เส-นอร์สห โลจิสติกส์ จัดส่งฟิล์มพลาสติกให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ สนับสนุนโครงการผู้ประกอบการพลาสติกรวมใจ เคียงข้างคนไทย ฝ่าวิกฤติ COVID-19

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–14 พฤษภาคม 2563

imgนายวุฒิพงศ์ เจริญเกษกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เส-นอร์สห โลจิสติกส์ จำกัด หนึ่งในบริษัทพันธมิตรที่ได้เข้าร่วม โครงการผู้ประกอบการพลาสติกรวมใจ เคียงข้างคนไทย ฝ่าวิกฤติ COVID-19” จัดตั้งโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) ร่วมกับกลุ่ม Young PEP ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการพลาสติก โดยโครงการนี้ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อบริจาคฟิล์มพลาสติกให้กับโรงพยาบาลที่แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาคฟิล์ม เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ โดยดำเนินการจัดส่งฟิล์มพลาสติกให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนการจัดส่งอาหารแห้งและของใช้จำเป็นที่ทางบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ได้บริจาคให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

———————————-

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ 

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

“คนไทยไม่ทิ้งกัน” ซีพี ออลล์ จับมือสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบฯ และชมรมแท็กซี่มิเตอร์แอร์พอร์ต มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ช่วยเหลือสมาชิกร่วม

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–13 พฤษภาคม 2563

imgสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ โดยนางสุจิน รุ่งสว่าง (แถวหน้า ที่ 3 จากซ้าย) ประธานสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย และนายสำเร็จ มูระคา (แถวหน้า ที่ 4 จากซ้าย) ประธานชมรมแท็กซี่มิเตอร์แอร์พอร์ต รับมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย โดยมี นายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ (แถวหน้า ที่ 2 จากซ้าย) ที่ปรึกษาคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ นำทีมจิตสาธารณะ ซีพี ออลล์ ร่วมมอบและแพคถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด – 19 ตามปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” ณ ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ เมื่อเร็วๆ นี้

แลคตาซอย เปิดตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ ชูระบบโลจิสติกส์เข้มแข็ง พนักงานพร้อมส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–13 พฤษภาคม 2563

img“แลคตาซอย” พร้อมลุยตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ ชูระบบโลจิสติกส์บริหารจัดการส่งสินค้าเองอย่างเข้มแข็ง พนักงานส่งสินค้ามีมาตรฐานความสะอาด ใส่อุปกรณ์ป้องกันครบชุด ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย และหน้ากาก  Face Shield  มั่นใจส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ พร้อมลุยจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย “ช้อปสุดคุ้ม ส่งฟรี! ทั่วประเทศ” พร้อมรับของสมนาคุณถึง 30 พ.ค. นี้

นางสาวมัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท แลคตาซอย จำกัด เปิดเผยว่า “แลคตาซอย” ขอมีส่วนร่วมสนับสนุนให้ประชาชนลดระยะห่างระหว่างกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 จึงนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นแลคตาซอยสูตรดั้งเดิมทุกรสชาติ และแลคตาซอยโกลด์ซีรีย์ 4 รสชาติ นมถั่วเหลืองคั้นสด “ซังซัง” และนมถั่วเหลืองยูเอชที “เบนิฟิตต์ ซอย บาริสต้า” ทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งทางบริษัทมีความมั่นใจในระบบโลจิสติกส์ที่มีการบริหารจัดการด้วยตนเองอย่างเข้มแข็ง สามารถส่งตรงผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ

 “การเปิดตลาดออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบนี้  เป็นการช่วยลดช่องว่างระหว่างกัน ผู้บริโภคจะได้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19  ซึ่งระบบการจัดส่งสินค้าของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐาน พนักงานมีการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย และหน้ากาก Face Shield  ดังนั้นมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ส่งถึงมือผู้บริโภคมีความปลอดภัยในทุกกระบวนการอย่างแน่นอน” นางสาวมัลลิกา กล่าว 

อย่างไรก็ดี แลคตาซอยได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย โดยผู้ที่สั่งซื้อแลคตาซอยผ่านช่องทางออนไลน์ “ช้อปสุดคุ้ม ส่งฟรี! ทั่วประเทศ” เมื่อซื้อสินค้ายกลัง ทุกขนาด ทุกรสชาติใน lactasoy Official Shop และมียอดสั่งซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท จะได้รับนมถั่วเหลืองคั้นสด “ซังซัง” ขนาด 300 มิลลิลิตร จำนวน 3 แพ็ค โดยสามารถสั่งซื้อได้ที่ www.lactasoy.com/shop  ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ค. 63

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร. 081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

ดิจิโอ ผู้พัฒนาและให้บริการระบบชำระเงิน ได้รับการลงทุน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบซีรี่ส์บี

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 พฤษภาคม 2563

imgดิจิโอ สตาร์ทอัพผู้นำด้านการพัฒนาและให้บริการระบบชำระเงินในประเทศไทย ได้รับการลงทุน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบซีรี่ส์บี เพื่อนำเงินลงทุนไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการ โดยนักลงทุนในรอบซีรี่ส์บีนี้ได้แก่ บริษัท PCC ที่ให้บริการเครือข่ายธุรกรรมระหว่างธนาคาร บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย และกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวไกลไปด้วยกัน 2 โดยมี สยาม อัลฟ่า เอคควิตี้ (SAE) เป็นที่ปรึกษาการลงทุน โดยเงินทุนที่ได้รับมาดิจิโอจะนำไปใช้ในการขยายและพัฒนาระบบการชำระเงินสำหรับสถาบันทางการเงิน และเพิ่มศักยภาพให้กับระบบการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำธุรกรรมทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจ

นายนพพร ด่านชัยนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้กองทรัสต์เพื่อประกอบกิจการเงิน รวมไปถึงธนาคารชั้นนำในประเทศไทยเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ และการระดมทุนนี้จะสามารถทำให้บริษัทสามารถขยายบริการระบบการชำระเงินให้กับทั้งทางสถาบันทางการเงิน รวมไปถึงผู้บริโภคอีกด้วย”

ผลิตภัณฑ์และบริการของดิจิโอช่วยให้ให้ผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลในปี 2562 ผลิตภัณฑ์การชำระเงินของดิจิโอมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้บริษัทได้รับใบอนุญาตการให้บริการการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Payment Facilitating Services (PFS)) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะช่วยให้ดิจิโอสามารถให้บริการชำระเงินใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กโดยตรง ซึ่งใบอนุญาตนี้เป็นการยืนยันว่าคุณภาพและระบบการให้บริการของดิจิโออยู่ในมาตรฐานตามกฎระเบียบของ ธปท. อีกทั้งบริษัทยังได้รับการรับรองการปฎิบัติตามกฎการชำระเงิน (PCI) ตามมาตรฐานความปลอดภัยทางสารสนเทศสำหรับธนาคาร สถานบันทางการเงิน ฟินเทค และผู้ให้บริการทางการเงินอื่น ๆ ด้วย

ในความร่วมมือกับ PCC นั้น ดิจิโอได้เปิดตัวโซลูชั่น Flite ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของระบบชำระเงิน ณ จุดขาย (POS) ที่ช่วยให้กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กสามารถให้บริการการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตแบบไร้การสัมผัส (contactless payment) ได้อย่างปลอดภัย บริษัทยังได้ทำงานร่วมกับสถาบันทางการเงินชั้นนำของไทยให้บริการด้าน e-invoices และ e-payments และการเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ล่าสุด MeeBill โดยโซลูชั่นนี้มีส่วนช่วยให้ร้านค้าปลีกทั้งออนไลน์และออฟไลน์สามารถออกใบเรียกเก็บเงินให้กับลูกค้าได้โดยง่าย รวมไปถึงการรับชำระเงินด้วย QR ผ่านอุปกรณ์มือถือ ตลอดจนการตรวจสอบและสรุปยอดใบเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ

“ภารกิจของเราคือ การเปิดใช้งานการชำระเงินดิจิทัลในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความไว้วางใจจากคู่ค้าของเรา เราสามารถสร้างโซลูชั่นทางการเงินที่ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อธุรกิจ แต่ยังรวมถึงการดำรงชีวิต และช่วยผลักดันการใช้ระบบการชำระเงินดิจิตอลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”  นายนพพรกล่าว

ดิจิโอก่อตั้งขึ้นในปี 2555 ให้บริการด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับโซลูชั่นการชำระเงิน เช่น EDC, mPOS, การพิสูจน์และยืนยันตัวตนบุคคลแบบดิจิทัล และตัวกลางเชื่อมต่อเครือข่ายการชำระเงิน บริษัทมีสำนักงาน 3 แห่ง อยู่ในกรุงเทพ 2 แห่งและเชียงใหม่ ในขณะที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย แต่ฐานลูกค้าของดิจิโอไม่ได้มีเพียงในประเทศไทยเท่านั้น ยังครอบคลุมไปถึงประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย และพม่า นอกจากนี้ดิจิโอยังได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมอีกมากมาย รวมถึงรางวัลจากนายกรัฐมนตรีในงาน Startup Thailand  2560 ดิจิโอสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่เริ่มกิจการและจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืน

เกี่ยวกับ ดิจิโอ (ประเทศไทย)

บริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ดิจิโอ วางตัวเองในฐานะบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการช่วยสถาบันทางการเงินและพันธมิตรโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดิจิโอยังได้นำเสนอโซลูชั่นเพื่อสร้างประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการในภาคธุรกิจขนาดเล็กและผู้บริโภค

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

Digio                                                                                        

พรประภา จริงกิจจานุกูล                                                             

Business Development                                                                                   

อีเมล: pornprapa@digio.co.th                                      

โทร: 0867816576                                                                     

เว็ปไซต์  www.digio.co.th                                                          

Beacon Venture Capital

ศุภารัตน์ โอภาสยานนท์

Business Development Manager

อีเมล: suparat.op@kasikornbank.com

โทร: 0851399374

เว็ปไซต์ beaconvc.fund

เครือสหพัฒน์ มอบหน้ากากอนามัยผ้า 10,000 ชิ้น ให้ศาลยุติธรรม ป้องกันโควิด-19

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 พฤษภาคม 2563

imgเครือสหพัฒน์ โดย นางสาววราภรณ์ กุลสวัสดิ์ภักดี (ที่ 5 จากขวา) และนางพัชราภรณ์
วัฒนสุข (ที่ 4 จากขวา) มอบหน้ากากอนามัยผ้า จำนวน 10,000 ชิ้น ให้กับศาลยุติธรรม เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรของศาลยุติธรรม ประชาชน คู่ความ และพยานที่มาศาลแต่ไม่มีหน้ากากสวมใส่ ซึ่งหน้ากากอนามัยผ้าดังกล่าวเป็นการรวมพลังของบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่มาร่วมใจกันผลิตและแจกจ่ายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนคนไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

###

สื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

3 รพ.ในเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์” ร่วมห่วงใยทีมกู้ภัย มอบกรมธรรม์ประกันโควิด-19 ให้แก่สมาชิก 176 คนใน 3 จังหวัด

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 พฤษภาคม 2563

img3 รพ.ในเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์” ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ห่วงใยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมกู้ภัย พร้อมมอบกรมธรรม์ประกันภัยโควิด -19 เพื่อคุ้มครองชีวิตให้กับสมาชิกหน่วยงานกู้ภัย 176 คนใน 3 จังหวัด

ดร.สาธิต วิทยากร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารทั่วไปและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจเพื่อสุขภาพในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) เปิดเผยว่า 3 โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี มีความห่วงใยทีมกู้ภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและบริการประชาชน ท่ามกลางความเสี่ยงของการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงได้มอบกรมธรรม์ประกันภัย   โควิด -19 เพื่อคุ้มครองชีวิตมูลค่ารายละ 176,000 บาท ให้แก่สมาชิกหน่วยงานกู้ภัย 176  คน พร้อมน้ำดื่มและอาหารสำเร็จรูป อีกด้วย

            “นอกจากการดำเนินธุรกิจแล้ว สิ่งที่เราให้ความสำคัญควบคู่กันนั่นคือ การช่วยเหลือชุมชนและสังคม  และเราเล็งเห็นว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องช่วยเหลือประชาชนท่ามกลางความเสี่ยงต่อการรับเชื้อโควิด -19 เช่นกัน  จึงได้มอบกรมธรรม์เพื่อคุ้มครองชีวิต  โดยในเวลานี้เราเชื่อว่า ความร่วมมือ ร่วมใจของทุกฝ่าย ความเอื้อเฟื้อที่มีต่อกัน จะทำให้ประเทศของเราสามารถก้าวผ่านทุกอย่างไปได้ในไม่ช้า”ดร.สาธิต กล่าว 

ทั้งนี้ ในรายละเอียด โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ มอบกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยใน 1.มูลนิธิเจ้าพ่อกวนอูกู้ภัยนครสวรรค์ 2.หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อบต.หนองกรด 3.หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย เทศบาลหนองเบน 4.หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อบต.หนองกระโดน 5.ชมรมกู้ชีพมหาโพธิ์ 6.หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อบต.เกรียงไกร 7.หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อบต.เขาทอง 8.ชมรมกู้ชีพพยุหะคีรี รวมจำนวน 100 คน

โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ มอบกรมธรรม์ประกันภัยโควิด 19 ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยใน 1.มูลนิธิ ปอเต๊กตึ้ง  2.มูลนิธิร่วมกตัญญู 3. อาสา อบต.บางแก้ว 4. มูลนิธิพิรุณ รวมจำนวน 55 คน

โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี มอบกรมธรรม์ประกันภัยโควิด 19 ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยใน 1.หน่วยกู้ภัยเมืองพระชนก จ. อุทัยธานี 2.มูลนิธิร่วมใจอุทัยธานี 3.มูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี จุดเมือง  รวมจำนวน 21 คน

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

โรงพยาบาลนครธน แจกข้าวกล่องฟรี ช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–12 พฤษภาคม 2563

imgรศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลนครธน แจกข้าวกล่องและน้ำดื่มฟรี วันละ 200 ชุด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในชุมชนย่านพระราม 2 ที่ได้รับผลกระทบด้านความเป็นอยู่จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งมีการแจกทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 น. ตั้งแต่วันนี้ – 29 พฤษภาคม 2563 ณ บริเวณหน้าโรงพยาบาลนครธน โดยโรงพยาบาลมีความห่วงใยคนไทย ไม่ทอดทิ้งกันในยามเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ พร้อมช่วยเหลือและร่วมฝ่าฟันให้ประชาชนคนไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 นี้ไปได้ด้วยกัน

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ 

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

ซิตี้ จับมือ เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัว ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ เสริมทัพผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ต่อยอดการบริหารความมั่งคั่งครบวงจร

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–8 พฤษภาคม 2563

imgซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทของซิตี้ ประเทศไทย เปิดตัว ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (Citicorp Leasing Insurance Broker) มาเสริมทัพผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครอง เพื่อต่อยอดการบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจรให้กับลูกค้า โดยเป็นความร่วมมือกับ เอไอเอ ประเทศไทย พันธมิตรทางธุรกิจด้านประกันชีวิตชั้นนำ คัดสรรผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองสูงถึงพันล้านบาท อย่าง เอไอเอ เลกาซี เพรสทีจ (AIA Legacy Prestige) แผนประกันชีวิตที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง เพื่อวางแผนการส่งต่อมรดกอย่างมืออาชีพ รวมถึงกรณีติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ที่ www.citibank.co.th/citicorp-insurance

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย และประธานกรรมการ บริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซิตี้ได้มีการพัฒนาธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2563 ซิตี้มีการวางกลยุทธ์การออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่รอบด้าน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าด้วยการเปิดตัว ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (Citicorp Leasing Insurance Broker) ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซิตี้ที่มาเสริมทัพผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิต ถือเป็นการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยครั้งแรกของซิตี้ในประเทศไทย เพราะเล็งเห็นว่าตลาดประกันชีวิตในประเทศไทย มีศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจากคนไทยยังคงแสวงหาผลิตภัณฑ์เพื่อปกป้องความมั่งคั่ง และครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล

นางวีระอนงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ เป็นการร่วมมือกับ เอไอเอ ประเทศไทย พันธมิตรทางธุรกิจด้านประกันชีวิตชั้นนำ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัย ที่ตอบสนองความต้องการด้านการคุ้มครองทางการเงินของลูกค้า สอดคล้องกับกลยุทธ์ความสัมพันธ์กับลูกค้าหลายราย (Multi-Relationship Customer) เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการนำเสนอทางออกทางการเงินส่วนบุคคลที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครอง เพื่อต่อยอดการบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจรให้กับลูกค้า เช่น เอไอเอ เลกาซี เพรสทีจ (AIA Legacy Prestige) ประกันชีวิตที่ช่วยในการวางแผนการส่งต่อทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยทุนประกันภัยสูงสุดถึง หนึ่งพันล้านบาท หรือ เอไอเอ ซีไอ ซูเปอร์แคร์ (AIA CI SuperCare) ประกันชีวิตที่คุ้มครองโรคร้ายแรงนานตลอดชีพ และ เอไอเอ เอช แอนด์ เอส พลัส โกลด์ (AIA H&S Plus Gold) สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาล ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วย ซึ่งครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในกรณีติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) เป็นต้น

ซิตี้ไม่ได้อยากจะเป็นเพียงธนาคารหรือนายหน้าประกันชีวิต โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพาร์ตเนอร์ทางการเงินที่เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงชีวิต เริ่มจากเป็นบัตรเครดิตใบแรกในช่วงวัยที่ลูกค้าเริ่มต้นทำงานและเมื่อลูกค้าเริ่มออมเงินก้อนได้  รวมถึงสามารถช่วยต่อยอดความมั่งคั่งด้วยบริการที่ปรึกษาการลงทุนของซิตี้โกลด์ที่ให้ลูกค้าเลือกลงทุนในกว่า 200 กองทุนรวมทั้งในไทยและต่างประเทศ ตลอดจนช่วยวางแผนการส่งต่อทรัพย์สินอย่างยั่งยืนจากรุ่นสุ่รุ่นให้ลูกค้ามั่นใจในอนาคตที่มั่นคงของคนที่เขารัก โดยซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่คัดสรรจากเอไอเอ ผ่านซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ นางวีระอนงค์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตซิตี้ในการชำระค่าเบี้ยประกันของกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่ผ่าน ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ครบตามเงื่อนไขของซิตี้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ รับเครดิตเงินคืนผ่านบัตรเครดิตซิตี้สูงสุดถึง 260,000 บาท รับบัตรกำนัลทองคำมูลค่าสูงสุด 250,000 บาท และเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์ ฯลฯ เป็นต้น 

ด้าน นายอัลเจอร์ ฟัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลโดยสมาคมประกันชีวิตไทย ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตของไทย ในปี 2562 การเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับรวม มีอัตราเติบโตที่ลดลงร้อยละ 2.63 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ที่ธุรกิจประกันชีวิตต้องเผชิญ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอันเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา รวมทั้งจากมาตรการของภาครัฐฯ เช่น หลักเกณฑ์ในเรื่องมาตรฐานรายงานทางการเงิน IFRS17 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Law) และการยกระดับพฤติกรรมทางการตลาดของธุรกิจประกันชีวิต (Market Conduct) ที่กระทบต่อตัวแทนและนายหน้า แต่อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนมีความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจประกันภัย ดังนั้น เอไอเอ ในฐานะผู้นำตลาด เราเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการเปิดช่องทางขายใหม่ผ่าน ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ เอไอเอ ยังมอบผลประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมให้แก่ผู้เอาประกันภัยเอไอเอที่ซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านซิตี้คอร์ป ลิสซิ่งอินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ในกรณีติดเชื้อ และ/หรือเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)  โดยเมื่อผู้เอาประกันภัยได้รับการยืนยันเป็นครั้งแรกว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในในห้องผู้ป่วยวิกฤต (Intensive Care Inpatient Room) จะได้รับค่าชดเชยรายวันเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 30 วัน และในกรณีเสียชีวิตเนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เอไอเอจะจ่ายผลประโยชน์รายละ  50,000 บาท ให้กับทายาทโดยธรรมของผู้เอาประกันภัย โดยระยะเวลาคุ้มครองมีผลตั้งแต่ 16 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 โดยเงื่อนไขผลประโยชน์ความคุ้มครองเพิ่มเติมนี้เป็นไปตามที่เอไอเอกำหนด

โดยผู้สนใจสามารถติดต่อ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ที่ www.citibank.co.th/citicorp-insurance

###

หมายเหตุถึงกองบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th | เฟซบุ๊ก: Citi Thailand  | LINE: Citi Thailand

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

wanvisa.komindr@citi.com

เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์  JC&CO PUBLIC RELATIONS

ณภัทร กาญจนะจัย / +668 1355 9221 / napatk@jcpr.co.th

นิกรณ์กานต์ วิจักษณ์ไพศาล / +669 7230 0528 / nikornkarnw@jcpr.co.th

MEDIA HOTLINE : 02-634-4557 / 6681-486-3407 (ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์)

บำรุงราษฎร์ เปิดตัวบริการใหม่ 60 Second Service รับเทรนด์ New Normal

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–11 พฤษภาคม 2563

imgโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดตัวบริการใหม่ “60 Second Service” เพื่อให้บริการขั้นพื้นฐาน เช่น ฉีดวัคซีน และรับยาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เข้าถึงง่าย และสะดวกสบาย ปลอดภัยสูงสุด ตอบโจทย์ในสถานการณ์ COVID-19 รวมถึงยังเป็นเทรนด์การให้บริการรูปแบบใหม่ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็น new normal ภายหลัง COVID-19 โดยสามารถให้บริการจนจบกระบวนการภายในเวลาเพียง 60 วินาที ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ และได้รับใบสั่งยาเรียบร้อยแล้ว 

———————————————————-

กรณีต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

คุณกุนธิรา ณัฐวัฒนานนทน์

ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์

Tel: 094 1545698

E-mail: khuntira4pr@gmail.com

ETON Group จัดโครงการ ETON Drive To Share – “Face Shield ช่วยสังคมสู้โควิด-19”

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–7 พฤษภาคม 2563

คุณพีรศุษม์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการ อีตั้น กรุ๊ป คุณอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด พร้อมคณะทำงานของอีตั้น กรุ๊ป จัดโครงการเพื่อสังคม ETON Drive To Share – “Face Shield ช่วยสังคมสู้โควิด-19” โดยพนักงานทุกฝ่ายของอีตั้น กรุ๊ป ต่างร่วมแรงร่วมใจจัดทำหน้ากาก (Face Shield) เพื่อนำไปให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้ได้มอบให้กับสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จำนวน 1,500 ชิ้น และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จำนวน 1,500 ชิ้น พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะจัดทำและบริจาคหน้ากาก Face Shield ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ยังขาดแคลนไว้ใช้ต่อไป

อีตั้น กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และขอเป็นกำลังใจสนับสนุนการทำงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงานสามารถฝ่าฝันวิกฤตการณ์ครั้งนี้

จากโครงการ “Free PR สู้โควิด” #Incomm  #FreePRสู้โควิด

เกี่ยวกับ อีตั้น กรุ๊ป

อีตั้น กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจด้านรถยนต์นำเข้าชั้นนำจากต่างประเทศ พร้อมด้วยโชว์รูมและศูนย์บริการ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ได้แก่ สาขา ศรีนครินทร์ สาขารัชดา สาขาเชียงใหม่ และสาขาขอนแก่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบยนตรกรรมนำเข้าคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่น เพียบพร้อมด้วยศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Excellent Service”  เพื่อส่งมอบบริการอันเป็นเลิศให้แก่ลูกค้าของเรา

ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ

ชวัลรักษ์ เจริญผล

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาด อีตั้น กรุ๊ป

โทร. 0-2721-1222 ต่อ 514, 08-9552-2565, 08-0469-6244

อีเมล etongroup.pr@gmail.com

ส่งข่าวโดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ 

บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

The Bangkok Reporter