Azbil เตรียมพูดคุยเกี่ยวกับพลังงานอัจฉริยะและการสนับสนุนสัมนาที่เน้นการส่งเสริมเมืองและโซ่อุปทานอัจฉริยะ

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–28 พ.ย. 2562

Azbil Corporation (TOKYO: 6845) ประกาศเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนของ NIKKEI SASIN FORUM 2019: "Smart City and Smart Supply Chain for Inclusive Urban and Rural Development" สัมนาที่จะจัดขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวันที่ 29 พฤศจิกายนพร้อมกับการครบรอบ 10 ปีโครงการแลกเปลี่ยนแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น

สัมนานี้จัดขึ้นโดย Nikkei Inc. และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวและพลังงานอัจฉริยะซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาสำหรับโครงการ "เมืองอัจฉริยะ" ของประเทศไทย  งานนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้นำทางธุรกิจจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเมืองอัจฉริยะ โดยไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด แต่ยังอำนวยความสะดวกในการจับคู่ธุรกิจและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี

Azbil บริษัท ชั้นนำด้านอาคารและระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมมีส่วนช่วยในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะผ่านเทคโนโลยีการวัดและการควบคุมซึ่งเป็นรากฐานของระบบอัตโนมัติ  การสนับสนุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Azbil ที่จะนำมาซึ่งวิสัยทัศน์ของ “สังคมที่มีความฉลาดเฉลียว” ซึ่งเป็นแนวคิดแรกที่เสนอโดยรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ทันสมัย

Kiyohiro Yamamoto ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Azbil จะนำเสนอโซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะโดยใช้ระบบอัตโนมัติที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง

“เรามีความสุขที่ได้รับเชิญให้มาพูดคุยที่ NIKKEI SASIN FORUM หลังจาก Nikkei-NUS Enterprise FORUM ที่ประสบความสำเร็จในสิงคโปร์” คุณ Yamamoto กล่าว “ Azbil มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเมืองอัจฉริยะบนพื้นฐานของระบบอัตโนมัติที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางโดยมอบโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุสังคมที่สะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่าย และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

วิทยากรท่านอื่นๆ ได้แก่ ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน/CTO สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล คุณ Koji Uebayashi ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดโลก กองนโยบายระหว่างประเทศ สำนักนโยบายกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยว (MLIT) รัฐบาลญี่ปุ่น  นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์หัวหน้าคณะทำงาน 5G บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และดร. Takamasa Fujioka รองศาสตราจารย์บัณฑิตวิทยาลัยธุรกิจระดับโลกมหาวิทยาลัยเมจิ/ ผู้อำนวยการศูนย์ญี่ปุ่นศศินทร์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เกี่ยวกับ Azbil Corporation

Azbil Corporation เดิมชื่อ Yamatake Corporation เป็นบริษัทชั้นนำในการสร้างและระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยีการวัดและการควบคุมเพื่อมอบโซลูชั่นมูลค่าเพิ่มสูงให้แก่ลูกค้าเพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น  Azbil ก่อตั้งขึ้นในปี 2449 โดยให้บริการลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมที่หลากหลายและมีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายและความพอใจ และการรักษาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก  ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 Azbil มีพนักงาน 9,600 คนทั่วโลกและสร้างรายได้ 262 พันล้านเยน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปที่ https://www.azbil.com/

ดูที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191127005665/en/

สำหรับสื่อมวลชน

Robert Jones /Masayoshi Kogai

สำนักงานประชาสัมพันธ์, Azbil Corporation

โทรศัพท์: +81-3-6810-1006
อีเมล: publicity@azbil.com

INNIO ลงนามข้อตกลงกับกฟผ. พัฒนาโซลูชั่นไม่โครกริดขั้นสูงในประเทศไทย

Logo

  • ข้อตกลงจะรวมถึงการพัฒนาการสาธิตไมโครกริดที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านพลังงานการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ของกฟผ. หรือ  EGAT’s zero-emissions energy excellence center ในเขตบางกรวย จ.นนทบุรี ประเทศไทย
  • การสาธิตไมโครกริดจะรวมระบบไฮโดรเจนจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
  • เป้าหมายของโครงการคือการติดตั้งเครื่องยนต์ก๊าซ INNIO Jenbacher เพื่อใช้เชื้อเพลิงทดแทน 100%

เมือง Jenbach, ประเทศอสเตรีย –(BUSINESS WIRE)–15 พ.ย. 2562

INNIO ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของการสาธิตไมโครกริดที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านพลังงานการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ของกฟผ. ประเทศไทย โดย กฟผ. กำลังวางแผนที่จะติดตั้งเครื่องยนต์ก๊าซ Jenbacher จาก INNIO ที่สามารถทำงานบนก๊าซทดแทนได้ 100% เช่น ก๊าซชีวภาพ และไฮโดรเจนสีเขียว และที่สนับสนุนการสาธิตไมโครกริดสีเขียวขนาดเล็ก พิธีการการลงบันทึกความเข้าใจนี้จัดขึ้นที่ศูนย์การเรียนรู้ของกฟผ. ในกรุงเทพฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191115005236/en/

From left to right: Tawatchai Sumranwanich (EGAT, Generation and Transmission System Planning Division), Patana Sangsriroujana (EGAT, Deputy Governor Strategy), Carlos Lange (INNIO, President & CEO) and Anand Anton (INNIO, General Manager Sales and Services APAC). Copyright: EGAT

จากซ้ายไปขวา: ธวัชชัย สำราญวานิช (กฟผ., ฝ่ายวางแผนและสร้างระบบส่งกำลัง), พัฒนา แสงศรีโรจน์ (กฟผ., รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์), Carlos Lange (INNIO, ประธานและ CEO) และ Anand Anton (INNIO, ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและบริการ APAC)  ลิขสิทธิ์ของ EGAT

เทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการพัฒนาช่วยให้ผู้ผลิตพลังงานผลิตไฟฟ้าด้วยการปล่อยคาร์บอนน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กฟผ. ได้หันมาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อมุ่งสู่การพัฒนานวัตกรรมพลังงานทดแทนและลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศโลก ความมั่นคงด้านพลังงาน และความเป็นอิสระ1

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ INNIO ในโครงการนี้ ในระหว่างที่เราพัฒนาโครงการสาธิตไมโครกริดสีเขียวที่ กฟผ. แผนการของเราคือการติดตั้งโซลูชั่นดังกล่าวทั่วประเทศไทยและขยายตัวออกไปมากกว่านั้น” พัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกล่าว

บันทึกความเข้าใจกับ INNIO กำหนดกรอบการทำงานเพื่อกำหนดการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานหมุนเวียนขั้นสูงและแสดงให้เห็นถึงโครงการไมโครกริด ที่ศูนย์การเรียนรู้ของกฟผ. ที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรีประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2563 การบูรณาการเครื่องยนต์ก๊าซ Jenbacher พร้อมเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น ระบบแบตเตอรี่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบอิเล็กโทรไลเซอร์ที่ผลิตไฮโดรเจนสีเขียวจะนำพาไมโครกริดสีเขียวมาสู่ประเทศไทยอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่น ช่วยให้การจัดการพลังงานขั้นสูงตอบสนองความต้องการและให้โซลูชั่นการโหลดที่ลดลง

“ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านพลังงานการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในประเทศไทยคาดว่าจะเป็นโครงการริเริ่มโครงการหนึ่งสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมลงทุนในนวัตกรรมนี้” Carlos Lange ซีอีโอและประธานบริษัท INNIO กล่าว “ เครื่องยนต์ก๊าซ Jenbacher ของ INNIO ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซอื่น ๆ เช่น ก๊าซชีวภาพ และไฮโดรเจน เครื่องยนต์ก๊าซของ INNIO ให้การใช้งานมากกว่า 68 กิกะวัตต์ในหมู่อุตสาหกรรมที่หลากหลาย และให้ความร้อนและพลังงานที่เชื่อถือได้ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายของประเทศไทยในด้านความมั่นคงและความเป็นอิสระด้านพลังงาน”

* ระบุเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน

เกี่ยวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงพลังงานซึ่งรับผิดชอบการผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้ารวมทั้งจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจำนวนมากในประเทศไทย กฟผ. ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2512  เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีหน่วยงานทั่วประเทศด้วยกำลังการผลิตติดตั้งรวม 15,548 เมกะวัตต์

http://www.egat.co.th/en/.

เกี่ยวกับ INNIO

INNIO เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นชั้นนำสำหรับเครื่องยนต์ก๊าซ อุปกรณ์ไฟฟ้าแพลตฟอร์มดิจิทัล และบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับการผลิตพลังงานและการบีบอัดก๊าซที่ใกล้กับจุดใช้งานหรือที่ ณ จุดการใช้งาน ด้วยแบรนด์ผลิตภัณฑ์ Jenbacher และ Waukesha ของเรา INNIO ก้าวไปไกลกว่าความเป็นไปได้ทั่วไปและมองไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญในวันพรุ่งนี้ ผลงานที่หลากหลายของเครื่องยนต์ก๊าซอุตสาหกรรมที่น่าเชื่อถือ ประหยัด และยั่งยืนนี้ สร้างพลังงาน 200 kW ถึง 10 MW สำหรับอุตสาหกรรมจำนวนมากทั่วโลก เราสามารถให้การสนับสนุนวงจรชีวิตแก่เครื่องยนต์ก๊าซที่ส่งมอบให้มากกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซกว่า 50,000 แห่งทั่วโลก และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายบริการของเราในกว่า 100 ประเทศ INNIO เชื่อมต่อกับคุณในพื้นที่เพื่อตอบสนองความต้องการบริการของคุณอย่างรวดเร็ว

สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Jenbach ประเทศออสเตรีย และมีการดำเนินงานหลักในเมือง Welland, Ontario, Canada และ Waukesha, Wisconsin, US สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ บริษัท ที่ www.innio.com. ติดตาม INNIO บน Twitter และ LinkedIn.

1 https://www.egat.co.th/en/news-announcement/news-release/moe-egat-discuss-thai-energy-in-the-disruptive-era

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191115005236/en/

ติดต่อ:

Susanne Reichelt

INNIO

+43 664 80833 2382

susanne.reichelt@ge.com

P&G ซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปตะวันตก

Logo

ซินซินแนติ–(บิสิเนสไวร์)–24 ต.ค. 2562

บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (NYSE: P&G) ประกาศว่าได้บรรลุเป้าหมายปี 2563 ในการซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา  บริษัทได้ก้าวล้ำเป้าหมายเดิมโดยขยายการซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ไปยังยุโรปตะวันตก  ทั้งสามเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของไฟฟ้าที่ P&G ซื้อ  ความมุ่งมั่นนี้ได้สำเร็จก่อนวันกำหนดและเป็นจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของ P&G ในเป้าหมายการซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทน 100% ทั่วโลกภายในปี 2573

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191024005503/en/

ผู้มีส่วนร่วมรายใหญ่ที่สุดของ P&G ในการผลิตพลังงานทดแทนคือฟาร์มกังหันลมใน Tyler Bluff รัฐเท็กซัสซึ่งชดเชยกระแสไฟฟ้าที่จำเป็นได้ 100% สำหรับโรงงานผลิตสิ่งทอและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาบ้านในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาสำหรับแบรนด์เช่น Tide, Downy, Cascade และ Mr. Clean รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและชีวมวลในเมือง Albany รัฐจอร์เจียซึ่งผลิตไอน้ำที่จำเป็นสำหรับ Bounty และ Charmin ได้ 100%  นอกเหนือจากโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้แล้ว บริษัทกำลังลดการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิตผ่านโครงการพลังงานทดแทนที่หลากหลายซึ่งเน้นเรื่องใบรับรองพลังงานลม แสงอาทิตย์ ความร้อนใต้พิภพ พลังงานน้ำ และพลังงานหมุนเวียน

“เราภูมิใจในความพยายามของเราในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการทำให้โลกนี้เป็นที่ที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นหลัง” Virginie Helias หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของ P&G กล่าว  “เป้าหมายหลักที่ยั่งยืนของเราคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าที่ผู้บริโภคไว้วางใจได้ โดยมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ของ P&G นั้นอยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่จะรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”

ด้วยมรดกของความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม P&G ได้บรรลุเป้าหมาย 2563 ด้านความยั่งยืนของพลังงาน น้ำ และขยะไปแล้ว โดยมีความคืบหน้าที่มองเห็นได้ทั่วทั้งแบรนด์และภูมิภาคต่างๆ  ด้วยการซื้อไฟฟ้าทดแทน 100% ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปตะวันตก P&G จะสามารถบรรลุเป้าหมาย 2563 ด้านพลังงานงานทดแทนและก๊าซเรือนกระจก

P&G คาดว่าโครงการใหม่ๆ และการซื้อไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องจะทำให้บริษัทสามารถกระตุ้นนวัตกรรม การลงทุน และการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนให้กับสาธารณูปโภคพลังงานในภูมิภาคเกือบ 150 แห่งทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศของ P&G ไปที่ https://us.pg.com/blogs/pg-purchases-renewable-electricity

เกี่ยวกับพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล

P&G ให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกด้วยหนึ่งในรายชื่อแบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและไว้วางใจได้ ซึ่งได้แก่ Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks®, และ Whisper®  ชุมชน P&G รวมการดำเนินงานในประมาณ 70 ประเทศทั่วโลก กรุณาเยี่ยมชม http://www.pg.com เพื่อรับข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเกี่ยวกับ P&G และแบรนด์ต่างๆ

ดูต้นฉบับใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191024005503/en/

ติดต่อ P&G สำหรับสื่อ

Robyn Schroeder
ฝ่ายสื่อสารทั่วโลก P&G
Schroeder.rm@pg.com

Halliburton ฉลองครบรอบ 100 ปี ด้วยการบริจาคเงินให้กับ 8 องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Logo

ฮุสตัน–(BUSINESS WIRE)– 26 ส.ค. 2562

บริษัท Halliburton (NYSE: HAL) ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับรายชื่อองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร 8 แห่งทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จะได้รับเงินบริจาคจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อองค์กร เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของบริษัท โดยบริษัท Halliburton ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2462 จะเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ช่วยให้บริษัทบรรลุความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งได้แก่ พนักงาน ลูกค้า และชุมชนท้องถิ่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190826005623/en/

Halliburton Chairman, President and CEO Jeff Miller, joined by Halliburton Asia Pacific Region management, present a $10,000 grant to the MyKasih Foundation for their work to help low-income Malaysian families through food distribution and education. (Photo: Business Wire)

Jeff Miller ประธานและซีอีโอของ Halliburton โดยความร่วมมือกับฝ่ายบริหารของ Halliburton เอเชียแปซิฟิก ได้มอบเงินจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่มูลนิธิ MyKasih Foundation สำหรับการทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัวชาวมาเลเซียที่มีรายได้น้อยผ่านการแจกอาหารและให้การศึกษา (ภาพ: Business Wire)

“ จิตวิญญาณของ Halliburton เริ่มต้นมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัย Erle P. Halliburton ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างประโยชน์เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ชุมชนที่เราอาศัยและทำงานอยู่” นาย Sid Whyte รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว “ เรามีความสุขที่ได้สานต่อมรดกของเขาและการมีส่วนร่วมกับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งเนื้อหางานมีส่วนช่วยเหลือต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการหลักของเราในภูมิภาคนี้อย่างมาก”

องค์กรที่ได้รับเงินบริจาค HAL100 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประกอบด้วยองค์กรที่ทำงานเพื่อเป้าหมายที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับของ Halliburton Pillars of Giving (หรือ เสาหลักในการให้ของ Halliburton) ซึ่งสนใจในประเด็นเรื่องการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ STEM สิ่งแวดล้อม สุขภาพและความปลอดภัย และบริการสังคม:

  • องค์กร CRY – Child Rights and You – อินเดีย
  • มูลนิธิ MyKasih Foundation – มาเลเชีย
  • Royal Flying Doctor Service – ออสเตรเลีย
  • สภากาชาดออสเตรเลีย หรือ Australian Red Cross – ออสเตรเลีย
  • Habitat for Humanity หรือ มูลนิธิที่อยู่อาศัย  – อินโดนีเซีย
  • The People’s Association – สิงคโปร์
  • มูลนิธิ Migrant Children’s Foundation – จีน
  • สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา – ไทย

Halliburton ได้มอบเช็คเงินสดจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อแต่ละองค์กร  ณ งานสำหรับลูกค้าที่บริษัทได้เป็นเจ้าภาพไปเมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ในประเทศมาเลเซีย

นอกจากนี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่วันครบรอบของบริษัท พนักงานของ Halliburton ในประเทศไทยและมาเลเซียยังได้เก็บรวบรวมเงินได้มากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลลานกระบือในประเทศไทยและองค์กร Petronita ในประเทศมาเลเซีย

บริษัทกำลังมอบเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร 100 แห่งทั่วโลกในช่วงที่เหลือของปี 2562 หากท่านต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การครบรอบ 100 ปี ของ Halliburton ตลอดไปจนถึงผู้คนและเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างบริษัทเราขึ้นมา กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ hal100.com.

คำบรรยายภาพ : Jeff Miller ประธานและซีอีโอของ Halliburton โดยความร่วมมือกับฝ่ายบริหารของ Halliburton เอเชียแปซิฟิก ได้มอบเงินจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่มูลนิธิ MyKasih Foundation สำหรับการทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัวชาวมาเลเซียที่มีรายได้น้อยผ่านการแจกอาหารและให้การศึกษา

เกี่ยวกับ Halliburton

Halliburton ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2462 จะฉลองครบรอบ 100 ปีการให้บริการ ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน ด้วยการมีพนักงาน 60,000 คน ซึ่งเป็นตัวแทน 140 ชาติในกว่า 80 ประเทศ บริษัทช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดตลอดวงจรชีวิตของอ่างเก็บน้ำ  เริ่มตั้งแต่การค้นหาไฮโดรคาร์บอนและการจัดการข้อมูลทางธรณีวิทยา ไปจนถึงการขุดเจาะและการประเมินการสร้างการก่อสร้างที่มีคุณภาพและที่เสร็จสมบูรณ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตลอดอายุของสินทรัพย์ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.halliburton.com. เชื่อมต่อกับ Halliburton บน Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram และ YouTube.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190826005623/en/

สำหรับนักลงทุนติดต่อ:

Abu Zeya

Halliburton, ฝ่ายลงทุนสัมพันธ์

investors@halliburton.com

281-871-2688

สำหรับสื่อ:

Emily Mir

ฝ่ายการประชาสัมพันธ์

pr@halliburton.com

281-871-2601

The Bangkok Reporter