Pampers Ariel และ Herbal Essences แบรนด์ชั้นนำภายใต้เครือ P&G ขยายความเป็นผู้นำด้านการบริโภคอย่างรับผิดชอบ

Logo

ปารีส–(BUSINESS WIRE)–24 เมษายน 2562

วันนี้ Procter & Gamble Company (NYSE:PG) ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับแผนกลยุทธ์และกิจกรรมที่ทำให้แบรนด์ชั้นนำในเครือของบรัษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการเพิ่มผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านบรรทัดฐาน “Brand 2030” ในงานประชุม Sustainable Brands Paris ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของบริษัทได้นำเสนอขอบข่ายที่คำนึงถึงอนาคต รวมถึงกลยุทธ์ด้านนวัตกรรม ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจและทำให้เกิดการบริโภคอย่างรับผิดชอบในกลุ่มผู้บริโภคห้าพันล้านคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ P&G ในแต่ละวัน แบรนด์ชั้นนำภายใต้เครือ P&G ได้แก่ Pampers®, Ariel® และ Herbal Essences® ได้มีการนำแผนนี้ไปใช้ ร่วมกับกิจกรรมและพันธสัญญาที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้เร็วขึ้น

“ปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการบริโภคสินค้าที่มีความยั่งยืนโดยที่ประสิทธิภาพของสินค้าไม่ลดลง และพวกเขาคาดหวังว่าแบรนด์จะลงมือทำสิ่งที่มีประโยชน์เพื่อรับมือกับความท้าทายที่มีความซับซ้อนมากที่สุด” Marc Pritchard ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้าของ P&G กล่าว “นี่คือเหตุผลที่ทำให้ P&G ให้ความสำคัญกับการสร้างการตลาดรูปแบบใหม่เพื่อใช้การเข้าถึงและเสียงของแบรนด์ของเราเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งดี ๆ และการเติบโต เราต้องการให้แบรนด์ของเราเติบโตและสร้างมูลค่า ขณะที่สร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สามารถวัดค่าได้ในระยะยาว”

บรรทัดฐาน Brand 2030 แบ่งเป็นสองด้าน ในแต่ละด้านกล่าวถึงกิจกรรมที่มีความเป็นรูปธรรม ซึ่งแบรนด์สามารถนำไปใช้เป็นพลังขับคลื่อนให้เกิดสิ่งดี ๆ และการเติบโต” ดังนี้

  • ความมุ่งมั่นของแบรนด์ ซึ่งแบรนด์กำหนดพันธสัญญาเชิงกลยุทธ์ด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ให้เป็นหัวใจของประสบการณ์ของผู้บริโภค ช่วยให้เล็งเห็นถึงความมท้าทายด้านสังคม ที่พวกเขาสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ด้วยวิธีการที่แตกต่าง
  • รากฐานของแบรนด์ ที่แบรนด์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ โดยใช้เสียงที่พวกเขามีในการโปรโมทความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีความโปร่งใสเกี่ยวกับส่วนประกอบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ และกระบวนทางวิทยาศาสตร์ที่ปลอดภัย ขณะที่ลดผลกระทบด้านซัพพลายเชนให้น้อยลง

ตัวอย่างวิธีที่แบรนด์ชั้นนำของ P&G ได้นำบรรทัดฐานดังกล่าวมาใช้ ผ่านการบอกเล่าถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาและการวางแผน:

ความมุ่งมั่นของ Ariel คือการมอบความสะอาดรูปแบบใหม่ เพื่อใช้ทรัพยากร ในด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบใหญ่ ๆ เช่น พลังงานและน้ำให้น้อยลง 50% ด้วยการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ บริการและนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ รากฐานของ Ariel ประกอบด้วย พันธสัญญาด้านบรรจุภัณฑ์ตามที่ประกาศวันนี้ เช่น การตั้งใจที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดเป็นวัสดุรีไซเคิลภายในปี พ.ศ. 2565 และลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกให้ได้ 30% ภายในปี พ.ศ. 2568 นอกจากนี้ Ariel ยังใช้เสียงที่พวกเขามีช่วยกำหนดอนาคตแห่งความเท่าเที่ยมผ่านแคมเปญอย่าง “Partage des taches” ในฝรั่งเศส แล “Share the Load” ในอินเดีย ซึ่งสนับสนุนแนวคิดที่ว่าผู้ชายและผู้หญิงควรช่วยกันทำงานบ้านอย่างเท่า ๆ กัน

ความมุ่งมั่นของ Herbal Essences คือการให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์พลังบวกของธรรมชาติ และสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อประโยชน์ของผู้คนและโลกใบนี้ นอกเหนือจากนี้ Herbal Essences ยังให้ผู้คนได้เข้าถึงการแบ่งปันข้อมูลที่ครบถ้วนในทุกด้านเกี่ยวกับ ส่วนประกอบ อธิบายขั้นตอนความปลอดภัย 4 ขั้น อย่างโปร่งใส และได้รับการยกย่องจาก PETA ให้เป็นแบรนด์ที่ไม่มีการทดลองกับสัตว์ ผลิตภัณฑ์ Herbal Essences bio:renew เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผมชิ้นแรกของโลกที่มีสวนพฤกษศาสตร์เป็นของตัวเอง และผ่านการรองรับโดย Royal Botanic Gardens, Kew หน่วยงานด้านพืชชั้นนำของโลก Herbal Essences ยังใช้ประโยชน์จากเสียงที่พวกเขามีในการโปรโมทการเปิดตัวของ บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา แล ขวดบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกที่เก็บจากชายหาด ในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา

ความมุ่งมั่นของ Pampers คือการให้เด็กแรกเกิดกว่าล้านคนได้มีโอกาสในการเติบโตอย่างมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลสุขภาพ ผู้ปกครองและหน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลกำไรหลายหน่วยงาน Pampers ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของบรรทัดฐาน Brand 2030 ของ P&G ได้นำโครงการ 7 Acts for Good’ ประกอบด้วยกิจกรรมที่มีความเป็นรูปธรรม ดังนี้: สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่โซลูชันที่จะทำให้เกิดการผลิตผ้าอ้อมด้วยวิธีที่มีความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อลดการใช้วัสดุในการผลิตผ้าอ้อมลง 30%1 ต่อการผลิตผ้าอ้อมสำหรับเด็กแรกเกิดหนึ่งชิ้น ด้วยการสร้างนวัตกรรมและใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แบรนด์ได้ลดน้ำหนักโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมลง 18%2 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยที่ความน่าเชื่อถือในเรื่องของความแห้งไม่อับชิ้นยังคงอยู่ เป็นผู้นำในการด้านการรีไซเคิลสำหรับผ้าอ้อมและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ตั้งเป้าเปิดตัวศูนย์รีไซเคิลใน 3 เมืองภายในปี พ.ศ. 2564 Pampers ร่วมมือกับ UNICEF ช่วยหยุดการแพร่ระบาดของโรคบาดทะยักในหญิงตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิดใน 24 ประเทศ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ประเทศชาด เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้หยุดการแพร่ระบาดโรคนี้ได้สำเร็จ ส่งผลให้ช่วยรักษาชีวิตเด็กแรกเกิดราว 880,000 ราย4 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา

“บรรทัดฐาน Brand 2030 ได้แสดงถึงความเป็นผู้นำของแบรนด์ ด้วยการระบุถึงความสำคัญที่แต่ละแบรนด์สามารถทำให้เกิดการบริโภคอย่างรับผิดชอบ เป็นการสร้างการบูรณาการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวซึ่งสามารถวัดค่าได้ ในกลยุทธ์และประสบการณ์ของแบรนด์โดยรวม มากกว่าการที่แบรนด์จะแยกกันทำการตลาด ซึ่งจะระตุ้นให้เกิดการบริโภคเพียงน้อยนิดเท่านั้น” KoAnn Vikoren Skrzyniarz ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านแบรนด์ที่ยั่งยืน กล่าว

“เราร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียภายนอกหลายกลุ่ม เพื่อช่วยสร้างบรรทัดฐานนี้ขึ้นมา” Virginie Helias ประธานฝ่ายความยั่งยืนของ P&G กล่าว “เราต้องการสร้างบรรทัดฐานที่จะทำให้ SDG12 เป็นเรื่องที่จับต้องได้สำหรับแบรนด์ ทำให้แบรนด์มีความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบสู่ขั้นใหม่ ด้วยแบรนด์ของเราได้รับใช้ผู้บริโภคกว่าห้าพันล้านคนทั่วโลก ทำให้เรามีโอกาสและหน้าที่รับผิดชอบที่มีความแตกต่างออกไปในการสร้างความสุขให้กับผู้คนผ่านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า รวมถึงการทำให้เกิดการพูดคุย สร้างทัศนคติ เปลี่ยนพฤติกรรม และก่อให้เกิดการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงในระดับโลก”

เกี่ยวกับที่มาของโครงการ Citizenship โดย P&G

โครงการ Citizenship ของบริษัทสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ และให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมและความยั่งยืนขององค์กร ความยั่งยืนของสื่งแวดล้อม ผลกระทบต่อสังคม ความเท่าเทียมทางเพศ และความหลากหลายและการรวมกันเป็นหนึ่ง บรรทัดฐาน Brand 2030 คือข้อบังคับของแต่ละแบรนด์ที่นอกเหนือจากโครงการต่าง ๆ ขององค์กร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามของ P&G ในโครงการ Citizenship โปรดดูรายงานประจำปี 2561 ที่นี่

เกี่ยวกับ Procter & Gamble

P & G ดูแลผู้บริโภคทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูง มีคุณภาพและเป็นแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks® และ Whisper® ชุมชน P & G ประกอบด้วยการดำเนินกิจการในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โปรดเยี่ยมชมข่าวสารล่าสุดและข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับพีแอนด์จีและแบรนด์ภายใต้ P & G ที่ http://www.pg.com

เกี่ยวกับ Sustainable Brands Paris

Sustainable Brands คือการรวมกันของแบรนด์ในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนของแบรนด์และองค์กรครั้งแรกของโลก แบรนด์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดของโลกในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมได้รับการแนะนำในฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 23-25 ​​เมษายน 2562 การประชุมประกอบด้วยแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อนที่จะสร้างความมุ่งมั่นและเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์

1 เทียบกับผ้าอ้อมแบบใช้แล้วทิ้ง
2 เทียบกับผ้าอ้อมที่จำหน่ายได้มากที่สุดของ Pampers ในปี 2016
เทคโนโลยีรีไซเคิลที่สร้างขึ้นโดย Fater กิจการร่วมค้าของ P&G และ Angelini (ผู้ผลิตสินค้า Pampers ในประเทศอิตาลี)
4 ตัวเลขโดยประมาณจากองค์กรอนามัยโลกและยูนิเซฟเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20190424005170/en/

สื่อติดต่อ P&G ได้ที่:
Becky East
ฝ่ายกลยุทธ์ H&K
+44 7785 990159
Becky.East@hkstrategies.com

Eleni Papadimitriou
ฝ่ายสื่อสาร P&G
+41792077166
papadimitriou.e@pg.com