โตชิบาเปิดตัวไอซีไดรเวอร์มอเตอร์แบบแปรงถ่านกระแสตรง (DC Brushed Motor Driver IC) พร้อมการตรวจจับกระแสไฟ

Logo

– เครื่องส่งสัญญาณกำหนดระดับกระแส Limiter สามารถป้อนกลับฟีดแบ็คได้

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–26 ก.ย. 2018

Toshiba Electronics Devices and Storage Corporation (โตชิบา) เปิดตัว IC ไดร์เวอร์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าชนิด H-bridge แบบ dual ที่มีฟังก์ชั่นจำกัดกระแสเอาท์พุทที่อัตรา 50V / 3.0A อุปกรณ์ TB67H401FTG รุ่นใหม่นี้ สามารถจัดการกับการใช้งานที่จำเป็นต้องมีการติดตามตรวจสอบและตอบสนองต่อสภาวะมอเตอร์ เช่น อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเอทีเอ็ม เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ห่นยนต์เครื่องทำความสะอาด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180925006329/en/

Toshiba: An integrated dual H-bridge DC brushed motor driver IC "TB67H401FTG" that includes an outpu ...

โตชิบา: IC ไดรเวอร์ แบบแปรงถ่านกระแสตรง H bridge รุ่น "TB67H401FTG" ที่มีฟังก์ชั่นจำกัดกระแสไฟเอาต์พุต (ภาพ: Business Wire)

ก่อนหน้านี้ การควบคุมมอเตอร์แปรงถ่านกระแสตรงให้ปลอดภัยจะจำกัดอยู่ที่การจำกัดเพดานบนของกระแสมอเตอร์ผ่านการจำกัดความคงที่ของกระแส กระแสไฟฟ้าที่มากเกินไปถูกสร้างขึ้นโดยมอเตอร์และถูกอ่านจากตัวต้านทานภายนอกผ่านวงจรภายนอก เครื่องขยายสัญญาณ วงจรคอมพาราเตอร์ซึ่งจะเพิ่มจำนวนส่วนประกอบและความซับซ้อนของวงจร

ผลิตภัณฑ์รุ่น TB67H401FTG ผสานรวมกับกระบวนการ BiCD ของโตชิบาและมีวงจรเอาท์พุทแบบ inbuilt ซึ่งจะตรวจสอบสถานะของกระแสและระบุเมื่อถึงขีดสูงสุด นี่หมายความถึงการสิ้นสุดของความจำเป็นในการใช้วงจรภายนอกและให้โซลูชั่นมอเตอร์ขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่าใช้จ่าย BOM ที่ลดลง

ผลิตภัณฑ์รุ่น TB67H401FTG สนับสนุนโหมดขับเคลื่อนสี่รูปแบบ ไปข้างหน้า (CW), ย้อนกลับ (CCW), เบรค (short brake) และหยุด (off) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการสลับโหมดที่ขยายช่วงการใช้งาน โหมด Single-Bridge รองรับช่องสัญญาณแบบเดี่ยวได้ถึง 6.0A ในขณะที่โหมด dual-bridge ช่วยให้สามารถใช้มอเตอร์ได้ 2 ตัวใช้ IC เดี่ยวขับเคี่ยวถึง 3.0A ต่อมอเตอร์

MOSFETs ความต้านทานต่ำที่รวมอยู่ในสะพาน H (ด้านสูง + ด้านต่ำ = 0.49Ω typ) ทำให้เกิดความสูญเสียต่ำและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ตัวควบคุมภายในช่วยให้อุปกรณ์สามารถขับเคลื่อนจากแหล่งจ่ายไฟ 5 โวลต์ได้

อุปกรณ์ขนาดเล็กติดตั้งอยู่ในแพ็คเกจรุ่น QFN48 ขนาด 7 มม. x 7 มม. x 0.9 มม. ซึ่งรวมถึงระบบปิดอัตโนมัติเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้า และระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าตก สัญญาณตรวจหาข้อผิดพลาดโดยทั่วไปช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบโดยการแจ้งเตือนไปยังตัวควบคุมระบบหลัก

ผลิตภัณฑ์รุ่น TB67H401FTG กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตออกจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

การใช้งานต่าง ๆ

การใช้งานที่จำเป็นต้องตรวจสอบและฟีดแบคเกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์รวมถึงอุปกรณ์สำนักงาน และตู้เอทีเอ็ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และหุ่นยนต์ทำความสะอาด

คุณสมบัติหลัก

1. ฟังก์ชันเตือนเอาท์พุท

ฟังก์ชันเตือนเอาท์พุทflag output จะแสดงผลลัพธ์จากการตรวจจับข้อกระแสไปยังอุปกรณ์ภายนอก ช่วยลดจำนวนเครื่องขยายเสียงและคอมพาราเตอร์ภายนอก

2. ฟังก์ชันเปลี่ยนโหมดการทำงาน (ระหว่างโหมด Single-Bridge และ Dual-Bridge)

Single-Bridge รองรับไดรฟ์ที่มีกระแสโหลดสูง (ไดรฟ์ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน 6.0 A) โหมด Dual-Bridge สนับสนุนการขับเคลื่อนมอเตอร์สองตัวด้วย IC ตัวเดียว (3.0 A / 2 ช่อง) ซึ่งช่วยขยายช่วงของการใช้งาน

3. ตรวจจับข้อผิดพลาดอื่น ๆ การตรวจสอบการ

การปิดด้วยความร้อน การป้องกันกระแสเกิน และการป้องกันกระแสไฟฟ้าตก สัญญาณตรวจจับข้อผิดพลาดสามารถส่งออกไปยังอุปกรณ์ภายนอกช่วยเพิ่มความปลอดภัย

ข้อมูลจำเพาะ

หมายเลขชิ้นส่วน

TB67H401FTG

คอนโทรล  I / F

อินพุตแบบขนาน

อัตรากระแสสมบูรณ์สูงสุด

50 V, 6.0 A (โหมดสะพานเดี่ยว)

50 V, 3.0 A (โหมดสะพานแบบ Dual)

แพคเกจ

QFN48 (ขนาด 7 มม× 7 มม× 0.9 มมส พิทช์ของหมุด: 0.5 มม.)

โหมด

ขับเคลื่อนไปข้างหน้า (CW), ย้อนกลับ (CCW), เบรค (short brake), หยุด (OFF)

คุณสมบัติอื่น ๆ

เอาท์พุทในตัวที่แสดงผลของการตรวจจับกระแส

ฟังก์ชันสลับระหว่างโหมด single-bridge และโหมด dual-bridge

ฟังก์ชันการจำกัดดระแสในตัว (constant current PWM control)

ฟังก์ชั่นให้สัญญาณเมื่อกระแสเอาต์พุตผิดพลาด (การปิดความร้อน, การป้องกันกระแสไฟเกิน และการลดแรงดันไฟ)

รองรับการเปิดเครื่องตามลำดับ single power drive

ตรวจสอบสต็อคและ

ซื้อสินค้า

สั่งซื้อออนไลน์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/linear/motordriver/detail.TB67H401FTG.html

ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์

Mixed Signal IC Sales and Marketing Department

โทร + 81-44-548-2876

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์เนื้อหาบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น

โตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2017 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD

พนักงานของเราจำนวน 19,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเราและให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ 7 แสนล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180925006329/en /

สื่อมวลชน:

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Chiaki Nagasawa, + 81-3-3457-4963

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

IWBI ประกาศผู้เข้าร่วม WELL Portfolio รายแรก

Logo

Pathway ใหม่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มพูนการอัพเกรดสุขภาพและสุขภาพข้ามพอร์ต

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2018

International WELL Building Institute™ (IWBI™) ประกาศว่าผู้เข้าร่วม WELL Portfolio ™ รายแรก ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ในการรับรอง WELL Certification™ สำหรับอาคารใหม่และที่มีอยู่แล้วหลายแห่งและพื้นที่เช่าในส่วนงานเดียว  โดยปล่อยตัวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่อง WELL v2™ ซึ่งเป็นการย้ำครั้งล่าสุดของ WELL Building Standard™ (WELL™) เป็นส่วนหนึ่งของชุดการปรับปรุงของ WELL เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมอาคารสำหรับโปรแกรมที่ช่วยให้เจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้เช่าปรับปรุงและทำการปรับปรุงด้านสุขภาพให้กับสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ของตน

การประกาศเกิดขึ้นภายหลังการเปิดตัว WELL v2 ซึ่งเป็นโครงการตัวที่สองของ WELL Building Standard ของ IWBI  การเพิ่มกระบวนการตรวจสอบเฟสต้นเพื่อให้โครงการต่างๆสามารถแสวงหาการแต่งตั้ง WELL D&O™ ซึ่งได้ริเริ่มใน WELL v2 ทำให้โครงการในพอร์ตโฟลิโอสามารถดำเนินการผ่านกระบวนการรับรองได้อย่างคล่องตัวและเป็นระบบมากขึ้น โดยมุ่งเน้นนโยบาย โปรแกรม และแนวทางการจัดซื้อ  WELL Portfolio Pathway จะสนับสนุนให้เจ้าของมองเส้นทางสู่ WELL เป็นกระบวนการแทนที่จะเป็นจุดหมายปลายทางและทำการปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอต่างๆ ตลอดเวลาเพื่อติดตามความคืบหน้าของพวกเขาทั้งกระบวนการ

ผู้เช่า ผู้พัฒนา และนักลงทุนจากยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชียต่างแสดงความสนใจในการเดินตามเส้นทางของ WELL Portfolio Pathway  หลายคนเคยใช้ WELL สำหรับอาคารแต่ละแห่งแล้วและต้องการนำเสนอคุณค่าและประสิทธิภาพตามหลักฐานเดียวกันกับพอร์ตของตนตัวอย่าง โดยแสดงตัวอย่างความมุ่งมั่นของพวกเขาในการปรับปรุงสุขภาพคนในระดับใหญ่โต

ภายหลังการประชุมโต๊ะกลม การอภิปรายโดยผู้เชี่ยวชาญ และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย องค์กรต่างๆ จากทั่วโลกมีพันธะสัญญาที่จะนำตัวอย่างผลงานของอาคารที่มีคุณสมบัติเหมาะสม   การมีส่วนร่วมของพวกเขาในการพัฒนาเส้นทางนี้ผ่านกระบวนการนำร่องช่วยให้มั่นใจได้ว่าโครงการจะมอบผลประโยชน์ทันทีและสามารถวัดได้สำหรับทั้งผู้ใช้งานช่วงต้นและผู้ที่เข้ามาภายหลัง

ตัวอย่างองค์กร:

Barclays

Brandywine Realty Trust

CBRE Global Investors and CBRE

Charter Hall

Forest City Realty Trust

Gro

Investa

JLL Asia Pacific

The Lendlease managed Australian Prime Property Fund (APPF) Commercial

Miron Construction Co., Inc.

Prologis, Inc.

Shaw Industries

SL Green Realty Corp

ความตื่นเต้นเกี่ยวกับ WELL Portfolio Pathway ในบรรดาผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้อาคารของเราเป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องมือเพื่อปรับปรุงสุขภาพของเราและเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของเรา” ซีอีโอและประธาน IWBI Rick Fedrizzi กล่าว “องค์กรต่างๆ รู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพนั้นเกินขึ้นในระดับใหญ่โต และนั่นคือแรงผลักดันในการริเริ่มนี้"

Fedrizzi ระบุว่าการอนุญาตให้มีการใช้คุณลักษณะ WELL ในหลายอาคารในพอร์ทโฟลิโอจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในวิธีที่เจ้าของสามารถติดตามการรับรอง WELL ได้  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นโครงการ WELL Portfolio Pathway จะได้รับดัชนีชี้วัดที่กำหนดเอง ซึ่งเหมาะสำหรับพอร์ตอาคารที่เกี่ยวข้อง และจะได้รับคำแนะนำในการปรับปรุงผลงานตลอดช่วงเวลา  เจ้าของอาคารจะสามารถกำหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพด้านสุขภาพและการสร้างอาคารที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ ทั้งจากพอร์ตการลงทุนของตนเองและพอร์ตการลงทุนของบุคคลอื่นๆ

เนื่องจากความยั่งยืนของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน WELL Building Standard ได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกันได้ด้วยมาตรฐานอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก  นักพัฒนาและผู้จัดการทรัพย์สินที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างอาคารสีเขียวโดยใช้ LEED, BREEAM, Green Star หรือ Living Building Challenge อยู่ในสถานะที่เหมาะสำหรับการใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ มากมายที่มีอยู่ในอาคาร WELL Certified™

“ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของอาคารที่ต้องการแยกแยะพื้นที่ของเขาเพื่อทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้เช่า หรือ บริษัทที่ต้องการรักษาและดึงดูดบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน หรือลดต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพ ผลประโยชน์ที่ได้รับจากพนักงานที่มีสุขภาพดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นคุ้มค่าอย่างยิ่งกับการลงทุนในอาคารเพียงครั้งเดียว  ผลการพิสูจน์ของ WELL กลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้นำทั่วโลกที่ต้องการออกแบบพื้นที่ให้กับตัวเองหรือผู้เช่าให้มอบประโยชน์ต่อสุขภาพในทันทีและสามารถวัดผลได้สำหรับทุกคนในอาคาร” Fedrizzi กล่าว

คำพูดของผู้เข้าร่วม

"SL Green ประสบความสำเร็จอย่างมากกับโครงการ LEED Volume Program ของ USGBC ซึ่งช่วยให้เราปรับปรุงกระบวนการรับรองได้ง่ายกว่าในพื้นที่ 15 แห่งเพื่อให้เราสามารถเห็นประโยชน์ของ WELL Portfolio" Laura Vulaj รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนของ SL Green กล่าว "เรากำลังริเริ่ม WELL ที่ One Vanderbilt และเราจะสามารถใช้บทเรียนที่ได้เรียนรู้กับโครงการนำร่องนี้ได้ในระดับกว้างๆ  ที่สำคัญที่สุด เรามุ่งมั่นที่จะรักษาสุขภาพผู้อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านความร่วมมือกับ IWBI"

“JLL Asia Pacific รู้สึกตื่นเต้นที่จะมีส่วนร่วมใน Pilot Portfolio Pilot ซึ่งเราใช้ในการมุ่งเน้นที่อสังหาของ JLL และเพื่อช่วยลูกค้าของเราในการมุ่งสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” Matthew Clifford หัวหน้าภาคพลังงานและบริการเพื่อความยั่งยืน JLL Asia Pacific กล่าว "เครื่องมือใหม่นี้มีศักยภาพที่จะช่วยสร้างโอกาสทางสุขภาพในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นเพื่อมอบประโยชน์อันมหาศาลให้กับชีวิตของพนักงานลูกค้าและประชาชน"

Nina James ผู้จัดการทั่วไปด้านการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัทที่ Investa กล่าวว่า "Investa มองว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เช่าของเราถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างสถานที่ทำงานที่เจริญรุ่งเรืองทั่วประเทศและเพื่อความสำเร็จขององค์กรที่เราเป็นเจ้าภาพ  Portfolio pathway การจะช่วยให้เราสามารถระบุแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพและผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดโดยใช้ WELL v2 scorecard.  Investa รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องนี้ด้วยการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำของโลกในการร่วมสร้างโซลูชั่น WELL ที่มีศักยภาพสำหรับอาคารที่มีอยู่"

"การมีส่วนร่วมในโครงการนำร่อง WELL Portfolio Pilot ซึ่งรวมสุขภาพของพนักงานและองค์ประกอบด้านสุขภาพเข้ากับการออกแบบอาคารอย่างลงตัวนั้น เหมาะสมกับแนวทางของ Prologis ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการดูแลองค์กร" Grant Stevens กรรมการผู้จัดการบริษัท Global Construction and Development Services, Prologis กล่าว "อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อมาตรฐานการออกแบบอย่างยั่งยืนสูงสุดไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานให้กับลูกค้าและบริษัทของเรา แต่ยังส่งเสริมสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วย”

“ทั่วโลก เราเห็นนักลงทุนใช้ผลงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมไม่ใช่แค่เพื่อเป็นพลเมืองที่ดี แต่เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ในการส่งมอบผลตอบแทนที่ได้รับในระยะยาว" Josh McHutchison กรรมการผู้จัดการของ Lendlease Investment Management Australia กล่าว “สภาพการเป็นอยู่คือหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันการสร้างเขตที่ดีที่สุดที่ผู้คนอยากทำงาน และผู้เช่าของเราเห็นสุขภาพเป็นวิธีการดึงดูดและรักษาคนที่ดีที่สุด”

“พื้นที่ที่เราอาศัย ทำงาน เล่น เรียนรู้ และพักผ่อนมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของเรา  การออกแบบ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามามีส่วนสำคัญในการทำงานของเราทุกวัน” Susan Farris รองประธานฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสื่อสารองค์กรที่เมืองชอว์กล่าว "ความมุ่งมั่นของเราในการออกแบบ Cradle to Cradle ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเป็นจุดสนใจที่สำคัญของเรา การมีส่วนร่วมใน WELL Portfolio เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ผ่านทางสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น  เช่นเดียวกับลูกค้าจำนวนมากของเรา เราตระหนักถึงโอกาสที่จะช่วยให้ผู้คนเจริญเติบโตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดีที่เรามีให้แก่พนักงานของเรา“ Farris กล่าวต่อ

เกี่ยวกับ the International WELL Building Institute

International WELL Building Institute (IWBI) เป็นผู้นำการเคลื่อนไหวทั่วโลกในการแปลงอาคารและชุมชนให้ผู้คนได้เจริญเติบโต  โครงการริเริ่ม WELL v2 เป็นหนึ่งในรุ่นที่เปิดตัวจาก WELL Building Standard ยอดนิยม พร้อมกับโครงการนำร่อง WELL Community Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับเขตที่กำหนดมาตรฐานระดับโลกใหม่สำหรับชุมชนที่มีสุขภาพดี  WELL มุ่งเน้นวิธีการที่สิ่งปลูกสร้างและชุมชน และทุกสิ่งทุกอย่างในพื้นที่เหล่านี้สามารถปรับปรุงความสะดวกสบายของเรา ผลักดันทางเลือกที่ดีกว่า และเสริมสร้าง แทนที่จะขัดขวาง สุขภาพและความเป็นอยู่ของเรา  IWBI รวบรวมและระดมพลเมืองด้านสุขภาพผ่านการจัดการของข้อมูลประจำตัว WELL AP การแสวงหาการวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาทรัพยากรทางการศึกษา และการสนับสนุนนโยบายที่ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ทุกแห่ง

สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WELL ได้ที่นี่.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180925006028/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Jamie Matos

516.941.7176

jamie.matos@wellcertified.com

กองทุน Abu Dhabi บรรลุข้อตกลง TOB กับ MINDOL

Logo

~”Fusion of subculture and block chain technology” จะเปิดให้เล่นเกมต่อสู้ออนไลน์ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการออดิชันทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "TO DO & DIE" ซึ่งมีแผนเปิดตัวทั่วโลกในปี 2020

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2018

Abu Dhabi Dubai STOB Series 22 Investment Limited Partnership (”จากนี้เรียกว่า AbuDhabi22”) และ MINDOL HOLDINGS LIMITED (จากนี้เรียกว่า ”MINDOL”) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต Coinsuper ในฮ่องกง (https://www.coinsuper.com) บรรลุข้อตกลงในการให้ AbuDhabi22 ได้รับ 33% ของสกุลเงินคริปโต MINDOL (MIN)(http://mindol.net) ซึ่งออกโดย TOB

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180925005523/en/

The world audition of the Hollywood movie "TO DO & DIE" planned to be released worldwide in 2020! (G ...

การออดิชันทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "TO DO & DIE" มีแผนเปิดตัวทั่วโลกในปี 2020! (กราฟฟิก: Business Wire)

การนำ TOB มาใช้จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านพันธมิตรกับ MINDOL โดยทั้งสองบริษัทเลือก TOB ให้เป็นกลยุทธ์เพื่อซื้อในราคาที่ทรงตัว เนื่องจากว่าราคาเข้าซื้อที่ AbuDhabi22 กำหนดไว้ในแผนอาจจะเกินราคาที่ซื้อผ่านตลาดเเลกเปลี่ยนทั่วไปเป็นอย่างมาก การใช้ TOB ในระยะที่ 1 ได้สิ้นสุดแล้ว และขณะนี้ได้มีการเริ่มใช้ TOB ด้วยราคาซื้อสำหรับระยะที่ 2

ตามวิสัยทัศน์ด้านการจัดการในปี 2019 MINDOL ตั้งเป้าขยับมูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) ให้ขึ้นมาอยู่ภายใน 20 อันดับแรก (ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 55 ข้อมูลสิ้นสุดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018) และมีเงินคริปโตจดทะเบียนมากกว่า 2000 สกุล กำหนดให้ ”Fusion of subculture and block chain” เป็นธุรกิจหลัก พัฒนาเกมออนไลน์โดยมีงบประมาณในการพัฒนาที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขั้นแรก จะพัฒนาเกมต่อสู้ที่สามารถออกสู่ตลาดทั่วโลก โดยใช้ตัวละครซึ่งนำไปใช้ในการประกวดที่สนับสนุนโดย MINDOL คาดว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดทั่วโลก เนื่องจากผู้เล่นมีโอกาสได้รับเงินสกุล MIN จากผู้แพ้ หากสามารถชนะได้ในแมตช์นั้น นอกจากนี้ ยังจะพัฒนากระเป๋าเงินแบบเอ็กซ์คลูซิฟสำหรับ MINDOL ที่สามารถใช้ได้กับสมาร์ตโฟนและกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น การโหวตอินฟลูเอนเซอร์และเกมออนไลน์ที่ต้องการให้พัฒนาในอนาคต รวมถึงการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง และการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันของญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ด้านสื่อ นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะสนับสนุนภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง "TO DO & DIE" ที่มีกำหนดเริ่มผลิตในปี 2019 ก่อนออกฉายทั่วโลกในปี 2020 และการจัดกิจกรรม "MINDOL × TO DO & DIE World Audition 2019" ตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งจะปรากฎในภาพยนต์ "TO DO & DIE" ด้วยเช่นกัน นักแสดงที่ผ่านการออดิชันจะได้ร่วมการถ่ายทำในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียดจะมีการประกาศเพิ่มเติมในภายหลัง PAN Entertainment และ SKY INFINITY GROUP ได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านอำนวยการผลิตภาพยนต์เรื่อง "TO DO & DIE" และ Spencer Jay Kim ได้รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ งานขายจะดูแลโดย LOTUS Entertainment และ Number 11 Films และมีการเตรียมการโครงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดโดยทีมนักแสดงและผลิตสุดหรูจากทั้งญี่ปุ่นและฮอลลีวูด

ราคาและระยะเวลา
ราคาซื้อ: 2.69USD (TOB STAGE2) ~5.86USD (TOB ระยะ 5)
หมายเลขอ้างอิง 1: ราคาขายสุดท้าย 0.45USD
หมายเลขอ้างอิง 2: ราคาเริ่มต้น 0.54USD
ระยะเวลา: ภายใน 10 วันหลังจากวันที่ TOB เสร็จสมบูรณ์
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการสรรหา: จำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของ MIN (MINDOL) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยน Coinsuper จำนวนขั้นต่ำ 3000 MIN ในวันที่เข้าสู่ตลาด

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดการซื้อและจุดประสงค์ สามารถดูได้จาก URL ด้านล่างนี้
http://mindol.net

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180925005523/en/

ติดต่อ:

Abu Dhabi Dubai STOB Series 22 Investment Limited Partnership
Mohiuddin Mohamed
ซีอีโอ
ที่อยู่: อาคาร TECOM, ดูไบอินเทอร์เนตซิตี, ถนนเชคซัยยิด 73000 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
mindoltob@ad22stob.org
หรือ
MINDOL HOLDINGS LIMITED
Fumihiro Fukuhara
ซีอีโอ
ที่อยู่: ห้อง 2012 20/F อาคาร 1 The Gateway 25 ถนนแคนตัน จิมซาจุ่ย เกาลูน ฮ่องกง
info@mindol.net
Twitter: https://twitter.com/mindolproject
telegram: https://t.me/MINDOLGLOBAL (ทั่วโลก)
telegram: https://t.me/MINDOLGROUP (ญี่ปุ่น)

โตชิบาเปิดตัวเครื่องขยายเสียงสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ที่มีความต้านทานสูงต่อไฟกระชาก

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2018

โตชิบาอิเลคทรอนิคส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น เปิดตัวเครื่องขยายเสียง 4 ช่องใหม่สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์รุ่น "TCB503HQ" ที่ให้แรงต้านไฟกระชากสูง การจัดส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเริ่มต้นตั้งแต่ในวันนี้โดยมีกำหนดจะเริ่มผลิตออกจำหน่ายตามท้องตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่:

 https://www.businesswire.com/news/home/20180924006129/en/

Toshiba: A new 4-channel power amplifier for car audio, "TCB503HQ" that delivers strong resistance t ...

โตชิบา: เครื่องขยายเสียง 4 ช่องสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์รุ่น "TCB503HQ" ที่ให้แรงต้านสูงต่อไฟกระชาก (รูปภาพ: Business Wire)

การพัฒนาต่อเนื่องด้านความสามารถในการพัฒนา ICs สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ของโตชิบาทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มีความเชื่อถือได้สูงขึ้น ด้วยกระบวนการปรับแบบอะนาล็อกที่ทนทานต่อไฟกระชาก ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ยังสนับสนุนการดำเนินงานแบบ 6 โวลต์ ที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบติดหรือดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณลักษณะนี้จะยับยั้งเสียงดังกระชากที่จะเกิดขึ้นเมื่อแรงดันไฟฟ้าผันผวน

คุณสมบัติอื่น ๆ ได้แก่ ตัวกรองในตัว (built-in filter)เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อเสียงรบกวนจากภายนอกและป้องกันเสียงรบกวนที่ผิดปกติ ถึงแม้จะเป็นเสียงรบกวนความถี่สูง จากคลื่นวิทยุ โทรศัพท์มือถือ และการปรับกระจกมองข้าง ก็ตาม

การใช้สัญญาณการตรวจจับคลิปเพื่อควบคุมระดับเสียงและวงจรควบคุมโทนเสียง ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของชุดผลิตภัณฑ์

ข้อมูลจำเพาะ

หมายเลขชิ้นส่วน

TCB503HQ

กำลังส่งสูงสุด

50Wx4ch (Vcc = 15.2V, RL = 4Ω, JEITA สูงสุด)

แรงดันไฟฟ้า(supply voltage)

6V ถึง 18V

แรงดันออฟเซ็ตเอาท์พุท

70mV

แรงดันเสียงรบกวนเอาต์พุท

45μV (BW = A-weights)

ฟังก์ชันและคุณสมบัติ

•พลังเอาต์พุตสูงและความเพี้ยนต่ำ

• ฟังก์ชั่นปิดและสแตนด์บายแบบอยู่ในตัว การตรวจจับชดเชยการลัดวงจรและการตรวจจับคลิปเอาท์พุท

•การใช้งาน 6V (ความสามารถในการลดการทำงานขณะเครื่องยนต์ทำงาน)

•วงจรป้องกันในตัว (กรร๊ความร้อนสูงเกิน กำลังไฟมากเกิน ไฟฟ้าช็อตลงเครื่อง  ชอร์ตกราวด์ และโหลดช็อต)

แพคเกจ

HZIP25-P-1.00F

ราคาตัวอย่าง

(รวมภาษี)

500 เยน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ กรุณาเยี่ยมชมที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/product/assp/audio-ic/detail.TCB503HQ.html

ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ฝ่าย

Mixed Signal IC Sales and Marketing Department

โทร: + 81-44-548-2876

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์เนื้อหาบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับโตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น

โตชิบาอิเลคทรอนิกส์แอนด์สตอเรจคอร์ปอเรชั่น รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2017 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD

พนักงานของเราจำนวน 19,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเราและให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ 7 แสนล้านเยน (6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180924006129/en /

สื่อมวลชน:

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Chiaki Nagasawa, + 81-3-3457-4963

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

Rocket Software ขยายกิจการในเอเชีย

Logo

บริษัทแต่งตั้ง Paul Lin เป็น senior channel manager ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–23 กันยายน 2018

Rocket Software ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่ช่วยให้บริษัท Fortune 500 และหน่วยงานของรัฐปฏิรูปการใช้งานขององค์กรที่มีความสำคัญ ได้ประกาศการเพิ่ม Paul Lin ให้กับทีมผู้บริหารฝ่ายขายระดับอาวุโสของบริษัท  Lin จะดูแลผู้ค้าปลีกและฝ่ายขายของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  การดำเนินการครั้งนี้นับเป็นการขยายยุทธศาสตร์ของ Rocket ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ซึ่งบริษัทได้ทำข้อตกลงกับสถาบันการเงินต่างๆเช่น CIMB Bank, Erste Group Bank, Westpac Banking Group และ PT Bank Central Asia Tbk

Lin เข้าร่วม Rocket หลังจากทำหน้าที่ senior channel and partner management ที่ Prysm Inc, BT Group และ Cisco  โดยเป็นผู้นำธุรกิจที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 20 ปีในการจับคู่ธุรกิจ การบริหารลูกค้า ช่องทางการขาย และการพัฒนาธุรกิจในอุตสาหกรรมไอที  Lin นำประวัติที่แข็งแกร่งในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจ การสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับ C-level โดยพัฒนาการจับคู่ธุรกิจและโปรเจคที่ซับซ้อน  เขาคล่องในภาษาอังกฤษและจีน

"ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาได้เข้าร่วมบริษัท Paul ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นสมาชิกที่ทรงคุณค่าของทีม channel management ของเราแล้ว" รองประธานฝ่ายการขายในต่างประเทศของ Rocket, Chip Salyards กล่าว “ด้วยความรู้ทางวัฒนธรรมในวงกว้างและประสบการณ์ในการจัดการช่องทางการสื่อสารและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ Paul จะช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่สำคัญต่างๆ  ผมตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับเขาและทีม APAC เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคที่สำคัญนี้"

"ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมใน APAC ของ Rocket ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว" Lin กล่าว “ทุกๆ วันบริษัทและรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกใช้โซลูชั่นของ Rocket เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยให้กับแอพพลิเคชันด้านการเงิน การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และการผลิตที่สำคัญที่สุดในโลก  ปัจจุบันมีความต้องการในตลาด APAC มากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีประเภทนี้ จึงก่อให้เกิดความสนในโซลูชันของเรา

Rocket ปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คู่ค้าที่มีอยู่ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ IBM®, Silverlake, Multipolar Technology, Metro Systems และ S&I Systems  ปัจจุบันบริษัทกำลังดำเนินการโครงการริเริ่มต่างๆ  ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งรวมถึงโครงการเพื่อยกระดับเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อกับประชาชนทั่วไปได้ดีขึ้นและช่วยให้ธนาคารต่างๆ สามารถให้บริการที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกค้า

นายเอกชัยลิ้ม ประเสริฐ รองประธานกลุ่มธุรกิจดิจิตอลโซลูชั่นส์ที่บริษัทเมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีด้านไอทีในกรุงเทพฯ ที่ทำการปรับแต่งโซลูชั่นของ Rocket ให้กับ ธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในตลาดเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "MSC และ Rocket มีความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งวัดได้จากผลประกอบการทางการเงินในปัจจุบัน Rocket มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับเราเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ในขณะที่สร้างโอกาสในการบุกเบิกตลาดใหม่ๆ "

เกี่ยวกับ Rocket Software

Rocket Software ((www.rocketsoftware.com) เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ช่วยองค์กรต่างๆ ในระบบนิเวศน์ของ IBM สร้างโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการในปัจจุบันพร้อมทั้งขยายมูลค่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีของพวกเขาต่อไปในอนาคต  บริษัทหลายพันแห่งไว้วางใจ Rocket ในการแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ท้าทายที่สุดโดยช่วยให้พวกเขาใช้โครงสร้างพื้นฐานและข้อมูลที่มีอยู่รวมถึงการขยายสินทรัพย์เหล่านั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ การวิเคราะห์ และนวัตกรรมในอนาคตอื่นๆ  Rocket ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 ตั้งอยู่ที่เมืองวอลแทม รัฐแมสซาชูเซตส์และมีที่ตั้งในยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180923005021/en/

ติดต่อ:

VerbFactory for Rocket Software

Richard Berman, +1-415-359-4906

richard@verbfactory.com

ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเริ่มเปิดทำการอีกครั้งหลังจากความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่น

Logo

สำนักงานการท่องเที่ยวของคันไซผลิตวิดิโอออนไลน์ตัวใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับมา หลังจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของท่าอากาศยาน 

โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–21 ก.ย. 2018

สำนักงานการท่องเที่ยวของคันไซเปิดตัววิดีโอออนไลน์มุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศในวันนี้ โดยแจ้งว่าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 กันยายน ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกู้ได้ฟื้นตัวกลับมาให้บริการได้เกือบทั้งหมดทุกฟังก์ชั่นการดำเนินงาน หลังจากได้รับความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงต้นเดือนกันยายนจากไต้ฝุ่น 21 ซึ่งทำให้สนามบินต้องปิด ซึ่งส่งผลให้มีการลดลงของนักท่องเที่ยวขาเข้าในภูมิภาคเป็นอย่างมาก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณลักษณะเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180921005195/en/

(Graphic: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ไต้ฝุ่น 21 ได้เข้ามาสู่เขตคันไซเมื่อวันที่ 4 กันยายนซึ่งส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักในภูมิภาคคันไซ รวมถึง สนามบินนานาชาติคันไซ รันเวย์ถูกน้ำท่วมและอาคารและอุปกรณ์ที่อาศัยระบบไฟฟ้าและสะพานเทียบเครื่องบินได้รับความเสียหาย ส่งผลต่อการดำเนินงาน อย่างไรก็ดี ตอนนี้บริการกลับคืนมาสู่ระดับก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วด้วยการสนับสนุนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด

สำนักงานการท่องเที่ยวคันไซ ร่วมกับองค์กรด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวต่าง ๆ และรัฐบาลท้องถิ่นในพื้นที่คันไซ เพื่อสนับสนุนมาตรการต่างๆในการส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว วิดีโอดังกล่าวนี้เป็นการแจ้งผู้เดินทางมายังคันไซจากส่วนต่าง ๆ ของเอเชีย เกี่ยวกับการฟื้นตัวของท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ซึ่งตอนนี้สามารถมีการดำเนินงานตามปกติแล้ว ประธาน Masayoshi Matsumoto และทุก ๆ คนในสำนักการท่องเที่ยวคันไซหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่คันไซอีกครั้ง

ดูวิดีโอที่นี่:

http://welcomekansai.net/

https://youtu.be/HvvQhIcudn4

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180921005195/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:

สำนักการท่องเที่ยวคันไซ

Munehisa Kuwahara / Shuichi Tsuboi, + 81-6-6223-7200

tsuboi-shuichi@kansai.gr.jpโยะ

http://kansai.gr.jp/

ที่อยู่: อาคาร Osaka Nakanoshima, 7F 2-2-2 Nakanoshima, Kita-ku, Osaka 530-0005

Western Union ประกาศบรรเทาทุกข์เนื่องจากสถานการณ์ใต้ฝุ่นมังคุด

Logo

เดนเวอร์–(BUSINESS WIRE)–19 ก.ย. 2018

เพื่อสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากพายุไต้ฝุ่นมังคุดในประเทศฟิลิปปินส์ Western Union ซึ่งเป็นผู้นำด้านการเคลื่อนไหวเงินข้ามพรมแดนและข้ามสกุลเงิน ได้ประกาศในวันนี้ถึงการจัดให้มีการตอบสนองหลายด้านเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ โดยเมื่อรวมยอดความช่วยเหลือทั้งหมดทั้งจาก Western Union มูลนิธิ Western Union ตัวแทนและพนักงานผ่านความพยายามที่ครอบคลุม ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นยอดเงินรวมกันถึง 275,000 เหรียญสหรัฐ

"เหตุการณ์น้ำท่วมและแผ่นดินถล่มจากไต้ฝุ่นทำให้เกิดความเสียหายและการสูญเสียชีวิตอย่างสาหัส" รองประธานและหัวหน้ามูลนิธิ Western Union Elizabeth Roscoe กล่าว "ในฐานะองค์กร เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการบรรเทาทุกขภัยและการสร้างสิ่งทดแทนขึ้นมาใหม่อย่างยั่งยืนสำหรับชุมชนที่อยู่ในภาวะวิกฤต ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าต่อไปนี้ เราจะทำงานร่วมกับตัวแทนของ Western Union พนักงาน และสหพันธ์สภากาชาดระหว่างประเทศและสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงนานาชาติ เพื่อช่วยให้ชุมชนฟื้นตัวขึ้น "

Western Union มีพันธะสัญญามูลค่า 50,000 เหรียญสหรัฐ และมูลนิธิ Western Unionได้ให้การสนับสนุนสหพันธ์อินเตอร์เนชั่นแนลจำนวน 30,000 เหรียญสหรัฐ ต่อสภากาชาดและสมาคมเสี้ยววงเดือนแดง มูลนิธิ Western Union จะเสนอให้เงินบริจาคเพิ่มแบบ 1:1 หรือ ทุก 1 เท่าของการบริจาคของตัวแทนของ Western Union ที่เข้าร่วมโครงการ แต่ไม่เกิน 75,000 เหรียญสหรัฐ และจะให้เงินบริจาคเพิ่มแบบ 2: 1 หรือ 2 เท่าจากเงินช่วยเหลือที่บริจาคโดยพนักงานของ Western Union แต่ไม่เกิน 15,000 เหรียญสหรัฐ นับถึงวันนี้ตัวแทนที่เข้าร่วมโครงการบริจาคแบบ 1: 1 ได้แก่ : Universal Storefront Services Corp., Perahub, eBusiness Services Inc. และ Direct Agent 5 Inc.

Western Union มีประวัติอันยาวนานว่าเป็นหนึ่งในผู้ช่วยเหลือชุมชนในยามที่ชุมชนต้องการความช่วยเหลือ ในหลายกรณี Western Union เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่วิธีที่ผู้คนทั่วโลกจะได้รับเงินบริจาคอย่างง่ายดาย  ในยามที่โครงสร้างพื้นฐานหรือระบบอื่น ๆ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

เวสเทิร์นยูเนี่ยนและมูลนิธิเวสเทิร์นยูเนี่ยนเป็นผู้ อยู่แนวหน้า ของความพยายามในการบรรเทาสาธารณภัยใหญ่ ๆ เช่น เฮอร์ริเคนมาเรีย ในเปอร์โตริโก พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ในรัฐเท็กซัส และ พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ในแคโรไลนา ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา มูลนิธิเวสเทิร์นยูเนี่ยนได้บริจาคเงินกว่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อบรรเทาทุกข์ 180 ภัยพิบัติ ใน 80 ประเทศทั่วโลก ปีที่แล้วมูลนิธิ Western Union ได้ตอบสนองต่อ ภัยพิบัติ 13 แห่ง ทั่วโลก

เนื่องจากความรุนแรงของใต้ฝุ่นมังคุด สถานที่ตัวแทนของ Western Union บางแห่งอาจไม่สามารถใปฏิบัติงานได้ทันที หรืออาจไม่มีเงินทุนเพียงพอ

เกี่ยวกับ Western Union

บริษัท Western Union (NYSE: WU) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการเคลื่อนย้ายเงินข้ามพรมแดน แพลตฟอร์ม การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหลายช่องทางของเราเชื่อมต่อโลกดิจิทัลและโลกทางกายภาพ และทำให้ผู้บริโภคและธุรกิจสามารถส่งและรับเงินและชำระเงินด้วยความรวดเร็วง่ายดายและเชื่อถือได้ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา เครือข่ายของเรามีพื้นที่ตัวแทนจำหน่ายกว่า 550,000 แห่งซึ่งให้บริการภายใต้แบรนด์ Western Union, Vigo หรือ Orlandi Valuta ในกว่า 200 ประเทศและเขตแดน ซึ่งมีความสามารถในการส่งเงินไปยังบัญชีต่างๆได้หลายพันล้านบัญชี นอกจากนี้ westernunion.com ซึ่งเป็นช่องทางที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2017 ยังสามารถให้บริการในกว่า 45 ประเทศและเขตการปกครองเพื่อเคลื่อนย้ายเงินไปทั่วโลก ในปี 2017 บริษัท ได้โอนเงินจำนวนกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในเกือบ 130 สกุลเงิน และมีการทำธุรกรรม 32 รายการต่อทุก ๆ วินาที ตลอดทั่วทั้งบริการของเรา ด้วยการเข้าถึงทั่วโลกของเราทำให้ Western Union เคลื่อนย้ายเงินได้ดีขึ้น ช่วยให้มีการเชื่อมต่อกับครอบครัว เพื่อนฝูง และธุรกิจต่าง ๆ เพื่อช่วยให้เกิดการรวมกลุ่มทางการเงินและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.westernunion.com

เกี่ยวกับมูลนิธิ Western Union มูลนิธิ

มูลนิธิ Western Union เชื่อว่าการศึกษาถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยความร่วมมือกับเอ็นจีโอทั่วโลก มูลนิธิฯ ได้เริ่มดำเนินภารกิจในระยะเวลาห้าปี (ถึงปี 2020)ในการเชื่อมโยงผู้อพยพผู้ลี้ภัย สตรี และคนหนุ่มสาวจำนวนกว่า 50,000 คน เข้าสู่เศรษฐกิจโลก ผ่านการฝึกอบรมทักษะด้านแรงงานและโครงการจัดหาแรงงาน มูลนิธิฯ ยังเสนอ โครงการทุนการศึกษาระดับโลกที่ช่วยวางการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในการเข้าถึงสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาในสาขา STEM และธุรกิจ ปัจจุบันมูลนิธิฯมีการระดมทุนมากกว่า 117 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน 137 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับชุมชนที่กำลังประสบภาวะวิกฤต มูลนิธิ Western Union เป็น บริษัทลที่แยกตัวออกมาเพื่อทำงานการกุศล ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีภายใต้มาตรา 501 (c) (3) ของประมวลรัษฎากรภายในของสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท Western Union ตลอดจนถึงพนักงาน ตัวแทน และหุ้นส่วนทางธุรกิจของ Western Union โดยเงินบริจาคกับมูลนิธิสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเพื่อวัตถุประสงค์ด้านภาษีเงินได้ของสหรัฐอเมริกาได้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดไปที่ www.westernunionfoundation.org หรือติดตามเราได้ที่ Twitter @ TheWUFoundation

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180919005100/en/

ติดต่อ:

Western Union

Rachel Rogala, + 1-303-808-2674

Rachel.Rogala@wu.com

ชาร์จาห์ประกาศเปิดศูนย์บริการนักลงทุนครบวงจรแห่งแรกของรัฐ

Logo

ศูนย์ลงทุนแห่งใหม่จะเป็นใจกลางที่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกเข้าถึงบริการ และเป็นหัวใจสำคัญในการส่งเสริมบริการสำหรับนักลงทุนภายในรัฐ

ชาร์จาห์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–19 กันยายน 2018

ด้วยความพยายามที่จะสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติที่มีความสนใจขยายการเติบโตด้านการลงทุนในตลาดต่างประเทศอย่างเช่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐชาร์จาห์ ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของประเทศ ได้ประกาศเปิดศูนย์บริการนักลงทุน ซึ่งเป็นโครงการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจแบบดิจิทัลที่เข้มแข็ง

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20180919005444/en/

General photo of Sharjah (Photo: Shurooq)

ทัศนียภาพทั่วไปของชาร์จาห์ (รูปภาพ: Shurooq)

Shurooq หน่วยงานด้านการลงทุนและพัฒนาของรัฐ ได้ร่วมกับ Injazat Services พัฒนาศูนย์อำนวยความสะดวกที่มีความทันสมัยแห่งนี้ขึ้น เพื่อมอบบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจอย่างครบวงจร ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้เล่นรายใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาลงทุนบนแผ่นดินสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

หน่วยงานของรัฐแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยความสะดวกหลักสำหรับเจ้าของธุรกิจจากทั่วโลกและนักลงทุนในชาร์จาห์เอง โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีคอยให้บริการ ศูนย์บริการแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนทั้งระดับสูงและระดับกลางในทุกภาคส่วนภายในรัฐ

ด้วยศูนย์บริการแห่งนี้ นักลงทุนจะสามารถติดต่อกับหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐได้โดยตรง และสามารถเข้าถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการออกใบอนุญาตด้านการค้าและการดำเนินการด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในชาร์จาห์ เพื่อทำให้ทุกอย่างมีความโปร่งใส ได้คุณภาพและมีประสิทธิภาพ

เจ้าหน้าที่จาก Shurooq ได้กล่าวถึงเบื้องหลังการก่อตั้งศูนย์บริการแห่งนี้ว่ามีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการดึงดูดด้านธุรกิจให้กับรัฐชาร์จาห์ด้วยการให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่มีความทันสมัย โดยไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นด้วยตนเอง

เศรษฐกิจของชาร์จาห์มีความหลากหลายมากขึ้นในช่วงเวลาอันรวดเร็วและมีการเติบโตอย่างสูงในภาคส่วนอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากน้ำมัน เช่น การท่องเที่ยว สุขภาพ การคมนาคมและการขนส่ง อุตสาหกรรมเบา การพิมพ์และอื่น ๆ ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติในรัฐสร้างการเติบโตด้านเศรฐกิจมูลค่า $1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา

-สิ้นสุดเนื้อหา-

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180919005444/en/

ติดต่อ:

SHUROOQ
Mousa Nimer

มือถือ +971 50 222 0561
m.nimer@nncpr.com

ท่าอากาศยานนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามการจัดอันดับของOAG Megahubs International ประจำปี 2018

Logo

ท่าอากาศยานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงครองความเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อของเที่ยวบินราคาประหยัดต่อไป

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–18 ก.ย. 2018

หกสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถูกจัดลำดับให้อยู่ใน 20 อันดับท่าอากาศยานที่มีการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ OAG’s International Megahubs Index 2018 ซึ่งจัดอันดับสัดส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างประเทศที่สูงที่สุด กับจำนวนจุดหมายปลายทาง

สนามบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกติดอันดับ 5 อันดับแรกในการเป็น Megahubs แห่งการเชื่อมต่อ:

  • สนามบิน Changi ประเทศสิงคโปร์- ที่อันดับ 8
  • สนามบิน  Soekarno-Hatta International จาการ์ตา – ที่อันดับ 10
  • Kuala Lumpur International – ที่อันดับ 12
  • Hong Kong International – ที่อันดับ 13
  • สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานาคร – ที่อันดับ 14

ในส่วนของการเป็นฮับขนาดใหญ่ หรือ  Megahubs ต้นทุนต่ำระหว่างประเทศนั้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนามบินต้นทุนต่ำ การขยายเส้นทางการบิน และการขยายการรองรับจำนวนที่นั่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้ กัวลาลัมเปอร์อินเตอร์เนชั่นแนลซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียอย่างแอร์เอเชีย สนามบิน Soekarno-Hatta International ของจาการ์ต้า  และ และสนามบิน Changi ของสิงคโปร์ สามารถรักษา 3 อันดับแรกของโลกไว้ได้ โดยมีสนามบิน Ninoy Aquino นานาชาติเมืองมะนิลา มี่ขยับขึ้นจากอันดับที่ 12 สู่อันดับที่ 4 โดยการให้บริการจาก Cebu Pacific ที่มีการปฏิบัติการเป็นหนึ่งในสามของทุกเที่ยวบิน

ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตงเป็นสนามบินของจีนที่มีความเชื่อมต่อมากที่สุดในประเทศ ซึ่งอยู่ที่อันดับที่ 24 โดยมีท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจวไป่หยุน และท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้านความจุของที่นั่ง อยู่ในลำดับที่ 31 และ 32  ขณะนี้ท่าอากาศยานนานาชาติต้าซิงปักกิ่งกำลังเป็นที่จับตามอง โดยสนามบินแห่งนี้มีกำหนดจะเปิดให้เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2019

Mayur Patel ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาค JAPAC แห่ง  OAG กล่าวว่า "ความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากสำหรับการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศทำให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นจุดสำคัญสำหรับการเชื่อมต่อเที่ยวบิน ความเป็นผู้นำในด้านนี้ของเอเชียมีความชัดเจนอยู่แล้ว แต่เรามีแนวโน้มที่จะได้เห็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกครั้งเมื่อมีการเปิดสนามบินปักกิ่งแห่งใหม่ ด้วยแรงผลักดันของจีนด้านการเติบโตของการเดินทางทางอากาศในปัจจุบัน เราคาดว่าจะมีการเชื่อมต่อกันกับฮับในฮ่องกง ซึ่งขณะนี้มีการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากผู้ประกอบการหลักอย่าง Cathay Pacific และ Cathay Dragon ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะได้เห็นวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นต่อ ๆ ไป”

 ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG

เป็นผู้นำทางการตลาดด้านการท่องเที่ยวเป็นเวลาหลายปี เรามีเครือข่ายข้อมูลการเดินทางทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งรวมถึงฐานข้อมูลตารางเวลาที่แน่นอนของสายการบินกว่า 980 แห่งและฐานข้อมูลสถานะเที่ยวบินที่ครอบคลุมที่สุดในตลาดเที่ยวบิน ซึ่งสามารถแทร็คติดตามสายการบินได้กว่า 96%

วันนี้เครือข่ายลูกค้าของ OAG รวมถึงสายการบินและสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (online travel agents (OTAs)) บริษัทด้านการจองห้องพักที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผู้นำด้านการเดินทาง เทคโนโลยี และอีคอมเมิร์ซชั้นนำทั่วประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม: www.oag.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20180918005049/en/

ติดต่อ:

Esther Molina

T: +86 136 7179 3896 / E: esthertsj@outlook.com

งานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ

Logo

งานแสดงสินค้ารูปแบบใหม่นี้เป็นการแสดงสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างโอกาสในการนำเข้าและส่งออกสินค้าในอาเซียนและตลาดทั่วโลก

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–17 กันยายน 2018

งานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 จะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ปีหน้า ตามโครงการเพื่อส่งเสริมการตลาดบนเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (One Belt, One Road) งานแสดงสินค้ารูปแบบใหม่นี้จะช่วยส่งเสริมการค้าแบบเสรี กระตุ้นการรวมตัวของตลาด และสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ ภายในภูมิภาคอาเซียน

งานแสดงสินค้าดังกล่าวจะจัดขึ้นโดย คอมเอเชีย จำกัด ร่วมกับ เอ็น.ซี.ซี เอ๊กซิบิชั่น ออกาไนซ์เซอร์ จำกัด ระหว่างวันที่ 21 – 23 สิงหาคม 2019 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้ค้าปลีก บริษัทการค้า ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และผู้ค้าออนไลน์ ได้มีโอกาสนำเข้าสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์มายังอาเซียน และส่งออกสินค้าที่ผลิตในอาเซียนไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคและทั่วโลก ในงานจะมีบูธแสดงสินค้าราวห้าร้อยบูธ จัดแสดงสินค้ามากมาย ตั้งแต่ของขวัญ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของเล่น อุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องใช้ในครัว งานศิลป์ งานฝีมือ และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน

เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการตลาดบนเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 งานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 จะให้ความสำคัญกับสินค้าจากอาเซียน และเป็นเวทีสนับสนุนธุรกิจในอาเซียนในตลาดทั่วโลกซึ่งมีการแข่งขันกันสูง

“งานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 จะจัดขึ้นในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากความสำเร็จอย่างมากในการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศไทย ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน ซึ่งจะช่วยสร้างศักยภาพให้กับบริษัทในภูมิภาคได้อย่างมาก ในการแข่งขันด้านการนำเข้าและส่งออกในตลาดโลก” นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ๊กซิบิชั่น ออกาไนซ์เซอร์ จำกัด กล่าว

งานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 เป็นงานจัดแสดงสินค้าในเครือ ออคโทเบอร์ โชว์ ของฮ่องกง ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นงานที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในเอเชีย

“เช่นเดียวกับงานฮ่องกงออคโทเบอร์โชว์ ซึ่งจัดโดย คอมเอเชีย จำกัด เราจะให้ความสำคัญในการจัดงานเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 กับการค้าในอาเซียน เพื่อสร้างโอกาสให้บริษัทในอาเซียนสามารถออกเดินทางบนเส้นทางสายไหมใหม่ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์และคู่ค้ารายใหม่ทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค” นายปีเตอร์ เฉิน ผู้อำนวยการ บริษัท คอมเอเชีย จำกัด กล่าว

พร้อมกันนี้ จะมีการจัดงานเกมส์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เครื่องมือสันทนาการ ณ ฮอลล์ 99 ของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

เกี่ยวกับงานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019

งานแสดงสินค้าเอเชียไลฟ์สไตล์เอ็กซ์โป 2019 เป็นนิทรรศการรูปแบบใหม่ที่จัดแสดงสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์เพื่อสร้างโอกาสด้านการนำเข้าและการส่งออกในภูมิภาคอาเซียนและตลาดโลก มีกำนดจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 21 – 23 สิงหาคม 2019 และจะจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ อย่างครบครันตั้งแต่ของขวัญ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของเล่น อุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องใช้ภายในครัว งานศิลป์ งานฝีมือ และของใช้ภายในบ้าน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.asialifestyleexpo.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20180913006170/en/

ติดต่อ:

Spark Communications
Jerome Richard
+66909025407
jerome@spark.co.th