เปิดตัวแอมบาสเดอร์ประจำจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ฟรังค์และเบลล์

Logo

ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–2 พฤษภาคม 2018 

สองสาวสุดน่ารัก ฟรัง (นรีกุล เกตุประภากร) และ เบลล์ (ขมิศรา พลเดช) เปิดตัวเป็นแอมบาสเดอร์ประจำจังหวัดไซตามะ โดยพวกเธอได้เที่ยวชมสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไซตามะเช่น NAGATORO, CHICHIBU และ KAWAGOE และได้โพสต์ลง Instagram.

สอบถามและเช็คข้อมูลการท่องเที่ยวในจังหวัดไซตามะเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และ Facebook “CHOKOTABI-SAITAMA”

Ceremony of ambassadors of Saitama Prefecture in Japan  (Photo: Business Wire)

Ceremony of ambassadors of Saitama Prefecture in Japan (Photo: Business Wire)

ติดต่อ:

Relation Asia Pacific Co.,Ltd.  TEL:+66 2-645-4450

Kornpot Pinaksornskul (Juice)

เทศกาล Jeonju International Film Festival และ Jeonju Hanji Culture Festival เตรียมเปิดฉากในเดือนพฤษภาคมนี้

Logo

ชอนจู สาธารณะรัฐเกาหลี–(BUSINESS WIRE)–2 พฤษภาคม 2561

ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชอนจู หรือ Jeonju International Film Festival ครั้งที่ 19 และเทศกาลวัฒนธรรมฮันจิชอนจู หรือ Hanji Culture Festival ครั้งที่ 22 จะถูกจัดขึ้นในชอนจู เมืองที่ได้ชื่อว่ามีการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของเกาหลีไว้ได้อย่างดีที่สุด และเป็นเมืองท่องเทียวที่ได้รับความนิยมของเอเชีย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย สามารถดูฉบับเต็มได้ที่: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51796758&lang=en

In May 2018, the 19th Jeonju International Film Festival and 22nd Jeonju Hanji Culture Festival, wil ...

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชอนจู ครั้งที่ 19 และเทศกาลวัฒนธรรมฮันจิชอนจู ครั้งที่ 22 จะถูกจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2018 ในชอนจู เมืองที่ได้รับการยกย่องว่ามีการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของเกาหลีไว้ได้อย่างดีที่สุด และเป็นเมืองท่องเทียวที่ได้รับความนิยมของเอเชีย เทศกาลฮันจิในปีนี้จะมีการแสดงแฟชันที่เต็มไปด้วยสีสันจากชุดฮันจิ (รูปภาพ: Business Wire)

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชอนจู ซึ่งมีระยะเวลาในการจัดทั้งหมด 10 วัน เตรียมจัดพิธิเปิดในวันที่ 3 พฤษภาคม 2018  และมีกำหนดฉายภาพยนตร์อิสระ ภาพยนตร์สั้น และภาพยนตร์ทางเลือกจากทั่วโลกทั้งหมด 19 จอภายในโรงภาพยนตร์ 5 แห่งบนถนนสายภาพยนตร์ในชอนจู ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสานต่อการสนับสนุนเสรีภาพทางการแสดงออก เทศกาลภาพยนตร์ในปีนี้จะถูกจัดขึ้นภายใต้สโลแกน Liberation Zone of Expression in Film

ในงาน จะมีการฉายภาพยนตร์ทั้งหมด 246 เรื่อง (ภาพยนตร์ 202 เรื่อง และภาพยนตร์สั้น 44 เรื่อง) โดยในพิธีเปิดจะมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Yakiniku Dragon ซึ่งกำกับโดย Jeong Ui-sin และในพิธีเปิดจะมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Isle of Dogs ซึ่งกำกับโดย Wes Anderson

ภาพยนตร์แต่ละเรื่องจะเข้าแข่งขันชิงรางวัลกันในการประกวดสามหมวดหมู่ ได้แก่ ภาพยนตร์นานาชาติ ภาพยนตร์เกาหลี และภาพยนตร์สั้นเกาหลี และจะมีการแยกฉายใน 9 หมวดหมู่ ได้แก่ Frontline, World Cinema Scape, Masters, Korea Cinema Scape, Expanded Cinema, Cinemafest, Midnight Cinema, Cinematology และ Special Focus

สำหรับเทศกาลวัฒนธรรมฮันจิชอนจู ครั้งที่ 22 จะถูกจัดขึ้นเป็นระยะเวลาสามวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม โดยจะมีการจัดขึ้นที่ศูณย์วัฒนธรรมเกาหลีในชอนจู เพื่อเป็นการเผยแผ่เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมฮันจิในวงกว้าง และเพื่อเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมฮันจิให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ทั้งนี้ ฮันจิ คือ กระดาษโบราณของชาวเกาหลีทีทำจากเส้นใยที่ได้จากผลมัลเบอร์รีย์

เทศกาลฮันจิในปีนี้จะถูกจัดขึ้นภายใต้สโลแกน Rising for One Thousand Years, Succeeding for One Thousand Years ผู้เข้าชมงานจะได้ชมการแสดงแฟชันชุดฮันจิที่เต็มไปด้วยสีสัน การแสดงงานฝีมือจากกระดาษฮันจิ และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมฮันจิ

“ชอนจูมีวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงและดึงดูดมากที่สุด และเป็นเมืองท่องเที่ยวในเกาหลีที่ยังคงอนุรักษ์หมู่บ้านโบราณของเกาหลี รวมถึงวัฒนธรรมฮันจิและอาหารพื้นบ้านเกาหลีเอาไว้ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณเกาหลีมากกว่า 10 ล้านคน เราพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวในเทศกาลภาพยนตร์อันน่าตื่นเต้น และเทศกาลกระดาษเกาหลีโบราณในเดือนพฤษภาคมนี้” เจ้าหน้าที่รัฐของเมืองชอนจูกล่าว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชอนจู และเทศกาลวัฒนธรรมฮันจิชอนจู เยี่ยมชมได้ที่ http://eng.jiff.or.kr/ และ http://jHanji.or.kr/.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttp://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51796758&lang=en

ติิดต่อ:

Jeonju City
Yeong Rok Jin, 82-63-281-2226
wlsduffjr@korea.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บริจาคเงินหนึ่งล้านดอลลาร์เพื่อใช้สำหรับการศึกษาของเด็กผู้ลี้ภัยในเอเชียและภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA)

Logo

เจ้าผู้ครองรัฐซาร์จาห์บริจาคเงินให้มูลนิธิมาเลเซียเพื่อสนับสนุนชุมชนที่ถูกขับไล่ต่อไป

ซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–29 เมษายน 2561

มีการบริจาคเงินจำนวนหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาสำหรับผู้ลี้ภัยและเด็กผู้พลัดถิ่นภายในประเทศในเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือในเวลาที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรที่ถูกขับไล่ทั่วโลกคือเด็ก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย คุณสามารถดูข่าวเต็มได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20180429005047/en/

A picture from the activities Dignity Foundation organizes for refugee children -Source: The Big Hea ...

รูปภาพจากกิจกรรมที่ Dignity Foundation จัดให้กับเด็กผู้ลี้ภัย (รูป: The Big Heart Foundation)

ซุลฏอน บิน มุฮัมมัด อัลกอซิมี สมาชิกสภาสูงสุดแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ครองรัฐซาร์จาห์ทรงมอบเงินบริจาคจำนวนมากให้กับมูลนิธิมาเลเซียชื่อ Children for Dignity Foundation เพื่อส่งเสริมบริการด้านการศึกษาและการสนับสนุนที่องค์กรมอบให้ชุมชนชายขอบเหล่านี้ในเอเชียและภูมิภาค MENA เป็นเวลา 20 ปี

มูลนิธิดังกล่าวซึ่งได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนมากกว่า 7,000 คนและปัจจุบันได้ให้การสนับสนุนประมาณ 1,100 คนจะได้ประโยชน์จากเงินบริจาคก้อนนั้นนอกเหนือจากเงินรางวัล 136,000 ดอลลาร์สหรัฐที่มูลนิธิได้รับเมื่อวันพฤหัสบดี (26 เมษายน) ในฐานะเป็นผู้ชนะ Sharjah International Award for Refugee Advocacy and Support.

รางวัลดังกล่าวตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2560 โดย The Big Heart Foundation (TBHF) องค์กรเพื่อมนุษยธรรมที่มีชื่อเสียงในยูเออีร่วมกับ The United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) เพื่อให้บุคคลหรือองค์กรที่มีการริเริ่มบุกเบิกที่มีผลกระทบเชิงบวกและจับต้องได้ต่อผู้ลี้ภัยในภูมิภาคเหล่านี้ได้มีตัวตนและโดดเด่นขึ้นมา

ซาร์จาห์ ในฐานะเสาวัฒนธรรมเสาหนึ่งในภูมิภาคอาหรับและเอมิเรตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของยูเออี เชื่อว่าทุกชาติจะต้องสร้างจากพื้นฐานที่แข็งแรงของเด็กที่มีการศึกษาและมีอำนาจในการทำสิ่งต่างๆ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นในการอุปถัมภ์และสนับสนุนโครงการการพัฒนาสังคมสำหรับผู้ลี้ภัยและคนยากไร้ทั่วโลกซึ่งนำโดย The Big Heart Foundation ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลและวิสัยทัศน์ของเจ้าผู้ครองรัฐซาร์และญะวาฮิร บินต์ มุฮัมมัด อัลกอซิมี พระชายาของพระองค์

คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Big Heart Foundation ได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิ: http://tbhf.ae

รูปภาพแนบ:

1. โลโก้ SIARA – ที่มา: The Big Heart Foundation

2. รูปภาพจากกิจกรรมที่ Dignity Foundation จัดให้กับเด็กผู้ลี้ภัย -ที่มา: The Big Heart Foundation

ดูที่มาของข่าวได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180429005047/en/

ติดต่อ:

National Network Communications (NNC)
Fadia Daouk, +971 52 617 2111

Sharjah มอบเงิน 136,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับ Malaysian Foundation สำหรับการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย

Logo

Sharjah International Award for Refugee Advocacy and Support ที่จัดขึ้นร่วมกับ UNHCR ทำให้แรงกายแรงใจที่โดดเด่นและสำคัญปรากฏชัดเจนขึ้น และสิ่งนี้ทำให้ชีวิตหลายล้านชีวิตดีขึ้น

ซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–23 เมษายน 2561

สองปีที่ผ่านมา Sharjah International Award for Refugee Advocacy and Support (SIARA) นำความสำเร็จของผู้ที่ทำความดีแต่ไม่ได้รับการยกย่องออกสู่สายตาประชาชน ผู้ที่ทำความดีเหล่านี้ทำงานเพื่อผู้ลี้ภัยและบุคคลไร้สัญชาติในเวลาที่โลกกำลังมองเห็นระดับการขับไล่ทั่วโลกสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งจำนวนคนมากกว่า 65 ล้านคนถูกบังคับให้หนีออกจากบ้าน รวมทั้งผู้ลี้ภัยจำนวน 21.3 ล้านคน

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย คุณสามารถดูข่าวเต็มได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20180423005666/en/

A picture from the activities Dignity Foundation organizes for refugee children (Photo: The Big Hear ...

รูปภาพจากกิจกรรมที่ Dignity Foundation จัดให้กับเด็กผู้ลี้ภัย (รูป: The Big Heart Foundation)

มูลนิธิ The Dignity for Children Foundation จากประเทศมาเลเซียได้ประกาศผู้รับเงินช่วยเหลือรอบที่สองซึ่งปีนี้จำนวนเงินสูงขึ้นถึง 136,000 ดอลลาร์สหรัฐ (500,000 สหรัฐอาหรับเอมริเรตส์เดอร์แฮม) เพื่อเป็นการยกย่องและเป็นการให้รางวัลแก่แรงกายและแรงใจที่โดดเด่นและสำคัญในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (MENA)

ปีนี้มูลนิธิฉลองครบรอบ 20 ปีและให้บริการด้านการศึกษาแก่ผู้ลี้ภัย บุคคลไร้สัญชาติ นักเรียนที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน และกลุ่มชายขอบรวมกันประมาณ 1,100 คนในชุมชนมาเลเซียของกัวลาลัมเปอร์

รางวัลดังกล่าวซึ่งตั้งขึ้นโดย The Sharjah-based global humanitarian charity The Big Heart Foundation (TBHF) ได้รับการชื่นชมยกย่องอย่างล้นหลามและการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อมนุษยธรรมชุมชนระหว่างชาติ รวมถึงองค์กรแบบเดียวกับ The United Nations High Commissioner for Refugees (UNHCR) ที่กล่าวว่าได้มอบเวทีที่มีค่าเพื่อแสดงการสนับสนุนและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้ที่ถูกขับไล่

ในฐานะเอมิเรตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และหนึ่งในศูนย์มนุษยธรรมและวัฒนธรรมของภูมิภาคอาหรับ ซาร์จาห์ ภายใต้การดูแลและวิสัยทัศน์ของซุลฏอน บิน มุฮัมมัด อัลกอซิมี เจ้าผู้ครองรัฐซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และญะวาฮิร บินต์ มุฮัมมัด อัลกอซิมี พระชายาของเจ้าผู้ครองรัฐซาร์จาห์ ประธาน TBHF และ UNHCR Eminent Advocate for Refugee Children จะสนับสนุนการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันของบุคคลและองค์กรทั่วโลกต่อไป

ในเวลาที่ภูมิภาคดังกล่าวให้ที่พึ่งพิงอาศัยแก่ 39 เปอร์เซ็นต์ของบุคคลที่ถูกขับไล่รวมทั้งผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 5 ล้านคน แผนริเริ่มต่าง ๆ ที่ยกย่องจิตวิญญาณชุมชนและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง

คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TBHF ได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิ: http://tbhf.ae

ดูที่มาของข่าวได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180423005666/en/

ติดต่อ:

National Network Communications (NNC)
Fadia Daouk, Mob: +971 52 617 2111

อุตสาหกรรมเบเกอรี่จีน ณ Bakery China 2018 (9-12 พฤษภาคม เซี่ยงไฮ้)

Logo

เซี่ยงไฮ้–(BUSINESS WIRE)–23 เมษายน 2018

มหกรรม Bakery China 2018 กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม นี้ บนพื้นที่จัดแสดงกว่า 200,000 ตารางเมตร พร้อมผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าจากทั่วโลกกว่า 2,100 ราย

Bakery China (www.bakerychina.com) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 21 ปีที่ผ่านมา ในฐานะตัวชี้วัดที่สำคัญของการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเบเกอรี่ในประเทศจีน และได้พัฒนาจนกลายเป็นนิทรรศการด้านเบเกอรี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก สมาคมอุตสาหกรรมเบเกอรี่และขนมหวานแห่งประเทศจีน (CABCI) และ Bakery China Exhibitions Co., Ltd. ในฐานะผู้อำนวยการจัดงานที่ได้รับความสนใจและสร้างผลกระทบอย่างมาก เตรียมต้อนรับผู้เข้าชมงานที่เป็นผู้ประกอบอาชีพในสายงานด้านเบเกอรี่กว่า 140,000 คน จากกว่า 110 ประเทศทั่วโลก ในงาน Bakery China 2018 ซึ่งจะถูกจัดขึ้น ณ Shanghai New International Expo Center ในงานนี้ ผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่และนวัตกรรมแห่งอุตสาหกรรมเบเกอรี่ของจีนอย่างแท้จริง

อุตสาหกรรมเบเกอรี่ในประเทศจีน ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 2003 และ 2016 ถึง 20% ส่งผลให้จีนเป็นผู้นำของโลก ขณะที่ในเดือนพฤษภาคมที่กำลังจะถึงนี้ คาดว่าประเทศจีนจะก้าวสู่การเป็นตลาดผู้ผลิตและผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่ใหญ่ที่สุด โดยอ้างอิงสถิติเกี่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจเบเกอรี่ทั้งที่รัฐเป็นเจ้าของและไม่ได้เป็นเจ้าของจากสถาบันสถิติแห่งชาติของจีน ซึ่งระบุว่า ในปี 2017 จีนมีการผลิตเบเกอรี่และขนมหวาน (ประกอบด้วย แป้งพาย/ขนมปัง บิสกิต ชอคโกแลต เครื่องดื่มประเภทโฟรเซนดริงก์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและของหวาน) รวมทั้งหมด 35.899 ล้านตัน มีรายได้จากการดำเนินงาน 743.178 พันล้านหยวน โดยมีอัตราการเติบโตถึง 8.29% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก CABCI ระบุว่า ประเทศจีนมีจำนวนประชากรราว 1.37 พันล้านคน อัตราการบริโภคขนมปังต่อหัวประชากรต่อปีในปี 2017 อยู่ที่ 4.4กก. เมื่อเทียบกับการบริโภคขนมปังเฉลี่ยที่ 10กก. ในประเทศเกาหลี มากกว่า 20กก. ในประเทศญี่ปุ่น และราว 70-80กก. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปตะวันตก จึงเห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมเบเกอรี่ในจีนยังคงมีศักยภาพในการเติบโตและการขยายได้อีกมาก การเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมเมืองอย่างรวดเร็วและความหลากหลายของอาหาร จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมเบเกอรี่ในประเทศจีน

ติดตามเราบน Linkedin: https://www.linkedin.com/in/bakery-china-a82966a3

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180420005356/en/

ติดต่อ:

Bakery China 2018
Christine Jiang, +86-10-8219 1892
li.jiang@bakerychina.com

เกาะไหหลำจะให้วีซ่าฟรี 30 วัน กับคนจาก 59 ประเทศ

Logo

—-ให้ซานย่าการเป็นจุดหมายปลายทางครั้งต่อไปของคุณ และเพลิดเพลินไปกับสถานที่ที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้

ซานย่า, ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2018

เมื่อวันที่ 18 เมษายนกระทรวงความมั่นคงและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนได้จัดแถลงข่าวเพื่อประกาศข้อสรุปที่สำคัญว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2018 พลเมืองของจาก 59 ประเทศจะได้รับวีซ่าฟรีไม่เกิน 30 วันเมื่อเดินทางมาที่เกาะไหหลำ นโยบายใหม่นี้เป็นความพยายามที่จะสนับสนุนการปฏิรูปและการริเริ่มกิจกรรมการเปิดเกาะ

59 ประเทศที่สามารถได้รับวีซ่าฟรีเพื่อเข้าเกาะไหหลำ ได้แก่

รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี นอร์เวย์ ยูเครน อิตาลี ออสเตรีย ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดนสเปน เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา โปแลนด์โปรตุเกส สโลวะเกีย สโลวีเนีย ไอร์แลนด์ ไซปรัส บัลแกเรีย โรมาเนีย เซอร์เบีย โครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนามอนเตรเนโกร มาซิโดเนีย แอลเบเนีย แคนาดา บราซิล เม็กซิโก อาร์เจนตินา ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ , ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย คาซัคสถาน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน โมนาโก เบลารุส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์

ภายใต้นโยบายใหม่นี้ กลุ่มหรือบุคคลจาก 59 ประเทศเหล่านี้สามารถเยี่ยมชมจังหวัดไหหลำได้ฟรี 30 วัน ตราบเท่าที่พวกเขาจองทัวร์ผ่านตัวแทนท่องเที่ยวที่จดทะเบียนในจังหวัดไหหลำ และที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน

ซานย่าตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะไหหลำและเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "ฮาวายของประเทศจีน" สภาพภูมิอากาศของเกาะแห่งนี้มีความรื่นรมย์ตลอดทั้งปีซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลบหนีชีวิตในเมืองอันวุ่นวายหรือ หรืออาจแค่ต้องการหาสถานที่ที่จะผ่อนคลายบนชายหาดอันน่าทึ่งที่พบได้บนเกาะ สิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่งและไม่เหมือนใครในประเทศจีนคือวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สามารถสัมผัสได้เฉพาะในซานย่าเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปตามชายฝั่งที่สวยงามในหนึ่งวัน และพบกับชนพื้นเมืองในป่าอันเขียวชอุ่มของตัวเมือง

นักท่องเที่ยวสามารถใช้ประโยชน์จากนโยบายใหม่นี้ เพื่อเยี่ยมชมเมืองซานย่า ประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน ท่านสามารถค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามหลายแห่งในซานย่า สำรวจภูมิทัศน์ที่ยอดเยี่ยมและพบปะผู้คนที่น่ารักที่อาศัยอยู่บนสวรรค์แห่งนี้

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางอันยอดเยี่ยมแห่งนี้ โปรดไปที่:

เว็บไซต์: http://en.sanyatour.com/
Facebook: https://www.facebook.com/Sanya.China/
Twitter: https://twitter.com/VisitSanya
Instagram: https://www.instagram.com/visit_sanya/
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/15158623/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180419006200/en/

ติดต่อ:

Sanya Tourism Development Commission
Cherry Yu, 0086-15359868821
info@sanyatour.gov.cn

P&G เข้าซื้อธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์จาก Merck KGaA, Darmstadt, Germany

Logo

เพื่อเสริมความแกร่งกลุ่มผลิตภัณฑ์และตลาด OTC 15 แห่งทั่วโลก

ทดแทนและยกระดับกิจการค้าร่วม PGT ให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

ซินซินแนติ–(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2018

วันนี้ Procter & Gamble Company (NYSE:PG) ได้แถลงการลงนามในข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ของ Merck KGaA, Darmstadt, Germany ด้วยมูลค่าราว 3.4 พันล้านยูโร

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180418006692/en/

The Procter & Gamble Company (NYSE: PG) today announced it has signed an agreement to acquire the Co ...

วันนี้ Procter & Gamble Company (NYSE: PG) ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์จาก Merck KGaA, Darmstadt, Germany (รูปภาพ: Business Wire)

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นการขยายความสำเร็จธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ของ P&G จากการเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของแบรนด์ที่มีความแตกต่างและได้รับการรับรองจากแพทย์ทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นการนำความแข็งแกร่งด้านการค้าและบริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำทางด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมาเติมเต็มขีดความสามารถทางด้านสุขภาพและแบรนด์ผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ P&G อย่าง Vicks, Metamucil, Pepto-Bismol, Crest และ Oral-B

“เราชื่นชอบความมั่นคงและการเติบโตในวงกว้างของตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่สามารถจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ได้ (OTC) และมีความยินดีที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์เฮลธ์ และต้อนรับบุคลากรจาก Merck KGaA, Darmstadt, Germany สู่ครอบครัว P&G ของเรา” David Taylor, Chairman of the Board and President and Chief Executive Officer กล่าว

การเข้าซื้อหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ของ Merck KGaA, Darmstadt, Germany โดย P&G จะเป็นการขยายขนาดทางภูมิศาสตร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์และตลาดของ P&G ได้อย่างมหาศาลในตลาด OTC ที่สำคัญๆ 15 แห่งทั่วโลก แบรนด์เหล่านี้มาพร้อมผลิตภัณฑ์ชั้นยอดที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ข้อและหลัง บรรเทาอาการหวัด อาการปวดศีรษะ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ทำกิจกรรมทางกายภาพและการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เหล่านี้มีวิธีการรักษาที่ยังไม่มีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ P&G

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจด้านสุขภาพของเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างมูลค่าที่แข็งแกร่งให้กับผู้ถือหุ้น” Steve Bishop, Group President, Global Health Care กล่าว “ธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ของ Merck KGaA, Darmstadt, Germany จะนำมาซึ่งแบรนด์ ผลิตภัณฑ์และขีดความสามารถที่แข็งแกร่ง และนำมาซึ่งตลาดที่มีความน่าสนใจและจะเข้ามาส่งเสริมธุรกิจของเราให้เติบโตยิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กับการสร้างแบรนด์ชั้นนำปัจจุบันของเราให้เติบโตยิ่งขึ้น”

การเข้าซื้อธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์จาก Merck KGaA, Darmstadt, Germany ในครั้งนี้ เป็นการแทนที่และยกระดับ PGT Healthcare ที่เป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง P&G และ Teva Pharmaceutical Industries (NYSE: TEVA) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยกิจการร่วมค้านี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 ซึ่งทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในการเลิกกิจการ

กิจการร่วมค้า PGT Healthcare มีการเติบโตทั้งในแง่ของยอดขายและรายได้สุทธิได้อย่างไร้คู่แข่ง รวมทั้งได้เข้าไปทำตลาดในประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศนับตั้งแต่มีการก่อตั้ง อย่างไรก็ตาม หลังการประเมินสถานการณ์ครั้งล่าสุด Teva และ P&G ได้มีข้อสรุปถึงเป้าหมายหลักและกลยุทธ์ที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และตกลงที่จะยุติความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สินทรัพย์ของ PGT จะถูกนำส่งคืนไปยังบริษัทแม่ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสร้างธุรกิจ OTC อย่างเป็นอิสระต่อกันขึ้นมาอีกครั้ง

ธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ฯ ของ Merck KGaA, Darmstadt, Germany เติบโต 6% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และได้แนะนำผลิตภัณฑ์หลากหลายในตลาด OTC เพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ข้อและหลัง บรรเทาหวัด อาการปวดศีรษะ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ทำกิจกรรมทางกายภาพและการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น แบรนด์ที่เป็นที่นิยมได้แก่ Neurobion, Dolo-Neurobion, Femibion, Nasivin, Bion3, Seven Seas และ Kytta และอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีการวางจำหน่ายในตลาดหลักๆ อย่างยุโรป ลาตินอเมริกาและเอเชีย

“แบรนด์ชั้นนำและพนักงานที่ยอดเยี่ยมในธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ของ Merck KGaA, Darmstadt, Germany จะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจเพอร์ซันนัลเฮลธ์แคร์ของเราได้อย่างดี,” Tom Finn, President, P&G Global Personal Health Care กล่าว “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นการสร้างยอดขายและกำไรของ P&G ให้เติบโตยิ่งขึ้น ด้วยการมอบความสามารถและขนาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการเพื่อดำเนินธุรกิจ OTC ที่ประสบผลสำเร็จทั่วโลกด้วยตัวของเราเอง โดยปราศจากความช่วยเหลือจากพันธมิตรด้านสุขภาพ”

“การเลิกกิจการคอนซูเมอร์เฮลธ์ของเรา เป็นอีกก้าวสำคัญในเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ด้านธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมในกลุ่มสุขภาพ วิทยศาสตร์ชีวภาพ และวัสดุประสิทธิภาพ สิ่งนี้เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีมาตลอดในการสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราให้เป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” Stefan Oschmann, Chairman of the Executive Board and CEO of Merck KGaA, Darmstadt, Germany กล่าว “คอนซูเมอร์เฮลธ์เป็นธรุกิจที่มีความแข็งแกร่ง ที่สมควรได้รับโอกาสที่ดีที่สุดที่อาจเกิดขึ้นเพื่อการพัฒนาในอนาคต ด้วยความร่วมมือจาก P&G เราได้พบกับผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ผู้เล่นซึ่งมีความพร้อมทุกด้านที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าได้สำเร็จ”

“ขนาดของ P&G ในระดับโลกและความสนใจเชิงกลยุทธ์ในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้บริโภค เป็นพื้นฐานอย่างดีที่ทำให้เกิดการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการยกระดับขีดความสามารถของทีม และการขยายธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ให้ได้ผลกำไร กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในตลาด เส้นทางจำหน่ายสินค้า และขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของทั้งสองธุรกิจส่งเสริมกันอย่างมาก” Belén Garijo, Member of the Executive Board of Merck KGaA, Darmstadt, Germany และ CEO Healthcare กล่าว “เราจะยังคงเดินตามกลยุทธ์อย่างแข็งขัน เพื่อเป็นผู้สร้างนวัตกรรมที่เชี่ยวชาญเฉพาะของโลก และพัฒนายาใหม่ๆ ให้กับผู้ป่วย”

ธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ของ Merck KGaA, Darmstadt, Germany มีผลิตภัณฑ์กว่า 900 ชิ้นและมีจำหน่ายใน 44 ประเทศทั่วโลก P&G ตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงนี้ระหว่างปีงบประมาณ 2018/19 ซึ่งจะมีผลตามเงื่อนไขที่เป็นสิ้นสุดและการดำเนินการขออนุญาตขึ้นทะเบียน

เกี่ยวกับ Procter & Gamble

P&G ดูแลผู้บริโภคทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูง มีคุณภาพและเป็นแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks® และ Whisper® ชุมชน P&G ประกอบด้วยการดำเนินกิจการในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โปรดเยี่ยมชม http://www.pg.com เพื่อติดตามข่าวล่าสุดและข้อมูลเกี่ยวกับ P&G และแบรนด์ในเครือ

ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคต:

ข้อความในเอกสารประชาสัมพันธ์หรือการนำเสนอนี้ ที่นอกเหนือจากข้อมูลในอดีต ได้แก่ การประมาณการ การคาดการณ์ ข้อความที่เกี่ยวกับแผนธุรกิจของเรา เป้าหมายและผลการดำเนินงานที่คาด และ การสมมติที่เกิดจากข้อความเหล่านั้น ถือเป็ร “ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคต” ตามความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538  (Private Securities Litigation Reform Act of 1995) มาตรา 27A แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ ปี 2476 (Section 27A of the Securities Act of 1933) และมาตรา 21E แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ ปี 2477 (Section 21E of the Securities Exchange Act of 1934) ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้สามารถระบุได้ด้วยคำว่า “เชื่อ” “คาดการณ์” “คาดหมาย” “คาดหวัง” “ประมาณการ” “ตั้งใจ” “กลยุทธ์” “อนาคต” “โอกาส” “แผน” “อาจจะ” “ควร” “จะ” “น่าจะ” “จะเป็น” “จะยังคง” “มีความเป็นไปได้ว่า” และคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคตอ้างอิงกับการคาดการณ์และสมมติฐานในปัจจุบัน ซึ่งมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลทีเกิดขึ้นจริงแตกต่างออกไปอย่างมากจากข้อความคาดการณ์ เราไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความคาดการณ์ให้เป็นไปตามข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่นใด

ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ที่กล่าวถึงในข้อความที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคตรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ: (1) ความสามารถในการจัดการความเสี่ยงทางการเงินของโลกให้ประสบผลสำเร็จ ได้แก่ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ การควบคุมราคา และความผันผวนของราคาในท้องถิ่น (2) ความสามารถในการจัดการความผันผวนทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ภูมิภาคหรือระดับโลก ได้แก่ อัตราการเติบโตของตลาดที่ลดลง และสร้างรายได้ที่พอเพียงและกระแสเงินสดเพื่อให้บริษัทสร้างผลกระทบการซื้อหุ้นคืนและการจ่ายเงินปันผลที่คาดหวัง (3) ความสามารถในการจัดการกับความปั่นปวนในตลาดเครดิต หรือ การเปลี่ยนแปลงในการจัดระดับเครดิตของเรา (4) ความสามารถในการรักษาไว้ซึ่งขั้นตอนการผลิตที่สำคัญ และการจัดหาวัตถุดิบ (ได้แก่การจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการจัดเตรียมฐานการผลิตโดยลำพัง) และการจัดการการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ อันมีสาเหตุจากปัจจัยที่เหนือการควบคุมของเรา เช่น ภัยธรรมชาติ สงครามและการก่อการร้าย (5) ความสามารถในการจัดการความผันผวนของต้นทุนและแรงกดดันต่างๆ ได้แก่ ราคาของโภคภัณฑ์และวัตถุดิบ ค่าแรง การขนส่ง พลังงาน เงินบำนาญและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ (6) ความสามารถในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม การได้มาซึ่งการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่จำเป็น และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่หามาได้โดยคู่แข่ง และมีการมอบสิทธิบัตรให้กับคู่แข่ง (7) ความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก ในด้านช่องทางจัดจำหน่ายใหม่และที่มีอยู่เดิม ได้แก่ การตอบสนองต่อปัจจัยของคู่แข่ง เช่น ราคา การส่งเสริมการขายและข้อตกลงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ (8) ความสามารถในการจัดการและรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์กับลูกค้าหลัก (9) ความสามารถในการปกป้องชื่อเสียงและมูลค่าของแบรนด์ด้วยการจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงและคาดว่าจะเกิด ได้แก่ข้อกังวลที่เกี่ยวกับความปลอดภัย คุณภาพ ส่วนผสม ประสิทธิภาพ หรือเรื่องที่มีความคล้ายคลึงกันที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง (10) ความสามารถในการจัดการด้านการเงิน กฎหมาย ชื่อเสียงและความเสี่ยงในการดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบุคคลที่สาม เช่น ซัพพลายเออร์ ผู้กระจายสินค้า คู่สัญญา และพันธมิตรทางธุรกิจภายนอก (11) ความสามารถในการพึ่งพาและรักษาไว้ซึ่งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เครือข่ายและบริการของบริษัทและบุคคลที่สาม และรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยและการทำงานของระบบ เครือข่ายและบริการ และข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น (12) ความสามารถในการจัดการความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการเมือง (ได้แก่การตัดสินใจยุติการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร) และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการหดตัวของตลาด (13) ความสามารถในการจัดการข้อกำหนดต่างๆ และกฎหมาย (ประกอบด้วยแต่ไม่จำกัดเฉพาะกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายป้องกันการผูกขาด กฎหมายการป้องกันข้อมูล กฎหมายภาษี กฎหมายสิ่งแวดล้อม และการรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการบัญชี) และปัญหาต่างๆ ภายใต้การคาดการณ์ ณ ปัจจุบัน (14) ความสามารถในการจัดการการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อกำหนดด้านภาษีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรักษาไว้ซึ่งข้อปฏิบัติดั้งเดิมด้านภาษีของการดำเนินการที่เกี่ยวกับการขยายบริษัท (15) ความสามารถในการจัดการการเข้าซื้อกิจการ การขยายกิจการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมทุนของเรา เพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ธุรกิจโดยรวมของบริษัทและเป้าหมายทางการเงิน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อวัตถุประสงค์พื้นฐานของธุรกิจ และ (16) ความสามารถในการพัฒนาการผลิตและการลดต้นทุนและการจัดการการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ในขณะที่สามารถระบุตัวตน พัฒนาและคงไว้ซึ่งพนักงานที่มีความสำคัญ ในตลาดที่มีการเติบโตสูง ซึ่งพนักงานที่มีทักษะและประสบการณ์อาจมีจำกัด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดผลและเหตุการณ์ที่มีความแตกต่างจากที่กล่าวข้างต้น โปรดอ้างอิงรายงาน 10-K, 10-Q และ 8-K ฉบับล่าสุดของเรา

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180418006692/en/

P&G Media:
Heather Huff, +1-513-622-1810
Huff.ha@pg.com
หรือ
Tressie Rose, +1-513-983-4929
Rose.t.8@pg.com
หรือ
P&G Investor Relations:
John Chevalier, +1-513-983-9974
Chevalier.jt@pg.com

อเมซอน สตูดิโอ ไฟเขียวเรื่องยูโทเบีย เซ็นสัญญาข้อตกลงทั้งหมดกับ Gillian Flynn

Logo

Flynn นักเขียนที่ได้รับรางวัลและขายดีที่สุดและผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Gone Girl (เล่นซ่อนหาย) และเรื่อง Sharp Objects (สนิทชิดเชือด) จะเป็นผู้สร้าง ผู้อำนวยการผลิต และโชว์รันเนอร์ของยูโทเปีย ซีรีย์เรื่องใหม่ที่จะออกอากาศในไพรม์ วิดีโอ (Prime Video) เท่านั้นในประเทศและดินแดนมากกว่า 200 แห่ง

ซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–18 เมษายน 2561

(NASDAQ: AMZN)— อเมซอน สตูดิโอประกาศวันนี้ว่าทางบริษัทได้ไฟเขียวทำซีรีย์เรื่องยูโทเปียทั้งเรื่องซึ่งมีทั้งหมดอยู่เก้าตอนและเป็นซีรีย์จาก Gillian Flynn ซึ่งเธอมีรางวัลการันตี อีกทั้งยังเป็นนักเขียนที่ขายดีที่สุดและเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Gone Girl ซึ่งเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและเรื่อง Sharp Objects ของ HBO ที่ผู้ชมต่างเฝ้ารอ Flynn ได้เซ็นสัญญาข้อตกลงทั้งหมดกับอเมซอน สตูดิโอในเรื่องของโทรทัศน์ซึ่งมีเรื่องยูโทเปียเป็นโครงการแรก เรื่องยูโทเปียจะออกอากาศบนไพรม์ วิดีโอเท่านั้นในประเทศและดินแดนมากกว่า 200 แห่ง

ยูโทเปียสร้างจากซีรีย์อังกฤษที่มีชื่อเดียวกันซึ่งเขียนโดย Dennis Kelly ซีรีย์เรื่องดังกล่าวผลิตร่วมโดย Endomol Shine North America and Kudos, Endemol Shine Group UK production studio และอเมซอน สตูดิโอ

ผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งซึ่งพบปะกันทางออนไลน์กำลังถูกล่าอย่างไร้ความปราณีโดยองค์กรรัฐพันลึกที่ลึกลับหลังจากที่พวกเขาได้รับหนังสือนวนิยายภาพใต้ดินเกี่ยวกับลัทธิในตำนาน พวกเขาค้นพบว่าทฤษฎีสมคบคิดในหน้าหนังสือการ์ตูนอาจจะจริง และพวกเขาถูกบังคับให้อยู่ในสถานะต้องกู้โลกซึ่งเป็นสถานะที่อันตราย ไม่มีใครเหมือน และประหลาด

Nick Hall หัวหน้าฝ่ายซีรีย์ทางเลือกของอเมซอน สตูดิโอ กล่าวว่า “เราเป็นแฟนคลับตัวยงงานที่น่าตื่นเต้นของ Gillian Flynn” “เธอเขียนเรื่องราวที่ทำให้คนดูต้องใจจดใจจ่ออยู่ตลอดและล้มล้างความคาดหวังที่อยู่เบื้องหลังตัวละคนของเธอ เธอจะทำซีรีย์ให้สมาชิกไพรม์ วิดีโอและพวกเขาจะไม่มีวันลืมซีรีย์เรื่องนั้น ความมีคุณค่าและประโยชน์ของเรื่องยูโทเปียจะเชื่อมโยงกับคนดูทั่วโลกได้อย่างแน่นอน”

Gillian Flynn กล่าวว่า “สำหรับฉัน ยูโทเปียเป็นอะไรที่สร้างสรรค์มากเลยทีเดียว การแสดงของ Dennis Kelly ทำให้ฉันทึ่ง และเขาก็ใจกว้างมากที่ให้ฉันเปิดโลกของเขาและเล่นอยู่ในนั้น อีกทั้งฉันยังสร้างที่ประหลาด ๆ และบ้าบิ่นของตัวเองด้วย ยูโทเปียเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสำรวจศึกษาประเด็นการเล่าเรื่องที่หักมุมและเร้นลับ มันเป็นซีรีย์ที่ด่วน ปัจจุบัน และเลิศ! แต่ก็สนุกไม่เบาเลยล่ะค่ะ”

Diederick Santer ซีอีโอของ Kudos กล่าวว่า “Dennis Kelly และทีมที่ Kudos สร้างหนังระทึกขวัญสัญชาติอังกฤษที่ไม่มีใครเหมือน เร้นลับ และน่าตื่นเต้นขึ้นมา และเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ Gillian Flynn นึกถึงมันขึ้นมาอีกครั้งเพื่อผู้ชมทั่วโลกกลุ่มใหม่”

Flynn เป็นผู้สร้าง ผู้อำนวยการผลิต และโชว์รันเนอร์ของยูโทเปีย และผู้อำนวยการผลิตท่านอื่นซึ่งคือ Jessica Rhoades (คนที่ Flynn ร่วมทำหนังเรื่อง Sharp Objects ด้วย) Sharon Hall, Karen Wilson, Dennis Kelly และ Diederick Santer, และ Sharon Levy ประธาน Unscripted & Scripted Television ของ Endemol Shine North America จะเป็นผู้ดูแลการผลิตให้กับ Endemol Shine

สมาชิกไพรม์สามารถดูซีรีย์ของไพรม์ ออริจินัลโดยใช้แอป Prime Video สำหรับทีวี อุปกรณ์เชื่อมต่อร่วมถึง Amazon Fire TV และอุปกรณ์มือถือ หรือดูซีรีย์ของไพรม์ ออริจินัลเรื่องอื่นทางออนไลน์ที่ Amazon.com/originalsโดยไม่มีค่าใช้จ่ายการเป็นสมาชิกใด ๆ เพิ่มเติม สำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกไพรม์สามารถลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรีได้ที่ www.amazon.com/prime สำหรับรายการอุปกรณ์ทั้งหมดที่สามารถใช้งาน Prime Video ได้ โปรดดูที่ www.amazon.com/howtostream คุณสามารถดูเนื้อหาได้ทางแอปพลิเคชัน Prime Video และ PrimeVideo.com ในประเทศและดินแดนมากกว่า 200 แห่ง

เกี่ยวกับไพรม์ วิดีโอ

ไพรม์ วิดีโอเป็นบริการบันเทิงตามคำขอระดับพรีเมียมที่ให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะดูอะไร ลูกค้าหาสามารถหาสิ่งที่อยากดูได้ง่าย ๆ ในที่เดียว

  • มาพร้อมกับไพรม์: ดูหนังและรายการทีวียอดฮิตหลายพันเรื่อง รวมทั้งหนังไพรม์ ออริจินัลของเราที่มีรางวัลการันตีเช่น The Grand Tour, The Marvelous Mrs. Maisel and Sneaky Pete, Manchester by the Sea และ The Salesman ซึ่งได้รับรางวัลอะคาเดมีทั้งสองเรื่อง The Big Sick ซึ่งเข้าชิงรางวัลอะคาเดมี นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่มีเฉพาะบนไพรม์ วิดีโอเท่านั้น การแข่งขันกีฬาสดและเนื้อหาที่ได้รับอนุญาตและเผยแพร่เองในประเทศและดินแดนกว่า 240 แห่งทั่วโลก
  • ดูเยอะขึ้นกับช่องของไพรม์ วิดีโอ: สมาชิกไพรม์สามารถเพิ่มช่องได้มากกว่า 100 ช่องเช่น HBO, SHOWTIME, STARZ, CBS All Access, Cinemax และอีกมากมายโดยไม่ต้องโหลดแอปอะไรเพิ่มเติมและไม่ต้องใช้สายเคเบิล จ่ายให้กับสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้นและยกเลิกเมื่อใดก็ได้ หากต้องการดูรายการช่องทั้งหมด โปรดดูที่ www.amazon.com/channels
  • เช่าหรือเป็นเจ้าของ: ลูกค้าอเมซอนทุกคนสามารถเช่าหรือซื้อเรื่องเป็นแสน ๆ เรื่อง รวมทั้งหนังออกใหม่และรายการทีวีที่กำลังออกอากาศได้ตามต้องการ
  • การเข้าถึงโดยทันที: ดูได้ทันทีในทุกที่ ทุกเวลาผ่านแอป Prime Video บนทีวี อุปกรณ์มือถือ Amazon Fire TV, Fire TV Stick, แท็บเล็ต Fire แอปเปิ้ลทีวี หรือทางออนไลน์ สำหรับรายการอุปกรณ์ทั้งหมดที่สามารถใช้งานได้ โปรดดูที่ www.amazon.com/howtostream
  • ประสบการณ์ที่ดีขึ้น: ดูทุกอย่างในรูปแบบ 4K Ultra HD และ HDR (High Dynamic Range) ดูเบื้องหลังหนังและรายการทีวีโปรดของคุณด้วย X-Ray Access สุดพิเศษเฉพาะสำหรับคุณซึ่งมอบให้โดย IMDb. คุณสามารถบันทึกหนังที่ดาวน์โหลดมาไว้ในมือถือเพื่อดูภายหลังได้แบบออฟไลน์

นอกจากไพรม์ วิดีโอแล้ว สมาชิกไพรม์ยังมีตัวเลือกในการขนส่งแบบฟรี เร็ว และไม่จำกัดสำหรับทุก ๆ ประเภทที่มีอยู่บนอเมซอน ฟัง Prime Music ที่มีเพลงมากกว่าสองล้านเพลงและเพลย์ลิสต์กับสถานีหลายพันสถานี เก็บรูปภาพอย่างปลอดภัยกับ Prime Photos อ่านแบบไม่จำกัดกับ Prime Reading เข้าถึงแคตาล็อกหนังสือเสียงดิจิทัลแบบไม่จำกัดกับ Audible Channels สำหรับไพรม์ ใช้ Twitch Prime ซึ่งมีการเลือกเกมดิจิทัลฟรี ๆ แบบหมุนเวียนและเงินในเกม เข้าถึงการลดราคาแบบฉับพลันก่อนใคร มีการเข้าถึงแบบเฉพาะและได้รับส่วนลดสำหรับสินค้าเฉพาะ และอีกมากมาย หากต้องการลงทะเบียนไพรม์หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.amazon.com/prime

เกี่ยวกับอเมซอน

อเมซอนดำเนินการโดยใช้หลักสี่หลัก: คิดถึงลูกค้ามากกว่าการจดจ่อที่คู่แข่ง ความคลั่งไคล้ในการสร้าง ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ และการคิดระยะยาว รีวิวจากลูกค้า การช้อปปิ้งโดยจบที่คลิกเดียว คำแนะนำเฉพาะส่วนบุคคล ไพรม์ Fullfillment by Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, แท็บเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Echo และ Alexa เป็นตัวอย่างของสินค้าและบริการที่อเมซอนเป็นผู้บุกเบิก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปที่ www.amazon.com/about และติดตามที่ @AmazonNews

ดูที่มาของข่าวที่businesswire.comhttp://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=51791236&lang=en

ติดต่อ:

Amazon.com, Inc.
สายด่วนมีเดีย
Amazon-pr@amazon.com
www.amazon.com/pr

การประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ (tHIS) เตรียมรับบทบาทสำคัญช่วยจีนกระตุ้นอุตสาหกรรมเพื่อยกระดับระบบสุขภาพแห่งชาติ

Logo

เซี่ยงไฮ้–(BUSINESS WIRE)–16 เมษายน 2018

การประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ หรือ Health Industry Summit (tHIS) 2018 ซึ่งมี Reed Sinophram เป็นเจ้าภาพ ได้จัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ  ศูนย์ประชุมและนิทรรศการแห่งชาติในกรุงเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพครั้งใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน จากกว่า 150 ประเทศ และหน่วยงานที่ร่วมแสดงนิทรรศการกว่า 7,000 ราย

เพื่อเป็นการขานรับเจตจำนงค์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งได้ประกาศในการประชุม Boao Forum for Asia ว่าต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านสุขภาพในระดับที่มากขึ้น การจัดนิทรรศการด้านสุขภาพชั้นนำที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของอุตสาหกรรม โดยเน้นหัวข้อสำคัญๆ เช่น เครื่องมือด้านการแพทย์ การผลิตยา การกระจายตัวของยา และสุขภาพและโภชนาการเชิงธรรมชาติ จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จีนใช้ในการส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการได้ในระดับสูงสุด สำหรับการจัดงาน tHIS ครั้งที่สี่ในปีนี้ เป็นการย้ำถึงความสำเร็จในการจัดงานด้านอุตสาหกรรมสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆ ภายในงานกว่า 160 กิจกรรมแล้ว ยังมีการจัดประชุมสัมนาในหัวข้อต่างๆ ควบคู่กับกิจกรรมหลักด้วย

โดยกิจกรรมหลักของงานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมด้านสุขภาพครั้งนี้ ประกอบด้วยการจัดแสดงอุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัชภัณฑ์จากบริษัทชั้นนำของจีนอย่าง CMEF, PHARMCHINA และ API China ซึ่งจัดแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำของอุตสาหกรรมในส่วนของ Intelligent Health โดยมีการจัดแสดงนวัตกรรมในรูปแบบเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) เทคโนโลยีผสมผสานโลกเสมือน (AR) เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ (wearables) รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่การแพทย์แผนโบราณยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน ชี้ให้เห็นว่าการแพทย์แผนโบราณเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของจีนในการรักษาสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วย ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันและการพัฒนายา

บริษัทชั้นนำที่มาร่วมงานครั้งนี้ประกอบด้วยยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่าง GE, United Imaging, Siemens, Philips และ Mindray รวมถึงกลุ่มบริษัทด้านเภสัชกรรมขนาดใหญ่ของจีนอย่าง Sinopharm, Shanghai Pharma และ CR Pharmaceuticals ขณะที่บริษัทด้านนวัตกรรมการแพทย์ส่วยใหญ่เลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงานนี้เป็นครั้งแรกของโลก หรือครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 600 ชิ้นตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้งหมด 4 วัน

การประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมด้านสุขภาพจัดขึ้นโดย Reed Sinopharm ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมทุนระหว่าง Reed Exhibitions บริษัทรับจัดอีเวนท์ชั้นนำของโลก และ Sinopharm ยักษ์ใหญ่ทางด้านการแพทย์และเภสัชกรรมของรัฐบาลจีน (ติดอันดับ 199 ใน Fortune 500) สำหรับการจัดงานครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2019 ณ กรุงเซี่ยงไฮ้

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180416005638/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายจัดนิทรรศการ Reed Sinopharm
James Wang, +86 01084556581
james.wang@reedexpo.com.cn

P&G ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมตัวใหม่ ที่มุ่งเน้นการสรรสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดผลกระทบที่ดีบนโลกใบนี้

Logo

เป้าหมาย Ambition 2030 ครอบคลุมด้าน แบรนด์  ซัพพลายเชน สังคมและพนักงาน P&G

ซินซินนาติ–(BUSINESS WIRE)—16 เมษายน 2018

บริษัท Procter & Gamble (NYSE: PG) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท ได้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนปี 2020 หลายเป้าหมายแล้ว และมีแผนเตรียมไว้เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่เหลือ พร้อม ๆ ไปกับการกำหนดเป้าหมายใหม่ ๆ สำหรับปี 2030 โดยเป้าหมายใหม่ หรือที่มีชื่อว่า "Ambition 2030 " จะมุ่งสรรสร้างแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าให้กับบริษัทและผู้บริโภค

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180416005203/en/

P&G has achieved many of its 2020 environmental goals and has plans in place to meet the rest. New,  ...

P&G ได้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมปี 2020 หลายเป้าหมาย และมีแผนที่จะบรรลุเป้าหมายเหลืออยู่อื่น ๆ โดยได้มีการกำหนดเป้าหมายใหม่ที่ครอบคลุมสำหรับปี 2030 เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่จะทำให้เกิดผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าให้กับบริษัทและผู้บริโภค (ภาพ: Business Wire)

นาย David Taylor ประธานกรรมการ และซีอีโอของ P & G กล่าวว่า "เราเชื่อว่า P & G สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนและเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตที่ดี และเรากำลังใช้ความคิดที่รอบคอบมากขึ้นเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค ผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์ที่พวกเขาไว้ใจจะมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่ ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับผู้บริโภคของเรา 5 พันล้านรายที่ และความสามารถด้านนวัตกรรมของเราทำให้เรามีความสามารถในการสร้างความแตกต่างในเชิงบวกได้"

เป้าหมาย "Ambition 2030" ของ P&G ประกอบด้วย:

  • ด้านแบรนด์: แบรนด์ที่เป็นผู้นำของ P&G 20 แบรนด์ ซึ่งรวมถึง Always, Ariel, Dawn, Fairy, Febreze Head & Shoulders Pantene Pampers และ Tide จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและก่อให้เกิดการบริโภคอย่างรับผิดชอบ โดยการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ถือเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น พร้อม ๆ ไปกับการสร้างความไว้วางใจผ่านความโปร่งใสและแบ่งปันความรู้ด้านความปลอดภัยของเรา
  • ด้านซัพพลายเชน: ไซต์การผลิตของ P&G จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่ง และจะซื้อพลังงานทดแทนอย่างเพียงพอเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของโรงงานของเรา 100% นอกจากนี้ บริษัท จะจัดหาแหล่งน้ำอย่างน้อย 5 พันล้านลิตรจากแหล่งน้ำหมุนเวียน
  • ด้านสังคม: P&G จะให้กำเนิดพันธมิตรที่ช่วยให้ผู้คนโลกาภิวัตน์และธุรกิจของเราเจริญเติบโตและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมไปถึงพันธมิตรในการหยุดการแพร่กระจายของพลาสติกลงสู่มหาสมุทร พันธมิตรในการพิทักษ์และปรับปรุงป่า พันธมิตรในการขยายแนวทางในการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย และพันธมิตรในการปกป้องลุ่มน้ำที่สำคัญทั่วโลก
  • พนักงานP&G จะมีส่วนร่วมจัดเตรียมและให้รางวัลแก่พนักงานเพื่อสร้างความคิดและการปฏิบัติอย่างยั่งยืนในการทำงานในแต่ละวัน เราจะให้รางวัลแก่การปฏิบัติงานที่มีความก้าวหน้าและรวมการยอมรับเอาเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลการปฏิบัติงาน

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย "Ambition 2030" ของ P&G สามารถอ่านได้ ที่นี่

จากการดำเนินงานตามความเป็นผู้นำทางด้านสิ่งแวดล้อมมาตลอดทำให้ P&G ได้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนปี 2020 หลายประการ โดยในด้านสภาพภูมิอากาศ มีการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงเหลือ 16% ตั้งแต่ปี 2010 ในด้านน้ำ ได้ลดการใช้น้ำในโรงงานผลิตลงไป 27% นับตั้งแต่ปี 2010 และในด้านของเสีย ก็ประสบความสำเร็จในการผลิตแบบที่ปราศจากของเสียที่ต้องเอาไปฝังกลบในกว่า 80% ของสถานที่ผลิตทั้งหมด

ผลกระทบของความก้าวหน้าของบริษัท สามารถเห็นได้จากตัวอย่างของแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Tide purclean ซึ่งรวมเอาส่วนผสมจากชีวภาพมาใช้ และ Head & Shoulders ที่ใช้พลาสติกที่เก็บได้จากชายหาดมาทำบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ยังการเปลี่ยนแปลงด้านการผลิตที่ทำให้โรงงานของเรามีการใช้พลังงานไฟฟ้าจากลมและพลังงานไอน้ำจากชีวมวล และมีนวัตกรรมด้านการวิจัยที่จะช่วยให้สามารถนำพลาสติกหลายตันกลับมาใช้ใหม่ในแต่ละปี ก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทั้งหมดไม่เฉพาะแต่กับของ P&G

ความก้าวหน้าเหล่านี้ถูกรายงานอยู่ใน 2017 Citizenship Report.

"เป้าหมายปี 2030ของเรา ต้องการที่จะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ท้าทายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้แก่ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและการบริโภคที่เพิ่มขึ้น" Virginie Helias รองประธานฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกของ P&G กล่าว "เรารู้ว่าลำพัง P&G ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด จึงต้องมีการสร้างพันธมิตรและการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย และแบรนด์ของเราจะพัฒนานวัตกรรมที่จะนำการบริโภคที่รับผิดชอบไปสู่อีกระดับ”

“P&G ได้เป็นผู้นำในการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืน กลยุทธ์ของพวกเขาสอดคล้องกับความเชื่อของเราว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จมากขึ้นโดยการสร้างความยั่งยืนให้มากขึ้น เราชื่นชมกรอบ Ambition 2030 ซึ่งมีศักยภาพในการผลักดันผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อผู้ถือหุ้น สภาพแวดล้อมและสังคม ทั่วโลก " Peter Bakker ประธานและซีอีโอของสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ World Business Council for Sustainable Development กล่าว

เกี่ยวกับ ความพยายามด้านพลเมืองของ P&G

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของการมุ่งเน้นในความสำคัญด้านพลเมืองของ P&G ควบคู่ไปกับจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม ผลกระทบของชุมชน ความเท่าเทียมทางเพศและความหลากหลายและสังคมที่ครอบคลุมทั่วถึง โครงการด้านพลเมืองของบริษัทสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเพื่อยุติความยากจนปกป้องโลก ไปพร้อม ๆ กับการ สร้างความมั่งคั่งให้กับทุกคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามด้านพลเมืองของ P&G สามารถอ่านรายงานเกี่ยวกับพลเมือง 2017 ได้ ที่นี่

เกี่ยวกับ Procter & Gamble

P & G ให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกด้วยการสร้างแบรนด์หลากหลายที่แข็งแกร่ง มีคุณภาพ และเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก อันได้ได้แก่ Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze ®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks® และ Whisper® ชุมชน P & G มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก กรุณาเยี่ยมชม http://ww.pg.com  เพื่อรับข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเกี่ยวกับ P & G และแบรนด์ต่าง ๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180416005203/en/

ติดต่อ:

P&G Company Communications
Julie deSylva, 513-780-0006
Desylva.j@pg.com