กลุ่ม Mitsui Chemicals Group และ ARRK Thailand จัดนิทรรศการ MotionTech 2024 เป็นครั้งแรก

Logo

จัดแสดงวัสดุและเทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–13 กุมภาพันธ์ 2024

Mitsui Chemicals Asia Pacific (MCAP) – กลุ่มMitsui Chemicals และ ARRK Thailand จะร่วมกันจัดนิทรรศการสาธารณะในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งจะจัดแสดงวัสดุและเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับการขับเคลื่อนแห่งอนาคต ที่ได้พัฒนาโดยกลุ่ม Mitsui Chemicals และกลุ่ม ARRK นิทรรศการ MotionTech 2024 จะเป็นนิทรรศการลักษณะดังกล่าวครั้งแรกของทั้งสององค์กร

ผู้เข้าชมสามารถชมเทคโนโลยีล่าสุดและวัสดุที่ใช้งานได้จริงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งจัดขึ้นมากกว่าสองช่วง นอกจากนั้นยังมีนิทรรศการ touch-and-feel (สัมผัสและรับรู้) สำหรับวัสดุต่างๆ ที่ผลิตโดยกลุ่ม Mitsui Chemicals นอกจากนี้ MOLp (Mitsui Chemicals Material Oriented Laboratory) ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในญี่ปุ่น จะมาปรากฏตัวพร้อมกับผลิตภัณฑ์บางส่วนที่นำเสนอไปในนิทรรศการครั้งก่อนๆอีกด้วย

งานนี้ได้รับความร่วมมืออย่างภาคภูมิใจโดย Mitsui Chemicals Asia Pacific, Mitsui Chemicals (Thailand) และ ARRK Thailand

รายละเอียดของนิทรรศการ

ช่วงแรก

วันที่

15 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2024

สถานที่

โรงแรม Nikko Hotel กรุงเทพฯ (ชั้น4)

27 ทองหล่อ, คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110

ช่วงที่สอง

วันที่

20 กุมภาพันธ์ 2024

สถานที่

โรงแรม Pacific Park ศรีราชา

2 1 ศรีราชานคร 3, ศรีราชา, อ.ศรีราชา, ชลบุรี 20110

เข้าชมได้ฟรี รับวอล์คอินสำหรับทุกท่าน (Walk-in) ไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า เชิญเข้าชมเว็บไซต์ Asia Pacific website เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ MotionTech 2024 หรือท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

เกี่ยวกับ MOLp

MOLp™ เป็นโครงการห้องปฏิบัติการแบบเปิดโดย Mitsui Chemicals Group ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่และคุณค่าเชิงฟังก์ชันของวัสดุโดยการใช้ประสาทสัมผัสที่หลากหลายอย่างเต็มที่

เชิญเยี่ยมชมเว็บไซต์ MOLp™ website เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับแรงบันดาลใจเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้

บางโครงการของ MOLp™ จะนำเสนอใน MotionTech 2024 ด้วย:

321 IDEA CAVE

https://youtu.be/QJ4Uvl2k-Tk?si=bc0R-yIYK6b1YTB2

NAGORI® products

https://youtu.be/-zpoeglo8zc?si=kDCMTr-ojw4IKLgY

TAFNEX™ bench

https://jp.mitsuichemicals.com/en/release/2022/2022_1018/index.htm

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53893280/en

ติดต่อ

หากต้องการสอบถามเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ โปรดติดต่อ:

Eric Lim
การสื่อสารองค์กรและการตลาด
Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd.
eric.lim@mitsuichemicals.com

แหล่งที่มา: Mitsui Chemicals Asia Pacific 


ZCG ประกาศความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ Scuderia Ferrari

Logo

ขยายความร่วมมือและความร่วมมือที่ประสบความสําเร็จสําหรับ Formula 1 ฤดูกาล 2024

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–6 กุมภาพันธ์ 2024

Z Capital Group ("ZCG") ประกาศในวันนี้ว่าได้ลงนามเป็นพันธมิตรทีมกับ Scuderia Ferrari สําหรับ Formula 1 ฤดูกาล 2024 ความมุ่งมั่นนี้จะสานต่อความร่วมมือที่ประสบความสําเร็จระหว่าง ZCG และ Scuderia Ferrari ที่เริ่มขึ้นในปี 2023

ความร่วมมือในปี 2023 ประกอบด้วยความคิดริเริ่มด้านความร่วมมือและนวัตกรรมมากมาย และในช่วง Formula 1 ฤดูกาล 2024 ZCG ตั้งเป้าที่จะทํางานอย่างใกล้ชิดกับ Scuderia Ferrari เพื่อขยายความคิดริเริ่มเหล่านี้ และค้นหาวิธีใหม่ๆที่สร้างสรรค์เพื่อดึงดูดแฟน Formula 1 ทั่วโลก เนื่องจาก ZCG เป็นที่รู้จักในระดับสากล

Scuderia Ferrari จะเปิดตัวรถ Formula 1 ปี 2024 ในวันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2024 ในฐานะพันธมิตรทีมที่โดดเด่น ZCG จะแสดงโลโก้บนตัวรถอย่างโดดเด่นตลอดการแข่งขัน Formula 1 World Championship ปี 2024 โดยเริ่มต้นที่ Bahrain Grand Prix ในวันที่ 2 มีนาคม นอกเหนือจากการจัดวางโลโก้แล้ว ความร่วมมือนี้ยังรวมถึงการทํางานร่วมกันในวงกว้างขึ้น และการมีส่วนร่วมหลายแง่มุม ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการก้าวสู่ความสําเร็จและการเติบโต สําหรับความร่วมมือระหว่าง Scuderia Ferrari และ ZCG

"เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในความสัมพันธ์ของเรา และตั้งตารอที่จะสนับสนุน Scuderia Ferrari ต่อไป และต่อยอดจากความสําเร็จของความร่วมมือของเราในฤดูกาล 2023" James Zenni ผู้ก่อตั้ง ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ZCG กล่าว " Ferrari ก้าวข้ามขีดจำกัดของนวัตกรรม และการขยายตัวไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ZCG แบ่งปันวิสัยทัศน์ของ Scuderia Ferrari ในด้านความเป็นเลิศและการเติบโตเชิงกลยุทธ์ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานกันต่อไป ซึ่งจะสามารถนําประสบการณ์และความตื่นเต้นของ Formula 1 มาสู่แฟนๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น"

"เรามีความยินดีที่ได้ต่ออายุความร่วมมือกับ ZCG ซึ่งเรามีความหลงใหลในความเป็นเลิศและความปรารถนาที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของนวัตกรรม โดยไม่ละสายตาจากคุณค่าและอํานาจที่เกิดจากประสบการณ์หลายทศวรรษในสาขาของเรา" Lorenzo Giorgetti ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้จากการแข่งรถของ Scuderia Ferrari กล่าว "เรากระตือรือร้นที่จะทํางานร่วมกับ ZCG ต่อไป เพื่อเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างยิ่งขึ้น เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครของ Formula 1 และโลกที่พิเศษสุดของ Scuderia Ferrari"

หนึ่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่น่าตื่นเต้นและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก Formula 1 ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะทั่วสหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ชมโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปี 2018 ถึง 2023 โดยมีผู้ชมเฉลี่ย 1.11 ล้านคนต่อการแข่งขันในช่วงฤดูกาล 2023 ZCG ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตของ Formula 1 ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Scuderia Ferrari ซึ่งเป็นทีมที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกีฬาประเภทนี้

เกี่ยวกับ ZCG

ZCG เป็นผู้นําในอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วยการจัดการสินทรัพย์ในตลาดเอกชน บริการให้คําปรึกษาทางธุรกิจ การพัฒนาเทคโนโลยี และโซลูชั่น

เป็นเวลาเกือบ 30 ปีที่ ZCG Principals ได้ลงทุนหลายหมื่นล้าน และมีผลงานชั้นนําของอุตสาหกรรมในด้านไพรเวทอิควิตี้และสินเชื่อ

ZCG มี AUM ประมาณ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐในด้านการจัดการสินทรัพย์ และนักลงทุนของบริษัทเป็นนักลงทุนสถาบันระดับโลกรายใหญ่ที่สุดและเชี่ยวชาญที่สุดกลุ่มหนึ่ง รวมถึงกองทุนบําเหน็จบํานาญ กองทุนการกุศล มูลนิธิ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ธนาคารกลาง และบริษัทประกันภัย

ZCG มีทีมงานระดับโลกที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คน สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมwww.zcg.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tim Ragones / Kate Thompson / Erik Carlson
Joele Frank, Wilkinson Brimmer Katcher
212-355-4449

ที่มา: Z Capital Group

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53890624/en

Exicom ขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเข้าร่วมมือกับ INNOPOWER Co. Ltd. เพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

Logo

  • INNOPOWER Co. Ltd เป็นผู้ดำเนินการหลักในการขยายธุรกิจของ Exicom ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย
  • การเปิดตัวเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขนาด 30kW จำนวนหกเครื่องในการเริ่มต้นความร่วมมือกัน
  • Exicom ดำเนินกิจการในอินเดีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง และตอนนี้ กำลังขยายการดำเนินงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2024

Exicom เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องชาร์จ EV ของอินเดีย เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกภาคส่วนการผลิตเครื่องชาร์จ EV ในอินเดีย และเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก มีการประกาศในวันนี้เกี่ยวกับข้อตกลงการจัดจำหน่ายกับ INNOPOWER Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทนวัตกรรมด้านพลังงานในประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้มีผลต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดย Innopower จะเป็นผู้ดูแลการจัดจำหน่ายเครื่องชาร์จระบบ AC/DC ของ Exicom การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยเสริมฐานตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Exicom ให้เสถียรยิ่งขึ้น โดยมีการจัดตั้งเครือข่ายการขายและการจัดจำหน่ายในท้องถิ่น

Exicom Expands in Southeast Asia, Partners with INNOPOWER Co. Ltd. for Exclusive Distribution in Thailand (Graphic: Business Wire)

Exicom ขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเข้าร่วมมือกับ INNOPOWER Co. Ltd. เพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (กราฟิก: Business Wire)

การดำเนินธุรกิจของ Exicom ในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมโซลูชันระบบชาร์จ EV ให้มีความคล่องตัวสูงยิ่งขึ้น โดยมุ่งมั่นในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบเพื่อรองรับ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงการริเริ่มด้านยานยนต์ในการพัฒนาระบบ EV และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเป้าหมายดังกล่าว

การประกาศความร่วมมือระหว่าง Exicom และ INNOPOWER ในระหว่างพิธีลงนาม ถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับพันธมิตรในครั้งนี้ด้วยการติดตั้งเครื่องชาร์จขนาด 30kW จำนวนหกเครื่อง บทบาทหน้าที่ของ INNOPOWER นอกเหนือจากการจัดจำหน่ายแล้ว ยังครอบคลุมการส่งเสริมการขาย การตลาด และการขายผลิตภัณฑ์ของ Exicom ทั่วประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในต่างประเทศ Exicom ยังมีการจัดตั้งเครือข่ายการขายและการจัดหน่ายในท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกทั่วอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Exicom กำลังขยายขอบเขตการดำเนินงานทั่วโลก โดยการกระจายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มีความก้าวหน้าในภูมิภาคใหม่ๆ รวมถึงการเปลี่ยนกระบวนการภายในให้เป็นระบบดิจิทัล

Anant Nahata กรรมการผู้จัดการของ Exicom กล่าวว่า “การตระหนักถึงศักยภาพมหาศาลในการเติบโตของ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และด้วยประสบการณ์ของเราในฐานะผู้ผลิตเครื่องชาร์จ EV ชั้นนำของอินเดีย ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นในภูมิภาคได้ การเป็นพันธมิตรกับ INNOPOWER ซึ่งมีรากฐานเป้าหมายร่วมกันเพื่อการคมนาคมที่ยั่งยืน จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของทั้งสองบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศ เครื่องชาร์จ EV ขั้นสูงของเราจะเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมคุณภาพระดับสูง โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีผลที่สำคัญระดับโลก เมื่อเราขยายผลการดำเนินงานออกในวงกว้าง เป้าหมายของเราก็ยังคงความชัดเจน นั่นคือ การถือบรรทัดฐานในการกำหนดอนาคตการคมนาคมอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเฉพาะประเทศไทย แต่ยังก้าวไกลไปทั่วโลก”

INNOPOWER เป็นบริษัทร่วมทุนขององค์กรพลังงานชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย Ratch Group Public Company Limited และ Electricity Generating Public Company Limited หรือ EGCO Group ที่มีความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมโซลูชันด้านพลังงาน ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 50 ปี บริษัทพร้อมลงทุนในโครงการริเริ่มด้านพลังงานอย่างยั่งยืนทั่วโลก และการร่วมมือกับ Exicom เมื่อเร็วๆ นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินงานอย่างมีวิสัยทัศน์นี้

"เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมมือกับ Exicom เพราะมีความโดดเด่นในความน่าเชื่อถือและศักยภาพความสามารถ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้าของเราในประเทศไทย ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้านการตลาดเครื่องชาร์จ EV ในประเทศ เราจึงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับ Exicom เพื่อช่วยในการขยายเครือข่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นในวงกว้าง รวมถึง เจ้าของยานพาหนะและรถยนต์ส่วนตัว ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของเรา เพื่อส่งเสริมโซลูชันการคมนาคมที่สะอาด และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของระบบนิเวศ EV ในประเทศไทย" Athip Tantivorawong ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของ INNOPOWER กล่าว

ความได้เปรียบจากการบุกเบิกในอินเดียและเรียนรู้ของ Exicom ควบคู่ไปกับการดำเนินงานแบบบูรณาการแนวดิ่ง ความสามารถในการวิจัยและพัฒนา และพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของเครื่องชาร์จ EV ช่วยเสริมให้ Exicom ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องชาร์จ EV ในอินเดียและทั่วโลก ด้วยเครื่องชาร์จที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสภาวะไฟฟ้าที่รุนแรง Exicom นำเสนอเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม นอกเหนือจากนี้ SPIN Control ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือของบริษัทยังช่วยให้ผู้ใช้ในที่พักอาศัยที่มีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การทำงานของเครื่องชาร์จแบบระยะไกล ระบบการวิเคราะห์ ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ และการกำหนดตารางเวลาในการชาร์จโดยอัตโนมัติ

ความร่วมมือกันระหว่าง Exicom และ INNOPOWER เป็นความพยายามในการพัฒนาโซลูชันระบบการชาร์จ EV  ที่ใช้งานง่าย น่าเชื่อถือ และสะดวกสบายในประเทศไทย

เกี่ยวกับ Exicom:

Exicom เป็นผู้นำระดับโลกในการจัดหาโซลูชันพลังงานที่สำคัญ และโซลูชันระบบการชาร์จ EV ในกว่า 10 ประเทศ Exicom เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในภาคส่วนการผลิตเครื่องชาร์จ EV ในอินเดีย และปัจจุบันนี้ กำลังขยายผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญเข้าในยุโรป สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สิงคโปร์ และตะวันออกกลาง กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Exicom ครอบคลุมตั้งแต่ขนาด 3.3kW จนถึง 360kW โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยการผลิตถึงสามหน่วย ฝ่ายการวิจัยและพัฒนาภายในสองแห่ง และเครือข่ายบริการที่สนับสนุน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคตได้ที่ https://www.exicom-ps.com/

เกี่ยวกับ INNOPOWER:

INNOPOWER ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 และกำลังสร้างกระแสด้านภูมิทัศน์ความยั่งยืนของประเทศไทย เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT), RATCH Group และ The Electricity Generating Public Company Limited (EGCO) โดย INNOPOWER เป็นผู้นำด้านการลดคาร์บอน นวัตกรรมพลังงาน และเทคโนโลยีโลกสีเขียว พร้อมพันธกิจในการเร่งปรับเปลี่ยนประเทศไทยเข้าสู่พลังงานสะอาด และขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคส่วนพลังงานและเทคโนโลยี

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคตได้ที่ www.innopower.co.th

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53884492/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media Contacts
Anuj Bakshi
+91 9711306879
anuj.bakshi@adfactorspr.com

Shristy Sonal
+91 8340542348
shristy.sonal@adfactorspr.com

แหล่งข้อมูล: Exicom

ASPIRE ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำหนดนิยามใหม่ของกีฬาแข่งรถเอ็กซ์ตรีมอัตโนมัติ: A2RL เผยโฉมรถ Dallara Super Formula “อัตโนมัติ” ที่งาน GITEX Global 2023

Logo

  • การแข่งรถอัตโนมัติครั้งแรกจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 ที่ Yas Marina Circuit ของอาบูดาบีโดยมีเงินรางวัลรวม 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • 10 ทีมชั้นนำจากสถาบันที่มีชื่อเสียง ได้แก่: University of California, Berkeley, Technical University of Munich และ Nanyang Technological University, Singapore
  • ผู้เข้าร่วมงาน GITEX จะได้ชมรถยนต์รุ่น Dallara SF23 ที่เป็นรถยนต์อัตโนมัติเป็นครั้งแรก

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2023

ASPIRE ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังความท้าทายอันยิ่งใหญ่และการแข่งขันระดับโลกสำหรับสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของอาบูดาบี ได้ประกาศรายละเอียดของ Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ที่เป็นที่รอคอยอย่างยิ่ง ในวันแรกของงาน GITEX Global ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีชั้นนำของโลก A2RL เผยโฉมรถยนต์รุ่นแรกที่เป็น Dallara Super Formula SF23 อัตโนมัติ ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ สิ่งมหัศจรรย์อันทันสมัยนี้สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและทำงานได้โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ จะเปลี่ยนแปลงวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการแข่งขันรอบปฐมฤกษ์ครั้งใหญ่ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2024 ที่ Yas Marina Circuit ของอาบูดาบี

Abu Dhabi Autonomous Racing League - 28th April 2024 - (Photo - AETOSWire)

Abu Dhabi Autonomous Racing League – 28 เมษายน 2024 – (รูปภาพ – AETOSWire)

A2RL เป็นงานประเภทแรกของภูมิภาคที่ผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความเป็นอิสระ และกีฬาเอ็กซ์ตรีมเพื่อผลักดันขอบเขตของการขับเคลื่อนในอนาคต งานนี้กำลังได้รับความสนใจว่าเป็นลีกการแข่งรถอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะจัดแสดงการแข่งรถอัตโนมัติ การแข่งโดรน และการแข่งรถบักกี้บนเนินทราย

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการของ ATRC ซึ่งเป็นองค์กรแม่ของ ASPIRE กล่าวว่า "ที่จุดบรรจบกันของวิทยาศาสตร์ กีฬา และเทคโนโลยี ความเป็นอิสระกำลังจะปฏิวัติอนาคตของการคมนาคมขนส่ง Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของ Abu Dhabi ในฐานะศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับนานาชาติ และเป็นพื้นที่ทดสอบชั้นนำสำหรับทดลองโซลูชันอัตโนมัติแบบพิสูจน์แนวคิด โดยการนำนักวิทยาศาสตร์ ผู้พัฒนา และผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดจากทั่วโลกมารวมตัวกันในสนามกีฬาเอ็กซ์ตรีม เราจึงทดสอบความสามารถต่อความทนทานอย่างแข็งขัน เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของเรา"

วันแข่งรอบปฐมฤกษ์ (การแข่งรถยนต์) จะนำเสนอภาพรวมของอนาคตของ AI ซึ่งเป็นการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นระหว่างประสบการณ์เสมือนจริงและชีวิตจริง และการแนะนำความบันเทิงกีฬาเอ็กซ์ตรีมยุคใหม่

ทีมชั้นนำ 10 ทีมจากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยระดับนานาชาติได้ยืนยันการเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์อัตโนมัติ และจะแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัล 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทีมที่เข้าร่วมได้แก่ Beijing Institute of Technology และ Khalifa University (จีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), Code19 Racing และ Indiana University (สหรัฐอเมริกา), Constructor Group (สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์), Hungarian Mobility Development Agency (ฮังการี), Kinetiz & Nanyang Technological University (สิงคโปร์), Politecnico di Milano (อิตาลี), Technical University of Munich (เยอรมนี), Technology Innovation Institute (UAE), University of California, Berkeley และ University of Hawaii (สหรัฐอเมริกา), University of Modena and Reggio Emilia (อิตาลี)

ทีมที่เข้าร่วมแต่ละทีมจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงรถยนต์ Dallara Super Formula SF23 ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ A2RL รถยนต์คันนี้ผลิตจากวัสดุคอมโพสิตชีวภาพที่ยั่งยืน ซึ่งมีน้ำหนัก 690 กิโลกรัม และปัจจุบันเป็นรถแข่งแบบเปิดล้อที่เร็วที่สุดในโลกรองจาก Formula One ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม.รถยนต์คันนี้มีระบบเบรกขั้นสูง ชุดระบบอัตโนมัติที่สร้างขึ้นเอง และระบบควบคุมคันเร่งแบบขับเคลื่อนด้วยลวด ทั้ง 10 ทีมจะมีโอกาสปรับใช้อัลกอริธึมซอฟต์แวร์ของตนบนยานพาหนะที่ล้ำสมัยคันนี้เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง ผู้เยี่ยมชม GITEX Global สามารถชมโมเดลอัตโนมัติได้ที่บูธ Advanced Technology Research Council (ATRC) – B10 ในฮอลล์ 17 ที่ Dubai World Trade Centre ตลอดช่วงห้าวันของการจัดงาน

ดร. Tom McCarthy กรรมการบริหารของ ASPIRE แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับโครงการริเริ่มนี้ว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำกิจกรรมการแข่งรถอัตโนมัติมาสู่อาบูดาบี และแสดงให้โลกเห็นผ่าน A2RL โครงการริเริ่มนี้ไม่เพียงแต่กำหนดนิยามใหม่ของอนาคตของการขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่คิดและสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นในการแข่งขันระดับนานาชาติอันน่าตื่นเต้น การเตรียมทีมแข่งขันด้วยรถยนต์ Dallara SF23 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ พร้อมด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ได้มุ่งเน้นที่ทักษะของผู้ขับขี่ แต่มุ่งเน้นเกี่ยวกับเทคโนโลยี การเขียนโปรแกรม และอัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ช่วยให้ยานพาหนะเหล่านี้สามารถขับเคลื่อนในสนามแข่งที่ซับซ้อนด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ”

A2RL คืองานแข่งขันแข่งรถยนต์ประจำปีระดับโลก ซึ่งมอบโอกาสอันมีค่าสำหรับความร่วมมือและการทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา งานนี้เน้นให้เห็นประเด็นสำคัญระดับประเทศ เช่น การเป็นผู้บุกเบิกอนาคตของการคมนาคมขนส่ง การสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรด้าน STEM รุ่นต่อไป การเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจความรู้ของอาบูดาบี และสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมนอกเหนือจากสนามแข่งรถ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม A2RL.io.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604224/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

*ที่มา: AETOSWire

รายชื่อติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร 
jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: ASPIRE

XEV เปิดตัวโมเดล YOYO รุ่นล่าสุดที่งาน IAA Mobility พร้อมวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4

Logo

MUNICH, Germany–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

วันที่ 4 เดือนกันยายน ปี 2023 XEV บริษัทเทคโนโลยียานยนต์พลังงานแหล่งใหม่ระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อการคมนาคมในเมืองที่ได้รับการอัปเกรด YOYO ที่ IAA Mobility โดยโมเดล YOYO ใหม่นี้จะเปิดตัวพร้อมกันในประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส และสเปน โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ราคาตั้งต้นที่ 16,990 ยูโร (ไม่รวมอุปกรณ์เสริม) ปัจจุบัน XEV มีการติดตั้งจุดจำหน่ายมากกว่า 120 แห่งในประเทศอิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส และสเปน และคาดว่า จะมีจุดจำหน่ายทั้งหมดในยุโรปกว่า 300 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ทันสมัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการคมนาคมภายในเมือง YOYO ผสมผสานเทคโนโลยี สุนทรียภาพ และการใช้งานได้จริง โดยมีการออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น หน้าต่างไร้กรอบ กลุ่มไฟ LED แบบสามมิติ และหลังคากระจกแบบพาโนรามา ด้วยหน้าจออัจฉริยะความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว (carplay& androidauto) และฟังก์ชันการควบคุมระยะไกลผ่านแอปมือถือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบเครื่องปรับอากาศ เปิดปิดหน้าต่าง ปลดล็อครถยนต์ และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ YOYO ถือเป็นเพื่อนคู่ใจในอุดมคติของคุณสำหรับการคมนาคมาภายในเมือง

ด้วยกำลังไฟเต็มรูปแบบที่ระยะทาง 150 กม. และความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. YOYO มาพร้อมการควบคุมที่แม่นยำและคล่องตัว ช่วยให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจเมือง นอกจากนี้ ด้วยระบบการเปลี่ยนแบตเตอรี่น้ำหนักเบาอันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของ XEV YOYO สามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายใน 3 นาที ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจในการเดินทางโดยไม่หยุดชะงัก

XEV มีการร่วมมือกับ ENI ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในยุโรป เพื่อปรับใช้และสร้างเครือข่ายเพื่อรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั่วยุโรป ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จไฟได้ที่ปั๊มน้ำมันของ ENI ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ ENI จึงช่วยให้ XEV สามารถสร้างสถานีได้กว่า 30 แห่งในห้าเมืองของอิตาลี รวมถึงโรม มิลาน ตูริน และโบโลญจน์ และผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งาน พร้อมการเปิดตัวของ YOYO ในประเทศอิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส สเปน และประเทศอื่นๆ เครือข่ายรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ XEV ก็มีการขยายไปทั่วด้วยเช่นกัน เอื้อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การคมนาคมภายในเมืองที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ในงาน IAA Mobility ปีนี้ XEV ได้เปิดตัวบริการเฉพาะบุคคล Xpression อย่างเป็นทางการ โดยมีการนำเสนอการออกแบบ YOYO แบบต่างๆ ที่สามารถปรับแต่งได้เฉพาะตัว XEV ยังได้ร่วมมือกับ UAAD ที่เป็นแพลตฟอร์มศิลป์ออนไลน์ที่นิวยอร์ก เพื่อนำเสนอตัวเลือกการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมและน่าดึงดูดใจแก่ผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การคมนาคมภายในเมืองมีความสร้างสรรค์และสนุกสนานยิ่งขึ้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53548984/en

ติดต่อ

XEV Global
Benjamin Lu
xev-PR@xev-global.com

แหล่งข้อมูล: XEV

TVS Motor Company และ BMW Motorrad เฉลิมฉลอง 10 ปีแห่งความรุ่งโรจน์ของการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา ในการส่งมอบแรงบันดาลใจระดับโลก

Logo

บังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–16 สิงหาคม 2023

ต้นฉบับการเป็นหุ้นส่วนที่เป็นแบบอย่างในอุตสาหกรรมรถสองล้อ TVS Motor Company และ BMW Motorrad เฉลิมฉลอง 10 ปีอันรุ่งโรจน์ของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ยาวนานของพวกเขา ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ เทคโนโลยี การแบ่งปันความรู้ และการพัฒนาแพลตฟอร์มร่วมกันสำหรับลูกค้าทั่วโลก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างบริษัททั้งสองได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทั่วโลก

TVS Motor และ BMW Motorrad ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวในเดือนเมษายน 2013 เพื่อผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดต่ำกว่า 500cc สำหรับตลาดทั่วโลก ความร่วมมือนี้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์สี่รายการบนแพลตฟอร์ม 310cc ได้แก่ BMW G 310 R, BMW 310 GS, BMW G310 RR และรถจักรยานยนต์เรือธงของ TVS Motor, TVS Apache RR 310 ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 140,000 ราย รถจักรยานยนต์ภายใต้ความร่วมมือนี้จึงเป็นที่ยอมรับในตลาดชั้นนำต่าง ๆ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย

ความสำเร็จของความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญในการขยับขยายความร่วมมือของทั้งสองบริษัทในเดือนธันวาคม 2021 เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งนี้ TVS Motor และ BMW Motorrad กำลังร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึง EV นอกจากนี้ ในฐานะส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ขยายออกไปนี้ ขอบเขตของ TVS Motor ยังรวมถึงการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ BMW Motorrad ในอนาคต การส่งมอบคุณภาพระดับโลก การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และความเป็นอุตสาหกรรม

เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในการเดินทางร่วมกับ BMW Motorrad ความสัมพันธ์อันยาวนานนับทศวรรษของ TVS Motor กับ BMW Motorrad เป็นข้อพิสูจน์ถึงค่านิยมร่วมกันของเราในด้านนวัตกรรม คุณภาพ ความพึงพอใจของลูกค้า ความสามารถด้านวิศวกรรม และการมุ่งเน้นที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นแรงบันดาลใจทั่วโลก เราได้บรรลุจุดสุดยอดแห่งความสำเร็จร่วมกันด้วยการกำเนิดของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งรวมถึง TVS Apache RR 310, BMW G310 RR, BMW G 310 R, BMW 310 GS ที่มีจำหน่ายในตลาดกว่า 100 แห่ง ด้วยการขยับขยายความร่วมมือนี้ไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตและโซลูชันการสัญจรที่ยั่งยืน เรากำลังหารือกันเพื่อขยายเครือข่ายการผลิตของเราออกไปนอกอินเดีย เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตภายใต้ความร่วมมือนี้ รวมถึง BMW CE 02 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราตั้งตารอที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่มุ่งสู่ตลาดใจกลางเมืองทั่วโลกและผู้บริโภครุ่นต่อไปที่ยอดเยี่ยม”Mr. KN Radhakrishnan กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท TVS Motor Company

การครบรอบ 10 ปีนี้เป็นบทพิสูจน์ที่น่าประทับใจถึงความสำเร็จและความแข็งแกร่งของความร่วมมือระหว่าง BMW Motorrad และ TVS Motor สิ่งที่เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้พัฒนาเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา การทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่งของเราได้นำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอที่น่าประทับใจในกลุ่มเครื่องยนต์ต่ำกว่า 500cc นับตั้งแต่เปิดตัว BMW G 310 R และ BMW G 310 GS รุ่นสูบเดี่ยวยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่มีใครเทียบได้ และกลายเป็นเสาหลักของความสำเร็จทั่วโลกของ BMW Motorrad การขยับขยายความร่วมมือนี้ไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตและโซลูชันการสัญจรที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงผลงานชิ้นเอกที่มีเอกลักษณ์และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ BMW CE 02 จึงเป็นขั้นตอนที่สอดคล้องกันในการกำหนดอนาคตร่วมกับ TVS Motor Company”ดร. Markus Schramm หัวหน้า BMW Motorrad

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Nikita Verma: Nikita.verma@tvsmotor.com

แหล่งที่มา: TVS Motor Company

Leapmotor เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดที่งาน Shanghai International Auto Show

Logo

SHANGHAI–(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2023

เมื่อวันที่ 18 เมษายน งาน Shanghai International Auto Show ครั้งที่ 20 ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ และ Leapmotor (Zhejiang Leapmotor Technology Co Ltd, HKG: 9863) ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดในงาน รวมถึง C11 รุ่นช่วงขยาย, 2023 C01, C11 และ T03 โดย Zhu Jiangming ประธานบริษัท Leapmotor พร้อมด้วยผู้บริหารคนอื่น ๆ ได้ผันตัวมาเป็น "super test drivers" และได้ขับรถเป็นการส่วนตัวเพื่อให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิดถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็น "OEM สำหรับผู้ใช้"

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดของ Leapmotor พร้อมคุณค่าที่นำเสนอ ทำให้การเลือกซื้อรถไม่ยุ่งยาก

C11 รุ่นขยายระยะทางมีระยะวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 285 กม. ซึ่งเป็นผู้นำเมื่อเทียบกับในระดับเดียวกัน โดยมีระยะครอบคลุมสูงสุด 1,024 กม. ระยะฐานล้อยาวพิเศษ 2,930 มม. และคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น หน้าจอสามหน้าจอที่สมจริง เบาะหนัง Nappa ประตูไร้กรอบ และห้องควบคุมเสียงดนตรีคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งหมดนี้ช่วยยกระดับประสบการณ์อันหรูหรา นอกจากนี้ C11 รุ่นขยายระยะทางยังติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์การรับรู้ 28 ชิ้น พร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่มากถึง 23 ฟังก์ชันที่เปิดตัวพร้อมกัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับสถานการณ์การขับขี่ที่ซับซ้อนอย่างใจเย็น เช่น ในเมืองและการขับขี่ความเร็วสูงในระยะทางไกล

รุ่น C01 ปี 2023 ติดตั้งเทคโนโลยีการรวมแชสซีแบตเตอรี่ CTC โดยมีระยะทางครอบคลุมสูงสุด 717 กม. ภายใต้ CLTC โดย C01 นั้นมีกำลังสูงสุด 400kW และแรงบิดสูงสุด 720N·m พร้อมที่จับประตูแบบซ่อน รูปทรงโฉบเฉี่ยว และไฟท้ายแบบไดนามิกที่สร้างค่าสัมประสิทธิ์การลากต่ำเป็นพิเศษซึ่งเป็นผู้นำเมื่อเทียบในระดับเดียวกัน สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3 วินาที ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด

ห้องนักบินอัจฉริยะของรุ่น C11 ปี 2023 มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon SA8155P จอแสดงผลสามหน้าจอที่สมจริง และการออกแบบระบบควบคุมแบบสัมผัสเต็มรูปแบบที่มีการบูรณาการสูงซึ่งมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและรองรับการจดจำใบหน้า AI และฟังก์ชันอื่น ๆ C11 ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมันประสิทธิภาพสูงที่มีโครงสร้างที่ปรับได้ พร้อมอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.94 วินาที ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนกคู่และระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ 5 ลิงก์ที่เทียบได้กับรถยนต์ระดับหรูช่วยปรับปรุงคุณภาพการควบคุมรถและประสบการณ์การขับขี่ของรถทั้งคันได้อย่างมาก ขณะเดียวกันก็รักษาสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการควบคุมรถด้วย

Leapmotor T03 ปี 2023 ได้รับการวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตูที่ปลอดภัยเป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบ 5 ประตู 4 ที่นั่ง ระยะฐานล้อยาว 2,400 มม. และตัวถังแบบกรงที่มีอัตราส่วนเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงถึง 68% นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติมากถึง 10 ฟังก์ชัน ให้การปกป้องสองเท่าเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ T03 ยังผ่านการอนุมัติ Small Whole Vehicle Type Approval (SWVTA) ของสหภาพยุโรป และ Leapmotor จะยังคงขยายตลาดในต่างประเทศต่อไป โดยเร่งการจัดวางกลยุทธ์ทั่วโลก

ประธานทำหน้าที่เป็น "Super Test Driver" และขับรถให้แขกเป็นการส่วนตัว

รูปแบบบูธได้รับแรงบันดาลใจจากภาพร่างที่วาดด้วยมือจาก Zhu Jiangming ประธานผู้ก่อตั้ง Leapmotor นอกเหนือจากการให้บริการกาแฟ อาหารกลางวัน ผลไม้ และบริการอื่น ๆ ฟรีแล้ว Zhu Jiangming ยังจัดประชุมอาหารกลางวันกับสื่อและผู้ใช้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ของ Leapmotor การวางแผนผลิตภัณฑ์ ความต้องการของผู้ใช้ และประสบการณ์การขับขี่ในการพูดคุยที่ผ่อนคลาย

ยิ่งไปกว่านั้น Leapmotor ยังได้จัดงาน “Super Test Driver” ในงานแสดงรถยนต์ปีนี้ ซึ่ง Zhu และผู้บริหารคนอื่น ๆ ได้ขับรถและรับส่งผู้ใช้เป็นการส่วนตัว ทำให้สะดวกมากขึ้นสำหรับการเข้าร่วม

Leapmotor เหนือความคาดหมายของคุณ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53383279/en

ติดต่อ

Tammy Hu
อีเมล: Leapmotorglobal@gmail.com
+86 15068893526

ที่มา: Leapmotor

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


บริษัท Honda Trading Asia จำกัดเลือก Blue Yonder เพื่อพลิกโฉมซัพพลายเชนแบบดิจิทัล

Logo

บริษัทซื้อขายรถยนต์ชั้นนำปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยอุปสงค์ที่ถูกต้อง สินค้าคงคลังที่เพิ่มประสิทธิภาพ และแผนการจัดหาที่มีคุณภาพสูงขึ้น

BANGKOK & SCOTTSDALE, รัฐแอริโซนา.–(BUSINESS WIRE)–29 มีนาคม 2023

บริษัท Honda Trading Asia จำกัด (HTAS) ได้เลือกที่จะเปลี่ยนความสามารถในการวางแผนซัพพลายเชนแบบดิจิทัลด้วย Blue Yonder บริษัทจะใช้โซลูชันการวางแผนอุปสงค์การวางแผนอุปทาน, และการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลังของ Blue Yonder

HTAS บริษัทในเครือของ Honda Trading Corporation จัดหาชิ้นส่วน อุปกรณ์ สีย้อม และแม่พิมพ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสายการผลิตรถยนต์และสายการประกอบชิ้นส่วน ตลอดจนจัดหาวัตถุดิบ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม พลาสติก และเรซินสำหรับ สายการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ บริษัทยังให้บริการด้านลอจิสติกส์ เช่น พิธีการศุลกากร การดำเนินการจัดส่งทันเวลา และการดำเนินการคลังสินค้า

HTAS ใช้โซลูชันภายในองค์กรและกระบวนการแบบแมนนวล บริษัทต้องการโซลูชันเพื่อวางแผนอุปสงค์และอุปทานให้ดีขึ้น เพื่อจัดวางสินค้าคงคลังที่ถูกต้องในตำแหน่งที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการสต๊อกสินค้า และปรับปรุงระดับการบริการลูกค้า ในขณะที่ปรับต้นทุนให้เหมาะสม และลดผลกระทบจากการหยุดชะงักและความผันผวนให้น้อยที่สุด HTAS หันไปร่วมมือกับ Blue Yonder เพื่อแก้ปัญหา ทรัพยากรระบบของ Nexus ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Blue Yonder ได้แนะนำ HTAS ระหว่างกระบวนการคัดเลือก

ด้วย Blue Yonder HTAS จะสามารถ:

  • ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของสินค้าคงคลังและระบุความเสี่ยงสินค้าหมดสต๊อก/สินค้าล้นสต๊อกสำหรับผู้ใช้
  • ใช้ระบบอัตโนมัติทั้งในกระบวนการจัดซื้อและการวางแผนการผลิต
  • อัปเดตระบบโดยอัตโนมัติสำหรับสินค้าคงคลังล่าสุด คำสั่งซื้อ ใบสั่งงาน สินค้าระหว่างการขนส่ง และสถานะคำสั่งขายเพื่อสร้างแผนการจัดหาที่ถูกต้อง
  • สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของข้อจำกัดต่างๆ ในการปฏิบัติงานจริง รวมถึงเวลาในการผลิต กำลังการผลิต ข้อจำกัดของวัสดุ วันที่ทำงาน/ไม่ทำงาน และอื่นๆ
  • รองรับการจำลองสถานการณ์แบบ what-if ต่างๆ เพื่อวางแผนอย่างแม่นยำสำหรับสถานการณ์ที่ก่อกวนซึ่งปกติแล้วจะทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในอุปสงค์และอุปทาน
  • ให้อำนาจแก่นักวางแผนในการเปลี่ยนจากการดำเนินการด้วยตนเองที่จำเจ มามุ่งเน้นไปที่การผลักดันกลยุทธ์และปรับปรุงเมตริกความสำเร็จ

"เรากำลังมองหาโซลูชันการวางแผนซัพพลายเชนที่สามารถช่วยให้เราลดความเสี่ยงของการขาดแคลนวัสดุ ตลอดจนวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการหยุดชะงักของตลาด โซลูชันของ Blue Yonder จะช่วยเราขจัดความซับซ้อนของการวางแผนสำหรับอุปสงค์และอุปทานโดยทำให้กระบวนการของเราเป็นอัตโนมัติและเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของเราเป็นแบบดิจิทัล เรารอคอยที่จะนำโซลูชันนี้ไปใช้เพื่อสร้างการดำเนินงานและระบบที่เป็นมาตรฐานใหม่ทั่วโลก" นายสมยา มยุรสกุล ผู้อำนวยการ HTAS กล่าว

โซลูชันการวางแผนอุปสงค์และการวางแผนการจัดหาของ Blue Yonder จะช่วยให้ HTAS มีมุมมองแบบองค์รวมและเชื่อมโยงกันของกระบวนการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน HTAS จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างวัตถุประสงค์ทั่วโลกเพื่อความพึงพอใจของความต้องการ ทำงานร่วมกันในการวางแผนสถานการณ์ในสถานการณ์ความไม่สมดุลหรือการขาดแคลนวัสดุ และทำการตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายการผลิตและการจัดจำหน่าย ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า โซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลังของ Blue Yonder จะช่วยให้ HTAS ปรับการวางแผน กลยุทธ์ และการดำเนินการสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์สำหรับการบริการ การผลิต และการจัดจำหน่าย ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันแบบครบวงจร

"HTAS ต้องการโซลูชันที่สามารถรับประกันการดำเนินงานที่ยืดหยุ่นและการบริการลูกค้าที่เหนือชั้น ความพึงพอใจของลูกค้าจะไม่เพียงรักษาไว้เท่านั้น แต่ยังยกระดับขึ้นอีกระดับด้วย เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาเพื่อใช้งานโซลูชันของเรา ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ปรับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกต่อไป" Antonio Boccalandro ประธาน APAC ของ Blue Yonder กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

เกี่ยวกับบริษัท Honda Trading Asia จำกัด

บริษัท Honda Trading Asia จำกัดเป็นบริษัทการค้าในเครือของ Honda Trading Corporation ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1991 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย บริษัทเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าต่างๆ รวมถึงวัตถุดิบ อุปกรณ์อุตสาหกรรม และส่วนประกอบยานยนต์ เป็นต้น กิจกรรมทางธุรกิจของ Honda Trading ยังรวมถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน โลจิสติกส์ และการเงิน ในฐานะสมาชิกของ Honda Group บริษัท Honda Trading ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัท Honda อื่นๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลก บริษัทยังร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ นอกกลุ่ม Honda เพื่อขยายเครือข่ายการค้าและจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายแก่ลูกค้า

เกี่ยวกับ Blue Yonder

Blue Yonder เป็นผู้นำระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานแบบดิจิทัลและการเติมเต็มการค้าแบบหลายช่องทาง แพลตฟอร์มธุรกิจแบบรู้คิดครบวงจรของเราช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุดตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการจัดส่ง ด้วย Blue Yonder คุณจะรวมข้อมูล ห่วงโซ่อุปทาน และการดำเนินงานด้านการค้าปลีกเข้าด้วยกันเพื่อปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติ การควบคุม และการประสานเพื่อให้มีกำไรมากขึ้น การตัดสินใจทางธุรกิจที่ยั่งยืน Blue Yonder – เติมเต็มศักยภาพของคุณ blueyonder.com

"Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อทางการค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่อ้างถึงในเอกสารนี้โดยใช้ชื่อ "Blue Yonder" เป็นเครื่องหมายการค้าและ/หรือทรัพย์สินของ Blue Yonder Group Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ติดต่อประชาสัมพันธ์ Blue Yonder:
Marina Renneke, APR, ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร: +1 480-308-3037, marina.renneke@blueyonder.com

ที่มา: Blue Yonder

บริษัท Honda Trading Asia จำกัดเลือก Blue Yonder เพื่อพลิกโฉมซัพพลายเชนแบบดิจิทัล

Logo

บริษัทซื้อขายรถยนต์ชั้นนำปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยอุปสงค์ที่ถูกต้อง สินค้าคงคลังที่เพิ่มประสิทธิภาพ และแผนการจัดหาที่มีคุณภาพสูงขึ้น

BANGKOK & SCOTTSDALE, รัฐแอริโซนา.–(BUSINESS WIRE)–29 มีนาคม 2023

บริษัท Honda Trading Asia จำกัด (HTAS) ได้เลือกที่จะเปลี่ยนความสามารถในการวางแผนซัพพลายเชนแบบดิจิทัลด้วย Blue Yonder บริษัทจะใช้โซลูชันการวางแผนอุปสงค์การวางแผนอุปทาน, และการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลังของ Blue Yonder

HTAS บริษัทในเครือของ Honda Trading Corporation จัดหาชิ้นส่วน อุปกรณ์ สีย้อม และแม่พิมพ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสายการผลิตรถยนต์และสายการประกอบชิ้นส่วน ตลอดจนจัดหาวัตถุดิบ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม พลาสติก และเรซินสำหรับ สายการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ บริษัทยังให้บริการด้านลอจิสติกส์ เช่น พิธีการศุลกากร การดำเนินการจัดส่งทันเวลา และการดำเนินการคลังสินค้า

HTAS ใช้โซลูชันภายในองค์กรและกระบวนการแบบแมนนวล บริษัทต้องการโซลูชันเพื่อวางแผนอุปสงค์และอุปทานให้ดีขึ้น เพื่อจัดวางสินค้าคงคลังที่ถูกต้องในตำแหน่งที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการสต๊อกสินค้า และปรับปรุงระดับการบริการลูกค้า ในขณะที่ปรับต้นทุนให้เหมาะสม และลดผลกระทบจากการหยุดชะงักและความผันผวนให้น้อยที่สุด HTAS หันไปร่วมมือกับ Blue Yonder เพื่อแก้ปัญหา ทรัพยากรระบบของ Nexus ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Blue Yonder ได้แนะนำ HTAS ระหว่างกระบวนการคัดเลือก

ด้วย Blue Yonder HTAS จะสามารถ:

  • ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของสินค้าคงคลังและระบุความเสี่ยงสินค้าหมดสต๊อก/สินค้าล้นสต๊อกสำหรับผู้ใช้
  • ใช้ระบบอัตโนมัติทั้งในกระบวนการจัดซื้อและการวางแผนการผลิต
  • อัปเดตระบบโดยอัตโนมัติสำหรับสินค้าคงคลังล่าสุด คำสั่งซื้อ ใบสั่งงาน สินค้าระหว่างการขนส่ง และสถานะคำสั่งขายเพื่อสร้างแผนการจัดหาที่ถูกต้อง
  • สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของข้อจำกัดต่างๆ ในการปฏิบัติงานจริง รวมถึงเวลาในการผลิต กำลังการผลิต ข้อจำกัดของวัสดุ วันที่ทำงาน/ไม่ทำงาน และอื่นๆ
  • รองรับการจำลองสถานการณ์แบบ what-if ต่างๆ เพื่อวางแผนอย่างแม่นยำสำหรับสถานการณ์ที่ก่อกวนซึ่งปกติแล้วจะทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในอุปสงค์และอุปทาน
  • ให้อำนาจแก่นักวางแผนในการเปลี่ยนจากการดำเนินการด้วยตนเองที่จำเจ มามุ่งเน้นไปที่การผลักดันกลยุทธ์และปรับปรุงเมตริกความสำเร็จ

"เรากำลังมองหาโซลูชันการวางแผนซัพพลายเชนที่สามารถช่วยให้เราลดความเสี่ยงของการขาดแคลนวัสดุ ตลอดจนวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการหยุดชะงักของตลาด โซลูชันของ Blue Yonder จะช่วยเราขจัดความซับซ้อนของการวางแผนสำหรับอุปสงค์และอุปทานโดยทำให้กระบวนการของเราเป็นอัตโนมัติและเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของเราเป็นแบบดิจิทัล เรารอคอยที่จะนำโซลูชันนี้ไปใช้เพื่อสร้างการดำเนินงานและระบบที่เป็นมาตรฐานใหม่ทั่วโลก" นายสมยา มยุรสกุล ผู้อำนวยการ HTAS กล่าว

โซลูชันการวางแผนอุปสงค์และการวางแผนการจัดหาของ Blue Yonder จะช่วยให้ HTAS มีมุมมองแบบองค์รวมและเชื่อมโยงกันของกระบวนการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน HTAS จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างวัตถุประสงค์ทั่วโลกเพื่อความพึงพอใจของความต้องการ ทำงานร่วมกันในการวางแผนสถานการณ์ในสถานการณ์ความไม่สมดุลหรือการขาดแคลนวัสดุ และทำการตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายการผลิตและการจัดจำหน่าย ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า โซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลังของ Blue Yonder จะช่วยให้ HTAS ปรับการวางแผน กลยุทธ์ และการดำเนินการสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์สำหรับการบริการ การผลิต และการจัดจำหน่าย ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันแบบครบวงจร

"HTAS ต้องการโซลูชันที่สามารถรับประกันการดำเนินงานที่ยืดหยุ่นและการบริการลูกค้าที่เหนือชั้น ความพึงพอใจของลูกค้าจะไม่เพียงรักษาไว้เท่านั้น แต่ยังยกระดับขึ้นอีกระดับด้วย เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาเพื่อใช้งานโซลูชันของเรา ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ปรับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกต่อไป" Antonio Boccalandro ประธาน APAC ของ Blue Yonder กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

เกี่ยวกับบริษัท Honda Trading Asia จำกัด

บริษัท Honda Trading Asia จำกัดเป็นบริษัทการค้าในเครือของ Honda Trading Corporation ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1991 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย บริษัทเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าต่างๆ รวมถึงวัตถุดิบ อุปกรณ์อุตสาหกรรม และส่วนประกอบยานยนต์ เป็นต้น กิจกรรมทางธุรกิจของ Honda Trading ยังรวมถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน โลจิสติกส์ และการเงิน ในฐานะสมาชิกของ Honda Group บริษัท Honda Trading ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัท Honda อื่นๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลก บริษัทยังร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ นอกกลุ่ม Honda เพื่อขยายเครือข่ายการค้าและจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายแก่ลูกค้า

เกี่ยวกับ Blue Yonder

Blue Yonder เป็นผู้นำระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานแบบดิจิทัลและการเติมเต็มการค้าแบบหลายช่องทาง แพลตฟอร์มธุรกิจแบบรู้คิดครบวงจรของเราช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุดตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการจัดส่ง ด้วย Blue Yonder คุณจะรวมข้อมูล ห่วงโซ่อุปทาน และการดำเนินงานด้านการค้าปลีกเข้าด้วยกันเพื่อปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติ การควบคุม และการประสานเพื่อให้มีกำไรมากขึ้น การตัดสินใจทางธุรกิจที่ยั่งยืน Blue Yonder – เติมเต็มศักยภาพของคุณ blueyonder.com

"Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อทางการค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่อ้างถึงในเอกสารนี้โดยใช้ชื่อ "Blue Yonder" เป็นเครื่องหมายการค้าและ/หรือทรัพย์สินของ Blue Yonder Group Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ติดต่อประชาสัมพันธ์ Blue Yonder:
Marina Renneke, APR, ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร: +1 480-308-3037, marina.renneke@blueyonder.com

ที่มา: Blue Yonder

Autel ขยายธุรกิจในตลาดเอเชียและออสเตรเลียด้วยโซลูชันการชาร์จ EV แบบครบวงจร

Logo

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–14 มีนาคม 2023

Autel หนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกและซัพพลายเออร์ด้านเครื่องมือวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ อุปกรณ์ และอุปกรณ์เสริมสำหรับอะไหล่รถยนต์หลังการขาย กำลังเร่งขยายธุรกิจสู่ตลาดเอเชียและออสเตรเลียด้วยโซลูชันการชาร์จรถยนต์พลังงานใหม่อย่างเต็มรูปแบบสำหรับการใช้งานทั้งในที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ Autel ในการขยายธุรกิจและจัดหาโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคต่าง ๆ

22 kW MaxiCharger AC Wallbox on display at Fully Charged LIVE Australia (Photo: Business Wire)

MaxiCharger AC Wallbox 22 kW จัดแสดงที่ Fully Charged LIVE Australia (ภาพ: Business Wire)

เพื่อขยายธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก Autel ได้ร่วมมือกับ ChargeSini EV Charging ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เครื่องชาร์จ EV อัจฉริยะชั้นนำในมาเลเซีย เพื่อจัดหาโซลูชันการชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงบริการโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ในออสเตรเลีย Autel ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Connect Source ซึ่งจะช่วยให้ Autel ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นและช่องทางการจัดจำหน่ายของ Connect Source เพื่อให้บริการลูกค้าในตลาดออสเตรเลียได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ Autel ยังได้ร่วมมือกับ EVCharge Evolution ผู้จัดจำหน่ายเครื่องชาร์จ EV ชั้นนำในประเทศไทย เพื่อรวมความเชี่ยวชาญของ Autel ในด้านเทคโนโลยีการชาร์จ EV เข้ากับความสามารถของ EVCharge Evolution เพื่อนำเสนอโซลูชันการชาร์จ EV คุณภาพสูงให้กับลูกค้าในประเทศไทย

Henry He ผู้อำนวยการของ Autel APAC และออสเตรเลียกล่าว “Autel มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการชาร์จ EV เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก การขยายสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิกเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของ Autel ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ”

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Autel มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบริการหลังการขายยานยนต์พลังงานใหม่ บริษัทได้ลงทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนาของโซลูชันการวินิจฉัยยานยนต์ และได้สร้างระบบที่ครอบคลุมซึ่งครอบคลุมซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และการทดสอบ ผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ของ Autel ได้แก่ MaxiCharger AC Compact, MaxiCharger AC Wallbox, MaxiCharger DC Compact, MaxiCharger DC Fast และ MaxiChargerDC HiPower ซึ่งรองรับทุกสถานการณ์ เช่น ที่พักอาศัย อพาร์ทเมนต์ ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน และสำนักงาน

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์และบริการของ Autel มีจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ในขณะเดียวกัน เครือข่ายการตลาดระดับโลกแบบบูรณาการกำลังเป็นรูปเป็นร่างผ่านการเป็นพันธมิตรกับผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่น บริษัทได้ร่วมมือกับผู้ค้าปลีกชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ 4 ราย อย่าง Advance Auto Parts และ Genuine Parts รวมถึงผู้ค้าส่งในตลาดหลังการขายรถยนต์ในอเมริกาเหนือ เช่น Medco Tool และ Integrated Supply Network

ในเดือนนี้ Autel ได้จัดแสดงโซลูชันของตนในงานแสดงยานยนต์ต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงงาน International Auto Aftermarket EXPO Japan และ Fully Charged LIVE Australia อีกทั้งจะเข้าร่วมงาน EV Trend Korea 2023 และ Agenda Asia EV Leadership Summit + Asia EV Tech Show ที่อินโดนีเซียในปลายเดือนนี้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Autel และพอร์ตโฟลิโอโซลูชันยานยนต์ของบริษัท โปรดไปที่ www.autelenergy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20230308005943/en/

ติดต่อ

Henry He
henryhe@autel.com

ที่มา: Autel