DXC เตรียมถอนการลงทุนในรัสเซีย และดำเนินการจับคู่บริจาคของพนักงานที่ 200%

Logo

แอชเบิร์น, เวอร์จิเนีย–(BUSINESS WIRE)–04 มีนาคม 2565

DXC Technology ประณามการรุกรานที่ไม่สมควรของรัฐบาลรัสเซียที่นำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บ และการพลัดถิ่นของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในยูเครน DXC ยืนหยัดเคียงข้างบุคคล บริษัท และรัฐบาลทุกแห่งทั่วโลกที่เรียกร้องให้ยุติการโจมตียูเครนโดยปราศจากเหตุผลโดยทันที

ปัจจุบัน สิ่งสำคัญอันดับแรกของเราคือการดูแลเพื่อนร่วมงานในภูมิภาค ทีมงาน DXC ของเราซึ่งมีความทุ่มเทได้ทำงานตลอดเวลาเพื่อจัดหาที่พักพิง ความช่วยเหลือทางการเงิน การดูแลสุขภาพ และการสนับสนุนการย้ายถิ่นฐานแก่เพื่อนร่วมงานและครอบครัวของพวกเขา

จากการรุกรานของรัฐบาลรัสเซีย เราจะไม่ดำเนินธุรกิจในรัสเซียอีกต่อไปและตั้งใจที่จะถอนการลงทุนจากตลาดแห่งนี้ เรามีเพื่อนร่วมงานประมาณ 4,000 คนในรัสเซียและกำลังช่วยเหลือพวกเขาในช่วงเวลาที่ลำบากขณะนี้ เรายังคงสนับสนุนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดต่อมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดที่บังคับใช้กับรัสเซีย

DXC กำลังดำเนินการจับคู่บริจาคของพนักงานให้แก่ความพยายามในการช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนของสภากาชาดที่ 200% ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ "การให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก" ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนทางการเงินโดยตรงแก่เพื่อนร่วมงานของเราที่ได้รับผลกระทบ เราดูแลพนักงานของเราทุกคนโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติหรือประเทศถิ่นกำเนิด

เราจะยังคงประเมินสถานการณ์ต่อไปและใช้มาตรการที่จำเป็น โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทีมงานของเราทั่วโลก เพื่อช่วยลดผลกระทบต่าง ๆ ที่มีต่อเพื่อนร่วมงาน DXC และลูกค้าของเรา

เกี่ยวกับ DXC Technology

DXC Technology (NYSE: DXC) ช่วยให้บริษัททั่วโลกสามารถใช้งานระบบที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อภารกิจหลักของบริษัทและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงไอทีให้ทันสมัย ​​ปรับสถาปัตยกรรมด้านข้อมูลให้เหมาะสม และรับรองความปลอดภัยและความสามารถในการจัดการบนคลาวด์แบบสาธารณะ แบบส่วนตัว และแบบไฮบริด บรรดาบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกและองค์กรภาครัฐได้ไว้วางใจ DXC ในการปรับใช้บริการทั่วทั้ง Enterprise Technology Stack เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ความสามารถในการแข่งขัน และประสบการณ์ของลูกค้าในระดับที่สูงขึ้น ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่เรามอบความเป็นเลิศให้กับลูกค้าและเพื่อนร่วมงานของเราที่ DXC.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220304005261/en/

ติดต่อ

สื่อ

Sean B. Pasternak
ฝ่ายสื่อสัมพันธ์องค์กร
1-647-975-7326
Sean.Pasternak@DXC.com

John Sweeney, CFA
รองประธานฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
+1-980-315-3665
John.Sweeney@DXC.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Investor Group โดย Advent International และ Permira เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ McAfee

Logo

  • ธุรกรรมนี้มีมูลค่ากว่า 14 พันล้านดอลลาร์
  • Investor Group ประกอบด้วย Advent, Permira, Crosspoint Capital, CPP Investments, GIC และ ADIA

แซนโฮเซ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2565

McAfee Corp. (NASDAQ:MCFE, “McAfee”) ผู้นำระดับโลกด้านการป้องกันทางออนไลน์ ในวันนี้ประกาศเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนที่นำโดย Advent International Corporation (“Advent”) และกองทุนแนะนำโดย Permira, Crosspoint Capital Partners LP (“Crosspoint”), Canada Pension Plan Investment Board (“CPP Investments”), GIC Private Limited (“GIC”) และบริษัทในเครือของ Abu ​​Dhabi Investment Authority (“ADIA”) (เรียกรวมกันว่า “the Investor Group”)

Peter Leav กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร McAfee กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้และได้ทำงานร่วมกันกับ Investor Group เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งผู้นำตลาดของเราเติบโต ในขณะที่เรายังคงให้บริการการป้องกันทางออนไลน์ระดับโลกแก่ผู้บริโภคจำนวนหลายล้านคนทั่วโลก” Leav กล่าวอีกว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากผลงานที่โดดเด่นจากพนักงานของเรา รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนจาก TPG และ Intel ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา เรากำลังตั้งตารอขั้นตอนต่อไปในฐานะธุรกิจอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะของเอกชน โดยได้รับการสนับสนุนและความเชี่ยวชาญจาก Investor Group”

ในการทำธุรกรรมครั้งนี้ Bruce Chizen ที่ปรึกษาอาวุโสของ Permira จะมาเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ McAfee ทั้งนี้ Chizen กล่าวว่า “ความต้องการบริการป้องกันทางออนไลน์ที่เป็นส่วนบุคคล สร้างสรรค์ และใช้งานง่ายยังไม่เคยมีมาก่อน และ McAfee อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะตอบสนองความต้องการนี้ และสร้างแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีชั้นนำและฐานลูกค้าที่ภักดีต่อไป ผมรู้สึกขอบคุณที่ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการและตั้งตารอที่จะมีส่วนสนับสนุนความสำเร็จในขั้นต่อไปของบริษัทอย่างไม่มีข้อต้องสงสัย”

Bryan Taylor ผู้บริหารทีมการลงทุนด้านเทคโนโลยีของ Advent และหุ้นส่วนผู้จัดการใน Palo Alto กล่าวว่า "ในขณะที่ผู้บริโภคสำรวจแนวความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาจึงหันมาหา McAfee ครั้งแล้วครั้งเล่า” “แบรนด์ McAfee มีความหมายเหมือนกันกับความไว้วางใจและการป้องกัน เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ช่วยสร้างชื่อเสียงของบริษัทในด้านคุณภาพ ความเป็นเลิศ และนวัตกรรม เพื่อช่วยให้บริษัทก้าวไปสู่จุดสูงสุด”

Brian Ruder ผู้บริหารร่วมด้านเทคโนโลยีของ Permira ให้ความเห็นว่า “วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นสำหรับ McAfee และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน ในฐานะสมาชิกคณะกรรมการ Bruce ได้นำประสบการณ์การเป็นผู้นำกว่าทศวรรษและแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลกที่กำลังเติบโต รวมถึงในฐานะซีอีโอของ Adobe และในฐานะสมาชิกคณะกรรมการของ Oracle และ Synopsys ท่ามกลางท่านอื่น ๆ ด้วยกันกับพันธมิตรการลงทุนของเราและทีมงานที่มีความสามารถของ McAfee เราจะช่วยบริษัทในการขยายขนาดและเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ปรับปรุงความปลอดภัยในรูปแบบชีวิตดิจิทัลของผู้บริโภคทั่วโลกต่อไป”

Greg Clark หุ้นส่วนผู้จัดการของ Crosspoint Capital และอดีตซีอีโอของ Symantec ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการของ McAfee อีกด้วย “เราเชื่อว่าโอกาสที่ดีสำหรับ McAfee ในการขยายจุดยืนของตนในการปกป้องพลเมืองจากอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับทีมผู้บริหารของ McAfee และ Investor Group เพื่อส่งมอบสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นโอกาสที่ไม่ซ้ำใครอย่างแท้จริงในความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ดิจิทัล”

Investor Group ได้ประกาศการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ McAfee ในราคา 26.00 ดอลลาร์ต่อหุ้นในการทำธุรกรรมด้วยเงินสดทั้งหมดมูลค่ากว่า 14 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ผลจากการทำธุรกรรมครั้งนี้ทำให้ McAfee ไม่ได้เป็นบริษัทมหาชนอีกต่อไป McAfee ได้แจ้งให้ NASDAQ ทราบถึงความสมบูรณ์ของการเข้าซื้อกิจการ และขอให้ NASDAQ ยื่นหนังสือแจ้งการเพิกถอนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในนามของ McAfee

ที่ปรึกษา

Goldman Sachs & Co. LLC และ Morgan Stanley & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับ McAfee และ Ropes & Grey และ Moulton Moore Stella ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย JP Morgan Securities LLC, BofA Securities, Inc., Barclays Capital Inc., Citigroup Global Markets Inc., Evercore และ DBO Partners LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมี Bryant Stibel Group ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านปฏิบัติการเชิงกลยุทธ์ให้กับ Investor Group และ Fried, Frank, Harris, Shriver & Jacobson ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย M&A และ Kirkland & Ellis ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายด้านการเงินให้กับ Investor Group

แหล่งเงินทุนจากหนี้สินสำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้เดิมจัดทำโดย JPMorgan Chase Bank, NA, Bank of America, NA, BofA Securities, Inc., Credit Suisse AG, Cayman Islands Branch, Credit Suisse Loan Funding LLC, Barclays Bank PLC, Citigroup Global Markets Inc ., HSBC Securities (USA) Inc., HSBC Bank USA, National Association, Royal Bank of Canada, RBC Capital Markets LLC, CPPIB Credit Investments Inc., UBS AG, Stamford Branch, UBS Securities LLC และ PSP Investments Credit II USA LLC, และได้เพิ่มสถาบันการเงินเพิ่มเติมก่อนการรวมกลุ่ม

เกี่ยวกับ McAfee

McAfee Corp. (Nasdaq: MCFE) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการปกป้องผู้บริโภคทางออนไลน์ โซลูชันสำหรับผู้บริโภคของ McAfee มุ่งเน้นไปที่การปกป้องผู้คน และไม่ใช่แค่เฉพาะอุปกรณ์เท่านั้น ยังปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ในโลกออนไลน์ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยผ่านโซลูชันแบบบูรณาการและการใช้งานที่ง่าย ซึ่งปกป้องครอบครัวและชุมชนของพวกเขาด้วยการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม กรุณาเยี่ยมชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mcafee.com

เกี่ยวกับ Advent International

Advent International ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 เป็นหนึ่งในนักลงทุนเอกชนรายใหญ่ที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดในโลก บริษัทได้ลงทุนใน 390 บริษัททั่ว 42 ประเทศ และ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 86 พันล้านดอลลาร์ โดยมีสำนักงาน 15 แห่งใน 12 ประเทศ Advent ได้จัดตั้งทีมงานมืออาชีพด้านการลงทุนกว่า 250 คนทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป ละตินอเมริกาและเอเชีย บริษัทมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในห้าภาคส่วนหลัก ซึ่งรวมถึงธุรกิจและบริการทางการเงิน การดูแลสุขภาพ; ด้านอุตสาหกรรม; การค้าปลีก ผู้บริโภคและเพื่อการพักผ่อน และด้านเทคโนโลยี ทั้งนี้เป็นเวลากว่า 35 ปีแล้วที่ Advent ทุ่มเทให้กับการลงทุนระหว่างประเทศ และยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทีมผู้บริหารเพื่อส่งมอบรายได้และการเติบโตของกำไรที่ยั่งยืนให้กับพอร์ตโฟลิโอของบริษัท สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์เทคโนโลยีของ Advent ได้ที่ www.adventtech.com เว็บไซต์ระดับโลกได้ที่ www.adventinternational.com หรือเพจLinkedIn ได้ที่ www.linkedin.com/company/advent-international

เกี่ยวกับ Permira

Permira เป็นบริษัทด้านการลงทุนระดับโลกที่สนับสนุนธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยความทะเยอทะยานในการเติบโต บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2528 โดยให้คำปรึกษาแก่กองทุนด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (58 พันล้านยูโร) และทำการลงทุนส่วนใหญ่และส่วนน้อยในระยะยาว กองทุน Permira ได้ลงทุนในกองทุนภาคเอกชนประมาณ 300 แห่งในสี่ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ด้านเทคโนโลยี ผู้บริโภค การบริการและการดูแลสุขภาพ กองทุน Permira มีประวัติอันยาวนานในการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยมีลงทุน 17.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 60 บริษัทในการปรับใช้คลาวด์ระดับองค์กร, SaaS, fintech และตลาดออนไลน์ Permira มีพนักงานมากกว่า 360 คนในสำนักงาน 16 แห่งทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย

เกี่ยวกับ Crosspoint Capital Partners

Crosspoint Capital Partners เป็นบริษัทการลงทุนภาคเอกชนที่เน้นไปที่ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความเป็นส่วนตัว และตลาดซอฟต์แวร์ระบบ Crosspoint ได้รวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญในภาคส่วน เพื่อเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีพื้นฐานและขับเคลื่อนผลตอบแทนที่แตกต่าง Crosspoint มีสำนักงานอยู่ที่ เมนโลพาร์ก แคลิฟอร์เนียและบอสตัน แมสซาชูเซตส์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่: www.crosspointcapital.com

เกี่ยวกับ CPP Investments

คณะกรรมการการลงทุนแผนบำเหน็จบำนาญของแคนาดา (CPP Investments™) เป็นองค์กรจัดการการลงทุนระดับมืออาชีพที่จัดการกองทุนเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนร่วมและผู้รับผลประโยชน์มากกว่า 20 ล้านคนของแผนบำเหน็จบำนาญของแคนาดา (Canada Pension Plan) เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายของสินทรัพย์ การลงทุนทั่วโลกทำขึ้นในหุ้นสาธารณะ หุ้นเอกชน อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐานและตราสารหนี้ CPP Investments มีสำนักงานใหญ่อยู่ในโตรอนโต และมีสำนักงานในฮ่องกง ลอนดอน ลักเซมเบิร์ก มุมไบ นิวยอร์กซิตี้ ซานฟรานซิสโก เซาเปาโล และซิดนีย์ โดย CPP Investments อยู่ภายใต้การควบคุมและจัดการโดยอิสระจาก Canada Pension Plan และตามความสามารถของรัฐบาล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 กองทุนมีมูลค่ารวม 550.4 พันล้านดอลลาร์แคนาดา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.cppinvestments.com หรือติดตามเราบน LinkedInFacebook หรือ Twitter

เกี่ยวกับ GIC

GIC เป็นบริษัทด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2524 เพื่อรักษาอนาคตทางการเงินของสิงคโปร์ ในฐานะผู้จัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของสิงคโปร์ เราใช้แนวทางระยะยาวที่มีระเบียบวินัยในการลงทุน และมีตำแหน่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ และกลยุทธ์เชิงรุกทั่วโลก ซึ่งรวมถึงตราสารทุน ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หุ้นนอกตลาด เงินร่วมลงทุน และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้แนวทางระยะยาว ความสามารถที่หลากหลายด้านสินทรัพย์ และการเชื่อมต่อทั่วโลกของเราช่วยให้เราเป็นนักลงทุนทางเลือก เราพยายามเพิ่มมูลค่าที่มีความหมายให้กับการลงทุนของเรา บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ เรามีบุคลากรที่มีความสามารถทั่วโลกกว่า 1,800 คนใน 10 เมืองทางการเงินที่สำคัญและมีการลงทุนในกว่า 40 ประเทศ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://www.gic.com.sg/

เกี่ยวกับ ADIA

หน่วยงานด้านการลงทุนแห่งอาบูดาบี (“ADIA”) ก่อตั้งขึ้นในปี 2519 เป็นสถาบันการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงไปทั่วโลก ซึ่งลงทุนอย่างรอบคอบในนามของรัฐบาลอาบูดาบีผ่านกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างมูลค่าระยะยาว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.adia.ae

คำเตือนเกี่ยวกับข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

การสื่อสารนี้มี “ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต” ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตดังกล่าวรวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ เป้าหมาย และพื้นที่โฟกัสในอนาคตของ McAfee ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้อิงตามความเชื่อและสมมติฐานของการบริหารจัดการของ McAfee และข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับการบริหารจัดการ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตประกอบด้วยข้อความทั้งหมดที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต และอาจระบุได้ด้วยคำต่าง ๆ อย่างเช่น "คาดหวัง" "เชื่อ" "วางแผน" หรือสำนวนที่คล้ายคลึงกันและในแง่ลบของข้อกำหนดเหล่านั้น ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ ที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ การปฏิบัติงาน หรือความสำเร็จที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จในอนาคต โดยแสดงหรือบอกเป็นนัยโดยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตรวมถึง: (a) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการหยุดชะงักของความสนใจของการบริหารจัดการจากการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ McAfee อันเนื่องมาจากการควบรวมกิจการ ("การควบรวมกิจการ"); (b) การหยุดชะงักจากการควบรวมกิจการทำให้ยากต่อการรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงการรักษาและการว่าจ้างบุคลากรที่สำคัญ และการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ผู้ขาย และบุคคลอื่นของ McAfee ที่ทำธุรกิจด้วย; (c) ต้นทุนการทำธุรกรรมที่สำคัญ; (d) ความเสี่ยงของการดำเนินคดีและ/หรือการดำเนินการด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ; (e) ความเป็นไปได้ที่สภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปและสภาวะและความไม่แน่นอนที่เกิดจากการประทุของสงคราม หรือการระบาดของโควิด-19 อาจทำให้การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศลดลงหรือการตัดสินใจซื้อล่าช้า; (f) การเพิ่มขึ้นของค่าสินไหมทดแทน; (g) การเพิ่มขึ้นของการยกเลิกของลูกค้า; (h) ไม่สามารถเพิ่มยอดขายในลูกค้าที่มีอยู่และในการดึงดูดลูกค้าใหม่; (i) ความล้มเหลวของ McAfee ในการรวมธุรกิจที่ได้มาล่าสุดหรือในอนาคตได้สำเร็จหรือบรรลุในการผนึกกำลังที่คาดหวัง; (j) เวลาและความสำเร็จของการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่โดย McAfee หรือคู่แข่ง; (k) การเปลี่ยนแปลงนโยบายราคาของ McAfee หรือนโยบายของคู่แข่ง; (l) การพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ; (m) การไม่สามารถบรรลุการเติบโตของรายได้หรือเปิดใช้งานการขยายส่วนต่าง; (n) การเปลี่ยนแปลงในการประมาณการของ McAfee ในส่วนที่เกี่ยวกับอัตราภาษีนิติบุคคลในระยะยาว; และ (o) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ดังกล่าวที่อธิบายอย่างครบถ้วนในเอกสารที่ McAfee ยื่นหรือส่งให้ SEC รวมถึงภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” ในรายงานประจำปีของ McAfee ในแบบฟอร์ม 10-K ที่ยื่นต่อ SEC ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ข้อมูลทั้งหมดที่ให้ไว้ในการสื่อสารนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ในที่นี้ และ McAfee ไม่มีหน้าที่ในการปรับปรุงข้อมูลนี้ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220301005521/en/

ติดต่อ:

McAfee:
media@mcafee.com
หรือ
Andrew McGuinness
AMcGuinness2@webershandwick.com

Advent:
Anna Epstein or Sophia Templin
Finsbury Glover Hering
Adventinternational-US@finsbury.com
1-646-805-2000

Permira:
Nina Suter
Nina.Suter@permira.com
+44 207 9594037

James Williams
james.williams@permira.com
+44 774 7006407

หรือ

Brooke Gordon/Megan Bouchier/Devin Broda
Sard Verbinnen & Co
permira-svc@sardverb.com

CPP Investments:
Asher Levine
Managing Director, Communications
alevine@cppib.com
1-929-208-7939

Crosspoint Capital Partners:
Jonathan Marino
Vice President
jmarino@prosek.com
1-718-536-4990

GIC:
Katy Conrad
Vice President
katyconrad@gic.com.sg
+1 727-510-9831

ADIA:
Garry Nickson
Email: garry.nickson@adia.ae
+971 2 415 6085

TPG:
media@tpg.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

InVeris Training Solutions นำเสนอการฝึกอบรมเสมือนจริงและระบบการซ้อมยิงที่งาน Defense Services Asia (DSA) 2022 Show

Logo

ซูวานี จอร์เจีย–(บิสิเนสไวร์)–01 มี.ค. 2565

InVeris Training Solutions (บูธ #3023T) จะนำเสนอความสามารถในการฝึกอบรมเสมือนจริงและการซ้อมยิงที่งาน Defense Services Asia (DSA) ครั้งที่ 17 ที่ศูนย์การค้าและนิทรรศการระหว่างประเทศของมาเลเซีย (MITEC) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ 28-31 มีนาคม

InVeris จะสาธิตระบบการฝึกเสมือนจริง FATS® 100MIL ที่ DSA FATS 100MIL เป็นส่วนขยายที่สำคัญในความสามารถในการฝึกอาวุธด้วยฝีมือแม่นปืน 3 มิติ การวินิจฉัยอาวุธที่ได้รับการปรับปรุงพร้อมการฝึกสอนอัตโนมัติอัจฉริยะและการฝึกร่วมกัน

Al Weggeman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร InVeris กล่าวว่า "เทคโนโลยีที่เราเน้นย้ำที่ DSA แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ว่าความต้องการการฝึกอบรมของคุณคืออะไร InVeris มีทางออกให้กับคุณ  InVeris สามารถช่วยแก้ปัญหาความท้าทายในการฝึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการอุปกรณ์ยิงกระสุนจริงที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน หรือระบบจำลองสถานการณ์ที่เชื่อถือได้และเชื่อถือได้มากที่สุดในโลก”

ที่ DSA InVeris จะนำเสนออุปกรณ์สนามยิงปืนชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง Multi-Function Stationary Infantry Target (MF-SIT) ที่มี LOMAH (ตำแหน่งที่พลาดและโดน) และเป้าหมายที่ขยับตัวรวดเร็ว QuikTurn™ 360

หากต้องการพูดคุยกับตัวแทน InVeris ในช่วง DSA โปรดไปที่ บูธ #3023T หรือนัดหมายที่ https://www.inveristraining.com/request-a-meeting

เกี่ยวกับ InVeris Training Solutions

InVeris Training Solutions ให้บริการโซลูชั่นการฝึกอบรมที่ทันสมัยสำหรับกองทัพ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเจ้าของช่วงการค้าทั่วโลก ด้วยบริษัทเดิมอย่าง FATS® และ Caswell นั้น InVeris Training Solutions ได้ลงพื้นที่ยิงจริงกว่า 15,500 แห่ง และระบบเสมือน 7,500 ระบบทั่วโลกตลอดประวัติศาสตร์ 95 ปีของบริษัท บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในเมืองซูวานี รัฐจอร์เจีย และเป็นพันธมิตรกับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกจากโรงงานในห้าทวีป

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220228006189/en/

ติดต่อ:

Michelle Henderson
Director of Marketing
InVeris Training Solutions
+1-678-288-1090 michelle.henderson@inveristraining.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Aqara เปิดตัวกลอนประตูอัจฉริยะ A100 Zigbee พร้อมการรองรับ Apple Home Key

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–01 มีนาคม 2565

Aqara ผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์บ้านอัจฉริยะ ประกาศเปิดตัวกลอนประตูอัจฉริยะ หรือ Smart Door Lock รุ่น A100 Zigbee ทั้งนี้ A100 Zigbee เป็นสมาร์ทล็อกแบบมีตลับที่ปล่อยให้มีการตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงที่หลากหลาย รวมถึงลายนิ้วมือ รหัสผ่าน แอป Aqara Home, Apple HomeKit/Siri, Google Assistant, NFC และคีย์กลไก ผสานรวมกับโปรโตคอล Bluetooth 5.0 – สำหรับการเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์มือถือและฮับโฮมจาก Apple – และโปรโตคอล Zigbee 3.0 โดยกลอนล็อกรองรับการปลดล็อกจากทางระยะไกล* ผ่านแอป Aqara Home และแพลตฟอร์มบุคคลที่สามอื่น ๆ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ* เพื่อสร้างประสบการณ์ที่บ้านโดยอัตโนมัติอย่างแท้จริง Aqara A100 Zigbee ออกสู่ตลาดในมาเลเซียและสิงคโปร์ ทั้งนี้คาดว่าจะมีวางจำหน่ายในรัสเซีย เช่นเดียวกับประเทศที่ได้รับการคัดเลือกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางในเดือนต่อ ๆ ไป

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220228005427/en/

Aqara Introduces Smart Door Lock A100 Zigbee with Apple Home Key Support (Photo: Business Wire)

Aqara เปิดตัวกลอนประตูอัจฉริยะ A100 Zigbee พร้อมการรองรับ Apple Home Key (รูปภาพ: Business Wire)

กลอนล็อก A100 Zigbee ได้รับการออกแบบด้วยการผสานรวมกับ Apple HomeKit ได้อย่างราบรื่น และรองรับฟีเจอร์ home key บนอุปกรณ์ Apple ใน Apple Wallet ซึ่งเปิดตัวใน iOS 15 โดยผู้ใช้เพียงแค่แตะ iPhone หรือ Apple Watch เพื่อปลดล็อก A100 Zigbee กลอนล็อกยังรองรับระบบสั่งการด้วยเสียงหลัก อย่างเช่น Siri และ Google Assistant เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบกับระบบสั่งการที่โปรดปรานว่าประตูได้ถูกล็อกหรือขอให้ระบบสั่งการปลดล็อกประตูให้ได้อีกด้วย

A100 Zigbee มีฟีเจอร์เครื่องสแกนลายนิ้วมือ 3 มิติ พร้อมระบบป้องกันการหลอกด้วยรูปภาพหรือวิดีโอ และเครื่องสแกนถูกจัดวางไว้บนที่จับตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้นิ้วหัวแม่มือของผู้ใช้ได้สัมผัสตามธรรมชาติเมื่อกดที่จับเพื่อเปิดประตู โดยรองรับรหัสผ่านถาวรที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวและแบบเป็นครั้งคราว (6-10 หลัก) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการการเข้าถึงสำหรับสมาชิกในครอบครัว แขกและผู้มาเยี่ยมประจำ อย่างเช่น คนพาสุนัขเดินเล่นและพี่เลี้ยงเด็กที่สามารถปลดล็อกได้ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น (ตัวอย่างเช่น 9.00 – 10.00 น. ของทุกวันจันทร์) ทั้งนี้รหัสผ่านถาวรที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวและแบบเป็นครั้งคราวสามารถสร้างและจัดการแบบระยะไกล* ซึ่งทำให้กลอนล็อกนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับบ้านเช่า

กลอนล็อก A100 Zigbee ใช้แบตเตอรี่ AA จำนวนแปดก้อน โดยมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานถึง 18 เดือน** คำเตือนแบตเตอรี่ต่ำจะถูกกระตุ้นเมื่อแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% และถึงแม้ว่าแบตเตอรี่จะหมด ผู้ใช้สามารถเปิดล็อกได้โดยใช้กุญแจกลไก หรือโดยการชาร์จล็อกด้วยพาวเวอร์แบงค์ผ่านพอร์ตแบบ Type-C

A100 Zigbee มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องผู้ใช้และบ้านของพวกเขา รวมไปถึง:

  • การล็อกอัตโนมัติ: ประตูจะถูกล็อกทันทีหลังจากปิด;
  • รหัสผ่านป้องกันการมองลอด: ผู้ใช้สามารถเพิ่มตัวเลขสุ่มก่อนและหลังรหัสผ่านเพื่อป้องกันการโจมตีจากการแอบดูและรอยนิ้วมือ;
  • กลอนล็อกประตูกลางคืน: กลอนล็อกประตูแบบกลางคืนจะควบคุมสลักแบบเกลียวแยกต่างหาก และเมื่อล็อกแล้วจะสามารถเปิดได้จากด้านในหรือโดยใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบจากภายนอก;
  • ระบบการแจ้งเตือนการงัดแงะ: การแจ้งเตือนนี้จะถูกเรียกใช้หากสลักเกลียวล็อกตรวจพบแรงดันที่ผิดปกติหรือหากแผงด้านหน้าถูกปลดออกจากประตู;
  • ระบบการแจ้งเตือนเปิดประตูด้านซ้าย: การแจ้งเตือนนี้จะถูกเรียกใช้หากประตูเปิดทิ้งไว้เกิน 10 วินาที หรือหากเปิดแง้มไว้และไม่ได้ปิดจนสุดเกิน 3 วินาที;
  • ระบบการแจ้งเตือนความพยายามที่ผิดปกติ: การแจ้งเตือนนี้จะถูกเรียกใช้หลังจากพยายามตรวจสอบความถูกต้องล้มเหลว 5 ครั้ง และการตรวจสอบสิทธิ์การล็อกจะหยุดเป็นเวลา 3 นาที;
  • การปลดล็อกบันทึก: ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะการล็อกและปลดล็อกบันทึกจากระยะไกลผ่านแอป Aqara Home*

ด้วยการรองรับ Zigbee 3.0 ทำให้ A100 Zigbee สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมในบ้านอัจฉริยะอื่น ๆ ได้ ในการเปิดใช้ระบบกดเพียงครั้งเดียวและระบบอัตโนมัติภายในบ้าน* เพียงแค่กดปุ่ม Away บนแผงปุ่มกดเมื่อออกจากบ้าน โดยผู้ใช้สามารถเปิดระบบแจ้งเตือนของ Aqara Home ซึ่งกล้องรักษาความปลอดภัยและเซ็นเซอร์จะเปิดใช้งาน โดยไฟและไฟ ACs จะถูกปิด ทั้งนี้สามารถสร้างระบบอัตโนมัติได้เพื่อหมุน G3 Camera Hub ให้ชี้ไปตรงประตูและเพื่อดันการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์มือถือเมื่อ A100 Zigbee ถูกปลดล็อกด้วยกุญแจกลไก ทั้งนี้ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนให้ตรวจสอบการสตรีมของกล้องเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ของ Aqara ผู้ใช้สามารถสร้างระบบกดเพียงครั้งเดียวและระบบอัตโนมัติที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการและสภาพแวดล้อมภายในบ้าน

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของกลอนล็อก A100 Zigbee กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

* จำเป็นต้องใช้ฮับ Zigbee 3.0 Aqara

**ตามสมมติฐานปลดล็อก 10 ครั้งต่อวัน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220228005427/en/

ติดต่อ:

สำหรับสอบถามสื่อ:
Michell Li
โทรศัพท์: 86-18501199430
อีเมล: media@aqara.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

หัวเว่ย สร้างรากฐานไอทีอัจฉริยะให้กับผู้ประกอบการ

Logo

บาร์เซโลนา, สเปน–(BUSINESS WIRE)–28 กุมภาพันธ์ 2565

ในการประชุม Huawei Day 0 Forum ที่งาน MWC Barcelona 2022 หัวเว่ย ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านไอทีชุดใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "รากฐานไอทีอัจฉริยะ" ใหม่สำหรับผู้ประกอบการ โดย David Wang  กรรมการบริหารและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางด้าน ICT ของบริษัทหัวเว่ย อธิบายขณะกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "+IT, New Growth" หรือ การเติบโตใหม่ด้านไอที ว่ารากฐานด้านไอทีที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความอัจฉริยะ เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และบรรลุการเติบโตใหม่ในที่สุด

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220228005736/en/

David Wang delivering the keynote speech (Photo: Business Wire)

David Wang กล่าวปาฐกถา (ภาพo: Business Wire)

จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น 5G, IoT, คลาวด์คอมพิวติ้ง และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ผู้ประกอบการต่าง ๆ ได้วางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของตนเองให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ เพื่อให้สามารถช่วยเหลืออุตสาหกรรม B2B อื่น ๆ ให้ก้าวไปสู่ความเป็นดิจิทัลได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้จำเป็นต้องมีการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที การทำงานร่วมกันของมัลติคลาวด์ และการประสบความสำเร็จในตลาดอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างโมเมนตัมมากขึ้น

Wang อธิบายว่ารากฐานไอทีอัจฉริยะของหัวเว่ยได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมีคุณสมบัติเหล่านี้ รากฐานอัจฉริยะนี้จะรวมถึงระบบคลาวด์แบบรวมการทำงานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์และชุดข้อมูลที่ใช้กับทุกสถานการณ์

ในงานเดียวกันนี้ หัวเว่ย ยังได้เปิดตัวโซลูชันระบบคลาวด์แบบรวมการทำงานเข้าด้วยกันครั้งแรกของอุตสาหกรรม ระบบคลาวด์แบบรวมการทำงานเข้าด้วยกันจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การทำงานร่วมกันของเครือข่ายคลาวด์ และการทำงานโดยวางตำแหน่งประมวลผลใกล้จุดใช้งาน ซึ่งสถาปัตยกรรมนี้จะรองรับทั้งแพลตฟอร์มให้บริการข้อมูลและสื่อสำหรับผู้ประกอบการ และแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันให้บริการ (aPaaS) สำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรม ซึ่งจะรับประกันประสบการณ์แก่ผู้ใช้แอปพลิเคชันได้อย่างไม่จำกัดตามสถานที่ทางภูมิศาสตร์ การทำงานร่วมกันแบบหลายคลาวด์ และการรับส่งข้อมูล ปัจจุบันบริษัทกล่าวว่า วันหนึ่งหวังว่าจะให้บริการทุกอย่างผ่านซอฟต์แวร์ได้

หัวเว่ย ยังได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลชุดใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ OneStorage เพื่อรองรับการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเภทข้อมูลยังคงมีความหลากหลาย แอปพลิเคชันต่าง ๆ จึงมีราคาจับต้องได้และการปกป้องข้อมูลจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย โซลูชัน OneStorage ของ หัวเว่ย จะช่วยผู้ให้บริการเพิ่มประสิทธิภาพที่จำเป็นเพื่อครอบคลุมคุณสมบัติเหล่านี้ผ่านการจัดเตรียมทรัพยากรที่ต้องการ การจัดการข้อมูลอัจฉริยะ และการหลอมรวมมัลติคลาวด์ ซึ่งปัจจุบันบริการนี้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดของหัวเว่ยที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของตนให้ทันสมัยและสำรวจธุรกิจใหม่ ๆ

ภายในสิ้นปี 2564 หัวเว่ย คลาวด์ และพันธมิตรได้สร้างโซนสำหรับการใช้งานจำนวน 61 โซนในพื้นที่ 27 แห่ง เพื่อให้บริการมากกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ยังได้ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการมากกว่า 120 รายในตลาดที่ให้บริการคลาวด์เพื่อช่วยให้ลูกค้าองค์กรก้าวสู่ความเป็นดิจิทัล ปัจจุบันบริษัทให้บริการคลาวด์แบบเฉพาะตามสถานการณ์มากกว่า 50 รายการสำหรับตลาดแนวตั้ง 9 แห่ง เช่น การผลิต การค้าปลีก และการดูแลสุขภาพ เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นดิจิทัล บริการจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะและมีประสิทธิภาพเหล่านี้ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ 300 รายทั่วโลก และโซลูชัน OceanStor Dorado ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำใน Gartner's Magic Quadrant เป็นเวลาหกปีติดต่อกัน

โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ และอัจฉริยะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการเข้าสู่ยุคดิจิทัล หัวเว่ย ต้องการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการต่อไป เพื่อให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ช่วยให้อุตสาหกรรมก้าวไปสู่ความเป็นดิจิทัล และบรรลุการเติบโตใหม่ร่วมกัน

MWC22 Barcelona จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม ณ กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน หัวเว่ย จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่บูธ 1H50 ใน Fira Gran Via Hall 1 เราจะเจาะลึกในหัวข้อต่าง ๆ เช่น แนวโน้มของอุตสาหกรรม แนวทางสู่อนาคต และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อจินตนาการถึงอนาคตของเครือข่ายดิจิทัลร่วมกับผู้ประกอบการระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2022

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220228005736/en/

ติดต่อ:

Doreen Duan
ฝ่ายการตลาดและโซลูชันการขาย กลุ่มธุรกิจไอที Huawei Carrier
อีเมล: doreen.duan@huawei.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

GIGABYTE พลิกโฉมการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์และระบบสมองกลฝังตัว พร้อม ๆ กับการที่งาน MWC กลับมาที่บาร์เซโลนา

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2565

GIGABYTE ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี เข้าร่วมงาน MWC 2022 ซึ่งเป็นงานด้านการเชื่อมต่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม งานนี้สร้างโอกาสสำหรับผู้นำธุรกิจและผู้บุกเบิกในการสร้างเครือข่ายและแบ่งปันความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ๆ ซึ่งกำหนดรูปแบบอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลกในยุคมาตรฐาน 5G

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220224006170/en/

GIGABYTE Reimagines Connectivity with Servers and Embedded Systems as MWC Returns to Barcelona

GIGABYTE พลิกโฉมการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์และระบบสมองกลฝังตัว ในขณะที่งาน MWC กลับมาที่บาร์เซโลนา

GIGABYTE คาดหวังที่จะใช้จุดแข็งของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เพื่อแสดงให้เห็นถึงขอบเขตของผลกระทบที่ศูนย์ข้อมูลและผลิตภัณฑ์ฝังตัวที่เป็นได้มากกว่าเพียงแค่การพัฒนาการเชื่อมต่อของโทรคมนาคม ซึ่งเปิดโอกาสไม่รู้จบในเมืองอัจฉริยะ

GIGABYTE เป็นผู้ใช้เทคโนโลยีรายแรก ๆ ของการออกแบบเซิร์ฟเวอร์สำหรับสถาปัตยกรรม Arm® ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก บริษัทมีความยินดีที่จะได้มีการสาธิตระบบ Arm server  สองระบบที่บูธของ Arm ที่งาน MWC รวมถึงโซลูชัน 5G แบบเครือข่ายในกล่องและ โซลูชันเครือข่ายส่วนตัวขององค์กรและ GPU โดยการสาธิตเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ระบบคลาวด์ของ Ampere® Altra® ที่มีจำนวนคอร์จำนวนมาก และพร้อมใช้งานในระบบนิเวศของ Arm ผ่าน Arm 5G Solutions Lab ซึ่งเป็นที่ที่คู่ค้าในระบบนิเวศฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สามารถมารวมตัวกันและสาธิตโซลูชันแบบครบวงจรในสภาพแวดล้อมการทดสอบแบบสด ๆ ทั้งนี้ เซิร์ฟเวอร์ edge servers แบบ Arm-based จะแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อในอนาคตที่มีความเร็วมากขึ้น เวลาแฝงที่ต่ำกว่า และที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ในฐานะพันธมิตรของผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก GIGABYTE เชี่ยวชาญในการพัฒนาหน่วยควบคุมการตัดสินใจสำหรับยานยนต์อิสระประเภทต่าง ๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่กำหนดเอง เช่น ADAS ECUs, TCUs ซึ่งช่วยเหลือนักออกแบบรถยนต์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุดมคติของพวกเขา หน่วยควบคุมการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะทำให้สามารถใช้งานตารางการจราจรที่ชาญฉลาด ราบรื่น และปลอดภัยยิ่งขึ้น

GIGABYTE นำระบบสมองกลฝังตัวและระบบที่ได้รับการพัฒนาแบบ Automated Guided Vehicle (AGV) รุ่นล่าสุดมาใช้ ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมให้เคลื่อนที่ในเส้นทางที่กำหนด และยังใช้ระบบ Autonomous Mobile Robot (AMR) ซึ่งสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางผ่านการนำทางเพื่อใช้งาน ระบบได้รับการออกแบบเพื่อให้มีคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น การใช้พลังงานต่ำ ประสิทธิภาพสูงพร้อมอินเทอร์เฟซ I/O ที่สมบูรณ์ และความยืดหยุ่นในการขยายสูง เสนอทางเลือกที่เหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกในสภาพแวดล้อมอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมหลัก ๆ

โครงการล่าสุดของ GIGABYTE เป็นระบบทำความเย็นสำหรับศูนย์ข้อมูล immersion cooling สองเฟสที่สร้างขึ้นสำหรับ ยักษ์ใหญ่ในการผลิต IC ที่โดดเด่นซึ่งเป็นผู้นำของโลกในด้านเทคโนโลยีการประมวลผลขั้นสูง โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายไม่เพียงแต่เพื่อเตรียมเทคโนโลยีสำหรับบริษัทเพื่อต่อสู้กับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางความร้อนที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของ CPU/GPU ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการจัดหาโซลูชันการระบายความร้อนในอนาคต แต่ยังกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่เพื่อให้ TCO ที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่น้อยกว่า และให้ประสิทธิภาพการประมวลผลที่สูง

GIGABYTE ยังคงแสดงสถานะที่แข็งแกร่งในรูปแบบดิจิทัลในหน้าการจัดแสดงสำหรับผู้เข้าร่วมงานของ MWC ซึ่งให้การเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และไฟล์ PDF ที่สามารถดาวน์โหลดได้ และหน้า [อุตสาหกรรม] ของตัวเอง ซึ่งนำเสนอภาพรวม 3 มิติเชิงโต้ตอบของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่จินตนาการมุมมองที่ทันสมัยด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมของ GIGABYTE และโซลูชั่นต่าง ๆ

GIGABYTE @ MWC 2022 – https://gbte.tech/mwc2022

INDUSTRY: https://industry.gigabyte.com/

https://www.gigabyte.com/enterprise

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220224006170/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ: Michael Pao brand@gigabyte.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kioxia เปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS รุ่นแรกที่รองรับ MIPI M-PHY เวอร์ชัน 5.0

Logo

อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแอปพลิเคชันบนมือถือ

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–24 กุมภาพันธ์ 2565

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ วันนี้ได้เปิดตัวตัวอย่าง [1] อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS ตัวแรกในอุตสาหกรรม [2][3] ที่รองรับ MIPI M-PHY [4] เวอร์ชัน 5.0 กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ใช้หน่วยความจำแฟลชแบบ BiCS FLASH™ 3D ของบริษัท และจะเปิดจำหน่ายในความจุ 3 ขนาด ได้แก่ 128 กิกะไบต์, 256 กิกะไบต์ และ 512 กิกะไบต์ ด้วยประสิทธิภาพการอ่านและเขียนความเร็วสูง อุปกรณ์ใหม่นี้มีจะถูกนำไปใช้กับแอปพลิเคชันบนมือถือที่หลากหลาย รวมถึงสมาร์ทโฟนล้ำสมัย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220223006390/en/

Kioxia Corporation: Industry’s first UFS embedded flash memory devices supporting MIPI M-PHY v5.0 (Photo: Business Wire)

Kioxia Corporation: อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS ตัวแรกในอุตสาหกรรมที่รองรับ MIPI M-PHY เวอร์ชัน 5.0 (ภาพo: Business Wire)

อุปกรณ์ใหม่นี้เป็น UFS เจเนอเรชันถัดไปที่รองรับ MIPI M-PHY เวอร์ชัน 5.0 ซึ่งมีความเร็วอินเทอร์เฟซตามทฤษฎีสูงถึง 23.2 กิกะบิตต่อวินาทีต่อเลน (2 เลน = 46.4 กิกะบิตต่อวินาที) ในโหมด HS-GEAR5 การอ่านและเขียนแบบเรียงลำดับของอุปกรณ์ขนาด 256 กิกะไบต์นี้ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 90% และ 70% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้า[5] นอกจากนี้ การอ่านและเขียนแบบสุ่มของอุปกรณ์ขนาด 256 กิกะไบต์ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 35% และ 60% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้า[5] UFS รุ่นต่อไปจะให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้สมาร์ตโฟนและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในรุ่นต่อ ๆ ไปสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้ปลายทางในยุค 5G และยุคต่อไปได้ดีขึ้น

หมายเหตุ
[1] การจัดส่งตัวอย่างอุปกรณ์ขนาด 256 กิกะไบต์ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ส่วนที่เหลือจะทยอยจัดส่งในเดือนสิงหาคม  ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ตัวอย่างอาจแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ที่โฆษณา
[2] การสำรวจของ Kioxia Corporation ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
[3] Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแบบฝังที่สร้างตามข้อมูลจำเพาะมาตรฐาน JEDEC UFS เนื่องจากเป็นอินเทอร์เฟซแบบอนุกรม UFS จึงรองรับการถ่ายโอนข้อมูลอย่างต่อเนื่องจากทั้งสองทิศทางพร้อม ๆ กัน ซึ่งช่วยให้อ่านและเขียนพร้อมกันระหว่างหน่วยประมวลผลโฮสต์และอุปกรณ์ UFS ได้
[4] ข้อมูลจำเพาะ MIPI Alliance สำหรับ M-PHY
[5] อุปกรณ์ขนาด 256 กิกะไบต์ รุ่นก่อนหน้าของ Kioxia Corporation รหัส “THGJFGT1E45BAIP”

ความเร็วในการอ่านและเขียนเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดที่ได้จากสภาพแวดล้อมการทดสอบเฉพาะที่ Kioxia Corporation และ Kioxia Corporation ไม่รับประกันความเร็วในการอ่านหรือเขียนในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ และขนาดไฟล์ที่อ่านหรือเขียน

การกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ทุกครั้ง ความจุของผลิตภัณฑ์จะระบุตามความจุของชิปหน่วยความจำภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่จำนวนความจุหน่วยความจำที่ผู้ใช้ปลายทางสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ ความจุที่ผู้บริโภคใช้งานได้จะลดลงเนื่องจากพื้นที่ข้อมูลที่ใช้จ่าย การจัดรูปแบบ บล็อกที่เสียหาย และข้อจำกัดอื่น ๆ และอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์และแอปพลิเคชันโฮสต์ สำหรับรายละเอียด โปรดดูข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง  คำจำกัดความของ 1 กิโลไบต์ = 2^10 ไบต์ = 1,024 ไบต์  คำจำกัดความของ 1 กิกะไบต์ = 2^30 บิต = 1,073,741,824 บิต  คำจำกัดความของ 1 กิกะไบต์ = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์  1 เทราไบต์ = 2^40 บิต = 1,099,511,627,776 บิต

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2560 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Kioxia ได้แยกออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 2530 โดยบริษัทถือเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันและบริการหน่วยความจำที่ล้ำสมัยซึ่งเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนและขยายขอบเขตทางสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D แบบใหม่ของ Kioxia หรือที่เรียกว่า BiCS FLASH™ กำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูงซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ศูนย์ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
Kioxia Corporation
ฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์หน่วยความจำ
โทร: +81-3-6478-2423
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อนั้นถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220223006390/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
โทร: +81-3-6478-2404

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัวไดโอด TVS ความจุต่ำพิเศษที่ปกป้องเสาอากาศความถี่สูงของอุปกรณ์ IoT จาก ESD

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–24 ก.พ. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation  ("โตชิบา") ได้เปิดตัว “DF2B6M4BSL” ซึ่งเป็นไดโอด TVS ความจุต่ำพิเศษสำหรับเสาอากาศความถี่สูง โดยไดโอดตัวนี้จะปกป้องเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ จากไฟฟ้าสถิตย์และสัญญาณรบกวน พร้อม ๆ ไปกับการลดการเสื่อมสภาพของสัญญาณ การจัดส่งสินค้าของผลิตภัณฑ์ใหม่เริ่มต้นในวันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220223005100/en/

Toshiba: ultra-low capacitance TVS diode "DF2B6M4BSL" that protects high-frequency antennas of IoT devices from ESD. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: ไดโอด TVS ความจุต่ำพิเศษ "DF2B6M4BSL" ที่ปกป้องเสาอากาศความถี่สูงของอุปกรณ์ IoT จาก ESD (กราฟิก: Business Wire)

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในเสาอากาศความถี่สูงที่ใช้ในการสื่อสารทางวิทยุ อย่างเช่น Wi-Fi® มีความจำเป็นต้องได้รับการปกป้องโดยการพยายามลดการบิดเบือนฮาร์มอนิกในระดับสูง โดยผลิตภัณฑ์ DF2B6M4BSL ซึ่งให้ความจุรวมสูงสุดที่ 0.15pF ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดของผลิตภัณฑ์ของ Toshiba  ซึ่งต่ำกว่าผลิตภัณฑ์รุ่น DF2B6M4ASL ที่มีอยู่ประมาณร้อยละ 25 ไดโอด TVS ใหม่นี้ใช้ความจุต่ำพิเศษนี้ในการลดการบิดเบือนฮาร์มอนิกสูงที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการรับเสาอากาศ และยังช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์และสัญญาณรบกวนที่ส่งผลต่อส่วนประกอบต่าง ๆ

ESD ซัพเพรสเซอร์ บางครั้งใช้ในเสาอากาศความถี่สูงและแทนที่ด้วย DF2B6M4BSL ไดโอด TVS มีประสิทธิภาพการป้องกันที่สูงกว่า ESD ซัพเพรสเซอร์ และสามารถลดแรงดันไฟฟ้าสถิตย์ได้

นอกจากการปรับปรุงความน่าเชื่อถือของเสาอากาศความถี่สูงแล้ว DF2B6M4BSL ยังเหมาะสำหรับการป้องกัน ESD ในสายสัญญาณอีกด้วย

การใช้งาน

・ใช้ในการป้องกัน ESD ในเสาอากาศความถี่สูงและสายสัญญาณความเร็วสูงในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น IoT และอุปกรณ์เคลื่อนที่

คุณสมบัติ

・ความจุรวมต่ำ: Ct=0.12pF (typ.) / 0.15pF (max) @VR=0V, f=1MHz

・มีการบิดเบือนฮาร์มอนิกต่ำ

f=2.4GHz, 20dBm เงื่อนไขอินพุต

2nd ฮาร์โมนิกส์: -65.5dBm (อ้างอิง)

3nd ฮาร์โมนิกส์: -54.4dBm (อ้างอิง)

f=5.0GHz, 20dBm เงื่อนไขอินพุต

2nd ฮาร์โมนิกส์: -64.7dBm (อ้างอิง)

3nd ฮาร์โมนิกส์: -55.5dBm (อ้างอิง)

・Low Vpeak โวลต์: VCL-max-peak=215V (อ้างอิง) @IEC61000-4-2 (Contact), +8kV อินพุต

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(@Ta=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

DF2B6M4BSL

บรรจุภัณฑ์

SL2

อัตราสูงสุด

แรงดันไฟฟ้าสถิตย์

(IEC61000-4-2) (Contact)

VESD (kV)

@IEC61000-4-2

±8

แรงดันย้อนกลับสูงสุดในขณะทำงาน VRWM max (V)

5.5

แรงดันไฟฟ้าโฮลดิงส์ VH (V)

@It1=1mA

min

5.6

max

8.0

ความจุรวม Ct typ. (pF)

@VR=0V, f=1MHz

typ.

0.12

max

0.15

ฮาร์โมนิกดิสทอร์ชัน

อ้างอิง (dBm)

@f=2.4GHz, 20dBm อินพุต

2nd

-65.5

3rd

-54.4

@f=5.0GHz, 20dBm อินพุต

2nd

-64.7

3rd

-55.5

VCL-max-peak อ้างอิง (V)

@IEC61000-4-2 (Contact), +8kV อินพุต

215

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมของผลิตภัณฑ์

ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

DF2B6M4BSL

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ TVS Diodes (ESD Protection Diodes) ของToshiba

TVS Diodes (ESD Protection Diodes)

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:

DF2B6M4BSL

* Wi-Fi เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Wi-Fi Alliance

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

สอบถามข้อมูลลูกค้า

Small Signal Device Sales & Marketing Dept.

โทร: +81-44-548-2215

ติดต่อเรา

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมทั้งราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับToshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710,000 ล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220223005100/en/

ติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

โทร: +81-44-549-8361

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Cyble บริษัทสตาร์ทอัพตรวจสอบอาชญากรรมทางไซเบอร์และเว็บมืด ประกาศระดมทุนในรอบ Series A ได้ 10 ล้านดอลลาร์ฯ

Logo

แอตแลนตา & เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2565

Cyble บริษัทป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทระดมทุนในรอบ Series A ได้มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการระดมทุนดังกล่าวนำโดยบริษัท Blackbird และบริษัทที่เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Spider Capital, January Capital, Cendana Capital และ VentureSouq เงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกจัดสรรเพื่อขยายแผนงานผลิตภัณฑ์ของ Cyble ให้สามารถเจาะลึกเข้าไปในตลาดปัจจุบันและตลาดใหม่ รวมทั้งขยายขีดความสามารถของ Cyble Research Labs (CRL)

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220215006151/en/

Cyble Co-founders, Beenu Arora (right) and Manish Chachada (left) (Photo: Business Wire)

Beenu Arora (ขวา) และ Manish Chachada (ซ้าย) ผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble (รูปภาพ: Business Wire)

Cyble ก่อตั้งขึ้นโดย Beenu Arora และ Manish Chachada ในปี 2562 บริษัทให้บริการตรวจสอบข้อมูลเว็บมืดและเว็บทั่วไปอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ในแหล่งที่มาแบบเปิดและแบบปิด เพื่อทำแผนที่ ตรวจสอบ และลดความเสี่ยงทางดิจิทัลของบริษัทต่าง ๆ วันนี้ Cyble มีสาขาอยู่ใน 6 ประเทศและธุรกิจเพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ข่าวการระดมทุนในรอบ Series A เกือบครบรอบหนึ่งปีนับตั้งแต่การระดมทุนในรอบ Seed ครั้งแรกของ Cyble ในเดือนเมษายน 2564, Cyble ประกาศว่าได้ระดมทุน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำโดยบริษัท Blackbird และ Spider Capital รวมทั้งบริษัทที่เข้าร่วมอย่าง Picus Capital และ Cathexis Ventures นับตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงผ่านการเติบโตอย่างยั่งยืน พัฒนาข้อเสนอของลูกค้าด้วยการเฝ้าระวังเว็บมืด แบรนด์ และการโจมตี ขยายฐานลูกค้าใน 6 ประเทศ และเพิ่มจำนวนพนักงานจาก 25 เป็น 80 คน

Manish Chachada ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Cyble กล่าวว่า “Cyble เริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ทะเยอทะยานเพื่อทำให้องค์กรต่าง ๆ มองเห็นเว็บมืดอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง และเพิ่มความสามารถให้องค์กรเหล่านั้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัย และทำให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการรับมือต่อการโจมตีทางไซเบอร์ที่อันตราย เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนของเราในการดำเนินตามวิสัยทัศน์ของ Cyble ต่อไป และรู้สึกเป็นเกียรติที่ Cyble ได้รับการยอมรับว่าเป็นกระบอกเสียงชั้นนำในด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนากลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงด้านดิจิทัลได้”

Minsoo Chi จาก Spider Capital กล่าวว่า "เรารู้สึกประทับใจกับ Beenu และ Manish และทีมงาน Cyble ทั้งหมดเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อให้องค์กรสามารถมองเห็นเว็บมืดได้แบบเรียลไทม์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของพวกเขาต่อไป เพื่อทำให้การป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง”

Tom Humphrey จาก Blackbird กล่าวว่า "ในเวลาไม่ถึง 12 เดือน การเติบโตที่ Cyble ทำได้นั้นช่างน่าอัศจรรย์มาก Beenu, Manish และทีมงานของพวกเขามีความคืบหน้าอย่างมากในแผนงานด้านผลิตภัณฑ์และการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น Cyble กำลังแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่และแสนเจ็บปวดสำหรับธุรกิจทั่วโลก และเราภูมิใจที่จะสนับสนุนความทะเยอทะยานของพวกเขาต่อไป”

นอกจากความตั้งใจอย่างต่อเนื่องในการลดและจัดการความเสี่ยงในโลกไซเบอร์ให้แก่ลูกค้าแล้ว Cyble ยังได้เปิดตัวหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (LEA) และโซลูชันการป้องกันภัยคุกคามตามความเหมาะสม หรือ Cyble Hawk เพื่อช่วยบังคับใช้กฎหมาย และช่วยหน่วยงานของรัฐในการต่อสู้กับความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่แผ่ขยายไปยังระดับชาติและประเทศอื่น ๆ

Beenu Arora ประธานจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble กล่าวว่า “การระดมทุนในรอบ Series A เป็นก้าวสำคัญสำหรับบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วของเรา และเป็นการยืนยันว่า Cyble ได้เข้ามาเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำทางความคิดในอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ และตั้งใจที่จะนำเงินทุนเหล่านี้ไปใช้เพื่อสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา และความสามารถในการเฝ้าระวังของเราให้สูงขึ้นไปอีก อาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ดำเนินการผ่านเว็บมืดเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณและไม่มีการปิดบัง เราเชื่อว่าการป้องกันภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องและการเฝ้าระวังเว็บมืดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรในการระบุและจัดการการละเมิดข้อมูลในเวลาที่เหมาะสม Cyble มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับฐานลูกค้าที่กำลังเติบโตของเรา”

เกี่ยวกับ Cyble:
Cyble เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การป้องกันภัยคุกคามระดับโลกที่ช่วยให้องค์กรปกป้องตนเองจากอาชญากรรมทางไซเบอร์และการเผชิญกับเว็บปกติ (surface web) เว็บเฉพาะกลุ่ม (deepweb) และเว็บมืด (darkweb) ความตั้งใจหลักของบริษัทคือการทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถมองเห็นร่องรอยความเสี่ยงทางดิจิทัลแบบเรียลไทม์ได้ Cyble ได้รับการสนับสนุนจาก Blackbird Ventures, Xoogler และ Y Combinator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้สนับสนุนในฤดูหนาวปี 2564 Cyble ยังได้รับการยอมรับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกของบริษัทสตาร์ทอัพด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดีที่สุด และรางวัลชื่นชมในสาขาอื่น ๆ อีกหลายรายการ Cyble มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย และยังมีสาขาอยู่ทั่วโลกอีกด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cyble ได้ที่ www.cyble.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220215006151/en/

ติดต่อ:

Enquiries@Cyble.com
+1 678 379 3241

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Integromat ขยายวิสัยทัศน์เพื่อเพิ่มพลังให้ผู้ใช้ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด

Logo

ให้ทุกคนสามารถออกแบบ สร้าง และทำให้ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติได้ตั้งแต่งานและเวิร์กโฟลว์ไปจนถึงแอพและระบบ—ด้วยความเร็วของความคิด

ปราก–(บิสิเนส ไวร์)–22 ก.พ. 2565

วันนี้ Integromat แพลตฟอร์มการรวมแบบไร้โค้ดเปิดตัว “Make” Make เป็นตัวแทนของชื่อแบรนด์ ธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายที่ช่วยให้คุณออกแบบ สร้าง และทำให้ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติตั้งแต่เวิร์กโฟลว์ง่ายๆ ไปจนถึงกระบวนการที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องเขียนโค้ด  ชื่อแบรนด์ใหม่และอัตลักษณ์ได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อจับภาพวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้นสำหรับโลกที่ทุกคนมีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด

“Make จับภาพวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มของเรา จิตวิญญาณของลูกค้าของเรา และสะท้อนถึงหนึ่งในแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในยุคของเรา: จากงานที่เข้มงวด จากบนลงล่าง ซ้ำซาก ไปจนถึงงานที่ยืดหยุ่น เพิ่มขีดความสามารถ และมีความหมาย ผู้ใช้ของเราไม่ได้เป็นเพียงแค่เชื่อมต่อแอพหรือทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติ พวกเขากำลังตอบสนองต่อความท้าทายในสถานที่ทำงานอย่างสร้างสรรค์ด้วยการสร้างโซลูชัน” Ondřej Gazda ซีอีโอของ Make กล่าว “พูดง่ายๆ เราตระหนักดีว่าผู้ใช้ของเราไม่ใช่แค่ผู้ใช้ แต่คือผู้สร้าง”

Make กำลังปูทางไปสู่อนาคตใหม่สำหรับการไม่มีโค้ดและกำหนดความหมายของการเป็นแพลตฟอร์มที่มองเห็นได้ใหม่  เครื่องมือที่ไม่มีโค้ดมักจะแสดงด้วยคุณลักษณะการลากและวางแบบภาพทั่วไป  สำหรับ Make การมองเห็นหมายถึงสิ่งที่แตกต่างออกไป โดย Make ช่วยให้ทีมเห็นภาพ ปรับเปลี่ยน และทำงานร่วมกันในกระบวนการที่ปรับขนาดได้เร็วเท่ากับองค์กรของพวกเขา  Make นำเสนอประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายและสนุกสนาน ซึ่งทำให้แตกต่างจากเครื่องมืออัตโนมัติอื่นๆ

“เครื่องมือไร้โค้ดช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและทำให้เป็นอัตโนมัติโดยไม่ต้องเขียนโค้ดใดๆ  Make ให้ข้อเสนอมากขึ้น: ภาษาภาพที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างทั่วถึงที่ทำให้กระบวนการเป็นรูปธรรมและส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีมโดยไม่คำนึงถึงทักษะทางเทคนิค” Patrik Simek CTO ของ Make กล่าว “การสร้างสรรค์บน Make ยังสนุกและน่าตื่นเต้นเช่นกัน  เมื่อคุณตระหนักถึงสิ่งที่เป็นไปได้ จะรู้สึกเหมือนไม่มีขีดจำกัด  การเพิ่มขีดความสามารถให้กับมนุษย์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมไม่เพียงแต่เปลี่ยนอนาคตของวิธีการทำงานของเรา แต่ยังเปลี่ยนโลกอีกด้วย”

ธุรกิจขนาดเล็ก, สตาร์ทอัพ, ขยายขนาด, ทีม และองค์กรทั่วโลก สามารถสร้างโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ #withMake เพื่อขยายขนาดธุรกิจได้เร็วกว่าที่เคย

แพลตฟอร์ม Make มีพื้นฐานมาจากสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและประสิทธิภาพได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความสามารถใหม่ที่ได้รับการร้องขออย่างสูงพร้อมประสบการณ์ภาพที่คุ้นเคยของ Integromat ที่ลูกค้าชื่นชอบ  ผู้ใช้ยังสามารถได้รับประโยชน์จากความสามารถในการเรียกใช้กระบวนการที่สำคัญของตนจากโฮสต์ในภูมิภาคที่ตนเลือก ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรืออเมริกาเหนือ (พร้อมกับภูมิภาคอื่นๆ ที่จะตามมา)

Integromat ถูกซื้อโดย Celonis ในปี 2020  ในตอนนี้ หนึ่งปีครึ่งต่อมา Make ได้เปิดตัวในฐานะหน่วยธุรกิจของตนเองภายใน Celonis.  Integromat จะยังคงเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าจนถึงปี 2022  ลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดจะมีโอกาสอัปเกรดเป็น Make ได้อย่างราบรื่นตลอดปีหน้า ลูกค้าใหม่สามารถลงทะเบียน Make และเริ่มใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มใหม่ได้ทันที

เกี่ยวกับ Make

Make เป็นแพลตฟอร์มภาพชั้นนำสำหรับทุกคนในการออกแบบ สร้าง และทำให้ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ ตั้งแต่งานและเวิร์กโฟลว์ ไปจนถึงแอพและระบบโดยไม่ต้องใช้ทักษะการเขียนโค้ด ทำให้บุคคล ทีม และองค์กรในแนวดิ่งทั้งหมดสร้างโซลูชันแบบกำหนดเองที่มีประสิทธิภาพซึ่งปรับขนาดธุรกิจได้เร็วกว่าที่เคย และสร้างอำนาจให้มากกว่า 500,000 องค์กรทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Make ที่ www.make.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220222005231/en/

ติดต่อ:

Shiran Brodie
Head of Marketing
press@make.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter