12Go เผยจุดหมายปลายทางปีใหม่ยอดนิยมในเอเชียประจำปี 2024

Logo

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2023

12Go เปิดเผยรายชื่อจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในเอเชียที่ดีที่สุดสำหรับช่วงฤดูหนาวแล้ว โดยรายชื่อนี้อ้างอิงตามข้อมูลตั๋วภายในที่รวบรวมโดย 12Go  หลังจากการวิเคราะห์ตั๋วที่ขายตลอดทั้งปี 12Go ได้ระบุจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมที่เหมาะสำหรับนักเดินทางกลุ่มต่างๆ รวมไปถึงนักเดินทางคนเดียว คู่รัก ครอบครัว และเพื่อนฝูง ซึ่งประเทศที่โดดเด่นจำนวน 10 อันดับได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินเดีย กัมพูชา อินโดนีเซีย ศรีลังกา ลาว มาเลเซีย และญี่ปุ่น

ประเทศไทยได้อันดับหนึ่ง โดยมีเชียงใหม่และกรุงเทพฯ นำเสนอที่เที่ยวยอดเยี่ยมให้กับนักเดินทางทุกคน สถานที่ยอดนิยมสำหรับนักเดินทางคนเดียวคือเกาะพะงัน ในขณะที่ผู้เดินทางแบบครอบครัวนิยมไปเที่ยวเกาะสมุยกัน

เวียดนามคว้าอันดับ 2 โดยมีดานัง ฮานอย และโฮจิมินห์ซิตี้ ที่มอบการตกแต่งเมืองสุดครึกครื้น การจัดแสดงต่างๆที่เป็นศิลปะ และความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ซาปาเป็นสถานที่พักผ่อนช่วงฤดูหนาวที่แนะนำสำหรับผู้เดินทางแบบครอบครัว ในขณะที่ถนนอันพลุกพล่านของฮานอยรอคอยนักผจญภัยที่เดินทางตัวคนเดียว

ฟิลิปปินส์ครองอันดับ 3 นำเสนอการฉลองปีใหม่ที่ยาวนานและไม่เหมือนใคร กรุงมะนิลาและเอลนิโดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางทุกคน ในขณะที่นักเดินทางคนเดียวมักเลือกเลกัซปี ส่วนนักท่องเที่ยวแบบเพื่อนฝูงและคู่รักมักจะถูกใจโครอน และผู้ที่ท่องเที่ยวแบบเป็นครอบครัวมักมองว่า เอล บาเกียวเป็นสถานที่ที่น่าเที่ยว

อินเดียอยู่ในอันดับที่ 4 โดยที่อัครา ชัยปุระ และเดลี เป็นตัวเลือกหลักสำหรับการเดินทางช่วงปีใหม่ในหมู่นักเดินทางทุกประเภท อย่างไรก็ตาม หลายครอบครัวเลือกที่จะสำรวจรัฐกัวในช่วงฤดูกาลนี้เช่นกัน

ประเทศกัมพูชาจองอันดับ 5 โดยสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการเฉลิมฉลองปีใหม่ ได้แก่ พนมเปญ สีหนุวิลล์ และเสียมราฐ

อันดับที่ 6 ได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ บาหลีและหมู่เกาะกีลี นักเดินทางคนเดียวและครอบครัวมักไปที่ซานูร์ ในขณะที่นูซา เปอนีดาเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเพื่อนและคู่รัก

ศรีลังกาได้อันดับที่ 7 สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างเอลลา แคนดี และนูวารา เอลิยา ส่วนโคลัมโบเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางคนเดียว ในขณะที่ นูวาราเอลิยา เหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัวนักเดินทาง

ประเทศลาวคว้าอันดับที่ 8 มาด้วยวังเวียง เวียงจันทน์ และหลวงพระบาง

ประเทศมาเลเซียมีจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง และลังกาวี ต่างก็นำเสนอวันหยุดพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร นำมาซึ่งตำแหน่งอันดับที่ 9

ส่วนอันดับที่ 10 ได้แก่ ญี่ปุ่น – โอซาก้า โตเกียว และเกียวโต ต่างก็เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนช่วงปีใหม่ที่ดึงดูดนักเดินทางแทบทุกคน

ที่มา: 12Go 12go.com/en/articles/top-new-year-destinations

เกี่ยวกับ: 12Go เป็นแพลตฟอร์มการเดินทางชั้นนำที่นำเสนอบริการจองการเดินทาง ช่วยให้นักเดินทางจองรถบัส เรือเฟอร์รี่ รถไฟ รถรับส่งสนามบิน และเที่ยวบินต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tetiana But ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด tetiana.but@12go.asia

ที่มา: 12Go

Jeonju: ที่สุดของเมืองเกาหลี

Logo

รสนิยม Jeonju’

JEONJU, South Korea–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2023

Jeonju City เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในเกาหลี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเกาหลีที่สามารถรักษาความเป็นเกาหลีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

Jeonju is rich in cultural treasures and historic landmarks steeped in history and culture. (Photo: Jeonju City)

Jeonju เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (ภาพถ่าย: Jeonju City))

Jeonju มีชื่ออย่างเป็นทางการในปี 757 เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีรากฐานในประวัติศาสตร์เกาหลี เมืองนี้ยังคงรักษาประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมดั้งเดิมในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ Joseon

Jeonju อุดมไปด้วยสมบัติทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เด็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม Jeonju Hanok VillageGyeonggijeonPungnammun GatePungpaejigwan (Jeonju Guesthouse) และ Jeolla Gamyeong ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง และ Jeonju IC, Jeonju Station และ Honam Jeilmun Gate โดยแต่ละแห่งทำหน้าที่เป็นประตูหลักสู่ Jeonju City ซึ่งอยู่ในรูปแบบของฮันอก

Jeonju ได้รับเลือกให้เป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์ด้านอาหารของ UNESCO และเป็นเมืองแห่งอาหารรสเลิศ Jeonju เป็นแหล่งกำเนิดของอาหารขึ้นชื่อของเกาหลีอย่าง bibimbap และเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวแบบเพลิดเพลินกับอาหารเอร็ดอร่อย โดยคุณสามารถลิ้มลองอาหารที่หลากหลายตั้งแต่ซุปถั่วงอกไปจนถึง Korean Table d'hôte

ใน Jeonju Hanok Village เป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมสวมชุดฮันบกอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีไปเดินเล่นตามถนน มีการแสดงดนตรีเกาหลีแบบดั้งเดิม เช่น แพนโซริ ดนตรีเกาหลีแบบฟิวชั่น และป็อบ Joseon ที่ผสมผสานความรู้สึกสมัยใหม่เข้ากับดนตรีแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถเข้าเยือนได้ตลอดทั้งปี

Jeonju เป็นเมืองที่มีสมบัติประจำชาติที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในเกาหลี คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์อันประณีตที่ผลิตโดยช่างฝีมือในเมืองมรดกระดับโลกแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ National Intangible Heritage Center และ ICHCAP ภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO Jeonju ยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของ “Hanji” ซึ่งเป็นกระดาษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

Jeonju เมืองซึ่งเป็นที่รู้จักด้านงานเทศกาลต่างๆ โดยจะมีการจัดงาน ‘Jeonju International Film Festival’ ในทุกฤดูใบไม้ผลิ เช่นเดียวกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมและเทศกาลต่างๆ ที่รวบรวมเอกลักษณ์ของ Jeonju ตลอดทั้งปี เช่น  Jeonju Bibimbap FestivalJeonju Hanji Culture FestivalJeonju International Sori Festival และเทศกาลประจำ Jeonju City ที่เรียกว่า Jeonju Festa

Woo Beom-ki นายกเทศมนตรีเมือง Jeonju กล่าวว่า “Jeonju เป็นเมืองแห่งทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์และความสามารถทางวัฒนธรรม มุ่งมั่นที่จะนำเสนอประวัติศาสตร์ที่แท้จริงดั้งเดิม และเสริมสร้างเอกลักษณ์ด้วยการอนุรักษ์ทรัพย์สินอันมีค่า ขณะเดียวกัน ก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างแน่วแน่ เฉพาะในสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ฉันหวังว่า นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์และมีความทรงจำที่สวยงามเกี่ยวกับ Jeonju ซึ่งเป็นที่สุดของเมืองเกาหลี แหล่งผสมผสานประเพณีและความทันสมัยเข้าด้วยกัน”

– เว็บไซต์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของ Jeonju: https://tour.jeonju.go.kr/eng/index.jeonju

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863442/en

ติดต่อ

JEONJU CITY
Ho-jin Park
+82-63-281-2226
mirano10@korea.kr

แหล่งข้อมูล: JEONJU CITY


การถ่ายทอดสดงาน Tokushima International Consumer’s Forum 2023 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2023

Logo

โทคุชิมะ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–12 ตุลาคม 2023

จังหวัดโทคุชิมะจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน "Tokushima International Consumer’s Forum 2023" ภายใต้หัวข้อ "การเสริมพลังผู้บริโภคในยุคดิจิทัล" เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยจากภายในจังหวัดโทคุชิมะและภูมิภาคอาเซียนและอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงของผู้บริโภคและมาตรการรับมือที่เกิดจาก "ความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล”

The world famous Awa Dance has a 400 years’ history. The story of its origin varies. It is said that Awa Dance was performed often around the time Hachisuka Iemasa, a feudal load of Tokushima, entered Tokushima in 1586, and hoarded the wealth produced by the indigo and salt trades. Later, indigo traders played an active part and made the dance even more gorgeous year by year. Awa Dance was established in the civil society and flourished as a free-form of mass entertainment. Especially, after World War II, it developed rapidly as a symbol of reconstruction. Nowadays, Awa Dance is well-known around the world as a representative of Japan’s traditional arts. (Photo: Business Wire)

การเต้นรำอาวะซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกนั้นมีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ต้นกำเนิดของมันมีเรื่องราวที่มาแตกต่างกันไป กล่าวกันว่าการเต้นรำอาวะได้จัดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงยุคสมัยของ Hachisuka Iemasa ซึ่งเป็นกลุ่มศักดินาของโทคุชิมะได้เข้ามาสู่โทคุชิมะในปี 1586 และสะสมความมั่งคั่งที่เกิดจากการสีย้อมและเกลือ ต่อมาบรรดาผู้ค้าสีย้อมก็เข้ามามีส่วนร่วมและทำให้การเต้นรำนี้งดงามยิ่งขึ้นทุกปี การเต้นรำอาวะถือกำเนิดขึ้นในสังคมพลเมืองและเจริญรุ่งเรืองในฐานะความบันเทิงของมวลชนอันมีรูปแบบอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การเต้นรำอาวะได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนเป็นสัญลักษณ์ของการบูรณะใหม่ ปัจจุบันกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะตัวแทนของศิลปะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (รูปภาพ: Business Wire)

ผู้บริโภคต้องเผชิญกับอันตรายอะไรบ้างในสังคมดิจิทัลที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ ผู้บริโภคจะป้องกันตัวเองได้อย่างไรในขณะที่ยังคงเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายของสังคมดิจิทัล อีกทั้งผู้บริโภคมีบทบาทอย่างไรในยุคใหม่นี้

เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ ผู้นำผู้บริโภคและผู้นำรุ่นต่อไปจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่โทคุชิมะ ซึ่งเป็นผู้นำของญี่ปุ่นในด้านนโยบายผู้บริโภคร่วมกับสำนักงานใหญ่เชิงกลยุทธ์ของหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคญี่ปุ่น (Consumer Affairs Agency: CCA) บัดนี้ เราเสนอแนวทางบริโภคนิยมรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัลจากโทคุชิมะสู่โลก

การประชุมแสดงความคิดเห็นจะมีการถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ด้านล่าง เราหวังว่าการประชุมที่กำลังจะมาถึงนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการอภิปรายอันมีความหมายซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าของนโยบายผู้บริโภคระหว่างประเทศและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อสังคมอันยั่งยืนสำหรับทุกคนทั่วโลก

  1. หัวข้อหลัก
    การเสริมพลังผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
  2. วันที่และเวลา (ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น JST)
    วันที่ 31 ตุลาคม (วันอังคาร) 2023 เวลา 10.30–17.00 น. (ถ่ายทอดสด)
  3. กำหนดการ (ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น JST)
  • 10.30–10.50 น. กล่าวเปิดงาน
  • 10.50–11.50 น. คำปราศัยสำคัญ
    [ 30 ปีแห่งผู้บริโภคดิจิทัล – ความดี ความเลวร้าย และอนาคต – ]
  • 13.00–14.30 น. การประชุมร่วมกับหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคญี่ปุ่น
    [ การคุ้มครองผู้บริโภคในยุคดิจิทัล – ปัจจุบันและอนาคต – ]
  • 15.00–16.40 น. การประชุมเพื่ออนาคตกับเยาวชนจากโทคุชิมะและกลุ่มประเทศอาเซียน

[ พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล – คำแนะนำของเรา – ]

  • 16.40–17.00 น. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั่วไป

* สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Tokushima International Consumer’s Forum 2023 ด้านล่างนี้

Tokushima International Consumer’s Forum 2023
https://www.pref.tokushima.lg.jp/en/world.consumer.forum/2023/

ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดโทคุชิมะ (ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี)
https://discovertokushima.net/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53584759/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

เพื่อสอบถามข้อมูล

กองนโยบายผู้บริโภค สำนักพัฒนาผู้บริโภคและความปลอดภัย

ฝ่ายบริหารจัดการวิกฤติและสิ่งแวดล้อม

สำนักงานจังหวัดโทคุชิมะ
โทร: +81-88-621-2499
อีเมล : shohishaseisakuka@pref.tokushima.jp

ที่มา: สำนักงานจังหวัดโทคุชิมะ

12Go เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวในเอเชีย

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–11 ตุลาคม 2023

12Go ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียและให้บริการด้านการท่องเที่ยวในเอเชียเป็นหลัก โดยขายตั๋วออนไลน์สำหรับรถบัส เรือเฟอร์รี่ และรถไฟ เผยรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของหมู่นักเดินทางแบบครอบครัวในช่วงฤดูร้อนปี 2023

รายชื่อสถานที่นี้อิงตามข้อมูลตั๋วที่ครอบคลุมและรวบรวมโดยบริษัท 12Go ระบุสถานที่ท่องเที่ยวที่โดนใจลูกค้ามากที่สุดจากการวิเคราะห์ตั๋วที่ขายได้ตลอดทั้งปี

การวิเคราะห์แสดงให้เห็นถึง 10 ประเทศในเอเชียที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางของ 12Go ประกอบไปด้วยข้อมูลเชิงลึกของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย สิงคโปร์ และศรีลังกา

ไทยนำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเชียงใหม่ กรุงเทพฯ และเกาะสมุยนับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่โดดเด่นสำหรับครอบครัว

อินโดนีเซียคว้าอันดับสองมาด้วยซานูร์ นูซาเปอนีดา และหมู่เกาะกีลี สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีชายหาดสวยงามและกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ที่มอบประสบการณ์ตราตรึงใจในช่วงฤดูร้อน

เวียดนามอยู่ที่อันดับสามโดยมีฮานอย ดานัง และนิญบิ่ญเป็นที่น่าจับตามอง ครอบครัวนักเดินทางสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ

ฟิลิปปินส์นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัวอย่าง โบโฮล เซบู และมะนิลา

อันดับที่ 5 เป็นของมาเลเซีย โดยมีสามเมืองที่ฮอตที่สุด นั่นคือกัวลาลัมเปอร์ มะละกา และปะหัง ซึ่งรวบรวมเมืองน่าสำรวจและการผจญภัยกลางแจ้งไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่รอบด้าน

กัมพูชาคว้าอันดับที่ 6 ด้วยพนมเปญและเสียมราฐ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศและความน่าทึ่งของโบราณสถานเหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่อยากเจาะลึกถึงอดีต

อันดับที่ 7 เป็นของอินเดีย นำมาโดยเมืองที่โดดเด่นอย่างอัครา  ชัยปุระ และเดลี ครอบครัวนักเดินทางสามารถดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และลิ้มลองอาหารเลิศรส

ศรีลังกาครองอันดับ 8 ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูร้อนมากมายรวมถึงแคนดี้ และนูวาราเอลิยา ครอบครัวนักเดินทางสามารถเดินทางไปทั่วศรีลังกาเพื่อเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์เขียวขจีและไร่ชา

อันดับที่ 9 นั้นเป็นของญี่ปุ่น ผู้นำเสนอเมืองที่มีชีวิตชีวาอย่างโตเกียวและเกียวโต ครอบครัวนักเดินทางสามารถสัมผัสกับความผสมผสานที่ลงตัวกันของประเพณีและความทันสมัย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เหมาะสำหรับครอบครัว

ปิดท้ายด้วยนครรัฐที่มีชีวิตชีวาอย่างสิงคโปร์ การผสมผสานกันของเมืองที่ทันสมัยและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวที่มองหาวันหยุดพักผ่อนสุดตื่นเต้น

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวสิบอันดับแรกของ 12Go ล้วนเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งสำหรับประสบการณ์ที่มีคุณค่า การผจญภัยที่น่าจดจำ และการใช้เวลากับครอบครัว

12Go  https://12go.asia/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Tetiana But
tetiana.but@12go.asia

ที่มา: 12Go

OAG เปิดเผยข้อมูลว่า สนามบินกัวลาลัมเปอร์เป็นสนามบินที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุดอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก

Logo

ข้อค้นพบที่สำคัญ:

  • สนามบินโตเกียวฮาเนดะ (HND) ขยับขึ้น 20 อันดับจากปี 2019 สู่อันดับที่ 2 ในกลุ่ม Megahubs ของเอเชียแปซิฟิก
  • สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) และสนามบินนานาชาติอินชอน (ICN) อยู่ในอันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับในการจัดอันดับกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ Top 25 Low-Cost Megahubs
  • สายการบิน AirAsia และ All Nippon Airways ครองส่วนแบ่งเที่ยวบินในสนามบินชั้นนำสองแห่งในเอเชียแปซิฟิก

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–20 กันยายน 2023

OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำของโลกสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก ได้เปิดตัว Megahubs 2023 ในวันนี้ ซึ่งเป็นการจัดอันดับสนามบินที่มีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก 50 อันดับแรกอย่างชัดเจน

Megahubs 20 อันดับแรกของโลกประกอบด้วยสนามบิน 7 แห่งในเอเชียแปซิฟิก ในบรรดาสนามบินที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุดนั้น สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ได้ขยับขึ้นสู่อันดับที่ 4 จากที่อยู่นอก 10 อันดับแรกในปี 2019 ตามมาด้วยสนามบินฮาเนดะ (HND) ของโตเกียวซึ่งอยู่ที่อันดับที่ 5

Megahubs ห้าแห่งจาก 10 อันดับแรกของภูมิภาคนั้นตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึง อินชอน (ICN) ในอันดับที่ #3, กรุงเทพ (BKK) ในอันดับที่ #4 และ สิงค์โปร์ชางงี (SIN) ในอันดับที่ #5 สายการบินแอร์เอเชียนั้นก็ได้ให้บริการเที่ยวบิน 34% ที่กัวลาลัมเปอร์ (KUL) ซึ่งเป็นศูนย์กลางชั้นนำของภูมิภาค

ในบรรดา Megahubs กลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ 25 อันดับแรก (Top 25 Low-Cost Megahubs) เอเชียแปซิฟิกครองอันดับด้วยสนามบิน 13 แห่ง เอเชียใต้มีส่วนแบ่งกำลังการผลิตสูงสุดที่ดำเนินการโดย LCC ในทุกภูมิภาคที่ 63% ตามมาด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ 53% กัวลาลัมเปอร์ (KUL) อยู่ในอันดับที่ 1 ด้วยการเชื่อมต่อกับกลุ่มต้นทุนต่ำเท่าที่จะเป็นไปได้ 11,188 จุดเชื่อมต่อ เชื่อมโยงจุดหมายปลายทางกว่า 100 แห่ง

“การฟื้นตัวของสนามบินในเอเชียแปซิฟิกสะท้อนให้เห็นถึงตำแหน่งสำคัญของพวกเขาในฐานะศูนย์กลางของเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดในโลก เช่น ทางเดินทางทางอากาศระหว่างฟุกุโอกะและโตเกียว ฮาเนดะ ซึ่งกลายเป็นสนามบินที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นอันดับสามของโลก” Mayur Patel หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ OAG กล่าว “การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของสนามบินเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมและระเบียบวิธีวิจัยทั้งหมด โปรดดูการวิเคราะห์ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG
OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการเดินทางทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศมาตั้งแต่ปี 1929 OAG มีเครือข่ายข้อมูลเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการเดินทางทั้งหมดตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงประสบการณ์ของลูกค้า มีลูกค้าได้แก่ สายการบิน สนามบิน ผู้ใช้เทคโนโลยีการเดินทาง ผู้ให้บริการด้านการบิน หน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน และที่ปรึกษาต่างๆ OAG มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร และดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และลิทัวเนีย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.oag.com และติดตามเราได้ที่ Twitter @OAG Aviation

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Chrissy Azevedo ผู้ประสานงาน Corporate Ink สำหรับ OAG
pressoffice@oag.com

ที่มา: OAG

AI สามารถช่วยคุณจองทริปที่สมบูรณ์แบบได้แล้วในวันนี้

Logo

REYKJAVIK, Iceland–(BUSINESS WIRE)–14 กันยายน 2023

Guide to Europe ประกาศความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ในการวางแผนการเดินทาง: Travis นักวางแผนการเดินทางด้วย AI ที่ดำเนินการโดย AI โดยนำเสนอแผนการเดินทางที่ปรับให้เหมาะสมแก่ผู้ใช้ โดยอิงจากความต้องการของลูกค้า สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง การผสมผสานข้อมูลรีวิว เวลาเปิดทำการ และตัวแปรสำคัญอื่นๆ

Helgi Páll Helgason is the visionary of Travis and the Head of AI at Travelshift, the maker of Guide to Europe (Photo: Business Wire)

Helgi Páll Helgason เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ Travis และหัวหน้าฝ่าย AI ของ Travelshift ผู้สร้างสรรค์ Guide to Europe (ภาพถ่าย: Business Wire)

การใช้อัลกอริธึม AI ที่ล้ำสมัยนี้ Travis มีการคัดสรรสถานที่ท่องเที่ยงที่ไม่มีใครเทียบและมีการปรับเส้นทางให้เหมาะสมเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น

Chatbot ก้าวไปไกลกว่าการวางแผนแบบเดิมๆ ด้วยการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดที่มีการปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าและรีวิว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูและจองทริปทั้งหมดได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงขั้นตอนเดียว

Dr. Helgi Helgason หัวหน้าฝ่าย AI ของ Guide to Europe และผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลสำหรับ Travis กล่าว "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว Chatbot ที่ปฏิวัติวิธีการวางแผนการเดินทางของผู้คนต่างๆ Travis ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้อตอบและค้นหาทริปที่สมบูรณ์แบบได้โดยใช้ภาษาธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นแม้การระบุจุดหมายปลายทาง คุณยังสามารถระบุประสบการณ์ที่คุณต้องการ เช่น สภาพอากาศ ภูมิภาค หรือวัฒนธรรม Travis สามารถประหยัดเวลาและลดความเครียดของลูกค้าได้โดยลูกค้าสามารถจองทริปที่วางแผนไว้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ"

Helgi กล่าวเสริมว่า "Travis ไม่ได้เป็นเพียงนักวางแผนการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เปลี่ยนเกม โดยการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ช่วยในการวางแผนการเดินทางสำหรับคุณได้อย่างพิถีพิถัน พร้อมความมั่นใจว่า เราสามารถทำได้เกินขีดความสามารถของมนุษย์ทั้งในด้านความแม่นยำและความรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงการจองทริปเท่านั้น แต่เป็นการทำให้ทริปนั้นสมบูรณ์แบบ"

พร้อมการเปิดตัวบริการที่เป็นนวัตกรรมนี้ Guide to Europe ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว โดยนำเสนอมิติใหม่ในการวางแผนการเดินทาง การค้นหา และการจองวันหยุดในยุโรป

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53554011/en

ติดต่อ

Dr. Helgi Páll Helgason, helgi@travelshift.com

แหล่งข้อมูล: Travelshift

Seoul Edition 23 เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Seoul, Make It Yours” โดย V วง BTS

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–4 กันยายน 2023

รัฐบาลกรุงโซลและองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลประกาศเปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition วิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS ทั่วโลกในวันที่ 1 กันยายน วิดีโอทีเซอร์ได้รับการตอบรับอย่างมีล้นหลาม โดยมียอดดูถึง 400,000 ครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

Seoul Tourism Organization has released Seoul Edition 23: New Tradition, a Seoul tourism promotional campaign video featuring BTS member V on VisitSeoul TV, the official YouTube channel for Seoul tourism. (Graphic: Business Wire)

องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลได้เปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition ซึ่งเป็นวิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่มี V ศิลปินวง BTS บน VisitSeoul TV ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

แคมเปญภาคที่สอง Seoul Edition 23: Nature in the City มีกำหนดปล่อยวันที่ 8 กันยายน

วิดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลประจำปี 2023 ที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS และทูตการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ของกรุงโซลเผยแพร่ทาง VisitSeoul TV (https://www.youtube.com/VisitSeoulTV) ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ดำเนินการโดยองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล

วิดีโอชุดแรก New Tradition เป็นการแนะนำกรุงโซลและความสามารถในการรวบรวมองค์ประกอบของอดีตเข้ากับในยุคปัจจุบัน วิดีโอเริ่มต้นด้วยชื่อ Seoul Edition โดยมี V อยู่ในฉากหลังของกรุงโซล จากนั้นจะดำเนินต่อไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องหมายและสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมของเมืองยังคงรวมอยู่ในชีวิตประจำวันของเราในรูปแบบที่ทันสมัย เช่น แฟชั่น Y2K ที่พบในตลาดทงมโย ร้านกาแฟสมัยใหม่ในตลาดแบบดั้งเดิม และนิทรรศการสถาปัตยกรรมสื่อในจัตุรัสควางฮวามุน วิดีโอปิดท้ายด้วยข้อความว่า Seoul, Make It Yours เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมทั่วโลกอยากที่จะคว้าโอกาสเพื่อสัมผัสกับกรุงโซลในทันที

วิดีโอชุดที่สอง Nature in the City ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 8 กันยายน นำเสนอวิถีชีวิตของชาวโซลที่โอบกอดธรรมชาติในย่านใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน

นอกจากนี้ กิจกรรม Seoul Edition Hashtag จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนในเดือนกันยายนทางช่องทางโซเชียลมีเดียของ Visit Seoul ผู้ที่โพสต์แฮชแท็กที่กำหนดพร้อมรูปถ่ายสถานที่ที่ต้องการเยี่ยมชมหรือแนะนำ จะได้เข้าร่วมการจับรางวัลเพื่อรับสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงโซล รวมถึงบัตรกำนัลการเข้าพักที่โรงแรมระดับห้าดาวเป็นเวลาสองคืน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ช่องทาง Instagram อย่างเป็นทางการของ Visit Seoul (@visitseoul_official) และช่องทางโซเชียลมีเดีย Visit Seoul อื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน

แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการจัดแสดงสโลแกนใหม่ของรัฐบาลกรุงโซลอย่าง Seoul, My Soul ไปทั่วโลก ภายใต้สโลแกนใหม่นี้ เนื้อหาแคมเปญจะถูกเผยแพร่สู่ผู้คนทั่วโลกโดยใช้ช่องทางสื่อกลางแจ้งที่มีอิทธิพลในหกเมืองใหญ่ รวมถึงไทม์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ กรุงเทพฯ และไทเป เนื้อหาที่แสดงทั้งหมดจะสอดคล้องกับธีมของการถ่ายเซลฟี่กับ V โดยหวังว่าจะสร้างกระแสในหมู่แฟน ๆ และผู้ชมที่สนใจในชุมชนทั่วโลก

แคมเปญนี้จะถูกเผยแพร่ทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชีย ผ่านทางเครือข่ายโทรทัศน์หลัก ๆ เช่น CNN และ NBC รวมถึงสื่อ New York Times

นอกเหนือจากการส่งเสริมโซลให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลต้องการจะสื่อข้อความอันหนักแน่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการอธิบายว่ากรุงโซลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเป็น "สิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหน" แคมเปญนี้ยังให้ความสำคัญกับการกำหนดโทนภาพลักษณ์ของกรุงโซลในฐานะเมืองที่โอบรับเทรนด์ "newtro" ควบคู่ไปกับความสามารถในการกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งในและรอบ ๆ กรุงโซล

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547150/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Kwon Dayoung
kndy@sto.or.kr

ที่มา: องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล


ศาลาว่าการกรุงโตเกียวเปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ “#Tokyo Tokyo BASE” ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–1 กันยายน 2023

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2023 ศาลาว่าการกรุงโตเกียวได้เปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ของโตเกียว "#Tokyo Tokyo BASE" ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ โตเกียว และประตูสู่ท้องฟ้าของญี่ปุ่น

Opening ceremony (Photo: Business Wire)

พิธีเปิด (ภาพ: Business Wire)

"#Tokyo Tokyo BASE" จัดตั้งขึ้นเพื่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเกี่ยวกับเสน่ห์ของโตเกียว ที่ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมล้ำสมัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เราจะจำหน่าย "Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)" ที่พัฒนาร่วมกัน โดยศาลาว่าการกรุงโตเกียวกับธุรกิจเอกชน เช่น งานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม เครื่องเขียน และอาหาร นอกจากการขายของที่ระลึกแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปและประสบการณ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลงมือปฏิบัติจริงในร้านอีกด้วย เพื่อเผยแพร่เสน่ห์ดึงดูดใจของโตเกียว

Hello Kitty และ Hakken ร่วมงานประชาสัมพันธ์ “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)”

Hello Kitty ตัวละครจาก Sanrio ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและคอสเพลย์เยอร์ Hakken ซึ่งเป็นทูตการท่องเที่ยวกรุงโตเกียว ได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญพิเศษในพิธีเปิดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดร้านและกิจกรรมภายในร้าน ซึ่งได้สร้างสีสันในการเปิดร้านครั้งนี้

Hakken ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดร้านว่า “ฉันตั้งตารอคอยมากว่าที่ร้านจะมีจำหน่ายอะไรบ้าง” ซึ่งเขาได้ลองเสี่ยงโชคหยิบโอมิคุจิ (แผ่นทำนายดวงชะตา) ที่ร้านและดูเหมือนเขาจะชอบพัดไม้ไซเปรสที่โอมิคุจิแนะนำ และยังกล่าวถึงพัดว่ามี “กลิ่นที่ดมแล้วผ่อนคลาย”

ในคำกล่าวเปิดงาน Akiko Matsumoto รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว กล่าวว่า "ฉันอยากให้คุณสัมผัสเสน่ห์อันหลากหลายของโตเกียวด้วยร้านนี้"

ภาพรวมร้านค้า

ที่อยู่:

อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ ชั้น 4  EDO MARKET PLACE (2-6-5, สนามบินนานาชาติฮาเนดะ, เขตโอตะ, โตเกียว)

เวลาทำการ:

8.00 น. ถึง 21.00 น.

เนื้อหาการใช้งาน:

  • จำหน่าย "Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)"
    โปรดดูผลิตภัณฑ์ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
    https://tokyotokyo.jp/article/omiyage/
  • จัดแสดงเวิร์คช็อปและประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
  • ป้าย มุมประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ที่สื่อถึง "ยุคปัจจุบัน" ของโตเกียว

©'23 SANRIO CO., LTD. APPR.NO L642720

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53527558/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สำหรับนักข่าวที่ต้องการติดต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้
Shigeki Yamaguchi
ผู้อำนวยการฝ่ายขายเมือง แผนกการท่องเที่ยว สำนักอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว
Shigeki_Yamaguchi@member.metro.tokyo.jp

ที่มา: Tokyo Metropolitan Government




เนื่องจาก teamLab Planets ในโตเกียวได้ต้อนรับผู้เยี่ยมชมจากต่างประเทศกว่า 1 ล้านคนในช่วง 6 เดือน Immersive Museum จึงได้เปิดตัวพื้นที่สำหรับงานศิลปะใหม่อีกครั้ง

Logo

ด้วยรายงานว่าประมาณ 1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มาเยือนญี่ปุ่นนั้นเข้าเยี่ยมชม teamLab Planets พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเปิดให้บริการจนถึงปี 2027

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2023

teamLab Planets TOKYO DMM ("teamLab Planets") ซึ่งพิพิธภัณฑ์แบบให้ร่างกายของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงาน (body-immersive museum)โดยกลุ่มศิลปะ teamLab ในโทโยสุ กรุงโตเกียว ได้เฉลิมฉลองการครบรอบปีที่ห้าด้วยการปรับปรุงพื้นที่งานศิลปะใหม่ เพื่อทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น

As visitors touch the countless crystals of light floating in the air, the work transforms interactively. On view at teamLab Planets, a body immersive museum in Toyosu, Tokyo. (teamLab, Ephemeral Solidified Light / Photo: teamLab)

เมื่อผู้เข้าชมสัมผัสคริสตัลไฟนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในอากาศ ผลงานศิลปะดังกล่าวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ผู้เข้าชมมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ภาพที่ teamLab Planets ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้เข้าชมมีโอกาสคลุกคลีกับงานศิลปะที่ย่านโทะโยะซุในกรุงโตเกียว (teamLab, โซน Ephemeral Solidified Light / รูปถ่าย: teamLab)

ในช่วงหกเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2023 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ต้อนรับผู้เข้าชมประมาณหนึ่งล้านคนจาก 182 ประเทศและภูมิภาคนอกประเทศญี่ปุ่น คิดเป็น 70% ของจำนวนผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด (*1) ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าประมาณ 1 ใน 10 ของผู้มาเยือนญี่ปุ่นจากต่างประเทศมาเยี่ยมชม teamLab Planets (*2)

การติดตั้งที่เพิ่งเปิดตัวใหม่EPHEMERAL SOLIDIFIED LIGHT

ภายในงานศิลปะอันน่าตื่นตาซึ่งผู้มาเยือนสัมผัสได้ด้วยการลงไปในน้ำ และยังมีมวลแสงจำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศ โดยแต่ละดวงประกอบด้วยสีสันหลากหลาย ขอบของแต่ละสีนั้นแยกออกจากกันอย่างชัดเจนราวกับเป็นของแข็ง การแยกมวลแสงที่ดูเหมือนสีทึบนั้นไม่พบในโลกธรรมชาติ และเกิดจากการประสานกันอย่างรุนแรง ปรากฏการณ์การประสานกันนี้สร้างโครงสร้างที่มีลำดับขนาดใหญ่ผ่านการจัดระเบียบตนเองเมื่อเวลาผ่านไป

การปรับปรุงพื้นที่งานศิลปะใหม่

ใน The Infinite Crystal Universe งานศิลปะนั้นสร้างประติมากรรมสามมิติจากกลุ่มของจุดแสง ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมในชิ้นงานได้โดยใช้แอป teamLab และสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมกับคนอื่นๆ ในพื้นที่ ด้วยการขว้างดาวที่คุณเลือกจากแอป ประติมากรรมแสงจะถูกสร้างขึ้นต่อหน้าคุณรวมทั้งพื้นที่ของชิ้นงานนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มประติมากรรมแสงเหล่านี้ด้วย ด้วยการปรับปรุงใหม่ ประติมากรรมแสงใหม่ห้าชิ้นได้ถูกเพิ่มเข้ามาในสถานที่จัดวาง

การแสดงผลงานศิลปะประกอบไปด้วยวงกลมของแสงที่จะเปลี่ยนเป็นสีคลุมเครือตามปฏิกิริยาตอบโต้ของผู้คน Expanding Three-dimensional Existence in Transforming Space และพื้นที่งานศิลปะอื่นๆ หลายแห่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การดื่มด่ำด้วยร่างกายทั้งหมดได้

นอกจากนี้ teamLab Planets ซึ่งเดิมมีกำหนดปิดในปลายปี 2023 ได้ถูกขยายออกไปจนถึงสิ้นปี 2027 เนื่องจากความนิยมของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

แนวคิดเบื้องหลัง TEAMLAB PLANETS

เชื่อมโยงกับผู้อื่น  พาร่างกายทั้งหมดเข้าไป รับรู้ด้วยร่างกายของคุณ และหลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณจะได้เดินผ่านน้ำ และสวนซึ่งทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับดอกไม้ ที่นั่นประกอบด้วยพื้นที่แสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 แห่ง และสวน 2 แห่งซึ่งสร้างโดยกลุ่มงานศิลปะ teamLab

ผู้คนจะเดินเท้าเปล่าและดื่มด่ำกับงานศิลปะอันกว้างใหญ่ร่วมกับคนอื่นๆ โดยงานศิลปะนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามการปรากฏตัวของผู้คน ทำให้การรับรู้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานพร่ามัว เมื่อบุคคลอื่นๆ ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงของงานศิลปะ ทำให้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานนั้นไม่ชัดเจน และสร้างความต่อเนื่องกันระหว่างตนเอง ศิลปะ และผู้อื่น

*1 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets ข้อมูลการซื้อตั๋ว (ข้อมูลได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2023)
*2 “Amazing Nippon / Digital Art Museum in Tokyo Enchants Overseas Tourists – The Japan News” The Japan News โดย the Yomiuri Shimbun 5 สิงหาคม 2023.

เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์

teamLab Planets TOKYO DMM
6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo
https://www.teamlab.art/e/planets/

เวลาทำการ
กันยายน – พฤศจิกายน: 09:00 – 22:00
*เข้าได้รอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนปิด

*เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อดูข้อมูลล่าสุด
วันหยุด: 6 กันยายน (พุธ), 4 ตุลาคม (พุธ), 8 พฤศจิกายน (พุธ)

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป): 3,800 เยน

นักเรียน (อายุ 13 – 17 ปี): 2,300 เยน

เด็ก (4 – 12 ปี): 1,300 เยน

3 ปีและต่ำกว่า: ฟรี

ส่วนลดสำหรับผู้ทุพพลภาพ: 1,900 เยน

ร้านจำหน่ายตั๋วอย่างเป็นทางการ
https://teamlabplanets.dmm.com

ร้านอาหารและร้านค้า
Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo-en
teamLab Flower Shop: https://www.teamlab.art/e/flowershop/

สำหรับสื่อ
ชุดข่าวประชาสัมพันธ์: https://goo.gl/tQXMLm
วิดีโอไฮไลท์: https://youtu.be/KAQMAzRjoH0

เกี่ยวกับ PLANETS Co., Ltd.

ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ดำเนินการและจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของ teamLab Planets TOKYO

ที่ตั้ง: โตเกียวนิฮอนบาชิทาวเวอร์ ชั้น 10, 2-7-1 นิฮงบาชิ, ชูโอ-คุ, โตเกียว

ตัวแทน: ทาคูมิ โนโมโตะ

เกี่ยวกับ teamLab

teamLab (f. 2001) คือกลุ่มศิลปะระดับนานาชาติ แนวทางปฏิบัติร่วมกันของพวกเขาคือการมุ่งหวังที่จะนำทางการบรรจบกันของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญแบบสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักสร้างแอนิเมชัน CG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิก มีเป้าหมายที่จะสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลก ตลอดจนการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านงานศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจโลกรอบตัวพวกเขา ผู้คนจึงแบ่งโลกออกเป็นอัตลักษณ์อิสระโดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างพวกเขา teamLab พยายามที่จะก้าวข้ามขอบเขตเหล่านี้ในการรับรู้โลกของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนกับโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอยู่ในความต่อเนื่องที่ยาวนาน เปราะบาง แต่อัศจรรย์ และไร้ขอบเขต

นิทรรศการ teamLab จัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลลีย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น และอื่นๆ อีกมากมาย พิพิธภัณฑ์ teamLab และนิทรรศการถาวรขนาดใหญ่ ได้แก่ teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, teamLab SuperNature Macao และ teamLab Massless Beijing และอื่นๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในเมืองต่างๆ เช่น อาบูดาบี ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทรคต์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลกชันถาวรของพิพิธภัณฑ์Museum of Contemporary Art ที่ลอสแอนเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ ซิดนีย์; หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลีย แอดิเลด; พิพิธภัณฑ์ศิลปะAsian Art Museum ซานฟรานซิสโก; พิพิธภัณฑ์สมาคมเอเชีย นิวยอร์ก; Borusan Contemporary Art Collection ในอิสตันบูล; หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย เมลเบิร์น; และเอมอส เร็กซ์, เฮลซิงกิ และอื่นๆ อีกมากมาย

teamLab นำเสนอโดย Pace GalleryMartin Browne Contemporary และ Ikkan Art

teamLab: https://www.teamlab.art/
Instagram: https://instagram.com/teamlab/
Facebook: https://www.facebook.com/teamLab.inc
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
YouTube: https://www.youtube.com/c/teamLabART

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53546601/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

PLANETS Co., Ltd. Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
การสัมภาษณ์: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.



Al Marjan Island เตรียมนำเสนอ W Al Marjan Island โรงแรมแห่งที่สองของ Marriott International บนชายฝั่งของเกาะ

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE )–31 สิงหาคม 2023

Marjan ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในราสอัลไคมาห์ ได้ประกาศเปิดตัวโรงแรม W Hotel บน Al Marjan Island ด้วยความร่วมมือระหว่าง Marriott International, Inc. และ Dalands Holding

Al Marjan Island to feature Marriott International's second hospitality offering on its shores: W Al Marjan Island (Photo: AETOSWire)

Al Marjan Island เตรียมนำเสนอ W Al Marjan Island โรงแรมแห่งที่สองของ Marriott International บนชายฝั่งของเกาะ (ภาพ: AETOSWire)

Al Marjan Island มีกำหนดเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงต้นปี 2027 และพร้อมที่จะเดินหน้าบรรลุความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร 2 ประการ คือการเป็นธุรกิจโรงแรมแห่งที่สองบนเกาะนี้ของ Marriott International และเป็นโรงแรมแห่งแรกในราสอัลไคมาห์ของ W Hotel โดยนำการออกแบบที่โดดเด่นของแบรนด์ บริการที่โดดเด่นและโปรแกรมที่พร้อมใช้งานเสมอไปอยู่ที่เอมิเรตตอนเหนือ

จุดหมายปลายทางแห่งนี้ตั้งอยู่บนหมู่เกาะหลักของ Marjan โดยมีฉากหลังที่งดงามของคาบสมุทรอาหรับ และล้อมรอบด้วยเทือกเขา Yanas และ Jais โรงแรมจะช่วยยกระดับจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่เจริญรุ่งเรืองนี้ให้มีความน่าดึงดูดไปอีกระดับ

ด้วยห้องพักและห้องสวีทในโรงแรมจำนวน 300 ห้องพร้อมวิวทะเลอันกว้างไกล ที่พักอันงดงามแห่งนี้คาดว่าจะมีพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ห้องนั่งเล่น, ดาดฟ้า WET, W Lounge, AWAY Spa และฟิตเนสเซ็นเตอร์ FIT พร้อมด้วยร้านอาหาร 3 แห่งและพื้นที่ค้าปลีก

Abdulla Al Abdouli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Marjan กล่าวว่า "เนื่องจากราสอัลไคมาห์มีจุดยืนที่แข็งแกร่งในด้านภูมิทัศน์การท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเป็นที่ยอมรับ เราจึงภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าดึงดูดให้กับที่แห่งนี้ในสายตานักลงทุนทั่วโลก ความมุ่งมั่นนี้ได้นำไปสู่โครงการอันทรงเกียรติมากมาย ดังตัวอย่างจากการเปิดตัวเกาะ W Al Marjan Island"

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Dalands Holding เพื่อนำความมีชีวิตชีวาและการออกแบบแบบไดนามิกของ W มาสู่ Al Marjan Island" Saahil Lalit รองประธานฝ่ายพัฒนา ตะวันออกกลาง บริษัท Marriott International กล่าว "ราสอัลไคมาห์จะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่เป็นที่ต้องการซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามต่อไป"

Saurabh Gupta ซีอีโอของ Dalands Holding กล่าวว่า "เราเชื่อว่าการพัฒนาที่ไม่ซ้ำใครนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากจากการออกแบบที่โดดเด่น ที่พักหรูหรา และตัวเลือกอาหารที่ทันสมัย เช่นเดียวกับโรงแรมหรูอื่นๆ ในผลงานของเรา เรากำลังพัฒนา W Al Marjan Island เพื่อตอบสนองความต้องการของแขกในอนาคต โดยคัดสรรข้อเสนอสุดพิเศษและประสบการณ์อันน่าจดจำ"

ด้วยหาดทรายขาวที่ทอดยาวกว่า 7.8 กม. และพื้นที่ริมน้ำยาว 23 กม. Al Marjan Island ได้สร้างจินตนาการใหม่ให้กับการใช้ชีวิตริมน้ำที่หรูหราในราสอัลไคมาห์ด้วยกิจกรรมและกีฬาทางน้ำต่างๆ

*ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53547343/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Nivine William 
nivine.william@bcw-global.com

ที่มา: Marjan