Watts Partners และมูลนิธิ Planet Water มอบน้ำสะอาดให้ประเทศไทย

Logo

พนักงานและลูกค้าของ Watts ได้สร้างอาคาร “AquaTowers” ณ โรงเรียนสองแห่งในจังหวัดสระแก้ว

นอร์ธอันโดเวอร์, แมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2562

เมื่อไม่นานมานี้ Watts Water Technologies, Inc. (NYSE: WTS) ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันระบบท่อ ระบบทำความร้อนและคุณภาพน้ำ ได้มอบเงินทุนสนับสนุนและช่วยติดตั้งระบบกรองน้ำสองแห่งเพื่อผลิตน้ำดื่มสะอาดให้กับเด็กและครอบครัวในจังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดีย ดูเนื้อหาแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190916005027/en/

Watts employees, customers and Planet Water recently built two “AquaTowers” at two schools in Sa Kaeo that collectively provide 2,000 people with 20,000 liters of clean water daily. (Photo: Business Wire)

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พนักงานและลูกค้าของ Watts และ Planet Water ได้สร้างอาคาร “AquaTowers” ณ โรงเรียนสองแห่งในจังหวัดสระแก้ว เพื่อผลิตน้ำดื่มสะอาด 20,000 ลิตรต่อวันให้กับประชาชนราว 2,000 คน (รูปภาพ: Business Wire)

ด้วยความร่วมมือกับ มูลนิธิ Planet Water ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรจากสหรัฐอเมริกาและทำงานเพื่อส่งมอบน้ำสะอาดให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วโลก พนักงานของ Watts ได้ร่วมกับลูกค้าทั้งหมดห้าราย สร้างอาคาร “AquaTowers” ณ โรงเรียนสองแห่งในจังหวัดสระแก้ว โดยอาคารดังกล่าวจะกรองอนุภาคที่เป็นอันตราย แบคทีเรีย และไวรัสต่าง ๆ ออกจากน้ำ และผลิตน้ำสะอาดที่ปริมาณ 10,000 ลิตรต่อวันให้กับประชาชนราว 1,000 คน

“เราภูมิใจอย่างมากที่ได้สนับสนุนบุคลากรที่มีความสามารถและทรัพยากรที่อยู่เบื้องหลังความพยายามของ Planet Water ในการยุติปัญหาการขาดแคลนน้ำทั่วโลกให้แต่ละชุมชน” Robert J. Pagano, Jr. ซีอีโอและประธานของ Watts กล่าว

พนักงานของ Watts จากสำนักงานในนอร์ธอันโดเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา กรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และกรุงโซล ประเทศเกาหลี ได้ร่วมกับอาสาสมัครจากบริษัท ITP Power ในประเทศไทย สร้างอาคารกรองน้ำสองแห่ง ณ โรงเรียนบ้านสองแก และโรงเรียนบ้านวังแดง

Watts ผนึกกำลังกับ Planet Water ครั้งแรกในปี 2559 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา องค์กรทั้งสองได้มอบน้ำสะอาดให้กับประชาชนราว 15,000 คนในประเทศกัมพูชา จีน โคลอมเบีย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเปอร์โตริโก

เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ของ Watts เพิ่มเติมได้ที่ รายงานความยั่งยืน และ เว็บไซต์ ของบริษัท

เกี่ยวกับ Watts Water Technologies

Watts Water Technologies, Inc. เป็นผู้ผลิตระดับโลกที่ประกอบด้วยเครือข่ายบริษัทต่าง ๆ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา และเป็นเจ้าของไลน์ผลิตภัณฑ์สินค้าระบบท่อ ระบบทำความร้อน และระบบคุณภาพน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก บริษัทและแบรนด์ในเครือ Watts Water เป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านระบบท่อ ระบบทำความร้อน และระบบคุณภาพน้ำที่ทันสมัยเพื่อการใช้งานในที่พักอาศัย การพาณิชย์และอุตสาหกรรม บริษัทมีพนักงาน 4,800 คน ใน 24 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.watts.com

เกี่ยวกับ Planet Water Foundation

Planet Water Foundation เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งมั่นในการมอบน้ำสะอาดให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วโลก ด้วยการติดตั้งระบบกรองน้ำประจำชุมชน (AquaTowers) และเผยแพร่โครงการศึกษาด้านสุขลักษณะ โครงการภายใต้มูลนิธิ Planet Water ให้ความสำคัญกับเด็ก โรงเรียน และชุมชนห่างไกลและชุมชนชานเมืองทั่วเอเชียและลาตินอเมริกา ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา Planet Water ได้จัดตั้งโครงกว่าเกือบ 1,300 โครงการที่ได้มอบน้ำสะอาดกับผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนใน 14 ประเทศ ผ่านองค์กรต่าง ๆ ที่ได้ร่วมมือกันเชิงยุทธศาสตร์ เช่น Xylem, Coca-Cola, Columbia Sportswear, Expedia, Starbucks, Watts Water Technologies และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.planet-water.org

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190916005027/en/

ติดต่อ:

Andy Ravens
Watts Water Technologies
978-689-6136
andrew.ravens@wattswater.com


สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่นเปิดตัวเว็บไซต์ japanese-cuisine.com พร้อมเนื้อหาดึงดูดและโปรแกรมอี-เลิร์นนิงสำหรับการโปรโมตอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ

Logo

เกียวโต, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2562

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่น หรือ Japanese Culinary Academy ซึ่งตั้งอยู่ในเกียวโต มีนาย Yoshihiro Murata เป็นผู้อำนวยการ และดูข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ https://culinary-academy.jp/english ได้ร่วมกับ Blue Magic, Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในโตเกียว มีนาย Yukiko Akimoto เป็นซีอีโอ และดูข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ https://bluemagic.co.jp/ เพื่อรวมกันพัฒนาโปรแกรมอี-เลิร์นนิงเพื่อสอนวัฒนธรรมและเทคนิคในการประกอบอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ โดยได้เริ่มให้บริการทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190910005448/en/

อาหารญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ขณะที่จำนวนภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน มีภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมากกว่า 120,000 แห่งทั่วโลก

สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น จะส่งผู้สอนไปยังงานสัมมนาเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นที่จัดขึ้นทั่วโลก รับนักเรียนจากประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการเรียนการประกอบอาหารญี่ปุ่นในญี่ปุ่น และเผยแพร่บทความเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่นเป็นองค์กรที่ได้รับการรับรองตามที่ระบุไว้ในแนวทางรับรองทักษะการประกอบอาหารญี่ปุ่นนอกประเทศญี่ปุ่นโดยกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 และได้พัฒนาโปรแกรมอีเลิร์นนิงสำหรับเผยแพร่ทางเว็บไซต์ japanese-cuisine.com เพื่อสอนวัฒนธรรมและเทคนิคการประกอบอาหารญี่ปุ่นที่ถูกต้องให้ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้จากทุกมุมโลกตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเนื้อหาครอบคลุมความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการรับรองระดับบรอนซ์ หรือ the Bronze Certification ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนดขึ้น

เว็บไซต์ของโปรแกรมอยู่ที่ https://japanese-cuisine.com

สถาบันสอนการประกอบอาหารญี่ปุ่นกำหนดให้โปรแกมนี้เป็นเนื้อหาที่จะดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้สนใจการประกอบอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น และในฐานะที่รับผิดชอบด้านยอดขาย Blue Magic, Inc. กำลังมองหาพันธมิตรที่จะช่วยเผยแพร่โปรแกรมนี้อย่างรวดเร็ว

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190910005448/en/

สอบถามข้อมูลที่:
Terumi Oyagi
office@culinary-academy.jp
สถาบันสอนประกอบอาหารญี่ปุ่น

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับพันธมิตรเพื่อเผยแพร่เนื้อหาในภาษาอื่นที่:
Ayumi Kuji
contact@japanese-cuisine.com
Blue Magic, Inc.

P&G, National Geographic และ Global Citizen เปิดตัวสารคดี ACTIVATE: THE GLOBAL CITIZEN MOVEMENT จัดการแก้ไขปัญหาความยากจน ความไม่เท่าเทียม และสร้างความยั่งยืน

Logo

รายการสารคดี 6 ตอนได้ดึงดูดความสนใจด้วยประเด็นด้านวิกฤตการณ์ทั่วโลก โดยประกอบไปด้วยนักเคลื่อนไหวชื่อดังอย่าง Hugh Jackman, Pharrell Williams, Common, Usher, Rachel Brosnahan, Gayle King, Bonang Matheba, Darren Criss, Uzo Aduba, Becky G และ Priyanka Chopra Jonas

ฉายรอบปฐมทัศน์ในสหรัฐฯ วันที่ 5 กันยายน เวลา 10/9c ทางช่อง National Geographic 

ซินซินนาติ–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2562

สารคดีความยาว 6 ตอนของ Procter & Gamble และ National Geographic เรื่อง ACTIVATE ที่ผลิตร่วมกับ Global Citizen และ RadicalMedia เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายนนี้ในสหรัฐฯ ผ่านช่อง National Geographic โดยแต่ละตอนของสารคดีได้สาวลึกไปถึงประเด็นที่เกี่ยวกับสาเหตุฝังลึกของความยากจน ความยั่งยืนของทรัพยากร การเป็นเหยื่อทางกฎหมายเนื่องจากความจน การบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ การศึกษาของเด็กผู้หญิง ขยะพลาสติก และวิกฤตการณ์ทางน้ำทั่วโลก ภาพรวมของ P&G ACTIVATE ดูได้ที่นี่

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20190905005542/en/

In addition to P&G brands and close partners, ACTIVATE will feature Global Citizen ambassadors and advocates including Hugh Jackman, Common, Usher, Rachel Brosnahan, Gayle King, Bonang Matheba, Darren Criss, Pharrell Williams, Uzo Aduba, Becky G and Priyanka Chopra Jonas. (Graphic: Business Wire)

นอกจาก P&G และพันธมิตรใกล้ชิดแล้ว ACTIVATE ยังมีแบรนด์แอมบาสเดอร์และผู้สนับสนุนจาก Global Citizen ไม่ว่าจะเป็น Hugh Jackman, Common, Usher, Rachel Brosnahan, Gayle King, Bonang Matheba, Darren Criss, Pharrell Williams, Uzo Aduba, Becky G และ Priyanka Chopra Jonas. (กราฟิก: Business Wire)

สารคดีความยาวจะเริ่มฉายคืนนี้ และจะออกอากาศทั่วสหรัฐฯ ในวันที่ 10 ตุลาคม รวมทั้งอีก 172 ประเทศผ่านช่อง National Geographic พร้อมภาษาจำนวน 43 ภาษา สารคดีตอนต่าง ๆ จะเน้นการทำงานของ P&G ส่วนแบรนด์ของบริษัท เช่น Tide, Always, Charmin และ Head & Shoulders ก็ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรระยะยาวอย่าง องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) มูลนิธิศุภนิมิต (World Vision) องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wildlife Fund), WEConnect International และ Matthew 25: Ministries และอื่น ๆ อีกมากมาย

Marc Pritchard ประธานบริหารแบรนด์สินค้าแห่ง P&G กล่าวว่า “P&G และแบรนด์ของเราให้พันธสัญญาในการเป็นกระบอกเสียงชี้ถึงประเด็นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่โลกเรากำลังเผชิญ เราได้จัดการประเด็นเหล่านี้มานับทศวรรษแล้ว และตั้งใจยกระดับการรับรู้และการเข้าถึงจากผู้บริโภคกว่า 5 พันล้านคนทั่วโลกเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจผ่านสารคดี ACTIVATE ชุดนี้

P&G มีประวัติศาสตร์อันน่าเชื่อถือมายาวนานในการผลักดันแบรนด์และบุคลากรเพื่อช่วยสร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยการช่วยแก้ไขวิกฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการศึกษาของเด็กผู้หญิง น้ำดื่มสะอาด การบรรเทาภัยพิบัติ ความยั่งยืน และความไม่เท่าเทียม ไม่ว่าจะผ่านโครงการไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง P&G Children's Safe Drinking Water (CSDW) ซึ่งได้มอบน้ำดื่มสะอาดปริมาณ 15 พันล้านลิตรแก่ผู้คนที่ประสบภัยขาดแคลนน้ำดื่มทั่วโลก หรือผ่านภารกิจที่ P&G ทำเรื่อยมาอย่าง #EndPeriodPoverty ทั้งนี้เพื่อเป็นกระบอกเสียงช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง

Allison Tummon Kamphuis หัวหน้าโครงการระดับโลกเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและ CSDW แห่ง P&G กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ National Geographic และ Global Citizen รวมทั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ศิลปินมากความสามารถและพันธมิตรระยะยาว ผู้ซึ่งกระตุ้นผู้คนทั่วโลกออกเสียงเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง

นอกเหนือจากแบรนด์ของ P&G และพันธมิตรใกล้ชิดทางธุรกิจแล้ว ACTIVATE ยังนำเสนอแบรนด์แอมบาสเดอร์และผู้สนับสนุนต่าง ๆ เช่น Hugh Jackman, Common, Usher, Rachel Brosnahan, Gayle King, Bonang Matheba, Darren Criss, Pharrell Williams, Uzo Aduba, Becky G และ Priyanka Chopra Jonas

ในฐานะหนึ่งในบริษัทที่ทุ่มเม็ดเงินกับการโฆษณามากที่สุดในโลก P&G ได้กระจายวิธีการเข้าถึงผู้บริโภคโดยใช้เนื้อหาที่มีอยู่ควบคู่ไปกับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงเพื่อจุดประกายประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ความร่วมมือนี้ยังประกอบด้วยสำนักงานใหญ่ทางดิจิทัลของ National Geographic และ Global Citizen ที่ให้ผู้ชมดำดิ่งไปศึกษาถึง 6 วิกฤตการณ์สำคัญที่นำเสนอในสารคดี นอกจากนี้ผู้ชมยังสามารถมีส่วนร่วมในโครงการของ Global Citizen เพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามของบริษัทและแบรนด์ที่นำโดย Tide, Always, Head & Shoulders และ Charmin

ACTIVATE จะเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในสหรัฐฯ ทางช่อง National Geographic ในวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน เวลา 10/9c; ตรวจสอบรายการบนพื้นที่ของคุณ

เรื่องราวเพิ่มเติมของแต่ละตอน:

ACTIVATE: กำจัดความจนขั้นรุนแรง

รอบปฐมทัศน์: วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2562

Hugh Jackman, Priyanka Chopra Jonas และ Becky G เข้าร่วม Global Citizen ในโครงการผลักดันผู้นำโลกออกกฎหมายการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ช่วยขจัดความจนขั้นรุนแรงทั่วโลก ขณะที่ Jackman เตรียมจัดเทศกาลขององค์กรที่ Central Park ส่วน Becky G ก็ได้เดินทางไปยังประเทศเม็กซิโกเพื่อเผยแพร่โครงการของ Global Citizen ในการผลักดันบริษัทต่าง ๆ ให้สนับสนุนธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ ผู้เชี่ยวชาญได้บรรยายถึงสถานการณ์ความยากจนที่รุนแรงทั่วโลก ความก้าวหน้าขนานใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และโซลูชั่นส์ทางนวัตกรรมที่นำมาใช้ทั่วโลก รวมทั้ง P&G และแบรนด์ Charmin ที่รับผิดชอบด้านความพยายามในการแสวงหาทรัพยากร

ACTIVATE: สิ้นสุดการเรียกค่าไถ่ด้วยเงินสด

รอบปฐมทัศน์: วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2562

ศิลปินและนักเคลื่อนไหวอย่าง Common และ Usher ได้ร่วมมื่อกับ Global Citizen และผู้จัดสามัญชนทั่วไปในการพยายามที่จะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมโดยยุติการเรียกค่าไถ่ด้วยเงินสดในรัฐนิวยอร์ก พันธสัญญาของ P&G ในการจัดการถึงการเหยียดเชื้อชาติผ่านหนังเรื่อง The Talk และหนังใหม่เรื่อง The Look ก็ได้รับความสนใจจากผู้สร้างหนังที่ประสบพบเจอกับการเหยียดเชื้อชาติของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา

ACTIVATE: การศึกษาไม่เคยรอใคร

รอบปฐมทัศน์: วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2562

นักแสดงเจ้าของรางวัล Emmy Award อย่าง Rachel Brosnahan ได้ร่วมมือกับ Global Citizen เดินทางไปยังชายแดนประเทศเปรูเพื่อติดตามสถานการณ์การศึกษาของเด็กระหว่างที่ความขัดแย้งและภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้น หลังจากที่สัมผัสเหตการณ์ที่น่าเสียใจจากครอบครัวพลัดถิ่นที่อยู่ Brosnahan และ Global Citizen ได้เดินทางกลับไปยังสหรัฐฯ และผลักดันให้ประเทศไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ปฏิญาณต่อผู้คนนับล้านเกี่ยวกับโครงการ Education Cannot Wait ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาระหว่างภัยพิบัติ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายถึงผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับประเทศกำลังพัฒนาและวิธีการที่ผู้คนและแบรนด์ทั่วโลก เช่น Tide ได้มอบการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ระหว่างภัยฉุกเฉินเหล่านั้น

ACTIVATE: ช่วยให้เด็กหญิงได้กลับไปเรียน

รอบปฐมทัศน์: วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2562

Priyanka Chopra Jonas ร่วมกับ Global Citizen และนักเคลื่อนไหวทั่วโลกในการย่อยอุปสรรคการศึกษาของเด็กผู้หญิง ในขณะเดียวกัน Gayle King และ Bonang Matheba ได้ร่วมชุมนุมกับผู้คนกว่าหมื่นคนเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศแอฟริกาใต้บริจาคเงินจำนวน 58 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติปัญหาการไม่มีเงินซื้อผ้าอนามัย และให้ความรู้เรื่องประจำเดือนแก่เด็กวัยรุ่น รวมทั้งอุปกรณ์จำเป็นเพื่อให้เด็กต้องการเรียนและมั่นใจ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายถึงประเด็นกว้างขวางในการช่วยให้เหลือเด็กผู้หญิงมีการศึกษาในประเทศกำลังพัฒนา และความก้าวหน้าขนานใหญ่ที่กำลังพัฒนาทั่วโลก เช่น แบรนด์ดูแลสุขอนามัยสำหรับผู้หญิงอย่าง Always ที่มอบแหล่งการเรียนรู้ให้ฟรี

ACTIVATE: ยุติมลพิษที่เกิดจากพลาสติก

รอบปฐมทัศน์: วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2562

Pharrell Williams ร่วมกับ Global Citizen ผลักดันให้รัฐบาล บริษัท และผู้คนแก้ปัญหาวิกฤติมลพิษพลาสติกในทะเล ขณะที่ Darren Criss เดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์เพื่อยืนยันผลกระทบของพลาสติกต่อการดำรงชีวิตของผู้คนที่ยากจน และเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกกระตุ้นให้นายกเทศมนตรีในพื้นที่ให้ดำเนินโครงการพลาสติกเป็นศูนย์ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายถึงผลกระทบของมลพิษที่เกิดจากพลาสติกที่มีต่อผู้คนในประเทศกำลังพัฒนา และวิธีการที่ผู้คนและแบรนด์ทั่วโลก เช่น Head & Shoulders ได้มอบการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทั่วโลก

ACTIVATE: น้ำสะอาด

รอบปฐมทัศน์: วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2562

นักแสดงมี่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Uzo Aduba ได้ร่วมมือกับ Global Citizen เดินชุมนุมกับผู้คนนับล้านทั่วโลกเพื่อผลักดันน้ำดื่มสะอาดและและระบบสุขอนามัยให้แก่ผู้คนที่ขาดแคลนน้ำดื่มทั่วโลก พวกเขาเดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Aduba เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าหาเงินสนับสนุนจากรัฐเพื่อกำจัดน้ำปนเปื้อนและเปิดประเด็นวิกฤตโรคอุจจาระ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายถึงผลกระทบจากการบริโภคน้ำดื่มปนเปื้อนของผู้คนในประเทศกำลังพัฒนา และการแก้ปัญหาที่กำลังดำเนินการทั่วโลก รวมถึงโครงการ Children's Safe Drinking Water Program ของ P&ah

เกี่ยวกับ Procter & Gamble.

P & G ให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกด้วยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและหลากหลาย มีคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงของโลก อันได้ได้แก่ Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze ®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks® และ Whisper® ชุมชน P & G มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก กรุณาเยี่ยมชม http://www.pg.comเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเกี่ยวกับ P & G และแบรนด์ต่าง ๆ

เกี่ยวกับ National Geographic

National Geographic Partners LLC (NGP) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง National Geographic และ Disney มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเนื้อหาวิทยาศาสตร์ การผจญภัย และสารคดีระดับพรีเมี่ยมทั่วทั้งสื่อต่าง ๆ NGP ผสานรวมช่องโทรทัศน์ National Geographic ทั่วโลก (National Geographic Channel, Nat Geo WILD, Nat Geo MUNDO, Nat Geo PEOPLE) เข้ากับสื่อและข้อมูลเชิงลึกของ National Geographic รวมถึงนิตยสาร National Geographic; สตูดิโอเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก; แพลตฟอร์มสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย หนังสือ; แผนที่; สื่อเด็ก; และกิจกรรมเสริมต่าง ๆ ที่รวมถึงการท่องเที่ยว ประสบการณ์และเหตุการณ์ทั่วโลก การขายจดหมายเหตุ การออกใบอนุญาต และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การต่อยอดความรู้และความเข้าใจในโลกของเราเป็นเป้าหมายหลักของ National Geographic มาเป็นเวลา 131 ปีและตอนนี้เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันขอบเขตที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปกับผู้บริโภคของเรา โดยการเข้าถึงผู้คนนับล้านทั่วโลกใน 172 ประเทศและ 43 ภาษาทุกเดือน ตามที่เราทำ ทั้งนี้ NGP ให้ผลตอบแทน 27 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของเรากับองค์กรไม่หวังกำไร National Geographic Society เพื่อหาทุนในงานด้านวิทยาศาสตร์การสำรวจ การอนุรักษ์ และการศึกษา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม natgeotv.com  หรือ nationalgeographic.com หรือตามเราได้จาก Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, LinkedIn and Pinterest.

เกี่ยวกับ Global Citizen 

ตั้งแต่ Global Citizen Festival จัดขึ้นครั้งแรกในนิวยอร์กเมื่อปี 2012 Global Citizen ได้เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักในบรรดาหนุ่มสาวทั่วโลกในการเรียกร้องให้ผู้นำโลกรับผิดชอบอย่างมีเกียรติตามรอยเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ และยุติความจนขั้นรุนแรงภายในปี 2030 Global Citizens ได้มอบพันธสัญญาและประกาศนโยบายจากผู้นำจำนวนเงินกว่า 37,900 ล้านดอลลาร์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ผู้คนมากกว่า 2,250 ล้านคน องค์กรได้เริ่มแผนปฏิบัติการในประเทศแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อินเดีย สหราชอาณาจักร เยอรมนี เบลเยี่ยม และแคนาดา และสร้างแพลตฟอร์มสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ในประเด็นที่พวกเขาให้ความสนใจมากที่สุด ปฏิบัติการจริง และได้รับรางวัลจากการปฏิบัติ

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190905005542/en/

ติดต่อ:

P&G Media 

Julie deSylva, 513-780-0006


งานฤดูใบไม้ร่วงของ teamLab Planets นำเสนอพิพิธภัณฑ์ที่พาคุณเคลื่อนตัวบนสายน้ำในโทโยสุ โตเกียว และปลาคาร์พที่ว่ายบนผิวน้ำจะแปลงร่างกลายเป็นใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อว่ายมาโดนผู้เข้าชม

Logo

อาหารจานยอดนิยมทำจากปลา ส่งตรงจากตลาดโทโยสุเสิร์ฟแล้ว ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการในช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–5 ก.ย.  2562

"พิพิธภัณฑ์ที่พาคุณเคลื่อนตัวบนสายน้ำ" ของ teamLab ในโทโยสุ โตเกียว  teamLab Planets TOKYO DMM.com (ต่อจากนี้เรียกว่า TeamLab Planets) จะแปลงโฉมเป็นพื้นที่งานฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเวลาที่จำกัด โดยเริ่มขึ้นในวันที่ 1 กันยายน  มาร่วมสัมผัสกับพื้นที่ที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีและดอกเบญจมาศถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190905005290/en/

Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People - Infinity teamLab, 2016-2018, Interactive Digital Installation, Endless, Sound: Hideaki Takahashi (Photo: Business Wire)

งานศิลปะบนผิวน้ำที่สร้างขึ้นโดย Dance of Koi and People – Infinity teamLab, 2016-2018, เป็นการติดตั้งระบบดิจิตอลเชิงอินเทอร์แอคทีฟพร้อมเสียง: Hideaki Takahashi (รูปภาพ: Business Wire)

การแปลงโฉมเป็นพื้นที่ฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นผลงานเชิงอินเทอร์แอคทีฟขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Drawing on the Water Surface โดย the Dance of Koi and People – Infinity ที่ผู้เข้างานสามารถเดินเท้าเปล่าบนผิวน้ำ  งานนี้จะเปลี่ยนรูปโฉมตลอดทั้งปี โดยมีดอกไม้ที่บานสะพรั่งและเปลี่ยนไปตามฤดูกาลจริง  ในช่วงระยะเวลาสามเดือนนี้ ปลาคราฟที่ว่ายน้ำข้ามผืนน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้จะแปลงร่างกลายเป็นใบไม้ฤดูใบไม้ร่วง ดอกเบญจมาศ และดอกอื่นๆ เมื่อว่ายมาโดนกับผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์

งานศิลปะ: https://www.teamlab.art/jp/ew/koi_and_people/

วิดีโองานศิลปะ: https://youtu.be/12reeWeMXwQ  

teamLab Planets: https://planets.teamlab.art

โดยเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม จะมีการเสิร์ฟเมนูลิมิเต็ดตามคำร้องขอที่ร้านอาหาร Everything is in your hand ของพิพิธภัณฑ์  เมนูอาหารใช้ประโยชน์จากอาหารทะเลสดและหอยที่ส่งตรงจากตลาดโทโยสุ

•แนวคิดของพิพิธภัณฑ์: Body Immersive (สัมผัสทั้งร่างกาย)

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่พาคุณเคลื่อนตัวบนสายน้ำ ประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการขนาดใหญ่ 4 แห่งและงานศิลปะ 7 ชิ้น งานศิลปะมีพื้นฐานมาจากแนวคิดรวบยอดของ TeamLab "Body Immersive"

พื้นที่ Body Immersive อันใหญ่โตประกอบด้วยการติดตั้งผลงานศิลปะที่ทุกส่วนของร่างกายจะได้สัมผัสกับงานศิลปะและทลายขอบเขตระหว่างผู้ชมและงาน

ผู้เข้าชมจะเดินเท้าเปล่าเข้าสู่พิพิธภัณฑ์และสัมผัสพื้นที่ศิลปะอันกว้างขวางพร้อมกับแขกท่านอื่นๆ

• พิพิธภัณฑ์ TeamLab Planets มีผู้เยี่ยมชมมากกว่า 1.25 ล้านคนในปีนับตั้งแต่เปิดตัว นับว่าเป็นจำนวนผู้มาเยือนที่มากกว่าพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซและโรงละครและพิพิธภัณฑ์ดาลี

ในหนึ่งปีนับตั้งแต่เปิดตัว TeamLab Planets ในเดือนกรกฎาคมปี 2561 มีผู้เยี่ยมชมมากกว่า 1.25 ล้านคนจาก 106 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก  เป็นจำนวนผู้เข้าชมที่เกินจำนวนของสองในสามพิพิธภัณฑ์ศิลปินเดี่ยวชั้นนำของโลก ได้แก่พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซในบาร์เซโลน่าที่มีผู้เข้าชมเกือบ 950,000 คนและโรงละครและพิพิธภัณฑ์ดาลีในฟิเกเรส (สเปนเช่นกัน) ที่มีผู้เข้าชมมากกว่า 1.1 ล้านคน (ดูหมายเหตุ 1) จากจำนวนนักท่องเที่ยว 1.25 ล้านคนต่อปีนี้ ประมาณ 30% มาจากนอกประเทศญี่ปุ่น (ดูหมายเหตุ 2)  การวิเคราะห์แขกต่างชาติพบว่าพิพิธภัณฑ์เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ชาวอเมริกัน รองลงมาคือฮ่องกง ไต้หวัน สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียตามลำดับ

——————————

หมายเหตุ 1: รายงานพิเศษศิลปะยอดนิยม: ตัวเลขนิทรรศการและการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 2561, นิตยสาร The Art Newspaper ฉบับที่ 311 เดือนเมษายน 2562

หมายเหตุ 2: จากข้อมูลการขายตั๋วบนเว็บไซต์ทางการของ TeamLab Planets จากการสำรวจตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 2562

• teamLab Planets

ข้อมูลแจกสื่อมวลชน: https://goo.gl/tQXMLm

สำหรับตั๋วและข้อมูลอื่นๆ ดูเว็บไซต์อย่างเป็นทางการที่ planets.teamlab.art และ Instagram ของเรา

• ร้านอาหารที่ร่วมรายการ

The Bowl Steakhouse

ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเอง ออกแบบโดยทีมงานสถาปนิก teamLab ที่เน้นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อนำธรรมชาติเข้ามาในร้าน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่

Everything is in your hand

ด้วยจานดั้งเดิมที่เน้นแนวคิดของการมีทุกอย่างในมือเดียว ร้านอาหารนี้ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและของขบเคี้ยวที่ทานด้วยมือเพียงข้างเดียว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่

PLANETS Co., Ltd.

หน่วยงานที่บริหารสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ TeamLab Planets TOKYO และร้านอาหารที่เกี่ยวข้อง

teamLab

teamLab (ก่อตั้ง 2,544) เป็นกลุ่มศิลปินสหวิทยาการเน้นเทคโนโลยีที่มุ่งทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอการบรรจบกันของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การออกแบบ และโลกธรรมชาติ  teamLab มุ่งมั่นที่จะสำรวจความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และระหว่างตัวตนและโลกผ่านงานศิลปะ  คลิกที่นี่เพื่อดูประวัติแบบเต็ม

teamLab มีตัวแทนเป็น Pace Gallery

ดูฉบับที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190905005290/en/

ติดต่อ:

Yohann Gainche

ประชาสัมพันธ์ PLANETS Co., Ltd.

E-mail: pr-info@planets.art    

ข่าวเพิ่มเติม: https://goo.gl/forms/fqn8DmGV8WWIntP53



งานแสดงสินค้าทางทะเล East Asia Marine Expo 2019 จัดขึ้นที่เมืองชิงเต่า

Logo

ชิงเต่า, จีน–(BUSINESS WIRE)–6 กันยายน 2562

East Asia Marine Expo 2019 หรืองานแสดงสินค้าทางทะเลเครือข่ายมืออาชีพจัดขึ้น ณ ศูนย์การแสดงนิทรรศการนานาชาติชิงเต่า เมืองใหม่ทางชายฝั่งตะวันตกของชิงเต่าเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 งานแสดงสินค้านี้จัดขึ้นในธีม “Towards Greater Openness and Connectivity – Blue, Ocean, and Technology.” โดยได้รับการสนับสนุนจาก Qingdao Huangdao Development (Group) Co., Ltd. และจัดขึ้นโดย Tianjin Zhenwei Exhibition Co., Ltd. พร้อมความเป็นมืออาชีพ นานาชาติ มีเป้าหมายทางการตลาด และเน้นการสื่อสารแบรนด์

ด้วยขนาดพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร งานแสดงสินค้านี้ได้รวบรวมกว่า 600 ธุรกิจและสถาบันจากกว่า 60 ประเทศและภูมิภาค รวมทั้ง 60 บริษัทและสถาบันชั้นนำระดับโลกจาก Fortune 500 มาแสดงสินค้ากว่า 30,000 รายการ

งานแสดงสินค้าประกอบด้วยโซนแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคภายในและต่างประเทศ และโซนแสดงสินค้าทางทะเลมืออาชีพ 6 โซนที่ครอบคลุมพื้นที่ 30,000 ตารางเมตรในชื่อโซนแสดงสินค้าทางทะเลนานาชาติ โซนแสดงเทคโนโลยีทางทะเลแห่งชิงเต่า โซนแสดงอุปกรณ์เครื่องมือทางทะเล โซนแสดงสินค้าทางการผลิตอัจฉริยะ โซนแสดงสินค้าทางท่าเรือและการส่งออก และโซนแสดงสินค้าทางการเงินและการค้าขายที่แสดงสินค้าทางวิศวกรรมและเทคโนโลยี

โซนแสดงสินค้าทางทะเลนานาชาตินำเสนอความสำเร็จของกลุ่มประเทศอาเซียน +3 หรือ ASEAN Plus Three (APT) และบริษัทจาก Fortune 500 ในแง่การวิจัยทางทะเล การผลิตสินค้าทางทะเลที่ชาญฉลาด เศรษฐกิจของธุรกิจทางทะเล ระบบนิเวศทางทะเล การสำรวจและค้นหาทางทะเล และแพลตฟอร์มข้อมูลทางทะเล โซนแสดงสินค้าเทคโนโลยีทางทะเลแห่งชิงเต่านำเสนอนวัตกรรมของเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง โซนแสดงอุปกรณ์เครื่องมือทางทะเลนำเสนอความสำเร็จของบริษัทต่าง ๆ เช่น Kerui Group, Sany Heavy Industry, XGMA, Shandong Focus General Aviation Co., Ltd. และ Tritech โซนแสดงการผลิตสินค้าอัจฉริยะนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยของบริษัท Huawei, China Unicom, China Telecom และ Sunic โซนแสดงสินค้าทางท่าเรือและการส่งออกนำเสนอความสำเร็จของเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ โซนแสดงสินค้าทางการเงินและการค้านำเสนอความสำเร็จทางการเงินและการค้าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางทะเล และโซนแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคภายในและต่างประเทศนำเสนอสินค้ากว่า 20,000 ชิ้นจากกลุ่มประเทศอาเซียน +3 รวมทั้งประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ ในเส้นทางสายไหม

Liu Hongkuan ผู้จัดการทั่วไปของ Qingdao Huangdao Development (Group) Co., Ltd. กล่าวว่า “ทางเราตั้งใจที่จะจัดงาน East Asia Marine Expo ให้เป็นงานแสดงสินค้าไฮเอนด์และมืออาชีพในอุตสาหกรรมทางทะเล โดยทำการกระตุ้นผ่านการทำตลาดและทำให้เป็นแบรนด์การแสดงสินค้าที่น่าจดจำและเป็นที่รู้จัก รวมทั้งช่วยปรับปรุงการสร้างแบรนด์การแสดงสินค้าในเมืองชิงเต่าไปสู่สายตานานาชาติ

ติดต่อ:

Molly Xu 
xhy@zhenweiexpo.com 
+86-13911699059

Starr Insurance Companies แต่งตั้ง Dr. Haoming Zhou ให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปและประธาน Starr China

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2562

Starr Insurance Companies ประกาศแต่งตั้ง Dr. Haoming Zhou เป็นผู้จัดการทั่วไปและประธานบริษัท Starr China Property และ Casualty Insurance Ltd., โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

Dr. Zhou มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมประกันภัยมากว่า 20 ปี ก่อนร่วมงานกับ Starr เขาได้ทำงานที่สิงคโปร์ ซีดนีย์ ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ ในตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสต่าง ๆ Dr. Zhou จบศึกษาสูงสุดในระดับปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมโยธา และเริ่มต้นการทำงานตำแหน่งวิศวกรในประเทศจีน

Maurice R. Greenberg ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหารของ Starr China กล่าวว่า “ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตที่สุดในโลก บริษัทของเราได้ก่อตั้งมา 100 ปีมาแล้ว ปัจจุบันประเทศจีนเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญที่สุดของเรา ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในภูมิภาคนี้ของ Dr. Zhou จะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทเพื่อผลักดันตลาดได้ดีขึ้น

การแต่งตั้ง Dr. Zhou จะได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารและประกันภัยใช้ประกันภัยและธนาคารแห่งประเทศจีน (CBIRC) และจะประจำการอยู่ในประเทศจีน

เกี่ยวกับ Starr Insurance Companies

Starr Insurance Companies (หรือ Starr) เป็นชื่อทางการตลาดที่ใช้ทั่วโลกของบริษัทประกันและช่วยเหลือด้านการเดินทาง และบริษัทในเครือของ Starr International Company, Inc และธุรกิจด้านการลงทุนของ C. V. Starr & Co., Inc. และบริษัทในเครือ Starr เป็นองค์กรด้านการประภัยและการลงทุนชั้นนำ ดำเนินธุรกิจในรูปของบริษัทประกันภัยในห้าทวีปทั่วโลก Starr ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยอสังหา ประกันเบ็ดเตล็ด และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ รวมถึงการคุ้มครองพิเศษที่หลากหลาย ประกอบด้วย การบิน การเดินเรือ พลังงานและ การประกันความเสียหายส่วนเกิน บริษัทประกันในเครือ Starr ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร แต่ละแห่งได้รับการจัดอันดับ A.M. Best ระดับ “A” (Excellent) ขณะที่ Starr’s Lloyd ได้รับการจัดอันดับ Standard & Poor ระดับ “A+” (Strong)

เยี่ยชมเว็บไซต์ของเราที่ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราทาง LinkedIn แล Twitter

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190904005919/en/

ติดต่อ:

Charlie Armstrong 
รองประธานฝ่ายการตลาด 
charlie.armstrong@starrcompanies.com, 646.758.8308

บริษัทญี่ปุ่นไม่ควรพลาดโอกาสจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้สูงอายุในอาเซียน

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–3 ก.ย. 2562

อาเซียนกำลังเผชิญกับจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ได้มีการคาดการณ์ว่าทุกประเทศในอาเซียนจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ (ร้อยละเจ็ดของประชากรมีอายุมากกว่า 65 ปี) ในอีก 20 ปีข้างหน้า  สิงคโปร์และประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมผู้สูงวัยแล้ว  ในขณะเดียวกันประเทศอื่นๆ เช่นเวียดนามและบรูไนดารุสซาลามก็กำลังเข้าสู่สถานะนี้   มีการคาดการณ์ว่าในปี 2573 ประชากรอาเซียนกว่า 70 ล้านคนจะมีอายุมากกว่า 65 ปี

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190902005300/en/

The ASEAN 52nd Anniversary Symposium (Photo: Business Wire)

งานประชุมครบรอบ 52 ปีประชาคมอาเซียน (ภาพถ่ายจาก Business Wire)

ในขณะที่จำนวนผู้สูงอายุส่งผลให้เกิดปัญหาวงกว้างหลายรูปแบบในเรื่องการมีส่วนร่วมทางสังคมและความมั่นคงทางการเงินในกลุ่มผู้สูงวัย รวมถึงการมีระบบประกันสังคมคุณภาพ  สิ่งนี้ก็นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจและบริการรูปแบบใหม่สำหรับกลุ่มผู้สูงวัยในภูมิภาคนี้ แนวคิดระดับภูมิภาคกลุ่มแรกประกอบด้วยโครงการส่งเสริมสุขภาพญี่ปุ่น-อาเซียน (Japan-ASEAN Health Initiative) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อส่งเสริมการดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพ การป้องกันโรคและการยกระดับมาตรฐานทางการแพทย์ในอาเซียน และโครงการความร่วมมือสากลด้านสุขภาพญี่ปุ่น-อาเซียน (Japan-ASEAN Universal Health Coverage – UHC) ที่เน้นการบริการสำหรับผู้สูงวัยและสนับสนุนโครงการการวิจัยร่วมญี่ปุ่น-อาเซียนและสร้างแนวทางความร่วมมือและกลไกการทำงานร่วมกันในอนาคตเพื่อระบบ UHC ที่ยั่งยืน

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นศูนย์อาเซียนญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Centre – AJC) พร้อมกับคณะกรรมการอาเซียนในโตเกียว (ASEAN Committee in Tokyo – ACT) ซึ่งประกอบด้วยเอกอัครราชทูตอาเซียนประจำประเทศญี่ปุ่นและสำนักเลขาธิการอาเซียนได้จัดงานประชุมครบรอบ 52 ปีกลุ่มอาเซียนที่กรุงโตเกียวในวันที่ 26 สิงหาคม 2562 เพื่อเปิดโอกาสให้ นักธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายชาวญี่ปุ่น 180 ราย รวมทั้งเอกอัครราชทูตอาเซียนประจำประเทศญี่ปุ่นได้รวมตัวกันเพื่อหารือปัญหาและโอกาสที่เกิดขึ้นควบคู่กับประชากรสูงอายุในอาเซียน โดยมีนาย Chen Dehai เลขาธิการศูนย์อาเซียน-จีนและนาย Lee Hyuk เลขาธิการศูนย์อาเซียน-เกาหลีเป็นประธาน

การประชุมดังกล่าวเปิดตัวขึ้นโดยนาย Arifin Tasrif เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศญี่ปุ่นและประธานของ ACT.  Dr. Aladdin D. Rillo รองเลขาธิการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กล่าวปาฐกถาพิเศษที่เน้นถึงความก้าวหน้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงความท้าทายใหม่ๆ ในการรวมตลาด เช่นข้อพิพากทางการค้าที่เพิ่มขึ้นและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

ระหว่างการอภิปราย ศาสตราจารย์ Dr. Keiichiro Oizumi แห่ง Asia University และนาย Eitaro Kojima ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและโอเชียเนีย ฝ่ายวิจัยต่างประเทศขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) กล่าวถึงจำนวนประชากรสูงอายุในอาเซียนและโอกาสทางธุรกิจสำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่จะลงทุนในบริการด้านการดูแลผู้สูงอายุและบริการด้านสุขภาพ  ทั้งนี้ Dr. Rillo ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างแนวทางการจัดการประชากรผู้สูงอายุในภูมิภาคด้วยนโยบายเหมาะสมและมาตรการสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของผู้สูงอายุ รวมถึงการประสานงานระหว่างภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง

นาย Masataka Fujita เลขาธิการ AJC กล่าวว่า “การให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมสังคมและเศรษฐกิจเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืน  เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาประชากรสูงวัยได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงจากกลุ่มผู้สูงวัยได้  AJC จะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศในกลุ่มอาเซียนและสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในอาเซียน รวมถึงการหารือด้านนโยบายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากญี่ปุ่น”

AJC เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นโดยประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นในปี 2524 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนอาเซียนกับญี่ปุ่น  AJC ได้จัดงานประชุมครบรอบอาเซียนตั้งแต่ปี 2560 เพื่อระลึกถึงการก่อตั้งอาเซียน เปิดโอกาสให้หน่วยงานในอาเซียนรวมถึงองค์กรภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นได้หารือเกี่ยวกับกิจการปัจจุบันของภูมิภาคอาเซียน

เว็บไซต์ทางการของศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น: https://www.asean.or.jp/en/

แหล่งที่มาของบทความ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190902005300/en/

ติดต่อ:

ASEAN-Japan Centre
Junko Nukiyama
TEL +81-3-5402-8118
FAX +81-3-5402-8003
E-mail: toiawase_ga@asean.or.jp
1F, Shin Onarimon Bldg., 6-17-19 Shimbashi,
Minato-ku, Tokyo 105-0004 Japan

The Mary Kay FoundationSM และ UT Southwestern ร่วมมือหาทางยุติโรคมะเร็งในผู้หญิงทั่วโลก

Logo

ความร่วมมือที่มีมายาวนานของพันธมิตรทั้งสองมีการนำเสนอโครงการมอบเงินทุนระดับนานาชาติใหม่ที่มอบโอกาสแก่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกทำวิจัยเพื่อเกี่ยวกับโรคมะเร็ง

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–28 สิงหาคม 2562

The Mary Kay FoundationSM ผู้นำที่รับผิดชอบด้านการต่อต้านโรคมะเร็งในผู้หญิงมานับทศวรรษ ประกาศมอบเงินทุนจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สนับสนุนโครงการวิจัยโรคมะเร็งระดับโลก โดยร่วมมือกับศูนย์วิจัยทางการแพทย์ UT Southwestern Medical Center โครงการมอบทุนในระยะเวลา 1 ปีนี้จะมอบโอกาสการทำวิจัยโรคมะเร็งล้ำสมัยให้แก่นักวิจัยหลังปริญญาเอกทั่วโลกจำนวนสูงสุด 5 คน ณ ศูนย์วิจัยทางการแพทย์ UT Southwestern ในเมืองดัลลัส พร้อมทั้งอนุญาตให้นักวิจัยเหล่านี้กลับไปดำเนินการวิจัยต่อที่ประเทศของตนเอง โครงการนี้เป็นการสนับสนุนพันธสัญญาของ The Mary Kay Foundation ในการสานต่อพันธกิจยุติโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงทั่วโลก และเป็นครั้งแรกที่โครงการมอบทุนวิจัยโรคมะเร็งของมูลนิธิที่จัดทำขึ้นระดับโลก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อในรูปแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190828005139/en/

The Mary Kay Foundation℠ has a long-standing partnership with UT Southwestern through a strong collaboration with Dr. Jerry W. Shay, cell biology professor at UT Southwestern and The Mary Kay Foundation℠ Distinguished Professorship honoree. (Photo: Mary Kay Inc.)

The Mary Kay Foundation℠ เป็นพันธมิตรกับ UT Southwestern มายาวนานผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง Dr. Jerry W. Shay ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาของเซลส์และผู้ทรงคุณวุฒิแห่ง UT Southwestern และ The Mary Kay Foundation℠ (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

Ryan Rogers สมาชิกบอร์ดของ The Mary Kay FoundationSM และหลานชายของ Mary Kay Ash กล่าวว่า “Mary Kay Ash ในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิมองเห็นผลกระทบของโรคมะเร็งที่มีต่อที่ปรึกษาและครอบครัวของพวกเขา รวมทั้งผู้หญิงทั่วโลก นับเป็นภารกิจของเธอในการกำจัดโรคมะเร็งออกจากผู้หญิงเหล่านั้น การขยายความร่วมมือกับ UT Southwestern จะช่วยให้เราสานต่อการช่วยเหลือชีวิตในระดับโลกมากขึ้น”

The Mary Kay Foundation℠ เป็นพันธมิตรกับ UT Southwestern มายาวนานผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง Dr. Jerry W. Shay ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาของเซลส์และผู้ทรงคุณวุฒิแห่ง UT Southwestern และ Mary Kay Foundation℠ โดย Dr. Shay ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการพิจารณาผลงานทางวิทยาศาสตร์แก่โครงการมอบทุนวิจัยมะเร็งของ The Mary Kay Foundation มาเป็นเวลากว่า 22 ปี และยังเป็นผู้สังเกตุการณ์หลักสำคัญในโครงการมอบทุนครั้งนี้ด้วย

Dr. Shay กล่าวอีกว่า “การขยายโครงการไประดับโลกจะช่วยให้เราเน้นความสำคัญไปยังโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากขึ้น เราจึงวางแผนที่จะเฟ้นหาผู้สมัครที่ทำวิจัยหลังปริญญาเอกจากทั่วโลก และเชิญมายังดัลลัสเพื่อปรับแต่งและขัดเกลาด้วยเครื่องมือและทรัพยากรในการค้นคว้าวิจัยมะเร็งในห้องแล็บล้ำสมัย ผลงานของพวกเขาจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับวิธีการที่ผู้คนเข้าใจและรักษาโรคมะเร็งทั่วโลก”

นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2539 The Mary Kay FoundationSM ได้สนับสนุนความตั้งใจของ Mary Kay Ash ในฐานะตัวแทนของผู้หญิงและวิสัยทัศน์การสร้างโลกที่ปราศจากมะเร็ง ปัจจุบัน The Mary Kay FoundationSM ได้มอบรางวัลมูลค่า 23 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนผลงานจากนักวิจัยโรคมะเร็งระดับหัวกะทิกว่า 225 คนทั่วสหรัฐฯ เพื่อค้นหาวิธีรักษามะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งรังไข่

Dr. Gildea ประธานบริหารวิทยาศาสตร์แห่ง Mary Kay Inc. กล่าวว่า “การต่อสู้โรคมะเร็งเป็นเรื่องส่วนบุคคลของ Mary Kay Ash และเป็นเรื่องส่วนบบุคคลของเราด้วยเช่นกัน เธอจะต้องภูมิใจที่เราได้สานต่อความตั้งใจของเธอในการส่งเสริมผู้หญิงในกรอบที่กว้างขึ้น”

เกี่ยวกับ The Mary Kay Foundation

เพื่อสานต่อความฝันของ Mary Kay Ash ในการส่งเสริมชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก The Mary Kay FoundationSM ได้ส่งเสริมและกระจายงบประมาณเพื่อลงทุนในการวิจัยโรคมะเร็งเพื่อค้นหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่มักเกิดกับผู้หญิง และยุติผลกระทบความรุนแรงต่อผู้หญิงภายในประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา The Mary Kay FoundationSM ได้มอบเงินจำนวน 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่องค์กรต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่ใหญ่ขึ้นสองเท่า นอกจากนี้ มูลนิธิยังสนับสนุนโครงการสร้างการรับรู้ โครงการกิจกรรมเพื่อชุมชน และการสนับสนุนช่วยเหลือการร่างกฏหมายเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพดีและปลอดภัย พร้อมกันนั้นก็สร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับผู้หญิง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ความรู้ การสนับสนุน อาสาสมัคร และการบริจาค รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือชีวิตเพื่อสร้างแรงผลักดันแก่ผู้หญิง กรุณาเข้าเยี่ยมชมที่ marykayfoundation.org ติดตามเราที่ Facebook แล Instagram หรือ Twitter

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190828005139/en/

ติดต่อ:

The Mary Kay Foundation 
marykay.com/newsroom 
972.687.5332 or media@mkcorp.com

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างจีนและไทยนำไปสู่การเติบโตใหม่ 3 ในการท่องเที่ยว

Logo

ปักกิ่ง–(BUSINESS WIRE)–24 สิงหาคม 2562

ภายหลังจากการขยายนโยบายฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทย โดยได้วางแผนที่จะเสนอโครงการ“ วีซ่าฟรีหนึ่งปี” ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน 

ตามรายงานของสื่อไทยเมื่อเนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ยื่นเอกสารให้กับนายประยุทธ นายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอนโยบายวีซ่าฟรีหนึ่งปีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดีย ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยโดยรวมและมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 3.4 ล้านล้านบาท

ก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์กล่าวว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยประกอบไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ การแข็งค่าของเงินบาทไทยนักท่องเที่ยวจีนที่ระงับการเดินทางมายังประเทศไทย ดังนั้ภาคส่วนงานจึงวางแผนที่จะนำเสนอนโยบายการอนุมัติวีซ่าฟรีหนึ่งปีและแทนที่นโยบายวีซ่าฟรี ซึ่งนโยบายนั้นจะหมดอายุในวันที่ 31 ตุลาคม 2019

ประเทศไทยไม่เพียงแต่ต้องการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวกับจีนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยให้มีเสถียรภาพ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยการพัฒนาเชิงลึกของความสัมพันธ์จีน – ไทยความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ไกลเกินกว่าการท่องเที่ยวและการค้าสินค้าเกษตร จีนไม่เพียงแต่หวังว่าประเทศไทยจะมีความเจริญมากขึ้น แต่ยังจะส่งผลให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยและมีนวัตกรรมมากขึ้น ความร่วมมือระหว่างจีนกับไทยกำลังก้าวไปสู่การพัฒนายุทธศาสตร์เพิ่มเติมอีก 3 ด้าน

 ประการแรกคือยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทหาร ความมั่นคงในระยะยาวของความสัมพันธ์จีน – ไทยซึ่งทำให้ทั้งสองประเทศสามารถสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางยุทธศาสตร์ได้ ในอนาคต ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือด้านอุปกรณ์ทางทหารมากยิ่งขึ้น รวมถึงสนับสนุนประเทศไทยในการสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมทางทหารของตนเองและร่วมกันพัฒนาอาวุธและอุปกรณ์

ประการที่สองคือความร่วมมือทางการแพทย์ซึ่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 ได้จัดพิธีเปิดสถาบันวิจัยการแพทย์ธรรมชาติโดยร่วมกันระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยในกรุงเทพฯซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างสองประเทศและการพัฒนาอุตสาหกรรมยาธรรมชาติ

ประการสุดท้ายคือความร่วมมือในการสร้านวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การดำเนินการปกป้องโดยสหรัฐในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ในความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก โดยประเทศไทยที่มีความเป็นกลางทางการเมืองจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน – ไทยนั้น คาดว่าจะช่วยป้องกันสงครามเย็นซึ่งอาจเกิดขึ้นจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาในจีน และยังเป็นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมเชิงลึกของอุตสาหกรรมทั้งสองประเทศ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

ยูจี

บ. คิวฉี มีเดีย คาลเจอร์ จำกัด

E-mail:media.yu@foxmail.com

เว็บไซต์: www.queqicn.com

เบอร์โทร.: 17740545989

Mary Kay แต่งตั้ง Katherine Weng เป็นผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศจีน

Logo

บริษัทเครื่องสำอางระดับโลกสนับสนุนให้ผู้หญิงเป็นผู้นำทั่วโลก

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–22 ส.ค. 2562

Mary Kay Inc.ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำให้การสนับสนุนด้านการเสริมสร้างศักยภาพและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง ประกาศแต่งตั้ง Katherine Weng เป็นผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท Mary Kay (ประเทศจีน) จำกัด ในเซี่ยงไฮ้ โดย Weng จะรายงานตรงต่อ KK Chua ประธานภูมิภาคแปซิฟิก Mary Kay

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190822005337/en/

Katherine Weng, General Manager for Mary Kay China. (Photo: Mary Kay Inc.)

Katherine Weng ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay China (ภาพ: Mary Kay Inc. )

“ จรรยาบรรณในการทำงานที่ไม่เหน็ดเหนื่อย ความคิดเชิงกลยุทธ์ และความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวของ Katherine ทำให้ Mary Kay China สามารถไปสู่จุดสูงสุดจุดใหม่ได้” Chua กล่าว “ เธอหลงใหลเกี่ยวกับภารกิจของบริษัทเราในการยกระดับชีวิตของผู้หญิง เธอเข้าใจความต้องการของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของเรา และทำงานอย่างหนักเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจของพวกเขา เธอประสบความสำเร็จภายในบริษัทในการสร้างความเชื่อมโยงที่อย่างราบรื่นระหว่างฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด แลฝ่ายปฏิบัติการ เราหวังว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนภายใต้การนำของเธอ”

Mary Kay เริ่มเปิดดำเนินการในประเทศจีนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วและเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในสามตลาดชั้นนำของโลก

การแต่งตั้งของ Weng เป็นเพียงความมุ่งมั่นล่าสุดของ Mary Kay Inc. ที่มีมานานหลายทศวรรษในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงในการรับตำแหน่งผู้นำทั่วโลก ผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำที่ Mary Kay เป็นแรงผลักดันสู่ความสำเร็จ:

  • ร้อยละ 61 ของแรงงานทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง
  • ในตำแหน่งผู้นำระดับผู้อำนวยการขึ้นไปร้อยละ 59 ของเป็นผู้หญิง
  • ในตำแหน่งผู้นำของระดับประธานขึ้นไปร้อยละ 51 เป็นผู้หญิง
  • ร้อยละ 46 ของทีมผู้บริหารระดับโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง และ
  • ร้อยละ 68 ของผู้นำตลาดในต่างประเทศของ Mary Kay เป็นผู้หญิง

“ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ผู้หญิงและครอบครัวในประเทศจีน” Weng กล่าว “ มันเป็นสิทธิพิเศษที่ยอดเยี่ยมในการทำงานให้กับบริษัทที่ไม่เพียงแต่ทุ่มเทให้กับชีวิตของผู้หญิงผ่านโอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและผลิตภัณฑ์ที่สมัย แต่ยังผ่านการทำงานเพื่อการกุศลและการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย”

Weng เริ่มอาชีพของเธอในฐานะผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของ Mary Kay China ในปี 2538 สาขาเซี่ยงไฮ้ และดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายการพาณิชย์ เธอเป็นส่วนสำคัญของทีมผู้นำในประเทศจีนและมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตและความสำเร็จของ Mary Kay China

Weng สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจาก Latrobe University ในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย

เกี่ยวกับ

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 55 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนใน เกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทั้งนี้ มูลนิธิ Mary Kay FoundationSM ของบริษัทได้มอบเงินมากกว่า 78 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับการวิจัยโรคมะเร็งและที่พักอาศัยสำหรับผู้เผชิญความรุนแรงในครอบครัว ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติก ยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป

เรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.marykay.com.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190822005337/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com