อนาคตของคอมพิวเตอร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว – ในงาน CES 2024 GIGABYTE จะมานำเสนอนวัตกรรมที่สำคัญและขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้วย AI และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Logo

TAIPEI–(BUSINESS WIRE)–13 ธันวาคม 2023

GIGABYTE Technology ผู้บุกเบิกด้านไอทีซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับโลกผ่านระบบคลาวด์ และระบบคอมพิวเตอร์แบบ AI ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ที่งาน CES ด้วยธีม "อนาคตของคอมพิวเตอร์" โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

GIGABYTE is carrying forward its booth theme, “Future of COMPUTING” from COMPUTEX to CES 2024. Photo: One of the highlights – AI/HPC servers (Photo: Business Wire)

GIGABYTE สานต่อธีมบูธ “อนาคตของคอมพิวเตอร์” จาก COMPUTEX จนถึงงาน CES 2024 ภาพถ่าย: หนึ่งในไฮไลต์ – เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC (ภาพถ่าย: Business Wire)

GIGABYTE นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการติดตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเสนอทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จากคลาวด์และศูนย์ข้อมูลไปยัง Edge และผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมของ GIGABYTE ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างคล่องตัว และสามารถเข้าดูข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในตลาดที่หลากหลาย อีกทั้งยังมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานและดื่มด่ำสำหรับผู้บริโภค

GIGABYTE นำเสนอความเชี่ยวชาญรอบด้านด้วยเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ที่ทรงพลังสูงสุด โซลูชันระบายความร้อนขั้นสูง พีซีสำหรับอุตสาหกรรม เทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์เกมและผู้สร้าง นิทรรศการอันตระการตาจะมีการจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 9 ถึง 12 เดือนมกราคม มาพบกับเราได้ที่ Booth #9637, North Hall, Las Vegas Convention Center

ปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดใน AI ด้วยเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ของ GIGABYTE

ในงาน CES 2024 GIGABYTE และ Giga Computing บริษัทในเครือ จะนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ใหม่ล่าสุด โดยดารรวม GPU และตัวเร่งความเร็วระดับแนวหน้าเข้าด้วยกัน GIGABYTE นำเสนอโซลูชันอเนกประสงค์ที่ชาร์จพลังเวิร์กโหลดของ AI ตามความต้องการได้มากที่สุด เช่น AI เชิงสร้างสรรค์ โมเดลการฝึกอบรมภาษาขนาดใหญ่ metaverse ดิจิทัลระบบคู่ การเรนเดอร์และกราฟิกแบบ 3D จัดแสดงโซลูชันศูนย์ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับ AI แห่งอนาคต

ผลิตภัณฑ์ด้านเซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE สามารถรับมือกับสถานการณ์การใช้งานไอทีที่หลากหลาย GIGABYTE จะมีการจัดแสดงเซิรฟ์เวอร์จัดเก็บข้อมูลที่ปรับแต่งสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ Arm สำหรับการใช้งานบนคลาวด์ และเซิร์ฟเวอร์ Edge ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับแอปพลิเคชัน 5G เซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายเหล่านี้จะช่วยเสริมให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถรับมือกับโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยการอัปเกรดระบบไอทีที่มีความยืดหยุ่นและไม่ยุ่งยาก

โซลูชันการระบายความร้อนขั้นสูง AIoT และเทคโนโลยียานยนต์ เป็นตัวอย่างความเชี่ยวชาญรอบรู้ของ GIGABYTE

ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำและนักบูรณาการ โซลูชันการระบายความร้อนขั้นสูง GIGABYTE จะมีการจัดการแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ ระบบการระบายความร้อนแบบแช่เฟสเดียว และ ระบบการระบายความร้อนโดยใช้ของเหลวโดยตรง ในงาน CES โซลูชันเหล่านี้เป็นตัวอย่างความมุ่งมั่นของ GIGABYTE ในการจัดหาโซลูชันศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนและประหยัดพลังงาน โซลูชันของ GIGABYTE ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรและสถาบันชั้นนำของโลก รวมถึงยักษ์ใหญ่แห่งเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก บริษัทโทรคมนาคม และศูนย์การวิจัย

โซลูชันการระบายความร้อนขั้นสูงของ GIGABYTE รองรับเทคโนโลยี CPU/GPU ล่าสุดจาก AMD, Intel และ NVIDIA โดยมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายซึ่งเหมาะสำหรับกลยุทธ์การใช้งานในระบบไอทีที่แตกต่างกัน และปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ CPU/GPU ประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอ์ที่ได้รับการปรับแต่งนั้น ช่วยให้สามารถลดการใช้พลังงานให้น้อยลง ซึ่งให้ประโยชน์ด้านความยั่งยืนอย่างหาที่เปรียบมิได้ และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

เทคโนโลยีที่ครอบคลุมของ GIGABYTE ขยายขอบเขตพลังการประมวลผลจากศูนย์ข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อไปยังผู้ใช้ คอมพิวเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมจะเอื้อสำหรับระบบกระบวนการอัตโนมัติในโรงงานผลิตและนอกอาคาร มอบประสิทธิภาพระดับสูงสุดเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) และระบบเทเลเมติกส์ของยานพาหนะจะช่วยอำนวยความสะดวกและเสริมประสบการณ์ในการขับขี่แบบอัตโนมัติอันชาญฉลาดขั้นสูง นวัตกรรมฮาร์ดแวร์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ GIGABYTE ในการเสริมประสิทธิภาพการปรับแปลงให้เป็นระบบดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI

กลุ่มผลิตภัณฑ์เกมและครีเอเตอร์ผลักดันให้ขยายขอบเขตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่กับความสวยงาม

กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ล่าสุดของ GIGABYTE จะแสดงถึงปรัชญาการออกแบบซึ่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ยอดเยี่ยม นักเล่นเกมสามารถตั้งตารอแล็ปท็อป AORUS และ GIGABYTE รุ่นล่าสุดได้เลย ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่นอย่างน่าประทับใจ ครีเอเตอร์จะได้รับความพึงพอใจกับจอแสดงผล 2.8K OLED HDR ระดับมืออาชีพของแล็ปท็อป AERO 14 OLED พร้อมฟังก์ชันการปรับแต่งสีชั้นนำระดับโลก และเทคโนโลยีการถนอมดวงตาระบบ AI สุดพิเศษ ผู้เล่นคอนโซลจะต้องทึ่งกับจอภาพ OLED 4K/120Hz ขนาด 48 นิ้วเครื่องแรกของโลก พร้อมภาพและเสียงที่เหมือนจริง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์แบบ DIY เมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดจะชนะใจพวกเขาด้วยดีไซน์ที่ใช้งานง่ายและประสิทธิภาพที่มีความเสถียรและทนทานสำหรับฟิเจอร์ที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง

เข้าเยี่ยมชม เพจอีเว้นท์ CES ของ GIGABYTE

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53867952/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

แหล่งข้อมูล: GIGABYTE Technology

Hillstone Networks ได้รับการรวมอยู่ในรายงานภาพรวมแผนผังโซลูชัน Security Service Edge

Logo

โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone Networks ติดอันดับในภาพรวม SSE ของกลุ่มบริษัทผู้ดำเนินการวิเคราะห์

SANTA CLARA, Calif.–(BUSINESS WIRE)–13 ธันวาคม 2023

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้รับการรวมอยู่ในรายงานภาพรวมโซลูชัน Security Service Edge สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2023 รายงาน Forrester นำเสนอภาพรวมของแผนผังทางตลาดสำหรับโซลูชัน Security Service Edge (SSE) ซึ่งได้รับการปรับใช้เพื่อเสริมความสามารถในการเช้าถึงแอปและข้อมูลแบบ Zero Trust และเพื่อรักษาความปลอดภัยสำหรับการทำงานจากระยะไกล รายงานมุ่งเน้นประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น คำจำกัดความของตลาด มูลค่าทางธุรกิจ ความพร้อมทางการตลาด ไดนามิก ผู้จำหน่ายที่โดดเด่น กรณีการใช้งานยอดนิยม ฟังก์ชันการทำงานตามกรณีการใช้งาน และการมุ่งเน้นของผู้ขายสำหรับกรณีการใช้งานที่ขยายเพิ่มเติม

“โซลูชัน SSE ช่วยแก้ไขปัญหาที่แท้จริงสำหรับช่องว่างด้านความปลอดภัยในระบบเครือข่ายที่มีการขยายตัวสูงขึ้น” Tim Liu, CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าว “โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone นำเสนอการป้องกันแบบ zero trust โดยเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน SSE ซึ่งมอบการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับการทำงานทั้งแบบไฮบริดหรือจากระยะไกล ปกป้องแอปพลิเคชันและข้อมูลโดยไม่คำนึงถึงการใช้งาน – ตั้งแต่ Edge ไปจนถึงคลาวด์”

ด้วยโมเดลการทำงานจากระยะไกลและแบบไฮบริดมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ขอบเขตเครือข่ายแบบดั้งเดิมจึงมีประสิทธิภาพน้อยลง CISO จึงมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงทรัพย์สินขององค์กรจากหลากหลายสถานที่ ตั้งแต่เครือข่ายในมหาวิทยาลัย ไปจนถึงสำนักงานสาขา บ้านของพนักงาน และแม้กระทั่งเครือข่ายมือถือสาธารณะ เพื่อตอบสนองความท้าทายในความต้องการเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรจากอุปกรณ์ทุกเครื่อง ทุกที่ ทั้งแบบไฮบริดและจากระยะไกล ชุดโซลูชัน Edge ของ Hillstone จึงมีการรวมเทคโนโลยีการเข้าถึงเครือข่ายแบบ zero-trust (ZTNA) โดย ZTNA จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงที่ตั้งของผู้ใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการกระจายตัวในการทำงานของพนักงานในปัจจุบัน และป้องกันปริมาณการใช้งานของแอปพลิเคชัน ปกป้องข้อมูลขององคกร และสามารถเข้าถึงจากระยะไกล

โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มไฟร์วอลล์ระดับแนวหน้า และมอบความสามารถในการให้สิทธิ์การเข้าถึงได้อย่างละเอียดตามข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้และอุปกรณ์ สามารถตรวจสอบการใช้งานของอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมการควบคุมสิทธิ์การใช้งานได้อย่างแม่นยำ และทำให้เป็นโซลูชัน SSE ในอุดมคติ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

Hillstone Networks เป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ นำเสนอการป้องกันทางเชิงลึกและเชิงกว้างสำหรับบริษัททุกขนาด ตั้งแต่ Edge ไปจนถึงคลาวด์ และรองรับทุกปริมาณการใช้งาน แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เชิงบูรณาการของ Hillstone Networks นี้ นำเสนอขอบเขตความครอบคลุม การควบคุม และการรวมระบบสำหรับองค์กรมามากกว่า 26,000 แห่งทั่วโลกแล้ว www.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งข้อมูล: Hillstone Networks

MoreLogin เบราว์เซอร์ป้องกันการตรวจจับอันดับ 1 ของโลก จัดแสดงที่ Affiliate World Asia (AWA)

Logo

MoreLogin ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเบราว์เซอร์ป้องกันการตรวจจับ เน้นย้ำโซลูชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ในการประชุมการตลาดแบบพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–13 ธันวาคม 2023

MoreLogin, ผู้นำด้านเทคโนโลยีเบราว์เซอร์ป้องกันการตรวจจับ ได้ประกาศเข้าร่วมในงาน Affiliate World Asia (AWA) ซึ่งเป็นการประชุมชั้นนำสำหรับการตลาดแบบพันธมิตรในกรุงเทพฯ ประเทศไทย การปรากฏตัวของ MoreLogin ในงานอันทรงเกียรตินี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมสำหรับนักการตลาดแบบพันธมิตรทั่วโลก

MoreLogin attends AWA (Photo: Business Wire)

MoreLogin เข้าร่วมงาน AWA (รูปภาพ: Business Wire)

AWA คือการประชุมการตลาดแบบพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยนำผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลกมารวมตัวกัน การนำเสนอของ MoreLogin ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก จากผู้เข้าร่วมที่สนใจเครื่องมือที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดแบบพันธมิตรได้

เกี่ยวกับ MoreLogin: 
MoreLogin ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เล่นหลักในตลาดเบราว์เซอร์ป้องกันการตรวจจับ MoreLogin ได้ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก และจนถึงปัจจุบัน บัญชีมากกว่า 5,000,000 บัญชีได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัยโดย MoreLogin บริษัทมีความเชี่ยวชาญในโซลูชันการจัดการข้ามแพลตฟอร์ม ที่ช่วยให้สามารถจัดการบัญชีหลายบัญชีได้อย่างราบรื่น และการเข้าถึงทั่วโลกสำหรับนักการตลาดแบบพันธมิตร ในขณะเดียวกันก็รักษาความเป็นนิรนามของผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความไม่เปิดเผยตัวตน การทำให้ระบบอัตโนมัติมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการทำให้มั่นใจว่าการทำงานเป็นทีมราบรื่น

MoreLogin สอดคล้องกับกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ของพันธมิตรได้ดีที่สุด ผู้ใช้มากกว่า 2 ล้านคนให้คำวิจารณ์เชิงบวกเกี่ยวกับบริการที่ดีที่สุดและประสิทธิภาพที่มั่นคง

คำกล่าวจาก CEO:
Saul Jamison ซีอีโอของ MoreLogin แบ่งปันความกระตือรือร้นของเขาเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของบริษัทใน AWA: "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้สาธิตเบราว์เซอร์ป้องกันการตรวจจับของเราที่ Affiliate World Asia เทคโนโลยีของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับนักการตลาดแบบพันธมิตร โดยนำเสนอวิธีที่คล่องตัว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพแก่พวกเขา เพื่อจัดการสถานะทางดิจิทัลของพวกเขา เราตั้งตารอที่จะมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรมและแสดงให้เห็นว่า MoreLogin สามารถเป็นผู้เปลี่ยนเกมในตลาดพันธมิตรได้อย่างไร"

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MoreLogin และโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม โปรดไปที่ www.morelogin.com.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53869972/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ช่องทางการติดต่อ

อีเมล์: support@morelogin.com
เว็บไซต์: www.morelogin.com

ที่มา: MoreLogin

เทศบาลเขตทูวุมบาปรับปรุงเส้นทางสู่บริการดิจิทัลด้วย Boomi

Logo

รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐควีนส์แลนด์ปรับปรุงข้อมูลเพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมของผู้อยู่อาศัยและสนับสนุนโครงการ Internet of Things (IoT)

ซิดนีย์และบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2023

Boomi™ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ได้ประกาศในวันนี้ว่าเทศบาลเขตทูวุมบาได้ใช้แพลตฟอร์ม Boomi platform เพื่อปรับปรุงการให้บริการดิจิทัลให้กับผู้อยู่อาศัย และขับเคลื่อนความคิดริเริ่มที่สำคัญ เช่น โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำของ Internet of Things (IoT)

Toowoomba Regional Council Enhances Route to Digital Services With Boomi (Graphic: Business Wire)

เทศบาลทูวุมบาปรับปรุงเส้นทางสู่บริการดิจิตอลด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

เทศบาลเขตทูวุมบา (TRC) นั้นตั้งอยู่ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 180,000 คน ขณะนี้เทศบาลได้กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ โดยใช้ข้อมูลในการปรับปรุงบริการดิจิทัลสำหรับผู้อยู่อาศัย นับตั้งแต่คำขอบำรุงรักษา การจ่ายน้ำ ไปจนถึงการจัดการแอปพลิเคชันการพัฒนา

“บริการชุมชนจะต้องส่งเสริมชีวิตดิจิทัลของคนในท้องถิ่น” Mark Godfrey นักพัฒนาบูรณาการอาวุโสของ TRC กล่าว “พวกเขาจำเป็นต้องเข้าถึงได้อย่างทันเวลาและเข้าถึงได้โดยผู้อยู่อาศัย ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เทศบาลก็สามารถดูแลได้ง่าย เราพยายามที่จะใช้กรอบข้อมูลที่จะสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วทั้งเขต เพื่อให้กระบวนการต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องยุ่งยาก และช่วยให้เราตอบสนองต่อชุมชนได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงขององค์กร”

TRC แทนที่การบูรณาการแบบจุดต่อจุดด้วยตนเองด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Boomi ซึ่งเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่สำคัญทางธุรกิจ รวมถึงระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ERP ผู้คน ทรัพย์สิน และซอฟต์แวร์ด้านกฎระเบียบ พอร์ทัลการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระบบที่จอดรถอัจฉริยะ และระบบบริการขยะ เมื่อขจัดข้อมูลที่บริหารจัดการแบบแยกส่วนกัน (Data silo) และความซ้ำซ้อนของข้อมูลแล้ว TRC ได้ปรับปรุงกระบวนการที่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะหลายประการ รวมถึงเอกสารประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

“ในอดีต ผู้อยู่อาศัยได้รายงานว่าเอกสารหายไปทางออนไลน์ ซึ่งทำให้ทีมไอทีต้องตรวจสอบและแก้ไขระบบด้วยตนเองทันทีโดยใช้เวลาหลายชั่วโมง ตอนนี้เราไม่อนุญาตให้กระบวนการที่ล้าสมัยส่งผลกระทบต่อการมีส่วนร่วมของเรากับผู้อยู่อาศัยอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้มันขัดขวางการปกครองของเรา” Godfrey กล่าว

เขากล่าวเสริมว่า "ด้วย Boomi เราสามารถตอบสนองข้อกำหนดของรัฐบาลโดยรับรองว่าเอกสารการพัฒนาพร้อมสำหรับการบริโภคของสาธารณะ ในขณะเดียวกัน เราเข้าใจได้อย่างดีขึ้นว่าผู้อยู่อาศัยมีปฏิสัมพันธ์กับเราอย่างไร ตั้งแต่การรวบรวมตัวชี้วัดในคำขอสาธารณะไปจนถึงการออกการแจ้งเตือน เราสามารถตอบสนองความต้องการด้านเอกสารและปัญหาได้แบบเรียลไทม์ สิ่งนี้ทำให้การปรับปรุงเทคโนโลยีของเรามีความหมาย ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าในห้องไอทีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความก้าวหน้าสำหรับบุคลากรและกระบวนการด้วย”

ในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โครงสร้างพื้นฐานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น TRC ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำครั้งใหญ่อีกด้วย

Godfrey กล่าวว่า "เรากำลังนำมิเตอร์น้ำสำหรับบ้านและธุรกิจมากกว่า 64,000 มิเตอร์ออก และจะแทนที่โครงสร้างพื้นฐานเก่าด้วยมิเตอร์อัจฉริยะในอีกสามปีข้างหน้า แทนที่จะอาศัยการอ่านมิเตอร์แบบแมนนวล แพลตฟอร์มอัจฉริยะและเป็นแบบLow-code ของ Boomi จะประสานกับบริการของ Iota ซึ่งเป็นพันธมิตร IoT ของเรา เพื่อดึงข้อมูลมิเตอร์และรับรองว่าข้อมูลจะไหลไปในที่ที่ต้องการ”

เมื่อมองไปข้างหน้า TRC จะใช้ Flow ซึ่งเป็นโซลูชันเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติของ Boomi เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้อยู่อาศัยโดยรวม ซึ่งจะรวมถึงการพัฒนาแบบฟอร์มออนไลน์ เช่น คำขอหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ ในปัจจุบัน ผู้อยู่อาศัยจะต้องดาวน์โหลด ลงนาม และสแกนคำขอที่ใช้กระดาษ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคำขอเหล่านี้ด้วยตนเอง Boomi Flow จะปรับปรุงกระบวนการโดยการทำให้การลงนามแบบดิจิทัลเป็นไปได้ และทำให้การตรวจสอบภายในเป็นแบบอัตโนมัติ

โครงการ Flow อื่นๆ จะเห็น TRC สร้างมุมมองข้อมูลที่อยู่อาศัยแบบ 360 องศาภายในอินเทอร์เฟซเดียว ด้วยมุมมองที่สมบูรณ์ของทุกสิ่ง ตั้งแต่รายการสัตว์เลี้ยงและทรัพย์สินที่จดทะเบียน ไปจนถึงการชำระค่าอัตรา พนักงานของ TRC จะสามารถตอบคำถามของพลเมืองได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีความเข้าใจความต้องการของพวกเขามากขึ้น

“ชาวออสเตรเลียคาดหวังบริการดิจิทัลคุณภาพสูงจากองค์กรต่างๆ และนั่นขยายไปถึงเทศบาลที่ดูแลสถานที่อยู่อาศัยของพวกเขา” Nathan Gower ผู้อำนวยการออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของ Boomi กล่าว “กระบวนการที่ซับซ้อนนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ Boomi ช่วยให้ TRC สามารถกำจัดความไร้ประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการเฉพาะของภูมิภาคได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็รักษาความรับผิดชอบต่อเงินภาษีที่ผู้เสียภาษีใช้จ่ายไปได้อย่างครบถ้วน”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi
Boomi มีเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่งและทุกที่ Boomi เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มบูรณาการบนคลาวด์ในรูปแบบบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก โดยเป็นฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย – รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ขณะเดียวกันก็เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B' และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทในเครือหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์. ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53866243/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi, LP

การอภิปรายการค้าอย่างยั่งยืนแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมเพื่อมอบโซลูชันด้านการค้าในการประชุม COP28

Logo

– งานอภิปราย Sustainable Trade Forum จัดขึ้นโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของ UAE โดยเป็นพันธมิตรกับ Capital.com และ Vinfast

– งานจัดขึ้นพร้อมกันกับงาน Trade Day ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในการประชุม COP28

– การชุมนุมธุรกิจระดับโลกและผู้นำด้านการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ สาธารณูปโภค และอาหาร

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ –(BUSINESS WIRE)–5 ธันวาคม 2023

ด้วยการเป็นพันธมิตรกันระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมกับบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับโลกอย่าง Capital.com และ VinFast ซึ่งเป็นผู้นำการผลิตยานพาหนะไฟฟ้าของเวียดนาม ได้ร่วมกันจัดการอภิปราย Sustainable Trade Forum ที่การประชุม COP28 ใน Expo City ในดูไบ โดยองค์ประกอบหลักของ Trade Day ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกในการประชุมของพันธมิตรนี้ ได้มีการรวมบริษัทระดับโลกและผู้นำด้านการลงทุนมาไว้ด้วยกันเพื่อร่วมแสดงทัศนคติของภาคเอกชนต่อการค้าระดับโลกและบทบาทในการวางแนวทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศมากขึ้น

HE Dr. Thani bin Ahmed Al Zeyoudi, UAE Minister of State for Foreign Trade (Photo: AETOSWire)

คุณ HE Dr. Thani bin Ahmed Al Zeyoudi รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้รับผิดชอบด้านการค้าต่างประเทศ (รูปภาพ: AETOSWire)

คุณ HE Dr Thani bin Ahmed Al Zeyoudi รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้รับผิดชอบด้านการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้เปิดงานอภิปรายนี้ ได้เน้นในการสนทนาถึงความสำคัญของการค้าต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก และบทบาทของภาคเอกชนในการมอบโซลูชันที่สามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญในระยะยาวได้ ในการอภิปรายยังกล่าวถึงหัวข้อ ‘การเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถของกลุ่มบุคคลผู้มีส่วนในระบบห่วงโซ่อุปทาน โดยติดตามเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก’ และ ‘การสนับสนุนธุรกิจสีเขียว: การส่งเสริมระบบนิเวศธุรกิจรายใหม่ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน และยังมีกล่าวถึงข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรมการขนส่ง ยานยนต์ สาธารณูปโภค และอาหาร  

คุณ HE Al Zeyoudi กล่าวว่า “แม้ผู้วางนโยบายและนักการเมืองจะสามารถวางโครงร่างได้ แต่เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจ นักอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการต้องนำโซลูชันที่มีขนาดเหมาะสมและเป็นจริงได้มาสู่ตลาด โดยการเชื่อมประสานระหว่างผู้วางนโยบายและผู้นำภาคเอกชน ในการอภิปราย Sustainability Trade Forum มุ่งเน้นอย่างชัดเจนไปที่ก้าวอันสำคัญสู่ระบบการค้าที่สะอาด อัจฉริยะ รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม และสามารถเคลื่อนพวกเราให้เข้าใกล้เป้าหมายของ Paris Accords ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด”

ท่านรัฐมนตรียังกล่าวเสริมอีกว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พัฒนาสู่ World Trade Organization’s 13th Ministerial Conference (MC13) ซึ่งจะจัดขึ้นในอาบูดาบี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่ง Sustainable Trade Forum เป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับความคิดเห็นของกลุ่มคนส่วนใหญ่เกี่ยวกับวิธีการวางแนวทางระบบการค้าระดับโลกที่ทันสมัยที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และเท่าเทียม ทั้งยังเป็นวิธีการให้ประเทศสามารถเดินทางไปสู่เป้าหมายการจัดการด้านสภาพอากาศได้อีกด้วย

ทั้งนี้ในระหว่างการอภิปราย คุณ Le Thi Thu Thuy ซีอีโอระดับโลกของ Vinfast ยังได้เน้นย้ำถึงการมีบทบาทชั้นนำของยานยนต์ไฟฟ้าในการสร้างห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยกล่าวว่า “แน่นอนว่า การแทนที่ยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม ด้วยรถยนต์ EV จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ และยังส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและการใช้แหล่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หากเรามองไปในอนาคตข้างหน้า การผสานรวมของรถยนต์ EV กับห่วงโซ่คุณค่าของโลกจะทำให้มีกลยุทธ์อันทรงพลังในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นขึ้น”

ในส่วนนี้ Kypros Zoumidou, กลุ่มซีอีโอของ Capital.com ได้กล่าวว่า “การมุ่งมุ่นในโครงร่างธุรกิจใหม่ที่นำไปสู่ความยั่งยืนขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ประกอบการในการที่จะเริ่มดำเนินการโครงการโดยเร็วตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น แต่ความเร็วและความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการสนับสนุนจากนักลงทุนและระบบนิเวศที่เข้มแข็ง ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีที่จะพลิกโฉมธุรกิจ เรายอมรับว่าการร่วมเป็นพันธมิตรที่ชาญฉลาดระหว่างรัฐบาลและภาคธุรกิจสามารถที่จะผลักดันความก้าวหน้านี้ได้จริง”

นอกเหนือจากซีอีโอของ Vinfast และ Capital.com แล้วในการอภิปรายยังได้มีการปราศรัยจากผู้แทนรัฐบาลสกอต ได้แก่ NYU Abu Dhabi, Ducab Group, Uber, Al Dahra Group, IBM Consulting, ADNOC, General Electric, Princeville Capital, Orbillion Bio, Inc., Wamda Group และ Change Foods

ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53866727/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Elisha Dessurne
edessurne@apcoworldwide.com

ที่มา: ระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

H2SITE ตั้งค่าให้ระบบสลายแอมโมเนียออนบอร์ดเครื่องแรกสร้างไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงควบคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง PEM

Logo

  • การขนส่งทางทะเลคิดเป็น 2% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก แอมโมเนียและเมทานอลเป็นตัวนำพาที่มีแนวโน้มสูงที่สุดในการลดการปล่อยคาร์บอน
  • H2SITE มีการผลิตไฮโดรเจนบริสุทธิ์จากแอมโมเนียออนบอร์ด ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การสลายแอมโมเนีย” โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนในตัว เมื่อเชื่อมต่อกับเซลล์เชื้อเพลิง PEM ไฮโดรเจนจะถูกใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าระบบเสริมสำหรับเรือ
  • หลังการพิสูจน์เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนบูรณาการสำหรับการใช้งานทั้งออนบอร์ดและบนบก H2SITE ยังคงขยายขอบเขตครอบคลุมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มระดับประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น

BILBAO,Spain–(BUSINESS WIRE)–6 ธันวาคม 2023

H2SITE ประสบความสำเร็จในการตรวจสอบเครื่องสลายแอมโมเนียเครื่องแรกในการผลิตไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงสำหรับการผลิตไฟฟ้าบนเรือ โดยใช้เซลล์เชื้อเพลิง PEM เครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนบูรณาการได้รับการติดตั้งและใช้งานบนเรือขนส่งสินค้า BERTHA B ซึ่งแล่นไปตามชายฝั่งอ่าวบิสเคย์

H2SITE HAS COMMISSIONED THE FIRST ON-BOARD AMMONIA CRACKING SYSTEM GENERATING HIGH-PURITY HYDROGEN COUPLED WITH PEM FUEL CELL.

H2SITE ตั้งค่าให้ระบบสลายแอมโมเนียออนบอร์ดเครื่องแรกสร้างไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงควบคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง PEM

การขนส่งทางทะเลมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 2% ของโลก จึงมีการนำเสนอศักยภาพที่สำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการเปลี่ยนจากไฮโดรคาร์บอนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสีเขียว เช่น

การสลายแอมโมเนียกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในฐานะตัวนำพาไฮโดรเจนที่มีศักยภาพสำหรับการใช้งานออนบอร์ด โดยสามารถใช้งานกับเครื่องยนต์ได้โดยตรง หรือสามารถสลายเป็นไฮโดรเจนและใช้ในเซลล์เชื้อเพลิง ก่อนที่จะใช้งานไฮโดรเจน จะต้องทำไฮโดรเจนให้บริสุทธิ์เสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีแอมโมเนียหลงเหลือ

เครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนของ H2SITE จะช่วยตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการเปลี่ยนรูปแอมโมเนียทั้งหมด ในขณะเดียวกัน ก็มีการถ่ายส่งไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงไปยังเซลล์เชื้อเพลิงในขั้นตอนกระบวนการเดียว ในระหว่างการเดินเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ H2OCEAN เครื่องสลายของ H2SITE สามารถให้พลังงานขับเคลื่อนบริการเสริมของเรือได้เป็นที่สำเร็จ ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือกันของผู้ดำเนินการหลักที่มีส่วนในการลดระดับคาร์บอนทางทะเล เช่น Zumaia Offshore, Erhardt Offshore, Ajusa, และ TECNALIA พร้อมกับความร่วมมือกับ Enagas และ ABS

เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนที่เป็นนวัตกรรมของเราไม่เพียงแต่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบเท่านั้น แต่ยังลดพื้นที่ในการติดตั้งอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการใช้งานภายในพื้นที่จำกัด เช่น บนเรือ" . to Jose Medrano ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ H2SITE กล่าว “เรามุ่งเน้นในการออกแบบเพื่อลดการใช้แอมโมเนียลงให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักที่จะช่วยให้สามารถป้อนพลังงานเข้าแหล่งจ่ายพลังงานได้สูงขึ้นอย่างเพียงพอ

โครงการนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ H2SITE ในการลดการปล่อยคาร์บอนของการขนส่งทางทะเล

เกี่ยวกับ H2SITE:

H2SITE ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 และมีการพัฒนาเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะสำหรับเครื่องปฏิกรณ์และเครื่องแยก โดยอำนวยความสะดวกในการแปลงวัตถุดิบตั้งต้นต่างๆ ให้กลายเป็นไฮโดรเจน รวมถึงแอมโมเนีย เมทานอล หรือก๊าซสังเคราะห์ ตลอดจนการแยกไฮโดรเจนออกจากส่วนผสมของก๊าซที่มีความเข้มข้นต่ำสำหรับการใช้งานในถ้ำเกลือหรือแหล่งไฮโดรเจนทางธรณีวิทยา

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
Andrés Galnares, CEO de H2SITE: andres.galnares@h2site.eu

แหล่งข้อมูล: H2SITE

Elice ลงนามความร่วมมือพิเศษกับ Pluralsight ในเกาหลี ซึ่งเป็นบริษัทด้านการศึกษาไอที B2B ระดับโลกอันดับ 1

Logo

เนื้อหาด้านการศึกษาไอทีระดับโลกซึ่งดำเนินการโดยบริษัทใน FORTUNE 500 เกือบ 70% พร้อมให้บริการแล้วในขณะนี้ในประเทศเกาหลีผ่าน Elice LXP

SEOUL, South Korea–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2023

Elice Inc. (CEO Kim Jae-won) บริษัทแพลตฟอร์มการฝึกอบรมด้านการศึกษาได้ลงนามความร่วมมือพิเศษกับ Pluralsight ในเกาหลี ซึ่งเป็นบริษัทด้านการศึกษาไอที B2B อันดับ 1 สำหรับเนื้อหาด้านการศึกษา Pluralsight เป็นบริษัทด้านการศึกษาไอที B2B ระดับโลกที่นักพัฒนาทั่วโลกเข้าเรียนรู้ทักษะด้านไอที เช่น SW การเขียนโปรแกรม ระบบคลาวด์ เป็นต้น

ด้วยข้อตกลงนี้ Elice ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวสำหรับการเผยแพร่เนื้อหาด้านการศึกษาของ Pluralsight ในเกาหลี Elice จะดำเนินการแปลและปรับแต่งเนื้อหาด้านการศึกษาของ Pluralsight เป็นภาษาเกาหลี โดยใช้เทคโนโลยีและบริการ AI อันเป็นเอกลักษณ์โดยใช้ Elice LXP และ Elice Inc. จะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกันกับ Pluralsight เพื่อขยายธุรกิจไปยังญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ อีกด้วย

เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Elice LXP ซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อการศึกษาได้ดึงดูดความสนใจของ Pluralsight เมื่อตัดสินใจร่วมลงนามความร่วมมือ แดชบอร์ด AI ของ Elice LXP สามารถคาดการณ์การจบหลักสูตรตามข้อมูล เช่น ผลการเรียนและรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกคนจะสำเร็จการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดย Elice LXP มีอัตราการจบหลักสูตรโดยเฉลี่ยสูงกว่า 80% และมีจำนวนผู้เข้าเรียนมากกว่า 1 ล้านคน

Pluralsight มีการใช้เครือข่ายผู้สอนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เพื่อนำเสนอหลักสูตรที่ดีที่สุดในด้าน SW, ระบบคลาวด์, AI และระบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อหา SW ขั้นสูง เช่น AWS, MS Azure, GCP เป็นต้น และหลักสูตรการรับรองความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและความปลอดภัยระดับโลกที่เข้าถึงยากในเกาหลี

Elice Inc. ได้เปิดตัวเนื้อหาด้านการศึกษาเกี่ยวกับระบบคลาวด์ ระบบรักษาความปลอดภัย การรับรอง เป็นต้น ใน Elcademy ซึ่งเป็นแบรนด์ด้านการศึกษาระบบ AI เชิงปฏิบัติจอง Elice ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของอุตสาหกรรมล่าสุด

เกี่ยวกับ Elice Inc.

Elice Inc. ก่อตั้งขึ้นในปี  2015 โดยเป็นบริษัทแพลตฟอร์ม AI Edtech ซึ่งใช้สภาพแวดล้อมการเขียนโค้ดเสมือนจริงสำหรับการศึกษา และให้บริการโซลูชันการฝึกอบรมแบบปรับแต่งตามความต้องการด้วย Elice LXP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการฝึกอบรมด้านการศึกษาแห่งแรกในเกาหลีที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อการศึกษา โดยมีการนำเสนอการฝึกอบรม DX แบบปรับแต่งได้สำหรับลูกค้า 1,100 ราย รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันสาธารณะ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Elice Inc.
Yang Eunyoung
eyyang@elicer.com

แหล่งข้อมูล: Elice Inc.

Abdulaziz Al-Gudaimi ผู้มากประสบการณ์จาก Aramco จะเข้าร่วม EIG ในตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาและประธานหน่วยปฏิบัติงานของ MENA

Logo

WASHINGTON–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2023

วันนี้ EIG สถาบันการลงทุนชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ประกาศว่า Abdulaziz Al-Gudaimi ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาและประธานหน่วยปฏิบัติงาน Middle East & North Africa (หรือ “MENA”) ของ EIG โดย Al-Gudaimi อดีตรองประธานกรรมการบริหารของฝ่ายพัฒนาบรรษัทของ Saudi Aramco (หรือ “Aramco”) ผู้มีประสบการณ์กว่า 38 ปี ในตลาดพลังงาน จะมาเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์แก่ EIG ในกิจกรรมภาคการลงทุนและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

“เราตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับ Abdulaziz สู่บริษัทของเรา” R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าว “ความเชี่ยวชาญที่ลึกซึ้งและประสบการณ์ที่สั่งสมมานานใน MENA จะเป็นหลักสำคัญที่จะช่วย EIG ในการหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมทั่วทั้งภาคพลังงานสำคัญและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และเป็นประโยชน์ต่อพอร์ตการลงทุนบริษัทของเราที่อยู่ท่ามกลางความท้าทายอันซับซ้อนของการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตที่ใช้คาร์บอนต่ำ”

“ผมได้รู้จักกับ Blair และทีม EIG จากความร่วมมือกับ Aramco และผมพร้อมมากที่จะสร้างผลงานสานต่อจากความสำเร็จของพวกเขาในภูมิภาค” Al-Gudaimi กล่าว “ขณะที่การเปลี่ยนผ่านพลังงานทวีความสำคัญอย่างต่อเนื่องและแผ้วถางเส้นทางสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า EIG จัดวางตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองอย่างดีในการหาโอกาสยกระดับความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงาน และสนับสนุนการงดใช้คาร์บอนของภาคพลังงานในภูมิภาค ผมเตรียมที่จะช่วยสร้างมูลค่าด้านในพอร์ตการลงทุนให้กับทั้งบริษัทและผู้ลงทุนด้วย”

Al-Gudaimi เคยดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาบรรษัทที่ Aramco ก่อนจะเกษียณจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2022 ครั้งยังดำรงตำแหน่งนี้ เขาได้ช่วย Aramco ให้เข้าถึงโอกาสครั้งใหญ่ในตลาดที่กำลังเติบโตและเทคโนโลยีด้วยการสร้างพอร์ตการลงทุนที่ดีและการจัดวางกลยุทธ์ ก่อนหน้านี้ Al-Gudaimi ผ่านการดำรงตำแหน่งในบทบาทผู้นำที่ Aramco มามากมาย ทั้งรองประธานอาวุโสของ Downstream และรองประธานของ Power Systems ปัจจุบัน Al-Gudaimi ทำงานในฐานะฝ่ายบริหารของ Vision Invest Holding และ Saudi Alfransi Bank รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของ Enterprises LLC, Arlanxeo, Saudi Aramco Total Refining และ Petrochemical Company, Aramco Trading Company รวมถึง Petro Rabigh ด้วย เขาสำเร็จการศึกษาด้วยวุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิตในสาขาวิศวกรรมปิโตรเลียม และมหาบัณฑิตการจัดการด้านธุรกิจ

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นสถาบันการลงทุนชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่ดูแลจัดการทุนมูลค่ากว่า 23 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 30 กันยายน 2023 EIG มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการลงทุนภาคเอกชนในพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ตลอดประวัติของบริษัท 41 ปี EIG ได้ลงทุนไปกว่า 45.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในภาคพลังงานผ่านโครงการมากกว่า 400 โครงการ หรือ บริษัทใน 42 ประเทศในหกภูมิภาค ลูกค้าของ EIG มีทั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน กองทุนการกุศล และมูลนิธิชั้นนำมากมาย รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ใน Washington, D.C. รวมถึงสำนักงานอื่นที่ Houston, London, Sydney, Rio de Janeiro, Hong Kong และ Seoul

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

แหล่งข้อมูล: EIG

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53864962/en

CrowdStrike เปิดศูนย์กลางเอเชียแห่งใหม่ในสิงคโปร์

Logo

ประสานความมุ่งมั่นในการปกป้องธุรกิจในภูมิภาค

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

 CrowdStrike (Nasdaq: CRWD) ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในสิงคโปร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางศูนย์กลางของ CrowdStrike ในเอเชีย สำนักงานแห่งใหม่เน้นย้ำถึงการลงทุนระดับภูมิภาคของ CrowdStrike และจะเพิ่มความจุเป็นสองเท่าของสิ่งอำนวยความสะดวกก่อนหน้านี้ในสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยประสานการปรากฏตัวในท้องถิ่นของผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความมุ่งมั่นในการปกป้ององค์กรในสิงคโปร์และทั่วเอเชีย

CrowdStrike มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และดำเนินกิจการทั่วโลก เป็นหนึ่งในบริษัทรักษาความปลอดภัยที่เติบโตเร็วและมีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก ด้วยลูกค้ามากกว่า 23,000 ราย ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและหน่วยงานภาครัฐ CrowdStrike กำลังขับเคลื่อนยุคต่อไปของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อก้าวนำหน้าการค้าขายของฝ่ายตรงข้ามที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและหยุดยั้งการละเมิด การกำหนดขอบเขตตลาดของบริษัท  CrowdStrike Falcon® platform การตอบสนองต่อเหตุการณ์และบริการชั้นยอด และทีมข่าวกรองภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงทำให้ CrowdStrike เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

สำนักงานแห่งใหม่นี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรมที่ลูกค้าและพันธมิตรของ CrowdStrike สามารถใช้ประโยชน์ เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับกลยุทธ์การป้องกันทางไซเบอร์ล่าสุด และยกระดับทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อป้องกันศัตรูที่มุ่งเป้าไปยังภูมิภาค

การย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่นี้ เป็นไปตามความสำเร็จทางธุรกิจที่สำคัญของผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเอเชีย ผลลัพธ์ทางการเงินของ CrowdStrike สำหรับไตรมาสที่สามปีงบประมาณ 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2566 รายงานว่ามีรายได้ 81 ล้านดอลลาร์ในเอเชียแปซิฟิก (รวมถึงญี่ปุ่น) เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามปีงบประมาณ 2023 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2565 APAC (รวมถึงญี่ปุ่น) คิดเป็น 10% ของรายได้รวมของ CrowdStrike

“เอเชียเป็นแหล่งกำเนิดกิจกรรมอาชญากรรมทางไซเบอร์ เราเห็นค่าเฉลี่ยค่าไถ่ของแรนซัมแวร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับสี่สัปดาห์ก่อนหน้า ด้วยกิจกรรมทั้งหมดนี้ ธุรกิจในเอเชียจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้โซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์สมัยใหม่ และแนวทางเชิงรุกในการปกป้องตนเองเพื่อต่อสู้กับศัตรูที่มุ่งเป้าไปยังประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย” Geoff Swaine รองประธาน APJ ของ CrowdStrike กล่าว

“เราเห็นความต้องการนี้เมื่อเราก่อตั้งสำนักงานในสิงคโปร์ครั้งแรกในปี 2559 และยังคงขยายทีมงานและธุรกิจของเราในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลานั้น CrowdStrike ได้สนับสนุนธุรกิจจำนวนมากในหลายภาคส่วนและขนาด ในการเปลี่ยนจากการใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัยแบบเดิมซึ่งมักอิงตามลายเซ็น ซึ่งไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์สมัยใหม่ต่อแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ และใช้ระบบอัจฉริยะ”

เอเชียตกเป็นเป้าของอาชญากรไซเบอร์มานานแล้ว ตาม CrowdStrike 2023 Threat Hunting Report ภาคอุตสาหกรรมแนวตั้งห้าอันดับแรกเรียงตามความถี่ของการบุกรุกในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ได้แก่ เทคโนโลยี โทรคมนาคม การค้าปลีก การเงิน และการผลิต ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เหยื่อ big game hunting (การโจมตีทางไซเบอร์ประเภทหนึ่งที่มักจะใช้ประโยชน์จาก ransomware เพื่อมุ่งเป้าองค์กรขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูง หรือหน่วยงานที่มีชื่อเสียงสูง) เพิ่มขึ้นเป็น 416 เมื่อเทียบกับ 357 จากช่วงสี่สัปดาห์ก่อนหน้า ตามข้อมูลจากการปฏิบัติการต่อต้านศัตรูของ CrowdStrike ในทางภูมิศาสตร์ เอเชียมีภัยคุกคามหลักจากสองรัฐชาติคือจีนและเกาหลีเหนือภายในขอบเขตของตน ในขณะที่ผู้มีบทบาทใน China-nexus มีผลงานมากเป็นพิเศษ โดยสังเกตได้จาก 14 กลุ่มอุตสาหกรรม

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

  • หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CrowdStrike Falcon platform โปรดไปที่เว็บไซต์ของเรา

เกี่ยวกับ CrowdStrike

CrowdStrike (Nasdaq: CRWD) ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ได้กำหนดนิยามใหม่ของการรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ ด้วยแพลตฟอร์มคลาวด์เนทิฟที่ทันสมัยที่สุดในโลก สำหรับการปกป้องพื้นที่สำคัญของความเสี่ยงขององค์กร เช่น อุปกรณ์ปลายทางและปริมาณงานบนคลาวด์ ข้อมูลแสดงตัวตนและข้อมูล

ขับเคลื่อนโดย CrowdStrike® Security Cloud และปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก แพลตฟอร์ม CrowdStrike Falcon® ใช้ประโยชน์จากตัวบ่งชี้แบบเรียลไทม์ของการโจมตี ข้อมูลภัยคุกคาม การพัฒนาการค้าขายของฝ่ายตรงข้าม และการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ได้รับการปรับปรุงจากทั่วทั้งองค์กร เพื่อมอบการตรวจจับที่มีความแม่นยำสูง การป้องกันอัตโนมัติ และการแก้ไข การค้นหาภัยคุกคามชั้นยอด และการจัดลำดับความสำคัญในการสังเกตจุดอ่อน

สร้างขึ้นโดยเฉพาะบนคลาวด์ด้วยสถาปัตยกรรมเอเจนต์น้ำหนักเบาเพียงตัวเดียว แพลตฟอร์ม Falcon นำเสนอการใช้งานที่รวดเร็วและปรับขนาดได้ การป้องกันและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ลดความซับซ้อน และเวลาต่อมูลค่าทันที

CrowdStrike: เราหยุดการละเมิด

เรียนรู้เพิ่มเติม: https://www.crowdstrike.com/

ติดตามเราได้ที่: Blog | Twitter | LinkedIn | Facebook | Instagram

เริ่มทดลองใช้ฟรีวันนี้: https://www.crowdstrike.com/free-trial-guide/

© 2023 CrowdStrike, Inc. สงวนลิขสิทธิ์ CrowdStrike, โลโก้เหยี่ยว, CrowdStrike Falcon และ CrowdStrike Threat Graph เป็นเครื่องหมายของ CrowdStrike, Inc. และจดทะเบียนกับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา และในประเทศอื่นๆ CrowdStrike เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการอื่น ๆ และอาจใช้แบรนด์ของบุคคลที่สามเพื่อระบุผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Andy Sommer
ฝ่ายสื่อสารองค์กร CrowdStrike

press@crowdstrike.com

แหล่งที่มา: CrowdStrike

ติ

สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Abu Dhabi เปิดตัว ‘AI71’: บริษัท AI แห่งใหม่บุกเบิกการควบคุมข้อมูลแบบกระจายศูนย์สำหรับบริษัท & ประเทศต่างๆ

Logo

  • มีการสร้าง AI71 ขึ้นตามโมเดล Falcon Generative AI ที่ได้รับการจัดอันดับระดับโลก
  • บริษัทใหม่มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ระบบ AI แบบก้าวหน้าในหลายโดเมน โดยมุ่งเน้นที่ภาคส่วนการแพทย์ การศึกษา และกฎหมายในเริ่มแรก

ABU DHABI,United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

ในยุคการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Abu Dhabi (Advanced Technology Research Council ATRC) มีความก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวบริษัท AI แห่งใหม่ชื่อว่า AI71 โดยองค์กรนี้สร้างขึ้นจากโมเดล Falcon generative AI ของสถาบันนวัตกรรม (Technology Innovation Institute – TII) และมีความมุ่งเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญพิเศษในหลากหลายโดเมน ในขณะเดียวกัน ก็มีการนำเสนอตัวเลือกการควบคุมข้อมูล AI ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับบริษัทและประเทศต่างๆ ที่กำลังมองหาโฮสต์สำหรับบริษัท เพื่อความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น

H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan, Crown Prince of Abu Dhabi and Chairman of the Abu Dhabi Executive Council launches AI71 along with H.E Faisal Al Bannai, Secretary General, Advanced Technology Research Council (Photo: AETOSWire)

H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มงกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี และประธานของสภาผู้บริหารอาบูดาบีได้เปิดตัว AI71 พร้อมกับ H.E Faisal Al Bannai หัวหน้าเลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ภาพ: AETOSWire)

โรงไฟฟ้า AI แห่งใหม่นี้ได้รับการเปิดตัวโดย H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่ง Abu Dhabi และประธานของ Abu Dhabi Executive Council โดยมีรัฐมนตรีและตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติชั้นนำเข้าร่วมงาน

ในขณะที่สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของ ATRC เป็นผู้พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) Falcon 7B, 40B และ 180B VentureOne ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ATRC จะเป็นผู้นำ AI71 ออกสู่ตลาดสำหรับหลากหลายโดเมน เริ่มจากภาคส่วนการแพทย์ การศึกษา และกฎหมาย การเปิดให้สามารถเข้าถึงคลังข้อมูลนิรนามขนาดใหญ่ในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มประชากรที่หลากหลาย และ AI71 จะสร้างความแตกต่างในตลาด AI ที่สำคัญต่างๆ ในปัจจุบัน กล่าวคือ โครงสร้างพื้นฐานทางอิเล็กทรอนิกส์แบบดิจิทัลและค่อนข้างสมบูรณ์ของ UAE

ในช่วงเวลาที่นวัตกรรมมักจะก้าวล้ำกรอบงานกำกับดูแล โครงสร้างในการตัดสินใจอย่างเฉียบขาดของรัฐบาล UAE ช่วยให้บริษัทใหม่สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวล้ำของ AI โดยข้ามกระบวนการที่มีความยืดเยื้อในการพัฒนาดังกล่าว

ด้วยความร่วมมือและการเป็นพันธมิตรกัน AI71 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โมเดล AI และได้รับประโยชน์จากการที่สามารถเข้าถึงแหล่งเก็บข้อมูลที่ซับซ้อน เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพของ generative AI ที่โดดเด่น ยิ่งไปกว่านั้น AI71 ยังช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ โดยยังนำเสนอมาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย  โดยทำหน้าที่เป็นดัชนีชี้วัดสำหรับโครงการ AI ที่ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ นี่เป็นตัวเลือกที่เปลี่ยนแปลงระบบการเข้าถึงสำหรับ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กร บริษัทขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลต่างประเทศ ที่ต้องการความมั่นใจในการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

AI71 จะได้รับการสร้างขึ้นตามแนวทางนวัตกรรมแบบสร้างสรรค์ โดยจะมีการนำไปใช้ในทุกแห่ง และบนความมุ่งมั่นที่จะให้มีการใช้งานเทคโนโลยี AI เป็นวงกว้าง ไม่ผูกขาดอยู่เพียงในกลุ่มของคนเพียงไม่กี่คน ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ บริษัท AI แห่งใหม่จะมีการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มข้อมูลประจำตัวสำหรับ Abu Dhabi และครอบคลุม UAE โดยยึดระบบ AI เป็นหลัก และการดำเนินการเช่นนี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงยุคแห่งความก้าวล้ำแห่งคลังความรู้ของประเทศ

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง กล่าวว่า "ใน UAE การทำงานร่วมกันเป็นมากกว่าเพียงการปฏิบัติ แต่เป็นการฝังรากลึกอยู่ใน DNA ของทุกคน โมเดล Falcon generative AI ของเราซึ่งเป็นหัวใจของ AI71 ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนา บริษัท และประเทศ รวมทั้งยังให้อิสระแก่ทุกคนเพื่อสร้างตัวตนในข้อมูลของตัวเอง ด้วยความสามารถในการเข้าถึงชุดข้อมูลแบบรวมศูนย์ของ UAE การนำโมเดล AI ของไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ภายในภาคส่วนต่างๆ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนงาน AI71 ของเรา ในระหว่างที่เราดำเนินการสำรวจเส้นทางแห่งนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างโมเดล Falcon AI แบบโอเพ่นซอร์สด้วยในคราวเดียวกัน เพราะการสร้างสรรค์แหล่งทรัพยากรข้อมูลแบบกระจายศูนย์เหล่านี้เท่านั้นจะที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมทั้งหมดอย่างแท้จริง”

ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ล้ำสมัยรายการของ AI71 จะมุ่งเน้นที่ภาคส่วนการแพทย์ และปรับเปลี่ยนความสามารถในการวินิจฉัยและการตัดสินใจ ซึ่งจะเพิ่มระดับความแม่นยำและลดเวลาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละรายได้เป็นอย่างมาก

ภาคส่วนการศึกษาและกฎหมายก็ได้รับประโยชน์จากบูรณาการและการปรับแต่ง AI นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะสร้างผลประโยชน์เพิ่มขึ้นแก่แต่ละโดเมน และนำไปสู่โซลูชันใหม่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสังคม

AI71 มีการร่วมมือกันกับพันธมิตรเจ็ดรายทั่วทั้งระบบนิเวศ รวมถึง Department of Government Enablement – Abu Dhabi ซึ่งมีการรวมศูนย์หน่วยงานภาครัฐกว่า 30 แห่งผ่านการแปลงเป็นดิจิทัล, Office of Artificial Intelligence, Digital Economy และ Remote Work Applications เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง, World Wide Technology เพื่อร่วมพัฒนาโซลูชัน AI ในสถานที่แบบบูรณาการ, CNTXT เพื่อให้บริการติดฉลากข้อมูลและแสดงคำอธิบายประกอบ, Hub71 เพื่อดึงดูดและขยายขนาดสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและ AI, PwC Middle East เพื่อดูแลกรณีการใช้งานของลูกค้า, และ AWS เพื่อจัดหาความจุของพลังงานเพื่อการประมวลผล

เนื่องจาก AI มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและการทำงานของเราในอนาคตอันใกล้ บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จึงมองหาข้อเสนอใหม่ๆ สำหรับองค์กรต่างๆ ตามความต้องการของอุตสาหกรรม และอำนวยความสะดวกในการขยายการใช้งาน AI ในวงกว้างทั่วทุกแห่ง AI71 นำเสนอโอกาสในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนระบบนิเวศที่เน้น AI เป็นอันดับแรกใน UAE และประเทศอื่นๆ

เนื่องจาก AI71 สร้างผลกระทบทั่วทั้งองค์กร อุตสาหกรรม และหน่วยงานภาครัฐ VentureOne จึงจะมีการนำเสนอความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาคส่วนต่างๆ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53862674/en

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan, Senior Director of Communications
jennifer.dewan@tii.ae.

แหล่งข้อมูล: Advanced Technology Research Council

Powered by Business Wire


The Bangkok Reporter