Cessna Grand Caravan EX Amphibian ขยายพื้นที่ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการจัดส่งภายในมาเลเซีย

Logo

WICHITA, Kan.–(BUSINESS WIRE)–18 กุมภาพันธ์ 2024

Textron Aviation ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการจัดส่งเครื่องบินพร็อพสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก Cessna Grand Caravan EX Amphibian ให้กับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมาเลเซีย Ikhasas Sdn Bhd ผ่าน Oriental Sky Sdn Bhd ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ โดยมีการบริหารเครื่องบินและการดำเนินงานโดย Systematic Aviation Services (SAS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าเหมาลำในท้องถิ่น โดยจะมีการใช้เครื่องบินนี้ในการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์และรีสอร์ทริมน้ำแห่งใหม่บนเกาะ Perhentian นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีบ โดยจะเป็นการดำเนินงานด้วยเครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกครั้งแรกของประเทศในประวัติการณ์ หลังจากได้รับการอนุมัติจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งมาเลเซียให้เริ่มดำเนินงานภายในประเทศได้ในปี 2024 นี้

Oriental Sky’s Grand Caravan EX Amphibian (Photo: Business Wire)

Grand Caravan EX Amphibian สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของ Oriental Sky (ภาพถ่าย: Business Wire)

Cessna Grand Caravan EX Amphibian ได้รับการออกแบบและผลิตโดย Textron Aviation Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Textron Inc. (NYSE:TXT)

Ir. Tan Chee Kian กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท Ikhasas กล่าวว่า “เครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเป็นวิธีการเดินทางไปยังหมู่เกาะ Perhentian ที่สะดวกที่สุด ปัจจุบัน ใช้เวลาเดินทางบนถนน 6 ชั่วโมง ตามด้วยการนั่งเรือเฟอร์รรี่ข้ามฟากจากท่าเรือใน Kuala Besut อีกหนึ่งชั่วโมง โดยเครื่องบินโดยสาร 11 ที่นั่งของเรานี้ จะช่วยให้ผู้โดยสารประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น เนื่องจากจะมีการขนส่งผู้โดยสารจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังหมู่เกาะใกล้กับรีสอร์ทริมชายหาดได้โดยตรง ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถรักษาสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์และป่าธรรมชาติของเกาะ โดยไม่มีการโค่นต้นไม้เพื่อสร้างสนามบินในพื้นที่ดังกล่าว”

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Grand Caravan EX Amphibian ได้รับการคัดเลือก ความคล่องตัวและเศรษฐกิจพร้อมการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมทำให้ Ikhasas กลายเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยห้องโดยสารที่สะดวกสบาย หน้าต่างบานใหญ่สำหรับเที่ยวชมรอบๆ และลอยตัวอยู่ ทำให้สามารถขึ้นและลงได้ทุกที่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับภารกิจของพวกเขา” Tony Jones รองประธานฝ่ายขายระหว่างประเทศ (เอเชียแปซิฟิก) กล่าว “มาเลเซียยังเป็นตลาดที่สำคัญของ Textron Aviation โดยผลิตภัณ์ของเราเป็นผู้นำฐานการติดตั้ง และคิดเป็นจำนวนกว่า 40% ของเครื่องบินการบินทั่วไปของประเทศ ลูกค้าของเราในมาเลซียใช้ผลิตภัณฑ์ของเราในการดำเนินงานที่หลากหลาย รวมถึงการขนส่งผู้โดยสารระดับ VIP การท่องเที่ยว และภารกิจพิเศษอื่นๆ เช่น รถพยาบาลทางอากศ และการดิ่งพสุธา”

เกี่ยวกับ Cessna Grand Caravan EX 
แพลตฟอร์ม Cessna Caravan มีการจัดส่งเครื่องบินกว่า 3,000 ลำที่ผ่านการรับรองใน 100 ประเทศ โดยมีชั่วโมงบินเกือบ 24 ล้านชั่วโมงทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องบิน Caravans มีบทบาทหลักในภารกิจต่างๆ ทั้งการฝึกบินไปจนถึงเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เป็นทั้งสายการบินโดยสารไปจนถึงการขนส่งผู้โดยสารระดับ VIP การขนส่งสินค้า และภารกิจด้านมนุษยธรรม เครื่องบิน Grand Caravan EX เป็นที่รู้จักกันในด้านประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้และมีความสามารถมากในกลุ่มสายการบินระดับภูมิภาค ผู้ดำเนินการเช่าเหมาลำ ผู้ขนส่งสินค้า และผู้ปฏิบัติงานภารกิจพิเศษทั่วโลก เครื่องบินลำนี้มีกำลัง 867 แรงม้า และอัตราการไต่ระดับอยู่ที่ 1,275 ฟุตต่อนาที

ความเป็นไปได้ของภารกิจพิเศษที่ไม่มีที่สิ้นสุด 
เมื่อลูกค้าภาครัฐ การทหาร และเชิงพาณิชย์มีความต้องการโซลูชันทางอากาศสำหรับภารกิจสำคัญ ทุกคนจะมาที่ Textron Aviation โซลูชันทางการบินของบริษัทมีสมรรถนะสูงและมีคุณสมบัติที่จำเป็นและรองรับความต้องการสำหรับความท้าทายเฉพาะตัวใยการปฏิบัติการภารกิจพิเศษ ด้วยคุณภาพที่เหนือชั้น ความคล่องตัว และต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ ผลิตภัณฑ์ของ Textron Aviation จึงได้รับเลือกสำหรับรถพยาบาลทางอากศ ISR การขนส่งด้านสาธารณูปโภค การสำรวจทางอากาศ การตรวจสอบเที่ยวบิน การฝึกอบรม และการปฏิบัติการพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Textron Aviation 
เราสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางทางอากาศ เป็นเวลากว่า 95 ปี ที่ Textron Aviation ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้เชี่ยวชาญของเราสำหรับแบรนด์ Beechcraft, Cessna และ Hawker โดยมีการออกแบบและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องบินไอพ่น เทอร์โบพร็อพ และลูกสูบสมรรถนะสูง ไปจนถึงภารกิจพิเศษ การฝึกอบรมทางการทหาร และผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกัน Textron Aviation มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการบินที่ครอบคลุมและหลากหลายมากที่สุดในโลก และมีกำลังในการผลิตเครื่องบินโดยทั่วไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องบินทั่วโลก ลูกค้าในกว่า 170 ประเทศไว้วางใจในประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความคล่องตัวที่เป็นตำนานของเรา พร้อมด้วยเครือข่ายการบริการลูกค้าระดับโลกที่เชื่อถือได้ เพื่อรองรับเที่ยวบินราคาประหยัด มีประสิทธิผล และมีความยืดหยุ่น

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.txtav.com defense.txtav.com scorpion.txtav.com

เกี่ยวกับ Textron 
Textron เป็นบริษัทที่รอบรับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกสำหรับธุรกิจเครื่องบิน ระบบการป้องกัน อุตสาหกรรม และการเงิน เพื่อโซลูชันและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่แก่ลูกค้า Textron เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Bell, Cessna, Beechcraft, Pipistrel, Jacobsen, Kautex, Lycoming, E-Z-GO, Arctic Cat และ Textron Systems สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.textron.com

ข้อความบางส่วนในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งอาจเป็นการคาดการณ์รายได้หรืออธิบายถึงกลยุทธ์ของโครงการ เป้าหมาย แนวโน้ม หรืออื่นๆ ที่ไม่อิงประวัติศาสตร์ ข้อความเหล่านี้อ้างอิงเฉพาะวันที่ที่รายงานเท่านั้น และเราไม่มีข้อผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่คาดการณ์ใดๆ ข้อคามนี้อาจเปลี่ยนแปลงตามความเสี่ยงที่อาจมีหรืออาจไม่ได้คาดการณ์ไว้ รวมถึงความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงของเราเกิดความแตกต่างเป็นอย่างมากจากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่แสดงไว้หรือเป็นนัย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในตารางการส่งมอบเครื่องบินหรือการยกเลิกหรือการเลื่อนคำสั่งซื้อ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53897660/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Doug Scott
+1.316.347.0116
dscott2@txtav.com
txtav.com

แหล่งข้อมูล: Textron Aviation

Celigo และ Netizen นําเสนอโซลูชันการบูรณาการ ที่ได้รับการปรับปรุงทั่วทั้ง APAC

Logo

เรดวูดซิตี้ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2024

Celigo, ผู้นําในภาค Integration Platform as a Service (iPaaS) ประกาศความสําเร็จอย่างต่อเนื่องในเอเชียแปซิฟิก (APAC) ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Netizen ซึ่งเป็น SAP Platinum Partner ระดับแนวหน้า ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้สัญญาว่าจะช่วยยกระดับสถานะทางการตลาดของ Celigo ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการบูรณาการแพลตฟอร์มขั้นสูงของ Celigo ไว้ในวาระการปฏิรูปเทคโนโลยีทางธุรกิจ (BTX) ของ Netizen ความร่วมมือดังกล่าวได้ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการดําเนินงานและนวัตกรรมสําหรับผู้ใช้ SAP ทั่วทั้งภูมิภาคแล้ว

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Celigo ซึ่งระบบบูรณาการสอดคล้องกับระบบปฏิบัติการ SAP ของเราอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการรวมระบบเหล่านี้ เราสามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างมูลค่าทางธุรกิจในโดเมนต่างๆ ได้โดยไม่มีข้อจํากัดในการเชื่อมต่อข้อมูล" Seree Satukijchai ซีอีโอของ Netizen กล่าว

ความร่วมมือซึ่งได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้วได้ช่วยให้ Netizen ปรับปรุงกระบวนการภายในและปรับปรุงบริการที่มอบให้กับลูกค้า Celigo มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ Netizen ขยายส่วนแบ่งการตลาด ปรับปรุงความคิดริเริ่มในการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนปรับแต่งกลยุทธ์การขายและการตลาด

นอกจากนี้ Netizen ยังสามารถเปลี่ยนทรัพยากรไปสู่กิจกรรมสร้างรายได้ที่ขับเคลื่อนการเติบโต แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการบูรณาการภายใน แต่ตอนนี้พวกเขาใช้ประโยชน์จากความสามารถแบบบูรณาการของ Celigo เพื่อช่วยเหลือลูกค้าของตนได้อย่างราบรื่น การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้ Netizen สามารถเริ่มต้นการเดินทาง Business Technology Transformation (BTX) ที่แท้จริงได้

"ด้วยข้อจํากัดที่น้อยลง เราสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่สําคัญของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของเรา ขณะนี้ทีมงานของเรามีอิสระในการใช้ความเชี่ยวชาญของพวกเขากับความคิดริเริ่มที่ไม่เพียง แต่สนับสนุนธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังขยายการให้บริการของเราด้วย ความร่วมมือของ Celigo ไม่เพียงแต่ปรับปรุงการดําเนินงานในแต่ละวันของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเรา”

ลูกค้าของ Netizen ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้ Celigo ผ่านโซลูชัน "HoneyConn" ที่พัฒนาร่วมกัน การบูรณาการ Celigo เข้ากับการดําเนินงานของพวกเขาได้ลดเวลาที่ต้องใช้ในการทำงาน ลดจํานวนบุคลากรที่ต้องการ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางาน ลดข้อผิดพลาดในการบูรณาการข้อมูล และเพิ่มมูลค่าให้กับงานของพวกเขา

หนึ่งในลูกค้าดังกล่าวคือ Do Day Dream PLC ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามรายใหญ่ Netizen ประสบความสําเร็จในการใช้ HoneyConn เพื่อเชื่อมต่อระบบบันทึกข้อมูล POS กับ SAP เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมของพวกเขาจะอัปเดตแบบเรียลไทม์ หัวหน้าฝ่ายการจัดจําหน่ายทางกายภาพและ MIS &IT ของ Do Day Dream ให้ความเห็นว่า "HoneyConn (Celigo) เป็นเครื่องมือที่ทําให้งานยากเป็นเรื่องง่าย”

ในปีหน้า Netizen และ Celigo วางแผนที่จะขยายโครงการ HoneyConn ผ่านโซลูชัน HoneyConn Out of the Box ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการบูรณาการ HoneyConn เข้ากับระบบอีคอมเมิร์ซต่างๆ โซลูชันนี้จะใช้ได้กับลูกค้าทั่วเอเชีย รวมถึงแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Shopee และ Lazada เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของการขายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

"ด้วยการเป็นพันธมิตรและความร่วมมือของเรา เราสามารถปรับปรุงการบูรณาการข้อมูลสําหรับลูกค้า SAP ทําให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อ SAP กับการทํางานของระบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย" George Polyzos รองประธาน APAC ของ Celigo กล่าว "เราภูมิใจกับงานที่เราทําสําเร็จกับ Netizen จนถึงตอนนี้ และตั้งตารอที่จะนํานวัตกรรมใหม่ๆ  มาปรับปรุงระบบอัตโนมัติทางธุรกิจสู่ตลาด APAC "

เมื่อมองไปข้างหน้า Netizen มีแผนระยะยาวสําหรับระบบอัตโนมัติ รวมถึงการสอน Celigo ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยปีสุดท้าย การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ (COE) สําหรับเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ และขยายโครงการริเริ่มด้านระบบอัตโนมัติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น

Netizen ยังคงสร้างสรรค์และพัฒนาโซลูชันที่รวมระบบ SAP เข้ากับระบบปฏิบัติการต่างๆ เพื่อรองรับการขยายและการเติบโตของธุรกิจ การเป็นพันธมิตรกับ Celigo เป็นส่วนสําคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังดำเนินอยู่นี้

"ตลอดการเป็นพันธมิตรของเรา การสนับสนุนของ Celigo ยังคงไม่มีอะไรพิเศษเลย" Seree Satukijchai ให้ความเห็น "พวกเขาให้วิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็ว และให้ความช่วยเหลือเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นในการดําเนินงานของเรา และรับประกันความต่อเนื่องที่ราบรื่นของกระบวนการทางธุรกิจของเรา การสนับสนุนของพวกเขาได้กลายเป็นรากฐานที่สําคัญที่ขาดไม่ได้ของความสําเร็จที่ครอบคลุมของเรา"

เกี่ยวกับ Celigo

Celigo เป็นแพลตฟอร์มบูรณาการชั้นนําที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในฐานะบริการ (iPaaS) ที่ Celigo เราเข้าใจตลาดที่กําลังพัฒนาและเชื่อว่าทุกคนในองค์กรของคุณควรเข้าถึงการบูรณาการได้ แพลตฟอร์มของเราสร้างขึ้นสําหรับทั้งผู้ใช้สายงานธุรกิจและทีมงานด้านเทคนิค ส่งเสริมระบบอัตโนมัติในทุกระดับของธุรกิจ และทำให้เกิดการเติบโตและนวัตกรรมในวงกว้าง สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.celigo.com ติดตามเราได้ที่ LinkedIn,  X,  Facebook และ Instagram

เกี่ยวกับ Netizen

Netizen เป็น SAP Platinum Partner ชั้นนําที่ให้คําปรึกษาและนำระบบ SAP มาใช้มานานกว่า 20 ปี บริษัทให้ความสำคัญกับ Business Technology Transformation (BTX) บูรณาการเทคโนโลยีเพื่อรองรับการดําเนินงานของลูกค้าในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.netizen.co.th

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สื่อ
Alex Miller
fama PR for Celigo
Celigo@famapr.com

ที่มา: Celigo

การออกแบบเพื่อเท่าเทียม: แบบจําลองสําหรับการจัดการความเสี่ยงที่เลือกปฏิบัติของ AI

Logo

Mary Kay สนับสนุนมาตรฐานทางกฎหมายชุดใหม่เกี่ยวกับการออกแบบเพื่อเท่าเทียมที่บุกเบิกโดย Equal Rights Trust

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)--16 กุมภาพันธ์ 2024

ตั้งแต่ปี 2021 Mary Kay Inc. ได้ร่วมมือกับ Equal Rights Trust (ERT) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีภารกิจในการพัฒนาความเท่าเทียมกันผ่านกฎหมายทั่วโลก ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ Mary Kay Inc. ได้สนับสนุนการวิจัยใหม่ ที่มุ่งเน้นไปที่การทําความเข้าใจ และจัดการกับผลกระทบที่เลือกปฏิบัติของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผลกระทบต่อความเท่าเทียมทางเพศ และการพัฒนา "แนวทางการออกแบบเพื่อเท่าเทียม" ใหม่

“Our collaboration with Equal Rights Trust underscores our dedication to ensuring that technological advancements, especially in AI, champion gender equality. The impact of the Principles on Equality by Design in Algorithmic Decision-Making has already been transformative for key stakeholders in AI and echoes our commitment to helping create an inclusive digital economy where women entrepreneurs can excel without bias or barriers,” said Melinda Foster Sellers, Chief People Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

"ความร่วมมือของเรากับ Equal Rights Trust ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการสร้างความมั่นใจว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน AI สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ผลกระทบของหลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึมได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วสําหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักใน AI และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ครอบคลุม ซึ่งผู้ประกอบการสตรีสามารถเป็นเลิศได้โดยปราศจากอคติหรืออุปสรรค” Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าว (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

ความคิดริเริ่มนี้จบลงด้วยการเปิดตัวมาตรฐานทางกฎหมายชุดใหม่ – หลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึม – พัฒนาโดย Equal Rights Trust และได้รับการรับรองโดยกลุ่มองค์กรความเสมอภาคระหว่างประเทศชั้นนํา หลักการนี้อธิบายอย่างละเอียดว่าเหตุใดรัฐบาลและภาคธุรกิจของประเทศต่างๆ จึงต้องนําแนวทางดังกล่าวมาใช้ และให้คําแนะนําโดยละเอียดสําหรับการนําไปปฏิบัติ

Jim Fitzgerald ผู้อํานวยการ Equal Rights Trust เพิ่งเผยแพร่บทความที่เน้นย้ำถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของปัญญาประดิษฐ์ ในขณะเดียวกันก็เตือนเกี่ยวกับผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ และภัยคุกคามที่เลือกปฏิบัติที่ระบบอัลกอริทึมที่ไม่ได้รับการควบคุมอาจก่อให้เกิด

  • อ่านบทความของ Jim Fitzgerald เรื่อง การออกแบบเพื่อเท่าเทียม: แบบจำลองสำหรับการจัดการความเสี่ยงที่เลือกปฏิบัติของ AI ที่นี่

คําแถลงจาก Jim Fitzgerald ผู้อํานวยการ Equal Rights Trust และ Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. มีดังต่อไปนี้:

  •      "ในช่วงสามปีที่ผ่านมา Mary Kay ได้สนับสนุนการวิจัย การวิเคราะห์ และการให้คําปรึกษาของเราเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติด้วยอัลกอริทึม และช่วยให้เราสามารถพัฒนาหลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียม" Jim Fitzgerald ผู้อํานวยการ Equal Rights Trust กล่าว  "ตอนนี้ Mary Kay กําลังทํางานร่วมกับเราในขณะที่เราก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไป: ความพยายามร่วมกันในการพัฒนาแนวทางปฏิบัติสําหรับธุรกิจ เกี่ยวกับวิธีการนําการออกแบบเพื่อเท่าเทียมมาใช้ ในการทําเช่นนั้น มันกําลังก้าวไปอีกขั้นในการเดินทางซึ่งเริ่มต้นด้วยนโยบายความเท่าเทียมภายในและการไม่เลือกปฏิบัติที่แข็งแกร่ง ย้ายไปที่การทำงานร่วมกันและสนับสนุนเราและผู้มีบทบาทอื่นๆ ในสาขานี้ และตอนนี้มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะ และนําร่องแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ในการเดินทางครั้งนี้ Mary Kay กําลังช่วยสร้างแบบจําลองว่าธุรกิจต่างๆ สามารถมีบทบาทเชิงรุกในการพัฒนาแนวทางที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติและพัฒนาความเท่าเทียมกันได้"
  •      "ที่ Mary Kay เราตระหนักถึงผลกระทบอันลึกซึ้งที่ AI มีต่อการกําหนดอนาคตของธุรกิจและสังคม" Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าว "ความร่วมมือของเรากับ Equal Rights Trust ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการสร้างความมั่นใจว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน AI สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ผลกระทบของหลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึมได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วสําหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักใน AI  และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ครอบคลุม ซึ่งผู้ประกอบการสตรีสามารถเป็นเลิศได้โดยปราศจากอคติหรืออุปสรรค ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจที่ยั่งยืนของเรา ในการส่งเสริมผู้หญิงเป็นผู้นำ และส่งเสริมความเท่าเทียมกันในทุกด้าน"

เกี่ยวกับ Equal Rights Trust

Equal Rights Trust เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศที่เป็นอิสระ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติและรับรองว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ องค์กรจึงทํางานร่วมกับเพื่อให้การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ที่อยู่ในแนวหน้าในการต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถผลักดันให้มีการพัฒนา การยอมรับ และการบังคับใช้กฎหมายความเท่าเทียมกัน และใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ปี 2007 Trust ได้สนับสนุนนักเคลื่อนไหวด้านความเท่าเทียมในกว่า 50 ประเทศ ขณะเดียวกันก็พัฒนาฉันทามติในระดับสากล เกี่ยวกับความต้องการและเนื้อหาของกฎหมายความเท่าเทียมที่ครอบคลุม เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ equalrightstrust.org

เกี่ยวกับ Mary Kay

ตั้งแต่นั้นมา  เดี๋ยวนี้  เสมอ  Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่สามารถทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการยกระดับชีวิตของผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลก ที่มีสมาชิกพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงในการกําหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คําปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสําอางตกแต่งสี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราสําหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการล่วงละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทําตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ X (เดิมชื่อ Twitter)

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53896783/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc




เชิญเข้าสู่ยุค 5G ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดย GIGABYTE จะนำเสนอเซิร์ฟเวอร์ สำหรับยุคถัดไปเพื่อ AI/HPC, โทรคมนาคม และ แนวคิดคอมพิวเตอร์สีเขียวที่งาน MWC 2024

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2024

GIGABYTE Technology ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านไอทีที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมระดับโลกผ่านระบบคลาวด์และคอมพิวเตอร์ AI จะมาร่วมงาน MWC 2024 พร้อมด้วยเซิร์ฟเวอร์สำหรับยุคถัดไปที่จะเสริมศักยภาพให้กับการโทรคมนาคม ผู้ให้บริการคลาวด์ องค์กร รวมไปถึง SMB เพื่อควบคุมค่าของ 5G และ AI จุดเด่นคือเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ล้ำสมัยซึ่งมี AMD Instinct™ MI300X 8-GPU และเซิร์ฟเวอร์รุ่น AI/HPC ที่ครอบคลุมซึ่งจะสนับสนุนเทคโนโลยีชิปล่าสุดจาก AMD, Intel และ NVIDIA นอกจากนั้น งานแสดงนี้ยังจะนำเสนอโซลูชันคอมพิวเตอร์สีเขียวแบบบูรณาการอันยอดเยี่ยมในการรับมือกับความร้อน การกระจายตัวและยังลดพลังงานลง

Inviting the AI-powered 5G Era, GIGABYTE will Present Next-Gen Servers for AI HPC, Telecom, and Green Computing Solutions at MWC 2024

เชิญเข้าสู่ยุค 5G ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดย GIGABYTE จะนำเสนอเซิร์ฟเวอร์ สำหรับยุคถัดไปเพื่อ AI/HPC, โทรคมนาคม และ แนวคิดคอมพิวเตอร์สีเขียวที่งาน MWC 2024 (รูปภาพ: Business Wire)

การนำเสนอของ GIGABYTE จะสานต่อธีมบูธอันได้แก่  “Future of COMPUTING” โดยจะครอบคลุม servers สำหรับ AI/HPC ,เครือข่าย RAN และ Core ,แพลตฟอร์ม edge แบบโมดูลาร์ ,โซลูชันคอมพิวเตอร์สีเขียวแบบออลอินวัน และเทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเองที่ขับเคลื่อนด้วย AI การจัดแสดงจะสาธิตวิธีที่อุตสาหกรรมต่างๆ ขยายแอปพลิเคชัน AI จากคลาวด์ไปยัง Edge และอุปกรณ์ปลายทางผ่านการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งจะขยายโอกาสในอนาคตด้วยเวลาในการออกสู่ตลาดที่เร็วขึ้นและการดำเนินงานที่ยั่งยืน โดยการจัดแสดงจะเป็นระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 29 กุมภาพันธ์ที่บูธ  #5F60 ฮอลล์ 5 เมืองฟีร่า กรานเวีย, บาร์เซโลนา

'ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์' (AI supercomputer) แห่งอนาคต

ความต้องการสำหรับ AI-ready infrastructure และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูงกำลังเพิ่มขึ้นภายในกรอบงาน 5G การดำเนินธุรกิจ และการวิจัยทางวิชาการ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตแบบทวีคูณของปริมาณข้อมูลและความซับซ้อนของโมเดล AI ซึ่ง GIGABYTE จะจัดแสดงซีรีส์ล่าสุดของ AI/HPC servers และเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลแบบ all-flash array (AFA) ซิร์ฟเวอร์เหล่านี้รองรับโมดูล GPU AMD Instinct™ MI300X OAM, MI300A APUs, 5th Gen Intel® Xeon® Scalable Processors, NVIDIA HGX H100 8-GPU, และ NVIDIA Grace Hopper Superchip ยังใช้ประโยชน์จาก next-gen HBM3 เพื่อให้มั่นใจในการส่งข้อมูลความเร็วสูง เทคโนโลยีนี้นไปสู่ก้าวกระโดดซึ่งพร้อมที่จะพัฒนาปริมาณงานของ AI ระดับ exascale และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์

สถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์ที่ยืดหยุ่นสำหรับเครือข่าย 5G ที่ใช้ AI

การใช้งานแอปพลิเคชัน 5G จำนวนมากจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ได้รับการกำหนดค่าอย่างยืดหยุ่นซึ่งสามารถรองรับระบบนิเวศไอทีที่หลากหลายได้ GIGABYTE จะเปิดตัวหนึ่งในแพลตฟอร์ม Edge แบบโมดูลาร์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการปริมาณงานที่หลากหลาย รวมถึงการทำเครือข่าย, AI inferencing และการประมวลผลแบบคลาวด์ แพลตฟอร์มนี้ให้การอัพเกรดอย่างราบรื่นเพื่อรองรับเทคโนโลยีชิปและส่วนประกอบหลายรุ่น ทำให้มั่นใจได้ถึงการปรับตัวที่คล่องตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วพร้อมค่าบำรุงรักษาที่ลดลง

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับแอปพลิเคชัน 5G และ AI ในธุรกิจที่มีขนาดแตกต่างกัน GIGABYTE จะเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ล่าสุดที่ปรับแต่งสำหรับเครือข่าย RAN และ Core ได้ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้นำเสนอประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งรองรับความต้องการด้านการประมวลผลที่หลากหลายจาก cloud-native ขนาดใหญ่ ปริมาณงานและบริการโทรคมนาคมสำหรับการดำเนินงานด้าน IT ของ SMB เป็นเลิศในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานและให้โอกาสในการขยายสำหรับ AI-accelerated computing

AI ที่ยั่งยืนและการประมวลผลบนคลาวด์ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า TCO จะได้รับการปรับปรุงอย่างเหมาะสม

ที่ MWC, GIGABYTE ถูกกำหนดให้จัดแสดงโซลูชันคอมพิวเตอร์สีเขียวแบบออลอินวันที่ครอบคลุม ซึ่งประกอบไปด้วย immersion cooling tank ขนาดใหญ่และ immersion-ready servers สองเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับ AI และการประมวลผลแบบคลาวด์ การจัดแสดงเน้นย้ำความสามารถในการกระจายความร้อนที่โดดเด่นและ การใช้พลังงานลดลงอย่างเห็นได้ชัดคุณสมบัติเหล่านี้แปลเป็นต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ที่ดีโดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ GIGABYTE ในด้านโซลูชั่นคอมพิวเตอร์ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

Future-Proof E-mobility ขับเคลื่อนโดย Edge AI

ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G และอัลกอริธึม AI ขั้นสูง เทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติของ GIGABYTE มอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะล้ำสมัยที่ขับเคลื่อนโดย Edge AI ประสิทธิภาพการส่งข้อมูลความเร็วสูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) และระบบ telematics จะประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลจาก กล้อง เรดาร์ และเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกช่วยให้ระบบสามารถตัดสินใจขับขี่แบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาพถนนที่ซับซ้อน

ที่บูธของ GIGABYTE องค์กรต่างๆ สามารถสำรวจโซลูชันการประมวลผลที่เป็นนวัตกรรมและยืดหยุ่น ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของพวกเขาเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคตแบบ AI-accelerated 5G ได้

เยี่ยมชม GIGABYTE’s MWC event page.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53889993/en

เนื้อหาใจความในภาษาตน้ ฉบับของขา่ วประชาสัมพันธฉ์ บับนี้เป็นฉบับทเี่ ชอื่ ถอื ไดแ้ละเป็นทางการ การแปลต ้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออ านวยความสะดวกเท่านั้น และควรน าไปเทียบเคียงอ ้างอิง กับเนื้อหาในภาษาต ้นฉบับ ซงึ่ เป็นฉบับเดยี วทมี่ ผี ลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

แหล่งที่มา: GIGABYTE

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดตัว “Falcon Foundation” เพื่อสนับสนุนโอเพ่นซอร์สของโมเดลเจนเนอเรทีฟเอไอ

Logo

มูลนิธิเพื่อการแบ่งปันความรู้และก่อให้เกิดการประชาภิวัตน์ของเอไอ

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี TII มอบเงิน 300 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการในอนาคต

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–13 กุมภาพันธ์ 2024

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี (TII) ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ขั้นนำระดับโลกและเสาหลักการวิจัยประยุกต์ของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของอาบูดาบี ได้ประกาศในวันนี้ถึงการเปิดตัว “Falcon Foundation” ซึ่งทางFalcon Foundation มุ่งมั่นในการพัฒนาโมเดลเจนเนอเรทีฟเอไอแบบโอเพ่นซอร์สและเพื่อการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนของโครงการโอเพ่นซอร์สที่ช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี ทาง TII จะมอบเงินจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นทุนให้โครงการเหล่านี้ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้ง

การเปิด Falcon Foundation เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดรัฐบาลโลกปี 2024 (WGS) อันทรงเกียรติและถือเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญในการประชุมความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อสร้างโมเดลการกำกับดูแลที่โปร่งใส และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ ในขณะที่ AI ยังคงกำหนดเส้นทางการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

ทางมูลนิธิจะเรียกตัวผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นักพัฒนา นักวิชาการ และอุตสาหกรรม รวมถึงบุคคลทั่วไป โดยเริ่มต้นด้วยโมเดล Falcon AI อันทรงพลังของ TII และจะช่วยให้ตระหนักถึงพลังของการตัดสินใจแบบร่วมมือกันระหว่างผู้ร่วมให้ข้อมูล โดยจะช่วยเร่งการทำให้ AI เป็นประชาภิวัตน์ด้วยความช่วยเหลือจาก Falcon Foundation Ambassadors อันมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นอาจารย์ด้าน AI ที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมถึงผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมในสาขา AI

มูลนิธินี้มีไว้เพื่อสนับสนุนการปรับแต่งโมเดล Falcon เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมหรือภาคส่วนเฉพาะ ด้วยการเปิดใช้งานทรัพยากรคอมพิวเตอร์แบบเปิดสำหรับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Falcon AI มูลนิธิจะจัดให้มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสามารถในการปรับตัวของโมเดลนี้ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ และบริบทที่หลากหลาย

Faisal Al Bannai เลขาธิการ ATRC มีความเห็นว่า "ในโลกที่เอไอยังคงก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โครงการริเริ่มต่างๆ เช่น Falcon Foundation มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวิถีการพัฒนา AI ไปสู่ความโปร่งใสและการเข้าถึงที่มากขึ้น"

Dr. Ray O. Johnson, CEO ของ TII กล่าวว่า: "เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความโปร่งใสและความร่วมมือในด้าน AI ด้วยการขยายจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปสู่การพัฒนา AI เราได้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการเปิดกว้าง และเรายังสนับสนุนให้หน่วยงานอื่นๆ ทั้งหมดที่สนับสนุนโอเพ่นซอร์สจากทั่วโลกเข้าร่วมกับเรา”

ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากมูลนิธิจะครอบคลุมหน่วยงานทั้งหมดที่ทำงานร่วมกับและเป็นผู้สนับสนุน AI ที่มีความรับผิดชอบแบบโอเพ่นซอร์ส ในการลดการพึ่งพาผู้จำหน่ายภายนอกนั้น ทาง Falcon Foundation จะต้องรับประกันความต่อเนื่องทางธุรกิจผ่านการเปิดใช้งานทางเลือกทางเทคโนโลยีที่เป็นอิสระ ในฐานะองค์กรที่เปิดกว้างสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนที่มีความมุ่งมั่นต่อโอเพ่นซอร์ส มูลนิธิจะใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกโดยเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการกำกับดูแลและกฎหมายสำหรับปัญญาประดิษฐ์

ความมุ่งมั่นของมูลนิธิ Falcon Foundation ในด้านโอเพ่นซอร์สและนวัตกรรมในด้าน AI จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการคิดไปข้างหน้าที่จะช่วยให้อาบูดาบีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก้าวกระโดดไปสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และสนับสนุนชุมชนทั่วโลกในการเก็บเกี่ยวความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมเพื่อความก้าวหน้าที่สำคัญด้าน AI

ที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan, Senior Director of Communications
jennifer.dewan@tii.ae.

ที่มา: The Technology Innovation Institute

ETT | iByond™ ลงนามในสัญญามูลค่า 888 ล้านเหรียญสหรัฐกับ Capstone เพื่อมอบการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั่วโลกให้กับอุตสาหกรรมประกันภัย

Logo

ปาล์มบีช ฟลอริดา –(BUSINESS WIRE)–14 กุมภาพันธ์ 2024

เทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ “ETT | iByond™” (ETT) ได้ทำข้อตกลงการให้บริการซอฟต์แวร์และใบอนุญาตเป็นเวลาห้าปี ("ข้อตกลง") กับ Capstone Management Group ("Capstone" และ "บริษัท") ซึ่งมีมูลค่า 888 ล้านเหรียญสหรัฐตลอดอายุสัญญา ความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมประกันภัยผ่านโซลูชันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ล้ำสมัย

Christopher Condon | Chairman and CEO of ETT | iByond™ (Photo: Business Wire)

Christopher Condon | ประธานและซีอีโอของ ETT | iByond™ (รูปภาพ: Business Wire)

ETT | iByond™ ผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการ Intelligent Platform as a Service (iPaaS) ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้มอบความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการอัปเกรดระบบเดิมได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้อง 'ตัดทิ้งและเปลี่ยนใหม่' ทํางานในทุกอุตสาหกรรมเพื่อช่วยบริษัทหลายพันล้าน ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัยด้วยปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง (AI) แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และความเร็วของนวัตกรรมในหลายอุตสาหกรรม

Capstone เป็นบริษัทที่ปรึกษาและโฮลดิ้ง ซึ่งมีสินทรัพย์ที่หลากหลายในทุกสายงานของอุตสาหกรรมประกันภัยและการประกันภัยต่อ ผู้ก่อตั้ง Capstone มีประสบการณ์มากกว่า 90 ปีในด้านการประกันภัยและการประกันภัยต่อ และมีบทบาทสําคัญในการจัดตั้งโปรแกรมการดูแลสุขภาพที่ใช้ทุนตนเองสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ หลังจากการผ่าน ERISA ในปี 1974 ด้วยข้อตกลง Capstone ตอนนี้ ETT จะนําชุดเทคโนโลยีที่พลิกโฉมมาสู่อุตสาหกรรมประกันภัยและการประกันภัยต่อ ความร่วมมือระหว่าง Capstone Management Group และ ETT | iByond™ ส่งสัญญาณถึงก้าวสําคัญในนวัตกรรมภาคประกันภัย

การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม 'Intelligence Beyond' ของ ETT | iByond Capstone สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถในการทํางานร่วมกันของข้อมูล และใช้ปัญญาประดิษฐ์ แมชชีนเลิร์นนิง และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเปลี่ยนแปลงการประเมินความเสี่ยงและการรับประกันภัย ความก้าวหน้าเหล่านี้ช่วยปรับปรุงความแม่นยําของราคา การคาดการณ์ได้ และเวลาแฝงในการประมวลผล ด้วยความเชี่ยวชาญของ Capstone ในด้านโซลูชันการประกันภัย และการดูแลสุขภาพ แพลตฟอร์มของ iByond ลูกค้าสามารถคาดหวังโซลูชันความเสี่ยงแบบหลายทิศทางที่ปรับแต่งได้ ETT | iByond™ เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทํางานร่วมกันของข้อมูล ซึ่งจําเป็นในภาคการประกันภัย สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของปัญญาประดิษฐ์ แมชชีนเลิร์นนิง และการวิเคราะห์ข้อมูลในการประเมินความเสี่ยงและขั้นตอนการรับประกันภัย แพลตฟอร์มของ ETT | iByond อํานวยความสะดวกในการบูรณาการระหว่างการควบรวมและซื้อกิจการ Capstone สามารถควบคุมเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Artificial Intelligence of Things (AIOT) ที่ล้ำสมัยสําหรับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ เสริมศักยภาพในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วยความเชี่ยวชาญของ Capstone ในด้านโซลูชันการประกันภัยและการดูแลสุขภาพ บูรณาการกับแพลตฟอร์มของ ETT | iByond ลูกค้าสามารถคาดหวังโซลูชันความเสี่ยงแบบหลายทิศทางที่ปรับแต่งได้

ตลาดประกันภัยต่อทั่วโลกมีมูลค่า 498.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 และคาดว่าจะสูงถึง 1344.3 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2031 โดยเติบโตที่ CAGR 10.8% ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2031

Christopher Condon ประธานและซีอีโอของ ETT I iByond™ เน้นย้ำถึงคุณค่ามหาศาลที่ความร่วมมือนี้มอบให้กับนักลงทุนและลูกค้า โดยกล่าวว่า "ความร่วมมือของเรากับ Capstone Management Group ถือเป็นช่วงเวลาสําคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรมประกันภัย ด้วยนวัตกรรมที่มีความคิดก้าวหน้า ยกระดับการปฏิบัติงาน เพื่อให้บริการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราได้ดียิ่งขึ้น"

ในทํานองเดียวกัน Nino Pedrini ซีอีโอของ Capstone Management Group ได้เน้นย้ำถึงลักษณะการทํางานร่วมกันของการเป็นหุ้นส่วน โดยกล่าวว่า "ที่ Capstone เรามุ่งมั่นที่จะมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เราได้ทำตรวจสอบวิเคราะห์สถานะอย่างหนัก และเลือกแพลตฟอร์มของ the ETT | iByond เพื่อให้เราสามารถนําเสนอโซลูชันดิจิทัลที่เหนือชั้นและเป็นหนึ่งใน AI Data Engine ที่ทันสมัยที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมประกันภัย"

สัญญามูลค่า 888 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการลงทุนครั้งสําคัญในอนาคตของการประกันภัย ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่กล้าหาญในระดับโลก

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.ettworld.com หรือ www.capstonemg.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53895972/en

ติดต่อ

สําหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ:
jczelusniak@ettworld.com

ที่มา: Economic Transformation Technologies

 


American Express เตรียมเปิด Centurion Lounge ที่ใหญ่ที่สุดที่สนามบินนานาชาติ Hartsfield-Jackson Atlanta

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–14 กุมภาพันธ์ 2024

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ American Express (NYSE: AXP) จะเปิด  ห้องรับรอง Centurion แห่งใหม่ที่สนามบินนานาชาติ Hartsfield-Jackson Atlanta (ATL) ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก มีพื้นที่เกือบ 26,000 ตารางฟุต เป็นห้องรับรองที่ใหญ่ที่สุดใน เครือข่ายห้องรับรอง Centurion ประกอบด้วยเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นโดยเชฟ Deborah VanTrece จากแอตแลนตา ที่นั่งหลายแบบเพื่อให้แขกได้พักผ่อนหรือทํางานก่อนออกเดินทาง ระเบียงกลางแจ้งพร้อมวิวสนามบิน และ The Reserve by American Express บาร์วิสกี้สั่งทําพิเศษที่ให้บริการค็อกเทลอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ออกแบบโดย Jim Meehan, Centurion Mixologist พร้อมด้วยวิสกี้อเมริกันคลาสสิกและใหม่ที่ได้รับการคัดสรรมา 1 ห้องรับรอง Centurion แห่งใหม่ตั้งอยู่ในอาคารเทียบเครื่องบิน E ใกล้กับประตู E11

American Express To Open Largest Centurion Lounge at Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport (Photo: Business Wire)

American Express เตรียมเปิด Centurion Lounge ที่ใหญ่ที่สุดที่สนามบินนานาชาติ Hartsfield-Jackson Atlanta (รูปภาพ: Business Wire)

" ห้องรับรอง Centurion แห่งใหม่ที่สนามบินนานาชาติ Hartsfield-Jackson Atlanta จะให้บริการนักเดินทางในสนามบินแห่งใดแห่งหนึ่งที่สมาชิกบัตรของเราไปบ่อยที่สุด" Audrey Hendley ประธาน American Express Travel กล่าว "มีสิ่งอํานวยความสะดวกที่เรารู้ว่านักเดินทางชื่นชอบ เช่น ระเบียงกลางแจ้ง และพื้นที่พักผ่อนมากมาย พร้อมด้วยกลื่นอายของท้องถิ่นที่ผสมผสานอยู่ในเมนูอาหารและการออกแบบ ซึ่งแขกจะจดจําไปอีกนานหลังจากการเดินทาง"

ศิลปะและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “เมืองในป่า”
การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากชื่อเสียงของแอตแลนตาในฐานะ "เมืองในป่า" และต้นไม้อันอุดมสมบูรณ์ ตลอดจนถึงความหลงใหลในการดูแลสุขภาพของสมาชิกบัตรของเรา บริเวณที่นั่งหลักมีต้นมะกอกอายุ 50 ปี และประติมากรรมแสงแบบกําหนดเองขนาด 3,850 ตารางฟุตที่สื่อถึงร่มเงาของป่า ทำให้เกิดพื้นที่พักผ่อนสําหรับสมาชิกบัตร เพื่อผ่อนคลายก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังสามารถเพลิดเพลินกับระเบียงกลางแจ้งหลายแห่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสําหรับเครือข่ายห้องรับรอง Centurion พื้นที่นั่งเล่นที่มีภูมิทัศน์อย่างพิถีพิถันเหล่านี้ มีเครื่องทําความร้อนและพัดลมสำหรับใช้งานตลอดทั้งปี

ห้องรับรองจัดแสดงงานศิลปะที่ได้รับมอบหมายจากศิลปินท้องถิ่น รวมถึงการตีความพื้นผิวใหม่ของสุนัขเฝ้าบ้าน American Express โดย Lucha Rodríguez และผลงานมัลติมีเดียขนาดใหญ่โดย Michi Meko ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ของจอร์เจีย นอกจากนี้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาด 60 ฟุตที่มีรูปร่างคล้ายใบไม้นามธรรม ซึ่งวาดโดย Evan Blackwell Helgeson ทอดยาวจากพื้นที่รับประทานอาหารภายในไปจนถึงระเบียงด้านนอก

อาหารโซลฟู้ดระดับโลกที่ทันสมัยซึ่งคัดสรรโดยเชฟ Deborah VanTrece แห่งแอตแลนตา
เชฟ Deborah VanTrece เจ้าของร้านอาหารท้องถิ่นในแอตแลนตา Twisted Soul Cookhouse &; Pours, Oreatha's At The Point และ La Panarda ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถจองผ่าน Resy ได้ จะนําเมนูโซลฟู้ดระดับโลกที่ทันสมัยมาเสิร์ฟถึงห้องรับรอง ด้วยการใช้รสชาติและเทคนิคที่เธอค้นพบในการเดินทางรอบโลกในฐานะอดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และปรับปรุงด้วยประเพณีอาหารของครอบครัวของเธอเอง และวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น เมนูที่กําหนดเอง ได้แก่ Black Eyed Pea Biryani, Za'atar Grilled Chicken Thighs กับ Green Tomato Chimichurri และ Twisted Soul Salad กับ Strawberry Peppercorn Vinaigrette นอกจากนี้ จะมีจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ พร้อมตัวเลือกอาหารปลอดกลูเตนและมังสวิรัติ รวมถึงโปรตีนกัด สลัด สมูทตี้ และน้ำผลไม้เสริมภูมิคุ้มกัน

"แอตแลนตากลายเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมและอาหารที่น่าสนใจมาก ฉันตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ American Express เพื่อนําอาหารที่เฉลิมฉลองประเพณีเหล่านี้ พร้อมด้วยวัตถุดิบทางตอนใต้ที่ดีที่สุดมาสู่ห้องรับรอง Centurion ที่สนามบินนานาชาติ Hartsfield-Jackson Atlanta" เชฟ Deborah VanTrece กล่าว "การเดินทางเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวทางของฉันในฐานะเชฟ และฉันรู้สึกมีความสุขที่ความร่วมมือนี้  ทำให้ฉันสามารถแบ่งปันวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ด้านอาหารและการต้อนรับกับนักเดินทางจากทั่วโลก"

บาร์วิสกี้แห่งแรกเครือข่าย Centurion1
The Reserve by American Express เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของวิสกี้อเมริกัน โดยเป็นบาร์วิสกี้แห่งแรกในห้องรับรอง Centurion  เมนูค็อกเทลที่คัดสรรโดยนักผสมเครื่องดื่มที่ได้รับรางวัล Jim Meehan ประกอบด้วยค็อกเทลวิสกี้พิเศษ 5 ชนิด ได้แก่ Drink a Peach พร้อมวิสกี้รสพีชและบิทเทอร์ และ Mayme, Tailored ที่เน้นวิสกี้อเมริกันผสมกับเบียร์ขิง นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกวิสกี้อเมริกันคลาสสิกและวิสกี้ใหม่กว่า 20 ชนิด บาร์นําเสนอบาร์วิสกี้คลาสสิกในรูปแบบที่ทันสมัย พร้อมการตกแต่งสีเข้มและที่นั่งหนังคาราเมล และเชื่อมต่อกับพื้นที่รับรองกลางแจ้ง ห้องรับรองยังมีบาร์หลักที่มีเครื่องดื่มครบครันพร้อมไวน์ 10 ชนิดที่คัดสรรโดยซอมเมอลิเยร์ และ Anthony Giglio ผู้อํานวยการด้านไวน์ของห้องรับรอง Centurion เมนูค็อกเทลท้องถิ่นรวมถึงตัวเลือกที่ปราศจากแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของห้องรับรอง Centurion

สิ่งอํานวยความสะดวกอันเป็นเอกลักษณ์ของห้องรับรอง Centurion สําหรับนักเดินทางทุกประเภท
นักเดินทางจะได้พบกับสิ่งอํานวยความสะดวกอันเป็นเอกลักษณ์ของห้องรับรอง Centurion รวมถึงพื้นที่ทำงาน และตู้โทรศัพท์โดยเฉพาะ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำระดับพรีเมียม พื้นที่นั่งเล่นหลายจุด และอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ความเร็วสูงฟรี

พบปะสมาชิกบัตรมากขึ้นในสถานที่ต่างๆ มากขึ้น
ด้วยตัวเลือกห้องรับรองในสนามบินที่มากกว่าผู้ออกบัตรเครดิตรายอื่น ๆ และเป็นผู้ออกบัตรเครดิตเพียงรายเดียวที่มีห้องรับรองที่เป็นกรรมสิทธิ์ที่ ATL American Express Global Lounge Collection™ จึงเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ วิธีที่ American Express สนับสนุนสมาชิกบัตรในขณะที่พวกเขาเดินทาง ซึ่งรวมถึงสิทธิ์เข้าใช้ห้องรับรอง Centurion 28 แห่งและห้องรับรองกว่า 1,400 แห่งทั่วโลก American Express ยังคงขยายและปรับปรุงเครือข่ายห้องรับรอง Centurion อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะเปิดห้องรับรองแห่งใหม่ที่สนามบินแห่งชาติเรแกน (DCA) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และสนามบินนานาชาตินวร์กลิเบอร์ตี้ (EWR) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์

เกี่ยวกับ AMERICAN EXPRESS

American Express เป็นบริษัทชําระเงินแบบครบวงจรทั่วโลก โดยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเชิงลึก และประสบการณ์ที่ยกระดับชีวิต และสร้างความสําเร็จทางธุรกิจ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ americanexpress.com และเชื่อมต่อกับเราบน facebook.com/americanexpressinstagram.com/americanexpressthreads.net/@americanexpresstiktok.com/@americanexpresslinkedin.com/company/american-expresstwitter.com/americanexpress และ youtube.com/americanexpress.

ลิงก์หลักไปยังผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อมูลความยั่งยืนขององค์กร:   บัตรส่วนบุคคล นามบัตรและบริการ บริการด้านการท่องเที่ยว  บัตรของขวัญ บัตรเติมเงิน บริการร้านค้า Accertify  พิมพ์เขียวธุรกิจ Resy บัตรองค์กร การเดินทางเพื่อธุรกิจ ความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก ความยั่งยืนขององค์กร และรายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

เกี่ยวกับ THE CENTURION LOUNGE

Centurion Lounge เป็นโปรแกรมห้องรับรองอันเป็นเอกลักษณ์ภายใน American Express Global Lounge Collection ที่กว้างขึ้น ซึ่งรวมถึงสิทธิ์เข้าใช้บริการ American Express Centurion Lounges, Escape Lounges – The Centurion Studio Partner, Delta Sky Club® สําหรับสมาชิกบัตรที่บินกับ Delta, Priority Pass™ เลือกห้องรับรองเมื่อลงทะเบียน Plaza Premium Lounges  เลือก Lufthansa Lounges เมื่อบินกับกลุ่ม Lufthansa และห้องรับรองพันธมิตร Global Lounge Collection เพิ่มเติม – รวมมากกว่า 1,400 ห้องรับรองใน 140 ประเทศและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สมาชิกบัตรที่มีสิทธิ์สามารถค้นหาห้องรับรองได้ที่เว็บไซต์ Global Lounge Collection https://americanexpress.com/findalounge หรือโดยใช้แอป American Express® พวกเขายังสามารถเริ่มกระบวนการเช็คอินสําหรับห้องรับรอง Centurion ผ่านเครื่องมือเช็คอินมือถือภายในแอป American Express®

เกี่ยวกับสนามบินนานาชาติ HARTSFIELD-JACKSON ATLANTA

ATL เป็นสนามบินแห่งแรกในประวัติศาสตร์ที่ให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 100 ล้านคนในหนึ่งปี และยังคงมีจํานวนผู้โดยสารสูงสุดทั่วโลก เพื่อตอบสนองต่อการแพร่ระบาดใหญ่ Hartsfield-Jackson ได้ให้ความสําคัญกับการใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาประสิทธิภาพ และเสถียรภาพทางการเงิน สนามบินมีผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยตรงถึง 66 พันล้านเหรียญสหรัฐในรัฐ ATL ได้รับรางวัลความเป็นเลิศบ่อยครั้ง โดยได้รับการยอมรับในด้านความเป็นผู้นําในด้านสัมปทาน การดำเนินงาน ความยั่งยืน วิศวกรรมสถาปัตยกรรม และการก่อสร้าง สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.atl.com

1 ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไปจึงจะสามารถบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ กรุณาดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ

Source: American Express Company

Location: Global

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53895582/en

Contacts

AMERICAN EXPRESS 
Ali Barlow
Ali.Barlow@aexp.com

ที่มา: American Express Company



ATRC ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดตัวแพลตฟอร์ม R&D เทคโนโลยีระดับโลกที่งาน WGS 2024: จัดสรรเงินทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมเพื่อประเทศกําลังพัฒนา

Logo

  • ATRC เรียกร้องให้ทุกประเทศมองหาโซลูชันด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านเทคโนโลยีของตน
  • สนับสนุนเงินทุนเพื่อดูดซับทรัพยากร ต้นทุนการวิจัย เพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศกําลังพัฒนาด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–12 กุมภาพันธ์ 2024

ในการประกาศครั้งสําคัญในวันที่ 1 ของการประชุมสุดยอดรัฐบาลโลก (WGS) 2024 สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของอาบูดาบี ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มบุกเบิกที่มุ่งอํานวยความสะดวก ในการเข้าถึงโซลูชันเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยทั่วโลก 'ATRC Global Tech R&D Platform' ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ทําหน้าที่เป็นช่องทางสําหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อจัดการกับความท้าทายที่ไม่เหมือนใคร

ในฐานะที่เป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังอาบูดาบีและระบบนิเวศด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ขั้นสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โครงการริเริ่มนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ ATRC ที่จะส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุมและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก ในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มนี้พยายามเชื่อมช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกำลังประสบอยู่ ด้วยการนําเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเร่งด่วนของพวกเขา

ในการเริ่มต้นการสมัครแอปพลิเคชันผ่านแพลตฟอร์ม ATRC จะจัดสรรเงินทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเร่งสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับประเทศเกิดใหม่ และประเทศกําลังพัฒนา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะดูดซับทรัพยากรและต้นทุนการวิจัย เงินทุนดังกล่าวจะช่วยอํานวยความสะดวกในการพัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีที่ซับซ้อน เสริมศักยภาพให้ประเทศเหล่านี้ให้ทันกับความก้าวหน้าล่าสุด

แพลตฟอร์ม ATRC Global Tech R&D เชิญชวนแอปพลิเคชันจากรัฐบาล องค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีสิทธิ์ทั่วโลก โดยให้ความสําคัญกับการทํางานร่วมกันและการไม่แบ่งแยก ด้วยกระบวนการประเมินที่เข้มงวด โครงการริเริ่มต่างๆที่สอดคล้องกับภารกิจของแพลตฟอร์ม จะได้รับการสนับสนุนในหกภาคส่วนที่มีความสําคัญ ได้แก่ การบินและอวกาศ อาหารและการเกษตร ดูแล สุขภาพ; ความปลอดภัยและความมั่นคง ความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม และพลังงาน และการขนส่ง

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการ ATRC เน้นย้ำถึงผลกระทบระดับโลกของโครงการริเริ่มนี้ โดยกล่าวว่า "ความมุ่งมั่นของเราคือการเสริมศักยภาพให้กับทุกประเทศ ด้วยวิธีการที่จะเติบโตในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนี้ ATRC พร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของเราในด้านเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับความท้าทาย และขับเคลื่อนความก้าวหน้าร่วมกันในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI"

ตลอดระยะเวลาเกือบสี่ปี ATRC ได้พัฒนาระบบนิเวศด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง โดยมีนักวิจัยมากกว่า 850 คนจากกว่า 70 ประเทศ ได้สร้างระบบนิเวศทั้งหมดที่สนับสนุนทุกขั้นตอนที่สําคัญของเส้นทางการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ บริษัทในเครือ ASPIRE ระดมผู้มีความสามารถระดับโลกผ่านความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ และการแข่งขันระดับโลก และระบุช่องว่างทางเทคโนโลยีกับลูกค้า Technology Innovation Institute (TII) มุ่งเน้นไปที่การวิจัยประยุกต์ด้วยผลลัพธ์ที่ตั้งใจ และเป็นที่ตั้งของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนํา ในขณะที่ VentureOne ดำเนินธุรกิจโซลูชันของตนในเชิงพาณิชย์ โดยนําผลิตภัณฑ์และบริการด้านการวิจัยและพัฒนาจากห้องปฏิบัติการสู่ตลาด

ATRC นําเสนอขีดความสามารถที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมควอนตัม และ AI หุ่นยนต์อัตโนมัติ วิทยาการเข้ารหัสลับ ตลอดจนวัสดุขั้นสูง การขับเคลื่อน และอวกาศ ซึ่งเป็นแนวทางความต้องการด้านเทคโนโลยีตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงนวัตกรรม

ตั้งแต่การระบุจุดบกพร่องด้านเทคโนโลยีขององค์กรไปจนถึงการพัฒนาโซลูชันการวิจัยและพัฒนาตามความต้องการ ATRC จัดเตรียมวงจรชีวิตของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สําหรับบริษัทและประเทศที่ต้องการการสนับสนุน ตั้งอยู่ที่ทางแยกระดับโลก ขยายการเข้าถึงไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก อํานวยความสะดวกด้านนวัตกรรมในระดับโลกอย่างแท้จริง

Al Bannai มีกําหนดจะกล่าวสุนทรพจน์เต็มในการประชุมสุดยอดรัฐบาลโลก โดยเน้นย้ำถึงมุมมองของเขาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ AI และโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่

Dr. Ray O. Johnson ซีอีโอของ TII ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยประยุกต์ระดับโลกของ ATRC แสดงทัศนคติในแง่ดีเกี่ยวกับศักยภาพของกองทุนในการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม และกล่าวว่า " เราจะช่วยระบุนวัตกรรมที่ยังไม่ได้ใช้ทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มนี้ และปลดปล่อยพลังของเทคโนโลยีแห่งการเปลี่ยนแปลง และจุดประกายการเติบโตทางเศรษฐกิจ"

ATRC เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกันและมีส่วนร่วมในภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีระดับโลก สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ATRC Tech R&D Fund ผู้สมัครสามารถติดต่อสภาผ่านทาง ASPIRE ได้ที่ aspireuae.ae

"เราอยู่ที่นี่เพื่อระบุช่องว่างทางเทคโนโลยี และอํานวยความสะดวกในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนซึ่งประเทศต่างๆ อาจจำเป็นต้องสํารวจ เพื่ออนาคตที่มีความยืดหยุ่น" Stephane Timpano ซีอีโอของ ASPIRE กล่าว

ในจุดยืนที่คล้ายกันเพื่อสนับสนุนการนําเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในวงกว้าง เมื่อปีที่แล้ว Technology Innovation Institute (TII) เป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่เปิดซอร์สโมเดลภาษาขนาดใหญ่ระดับโลกอย่าง Falcon 40B ภายใต้ใบอนุญาต Apache 2.0 – โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Jennifer Dewan, ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการสื่อสาร
jennifer.dewan@tii.ae.

สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC)
comms@atrc.gov.ae

ที่มา: สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง

Zextras Carbonio Community Edition: หนึ่งในแพลตฟอร์มสถานที่ทํางานและอีเมลดิจิทัลของ FOSS ที่ดีที่สุดสําหรับการสื่อสารและการทํางานร่วมกันแบบส่วนตัว

Logo

มิลาน–(BUSINESS WIRE)--13 กุมภาพันธ์ 2024

Zextras ผู้นําในการพัฒนาโซลูชันอีเมลที่เป็นนวัตกรรม ภูมิใจประกาศเปิดตัว Carbonio Community Edition (CE) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสถานที่ทํางานดิจิทัลแบบโอเพนซอร์สที่ล้ำสมัยและเต็มรูปแบบ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถโฮสต์สภาพแวดล้อมการทํางานร่วมกันได้ด้วยตนเอง เพื่อความเป็นส่วนตัวและการควบคุมที่เพิ่มขึ้น Carbonio CE มอบความเป็นส่วนตัวที่เหนือชั้นสําหรับธุรกิจที่กําลังมองหาทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ

  • โซลูชันโอเพนซอร์ส เช่น
    • Zimbra OSE
  • หรือโซลูชัน SaaS เช่น
    • G Suite
    • Microsoft 365 ออนไลน์

ในฐานะโซลูชัน FOSS (ซอฟต์แวร์แบบฟรีและโอเพนซอร์ส) Carbonio CE อนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานซอฟต์แวร์ของตนได้อย่างสมบูรณ์ ทําให้สามารถปรับแต่งและบูรณาการที่สอดคล้องกับข้อกําหนดเฉพาะของบริษัทได้

คุณสมบัติ

แพลตฟอร์มอันทรงพลังนี้รวมเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ เช่น

  • อีเมล
  • ปฏิทิน
  • รายชื่อผู้ติดต่อ
  • งาน
  • การสนทนา
  • วิดีโอแชท

อํานวยความสะดวกในสภาพแวดล้อมที่เหนียวแน่น ซึ่งสมาชิกในทีมสามารถเชื่อมต่อและทํางานร่วมกันได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ ไม่ว่าจะผ่าน เว็บไคลเอ็นต์ หรือ อุปกรณ์มือถือ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยถือเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบของ Carbonio CE เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ และป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

โซลูชันระดับองค์กร

Zextras ได้ควบคุมพลังของเทคโนโลยีโอเพนซอร์ส โดยนําเสนอโซลูชันระดับองค์กรให้กับธุรกิจทุกขนาด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายระดับองค์กร สถาปัตยกรรมที่ปรับขนาดได้ของ Carbonio CE ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปขององค์กรได้อย่างง่ายดาย ทําให้เหมาะสําหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (SMB)

นอกเหนือจากคุณสมบัติที่มีอยู่ทั่วไปแล้ว Carbonio CE ยังได้รับการสนับสนุนจากความเชี่ยวชาญอันโด่งดังของ Zextras ในด้านโซลูชันอีเมลและระบบการทํางานร่วมกัน ข้อเสนอใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปฏิวัติวิธีที่ธุรกิจต่างๆ สื่อสารภายใน และเป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของ Zextras ในการนําเสนอโซลูชันเทคโนโลยีชั้นยอด

ความพร้อมใช้งาน

Carbonio CE พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถก้าวแรกสู่สถานที่ทํางานดิจิทัลที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และทํางานร่วมกันได้มากขึ้น

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Carbonio Community Edition และวิธีที่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารขององค์กรของคุณ โปรดไปที่ https://lp.zextras.com/carbonio-ce/?utm_source=business_wire&utm_medium=pr&utm_campaign=carbonio_ce_launch

เกี่ยวกับ Zextras

Zextras เป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนําในอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญในการสร้างโซลูชันขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มการสื่อสาร และการทํางานร่วมกันแบบดิจิทัล ด้วยการมุ่งเน้นที่ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และเทคโนโลยีโอเพนซอร์ส Zextras มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเครื่องมือที่ซับซ้อนแต่ใช้งานง่าย ซึ่งตอบสนองความต้องการของภูมิทัศน์ดิจิทัลที่กําลังพัฒนา

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://lp.zextras.com/carbonio-ce/?utm_source=business_wire&utm_medium=pr&utm_campaign=carbonio_ce_launch

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

รายละเอียดการติดต่อสื่อมวลชน

Paolo Storti
ซีอีโอ
marketing@zextras.com

Zextras
http://www.zextras.com

ที่มา: Zextras

กลุ่ม Mitsui Chemicals Group และ ARRK Thailand จัดนิทรรศการ MotionTech 2024 เป็นครั้งแรก

Logo

จัดแสดงวัสดุและเทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–13 กุมภาพันธ์ 2024

Mitsui Chemicals Asia Pacific (MCAP) – กลุ่มMitsui Chemicals และ ARRK Thailand จะร่วมกันจัดนิทรรศการสาธารณะในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งจะจัดแสดงวัสดุและเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับการขับเคลื่อนแห่งอนาคต ที่ได้พัฒนาโดยกลุ่ม Mitsui Chemicals และกลุ่ม ARRK นิทรรศการ MotionTech 2024 จะเป็นนิทรรศการลักษณะดังกล่าวครั้งแรกของทั้งสององค์กร

ผู้เข้าชมสามารถชมเทคโนโลยีล่าสุดและวัสดุที่ใช้งานได้จริงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งจัดขึ้นมากกว่าสองช่วง นอกจากนั้นยังมีนิทรรศการ touch-and-feel (สัมผัสและรับรู้) สำหรับวัสดุต่างๆ ที่ผลิตโดยกลุ่ม Mitsui Chemicals นอกจากนี้ MOLp (Mitsui Chemicals Material Oriented Laboratory) ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในญี่ปุ่น จะมาปรากฏตัวพร้อมกับผลิตภัณฑ์บางส่วนที่นำเสนอไปในนิทรรศการครั้งก่อนๆอีกด้วย

งานนี้ได้รับความร่วมมืออย่างภาคภูมิใจโดย Mitsui Chemicals Asia Pacific, Mitsui Chemicals (Thailand) และ ARRK Thailand

รายละเอียดของนิทรรศการ

ช่วงแรก

วันที่

15 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2024

สถานที่

โรงแรม Nikko Hotel กรุงเทพฯ (ชั้น4)

27 ทองหล่อ, คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110

ช่วงที่สอง

วันที่

20 กุมภาพันธ์ 2024

สถานที่

โรงแรม Pacific Park ศรีราชา

2 1 ศรีราชานคร 3, ศรีราชา, อ.ศรีราชา, ชลบุรี 20110

เข้าชมได้ฟรี รับวอล์คอินสำหรับทุกท่าน (Walk-in) ไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า เชิญเข้าชมเว็บไซต์ Asia Pacific website เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ MotionTech 2024 หรือท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

เกี่ยวกับ MOLp

MOLp™ เป็นโครงการห้องปฏิบัติการแบบเปิดโดย Mitsui Chemicals Group ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่และคุณค่าเชิงฟังก์ชันของวัสดุโดยการใช้ประสาทสัมผัสที่หลากหลายอย่างเต็มที่

เชิญเยี่ยมชมเว็บไซต์ MOLp™ website เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับแรงบันดาลใจเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้

บางโครงการของ MOLp™ จะนำเสนอใน MotionTech 2024 ด้วย:

321 IDEA CAVE

https://youtu.be/QJ4Uvl2k-Tk?si=bc0R-yIYK6b1YTB2

NAGORI® products

https://youtu.be/-zpoeglo8zc?si=kDCMTr-ojw4IKLgY

TAFNEX™ bench

https://jp.mitsuichemicals.com/en/release/2022/2022_1018/index.htm

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53893280/en

ติดต่อ

หากต้องการสอบถามเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ โปรดติดต่อ:

Eric Lim
การสื่อสารองค์กรและการตลาด
Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd.
eric.lim@mitsuichemicals.com

แหล่งที่มา: Mitsui Chemicals Asia Pacific 


The Bangkok Reporter