Personetics ทำเงินกว่า 160 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และเร่งขยายธุรกิจโซลูชันให้บริการเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมผ่าน AI ให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลกด้วยการลงทุน 85 ล้านดอลลาร์จาก Thoma Bravo

Logo

  • ปัจจุบัน ลูกค้าธนาคารกว่า 120 ล้านรายต่างหันไปใช้ ‘ระบบการเงินอัตโนมัติ’ ผ่านแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของ Personetics และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเงิน
  • แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของ Personetics ได้สร้างข้อมูลเชิงลึกกว่า 6,500 ล้านครั้งและช่วยให้ลูกค้าประหยัดงบที่ใช้ในโซลูชันทางธุรกิจมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์
  • Personetics ร่วมมือกับสถาบันการเงินมากกว่า 80 แห่งใน 30 ตลาดทั่วโลก
  • การเติบโตของ Personetics มาจากสินทรัพย์ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ AI ขั้นสูง ซึ่งสามารถปรับใช้กับตลาดทุกแห่งได้

ลอนดอน, นิวยอร์ก, รีโอเดจาเนโร, ปารีส, สิงคโปร์, ซิดนีย์, เทลอาวีฟ อิสราเอล–(BUSINESS WIRE)–19 มกราคม 2565

Personetics ผู้ให้บริการโซลูชันการตลาดเฉพาะบุคคลและโซลูชันการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการเงินสำหรับธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงิน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ระดมทุน 85 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการเติบโตจาก Thoma Bravo ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนซอฟต์แวร์ชั้นนำ Personetics ได้รับเงินทุนรวมกว่า 160 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และได้รับการสนับสนุนโดย Viola Ventures, Lightspeed Ventures, Sequoia Capital, Nyca Partners และ Warburg Pincus

แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมบน AI ของ Personetics ซึ่งดำเนินการให้บริการในตลาดระดับโลกและมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ กำลังกลายเป็นมาตรฐานตลาดในการให้บริการเฉพาะบุคคล การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และการจัดการด้านการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการเงินให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลกในทุกช่องทาง Personetics ร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินใหม่โดยผสานรวม AI เข้ากับทุกการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่สำคัญในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Personetics มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมในเชิงรุก ซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์ การทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของแต่ละบุคคล การคาดเดาความต้องการของลูกค้า และดำเนินการทำงานในนามของลูกค้า Personetics ให้บริการข้อมูลที่สมบูรณ์ ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำทางการเงิน และโปรแกรมสุขภาพอัตโนมัติในแต่ละวัน มีการปรับให้เหมาะกับการธนาคารเพื่อธุรกิจรายย่อย ธุรกิจขนาดเล็ก การบริหารความมั่งคั่ง และผู้ถือบัตรเครดิต สถาบันการเงินที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI ของ Personetics พบว่าการมีส่วนร่วมของลูกค้าดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 35% การเติบโตของบัญชีและยอดเงินเพิ่มขึ้น 20% และการให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเพิ่มขึ้น 17%

Personetics มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกแห่ง 'self-driving finance’ หรือระบบการเงินอัตโนมัติให้เป็นจริง ซึ่งสถาบันการเงินดำเนินการในเชิงรุกในนามของลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ การรวมระบบการเงินอัตโนมัติของ Personetics เข้ากับการระบบธนาคาร/การเงินแบบเปิดจะช่วยพลิกโฉมรูปแบบธุรกิจการบริการทางการเงินและกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

ลูกค้ารายใหญ่ประกอบด้วยธนาคารชั้นนำของโลกหลายแห่ง เช่น US Bank (สหรัฐอเมริกา), Huntington Bank (สหรัฐอเมริกา), RBC (แคนาดา), BMO (แคนาดา), Intesa Sanpaolo (อิตาลี), Santander (สเปน), KBC (เบลเยียม) Metro Bank (สหราชอาณาจักร), UOB (สิงคโปร์), Hyundai Card (เกาหลี) และ MUFG (ญี่ปุ่น)

สถาบันการเงินใช้เครื่องมือที่คล่องตัวของ Personetics และเครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมแบบรวดเร็วอย่าง Creation & Management Console เพื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหลายร้อยรายการ และสร้างเส้นทางของผู้ใช้ที่กำหนดเองเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและให้คำแนะนำส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์ ตลอดจนโปรแกรมดูแลสุขภาพทางการเงินที่ปรับเปลี่ยนได้แบบอัตโนมัติให้แก่ลูกค้าทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยลูกค้าธนาคาร ธุรกิจขนาดเล็ก และลูกค้าการบริหารความมั่งคั่ง

David Sosna ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Personetics กล่าวว่า:

“การให้บริการเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลคือสมรภูมิสำหรับสถาบันการเงินทั่วโลก ธนาคารกำลังเปลี่ยนจากความสัมพันธ์แบบเฉื่อยไปสู่ความสัมพันธ์เชิงรุกกับลูกค้า และกำลังมองหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น Personetics ช่วยให้สถาบันการเงินมีแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมที่ครอบคลุมมากที่สุดในตลาด ช่วยให้เกิดความคล่องตัวและความแตกต่างด้วยการให้บริการที่คล่องตัวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Thoma Bravo หนึ่งในนักลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่มีประสบการณ์มากที่สุดในโลก เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมนี้อย่างรวดเร็ว จากความร่วมมือนี้ เราจะส่งมอบวิสัยทัศน์เรื่อง 'ระบบการเงินอัตโนมัติ' เข้าถึงคู่ค้าและลูกค้ารายใหม่ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนลูกค้าปัจจุบันของเราด้วยโซลูชันทางนวัตกรรมสำหรับธุรกิจที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ”

Robert Sayle หุ้นส่วนของ Thoma Bravo กล่าวว่า:

“ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น Personetics ช่วยลดความซับซ้อนและปรับเปลี่ยนบริการทางธนาคารให้เหมาะกับแต่บุคคลให้แก่ผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำของอุตสาหกรรม เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Personetics และใช้ความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงานของเราในด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อช่วยเร่งสร้างแรงผลักดันให้แก่บริษัท การออกผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ และการเข้าถึงแพลตฟอร์มของสถาบันการเงินและลูกค้าทั่วโลก”

เกี่ยวกับ Personetics:

AI ของ Personetics ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมเชิงรุกให้แก่สถาบันการเงิน โดยวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของลูกค้า คาดเดาความต้องการของลูกค้า และมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่สูงมาก ด้วยโซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับตลาดทั่วไป การบริหารความมั่งคั่ง และลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ธนาคารสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำทางการเงิน และโปรแกรมสุขภาพทางการเงินอัตโนมัติแบบวันต่อวันให้แก่ลูกค้า ธนาคารต่าง ๆ จะใช้เครื่องมือที่คล่องตัวของ Personetics ในการสร้าง IP ส่วนบุคคลอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีลูกค้าจำนวนมาก ด้วยความก้าวหน้าเหล่านี้ ธนาคารจึงเปลี่ยนระบบธนาคารดิจิทัลของตนให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็สร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างใหญ่หลวง

Personetics นำโดยทีมผู้ประกอบการด้านการเงินและเทคโนโลยีมากประสบการณ์ มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกของ 'ระบบการเงินอัตโนมัติ' เป็นจริง โดยที่ธนาคารดำเนินการในเชิงรุกในนามของลูกค้า ทำให้ลูกค้าและธนาคารได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย Personetics ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 ดำเนินงานผ่านสำนักงานในนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ รโอเดจาเนโร และเทลอาวีฟ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.personetics.com

เกี่ยวกับ Thoma Bravo:

Thoma Bravo เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 91 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทลงทุนในบริษัทด้านนวัตกรรมในภาคธุรกิจซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเติบโต Thoma Bravo ใช้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกของบริษัทและความสามารถด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานที่ได้รับการยอมรับมาแล้ว โดยร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ในพอร์ตโฟลิโอเพื่อนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ในการดำเนินงาน ขับเคลื่อนโครงการที่เน้นการเติบโต และเข้าซื้อกิจการที่มุ่งหวังเพื่อกระตุ้นรายได้และกำไร ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัทมากกว่า 325 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าสุทธิของกิจการมากกว่า 155,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทมีสำนักงานในชิคาโก ไมอามี และซานฟรานซิสโก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่ www.thomabravo.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:

Personetics:
Dorel Blitz, dorel.blitz@personetics.com
Laura West-Wilson, personetics@pancomm.com

Thoma Bravo:
Megan Frank, mfrank@thomabravo.com
Abigail Farr, abigail.farr@fgh.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานเรื่อง Adopt an Agile Digital Banking Platform ของ CR2 ว่าด้วยการปรับปรุงนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร

Logo

ดับลิน, ไอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 ม.ค. 2565

รายงานข้อมูลเชิงลึกล่าสุดของ CR2 (www.cr2.com)เรื่อง "Adopt an Agile Digital Banking Platform หรือ การนำแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลแบบที่มีความยืดหยุ่นสูงมาใช้" จัดทำขึ้นร่วมกับ Stessa Cohen (www.pivotassets.co) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการธนาคารทั่วโลกไปสู่ระบบดิจิทัล

ในรายงาน Stessa ระบุว่านายธนาคารต้องมีแพลตฟอร์มการธนาคารดิจิทัลที่คล่องตัวอย่างไรบ้างเพื่อรองรับแนวโน้มและข้อกำหนดในระดับโลกและระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาระบุตลาดเฉพาะกลุ่มใหม่ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร รายงานได้ระบุชุดของความสามารถที่แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลต้องมี ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีอนาคตที่แข่งขันในตลาดได้ และกระตุ้นให้ธนาคารเลือกพันธมิตรด้านการธนาคารดิจิทัลที่จะแบ่งปันด้านนวัตกรรม วิสัยทัศน์ และสนับสนุนการสร้างมูลค่าใหม่ ๆ

ตัวรายงานได้ระบุว่า ตลาดเฉพาะกลุ่ม ผลักดันให้ธนาคารสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร เพื่อที่จะให้การสนับสนุนธุรกรรมทางธนาคารขั้นพื้นฐานและที่จำเป็นมากขึ้นไปอีกบนแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลเดียวกัน  ด้วยการทำความเข้าใจใหม่ในด้านลูกค้า เช่นนี้ ธนาคารจึงสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มผลกำไร หากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว บรรดาคู่แข่ง ธนาคารผู้ท้าชิง และฟินเทคต่าง ๆ จะก้าวเข้าไปจับตลาดเฉพาะซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารอย่างรวดเร็ว

Stessa อภิปรายว่า ธนาคารไม่เพียงต้องการแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลที่พร้อมสำหรับการปรับแต่ง การบูรณาการ และการระบุตลาดใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องการพันธมิตรที่สามารถมอบความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและด้านการธนาคารที่ธนาคารเองอาจไม่มีให้ ผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล เช่น CR2 ที่สนับสนุนความสามารถเหล่านี้ทำมากกว่าแค่การทำธุรกรรมธนาคารและการชำระเงิน เพราะพวกเขาสร้างเส้นทางสำหรับธนาคารเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ สำหรับทั้งธนาคารและลูกค้า

หากต้องการดาวน์โหลดรายงาน 'Adopt an Agile Digital Banking Platform' ให้คลิกที่ลิงก์ต่อไปนี้:http://knowledge.cr2.com/adopt-an-agile-digital-banking-platform

เกี่ยวกับ CR2

CR2 มอบโซลูชันดิจิทัล การบริการตนเอง และการชำระเงินแก่ธนาคารเพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการบริการลูกค้า และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไอร์แลนด์ เราช่วยให้ธนาคารกว่า 100 แห่งใน 60 ประเทศเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างราบรื่นผ่านช่องทางการธนาคารที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220118005901/en/

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการนัดสัมภาษณ์กับตัวแทน โปรดติดต่อ Nigel Sutton: nige@seventeen59pr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Poloniex บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีฉลองครบรอบ 8 ปีด้วยการปรับปรุงใหม่เชิงกลยุทธ์

Logo

ปานามา ซิตี้–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2565

Poloniex บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลก กำลังฉลองครบรอบ 8 ปีด้วยการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ รวมถึงการรีแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุง และกลยุทธ์การตลาดระดับโลกที่ได้ปรับเปลี่ยนแล้ว

Poloniex is celebrating its 8th Anniversary with huge rewards for users. (Graphic: Business Wire)

Poloniex ฉลองครบรอบ 8 ปีด้วยการมอบรางวัลมากมายสำหรับผู้ใช้ (กราฟิก: Business Wire)

Poloniex ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 ทำให้ผู้ใช้หลายล้านคนสามารถเทรดคริปโทเคอร์เรนซีได้อย่างสะดวกและปลอดภัย และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องที่ได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งการเข้าสู่ปีที่ 9 Poloniex ได้ปรับเปลี่ยนคุณค่าของแบรนด์ให้เป็น ความปรารถนา หรือ Passion ความเจริญรุ่งเรือง หรือ Prosperity และความอุตสาหะ หรือ Perseverance

และนี่เป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับ Poloniex สารสำคัญที่เราต้องการสื่อในวันครบรอบปีนี้มากที่สุดคือ "วิวัฒนาการ" และคุณค่าของแบรนด์ใหม่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Poloniex ในการขับเคลื่อนความก้าวหน้า การรักษาความมีชีวิตชีวา และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ทั่วโลก

นอกจากนี้ Poloniex กำลังเปิดตัวระบบการเทรดใหม่ล่าสุดซึ่งจะมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า API ที่ได้รับการปรับปรุงและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ฟีเจอร์การเทรดใหม่และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจะเปิดตัวด้วยเช่นกัน การอัปเกรดจะปรับปรุงประสิทธิภาพที่มีนัยสำคัญและให้ผู้ใช้มีสภาพคล่องมากกว่าที่เคยเป็น

ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มระดับโลก Poloniex จะเร่งขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบกำหนดเป้าหมายจะได้รับการพัฒนาเพื่อขยายพื้นที่ครอบคลุมทั่วโลกของ Poloniex ในตลาดเกิดใหม่อย่างเช่น เครือรัฐเอกราช (CIS) เอเชียแปซิฟิก (APAC) ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) และละตินอเมริกา (LATAM) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโดยรวม

ยิ่งไปกว่านั้น โปรแกรม Space Traveler ใหม่ที่รวมโปรแกรมอาสาสมัครและการแนะนำคนก่อนหน้านี้จะพร้อมใช้งานในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะสร้างกลุ่มที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเพื่อดึงดูดและรวมชุมชนท้องถิ่นให้เป็นหนึ่งเดียว

Shaun Scovil ผู้จัดการทั่วไปของ Poloniex กล่าวว่า “การครบรอบ 8 ปีเป็นก้าวสำคัญของ Poloniex และเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้ของเรา” “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่อีกมากมายที่จะเกิดขึ้น เรามีแผนการเติบโตที่ตั้งใจและมุ่งมั่น และพร้อมที่จะโอบรับอนาคตในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ การอัปเดตเชิงกลยุทธ์นี้จะเสริมพลังให้วิวัฒนาการของเราในขั้นต่อไป”

ปัจจุบัน Poloniex ให้การสนับสนุนการดูแลและการเทรดสำหรับโทเคนมากกว่า 300 เหรียญ และคู่ตลาดกว่า 450 คู่รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ เพื่อเชื่อมต่อโลกกับพลังของสินทรัพย์ดิจิทัล ในการก้าวไปข้างหน้า Poloniex จะทุ่มเทอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการแลกเปลี่ยนระดับโลกและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก

เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ Poloniex จะเปิดตัวแคมเปญที่มอบรางวัลมากมายสำหรับผู้ใช้ที่ภักดี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://poloniex.com

เกี่ยวกับ Poloniex

Poloniex บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลกก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2557 ด้วยแพลตฟอร์มการเทรดและการรักษาความปลอดภัยระดับโลก บริษัทได้รับเงินทุนในปี 2562 จากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงซึ่งรวมถึง His Excellency Justin Sun ผู้ก่อตั้ง TRON

Poloniex รองรับการเทรดสัญญาอนุพันธ์ การซื้อขายสปอตและมาร์จิ้นตลอดจนเลเวอเรจโทเคน และบริการของบริษัทที่เข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลกในเกือบ 100 ประเทศและภูมิภาคด้วยภาษาที่หลากหลายรวมทั้งภาษาอังกฤษ ตุรกี และรัสเซีย

เว็บไซต์https://poloniex.com

ดาวน์โหลดรูปภาพ/แกลเลอรี่สื่อมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52563489/en

ติดต่อ:

Poloniex
Rachel Huo
rachel.huo@poloniex.com

Flash Agency
Klaudia Cheuk
business@flashdao.net
852-68758315

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

BitMEX Link ให้การต้อนรับ Ivo Sauter ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่

Logo

ซูก และ ซูริค สวิตเซอร์แลนด์–(บิสิเนสไวร์)–11 ม.ค. 2565

ณ วันที่ 1 มกราคม Ivo Sauter ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ BitMEX Link ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการแพลตฟอร์มโบรคเกอร์คริปโตที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการเทรดสปอต ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเอง และการซื้อขาย OTC  คุณ Sauter จะประจำอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน BitMEX Link ในเมืองซุกและซูริก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005536/en/

BitMEX Link welcomes Ivo Sauter as new Chief Executive Officer (Photo: Business Wire)

BitMEX Link ต้อนรับ Ivo Sauter เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ก่อนร่วมงานกับ BitMEX Link Ivo เคยเป็น Chief Digital , Transformation และ Strategy Officer ที่ Gazprombank (Switzerland) Ltd. มานานกว่าหนึ่งปี  เขามีประสบการณ์มากกว่าสองทศวรรษในการทำงานในตำแหน่งผู้นำในธนาคารและบริษัทจัดการกองทุน  Ivo ยังนำความเชี่ยวชาญด้านคริปโตมาใช้ โดยเคยทำงานเป็น Chief Client Officer ที่ SIX Digital Exchange ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของตลาดการเงินแห่งแรกในโลกที่เสนอการซื้อขายแบบ end-to-end แบบครบวงจร การชำระบัญชี และการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

Ivo กล่าวว่า: “ผมภูมิใจที่ได้เข้าร่วม BitMEX Link ที่มีการเติบโตอันน่าทึ่ง และมีอะไรมากมายรอเราอยู่ในปี 2022  BitMEX Link จะปรับปรุงวิธีที่นักเทรด นักเทรดมืออาชีพ และนักลงทุนสถาบันมีปฏิสัมพันธ์กับ crypto และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้นำสายธุรกิจนี้และสร้างทีม BitMEX Link ที่นี่ในสวิตเซอร์แลนด์”

Alexander Höptner ประธาน BitMEX Link กล่าวว่า "การแต่งตั้ง Ivo เป็นก้าวที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนา BitMEX Link และการมีอยู่ของแบรนด์ BitMEX ในสวิตเซอร์แลนด์ ในอีกไม่กี่เดือนและหลายปีต่อจากนี้  เราจะลงทุนเพื่อขยาย BitMEX Link ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเราเห็นศักยภาพในการเติบโตอย่างมากในระยะยาว”

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEX เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกและเป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited. BitMEX Link เป็นของ BXM Link AG  ในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ของเรา ทีมงาน การเจริญเติบโต และเป้าหมายในอนาคต โปรดทำตามเราใน Twitter, Telegram, และ บล็อกของ BitMEX

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ press-ch@bitmex.com  (สำนักงานสื่อสัมพันธ์สวิตเซอร์แลนด์)

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005536/en/

ติดต่อ:

Jessica Lindeman
press-ch@bitmex.com  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Ezek เปิดตัวเหรียญ Phanta Bear NFT แบรนด์ยอดนิยมของ Jay เพื่อกรุยทางสู่ตลาดบล็อกเชนทั่วโลก

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–06 มกราคม 2565

ในปี 2564 มีการร่วมมือระหว่างบุคคลที่มีชื่อเสียงในการสร้าง NFT มากขึ้นในอุตสาหกรรมบันเทิงทั่วโลกและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ยังมีความเคลื่อนไหวจาก Mandopop King Jay ซึ่งได้ช่วยระดมทุนไปถึง 846 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (109 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการประมูลของ Sotheby และในวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา Jay กล่าวว่าเขาได้รับ “ของขวัญ NFT สุดพิเศษเป็นครั้งแรก”

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211231005077/en/

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

สำหรับแพลตฟอร์ม Ezek ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Will Liu & Mark G ร่วมกับ Ed Ow (ผู้บุกเบิก NFT และเทคโนโลยีคริปโตให้กับ HTC และ FullDive) รวมถึงโปรดิวเซอร์อย่าง Johnson Chiang จะประกาศถึงการเปิดตัวของ Phanta Bear NFT ในวันที่ 1 มกราคม 2565 นี้บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขา โดยจะมีการออกเหรียญทั่วโลกในจำนวนจำกัดเพียง 10,000 เหรียญเท่านั้น!

ข่าวนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับเศรษฐกิจบล็อกเชนทั่วโลกทันที โดยสื่อด้านบล็อกเชนทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีต่างรายงานเกี่ยวกับการออก NFT โดยเจ้าพ่อวงการแฟชั่นของเอเชียรายนี้!

ปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Ezek ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบเสมือนจริง โดยเจ้าของ NFT ที่มีแผนใช้แพลตฟอร์ม Ezek จะกลายเป็นสมาชิกของ Ezek Club และสามารถใช้ NFT เป็นตั๋วเพื่อเข้าร่วมคอนเสิร์ตเสมือนแบบ VR/XR ที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และคุณสมบัติของโลกเสมือนในอนาคตที่เกี่ยวข้อง

ก่อนหน้านี้มีการเปิดตัว Ezek Club บน Discord และมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 30,000 คนภายในเวลาเพียง 5 วัน! กิจกรรมนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการดึงดูดผู้คนของ Jay เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการสนับสนุนของชุมชนต่อแนวคิดการดำเนินงานของ Ezek Club อีกด้วย

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211231005077/en/

ติดต่อ:

Johnson Chiang
อีเมลของ Ezek: support@ezek.io
เว็บไซต์ทางการ: https://www.phantacico.com/
เว็บไซต์ทางการของ Ezek: https://ezek.io
twitter:https://twitter.com/EZEKCLUB

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Rupertus Rothenhaeuser เข้าร่วม BitMEX ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์

Logo

มาเฮ เซเชลส์–(BUSINESS WIRE)–6 มกราคม 2565

BitMEX บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต ยินดีต้อนรับ Rupertus Rothenhaeuser ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ (CCO) คนใหม่ Rupertus ในฐานะตำแหน่งซีซีโอ จะเป็นหัวหอกในแผน ‘Beyond Derivatives’ ของ BitMEX เพื่อขยายไปสู่ตลาดสปอต นายหน้า การควบคุมดูแล ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และก่อตั้ง BitMEX Academy

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220102005033/en/

Rupertus Rothenhaeuser Joins BitMEX as Chief Commercial Officer (Photo: Business Wire) Rupertus Rothenhaeuser เข้าร่วม BitMEX ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ (ภาพ: Business Wire)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าทั่วโลกในการแลกเปลี่ยน ดูแลความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ของผลิตภัณฑ์ที่ขยายออกไป และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของ BitMEX ในพื้นที่คริปโตที่มีการแข่งขันสูง ทั้งนี้จะรายงานตรงต่อ Alexander Höptner ซีอีโอ ของ BitMEX ซึ่ง Rupertus ได้เริ่มบทบาทใหม่ในวันที่ 1 มกราคม และจะประจำอยู่ในเอเชีย

ก่อนหน้านี้ Rupertus เคยดำรงตำแหน่งซีอีโอ ที่ Crypto Finance (Brokerage) AG เป็นเวลากว่าหนึ่งปี ในช่วงเวลานั้นเขาสนับสนุนบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าธนาคาร เขามีประวัติที่แข็งแกร่งและรอบรู้จากบทบาทก่อนหน้านี้ เคยทำงานในตำแหน่งผู้นำที่ ABN AMRO Bank, BNP Paribas, Macquarie Group, SIX Digital Exchange, Boerse Stuttgart และบริษัทการเงินและฟินเทคชั้นนำอื่น ๆ ในลอนดอน ฮ่องกง ปารีสและเยอรมนี

Rupertus กล่าวว่า "BitMEX มีแผนการขยายตัวที่สำคัญในการทำงาน และผมตื่นเต้นที่จะได้เข้าร่วมทีมที่กำลังเติบโตของพวกเขาในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ผมเห็นโอกาสมากมายที่เราจะขยายออกไปนอกเหนือจากสัญญาอนุพันธ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พลิกสถานการณ์ และนำเสนอคุณค่าที่สำคัญในพื้นที่คริปโตสำหรับลูกค้ารายย่อยและลูกค้าสถาบัน ทั้งนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะนำมาซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วสำหรับอุตสาหกรรมนี้ และ BitMEX จะเป็นผู้นำในเรื่องนี้ เนื่องจากเรามีส่วนช่วยในระบบนิเวศทางการเงินที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน”

Alexander Höptner ซีอีโอของ BitMEX กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Rupertus เข้าสู่ทีมผู้บริหารระดับสูงของเรา ในขณะที่เราขยายบริการของเรา การเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ และเปลี่ยน BitMEX จากแพลตฟอร์มที่เน้นเรื่องสัญญาอนุพันธ์ไปสู่ระบบนิเวศคริปโตเต็มรูปแบบ ภารกิจของเราคือเป็นผู้นำการปฏิวัติทางการเงินดิจิทัล และผมมั่นใจว่า Rupertus เป็นผู้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของเรา”

BitMEX กำลังเปิดรับสมัครพนักงานเพื่อสนับสนุนฐานผู้ใช้ที่กำลังเติบโต คลิกที่นี่เพื่อค้นหาโอกาสในการทำงานที่ BitMEX

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEX เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดการเงินสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก BitMEX เป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของเรา ทีมที่กำลังเติบโต และเส้นทางข้างหน้าของ BitMEX กรุณาติดตามเราบน TwitterTelegram, และ BitMEX Blog ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ press@bitmex.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220102005033/en/

ติดต่อ:

สื่อ
Jessica Lindeman
jessica.lindeman@bitmex.com
+852 5717 5579

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gautam Mukharya ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความเสี่ยงของธนาคาร HSBC สิงคโปร์ เข้าร่วมคณะกรรมการที่ปรึกษาของ SPIN Analytics

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–08 ธันวาคม 2564

SPIN Analytics ผู้ให้บริการด้าน FinTech ที่ทันสมัย ผู้นำเสนอกระบวนทัศน์ใหม่ให้กับการทำแบบจําลองความเสี่ยงด้านเครดิต ประกาศในวันนี้ว่า Gautam Mukharya ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความเสี่ยงแห่งธนาคาร HSBC สิงคโปร์ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาของบริษัท

Gautam คร่ำหวอดอยู่ในวงการธนาคารและความเสี่ยงด้วยประสบการณ์ 25 ปีทางด้านการเงิน โดยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเครดิตและความเสี่ยงภายในองค์กร และยังเป็นผู้สนับสนุนตัวยงทางด้านนวัตกรรม ฟินเทค และเทคโนโลยีใหม่อื่น ๆ กว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมากับ HSBC Group, Gautam ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งทั้งระดับประเทศและภูมิภาคมากมาย รวมถึงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านความเสี่ยงของธนาคาร HSBC ในออสเตรเลีย หัวหน้าด้านความเสี่ยงเครดิตสำหรับธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประธานเจ้าหน้าที่ธนาคาร HSBC ในมอริเชียส

Panos Skliamis ซีอีโอแห่ง SPIN Analytics กล่าวว่า “ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Gautam สู่คณะกรรมการที่ปรึกษาของเรา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับผู้นำในด้านความเสี่ยง Gautam เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับอุตสาหกรรมของเราระหว่างการจัดกิจกรรม Global Hackcelerator Programme ในงาน FinTech Festival 2018 ของสิงคโปร์ และหลังจากนั้น ก็ได้ร่วมงานกันเพื่อช่วยสานต่อความพยายามของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ Gautam เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านต่อไป”

Gautam กล่าวว่า “ผมยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการที่ปรึกษาของบริษัทที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากให้กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของธนาคาร ที่ผ่านมา SPIN Analytics คือผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน เป็นผู้บุกเบิกทางด้านระบบอัตโนมัติปัญญาประดิษฐ์ที่อธิบายได้ (Explainable AI) ในการทำแบบจําลองความเสี่ยงด้านเครดิตตามข้อบังคับ ผมมั่นใจว่าด้วยความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกในคณะกรรมการที่ปรึกษาและทีมผู้บริหาร เราจะช่วยให้ SPIN Analytics สามารถทำให้ธนาคารทั่วโลกและธนาคารดิจิทัลต่าง ๆ นำ RISKROBOTTM มาใช้ได้เร็วขึ้น”

ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลงานด้านความเสี่ยงของทั้งประเทศ หน้าที่รับผิดชอบของ Gautam คือการบริหารจัดการความเสี่ยงใน ๆ ทุกด้านของการดำเนินงานของธนาคาร HSBC ในสิงคโปร์ และยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการสมาคมบริหารจัดการความเสี่ยงของ Singapore Chapter รวมถึงวิทยากรระดับนานาชาติให้กับงานประชุมและการสัมมนาทางออนไลน์ของรัฐบาล

Gautam ฝากผลงานมากมายไว้ในโครงการ National KYC Utility และการสร้างระบบนิเวศสีเขียว (Green eco-system) นับตั้งแต่ปี 2562 เขาได้ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน Demo Day ในกิจกรรม Global Hackcelerator และคณะกรรมการคัดเลือกผู้รับรางวัล FinTech Awards ในงาน Singapore FinTech Festival นอกจากนี้เขายังให้ความสนใจอย่างมากในเรื่องความยั่งยืนและความเสี่ยงทางด้านสภาพภูมิอากาศด้วย ปัจจุบัน Gautam ยังเป็นประธานวางขั้นตอนการทำงานด้านการบริหารความเสี่ยงให้กับกลุ่มงาน Green Finance Industry และยังเป็นประธานร่วมในการวางขั้นตอนการทำงานเพื่อร่างมาตรฐานการเปลี่ยนแปลงด้วย

ปีนี้ SPIN Analytics และ สมาคมบริหารจัดการความเสี่ยงของ Singapore Chapter ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการเสวนาโต๊ะกลมการเป็นผู้นำทางความคิดในหัวข้อ Model Risk Management in COVID-19 ซึ่ง Gautam ในฐานะสมาชิกคณะกรรมการของ RMA เข้าร่วมในการเสวนาด้วย

– สิ้นสุดเนื้อหา –

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211208005490/en/

ติดต่อ:

Panos Skliamis, panos.skliamis@spin-analytics.com, +447778284864

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Interactive Brokers เปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายบนมือถือ ‘IMPACT’ สำหรับนักลงทุนที่ใส่ใจต่อสังคมทั่วโลก

Logo

IMPACT ให้ผู้ใช้ลงทุนตามค่านิยมและสร้างโลกที่พวกเขาต้องการเห็น

กรีนิช คอนเนตทิคัต–(BUSINESS WIRE)–08 ธันวาคม 2564

Interactive Brokers Group (Nasdaq: IBKR) บริษัทโบรกเกอร์ระดับโลกเปิดตัว IMPACT ให้กับนักลงทุนทั่วโลกในวันนี้ IMPACT เป็นแอปพลิเคชันซื้อขายบนมือถือที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ทั้งนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักลงทุนจัดพอร์ตโฟลิโอให้เข้ากับค่านิยมได้อย่างง่ายดาย และช่วยกำหนดอนาคตที่พวกเขาต้องการเห็น ในการขยายขอบเขตจากความคิดริเริ่มในการซื้อขายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของเรา IMPACT โดย Interactive Brokers นำเสนอการออกแบบแอปที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับกระบวนการลงทุนที่ยั่งยืนสำหรับนักลงทุนทุกราย ตามด้วยการเปิดตัว IMPACT แก่นักลงทุนในสหรัฐฯ การเปิดตัวทั่วโลกเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การพิจารณา ESG ได้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนในระดับโลก เครือข่าย Global Impact Investor Network ประมาณการขนาดตลาดรวมที่ 715 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บริหารจัดการโดย 1,720 องค์กร

“IMPACT นำคุณประโยชน์และค่านิยมที่เสนอโดย Impact Dashboard ของเรามาวางไว้ในมือของนักลงทุน” Will Peterffy ผู้อำนวยการ ESG ของ Interactive Brokers กล่าว “เรากำลังเป็นผู้นำนักลงทุนรุ่นใหม่ในการลงทุนตามมูลค่าโดยช่วยให้พวกเขาพัฒนาแผนการลงทุนที่มีสติสัมปชัญญะตามค่านิยมส่วนบุคคลที่ให้ความรับผิดชอบและความโปร่งใส”

IMPACT เปิดโอกาสให้นักลงทุนเลือกเกณฑ์การลงทุนส่วนบุคคลจากมูลค่าผลกระทบและหลักการ 13 ประการ ได้แก่ อากาศอันบริสุทธิ์ น้ำอันบริสุทธิ์ ชีวิตในมหาสมุทร สุขภาพของแผ่นดิน ความปลอดภัยของผู้บริโภค ความเป็นผู้นำทางจริยธรรม ความเสมอภาคทางเพศ ความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ การรวมกลุ่ม LGBTQ ความโปร่งใสของบริษัท วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน โมเดลธุรกิจที่ใส่ใจ และแรงงานที่เป็นธรรมและชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง นักลงทุนยังสามารถกันการลงทุนออกไปตาม 10 หมวดหมู่: การทดสอบในสัตว์, การโต้เถียงด้านจริยธรรมทางธุรกิจ, การใช้จ่ายและการล็อบบี้ทางการเมืองขององค์กร, การใช้พลังงานอย่างเข้มข้น, เชื้อเพลิงฟอสซิล, การปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ของเสียอันตราย, การใช้น้ำสูง, ยาสูบ, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการพนัน, ผู้ผลิตอาวุธและปืน

จากการเลือกเหล่านี้ แอปจะให้คะแนนผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนและการถือครองที่มีอยู่ และระบุบริษัทที่สอดคล้องกับเกณฑ์ที่นักลงทุนเลือก (Interactive Brokers ใช้ข้อมูล ESG ที่ได้รับจากผู้ขายที่เป็นบุคคลภายนอก และรวมเข้ากับการตั้งค่ามูลค่าของลูกค้าเพื่อสร้างคะแนนผลกระทบ) โดยสิ่งนี้ควบคู่ไปกับความสามารถในการตรวจสอบตัวชี้วัดทางการเงินสำหรับหุ้น และตรวจสอบคะแนนผลกระทบของบริษัท ทำให้นักลงทุนมีโอกาสในการปรับปรุงคะแนนผ่านการคัดเลือกบริษัททางเลือกในลักษณะที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ

IMPACT ยังมีฟีเจอร์ “Swap” ซึ่งเป็นข้อเสนอเฉพาะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับตำแหน่งในสกุลเงินดอลลาร์เดียวกันจากหุ้นหนึ่งไปยังอีกหุ้นหนึ่งได้ ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียวนักลงทุนสามารถซื้อและขายหุ้นได้พร้อมกันตามคะแนนผลกระทบเปรียบเทียบของบริษัทหนึ่งกับอีกบริษัทหนึ่ง คุณลักษณะนี้มีให้สำหรับหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้น

"ฟังก์ชัน 'Swap' ของ IMPACT ก้าวไปไกลกว่าคู่แข่งของเรา เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดตำแหน่งพอร์ตโฟลิโอใหม่ได้อย่างง่ายดายด้วยสิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุด ซึ่งเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง" Edward Soffer ผู้จัดการ ESG ของ Interactive Brokers กล่าว “แอปนี้ออกแบบมาสำหรับนักลงทุนยุคใหม่ที่เข้าใจว่าการลงทุนของพวกเขาสร้างผลกระทบและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง”

พร้อมกับการเปิดตัว Interactive Brokers ได้ร่วมมือกับ One Tree Planted บนโครงการ IMPACT Plant a Forest ที่มีให้สำหรับลูกค้า 30,000 คนแรกที่ลงทะเบียนกับ IMPACT,โครงการ Plant a Forest เปิดโอกาสให้นักลงทุนสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ในทุก ๆ 1,000 ดอลลาร์ที่นักลงทุนฝากเข้าบัญชี IMPACT จะปลูกต้นไม้ให้ 25 ต้น สำหรับต้นไม้ 1 ต้นต่อเงินฝาก 40 ดอลลาร์ ลูกค้า IBKR ที่ใช้แอป IMPACT สามารถช่วยเหลือความพยายามในการปลูกป่าและนำ IMPACT ไปปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น แคลิฟอร์เนีย เม็กซิโก โกตดิวัวร์ หรืออินเดีย One Tree Planted เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ปลูกต้นไม้ทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการตัดไม้ทำลายป่า และร่วมมือกับองค์กรปลูกป่าที่คัดเลือกมาอย่างดีในอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลและดาวน์โหลดแอป IMPACT สามารถเยี่ยมชมได้ที่:

สหราชอาณาจักร: https://impact.interactivebrokers.co.uk/
ยุโรปตะวันตก: https://impact.interactivebrokers.ie/
ยุโรปกลาง: https://impact.interactivebrokers.hu/
ออสเตรเลีย: https://impact.interactivebrokers.com.au/
ฮ่องกง: https://impact.interactivebrokers.com.hk/
สิงคโปร์: https://impact.interactivebrokers.com.sg/
แคนาดา: https://impact.interactivebrokers.ca/
ประเทศอื่น ๆ: https://impact.interactivebrokers.com

IMPACT ไม่มีให้บริการสำหรับผู้ที่พำนักอยู่ในอินเดียหรือญี่ปุ่น

เกี่ยวกับ Interactive Brokers Group, Inc .:

บริษัทในเครือ Interactive Brokers Group ให้บริการดำเนินการซื้อขายอัตโนมัติและการดูแลหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตลอดเวลาในตลาดกว่า 135 แห่งในหลายประเทศและหลายสกุลเงิน ตั้งแต่บัญชีการลงทุนแบบบูรณาการ IBKR บัญชีเดียวไปจนถึงลูกค้าทั่วโลก เราให้บริการแก่นักลงทุนรายย่อย กองทุนป้องกันความเสี่ยง กลุ่มการค้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้แนะนำโบรกเกอร์ การมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติตลอดสี่ทศวรรษที่ทำให้เราสามารถจัดเตรียมแพลตฟอร์มที่มีความล้ำหน้าสลับซับซ้อนเฉพาะตัวแก่ลูกค้าเพื่อจัดการพอร์ตการลงทุนของพวกเขา เรามุ่งมั่นที่จะมอบราคาดำเนินการและการซื้อขายที่ได้เปรียบ เครื่องมือจัดการความเสี่ยงและพอร์ตโฟลิโอ สิ่งอำนวยความสะดวกในด้านการวิจัยและผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าของเรา โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำหรือไม่มีเลย วางตำแหน่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหนือกว่า Barron ได้จัดอันดับ Interactive Brokers #1 ด้วยคะแนน 5 จาก 5 ดาว ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นรีวิวโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุด

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211208005630/en/

ติดต่อ

สื่อ: Katherine Ewert, media@ibkr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

i2c สร้างสถิติด้านอุตสาหกรรมพร้อมการใช้งานใหม่มากกว่า 20 รายการผ่าน 10 ตลาดในเดือนพฤศจิกายน

Logo

ผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลกและธนาคารดิจิทัลรายงานความต้องการทางด้านบริการทั่วโลกที่แข็งแกร่ง พร้อมการใช้งานใหม่อีก 50 รายการซึ่งมีกำหนดจะแล้วเสร็จก่อนไตรมาสที่ 1 ปี 2565

เรดวูดซิตี้ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–07 ธันวาคม 2564

i2c Inc. ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการชำระเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีการธนาคาร ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ปรับใช้โปรแกรมการชำระเงินและธนาคารดิจิทัลใหม่มากกว่า 20 รายการ สำหรับลูกค้าผ่าน 10 ตลาดและ 4 ทวีป ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว

"ระดับการเติบโตที่ผสมผสานกับความหลากหลายของลูกค้าและโปรแกรมต่าง ๆ ที่เราพบเห็นในธุรกิจของเราในวันนี้ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงกลยุทธ์การเติบโตและทีมงานระดับโลกของเรา" Amir Wain ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ i2c Inc. กล่าว "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นทางเลือกสำหรับผู้มีวิสัยทัศน์ในด้านการชำระเงินและพื้นที่ธนาคารดิจิทัล ขณะที่พวกเขาทำงานเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมทางการเงินและขยายการเข้าถึงไปยังผู้ใช้ปลายทางหลายล้านคนทั่วโลก” เขากล่าว

i2c ขับเคลื่อนผู้นำด้านอุตสาหกรรมในฟินเทค ธนาคารดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัล และสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมบนแพลตฟอร์มเดียวทั่วโลกที่คล่องตัว ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีงบประมาณนี้รวมถึงพันธมิตรองค์กรรายใหม่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และการขยายโปรแกรมทั่วโลกสำหรับโปรแกรมต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ รวมถึง: 1derful (ออสเตรเลีย), BEYON Money (บาห์เรน), Caary (แคนาดา), Crypto.com (บราซิล), Standard International Bank (เปอร์โตริโก), Solid (สหรัฐอเมริกา) และ TAG (ปากีสถาน)

i2c ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์และบริการการชำระเงินที่หลากหลายตั้งแต่บัตรเดบิตและบัตรเติมเงินไปจนถึงการให้สินเชื่อ (ทั้งสินเชื่อผู้บริโภคและสินเชื่อเชิงพาณิชย์ รวมถึง BNPL และ LOC) ที่มีการเข้าถึงพันธมิตรเครือข่ายรายใหญ่ทุกราย (American Express, Discover, Mastercard, Visa และ Union Pay) นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการด้านการธนาคารและการชำระเงินที่มีมูลค่าเพิ่มแก่พันธมิตร เช่น การป้องกันการฉ้อโกง ศูนย์ติดต่อ การบริหารข้อพิพาท ตลอดจนเว็บในรูปแบบ white-label และแอปมือถือต่าง ๆ

เกี่ยวกับ i2c Inc.

i2c เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันการชำระเงินและการธนาคารที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ด้วยการใช้เทคโนโลยี "building block" ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ i2c ลูกค้าสามารถสร้างและจัดการชุดโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับเครดิต เดบิต การชำระล่วงหน้า การให้ยืม และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า i2c มอบความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือที่เหนือชั้นจากแพลตฟอร์ม SaaS เดียวทั่วโลก i2c ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 และมีสำนักงานใหญ่ในซิลิคอนแวลลีย์ เทคโนโลยียุคหน้าของ i2c รองรับผู้ใช้หลายล้านคนในกว่า 200 ประเทศ/เขตแดนและในทุกเขตเวลา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.i2cinc.com และติดตามเราได้ที่ @i2cinc

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211207005335/en/

ติดต่อ:

Heather Clifton
Chief Marketing Officer
media@i2cinc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์คิดเป็น 74% ของการลงทุนของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ในตลาดอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

Logo

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIR)–7 ธ.ค. 2564

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีส่วนร่วมคิดเป็นร้อยละ 74 ของการลงทุนของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ GCC ในตลาดอาเซียนในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ตามรายงานของเอกสารฉบับใหม่ที่เผยแพร่โดย Dubai Chamber ก่อนการประชุม Global Business Forum (GBF) อาเซียนครั้งแรกในดูไบ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211207005565/en/

H.E. Hamad Buamim, President and CEO, Dubai Chamber (Photo: AETOSWire)

H.E. Hamad Buamim ประธานและ CEO หอการค้าดูไบ (ภาพ: AETOSWire)

ดำเนินการโดย Economist Intelligence Unit (EIU) และได้รับมอบหมายจากหอการค้าดูไบ รายงานในชื่อเรื่อง Uncharted Territory: การค้าและการลงทุนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างอาเซียนและ GCC เป็นการตรวจสอบสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและประเมินโอกาสในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การดำเนินงานระหว่างสองภูมิภาคในยุคหลังโรคระบาด

ตามรายงานจากเอกสารนำเสนอข้อมูล มูลค่ารวมของการลงทุนจาก GCC ในภูมิภาคอาเซียนอยู่ที่ประมาณ 13.4 พันล้านดอลลาร์ระหว่างมกราคม 2559 ถึงกันยายน 2564 โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับรายงานนี้โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาครัฐและเอกชน เมื่อพวกเขารวมตัวกันที่งาน Expo 2563 Dubai เพื่อการเปิดตัว GBF ASEAN ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8-9 ธันวาคม พ.ศ. 256

เอกสารให้ข้อมูล ระบุว่ายังคงมีศักยภาพมากมายสำหรับบริษัทในกลุ่มอาเซียนและ GCC ในการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร และการแบ่งปันความรู้ในภาคส่วนสำคัญ ๆ ที่สามารถสร้างกรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสองภูมิภาค โดยมีเพียง 2% ของการนำเข้าทั้งหมดของอาเซียนระหว่างปี 2559 ถึง 2563 เท่านั้น ที่มาจาก GCC ในทางกลับกัน ภูมิภาคอาเซียนก็รวมคิดเป็นเพียง 4% ของการส่งออกทั้งหมดของ GCC เท่านั้น ในช่วงระยะเวลาห้าปี ซึ่งมีมูลค่าถึง 126 พันล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วยน้ำมันดิบ (43%) และโพลีเมอร์พลาสติก (20%)

H.E.  Hamad Buamim ประธานและซีอีโอของ Dubai Chamber กล่าวว่ารายงานดังกล่าวให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับศักยภาพที่มีอยู่ระหว่างสองภูมิภาค ซึ่งช่วยให้ธุรกิจทั้งสองฝ่ายตัดสินใจอย่างชาญฉลาด มีการสำรวจโอกาสการเติบโตในต่างประเทศ และหลอมรวมพันธมิตรข้ามพรมแดนที่ขับเคลื่อนความยั่งยืน การเจริญเติบโต

สามารถหาอ่านรายงานได้ ที่นี่

สำหรับบรรณาธิการ:

ภารกิจของ หอการค้าดูไบคือ การนำเสนอ สนับสนุน และปกป้องผลประโยชน์ของชุมชนธุรกิจในดูไบ โดยการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจ และส่งเสริมดูไบให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ นับตั้งแต่ก่อตั้งหอการค้า หอการค้าได้มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับดูไบในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกในด้านการเงิน ธุรกิจ และการลงทุน

*แหล่งที่มา: AETOSWire

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211207005565/en/

ติดต่อ:

Ruba Abdel Halim

หอการค้าและอุตสาหกรรมดูไบ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร

โทร: +97142028450

อีเมล: ruba.halim@dubaichamber.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย