C.J. Express ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ RELEX Solutions เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็ว

Logo

ผู้ค้าปลีกชั้นนำของไทยจะนำความสามารถขั้นสูงของ RELEX มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2568

บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (C.J. Express Group Co., Ltd.) เป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ได้ขยายความร่วมมือกับ RELEX Solutions ผู้ให้บริการโซลูชันการวางแผนซัพพลายเชนและค้าปลีกแบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง การขยายความร่วมมือครั้งนี้จะนำเสนอความสามารถขั้นสูงต่างๆ เช่น การจัดซื้อสินค้าแบบมีข้อจำกัด การคาดการณ์จำนวนสินค้าในหลากหลายช่องทาง รวมถึงการวินิจฉัยซัพพลายเชนในศูนย์กระจายสินค้า (DC) ทั้งเจ็ดแห่งของ C.J. Express โดยการขยายความร่วมมือนี้ยังรวมถึงการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยทีม RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม C.J. Express เพื่อทำความเข้าใจในข้อจำกัดด้านการดำเนินงานในปัจจุบัน และทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุง KPI โดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความพร้อมในการจัดจำหน่าย สินค้าหมด จำนวนวันคงเหลือ และสินค้าเน่าเสีย ทั้งของร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้า

นับตั้งแต่เริ่มร่วมมือกับ RELEX ในปี 2565 ทาง C.J. Express ได้ประสบความสำเร็จในการขยายการดำเนินงานจาก 900 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าสองแห่ง ไปสู่กว่า 1,700 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าเจ็ดแห่ง โดย C.J. Express ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงอาหารสด และตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 30-40% ต่อปี พร้อมกับการสำรวจรูปแบบร้านค้าใหม่ๆ

ด้วยความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ C.J. Express จึงได้ขยายการใช้งานแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX เพื่อจัดการกับความซับซ้อนในการปฏิบัติงานที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความสามารถเหล่านี้ประกอบด้วย การจัดซื้อสินค้าแบบมีข้อจำกัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในด้านการจัดหาสินค้า การคาดการณ์ในหลากหลายช่องทางที่ปรับให้เหมาะกับรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย รวมถึงการวินิจฉัยห่วงซัพพลายเชนเพื่อระบุและแก้ไขปัญหาคอขวดในการดำเนินงาน

แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX นี้จะช่วยให้ C.J. Express ปรับปรุงความพร้อมในการจัดจำหน่ายสินค้า ลดความเสียหายจากการเน่าเสีย ปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม และปรับปรุงการดำเนินงานของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย RELEX Diagnostics จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของซัพพลายเชนแบบอัตโนมัติ ที่จะช่วยให้ C.J. Express สามารถระบุและแก้ไขปัญหาการดำเนินงานได้ล่วงหน้าก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้า ความสามารถเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงานนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและผลกำไร

ด้วยการขยายตัวและวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของธุรกิจ C.J. Express ความซับซ้อนจึงเพิ่มขึ้น และการจัดการความซับซ้อนนี้ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกเหนือจากความสามารถของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้แล้ว RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ C.J. Express เพื่อวิเคราะห์หาจุดอ่อนในกระบวนการทำงาน มองหาจุดที่สามารถพัฒนาได้ และร่วมกันปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยความร่วมมือนี้จะยิ่งเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง RELEX และ C.J. Express ให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน โดยการเพิ่มมูลค่าสูงสุดของแพลตฟอร์ม RELEX และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการดำเนินงานของ C.J. Express โดยรวม

การทำงานร่วมกับ RELEX ทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะเราสามารถขยายจำนวนสาขาร้านเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” กล่าวโดย คุณวีรธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ C.J. Express “แพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาไปพร้อมกับธุรกิจของเรา ทีโดยให้ความแม่นยำในการคาดการณ์และช่วยให้เราเห็นภาพรวมของห่วงโซ่อุปทานได้ชัดเจน ทำให้เราสามารถรักษาคุณภาพการบริการได้แม้ในช่วงที่ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้ทำให้เราสามารถเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ พร้อมกับให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ผมไม่ได้มอง RELEX เป็นแค่บริษัทขายซอฟต์แวร์ แต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ทุ่มเทเพื่อความสำเร็จร่วมกัน”

“เรารู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จที่เราได้ทำร่วมกับ C.J. Express และรู้สึกตื่นเต้นที่จะสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตอันทะเยอทะยานของพวกเขา” กล่าวโดย Mikko Kärkkäinen ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ RELEX Solutions โดยความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของ RELEX ในการให้ผลลัพธ์ที่วัดได้จริง และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ เราพร้อมที่จะสนับสนุนซีเจ เอ็กซ์เพรสเติบโตต่อไป และสร้างมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกในไทย 

เกี่ยวกับ RELEX

RELEX Solutions มอบแพลตฟอร์มการวางแผนห่วงโซ่อุปทานแบบรวมศูนย์สำหรับผู้ค้าปลีกและผู้ผลิต โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราได้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคาดการณ์อุปสงค์ การเติมสินค้า การจัดการสินค้า การกำหนดราคาและโปรโมชั่น การดำเนินงานห่วงโซ่อุปทาน และการวางแผนการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร แบรนด์ต่างๆ เช่น ADUSA, AutoZone, Coles, Circle K, Dollar Tree and Family Dollar, Ford South America, M&S Food, PetSmart, Rituals, The Home Depot, Systemair และ Vita Coco ต่างไว้วางใจให้ RELEX เพิ่มความพร้อมในการจัดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ เพิ่มยอดขาย นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ปรับปรุงความยั่งยืน และขับเคลื่อนการเติบโตที่สร้างผลกำไร เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.relexsolutions.com/customers/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

Jolene Peixoto
รองประธานฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Jolene.Peixoto@relexsolutions.com

Amelia Goodbody
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Amelia.goodbody@relexsolutions.com

ที่มา: RELEX Solutions

C.J. Express ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ RELEX Solutions เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็ว

Logo

ผู้ค้าปลีกชั้นนำของไทยจะนำความสามารถขั้นสูงของ RELEX มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (C.J. Express Group Co., Ltd.) เป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ได้ขยายความร่วมมือกับ RELEX Solutions ผู้ให้บริการโซลูชันการวางแผนซัพพลายเชนและค้าปลีกแบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง การขยายความร่วมมือครั้งนี้จะนำเสนอความสามารถขั้นสูงต่างๆ เช่น การจัดซื้อสินค้าแบบมีข้อจำกัด การคาดการณ์ในหลากหลายช่องทาง รวมถึงการวินิจฉัยซัพพลายเชนในศูนย์กระจายสินค้า (DC) ทั้งเจ็ดแห่งของ C.J. Express โดยการขยายความร่วมมือนี้ยังรวมถึงการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยทีม RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม C.J. Express เพื่อทำความเข้าใจในข้อจำกัดด้านการดำเนินงานในปัจจุบัน และทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุง KPI โดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความพร้อมในการจัดจำหน่าย สินค้าหมด จำนวนวันคงเหลือ และสินค้าเน่าเสีย ทั้งของร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้า

นับตั้งแต่เริ่มร่วมมือกับ RELEX ในปี 2022 ทาง C.J. Express ได้ประสบความสำเร็จในการขยายการดำเนินงานจาก 900 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าสองแห่ง ไปสู่กว่า 1,700 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าเจ็ดแห่ง โดย C.J. Express ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงอาหารสด และตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 30-40% ต่อปี พร้อมกับการสำรวจรูปแบบร้านค้าใหม่ๆ

ด้วยความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ C.J. Express จึงได้ขยายการใช้งานแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX เพื่อจัดการกับความซับซ้อนในการปฏิบัติงานที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความสามารถเหล่านี้ประกอบด้วย การจัดลำดับแบบจำกัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในด้านการจัดหาสินค้า การคาดการณ์ในหลากหลายช่องทางที่ปรับให้เหมาะกับรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย รวมถึงการวินิจฉัยห่วงโซ่อุปทานเพื่อระบุและแก้ไขปัญหาคอขวดในการดำเนินงาน

แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX นี้จะช่วยให้ C.J. Express ปรับปรุงความพร้อมในการจัดจำหน่ายสินค้า ลดความเสียหายจากการเน่าเสีย ปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม และปรับปรุงการดำเนินงานของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย RELEX Diagnostics จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานแบบอัตโนมัติ ที่จะช่วยให้ C.J. Express สามารถระบุและแก้ไขปัญหาการดำเนินงานได้ล่วงหน้าก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้า ความสามารถเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงานนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและผลกำไร

ด้วยการขยายตัวและวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของธุรกิจ C.J. Express ความซับซ้อนจึงเพิ่มขึ้น และการจัดการความซับซ้อนนี้ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกเหนือจากความสามารถของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้แล้ว RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ C.J. Express เพื่อระบุช่องว่างในการดำเนินงาน ศักยภาพในการปรับปรุง และร่วมมือกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยความร่วมมือนี้จะยิ่งเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง RELEX และ C.J. Express ให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน โดยการเพิ่มมูลค่าสูงสุดของแพลตฟอร์ม RELEX และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการดำเนินงานของ C.J. Express โดยรวม

“การเดินทางของเรากับ RELEX ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากเราขยายพื้นที่ร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” กล่าวโดย คุณวีรธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ C.J. Express “แพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาไปพร้อมกับธุรกิจของเรา ที่ได้มอบความแม่นยำในการคาดการณ์และการมองเห็นห่วงโซ่อุปทานที่เราต้องการเพื่อรักษาระดับการให้บริการในช่วงที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้ทำให้เราสามารถเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ พร้อมกับให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผม สิ่งสำคัญคือไม่ใช่แค่การมอง RELEX ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมลงทุนเพื่อความสำเร็จร่วมกันของเรา”

“เรารู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จที่เราได้ทำร่วมกับ C.J. Express และรู้สึกตื่นเต้นที่จะสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตอันทะเยอทะยานของพวกเขา” กล่าวโดย Mikko Kärkkäinen ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ RELEX Solutions โดยความร่วมมือครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ RELEX ในการส่งมอบคุณค่าที่วัดผลได้และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ช่วย C.J. Express และนำทางการเติบโต รวมถึงสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความเป็นเลิศด้านการค้าปลีกในประเทศไทยต่อไป

เกี่ยวกับ RELEX

RELEX Solutions มอบแพลตฟอร์มการวางแผนห่วงโซ่อุปทานแบบรวมศูนย์สำหรับผู้ค้าปลีกและผู้ผลิต โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราได้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคาดการณ์อุปสงค์ การเติมสินค้า การจัดการสินค้า การกำหนดราคาและโปรโมชั่น การดำเนินงานห่วงโซ่อุปทาน และการวางแผนการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร แบรนด์ต่างๆ เช่น ADUSA, AutoZone, Coles, Circle K, Dollar Tree and Family Dollar, Ford South America, M&S Food, PetSmart, Rituals, The Home Depot, Systemair และ Vita Coco ต่างไว้วางใจให้ RELEX เพิ่มความพร้อมในการจัดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ เพิ่มยอดขาย นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ปรับปรุงความยั่งยืน และขับเคลื่อนการเติบโตที่สร้างผลกำไร เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.relexsolutions.com/customers/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

Jolene Peixoto
รองประธานฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Jolene.Peixoto@relexsolutions.com

Amelia Goodbody
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Amelia.goodbody@relexsolutions.com

ที่มา: RELEX Solutions

SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 ขนาด 245.76 TB พร้อมนวัตกรรมใหม่ด้วยหน่วยความจำแบบสแต็ก 32 ได ได้คว้ารางวัล ‘Best of Show’ ในงาน FMS: อนาคตของหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล 2025

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–06 สิงหาคม 2025

Kioxia Corporation ขอประกาศวันนี้ว่า SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 ขนาด 245.76 เทราไบต์ (TB)(1) ซึ่งใช้หน่วยความจำแฟลช KIOXIA BiCS FLASH™ รุ่นที่ 8 QLC 3D แบบสแต็ก 32 ได ได้รับรางวัล FMS ‘Best of Show’ ในประเภท ‘เทคโนโลยี SSD’ รางวัลเหล่านี้ได้ยกย่องผลิตภัณฑ์ บริการ และการนำไปใช้งานของลูกค้าที่ล้ำสมัยที่ขยายขอบเขตของเทคโนโลยีหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล

KIOXIA LC9 Series 245.76 TB Enterprise SSD with Innovative 32-die Stack Memory Named ‘Best of Show’ at FMS 2025

SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 ความจุ 245.76 TB พร้อมหน่วยความจำแบบสแต็ก 32 ได นวัตกรรมใหม่ ได้รับรางวัล ‘Best of Show’ ในงาน FMS 2025

SSD NVMe™ รุ่นแรกในอุตสาหกรรม(2) ความจุ 245.76 TB(1) ขนาด 2.5 นิ้ว และฟอร์มแฟกเตอร์มาตรฐานสำหรับองค์กรและศูนย์ข้อมูล (EDSFF) ขนาด E3.L ทำให้ไดรฟ์ซีรีส์ KIOXIA LC9 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ AI เชิงสร้างสรรค์ (generative AI) และแอปพลิเคชันระดับองค์กร โดยขณะนี้ SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 กำลังสุ่มตัวอย่างให้กับเหล่าลูกค้าของเรา

“เมื่อลูกค้าประเมิน SSD สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถปรับขนาดได้ตลอดจนถึงความจุที่สูง พร้อมทั้งมอบประสิทธิภาพสูงและการใช้พลังงานต่ำ” Jay Kramer ประธานโครงการรางวัลและประธานบริษัท Network Storage Advisors Inc. กล่าว “เราภูมิใจที่ได้ยกย่อง KIOXIA สำหรับหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D และ SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 โดยโซลูชันนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี CBA (CMOS directly Bonded to Array) และนวัตกรรมของสถาปัตยกรรมแบบสแต็ก 32 ไดในแพ็กเกจเดียว ที่ได้มอบความจุ พลังงาน และความหนาแน่นที่จำเป็นสำหรับ SSD ยุคใหม่ การสร้าง SSD ระดับองค์กร(2) PCIe® 5.0 ที่มีความจุสูงสุดถือเป็นความสำเร็จอันโดดเด่นและสะท้อนถึงตำแหน่งผู้นำของ Kioxia ได้อย่างชัดเจน”

ด้วยการนำเสนอสแต็ก 32 ได ความจุ 2 เทราบิต (Tb)(3) หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ QLC 3D พร้อมเทคโนโลยี CBA ที่เป็นนวัตกรรมของ SSD ทำให้ซีรีส์ KIOXIA LC9 มอบความเร็ว ขนาด และความหนาแน่นที่จำเป็นต่อการรองรับปริมาณงานที่เน้นข้อมูลเป็นหลักในอนาคต การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหน่วยความจำขั้นสูงและเทคโนโลยี CBA นี้ช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 8 TB(3) ในแพ็คเกจขนาดเล็ก 154 BGA ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม(2) ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการประมวลผลเวเฟอร์ความแม่นยำสูง การออกแบบวัสดุ และเทคโนโลยีการเชื่อมลวดของ KIOXIA

หมายเหตุ:

(1) คำจำกัดความของความจุ SSD:: Kioxia Corporation กำหนดให้ 1 กิโลไบต์ (KB) เท่ากับ 1,000 ไบต์, 1 เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์, 1 กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์, 1 เทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ และ 1 กิบิไบต์ (KiB) เท่ากับ 1,024 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับนิยามของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของพื้นที่จัดเก็บน้อยลง ความจุที่ใช้งานได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบปฏิบัติการ Microsoft และ/หรือแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

(2) ข้อมูล ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2025 จากการสำรวจของ Kioxia

(3) ความจุหน่วยความจำแฟลชคำนวณได้เป็น 1 เทราบิต (1 Tb) = 1,099,511,627,776 (2^40) บิต และ 1 เทราไบต์ (1 TB) = 1,099,511,627,776 (2^40) ไบต์

* 2.5 นิ้วบ่งบอกถึงขนาดของ SSD ไม่ใช่ขนาดทางกายภาพ
* NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ
* PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่มุ่งมั่นในการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตทไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทก่อนหน้าได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าตามหน่วยความจำสำหรับสังคมต่างๆ โดยเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia อย่าง BiCS FLASH™ นั้นกำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชั่นที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี ระบบยานยนต์ ศูนย์ข้อมูล และระบบ Generative AI

การสอบถามจากลูกค้า:
Kioxia Group
สำนักงานขายทั่วโลก
https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ มีความถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250805179979/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายบริหารการส่งเสริมการขาย
Satoshi Shindo
โทร.: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

ขยายขีดความสามารถ AI อย่างไร้ขีดจำกัด: KIOXIA นำเสนอโซลูชัน Flash Storage สุดล้ำที่งาน FMS 2025

Logo

บริษัทมุ่งเน้นไปที่ SSD ความจุ 245.76 TB รุ่นแรกในอุตสาหกรรม รวมถึงนวัตกรรมอื่นๆ ที่จะนิยามการจัดเก็บข้อมูลใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 สิงหาคม 2025

กลุ่ม Kioxiaผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ จะขึ้นเวทีอีกครั้งในงาน FMS: อนาคตของหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล เพื่อเน้นย้ำว่านวัตกรรมหน่วยความจำแฟลชและ SSD ของบริษัทกำลังขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและปรับขนาดได้สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไร โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้งานจริงและการเพิ่มประสิทธิภาพ โดย Kioxia จะแสดงให้เห็นว่าโซลูชันล่าสุดของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของ AI ในสภาพแวดล้อมศูนย์ข้อมูลและองค์กรได้อย่างไร

Scale AI Without Limits: KIOXIA Showcases Breakthrough Flash Storage Solutions at FMS 2025

ขยายขีดความสามารถ AI อย่างไร้ขีดจำกัด: KIOXIA นำเสนอโซลูชัน Flash Storage สุดล้ำที่งาน FMS 2025

 Kioxia จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด รวมถึงซีรีส์ KIOXIA LC9 ความจุสูง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของอุตสาหกรรม1 245.76 เทราไบต์ (TB)2 NVMe™ SSD โดยมีไฮไลท์เพิ่มเติม ประกอบด้วย SSD ซีรีส์ KIOXIA CM9 และซีรีส์ KIOXIA CD9P ที่สร้างด้วยหน่วยความจำแฟลช 3D BiCS FLASHTM รุ่นที่ 8 ของบริษัทที่ส่งมอบประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และความหลากหลายต่างๆ นอกจากนี้ Kioxia ยังจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ความจุ 1 เทราบิต (Tb)3 3 บิต/เซลล์ (TLC) ที่ใช้เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D BiCS FLASHTM รุ่นที่ 9 และรุ่นที่ 10 โดยที่หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASHTM รุ่นที่ 9 และ รุ่นที่ 10 ได้ผสานรวมมาตรฐานอินเทอร์เฟซ Toggle DD6.0 และใช้ประโยชน์จากโปรโตคอล SCA (Separate Command Address) และวิธีการป้อนที่อยู่คำสั่งแบบใหม่ของอินเทอร์เฟซ และเทคโนโลยี PI-LTT (Power Isolated Low-Tapped Termination) ซึ่งช่วยปรับปรุงความเร็วในการรับและส่งข้อมูลและลดการใช้พลังงาน

ในงาน FMS 2025 Kioxia จะนำเสนอประเด็นสำคัญและเซสชันทางเทคนิคที่ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้:

  1.  การนำเสนอหลักในงาน FMS 2025:
     “เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ด้วยเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชและโซลูชันการจัดเก็บข้อมูล
     วันอังคารที่ 5 สิงหาคม เวลา 11:00 . ตามเวลาแปซิฟิก (PDT)
     สถานที่: ห้องบอลรูม Mission City, ศูนย์การประชุม Santa Clara, ชั้น 1
     วิทยากร: Katsuki Matsudera ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดด้านเทคนิคหน่วยความจำของ Kioxia Corporation และ Neville Ichhaporia รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจ SSD ของ KIOXIA America, Inc.
     
  2.  เสวนาระดับผู้บริหาร AI Premier:
    การปรับขนาดหน่วยความจำและพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับการอนุมาน AI
     วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม เวลา 11:00 . ตามเวลาแปซิฟิก (PDT)
     สถานที่: ห้องบอลรูม Mission City, ศูนย์การประชุม Santa Clara, ชั้น 1
     วิทยากร: Rory Bolt นักวิจัยอาวุโสและสถาปนิกหลักของหน่วยธุรกิจ SSD ของ KIOXIA America Inc.
     
  3.  บูทสาธิต KIOXIA
     การสาธิตผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจะจัดขึ้นที่บูท KIOXIA หมายเลข 307 อันโดดเด่น 2 ชั้น ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดง 10 แห่งในพื้นที่จัดแสดง ซึ่งประกอบด้วย:
  •  กรณีการใช้งานที่ต้องขยายเพิ่มขึ้นแพ็กเกจความจุสูง/หน่วยความจำแฟลชความหน่วงต่ำ: สแต็ก 32 ไดในแพ็คเกจ BGA ขนาดเล็กของหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASHTM รุ่นที่ 8 QLC 3D /XL-FLASH พร้อมอินเทอร์เฟซ CXL™
  •  หน่วยความจำแฟลช 3D KIOXIA BiCS FLASHTM รุ่นที่ 9: เวเฟอร์ 1 Tb3 และแพ็กเกจ BGA ขนาดเล็กพร้อมชิป 512Gb
  •  หน่วยความจำแฟลช 3D KIOXIA BiCS FLASHTM รุ่นที่ 10 : เวเฟอร์ 1 Tb3 และการจัดแสดงโมเดล
  •  KIOXIA UFS – ผู้บริโภคและยานยนต์: โซลูชันประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดที่กำลังพัฒนา
  •  SSD ความจุสูง 245.76 TB2 ใน Dell PowerEdge 7715: การนำเสนอ SSD NVMe ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9
  •  การสาธิตเกี่ยวกับประสิทธิภาพและพลังของอุปกรณ์: การนำเสนอ SSD NVMe สำหรับศูนย์ข้อมูล ซีรีส์ KIOXIA CD9P
  •  การฝึกอบรม ML Perf Storage: การนำเสนอ SSD NVMe ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA CM9
  •  การจำลอง SSD โดยตรงบน GPU: การตรวจสอบอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลโดยตรงบน GPU ที่ 143 ล้าน IOPS
  •  ซอฟต์แวร์ KIOXIA AiSAQ การสร้างสมดุลระหว่างขีดความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานอย่างยืดหยุ่น
  •  การถ่ายข้อมูล RAID และการล้างข้อมูล: การนำเสนอ SSD NVMe ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA CM7

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ FMS 2025
https://futurememorystorage.com/

หมายเหตุ:

1: ข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2568 อ้างอิงจากผลสำรวจของ Kioxia Corporation

2: นิยามของความจุ SSD: Kioxia Corporation กำหนด 1 กิโลไบต์ (KB) เท่ากับ 1,000 ไบต์, 1 เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์, 1 กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์, 1 เทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ และ 1 กิบิไบต์ (KiB) เท่ากับ 1,024 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับนิยามของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของพื้นที่จัดเก็บน้อยลง ความจุที่ใช้งานได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบปฏิบัติการ Microsoft และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

3: ความจุของหน่วยความจำแฟลชคำนวณจาก 1 เทราบิต (1 Tb) = 1,099,511,627,776 (2^40) บิต และ 1 เทราไบต์ (1 TB) = 1,099,511,627,776 (2^40) ไบต์

Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแบบฝังตัวที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน JEDEC UFS

NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

CXL เป็นเครื่องหมายการค้าของ Compute Express Link Consortium, Inc.

Dell, PowerEdge และเครื่องหมายการค้าอื่นๆ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Dell Inc. หรือบริษัทในเครือ

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 Toshiba Memory ซึ่งเป็นชื่อเดิมของบริษัทได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าจากหน่วยความจำสำหรับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ระบบยานยนต์ ศูนย์ข้อมูล และระบบ AI เชิงสร้างสรรค์

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ ซึ่งมีความถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250804179531/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายบริหารการส่งเสริมการขาย
Satoshi Shindo
โทร.: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

Toshiba เปิดตัวเซนเซอร์รับภาพเชิงเส้นแบบ CCD ชนิดลดเลนส์พร้อมสัญญาณรบกวนแบบสุ่มที่ต่ำที่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขนาด A3

Logo

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–05 สิงหาคม 2025

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวเซนเซอร์รับภาพเชิงเส้นชนิดลดเลนส์[1] แบบ CCD[2] รุ่น “ TCD2728DG ” สำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขนาด A3 ที่เริ่มจัดส่งแล้วในวันนี้ โดยเซนเซอร์นี้มีองค์ประกอบรับภาพ (พิกเซล) 7,500 ชิ้น[3] และรองรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขนาด A3 นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนแบบสุ่ม (NDσ)[4] ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมากกว่า TCD2726DG รุ่นปัจจุบันของโตชิบา

Toshiba: “TCD2728DG” เซนเซอร์ภาพรับเชิงเส้นแบบ CCD ชนิดลดเลนส์สำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขนาด A3

สำนักงานธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการถ่ายเอกสารและการสแกนเอกสารจำนวนมากด้วยความเร็วสูงและมีความละเอียดสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขนาด A3 ซึ่งการปรับปรุงคุณภาพของภาพกลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องลด NDσ ในสัญญาณเพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพ

TCD2728DG มีอัตราขยายสัญญาณเอาต์พุตต่ำกว่า[5] TCD2726DG ผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Toshiba และช่วยลด NDσ ลงได้ประมาณ 40%[6] การปรับปรุงนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพของภาพในเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน โดยเซนเซอร์รับภาพแบบ CCD เชิงเส้นรุ่นใหม่มีอัตราข้อมูล 100 เมกะเฮิรตซ์ (50 เมกะเฮิรตซ์ × 2 ช่องสัญญาณ) ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลภาพปริมาณมากด้วยความเร็วสูงได้ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับกล้องสแกนแบบเส้นที่ใช้ในระบบตรวจสอบที่ต้องการการตัดสินใจแบบเรียลไทม์

Toshiba จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อไปเพื่อรองรับการสแกนด้วยเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันและแอปพลิเคชันการตรวจจับของอุปกรณ์ตรวจสอบ และเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีการถ่ายภาพและการตรวจจับความเร็วสูงและความละเอียดสูง

หมายเหตุ:

[1]

วิธีการลดขนาดภาพด้วยเลนส์ออปติคอลและฉายภาพลงบนเซนเซอร์ภาพแบบ CCD หรือ CMOS

[2]

อุปกรณ์ถ่ายเทประจุ (CCD)

[3]

จำนวนพิกเซลที่จำเป็นในการสแกนด้านสั้น (297 มม.) ของขนาด A3 ด้วยความละเอียด 600 dpi

(dpi (จุดต่อนิ้ว): จำนวนส่วนต่อนิ้ว)

ขนาด A3 แปลงเป็นนิ้ว: 297 มม. / 25.4 มม. ≒ 11.7 นิ้ว

11.7 × 600 = 7,020 พิกเซล –> เผื่อระยะขอบไว้ 7,500 พิกเซล

[4]

สัญญาณรบกวนที่ไม่สม่ำเสมอจะส่งผลต่อคุณภาพของภาพ

[5]

วงจรสำหรับปรับกำลังขยายของสัญญาณเอาต์พุต การขยายและสัญญาณรบกวนเป็นสัดส่วนกัน

[6]

เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ TCD2726DG ของ Toshiba

 การใช้งาน

  • เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันขนาด A3 (ความละเอียด 600 dpi)
  • กล้องสแกนแบบไลน์ขนาด 7500 พิกเซลสำหรับระบบตรวจสอบต่างๆ (อุปกรณ์ตรวจสอบสารกึ่งตัวนำ อุปกรณ์คัดแยกอาหาร ฯลฯ)

 คุณสมบัติ

  •  ลดสัญญาณรบกวนแบบสุ่มได้ประมาณ 40%[6]
  • เซนเซอร์รับภาพเชิงเส้นแบบ CCD ความเร็วสูง: อัตราข้อมูล = 100MHz (ความถี่สัญญาณนาฬิกาหลัก 50MHz × 2 ช่องสัญญาณ) (สูงสุด)
  •  วงจรสร้างสัญญาณเวลาในตัว[7] และไดรเวอร์ CCD ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาระบบ

[7]

วงจรสำหรับสร้างสัญญาณที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนเซนเซอร์ภาพเชิงเส้น

 ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Ta=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

 TCD2728DG

แรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ (ช่วงการทำงาน) (V)

 VAVDD, VDVDD, VCKDVDD : 3.1 ถึง 3.5
 VVDD10 : 9.5 ถึง 10.5

สัญญาณรบกวนแบบสุ่ม NDσ (mV)

1.9

ขนาดพิกเซล (μm)

4.7 × 4.7

จำนวนองค์ประกอบการตรวจจับภาพ

7500 องค์ประกอบ × 3 ไลน์

อัตราข้อมูล

สูงสุด

100MHz (50MHz × 2 ช่องสัญญาณ)

แพ็กเกจ

WDIP32

อื่นๆ / คุณสมบัติเพิ่มเติม

วงจรกำเนิดเวลา, ไดรเวอร์ CCD

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TCD2728DG

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนเซอร์รับภาพเชิงเส้นของ Toshiba
เซนเซอร์รับภาพเชิงเส้น

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมมากกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ

โดยมีพนักงานกว่า 19,400 คนทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน บริษัทมุ่งหวังที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนโดยทั่วไป

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250804774893/en

Contacts

การสอบถามจากลูกค้า
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์แอนะล็อก
โทร.: +81-44-548-2219
ติดต่อเรา

การสอบถามจากสื่อ
C. Nagasawa
ฝ่ายสื่อสารและข่าวกรองการตลาด
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

ความเหนื่อยล้าจากโฆษณาส่งผลกระทบรุนแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ผู้บริโภค 2 ใน 3 ไม่สนใจโฆษณาซ้ำๆ

Logo

งานวิจัยใหม่กระตุ้นให้แบรนด์ต่างๆ ใช้กลยุทธ์ Omnichannel เพื่อรับมือกับความเหนื่อยล้าที่เพิ่มขึ้นในภูมิทัศน์สื่อที่กระจัดกระจาย

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–30 กรกฎาคม 2025

งานวิจัยใหม่โดย The Trade Desk (Nasdaq: TTD) ผู้นำด้านเทคโนโลยีการโฆษณาระดับโลก เปิดเผยว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สนใจโฆษณาซ้ำที่แสดงบนช่องทางเดียว ผลการศึกษาเรื่อง โอกาสที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้องของ Omnichannel” ตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้โฆษณาจะต้องเลิกใช้กลยุทธ์แบบหลายช่องทางที่ทำงานแยกส่วนจากกัน และหันมาใช้วิธีการแบบ Omnichannel ที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับวิธีที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับสื่อในปัจจุบัน

งานวิจัยนี้ศึกษาความแตกต่างระหว่างแคมเปญแบบ Omnichannel และแคมเปญแบบหลายช่องทาง รวมถึงผลกระทบต่อประสบการณ์และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค แม้ว่าทั้งสองแนวทางจะใช้หลายช่องทาง แต่ความแตกต่างอยู่ที่การดำเนินการ แคมเปญแบบหลายช่องทางมักทำงานแบบแยกส่วนและมีกลยุทธ์ที่แยกจากกันบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ในทางตรงกันข้าม แคมเปญแบบ Omnichannel จะรวมช่องทางดิจิทัลตั้งแต่สามช่องทางขึ้นไป (เช่น มือถือ ดิสเพลย์ เนทีฟ วิดีโอ เสียง DOOH หรือ CTV/OTT) เข้าด้วยกันเป็นประสบการณ์ที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการเรียงลำดับข้อความและความถี่ตามวิธีที่ผู้ใช้บริโภคสื่อ

กระจัดกระจายของสื่อเป็นตัวกระตุ้นความเหนื่อยล้า

ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้บริโภคใช้เวลาเฉลี่ยมากกว่าแปดชั่วโมงต่อวันกับสื่อห้าประเภท ได้แก่ CTV/OTT, มิวสิคสตรีมมิ่ง, เกม, ข่าว และเว็บไซต์ การกระจัดกระจายของสื่อที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้นักการตลาดต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในการนำเสนอโฆษณาที่ตรงใจและน่าสนใจโดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถูกยัดเยียด

ขณะเดียวกัน ความเหนื่อยล้าจากโฆษณาได้แพร่กระจายไปทั่วภูมิภาค ในบรรดาหกตลาดที่สำรวจ อินโดนีเซีย (69 เปอร์เซ็นต์) และฟิลิปปินส์ (67 เปอร์เซ็นต์) มีรายงานระดับความเหนื่อยล้าจากโฆษณาสูงสุด ตามมาด้วยไทย (65 เปอร์เซ็นต์) และสิงคโปร์ (63 เปอร์เซ็นต์) ปัญหานี้เด่นชัดเป็นพิเศษในกลุ่มคนรุ่น Gen Z ซึ่งมีแนวโน้มที่จะรู้สึกหงุดหงิดมากถึง 57 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเห็นแบรนด์เดียวกันซ้ำๆ ในช่องทางเดียว ในฐานะคนรุ่นใหม่ดิจิทัล พวกเขาคาดหวังให้โฆษณามีความราบรื่น ตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคล และไม่ซ้ำซากในทุกช่องทาง

“เมื่อการบริโภคสื่อมีการกระจายตัวมากขึ้น ความเหนื่อยล้าจากการโฆษณาจึงกลายเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับนักการตลาด” กล่าวโดย Simon Morgan รองประธานอาวุโสของ The Trade Desk “งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าแนวทาง Omnichannel มีประสิทธิภาพมากกว่าในการจัดการความถี่ในการสื่อสารข้ามช่องทาง ผู้เผยแพร่ และแพลตฟอร์มต่างๆ ควบคู่ไปกับการนำเสนอข้อความที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เมื่อแคมเปญให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายเป็นอันดับแรกและสอดคล้องกับวิธีที่ผู้คนบริโภคสื่อจริง ก็จะช่วยลดความเหนื่อยล้าและผลักดันผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น”

หน้าต่างแห่งโอกาสสำหรับ Omnichannel

แม้ความเหนื่อยล้าจากโฆษณาจะเพิ่มขึ้น แต่ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเปิดรับโฆษณาที่ตรงประเด็นและดำเนินการได้ดี มากกว่าครึ่ง (55 เปอร์เซ็นต์) กล่าวว่าโฆษณามีอิทธิพลต่อการซื้อครั้งต่อไป และตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอีกในประเทศไทย (66 เปอร์เซ็นต์) และอินโดนีเซีย (60 เปอร์เซ็นต์) อันที่จริง ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากโฆษณาเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่าชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั่วโลก นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับนักการตลาดในการใช้กลยุทธ์ Omnichannel ที่ส่งมอบข้อความที่ตรงเวลาและตรงกับขั้นตอนการซื้อของผู้บริโภค

งานวิจัยล่าสุดเผยให้เห็นว่าแนวทาง Omnichannel มีประสิทธิภาพเหนือกว่ากลยุทธ์สื่อที่ไม่เชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดความเหนื่อยล้าจากโฆษณาได้ 2.2 เท่า และเพิ่มผลกระทบเชิงโน้มน้าวใจได้ 1.5 เท่า1 นอกจากนี้ ผู้ลงโฆษณาที่ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของ The Trade Desk สำหรับแคมเปญแบบ Omnichannel พบว่ามีความตั้งใจซื้อเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า เมื่อเชื่อมต่อสามช่องทางเข้าด้วยกันอย่างเป็นองค์รวม2 ผลกระทบของการจัดแนวเชิงกลยุทธ์ระหว่างช่องทางต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตแบบเปิดได้รับการพิสูจน์เพิ่มเติมโดยการค้นพบที่แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนจากการลงทุน 77 เปอร์เซ็นต์เมื่อมีการบูรณาการช่องทางทั้งห้าช่องทาง3

รายงานฉบับใหม่ของ Trade Desk ระบุว่าแบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างกลยุทธ์ Omnichannel ที่มีประสิทธิผลได้อย่างไร โดยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดหลายตลาดเกี่ยวกับสถานที่และวิธีการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายในวิธีที่มีประสิทธิผลมากที่สุด:

ประเทศไทยเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการจดจำแบรนด์

ประเทศไทยโดดเด่นด้านการจดจำแบรนด์ได้อย่างโดดเด่นในช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิดีโอออนไลน์ เกม และเว็บไซต์ ที่สำคัญคือ CTV/OTT กำลังก้าวขึ้นมาเป็นรากฐานสำคัญของมูลค่าแบรนด์ในระยะยาว ผู้บริโภคชาวไทยที่รับชมโฆษณา CTV/OTT มีแนวโน้มที่จะจดจำแบรนด์ได้มากกว่าถึง 23 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มที่จะเชื่อถือโฆษณาเหล่านั้นมากกว่าโฆษณาในช่องทางอื่นๆ ถึง 16 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความสามารถในการสร้างทั้งการจดจำและความน่าเชื่อถือ CTV/OTT จึงกลายเป็นเสาหลักสำคัญของกลยุทธ์ Omnichannel ที่มีประสิทธิภาพในประเทศไทย

ช่องพรีเมียมมีประสิทธิภาพโฆษณาบนโซเชียลมีเดียแซงหน้าในฟิลิปปินส์

แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะยังคงครองตลาดในฟิลิปปินส์ แต่ประสิทธิภาพในฐานะช่องทางโฆษณากลับถูกบั่นทอนลงเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต่ำ ในทางตรงกันข้าม สภาพแวดล้อมอินเทอร์เน็ตแบบเปิดระดับพรีเมียม เช่น CTV/OTT การสตรีมเพลง และวิดีโอออนไลน์ มีความน่าเชื่อถือของโฆษณาสูงกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียถึง 1.2 เท่า ทำให้มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับแบรนด์มากกว่า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับแบรนด์ นักการตลาดจำเป็นต้องก้าวข้ามกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดียเป็นอันดับแรก และนำแผนการตลาดแบบ Omnichannel ที่ครอบคลุมและใช้ประโยชน์จากช่องทางที่มีความน่าเชื่อถือสูงเหล่านี้มาใช้

ความน่าเชื่อถือคือปัจจัยสำคัญในสิงคโปร์

ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยเชื่อโฆษณามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่พวกเขาก็พยายามแสวงหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากสื่อที่น่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อถือของโฆษณาสูงสุดใน CTV/OTT วิดีโอออนไลน์ และมิวสิคสตรีมมิ่ง ขณะที่โซเชียลมีเดียและเกมยังคงตามหลัง กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลโดดเด่นในฐานะกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยแสดงให้เห็นถึงระดับการจดจำข้อความและการรับรู้ผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้นเมื่อแบรนด์มีส่วนร่วมกับพวกเขาผ่านช่องทางที่เชื่อถือได้หลายช่องทาง ในตลาดที่ความสนใจกระจัดกระจายเช่นนี้ แบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องนำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงและครอบคลุมทุกช่องทางในสภาพแวดล้อมที่มีความน่าเชื่อถือสูง เพื่อดึงดูดความสนใจและความภักดีของผู้บริโภค

อินโดนีเซียครองอันดับหนึ่งในภูมิภาคด้านการจดจำโฆษณา แต่ยังคงมีช่องว่างด้านความน่าเชื่อถือ

อินโดนีเซียเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการจดจำโฆษณา ด้วยอัตราการจดจำโฆษณาสูงถึง 81 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 66 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม แม้อินโดนีเซียจะมีอัตราการจดจำโฆษณาสูง แต่กลับมีความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์อยู่ในระดับต่ำตามหลังสิงคโปร์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการมองเห็นไม่ได้หมายถึงความน่าเชื่อถือเสมอไป สิ่งนี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นของกลยุทธ์ Omnichannel ที่เน้นรูปแบบที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพสูง เช่น วิดีโอออนไลน์และ CTV/OTT เพื่อเพิ่มทั้งการจดจำโฆษณาและความน่าเชื่อถือ และทำให้มั่นใจว่าข้อความบนสื่อทั้งแบบดิสเพลย์และโซเชียลมีเดียมีความสอดคล้องและน่าเชื่อถือ

สามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

ระเบียบวิธีวิจัย

การวิจัยดำเนินการโดย The Trade Desk ในเดือนมีนาคม 2025 ร่วมกับ PA Consulting โดยทำการสำรวจเชิงปริมาณกับผู้บริโภค 2,000 คน จากประเทศไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เพื่อทำความเข้าใจความต้องการและทางเลือกของช่องทางสื่อในช่วงเวลาและความคิดที่แตกต่างกัน

ข้อสงวนสิทธิ์: เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ผลลัพธ์ทั้งหมดสะท้อนถึงงานวิจัยที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งจัดทำโดย The Trade Desk และ PA Consulting ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น และไม่ได้เป็นการรับรองหรือรับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต

เกี่ยวกับ The Trade Desk

The Trade Desk™ เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ส่งเสริมผู้ซื้อโฆษณา โดยผู้ซื้อโฆษณาสามารถสร้าง จัดการ และปรับแต่งแคมเปญโฆษณาดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มบนคลาวด์แบบบริการตนเองได้ การรวมเข้ากับพันธมิตรด้านข้อมูล สินค้าคงคลัง และผู้เผยแพร่รายใหญ่ทำให้มีความสามารถในการเข้าถึงและช่วยในการตัดสินใจได้สูงสุด นอกจากนี้ API ขององค์กรยังช่วยให้สามารถพัฒนาแบบกำหนดเองบนแพลตฟอร์มได้อีกด้วย โดย The Trade Desk มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเวนทูรา รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ thetradedesk.com หรือติดตามเราได้ที่ Facebook, Twitter, LinkedIn และ YouTube.

_______________

1 Trade Desk Intelligence และ PA Consulting, “โอกาสที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้องของ Omnichannel”, สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา, ตุลาคม 2024

2 เกณฑ์มาตรฐาน DISQO สำหรับแคมเปญ The Trade Desk มีนาคม, 2021 – ธันวาคม 2024 | 1 ช่องทาง n=94, 2 ช่องทาง n=60, 3 ช่องทาง n=54

3 Analytic Partners, รายงาน ROI Genome Marketing Intelligence, 2023

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Shaw Wun Lim
Shawwun.lim@thetradedesk.com
+65 9797 0965

ที่มา: The Trade Desk

Kioxia สุ่มตัวอย่างอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS Ver. 4.1 สำหรับการใช้งานในยานยนต์

Logo

ขับเคลื่อนนวัตกรรมยานยนต์ยุคใหม่ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และความน่าเชื่อถือระดับยานยนต์

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 กรกฎาคม 2025

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้เริ่มทำการสุ่มตัวอย่าง(1) Universal Flash Storage(2) (UFS) Ver. 4.1 รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในยานยนต์ อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อตอบสนองความต้องการอันเข้มงวดของระบบในรถยนต์ยุคใหม่ มอบประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และการปรับปรุงการวินิจฉัยที่สำคัญ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D รุ่นที่ 8 ของ Kioxia และเทคโนโลยีตัวควบคุมที่ออกแบบภายในองค์กร

UFS Ver. 4.1 Embedded Flash Memory Devices for Automotive Applications

UFS Ver. 4.1 อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝังตัวสำหรับการใช้งานในยานยนต์

อุปกรณ์ UFS 4.1 ใหม่นี้มีให้เลือกหลายขนาดความจุ ได้แก่ 128 กิกะไบต์ (GB), 256GB, 512GB และ 1 เทราไบต์ (TB) ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของระบบสาระบันเทิง, ADAS (ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง), เทเลเมติกส์, ตัวควบคุมโดเมน และคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ อุปกรณ์เหล่านี้ผ่านมาตรฐาน AEC-Q100/104 (3) มาตรฐานเกรด 2 รองรับอุณหภูมิเคสได้สูงสุด 115°C

ยกระดับประสิทธิภาพจาก UFS รุ่น 3.1 ของ Kioxia(4) อุปกรณ์ UFS 4.1 (512GB) ใหม่จะส่งมอบ:

  • ประสิทธิภาพการอ่านข้อมูลแบบต่อเนื่องประมาณ 2.1 เท่า
  • ประสิทธิภาพการเขียนข้อมูลแบบต่อเนื่องประมาณ 2.5 เท่า
  • ประสิทธิภาพการอ่านข้อมูลแบบสุ่มประมาณ 2.1 เท่า
  • ประสิทธิภาพการเขียนข้อมูลแบบสุ่มประมาณ 3.7 เท่า

การปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมยานยนต์ที่เน้นข้อมูลจำนวนมาก

คุณสมบัติหลักประกอบด้วย:

  • สอดคล้องกับข้อกำหนด UFS 4.1 ซึ่งรวมถึงส่วนขยายที่เกี่ยวข้องกับ WriteBooster เช่น WriteBooster Buffer Resizing และ Pinned Partial Flush Mode ซึ่งให้ความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด UFS 4.1 โดยสามารถใช้งานร่วมกับ UFS 4.0 และ UFS 3.1 ได้
  • ความสามารถในการวินิจฉัยที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึงตัวระบุสถานะอุปกรณ์เฉพาะของผู้จำหน่ายที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ที่จะช่วยลดความยุ่งยากในการตรวจสอบสถานะอุปกรณ์และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
  • ใช้หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D รุ่นที่ 8

อุปกรณ์ UFS 4.1 จาก Kioxia ได้ผสานรวมหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D ที่เป็นนวัตกรรมของบริษัทและตัวควบคุมไว้ในแพ็กเกจมาตรฐาน JEDEC อุปกรณ์ UFS ใหม่เหล่านี้สร้างขึ้นด้วยหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D รุ่นที่ 8 ของ Kioxia รุ่นนี้นำเสนอเทคโนโลยี CBA (CMOS เชื่อมต่อกับอาร์เรย์โดยตรง) ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรมที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการออกแบบหน่วยความจำแฟลช ด้วยการเชื่อมต่อวงจร CMOS เข้ากับอาร์เรย์หน่วยความจำโดยตรง เทคโนโลยี CBA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ประสิทธิภาพ และความหนาแน่นอย่างมาก

หมายเหตุ

(1)

การจัดส่งตัวอย่างอุปกรณ์ขนาด 1TB เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน และอุปกรณ์ขนาด 128GB และ 256GB เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม รายละเอียดของตัวอย่างอาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์

(2)

Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์หน่วยความจำฝังตัวประเภทหนึ่งที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน JEDEC UFS เนื่องจากมีอินเทอร์เฟซแบบอนุกรม UFS จึงรองรับการทำงานแบบดูเพล็กซ์เต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยให้สามารถอ่านและเขียนข้อมูลพร้อมกันระหว่างโพรเซสเซอร์โฮสต์และอุปกรณ์ UFS ได้

(3)

ข้อกำหนดคุณสมบัติส่วนประกอบไฟฟ้าที่กำหนดโดย AEC (สภาอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์)

(4)

อุปกรณ์ UFS 3.1 512GB “THGJFGT2T85BAB5”

*ทุกครั้งที่กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์จะระบุตามความหนาแน่นของชิปหน่วยความจำภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่ปริมาณความจุหน่วยความจำที่มีให้สำหรับจัดเก็บข้อมูลโดยผู้ใช้ปลายทาง ความจุที่ผู้บริโภคใช้ได้จะลดลงเนื่องจากพื้นที่ข้อมูลโอเวอร์เฮด การจัดรูปแบบ บล็อกเสีย และข้อจำกัดอื่นๆ และอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โฮสต์และแอปพลิเคชัน สำหรับรายละเอียด โปรดดูข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง คำจำกัดความของ 1 KB = 2^10 ไบต์ = 1,024 ไบต์ คำจำกัดความของ 1 Gb = 2^30 บิต = 1,073,741,824 บิต คำจำกัดความของ 1 GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ 1 Tb = 2^40 บิต = 1,099,511,627,776 บิต 1 TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์
*MB/s คำนวณเป็น 1,000,000 ไบต์/วินาที
*ความเร็วในการอ่านและเขียนเป็นค่าที่ดีที่สุดที่ได้จากการทดสอบในสภาพแวดล้อมเฉพาะที่ Kioxia Corporation และ Kioxia Corporation ไม่รับประกันความเร็วในการอ่านและเขียนในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้และขนาดไฟล์ที่อ่านหรือเขียน

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 Toshiba Memory ซึ่งเป็นชื่อเดิมของบริษัทได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าจากหน่วยความจำสำหรับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ระบบยานยนต์ ศูนย์ข้อมูล และระบบ AI เชิงสร้างสรรค์

การสอบถามจากลูกค้า
Kioxia Corporation
สำนักงานขายทั่วโลก
https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ มีความถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250730761307/en

Contacts

การสอบถามจากสื่อ
Kioxia Corporation
ฝ่ายบริหารงานส่งเสริมการขาย
Satoshi Shindo
โทร.: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

Boomi นำระบบบูรณาการข้อมูลอธิปไตยสู่ประเทศออสเตรเลีย

Logo

การติดตั้งระบบใหม่ในซิดนีย์ช่วยให้การเคลื่อนย้ายข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนด สำหรับองค์กรที่จัดการด้าน AI การวิเคราะห์ข้อมูล และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–31 กรกฎาคม 2025

Boomi™ ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้ประกาศในวันนี้ถึงความพร้อมใช้งานของ Boomi Data Integration ภายในศูนย์ข้อมูลในออสเตรเลีย ซึ่งช่วยให้องค์กรในประเทศสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายระดับชาติ

การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากBoomi เข้าซื้อกิจการ Rivery ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการบูรณาการข้อมูลยุคใหม่ นี่แสดงให้เห็นถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ Boomi ในโครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่น และความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาข้อมูลที่ท้าทายที่สุดของออสเตรเลีย

ด้วยการเปิดใช้งาน Boomi Data Integration ที่ตั้งอยู่ในซิดนีย์ องค์กรในออสเตรเลียสามารถติดตั้งระบบจับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลแบบบันทึก (Change Data Capture – CDC) และระบบ Extract, Load, and Transform (ELT) แบบเกือบเรียลไทม์ได้ทั้งหมดภายในประเทศ นั่นหมายความว่าข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนจะยังคงอยู่ภายในเขตแดนของประเทศ ลดความหน่วงเวลาในการส่งข้อมูล และสอดคล้องอย่างชัดเจนกับกฎหมายความเป็นเจ้าของข้อมูลภายในประเทศ

“เป็นการเสริมที่แข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มข้อมูลของ Boomi ร่วมกับ DataHub โดย Boomi Data Integration มอบความสามารถด้านบิ๊กดาต้าให้กับองค์กรในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทั้งหมดนี้อยู่ภายในประสบการณ์ใช้งานแบบโนโค้ด/โลว์โค้ด ที่ผู้ใช้ Boomi คุ้นเคยและไว้วางใจ” Nikolai Blackie ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวAdaptiv บริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลและการบูรณาการในภูมิภาคออสตราเลเชีย และเป็นพันธมิตรของ Boomi

การเปิดตัวครั้งนี้สนับสนุนข้อกำหนดด้านกฎระเบียบภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล .. 2531 (Privacy Act 1988) หลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของออสเตรเลีย (Australian Privacy Principles – APPs) และกรอบแนวทางเฉพาะสำหรับแต่ละภาคส่วน รวมถึง APRA CPS 234 และพระราชบัญญัติข้อมูลสุขภาพของฉัน (My Health Records Act) ลูกค้าของ Boomi ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ได้แก่ บริการทางการเงิน รัฐบาล การศึกษา และการดูแลสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงความเป็นไปตามข้อกำหนด ความมั่นใจ และความคล่องตัวของข้อมูลที่ดีขึ้น

พัฒนาการล่าสุดนี้เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์แพลตฟอร์มรวมของ Boomi ซึ่งมีเป้าหมายในการนำการบูรณาการ การจัดการ API การจัดการข้อมูล และความพร้อมใช้งาน AI มารวมไว้ภายใต้ชั้นเดียวของปัญญาประดิษฐ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI นอกจากนี้ยังช่วยลดการพึ่งพาโซลูชันแยกส่วนแบบจุดๆ ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำให้เทคโนโลยีของตนเรียบง่ายขึ้นและเร่งการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและในระดับที่ขยายได้

“เอเจนต์ AI โมเดลทำนาย และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ต่างต้องการสิ่งหนึ่งคือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้ ถูกส่งมอบอย่างรวดเร็วและปลอดภัย” David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว “แต่ในออสเตรเลีย การปฏิบัติตามกฎระเบียบสำคัญไม่แพ้ความรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนอย่างการเงิน รัฐบาล และการดูแลสุขภาพ”

“ด้วยการติดตั้ง Boomi Data Integration ในพื้นที่ เรากำลังขจัดอุปสรรคด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับอธิปไตยข้อมูลสำหรับ AI พร้อมมอบความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเกือบเรียลไทม์ที่คู่ค้าและผู้ใช้ปลายทางต้องการเพื่อสร้างนวัตกรรม”

ทรัพยากรเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้องค์กรทั่วโลกเชื่อมต่อทุกอย่าง อัตโนมัติกระบวนการ และเร่งผลลัพธ์ แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise รวมถึง Boomi Agentstudio รวมการบูรณาการและระบบอัตโนมัติ พร้อมการจัดการข้อมูล API และเอเจนต์ AI ในโซลูชันเดียวที่ครบวงจร Boomi ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 25,000 ราย และได้รับการสนับสนุนโดยเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 แห่ง กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิบัติการ ช่วยให้องค์กรทุกขนาดบรรลุความคล่องตัว ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมในระดับกว้าง  ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่boomi.com.

© 2025 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ตัว 'B' และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ติดต่อสื่อ
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายดูแลอินฟลูเอนเซอร์ เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ)
pr@boomi.com

ที่มา: Boomi

รถ Cadillac สีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ของ Mary Kay ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าด้วย All-New OPTIQ

Logo

รถยนต์สำหรับอาชีพรุ่นใหม่ขับเคลื่อนนวัตกรรม ความยั่งยืน และโอกาสทางธุรกิจสู่อนาคต

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–24 กรกฎาคม 2025

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องสำอางระดับโลก Mary Kay Inc. ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในมรดกแห่งการเสริมพลังให้กับแบรนด์ ด้วยการเปลี่ยนรถ Cadillac สีชมพูอันเป็นที่รักให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เต็มรูปแบบ โดยรถ Cadillac OPTIQ สีชมพูเปิดตัวครั้งแรกในงานสัมมนาประจำปีของ Mary Kay ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและมีพลัง

“For decades, the Mary Kay pink Cadillac has symbolized accomplishment, aspiration, and the power of recognition,” said Ryan Rogers, Chief Executive Officer of Mary Kay. “With the introduction of the all-electric OPTIQ, we’re honoring that iconic legacy while driving into a transformative future—one grounded in our commitment to sustainability and dedication to inspiring and celebrating the achievements of our independent sales force for generations to come.” (Photo Courtesy: Mary Kay Inc.)

“เป็นเวลาหลายทศวรรษที่รถ Cadillac สีชมพูของ Mary Kay ได้เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ ความปรารถนา และพลังแห่งการยกย่อง” กล่าวโดย Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mary Kay “ด้วยการเปิดตัว OPTIQ รถยนต์ไฟฟ้าล้วน เราขอเชิดชูมรดกอันทรงคุณค่านี้ พร้อมกับขับเคลื่อนสู่อนาคตแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความทุ่มเทในการสร้างแรงบันดาลใจและเฉลิมฉลองความสำเร็จของพนักงานขายอิสระของเราเพื่อคนรุ่นต่อๆ ไป” (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

Cadillac OPTIQ ถือเป็นก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านนวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการตอบสนองความคาดหวังของสมาชิกฝ่ายขายอิสระของ Mary Kay รุ่นต่อไปและลูกค้า การเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่เครื่องยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของการอัปเกรดรถยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งวิสัยทัศน์ที่เต็มเปี่ยมสำหรับอนาคตของแบรนด์ความงามอันโดดเด่นนี้

“เป็นเวลาหลายทศวรรษที่รถ Cadillac สีชมพูของ Mary Kay เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ ความปรารถนา และพลังแห่งการยอมรับ” กล่าวโดย Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mary Kay “การเปิดตัว OPTIQ ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนนี้ถือเป็นการเชิดชูมรดกอันทรงคุณค่านี้ ขณะเดียวกันก็มุ่งหน้าสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ซึ่งยึดมั่นในความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความยั่งยืนและทุ่มเทเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเฉลิมฉลองความสำเร็จของพนักงานขายอิสระของเราสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป”

“ความสัมพันธ์ของเรากับ Mary Kay ยาวนานหลายทศวรรษและสร้างขึ้นจากคุณค่าร่วมกันของนวัตกรรม การเสริมพลัง และความเป็นเลิศ” กล่าวโดย Ian Hucker รองประธาน GM ของ Envolve “ในขณะที่องค์กรกำลังก้าวเดินอย่างกล้าหาญสู่อนาคตด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า เราภูมิใจที่ได้ยืนเคียงข้างพวกเขา สนับสนุนวิสัยทัศน์ที่ไม่เพียงแต่ยั่งยืน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้งอีกด้วย Cadillac OPTIQ สีชมพู คือก้าวสำคัญที่น่าตื่นเต้น ผสานสมรรถนะและความหรูหราตามที่คุณคาดหวังจาก Cadillac เข้ากับนวัตกรรมที่มีความหมายและผลลัพธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย”

เกี่ยวกับ The Pink Cadillac OPTIQ:

  • OPTIQ ยังคงรักษารูปลักษณ์ภายนอกสีชมพูมุกอันเป็นเอกลักษณ์ ขณะเดียวกันก็นำเสนอโครงรถที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัย ยานยนต์คันนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน พร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่อง
  •  ประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ที่โดดเด่นของ OPTIQ ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 302 ไมล์ตามที่ EPA ประเมินไว้1 แพลตฟอร์มแบตเตอรี่ GM EV ที่ปฏิวัติวงการและชุดขับเคลื่อน รวมถึงการใช้ยางที่มีแรงต้านทานการหมุนต่ำ ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มระยะการเดินทางที่น่าประทับใจของรถยนต์อีกด้วย
  • สปอยเลอร์หลังแบบมีช่องระบายอากาศ แผงดิฟฟิวเซอร์ และองค์ประกอบเชิงประติมากรรมอื่นๆ ช่วยเพิ่มอากาศพลศาสตร์ที่ด้านหลังของรถโดยไม่กระทบต่อการออกแบบรถ SUV อันโดดเด่น
  • OPTIQ ผสานความกว้างขวางและความหรูหราภายในห้องโดยสารไว้ด้วยกันอย่างลงตัว การตกแต่งภายในที่สว่างไสวและประดับประดาอย่างประณีตช่วยเสริมการตีความของความหรูหราแบบ Cadillac ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ OPTIQ ขณะที่เทคโนโลยีภายในรถก็ครบครันด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ระบบเสียง AKG 19 ลำโพง และระบบเสียง Dolby Atmos มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับ

คุณรู้หรือไม่:

  • รถ Cadillac สีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ถือกำเนิดขึ้นในปี 1968 เมื่อ Mary Kay Ash ซื้อรถ Cadillac Coupe De Ville จากตัวแทนจำหน่ายในดัลลัส และรีบทำสีให้เข้ากับเฉดสีชมพูอ่อนของ Mary Kay® ทันที ต่อมา General Motors ได้ตั้งชื่อสีนี้ว่า “Mary Kay Pink Pearl” และเฉดสีนี้เป็นสีเฉพาะของ Mary Kay เท่านั้น
  •  Mary Kay ได้รับการขนานนามว่าเป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางสีในโลก2 โดย Euromonitor International เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันในปี 2023, 2024 และอีกครั้งในปี 2025

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 40 ตลาด เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้ส่งเสริมให้ผู้หญิงกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay มุ่งมั่นที่จะลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการล่วงละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนเดินตามความฝันของตนเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้บน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน X.

1

 GM – ระยะโดยประมาณอ้างอิงจากการทดสอบการพัฒนาและ/หรือการคาดการณ์เชิงวิเคราะห์ที่สอดคล้องกับ SAE J1634 ฉบับปรับปรุงปี 2017 – MCT และอาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนการผลิต ระยะจริงอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายประการ ได้แก่ อุณหภูมิ สภาพภูมิประเทศ อายุแบตเตอรี่ การบรรทุก และวิธีการใช้งานและการบำรุงรักษารถยนต์ของคุณ ให้ไปที่ www.cadillac.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

2

“ที่มา: Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care 2025 Edition, ยอดขายตามมูลค่าที่ RSP, ข้อมูลปี 2024”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250724749681/en

Contacts

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.

KIOXIA ประกาศเปิดตัว NVMe SSD ความจุ 245.76 TB รุ่นแรกในอุตสาหกรรม ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสภาพแวดล้อมสำหรับ AI เชิงสร้างสรรค์

Logo

ซีรีส์ KIOXIA LC9 กลายเป็น SSD PCIe 5.0 Enterprise ที่มีความจุสูงสุด พร้อมคุณสมบัติหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH(TM) QLC 3D แบบสแต็ก 32 ไดย์

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–22 กรกฎาคม 2025

Kioxia Corporation ได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ SSD ระดับองค์กรซีรีส์ KIOXIA LC9 ความจุสูง ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ SSD รุ่นแรกในอุตสาหกรรม[1] 245.76 เทราไบต์ (TB)[2] NVMe™ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว และฟอร์มแฟกเตอร์ EDSFF E3.L โดยตัวเลือกความจุและฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่นี้มาเสริมรุ่น 122.88 TB (2.5 นิ้ว) ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และได้รับการสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของสภาพแวดล้อม AI เชิงสร้างสรรค์

KIOXIA LC9 Series enterprise SSD (form factor: 2.5inch, E3.S, E3.L)

SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 (ฟอร์มแฟกเตอร์: 2.5 นิ้ว, E3.S, E3.L)

Generative AI (AI เชิงสร้างสรรค์) มีความต้องการที่แตกต่างกันในด้านพื้นที่จัดเก็บข้อมูล รวมถึงความจำเป็นในการจัดเก็บชุดข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับการเทรนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และการสร้างเอ็มเบดดิ้งและฐานข้อมูลเวกเตอร์ที่รองรับการอนุมานผ่านการสร้างเสริมแบบดึงข้อมูล (RAG) โดยเวิร์กโหลดเหล่านี้ต้องการโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีความจุ ความเร็ว และประสิทธิภาพที่โดดเด่น

โดดเด่นด้วยสแต็ก 32 ไดย์ ขนาด 2 เทราบิต (Tb)[3] หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ QLC 3D มาพร้อมเทคโนโลยี CBA (CMOS เชื่อมต่อกับอาร์เรย์โดยตรง) ที่เป็นนวัตกรรม SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 ที่มอบความเร็ว ขนาด และความหนาแน่นที่จำเป็นสำหรับการรองรับเวิร์กโหลดที่เน้นข้อมูลรุ่นใหม่ การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหน่วยความจำขั้นสูง รวมถึงเทคโนโลยี CBA ที่ช่วยให้สามารถบรรจุข้อมูลได้ 8 TB[3] ต่อแพ็กเกจขนาดเล็ก 154 BGA ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม[1] ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการประมวลผลเวเฟอร์ความแม่นยำสูง การออกแบบวัสดุ และเทคโนโลยีการเชื่อมลวดของ Kioxia

SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับดาต้าเลค (Data Lake) ซึ่งการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากและการประมวลผลที่รวดเร็วเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ต่างจากฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่มักมีปัญหาคอขวดและทำให้ GPU ราคาแพงถูกไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ โดย SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 จะมอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นในขนาดกะทัดรัดพร้อมความจุต่อวัตต์ที่สูงกว่า ด้วยความจุสูงสุด 245.76 TB จึงสามารถใช้แทนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่กินไฟมากหลายตัวได้ มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า การใช้พลังงานโดยรวมที่ต่ำกว่า ใช้ช่องใส่ไดรฟ์น้อยลง และระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ทั้งในด้านพลังงาน ความหนาแน่น และการจัดการความร้อน

คุณสมบัติของ SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 ประกอบด้วย:

  • ฟอร์มแฟกเตอร์ E3.L และ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุสูงสุด 245.76 TB
  • ความจุสูงสุด 122.88 TB ในฟอร์มแฟกเตอร์ E3.L
  •  ออกแบบให้รองรับ PCIe® ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด 5.0 (อัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 128 GT/s Gen5 เดี่ยว x4, คู่ x2)
  • ข้อมูลจำเพาะ NVMe™ 2.0, NVMe-MI™ 1.2c
  • รองรับข้อกำหนด SSD NVMe™ Datacenter ของโครงการ Open Compute (OCP) v2.5 (ไม่ใช่ข้อกำหนดทั้งหมด)
  •  รองรับการจัดวางข้อมูลที่ยืดหยุ่น (FDP) เพื่อลดการขยายการเขียนและยืดอายุการใช้งาน SSD[4]
  • ตัวเลือกความปลอดภัย: SIE, SED, FIPS SED
  •  อัลกอริทึมการลงนาม CNSA 2.0[5] ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยควอนตัมในอนาคต

ขณะนี้ SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 กำลังมีการสุ่มตัวอย่างให้กับลูกค้ากลุ่มพิเศษ และจะนำไปจัดแสดงในงานประชุม “อนาคตของหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล 2025” (Future of Memory and Storage 2025) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5-7 สิงหาคม ณ เมืองซานตาคลารา

หมายเหตุ:

1: ข้อมูล ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2025 จากการสำรวจของ Kioxia

2: คำจำกัดความของความจุ SSD: Kioxia Corporation กำหนดให้ 1 กิโลไบต์ (KB) เท่ากับ 1,000 ไบต์, 1 เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์, 1 กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์, 1 เทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ และ 1 กิบิไบต์ (KiB) เท่ากับ 1,024 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุของพื้นที่จัดเก็บโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ และด้วยเหตุนี้จึงแสดงความจุในการจัดเก็บที่น้อยลง ความจุในการจัดเก็บที่พร้อมใช้งาน (รวมถึงตัวอย่างไฟล์สื่อต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ซึ่งความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

3: ความจุหน่วยความจำแฟลชซึ่งคำนวณได้เป็น 1 เทราบิต (1 Tb) = 1,099,511,627,776 (2^40) บิต และ 1 เทราไบต์ (1 TB) = 1,099,511,627,776 (2^40) ไบต์

4: สำหรับวัตถุประสงค์ของ RocksDB Kioxia ยืนยันว่า Write Amplification Factor (WAF) อยู่ที่ประมาณ 1.1 เมื่อใช้ฟังก์ชัน FDP กับปลั๊กอิน (โปรแกรมส่วนขยายฟังก์ชันที่เผยแพร่บนบัญชี GitHub ของ Kioxia https://github.com/kioxia-jp/ufrop)

5: SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 รองรับอัลกอริทึม Leighton-Micali Signature (LMS) ซึ่งได้รับการรับรองโดย CNSA 2.0 (Commercial National Security Algorithm Suite 2.0) ในฐานะอัลกอริทึมลายเซ็นดิจิทัลเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเฟิร์มแวร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามต่ออัลกอริทึมการเข้ารหัสแบบเดิมที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม มาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง (AES-256) ที่มีความยาวคีย์ 256 บิต ซึ่งเป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้ใน SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 ก็ได้รับการรับรองโดย CNSA 2.0 เช่นกัน

2.5 นิ้วบ่งบอกถึงขนาดของ SSD ไม่ใช่ขนาดทางกายภาพ

ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อุปกรณ์โฮสต์ ซอฟต์แวร์ (ไดรเวอร์ ระบบปฏิบัติการ ฯลฯ) และสภาวะการอ่าน/เขียน
ประสิทธิภาพเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

มีโมเดลเสริมด้านความปลอดภัย SED ให้เลือกใช้งาน ได้แก่ Sanitize Instant Erase (SIE), Self-Encrypting Drive (SED) และ FIPS (Federal Information Processing Standards)

โมเดลเสริมด้านความปลอดภัยไม่มีจำหน่ายในบางประเทศเนื่องจากกฎระเบียบด้านการส่งออกและท้องถิ่น

NVMe และ NVMe-MI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

ชื่อบริษัทอื่นๆ ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นชื่อก่อนหน้าของบริษัทได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและสร้างคุณค่าจากหน่วยความจำให้กับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D เชิงนวัตกรรมของ Kioxia อย่าง BiCS FLASH™ กำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี ระบบยานยนต์ ศูนย์ข้อมูล และระบบ AI เชิงสร้างสรรค์

การสอบถามข้อมูลจากลูกค้า:

สำนักงานขายทั่วโลก
Kioxia Corporation
สำนักงานขายทั่วโลก
https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ มีความถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250721671536/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การสอบถามข้อมูลจากสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายบริหารการส่งเสริมการขาย
Satoshi Shindo
โทร.: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

The Bangkok Reporter