Groups360 เปิดตัวโซลูชันสำหรับการจองห้องพักแบบกลุ่มกับ Hilton

Logo

โรงแรมในเครือ Hilton ส่วนใหญ่ถูกรวมเข้าไว้ใน GroupSync ของ Group360 เพื่อการตรวจสอบราคาและห้องว่างสำหรับสำหรับหมู่คณะได้แบบทันที

แนชวิลล์, เทนเนสซี–(BUSINESS WIRE)–3 มิถุนายน 2564

Groups360 และ Hilton  (NYSE: HLT) ประกาศเปิดตัว GroupSync Engage, ซึ่งเป็นโซลูชันการจองโดยตรงแบบบูรณาการรายแรกของอุตสาหกรรมการบริการสำรองห้องพักแบบกลุ่มในพอร์ตโฟลิโอส่วนใหญ่ของ Hilton ทั้งนี้ GroupSync ซึ่งรวมอยู่ในระบบการจองส่วนกลางของ Hilton จะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในเดือนนี้ โดยจะช่วยให้นักวางแผนงานอีเวนต์สามารถตรวจสอบสถานที่ว่างได้แบบทันที และสามารถจองห้องพักสำหรับกลุ่มเล็ก ๆ ที่โรงแรม 5,000 แห่งภายในพอร์ตโฟลิโอระดับโลกของ Hilton

“โซลูชันการจองแบบบูรณาการนี้ ช่วยแก้ปัญหาความยุ่งยากที่มีมาอย่างยาวนานสำหรับหมู่นักวางแผนอีเวนต์งาน ซึ่งปัญหาที่ว่านี้คือการไม่สามารถดูได้อย่างรวดเร็วว่าโรงแรมมีห้องพักเพียงพอสำหรับต้อนรับแขกของพวกเขาหรือไม่ ด้วยการขยายการจองออนไลน์โดยตรงสำหรับกลุ่มห้องพักกลุ่มเล็ก ๆ ไปยังโรงแรมเกือบทั้งหมดของเราทั่วโลก เรากำลังสร้างประสบการณ์การจองแบบกลุ่มที่แบบไร้รอยต่อและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน” Oral Muir รองประธานฝ่ายการจัดจำหน่ายทั่วโลกของ Hilton กล่าว “ ที่ Hilton เราดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการมาโดยตลอด ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับพันธมิตร เพื่อพัฒนาประสบการณ์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเราที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด”

GroupSync Engage ช่วยให้โรงแรมนำเสนอโซลูชันที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับนักวางแผนการประชุมและอีเวนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองห้องพักและพื้นที่จัดงาน ด้วยการให้ผู้วางแผนงานอีเวนต์ตรวจสอบอัตราการว่างของห้องพัก ตลอดจนราคาห้องพักแบบกลุ่มได้อย่างทันที GroupSync ช่วยลดความซับซ้อนลงไปถึงสองในสามของประสบการณ์สำหรับการส่งข้อเสนอ (RFP) เพื่อค้นหาข้อมูลพื้นฐานสำหรับวัตถุประสงค์ในการวางแผนงาน GroupSync Engage ยังเปิดโอกาสให้นักวางแผนอีเวนต์ จองห้องพัก พื้นที่จัดงาน หรือทำทั้งสองอย่างแบบออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย

“GroupSync Engage กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมการบริการด้วยวิธีที่ทำให้การจองสำหรับกลุ่มเล็ก ๆ เป็นเรื่องง่าย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพสำหรับทั้งโรงแรมและผู้วางแผนงาน” Kemp Gallineau ประธานกรรมการบริหารของ Groups360 กล่าว “เราช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักวางแผนกิจกรรมด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยลดความยุ่งยากในการจองแบบกลุ่ม เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ Hilton ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมด้านพื้นที่การจัดประชุม และนิทรรศการ”

ผู้วางแผนสามารถจองห้องพักของ Hilton ได้โดยตรงใน GroupSync หรือตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ และห้องว่างก่อนที่จะส่งข้อเสนอ (RFP)

ด้วยการนำเทคโนโลยีที่เพิ่งถูกเปิดตัวอย่าง GroupSync Engage และนำมาใช้อย่างรวดเร็ว Groups360 คาดว่าโรงแรมประมาณ 20,000 แห่งใน GroupSync จะพร้อมสำหรับการจองแบบกลุ่มทางออนไลน์ภายในสิ้นปี 2564 ในขณะที่สถานที่ทั้ง 200,000 แห่งจะสามารถรับข้อเสนอ (RFP) แบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ผ่าน GroupSync

เกี่ยวกับ Groups360

Groups360 ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การเพิ่มศักยภาพให้กับนักวางแผนการประชุม โดยการนำนวัตกรรม ความโปร่งใส และความไม่ซับซ้อนมาใช้แก้ปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานของการจองแบบกลุ่ม เทคโนโลยีแบบบูรณาการของบริษัท GroupSync™ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของจากจองแบบกลุ่ม เพิ่มความสะดวกให้นักวางแผน และเพิ่มรายได้ให้กับโรงแรม นอกจากนี้ GroupSync ยังอำนวยความสะดวกให้นักวางแผนในการค้นหา และเลือกโรงแรมทั่วโลก ตลอดจนจองห้อง และพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ผ่านทางออนไลน์ หรือผ่านกระบวนการส่งข้อเสนอ (RFP) GroupSync ถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ให้บริการทั้งการจองห้องพักแบบกลุ่ม และพื้นที่จัดการประชุมแบบออนไลน์

Groups360 มีสำนักงานในแนชวิลล์ ลอนดอน และสิงคโปร์ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ groups360.com.

เกี่ยวกับ Hilton

Hilton (NYSE: HLT) เป็น บริษัทด้านการบริการชั้นนำระดับโลกโดยเป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลก 18 แบรนด์ มีโรงแรมมากกว่า 6,500 แห่งและห้องพักมากกว่า 1 ล้านห้องใน 119 ประเทศและเขตการปกครอง Hilton มุ่งมั่นทำตามวิสัยทัศน์เริ่มต้นที่จะนำพาชีวิตชีวาและความอบอุ่นแห่งการบริการมาสู่โลกใบนี้ โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 3 พันล้านคนตลอดระยะเวลา 100 ปี ได้รับการจัดอันดับในรายชื่อสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของโลกในปี 2563 เป็นอันดับต้นๆ และได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมระดับโลกปี 2563 ใน Dow Jones Sustainability Indices ซึ่งในปี 2563 ได้มีการเปิดตัว Hilton CleanStay ที่ได้สร้างมาตรฐานที่เป็นเอกลักษณ์ของอุตสาหกรรมในด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อโรคให้แก่โรงแรมต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทยังได้มีโปรแกรมสมาชิกสำหรับแขกซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับรางวัลอย่าง Hilton Honors โดยให้คะแนนแก่สมาชิกที่จองที่พักโดยตรงกับ Hilton มาแล้วกว่า 115 ล้านราย เพื่อการเข้าพักและประสบการณ์ในรูปแบบโรงแรมที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ แขกที่เข้าพักสามารถใช้แอปพลิเคชั่น Hilton Honors บนโทรศัพท์มือถือเพื่อจองที่พัก เลือกห้องพัก เช็คอิน ปลดล็อกประตูด้วยดิจิทัลคีย์ และเช็คเอาท์ ทั้งหมดนี้ทำได้จากสมาร์ทโฟนของตน โปรดไปที่  newsroom.hilton.com  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และเชื่อมต่อกับ Hilton บน Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram และ YouTube

รับชมรูปภาพ/มัลติมีเดียแกลเลอรี่ได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home52436270/en

ติดต่อ:

Hal Hassall, รองประธานฝ่ายการตลาด

Groups360

Hal.hassall@groups360.com

Colleen Hart

ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร

Hilton

Colleen.hart@hilton.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Insider Guide to Japan ฉบับใหม่ขององค์กรการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่แอบซ่อนอยู่และสิ่งต่างๆ ที่น่าทำที่ยังไม่เคยรู้

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2564

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) เปิดตัว insider guide to Japan ฉบับใหม่สำหรับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 หัวข้อที่จะจูงใจนักท่องเที่ยว หัวข้อทั้งเจ็ดนี้ประกอบด้วย "ธรรมชาติ" "กิจกรรมกลางแจ้ง" "ประเพณี" "อาหาร" "การผ่อนคลาย" "ศิลปะ" และ "เมือง" โดยถูกเชื่อมโยงกับแนวคิดของ "Wellcation" (การผสมผสานระหว่างความเป็นอยู่ที่ดีและการพักผ่อน) ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้คลายเครียดและความวิตกกังวลที่เกิดจาก “บรรทัดฐานใหม่” ในรอบปีครึ่งที่ผ่านมา โดยเนื้อหานี้ยังครอบคลุมถึงสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นต่างๆ ตั้งแต่วัฒนธรรมและอาหาร ไปจนถึงกิจกรรมล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นใหม่ และเทรนด์การเดินทางล่าสุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210531005067/en/

Photo by Universal Studios Japan (C) Nintendo (Graphic: Business Wire)

รูปภาพโดย Universal Studios Japan (C) Nintendo (กราฟิก: Business Wire)

ยกตัวอย่างหนึ่งคือ การเดินทางโดยรถไฟสุดหรูในพื้นที่คิวชู ตัวขบวนรถไฟเองสร้างเป็นกล่องอัญมณีบนล้อเลื่อนและให้บริการโดยพนักงานที่สวมถุงมือสีขาว ซึ่งให้บริการผู้มาเยือนด้วยอาหารสุดแสนอร่อยตั้งแต่อาหารญี่ปุ่นไปจนถึงอาหารสไตล์อิตาเลียนที่จัดเตรียมและปรุงโดยร้านอาหารท้องถิ่นโดยใช้อาหารท้องถิ่นที่คัดสรรแล้ว นอกจากนี้ยังมีการพักหยุดระหว่างการเดินทางเพื่อให้ผู้มาเยือนสามารถเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้าที่ผลิตภัณฑ์งานฝีมือท้องถิ่น

การเยี่ยมชม Super Nintendo World ที่ Universal Studios Japan ในเมืองโอซาก้าอาจเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ความพยายามเข้าไปครั้งแรกของ Nintendo ในโลกของสวนสนุกได้รับการออกแบบให้เป็นเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟ โดยผู้เยี่ยมชมสามารถซื้อ Power Up Band ที่เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนได้เมื่อเข้าใช้บริการ ทำให้พวกเขาสามารถรวบรวมสะสมเหรียญเสมือนจริงและสามารถเล่นกับตัวละครศัตรูได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการการผ่อนคลายทางจิตวิญญาณ เส้นทางศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า “การแสวงบุญสมัยใหม่ในชิโกกุ” อาจเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุดในการผ่อนคลาย เส้นทางศักดิ์สิทธิ์นี้มีระยะทางยาวถึง 1,200 กิโลเมตร โดยตัดเส้นทางที่งดงามผ่านภูมิทัศน์ธรรมชาติของชิโกกุและใช้เส้นทางภูเขาที่ขรุขระ ป่าไม้ และหมู่บ้านตลอดเส้นทาง

ด้านล่างนี้คือจดหมายข่าวบางส่วนที่เราได้ไฮไลท์ในช่วงที่ผ่านมา

อันดับ 1: ประเทศญี่ปุ่น ประเพณีแห่งนวัตกรรม
– จุดสนใจของผู้คน: เคนโกะ คุมะ ในโตเกียว
– รถไฟ ล่องเรือ สุดหรู
– เสน่ห์ของเซโตะชิ
– เคล็ดลับการมีอายุยืน: อาหารหมัก สาเก และอามาซาเกะ
– Super Nintendo World

เรื่องราวฉบับเต็มรับชมได้ที่นี่

อันดับ 2: ประเทศญี่ปุ่น วัฒนธรรมที่แสดงออกผ่านศิลปะและธรรมชาติ
– ทริปชมดอกไม้ทั่วประเทศญี่ปุ่น
– เครื่องปั้นดินเผา พัฒนาโดย Nature
– ดูดาวที่เกาะโคสึชิมะ
– รีสอร์ทที่ยั่งยืน Treeful Treehouses
– แกลมปิ้งบนเกาะเวล

เรื่องราวฉบับเต็มรับชมได้ที่นี่

อันดับ 3: ประเทศญี่ปุ่น จุดหมายปลายทางแห่งการค้นพบ
– ไวน์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก
– การเดินทางจากซูโม่
– ฟูจิคิวไฮแลนด์และทริปรถไฟ
– การแสวงบุญสมัยใหม่ในชิโกกุ
– เดินป่าคุมาโนะโคโดะ (มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก)

เรื่องราวฉบับเต็มรับชมได้ที่นี่

JNTO บนเว็บ: https://www.japan.travel/en/
มีเดียเซ็นเตอร์: https://business.jnto.go.jp/

JNTO เชื่อว่าเวลาที่ทำให้เราห่างกันจะทำให้ประสบการณ์การเดินทางยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อการเดินทางข้ามพรมแดนกลับมาอีกครั้ง เราหวังว่าจะได้พบกับคุณในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210531005067/en/

ติดต่อ:

Asuka Suzuki
Dentsu Public Relations for JNTO
media_inquiry@jnto.go.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive ร่วมกับเจ้าภาพร่วมสไตลิสต์ชื่อดัง Johnny Wujek และ Nicole Chavez แฮร์สไตลิสต์ชื่อดัง Andrew Fitzsimons และแฟชันอินฟลูเอนเซอร์ Claire Sulmers ประกาศการประชุมสุดยอด Digital Spring Style and Beauty Summit

Logo

การประชุมจะนำผู้นำในอุตสาหกรรมด้านสไตล์และความงามมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเรื่องแฟชั่น ความงาม การออกแบบเครื่องแต่งกาย การเสริมพลังของผู้หญิง ความยั่งยืนและหัวข้ออื่นๆ

ลอสแอนเจลิสและซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–21 พฤษภาคม 2564

สิ่งที่เริ่มทำให้สไตล์คอมมูนิตี้มารวมตัวกันเมื่อการระบาดของโรคได้หยุดยั้งอุตสาหกรรมและได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นการรวมตัวกันที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นทั่วโลก ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศในตอนนี้ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งการประชุม Digital Spring Style and Beauty Summit ของ Glamhive ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้จะเป็นการประชุมสุดยอดด้านดิจิทัล 100% ครั้งสุดท้าย โดย Glamhive จะเปิดตัวกิจกรรมในอนาคตทั้งหมดเป็นการสร้างประสบการณ์ทางกายภาพ – ดิจิทัลแบบผสมผสาน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210520005908/en/

Glamhive's Digital Spring Style and Beauty Summit will bring together industry professionals and beauty and style enthusiasts to discuss spring style. (Graphic: Mary Kay Inc.)

การประชุมสุดยอด Digital Spring Style and Beauty Summit ของ Glamhive จะนำผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้ที่ชื่นชอบความงามและสไตล์มารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสไตล์ฤดูใบไม้ผลิ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

การประชุม Spring Summit จะเป็นประสบการณ์ด้านดิจิทัลระดับโลกครั้งที่ 5 ของบริษัท และจะนำผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้ที่ชื่นชอบความงามและสไตล์มารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับสไตล์ฤดูใบไม้ผลิ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในช่วงเดือนที่หนาวเย็น การเริ่มต้นธุรกิจแฟชัน และอื่นๆ อีกมากมาย

โดยตลอดทั้งวันงานที่จำหน่ายตั๋วจะแสดงลักษณะ 19 กลุ่มพร้อมผู้อภิปรายมากกว่า 66 คน ด้านล่างนี้คือภาพรวมของหัวข้อที่จะกล่าวถึงโดยรายชื่อผู้อภิปรายประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียง

หัวข้อ:

  • ใครทำสิ่งนี้ขึ้นมา? ผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่มาอย่างยั่งยืนเสริมพลังแก่ผู้หญิงในการซื้อทุกครั้งได้อย่างไร
  • สไตล์ 411: ภายในโลกแห่งสไตล์
  • การออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย: บทบาท ความท้าทาย และอิทธิพลต่อแฟชั่น
  • รายงานพรมแดง
  • บทสัมภาษณ์พิเศษ “A Star Is Born” กับนักโหราศาสตร์ Susan Miller
  • บทสัมภาษณ์พิเศษกับ Ellen Mirojnick นักออกแบบเครื่องแต่งกายของ Bridgerton
  • วิธีสร้างความประทับใจครั้งแรกในทุกเวลา
  • การสร้างแบรนด์สำหรับครีเอทีฟและผู้ประกอบการ

ระหว่างการอภิปรายหัวข้อ ใครทำสิ่งนี้ขึ้นมา? ผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่มาอย่างยั่งยืนเสริมพลังแก่ผู้หญิงในแผนการซื้อทุกครั้งได้อย่างไร Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. จะเป็นเจ้าภาพในการอภิปรายเกี่ยวกับที่มาของสินค้าภายในห้องเสื้อผ้าแต่ละชิ้นของเรา และเราสามารถทำความรู้จักกับผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังให้ดีขึ้นได้อย่างไร ผู้ร่วมอภิปรายได้แก่ Jane Mosbacher ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ TO THE MARKET, Matilda Payne Boakye-Ansah นักออกแบบ นักประท้วงทางสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการเพื่อสังคม ผู้ก่อตั้งของ MH Couture และผู้ร่วมก่อตั้งของ Xtreme Upcycle, Christelle C. Paul ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Atelier Calla; และTara Swennen สไตลิสต์ชื่อดัง

 “ในทุกๆ วัน เรามีโอกาสในการเลือกที่จะช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมของเรา” Sheryl Adkins-Green กล่าว “และสิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเกี่ยวกับผู้คนและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความแตกต่าง”

เจ้าภาพร่วม

Stephanie Sprangers – ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Glamhive

Johnny Wujek – นักออกแบบเครื่องแต่งกายและสไตลิสต์ชื่อดังของ Katy Perry และ Mariah Carey

Nicole Chavez – สไตลิสต์ชื่อดังของ Kristen Bell และ Jessica Simpson

Andrew Fitzsimons – แฮร์สไตลิสต์ชื่อดังของ The Kardashians

Claire Sulmers – ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Fashion Bomb Daily

ผู้อภิปราย:

ผู้อภิปรายของเราคือสไตลิสต์ที่มีชื่อเสียง ช่างแต่งหน้า และอิมเมจเมคเกอร์ที่ทำงานกับคนในวงการชื่อดังในฮอลลีวูดและอื่น ๆ รวมถึง Kristen Stewart, Angelina Jolie, Matthew McConaughey, Emily Blunt, Gabrielle Union, Zendaya, Sophie Turner, Amanda Seyfried, Margot Robbie , Lupita Nyong'o, Emma Watson, Rosie Huntington-Whiteley, Claire Danes, Carmen Electra

เซเลบริตี้สไตลิสต์:

Jen Rade, Tara Swennen, Jessica Paster, Nicole Chavez, Sonia Young, Dana Asher Levine, Mimi Lombardo, Joiee Thorpe, Franzy Staedter.

เซเลบริตี้เมคอัพอาร์ติส+แฮร์สไตลิสต์:

Sheridan Ward, Matey Denno, Matin Maulawizada, Christian Wood, Halley Brisker, Larry Sims

ผู้ดำเนินรายการ:

Brian Underwood (นิตยสาร Oprah), Brooke Jaffe (Penske Media), Alexis Bennett (Vogue), Sarah Ball (นิตยสาร PEOPLE), Flavia Nunez (Real Simple), Alana Peden (StyleCaster) และ Sheryl Adkins-Green (Mary Kay Inc.)

ตั๋วในการประชุมราคา $149 สำหรับตั๋วตลอดวัน ผู้สนับสนุนสำหรับการประชุม Glamhive Digital Spring Style and Beauty Summit คือ Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.glamhive.com/live

เกี่ยวกับ Glamhive: Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดยนักธุรกิจที่ชื่อ Stephanie Sprangers ในปี 2560 พร้อมวิสัยทัศน์ที่จะให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการสร้างภาพลักษณ์เฉพาะบุคคลได้อย่างเท่าเทียม และข้อสนับสนุนที่ว่าความมั่นใจทีเกิดจากความงามจะต้องไม่ถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มคนมีฐานะและผู้ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น

ประสบการณ์สร้างบุคลิกภาพออนไลน์ให้ใครก็ตามที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สามารถเข้าถึงสไตล์ลิสต์ที่จะคอยให้การสนับสนุนต่าง ๆ ตามที่พวกเขาต้องการเพื่อพัฒนาตัวเองในแบบที่ดีที่สุด สำหรับสไตล์ลิสต์ นี่คือแพลตฟอร์มที่มีความครบวงจรและไร้รอยต่อ ที่ช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจให้เติบโตได้แบบ 100%

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210520005908/en/

ติดต่อ:

Stephanie Sprangers
stephanie@glamhive.com
+1.206.851.0446

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Mary Kay เผยก้าวสำคัญในสุขภาพผิวเกี่ยวกับการวิจัยเรตินอลให้แก่การประชุม Society for Investigative Dermatology ปี 2564

Logo

แดลลัส–(บิสิเนสไวร์)–10 พ.ค. 2564

Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมการดูแลผิวยังได้มอบการสนับสนุนแก่ชุมชนด้านความงามและวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้สนับสนุนการประชุม Society for Investigative Dermatology (SID) ปี 2564  ในการประชุม Mary Kay ได้เปิดเผยผลงานวิจัยด้านสุขภาพผิวที่ก้าวหน้าเกี่ยวกับสารสกัดจากพืชที่ช่วยลดการระคายเคืองจากเรตินอลผ่านตัวรับ TRPV1  นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศการให้ทุนครั้งแรกแก่นักวิจัยที่ทำการศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ ในด้านสุขภาพผิวหนังและโรคผิวหนัง

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210510005069/en/

Mary Kay recently unveiled skin health grants and breakthrough research at the 2021 Society for Investigative Dermatology Conference.

เมื่อเร็วๆ นี้ Mary Kay ได้เปิดตัวทุนด้านสุขภาพผิวและการวิจัยที่ก้าวหน้าในการประชุมวิชาการด้านผิวหนังในปี 2564

Mary Kay จะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน $25,000 จำนวนสี่ทุนให้กับนักวิจัยที่ทำการศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ ด้านสุขภาพผิวหนังหรือโรคผิวหนัง ซึ่งผู้มีสิทธิ์สามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564  โดยจะประกาศผู้ชนะของทุน Mary Kay ในการประชุมประจำปีของ SID ใน 2565  ด้วยเงินทุนนี้ Mary Kay หวังว่าจะช่วยให้นักวิจัยค้นพบมุมมองใหม่ๆ และกลยุทธ์ทางวิทยาศาสตร์ของโรคผิวหนัง

“Mary Kay เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าความพยายามในการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญในการค้นพบและนวัตกรรมใหม่ๆ” ดร. Lucy Gildea หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของแมรี่เคย์กล่าว “งานต่างๆ เช่นการประชุมประจำปีของ Society for Investigative Dermatology เป็นการรวบรวมความคิดที่ล้ำหน้าที่สุดเพื่อพัฒนาอนาคตของอุตสาหกรรม  May Kay รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนวิทยาศาสตร์แห่งนี้และเราทราบดีว่าทุนวิจัยเหล่านี้จะช่วยให้การวิจัยผิวหนังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  เราตื่นเต้นที่จะได้เห็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบต่อไป”

งานวิจัยล่าสุดของ Mary Kay ได้สำรวจการรวมกันของเรตินอลกับสารต่อต้าน TRPV1 ที่ได้จากพืชและสารสกัดจากพืชที่ต้านการอักเสบในการบรรเทาอาการระคายเคืองที่เกิดจากเรตินอยด์ ด้วยการใช้สูตรเครื่องสำอาง นักวิจัยของ Mary Kay สามารถแสดงให้เห็นถึงการปรับสภาพใหม่ทีละน้อยในช่วงแปดสัปดาห์  ผู้ที่ใช้สูตรนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความทนทานสูงเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอาการผื่นแดง บวมน้ำ และความแห้งกร้านหลังการใช้โดยแพทย์ผิวหนัง

“ทีมวิจัยและพัฒนาของเรากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใหม่ๆ สำหรับผู้หญิงทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง” ดร. กิลเดียกล่าว “การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่นการประชุมประจำปีของ SID ทำให้เราได้เรียนรู้และแบ่งปันงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เราสามารถส่งมอบประโยชน์ที่มีความหมายและผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งให้กับผู้บริโภคได้ต่อไป”

การประชุมประจำปีของ Society of Investigative Dermatology เป็นงานล่าสุดที่ Mary Kay ได้เข้าร่วมในปี 2564 โดยร่วมกับชุมชนทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นอันยาวนานของแบรนด์ในการพัฒนาและวิจัยด้านสุขภาพผิว  Mary Kay ถือสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการออกแบบบรรจุภัณฑ์มากกว่า 1,600 รายการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลก

เกี่ยวกับ MARY KAY

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก  เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210510005069/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications (ฝ่ายสื่อสารองค์กร) 
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

CKE Restaurants เปิดร้านอาหารที่ต่างประเทศแห่งที่ 1,000

Logo

การเปิดร้านอาหารใหม่นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์สากล 40 ปีของ CKE

แฟรงคลิน รัฐเทนเนสซี–(BUSINESS WIRE)–10 พ.ค. 2564

CKE Restaurants Holdings, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Carl’s Jr.และ Hardee’s ประกาศเปิดร้านอาหารในต่างประเทศแห่งที่ 1,000 ในเมืองมาดริด ประเทศสเปน โดยพวกเขาจะยังคงนำเสนอแฮมเบอร์เกอร์และอาหารหลากหลายที่น่าลิ้มลองไปทั่วทุกมุมโลกไปพร้อม ๆ กัน การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่องไปทั่วยุโรป อเมริกา เอเชียตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และที่อื่น ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210510005062/en/

CKE Restaurants Opens 1,000th International Restaurant (Photo: Business Wire)

CKE Restaurants เปิดร้านอาหารในต่างประเทศแห่งที่ 1,000 (รูปภาพ: Business Wire)

การเปิดร้านอาหาร Carl’s Jr. แห่งใหม่ในมาดริดจะนับเป็นร้านลำดับที่ 23 ในสเปน ทั้งนี้ CKE กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดยุโรปโดยนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้าอย่างสร้างสรรค์ และเมนูที่เต็มไปด้วยรสชาติที่ไม่อาจมองข้ามได้

“การเปิดสาขาในต่างประเทศเป็นสาขาที่ 1000 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจที่ทำให้ CKE อยู่ในอันดับต้น ๆ ของเครือข่ายร้านอาหารระดับโลก” Ned Lyerly ซีอีโอของ CKE Restaurants  กล่าว “เรากำลังมีโมเมนตัมเนื่องจากเรามีแผนที่จะเพิ่มสาขาในต่างประเทศเป็นสองเท่าในอีกห้าปีข้างหน้า เราจะเร่งการเติบโตโดยมุ่งเน้นไปที่การเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่โดดเด่นซึ่งแบ่งปันวิสัยทัศน์ของเราในการนำเสนอนวัตกรรมอาหารรสชาติดีที่สุดในอุตสาหกรรมของเรา”

CKE ยังคงขยายธุรกิจใน 6 ทวีปและยังคงรักษายอดขายของสาขาเดิมทั่วโลกมาเกือบทศวรรษ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติในระดับสำคัญ ซึ่งรวมถึงการเปิดร้านอาหารแห่งที่ 300 ในเม็กซิโก การฉลองครบรอบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจในตะวันออกกลาง การขยายสาขาไปทั่วออสเตรเลียด้วยการเปิดร้านอาหารระดับเรือธงในซิดนีย์ และปลายฤดูร้อนนี้บริษัทจะเปิดร้านอาหารในสนามบินชาร์ลส์เดอโกลโดยเน้นความเร็วและความสะดวกสบายด้วยการใช้สถานี “Grab & Go” ซึ้งเป็นซุ้มที่สั่งบริการได้เองพร้อมทั้งบริการอื่น ๆ

“ร้านอาหารนานาชาติแห่งที่ 1,000 ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะสามารถมอบรสชาติอันเป็นสัญลักษณ์ของแคลิฟอร์เนียให้กับคนทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง” Mike Woida ประธาน CKE International กล่าว “โลเคชั่นแห่งใหม่ของ Carl’s Jr. ในสเปนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ CKE ในการปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ผู้บริโภคและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ในขณะที่ยังคงรสชาติที่น่าลิ้มลอง”

ด้วยนวัตกรรมการทำอาหารระดับแนวหน้า CKE Restaurants จะยังคงนำเสนอรสชาติที่ชวนน้ำลายสอซึ่งตอกย้ำชื่อเสียงของแบรนด์ของพวกเขา โดยมีเบอร์เกอร์เนื้อแองกัสย่าง (Chargrilled Angus Beef Burgers), ไก่ Hand-Breaded Chicken Tenders™ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาที่ทุกคนรู้จักและชื่นชอบ และนอกจากนี้ CKE จะสร้างอาหารพิเศษที่ดัดแปลงให้เหมาะสมกับท้องที่เฉพาะภูมิภาค เช่น Morita Burger ในเม็กซิโก Poutine ในแคนาดา และอื่น ๆ อีกมากมาย

ติดตาม Carl’s Jr. และ Hardee’s บนโซเชียลมีเดียเพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอส่งเสริมการขาย

Twitter: @CarlsJr และ @Hardees

Instagram: @CarlsJr และ @Hardees

Facebook: www.facebook.com/carlsjr และ www.facebook.com/hardees

เกี่ยวกับ CKE Restaurants Holdings, Inc.

CKE Restaurants Holdings, Inc. (“ CKE”) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ตั้งอยู่ในแฟรงคลิน รัฐเทนเนสซี ดำเนินการและดำเนินงานโดย Carl's Jr. และ Hardee's สองแบรนด์ระดับภูมิภาคอันเป็นที่รักซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านรายการเมนูระดับพรีเมียมและนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใคร เช่น Black Angus Thickburgers® 100 เปอร์เซ็นต์, Made from Scratch™ Biscuits and Hand-Breaded Chicken Tenders™, Carl’s Jr. Restaurants LLC และ Hardee’s Restaurants LLC ด้วยการดำเนินธุรกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศจึงทำให้มีร้านอาหารแฟรนไชส์หรือที่ดำเนินการโดยบริษัทมากกว่า 3,900 แห่งใน 44 รัฐ และในต่างประเทศ 40 แห่งและเขตแดนของสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CKE กรุณาเยี่ยมชม www.ckr.com หรือที่เว็บไซต์ของแบรนด์ที่ www.carlsjr.com และ www.hardees.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210510005062/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ

LaFORCE

Julia Engelbrecht

jengelbrecht@laforce.nyc

347-882-1570

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ฮ่องกงเฉลิมฉลองพลังแห่งศิลป์ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ด้วยการกลับมาอีกครั้งของงานจัดแสดงศิลปะร่วมสมัยชั้นนำระดับโลกในเดือนพฤษภาคมนี้

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–4 พฤษภาคม 2564

เมื่อสถานที่จัดงานทั่วโลกต่างต้องปิดให้บริการจากการระบาดใหญ่ ช่องทางออนไลน์ได้กลายมาเป็นแหล่งเสพงานศิลป์และแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมที่ผู้คนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่โลกค่อยๆ ก้าวเข้าสู่การฟื้นตัว ผู้คนสามารถเดินทางข้ามประเทศ และงานต่างๆ สามารถกลับมาจัดได้เหมือนเคย เช่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสมในการที่จะนำศิลปะมาช่วยเป็นแรงผลักสำคัญให้โลกสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีฮ่องกงเป็นผู้เบิกทางในการมุ่งจัดงานอีเวนต์ครั้งใหญ่ได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

ในเดือนพฤษภาคม คณะกรรมการการท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ได้เปิดตัวแคมเปญ "Arts in Hong Kong" เพื่อโปรโมตกิจกรรมสำคัญต่างๆ มากมาย ซึ่งมีทั้งแบบที่ผู้ชมสามารถเข้ารับชมงานได้ด้วยตนเองและผ่านช่องทางดิจิทัล โดยได้รับความร่วมมือจากผู้จัดงานและสถาบันด้านวัฒนธรรมต่างๆ จากทั่วทั้งเมือง ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยรับรองได้ว่าผู้ที่สนใจจะสามารถเพลิดเพลินไปกับงานศิลปะและสัมผัสกับความมีชีวิตชีวาของฮ่องกงได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกก็ตาม

Art Basel is officially scheduled to take place from 21 to 23 May at the Hong Kong Convention and Exhibition Centre (HKCEC). More than 100 galleries from Asia, Europe and the Americas have confirmed their participation (Photo courtesy to Art Basel)

 © Art Basel

  งานระดับนานาชาติที่มาพร้อมความมั่นใจเรื่องของความปลอดภัย    หลังจากที่ต้องห่างหายไปนานกว่าสองปีเนื่องจากการระบาดใหญ่ Art Basel พร้อมเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการแล้วในระหว่างวันที่ 21 ถึง 23 พฤษภาคม ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (HKCEC) โดยมีแกลเลอรีต่างๆ กว่า 100 แห่งจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกายืนยันเข้าร่วมงาน นอกจากนี้แล้ว ครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการจัดงาน Art Central ควบคู่กันไป โดยทุกท่านสามารถเข้าชมงานได้ฟรีผ่านการลงทะเบียน ในขณะที่งานประจำปีอย่าง French May จะยังคงรังสรรค์ความบันเทิงทางวัฒนธรรม พร้อมจัดแสดงงานมากกว่า 100 ผลงาน นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมไปจนถึง 30 มิถุนายนนี้
  
  ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคลายความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน เราจะยังคงยึดถือแนวปฏิบัติและความปลอดภัยด้านสุขภาพอันได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย การกำหนดเวลาเข้าชม การลดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละรอบ การขยายพื้นที่ทางเดิน และการทำความสะอาดเป็นประจำ
  
  งานจัดแสดงผลงานศิลปะที่ก้าวข้ามอุปสรรคด้านพรมแดน
  ศิลปะคือสิ่งที่ไร้พรมแดนทั้งยังช่วยสร้างความเป็นปึกแผ่นและให้แรงบันดาลใจแก่ผู้คนมาช้านาน และเนื่องด้วยชุมชนศิลปะอันทรงพลังของฮ่องกงนั้นมากพร้อมด้วยจินตนาการอันล้ำลึกและความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่น ฮ่องกงจึงมีความพร้อมอย่างมากที่จะจัดงานแสดงผลงานศิลปะแบบผสมผสานระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ให้กับผู้คนทั่วโลก
  
  นอกเหนือจาก Art Basel ที่จะเปิดตัวผลงานสร้างสรรค์บนช่องทางดิจิทัลอย่าง “Art Basel Live: HongKong” ควบคู่ไปกับการจัดแสดงงานในแกลลอรีเพื่อให้เข้าถึงผู้คนทั่วทุกมุมโลกแล้ว ยังมีงานแสดงศิลปะอื่นๆ ที่จะใช้การผสมผสานช่องทางการจัดแสดงในรูปแบบเดียวกันนี้อีก ได้แก่ Art Central และ Yim Tin Tsai Arts Festival 2021 โดยผู้ชมสามารถเลือกเปิดประสบการณ์ที่หลากหลายไปกับ HongKong Arts Festival ผ่านโปรแกรม PLUS ไม่ว่าจะผ่านช่องทางออนไลน์หรือเข้าเยี่ยมชมสถานที่จริง อีกทั้งพิพิธภัณฑ์ M+ ในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก (West Kowloon Cultural District) ที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ยังให้บริการฉายภาพยนตร์แบบออนไลน์ที่ท่านสามารถรับชมได้ตามต้องการอีกด้วย 

  HKTB ตบเท้าสู่ความสนุก เชิงสร้างสรรค์และเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟสุดล้ำ    imgimg  เว็บไซต์เฉพาะของแคมเปญ “Arts in HongKong” นำเสนอไมโครฟิล์มแบบโต้ตอบผ่านศิลปินชื่อดังชาวฮ่องกงสองท่าน     ในฐานะที่เป็นกำลังหลักสำคัญในการฟื้นฟูศิลปะให้กับฮ่องกง HKTB ได้สร้างเว็บไซต์สำหรับแคมเปญนี้ขึ้นโดยเฉพาะ (www.discoverhongkong.com/Arts) เพื่อใช้เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับ “Arts in HongKong” และนำเสนอผลงานออนไลน์ รายชื่องานศิลปะ ปฏิทินกิจกรรม ข้อเสนอสุดอาร์ต การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในวงการศิลปะและอื่นๆ อีกมากมาย

  
  ในการจัดแสดงผลงานออนไลน์นั้น ไม่ว่าผู้ชมจะอยู่ที่ไหน ก็จะสามารถดำดิ่งสู่ประสบการณ์เสมือนจริงที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นงานจัดแสดงในระดับนานาชาติหรืองานอีเวนต์ภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีไมโครฟิล์มแบบโต้ตอบที่นำเสนอโดยเซเลปชาวฮ่องกงอย่าง Ivana Wong ศิลปินสหสาขาวิชา และ Kearen Pang ผู้กำกับมากความสามารถ ซึ่งจะพาท่านไปดื่มด่ำกับสถานที่ยอดนิยมและห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง อย่างต่ายกู๋น (Tai Kwun) เดอะ มิลส์ (The Mills) และเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก (West Kowloon Cultural District)
  
  ในช่วงที่เรากำลังรอคอยให้สถานการณ์คลี่คลายเพื่อจะสามารถเดินทางข้ามประเทศกันได้อีกครั้ง ประสบการณ์เสมือนจริงที่ทุกคนจะได้รับในครั้งนี้จะถือเป็นการชูความโดดเด่นในฐานะที่ฮ่องกงเป็นดั่งขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมอันหลากหลาย แถมยังตอกย้ำถึงความสามารถของเมืองในการรักษาความคล่องตัวเมื่อต้องประสบกับการชะงักงันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้    รายละเอียดสำหรับบรรณาธิการ

10 งานจัดแสดงศิลปะชั้นนำที่ห้ามพลาดในเดือนพฤษภาคม

รายการงานจัดแสดงศิลปะ

รายละเอียด

1

Art Basel*

  งานจัดแสดงศิลปะชั้นนำของโลกนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการจัดแสดงแบบกายภาพและแบบเสมือนจริง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 ถึง 23 พฤษภาคม   ณ HKCEC ด้วยการยกแกลอรีชื่อดังจำนวน 104 แห่งจาก 23 ประเทศและเขตการปกครองมาไว้ในที่เดียว นอกจากนี้ "Art Basel Live: HongKong" ยังพร้อมทำการถ่ายทอดบรรยากาศของงานจัดแสดงในครั้งนี้ให้กับผู้ชมทั่วโลกผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรกอีกด้วย  www.artbasel.com/hong-kong 

2

Art Central*

  เป็นครั้งแรกที่จะมีการถ่ายทอดบรรยากาศงาน Art Central ผ่านดาวเทียม (20–23 พฤษภาคม) ควบคู่ไปกับ Art Basel ซึ่งจัดขึ้นที่ HKCEC ท่านสามารถเลือกซื้อผลงานศิลปะได้ด้วยตนเองหรือผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงร่วมรับฟังการเสวนาออนไลน์ที่จัดขึ้นโดย Asia Society HongKong Center  http://artcentralhongkong.com/ 

3

West Kowloon Cultural District*

  พิพิธภัณฑ์ M+ ของ WKCD ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วนี้ได้ให้บริการฉายภาพยนตร์สารคดีที่ผู้ชมสามารถเลือกรับชมได้ตามความต้องการภายใต้โปรแกรมที่แบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ Cinema และ Disrupted โดยมีภาพยนตร์และการเสวนาในส่วนที่สองภายใต้ธีม Interrupted Legacies จะพร้อมให้รับชมตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 16 พฤษภาคมนี้  www.westkowloon.hk/th/mplus/whats-on-51/m-screenings-online-cinema-disrupted 
  
  

4

French May & French GourMay

  งาน French May ประจำปี (1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน) คืองานเฉลิมฉลองที่ผสานวัฒนธรรมอันหลากหลาย ประกอบไปด้วยงานจัดแสดง ผลงานศิลปะหลากหลายแขนง การออกแบบ คอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกและเพลงป๊อป การเต้นรำ ภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมายกว่า 100 รายการ  www.frenchmay.com/th/home/   
  
  งาน French GourMay (1–31 พฤษภาคม) คืองานที่จะเชิญชวนให้ท่านได้มาสัมผัสกับความงดงามของอาหารฝรั่งเศสกันอย่างใกล้ชิด www.frenchgourmay.com/ 

5

Hong Kong Museum of Art

  พลังแห่งการสร้างสรรค์ "Art For Everyone" ของ HKMoA (วันที่ 23 พฤษภาคม) เปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสกับผลงานศิลปะจำนวน 100 ชิ้น ซึ่งเป็นคอลเล็กชันส่งตรงจากพิพิธภัณฑ์เพื่อการจัดแสดงในฮ่องกง ในรูปแบบประสบการณ์ AR (Augmented Reality)   www.artforeveryone.hk/ 
  
  นอกจากนี้ยังมีงานนิทรรศการสำคัญอย่าง Surrealist ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะจำนวน 100 ชิ้นจาก Centre Pompidou แห่งกรุงปารีส นับตั้งแต่วันที่   21 พฤษภาคมไปจนถึงกันยายน   https://hk.art.museum/ 

6

Tai Kwun

  ในช่วงของเทศกาลแห่งศิลปะการแสดงนี้ สถานีตำรวจกลางเดิมซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเป็นศูนย์จัดแสดงมรดกและงานศิลปะจะเปิดให้รับชมการแสดงสดและการเต้นรำภายใต้ธีม “SPOTLIGHT”  ซึ่งนำแสดงโดยศิลปินท้องถิ่น (ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม)  www.taikwun.hk/th/programme/detail/tai-kwun-performing-arts-season-spotlight/757   

7

Yim Tin Tsai Arts Festival 2021*

  เทศกาลแห่งชุมชนศิลปะนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งมีพื้นเพเป็นชาวโรมันคาธอลิกและจีนแคะ
  
  การจัดแสดงที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สามนี้ (จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม) ได้นำเสนอผลงานศิลปะจำนวน 31 ชิ้น รวมถึงผลงานใหม่ 14 ชิ้น โดยท่านสามารถเข้าชมได้ด้วยตนเองหรือผ่านช่องทางออนไลน์  www.yimtintsaiartsfestival.hk/index.php?lang=th 

8

HKwalls

  เทศกาลสตรีทอาร์ตและภาพจิตรกรรมฝาผนังประจำปีของฮ่องกง (8-16 พฤษภาคม) จะกลับมาพร้อมการสาดลวดลายไปบนผนังในย่านริมทะเลอย่างไซกุงและจะมีการจัดแสดงนิทรรศการภายใต้ธีม “Tools of the Trade” ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของสตรีทอาร์ตไปจนถึงวันที่ 6 มิถุนายนนี้ที่ Soho House   https://hkwalls.org/ 

9

Hong Kong Arts Festival*

  โปรแกรม PLUS ของเทศกาลประจำปีในปีนี้จะสอดรับการจัดแสดงผลงานแบบดิจิทัลเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะมีการจัดแสดงงานมากมายแบบผสมผสานผ่านโปรแกรมดังกล่าวบนช่องทางออนไลน์ รวมถึงการเข้ารับชมงานด้วยตนเอง พร้อมกับนิทรรศการออนไลน์แบบอินเทอร์แอคทีฟ และการฉายภาพยนตร์และสารคดีออนไลน์  https://www.hk.artsfestival.org/en/programmes/index-plus.html#All 

10

เว็บไซต์แคมเปญ “Arts in Hong Kong”*

  HKTB พร้อมถ่ายทอดงานศิลปะไปสู่ผู้ชมทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ที่รังสรรค์มาเพื่อแคมเปญ "Arts in Hong Kong" โดยเฉพาะ แพลตฟอร์มนี้ถือเป็นช่องทางแบบครบวงจรที่นำเสนอผลงานออนไลน์ รายการงานศิลปะ ปฏิทินกิจกรรม ข้อเสนอสุดอาร์ต การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในวงการศิลปะ และอื่นๆ อีกมากมาย  www.discoverhongkong.com/Arts 

*มีแบบออนไลน์

#######

ท่านสามารถดาวน์โหลดภาพถ่ายความละเอียดสูงได้จาก

https://hktb.filecamp.com/s/Arts_in_Hong_Kong_2021_pr/fo

###

 (สำหรับท่านสื่อมวลชน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: เอ็มเอสแอลกรุ๊ป ประเทศไทย (MSLGROUP Thailand)

อัญชิษฐา สุวรรณศรี (กิฟ) โทร +662 684 5712/ มือถือ+6685 337 0717/ อีเมล Aunchidtha.Suwannasri@mslgroup.com

ปราง เทพินทราภิรักษ์ (แก้ม) โทร +662 684 5712/ มือถือ+668 6665 9246 / อีเมล Prang.Tepintrapirak@mslgroup.com

เลิศพงศ์ ปุยเงิน (ตูน) โทร +662 684 5563/ มือถือ +669 5697 4465 / อีเมล Lerdpong.puyngern@mslgroup.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



New World La Plume Niseko Resort เตรียมเปิดให้บริการในปี 2566

Logo

รีสอร์ทแห่งนี้จะเป็นอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในญี่ปุ่นของ New World แบรนด์ที่กำลังขยายการเติบโตทั่วทั้งเอเชียอย่างต่อเนื่อง

นิเซโกะ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–30 เมษายน 2564

New World® Hotels & Resorts ได้รับการแต่งตั้งโดยบริษัท La Plume Niseko Resort TMK บริษัทอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาโครงการจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ให้บริหารจัดการ New World La Plume Niseko Resort รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเตรียมเปิดให้บริการในปี 2566 ด้วยอาณาบริเวณที่กินพื้นที่เกือบเก้าเอเคอร์ซึ่งรายล้อมด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ระหว่างภูเขาโยเทอิและภูเขาอันนุปุริในฮอกไกโด ผู้มาเยือน New World La Plume Niseko Resort จะได้เข้าถึงประสบการณ์แบบกลางแจ้งซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้จากกิจกรรมนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมถึงการเล่นสกีและกอล์ฟระดับสุดยอด และยังมีร้านอาหารและร้านค้าขึ้นชื่อของหมู่บ้านนิเซโกะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลออกไป โดยประกาศครั้งล่าสุดจาก New World Hotels & Resorts นี้ยังได้เน้นย้ำถึงกลยุทธ์การเติบโตของแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียที่แสดงถึงความมุ่งมั่นและการพิจารณาอย่างรอบคอบอีกด้วย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210430005017/en/

New World La Plume Niseko Resort (Photo: Business Wire)

New World La Plume Niseko Resort (รูปภาพ: Business Wire)

สำหรับสถาปัตยกรรมของรีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้อนุรักษ์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เอาไว้ ควบคุมโดย Kazuko Okuyama สถาปนิกชื่อดังแห่ง Daiken Design Co โดยแผนการออกแบบโครงสร้างของ Okuyama ที่คิดมาอย่างละเอียด ได้นำองค์ประกอบของจิตวิญญาณการผจญภัยในพื้นที่และวิวที่งดงามตระการตามารวมเข้ากับทิวทัศน์ภูเขาโดยรอบได้อย่างแนบเนียนลงตัว และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือต้นเบิร์ชสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิเซโกะ ซึ่งถูกนำมาผสานเข้ากับดีไซน์ภายนอกได้อย่างพิถีพิถัน เข้ากับพื้นผิวกระจกด้านนอกของอาคารซึ่งทำให้มองเห็นบริเวณภายนอก แสง สภาพอากาศ และฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การตกแต่งภายในโดย Norihiko Shinya แห่ง S.D.S International Co. ยังเข้ามาเสริมให้อาคารแห่งนี้สามารถนำเสนอความงดงามในแบบร่วมสมัยที่ลงตัวกับภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่อีกด้วย

หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ รีสอร์ทแห่งนี้จะมีห้องพักแขกทั้งหมด 219 ห้อง และบ้านพักแบบวิลล่า 5 หลังที่มีสไตล์เรียบง่ายและทันสมัย แต่ละหลังยังมีห้องครัวหรือบริเวณทำครัวเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกไม่ต่างจากการพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ห้องพักบางห้องยังมาพร้อมบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวและเตาผิงสำหรับสร้างความอบอุ่นและบรรยากาศที่ผ่อนคลายทั้งภายในและภายนอก สำหรับผู้ที่ต้องการอาศัยในพื้นที่ที่ได้เป็นเจ้าของแบบถาวร สถานที่แห่งนี้ก็มีห้องชุดสำหรับขาย รวมถึงห้องพักแบบวิลล่าที่แต่ละหลังแยกตัวออกจากกันเป็นสัดส่วนเพื่อมอบบริเวณพักผ่อนที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยห้องอาหารสองแห่งและบาร์ มีทั้งห้องอาหารซิกเนเจอร์ ห้องอาหารที่ให้บริการทั้งวัน และล็อบบี้เลาจน์โดยแต่ละแห่งเสิร์ฟเมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจในบรรยากาศอันน่าทึ่ง สำหรับประสบการณ์รับประทานอาหารแบบองค์รวม ที่นี่มีให้ลิ้มลองทั้งอาหารในสไตล์ญี่ปุ่น ตะวันตก และจีน และยังมีเมนูที่ใช้เครื่องปรุงจากท้องถิ่นในภูมิภาคนั้นด้วย ส่วนบริเวณล็อบบี้เลาจน์ที่อยู่ถัดไปจากโถงต้อนรับจะตกแต่งภาพเขียนบนผนังตลอดทางเดินเล่นระดับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับให้ผู้ที่รักธรรมชาติได้ใช้เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายนอกอาคารระหว่างเพลิดเพลินกับการจิบไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ และเมนูเครื่องดื่มอีกหลากหลายรายการที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว

“ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมน่าตื่นเต้นหลงใหล และเป็นจุดหมายปลายทางที่ New World Hotels & Resorts ให้ความสนใจมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งเราพยายามขยายการเติบโตแบรนด์ของเราให้ทั่วเอเชีย” Sonia Cheng ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Rosewood Hotel Group กล่าว “นิเซโกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในการเล่นสกีอันดับต้น ๆ ของโลกและเป็นแหล่งเล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดของทวีป เป็นที่ชื่นชอบด้วยมีสิ่งต่าง ๆ มากมายให้มาสัมผัส ภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล และกิจกรรมที่หลากหลาย เราตื่นเต้นที่ได้นำมาตรฐานใหม่ของความหรูหราและบริการมาสู่ภูมิภาคนี้ และขอแสดงความขอบคุณไปถึงพันธมิตรของเราที่ La Plume Niseko Resort TMK ด้วย สำหรับโอกาสที่พวกเขามอบให้เราได้ทำในสิ่งเหล่านี้”

หนึ่งในจุดดึงดูดหลักของรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นที่ 10 ซึ่งเป็นระเบียงนอกอาคารที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาของภูมิทัศน์โดยรอบ และยังมีสระว่ายน้ำ ยิม ออนเซ็นทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง รีสอร์ทแห่งนี้ยังมีสโมสรสำหรับเด็ก ๆ ที่จะสร้างความบันเทิงให้กับเจ้าตัวเล็กด้วยความสนุกสนานและเกมต่าง ๆ รวมถึงบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟและการดูแลเป็นพิเศษ นิเซโกะมีสิ่งต่าง ๆ รอต้อนรับที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ผู้มาเยือนจะได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทั้งจุดเล่นหิมะที่ประกอบด้วยกิจกรรมอย่างสกีหิมะ นั่งรถเลื่อนบนหิมะ และการเดินบนรองเท้าหิมะ หรือกิจกรรมในช่วงที่อาการศอบอุ่นอย่างเช่นการพายเรือแคนู การล่องแพ และตกปลาในแม่น้ำหรือกิจกรรมขี่ม้า จักรยานเสือภูเขา กอล์ฟ รวมถึงนั่งบอลลูน

“จุดหมายปลายทางที่ผู้คนมากมายปรารถนาที่จะได้มาเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการมาสัมผัสความหนาวเย็น นิเซโกะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะเมืองสกีรีสอร์ทชั้นนำ” Zhang XiaoJin ประธานแห่ง La Plume Niseko Resort TMK กล่าว “เมื่อเราเตรียมนำนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่มาเยือนจุดหมายปลายทางที่แสนพิเศษแห่งนี้ เรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีพันธมิตรรายใดที่เหมาะสมไปกว่า New World Hotels & Resorts เราต่างตั้งตารอที่จะได้แนะนำสถานที่น่ามหัศจรรย์แห่งนี้ให้กับนักเดินทางจากนานาประเทศอีกมากมายได้รู้จัก”

New World La Plume Niseko Resort จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งอสังหาที่มีความโดดเด่นของ New World ซึ่งมีอยู่ทั่วทั้งเอเชีย ทั้งนี้ยังมีอีกหลายโครงการในภูมิภาคนี้ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ New World Jaipur Resort (อินเดีย), New World Hoiana Hotel (เวียดนาม), New World Nha Trang Hotel (เวียดนาม) และ New World Phu Ouoc Resort (เวียดนาม)

เกี่ยวกับ New World Hotels & Resorts

New World® Hotels & Resorts เป็นทั้งศูนย์ธุรกิจที่หรูหรา โรงแรมที่เน้นการจัดประชุม (MICE) และรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นแหล่งรวมความสะดวกสบายทั้งในเมืองหลักและเมืองรองของประเทศจีน ประตูสู่ทวีปเอเชียที่สำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่ได้รับความนิยม อสังหารวมทั้งหมด 9 แห่งของ New World Hotels & Resorts ตั้งอยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ปักกิ่ง ต้าเหลียน กุ้ยหยาง อู่ฮั่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมถึงโรงแรมที่เป็นพันธมิตรอีกหนึ่งแห่งในซุ่นเต๋อ ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาด 350 ห้องขึ้นไป เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการแบบครบวงจร รวมถึงห้องอาหารที่หลากหลาย บริการด้านธุรกิจต่าง ๆ ห้องประชุมขนาดใหญ่ ชั้นสำหรับผู้บริหาร และตัวเลือกด้านสันทนาการอีกมากมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ newworldhotels.com

เกี่ยวกับ Rosewood Hotel Group

Rosewood Hotel Group บริษัทซึ่งถือครองโดยเอกชน หนึ่งในกลุ่มผู้ให้บริหารการจัดการธุรกิจไลฟ์สไตล์และบริการชั้นนำของโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ 5 แบรนด์ ได้แก่ Rosewood Hotels & Resorts® สุดหรูหรา, New World Hotels & Resorts โรงแรมและรีสอร์ทระดับบน, KHOS คอนเซ็ปต์ที่พักแนวไลฟ์สไตล์โดย Rosewood, Asaya คอนเซ็ปต์ที่พักเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร และ Carlyle & Co. คลับสำหรับสมาชิกแบบส่วนตัวที่มีความล้ำและทันสมัย และยังมีโรงแรมในเครือรวมทั้งหมด 39 แห่ง ใน 19 ประเทศ และอสังหาอีกเกือบ 40 แห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

เกี่ยวกับ La Plume Niseko Resort TMK

La Plume Niseko Resort TMK ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Sakura Capital International Holdings (HK) Limited เป็นบริษัทโฮลดิ้งในฮ่องกงที่เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ผู้ที่ถือหุ้นอยู่เบื้องหลังเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโรงแรมรีสอร์ทระดับไฮเอนด์จำนวนมาก และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยวที่มีพื้นที่เกือบหนึ่งล้านตารางเมตร

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210430005017/en/

สื่อ:
Rosewood Hotel Group
โทร: +852 2138 2260
อีเมล: rwhg.mediacontacts@rosewoodhotelgroup.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay สานต่อความมุ่งมั่นที่ยาวนานนับทศวรรษในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการดูแลผิวด้วยการวิจัยใหม่เกี่ยวกับ Retinol Tolerance

Logo

บริษัทเครื่องสำอางระดับโลกนำเสนองานวิจัยวิทยาศาสตร์ผิวหนังล่าสุดใน 2021 Reunión Anual de Dermatólogos Latinoamericanos

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–29 เมษายน 2564

ในฐานะหนึ่งในผู้คิดค้นนวัตกรรมชั้นนำของโลกด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ผิวหนังมาเกือบหกทศวรรษ Mary Kay Inc. ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัยใน 2021 Reunión Anual de Dermatólogos Latinoamericanos (RADLA) ซึ่งเป็นการประชุมทางวิทยาศาสตร์ในลาตินอเมริกา การจัด Virtual event ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 15-18 เมษายนที่ผ่านมานี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังทั่วโลกแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210429005370/en/

Mary Kay was proud to share research on a gradual retinization process that significantly improves tolerance to higher concentrated pure retinol, while still delivering retinol’s key skin benefits.(Graphic: Mary Kay Inc.)

Mary Kay มีความภูมิใจที่จะแบ่งปันงานวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการปรับสภาพผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อเรตินอลบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์ต่อผิวที่เป็นส่วนสำคัญของเรตินอล (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

โดยผ่านการประชุมไลฟ์สดและระบบการเรียกดูตามสั่ง งานนี้ได้รวบรวมนักวิจัย นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์จากชุมชนโรคผิวหนังทั่วโลก ภาพโฆษณาและการประชุมทางวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยงานวิจัยและงานวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ผิวหนังล่าสุด Mary Kay รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้แบ่งปันงานวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการปรับสภาพผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อเรตินอลบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์ต่อผิวที่เป็นส่วนสำคัญของเรตินอล กระบวนการทำซ้ำแบบค่อยเป็นค่อยไปนี้ได้รับการพัฒนาโดยใช้ชุดการศึกษาความปลอดภัยและการศึกษาทางคลินิกในระยะเวลา 12 สัปดาห์

 “เรตินอลเป็นส่วนผสมมาตรฐานสูงสุดสำหรับการดูแลผิวพรรณ ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีส่วนผสมของเรตินอลได้วางตลาดไว้ทั่วโลก แต่ผลิตภัณฑ์เรตินอลที่มีความเข้มข้นสูงกว่ามักทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังอาจทำให้รู้สึกแสบและทำให้ลอกได้ เนื่องจากผิวหนังจะปรับสภาพให้ชินกับการใช้เรตินอล จากการศึกษาด้านความปลอดภัยและทางคลินิกทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีนเราพบว่ากระบวนการปรับสภาพผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไปสามารถปรับปรุงความทนทานได้อย่างมีนัยสำคัญและยังคงให้ประโยชน์ต่อผิวที่เป็นที่ทราบกันดีอยูแล้วในเรตินอล” Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำเสนอผลการวิจัยของเราที่ RADLA ท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวระดับแนวหน้าของโลกในงานอันทรงเกียรตินี้”

RADLA จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 เนื่องจากความสำคัญและความรับผิดชอบต่อสังคมทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นของโรคผิวหนังในลาตินอเมริกา ในระหว่างการประชุมประจำปีผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวชั้นนำจากทั่วโลกได้ประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในหัวข้อต่างๆ ในสาขาต่างๆ เกี่ยวกับโรคผิวหนัง

 “การมีส่วนร่วมของเราใน RADLA ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการทำงานร่วมกันในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะอยู่ในระดับแนวหน้าของความก้าวหน้าด้านสุขภาพผิว” Dr. Lucy Gildea กล่าว “นี่เป็นหนึ่งในความร่วมมือกับชุมชนวิทยาศาสตร์และวิชาการเพื่อขยายความเป็นผู้นำของ Mary Kay ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิทยาศาสตร์ต่อไปในขณะที่เรายังคงจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay และผู้ชื่นชอบแบรนด์ทั่วโลก”

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210429005370/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล: Mary Kay Inc. เปิดตัวประสบการณ์เสมือนจริง Immersive Virtual Experience Platform Suite 13™

Logo

แพลตฟอร์มเสมือนจริงที่ให้พื้นที่ให้แก่ Mary Kay และที่ปรึกษาด้านความงามอิสระในการจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ล่าสุด บอกเล่าเรื่องราวและมรดกตกของแบรนด์

แดลลัส–(บิสิเนสไวร์)–15 เม.ย. 2564

แบรนด์ความงามระดับโลก Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio นำเสนอ Suite 13TM ประสบการณ์ความงามเสมือนจริงที่นำเสนอโชว์รูมป๊อปอัพดิจิทัลแห่งแรกของ Mary Kay  โดยออกแบบด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงล่าสุด Suite 13TM มอบประสบการณ์ความงามแบบ 3 มิติให้กับ Mary Kay และลูกค้าของพวกเขาด้วยประสบการณ์ความงามแบบ 3 มิติแบบ 360 องศา ซึ่งผู้ใช้สามารถเรียกดูผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของแบรนด์ความงาม รวมทั้งสำรวจประวัติบริษัทและผู้ก่อตั้ง Mary Kay Ash

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านตัวเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210415005306/en/

The new Suite 13™ offers Mary Kay Independent Beauty Consultants and their customers a 360-degree, 3D beauty experience. (Photo: Mary Kay Inc.)

Suite 13™ ประสบการณ์ความงาม 3 มิติแบบ 360 องศาให้กับปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay และลูกค้าของพวกเขา (ภาพ: Mary Kay Inc.)

Suite 13 เชิญชวนให้ผู้ใช้ทัวร์ชม "ห้อง" เสมือนจริง  เมื่อเข้าสู่ “ล็อบบี้” ผู้ใช้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของบริษัทได้  ห้องเสมือนจริงอื่นๆ ได้แก่ “Pink Plaza” ซึ่งสำรวจค่านิยมของบริษัทและ “Innovation Center” ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Mary Kay และจัดแสดงคุณประโยชน์และส่วนผสมที่สำคัญของผลิตภัณฑ์  แพลตฟอร์มนี้ยังให้ผู้ใช้เพิ่มผลิตภัณฑ์ Mary Kay ที่ชื่นชอบลงใน Wishlist เพื่อแชร์กับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของผู้ใช้

“การเปิดตัว Suite 13TM เป็นผลมาจากความคิดสร้างสรรค์ ความหลงใหล และความมุ่งมั่นหลายเดือนในการจัดหาเครื่องมือที่ดีที่สุดและเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สุดในตลาดให้ที่ปรึกษาด้านความงามของ Mary Kay เพื่อช่วยในการจัดการธุรกิจของพวกเขา” Sheryl Adkins-Green หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. “ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการค้นพบ เรียนรู้ และค้นหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางออนไลน์  Suite 13TM จะช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay มีความยืดหยุ่นในธุรกิจดิจิทัลโดยสามารถแนะนำแบรนด์ Mary Kay ของเราได้ทุกที่ทุกเวลาเพื่อยกระดับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ความงามที่น่าประทับใจ  เพื่อให้ได้รับชัยชนะในสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลแบบใหม่นี้เราจะยังคงค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับผู้คนเพื่อสร้างประสบการณ์การแบบสัมผัสต่ำที่เป็นส่วนตัวโดยใช้นวัตกรรมไฮเทค”

สำหรับการออกแบบ Suite 13TM นั้น Mary Kay ได้ร่วมมือกับ Obsess แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงแบบโต้ตอบออนไลน์โดยใช้ความเป็นจริงเสมือน  นำโดยผู้ประกอบการหญิง Neha Singh, Obsess ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ความงามและแฟชั่นระดับโลกอื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าจดจำสำหรับผู้บริโภค เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจในการเสริมสร้างชีวิตของผู้หญิง ออกจากนี้ Mary Kay ยังร่วมมือกับช่างภาพหญิงหลายคนเพื่อผลิตภาพที่แสดงในแพลตฟอร์มเสมือนจริง

“Suite 13 TM เป็นการนำประสบการณ์ความงามของ Mary Kay มารวมกันในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขา” Neha Singh ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Obsess กล่าว “ด้วย Suite 13TM ทีม Mary Kay ได้ดูแลทุกรายละเอียดของแพลตฟอร์มเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโชว์รูมเสมือนจริงของ Mary Kay  แพลตฟอร์มของเราช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่ดึงดูดสายตาและน่าดื่มด่ำซึ่งกำลังปฏิวัติวิธีการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและเรารู้สึกตื่นเต้นที่ลูกค้าของ Mary Kay จะได้ค้นพบ เรียนรู้และ โต้ตอบกับแบรนด์ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลใหม่ๆ ต่อไป”

Suite 13 TM เปิดตัวครั้งแรกในเม็กซิโกในปี 2564 ตามด้วยบราซิล อาร์เจนตินา สเปน โคลอมเบีย และเปรู  บริษัทคาดว่าจะเปิดตัวแพลตฟอร์มในตลาดส่วนใหญ่ภายในสิ้นปี 2564   Mary Kay เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวประสบการณ์เสมือนจริงประเภทนี้ในอุตสาหกรรมของตน  Suite 13 เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุดโดย Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio เท่านั้น  Mary Kay เปิดตัว Mary Kay® Skin Analyzer ซึ่งเป็นแอพที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการแนะนำผิวหน้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและอิงตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระสามารถจัดหาสูตรการดูแลผิวที่กำหนดเองของผลิตภัณฑ์ Mary Kay ได้ด้วยการสแกนผิวอย่างรวดเร็ว  อีกหนึ่งนวัตกรรม Mary Kay® MirrorMe™ Web ช่วยให้ลูกค้าสามารถ “ทดลองใช้ก่อนซื้อ” ได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง  MirrorMe™ พร้อมใช้งานสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210415005306/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate

Communications Marykay.com/newsroom

(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นเปิดตัว Insider Guide to Japan ฉบับใหม่

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–14 เมษายน 2021

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) เปิดตัว Insider Guide to Japan ฉบับใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองประเพณี นวัตกรรม สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และการผจญภัยที่หลากหลายของประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210414005351/en/

Arakurayama Sengen Park, Yamanashi, Japan (Photo: Business Wire)

สวนสาธารณะอาราคุระยามะเซ็นเก็ง จังหวัดยะมะนะชิ ประเทศญี่ปุ่น (ภาพ: Business Wire)

ปี 2021 เป็นปีที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากโตเกียวพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกโตเกียว 2020 ที่เลื่อนออกไป และประเทศนี้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ

คำว่าสะอาดในภาษาญี่ปุ่นยังหมายถึงความสวยงาม: ซึ่งเป็นแนวคิดที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของชนชาติที่แทรกซึมอยู่ทุกแง่ทุกมุมในชีวิตประจำวัน ประเทศญี่ปุ่นเป็นดินแดนแห่งวัดวาอารามและศาลเจ้า ภูมิทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจ อาหารเพื่อสุขภาพ และประเพณีการแช่อนเซ็นที่มีมายาวนาน สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะเดินทางเป็นอย่างมาก ประเทศญี่ปุ่นขอนำเสนอความสมดุลที่สมบูรณ์แบบของการผจญภัย อิสระเสรี ความสันโดษ และสิ่งที่น่าสนใจ: คือโอกาสที่จะได้เลือกจุดหมายปลายทางจากรายการที่คุณมีได้โดยสบายใจในความรู้ที่เรามีได้เลยว่า ประเทศญี่ปุ่นได้ก้าวไปข้างหน้าในแง่ของการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะเพื่อความปลอดภัยของผู้มาเยือน

JNTO จะเปิดตัวจดหมายข่าวหลายฉบับในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเป็นคู่มือเกี่ยวกับประเพณีและนวัตกรรมมากมายของประเทศญี่ปุ่น จากจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ JNTO ได้จัดหมวดหมู่ของการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นโดยแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ อาหาร กิจกรรมกลางแจ้ง การพักผ่อน ธรรมชาติ ประเพณี ศิลปะ และเมืองต่างๆ JNTO ได้เปิดตัว “Experiences in Japan” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดแสดงกิจกรรมที่อ้างอิงจากหมวดหมู่ทั้ง 7 ประเภท รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://business.jnto.go.jp/news/pdf/jnto_press_release_210414.pdf

ในขณะที่เตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของการเดินทางเข้ามาในประเทศ JNTO ยังใช้มาตรการ COVID-19 เพื่อให้เกิดความสบายใจสำหรับผู้มาเยือน โครงการริเริ่มเหล่านี้รวมถึงอินโฟกราฟิกในหลากหลายภาษาเกี่ยวกับข้อควรระวังของประเทศต่อ COVID-19 ตลอดจนข้อมูลฉุกเฉิน รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://www.japan.travel/en/2020-TYO-covid-19

Seino Satoshi ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า:

โตเกียว 2020 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมปีนี้ โดยเกิดขึ้นสิบปีหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น การวิ่งคบเพลิงจะแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของชาติสู่โลก

การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้เลย และน่าเสียดายที่มีการตัดสินใจที่จะจัดการแข่งขันโดยไม่มีผู้ชมจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ามนุษยชาติจะเอาชนะวิกฤตนี้ได้และการท่องเที่ยวจะกลับมาดำเนินต่อไปอีกครั้ง

ประเทศญี่ปุ่นมักจะเกี่ยวข้องกับเมืองใหญ่ๆ ภูเขาไฟฟูจิ ดอกซากุระ นินจา และอะนิเมะ อย่างไรก็ตามประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันไปโดยมีป่าไม้ครอบคลุมประมาณ 70% ของพื้นที่

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก โดยมีผู้มาเยือนมากกว่า 30 ล้านคนต่อปีก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก ตลอดการจัดแคมเปญนี้เราจะนำเสนอเสน่ห์ที่ยังไม่ถูกค้นพบมากมายของประเทศญี่ปุ่นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักไปยังทั่วโลก

แม้ว่าเราจะคิดถึงคุณในฤดูร้อนนี้ แต่เราสัญญาว่าเวลาที่ห่างกันจะทำให้ประสบการณ์การเดินทางจะยิ่งน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นอีก เมื่อการเดินทางข้ามพรมแดนกลับมาอีกครั้ง เราหวังว่าจะได้พบคุณในประเทศญี่ปุ่น

กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ JNTO สำหรับข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่
https://business.jnto.go.jp/news/pdf/jnto_press_release_210414.pdf

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210414005351/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Press Office:
Asuka Suzuki
Dentsu Public Relations for JNTO
media_inquiry@jnto.go.jp

The Bangkok Reporter