยายไปยังปลายทางทั้งหมด โดยไม่ต้องเปลี่ยนบริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพ

"กลยุทธ์ของ Denali ที่เพิ่มเข้ามาจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราอย่างมีนัยสำคัญและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของเราในตลาดโลก" Patrick Bennett ซีอีโอของ Resolian กล่าว "ผู้ก่อตั้งและทีมนักวิทยาศาสตร์หลักของ Denali ได้รับการยอมรับในระดับสากลในด้านการวิจัยทางเภสัชกรรมและการวิเคราะห์การพัฒนา และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้นำความเชี่ยวชาญด้านโอลิโก, mRNA และไลโปโซมของ Denali มาพัฒนาผลงานบริการของ Resolian เราหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบริษัทที่กำลังเติบโตของเราเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราต่อไปได้"

"ทีม Denali รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ Resolian" ดร. Min Meng ซีอีโอของ Denali กล่าว "Denali ก่อตั้งขึ้นในจีนโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพที่ได้รับการฝึกอบรมจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทมีห้องปฏิบัติการอันล้ำสมัย เพื่อให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราตั้งตารอที่จะสานต่อประวัติผลงานนี้ และนำเสนอขีดความสามารถและความยืดหยุ่นในการวิจัยที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของ Resolian"

เกี่ยวกับ Resolian

Resolian (เดิมทีมีชื่อว่า Alliance Pharma Inc. และ Drug Development Solutions Ltd.) เป็นบริษัทที่ให้บริการปฏิบัติการวิจัยชั้นนำระดับโลกด้าน GxP และการวิเคราะห์ทางชีวภาพแบบไม่ควบคุม การเมแทบอลิซึมของยา/เภสัชจลนศาสตร์ (DMPK) และการวิเคราะห์ GMP CMC และวัสดุศาสตร์โดยเฉพาะ บริษัทมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 500 รายทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และออสเตรเลีย ช่วยให้รับรองผลลัพธ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสูงสุดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบตลอดกระบวนการพัฒนายา ห้องปฏิบัติการเฉพาะของ Resolian มีการติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบสนองความต้องการของโครงการขั้นก่อนการวิจัยและการวิจัยทางคลินิกทุกขนาด

เกี่ยวกับ Denali Medpharma

Denali เป็นบริษัทผู้ให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Resolian Bioanalytics บริษัทมีพนักงานประจำ 70 คน โดยทีมผู้บริหารหลักมีประสบการณ์การทำงานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม CRO ของสหรัฐอเมริกาและจีน และมีเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในโลก ระบบประกันคุณภาพของ Denali ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางชีวภาพในประเทศและต่างประเทศอย่างเคร่งครัด Denali มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพของยาโอลิโกนิวคลีโอไทด์และวัคซีน mRNA (PK/PD และ ADA), ยาไลโปโซม (ยาในรูปอิสระและเอนแคปซูเลชัน), การตรวจวิเคราะห์ที่มีความไวสูงเป็นพิเศษสำหรับยาสูดดม และการตรวจตัวชี้วัดทางชีวภาพ เป็นต้น

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20231101490232/en/

ติดต่อ

Lindsey Langemeier
ฝ่ายการตลาด SCORR
+1 402-405-4269
lindsey@scorrmarketing.com

แหล่งข้อมูล: Resolian

Medisca ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อผลักดันให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงตัวยาที่วิกฤต

Logo

MONTREAL–(BUSINESS WIRE)–27 กรกฎาคม 2023

Medisca ประกาศขยายเครือข่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความเสถียรภาพและการเข้าถึงทั่วโลกสำหรับส่วนผสมยา (API) ที่มีคุณภาพสูงสำหรับการเตรียมยาที่จำเป็น ภารกิจนี้เริ่มต้นจากการร่วมมือเพื่อ Thyroid USP ในปี 2021 และขณะนี้มีการขยายไปยัง Progesterone USP (Special Micronized), Testosterone USP (Micronized), Diclofenac Sodium USP และ Ketamine Hydrochloride USP

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Medisca มองเห็นความต้องการ API ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และมีการขาดแคลนยาในเชิงพาณิชย์ และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีความโปร่งใส เป็นสาเหตุหลัก การมีส่วนร่วมในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ Medisca รักษาตำแหน่ง Partner In Wellness และเป็นผู้ขับเคลื่อนในการจัดหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมยาและการดูแลสุขภาพ

เรายึดมั่นในคำมั่นสัญญาของเราที่จะส่งเสริมส่วนผสมของยาให้ถูกต้องตามกฏหมาย มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อเอาชนะความท้าทายในการเข้าถึงยา และมองหาทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงสำหรับการดูแลผู้ป่วยแต่ละราย” Panagiota Danopoulos รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมระดับโลกที่ Medisca กล่าว “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เราสานต่อพันธกิจในการสร้างความร่วมมือกับผู้นำด้านการผลิต API ที่รวมเป็นหนึ่งและมุ่งมั่นในคุณภาพ ความเสถียรภาพ และคุณค่า” Danopoulos กล่าวต่อ

เพื่อตรวจสอบคู่ค้าที่เหมาะสม Medisca จะดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้แน่ใจว่า เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุดจากแหล่งที่มา พันธมิตรทุกรายผ่านโปรแกรมการรับรองผู้จำหน่ายที่เข้มงวดพร้อมหลักฐานการจดทะเบียน FDA มีข้อตกลงด้านคุณภาพ และการทดสอบเพื่อยืนยันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดสอบ USP เต็มรูปแบบ การทดสอบสิ่งเจือปนในส่วนประกอบ การทดสอบตัวทำละลายตกค้าง และการทดสอบขนาดอนุภาคสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับไมครอน

ความร่วมมือจากพันธมิตรในการผลิต API และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของรัฐ ช่วยให้ Medisca มีศักยภาพในการรองรับตลาดสำหรับ API ที่สำคัญ และตอบสนองความต้องการที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและผู้ป่วยทั่วโลก

เกี่ยวกับ Medisca

Medisca เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพโดยใช้ประโยชน์จากพันธมิตรที่เหนียวแน่น และนำเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล พร้อมคุณภาพและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ Medisca ได้รับการสนับสนุนมากว่า 30 ปี และมีรากฐานที่ดีในการจัดหาส่วนผสมของยา เป็นบริษัทที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจเป็นพื้นฐาน และมอบข้อเสนอที่ครอบคลุม โดยเน้นคุณค่า ความเสถียรภาพ การตอบสนองที่ดี และความมุ่งมั่นในแบรนด์ ในฐานะพันธมิตรด้านสุขภาพ Medisca อุทิศตนเพื่อพัฒนาชีวิตท่ามกลางความคาดหวังและความต้องการของผู้คนมากมายมาตลอด สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medisca.com และติดตามเราได้ที่ LinkedInFacebookTwitter และ YouTube

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230727308061/en/

ติดต่อ

Gayle Padvaiskas
Vice President, Global Marketing
Medisca
gpadvaiskas@medisca.com
1-800-665-6334

แหล่งที่มา: Medisca

อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย การวิจัย การแพทย์ของจีนผงาดขึ้นแท่นอันดับต้น ๆ ของโลก: ปิดการประชุม International Skin Health Summit ปี 2023 ของ BOTANEE

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2023

Guo Zhenyu ประธานและผู้อำนวยการของ BOTANEE Group กล่าวว่า “ในปี 2015 เราได้ปรากฏตัวครั้งแรกในงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลกที่แวนคูเวอร์ (Vancouver WCD) ด้วยแบรนด์หลัก WINONA หลังจากผ่านไปแปดปี WINONA ได้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เน้นการใช้งานในประเทศจีน เราได้รับเชิญให้เข้าร่วมในงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลก (WCD) ถึง 3 ครั้งในปีนี้ และได้นำเสนอแบรนด์หลัก 4 แบรนด์ ผมหวังว่าหลังจาก 4 ปีผ่านไป แบรนด์เหล่านี้จะสร้างผลกระทบใหม่ๆ ให้กับงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลก (WCD) ทั้งในด้านวิชาการ เทคนิค คลินิก และผลกระทบทางสังคม”

2023 BOTANEE International Skin Health Summit (Photo: Business Wire)

2023 BOTANEE International Skin Health Summit (Photo: Business Wire)

ในระหว่างงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลก (WCD) ที่สิงคโปร์ BOTANEE Group ได้จัดงาน International Skin Health Summit ปี 2023 ในเวลาเดียวกัน โดยนำ 4 แบรนด์ได้แก่ WINONA, WINONA Baby, AOXMED และ Beforteen ขึ้นสู่เวทีโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งทางวิชาชีพขององค์กรแพทย์ผิวหนังชั้นนำของจีน

ศาสตราจารย์ He Li คณบดีผู้บริหารโรงพยาบาลโรคผิวหนังของโรงพยาบาลในเครือแห่งแรกของ Kunming Medical University ได้แบ่งปันประสบการณ์ในการประชุมนี้ เธอกล่าวว่าผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งและลดกระแบบ โฟร์ อิน วัน ที่มาพร้อมการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว ต้านการอักเสบ ลดการผลิตเม็ดสี และปรับปรุงการไหลเวียนของจุลภาค สามารถให้ผลการรักษาที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อใช้ภายนอกในช่วงที่มีฝ้าทั้งในระยะ active และ stable

จากข้อมูลระบาดวิทยาที่มีอยู่ อัตราความชุกของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ในเด็กอายุ 1-7 ปีในประเทศจีนอยู่ที่ 12.94% และอัตราความชุกของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ในทารกอายุ 1-12 เดือนอยู่ที่ 30.48% ศาสตราจารย์ Ma Lin ผู้อำนวยการแผนกโรคผิวหนังของโรงพยาบาลเด็กปักกิ่ง ในเครือของ Capital Medical University ชี้ให้เห็นว่า WINONA Baby Cream สามารถใช้เป็นครีมบำรุงประจำวันเพื่อผิวที่เนียนนุ่ม เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ในเด็กในระยะทุเลาได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เด็กจะเกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ซ้ำได้อย่างมากโดยคงผลการรักษาไว้

ด้วยการทำซ้ำอย่างต่อเนื่องของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อผลที่มีประสิทธิภาพและความต้องการของผู้บริโภค BOTANEE ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสร้างแบรนด์ ด้วยเหตุนี้ AOXMED จึงเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาอันชาญฉลาดของ BOTANEE มานานกว่าสิบปี ซึ่งยืนหยัดในการสำรวจเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิทยาศาสตร์ที่อิงตามหลักฐานสำหรับการบริโภคหลักสองประการในด้านความงามทางการแพทย์และชีวิตประจำวัน และนำเสนอโซลูชั่นการฟื้นฟูผิวที่เชื่อมโยงความงามทางการแพทย์และความงามที่ทำได้ที่บ้านไว้ด้วยกัน

ในตอนท้ายของฟอรัม ผู้เชี่ยวชาญได้อภิปรายถึงวิธีการทำให้การวินิจฉัยสิวระดับสูงของแพทย์ลงลึกไปถึงระดับรากหญ้า Beforteen ได้ให้แนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ ในฐานะแบรนด์รักษาสิวน้องใหม่ที่เปิดตัวโดย BOTANEE Beforteen และทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำกรณีศึกษามากกว่าหนึ่งล้านเคส และเมื่อรวมกับเซสชั่นการให้คำปรึกษาด้วย AI พวกเขาสามารถนำเสนอ “อาหาร+ยา+การแต่งหน้า” ในแบบเฉพาะบุคคลแก่ผู้ใช้แต่ละรายตามประเภทสิวต่างๆ

ตามรายงานประจำปี 2022 ของ BOTANEE บริษัทได้ลงทุนประมาณ 255 ล้านหยวนในค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 124.96% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีอัตราการวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงถึง 5.08% ในปีนี้ โรงงานกลางแห่งใหม่ของ BOTANEE ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 500 ล้านหยวน ได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของแบรนด์ต่อไป

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53448575/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wu Ling
อีเมล: wuling@winona.cn
เว็บไซต์: https://www.botanee.com.cn/index.html

แหล่งที่มา: BOTANEE Group

SciMed (Asia) บริษัทฝ่ายขายและบริการด้านชีววิทยาศาสตร์ในเครือของ PHC Holdings Corporation กลายเป็นบริษัทในเครืออย่างเต็มตัวจากการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจของ PHC Group เพื่อสนับสนุนนักวิจัยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพในเอเชียแปซิฟิก

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–15 มิถุนายน 2023

PHC Holdings Corporation (สำนักงานใหญ่: มินาโตะ โตเกียว ญี่ปุ่น, ประธาน กรรมการผู้แทน และซีอีโอ: Shoji Miyazaki ซึ่งต่อไปเรียกบริษัทนี้ว่า PHCHD) ประกาศว่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลืออีก 30% ของบริษัทในเครือ SciMed (Asia) Pte. Ltd. (สำนักงานใหญ่: สิงคโปร์ ซึ่งต่อไปเรียกบริษัทนี้ว่า SciMed) ทำให้ SciMed กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHCHD อย่างเต็มตัว โดยก่อนหน้านี้ PHCHD ถือหุ้นใน SciMed อยู่ 70% PHC Group บริษัทระดับโลกที่ประกอบด้วย PHCHD และบริษัทในเครือ จะใช้การซื้อกิจการครั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

SciMed นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึงตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำพิเศษและตู้อบ CO2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย นับตั้งแต่ปี 1992 PHC Group และกลุ่มบริษัทก่อนหน้าได้ร่วมมือกับ SciMed เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคเหล่านี้ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง ตลอดจนความเชี่ยวชาญในสาขาชีววิทยาศาสตร์ของ SciMed และความสามารถในการให้บริการของตน ในเดือนกรกฎาคม 2020 นั้น PHCHD เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน SciMed จาก 14.99% เป็น 70% ซึ่งทำให้กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHCHD*

ตลาดอุปกรณ์ชีววิทยาศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตอย่างมาก โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมและการสร้างสถาบันทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชีวเภสัชภัณฑ์ เช่น ยาแอนติบอดีและวัคซีน ในฐานะบริษัทในเครืออย่างเต็มตัว SciMed จะสามารถบรรลุความร่วมมือเชิงลึกกับแผนกและบริษัทในเครืออื่น ๆ ของ PHC Group และปรับปรุงโครงสร้างการขายและการตลาดทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย สิ่งนี้จะส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และเร่งการสร้างโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สนับสนุนนักวิจัยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่เผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาการรักษาขั้นสูง

Nobuaki Nakamura เจ้าหน้าที่องค์กรและหัวหน้าร่วมฝ่ายการวินิจฉัยและชีววิทยาศาสตร์ของ PHCHD กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ SciMed ในฐานะบริษัทในเครืออย่างเต็มตัวของเรา เราได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ SciMed กลายเป็นบริษัทในเครือในปี 2020 โดย SciMed มีความพร้อมที่ดีที่จะกลายเป็นสถานที่ปฏิบัติการในเอเชียสำหรับธุรกิจอื่น ๆ ของ PHC Group ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะขยายกิจกรรมการขายในธุรกิจที่มีอยู่และส่งเสริมการเข้าถึงขอบเขตของการรักษาขั้นสูงอย่างเต็มรูปแบบ เช่น เซลล์บำบัดและยีนบำบัด PHC Group จะยังคงสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างธุรกิจทั่วโลกของเรา และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมนักวิจัยในการพัฒนาวิธีการรักษาขั้นสูงเพื่อช่วยสร้างอนาคตของการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น"

ภาพรวมของ SciMed
ชื่อบริษัท: SciMed (Asia) Pte. Ltd.
สำนักงานใหญ่: สิงคโปร์
ก่อตั้ง: 1992
กรรมการผู้จัดการ: Sachihiko Kataoka
ธุรกิจ: การขายและบริการอุปกรณ์และสินค้าอุปโภคบริโภคด้านชีววิทยาศาสตร์
จำนวนพนักงาน: 75 (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2023)
จำนวนไซต์ธุรกิจ: 1

www.phchd.com/global/news/2020/0707

เกี่ยวกับ PHC Holdings Corporation

PHC Holdings Corporation (TSE 6523) เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มีพันธกิจในการสนับสนุนสังคมสุขภาพผ่านโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพที่มีผลกระทบเชิงบวกและพัฒนาชีวิตของผู้คน โดยมีบริษัทย่อยในเครือ ได้แก่ PHC Corporation, Ascensia Diabetes Care Holdings AG, Epredia Holdings Ltd., Wemex Corporation และ LSI Medience Corporation บริษัทเหล่านี้ร่วมกันพัฒนา ผลิต จำหน่าย และให้บริการโซลูชันด้านการจัดการโรคเบาหวาน โซลูชันด้านการดูแลสุขภาพ การวินิจฉัย และชีววิทยาศาสตร์ ยอดขายสุทธิรวมในปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 356.4 พันล้านเยน โดยมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการทั่วโลกในกว่า 125 ประเทศและภูมิภาค PHC Group เป็นคำเรียกรวมที่หมายรวมถึง PHC Holdings Corporation และบริษัทย่อยในเครือทั้งหมด
URL: www.phchd.com

เกี่ยวกับ SciMed (Asia) Pte. Ltd.

SciMed (Asia) Pte. Ltd. มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ เป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำในด้านชีวการแพทย์ ชีววิทยาศาสตร์ การดูแลสุขภาพ การค้นคว้ายา เวชภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการ การทดสอบทางอุตสาหกรรม และตลาดเกษตรกรรม SciMed ได้กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHC Holding Corporation อย่างเต็มตัวในปี 2023 เพื่อพัฒนาการขายและการตลาดในธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย
URL: scimed.com.sg/about-scimed

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ
Hiroko Arai
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
PHC Holdings Corporation
+81-3-6778-5311
อีเมล: phc-cp@gg.phchd.com

ฝ่ายการตลาด แผนกชีวการแพทย์
PHC Corporation
+80-4816-3259
อีเมล: masayo.okada@phchd.com

แหล่งที่มา: PHC HOLDINGS CORPORATION

ANANDA Scientific ประกาศผู้ป่วยรายแรกที่ลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA เพื่อประเมินการรักษาใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับโรควิตกกังวลทางสังคม (SAD)

Logo

นิวยอร์กและกรีนวูดวิลเลจ, รัฐโคโลราโด–(BUSINESS WIRE)–28 มีนาคม 2023 

ANANDA Scientific Inc., บริษัทชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัยได้ประกาศในวันนี้ว่าอาสาสมัครรายแรกได้รับการลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกกับ IND ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ซึ่งประเมินว่า Nantheia™ A1002N5S ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้ cannabidiol (CBD) ในเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA ในฐานะ การรักษาที่เป็นไปได้สำหรับ โรควิตกกังวลทางสังคม (SAD) National Center for Complimentary and Integrative Health (NCCIH ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ NIH) กำลังจัดหาเงินทุนสำหรับการทดลองนี้ซึ่งดำเนินการที่  NYU Grossman School of Medicine (ตัวระบุ Clinical Trials.gov: NCT05571592)

การพิจารณาคดีนี้นำโดยนักวิจัยหลัก Naomi Simon, MD, MSc., ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และผู้อำนวยการโครงการ Anxiety, Stress and Prolonged Grief Program ที่ NYU Grossman School of Medicine และ Esther Blessing, MD, PhD, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาคจิตเวชศาสตร์ที่โรงเรียนแพทย์ NYU Grossman การทดลองแบบควบคุมยาหลอกและปกปิดข้อมูลสองทางเป็นการศึกษา NantheiaTM A1002N5S เทียบกับยาหลอกในช่วงการรักษา 21 วัน โดยมีมาตรการผลลัพธ์หลักคือการเปลี่ยนแปลงในการทดสอบความเครียดทางสังคมของ Trier (TSST) ทำให้เกิดความวิตกกังวลและผลกระทบต่อตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่สร้างภาพประสาท

"เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่การศึกษาที่สำคัญนี้กำลังดำเนินการอยู่" ดร. Simon กล่าว "ความร่วมมือของเรากับ ANANDA ช่วยให้เราทำการศึกษาวิจัย CBD ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก NIH ได้สำเร็จ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกลไกและผลกระทบทางคลินิก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่มีศักยภาพของ CBD ในฐานะการรักษาตามหลักฐานแบบใหม่สำหรับความวิตกกังวลทางสังคม ความผิดปกติ สภาพที่น่าวิตกและไม่ได้รับการจัดการ"

ดร. Blessing ตั้งข้อสังเกตว่า "ผลการตรวจทางคลินิกเบื้องต้นสำหรับ CBD ในการรักษาความผิดปกติของความวิตกกังวลแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่คาดหวัง และเราหวังว่าจะสร้างผลลัพธ์ก่อนการตรวจทางคลินิกเหล่านี้ในการศึกษานี้"

"การลงทะเบียนอาสาสมัครรายแรกในการทดลองที่สำคัญนี้เป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับโครงการพัฒนาทางคลินิกของ ANANDA"  Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDAกล่าว "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทีมวิจัยของ NYU ในการประเมินยาที่กำลังศึกษาวิจัยของเรา Nantheia A1002N5S โดยมีข้อบ่งชี้ถึงความต้องการทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ"

เกี่ยวกับ NANTHEIA™ A1002N5S

Nantheia™ A1002N5S เป็นยาที่ใช้ในการวิจัยซึ่งใช้ cannabidiol ในเทคโนโลยีการนำส่งโครงสร้างของเหลวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA การศึกษาทางคลินิกเบื้องต้นและเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ของ ANANDA (ได้รับใบอนุญาตจาก  Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพและความเสถียรของ cannabidiol Nantheia™ A1002N5S เป็นผลิตภัณฑ์ทางปากที่มี cannabidiol 50 มก. ต่อแคปซูลซอฟต์เจล

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น PTSDอาการปวดที่เส้นประสาทคอความวิตกกังวล และความผิดปกติของการใช้สารกลุ่มฝิ่น (ภูเขาซีนาย และ มหาวิทยาลัย UCLA) บริษัทใช้เทคโนโลยีการนำส่งที่ได้รับสิทธิบัตร (ได้รับใบอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltdในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) เพื่อผลิตสารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ทางชีวภาพได้ ละลายน้ำได้และอายุการเก็บรักษาคงที่และมุ่งเน้นการผลิตเภสัชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพระดับพรีเมียม บริษัทกำลังขยายฐานการวิจัยผ่านข้อตกลงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนหลายฉบับกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อกระจายผลงานทางคลินิก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53368701/en

รายชื่อติดต่อ

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

ที่มา: ANANDA Scientific Inc.

งานประชุม ‘Medical Korea 2023 Conference’ เกี่ยวกับโอกาสของอุตสาหกรรมการแพทย์ทั่วโลกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มีนาคมที่ Coex

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–22 มีนาคม 2023

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare – MOHW) และ สถาบันพัฒนาอุตสหกรรมเกาหลี (Korea Health Industry Development Institute – KHIDI) จะเป็นเจ้าภาพงาน Medical Korea 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ระดับโลก ในโซลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม (วันพฤหัสบดี) ถึง 24 มีนาคม (วันศุกร์), 2023

Medical Korea 2023 Conference, which celebrates its 13th this year, will be held as a large-scale offline event in three years after the outbreak of COVID-19, from March 23 to 24 at Coex in SEOUL. (Graphic: Business Wire)

การประชุม Medical Korea 2023 ซึ่งฉลองครบรอบ 13 ปีในปีนี้ จะจัดขึ้นเป็นงานออฟไลน์ขนาดใหญ่ในรอบ 3 ปีหลังจากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 24 มีนาคมที่ Coex ในกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

การประชุมจะจัดขึ้นเป็นกิจกรรมออฟไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังจากการระบาดของ โควิด-19

Medical Korea 2023 เป็นหนึ่งในการประชุมด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี โดยมีเป้าหมายให้อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพของเกาหลีเป็นโลกาภิวัตน์

การประชุมเริ่มต้นด้วยการบรรยายประเด็นสำคัญโดย Jamie Metzl นักอนาคตด้านเทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพ และ Hwang Hee ซีอีโอของ Kakao Healthcare การบรรยายประกอบด้วย 4 ฟอรัมและการสัมมนา 6 รายการซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ การฝึกอบรมออนไลน์ บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล การดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล และกลยุทธ์การขยายขนาดสำหรับธุรกิจการแพทย์ระหว่างประเทศในระดับภูมิภาค โดยมีวิทยากร 65 คนเข้าร่วม

โปรแกรมต่างๆ เช่น การประชุมทางธุรกิจ นิทรรศการ (ศูนย์ประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัลและห้องโถงส่งเสริมสำหรับระบบการประเมินและรับรองผู้ป่วยต่างชาติ) การประชุม G2G ฯลฯ มีไว้เพื่อส่งเสริมการค้นพบช่องทางเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ผ่านการแลกเปลี่ยนระหว่าง ผู้ซื้อในต่างประเทศและผู้ขายในประเทศ และการขยายสู่ตลาดต่างประเทศโดยอุตสาหกรรมสุขภาพ

ในฟอรัม ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจแนวโน้มล่าสุดในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพทั่วโลกและโอกาสสำหรับความร่วมมือด้านการดูแลสุขภาพผ่านนโยบายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ทำนายการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพที่เกิดจากการแพร่กระจายของ My Data และเรียนรู้ความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรม จากประเทศมองโกเลียและอุซเบกิสถานในโครงการอบรมส่งเสริมธุรกิจ MKA e-class เป็นต้น

ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากร ได้แก่

  • Mohd Daud Mohd Arif (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, Malaysia Healthcare Travel Council (MHTC))
  • Napas Paorohitya (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์)
  • Hiang Khoon Tan (ผู้อำนวยการ, SingHealth Duke-NUS Global Health Institute -SDGHI)
  • Dmytro Butov (ศาสตราจารย์ภาควิชา Phthisiology and Pulmonology, Kharkiv National Medical University)
  • Kim Ju Han (ศาสตราจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล)

KHIDI ได้กำหนดให้ 'เฉพาะถิ่น', 'การแพทย์ทางไกล', 'บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล', 'การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์' และ 'การบำบัดดิจิทัล (Digital Therapeutics – DTx)' เป็นคำหลัก 5 อันดับแรกสำหรับเทรนด์การดูแลสุขภาพทั่วโลกในปี 2566

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Medical Korea 2023:  www.mkconf.org  เวทีหลักในการประชุม Medical Korea 2023:  https://mkconf.org/fairProgram.do?selAction=single_page&program_idx=50&program_type=P&hl=ENG&FAIRMENU_IDX=12605#/

ชมภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53364494/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Medical Korea 2023
Hwan Guk Park
+82-43-713-8972
hwank21@khidi.or.kr

ที่มา: สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพเกาหลี (KHIDI)

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกาและ ANANDA Scientific ประกาศผู้ป่วยรายแรกที่ลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกซึ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD)

Logo

โอมาฮ่า, Neb. & GREENWOOD VILLAGE, Colo.–( BUSINESS WIRE )–14 มีนาคม 2023

วันนี้ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา (UNMC) and ANANDA Scientific Inc. ประกาศในวันนี้ว่าผู้ป่วยรายแรกได้รับการลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA เพื่อประเมิน Nantheia™ ATL5 ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้แคนนาบิไดออลในเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA สำหรับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD ) (ClinicalTrials.gov ตัวระบุ NCT05269459 )

Pictured above is principal investigator Matthew Rizzo, MD, FAAN, FANA, and Ananda Scientific CEO Sohail Zaidi. (Photo: Business Wire)

ภาพด้านบนคือผู้วิจัยหลัก Matthew Rizzo, MD, FAAN, FANA และ Sohail Zaidi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ananda Scientific (ภาพ: Business Wire)

การทดลองนี้นำโดยผู้วิจัยหลัก Matthew Rizzo, MD, FAAN, FANA, ศาสตราจารย์ Reynolds และประธานของ UNMC Department of Neurological Sciences, หัวหน้าแพทย์ด้านบริการระบบประสาทที่ Nebraska Medicine และหัวหน้าแพทย์สำหรับโปรแกรมทางคลินิกด้านประสาทวิทยาศาสตร์ที่ Nebraska Medicine

ดร. ริซโซกล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มีการทดลองที่สำคัญนี้" “ความร่วมมือของเรากับ ANANDA Scientific ช่วยให้เราสามารถพัฒนาการวิจัยที่อิงตามหลักฐานไปสู่วิธีการรักษาแบบใหม่สำหรับผู้ป่วย PTSD จำนวนมาก”

ทีมวิจัยของ Dr. Rizzo ประกอบด้วย Jennifer Merickel, PhD  นักประสาทวิทยาด้านความรู้ความเข้าใจและผู้ช่วยศาสตราจารย์ในภาควิชาวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยาของ UNMC และ Brigette Soltis-Vaughan พยาบาลวิชาชีพชั้นสูง แพทย์ และนักวิจัยในแผนกจิตเวชศาสตร์ของ UNMC และอาจารย์ในแผนกวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยาของ UNMC

"การลงทะเบียนผู้ป่วยรายแรกในการทดลองทางคลินิก PTSD ครั้งที่สองของเราเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงการพัฒนาทางคลินิกของ ANANDA" Sohail R. Zaidi ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ANANDA กล่าว “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทีมวิจัยของ UNMC ในการประเมินยาที่มีแนวโน้มของเราสำหรับสภาวะที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมอย่างมากนี้"

การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มตัวอย่างแบบปกปิดสองทาง ควบคุมด้วยยาหลอก ระยะที่ 2 นี้ กำลังวางแผนที่จะลงทะเบียนผู้เข้าร่วม 180 คน เพื่อให้มีการประเมินอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Nantheia™ ATL5

เกี่ยวกับ NANTHEIA™ ATL5

Nantheia™ ATL5  เป็นยาที่ใช้ในการวิจัยซึ่งใช้แคนนาบิไดออลในเทคโนโลยีการนำส่งโครงสร้างของเหลวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA การศึกษาทางคลินิกเบื้องต้นและเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ของ ANANDA (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของแคนนาบิไดออล Nantheia™ ATL5 เป็นผลิตภัณฑ์ทางปากที่มีแคนนาบิไดออล 100 มก. ต่อแคปซูลซอฟเจล

เกี่ยวกับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา

ในฐานะที่เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์สาธารณสุขเชิงวิชาการเพียงแห่งเดียวของรัฐเนแบรสกา UNMC มุ่งมั่นที่จะให้การศึกษาบุคลากรด้านการดูแลสุขภาพในศตวรรษที่ 21 เพื่อค้นหาวิธีรักษาและการรักษาโรคร้ายแรง ให้การดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุดและให้บริการรัฐและชุมชนผ่านการชนะรางวัล UNMC มีวิทยาลัยหกแห่ง สองสถาบัน และหลักสูตรการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ให้บริการนักศึกษามากกว่า 4,400 คนใน 90 หลักสูตร นักวิจัยที่ UNMC ดำเนินการวิจัยที่ทันสมัยในด้านวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยา มะเร็งวิทยา โรคติดเชื้อ และสาขาสำคัญอื่นๆ

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น  PTSDอาการปวดจากหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท, อาการวิตกกังวล และอาการผิดปกติจากการใช้โอปิออยด์ (ภูเขาซีนายและ UCLA) บริษัทใช้เทคโนโลยีการจัดส่งที่จดสิทธิบัตรเพื่อทำให้สารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากพืชอื่นๆ มีชีวภาพสูง ละลายน้ำได้ และมีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร และมุ่งเน้นที่การผลิตเภสัชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพระดับพรีเมียม บริษัทกำลังขยายฐานการวิจัยผ่านข้อตกลงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนหลายฉบับกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อกระจายผลงานทางคลินิก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53361193/en

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ ANANDA Scientific | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

ที่มา: ANANDA Scientific Inc.

 

Medidata สนับสนุนความหลากหลายในการทดลองทางคลินิก ผ่านการศึกษา 30,000 ครั้งและผู้เข้าร่วม 9 ล้านคน

Logo

ความสำเร็จครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยนวัตกรรมที่ต่อเนื่องซึ่งสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของชีววิทยาศาสตร์

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–2 มีนาคม 2023

เป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการทดลองทางคลินิก Medidata บริษัทในเครือ Dassault Systèmes มีการทดลองทางคลินิกมากกว่า 30,000 ครั้งและผู้เข้าร่วมการศึกษา 9 ล้านครั้ง ความสำเร็จครั้งสำคัญเหล่านี้ที่ประสบความสำเร็จร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกกว่า 2,100 ราย ได้รับแรงหนุนจากแพลตฟอร์มของ Medidata และโซลูชันด้านชีววิทยาศาสตร์ที่ขับเคลื่อนการรักษาอย่างชาญฉลาดและทำให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ผลักดันให้เข้าถึงการทดลองได้มากขึ้น

“ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนผู้ป่วยและผู้เข้าร่วมการศึกษา ฉันเข้าใจถึงความสำคัญของเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้” แอนน์ มารี เมอร์คิวริโอ ผู้สนับสนุนการวิจัยและประธานคณะกรรมการข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วยของ Medidata กล่าว “และนอกเหนือจากตัวเลขและข้อมูลแล้ว ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Medidata ในการรวมความคิดเห็นของผู้ป่วยเข้ากับการออกแบบการทดลองและการแก้ปัญหา กำลังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีและครอบคลุมมากขึ้นสำหรับผู้เข้าร่วมการศึกษาทางคลินิกทุกคน”

Medidata มีแพลตฟอร์มที่เจาะลึกและกว้างที่สุดในโปรแกรมการบุกเบิก ซึ่งรวมถึงการทดลองทางคลินิกแบบไร้ศูนย์กลาง การเพิ่มความหลากหลายในการศึกษาทางคลินิก และโซลูชัน AI ขั้นสูงสำหรับการออกแบบและการจำลองการทดลอง การเลือกสถานที่ และแขนควบคุมสังเคราะห์ และเทคโนโลยีและบริการของ Medidata กำลังขับเคลื่อนคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้า ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเร็วขึ้น รวมทั้งประหยัดเวลาโดยเฉลี่ยในการสร้างการศึกษาหนึ่งเดือนและสองเดือนในการดำเนินการศึกษา

Rose Kidd ประธานฝ่าย Operations Delivery ของ ICON แสดงความคิดเห็นว่า "ที่ ICON เทคโนโลยีเป็นแกนหลักในการส่งมอบความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผ่านทางเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเพื่อทำงานร่วมกับผู้นำในสายงานของพวกเขา เช่น Medidata ICON มีประวัติอันยาวนานกับ Medidata ในฐานะพันธมิตร CRO รายแรก เราภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชันชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการพัฒนาทางคลินิกอย่างดีที่สุดในระดับเดียวกัน"

Maribel Hernandez รองประธานฝ่ายปฏิบัติการทางคลินิกและโครงการพิเศษของ PTC Therapeutics กล่าวว่า "การทดลองทางคลินิกในโรคหายากมีความซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ ตั้งแต่มาเป็นลูกค้าของ Medidata ในปี 2016 เราได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของพวกเขา และได้รับประสิทธิภาพในการนำยาใหม่ๆ ไปสู่ผู้ป่วยที่ต้องการ”

Mike McDevitt รองประธานอาวุโสฝ่าย Biometrics ของ Syneos Health กล่าวว่า "เราร่วมมือกับ Medidata มานานกว่า 16 ปี และในช่วงเวลานี้ ความทุ่มเทของบริษัทในการให้บริการและนวัตกรรมการทดลองทางคลินิกได้ช่วยให้ Syneos Health สามารถให้บริการลูกค้าของเราและเร่งความเร็ว การพัฒนายาและอุปกรณ์ Medidata มีส่วนสนับสนุนที่ก้าวล้ำในด้านเทคโนโลยีและการวิจัยทางคลินิก ซึ่งเป็นผลงานที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมของเรา และเรายินดีที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาในการเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญในการดำเนินงานที่สำคัญเหล่านี้”

Pascal Daloz ซีอีโอของ Medidata กล่าวว่า "ความสำเร็จในการทดลอง 30,000 ครั้งนี้เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งและเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานอย่างหนักของหลายๆ คนใน Medidata ที่สนับสนุนการทดลอง พัฒนานวัตกรรมด้าน AI และให้บริการลูกค้าโดยให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นอันดับแรก" Pascal Daloz ซีอีโอของ Medidata กล่าว “เราขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการทดลอง 9 ล้านคนที่เลือกการทดลองทางคลินิกเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการรักษาพยาบาลของพวกเขา และลูกค้าที่ร่วมมือกับเราเพื่อพัฒนาสุขภาพของมนุษย์…และเราเพิ่งเริ่มต้น!”

การใช้ประโยชน์จากปริมาณการทดลอง ผู้ป่วย และข้อมูลนี้ ทำให้ Medidata ให้ผลลัพธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม ด้วยการศึกษาที่ดำเนินการในกว่า 140 ประเทศ Medidata มีส่วนร่วมในการทดลองเกือบ 40% ที่บริษัทริเริ่มขึ้นทั่วโลก ประมาณ 70% ของยาใหม่ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 2022 ได้รับการพัฒนาด้วยซอฟต์แวร์ Medidata และในส่วนที่สำคัญของการวิจัยโรคที่หายาก Medidata ได้สนับสนุนการศึกษามากกว่า 2,000 เรื่องที่เป็นตัวแทนของผู้เข้าร่วมมากกว่า 320,000 คน

ดูเอกสารข้อมูล Medidata ของเรา และตรวจสอบรางวัลและการยอมรับของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ซึ่งมีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ที่อยู่ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของวิทยาศาสตร์ชีวภาพในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลด้วยแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงการค้า

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของวิทยาศาสตร์ชีวภาพ สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata ช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์การแพทย์และการวินิจฉัย ตลอดจนนักวิจัยเชิงวิชาการเร่งสร้างมูลค่า ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่าหนึ่งล้านรายในลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,100 ราย เข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาข้อมูลทางคลินิก ข้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง Medidata บริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ค้นพบเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systems

Dassault Systèmes บริษัท 3DEXPERIENCE เป็นตัวกระตุ้นความก้าวหน้าของมนุษย์ เราจัดเตรียมสภาพแวดล้อมเสมือนจริง 3 มิติสำหรับการทำงานร่วมกันให้กับธุรกิจและผู้คน เพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างประสบการณ์แฝดเสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราจึงขยายขอบเขตของนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิตเพื่อบรรลุโลกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับผู้ป่วย ประชาชน และผู้บริโภค Dassault Systèmes นำคุณค่ามาสู่ลูกค้ามากกว่า 300,000 รายทุกขนาด ในทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ชาวฝรั่งเศส “ société européenne” (Versailles Commercial Register # B 322 306 440) หรือบริษัทสาขาในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่นๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53354688/en

ติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.comthomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

ที่มา: Medidata

ระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่องรุ่น Dexcom G6 เปิดตัวแล้วที่สิงคโปร์

Logo

ระบบ CGM รูปแบบใหม่อันทันสมัยจะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องคอยเจาะปลายนิ้วอีกต่อไป

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–28 กุมภาพันธ์ 2023

ในวันนี้ Dexcom, Inc. (NASDAQ:DXCM) ซึ่งเป็นผู้นำระดับสากลด้านระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง (CGM) แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ได้ประกาศเปิดตัวระบบ CGM รุ่น Dexcom G6 ในสิงคโปร์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปรวมถึงผู้ตั้งครรภ์ ทั้งยังประกาศแต่งตั้งให้ DKSH Singapore Pte Ltd เป็นผู้ให้บริการด้านการขาย การตลาด และการจัดจำหน่ายอีกด้วย

ระบบ Dexcom G6 นี้จะใช้เซนเซอร์ขนาดเล็กแบบสวมพกพาและตัวส่งสัญญาณเพื่อคอยวัดและส่งระดับน้ำตาลกลูโคสแบบไร้สายไปยังตัวรับสัญญาณหรืออุปกรณ์อัจฉริยะที่ใช้คู่กันได้ ผู้ป่วยจึงเห็นข้อมูลระดับน้ำตาลกลูโคสได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเจาะปลายนิ้ว ระบบนี้ยังมาพร้อมการแจ้งเตือนและสัญญาณเตือนที่ปรับแต่งได้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนอยู่ในขีดอันตราย

คุณ Scott Moss ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธาน Dexcom ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า "การเปิดตัว Dexcom G6 ในสิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทเรา" ก่อนกล่าวต่อไปว่า "การเปิดตัวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ Dexcom CGM ให้บริการแก่ผู้คนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจากการที่เราได้เปิดสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ เราหวังว่าจะนำ Dexcom CGM เข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ในภูมิภาคนี้ในอนาคตอันใกล้"

แอป Dexcom G6 สำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android ที่เข้ากันได้ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแชร์ข้อมูลน้ำตาลกลูโคสกับผู้ติดตามได้สูงสุด 10 ราย ซึ่งช่วยให้ครอบครัว บุคคลอันเป็นที่รัก และผู้ให้บริการดูแลด้านสุขภาพสามารถติดตามผู้ป่วยจากระยะไกลเพื่อให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Dexcom G6 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้:

  • ช่วยให้ไม่ต้องเจาะนิ้วเพื่อปรับเทียบและตัดสินใจดำเนินการรักษาโรคเบาหวาน
  • ส่งค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth ไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่เข้ากันได้ * หรือไปยังตัวรับสัญญาณของ Dexcom โดยเว้นระยะ 5 นาที
  • การแจ้งเตือนและสัญญาณเตือนที่ปรับแต่งได้ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือน Urgent Low Soon (จะถึงระดับต่ำฉุกเฉินในอีกไม่ช้า) ซึ่งสามารถเตือนผู้ใช้ล่วงหน้าได้ถึง 20 นาทีก่อนจะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemic) ระดับฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการป้องกันได้
  • การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์กับแอป Dexcom G6 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลน้ำตาลกลูโคสของตนกับผู้ติดตามได้สูงสุดสิบคน ในการคอยติดตามระดับน้ำตาลกลูโคสของผู้ใช้เพื่อให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น
  • เซนเซอร์ที่อยู่ได้ 10 วัน ช่วยให้รองรับการสวมใส่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
  • เครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็ก กะทัดรัดยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้สวมใส่ได้โดยไม่ดูโดดเด่นนัก
  • ตัวติดเซนเซอร์อัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ติดเซนเซอร์ได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม
  • ตัวรับสัญญาณที่ออกแบบขึ้นมาใหม่พร้อมหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัส (จะใช้อุปกรณ์ตัวรับสัญญาณ/แสดงผลหรือไม่ก็ได้)
  • เมมเบรนเซนเซอร์รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ใช้ยาอะเซตามีโนเฟนได้โดยไม่ส่งผลต่อค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้แต่อย่างใด §

ระบบ CGN รุ่น Dexcom G6 จะเชื่อมต่อกับแอป Dexcom G6 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store ของ Apple หรือ Google Play store เพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะของ Apple หรือ Android ที่เข้ากันได้ หรือผู้ป่วยจะดูค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้บนตัวรับสัญญาณที่มีหน้าจอสัมผัส Dexcom G6 (ติดตั้งหรือไม่ก็ได้) ซึ่งมีให้เลือกซื้อแยกต่างหากก็ได้

CGM รุ่น Dexcom G6 ได้รับการอนุมัติจาก HSA ของสิงคโปร์เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และชาวสิงคโปร์สามารถใช้งานได้แล้วในเดือนนี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dexcom G6 ที่ www.dexcom.com/sg

เกี่ยวกับ Dexcom, Inc.

DexCom, Inc. ช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง (CGM) อันทันสมัย บริษัท Dexcom ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการรักษาโรคเบาหวาน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และดำเนินงานอยู่ทั่วยุโรปรวมถึงเอเชีย/โอเชียเนียบางส่วน การรับฟังความต้องการของผู้ใช้ ผู้ดูแล และผู้ให้บริการช่วยให้ Dexcom สามารถลดความซับซ้อนและปรับปรุงการจัดการโรคเบาหวานทั่วโลกให้ดีขึ้นได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dexcom ที่ https://www.dexcom.com/en-us/about-dexcom

_________________________

*โปรดดูรายการอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ที่ www.dexcom.com/compatibility

หากการแจ้งเตือนเกี่ยวกับน้ำตาลกลูโคสและค่าที่อ่านได้จาก G6 ไม่สอดคล้องกับอาการหรือที่คาดไว้ ให้ใช้เครื่องตรวจน้ำตาลกลูโคสในเลือดเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาโรคเบาหวาน

จำเป็นต้องมีแอป Follow แยกต่างหาก

§ค่าที่อ่านได้จาก G6 สามารถใช้เพื่อตัดสินใจด้านการรักษาโรคเบาหวานได้ เมื่อใช้ยาอะเซตามีโนเฟนไม่เกิน 1,000 มก. ทุก 6 ชั่วโมง การใช้ยาในปริมาณมากกว่านี้อาจส่งผลต่อค่าที่อ่านได้จาก G6

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บุคคลติดต่อ

บุคคลติดต่อสำหรับสื่อ:
Patrick Ho: Sr. Manager, New Business Development
Patrick.ho@dexcom.com

James McIntosh: Director, Global Public Relations
James.mcintosh@dexcom.com

แหล่งที่มา: Dexcom, Inc.

The Bangkok Reporter