Aptorum Group ร่วมมือกับ Covar Pharmaceuticals ในการตรวจสอบยาที่เคยถูกนำมาใช้แล้วอย่างน้อย 3 รายการ (SACT-COV19) ภายใต้แพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้วอย่าง Smart-ACT™ และ แพลตฟอร์มโรคติดต่อ Acticule เพื่อนำมาใช้รักษาโรค Coronavirus 2562 (COVID-19)

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–30 มีนาคม 2563

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) ("Aptorum Group") ซึ่งเป็น บริษัทชีวเวชภัณฑ์ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาวิวัฒนาการการรักษาสำหรับโรคที่ยังมีความต้องการด้านการรักษาอยู่มาก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ โรคติดต่อ โรคหายาก (หรือโรคกำพร้า) และโรคอ้วนลงพุง (หรือภาวะเมตาบอลิกซินโดรม) ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทกำลังเริ่มโครงการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับ coronavirus โดยได้เสร็จสิ้นภารกิจการคัดกรองเบื้องต้นภายใต้แพลตฟอร์ม Smart-ACT™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้นพบยาใหม่และยาที่เคยถูกนำมาใช้แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเลือกยาโมเลกุลขนาดเล็กที่มีศักยภาพที่ได้รับการอนุมัติแล้วมาอย่างน้อย 3 รายการ จากรายการยากว่า 2,600 รายการ  เพื่อนำมาลองตรวจสอบกับโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19  ทั้งนี้ Aptorum Group ได้ร่วมมือกับ Covar Pharmaceuticals ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโตรอนโต และยังได้ทำข้อตกลงกับแผนกจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกง เพื่อทำการตรวจสอบรายชื่อยาที่ได้รับการคัดเลือกมา ก่อนที่จะทำการขอรับอนุมัติจากหน่วยงานด้านกฎระเบียบเพื่อเริ่มการทดลองทางคลินิกกับยาเหล่านี้ต่อไป

Aptorum Group  จะมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบยาโมเลกุลขนาดเล็กอย่างน้อยสามตัวเป็นพิเศษ (เรียกรวมกันว่า“ SACT-COV19”) ซึ่งได้แสดงศักยภาพว่าอาจสร้างความรบกวนต่อเอนไซม์เป้าหมายสองตัว ได้แก่ 3CL-Protease และ RNA dependent RNA Polymerase (“ RDRP”) ซึ่งเอนไซม์ทั้งสองตัวนี้มีบทบาทสำคัญในวงจรการทำสำเนาตัวเองของ COVID-19 ทั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3CL-Protease ซึ่งถูกเชื่อว่าเป็นสื่อกลางในการทำสำเนาตัวเองของไวรัสและกลไกการถอดรหัส (transcription functions) ผ่านการสร้างเอนไซม์โปรติเอสอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ RDRP เป็นเอนไซม์ที่เชื่อว่าเป็นตัวเร่งการทำสำเนาตัวเองของไวรัส RNA จากเทมเพลตของ RNA ทั้งนี้ตัวยาที่ได้รับการคัดเลือกมาจะได้รับการประเมินทดลองในด้านประสิทธิภาพการต่อกรกับ COVID-19 โดย Aptorum Group ยังได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรสำหรับตัวยาที่ได้รับการคัดเลือกมาข้างต้นอีกด้วย

สำหรับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและงานด้านการทดลองนั้น Aptorum Group กำลังร่วมมือกับบริษัท Covar Pharmaceuticals ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองโตรอนโต นอกจากนี้ Aptorum Group ได้ทำสัญญากับมหาวิทยาลัยฮ่องกงเพื่อดำเนินงานในครั้งนี้อีกด้วย ทีมงานของ Covar Pharmaceutical (ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่เคยร่วมงานกับ Patheon และ Glaxo Wellcome มาก่อน)1 ที่มีประสบการณ์สูงในการค้นพบและพัฒนายาที่สนับสนุนโดยโรงงานผลิตของ GMP ส่วนทีมจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกงนั้นมีบทบาทสำคัญในการค้นพบไวรัส SARS ระหว่างการระบาดในปี 25462 และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในงานวิจัยของตนเองเพื่อพัฒนาวัคซีนสำหรับโรค SARS-CoV-2  coronavirus3 และอุปกรณ์ตรวจสอบทางกายภาพร่วมกับบริษัทภายนอกอื่น ๆ สำหรับโรค COVID-194 อีกด้วย

Aptorum Group  ยังคงแสวงหาผู้ทำงานร่วมกันเพิ่มเติมจากทั่วโลกเพื่อการผลักดันการพัฒนาโครงการ SACT-COV19 ต่อไปเรื่อยๆ เรายินดีต้อนรับผู้ที่สนใจ โปรดติดต่อเราเพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานร่วมกันต่อไป

Aptorum Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ร่วมแก้ไขปัญหา ขณะนี้กำลังพัฒนาตัวชี้วัดยาของโรคติดเชื้อจำนวนมากภายใต้แพลตฟอร์ม Acticule ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ ตัวยาแอนติไวรัสโมเลกุลเล็ก(ALS-1) ที่ไม่เหมือนใคร หรือ unique antiviral small molecule ที่ใช้ต่อกรไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการหลัก และโครงการยาโมเลกุลขนาดเล็กที่ต่อต้านพิษที่ปราศจากแบคทีเรีย หรือ anti-virulent, non-bactericidal small molecule candidate  (ALS-4) ที่ใช้ต่อต้านการติดเชื้อ Staphylococcus aureus เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน Covar Pharmaceuticals ก็ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาในทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย

คุณ Ian Huen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Aptorum Group กล่าวว่า“ โรค COVID-19 เป็นโรคติดต่อที่แพร่หลายและระบาดไปทั่วโลกทำให้เกิดการหยุดชะงักและการบาดเจ็บล้มตายครั้งใหญ่ มีการยืนยันทั่วโลกว่ามีผู้ป่วยเกิน 700,000 รายจนถึงวันนี้5 และองค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า COVID-19 เป็นโรคระบาด (pandemic) แล้ว และถึงแม้ว่าจะมีทั้งบริษัทยาใหญ่ ๆ และและบริษัทยาเกิดใหม่จำนวนมากกำลังร่วมกันเร่งพัฒนาการรักษาด้วยการใช้วัคซีนสำหรับ COVID-19 แต่เราก็เชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดการกับโรคนี้ในแบบหลายมิติและอย่างเร่งด่วน โดยในการที่จะเร่งการพัฒนายาสำหรับนำไปใช้ในการรักษา COVID-19 นั้น เรามุ่งเป้าหมายไปที่การระบุหาตัวยาที่ได้รับอนุมัติแล้ว ซึ่งได้รับการยืนยันด้านความปลอดภัย และมีข้อมูลด้านความเป็นพิษและด้านเภสัชจลนศาสตร์ นอกจากนี้เนื่องจากมีการกลายพันธุ์และวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของ coronavirus เราจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะไม่มีสายพันธุ์อื่นของ coronavirus เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นโลกจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายดังกล่าวร่วมกันอย่างรวดเร็วเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตและความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เราเชื่อว่าแพลตฟอร์ม Smart-ACT ™ ของ Aptorum Group ร่วมกับความสามารถในการพัฒนารักษาโรคติดเชื้อ Acticule ที่มีอยู่ของเราและที่ได้รับการสนับสนุนจาก Covar Pharmaceuticals อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการพัฒนาโซลูชั่นที่มีศักยภาพและส่งมอบผลประโยชน์จากการต่อกรกับโรคนี้ไปทั่วโลก เช่นเดียวกับที่เราสามารถต่อกรกับโรคอื่น ๆ”

เกี่ยวกับ Smart-ACT™ Platform

แพลตฟอร์ม Smart-ACT ™เป็นกระบวนการด้านระบบที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งรวมถึงวิธีการคำนวณทางคอมพิวเตอร์ และการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ โดย Aptorum Group จะทำการตรวจสอบยาที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่ได้รับการอนุมัติจำนวน 2,600 ตัวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อระบุตัวยาที่มีอยู่แล้วที่สามารถนำมาใช้กับโรคหายากหรือโรคที่ยังไม่มีทางรักษา เป้าหมายเชิงกลยุทธ์โดยรวมคือการลดค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา และลดระยะเวลาในการส่งตัวยาที่อยู่ในระดับที่สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรได้ เข้าสู่การตรวจสอบทดลองทางคลินิก

เกี่ยวกับ Aptorum Group Limited

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) เป็น บริษัทยาที่อุทิศตนเพื่อพัฒนาและนำนวัตกรรมการบำบัดใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการทางการแพทย์  โครงการในปัจจุบันของ Aptorum Group รวมถึงการค้นคว้ายาโรคที่หายาก โรคติดเชื้อ และและโรคอ้วนลงพุง (หรือภาวะเมตาบอลิกซินโดรม) ซึ่งโครงการเหล่านี้จำนวนหนึ่งจะเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองทางคลินิกในปี 2563 ทั้งนี้ ยาเม็ด Dioscorea Opposita Bioactive Nutraceutical ของ Aptorum Group ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของสตรีในช่วงวัยหมดประจำเดือนและหลังวัยหมดประจำเดือนกำลังออกวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในขณะนี้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aptorum Group กรุณาเยี่ยมชม www.aptorumgroup.com.

ข้อจำกัดความรับผิดชอบและแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Aptorum Group Limited และแผน โอกาส และ ความคาดหวังในอนาคต ที่เป็น "แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า" ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 โดยเพื่อจุดประสงค์นี้ ข้อความใด ๆ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อาจถือว่าเป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ในบางกรณีอาจสังเกตแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าอาจได้จากการใช้คำต่าง ๆ ต่อไปนี้ เช่นคำว่า "อาจ" "ควร" "คาดหวัง"     "แผน" "คาดการณ์" "อาจเกิดขึ้นได้" "สามารถ" "ตั้งใจ" "เป้าหมาย" "คาดคะเน" "พิจารณาว่า" "เชื่อ" "ประมาณการ" " คาดเดา " "มีศักยภาพที่จะ" หรือ "ดำเนินการต่อ" หรือคำหรือสำนวนเหล่านี้อื่น ๆ ที่คล้ายกันในเชิงนิเสธ โดย Aptorum Group  ได้ใช้แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลาที่คาดการณ์ไว้สำหรับการสมัครและการทดลอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมาจากการคาดคะเนและการคาดการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคตที่เชื่อว่าจะส่งผลต่อกิจการ แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ โดยให้ถือว่าเป็นจริงเฉพาะในวันที่ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้น และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ประกาศออกไป การเปลี่ยนแปลงด้านองค์กร การให้บริการอย่างต่อเนื่อง และความพร้อมของบุคลากรหลัก ความสามารถในการขยายประเภทผลิตภัณฑ์โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ผลสัมฤทธิ์ด้านการพัฒนา การเติบโตของบริษัทที่คาดการณ์เอาไว้ แนวโน้มและความท้าทายที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจของบริษัท และความคาดหวังเกี่ยวกับคามมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน และความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อธิบายไว้อย่างครบถ้วนในแบบฟอร์ม 20-F ของ Aptorum  Group  และเอกสารอื่น ๆ ที่ Aptorum Group อาจทำเอาไว้กับ SEC ในอนาคต ดังนั้นการคาดการณ์ที่รวมอยู่ในแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง Aptorum Group ไม่ถูกผูกมัดใด ๆ ในการปรับปรุงแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าที่มีอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรืออื่น ๆ

1 https://www.covarpharma.com/

2 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3747526/

3 https://fightcovid19.hku.hk/tag/vaccine/

4 https://www.scmp.com/business/article/3073869/hong-kong-researchers-join-us-tech-start-remotely-monitor-covid-19

5 https://www.arcgis.com/apps/opsdashboard/index.html#/bda7594740fd40299423467b48e9ecf6

ดูเอกสารต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200330005263/en/

สำหรับนักลงทุนติดต่อ:

โทร: +852 2117 6611

อีเมล: investor.relations@aptorumgroup.com

สำหรับสื่อติดต่อ:

โทร: + 852 2117 6611

อีเมล: info@aptorumgroup.com