Wella Company แสดงศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องสามปีติดต่อกันในงานฉลองวันครบรอบ

Logo

–Wella Professionals และ O·P·I บรรลุความสำเร็จในการครองสถานะอันดับ #1 ทั่วโลกด้าน Salon Color และ Salon Nail–


Jeonju: ที่สุดของเมืองเกาหลี

Logo

รสนิยม Jeonju’

JEONJU, South Korea–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2023

Jeonju City เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในเกาหลี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเกาหลีที่สามารถรักษาความเป็นเกาหลีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

Jeonju is rich in cultural treasures and historic landmarks steeped in history and culture. (Photo: Jeonju City)

Jeonju เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (ภาพถ่าย: Jeonju City))

Jeonju มีชื่ออย่างเป็นทางการในปี 757 เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีรากฐานในประวัติศาสตร์เกาหลี เมืองนี้ยังคงรักษาประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมดั้งเดิมในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ Joseon

Jeonju อุดมไปด้วยสมบัติทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เด็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม Jeonju Hanok VillageGyeonggijeonPungnammun GatePungpaejigwan (Jeonju Guesthouse) และ Jeolla Gamyeong ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง และ Jeonju IC, Jeonju Station และ Honam Jeilmun Gate โดยแต่ละแห่งทำหน้าที่เป็นประตูหลักสู่ Jeonju City ซึ่งอยู่ในรูปแบบของฮันอก

Jeonju ได้รับเลือกให้เป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์ด้านอาหารของ UNESCO และเป็นเมืองแห่งอาหารรสเลิศ Jeonju เป็นแหล่งกำเนิดของอาหารขึ้นชื่อของเกาหลีอย่าง bibimbap และเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวแบบเพลิดเพลินกับอาหารเอร็ดอร่อย โดยคุณสามารถลิ้มลองอาหารที่หลากหลายตั้งแต่ซุปถั่วงอกไปจนถึง Korean Table d'hôte

ใน Jeonju Hanok Village เป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมสวมชุดฮันบกอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีไปเดินเล่นตามถนน มีการแสดงดนตรีเกาหลีแบบดั้งเดิม เช่น แพนโซริ ดนตรีเกาหลีแบบฟิวชั่น และป็อบ Joseon ที่ผสมผสานความรู้สึกสมัยใหม่เข้ากับดนตรีแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถเข้าเยือนได้ตลอดทั้งปี

Jeonju เป็นเมืองที่มีสมบัติประจำชาติที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในเกาหลี คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์อันประณีตที่ผลิตโดยช่างฝีมือในเมืองมรดกระดับโลกแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ National Intangible Heritage Center และ ICHCAP ภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO Jeonju ยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของ “Hanji” ซึ่งเป็นกระดาษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

Jeonju เมืองซึ่งเป็นที่รู้จักด้านงานเทศกาลต่างๆ โดยจะมีการจัดงาน ‘Jeonju International Film Festival’ ในทุกฤดูใบไม้ผลิ เช่นเดียวกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมและเทศกาลต่างๆ ที่รวบรวมเอกลักษณ์ของ Jeonju ตลอดทั้งปี เช่น  Jeonju Bibimbap FestivalJeonju Hanji Culture FestivalJeonju International Sori Festival และเทศกาลประจำ Jeonju City ที่เรียกว่า Jeonju Festa

Woo Beom-ki นายกเทศมนตรีเมือง Jeonju กล่าวว่า “Jeonju เป็นเมืองแห่งทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์และความสามารถทางวัฒนธรรม มุ่งมั่นที่จะนำเสนอประวัติศาสตร์ที่แท้จริงดั้งเดิม และเสริมสร้างเอกลักษณ์ด้วยการอนุรักษ์ทรัพย์สินอันมีค่า ขณะเดียวกัน ก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างแน่วแน่ เฉพาะในสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ฉันหวังว่า นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์และมีความทรงจำที่สวยงามเกี่ยวกับ Jeonju ซึ่งเป็นที่สุดของเมืองเกาหลี แหล่งผสมผสานประเพณีและความทันสมัยเข้าด้วยกัน”

– เว็บไซต์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของ Jeonju: https://tour.jeonju.go.kr/eng/index.jeonju

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863442/en

ติดต่อ

JEONJU CITY
Ho-jin Park
+82-63-281-2226
mirano10@korea.kr

แหล่งข้อมูล: JEONJU CITY


ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน: CTBC ส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันไปทำงานในต่างประเทศ

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

ธนาคาร CTBC จำกัด จัดแสดงนิทรรศการชื่อ “Home Away From Home-ผจญภัยด้วยการก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!”  ที่สวนวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ซงชาน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันไล่ตามความฝันในการไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ งานนี้ดึงดูดผู้เข้าชมได้ประมาณ 2,000 คน โดยเชิญวิทยากรมาแบ่งปันความเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และเรื่องราวของชาวไต้หวันที่ทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน

CTBC staged an exhibition titled “Home Away From Home—Taking an Adventure with the Leap to Embrace Cultural Differences!” and arranged three keynote lectures and a Southeast Asian-style market, which attracted more than 2,000 people to participate in the event. (Photo courtesy of CTBC)

CTBC จัดแสดงนิทรรศการชื่อ “Home Away From Home—ผจญภัยด้วยการก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!” และจัดให้มีปาฐกถาสำคัญ 3 ครั้งและตลาดสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งดึงดูดผู้คนเข้าร่วมงานมากกว่า 2,000 คน เอื้อเฟื้อภาพโดย CTBC)

นิทรรศการประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ ตลาดวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเสวนาด้านวัฒนธรรม และคอนเสิร์ต การเสวนามุ่งเน้นไปที่หัวข้อวัฒนธรรมไทย เรื่องราวของการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และคำแนะนำสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่กำลังมองหาการเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมีปฏิสัมพันธ์และบูรณาการอย่างไร

ในการเสวนาครั้งหนึ่ง ปีเตอร์ เหวย หัวหน้ากลุ่มทรัพยากรบุคคลของธนาคาร CTBC ได้แนะนำโครงการ CTBC International Relations Manager (IRM) เขาสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตน เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานในต่างประเทศ

ในขณะเดียวกัน หลินอี้ฝาง หัวหน้าแผนกปฏิบัติการเสื้อผ้าอุตสาหกรรมของกลุ่ม SHEICO อธิบายว่าบริษัทสามารถสร้างทีมงานระดับแนวหน้าผ่านโครงการฝึกอบรมระดับนานาชาติได้อย่างไร ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานให้ได้รับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ ทำให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เพื่อแนะนำวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่ผู้มาเยือน CTBC ได้เชิญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำไทเป สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมะนิลา สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าอินโดนีเซียประจำไทเป และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเวียดนามในไทเปเพื่อแสดงการส่งออกทางวัฒนธรรมในนิทรรศการ รวมทั้งเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของเวียดนาม กาแฟ และชาพีช พร้อมด้วยขนมเทมเป้ของอินโดนีเซีย

CTBC ยังได้สร้างภาพยนตร์โปรโมตแบรนด์ในชื่อ “Home Away From Home” ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญ และการทำงานหนักของเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติของเราในประเทศไทย บอกเล่าเรื่องราวที่เพื่อนร่วมงานชาวไต้หวันของเรา เอาชนะอุปสรรคทางวัฒนธรรมร่วมกับเพื่อนร่วมงานชาวไทย และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างไร รับชมทางออนไลน์ได้แล้ว โปรดเยี่ยมชมเพจเฟซบุ๊ค – Home Run Taiwan ช่องยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=819KF9USoBA เพื่อชมภาพยนตร์

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863984/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์│CTBC Bank Co., Ltd.

ชื่อ: พาเมล่า เฉิน

อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com

โทร: +886-2-3327-7777 ต่อ 6724

ที่มา: ธนาคาร CTBC จำกัด

Home Away From Home: CTBC สนับสนุนพนักงานชาวไต้หวันไปทำงานต่างประเทศ

Logo

TAIPEI,Taiwan–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

CTBC Bank Co., Ltd. จัดนิทรรศการ “Home Away From Home-ผจญภัยก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!” ที่at the Songshan Cultural and Creative Park เมื่อวันที่ 25 เดือนพฤศจิกายน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันไล่ล่าตามความฝันของตนเองในการไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ งานนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 2,000 คนโดยประมาณ โดยมีการเชิญวิทยากรมาแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมาพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และเรื่องราวของชาวไต้หวันที่ไปทำงานในต่างประเทศ

CTBC staged an exhibition titled “Home Away From Home—Taking an Adventure with the Leap to Embrace Cultural Differences!” and arranged three keynote lectures and a Southeast Asian-style market, which attracted more than 2,000 people to participate in the event. (Photo courtesy of CTBC)

CTBC จัดนิทรรศการชื่อว่า “Home Away From Home—ผจญภัยก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!” และมีการปาฐกถาสามรายการและมีการจัดแสดงตลาดสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนมาเข้าร่วมงานได้กว่า 2,000 คน (เครดิตภาพถ่ายจาก CTBC)

นิทรรศการนี้แบ่งออกเป็นสามหัวข้อใหญ่ๆ ได้แก่ วัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดแห่งความคิดสร้างสรรค์ การเสวนาด้านวัฒนธรรม และคอนเสิร์ต การเสวนานี้จะมุ่งเน้นในหัวข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศไทย เรื่องราวการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และคำแนะนำสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่กำลังมองหาหนทางเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมมีความสัมพันธ์และมีการบูรณาการอย่างไร

หนึ่งในการเสวนาที่ดำเนินการโดย Peter Wei หัวหน้ากลุ่มทรัพยากรบุคคลของ CTBC Bank ได้แนะนำโครงการ CTBC International Relationship Manager (IRM) โดยสนับสนุนให้คนทำงานรุ่นเยาว์ก้าวออกจากเซฟโซนของตัวเองเพื่อเปิดกว้างสำหรับโอกาสในการประกอบอาชีพในต่างประเทศ

ในขณะเดียวกัน Lin Yi-fang หัวหน้าแผนกปฏิบัติการฝ่ายอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายของ SHEICO Group อธิบายเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทสามารถสร้างทีมงานระดับแนวหน้าผ่านโครงการฝึกอบรมระดับนานาชาติ ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถให้พนักงานได้รับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ บริษัทจึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้

เพื่อแนะนำวัฒนธณรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่ผู้เข้าชม CTBC ได้เชิญการท่องเที่ยวแห่งชาติไทเปในประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมะนิลา สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าอินโดนีเซียประจำไทเป และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเวียดนามในไทเป มาร่วมแสดงวัฒนธรรมการส่งออกในนิทรรศการนี้ รวมถึงการแสดงเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของเวียดนาม กาแฟ และชาลูกท้อ พร้อมกับขนมเทมเป้จากอินโดนีเซีย

CTBC ยังได้สร้างภาพยนตร์โปรโมตแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Home Away From Home” ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญและการทำงานอย่างหนักของเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติของบริษัทในประเทศไทย โดยมีการบอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนร่วมงานชาวไต้หวันของเราในการเอาชนะอุปสรรคทางวัฒนธรรมร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานชาวไทย และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างไร โดยสามารถเข้าชมภาพยนตร์นี้ได้ทางออนไลน์ที่เพจ Facebook – Home Run Taiwan Youtube: https://www.youtube.com/watch?v=819KF9USoBA

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Public Relations Dept.│CTBC Bank Co., Ltd.
ชื่อ: Pamela Chen
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
โทร: +886-2-3327-7777 Ext.6724

แหล่งข้อมูล: CTBC Holding

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863981/en

CTBC เผยแพร่วิดีโอโปรโมตแบรนด์บอกเล่าเรื่องราวของพนักงานชาวต่างชาติในประเทศไทย

Logo

TAIPEI, Taiwan–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

หลังการเตรียมการยาวนานมาถึงสองปี  CTBC พร้อมแล้วที่จะเปิดตัววิดีโอโปรโมตแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Home Away From Home” ในวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน วิดีโอนี้เป็นรูปแบบสารคดีขนาดเล็ก บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่พนักงานชาวต่างชาติของ CTBC ในประเทศไทยเอาชนะความท้าทายที่พวกเขาเผชิญด้วยความกล้าหาญและมีการทำงานอย่างหนักท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และบรรยายถึงความสัมพันธ์แบบครอบครัวระหว่างพนักงานชาวไต้หวันและชาวไทย

CTBC released a brand promotional film titled “Home Away From Home” on Nov. 13, inviting 300 of the company’s employees and senior management figures to watch the film. (Photo courtesy of CTBC)

CTBC เปิดตัวภาพยนตร์โปรโมตแบรนด์ชื่อ “Home Away From Home” เมื่อวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน โดยเชิญพนักงานของบริษัทและผู้บริหารระดับสูงจำนวน 300 คนให้เข้าร่วมชมภาพยนตร์ (เครดิตภาพจาก CTBC)

Morris Li ประธานธนาคาร CTBC สังเกตว่า อุตสาหกรรมการเงินมุ่งเน้นธุรกิจที่คำนึงผู้คนเป็นหลัก จึงมีการสนับสนุนให้พนักงานชาวต่างชาติให้บริการลูกค้าในท้องถิ่นหรือสื่อสารพับเพื่อนร่วมงานด้วยความเห็นอกเห็นใจ ในขณะที่พนักงานชาวต่างชาติต้องเผชิญกับขนบธรรมเนียมและแนวปฏิบัติในต่างประเทศ Li เชื่อว่า ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีและการบริการเป็นเลิศ ธนาคาร CTBC จะกลายเป็นธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคหรือเอเชียแปซิฟิก

Tony Yang ประธาน CTBC Bank กล่าวว่า เพื่อตอบสนองต่อความมุ่งมั่นของ CTBC Bank ในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ วิดีโอโปรโมตนี้แสดงให้เห็นถึงพันธมิตรจากเชื้อชาติที่แตกต่างกัน และข้ามพรมแดนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยมีการขยายความหมายของ “ครอบครัว” ไปสู่ “ครอบครัวเดียวระดับโลก” ด้วยความมุ่งมั่นของพนักงานต่างชาติของ CTBC เพื่อช่วยในการขยายการดำเนินงานในต่างประเทศ CTBC Bank ได้กลายเป็นธนาคารระดับสากลที่ติดอันดับในไต้หวัน โดยมีสาขาในจีน ญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดนอย่างครอบคลุมสำหรับบริษัทข้ามชาติ

วิดีโอโปรโมตนี้แสดงถึงการทำงานของพนักงานชาวต่างชาติของ CTBC สามคน ได้แก่ Henry, Semmi และ Century—ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่ LH Financial Group Public Company Limited (LHFG) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ CTBC ทั้งสามคนเอาชนะความคิดถึงบ้าน อุปสรรคด้านภาษา และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในที่ทำงานต่างประเทศ โดยปรับตัวเข้ากับสังคมท้องถิ่น และพัฒนามิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานชาวไทยได้เป็นอย่างดี

Shih, Jiing-fuh ประธาน LHFG กล่าวว่า CTBC เชื่อมั่นว่า “ครอบครัว” อยู่เหนือข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และความผูกพันทางสายเลือด และบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายความหมายของคำว่า “ครอบครัว” ด้วยการเปิดรับพนักงานจากประเทศต่างๆ สามารถเข้าชมวิดีโอโปรโมตนี้ได้ที่เพจ Facebook ของ Home Run Taiwan หรือ YouTube: https://www.youtube.com/watch?v=819KF9USoBA

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Public Relations Dept.│CTBC Bank Co., Ltd.
ชื่อ: Pamela Chen
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
โทร: +886-2-3327-7777 Ext.6724

แหล่งข้อมูล: CTBC Bank Co., Ltd.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863980/en

CrowdStrike เปิดศูนย์กลางเอเชียแห่งใหม่ในสิงคโปร์

Logo

ประสานความมุ่งมั่นในการปกป้องธุรกิจในภูมิภาค

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

 CrowdStrike (Nasdaq: CRWD) ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในสิงคโปร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางศูนย์กลางของ CrowdStrike ในเอเชีย สำนักงานแห่งใหม่เน้นย้ำถึงการลงทุนระดับภูมิภาคของ CrowdStrike และจะเพิ่มความจุเป็นสองเท่าของสิ่งอำนวยความสะดวกก่อนหน้านี้ในสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยประสานการปรากฏตัวในท้องถิ่นของผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความมุ่งมั่นในการปกป้ององค์กรในสิงคโปร์และทั่วเอเชีย

CrowdStrike มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และดำเนินกิจการทั่วโลก เป็นหนึ่งในบริษัทรักษาความปลอดภัยที่เติบโตเร็วและมีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก ด้วยลูกค้ามากกว่า 23,000 ราย ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและหน่วยงานภาครัฐ CrowdStrike กำลังขับเคลื่อนยุคต่อไปของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อก้าวนำหน้าการค้าขายของฝ่ายตรงข้ามที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและหยุดยั้งการละเมิด การกำหนดขอบเขตตลาดของบริษัท  CrowdStrike Falcon® platform การตอบสนองต่อเหตุการณ์และบริการชั้นยอด และทีมข่าวกรองภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงทำให้ CrowdStrike เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

สำนักงานแห่งใหม่นี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรมที่ลูกค้าและพันธมิตรของ CrowdStrike สามารถใช้ประโยชน์ เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับกลยุทธ์การป้องกันทางไซเบอร์ล่าสุด และยกระดับทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อป้องกันศัตรูที่มุ่งเป้าไปยังภูมิภาค

การย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่นี้ เป็นไปตามความสำเร็จทางธุรกิจที่สำคัญของผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเอเชีย ผลลัพธ์ทางการเงินของ CrowdStrike สำหรับไตรมาสที่สามปีงบประมาณ 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2566 รายงานว่ามีรายได้ 81 ล้านดอลลาร์ในเอเชียแปซิฟิก (รวมถึงญี่ปุ่น) เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามปีงบประมาณ 2023 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2565 APAC (รวมถึงญี่ปุ่น) คิดเป็น 10% ของรายได้รวมของ CrowdStrike

“เอเชียเป็นแหล่งกำเนิดกิจกรรมอาชญากรรมทางไซเบอร์ เราเห็นค่าเฉลี่ยค่าไถ่ของแรนซัมแวร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับสี่สัปดาห์ก่อนหน้า ด้วยกิจกรรมทั้งหมดนี้ ธุรกิจในเอเชียจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้โซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์สมัยใหม่ และแนวทางเชิงรุกในการปกป้องตนเองเพื่อต่อสู้กับศัตรูที่มุ่งเป้าไปยังประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย” Geoff Swaine รองประธาน APJ ของ CrowdStrike กล่าว

“เราเห็นความต้องการนี้เมื่อเราก่อตั้งสำนักงานในสิงคโปร์ครั้งแรกในปี 2559 และยังคงขยายทีมงานและธุรกิจของเราในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลานั้น CrowdStrike ได้สนับสนุนธุรกิจจำนวนมากในหลายภาคส่วนและขนาด ในการเปลี่ยนจากการใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัยแบบเดิมซึ่งมักอิงตามลายเซ็น ซึ่งไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์สมัยใหม่ต่อแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ และใช้ระบบอัจฉริยะ”

เอเชียตกเป็นเป้าของอาชญากรไซเบอร์มานานแล้ว ตาม CrowdStrike 2023 Threat Hunting Report ภาคอุตสาหกรรมแนวตั้งห้าอันดับแรกเรียงตามความถี่ของการบุกรุกในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ได้แก่ เทคโนโลยี โทรคมนาคม การค้าปลีก การเงิน และการผลิต ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เหยื่อ big game hunting (การโจมตีทางไซเบอร์ประเภทหนึ่งที่มักจะใช้ประโยชน์จาก ransomware เพื่อมุ่งเป้าองค์กรขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูง หรือหน่วยงานที่มีชื่อเสียงสูง) เพิ่มขึ้นเป็น 416 เมื่อเทียบกับ 357 จากช่วงสี่สัปดาห์ก่อนหน้า ตามข้อมูลจากการปฏิบัติการต่อต้านศัตรูของ CrowdStrike ในทางภูมิศาสตร์ เอเชียมีภัยคุกคามหลักจากสองรัฐชาติคือจีนและเกาหลีเหนือภายในขอบเขตของตน ในขณะที่ผู้มีบทบาทใน China-nexus มีผลงานมากเป็นพิเศษ โดยสังเกตได้จาก 14 กลุ่มอุตสาหกรรม

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

  • หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CrowdStrike Falcon platform โปรดไปที่เว็บไซต์ของเรา

เกี่ยวกับ CrowdStrike

CrowdStrike (Nasdaq: CRWD) ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ได้กำหนดนิยามใหม่ของการรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ ด้วยแพลตฟอร์มคลาวด์เนทิฟที่ทันสมัยที่สุดในโลก สำหรับการปกป้องพื้นที่สำคัญของความเสี่ยงขององค์กร เช่น อุปกรณ์ปลายทางและปริมาณงานบนคลาวด์ ข้อมูลแสดงตัวตนและข้อมูล

ขับเคลื่อนโดย CrowdStrike® Security Cloud และปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก แพลตฟอร์ม CrowdStrike Falcon® ใช้ประโยชน์จากตัวบ่งชี้แบบเรียลไทม์ของการโจมตี ข้อมูลภัยคุกคาม การพัฒนาการค้าขายของฝ่ายตรงข้าม และการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ได้รับการปรับปรุงจากทั่วทั้งองค์กร เพื่อมอบการตรวจจับที่มีความแม่นยำสูง การป้องกันอัตโนมัติ และการแก้ไข การค้นหาภัยคุกคามชั้นยอด และการจัดลำดับความสำคัญในการสังเกตจุดอ่อน

สร้างขึ้นโดยเฉพาะบนคลาวด์ด้วยสถาปัตยกรรมเอเจนต์น้ำหนักเบาเพียงตัวเดียว แพลตฟอร์ม Falcon นำเสนอการใช้งานที่รวดเร็วและปรับขนาดได้ การป้องกันและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ลดความซับซ้อน และเวลาต่อมูลค่าทันที

CrowdStrike: เราหยุดการละเมิด

เรียนรู้เพิ่มเติม: https://www.crowdstrike.com/

ติดตามเราได้ที่: Blog | Twitter | LinkedIn | Facebook | Instagram

เริ่มทดลองใช้ฟรีวันนี้: https://www.crowdstrike.com/free-trial-guide/

© 2023 CrowdStrike, Inc. สงวนลิขสิทธิ์ CrowdStrike, โลโก้เหยี่ยว, CrowdStrike Falcon และ CrowdStrike Threat Graph เป็นเครื่องหมายของ CrowdStrike, Inc. และจดทะเบียนกับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา และในประเทศอื่นๆ CrowdStrike เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการอื่น ๆ และอาจใช้แบรนด์ของบุคคลที่สามเพื่อระบุผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Andy Sommer
ฝ่ายสื่อสารองค์กร CrowdStrike

press@crowdstrike.com

แหล่งที่มา: CrowdStrike

ติ

สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Abu Dhabi เปิดตัว ‘AI71’: บริษัท AI แห่งใหม่บุกเบิกการควบคุมข้อมูลแบบกระจายศูนย์สำหรับบริษัท & ประเทศต่างๆ

Logo

  • มีการสร้าง AI71 ขึ้นตามโมเดล Falcon Generative AI ที่ได้รับการจัดอันดับระดับโลก
  • บริษัทใหม่มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ระบบ AI แบบก้าวหน้าในหลายโดเมน โดยมุ่งเน้นที่ภาคส่วนการแพทย์ การศึกษา และกฎหมายในเริ่มแรก

ABU DHABI,United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

ในยุคการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Abu Dhabi (Advanced Technology Research Council ATRC) มีความก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวบริษัท AI แห่งใหม่ชื่อว่า AI71 โดยองค์กรนี้สร้างขึ้นจากโมเดล Falcon generative AI ของสถาบันนวัตกรรม (Technology Innovation Institute – TII) และมีความมุ่งเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญพิเศษในหลากหลายโดเมน ในขณะเดียวกัน ก็มีการนำเสนอตัวเลือกการควบคุมข้อมูล AI ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับบริษัทและประเทศต่างๆ ที่กำลังมองหาโฮสต์สำหรับบริษัท เพื่อความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น

H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan, Crown Prince of Abu Dhabi and Chairman of the Abu Dhabi Executive Council launches AI71 along with H.E Faisal Al Bannai, Secretary General, Advanced Technology Research Council (Photo: AETOSWire)

H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มงกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี และประธานของสภาผู้บริหารอาบูดาบีได้เปิดตัว AI71 พร้อมกับ H.E Faisal Al Bannai หัวหน้าเลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ภาพ: AETOSWire)

โรงไฟฟ้า AI แห่งใหม่นี้ได้รับการเปิดตัวโดย H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่ง Abu Dhabi และประธานของ Abu Dhabi Executive Council โดยมีรัฐมนตรีและตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติชั้นนำเข้าร่วมงาน

ในขณะที่สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของ ATRC เป็นผู้พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) Falcon 7B, 40B และ 180B VentureOne ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ATRC จะเป็นผู้นำ AI71 ออกสู่ตลาดสำหรับหลากหลายโดเมน เริ่มจากภาคส่วนการแพทย์ การศึกษา และกฎหมาย การเปิดให้สามารถเข้าถึงคลังข้อมูลนิรนามขนาดใหญ่ในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มประชากรที่หลากหลาย และ AI71 จะสร้างความแตกต่างในตลาด AI ที่สำคัญต่างๆ ในปัจจุบัน กล่าวคือ โครงสร้างพื้นฐานทางอิเล็กทรอนิกส์แบบดิจิทัลและค่อนข้างสมบูรณ์ของ UAE

ในช่วงเวลาที่นวัตกรรมมักจะก้าวล้ำกรอบงานกำกับดูแล โครงสร้างในการตัดสินใจอย่างเฉียบขาดของรัฐบาล UAE ช่วยให้บริษัทใหม่สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวล้ำของ AI โดยข้ามกระบวนการที่มีความยืดเยื้อในการพัฒนาดังกล่าว

ด้วยความร่วมมือและการเป็นพันธมิตรกัน AI71 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โมเดล AI และได้รับประโยชน์จากการที่สามารถเข้าถึงแหล่งเก็บข้อมูลที่ซับซ้อน เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพของ generative AI ที่โดดเด่น ยิ่งไปกว่านั้น AI71 ยังช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ โดยยังนำเสนอมาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย  โดยทำหน้าที่เป็นดัชนีชี้วัดสำหรับโครงการ AI ที่ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ นี่เป็นตัวเลือกที่เปลี่ยนแปลงระบบการเข้าถึงสำหรับ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กร บริษัทขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลต่างประเทศ ที่ต้องการความมั่นใจในการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

AI71 จะได้รับการสร้างขึ้นตามแนวทางนวัตกรรมแบบสร้างสรรค์ โดยจะมีการนำไปใช้ในทุกแห่ง และบนความมุ่งมั่นที่จะให้มีการใช้งานเทคโนโลยี AI เป็นวงกว้าง ไม่ผูกขาดอยู่เพียงในกลุ่มของคนเพียงไม่กี่คน ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ บริษัท AI แห่งใหม่จะมีการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มข้อมูลประจำตัวสำหรับ Abu Dhabi และครอบคลุม UAE โดยยึดระบบ AI เป็นหลัก และการดำเนินการเช่นนี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงยุคแห่งความก้าวล้ำแห่งคลังความรู้ของประเทศ

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง กล่าวว่า "ใน UAE การทำงานร่วมกันเป็นมากกว่าเพียงการปฏิบัติ แต่เป็นการฝังรากลึกอยู่ใน DNA ของทุกคน โมเดล Falcon generative AI ของเราซึ่งเป็นหัวใจของ AI71 ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนา บริษัท และประเทศ รวมทั้งยังให้อิสระแก่ทุกคนเพื่อสร้างตัวตนในข้อมูลของตัวเอง ด้วยความสามารถในการเข้าถึงชุดข้อมูลแบบรวมศูนย์ของ UAE การนำโมเดล AI ของไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ภายในภาคส่วนต่างๆ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนงาน AI71 ของเรา ในระหว่างที่เราดำเนินการสำรวจเส้นทางแห่งนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างโมเดล Falcon AI แบบโอเพ่นซอร์สด้วยในคราวเดียวกัน เพราะการสร้างสรรค์แหล่งทรัพยากรข้อมูลแบบกระจายศูนย์เหล่านี้เท่านั้นจะที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมทั้งหมดอย่างแท้จริง”

ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ล้ำสมัยรายการของ AI71 จะมุ่งเน้นที่ภาคส่วนการแพทย์ และปรับเปลี่ยนความสามารถในการวินิจฉัยและการตัดสินใจ ซึ่งจะเพิ่มระดับความแม่นยำและลดเวลาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละรายได้เป็นอย่างมาก

ภาคส่วนการศึกษาและกฎหมายก็ได้รับประโยชน์จากบูรณาการและการปรับแต่ง AI นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะสร้างผลประโยชน์เพิ่มขึ้นแก่แต่ละโดเมน และนำไปสู่โซลูชันใหม่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสังคม

AI71 มีการร่วมมือกันกับพันธมิตรเจ็ดรายทั่วทั้งระบบนิเวศ รวมถึง Department of Government Enablement – Abu Dhabi ซึ่งมีการรวมศูนย์หน่วยงานภาครัฐกว่า 30 แห่งผ่านการแปลงเป็นดิจิทัล, Office of Artificial Intelligence, Digital Economy และ Remote Work Applications เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง, World Wide Technology เพื่อร่วมพัฒนาโซลูชัน AI ในสถานที่แบบบูรณาการ, CNTXT เพื่อให้บริการติดฉลากข้อมูลและแสดงคำอธิบายประกอบ, Hub71 เพื่อดึงดูดและขยายขนาดสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและ AI, PwC Middle East เพื่อดูแลกรณีการใช้งานของลูกค้า, และ AWS เพื่อจัดหาความจุของพลังงานเพื่อการประมวลผล

เนื่องจาก AI มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและการทำงานของเราในอนาคตอันใกล้ บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จึงมองหาข้อเสนอใหม่ๆ สำหรับองค์กรต่างๆ ตามความต้องการของอุตสาหกรรม และอำนวยความสะดวกในการขยายการใช้งาน AI ในวงกว้างทั่วทุกแห่ง AI71 นำเสนอโอกาสในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนระบบนิเวศที่เน้น AI เป็นอันดับแรกใน UAE และประเทศอื่นๆ

เนื่องจาก AI71 สร้างผลกระทบทั่วทั้งองค์กร อุตสาหกรรม และหน่วยงานภาครัฐ VentureOne จึงจะมีการนำเสนอความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาคส่วนต่างๆ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53862674/en

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan, Senior Director of Communications
jennifer.dewan@tii.ae.

แหล่งข้อมูล: Advanced Technology Research Council

Powered by Business Wire


APO ยังคงให้ความสนับสนุน สปป.ลาว ในการเพิ่มผลผลิต

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–28 พฤศจิกายน 2023

Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการ Asian Productivity Organization (APO) เยือน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 23 และ 24 เดือนพฤศจิกายน ปี 2023 เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง และเปิดงานเทศกาลการเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ

APO Secretary-General Dr. Indra Pradana Singawinata (L) with Deputy Prime Minister and Minister of Foreign Affairs, H.E. Saleumxay Kommasith. (Photo: Business Wire)

Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการ APO (ซ) พร้อมด้วย H.E. Saleumxay Kommasith รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ภาพถ่าย: Business Wire)

ในระหว่างการเยือน Dr. Indra เลขาธิการ ได้พบกับ H.E. Saleumxay Kommasith รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ H.E. Malaythong Kommasith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายด้านการผลิตและโอกาสที่ สปป.ลาว กำลังเผชิญ และการสนับสนุนจาก APO สำหรับกลยุทธ์การผลิตระดับชาติ รองนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณต่อ APO สำหรับการสนับสนุนการขับเคลื่อนการผลิตของประเทศอย่างต่อเนื่อง และชื่นชมประสิทธิผลของการให้ความช่วยเหลือจาก APO ต่อ SME และภาครัฐของ สปป.ลาว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง Kommasith เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างผลกระทบโดยตรงในวงกว้าง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตที่มีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยตลาดที่เปิดเสรีมากขึ้นในภูมิภาค ความสามารถในการแข่งขันจึงเป็นเป้าหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยหวังว่า จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและมากยิ่งขึ้นจาก APO ต่อความคืบหน้าในการผลิตของ สปป.ลาว

Dr. Indra เลขาธิการ แสดงความยินดีกับ สปป.ลาว สำหรับความคืบหน้าที่โดดเด่นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตนับตั้งแต่เข้าร่วม APO ในปี 2002 ซึ่งบรรลุระดับการเติบโตของแรงงานได้เร็วที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกอื่นๆ ในระหว่างปี 2011–17 นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ สปป.ลาว จะต้องกระจายโครงสร้างทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตของผลิตภาพในภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งสร้างงานและรายได้ การปรับปรุงการจัดการด้านกฎระเบียบที่สนับสนุนการผลิต และการดำเนินธุรกิจที่ง่ายดายยิ่งขึ้นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้งานได้  Dr. Indra กล่าวเสริม

เลขาธิการ APO เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ APO ในการทำงานร่วมกันกับ สปป.ลาว ในการผลิต โดยให้บริการที่ปรึกษาด้านนโยบาย โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถ โครงการริเริ่มที่ชาญฉลาด และแพลตฟอร์มการแบ่งปันความรู้ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ สปป.ลาว ใช้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกใน APO และรับประโยชน์จากแนวทางปฏิบัติและประสบการณ์ที่ดีของสมาชิกอื่นๆ

Dr. Indra เลขาธิการ ยังเปิดงาน National Productivity Festival และ Exhibition on Innovations for Higher Quality ซึ่งจัดโดย Department of Small and Medium Enterprise of the Ministry of Industry and Commerce ของ สปป.ลาว โดยกล่าวยกย่องความคิดสร้างสรรค์และพลวัตของชาวลาวและองค์กรที่มุ่งมั่นปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพในด้านต่างๆ รวมถึงเยาวชน และหวังว่างานมหกรรมและนิทรรศการนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมและความร่วมมือมากยิ่งขึ้นระหว่างผู้ถือหุ้นระดับประเทศ รวมถึง สปป.ลาว และสมาชิก APO รายอื่นๆ

เกี่ยวกับ APO

Asian Productivity Organization (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือกัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่แสวงหาผลกำไร และไม่เลือกปฏิบัติ APO ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกร่วมก่อตั้งแปดคน ปัจจุบันประกอบด้วยประเทศสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย เตอร์กิเย และเวียดนาม

APO กำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิก ผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ ทำหน้าที่เป็นคลังความคิด โครงการริเริ่มในการสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863386/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
Digital Information Unit, APO:
pr@apo-tokyo.org
โทร: +81-3-3830-0411
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

แหล่งข้อมูล: Asian Productivity Organization

Kirin iMUSE Immune Care และ Healthya Visceral Fat Down จะวางจำหน่ายในวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน!

Logo

ผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันแบบดูอัลแคร์พิเศษจาก iMUSE ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลภูมิคุ้มกันของเรา และ Healthya ที่เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลไขมันในช่องท้อง

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 พฤศจิกายน 2023

Kirin Holdings Company, Limited (TOKYO:2503) จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟังก์ชันแบบดูอัลแคร์ในชื่อผลิตภัณฑ์ Kirin iMUSE Immuno-Care และ Healthya Visceral Fat Down ในวันที่ 28 พฤศจิกายน (วันอังคาร) ผลิตภัณฑ์นี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Kirin iMUSE แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลภูมิคุ้มกันแห่งแรก*1 ของญี่ปุ่น และ Kao Healthya แบรนด์เครื่องดื่มดูแลไขมันภายในร่างกายแบรนด์แรก*1 ของญี่ปุ่นจาก Kao Corporation (TOKYO:4452) และจะวางจำหน่ายที่ร้านขายยาทั่วประเทศและผ่านการสั่งซื้อทางไปรษณีย์ Kirin Kyowa Hakko Bio

Figure 1: Area of health concern (Graphic: Business Wire)

รูปที่ 1: ประเด็นปัญหาด้านสุขภาพ (กราฟิก: Business Wire)

ในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม Kao จะวางจำหน่าย “Healthya Green Tea Plus Immunity Care” ในจำนวนจำกัดในร้านขายยาที่กำหนด

*1

Kirin iMUSE เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลภูมิคุ้มกันแบรนด์แรกของญี่ปุ่นในด้านอาหารฟังก์ชัน (อ้างอิงจากงานวิจัยของเราผ่านการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับอาหารฟังก์ชันที่ได้รับการจดทะเบียน)

Kao Healthya คือแบรนด์ชาเขียวดูแลไขมันภายในร่างกายแบรนด์แรกของญี่ปุ่นในหมวดอาหารจำเพาะเพื่อสุขภาพ (ได้รับการอนุมัติให้ติดฉลากว่าเป็นหมวดอาหารจำเพาะเพื่อสุขภาพซึ่งมีสารคาเทชินในชาจากการวิจัยของ Kao)

ความพยายามของทั้งสองบริษัทในการรับมือกับปัญหาด้านสุขภาพ

[งานวิจัยด้านภูมิคุ้มกันวิทยาของ Kirin]

ภูมิคุ้มกันคือระบบป้องกันของร่างกายที่ต่อสู้กับศัตรูภายนอกเพื่อรักษาสุขภาพและสามารถเรียกได้ว่าเป็น “รากฐานของสุขภาพ” แม้ว่าระบบภูมิคุ้มกันที่ล้มเหลวอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ ภูมิคุ้มกันเป็นเรื่องยากสำหรับแต่ละคนที่จะเฝ้าติดตาม ดังนั้นความล่าช้าในการรับมือกับปัญหานี้จึงเป็นปัญหาสังคมที่สำคัญ (รูปที่ 1)

ในระยะเวลากว่า 35 ปีของการวิจัยเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน Kirin ได้ค้นพบ “พลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus lactis” เป็นครั้งแรกในโลก*2 โดยออกฤทธิ์โดยตรงกับเซลล์ Plasmacytoid Dendritic (pDCs) ซึ่งเป็นศูนย์กลางภูมิคุ้มกัน ด้วยการรวบรวมผลการวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis ทำให้แบรนด์ “iMUSE” กลายเป็นแบรนด์แรกในญี่ปุ่น*3 ที่ได้รับการยอมรับให้จดแจ้งต่อหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในปี 2020 ว่าเป็นอาหารที่อ้างอิงสรรพคุณด้านการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

เรากำลังพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันที่หลากหลายซึ่งอ้างอิงสรรพคุณเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าแก้ไขปัญหาสุขภาพ ด้วยการเปิดตัวอาหารเสริมตัวนี้และ "Healthya Green Tea Plus Immuno-Care" ทำให้จำนวนบริษัทพาร์ทเนอร์และจำนวนอาหารที่มีการอ้างอิงสรรพคุณรวม 57 ผลิตภัณฑ์

*2

มีการรายงานถึงพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis ซึ่งออกฤทธิ์ต่อ pDCs ในมนุษย์เป็นครั้งแรกในโลก (ตามข้อมูลที่เผยแพร่ใน PubMed และเว็บไซต์ Japan Medical Abstracts Society)

*3

แบรนด์แรกในญี่ปุ่นที่ได้รับการรายงานต่อสาธารณะว่าเป็นอาหารที่มีการอ้างอิงสรรพคุณเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน

[งานวิจัยของ Kao เกี่ยวกับการเผาผลาญของไขมัน]

ไขมันเกิดการสะสมเนื่องจากความไม่สมดุลในการออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมการกินในแต่ละวันรวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมของไขมันในช่องท้องถือเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญสำหรับชาวญี่ปุ่น และการปรับปรุงพฤติกรรมการกินและการสร้างพฤติกรรมการออกกำลังกายถือเป็นมาตรการที่จำเป็น

Kao ทำการวิจัยเกี่ยวกับการเผาผลาญไขมันในร่างกายและไขมันในช่องท้องมาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 โดยค้นพบว่าสารโพลีฟีนอล 2 ชนิด ได้แก่ สารคาเทชินในชาเขียวและกรดคลอโรจีนิกที่มีอยู่ในเมล็ดกาแฟต่างมีประสิทธิภาพในการลดไขมันในช่องท้อง Kao ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้สารคาเทชินจากชาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2003 บริษัทได้เปิดตัว “Healthya Green Tea” ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องดื่มดูแลไขมันในร่างกายแบรนด์แรกของญี่ปุ่น ให้เป็นอาหารจำเพาะเพื่อสุขภาพ (Tokuho) จากความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายได้ทุกวัน Kao ได้สนับสนุนการพัฒนาพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน รวมถึงพฤติกรรมการกิน บริษัทจึงมีส่วนช่วยรักษาสุขภาพของผู้คนเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีได้อย่างยืนยาว

ความเป็นมาของการพัฒนาร่วมกัน

ด้วยการรวมการวิจัยด้านภูมิคุ้มกันวิทยาของ Kirin เข้ากับความรู้ของ Kao ในด้านการวิจัยการเผาผลาญไขมัน ทั้งสองบริษัทจึงตระหนักว่าสามารถมอบคุณค่าด้านสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าได้ ดังนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2022 ทั้งสองบริษัทจึงได้เข้าร่วมโครงการวิจัย “Wakayama Health Promotion Study” เพื่อเริ่มการวิจัยร่วมกันในด้านภูมิคุ้มกันวิทยาและไขมันในช่องท้อง

“Kirin iMUSE Immunity Care และ Healthya Visceral Fat Down” ที่กำลังจะวางจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการร่วมโครงการวิจัย การร่วมมือกันของแบรนด์ชั้นนำของทั้งสองบริษัทนี้ จะทำให้เกิดการเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับไขมันในช่องท้องและภูมิคุ้มกันในวงกว้าง และจะนำไปสู่การเติบโตต่อไปของทั้งแบรนด์ Kirin iMUSE และแบรนด์ Healthya

คุณสมบัติของ Kirin iMUSE Immuno-Care และ Healthya Visceral Fat Down

  • แคปซูลหกแคปซูลประกอบด้วยพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus lactis นับแสนล้านตัว ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่มบริษัท Kirin และกรดคลอโรจีนิกจากเมล็ดกาแฟ 267 มก. ซึ่งช่วยลดไขมันในช่องท้อง
  • ทั้งการ “การดูแลภูมิคุ้มกัน” และ “การลดไขมันในช่องท้อง” นับเป็นอาหารสองฟังก์ชัน

อาหารที่อ้างอิงสรรพคุณ

[การติดฉลากแจ้งเตือน]

ผลิตภัณฑ์นี้มีพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis ซึ่งออกฤทธิ์กับ pDCs (เซลล์ Plasmacytoid Dendritic) และมีรายงานว่าสามารถช่วยรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในคนที่มีสุขภาพดีได้
ผลิตภัณฑ์นี้มีกรดคลอโรเจนิกจากเมล็ดกาแฟ ซึ่งมีรายงานว่าสามารถลดไขมันในช่องท้องในผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงได้

  • คุณควรรับประทานอาหารอย่างสมดุลซึ่งประกอบด้วยอาหารหลัก อาหารจานหลัก และเครื่องเคียง
  • ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล
  • ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัย รักษา หรือป้องกันโรค

พลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis คืออะไร

สายพันธุ์พลาสมา Lactococcus Lactis เป็นแบคทีเรียกรดแลคติกที่ช่วยรักษาภูมิคุ้มกันในคนที่มีสุขภาพดี มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นพลาสสายพันธุ์แรกที่ตรวจพบว่าทำงานบน pDCs (เซลล์ Plasmacytoid Dendritic) ซึ่งเป็นศูนย์กลางภูมิคุ้มกัน Kirin, Koiwai Nyugyo และ Kyowa Hakko Bio ได้ทำการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ และได้ตีพิมพ์บทความจำนวนมาก รวมถึงนำเสนอในการประชุมวิชาการด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังได้รับรางวัลมามากมาย ซึ่งรวมถึงรางวัล National Commendation for Invention และ Imperial Invention ปี 2023 โดยเป็นการยกย่องการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในฐานะอาหารมื้อแรกของญี่ปุ่นที่มีการอ้างอิงสรรพคุณและได้รับการยืนยันว่าประสบความสำเร็จในการบ่งชี้ถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

กรดคลอโรจีนิกจากเมล็ดกาแฟคืออะไร

เมล็ดกาแฟมีสารโพลีฟีนอลหลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกรดคลอโรจีนิก ซึ่งมีรายงานว่าสามารถลดไขมันในช่องท้องในผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงได้ Kao ได้คัดเลือกกรดคลอโรจีนิกที่เป็นผลจากการวิจัยเกี่ยวกับการเผาผลาญไขมันมาเป็นเวลาประมาณ 30 ปี ซึ่งบริษัทได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยและการนำเสนอผลงานในการประชุมจำนวนมาก

1. ชื่อผลิตภัณฑ์

Kirin iMUSE Immuno-Care/Healthya Visceral Fat Down

2. ปริมาตรยา

(1) รับประทานสำหรับ 7 วัน (42 แคปซูล) (2) รับประทานสำหรับ 15 วัน (90 แคปซูล) *วันละ 6 แคปซูล

3. แหล่งจำหน่าย

1) ร้านขายยาทั่วประเทศ

2) การสั่งซื้อทางไปรษณีย์ Kirin Kyowa Hakko Bio

(https://kirin-kyowahakko-bio.kirin.co.jp/)

(โทร: 0120-80-7733, แฟกซ์: 0120-80-2227)

4. วันที่เผยแพร่

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2023

5. ราคา (ราคาขายปลีกที่แนะนำไม่รวมภาษีเพื่อการบริโภค) 

(1) รับประทานสำหรับ 7 วัน: 1,780 เยน (2) รับประทานสำหรับ 15 วัน: 3,685 เยน

6. จำหน่ายโดย

Kirin Holdings Company, Limited

7. เลขที่จดแจ้ง

I208

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินงานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) อุตสาหกรรมเภสัชกรรม (ธุรกิจเภสัชกรรม) และอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings มีรากฐานบริษัทมาจาก Japan Brewery ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทได้ขยายธุรกิจโดยใช้การหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชภัณฑ์ในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก ในปี 2007 Kirin Holdings ถูกก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งเต็มรูปแบบ และในปัจจุบันได้มุ่งเน้นไปที่การขยายอุตสาหกรรมสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้  Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 Kirin Group ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* โดยสร้างมูลค่าทั่วโลกทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงเภสัชกรรม นับจากนี้ไป Kirin Group จะยังคงใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตนเพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุการเติบโตที่ยั่งยืนในมูลค่าองค์กร
* การสร้างคุณค่าร่วมกัน: มูลค่าเพิ่มร่วมกันสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53862598/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Kirin Holdings Company, Limited

Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku โตเกียว
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

ฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร Kao Corporation
1-14-10, Nihonbashi Kayabacho, Chuo-ku, โตเกียว
https://www.kao.com/global/en/
corporate_pr@kao.com

แหล่งที่มา: Kirin Holdings Company, Limited



Walmart Foundation ทุ่มเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา

Logo

คำแถลงจาก Donna Morris ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Walmart

BENTONVILLE, Ark.–(BUSINESS WIRE)–26 พฤศจิกายน 2023

Walmart, Inc. และ Walmart Foundation ยังคงมองหาวิธีอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่สร้างความเสียหายอย่างมากในอิสราเอลและฉนวนกาซา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ภายหลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายโดยกลุ่มฮามาส เมื่อมีการหยุดต่อสู้ชั่วคราว Walmart Foundation ทุ่มเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุน Direct Relief ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในการช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินแก่พลเรือนในฉนวนกาซาตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต

การบริจาคนี้มาจากเงินลงทุน 1 ล้านเหรียญสหรัฐของ Walmart Foundation ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าในงานบริการฉุกเฉินของ Magen David Adom ในอิสราเอล

พวกเราร่วมส่งกำลังใจไปยังผู้ร่วมงานของเรา ลูกค้า และสมาชิก ผู้ซึ่งได้รับผลกระทบเป็นการส่วนตัว รวมถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์นี้ เรามาร่วมกันส่งกำลังใจ ความเห็นอกเห็นใจ และความเมตตาสู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราดำเนินงานกันอย่างแข็งขันที่ Walmart และ Sam’s Club เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ไม่มีใครทอดทิ้งใคร

เกี่ยวกับ Walmart

Walmart Inc. (NYSE: WMT) เป็นธุรกิจค้าปลีกหลายช่องทางที่ขับเคลื่อนโดยผู้คนและการใช้เทคโนโลยี ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถประหยัดเงินและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น – ในทุกที่และทุกเวลา – ไม่ว่าจะเป็นในร้านค้า ทางออนไลน์ และผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ในแต่ละสัปดาห์ ลูกค้าและสมาชิกประมาณ 240 ล้านคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยที่ร้านค้ากว่า 10,500 แห่งของเรา และเว็บไซต์ eCommerce มากมายใน 19 ประเทศ ด้วยรายรับในปีงบประมาณ 2023 มูลค่า 611 พันล้านเหรียญสหรัฐ Walmart มีการว่าจ้างพนักงานโดยประมาณ 2.1 ล้านคนทั่วโลก Walmart ยังคงเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน เป็นองค์กรการกุศล และโอกาสในการจ้างงาน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Walmart ได้ที่ corporate.walmart.com ติดตามเราบน Facebook ได้ที่ facebook.com/walmart บน X (เดิมชื่อ Twitter) ได้ที่ twitter.com/walmart และบน LinkedIn ได้ที่ linkedin.com/company/walmart/

เกี่ยวกับองค์กรการกุศลของ Walmart

Walmart.org เป็นตัวแทนองค์กรการกุศลของ Walmart และ Walmart Foundation โดยมีการมุ่งเน้นที่จุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ Walmart.org ดำเนินการเพื่อจัดการากับปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ และทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่ยั่งยืน Walmart มีร้านค้าอยู่ใน 19 ประเทศ มีการว่าจ้างพนักงานกว่า 2 ล้านคน และดำเนินธุรกิจร่วมกับซัพพลายเออร์นับพันราย ซึ่งเป็นผลให้ทางซัพพลายเออร์ก็มีการจ้างงานพนักงานหลายล้านคนด้วยเช่นกัน Walmart.org ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยสนับสนุนโครงการสร้างโอกาสการเติบโตในงานสำหรับพนักงานแรวหน้า เพิ่มความเท่าเทียม เสริมสร้างงานเพื่อลดอัตราความอดอยาก สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมสำหรับกลุ่มคนในห่วงโซ่อุปทาน ปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติ ลดขยะของเสียและการปล่อยมลพิษ และสร้างชุมขนที่แข็งแกร่ง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.walmart.org หรือติดตามบน X (เดิมชื่อ Twitter) @Walmartorg

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: Walmart Media Relations (https://corporate.walmart.com/news/contact-media-relations)

แหล่งข้อมูล: Walmart Inc.

The Bangkok Reporter