Elegant Hotel Collection เร่งขยายธุรกิจระดับโลกด้วยการแต่งตั้ง Anita Chan เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Logo

แบรนด์หรูที่จับต้องได้ขยายตลาดระดับโลก ด้วยการเปิดตัวบริษัทในเครือ ASPAC Joint Venture

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–12 พฤษภาคม 2025

Elegant Hotel Collection แบรนด์หรูระดับชั้นนำที่ขับเคลื่อนโดย HotelREZ ยกระดับตำแหน่งแบรนด์ในตลาดโลกด้วยการต้อนรับ Anita Chan เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ข้อตกลงร่วมทุนระหว่าง Anita Chan (ฮ่องกง) และ Elegant Hotel Collection (สำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร)

Anita Chan, CEO Asia Pacific Elegant Hotel Collection

Anita Chan ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Elegant Hotel Collection ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Chan ผู้นำทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลระดับโลก การแต่งตั้งเธอในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Elegant Hotel Collection ที่ต้องการสร้างนวัตกรรมและการเติบโต โดยแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ที่จะสร้างผลกระทบทางการตลาดอย่างเป็นรูปธรรม

ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Elegant Hotel Collection ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Chan จะเป็นผู้นำในแผนการขยายธุรกิจและเพิ่มฐานสมาชิกในภูมิภาค การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นการรับรู้ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อหนึ่งในตลาดอันทรงพลังและการแข่งขันสูงที่สุดในโลกสำหรับการค้าและการท่องเที่ยว

หลังจากดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Compass Edge มานานกว่า 10 ปี Chan ได้นำประสบการณ์อันล้ำค่ามาสู่บทบาทใหม่กับ Elegant Hotel Collection โดยอาศัยประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Small Luxury Hotels of the World ทั้งนี้ Anita ยังคงดำเนินการและดูแล Compass Edge อยู่ โดยควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นในการร่วมลงทุนของ Elegant Hotel Collection ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“Elegant Hotel Collection ขับเคลื่อนโดย HotelREZ ซึ่งเป็นแบรนด์หรูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดปัจจุบัน ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ด้วยประสบการณ์อันน่าประทับใจในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทั่วโลก เห็นได้ชัดว่า Elegant Hotel Collection ทำได้ดีมาก ๆ ในด้านการตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วทั้งภูมิภาค และมอบข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ฉะนั้นโรงแรมหรูในตลาดที่สำคัญเช่นนี้จึงทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งค่ะ”Anita Chan กล่าว

“พวกเราตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้ต้อนรับ Anita Chan ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Elegant Hotel Collection ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Elegant Hotel Collectionเติบโตขึ้นจากความตั้งใจที่จะนำเสนอโรงแรมแบบอิสระให้เป็นที่รู้จัก ได้รับการจองห้องพักและรายได้ที่มากขึ้นด้วยต้นทุนการขายที่น่าสนใจ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายการให้บริการไปทั่วโลกด้วยการเปิดตัวฝ่ายเอเชียแปซิฟิก การแต่งตั้ง Anita ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าอย่างแท้จริงให้แก่โรงแรมหรูอิสระในภูมิภาคนี้”Catt McLeod รองประธาน Elegant Hotel Collection ประจำภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)

Mark Lewis ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทด้านการจัดจำหน่ายและตัวแทนระดับโลกของ HotelREZ กล่าวว่า“ เราไม่มีความกังขาเลยว่า #StayElegant™ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความหรูหราและการท่องเที่ยวที่แท้จริง — Elegant ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถสร้างสมดุลระหว่างความต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับแบรนด์หรู และโมเดลการกำหนดราคาที่มีความเหมาะสมในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งส่งผลให้โรงแรมได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น มีกำไรเพิ่มขึ้น ลดต้นทุนโดยรวมลงได้ และแน่นอน อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ด้วยการบริหารจัดการบัญชีเชิงพาณิชย์ที่แข็งแกร่งและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด Elegant Hotel Collection ได้ปรับบริการให้เหมาะกับความต้องการของโรงแรมแต่ละแห่ง โดยมอบทั้งระบบความภักดีระดับโลก การสนับสนุนด้านการขายระดับโลก พร้อมการเข้าถึงเครือข่ายสำนักงานขายกว่า 60 แห่งทั่วโลก รวมถึงโครงการขยายความร่วมมือกับเอเจนซีและองค์กรระดับโลกที่ได้รับการยกระดับ ครอบคลุมการสร้างคำขอข้อเสนอสำหรับกลุ่มลูกค้าหรูหราเพิ่มขึ้น การจัดกิจกรรมเฉพาะกลุ่มกับเอเจนซี การจัดโรดโชว์ระดับโลก การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย

Elegant Hotel Collection เป็นชุมชนระดับโลกของโรงแรมหรูหราแบบอิสระที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกนั้นจะต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น และประกอบด้วยโรงแรมชื่อดังมากมาย เช่น Exclusive Collection (สหราชอาณาจักร) Galgorm Resort (ไอร์แลนด์เหนือ) Fonab Castle Hotel & Spa (สก็อตแลนด์) Cresta Palace Celerina (สวิตเซอร์แลนด์) Paresa Resort Phuket (ประเทศไทย) และ The Townhouse Hotel Mykonos (กรีซ) ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัล Michelin Key อันทรงเกียรติเมื่อไม่นานมานี้

เกี่ยวกับ Elegant Hotel Collection

Elegant Hotel Collection เป็นแบรนด์โรงแรมหรูที่จับต้องได้ให้บริการแบบครบวงจร โดยมีศูนย์กลางระดับภูมิภาคอยู่ที่นวร์ก ลอนดอน เอเธนส์ (ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) ไมอามี (สหรัฐอเมริกา) ฮ่องกง (เอเชียแปซิฟิก) โบโกตา ปานามา (ละตินอเมมริกา) นอกจากนี้ยังมีสำนักงานขายและการตลาดกว่า 60 แห่งทั่วโลก Elegant Hotel Collection มุ่งมั่นให้บริการด้านการจัดจำหน่าย เทคโนโลยี รวมถึงบริการด้านการขายและการตลาดแก่เครือข่ายโรงแรมหรูอิสระทั่วโลก โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจที่ยั่งยืน ผ่านการคัดสรรและเชิญชวนภายใต้การยึดหลักการสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ความเป็นเอกลักษณ์ ความหลากหลาย ความสร้างสรรค์ ความโดดเด่น และความยั่งยืน นอกจากนี้ Elegant Hotel Collection ยังเป็นตัวแทนทั่วโลกภายใต้รหัสเครือข่าย HO GDS ที่ขับเคลื่อนโดย HotelREZ

โซเชียลมีเดีย

ลิงค์อิน https://www.linkedin.com/company/elegant-hotel-collection
อินสตาแกรม https://www.instagram.com/elegant.hotel.collection/
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/profile.php?id=100090266725457
ติ๊กตอก https://www.tiktok.com/@elegant.hotel.collection

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250511595378/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สามารถติดต่อได้ที่

อีเมล: info@eleganthotelcollection.com
Anita Chan:https://www.linkedin.com/in/anchan/
เว็บไซต์: www.eleganthotelcollection.com (สำหรับลูกค้าทั่วไป) | www.eleganthotelcollection.org (สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม)
ร่วมงานกับ Elegant Hotel Collection: https://www.link.eleganthotelcollection.org/a-global-movement

ที่มา: Elegant Hotel Collection

แคมเปญใหม่ล่าสุดของ kate spade new york นำแสดงโดย Ice Spice และ Charli D’Amelio เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่เป็นเพื่อนกันอย่างสุดหัวใจ

Logo

แคมเปญ SS25 ของแบรนด์ “To the Ones Who Carry Us” ซึ่งเน้นที่มิตรภาพเป็นสำคัญ เป็นการเชิดชูผู้ที่คอยช่วยเหลือเราตลอดชีวิต เช่นเดียวกับกระเป๋าถือ Deco อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–30 เมษายน 2025

วันนี้ kate spade new york เปิดตัวแคมเปญแบรนด์ระดับโลกประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 “To The Ones Who Carry Us นำแสดงโดยศิลปินที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ Ice Spice และนักเต้นและดาราโซเชียลมีเดียผู้มีความสามารถหลากหลาย Charli D’Amelio แนะนำแคมเปญฤดูกาลที่โดดเด่น ซึ่งนำเสนอความสวยงามใหม่เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มผู้ชมวัยเยาว์ แคมเปญนี้เฉลิมฉลองบทบาทของเพื่อนในชีวิตของผู้หญิงผ่านฉากสร้างสรรค์ที่นำพลังงานทันสมัยและเข้าถึงได้มาสู่แบรนด์

ไอซ์สไปซ์ และชาร์ลี ดาเมลิโอ ร่วมแสดงในแคมเปญ ss25 ของเคท สเปด นิวยอร์ก

“แคมเปญนี้เป็นจดหมายรักที่มีชีวิตชีวาถึงเพื่อน ๆ ที่มีบทบาทในชีวิตของผู้หญิง” Eva Erdmann ซีอีโอและประธานแบรนด์ของ kate spade new york กล่าว “ตั้งแต่เข้าร่วมกับแบรนด์ เราได้สำรวจวิธีใหม่ ๆ ที่มีความหมายในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายวัยเยาว์ ในโลกที่การติดต่อทางดิจิทัลมักจะบดบังการเชื่อมต่อที่แท้จริง ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของมิตรภาพจึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้มากขึ้นกว่าเดิม แคมเปญล่าสุดของ kate spade new york เฉลิมฉลองเพื่อนที่แข็งแกร่ง เพื่อนที่อยู่เคียงข้างคุณ ช่วยเหลือคุณ และทำให้ทุกวันสดใสขึ้น อย่างที่ Kate Spade เองเคยกล่าวไว้ว่า ‘เพื่อนที่ดีเหมือนกระเป๋าถือที่สมบูรณ์แบบ อยู่ข้างคุณเสมอ ช่วยยกระดับจิตใจของคุณ และทำให้ทุกการผจญภัยมีความพิเศษขึ้นเล็กน้อย’”

นำแสดงโดย Ice Spice ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความจริงใจที่ไม่หวั่นไหว และ Charli D’Amelio ซึ่งได้รับการยกย่องถึงความสามารถของเธอในการสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม แคมเปญล่าสุดของ kate spade new york นำเสนอกระเป๋าสะพายไหล่โซ่ Deco ในสองสีใหม่ประจำฤดูกาล ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งอยู่ในทิวทัศน์เมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน ถ่ายทอดพลังของชีวิตที่กล้าหาญและเคลื่อนไหวเร็วของ Gen Z และเพื่อนสนิทที่คอยสนับสนุนพวกเขาผ่านทุกช่วงเวลา จุดศูนย์กลางคือ Deco กระเป๋าที่ใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งเปลี่ยนจากกลางวันสู่กลางคืน จากลุคสบายๆ สู่ลุคเรียบหรูได้อย่างราบรื่น แสดงให้เห็นว่าเพียงแค่กระเป๋าใบเดียวก็ทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เพื่อนที่คอยปลอบใจหลังจากการเลิกรา ไปจนถึงเพื่อนที่เชื่อมโยงกลุ่มเพื่อนให้มีความสามัคคี แคมเปญนี้ฉลองให้กับคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ โดดเด่น และทำให้ทุกช่วงเวลาเป็นเรื่องที่มีความหมาย

Erdmann กล่าวต่อ “เราฉลองทุกแง่มุมของมิตรภาพ โดยให้เกียรติคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครซึ่งทำให้ทุกกลุ่มเพื่อนมีความพิเศษ เช่นเดียวกับเพื่อนที่คอยสนับสนุนเรา กระเป๋า Deco จาก kate spade new york ก็ยืนอยู่ในจุดศูนย์กลาง เป็นสัญลักษณ์ของความเรียบง่าย การใช้งานที่หลากหลาย และความสามารถในการปรับตัว ซึ่งเป็นเพื่อนคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับชีวิตของคุณ”

“ผมเติบโตในนิวยอร์กและเป็นแฟนตัวยงของ kate spade และการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้มาตลอด แคมเปญนี้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะมันเน้นการยกย่องมิตรภาพ” กล่าวโดยIce Spice“เพื่อนของฉันมีความหมายทุกอย่างสำหรับฉัน พวกเขาทำให้ฉันมีสติ โดยเฉพาะพี่สาวและลูกพี่ลูกน้อง พวกเขาคือคนที่ฉันโทรหาเมื่อคิดถึงบ้าน เมื่อรู้สึกตื่นเต้น หรือเมื่อฉันต้องการคนที่คอยเตือนฉันเกี่ยวกับตัวตนและที่มาของตัวเอง”

“ฉันตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ kate spade new york”กล่าวโดย Charli D’Amelio“ฉันรักแบรนด์นี้มาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบที่ทันสมัยที่ช่วยให้ฉันสามารถแสดงสไตล์ส่วนตัวของตัวเองได้ ฉันคิดว่ามันเจ๋งมากที่เห็นแคมเปญนี้เฉลิมฉลองพลังของมิตรภาพและความสุขที่มันนำมา มันทำให้ฉันนึกถึงมิตรภาพตลอดชีวิตที่ฉันมี ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เด็กๆ เติบโตขึ้นมา เรียนหนังสือด้วยกัน อยู่ในทีมเต้นรำเดียวกัน หรือแม้แต่เพื่อนใหม่ที่ฉันได้พบจากการทำงานหรือการย้ายไปเมืองใหม่ ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ได้มีโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสร้างมิตรภาพกับคนใหม่ ๆ ตลอดเส้นทางนี้”

กระเป๋าถือ Deco ก้าวเข้าสู่ความสนใจอย่างมั่นใจ ถูกออกแบบใหม่สำหรับฤดูกาลนี้ในสีที่โดดเด่นสำหรับ Spring/Summer ได้แก่ Blue Multi Denim, Jungle Vine, Pistachio, Sweet Cream และ Apricot Cream เป็นการแสดงออกที่ทันสมัยของดีไซน์ DNA ของ kate spade, Deco ผสมผสานเส้นสายที่สะอาดตา รูปทรงมินิมอล และความหรูหราในชีวิตประจำวันอย่างไม่ยุ่งยาก มันถูกออกแบบสำหรับผู้ที่ไม่ได้แค่พกพาสิ่งจำเป็นของตัวเอง เธอพกพาโลกของตัวเอง และบ่อยครั้งก็เป็นโลกของคนอื่นด้วย

Spring/Summer 2025 Deco Assortment

คอลเลกชัน Spring/Summer 2025 พร้อมให้ช้อปแล้ว โดยจะมีสไตล์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ทั้งในร้านและออนไลน์ แคมเปญนี้จะเปิดเผยทางช่องทางของ kate spade new york ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน เป็นต้นไป

ภาพและวิดีโอแคมเปญ:
รูปภาพ: ที่นี่
วิดีโอ: ที่นี่

เครดิต:
ผู้กำกับ: Henry Scholfield
ช่างภาพ: Micaiah Carter
กลยุทธ์ด้านความคิดสร้างสรรค์: Mandai Loop
บริษัทด้านความคิดสร้างสรรค์: Marcel
สไตลิสต์: Emmanuelle Youchnowski
โปรดิวเซอร์: Olivier Dubocage
ออกแบบงานสร้าง: Mark Connell
ดนตรี : Laurent Cuenca, Fiesta Piñata, BMG Production Music France
ทำผม: Jacob Aaron Dillon (Ice Spice), Laura Polko (Charli), Cheryl Marks
แต่งหน้า: Luz Alicia Giraldo Nogues (Ice Spice), Liv Madorma (Charli), Stella Tzanidakis
ทำเล็บ: Brittney Boyce (Charli)

kate spade new york Summer 2025 lookbook:
FLAT-LAY: ที่นี่
บนนางแบบ: ที่นี่

เกี่ยวกับ kate spade new york:

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1993 ด้วยคอลเลกชันกระเป๋าถือหลัก 6 แบบ Kate Spade New York ก็ได้ยึดมั่นในตัวตนที่เต็มไปด้วยสีสัน อารมณ์ขัน ความสดใส และความเป็นผู้หญิงมาโดยตลอด ปัจจุบันแบรนด์ได้กลายเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ระดับโลกที่เป็นสัญลักษณ์ของความสุข ถ่ายทอดคอลเลกชันประจำฤดูกาล ทั้งกระเป๋าถือ เสื้อผ้าพร้อมสวมใส่ เครื่องประดับ รองเท้า ของขวัญ ของแต่งบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย Kate Spade New York เป็นที่รู้จักจากรากฐานอันแข็งแกร่งและอัตลักษณ์เฉพาะตัว มอบมุมมองที่แตกต่าง และเฉลิมฉลองให้กับผู้หญิงทั่วโลกที่ใช้ชีวิตในแบบที่สวยงามแม้ไม่สมบูรณ์แบบ Kate Spade New York เป็นหนึ่งในแบรนด์ภายใต้เครือ Tapestry

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250430749778/en

Contacts

ติดต่อสื่อ:
LaForce: katespade@laforce.nyc

ที่มา: kate spade new york



Al Zorah ประกาศความร่วมมือกับ Four Seasons เพื่อเปิดรีสอร์ทริมชายหาดสุดหรูที่ Al Zorah, Ajman ในปี 2026

Logo

AJMAN, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–28 เมษายน 2025

บริษัท Al Zorah Development ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล Ajman และ Solidere International ร่วมกับ Four Seasons ได้ประกาศแผนเปิดตัว Four Seasons Resort Ajman ที่ Al Zorah ในปี 2026 รีสอร์ทสุดหรูริมชายหาดแห่งนี้จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่จากทรัพย์สินที่มีอยู่เดิม รวมถึงการอัปเกรดที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ

From left: George Saad, CEO of Al Zorah Development Company, and Adrian Messerli, Area President, Hotel Operations, EMEA at Four Seasons, during the signing of the agreement. (Photo: AETOSWire)

จากซ้าย: George Saad, CEO ของบริษัท Al Zorah Development และ Adrian Messerli ประธานฝ่ายปฏิบัติการโรงแรม EMEA ประจำพื้นที่ ที่ Four Seasons ในระหว่างการลงนามข้อตกลง (ภาพถ่าย: AETOSWire)

รีสอร์ทแห่งนี้มีวิลล่า 23 หลัง ห้องพัก 74 ห้อง และห้องชุด โดยทุกห้องมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของ Arabian Gulf รีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติดูไบเพียง 25 นาที พร้อมบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเงียบสงบตามธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์

George Saad, CEO ของบริษัท Al Zorah Development Company เปิดเผยว่า โครงการนี้ถือเป็นโอกาสในการยกระดับทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับมาตรฐานระดับโลกของ Four Seasons โดยคาดหวังที่จะดึงดูดความสนใจจากนานาชาติและเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับภูมิภาคนี้

Bart Carnahan ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลก การจัดการพอร์ตโฟลิโอ และที่พักอาศัยของ Four Seasons เผยถึงความกระตือรือร้นในการขยายแบรนด์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมว่า การร่วมมือกับ Al Zorah Development มีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์สุดหรูระดับโลกที่เน้นย้ำถึงการบริการอันเลื่องชื่อของ Four Seasons

รีสอร์ทแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาโดยผสมผสานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เข้ากับสวนอันเขียวชอุ่ม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายที่ตอบโจทย์ผู้เข้าพักทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ออกกำลังกายที่ทันสมัย สปาอันหรูหรา ชายหาดส่วนตัว และสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ยาว 280 ฟุต (85 เมตร) โดยแบ่งเป็นโซนแยกสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก

นอกจากนี้ แขกจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เช่น โปรแกรมสำหรับเด็ก ทริปดำน้ำ และทัวร์นำเที่ยวเพื่อสำรวจป่าชายเลนและลำธารธรรมชาติ ผู้ที่ชื่นชอบกอล์ฟสามารถใช้บริการ Al Zorah Golf and Yacht Club ซึ่งมีสนามกอล์ฟระดับแชมเปี้ยนชิพ 18 หลุมที่ออกแบบโดย Jack Nicklaus

รีสอร์ทแห่งนี้ยังมอบประสบการณ์อาหารชั้นเลิศ รวมถึงห้องอาหารที่ให้บริการอาหารนานาชาติ พร้อมทัศนียภาพของทะเลแบบพาโนรามา บาร์ริมชายหาด และห้องอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศท้องถิ่น และห้องอาหารอิตาลีที่ผสมผสานรสชาติของท้องถิ่นและนานาชาติเข้าด้วยกัน พร้อมทิวทัศน์อันสวยงามตระการตา Four Seasons Resort ใน Al Zorah, Ajman มุ่งเน้นที่ความหรูหราและการบริการที่เป็นเลิศ เพื่อมอบประสบการณ์การต้อนรับที่ไม่มีใครเทียบได้ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แหล่งข้อมูล: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20250428436866/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Mahmoud Kabakibi – Account Manager
m.kabakibi@saharapr.com
00971552505214

ที่มา: Al Zorah

เจ็ดเมกะอีเว้นท์ของ HKTDC ที่จัดแสดงศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ของเอเชีย

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–20 เมษายน 2025

สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เป็นเจ้าภาพจัดงานเจ็ดเมกะอีเว้นท์ที่ประกอบด้วย งานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมฮ่องกง (Hong Kong Gifts & Premium Fair), งานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Home InStyle) และงานแสดงสินค้าแฟชั่น (Fashion InStyle) (จัดขึ้นวันที่ 27-30 เมษายนที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง HKCEC), งานแสดงสินค้าการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์นานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Printing & Packaging Fair) และงานแสดงผลิตภัณฑ์การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ฮ่องกง (DeLuxe PrintPack Hong Kong) (จัดขึ้นพร้อมกันที่ AsiaWorld-Expo), และงานแสดงสินค้าใบอนุญาตนานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Licensing Show) และการประชุมการออกใบอนุญาตแห่งเอเชีย (Asian Licensing Conference) (จัดขึ้นวันที่ 28-30 เมษายนที่ HKCEC) โดยงานดังกล่าวเหล่านี้คาดว่าจะดึงดูดผู้แสดงสินค้ากว่า 6,000 รายจากกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค ที่จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมอุตสาหกรรมความสร้างสรรค์ของฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่รวมถึงตลาดต่างประเทศต่างๆ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างตำแหน่งของเมืองในฐานะศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคอีกด้วย

The HKTDC is hosting seven vibrant events spanning lifestyle products and the licensing sector in late April, including the Hong Kong Gifts & Premium Fair, Home InStyle, Fashion InStyle, Hong Kong International Printing & Packaging Fair, DeLuxe PrintPack Hong Kong, Hong Kong International Licensing Show and Asian Licensing Conference.

สภาพัฒนาการค้าฮ่องกงจะจัดงานที่มีชีวิตชีวาเจ็ดงานครอบคลุมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และภาคส่วนการออกใบอนุญาตในช่วงปลายเดือนเมษายน รวมถึงงานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมฮ่องกง, งานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน, งานแสดงสินค้าแฟชั่น, งานแสดงสินค้าการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์นานาชาติฮ่องกง, งานแสดงผลิตภัณฑ์การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ฮ่องกง, งานออกใบอนุญาตนานาชาติฮ่องกง และการประชุมการออกใบอนุญาตแห่งเอเชีย

งานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมเฉลิมฉลองสี่ทศวรรษแห่งความมหัศจรรย์

งานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมฮ่องกงประจำปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 40 โดยมีธีมว่า Celebrating Four Decades of Wonder” ที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานการใช้งานกับการออกแบบที่สร้างสรรค์ โดยศาลา Jingdezhen จะจัดแสดงงานเซรามิกที่ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมกับการออกแบบที่ทันสมัย ​​ตั้งแต่ถ้วยกาแฟและชุดน้ำชาแบบมินิมอลไปจนถึงโปรแกรมการนำเซรามิกมาใช้จริงซึ่งใช้โมเดลกล่องสุ่มสินค้ายอดนิยมเพื่อบ่มเพาะนักออกแบบและช่างฝีมือรุ่นต่อไป

พาวิลเลียนใหม่คว้าโอกาสทางเศรษฐกิจผู้สูงวัย

ด้วยตลาดของที่ผู้สูงวัยเติบโตอย่างรวดเร็วและความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง Home InStyle จึงเปิดตัว Gerontech Living Pavilion ซึ่งจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันนวัตกรรมจากบริษัทท้องถิ่นมากกว่า 10 แห่ง โดยถนนวัฒนธรรมและสร้างสรรค์จะได้รับการยกระดับและขยายให้กว้างขวางขึ้น โดยมีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 100 รายจากกว่า 10 ประเทศและภูมิภาค

วัสดุแฟชั่นนวัตกรรมมาบรรจบกันที่งาน Fashion InStyle

งาน Fashion InStyle ประจำปี 2025 จะเปิดตัว NEXT@Fashion InStyle ซึ่งเป็นโซนไฮไลท์ใหม่ที่จัดโดย HKTDC และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ (CCIDA) ของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยรวบรวมซัพพลายเออร์วัสดุระดับโลกกว่า 60 รายเพื่อจัดแสดงวัสดุแฟชั่นขั้นสูง

งาน PrintPack ทั้งสองงานจะเน้นย้ำถึงความยั่งยืนและการออกแบบที่สร้างสรรค์

งาน Printing & Packaging Fair จะเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใน Green Printing & Packaging Solutions Zone รวมถึงริบบิ้นเส้นใยพลาสติกรีไซเคิลและถั่วบรรจุภัณฑ์ละลายน้ำ ในขณะที่ DeLuxe PrintPack นั้นจะเน้นที่โซลูชันบรรจุภัณฑ์ระดับพรีเมียม

งานดังกล่าวจะประกอบด้วยสัมมนาตามหัวข้อต่างๆ ประมาณ 60 รายการ ฟอรั่มผู้ซื้อ กิจกรรมส่งเสริมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และขบวนพาเหรดแฟชั่น ครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ตลาด การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม อุตสาหกรรมอัจฉริยะ เศรษฐกิจผู้สูงวัย สุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย และความยั่งยืน

ลงทะเบียนตอนนี้: https://tinyurl.com/3t43cupe

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/20250414024775/en

Contacts

แผนกนิทรรศการของ HKTDC:
Timothy Hsu
(852) 2240 4308
timothy.tf.hsu@hktdc.org

ที่มา: สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)


โมเดลร้านอาหารเจเนอเรชั่นใหม่ “Kura Sushi Osaka Kansai Expo Store” เสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการใน “Future Life Zone” วันที่ 13 เมษายน (อาทิตย์) นี้!

Logo

 “ร้านอาหารยั่งยืน” แห่งแรกของ Kura Sushi ที่นำผลิตภัณฑ์จากทะเล เศษอุปกรณ์ตกปลา และพลาสติกกลับมาใช้ใหม่!

 ‘ความยั่งยืน’ และ “เทคโนโลยีล่าสุด” ผสมผสานกัน

โอซาก้า ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–26 มีนาคม 2025

Kura Sushi Inc. (สำนักงานใหญ่: เมืองซาไก จังหวัดโอซาก้า) หนึ่งในเครือร้านซูชิสายพานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ประกาศว่าจะเปิดร้าน Kura Sushi ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนที่ Future Life Zone ของงาน Osaka-Kansai Expo ในวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025

Appearance: Sustainable store that uses “plaster with no artificial materials” for exterior wall material that reuses “seashells” that would otherwise be discarded.

ลักษณะภายนอก: ร้านค้าที่ยั่งยืนที่ใช้ “ปูนปลาสเตอร์ที่ปราศจากวัสดุสังเคราะห์” เป็นวัสดุผนังภายนอก โดยนำ “เปลือกหอย” ที่ปกติแล้วจะถูกทิ้งมาใช้ซ้ำ

Kura Sushi Osaka Kansai Expo Store เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมา โดยที่นั่ง 338 ที่นั่ง ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Kura Sushi และมีสายพานหมุนที่ยาวที่สุดที่ประมาณ 135 เมตร การออกแบบภายนอกเรียบง่าย โดยมีผนังนามาโกะชวนให้นึกถึงโกดังสัญลักษณ์ของบริษัท และรูปทูน่านิกิริขนาดใหญ่ใน “Antibacteria Sushi Cover Mr. Freshness” ที่ช่วยปกป้องซูชิจากฝุ่นและไวรัสในอากาศ ภายในมีการออกแบบที่หรูหราและทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่นด้วยโต๊ะและพนักพิงลายไม้ รวมถึงพื้นผิวที่นั่งแบบเสื่อทาทามิ และภาพกราฟิกที่โดดเด่นของจานขนาดยักษ์บนเพดาน

ผนังด้านนอกทำด้วย “ปูนปลาสเตอร์ไร้สารสังเคราะห์” ซึ่งทำจากการนำเปลือกหอย 336,000 ชิ้นที่ปกติแล้วจะถูกทิ้งมาใช้ใหม่ และใช้กาวและส่วนผสมอื่นๆ ที่ทำจากสาหร่ายทะเล สำหรับภาพสัญลักษณ์ที่เคาน์เตอร์เก็บเงินและห้องน้ำนั้น ได้ใช้ฝาขวดพลาสติกที่ถูกทิ้งแล้วและถังโพลีเอทิลีนสีขาวขุ่นรวมประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์2ลงเหลือประมาณหนึ่งในสามของปริมาณที่ปล่อยออกมาจากการเผา นอกจากนี้ หมายเลขที่นั่งและป้ายโลโก้ในที่กำบังลมบางส่วนยังทำจากวัสดุตกปลารีไซเคิล เช่น เชือก ทุ่น และตะกร้า ซึ่งมีน้ำหนักรวมประมาณ 15 กิโลกรัม ม้านั่งในบริเวณนั่งรอทำจากต้นซีดาร์ที่ตัดแต่งในญี่ปุ่น แคปซูล “Bikkura Pon®” และสิ่งของอื่นๆ ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถนำกลับบ้านได้ก็ได้รับการรีไซเคิลเช่นกัน และภาชนะใส่อาหารกลับบ้านทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อมีส่วนสนับสนุนในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)

นอกจากนี้ ร้านอาหารแห่งนี้ยังมีระบบที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยี AI และ ICT ที่พัฒนามายาวนานเพื่อปรับปรุงสุขอนามัยและการควบคุมคุณภาพ และเป็นร้านซูชิสายพานรายใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารล้ำสมัยที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดเข้ากับ “การเสิร์ฟด้วยสายพาน” ซึ่งสามารถทำได้โดยร้านซูชิสายพานรายใหญ่เท่านั้น

นอกจากเมนูซูชิปกติแล้ว ร้านอาหารแห่งนี้ยังเสนอเมนูเพื่อความยั่งยืนที่ใช้ปลาไร้ประโยชน์ เช่น ปลานิซาได ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน รวมไปถึงเมนู 70 คอร์สที่สร้างสรรค์อาหารที่เป็นตัวแทนของ 70 ประเทศและภูมิภาค 

ในงานแถลงข่าว Hiroyuki Okamoto กรรมการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายโฆษณา และนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าวว่า “เราเป็นเครือร้านซูชิสายพานรายใหญ่เพียงรายเดียวที่เสิร์ฟซูชิจากสายพานของเราในร้านอาหารทุกแห่งของเรา แนวคิดของเราคือการสร้างสถานที่ที่ผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นอกจากนี้ เรายังจะแนะนำ “โมเดลร้านอาหารเจเนอเรชันใหม่” ให้กับโลกด้วยการผสมผสานองค์ประกอบที่ยั่งยืนเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย และนำวัฒนธรรมซูชิแบบหมุนเวียนซึ่งมีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นมาสู่ผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ Kura Sushi Inc. มีร้านอาหาร 546 แห่งในญี่ปุ่น 73 แห่งในสหรัฐอเมริกา 59 แห่งในไต้หวัน และ 3 แห่งในเซี่ยงไฮ้

[ จุดเด่นของร้าน Kura Sushi Osaka Kansai Expo ]

  •  ร้านค้าที่ยั่งยืนที่ใช้ “ปูนปลาสเตอร์ที่ปราศจากวัสดุสังเคราะห์” เป็นวัสดุผนังภายนอก โดยนำ “เปลือกหอย” ที่ปกติแล้วจะถูกทิ้งมาใช้ซ้ำ
  •  ด้วยจำนวนที่นั่งมากที่สุดและสายพานหมุนที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Kura Sushi มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สนุกสนานกับซูชิแบบหมุนเฉพาะของ Kura Sushi เท่านั้น
  •  โครงการริเริ่มที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้วัสดุที่ถูกทิ้ง
     Kura Sushi Osaka-Kansai Expo Store ให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยได้นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในหลาย ๆ จุดของร้านอาหาร โดยฝาขวดพลาสติกและถังพลาสติกโพลีเอทิลีนสีขาวขุ่นถูกใช้เป็นภาพสัญลักษณ์บนเคาน์เตอร์เก็บเงินและห้องน้ำ นอกจากนี้ ป้ายโลโก้และตัวระบุหมายเลขที่นั่งในที่กำบังลมบางส่วนยังใช้เชือกตกปลา ทุ่น และตะกร้าแทน
  •  เปิดตัวแคปซูลและภาชนะแบบนำกลับบ้าน “Bikkura Pon!®” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
     แคปซูล “Bikkura Pon!®” เป็นแคปซูลกระดาษที่ใช้เทคโนโลยี PIM (Pulp Injection Molding) ซึ่งทำจากแป้งและเยื่อกระดาษ แคปซูลไม่ปล่อยสารพิษเมื่อถูกเผา สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และสลายตัวในดินได้ภายในเวลาประมาณ 6 เดือน
     ภาชนะใส่อาหารกลับบ้านใช้เศษเหลือทางมะพร้าว ทางใบปาล์ม(*1) ซึ่งเหลือจากการผลิตน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาไหม้และก๊าซมีเทนจากการสลายตัว ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ถุงกระดาษสำหรับซื้อกลับบ้านทำจากกระดาษรีไซเคิล 100%(*2) นอกจากนี้ ยังมีการพิมพ์คำว่า “โชคลาภ” ไว้ด้านในภาชนะ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับลูกค้าที่มารับอาหารกลับบ้าน
     *1 เศษเหลือของทางใบปาล์ม: ทะลายปาล์มเปล่าที่เกิดขึ้นหลังจากใบปาล์มถูกบีบเพื่อผลิตน้ำมันปาล์ม
     *2 ไม่รวมหูหิ้วถุงกระดาษ
  • การนำเสนอเมนูที่ยั่งยืนซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการพยายามสร้างการประมงที่มีมายาวนาน
     บริษัทของเขากำลังทำงานร่วมกับชาวประมงในญี่ปุ่นในโครงการริเริ่มต่างๆ เพื่อปกป้องทรัพยากรทางทะเลและฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมงเพื่อปกป้องมหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์ในอนาคต ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ บริษัทจึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน เช่น ปลาที่ใช้น้อย “การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอัจฉริยะ” ที่ใช้ AI และปลาออร์แกนิก
     Kura Sushi สาขา Osaka Kansai Expo ยังนำเสนอเมนูที่ยั่งยืนซึ่ง Kura Sushi เท่านั้นที่ทำได้ เช่น “กะหล่ำปลีนิซาได” “ฮามาจิออร์แกนิก” และ “โรลเพื่อสุขภาพ (มาโยกุ้ง)” โดยใช้ 'เวจิโต' (แครอทแผ่น) แผ่นผักที่ทำจากผักที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อส่งเสริม “การพัฒนาที่ยั่งยืน” ผ่านทางอาหาร บริษัทมีเป้าหมายที่จะ “มีส่วนสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)” ผ่านทางอาหาร
  •  เมนูพิเศษเมนูแรกของ Kura Sushi ซึ่งประกอบด้วยอาหารจาก 70 ประเทศและภูมิภาค!
     Kura Sushi ได้พัฒนาเมนูพิเศษที่รังสรรค์อาหารจาก 70 ประเทศและภูมิภาค สำหรับ 25 เมนูนั้น เราได้ขอให้ตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นและผู้ที่คุ้นเคยกับรสชาติดั้งเดิมของแต่ละประเทศมาลองชิม และเราได้ทำการปรับปรุงตามความคิดเห็นและคำแนะนำของพวกเขา เราพิถีพิถันในการสร้างสรรค์รสชาติดั้งเดิมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการทำอาหารของแต่ละประเทศและตัวแทนจากแต่ละภูมิภาค คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารกว่า 70รายการจากทั่วโลกได้ที่ Expo Store
     นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบ “ปกซูชิป้องกันแบคทีเรีย Mr. Freshness” ในรูปแบบพิเศษเพื่อสะท้อนถึงแนวคิดของร้าน Osaka/Kansai Expo อีกด้วย โดยปกทั้งสองเล่มเชื่อมต่อกันด้วยลวดลายจับมือสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีสันของงาน Expo ปกหน้ามีภาพอาหารจากประเทศและภูมิภาคต่างๆ ส่วนปกหลังประกอบด้วยอาหารซูชิซึ่งไหลมารวมกันบนสายพานหมุน 

[ รายละเอียดร้านค้า ]

  • ชื่อร้าน: “Kura Sushi Osaka Kansai Expo Store”
  • เวลาเปิดให้บริการ: 10.00–21.00 น.
  • จำนวนที่นั่ง: 338
  • พื้นที่นั่ง : 799.55 ตารางเมตร

HP: https://www.kurasushi.co.jp/2025expo/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250325146381/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับการสอบถามข้อมูลสื่อเกี่ยวกับข่าวเผยแพร่นี้:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Kura Sushi, Inc.
อีเมล: prhq_kurasushi@kura-corpo.co.jp

ที่มา: Kura Sushi Inc.











เปิดรับผลงานการออกแบบโลโก้อารยธรรม Shu โบราณจากทั่วโลกอย่างเป็นทางการแล้ว

Logo

เฉิงตู ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–21 มีนาคม 2025

ท่ามกลางสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์อันกว้างใหญ่ ซานซิงตุยและจินซาเปล่งประกายราวกับ “ดวงดาวคู่” ในกลุ่มดาวที่เจิดจ้าของอารยธรรม Shu โบราณ เปล่งประกายความเจิดจ้าที่น่าหลงใหล เมื่อวันที่ 20 มีนาคม สำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมมณฑลเสฉวนได้เปิดรับสมัครผู้ส่งผลงานโลโก้อารยธรรม Shu โบราณจากทั่วโลก โดยเชิญชวนบุคคลและองค์กรต่างๆ เข้าร่วมงาน ซึ่งจะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม

Global Call for Submissions for the Ancient Shu Civilization Logo Design

เปิดรับผลงานการออกแบบโลโก้อารยธรรม Shu โบราณจากทั่วโลก

โดยงานนี้มุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจอย่างเต็มที่ในการค้นพบโลโก้ที่สะท้อนถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของอารยธรรม Shu โบราณ

ซึ่งมีข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการส่งผลงานเข้าประกวด: ผลงานจะต้องผสมผสานองค์ประกอบจากแหล่งโบราณคดีซานซิงตุยและจินซา โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและความสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของอารยธรรม Shu โบราณ การออกแบบควรสะท้อนมุมมองระดับนานาชาติ สุนทรียศาสตร์ทางวัฒนธรรมจีน และเสน่ห์อันโดดเด่นของภูมิภาคปาชู่ ผลงานควรสอดคล้องกับธีม มีองค์ประกอบที่สร้างสรรค์และไม่เหมือนใคร สะดุดตา เป็นที่จดจำ และแสดงออกถึงศิลปะได้อย่างชัดเจน ผลงานที่ส่งต้องประกอบด้วยไฟล์รูปภาพและไฟล์ต้นฉบับ พร้อมคำอธิบายเป็นลายลักษณ์อักษร 300–800 คำ และส่งทางอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลเฉพาะของงาน: submit@visitancientshu.com.

โดยจะมีการมอบรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งจำนวน 1 รางวัลพร้อมเงินสดมูลค่า 50,000 หยวน รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 หยวน รางวัลรองชนะเลิศอันดับสามจำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 5,000 หยวน และรางวัลยอดเยี่ยมจำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 2,000 หยวน

อารยธรรมโบราณ Shu จะได้รับการฟื้นคืนชีพด้วยความมีชีวิตชีวาและพลังใหม่ในยุคสมัยใหม่ ตัวแทนจากคณะกรรมการจัดงานกล่าวว่า อารยธรรม Shu จะสร้างสะพานข้ามกาลเวลาและอวกาศ เชื่อมโยงอารยธรรม Shu โบราณกับโลกสมัยใหม่ ทำให้ผู้คนเข้าใจ ชื่นชม อนุรักษ์ และส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของมนุษย์ได้มากขึ้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอารยธรรม Shu โบราณ www.visitancientshu.com.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำนักงานบริหารมรดกทางวัฒนธรรมมณฑลเสฉวน
ติดต่อ: Jean Huang
อีเมล: submit@visitancientshu.com
โทร: +8628 8663 7325
เว็บไซต์: www.visitancientshu.com

ที่มา: Sichuan Provincial Cultural Heritage Administration

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250320223656/en

สมาคมผู้ผลิตสาเกและโชจูของญี่ปุ่น: ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มระดับโลกมาร่วมดื่มด่ำกับสาเกญี่ปุ่น Honkaku Shochu และวัฒนธรรมอะวาโมริของญี่ปุ่น

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–18 มีนาคม 2025

สมาคมผู้ผลิตสาเกและโชจูแห่งประเทศญี่ปุ่น (JSS) จัดทัวร์พิเศษเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจากอุตสาหกรรมไวน์และบาร์ทั่วโลกมาดื่มด่ำกับสาเกญี่ปุ่น Honkaku Shochu และวัฒนธรรมอะวาโมริที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โปรแกรมพิเศษนี้นำเสนอประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเทคนิคการผลิตและการกลั่นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีใครเทียบของ UNESCO เมื่อไม่นานนี้

Leading Sommeliers Visiting a Rice Polishing Facility

ซอมเมลิเยร์ระดับท็อปเข้าเยี่ยมชมโรงงานขัดสีข้าว

ทัวร์ชิมสาเกนี้เป็นการรวบรวมซอมเมลิเยร์และผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องดื่มของร้านอาหารชั้นนำจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมโรงกลั่นสาเกที่คัดเลือกไว้ทั่วญี่ปุ่น ผู้เข้าร่วมจะได้รับข้อมูลแบบเจาะลึกในกระบวนการผลิต เรียนรู้เกี่ยวกับการขัดข้าว การหมัก และเทคนิคในการบ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของสาเก นอกเหนือจากการเข้าเยี่ยมชมโรงกลั่นแล้ว ยังมีการเข้าเยี่ยมชมสถาบันการศึกษาที่มีการนำเสนอเซสชั่นพิเศษเฉพาะด้านเกี่ยวกับการคัดเลือกยีสต์ การวิเคราะห์กลิ่น และแนวทางทางวิทยาศาสตร์ในการกลั่นสาเก พร้อมกันนี้ ยังพาเข้าเยี่ยมชม koji mold รวมถึงทุ่งนาที่ใช้ปลูกข้าว เพื่อเสริมความเข้าใจในการผลิตสาเกอย่างครอบคลุมตั้งแต่เมล็ดข้าวจนถึงสาเกที่เสริฟให้แก่ลูกค้า

สำหรับทัวร์ชิมโชจูนั้น เป็นการรวมตัวของบาร์เทนเดอร์และผู้จัดการบาร์ชั้นนำ เพื่อสัมผัสกับโชจูที่ผ่านการกลั่นอย่างมีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น นั่นก็คือ Honkaku Shochu ซึ่งมีความแตกต่างจากเหล้ากลั่นอื่นๆ ทั่วโลก ตรงที่มีส่วนผสมพื้นฐานที่หลากหลายและวิธีการกลั่นที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้เข้าร่วมจะได้เข้าเยี่ยมชมโรงกลั่น พูดคุยกับผู้ผลิต และรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะที่ซับซ้อนของโชจูผ่านการชิม นอกจากนี้ ยังพาเข้าเยี่ยมชมฟาร์มมันเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักของโชจู พบปะกับเกษตรกรในท้องถิ่นและสัมผัสประสบการณ์การดื่มตามประเพณีของภูมิภาคโดยใช้ภาชนะแบบดั้งเดิม กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ดื่มด่ำกับโชจูอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากมุมมองที่หลากหลาย

นอกเหนือจากความรู้ทางเทคนิคแล้ว ยังเอื้ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เข้าร่วมและผู้ผลิตชาวญี่ปุ่น ซอมเมลิเยร์ยกย่องสาเกว่า “มีรสชาติอูมามิที่สมดุล” และ “มีกรดต่ำ เหมาะกับการจับคู่กับอาหาร” ในทำนองเดียวกัน บาร์เทนเดอร์ก็ชื่นชมโชจูว่า “สามารถนำไปผสมเป็นค็อกเทลได้หลากหลาย” และ “มีกระบวนการผลิตตามธรรมชาติที่ปราศจากสารเติมแต่ง” ทำให้เป็นคู่แข่งที่ไม่น้อยหน้ากันในวงการผสมเครื่องดื่มสมัยใหม่

หลังจากทัวร์เสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมสามารถนำความเชี่ยวชาญที่เรียนรู้ใหม่นี้ไปปรับใช้กับอุตสาหกรรมของตนเอง รวมถึงการแนะนำสาเกและโชจูไว้ในเมนูของร้านอาหารและบาร์ การอบรมพนักงาน และการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นเหล่านี้มาผสมผสานกับโปรแกรมการศึกษาของสมาคมซอมเมอลิเยร์ในท้องถิ่นและเวิร์กช็อปค็อกเทลทั่วโลก

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างต่อเนื่องของ JSS เพื่อยกระดับความตระหนักรู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นขึ้นสู่ระดับโลก โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้นำในอุตสาหกรรมระดับนานาชาติ สมาคมมีเป้าหมายที่จะขยายตลาด เพื่อส่งเสริมความนิยมอย่างต่อเนื่องบนเวทีระดับโลก

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250316698311/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Takeshi Itani
takeshi.itani@sakeexperiencejapan.com

ที่มา: Japan Sake and Shochu Makers Association


teamLab Planets (โตเกียว, โทโยสุ) ประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายตั๋วมากถึงประมาณ 130% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ เวลาอยู่ของผู้เข้าชมก็มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

Logo

 ดอกซากุระจะบานในสองพื้นที่ที่สร้างประสบการณ์เสมือนจริง เริ่มต้นวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 กุมภาพันธ์ 2025

teamLab Planets TOKYO DMM.com(ซึ่งจะขอเรียกในที่นี้ว่า teamLab Planets) ได้บันทึกการเพิ่มขึ้นของยอดขายตั๋วถึง 130% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ในเดือนมกราคมปี 2025*1เวลาอยู่ของผู้เข้าชมก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจากการสำรวจล่าสุดพบว่า สัดส่วนของผู้เข้าชมที่อยู่ “2 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นประมาณ 48% ในขณะที่ผู้ที่ “อยู่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นประมาณ 20%*2 .

teamLab Planets, a museum in Toyosu, Tokyo, where you can immerse yourself with your entire body, has unveiled a cherry blossom-themed artwork by the international art collective teamLab. (teamLab, Floating in the Falling Universe of Flowers, Video: teamLab)

teamLab Planets พิพิธภัณฑ์ในโทโยสุ โตเกียว ที่คุณสามารถดื่มด่ำกับศิลปะด้วยร่างกายทั้งหมดของคุณ ได้เปิดตัวผลงานศิลปะธีมดอกซากุระโดยกลุ่มศิลปะนานาชาติ teamLab (teamLab, ลอยอยู่ในจักรวาลดอกไม้ที่ร่วงหล่น, วิดีโอ: teamLab)

ฤดูใบไม้ผลินี้ สองพื้นที่ศิลปะขนาดใหญ่ที่ teamLab Planets จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่งเต็มที่ลอยอยู่ในจักรวาลดอกไม้ที่ร่วงหล่นที่ซึ่งดอกไม้ตามฤดูกาลจะบานและเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ดอกซากุระจะกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่การวาดบนผิวน้ำที่สร้างขึ้นจากการเต้นรำของปลาคราฟและผู้คนอินฟินิตี้ที่ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเดินเท้าเปล่าในน้ำ โดยปลาคราฟที่ว่ายอยู่บนผิวน้ำจะกลายเป็นดอกซากุระและร่วงเมื่อชนกับผู้คน ดอกซากุระเหล่านี้จะจัดแสดงตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ถึงวันพุธที่ 30 เมษายน

ผลงานศิลปะใหม่กว่า 20 ชิ้นถูกเปิดตัวในโครงการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่
ในเดือนมกราคม teamLab Planets ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่า นำเสนอผลงานศิลปะใหม่กว่า 20 ชิ้นที่มุ่งเน้นโครงการด้านการศึกษา เช่นAthletics Forest, Catching and Collecting ForestและFuture Parkและนอกจากนี้Sketch Factoryได้ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ผู้เข้าชมสามารถเปลี่ยนภาพวาดที่พวกเขาสร้างขึ้นภายในพื้นที่ศิลปะให้เป็นผลิตภัณฑ์ต้นฉบับเพื่อนำกลับบ้าน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ กรุณาอ้างอิงจากแถลงข่าวนี้

*1

จากข้อมูลการซื้อตั๋วบนเว็บไซต์ทางการของ teamLab Planets เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาประมาณหนึ่งเดือน ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมถึง 16 กุมภาพันธ์ 2025 กับวันที่ 24 มกราคมถึง 18 กุมภาพันธ์ 2024

*2

แบบสำรวจที่จัดทำขึ้นที่ teamLab Planets TOKYO DMM.com

ช่วงเวลาสำรวจ: 1 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ปี 2025

วิธีการสำรวจ: แบบสอบถามออนไลน์สำหรับผู้เข้าชม

จำนวนคำตอบที่ใช้ได้: 2,525 (1 มกราคม – 21 มกราคม: 669 คำตอบ, 22 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์: 1,856 คำตอบ)

ผลการสำรวจ: สัดส่วนของผู้เข้าชมที่ใช้เวลาอยู่ “2 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นจากประมาณ 12% ก่อนการขยาย เป็นประมาณ 60% ส่วนผู้ที่อยู่ “3 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1% เป็นประมาณ 20%

ผลงานศิลปะที่มีดอกซากุระบาน
ลอยอยู่ในจักรวาลดอกไม้ที่ร่วงหล่น

ดอกไม้ตามฤดูกาลบานและเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ชีวิตกระจายออกไปสู่จักรวาล
นอนหรือนั่งอยู่ในพื้นที่ และในที่สุดร่างกายของคุณจะลอยขึ้นและหลอมรวมเข้าสู่โลกของผลงานศิลปะ

ดอกไม้เติบโต แตกหน่อ บานสะพรั่ง และเมื่อเวลาผ่านไป กลีบดอกก็ตกหล่น ดอกไม้เหี่ยวเฉาและตาย วงจรแห่งการเกิดและการตายยังคงดำเนินต่อไปตลอดกาล
ผลงานศิลปะนี้ไม่ใช่ภาพที่บันทึกไว้ล่วงหน้าและนำมาแสดงซ้ำ แต่จะถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำการเรนเดอร์ผลงานศิลปะแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้วมันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง และสภาวะภาพก่อนหน้านี้จะไม่ถูกทำซ้ำ จักรวาลในขณะนี้จะไม่สามารถเห็นได้อีกครั้ง

การวาดบนผิวน้ำที่สร้างขึ้นจากการเต้นรำของปลาคราฟและผู้คนอินฟินิตี้

ปลาคราฟว่ายบนผิวน้ำที่ขยายออกไปสู่อนันต์ ผู้คนสามารถเดินเข้าไปในน้ำได้

การเคลื่อนไหวของปลาคราฟได้รับอิทธิพลจากการมีอยู่ของผู้คนในน้ำและปลาคราฟตัวอื่นๆ เมื่อปลาชนกับผู้คน มันจะกลายเป็นดอกไม้และร่วงหล่น ดอกไม้ที่บานในแต่ละปีจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล

เส้นทางการเคลื่อนที่ของปลาคราฟจะถูกกำหนดโดยการมีอยู่ของผู้คน และเส้นทางเหล่านี้จะสร้างเส้นบนผิวน้ำ

ผลงานนี้ถูกเรนเดอร์ในเวลาจริงโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มันไม่ใช่การบันทึกล่วงหน้าหรือการเล่นซ้ำ การโต้ตอบระหว่างผู้ชมและการติดตั้งจะทำให้ผลงานศิลปะเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง สภาวะภาพก่อนหน้านี้จะไม่สามารถทำซ้ำได้และจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก

แนวคิดของ teamLab Planet
ดื่มด่ำ สัมผัส และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะด้วยร่างกายทั้งหมดของคุณ

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถเดินผ่านน้ำได้ ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่มศิลปินทีมแล็บ (teamLab)

ผลงานศิลปะจะเปลี่ยนแปลงไปตามการมีอยู่ของผู้คน และการมีอยู่ของผลงานศิลปะจะเชื่อมต่อกับร่างกายของคุณและของผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
ดื่มด่ำไปกับพื้นที่ผลงานศิลปะขนาดใหญ่ด้วยร่างกายของคุณ สัมผัสมันด้วยร่างกาย และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะ

teamLab Planets TOKYO DMM
https://www.teamlab.art/e/planets/
#teamLabPlanets
Toyosu, Tokyo ( teamLab Planets TOKYO, Toyosu 6-1-16, Koto-ku, Tokyo )

วิดีโอไฮไลต์
https://youtu.be/F7nODEETR4s

ชุดสื่อประชาสัมพันธ์
https://www.dropbox.com/sh/ir7d2aui794eo6z/AAChbzX5wPsQm8cgkQ2ViFD4a?dl=0

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54214108/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ teamLab Planets
อีเมล: pr-info@planets.art
สำหรับการสอบถามข้อมูลการสัมภาษณ์:  https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.

ONLYONE TRAVEL ผู้บุกเบิกการเดินทางแบบกำหนดเองที่ไม่เหมือนใคร ระดมทุนได้ 100 ล้านเยน

Logo

เปิดตัวธุรกิจทัวร์ผจญภัยและการบริหารจัดการโรงแรม เพื่อนำประสบการณ์การเดินทางที่ “เปลี่ยนชีวิต” ให้กับผู้คนมากขึ้น 

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–12 กุมภาพันธ์ 2025

Only One Corp. (สำนักงานใหญ่ Tokyo; CEO: Yosuke Yamada) ซึ่งเชี่ยวชาญในการวางแผนและเข้าร่วมการเดินทางแบบกำหนดเอง ได้ประสบความสำเร็จในการระดมทุน 100 ล้านเยนผ่านนักลงทุนรายย่อยมากกว่า 20 ราย

Victoria falls tour operated by ONLYONE TRAVEL (Graphic: Business Wire)

ทัวร์น้ำตกวิกตอเรีย ดำเนินการโดย ONLYONE TRAVEL (ภาพ: Business Wire)

บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวที่รวบรวมประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนใครทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการนำเสนอการเดินทางครั้งหนึ่งในชีวิตโดยผสมผสาน “ความงดงามของโลกที่มีหนึ่งเดียวของเรา” เข้ากับ “ชีวิตหนึ่งเดียวของคุณ” เรามอบประสบการณ์การเดินทางที่ตรงตามความต้องการซึ่งปรับให้เหมาะกับโครงสร้างครอบครัว ช่วงชีวิต และสถานการณ์ทางการเงินของลูกค้าของเรา บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ที่ปานามา และขยายกิจการไปยังแอฟริกาในปี 2018 และปัจจุบันเสนอทัวร์ทั่วละตินอเมริกา แอฟริกา และการเดินทางขาเข้าไปยังญี่ปุ่น

ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หน่วยงานต่างๆ มักจะจัดการวางแผนทัวร์ การขาย และการดำเนินงานบริการนอกสถานที่ ซึ่งมักจะนำไปสู่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าธรรมเนียมตัวกลางหลายรายการ ด้วยการจัดการวางแผน การขาย และการดำเนินการภายในบริษัท บริษัทของเราสามารถลดต้นทุนของลูกค้าได้พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าที่เรามอบให้

CEO Yosuke เดินทางไปทั่วโลกมานานกว่า 20 ปี และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าประสบการณ์การเดินทางที่ “เปลี่ยนชีวิต” จะช่วยเติมเต็มชีวิต ด้วยแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ส่วนตัวเหล่านี้ บริษัทของเราได้ออกแบบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร “เพียงหนึ่งเดียว” ทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็ค้นคว้าวิจัย “ความหรูหราเชิงประสบการณ์” อย่างกว้างขวาง ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ได้รับจากประสบการณ์มากกว่าความมั่งคั่งทางวัตถุ

เงินทุนที่ระดมได้จะนำไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจและเพิ่มมูลค่าประสบการณ์ให้สูงสุด โดยมุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ “เปลี่ยนชีวิต” ให้กับผู้คนในวงกว้างมากขึ้น

วัตถุประสงค์ในการระดมทุน
(1) เปิดตัวทัวร์ผจญภัยแบบ “คัดสรร”
ด้วยความเชี่ยวชาญในทัวร์แบบกำหนดเองของเรา เราจะเปิดตัวทัวร์แบบกลุ่มเล็กที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ทัวร์เหล่านี้จะให้สิทธิ์การเข้าถึงสถานที่ห่างไกลและประสบการณ์พิเศษที่ยากต่อการเข้าถึงด้วยตัวเอง ภายในสิ้นปี 2025 เรามุ่งหวังที่จะเปิดตัวทัวร์กลุ่มเล็กอย่างน้อย 3 ทัวร์ต่อประเทศใน 30 ประเทศ รวมเป็นทัวร์ทั้งหมด 100 ทัวร์

(2) เริ่มดำเนินธุรกิจบริหารจัดการโรงแรม
นอกเหนือจากบริการทัวร์แล้ว เรากำลังเปิดตัวธุรกิจบริหารจัดการโรงแรม ครอบคลุมถึงบ้านพักซาฟารีในเคนยา ที่ดินที่มีภูมิประเทศกว้างใหญ่ และรีสอร์ทริมชายหาด นอกเหนือจากบริการทัวร์แล้ว เรากำลังเปิดตัวธุรกิจบริหารจัดการโรงแรม ครอบคลุมถึงบ้านพักซาฟารีในเคนยา ที่ดินที่มีภูมิประเทศกว้างใหญ่ และรีสอร์ทริมชายหาด

(3) การขยายสู่ตลาดโลกใหม่
เราจะจัดตั้งสำนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และอินเดีย เพื่อดึงดูดนักเดินทางจากภูมิภาคเหล่านี้ให้มากขึ้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54199009/en

Contacts

ชื่อบริษัท Only One Corp.
ประชาสัมพันธ์ Aya Kashiwagi
ติดต่อ sales@onlyone.travel

ที่มา: Only One Corp.

Japan Sake and Shochu Makers Association ประกาศข้อมูลการส่งออกสาเกในปี 2024: มีการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ไปยังกว่า 80 ประเทศ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–07 กุมภาพันธ์ 2025

ผลการดำเนินงานการส่งออกสาเกปี 2024

More people around the world are enjoying Japanese sake (Photo: Business Wire)

ผู้คนทั่วโลกเพลิดเพลินกับสาเกญี่ปุ่นมากขึ้น (ภาพ: Business Wire)

Japan Sake and Shochu Makers Association (JSS) ได้เปิดเผยข้อมูลการส่งออกสาเกในปี 2024 โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมอยู่ที่ 43.5 พันล้านเยน เพิ่มขึ้น +6% จากปีก่อน มีการจัดส่ง 3.45 ล้านกล่อง (เทียบเท่า 9 ลิตร) ไปยังกว่า 80 ประเทศเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ปี 2020 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 1.8 เท่า ราคาต่อหน่วยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า และจำนวนจุดหมายปลายทางการส่งออกเพิ่มขึ้น 19 แห่ง โดยตลาดสาเกพรีเมียมมีการเติบโตอย่างมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

ในระดับภูมิภาค ทวีปเอเชียคิดเป็น 61% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด แต่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้มีการเติบโตที่โดดเด่นสูงถึง 29% ในขณะที่ประเทศไทยและมาเลเซียก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน ทวีปอเมริกาเหนือมีการเพิ่มขึ้น 27% โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ร้านอาหารชั้นเลิศนำมาใช้บริการ ทวีปยุโรปตะวันตกเติบโต 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยขยายตัว 2.5 เท่าในช่วงห้าปี เนื่องมาจากความร่วมมือในอุตสาหกรรมไวน์ โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสที่ขยายตัวประมาณ 3 เท่าและ 2.6 เท่าตามลำดับ

 ความคิดริเริ่มที่สำคัญในปี 2024 ของ JSS และแนวโน้มในอนาคต

เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ทั่วโลกเกี่ยวกับสาเก ทาง JSS ได้กระชับความร่วมมือกับ Association de la Sommelerie Internationale (ASI) และ Union de la Sommelerie Française (UDSF) ในปี 2024 โดย JSS ได้จัดมาสเตอร์คลาสที่ ASI Boot Camp ในสเปน เพื่อให้ความรู้แก่ซอมเมอลิเยร์รุ่นเยาว์เกี่ยวกับสาเก นอกจากนี้ JSS ยังเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ รวมถึง ProWein, ProWine São Paulo และ Warsaw Wine Experience เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย

 โดยมีเหตุการณ์สำคัญในปี 2024 นั่นคือ การที่สาเกได้รวมอยู่ในงานบริการในรอบชิงชนะเลิศของการประกวด ASI สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านซอมเมอลิเยร์ที่ดีที่สุดของยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ประจำปี 2024 ซึ่งได้ช่วยเพิ่มการยอมรับในหมู่ซอมเมอลิเยร์ นอกจากนี้ การลงทะเบียน “ความรู้และทักษะดั้งเดิมในการบ่มสาเกด้วยแม่พิมพ์โคจิในญี่ปุ่น” ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO ในเดือนธันวาคม 2024 ได้ส่งเสริมการปรากฏตัวทั่วโลกของสาเก โดยในปี 2025 JSS ตั้งเป้าที่จะเร่งการขยายธุรกิจไปยังทวีปลาตินอเมริกา ยุโรปตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในการส่งออกต่อไป

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54200720/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

รายชื่อผู้ติดต่อ:
Takeshi Itani
takeshi.itani@sakeexperiencejapan.com

ที่มา: Japan Sake and Shochu Makers Association

 

 

The Bangkok Reporter