Kolmar BNH ขยายตลาดโลกด้วยการเปิดตัว HemoHIM G ในไต้หวัน

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–28 พฤษภาคม 2024

Kolmar BNH (KRX: 200130) ซึ่งเป็นบริษัท ODM สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพที่มีชื่อเสียงของเกาหลี ประกาศว่าได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด HemoHIM G ในไต้หวัน การเปิดตัวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของบริษัทในการขยายธุรกิจในตลาดโลก

Manufactured by Kolmar BNH and distributed by Atomy, HemoHIM G, containing Angelica sinensis, Ligusticum chuanxiong, and Paeonia lactiflora, is now available in Taiwan. (Photo: Kolmar BNH)

HemoHIM G ผลิตโดย Kolmar BNH และจัดจําหน่ายโดย Atomy ซึ่งประกอบด้วย Angelica sinensis, Ligusticum chuanxiong และ Paeonia lactiflora มีวางจําหน่ายแล้วในไต้หวัน (ภาพ: Kolmar BNH)

HemoHIM G แสดงถึงการทําซ้ำที่ได้รับการปรับปรุงของ HemoHIM ซึ่งปรับแต่งให้ตอบสนองรสนิยมที่โดดเด่นของผู้บริโภคในไต้หวันและยุโรป

Kolmar BNH วางแผนที่จะเร่งขยายตลาดในเอเชียด้วยการเปิดตัว HemoHIM G ในตลาดไต้หวันในวันที่ 15 พฤษภาคม HemoHIM G ซึ่งปรับให้เหมาะกับการส่งออกระหว่างประเทศ ได้ทําการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบและสัดส่วนส่วนผสมอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบด้านอาหารที่แตกต่างกันในเขตอํานาจศาลที่แตกต่างกัน ส่วนผสมสําคัญ เช่น Angelica sinensis, Ligusticum chuanxiong และ Paeonia lactiflora ได้ผ่านขั้นตอนการจัดหาที่เข้มงวด ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด โปรไฟล์รสชาติและกลิ่นได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภคในยุโรป

นอกจากนี้ ในเดือนเมษายน ผลการวิจัยของ Kolmar BNH เกี่ยวกับ HemoHIM G ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ 'Toxicological Research' ซึ่งได้รับการรับรองในระดับ SCIE การค้นพบนี้ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ OECD มีความสําคัญยิ่ง เนื่องจากไม่เพียง แต่ตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สําหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบในตลาดที่หลากหลาย แต่ยังสนับสนุนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาผ่านผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้อีกด้วย

HemoHIM ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของ Kolmar BNH ได้รับการจัดจําหน่ายผ่าน Atomy ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัท ผลิตภัณฑ์นี้ประสบความสําเร็จอย่างน่าทึ่ง โดยมียอดขายสะสมมากกว่า 2 ล้านล้านวอนทั้งในและต่างประเทศนับตั้งแต่เปิดตัว ความสําเร็จของผลิตภัณฑ์เป็นผลมาจากความสามารถในการวิจัยและพัฒนาของ Kolmar BNH ควบคู่ไปกับความไว้วางใจของผู้บริโภคที่ยั่งยืนซึ่งสั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง

ชื่อผลิตภัณฑ์ HemoHIM มาจากการผสมระหว่าง 'HEMO (ฮีโมโกลบิน)' และ 'HIM (H: เม็ดเลือด, I: ภูมิคุ้มกัน และ M: การปรับ)' ประกอบด้วยสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ เช่น Angelica gigas, Cnidium officinale และ Paeonia japonica ความสําเร็จนี้เป็นผลมาจากความพยายามร่วมกันของ Kolmar BNH ซึ่งจัดตั้งขึ้นร่วมกันโดยสถาบันวิจัยพลังงานปรมาณูแห่งเกาหลีและ Kolmar Korea ด้วยงบประมาณ 5 พันล้านวอนในช่วงแปดปี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาบันวิจัยพลังงานปรมาณูแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นสถาบันที่เกี่ยวข้องกับรังสี ได้เสริมสร้างความไว้วางใจใน HemoHIM เนื่องจากได้ริเริ่มการวิจัยเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันตนเอง ความร่วมมือนี้ เมื่อรวมกับความเชี่ยวชาญของ Kolmar BNH ในด้านเทคโนโลยีการผลิตและเชิงพาณิชย์ ทําให้ประสบความสําเร็จในการพัฒนาสารผสมที่ช่วยเสริมการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน

HemoHIM ได้รับการยอมรับจากกระทรวงความปลอดภัยของอาหารและยาในปี 2006 ว่าเป็นวัตถุดิบที่ใช้งานได้ที่ได้รับการยอมรับเป็นรายบุคคลรายแรกในเกาหลี สําหรับการเสริมสร้างการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน นับเป็นก้าวสําคัญในการบุกเบิกการพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพในเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่การวิจัยและวัตถุดิบในการปรับปรุงการทํางานของระบบภูมิคุ้มกันขาดแคลน

Kolmar BNH ได้เสริมสร้างความน่าเชื่อถือผ่านความพยายามในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัว HemoHIM ด้วยการจัดสรรยอดขายมากกว่า 2% ต่อปีให้กับโครงการริเริ่มด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อการพัฒนาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง บริษัท ประสบความสําเร็จครั้งสําคัญโดยการบูรณาการฟังก์ชันการปรับปรุงความเหนื่อยล้าเข้ากับ HemoHIM สิ่งนี้เกิดขึ้นหกปีหลังจาก 'โครงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยั่งยืนของ HemoHIM' เริ่มต้นขึ้นในปี 2017

Kolmar BNH เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วย HemoHIM ในปี 2015 เมื่อจดทะเบียนในตลาดหุ้น KOSDAQ ที่สำคัญของเกาหลี บริษัทมียอดขาย 236.2 พันล้านวอน และปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 145% เป็น 579.6 พันล้านวอน

เจ้าหน้าที่จาก Kolmar BNH กล่าวว่า “การร้องขออย่างยาวนานของ HemoHIM ในหมู่ผู้บริโภค ตอกย้ำถึงฟังก์ชันการทํางานที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราจะยังคงยึดมั่นในความมุ่งมั่นของเรา ในการยกระดับความพยายามในการวิจัยและพัฒนา เพื่อรักษาสถานะของ HemoHIM ในฐานะอาหารเพื่อสุขภาพที่ใช้งานได้ชั้นนําของเกาหลี”  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: 

https://www.businesswire.com/news/home/54016626/en

ติดต่อ

Kolmar BNH
Jang Woo Lee
Jay.lee@kolmar.co.kr

ที่มา: Kolmar BNH

NHN เริ่มการลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับคอลเลกชันใหม่ของ SNG ‘วูปารูโอดิสซี่’ ในประเทศไทย

Logo

คอลเลกชันใหม่ของ SNG ที่ผสมผสานองค์ประกอบ RPG และการต่อสู้ในคอลเลกชันอันเป็นที่รักของวูปารู

การลงทะเบียนล่วงหน้าได้เริ่มต้นขึ้นก่อนการเปิดตัวที่กำลังจะมาถึงในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้รับโอกาสพิเศษของวูปารูกาชา

ซองนัม, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–30 พฤษภาคม 2024

NHN (KRX: 181710, CEO Ujin Chung) ได้ประกาศเปิดตัวการลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเกมใหม่ 'วูปารูโอดิสซี่' ซึ่งเป็นคอลเลกชัน SNG ที่รวมองค์ประกอบ RPG ใน 'เมืองวูปารู' โดยเกมดังกล่าวมีกำหนดจะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

Preregistration for Wooparoo Odyssey begins on May 30th. (Image: NHN)

การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับวูปารูโอดิสซี่ จะเริ่มในวันที่ 30 พฤษภาคม (ภาพ: NHN)

เกมในภาคก่อน 'เมืองวูปารู' ซึ่งเป็น SNG ที่รวบรวมคอลเลกชันยอดนิยมในประเทศไทย ผู้เล่นได้ตกแต่งหมู่บ้านอันมีเสน่ห์และสวยงามด้วยวูปารูที่น่ารักมากมาย

'วูปารูโอดิสซี่' ช่วยเพิ่มความสนุกหลักของคอลเลกชันวูปารูเกมก่อนหน้าโดยผสมผสานองค์ประกอบ RPG และการต่อสู้เข้าด้วยกัน โดยจะเป็นการมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมบูรณ์และหลากหลายยิ่งขึ้น ผู้เล่นสามารถพัฒนาวูปารูของตนผ่านคอนเทนต์ที่กว้างขวาง รวมถึงการเพิ่มเลเวล การเลื่อนขั้น และการฝึกสกิล พัฒนาความสามารถของพวกวูปารูแต่ละตัวให้เป็นนักสู้ที่ทรงพลัง และยังมีคอนเทนต์ใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น ระบบกิลด์ ระบบสกิน และการปรับแต่งโปรไฟล์ ซึ่งจะช่วยเสริมคุณค่าทางโซเชียลมีเดียและคอลเลกชันได้

คอนเทนต์การต่อสู้ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน 'วูปารูโอดิสซี่' มีระบบการต่อสู้แบบผลัดตากัน 3 ต่อ 3 ที่เล่นง่ายและรวดเร็ว มีทั้งโหมด PvE (Player vs Environment) และ PvP (Player vs Player) ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นในการผ่านด่านต่างๆ และเพิ่มอันดับในลีกผ่านการต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ขณะเดียวกันก็จะได้รับรางวัลอันดับไปด้วย นอกจากนี้ ยังรวมความสนุกเชิงกลยุทธ์ด้วยการให้ผู้เล่นสร้างเด็คที่จะได้เปรียบในการต่อสู้โดยคำนึงถึงความเข้ากันได้ระหว่างธาตุของวูปารู

ในวันนี้ได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ของแบรนด์พร้อมกับเริ่มกิจกรรมลงทะเบียนล่วงหน้า ผู้เข้าร่วมในการลงทะเบียนล่วงหน้าจะได้เพลิดเพลินไปกับโอกาสพิเศษที่จะได้รับวูปารูพิเศษผ่านกิจกรรม 'วูปารูกาชา' พร้อมรางวัลเพิ่มเติม เช่น มานาบอล อาหาร อัญมณี และตั๋วกาชาพรีเมี่ยมที่เสนอให้ตามการสะสมของการจับรางวัล

บัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการบน Facebook, Instagram และ X ได้ถูกเปิดตัวต่อสาธารณะแล้ว ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้จะจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายตลอดระยะเวลาการลงทะเบียนล่วงหน้า ทั้งยังให้ข้อมูลเชิงลึกเบื้องต้นเกี่ยวกับวูปารู และคอนเทนต์ในเกมอีกด้วย

SangHo Kim หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเกมของ NHN กล่าวว่า ” 'เมืองวูปารู' ซึ่งแต่เดิมมุ่งเน้นไปที่ด้านโซเชียลมีเดียและการสะสม ได้เกิดใหม่เป็น 'วูปารูโอดิสซี่' หลังจากปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์การเล่นเกมที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมการต่อสู้ที่ได้รับการปรับปรุงและฟีเจอร์ความก้าวหน้าของวูปารู” และ “ได้เปิดตัวครั้งแรกในเกาหลีก่อนวางจำหน่ายทั่วโลก โดยผสมผสานฟีเจอร์ยอดนิยมจากเกมก่อนหน้า เช่น เพลงประกอบ คอลเลกชันวูปารูที่หลากหลาย และฟีเจอร์การตกแต่งหมู่บ้าน ซึ่งปลุกความคิดถึงและได้รับการตอบรับเชิงบวกจากฐานแฟนคลับวูปารู IP”

สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 'วูปารูโอดิสซี่' และกิจกรรมการลงทะเบียนล่วงหน้า สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์เว็บไซต์: https://wooparoo.hangame.com.

โซเชียลมีเดียทางการของ 'วูปารูโอดิสซี่'
Facebook: https://www.facebook.com/wooparoo.odyssey.global
X: https://twitter.com/WooparooOdyssey
Instagram: https://www.instagram.com/wooparooodyssey_official

การลงทะเบียนล่วงหน้าบน App Market ของ 'วูปารูโอดิสซี่'
Google Play: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.nhn.wooparoo
Apple Appstore: https://apps.apple.com/th/app/id1645242780

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54015440/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

NHN
Beth Kim
beth@nhn.com

แหล่งที่มา: NHN

Intelsat ต่อสัญญาความร่วมมือกับ Sony Pictures Networks India เพื่อรองรับการนำเสนอเนื้อหาทั่วเอเชียแปซิฟิก

Logo

SINGAPORE–(BUSINESS WIRE)–30 พฤษภาคม 2023

Intelsat หนึ่งในผู้ดำเนินการเครือข่ายดาวเทียมและเครือข่ายภาคพื้นดินเชิงบูรณาการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ต่อสัญญาความร่วมมือกับ Sony Pictures Networks India ในการนำเสนอเนื้อหาด้านความบันเทิงระดับพรีเมียมให้แก่ผู้ชมหลายล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีชาวอินเดียที่โยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่เป็นจำนวนมาก

การต่อสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของ Intelsat ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันดาวเทียมที่ทาง Sony Pictures Networks India ให้ความไว้วางใจ โดยมีการอำนวยความสะดวกในการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจในอินเดียในแต่ละวันไปยังผู้ชมกว่าพันล้านคนทั้งในอินเดียและอื่นๆ การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดาวเทียมที่เสถียรและแข็งแกร่งของ Intelsat ช่วยให้ Sony Pictures Networks India ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงและได้รับความน่าเชื่อถืออย่างล้นหลาม รวมถึงมีความเสถียรในเวลาออกอากาศที่สูง

เป็นเวลากว่าสองทษวรรษแล้วที่ Sony Pictures Networks India ให้ความเชื่อถือในโครงสร้างพื้นฐานดาวเทียมที่มีความยืดหยุ่นของ Intelsat ในการเผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทาง 26 แชนแนล เข้าถึงผู้ชมกว่า 700 ล้านคน เทคโนโลยีดาวเทียมขั้นสูงของ Intelsat นำเสนอข้อได้เปรียบหลักใหญ่หลายประการสำหรับผู้ให้บริการแพร่ภาพกระจายเสียง:

  • การเข้าถึงที่ไม่มีใครเทียบ: เครือข่ายดาวเทียมที่กว้างขวางของ Intelsat มีการส่งสัญญาณที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้ แม้ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเข้าถึงผู้ชมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอันกว้างใหญ่
  • มีความเสถียรในเวลาออกอากาศที่สูงและน่าเชื่อถือ: ผู้ให้บริการแพร่ภาพกระจายเสียง เช่น Sony Pictures Networks India มีความต้องการโซลูชันที่สามารถรองรับการออกอากาศสดได้ เครือข่ายของ Intelsat นำเสนอโซลูชันที่มีความเสถียรในเวลาออกอากาศที่ยอดเยี่ยมและมีคุณภาพสัญญาณที่เหนือกว่า ผู้ชมจึงสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงได้อย่างต่อเนื่องไม่มีติดขัด
  • คุณสมบัติการป้องกันขั้นสูง: ระบบดาวเทียมของ Intelsat มาพร้อมคุณสมบัติขั้นสูงที่สามารถป้องกันการรบกวนของสัญญาณ เพื่อให้การเผยแพร่เนื้อหาเข้าถึงผู้ชมที่ต้องการได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ โซลูชันการสำรองข้อมูลในวงโคจรยังช่วยเพิ่มความเสถียร ลดอัตราเวลาการหยุดออกอากาศได้ในกรณีที่มีเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเกิดขึ้น

โซลูชันมีเดียของ Intelsat ยังช่วยให้ Sony Pictures Networks India สามารถให้บริการแพร่ภาพกระจายเสียงแบบไดนามิกได้อย่างมั่นใจ โดยมีความยืดหยุ่นที่ไม่มีใครเทียบและมีการป้องกันการรบกวนของสัญญาณในวงโคจรได้อีกด้วย

“การที่ Sony Pictures Networks India ต่อสัญญาความร่วมมือกับ Intelsat ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเสถียรและความน่าเชื่อถือของระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมเชิงบูรณาการของเราในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา” Gaurav Kharod รองประธานฝ่ายภูมิภาคของ Intelsat กล่าว “การต่อสัญญาในครั้งนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่เรามีร่วมกันเพื่อใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดาวเทียมขั้นสูงในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อกับผู้บริโภคทั่วเอเชียแปซิฟิกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

เกี่ยวกับ Intelsat

ทีมงานมืออาชีพระดับโลกของ Intelsat มุ่งเน้นการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่เสถียรและปลอดภัยแก่รัฐบาล NGO และลูกค้าเชิงพาณิชย์ ผ่านเครือข่ายและบริการยุคใหม่ที่ได้รับการจัดการทั่วโลกของบริษัท ในการเชื่อมโยงระบบดิจิทัลโดยการใช้หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานดาวเทียมและการเชื่อมต่อที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลก ช่วยให้ Intelsat สามารถให้บริการแก่ผู้คนเพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือในการพูดคุยข้ามทวีป มองเห็นกันทั่วทั้งทวีป และได้ยินและสื่อสารกันทั่วโลก ทำงานร่วมกันโดยไม่มีขีดจำกัด นับตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมาเมื่อหกทศวรรษที่แล้ว บริษัทยังคงมีจุดยืนในการให้บริการด้านอุตสาหกรรมดาวเทียมเหมือน “เมื่อเริ่มก่อตั้ง” เพื่อลูกค้าและโลกของเรา โดยอาศัยมกดกทางนวัตกรรมและการมุ่งเน้นรับมือกับความท้าทายในยุคใหม่ๆ สมาชิกในทีมของ Intelsat ในวันนี้มีวิสัยทัศน์ใน “ก้าวต่อไป” ในอวกาศ เพื่อกลิกโฉมวงการและเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงระบบดิจิทัลของอุตสาหกรรม

ติดตามเราได้ทางโซเชียลมีเดีย:
X | LinkedIn | Instagram | YouTube

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Melissa Longo – melissa.longo@intelsat.com; +1 240-308-1881

แหล่งข้อมูล: Intelsat

Quit Like Sweden เรียกร้องให้มีการควบคุมยาสูบแบบก้าวหน้า เพื่อช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในวันงดสูบบุหรี่โลก

Logo

สตอกโฮล์ม–(BUSINESS WIRE)–29 พฤษภาคม 2024

สามารถช่วยชีวิตคนนับล้านได้ด้วยแนวทางที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในมาตรการควบคุมยาสูบ กล่าวได้ว่าแพลตฟอร์มใหม่มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศต่างๆ ให้ปฏิบัติตามประสบการณ์ของสวีเดนและกลายเป็น 'ปลอดบุหรี่' ในขณะที่ทั่วโลกเตรียมพร้อมสำหรับการสังเกตวันงดสูบบุหรี่โลก (WNTD) ในวันที่ 31 พฤษภาคม Quit Like Sweden ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ในบราซิล กําลังเรียกร้องให้มีกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อยกระดับการต่อสู้กับการสูบบุหรี่ทั่วโลก

ตามธรรมเนียม WNTD ได้รับการทําเครื่องหมายโดยเฉพาะ โดยการเรียกร้องให้เลิกสูบบุหรี่โดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม Quit Like Sweden แย้งว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้กําหนดนโยบาย หน่วยงานกํากับดูแล รัฐบาล สื่อ และประชาชนทั่วไป จะต้องมีส่วนร่วมในการอภิปรายที่มีความหมายเกี่ยวกับกลยุทธ์ ที่จะลดผลกระทบร้ายแรงจากการสูบบุหรี่และความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่

Suely Castro ผู้ก่อตั้ง Quit Like Sweden เน้นย้ำถึงความจําเป็นในการใช้แนวทางใหม่ โดยอ้างถึงประสบการณ์ของสวีเดนและความก้าวหน้าที่น่าทึ่งในการควบคุมยาสูบ

“ทุกวันงดสูบบุหรี่โลก ประชาคมระหว่างประเทศโต้แย้งว่าโลกที่ปราศจากบุหรี่เป็นเป้าหมายสูงสุด แต่วันงดสูบบุหรี่โลกนี้ แทนที่จะพูดถึงสิ่งที่เป็นไปได้ กลับกลายเป็นเวลาที่จะต้องดูว่าประเทศเดียวที่ใกล้จะเลิกสูบบุหรี่กําลังทําอะไรอยู่ นั่นคือ สวีเดน” Suely Castro กล่าว

แม้ว่าสวีเดนจะใช้มาตรการเลิกบุหรี่และป้องกันการสูบบุหรี่อย่างเข้มงวด แต่ก็ช่วยให้ผู้สูบบุหรี่สามารถเลือกทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าได้ แนวทางนี้ซึ่งอิงจากสิ่งที่ Ms Castro เรียกว่า สามเอ ซึ่งย่อมาจาก การเข้าถึง (Accessibility) การยอมรับได้ (Acceptability) และความสามารถในการจ่ายได้ (Affordability) ของทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ส่งผลให้ชาวสวีเดนหลายล้านคนเลือกที่จะทิ้งบุหรี่ไว้ข้างหลัง และเปลี่ยนมาใช้ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

“ในสวีเดน ผู้ใหญ่ 1 ใน 4 คนใช้นิโคตินทุกวัน แม้ว่าจะอยู่ในระดับเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป แต่อัตราการเกิดของมะเร็งของสวีเดนลดลง 41% และการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ในสวีเดนนั้นก็น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ใน 24 ประเทศจาก 26 ประเทศในสหภาพยุโรป” Castro  กล่าว

“นี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกันกับสวีเดน แม้ว่าจะไม่ใช่แนวทางที่ครอบคลุมในการกําจัดการสูบบุหรี่ก็ตาม ลองจินตนการดูว่าของประสบการณ์แบบสวีเดนเต็มรูปแบบจะมีผลกระทบต่อทั่วโลกอย่างไร”

“เรามีความสามารถในการช่วยชีวิตผู้คนนับล้านได้ เพียงแค่จําลองแบบจําลองที่ใช้ได้ผลดีกับสวีเดนอยู่แล้ว” Castro  กล่าว “และไม่มีเวลาใดที่จะดีไปกว่าการเริ่มต้นการสนทนานั้นมากไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว”

พื้นหลัง

Quit Like Sweden เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่แสวงหาผลกําไร โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ ดําเนินการเพื่อจําลองประสบการณ์ของสวีเดนในกลยุทธ์ที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงมาตรการและโปรแกรมที่เน้นการเลิกบุหรี่และการป้องกัน และช่วยให้ผู้ที่สูบบุหรี่สามารถเลือกทางเลือกอื่นได้

เราไม่สนับสนุนให้ยกเลิกมาตรการและโครงการที่นําไปสู่การเลิกบุหรี่หรือการป้องกัน แต่ขอเรียกร้องให้ผู้กําหนดนโยบายทุกคนในทุกประเทศ องค์กรระหว่างรัฐบาล และองค์กรพัฒนาเอกชน เสริมมาตรการและโครงการเหล่านั้น

สถิติสวีเดน

อันเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมยาสูบที่ก้าวหน้าของสวีเดน:

  1. สวีเดนเป็นประเทศเดียวในโลกที่ 'ปลอดบุหรี่' อย่างเป็นทางการ เมื่ออัตราการสูบบุหรี่ลดลงต่ำกว่า 5% ในปลายปีนี้
  2. อัตราการสูบบุหรี่ทั่วยุโรปสูงกว่าสวีเดนถึง 5 เท่า
  3. 24 ประเทศจาก 27 ประเทศในสหภาพยุโรป มีอัตราการเสียชีวิตจากยาสูบสูงกว่าสวีเดนอย่างน้อยสองเท่า
  4. อุบัติการณ์โรคมะเร็งของสวีเดนตต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปถึง 41% ซึ่งหมายความว่าอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทั้งหมดลดลง 38%

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลและสัมภาษณ์สื่อ:
Suely Castro ผู้ก่อตั้ง Quit Like Sweden
suely@quitlikesweden.org

ที่มา: Quit Like Sweden

Intelsat มอบการเชื่อมต่อที่ไม่เคยมีมาก่อนไปยังปาเลาด้วยโซลูชันดาวเทียมคู่

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–29 พฤษภาคม 2024

Intelsat ผู้ให้บริการเครือข่ายดาวเทียมและภาคพื้นดินแบบบูรณาการที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประสบความสําเร็จในการใช้โซลูชันการเชื่อมต่อดาวเทียมคู่สําหรับปาเลา โดยให้บริการ “เปิดตลอดเวลา” ที่เชื่อถือได้ สําหรับประชากร 18,000 คนของปาเลาที่อาศัยอยู่ตามเกาะเก้าเกาะในหมู่เกาะหลัก

“ด้วยประสบการณ์ที่กว้างขวางของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทําให้เราสามารถปรับแต่งโซลูชันที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของปาเลาสําหรับการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” Gaurav Kharod รองประธานประจำภูมิภาคของ Intelsat กล่าว “โครงการนี้เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นของ Intelsat ในการเชื่อมความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล และส่งเสริมการเชื่อมต่อสําหรับทุกมุมโลก”

ก่อนหน้านี้ Palau National Communications Corporation (PNCC) ใช้สายเคเบิลใยแก้วนําแสงใต้ทะเลเส้นเดียวสําหรับทุกความต้องการด้านการสื่อสาร แต่สายเคเบิลใต้ทะเลมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย ดังที่ PNCC พบว่าเมื่อมีการประกาศการหยุดทํางานของสายเคเบิลของปาเลาไปยังกวมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในเดือนกรกฎาคม ปี 2023 ซึ่งอาจเกิดจากพายุไต้ฝุ่นมาวาร์ซึ่งพัดถล่มเกาะกวมในเดือนพฤษภาคม การซ่อมแซมฉุกเฉินนี้บังคับให้ PNCC จํากัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเฉพาะบริการที่สําคัญเท่านั้น

โซลูชันของ Intelsat สําหรับปาเลาใช้ดาวเทียมค้างฟ้า Intelsat สองดวงในช่องวงโคจรที่แยกจากกัน ซึ่งให้ความซ้ำซ้อนและความยืดหยุ่นที่เหนือชั้น การออกแบบหลายชั้นนี้ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายบริเวณกว้างที่กําหนดโดยซอฟต์แวร์ (SD-WAN) โดยผสมผสานดาวเทียมทั้งสองดวงเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเพื่อความยืดหยุ่นสูงสุด โครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญจะจัดลําดับความสําคัญของการเชื่อมต่อ C-band ในช่วงที่ไฟฟ้าดับ ในขณะที่ประชากรในวงกว้างได้รับประโยชน์จากความจุที่เพิ่มขึ้นของ Ku-band แนวทาง dual-band นี้ยังช่วยให้ PNCC สามารถปรับขนาดความจุ Ku-band ได้อย่างราบรื่นตามความต้องการในอนาคต

“Intelsat เป็นพันธมิตรที่เหมาะสมสําหรับเราเนื่องจากความยืดหยุ่นและประสบการณ์ของพวกเขาในการดําเนินงานในประเทศหมู่เกาะต่างๆ เช่น ปาเลา” Simon Fraser ซีอีโอของ Palau National Communications Corporation กล่าว

ประโยชน์ของโครงการมีมากกว่าแค่การให้บริการการสื่อสารที่เชื่อถือได้ โซลูชันนี้ทําให้ PNCC สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตไปยังหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้ของปาเลาได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับ PNCC เนื่องจากเป็นตลาดที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ใช้

การเชื่อมต่อที่มากขึ้นปลดล็อกโอกาสมากมายสําหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของปาเลา ขณะนี้ผู้อยู่อาศัยทั่วหมู่เกาะสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นของรัฐ ตัวเลือกความบันเทิงที่หลากหลาย บริการสุขภาพทางไกล และทรัพยากรการศึกษาทางไกล ปัจจุบันหมู่เกาะห่างไกล เช่น เกาะในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ส่งเสริมการเชื่อมต่อที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับคนที่รักและชุมชนทั่วโลก

เกี่ยวกับ Intelsat

ทีมงานมืออาชีพระดับโลกของ Intelsat มุ่งเน้นไปที่การให้บริการการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ราบรื่นและปลอดภัยแก่ลูกค้าภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และลูกค้าเชิงพาณิชย์ ผ่านเครือข่ายและบริการที่ได้รับการจัดการทั่วโลกในยุคต่อไปของบริษัท เชื่อมความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลด้วยการดําเนินงานหนึ่งในกองดาวเทียมและโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลก Intelsat ช่วยให้ผู้คนและเครื่องมือของพวกเขาสามารถพูดคุยผ่านมหาสมุทร มองเห็นทั่วทั้งทวีป และฟังผ่านท้องฟ้าเพื่อสื่อสาร ร่วมมือ และอยู่ร่วมกัน นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อหกทศวรรษที่แล้ว บริษัท มีความหมายเหมือนกันกับ “สิ่งแรก” ของอุตสาหกรรมดาวเทียมในการให้บริการแก่ลูกค้าและโลก สมาชิกในทีม Intelsat พึ่งพามรดกแห่งนวัตกรรมและมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับความท้าทายรุ่นใหม่ ตอนนี้สมาชิกในทีม Intelsat มีเป้าหมายใน “สิ่งแรกถัดไป” ในอวกาศ ในขณะที่พวกเขาพลิกโฉมวงการและเป็นผู้นําในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรม

ติดตามเราบนโซเชียลมีเดีย:

Twitter/X | LinkedIn | Instagram | YouTube

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Melissa Longo – melissa.longo@intelsat.com; +1 240-308-1881

ที่มา: Intelsat

ผู้นำของกลุ่ม Montrose Environmental Group และ 3M Chief Technology Officer พูดคุยเรื่องความก้าวหน้าที่ประสบความสำเร็จในการกำจัด “สารเคมีที่อยู่ตลอดไป” จากน้ำ

Logo

ลิตเทิลร็อก อาร์คันซอ –(BUSINESS WIRE)–28 พฤษภาคม 2024

บริษัท Montrose Environmental Group, Inc. (“Montrose”) (NYSE: MEG) ได้แบ่งปันไฮไลท์จากการนำเสนอร่วมกับบริษัท 3M ที่งานประชุม Bank of America ครั้งที่ 31 สำหรับภาคการขนส่ง สายการบิน และอุตสาหกรรมที่จัดขึ้นในนิวยอร์ก โดย Vijay Manthripragada ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Montrose และ Dr. Steve Woodard หัวหน้าเจ้าหน้าที่นวัตกรรมของ Montrose ได้ร่วมกับ Dr. John Banovetz หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ 3M ในการจัดเสวนาหัวข้อ “PFAS Panel: Advancing Technology for a Cleaner Tomorrow” (คณะเสวนา PFAS: การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่สะอาดขึ้น)

ในช่วงการเสวนา ทาง Montrose และ 3M ได้พูดคุยเกี่ยวกับวิธีการที่ทั้งสองบริษัทจะนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อกำจัดสารประกอบ PFAS ออกจากแหล่งน้ำที่ซับซ้อนในสถานที่ผลิตสารเคมีของ 3M ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และการบูรณาการความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนไอออนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Montrose

“บริษัทของเรามีพื้นฐานจากนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเราจึงมองหาพันธมิตรในแนวทางเดียวกัน” Dr. Banovetz จาก 3M กล่าว “เราสามารถหาพันธมิตรใน Montrose ได้อย่างรวดเร็ว และรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือของ Montrose ที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะเป้าหมายด้านคุณภาพน้ำของเรา”

“เราทำงานร่วมกับบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 หลายแห่ง John และทีมผู้นำของ 3M เป็นหนึ่งในผู้นำที่มุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืนมากที่สุดที่เราเคยมีความยินดีได้ร่วมงานด้วย”  Manthripragada กล่าว “เมื่อทีมของ Montrose และ 3M คิดเกี่ยวกับวิธีการ [กำจัด PFAS จากน้ำ] ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่สำคัญ ผลลัพธ์จากการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีร่วมกันนั้นคือโซลูชันที่สร้างของเสียน้อยลง ใช้สื่อกลางการกรองน้อยลง มีขนาดเล็กลงซึ่งอาจปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับพนักงาน และใช้พลังงานน้อยลง”

โซลูชันที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Montrose มีลักษณะเป็นลูกปัดพลาสติกขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้พวกมันมีความสามารถสูงในการจับกับ PFAS และกำจัดสารประกอบเหล่านี้ออกจากน้ำ เราสามารถล้างลูกปัดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้แทนที่จะทิ้งและเปลี่ยนลูกปัดเมื่อใช้งานแล้ว นอกจากนี้ Montrose ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีในการทำความสะอาดโซลูชันการฟื้นฟูที่ใช้ไปแล้วโดยใช้การกลั่นและการบรรจุซ้ำ ทำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง การจับคู่เทคโนโลยีการบำบัดด้วยเรซินกับโซลูชันการฟื้นฟูนี้ ทำให้ได้ระบบบำบัด PFAS ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการกำจัด PFAS ออกจากสิ่งแวดล้อม

Dr. Woodard กล่าวว่าระบบที่พัฒนาขึ้นสำหรับ 3M ผ่านความร่วมมือนี้ได้ถูกนำไปใช้ทั่วโลกและกำลังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนต่าง ๆ ที่อยู่ไกลถึงออสเตรเลีย “เราได้พัฒนาเทคโนโลยีหลายประเภทเพื่อกำจัดพวกมันออกจากสิ่งแวดล้อม และ 3M กำลังเป็นผู้นำทาง” Dr. Woodard กล่าว “เราจะเป็นประโยชน์ต่อหลายอุตสาหกรรม ชุมชน และรัฐบาล แต่ที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน

สามารถเข้าฟังการบันทึกเสียงการประชุมซ้ำได้ที่เว็บไซต์การถ่ายทอดสดของการประชุม BofA ที่ PFAS Panel: Advancing Technology for a Cleaner Tomorrow (veracast.com)

เกี่ยวกับ Montrose

Montrose เป็นบริษัทชั้นนำด้านโซลูชันสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเน้นการสนับสนุนองค์กรการค้าและรัฐบาลในการรับมือกับความท้าทายของปัจจุบันและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ด้วยพนักงานประมาณ 3,200 คนในกว่า 100 แห่งทั่วโลก Montrose ผสมผสานความรู้ท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งกับแนวทางแบบบูรณาการในการออกแบบ วิศวกรรม และการดำเนินงาน ทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของแต่ละโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การวัดคุณภาพอากาศและบริการห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมไปจนถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การตอบสนองเหตุฉุกเฉิน การออกใบอนุญาต วิศวกรรม และการฟื้นฟู Montrose มอบโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและปฏิบัติได้จริงที่ช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาอยู่เหนือความต้องการในทันทีและล้ำหน้าในเชิงกลยุทธ์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมได้ที่ www.montrose-env.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Montrose
ฝ่ายสื่อสารกับนักลงทุน:
Rodny Nacier
(949) 988-3383
ir@montrose-env.com

ฝ่ายสื่อสารมวลชน:
Sarah Kaiser
(225) 955-1702
pr@montrose-env.com

ที่มา: Montrose Environmental Group, Inc.

ทุนรางวัล Mary Kay Awards ตกเป็นของห้านักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ที่สร้างแรงบันดาลใจที่งาน Regeneron International Science and Engineering Fair

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–23 พฤษภาคม 2024

Mary Kay Inc., บริษัทที่คอยให้กำลังใจสนับสนุนการศึกษาสะเต็มและการไขว่คว้าความฝันของเยาวชนได้มีการมอบทุนให้นักวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมที่โดดเด่นห้าคน คัดเลือกจากผู้เข้ามีส่วนร่วมกว่า 2,000 คน ที่เป็นตัวแทนกว่า 70 ประเทศ โดยมีการมอบทุนที่งาน Regeneron International Science & Engineering Fair (ISEF) ในลอส แอนเจลิส ทุนที่มอบเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น $10,000 มอบให้กับนักเรียนที่มีโครงงานด้านนวัตกรรมที่เน้นการค้นหาวิธีการรักษามะเร็งที่ส่งผลต่อผู้หญิง, นวัตกรรมด้านการแพ็กเกจที่ยั่งยืน, และการปกป้องทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของดาวของเรา

Mary Kay Inc. proudly served as a Special Award Organization for the 2024 Regeneron International Science and Engineering Fair, awarding three cash prizes to inspiring young scientists. (Graphic: Society for Science, Regeneron ISEF)

บริษัท Mary Kay จำกัด ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรมอบรางวัลพิเศษสำหรับงานประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติ (Regeneron International Science and Engineering Fair) ปี 2024 โดยได้มอบรางวัลเป็นเงินสดสามรางวัลให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ที่สร้างแรงบันดาลใจ (กราฟิก: สมาคมวิทยาศาสตร์, Regeneron ISEF)

ISEF โปรแกรมของ Society of Science ที่มีมากว่า 70 ปี คือการประกวดวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา นักเรียนนับล้านที่มาจากเครือข่ายท้องถิ่นระดับโลก, ภูมิภาค, และงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติ จะได้รับการสนับสนุนให้สำรวจความปรารถนาในการสงสัยใคร่รู้ทางวิทยาศาสตร์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ กลุ่มนักเรียนเหล่านี้จะได้รับการเลือกในฐานะผู้เข้ารอบสุดท้าย และจะได้รับโอกาสในการแข่งขันเพื่อชิงทุนประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรางวัลและทุนการศึกษา

 “ผู้นำด้ามสะเต็มเหล่านี้สาธิตงานวิจัยนวัตกรรม, โซลูชันอันสร้างสรรค์, และวิธีการขั้นสูงในการแก้ปัญที่ซับซ้อนที่จะส่งผลกระทบต่อการรักษามะเร็งโดยตรง, การดำเนินธุรกิจยั่งยืน, และการนิยามมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม” Kristin Dasaro ผู้อำนวยการ, วิศวกรรมการแพ็กเกจและความยั่งยืนที่ Mary Kay กล่าว “เรามีอะไรให้เรียนรู้หลายอย่างจากคนรุ่นต่อไปและ Mary Kay ก็เป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนพวกเขาในการเดินทางของการศึกษาสะเต็ม”

พบกับนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นนักเรียน

รางวัลอันดับหนึ่ง: Keshvee Sekhda และ Nyambura Sallinen (จอร์เจีย, สหรัฐอเมริกา)
IdentiCan:  แอปที่ตรวจจับสมอง, ทรวงอก, ปอด, ผิวหนัง, และมะเร็งตับอ่อน
แอปที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเอไอในการหาเนื้อร้ายที่เป็นมะเร็งที่มีความแม่นยำ 99.6%

รางวัลที่สอง: Madalena Filipe และ Frederico Mauritty (ลิสบอน, โปรตุเกส)
HidroQapa: พลาสติกชีวภาพกันน้ำที่ทำจากไคโตซานสกัดจากขยะที่เป็นเปลือกกุ้ง
การสร้างวัตถุดิบอันยั่งยืน, ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติจากเปลือกของสัตว์ครัสเตเชียน ช่วยลดขนะและมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

รางวัลที่สาม: Carolina de Araujo Pereira da Silva (ริโอ เดอ จาเรโร, บราซิล)
การตรวจสอบแมงกานีสในฐานที่เป็นตัวกระตุ้นเนื้อร้ายและการถ่ายโอนธาตุเหล็กที่เป็นเป้าหมายในการบำบัดมะเร็ง
การวิจัยว่าเหล็กและตัวถ่ายโอนส่งผลร้ายต่อพฤติกรรมเซลล์มะเร็งอย่างไร เพื่อหาวิธีการบำบัดมะเร็งที่ทรงประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ที่ทำลายเพดานข้อจำกัดทั้งในอดีต ตอนนี้ และตลอดไป Mary Kay Ash ก่อตั้งแบรนด์ความงานในฝันที่เท็กซัสในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ การทำให้ชีวิตผู้หญิงรุ่มรวยขึ้น ความฝันนั้นผลิดอกออกผลเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสมาชิกฝ่ายขายอิสระนับล้านในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปี ที่โอกาสของ Mary Kay ได้สนับสนุนให้ผู้หญิงกำหนดอนาคตตัวเองผ่านการศึกษา, การให้คำแนะนำ, การหนุน, และนวัตกรรม Mary Kay อุทิศการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาน และการผลิตสกินแคร์ล้ำยุค, คอสเมติกสี, อาหารเสริม, และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกเพื่อคนในอนาคต การปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากมะเร็งและความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงการสนับสนุนเยาวชนให้เดินตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com เจอเราได้ที่ Facebook, Instagram, และ LinkedIn, หรือติดตามเราได้บน Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54014468/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารบริษัท Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.

การสำรวจ FICO: คนไทยเกือบ 1 ใน 2 กังวลเกี่ยวกับการถูกหลอกลวงเนื่องจากความเสี่ยงในการชำระเงินแบบเรียลไทม์เพิ่มมากขึ้น

Logo

คนไทย 45% กังวลมากที่สุดเกี่ยวกับการถูกหลอกให้จ่ายเงินให้กับอาชญากร

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–23 พฤษภาคม 2024

(NYSE: FICO)

ประเด็นสำคัญ

  • การฉ้อโกงการชำระเงินเป็นปัญหาอาชญากรรมทางการเงินอันดับหนึ่งสำหรับคนไทย 45%
  • ความกังวลเรื่องการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวยังคงมีอยู่ โดย 61% เชื่อว่ามีหรืออาจตกเป็นเหยื่อ
  • 36% ของผู้บริโภคชาวไทยยกให้การป้องกันการฉ้อโกงและการหลอกลวงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบัญชีการเงินใหม่

FICO ผู้เป็นบริษัทซอฟต์แวร์สำหรับการวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยผลการวิจัยเรื่องการฉ้อโกงผู้บริโภคระดับโลกล่าสุด ซึ่งเผยให้เห็นถึงความเข้าใจของคนไทยเกี่ยวกับการหลอกลวงในการชำระเงินแบบเรียลไทม์ท่ามกลางกระแสการใช้ช่องทางการชำระเงินใหม่ ที่สะดวก และรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น จากการศึกษาพบว่า ความกังวลหลักสำหรับคนไทยยังคงเป็นเรื่องความเสี่ยงที่จะถูกหลอกให้ส่งเงินไปให้อาชญากร (45%) ซึ่งทำให้บุคคลต้องพบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นทันทีและไม่สามารถเพิกถอนได้ซึ่งแทบจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินคืน

นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลยังคงมีอยู่ โดยมีคนไทย 25% ระบุว่าเป็นปัญหาอาชญากรรมทางการเงินอันดับต้นๆที่พวกเขากังวล การฉ้อโกงประเภทนี้ยังมีความเสี่ยงอื่นๆนอกเหนือไปจากการสูญเสียทางการเงิน เช่น คะแนนเครดิตที่ลดลงและกระบวนการที่ท้าทายในการฟื้นฟูความสมบูรณ์ทางการเงิน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.fico.com/en/latest-thinking/ebook/consumer-survey-2023-digital-banking-customer-preferences-and-fraud-controls

“การนำการชำระเงินแบบเรียลไทม์มาใช้อย่างรวดเร็วในประเทศไทยทำให้ประเทศไทยตกเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพในภูมิภาคนี้” C K Leo หัวหน้าฝ่ายการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัย และอาชญากรรมทางการเงินของ FICO ในเอเชียแปซิฟิกกล่าว “ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นของคนไทยเกี่ยวกับการหลอกลวงการชำระเงิน และเนื่องจากการชำระเงินแบบเรียลไทม์มีเพิ่มมากขึ้น เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทางการเงิน แต่ด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเพิ่มการเฝ้าระวังผู้ฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในอาณาจักรดิจิทัล”

ความตระหนักเรื่องการโจรกรรมข้อมูลประจำตัวในประเทศไทยสูงที่สุดในเอเชีย

อัตราของผู้ตอบแบบสอบถามที่รายงานว่าข้อมูลระบุตัวตนที่ถูกขโมยไปถูกใช้เพื่อเปิดบัญชีทางการเงินในประเทศไทยนั้นสูงกว่าประเทศอื่นๆ ที่สำรวจอย่างมาก 12% ของคนไทยระบุว่าข้อมูลประจำตัวของพวกเขาถูกขโมยและถูกใช้เพื่อเปิดบัญชีโดยมิจฉาชีพ ในขณะที่รายงานเดียวกันนี้มีชาวฟิลิปปินส์เพียง 5% และชาวอินโดนีเซียเพียง 3% เท่านั้น เมื่อพิจารณาจากประชากรผู้ใหญ่ของประเทศไทย อัตรา 12% นี้จึงแปลว่ามากกว่า 8.6 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความกังวลอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล แต่ก็ยังมีความไม่สอดคล้องกันระหว่างการรับรู้และความเป็นจริงในหมู่คนไทย ประมาณ 17% เชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อ ในขณะที่ 31% มองว่าเป็นไปได้ และ 14% มั่นใจว่าตัวตนของพวกเขายังคงไม่มีใครแตะต้อง

“แม้ว่าบางคนอาจมองข้ามความเสี่ยงของการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวในประเทศไทย แต่คนนับล้านยังคงมีความเสี่ยงอยู่” Leo กล่าวเสริม “สิ่งนี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มความตระหนักรู้และมาตรการเชิงรุก ด้วยการทำลายไซโล (Silo) และบูรณาการการตรวจสอบตัวตนและกระบวนการตรวจจับการฉ้อโกง เราจึงสามารถปรับปรุงแอปพลิเคชันและเสริมสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าที่ถูกกฎหมายได้”

คนไทยแสวงหาความสมดุลระหว่างการป้องกันการฉ้อโกงที่ดีและความสะดวกสบาย

เมื่อเลือกผู้ให้บริการรายใหม่สำหรับบัญชีการเงิน ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าการป้องกันการฉ้อโกงที่มีประสิทธิภาพและความสะดวกในการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการฉ้อโกงที่ดีนั้นล้ำหน้าไปมาก ได้รับการจัดอันดับให้เป็นคุณภาพที่สำคัญที่สุดโดยผู้บริโภคชาวไทย 36%  ในขณะที่ความสะดวกในการใช้งานก็มีความสำคัญเช่นกัน คิดเป็นอัตรา 36% ส่วนปัจจัยอื่นๆ เช่น การบริการลูกค้าที่ดี นโยบายต่อต้านการฟอกเงินที่เข้มงวด แนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี การใช้ข้อมูลลูกค้าอย่างมีจริยธรรม การปฏิบัติที่เป็นธรรม และความคุ้มค่าคุ้มราคา ถือว่ามีความสำคัญน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

“การป้องกันการฉ้อโกงถูกมองว่าเป็นจุดขายมากกว่าที่จะเป็นเพียงศูนย์ต้นทุนสำหรับธนาคาร” Leo กล่าวสรุป “ผู้บริโภคตระหนักดีว่าภัยคุกคามจากการโจรกรรมส่วนใหญ่เป็นแบบออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ทำให้การป้องกันการฉ้อโกงที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการตัดสินใจของพวกเขาด้วย”

การสำรวจนี้จัดทำขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยบริษัทวิจัยอิสระที่ปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมการวิจัย จากการสำรวจผู้ใหญ่ชาวไทยจำนวน 1,002 คน พร้อมด้วยผู้บริโภคอีกประมาณ 12,000 คนในแคนาดา สหรัฐอเมริกา บราซิล โคลอมเบีย เม็กซิโก อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสเปน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Lizzy Li
RICE สำหรับ FICO
+65 9034 7768
lizzy.li@ricecomms.com

Saxon Shirley
FICO
+65 9171 0965
saxonshirley@fico.com

แหล่งที่มา: FICO.

BlueScopeX สนับสนุนความคิดริเริ่มเพื่อพัฒนานวัตกรรมในการก่อสร้างที่ไม่สร้างมลภาวะทั่วอาเซียน

Logo

SINGAPORE–(BUSINESS WIRE)–21 พฤษภาคม 2024

BlueScopeX บริษัทร่วมลงทุนระดับองค์กรของ BlueScope เข้าร่วมโครงการ Australia Green Economy Innovation Challenge (AGEIC) ซึ่งจัดขึ้นโดย Enterprise Singapore ในการขับเคลื่อนการระดมทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนถ่ายอย่างยั่งยืนในธุรกิจก่อสร้าง BlueScope เป็นผู้นำระดับโลกในด้านผลิตภัณฑ์เคลือบและพ่นสีโลหะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคาร

AGEIC มีการเปิดตัวเมื่อปลายเดือนเมษายน ปี 2024 โดยมีการรวมกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพและ SME ต่างๆ เข้ามาร่วมมือกับบริษัทรายใหญ่จากออสเตรเลีย โดยมีภาคส่วนสำคัญต่างๆ รวมถึง ภาคส่วนสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง อาหารและการเกษตร ตลอดจนการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาที่ท้าทายด้านความยั่งยืนที่สำคัญ BlueScopeX จะพิจารณาข้อเสนอสำหรับโซลูชันใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการระบายความร้อน การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และความยั่งยืนโดยทั่วไปของอาคารเพื่อภาคส่วนอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์โดยพื้นฐาน ผ่านการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ระบบ และวิธีการติดตั้งที่ดียิ่งขึ้น โดยครอบคลุมทุกขั้นตอนในกระบวนการก่อสร้างอาคาร ตั้งแต่การออกแบบแนวความคิดตลอดไปจนถึงการก่อสร้าง การดำเนินงาน และแม้กระทั่งการรื้อถอนโครงสร้าง

บริษัทสตาร์ทอัพและ SME ที่สนใจสามารถเข้าร่วมแสดงข้อเสนอโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดของตัวเอง แสดงวิธีที่เทคโนโลยีใหม่ของบริษัทจะสามารถปฏิวัติดีไซน์และการก่อสร้างอาคารเพื่อภาคส่วนอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ได้อย่างไร เพื่อให้อาคารเหล่านี้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก BlueScopeX เพื่อดำเนินการและได้รับการเปิดตัวสำหรับการพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว พร้อมทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมของ BlueScope และเครือข่าย ตลอดจนถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของบริษัท

ในประเทศในกลุ่มอาเซียน BlueScope เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการขยับขยายการเปลี่ยนถ่ายเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น บริษัทมีการปรับปรุงสีที่ใช้ในโรงงานผลิต เพื่อให้สามารถนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่และประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น ในทำนองเดียวกัน ก็มีการออกแบบสายการผลิตใหม่ ซึ่งช่วยให้ BlueScope สามารถนำไอน้ำจากหม้อต้มกลับมาใช้ใหม่ได้เพื่อเป็นการประหยัดน้ำ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถประหยัดน้ำได้ถึง 5,000 ตันต่อปีโดยประมาณจากระบบกักเก็บน้ำฝนภายในโรงงานผลิต และมีการติดตั้งกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์โดยรวม 20 เมกกะวัตต์เพื่อช่วยในการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้

BlueScope มีการสร้างสรรค์และเป็นแรงบันดาลใจในโซลูชันอัจฉริยะด้านเหล็กกล้า มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย และบริษัทมีสำนักงานและโรงงานกว่า 160 แห่งใน 16 ประเทศ โดยมีพนักงานทั่วโลก 16,500 คน ในภูมิภาคอาเซียน บริษัทมีฐานการผลิตในท้องถิ่นมาตั้งแต่ปี 1965 โดยรวมถึงการดำเนินงานในอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม BlueScope มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ที่หลากหลาย รวมถึงเหล็กกล้าเคลือบสีสำเร็จรูป COLORBOND® เหล็กเคลือบสังกะสี/อลูมิเนียมอัลลอยด์ ZINCALUME® รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับการก่อสร้างอาคารต่างๆ ของ LYSAGHT®

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

James Li | Vice President, Business Transformation, NS BlueScope Pte. Ltd.
โทร +65 6832 3512 | มือถือ +65 9626 2750
อีเมล์ james.li@bluescope.com | เว็บไซต์ www.nsbluescope.com
A 238B Thomson Road, #17-01 Novena Square Tower B, Singapore 307685

แหล่งข้อมูล: BlueScopeX

GIGABYTE จัดแสดงพลังการประมวลผลเต็มรูปแบบที่งาน COMPUTEX โดยนำวิวัฒนาการใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้

Logo

TAIPEI–(BUSINESS WIRE)–21 พฤษภาคม 2024

GIGABYTE Technology ผู้นำด้านนวัตกรรมด้านไอที อยู่ในแนวหน้าของการพัฒนาอุตสาหกรรมระดับโลกผ่านระบบคลาวด์และคอมพิวเตอร์ AI ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านนวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์  GIGABYTE เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ก้าวล้ำซึ่งพร้อมที่กำหนดยุค AI ในงาน COMPUTEX 2024

GIGABYTE Showcases a Whole Lot of Computing Power at COMPUTEX, Taking the AI-driven New Evolution Head-On (Graphic: Business Wire)

GIGABYTE จัดแสดงพลังการประมวลผลเต็มรูปแบบที่งาน COMPUTEX โดยนำวิวัฒนาการใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ (กราฟิก: Business Wire)

จากความสำเร็จในปีที่แล้ว GIGABYTE มุ่งมั่นที่จะเสริมความแข็งแกร่งในความเป็นผู้นำด้าน AI ด้วยธีม “ACCEVOLUTION” ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการด้านการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น และความสามารถของ GIGABYTE ในการ “เร่งการวิวัฒนาการครั้งต่อไป” ด้วยการปรากฏตัวครั้งแรกที่งาน COMPUTEX บูธของ GIGABYTE ถือเป็นนิทรรศการแบรนด์เดียวที่ใหญ่ที่สุด GIGABYTE มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และแอปพลิเคชันที่หลากหลาย โดยสอดคล้องกับเทรนด์ AI โดยครอบคลุมเทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญ รวมถึง การประมวลผล AI การเชื่อมต่อขั้นสูง ความคล่องตัวในอนาคต ความเป็นจริง ความยั่งยืน และนวัตกรรม

ความก้าวหน้าที่โดดเด่นของ GIGABYTE ในการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ AI ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เมื่อ GIGABYTE มีการเปิดตัว G593-SD0 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 5U AI ตัวแรกและตัวเดียวของโลกที่ได้รับการรับรองจาก NVIDIA เพื่อรองรับ HGX™ H100 8 x SXM5 อย่างมีประสิทธิภาพ GIGABYTE ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ super AI ด้วยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ ARM พร้อมซุปเปอร์ชิป Grace Hopper™ รุ่นต่อไป และเซิร์ฟเวอร์ AI ที่รองรับซุปเปอร์ชิปรุ่นถัดไปของ AMD MI300X GPU และ MI300A APU ในปีนี้ นอกเหนือจาก H200 GPU ที่มีการอัปเกรดแล้ว โดย NVIDIA มีการเปิดตัวสถาปัตยกรรม Blackwell และ GIGABYTE จะมีการจัดแสดงเซิร์ฟเวอร์ความหนาแน่นสูงรุ่นล่าสุดที่สามารถใช้ด้วยกันได้กับ GPU เช่น B100 และ B200 จะมีการสาธิต GB200 รุ่นล่าสุดในตู้ระบายความร้อนด้วยของเหลวในชื่อ GB200 NVL72 ซึ่งทำหน้าที่เป็น GPU ขนาดใหญ่ตัวเดียวที่สามารถบรรลุประสิทธิภาพการอนุมานถึง 30 เท่าของ H100 GPU ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าเยี่ยมชมไม่เพียงจะได้เห็นนวัตกรรมเหล่านี้ แต่ยังสามารถมีส่วนร่วมในการอภิปรายกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอนาคตของการพัฒนา AI และการใช้งานระบบประมวลผล

เมื่อ AI เริ่มแพร่หลายในการใช้งาน ความต้องการการประมวลผลก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ในงาน COMPUTEX ของปีนี้ GIGABYTE นำเสนอ GIGA POD ซึ่งเป็นโซลูชันการผสานรวมแร็คที่ปรับขนาดได้ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของการใช้งานระดับศูนย์ข้อมูล นอกเหนือจากการแสดงการบูรณาการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมของ GIGA POD และสถาพแวดล้อมการเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกอบรม AI การสาธิตยังเน้นย้ำความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการปรับใช้งาน

การพัฒนา AI ของ GIGABYTE ครอบคลุมการประมวลผลแบบขนานชอง GPU การจัดเก็บข้อมูล และการส่งผ่านเครือข่ายในศูนย์ข้อมูล ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการพัฒนาของ GIGABYTE แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในการออกแบบด้านความร้อนและกลไกชั้นนำของอุตสาหกรรม ในขณะที่การออกแบบโมดูลาร์ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย ช่วยให้สามารถเปิดตัวสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น คุณจะได้พบกับเซิร์ฟเวอร์สำหรับการประมวลผลแบบ cloud to edge ได้ที่บูธของเรา รวมถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูงถึงความหนาแน่นสูง และตัวเลือกการประมวลผลสำหรับ SMB และองค์กรขนาดเล็ก รวมถึงเมนบอร์ดสำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบ DIY ที่มีการปรับแต่งสำหรับการพัฒนา AI ในระด้บต่างๆ

ระบบการประมวลผลเริ่มต้นของ GIGABYTE ช่วยเสริมความก้าวหน้าของ AI ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นวัตกรรม เช่น Direct Liquid Cooling และ Immersion Cooling กำหนดนิยามใหม่ให้กับประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยนำเสนอการตั้งค่าที่ครอบคลุมสำหรับเซิร์ฟเวอร์และตู้ ช่วยให้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในระบบการระบายความร้อนแบบดั้งเดิมสำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปรุ่นล่าสุดของ AMD, Intel และ NVIDIA เพิ่มการกระจายความร้อนและความหนาแน่นในการคำนวณ พร้อมความเสถียร ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของ GIGABYTE เห็นได้ชัดในโซลูชันการระบายความร้อนแบบจุ่ม ซึ่งรองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีพร้อมการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม

GIGABYTE นำเสนอทั้งความสามารถในการฝึกอบรมโมเดล AI ที่เสถียร และแอปพลิเคชัน AI ที่ใช้งานได้จริงผ่านคอมพิวเตอร์แบบฝังตัวระดับอุตสาหกรรม การสาธิตครอบคลุมโรงงานอัจฉริยะที่มีวิชันซิสเต็มที่ใช้ AI และคอมพิวเตอร์ฝังตัวที่มีความเสถียรสูงสำหรับการควบคุมระยะไกล รวมถึงบาร์ร้านค้าปลีกที่ใช้แผงพีซีผสานรวมกับระบบการจดจำ AI และการวิเคราะห์ big data ความก้าวหน้าใน AI และ CPU/GPU รุ่นต่อไปยังสนับสนุนแอปพลิเคชันยานยนต์อัจฉริยะ เพิ่มประสิทธิภาพ ADAS และอุปกรณ์เทเลเมติกส์ภายในยานยนต์

ในตลาดพีซีสำหรับผู้บริโภค GIGABYTE เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับแต่งพร้อม AI เช่น เมนบอร์ด กราฟิกการ์ด และแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม AI โดยฟีเจอร์เหล่านี้มาพร้อมพลังการประมวลผล AI ที่เสถียร และความสามารถเชิงนวัตกรรม เช่น AI Nexus ในแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม AORUS 16X ที่นำเสนอแอปพลิเคชัน เช่น AI Power Gear และ AI Boost ในบริเวณพื้นที่เพื่อแสดงประสบการณ์ของ AI ในบูธของเรา ผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถสำรวจแอปพลิเคชัน AI ล่าสุด และการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ รวมถึง NVIDIA ACE และ ChatRTX ที่มีการเจาะลึกเข้าในเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย

GIGABYTE นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจมาแสดงในงาน COMPUTEX ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถเพื่อเร่งวิวัฒนาการขั้นต่อไปของเทคโนโลยีในภูมิทัศน์ AI ที่มีการเปลี่ยนแปลง และโซชูชันการประมวลผลที่ขับเคลื่อนโดยการเชื่อมต่อและความเร็วของข้อมูล และ AI สามารถยกระดับธุรกิจและให้อำนาจแก่แต่ละบุคคลในการเติบโตและมีการพัฒนาที่รวดเร็วเป็นพิเศษ

สามารถเข้าเยี่ยมชมหน้าเพจอีเว้นท์ เกี่ยวกับ COMPUTEX ของ GIGABYTE

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54001049/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อด้านสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

แหล่งข้อมูล: GIGABYTE Technology


The Bangkok Reporter