คาลเท็กซ์ สานพลังใจ สู้ภัยโควิด ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ให้กับพี่น้องชาวชุมชน

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF CHEVRON)–18 พฤษภาคม 2564

คาลเท็กซ์ เดินหน้าส่งต่อความห่วงใย เพิ่มมาตรการด้านสุขอนามัยเข้มข้น เน้นย้ำความปลอดภัยในสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดูแลชุมชนเพื่อนบ้านโดยรอบที่ทำการของบริษัทฯ สร้างความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่   

imgนางอลิซ พอตเตอร์ ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการใช้ชีวิตของเราทุกคนในวงกว้าง บริษัทฯ มีความห่วงใยต่อพนักงาน เครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน ลูกค้าของเราทุกคน และต่อสังคม จึงได้เพิ่มมาตรการด้านสุขอนามัยเข้มข้น มาใช้ในการดูแลบุคลากรและร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ โดยก่อนการเริ่มปฏิบัติหน้าที่ จะต้องทำการวัดอุณหภูมิทุกครั้ง และให้สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำความสะอาดมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ รวมไปถึงเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค”

นอกจากนี้ คาลเท็กซ์ ยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการ “คาลเท็กซ์ ห่วงใยคนไทย ร่วมใจต้านไวรัสโควิด-19” โครงการฯ ที่สอดคล้องกับนโยบายและจริยธรรมของเชฟรอน ในการดำเนินธุรกิจด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และการช่วยเหลือสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของชุมชนเพื่อนบ้านโดยรอบคลังน้ำมัน จึงได้ทำการส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 พร้อมเอกสารแนะนำแนวทางการป้องกัน ให้แก่ชุมชนบริเวณใกล้เคียงคลังน้ำมันร่วมจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา จำนวน 2,200 ชุด เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ รวมถึงได้สนับสนุนช่วยเหลือชุมชนโดยรอบที่ทำการบริษัทฯ บริเวณถนนพระรามที่ 3 จังหวัดกรุงเทพฯ โดยมีจุดประสงค์ให้พี่น้องชาวชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ล่าสุด เราได้มอบอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ให้กับชุมชนโรงสี และชุมชนคาลเท็กซ์ กว่า 450 ครัวเรือน โดยภายในประกอบด้วย หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สบู่แอนตี้แบคทีเรีย พร้อมเอกสารแนะนำแนวทางการป้องกันโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคลและคนรอบข้าง” นางอลิซ กล่าว

บริษัทฯ ขอร่วมส่งความห่วงใยไปให้พี่น้องชาวไทยทุกคน โปรดรักษาสุขภาพด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ดูแลความสะอาด และปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างกัน และขอร่วมส่งกำลังใจไปให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่กำลังต่อสู้กับโควิด-19 และขอขอบคุณในความเสียสละของท่าน คาลเท็กซ์หวังว่าจะเห็นคนไทยช่วยเหลือและสามัคคีกัน เพื่อให้ประเทศไทยอยู่รอดและก้าวผ่านวิกฤตการณ์นี้ไปได้

###


ซีพี ออลล์ ลุยขับเคลื่อน “คนไทยไม่ทิ้งกัน” น้อมถวายแอลกอฮอล์-เครื่องวัดอุณหภูมิ-น้ำดื่ม ให้กับวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–27 เมษายน 2564

imgจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายภาคส่วนต้องระมัดระวังป้องกันดูแลรักษาความสะอาดและคัดกรองผู้คนที่สัญจรไปมา แม้กระทั่งวัดที่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาที่เป็นศูนย์รวมจิตใจอยู่คู่กับชุมชนและสังคม ต่างได้รับผลกระทบและมีมาตรการในการระวังป้องกัน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ จึงเดินหน้าสานต่อโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” น้อมถวายเครื่องวัดอุณหภูมิ แอลกอฮอล์เจล พร้อมน้ำดื่มสะอาด วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 และเพื่อนำไปแจกจ่ายมอบให้กับวัดในเขตปกครองของตนเองทั้งส่วนกลางและภูมิภาคต่อไป

โดยครั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร. พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, กรรมการมหาเถรสมาคม รับถวายจากนายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ(ร่วม) และประธานพุทธปัญญาชมรม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่พระสงฆ์-สามเณรในเขตปกครองที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19

ศาสตราจารย์ ดร. พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กล่าวว่า “การที่ ซีพี ออลล์ เข้ามาก็น่าอนุโมทนา เพราะว่าเข้ามาเสริมกิจกรรมที่เราทำ ก็จะทำให้ในยามวิกฤตเราไม่ทอดทิ้งกัน ลักษณะเป็นสัญลักษณ์ว่าถ้าทุกฝ่ายเข้ามาช่วยกันดูแลคนละไม้คนละมือ ก็จะไม่เป็นภาระของราชการฝ่ายเดียวหรือหน่วยนั้นหน่วยนี้ฝ่ายเดียว ทุกฝ่ายต้องมาระดมช่วยกัน ทางวัดสามารถเป็นผู้ประสานได้เราก็จะเป็นผู้ประสาน แล้วเราจะให้ความร่วมมือกับ 3 ประสาน บ้าน วัด ราชการ และก็โดยวิธีนี้เราก็จะได้สามารถผ่านวิกฤตโควิดไปด้วยกัน”

นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ(ร่วม) และประธานพุทธปัญญาชมรม บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า “ซีพี ออลล์ มีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง มามากกว่า 25 ปี เพราะว่าศาสนาเป็นกำลังใจที่สำคัญให้กับคนไทยให้อยู่ร่วมกันเผชิญปัญหาและต่อสู้วิกฤตโควิดครั้งนี้ไปด้วยกัน ซีพี ออลล์ เล็งเห็นความเดือดร้อนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้มีการบริจาคไปที่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุสงฆ์ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนี้เช่นกัน ในครั้งนี้จึงมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ด้วย”

ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2564 ซีพี ออลล์ ได้มอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ของใช้ที่จำเป็น ให้กับภาคส่วนต่างๆ ในโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” รวมเป็นเงินกว่า 57 ล้านบาทและนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโควิด – 19 ซีพี ออลล์ ได้ร่วมสมทบทุนโรงทานตามวัดต่าง ๆ ตามพระดำริของสมเด็จพระสังฆราช ถวายปัจจัยสมทบทุนช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจ และสมทบทุนค่าไฟฟ้า จำนวน 99 วัด โดยถวายผ่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพระสงฆ์-สามเณรที่ไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจ พร้อมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 และสนับสนุนครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับ 77 รพ.ใน 77 จังหวัดในพื้นที่ห่างไกล และกลุ่มคนพิการ กลุ่มเปราะบาง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 82 ล้านาท

ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมส่งเสริมและบำรุงพระพุทธศาสนาพร้อมขออยู่เคียงข้างคนไทยในวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ด้วยเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ตามปณิธานของซีพี ออลล์ “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”

Redkey F10 เครื่องดูดฝุ่นแบบพับได้อัจฉริยะเสนอความคุ้มค่าอันน่าทึ่ง ส่งตรงจากโรงงานไปสู่บ้านของคุณ

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–12 เมษายน 2564

คุณคิดว่าผลิตภัณฑ์มัลติฟังก์ชันที่มีคุณภาพ คือการจ่ายเงินในราคาที่สูงใช่ไหม? ไม่จำเป็นอีกต่อไป! ด้วยเครื่องดูดฝุ่นพับได้อัจฉริยะ Redkey F10 มาถึงที่นี่แล้ว เพื่อช่วยในการทำความสะอาดในครัวเรือน เครื่องดูดฝุ่น F10 สั่งทำพิเศษมุ่งเน้นไปที่ความต้องการในการทำความสะอาดในสถานการณ์จริงพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมการผลิต โดยโรงงานระดับไฮเอนด์นานาชาติ และส่งตรงถึงบ้านผ่านระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของ Muchen

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210412005569/en/

From Factory Directly to Home, Redkey F10 Smart Folding Vacuum Cleaner Offers Amazing Cost-Effectiveness. (Graphic: Business Wire)

Redkey F10 เครื่องดูดฝุ่นแบบพับได้อัจฉริยะเสนอความคุ้มค่าอันน่าทึ่ง ส่งตรงจากโรงงานไปสู่บ้านของคุณ (กราฟิก: Business Wire)

Redkey, Muchen Quality Ecological Chain มุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาที่มีอยู่และตอบสนองความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ โดยไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความหลากหลาย แต่เพื่อนำเสนอสิ่งดีๆ ให้ดียิ่งขึ้นไป และกำลังเปลี่ยนการปฎิวัติแนวการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเดิม ๆ ในรูปแบบใหม่

โดยผลตอบรับที่ได้จากข้อมูลขนาดใหญ่เกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า เครื่องดูดฝุ่น Redkey F10 ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิม อย่างเช่นปัญหาในการเข้าถึงฝุ่นใต้เตียงและโซฟา โดยแตกต่างจากเครื่องดูดฝุ่นอื่น ๆ ตรงที่จับของเครื่องสามารถพับได้เพื่อเข้าถึงสิ่งที่ไม่สามารถเข้าถึงได้และยังสามารถเข้าถึงที่อยู่ไกลออกไปอีกด้วย

เครื่องดูดฝุ่น F10 สามารถวัดปริมาณฝุ่น และปรับแรงดูดได้ถึง 5 ระดับโดยอัตโนมัติเพื่อความสะดวกของผู้ทำความสะอาด แสงไฟหักเหฝุ่น LED ที่ด้านหน้าช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นฝุ่นตามมุมต่างๆ และสังเกตุว่ามันจะถูกดูดเข้าไป และลูกกลิ้งขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังแปรงทำให้สามารถเคลื่อนไปบนพื้นหรือพรมได้ง่ายขึ้น

แรงดูดสูงสุด 23,000pa การกรองแบบสามขั้นตอน การถอดชิ้นส่วนแบบคล่องตัว การทิ้งฝุ่นด้วยปุ่มเดียว อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ 60 นาที และการถอดแบตเตอรี่ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว แต่ละฟังก์ชั่นถูกสร้างขึ้นตามความต้องการของลูกค้า

ตอนนี้ด้วยเครื่องดูดฝุ่นอเนกประสงค์ Redkey F10 คุณไม่ต้องลังเลใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันหลากหลายอีกต่อไป โดยส่งตรงจากโรงงานสู่บ้านคุณ และมอบคุณภาพที่ดีที่สุดในวงเงินเพียง 200 ดอลล่าร์

ในราคาแบบนี้มีสินค้าอะไรอีกบ้างที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้? ด้วยเครื่องดูดฝุ่น Redkey F10 การทำความสะอาดบ้านจะเป็นเรื่องง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดคลิกที่เว็บไซต์ทางการของ Redkey: http://www.redkey.cc/en/

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210412005569/en/

ติตด่อ:

Taylor Qu
bbeng8529@gmail.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แบรนด์ไทยกวาดรางวัลระดับโลกในงาน World Branding Awards ประจำปี 2563-2564

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–10 มี.ค. 2564

รางวัล World Branding Awards อันทรงเกียรติ ซึ่งถือเป็นรางวัลที่แสดงการยอมรับแบรนด์ระดับโลกขั้นสุดยอด ได้รับการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 แล้วนับถึงปัจจุบัน โดยมีแบรนด์มากกว่า 400 แบรนด์ จากกว่า 45 ประเทศที่ได้รับรางวัล "แบรนด์แห่งปี" ประจำปี 2563-2564 ผ่านการเสนอชื่อโดยผู้บริโภคมากกว่า 250,000 คนทั่วโลก

ในบรรดาแบรนด์ชั้นนำที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ชนะระดับโลก รวมถึง Beijing Tong Ren Tang, CoCo, Faber Castell, Fender, Heinz, IKEA, LEGO, Lurpak, McCain, Netflix, PILOT, Spotify, Yakult และ Yamaha เป็นต้น

ผู้ชนะระดับภูมิภาค ได้แก่ Anchor (นิวซีแลนด์), Cotton On (ออสเตรเลีย), Elkjøp (นอร์เวย์), LuLu (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), Isetan และ Uniqlo (ญี่ปุ่น) เป็นต้น

แชมป์ระดับประเทศ ได้แก่ ออโรร่า (อัญมณี), คาเฟ่อเมซอน (ร้านค้าปลีก – กาแฟ), คิงเพาเวอร์ (ร้านค้าปลีก – ดิวตี้ฟรี), M-150 (เครื่องดื่มชูกำลัง), สถานีปตท. (ปั๊มน้ำมัน / ปั๊มก๊าซ), ไทยประกันชีวิต (ประกันภัย), และ TrueOnline (บรอดแบนด์ / ISP) ซึ่งทั้งหมดนี้เคยเป็นผู้ได้รับรางวัลมาปีก่อนหน้านี้ ร่วมด้วยแบรนด์อื่น ๆ

ผู้ชนะจะได้รับการตัดสินโดยวิธีการที่แตกต่างกันสามวิธี ได้แก่ การประเมินมูลค่าแบรนด์ การวิจัยตลาดผู้บริโภค และการลงคะแนนออนไลน์แบบสาธารณะ ทั้งนี้ เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของขั้นตอนการให้คะแนนมาจากการโหวตของผู้บริโภค โดยสามารถมีผู้ชนะได้เพียงหนึ่งรายในแต่ละประเภทต่อประเทศ

การลงคะแนนและการเสนอชื่อเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก ในขณะที่หลายประเทศต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมและป้องกันที่ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก รางวัลนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองวิธีที่สร้างสรรค์ระดับนวัตกรรมที่แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อคงความแตกต่างของแบรนด์และเพื่อการสร้างประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงปีที่ผ่านมา

“นี่คือการเฉลิมฉลองให้กับนักการตลาดที่ดีที่สุดจากทั่วโลก รางวัลนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของทีมงานที่สร้างและรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” Richard Rowles ประธาน World Branding Forum กล่าว

“ในการเป็นผู้ชนะรางวัลในครั้งนี้ แบรนด์ที่ชนะรางวัลได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้สร้างตัวเองขึ้นมาจนได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก” Danny Pek ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ World Branding Forum กล่าว

สำหรับปีนี้ที่เป็นปีที่ 7 แล้ว การประกาศรางวัลจะจัดโดย World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อพัฒนามาตรฐานการสร้างแบรนด์ โดยงานขององค์กรส่วนหนึ่งคือการจัดและสนับสนุนโปรแกรมที่ให้ความรู้ที่หลากหลาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อแบรนด์ได้รับรางวัลทั้งหมด โปรดไปที่ awards.brandingforum.org.

เกี่ยวกับ the World Branding Forum

World Branding Forum (WBF) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่จดทะเบียนแล้ว ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างกิจกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานในการสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมและผู้บริโภค อนึ่ง WBF ผลิต จัดการ และสนับสนุนโครงการที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมถึงการวิจัย การพัฒนา การศึกษา การรับรู้ การสร้างเครือข่าย และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ brandingforum.org.

###

ติดต่อ:

Peter Michaels

peter.michaels@brandingforum.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แลคตาซอย x แมคโดนัลด์ เสิร์ฟความอร่อยฟินมื้อเช้า ด้วย “แลคตาซอยพร้อมพ์” จับคู่ “แมคปาท่องโก๋” วันนี้ที่แมคโดนัลด์

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF INTEGRATED COMMUNICATION)–6 พฤศจิกายน 2563

img

แลคตาซอย เอาใจสายเร่งรีบได้อร่อยเต็มอิ่ม จับคู่เสิร์ฟมื้อเช้ากับ “แลคตาซอยพร้อมพ์” และ “แมคปาท่องโก๋” โดยในเมนูประกอบด้วย แมคปาท่องโก๋ ทอดร้อนสดใหม่ กรอบนอกนุ่มใน 2 ชิ้น ทานคู่กับเครื่องดื่มแลคตาซอยพร้อมพ์ 350 ml. ที่เต็มไปด้วยโปรตีนและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อความพร้อมในทุกกิจกรรม ในราคาเพียง 40 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น

นอกจากนี้ แฟนแลคตาซอยยังสามารถอร่อยฟินกับ แลคตาซอย พร้อมพ์ และ แลคตาซอย โกลด์ซีรีย์ เอ็กซ์ตร้าช็อกโก และ คอลลาเจนไฟเบอร์ ได้แล้วที่ร้านแมคโดนัลด์ ติดตามรายละเอียดความอิ่มสุดฟินและกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: lactasoyclub https://www.facebook.com/lactasoyclub

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th


แลคตาซอย มอบนมถั่วเหลืองสูตรเจ ให้มูลนิธิธารนุเคราะห์ สถานพักฟื้นคนชราบางเขน

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF INTEGRATED COMMUNICATION)–30 ตุลาคม 2563

imgบริษัท แลคตาซอย จำกัด มอบ “นมถั่วเหลืองแลคตาซอยสูตรเจ คละรส” ขนาด 250 ML จำนวน 1,920 กล่อง พร้อมด้วยเซ็ทแก้วน้ำ ชาม และกล่องเก็บอาหารจากแคมเปญ “เติมพลังบุญกับแลคตาซอยสูตรเจ” ให้กับมูลนิธิธารนุเคราะห์ สถานพักฟื้นคนชราบางเขน โดยแคมเปญนี้แลคตาซอยเป็นสะพานบุญให้กับผู้บริโภคได้เติมพลังบุญในเทศกาลเจ ด้วยการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองแลคตาซอย กดเลือกเซ็ทสินค้าที่ต้องการบริจาค และนำยอดสั่งซื้อไปมอบให้กับ 3 มูลนิธิ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปมอบให้กับมูลนิธิบ้านนกขมิ้นและโรงพยาบาลสงฆ์ สำหรับผู้สนใจร่วมกิจกรรมดีๆ กับแลคตาซอยในครั้งต่อไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : LACTASOY https://www.facebook.com/lactasoyclub

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร. 081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

นูทานิคซ์เปิดตัว Kubernetes Platform-as-a-Service เพื่อการใช้งานกับมัลติคลาวด์

Logo

Karbon Platform Services มอบการบริหารจัดการที่ช่วยให้การใช้งานแอปพลิเคชั่นแบบ Container-Based บนคลาวด์ทุกประเภทเป็นไปอย่างรวดเร็ว 

กรุงเทพฯ 14 กันยายน 2563 – ณ งาน .NEXT ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2563 –
นูทานิคซ์ (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านเอ็นเตอร์ไพรซ์คลาวด์คอมพิวติ้งประกาศเปิดตัว Karbon Platform Services ซึ่งเป็นการให้บริการรูปแบบ Platform-as-a-Service (PaaS) เป็นแพลตฟอร์มมัลติคลาวด์ที่ทำงานกับ Kubernetes มาพร้อมระบบจัดการด้านความปลอดภัยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้การพัฒนาและการใช้งานไมโครเซอร์วิสแอปพลิเคชั่นทำงานได้เร็วขึ้นไม่ว่าจะอยู่บนคลาวด์ประเภทใดก็ตาม ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้รับประสบการณ์จากบริการแบบครบวงจร (managed services)
ที่พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะใช้งานที่ on-premises บนพับลิคคลาวด์ และที่อุปกรณ์ปลายทาง (edge)
เพื่อสร้างและรันคลาวด์เนทีฟแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ รวมถึงสามารถแยกแอปพลิเคชั่นออกจากกันอย่างเป็นอิสระจากโครงสร้างพื้นฐานหลัก  นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมงานด้านไอที มีระบบบริหารจัดการไลฟ์ไซเคิลของแอปพลิเคชั่นและกรอบการทำงานด้านความปลอดภัยที่ใช้งานง่ายและสอดคล้องกัน การเปิดตัวครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของนูทานิคซ์ที่มีต่อเป้าหมายในการขยายบริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้องค์กรทุกแห่งสามารถใช้งานคลาวด์เนทีฟได้เร็วขึ้น

imgองค์กรต่าง ๆ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องได้รับประโยชน์จากการเริ่มดำเนินการด้านดิจิทัล มักต้องใช้ความพยายามเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ขององค์กรปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดออกมา และใช้กระบวนการ DevOps ที่คล่องตัว ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่องค์กรจำเป็นต้องทำให้เป็นจริง  Kubernetes ที่ทำงานควบคู่กับเทคโนโลยีคลาวด์เนทีฟต่าง ๆ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความยากในการนำไปใช้งานเพราะขาดทรัพยากรทางเทคนิคที่จำเป็นต้องขยายเพิ่มตามความยากนั้น ๆ นอกจากนี้ องค์กรต่าง ๆ ต้องได้รับประโยชน์จากการใช้งาน Kubernetes ทั้งที่อยู่ที่ on-premises และบนพับลิค คลาวด์ โดยยังคงความสามารถในการบริหารจัดการดาต้า แอปพลิเคชั่น ประสิทธิภาพและความไม่ยุ่งยากในการใช้ทรัพยากรด้านไอทีของตนไว้ได้

นายราจีฟ มิรานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “ทรัพยากรไอทีเป็นกลไกที่ขับเคลื่อนองค์กรดิจิทัล แต่เมื่อบริษัทต้องการขยาย ต้องใช้ไฮบริดคลาวด์ และต้องจัดการกับแอปพลิเคชั่นที่มีจำนวนมากขึ้น การรองรับความต้องการต่าง ๆ ทางวิศวกรรมอาจกลายเป็นความท้าทายด้านไอทีได้ เราตั้งเป้าให้ Karbon Platform Services ช่วยลดความซับซ้อนในการพัฒนาและจัดระเบียบการทำงานของแอปพลิเคชั่นให้สอดคล้องกัน ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทีมไอทีและทีมพัฒนาเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อการสนับสนุนกลยุทธ์ DevOps ของลูกค้าของเรา”

คลาวด์เนทีฟ PaaS ใหม่นี้จะช่วยให้วิศวกรซอฟต์แวร์พัฒนาและจัดระเบียบการทำงานให้กับแอปพลิเคชั่นอย่างราบรื่นสอดคล้องกัน โดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานหลัก  Karbon Platform Services สร้างอยู่บนระบบการจัดการไลฟ์ไซเคิลหลักของ Kubernetes ที่เริ่มเปิดตัวกับ Karbon ในลักษณะผสานเป็นส่วนหนึ่งของซอฟต์แวร์ HCI ของนูทานิคซ์  Karbon Platform Services เป็นระบบอัตโนมัติ มีระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและ multi-tenancy ที่โครงสร้างซอฟต์แวร์ชุดหนึ่งสามารถบริการผู้ใช้ได้หลายราย เพื่อใช้ในการรันไมโครเซอร์วิสแอปพลิเคชั่นได้หลากหลายบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์หลายประเภท

นายเดเมียน พาสกวิเนลลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Hardis Group กล่าวว่า “เรา
กำลังมองหาแพลตฟอร์ม PaaS หนึ่งเดียวที่สามารถโฮสต์ Reflex และ Vision Insights ของเราได้ทั้งที่ edge และบนไพรเวทคลาวด์ของเรา เพื่อใช้ประโยชน์จาก distributed architecture ของสภาพแวดล้อม ทั้งสอง และสนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์และการฝึกอบรมการใช้เครื่องจักรบนพับลิคคลาวด์  Karbon Platform Services มีบริการมากมายและมีทุกสิ่งที่เราต้องการจากโซลูชั่น PaaS ทั้งยังบริหารจัดการง่ายและสะดวกบนคลาวด์ทุกประเภท ซึ่งเป็นคุณสมบัติของนูทานิคซ์ที่เป็นที่รู้จักกันดี  การใช้ Karbon Platform Services ทำให้การพัฒนา Vision Insight และทีม DevOps ของเราสามารถเริ่มทำงานจากศูนย์จนสำเร็จเป็นตัวต้นแบบได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งในสี่จากที่เคยใช้มา  ลูกค้าที่ใช้งานซอฟต์แวร์นี้บน Karbon Platform Services ได้แก่ Schneider Electric ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลกด้านการจัดการพลังงาน และระบบอัตโนมัติ เป็นต้น

ประโยชน์หลักของ Karbon Platform Services

  • Managed Services ที่ครบครัน: PaaS ที่นำเสนอนี้ช่วยให้การพัฒนาและการใช้งานแอปพลิเคชั่นเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นแบบ stateful containerized
    ที่เรียบง่ายไปจนถึง web-scale applications ที่ซับซ้อน โดยใช้ประโยชน์จากบริการแบบ
    open abstraction ที่หลากหลายและเรียบง่าย นอกจากนี้ Karbon Platform Services
    ยังประกอบด้วย managed Kubernetes (K8s-aaS), Containers-as-a-Service (CaaS), serverless Functions, AI, message bus, ingress, service mesh, ความสามารถในการสังเกตเพื่อประเมินสถานการณ์ (observability) และบริการด้านการรักษาความปลอดภัย
  • การทำงานลักษณะ SaaS บนมัลติคลาวด์: ทีมปฏิบัติการจะได้รับประโยชน์จากการทำงานที่เรียบง่ายและ uniform application ข้อมูล และการบริหารจัดการไลฟ์ไซเคิลด้านความปลอดภัย โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะทำงานอยู่บนคลาวด์ประเภทใด โดยใช้ประโยชน์จากการบริหารจัดการไลฟ์ไซเคิลโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น SaaS  ส่วนนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นจะได้ประโยชน์จากบริการแพลตฟอร์มที่พรั่งพร้อมเพื่อใช้ในการเขียนแอปพลิเคชั่นและใช้งานได้ทันทีบนคลาวด์ผ่านระบบบริหารจัดการไลฟ์ไซเคิลของแอปพลิเคชั่นที่เป็น SaaS
  • ไฮบริด PaaS ที่ขยายได้: Karbon Platform Services มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้อมูลข้ามระบบคลาวด์ และการจัดการไฮบริดแอปพลิเคชั่น ผ่านช่องทางที่โปร่งใสในการส่งข้อมูลแบบ WAN-optimized และ data interface ที่ปรับขยายได้ ซึ่งคุณลักษณะนี้จะช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการนำบริการของตนเองมาทำงานบนแพลตฟอร์ม และใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศ Kubernetes ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มการรักษาความปลอดภัย – Karbon Platform Services ช่วยให้ทีมไอทีสามารถใช้ประโยชน์จาก API และการรักษาความปลอดภัยที่มีความเหนียวแน่น พร้อมความสามารถที่เป็นหนึ่งเดียวในการสังเกต และตรวจสอบข้อมูลและแอปพลิเคชั่นโดยรวมบนคลาวด์  นอกจากนี้ยังรวมถึงบริการที่ครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ พร้อม multi-tenancy และ role-based access control (RBAC) ที่ติดตั้งไว้ในตัวอีกด้วย

นายบ๊อบ ลาลิเบอตี้ Practice Director และนักวิเคราะห์อาวุโสของ ESG Research กล่าวว่า “ความซับซ้อนในการจัดการ Kubernetes และโครงสร้างพื้นฐานมัลติคลาวด์ ไม่เพียงทำให้ทีมปฏิบัติการไอที
มีงานล้นมือเท่านั้น แต่ยังทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่นสมัยใหม่มีทรัพยากรและเครื่องมือใช้อย่างจำกัด  Karbon Platform Services ช่วยแยกความซับซ้อนด้านโครงสร้างออก และให้การจัดการ Kubernetes คอนเทนเนอร์ และโฮสต์บริการต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาในสภาพแวดล้อมแบบ PaaS ที่ง่ายและพร้อมใช้งาน  และจากการสำรวจ[1]ที่เราทำเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า ลูกค้า 70% ชอบการรวมพับลิคคลาวด์กับไพรเวทดาต้าเซ็นเตอร์ไว้ด้วยกันสำหรับการใช้ containerized applications มากกว่า  ซึ่ง Karbon Platform Services ตอบสนองความต้องการนั้นได้จากความยืดหยุ่นด้วยความสามารถในการควบคุมได้ทั้งหมดและบริหารจัดการมัลติคลาวด์ได้อย่างเรียบง่าย

Karbon Platform Services ของนูทานิคซ์พร้อมให้บริการกับลูกค้าแล้ว กรุณาเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

นอกจาก Karbon Platform Services แล้ว นูทานิคซ์ยังได้ประกาศเปิดตัว Xi Calm ที่เป็นโฮสต์โซลูชั่นในการจัดการและจัดระเบียบแอปพลิเคชั่น เพื่อสนับสนุนการทำงานของทีม DevOps ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

 


[1] Source: ESG Master Survey Results, Trends in Modern Application Environments, December 2019

“ซิตี้แบงก์” สมทบทุนอุปกรณ์การแพทย์

Logo

imgกรุงเทพฯ 7 กันยายน 2563 –  นายปวิณ รอดลอยทุกข์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานรัฐกิจสัมพันธ์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย (คนที่ 4 จากซ้าย) พร้อมด้วยนางสาววันวิสาข์ โคมินทร์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย และตัวแทนพนักงานซิตี้แบงก์ ประเทศไทย (คนที่ 5 จากซ้าย) มอบเงินบริจาคจำนวน 362,057 บาท สมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ โดยเงินดังกล่าวได้รับการบริจาคภายในองค์กรภายใต้กิจกรรม “วันชุมชนซิตี้ 2563” หรือ Citi Global Community Day 2020 ที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับสังคมในหลากหลายมิติ โดยมีนพ.อุดม เชาวรินทร์ กรรมการผู้จัดการมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี เป็นผู้รับมอบเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี  กรุงเทพฯ

###

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th | เฟซบุ๊ก: Citi Thailand  | LINE: Citi Thailand

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ

ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย

วันวิสาข์ โคมินทร์

+662 079 3251

 wanvisa.komindr@citi.com

เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์  JC&CO PUBLIC RELATIONS

ณภัทร กาญจนะจัย / +668 1355 9221 / napatk@jcpr.co.th  

นิกรณ์กานต์ วิจักษณ์ไพศาล / +669 7230 0528 / nikornkarnw@jcpr.co.th  

MEDIA HOTLINE : 02-634-4557 / 6663-641-9549 (ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์)

DITP ชวนร่วมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ครั้งแรกของงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ผสานออฟไลน์และออนไลน์ ตอบรับชีวิต New Normal

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–7 กันยายน 2563

imgกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมด้วยหอการค้าไทย (TCC) และโคโลญเมสเซ่ (KM) ขอเชิญนักธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX-ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ครั้งแรกของการผสานการจัดงาน 2 รูปแบบ ออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยเป็นการจัดงานแบบปกติให้เยี่ยมชมคูหาจริงที่อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้มาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ภายในงานพบกับผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มจากไทยและต่างชาติที่มาเปิดเจรจาการค้ากว่า 1,800 คูหา พร้อมชมนิทรรศการภายใต้แนวคิด EAT RESPONSIBLY เพื่อนำเสนอแนวโน้มของการบริโภคยุคใหม่ที่ลงลึกไปถึงที่มาของวัตถุดิบ กรรมวิธี หรือเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารจานนั้น ผ่านประเภทการจัดแสดง 8 กลุ่ม ได้แก่ Future Food, Free from Food, Food Ingredients,  Asia’s Herb to the World, New Protein Source, Thailand Trust Mark, Style Bangkok Popup Showcase (สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน) และ Halal to the World และในส่วนของออนไลน์จะจัดให้มีการซื้อขายผ่าน www.thaifex-vts.com  ที่ให้ความรู้สึกเสมือนเดินชมงานจริง ดูรายละเอียดสินค้าได้แบบ 360 องศา รวมทั้งพูดคุยผ่านการ Chat, Call และ VDO Call ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาออนไลน์ กิจกรรม Live Streaming และ Virtual Meet เป็นต้น  

งาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” จะจัดขึ้น 5 วัน แบ่งเป็นวันเจรจาการค้าในวันที่ 22-26 กันยายน 2563 และวันจำหน่ายปลีกในวันที่ 25-26 กันยายน 2563 ผู้ที่จะเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ www.thaifex-anuga.com กำหนดเข้าชมงานวันละ 2 รอบ ได้แก่ 10.00-14.00 น. และ 14.00-18.00 น. รอบละไม่เกิน 15,000 คน

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์  บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th

อุษณีย์ ถาวรกาญจน์  โทร. 081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th

“บัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้” จัดโปรแรง “ช้อปปี้ 9.9 ซูเปอร์ ช้อปปิ้ง เดย์” แจกโค้ดส่งฟรี และส่วนลดสูงสุดถึง 2,499 บาท

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–3 กันยายน 2563

imgบัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้ ออกโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้เฮ กับแคมเปญจัดหนัก “ช้อปปี้ 9.9 ซูเปอร์ ช้อปปิ้ง เดย์” (Shopee 9.9 Super Shopping Day) วันที่ 9 เดือน 9 รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,499 บาท เมื่อ ช้อปขั้นต่ำ 7,999 บาท และรับโค้ดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ตลอดเดือนกันยายนนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ข้อมูลเพิ่มเติมโปรโมชัน หรือสนใจสมัครบัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้ กดได้ที่ลิงค์นี้ https://kbank.co/2XBU5Wy

ข้อมูลการติดต่อสำหรับสื่อมวลชน

บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด

อมรเทพ อักษร (ตื้น) โทร. 081-489-4242 หรือ คณิติน ทัศพินิจ (แมนนี่) โทร. 085-319-8916

อีเมล์: media.th@shopee.com

ติดต่อธนาคารกสิกรไทย (สำหรับสื่อมวลชน):

ส่วนบริหารเครือข่ายสื่อ : 02-470-2654-8

kbankpr@kasikornbank.com / kbankpr@gmail.com