Xsolla ได้ขยายระบบการชำระเงินในเอเชียเพื่อรองรับ FPX, K PLUS, AIS, Indosat และ MerPay

Logo

Xsolla เร่งขยายขอบเขตการชำระเงินในเอเชีย พร้อมมอบประสบการณ์การชำระเงินที่เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นอันดับแรกในแต่ละพื้นที่ และขับเคลื่อนด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

Xsolla ซึ่งเป็นบริษัทการค้าระดับโลกที่ให้ความช่วยเหลือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการเปิดตัว ขยายธุรกิจและสร้างรายได้จากเกม ประกาศขยายบริการโซลูชันการชำระเงินครั้งสำคัญทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การชำระเงินที่เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นอันดับแรกในแต่ละพื้นที่ ในตลาดเกมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยการเปิดตัว ShopeePay ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย, FPX ในมาเลเซีย, K PLUS และ AIS ในประเทศไทย, Indosat ในอินโดนีเซีย และ MerPay ในญี่ปุ่น ผ่าน Xsolla Pay Station โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้เผยแพร่สามารถนำเสนอช่องทางการชำระเงินระดับภูมิภาคที่เชื่อถือได้มากขึ้นแก่ผู้เล่นทั่วเอเชีย ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เล่นให้เป็นผู้ชำระเงิน และช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในระยะยาว

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

 ตลาดเกมในเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดคอนเทนต์เกมบนมือถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตทะลุ 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025โดยคาดว่ารายได้จากเกมบนมือถือจะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของรายได้จากเกมทั้งหมดในภูมิภาค ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและบทบาทสำคัญของเกมบนมือถือในแวดวงเกมของเอเชีย ความสำเร็จในตลาดที่ให้ความสำคัญกับมือถือเป็นอันดับแรกและมีความเฉพาะเจาะจงในระดับท้องถิ่นนี้ จำเป็นต้องอาศัยความสอดคล้องทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการชำระเงิน ผู้เล่นคาดหวังการเข้าถึงเกมได้อย่างราบรื่น และต้องการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการมือถือ มากกว่าการใช้บัตรเครดิตทั่วโลก

 ประโยชน์หลักของการขยายระบบการชำระเงินในเอเชีย ได้แก่:

  • วิธีการชำระเงินท้องถิ่นที่เชื่อถือได้ พร้อมการเข้าถึงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว : ปัจจุบัน Xsolla Pay Station รองรับ ShopeePay (ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในมาเลเซียและสิงคโปร์), FPX (ผู้บริโภคชาวมาเลเซียใช้ถึง 90%), K PLUS (แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถืออันดับหนึ่งของไทย มีผู้ใช้งาน 22.8 ล้านคน), AIS (ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถืออันดับ 2 ของไทย มีผู้ใช้งาน 44 ล้านคน), Indosat (ผู้ให้บริการเรียกเก็บเงินผ่านเครือข่ายหลักของอินโดนีเซีย) และ MerPay (หนึ่งในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นที่มีผู้ใช้งาน 16.8 ล้านคน) การผสานการทำงานรวมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในภูมิภาคและความไว้วางใจของผู้ใช้ในตลาดเอเชีย
  • การชำระเงินในภาษาท้องถิ่น : ขั้นตอนการชำระเงินที่ได้รับการแปลเป็นภาษาท้องถิ่นอย่างสมบูรณ์ มอบการรองรับทางด้านภาษาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละภูมิภาคให้กับผู้เล่นเพื่อประสบการณ์การชำระเงินที่ใช้งานง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้น
  • เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นอันดับแรก โฟลว์ที่ปรับให้เหมาะกับกระเป๋าเงิน : เส้นทางการชำระเงินได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานบนมือถือ รองรับคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชันธนาคาร และการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางหรือต้องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น
  • เข้าถึงผู้เล่นเกมระดับ B+ 1.5 ในตลาดที่มีการเติบโตสูง : มีการคาดการณ์ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเข้าถึงผู้เล่นเกมมากกว่า 332 ล้านคนภายในปี 2028 โดยรายได้จากเกมบนมือถือคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งทำให้การปรับรูปแบบการชำระเงินให้เข้ากับท้องถิ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าถึงและสร้างรายได้
  • เพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เล่นให้เป็นผู้ชำระเงินและลดการละทิ้งกลางคัน : ตัวเลือกการชำระเงินที่คุ้นเคยและการชำระเงินด้วยภาษาท้องถิ่นจะช่วยลดการละทิ้งตะกร้าสินค้าและเพิ่มความสำเร็จในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารซึ่งต้องพึ่งพากระเป๋าเงินและการเรียกเก็บเงินผ่านค่าโทรคมนาคม

“เอเชียยังคงเป็นผู้นำเศรษฐกิจเกมระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงมือถือ” Chris Hewish ประธานบริษัท Xsolla กล่าว “เพื่อความสำเร็จในภูมิภาคนี้ นักพัฒนาจำเป็นต้องพบกับผู้เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งบนอุปกรณ์มือถือ ในภาษาของพวกเขา และผ่านช่องทางการชำระเงินที่ผู้เล่นต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าเงินดิจิทัลยังเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่เกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชีย โดยมากกว่า 75% ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อชำระค่าเกม การขยายธุรกิจครั้งนี้จะช่วยให้นักพัฒนาเปลี่ยนความสนใจเป็นธุรกรรมทางการเงิน และสร้างประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและตรงกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่นทั่วเอเชีย”

การเพิ่มบริการเหล่านี้จะช่วยต่อยอดจากความครอบคลุมและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ของ Xsolla โดยช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรหลักสำหรับนักพัฒนาที่กำลังขยายธุรกิจสู่เอเชีย ด้วยวิธีการใหม่ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ของ Pay Station ทำให้นักพัฒนาสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่น รวดเร็ว และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาดที่ดุดัน

นักพัฒนาและผู้เผยแพร่ที่สนใจในการขยายการเข้าถึงและปรับปรุงอัตราการเปลี่ยนผู้เล่นให้เป็นผู้ชำระเงินในเอเชีย สามารถเปิดใช้งานวิธีการชำระเงินเหล่านี้ได้โดยตรงผ่าน Xsolla Pay Station

หากต้องการเริ่มต้นใช้งานหรือผสานการชำระเงินในเอเชีย ให้ไปที่ https://publisher.xsolla.com/

สำหรับรายการการปรับปรุงและเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาทั้งหมด ให้ไปที่ xsolla.pro/rws25paymentsinasia

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์ระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยนักพัฒนาแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตั้งแต่เกมอินดี้ไปจนถึงเกมระดับ AAA บริษัทต่างๆ ร่วมมือกับ Xsolla เพื่อช่วยระดมทุน จัดจำหน่าย ทำการตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกมของพวกเขา ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของวิดีโอเกม Xsolla มุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเชื่อมโยงโอกาสต่างๆ เข้าด้วยกัน และจัดหาทรัพยากรใหม่ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยดำเนินงานในฐานะผู้ค้าเกม และได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมมากกว่า 1,500 คน ให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นและขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยเส้นทางสู่ผลกำไรและหนทางสู่ชัยชนะที่มากขึ้น นักพัฒนาเกมจึงมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเพลิดเพลินไปกับเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20250814644507/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

เผชิญกับอนาคต: เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI ของ Mary Kay พร้อมพลิกโฉมวงการความงามแล้ว

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกด้านการขายตรงและนวัตกรรมการดูแลผิว ประกาศเปิดตัว เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI” สุดล้ำ ที่เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหารองพื้นที่เหมาะกับตนเองได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay สามารถแนะนำลูกค้าในการค้นหารองพื้นที่ใช่ได้โดยตรงจากโทรศัพท์ของพวกเขา

“The launch of our AI-powered Foundation Finder reflects a continued commitment to innovation in personalized beauty,” said James Whatley, Mary Kay’s Chief Information Officer. “By leveraging an exclusive AI technology in the Direct Selling channel, we’re able to provide shade recommendations in seconds, while making the consumer experience intuitive, inclusive, and enjoyable. Our Mary Kay independent beauty consultants will now have a powerful digital partner that elevates their business, enhances customer trust, and reimagines how beauty is delivered in a tech-enabled world.” (Photo Courtesy: Mary Kay Inc.)

“การเปิดตัวเครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI ของเราสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความงามเฉพาะบุคคล” กล่าวโดย James Whatley ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Mary Kay “ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในช่องทางการขายตรง เราจึงสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับเฉดสีได้ภายในไม่กี่วินาที พร้อมมอบประสบการณ์ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุม และน่าพึงพอใจให้กับผู้บริโภค ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ของเราจะมีพันธมิตรดิจิทัลที่ทรงพลัง ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจ เพิ่มความไว้วางใจของลูกค้า และพลิกโฉมวิธีการส่งมอบความงามของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

ครั้งแรกในอุตสาหกรรมการขายตรง เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI นี้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงในการสแกนใบหน้าของลูกค้าบนโทรศัพท์มือถือ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับเฉดสีที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้ภายในไม่กี่วินาที สิ่งที่ทำให้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้โดดเด่น คือ การได้รับข้อมูลจากสเกลที่พัฒนาขึ้นทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งช่วยให้เข้าใจโทนสีผิวของมนุษย์ได้อย่างครอบคลุมและละเอียดถี่ถ้วน เทคโนโลยีนี้จะจับภาพโทนสีผิวของผู้ใช้โดยใช้กล้อง จากนั้นจึงจับคู่กับเฉดสีรองพื้น Mary Kay ที่แม่นยำที่สุดด้วยการวิเคราะห์โทนสีผิวของผู้ใช้กับค่า RGB ที่สอดคล้องกันของผลิตภัณฑ์รองพื้น Mary Kay1โดย Mary Kay เป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในเครื่องมือนี้ ทำให้เป็นเครื่องมือพลิกโฉมอุตสาหกรรมขายตรงอย่างแท้จริง2

“เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI นี้ช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นผู้พลิกโฉมด้านความงามวงการขายตรงและสาขาอื่นๆ” กล่าวโดย ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay “เราเป็นผู้บุกเบิกการจับคู่เฉดสีด้วย AI ทั่วโลก ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจับคู่รองพื้นกับผลิตภัณฑ์รองพื้นที่หลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mary Kay® Flawless Face ได้ การนำเทคโนโลยีความงามนี้มาใช้ถือเป็นโอกาสพิเศษในการยกระดับผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่นี้และปลูกฝังชุมชนความงามของเราในรุ่นต่อๆ ไป”

เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันความงามที่สามารถปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้ด้วยเทคโนโลยี ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีในวงกว้าง ในฐานะแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของโลกด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางสีจาก Euromonitor International ติดต่อกันสามปีซ้อน3 ในปี 2023, 2024 และอีกครั้งในปี 2025 โดยการเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านนวัตกรรมดิจิทัล การมีส่วนร่วม และการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการด้านความงามทั่วโลก

“การเปิดตัวเครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI ของเราสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความงามเฉพาะบุคคล” กล่าวโดย James Whatley ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Mary Kay “ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในช่องทางการขายตรง เราจึงสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับเฉดสีได้ภายในไม่กี่วินาที พร้อมมอบประสบการณ์ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุม และน่าพึงพอใจให้กับผู้บริโภค ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ของเราจะมีพันธมิตรดิจิทัลที่ทรงพลัง ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจ เพิ่มความไว้วางใจของลูกค้า และพลิกโฉมวิธีการส่งมอบความงามของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี”

เครื่องมือนี้พร้อมให้บริการแล้วในบางตลาด และจะเปิดตัวทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ที่นี่

ไฮไลท์ของเครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI:

  •  เทคโนโลยีความงาม: กล้องของผู้ใช้จะจับภาพวิดีโอหรือภาพที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามาแบบเรียลไทม์ โดยตรวจจับจุดสำคัญบนใบหน้าได้อย่างแม่นยำถึง 151 จุด
  •  การรวมเข้าด้วยกัน: เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI ของ Mary Kay มีพื้นฐานมาจากสเกล 10 เฉดสีที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อแสดงโทนสีผิวของมนุษย์ที่หลากหลายได้อย่างแม่นยำ โดยคำนึงถึงความครอบคลุมและความแม่นยำ
  •  ประสิทธิภาพ: จากการทดสอบผู้บริโภคของเรา พบว่า 83% ของผู้บริโภคระบุว่ามีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับคำแนะนำ ส่วนการทดสอบที่ปรึกษาความงามอิสระ (IBC) ของ Mary Kay พบว่า 100% ของ IBC ของ Mary Kay ระบุว่ามีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องมือนี้ในธุรกิจของตนเป็นอย่างมาก
  •  การเข้าถึง: เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI จะถูกผสานเข้ากับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยสามารถเข้าถึงได้จาก www.marykay.com หรือผ่านทาง iCatalog ที่ผู้บริโภคสามารถสแกนและค้นหารองพื้นที่ตรงกับความต้องการได้ทันที
  •  ความเป็นส่วนตัว: เครื่องมือค้นหารองพื้นด้วย AI นี้ไม่ได้จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลไบโอเมตริกซ์

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 40 ตลาด เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้ส่งเสริมให้ผู้หญิงกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay มุ่งมั่นที่จะลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการล่วงละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนเดินตามความฝันของตนเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้บน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน X.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/ 20250814569267/en

1

รหัส RGB ย่อมาจากรหัสสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน ที่เป็นแบบจำลองสีที่ใช้ในการถ่ายภาพดิจิทัลและกราฟิกคอมพิวเตอร์เพื่อแสดงสี โดยแต่ละสีจะแสดงด้วยค่าสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงินผสมกัน ซึ่งทั่วไปจะมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 255

2

Mary Kay Inc. ถือสิทธิพิเศษในการใช้เครื่องมือนี้เป็นเวลา 12 เดือนแรกนับจากวันเปิดตัว

3

ที่มา: Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care ฉบับปี 2025, ยอดขายตามมูลค่าที่ RSP, ข้อมูลปี 2024

Contacts

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.


Fitch Learning ตกลงเข้าซื้อ Moody’s Analytics Learning Solutions และ Canadian Securities Institute

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

Fitch Learning ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเรียนรู้ทางการเงินและการรับรองวิชาชีพ ประกาศในวันนี้ว่า ได้ลงนามข้อตกลงกับ Moody's เพื่อเข้าซื้อกิจการสองแห่งของบริษัท ได้แก่ Moody's Analytics Learning Solutions (MALS) ผู้ให้บริการการฝึกอบรมสินเชื่อระดับโลก และ Canadian Securities Institute (CSI) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการรับรองวิชาชีพสำหรับอุตสาหกรรมบริการทางการเงินของแคนาดา

การเข้าซื้อกิจการจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการนำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการพัฒนาอาชีพและการรับรองวิชาชีพ รวมถึงโซลูชันการเรียนรู้สำหรับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อผู้บริโภค และการจัดการการลงทุน

“ข้อตกลงนี้ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการพัฒนาทักษะและการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่องในภาคบริการทางการเงิน ขณะที่องค์กรต่างๆ ลงทุนด้านการเรียนรู้และพัฒนามากขึ้น เพื่อส่งเสริมการรักษาพนักงานและศักยภาพของพนักงาน โซลูชันของเราจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับทีมงาน รวมถึงช่วยขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในท้ายที่สุด” Andreas Karaiskos ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Fitch Learning กล่าว

เงื่อนไขของธุรกรรมนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย คาดว่าการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่สี่หลังจากปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดตามปกติแล้ว รวมถึงการได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

“การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดการเงินที่มีความซับซ้อนมากขึ้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยขยายขอบเขตการศึกษาทางการเงินและมอบคุณค่าและโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าให้กับโลก เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้บริการนักศึกษาและลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง และยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ชุมชนของ Fitch Learning” คุณ Karaiskos กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ Fitch Learning
Fitch Learning ร่วมมือกับลูกค้าเพื่อเสริมสร้างความรู้ พัฒนาทักษะ และยกระดับการดำเนินงาน โดยมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจเชิงบวก ด้วยศูนย์ต่างๆ อยู่ในศูนย์กลางทางการเงินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ นิวยอร์ก โทรอนโต ลอนดอน ดูไบ ริยาด สิงคโปร์ และฮ่องกง Fitch Learning มุ่งมั่นที่จะเข้าใจความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้าในตลาดการเงินทั่วโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย Fitch Learning มีหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านการเงินเชิงปริมาณ (CQFi) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการศึกษาทางการเงินเชิงปริมาณขั้นสูง และสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อระดับโลก ซึ่งอุทิศตนเพื่อพัฒนาความเป็นเลิศด้านการศึกษาและมาตรฐานสินเชื่อทั่วโลก Fitch Learning เป็นส่วนหนึ่งของ Fitch Group ที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการข้อมูลทางการเงิน มีการดำเนินงานใน 30 ประเทศ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Fitch Learning พัฒนาบุคลากรทางการเงินทั่วโลก ให้ไปที่ www.fitchlearning.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Alayna Francis
+44 20 3530 1098
alayna.francis@thefitchgroup.com

Cristina Bermudez
Cristina.bermudez@thefitchgroup.com
+1 305-613-5814

ที่มา: Fitch Learning

C.J. Express ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ RELEX Solutions เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็ว

Logo

ผู้ค้าปลีกชั้นนำของไทยจะนำความสามารถขั้นสูงของ RELEX มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2568

บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (C.J. Express Group Co., Ltd.) เป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ได้ขยายความร่วมมือกับ RELEX Solutions ผู้ให้บริการโซลูชันการวางแผนซัพพลายเชนและค้าปลีกแบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง การขยายความร่วมมือครั้งนี้จะนำเสนอความสามารถขั้นสูงต่างๆ เช่น การจัดซื้อสินค้าแบบมีข้อจำกัด การคาดการณ์จำนวนสินค้าในหลากหลายช่องทาง รวมถึงการวินิจฉัยซัพพลายเชนในศูนย์กระจายสินค้า (DC) ทั้งเจ็ดแห่งของ C.J. Express โดยการขยายความร่วมมือนี้ยังรวมถึงการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยทีม RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม C.J. Express เพื่อทำความเข้าใจในข้อจำกัดด้านการดำเนินงานในปัจจุบัน และทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุง KPI โดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความพร้อมในการจัดจำหน่าย สินค้าหมด จำนวนวันคงเหลือ และสินค้าเน่าเสีย ทั้งของร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้า

นับตั้งแต่เริ่มร่วมมือกับ RELEX ในปี 2565 ทาง C.J. Express ได้ประสบความสำเร็จในการขยายการดำเนินงานจาก 900 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าสองแห่ง ไปสู่กว่า 1,700 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าเจ็ดแห่ง โดย C.J. Express ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงอาหารสด และตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 30-40% ต่อปี พร้อมกับการสำรวจรูปแบบร้านค้าใหม่ๆ

ด้วยความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ C.J. Express จึงได้ขยายการใช้งานแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX เพื่อจัดการกับความซับซ้อนในการปฏิบัติงานที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความสามารถเหล่านี้ประกอบด้วย การจัดซื้อสินค้าแบบมีข้อจำกัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในด้านการจัดหาสินค้า การคาดการณ์ในหลากหลายช่องทางที่ปรับให้เหมาะกับรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย รวมถึงการวินิจฉัยห่วงซัพพลายเชนเพื่อระบุและแก้ไขปัญหาคอขวดในการดำเนินงาน

แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX นี้จะช่วยให้ C.J. Express ปรับปรุงความพร้อมในการจัดจำหน่ายสินค้า ลดความเสียหายจากการเน่าเสีย ปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม และปรับปรุงการดำเนินงานของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย RELEX Diagnostics จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของซัพพลายเชนแบบอัตโนมัติ ที่จะช่วยให้ C.J. Express สามารถระบุและแก้ไขปัญหาการดำเนินงานได้ล่วงหน้าก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้า ความสามารถเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงานนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและผลกำไร

ด้วยการขยายตัวและวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของธุรกิจ C.J. Express ความซับซ้อนจึงเพิ่มขึ้น และการจัดการความซับซ้อนนี้ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกเหนือจากความสามารถของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้แล้ว RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ C.J. Express เพื่อวิเคราะห์หาจุดอ่อนในกระบวนการทำงาน มองหาจุดที่สามารถพัฒนาได้ และร่วมกันปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยความร่วมมือนี้จะยิ่งเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง RELEX และ C.J. Express ให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน โดยการเพิ่มมูลค่าสูงสุดของแพลตฟอร์ม RELEX และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการดำเนินงานของ C.J. Express โดยรวม

การทำงานร่วมกับ RELEX ทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะเราสามารถขยายจำนวนสาขาร้านเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” กล่าวโดย คุณวีรธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ C.J. Express “แพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาไปพร้อมกับธุรกิจของเรา ทีโดยให้ความแม่นยำในการคาดการณ์และช่วยให้เราเห็นภาพรวมของห่วงโซ่อุปทานได้ชัดเจน ทำให้เราสามารถรักษาคุณภาพการบริการได้แม้ในช่วงที่ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้ทำให้เราสามารถเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ พร้อมกับให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ผมไม่ได้มอง RELEX เป็นแค่บริษัทขายซอฟต์แวร์ แต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ทุ่มเทเพื่อความสำเร็จร่วมกัน”

“เรารู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จที่เราได้ทำร่วมกับ C.J. Express และรู้สึกตื่นเต้นที่จะสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตอันทะเยอทะยานของพวกเขา” กล่าวโดย Mikko Kärkkäinen ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ RELEX Solutions โดยความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของ RELEX ในการให้ผลลัพธ์ที่วัดได้จริง และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ เราพร้อมที่จะสนับสนุนซีเจ เอ็กซ์เพรสเติบโตต่อไป และสร้างมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกในไทย 

เกี่ยวกับ RELEX

RELEX Solutions มอบแพลตฟอร์มการวางแผนห่วงโซ่อุปทานแบบรวมศูนย์สำหรับผู้ค้าปลีกและผู้ผลิต โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราได้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคาดการณ์อุปสงค์ การเติมสินค้า การจัดการสินค้า การกำหนดราคาและโปรโมชั่น การดำเนินงานห่วงโซ่อุปทาน และการวางแผนการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร แบรนด์ต่างๆ เช่น ADUSA, AutoZone, Coles, Circle K, Dollar Tree and Family Dollar, Ford South America, M&S Food, PetSmart, Rituals, The Home Depot, Systemair และ Vita Coco ต่างไว้วางใจให้ RELEX เพิ่มความพร้อมในการจัดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ เพิ่มยอดขาย นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ปรับปรุงความยั่งยืน และขับเคลื่อนการเติบโตที่สร้างผลกำไร เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.relexsolutions.com/customers/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

Jolene Peixoto
รองประธานฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Jolene.Peixoto@relexsolutions.com

Amelia Goodbody
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Amelia.goodbody@relexsolutions.com

ที่มา: RELEX Solutions

Prefer เปิดตัวกาแฟละลายน้ำและผงโกโก้สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร โดยระดมทุนในรอบ Pre-A ได้เกินเป้าหมายถึง 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ

Logo

รอบการระดมทุนที่ร่วมกันโดย At One Ventures และ Chancery Hill Capital พร้อมกับการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องจาก Forge Ventures

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–13 สิงหาคม 2025

Prefer เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารจากสิงคโปร์ที่นำกระบวนการหมักมาสร้างสรรค์รสชาติและส่วนผสมที่เข้าถึงได้และยั่งยืน ประกาศในวันนี้ว่าระดมทุนได้เกินเป้าหมายถึง 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ กาแฟผงสำเร็จรูปและผงโกโก้ นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศความร่วมมือทางการค้าเป็นครั้งแรกเพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศกับบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด และ The Coffee Ferm ในประเทศไทยและออสเตรเลียตามลำดับ

รสชาติของ Prefer ผลิตจากผลพลอยได้จากการผลิตอาหาร เช่น ข้าวและถั่วเหลือง ได้รับการพัฒนาโดยใช้กระบวนการหมักและคั่วที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท บริษัทได้จัดหารสชาติและส่วนผสมให้กับแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ผู้ผลิตอาหาร ผู้ค้าปลีกภายใต้แบรนด์ของตนเอง และบริษัทผลิตรสชาติต่างๆ ด้วยการนำเสนอส่วนผสมในราคาที่เข้าถึงได้ ที่ให้รสชาติและคุณประโยชน์เทียบเท่ากาแฟและโกโก้ และลดการปล่อยคาร์บอนได้ด้วย

จากการวิเคราะห์วงจรชีวิตของกาแฟ พบว่ากาแฟของ Prefer มีการปล่อยมลพิษต่ำกว่าถึง 85% และมีราคาถูกกว่ากาแฟอาราบิก้าแบบดั้งเดิมในตลาดปัจจุบันถึง 50%

Prefer ขอเชิญชวนบริษัทกาแฟและโกโก้มาเชื่อมต่อและทดลองชิมส่วนผสมต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์โดยจะนำเสนอส่วนผสมที่ผ่านการพิสูจน์แล้วในเชิงพาณิชย์แก่พันธมิตร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน เสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน และช่วยรักษาโลกอีกด้วย

“ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรใหม่ของเรา คุณภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา รวมถึงความมุ่งมั่นของทีมงานนี้ เราจึงอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่จะทำให้แน่ใจว่ากาแฟและโกโก้ของเราสามารถเข้าถึงได้โดยคนทั่วไป ขณะเดียวกันก็เคารพโลกของเราด้วย” Jake Berber ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอ กล่าว

การระดมทุนรอบนี้ทำให้ Prefer มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีนักลงทุนหลักคือ At One Ventures และ Chancery Hill Capital ร่วมกับ Forge Ventures ซึ่งเป็นนักลงทุนเดิม

“เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร ซึ่งเป็นการแยกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคอันเป็นที่รักออกจากห่วงโซ่อุปทานที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม” Helen Lin หุ้นส่วนของ At One Ventures และสมาชิกคณะกรรมการของ Prefer กล่าว

โดยล่าสุดทางสตาร์ทอัพได้นำผลิตภัณฑ์กาแฟของตนเข้าสู่เชิงพาณิชย์ผ่านช่องทางบริการอาหาร โดยร่วมมือกับ Melvados ซึ่งเป็นธุรกิจอาหารของสิงคโปร์

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกอีกด้วย ในประเทศไทย Prefer กำลังทำงานร่วมกับบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ยั่งยืนภายใต้เครื่องดื่มกาแฟที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ “กินดี อยู่ดี (Eat Well, Live Well)” ส่วนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ บริษัทได้ร่วมมือกับ The Coffee Ferm ซึ่งจะให้สิทธิ์ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาด้านรสชาติของ Prefer เพื่อขยายการผลิตและจัดจำหน่ายภายในประเทศ

โดย Prefer มีแผนที่จะขยายโรงงานผลิตนำร่องผ่านผู้ผลิตในตลาดหลัก ขยายการวิจัยและพัฒนาในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์รสโกโก้ และขยายความร่วมมือระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดเอเชีย

เกี่ยวกับ Prefer

Prefer ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 โดย Jake Berber และ Ding Jie Tan เป็นบริษัทเทคโนโลยีอาหารในสิงคโปร์ที่ใช้กระบวนการหมักเพื่อสร้างสรรค์รสชาติและส่วนผสมที่ราคาไม่แพงและยั่งยืน โดย Prefer เริ่มต้นด้วยกาแฟและโกโก้ เพื่อเปลี่ยนวัตถุดิบที่ผ่านการอัพไซเคิลให้กลายเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

ชุดสำหรับสื่อ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ติดต่อสื่อมวลชน:
Prefer
Jake Berber, jake@prefer.bio

ที่มา: Prefer

C.J. Express ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ RELEX Solutions เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็ว

Logo

ผู้ค้าปลีกชั้นนำของไทยจะนำความสามารถขั้นสูงของ RELEX มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เนื่องจากมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (C.J. Express Group Co., Ltd.) เป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ได้ขยายความร่วมมือกับ RELEX Solutions ผู้ให้บริการโซลูชันการวางแผนซัพพลายเชนและค้าปลีกแบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง การขยายความร่วมมือครั้งนี้จะนำเสนอความสามารถขั้นสูงต่างๆ เช่น การจัดซื้อสินค้าแบบมีข้อจำกัด การคาดการณ์ในหลากหลายช่องทาง รวมถึงการวินิจฉัยซัพพลายเชนในศูนย์กระจายสินค้า (DC) ทั้งเจ็ดแห่งของ C.J. Express โดยการขยายความร่วมมือนี้ยังรวมถึงการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยทีม RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม C.J. Express เพื่อทำความเข้าใจในข้อจำกัดด้านการดำเนินงานในปัจจุบัน และทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุง KPI โดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความพร้อมในการจัดจำหน่าย สินค้าหมด จำนวนวันคงเหลือ และสินค้าเน่าเสีย ทั้งของร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้า

นับตั้งแต่เริ่มร่วมมือกับ RELEX ในปี 2022 ทาง C.J. Express ได้ประสบความสำเร็จในการขยายการดำเนินงานจาก 900 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าสองแห่ง ไปสู่กว่า 1,700 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าเจ็ดแห่ง โดย C.J. Express ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงอาหารสด และตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 30-40% ต่อปี พร้อมกับการสำรวจรูปแบบร้านค้าใหม่ๆ

ด้วยความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ C.J. Express จึงได้ขยายการใช้งานแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX เพื่อจัดการกับความซับซ้อนในการปฏิบัติงานที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความสามารถเหล่านี้ประกอบด้วย การจัดลำดับแบบจำกัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในด้านการจัดหาสินค้า การคาดการณ์ในหลากหลายช่องทางที่ปรับให้เหมาะกับรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย รวมถึงการวินิจฉัยห่วงโซ่อุปทานเพื่อระบุและแก้ไขปัญหาคอขวดในการดำเนินงาน

แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ RELEX นี้จะช่วยให้ C.J. Express ปรับปรุงความพร้อมในการจัดจำหน่ายสินค้า ลดความเสียหายจากการเน่าเสีย ปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม และปรับปรุงการดำเนินงานของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย RELEX Diagnostics จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานแบบอัตโนมัติ ที่จะช่วยให้ C.J. Express สามารถระบุและแก้ไขปัญหาการดำเนินงานได้ล่วงหน้าก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้า ความสามารถเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงานนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและผลกำไร

ด้วยการขยายตัวและวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของธุรกิจ C.J. Express ความซับซ้อนจึงเพิ่มขึ้น และการจัดการความซับซ้อนนี้ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกเหนือจากความสามารถของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้แล้ว RELEX จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ C.J. Express เพื่อระบุช่องว่างในการดำเนินงาน ศักยภาพในการปรับปรุง และร่วมมือกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยความร่วมมือนี้จะยิ่งเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง RELEX และ C.J. Express ให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน โดยการเพิ่มมูลค่าสูงสุดของแพลตฟอร์ม RELEX และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการดำเนินงานของ C.J. Express โดยรวม

“การเดินทางของเรากับ RELEX ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากเราขยายพื้นที่ร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” กล่าวโดย คุณวีรธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ C.J. Express “แพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาไปพร้อมกับธุรกิจของเรา ที่ได้มอบความแม่นยำในการคาดการณ์และการมองเห็นห่วงโซ่อุปทานที่เราต้องการเพื่อรักษาระดับการให้บริการในช่วงที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้ทำให้เราสามารถเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ พร้อมกับให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผม สิ่งสำคัญคือไม่ใช่แค่การมอง RELEX ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมลงทุนเพื่อความสำเร็จร่วมกันของเรา”

“เรารู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จที่เราได้ทำร่วมกับ C.J. Express และรู้สึกตื่นเต้นที่จะสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตอันทะเยอทะยานของพวกเขา” กล่าวโดย Mikko Kärkkäinen ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ RELEX Solutions โดยความร่วมมือครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ RELEX ในการส่งมอบคุณค่าที่วัดผลได้และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ช่วย C.J. Express และนำทางการเติบโต รวมถึงสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความเป็นเลิศด้านการค้าปลีกในประเทศไทยต่อไป

เกี่ยวกับ RELEX

RELEX Solutions มอบแพลตฟอร์มการวางแผนห่วงโซ่อุปทานแบบรวมศูนย์สำหรับผู้ค้าปลีกและผู้ผลิต โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราได้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคาดการณ์อุปสงค์ การเติมสินค้า การจัดการสินค้า การกำหนดราคาและโปรโมชั่น การดำเนินงานห่วงโซ่อุปทาน และการวางแผนการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร แบรนด์ต่างๆ เช่น ADUSA, AutoZone, Coles, Circle K, Dollar Tree and Family Dollar, Ford South America, M&S Food, PetSmart, Rituals, The Home Depot, Systemair และ Vita Coco ต่างไว้วางใจให้ RELEX เพิ่มความพร้อมในการจัดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ เพิ่มยอดขาย นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ปรับปรุงความยั่งยืน และขับเคลื่อนการเติบโตที่สร้างผลกำไร เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.relexsolutions.com/customers/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

Jolene Peixoto
รองประธานฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Jolene.Peixoto@relexsolutions.com

Amelia Goodbody
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Amelia.goodbody@relexsolutions.com

ที่มา: RELEX Solutions

SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 ขนาด 245.76 TB พร้อมนวัตกรรมใหม่ด้วยหน่วยความจำแบบสแต็ก 32 ได ได้คว้ารางวัล ‘Best of Show’ ในงาน FMS: อนาคตของหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล 2025

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–06 สิงหาคม 2025

Kioxia Corporation ขอประกาศวันนี้ว่า SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 ขนาด 245.76 เทราไบต์ (TB)(1) ซึ่งใช้หน่วยความจำแฟลช KIOXIA BiCS FLASH™ รุ่นที่ 8 QLC 3D แบบสแต็ก 32 ได ได้รับรางวัล FMS ‘Best of Show’ ในประเภท ‘เทคโนโลยี SSD’ รางวัลเหล่านี้ได้ยกย่องผลิตภัณฑ์ บริการ และการนำไปใช้งานของลูกค้าที่ล้ำสมัยที่ขยายขอบเขตของเทคโนโลยีหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล

KIOXIA LC9 Series 245.76 TB Enterprise SSD with Innovative 32-die Stack Memory Named ‘Best of Show’ at FMS 2025

SSD ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9 ความจุ 245.76 TB พร้อมหน่วยความจำแบบสแต็ก 32 ได นวัตกรรมใหม่ ได้รับรางวัล ‘Best of Show’ ในงาน FMS 2025

SSD NVMe™ รุ่นแรกในอุตสาหกรรม(2) ความจุ 245.76 TB(1) ขนาด 2.5 นิ้ว และฟอร์มแฟกเตอร์มาตรฐานสำหรับองค์กรและศูนย์ข้อมูล (EDSFF) ขนาด E3.L ทำให้ไดรฟ์ซีรีส์ KIOXIA LC9 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ AI เชิงสร้างสรรค์ (generative AI) และแอปพลิเคชันระดับองค์กร โดยขณะนี้ SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 กำลังสุ่มตัวอย่างให้กับเหล่าลูกค้าของเรา

“เมื่อลูกค้าประเมิน SSD สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถปรับขนาดได้ตลอดจนถึงความจุที่สูง พร้อมทั้งมอบประสิทธิภาพสูงและการใช้พลังงานต่ำ” Jay Kramer ประธานโครงการรางวัลและประธานบริษัท Network Storage Advisors Inc. กล่าว “เราภูมิใจที่ได้ยกย่อง KIOXIA สำหรับหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D และ SSD ซีรีส์ KIOXIA LC9 โดยโซลูชันนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี CBA (CMOS directly Bonded to Array) และนวัตกรรมของสถาปัตยกรรมแบบสแต็ก 32 ไดในแพ็กเกจเดียว ที่ได้มอบความจุ พลังงาน และความหนาแน่นที่จำเป็นสำหรับ SSD ยุคใหม่ การสร้าง SSD ระดับองค์กร(2) PCIe® 5.0 ที่มีความจุสูงสุดถือเป็นความสำเร็จอันโดดเด่นและสะท้อนถึงตำแหน่งผู้นำของ Kioxia ได้อย่างชัดเจน”

ด้วยการนำเสนอสแต็ก 32 ได ความจุ 2 เทราบิต (Tb)(3) หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ QLC 3D พร้อมเทคโนโลยี CBA ที่เป็นนวัตกรรมของ SSD ทำให้ซีรีส์ KIOXIA LC9 มอบความเร็ว ขนาด และความหนาแน่นที่จำเป็นต่อการรองรับปริมาณงานที่เน้นข้อมูลเป็นหลักในอนาคต การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหน่วยความจำขั้นสูงและเทคโนโลยี CBA นี้ช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 8 TB(3) ในแพ็คเกจขนาดเล็ก 154 BGA ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม(2) ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการประมวลผลเวเฟอร์ความแม่นยำสูง การออกแบบวัสดุ และเทคโนโลยีการเชื่อมลวดของ KIOXIA

หมายเหตุ:

(1) คำจำกัดความของความจุ SSD:: Kioxia Corporation กำหนดให้ 1 กิโลไบต์ (KB) เท่ากับ 1,000 ไบต์, 1 เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์, 1 กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์, 1 เทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ และ 1 กิบิไบต์ (KiB) เท่ากับ 1,024 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับนิยามของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของพื้นที่จัดเก็บน้อยลง ความจุที่ใช้งานได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบปฏิบัติการ Microsoft และ/หรือแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

(2) ข้อมูล ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2025 จากการสำรวจของ Kioxia

(3) ความจุหน่วยความจำแฟลชคำนวณได้เป็น 1 เทราบิต (1 Tb) = 1,099,511,627,776 (2^40) บิต และ 1 เทราไบต์ (1 TB) = 1,099,511,627,776 (2^40) ไบต์

* 2.5 นิ้วบ่งบอกถึงขนาดของ SSD ไม่ใช่ขนาดทางกายภาพ
* NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ
* PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่มุ่งมั่นในการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตทไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทก่อนหน้าได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าตามหน่วยความจำสำหรับสังคมต่างๆ โดยเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia อย่าง BiCS FLASH™ นั้นกำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชั่นที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี ระบบยานยนต์ ศูนย์ข้อมูล และระบบ Generative AI

การสอบถามจากลูกค้า:
Kioxia Group
สำนักงานขายทั่วโลก
https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ มีความถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250805179979/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายบริหารการส่งเสริมการขาย
Satoshi Shindo
โทร.: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

แถลงการณ์จาก Aviator LLC

Logo

บริษัทประสบความสำเร็จในการเริ่มดำเนินการตามคดีหลังจากชนะคดีในศาลรัฐจอร์เจีย ส่วนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของสหราชอาณาจักรยังคงสถานะเดิมระหว่างการพิจารณาคดี

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–06 สิงหาคม 2025

วันนี้ Aviator LLC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงลักษณะและขอบเขตของคำตัดสินของศาลสหราชอาณาจักรเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากที่ SPRIBE OU ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว

Nikoloz Gogilidze ตัวแทนทางกฎหมายของ Aviator LLC ระบุว่า คำสั่งศาลฉบับล่าสุดเป็นคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่มีขอบเขตจำกัดและมีผลกระทบเชิงพาณิชย์

Gogilidze เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญของกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงในรายงานข่าวบางฉบับ

คำสั่งศาล: คำพิพากษานี้เป็นคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ออกให้ในขั้นตอนการพิจารณาเบื้องต้น ไม่ใช่การพิจารณาขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับความชอบธรรมของข้อพิพาทเบื้องต้น คำสั่งดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อรักษาสถานะเดิมไว้จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีเต็มรูปแบบ

ผลกระทบเชิงพาณิชย์: คำสั่งห้ามนี้ไม่มีผลในทางปฏิบัติ เนื่องจากทั้ง Aviator LLC และผู้รับใบอนุญาตสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาไม่มีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดในสหราชอาณาจักรในขณะนี้ บริษัทยังไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาตจากคณะกรรมการการพนันแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งโดยทั่วไปกระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์

ขอบเขตของข้อจำกัด: ศาลได้ปฏิเสธคำร้องหลายฉบับที่ SPRIBE OU ยื่นมา รวมถึงความพยายามป้องกันไม่ให้ Aviator LLC แถลงต่อสาธารณะเกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา โดยคำร้องขอบรรเทาทุกข์ 5 ใน 8 ฉบับที่ SPRIBE OU ยื่นในตอนแรกถูกถอนออกในระหว่างการพิจารณาคดี คำขอบรรเทาทุกข์ทั้ง 5 ฉบับดังกล่าวประกอบด้วย: การเผยแพร่อีเมลหรือข่าวประชาสัมพันธ์ใดๆ ในสหราชอาณาจักร (ซึ่ง Aviator LLC ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น); การแถลงใดๆ ทั้งต่อสาธารณะและส่วนตัว การยืนยันความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาของ Aviator โดย Aviator LLC; การระบุว่า SPRIBE OU ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวโดยชอบธรรม; การโพสต์ข้อความใดๆ ข้างต้นบนเว็บไซต์ www.aviator.studio

ข้อพิพาทในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นโดย Aviator LLC ในช่วงปลายปี 2024 หลังจากประสบความสำเร็จในการดำเนินคดีในรัฐจอร์เจีย (หมายเลขคดี 2/1413-24) ในคดีที่รัฐจอร์เจีย ศาลหลายศาล รวมถึงศาลฎีกาแห่งรัฐจอร์เจีย ได้ตัดสินให้ Aviator LLC ชนะคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์และการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยไม่สุจริต

การดำเนินคดีในสหราชอาณาจักรมีพื้นฐานทางกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อกล่าวหาเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยไม่สุจริตและการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้าในสหราชอาณาจักรของ SPRIBE OU

ตามมาตรฐานปฏิบัติ SPRIBE OU จำเป็นต้องให้คำมั่นสัญญาในการชดเชยความเสียหายใดๆ แก่ Aviator LLC หากภายหลังพบว่าคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้นได้รับอนุมัติอย่างไม่ถูกต้อง โดยคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนี้ไม่ได้ป้องกัน Aviator LLC จากการยื่นขอใบอนุญาตการพนันในสหราชอาณาจักร

“ประเด็นสำคัญที่ต้องเข้าใจ ณ จุดนี้ คือ กระบวนการพิจารณาคดีในสหราชอาณาจักรน่าจะเสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการพิจารณาคำขอใบอนุญาตใดๆ ซึ่งทำให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องทางการค้า” Gogilidze กล่าว “อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญ คือ คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ได้ห้าม Aviator LLC หรือผู้รับใบอนุญาตไม่ให้ยื่นขอใบอนุญาตการพนันในสหราชอาณาจักร แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่ารายงานข่าวบางฉบับจะให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง”

คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในกระบวนการคู่ขนานกันในเขตอำนาจศาลหลายแห่ง โดยคดีในสหราชอาณาจักรถือเป็นประเด็นหนึ่งของข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่ใหญ่กว่า

Aviator LLC คาดว่าจะดำเนินการฟ้องร้องต่อไปผ่านช่องทางกฎหมายที่เหมาะสมในเขตอำนาจศาลที่เกี่ยวข้อง บริษัทยังคงมุ่งเน้นการปกป้องสิ่งที่ถือว่าเป็นสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาโดยชอบด้วยกฎหมาย และปฏิเสธความพยายามของบุคคลอื่นที่มุ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสาระสำคัญของคำสั่งศาลที่ยังคงสถานะเดิม

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงของคำฟ้องของเราในสหราชอาณาจักร รวมถึงในตลาดอื่นๆ และเรายังคงมั่นใจในความสำเร็จสูงสุดของเราในเรื่องนี้” Gogilidze กล่าว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ info.aviator@mikadze.ge

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Nikoloz Gogilidze, info.aviator@mikadze.ge

ที่มา: Aviator LLC

INNOCEAN ร่วมกับ Shinsegae Property นำเสนอ “เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ณ หาดแฮอุนแด

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–06 สิงหาคม 2025

INNOCEAN (KRX: 214320) (ซีอีโอระดับโลก Yongwoo Lee) ร่วมมือกับ Shinsegae Property (ซีอีโอ Young-lock Im) เปิดตัวแคมเปญความปลอดภัยสาธารณะในชื่อ“เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ Grand Josun Media” — ซึ่งเป็นจอดิจิทัลขนาดใหญ่หน้าหาดแฮอุนแด ในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้

The World's Biggest Lifeguard in Busan, South Korea (Photo: INNOCEAN)

“เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ (ภาพ: INNOCEAN)

แคมเปญนี้จะนำเสนอข้อมูลความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ผ่านวิดีโอแบบอะนามอร์ฟิก 3 มิติ ที่จะเห็นเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต (Lifeguard) ขนาดใหญ่คอยเฝ้าดู เนื้อหาจะแสดงข้อมูลสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ เช่น สภาพอากาศ ความสูงของคลื่น และแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคลื่นสูง เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตจะแจ้งเตือนบนหน้าจอ ตั้งแต่ข้อจำกัดการเข้าชายหาดบางส่วนไปจนถึงทั้งหมด ในสถานการณ์ปกติ พื้นหลังวิดีโอจะแสดงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น ท้องฟ้าแจ่มใส เมฆ และฝนตก เพื่อเพิ่มความรู้สึกสมจริง โดยในเวลากลางคืน วิดีโอจะแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตที่คอยตรวจสอบระบบฉุกเฉินต่างๆ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังตลอด 24 ชั่วโมง

Grand Josun Media คือป้ายดิจิทัลโค้ง (กว้าง 25 ม. สูง 31 ม.) ติดตั้งอยู่ด้านหน้าอาคาร Grand Josun Busan โดยนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ป้ายนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมากในฐานะพื้นที่โฆษณากลางแจ้งฟรีแห่งแรกของเกาหลีที่อยู่นอกเขตกรุงโซล แคมเปญนี้ใช้หน้าจอขนาดมหึมาเพื่อแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตขนาดใหญ่ยักษ์ที่คอยส่งข้อความเตือนความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ให้กับนักท่องเที่ยวที่หาดแฮอุนแด แคมเปญนี้นำเสนอโดย Shinsegae Property โดยมี INNOCEAN รับผิดชอบด้านการวางแผนและการผลิต

เจ้าหน้าที่ของ INNOCEAN กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการโฆษณากลางแจ้งสามารถสร้างผลกระทบทางสายตาได้อย่างทรงพลัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เราจึงนำเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตที่ชายหาดแฮอุนแดตัวจริงมาเป็นนายแบบในวิดีโอ”

หาดแฮอุนแดสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ถึง 200,000 – 250,000 คนต่อวันในช่วงฤดูท่องเที่ยว อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นทำให้เกิดกระแสน้ำย้อนกลับสูงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น การว่ายน้ำขณะมึนเมา ยังคงมีอยู่ และเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนจำกัด การแจ้งเตือนด้วยวาจาเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ

แคมเปญนี้มุ่งหวังที่จะลดอุบัติเหตุและสร้างความตระหนักรู้ผ่านภาพเสมือนจริงแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดื่มด่ำและไม่เหมือนใครให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทั้งความปลอดภัยสาธารณะและการท่องเที่ยวในท้องถิ่น

INNOCEAN และ Shinsegae Property วางแผนที่จะพัฒนาแคมเปญสื่อดิจิทัลนอกบ้าน (DOOH) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อความสาธารณะที่มีความหมายและเสริมสร้างประสบการณ์ในเมือง โดยซีอีโอ Yongwoo Lee กล่าวว่า “เราเริ่มต้นด้วย เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเราจะยังคงแบ่งปันแคมเปญที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมผ่านสื่ออย่างสร้างสรรค์”

INNOCEAN ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินงาน Grand Josun Media ซึ่งเป็นสื่อโฆษณากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบนด้านหน้าอาคาร Grand Josun Busan ในเขตแฮอุนแดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250805919143/en

Contacts

INNOCEAN
Kim Shin-bi
shinbi.kim@innocean.com

ที่มา: INNOCEAN INC.

ขยายขีดความสามารถ AI อย่างไร้ขีดจำกัด: KIOXIA นำเสนอโซลูชัน Flash Storage สุดล้ำที่งาน FMS 2025

Logo

บริษัทมุ่งเน้นไปที่ SSD ความจุ 245.76 TB รุ่นแรกในอุตสาหกรรม รวมถึงนวัตกรรมอื่นๆ ที่จะนิยามการจัดเก็บข้อมูลใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 สิงหาคม 2025

กลุ่ม Kioxiaผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ จะขึ้นเวทีอีกครั้งในงาน FMS: อนาคตของหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล เพื่อเน้นย้ำว่านวัตกรรมหน่วยความจำแฟลชและ SSD ของบริษัทกำลังขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและปรับขนาดได้สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไร โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้งานจริงและการเพิ่มประสิทธิภาพ โดย Kioxia จะแสดงให้เห็นว่าโซลูชันล่าสุดของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของ AI ในสภาพแวดล้อมศูนย์ข้อมูลและองค์กรได้อย่างไร

Scale AI Without Limits: KIOXIA Showcases Breakthrough Flash Storage Solutions at FMS 2025

ขยายขีดความสามารถ AI อย่างไร้ขีดจำกัด: KIOXIA นำเสนอโซลูชัน Flash Storage สุดล้ำที่งาน FMS 2025

 Kioxia จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด รวมถึงซีรีส์ KIOXIA LC9 ความจุสูง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของอุตสาหกรรม1 245.76 เทราไบต์ (TB)2 NVMe™ SSD โดยมีไฮไลท์เพิ่มเติม ประกอบด้วย SSD ซีรีส์ KIOXIA CM9 และซีรีส์ KIOXIA CD9P ที่สร้างด้วยหน่วยความจำแฟลช 3D BiCS FLASHTM รุ่นที่ 8 ของบริษัทที่ส่งมอบประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และความหลากหลายต่างๆ นอกจากนี้ Kioxia ยังจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ความจุ 1 เทราบิต (Tb)3 3 บิต/เซลล์ (TLC) ที่ใช้เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D BiCS FLASHTM รุ่นที่ 9 และรุ่นที่ 10 โดยที่หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASHTM รุ่นที่ 9 และ รุ่นที่ 10 ได้ผสานรวมมาตรฐานอินเทอร์เฟซ Toggle DD6.0 และใช้ประโยชน์จากโปรโตคอล SCA (Separate Command Address) และวิธีการป้อนที่อยู่คำสั่งแบบใหม่ของอินเทอร์เฟซ และเทคโนโลยี PI-LTT (Power Isolated Low-Tapped Termination) ซึ่งช่วยปรับปรุงความเร็วในการรับและส่งข้อมูลและลดการใช้พลังงาน

ในงาน FMS 2025 Kioxia จะนำเสนอประเด็นสำคัญและเซสชันทางเทคนิคที่ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้:

  1.  การนำเสนอหลักในงาน FMS 2025:
     “เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ด้วยเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชและโซลูชันการจัดเก็บข้อมูล
     วันอังคารที่ 5 สิงหาคม เวลา 11:00 . ตามเวลาแปซิฟิก (PDT)
     สถานที่: ห้องบอลรูม Mission City, ศูนย์การประชุม Santa Clara, ชั้น 1
     วิทยากร: Katsuki Matsudera ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดด้านเทคนิคหน่วยความจำของ Kioxia Corporation และ Neville Ichhaporia รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจ SSD ของ KIOXIA America, Inc.
     
  2.  เสวนาระดับผู้บริหาร AI Premier:
    การปรับขนาดหน่วยความจำและพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับการอนุมาน AI
     วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม เวลา 11:00 . ตามเวลาแปซิฟิก (PDT)
     สถานที่: ห้องบอลรูม Mission City, ศูนย์การประชุม Santa Clara, ชั้น 1
     วิทยากร: Rory Bolt นักวิจัยอาวุโสและสถาปนิกหลักของหน่วยธุรกิจ SSD ของ KIOXIA America Inc.
     
  3.  บูทสาธิต KIOXIA
     การสาธิตผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจะจัดขึ้นที่บูท KIOXIA หมายเลข 307 อันโดดเด่น 2 ชั้น ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดง 10 แห่งในพื้นที่จัดแสดง ซึ่งประกอบด้วย:
  •  กรณีการใช้งานที่ต้องขยายเพิ่มขึ้นแพ็กเกจความจุสูง/หน่วยความจำแฟลชความหน่วงต่ำ: สแต็ก 32 ไดในแพ็คเกจ BGA ขนาดเล็กของหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASHTM รุ่นที่ 8 QLC 3D /XL-FLASH พร้อมอินเทอร์เฟซ CXL™
  •  หน่วยความจำแฟลช 3D KIOXIA BiCS FLASHTM รุ่นที่ 9: เวเฟอร์ 1 Tb3 และแพ็กเกจ BGA ขนาดเล็กพร้อมชิป 512Gb
  •  หน่วยความจำแฟลช 3D KIOXIA BiCS FLASHTM รุ่นที่ 10 : เวเฟอร์ 1 Tb3 และการจัดแสดงโมเดล
  •  KIOXIA UFS – ผู้บริโภคและยานยนต์: โซลูชันประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดที่กำลังพัฒนา
  •  SSD ความจุสูง 245.76 TB2 ใน Dell PowerEdge 7715: การนำเสนอ SSD NVMe ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA LC9
  •  การสาธิตเกี่ยวกับประสิทธิภาพและพลังของอุปกรณ์: การนำเสนอ SSD NVMe สำหรับศูนย์ข้อมูล ซีรีส์ KIOXIA CD9P
  •  การฝึกอบรม ML Perf Storage: การนำเสนอ SSD NVMe ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA CM9
  •  การจำลอง SSD โดยตรงบน GPU: การตรวจสอบอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลโดยตรงบน GPU ที่ 143 ล้าน IOPS
  •  ซอฟต์แวร์ KIOXIA AiSAQ การสร้างสมดุลระหว่างขีดความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานอย่างยืดหยุ่น
  •  การถ่ายข้อมูล RAID และการล้างข้อมูล: การนำเสนอ SSD NVMe ระดับองค์กร ซีรีส์ KIOXIA CM7

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ FMS 2025
https://futurememorystorage.com/

หมายเหตุ:

1: ข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2568 อ้างอิงจากผลสำรวจของ Kioxia Corporation

2: นิยามของความจุ SSD: Kioxia Corporation กำหนด 1 กิโลไบต์ (KB) เท่ากับ 1,000 ไบต์, 1 เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์, 1 กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์, 1 เทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ และ 1 กิบิไบต์ (KiB) เท่ากับ 1,024 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับนิยามของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของพื้นที่จัดเก็บน้อยลง ความจุที่ใช้งานได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบปฏิบัติการ Microsoft และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

3: ความจุของหน่วยความจำแฟลชคำนวณจาก 1 เทราบิต (1 Tb) = 1,099,511,627,776 (2^40) บิต และ 1 เทราไบต์ (1 TB) = 1,099,511,627,776 (2^40) ไบต์

Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแบบฝังตัวที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน JEDEC UFS

NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

CXL เป็นเครื่องหมายการค้าของ Compute Express Link Consortium, Inc.

Dell, PowerEdge และเครื่องหมายการค้าอื่นๆ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Dell Inc. หรือบริษัทในเครือ

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 Toshiba Memory ซึ่งเป็นชื่อเดิมของบริษัทได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าจากหน่วยความจำสำหรับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ระบบยานยนต์ ศูนย์ข้อมูล และระบบ AI เชิงสร้างสรรค์

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ ซึ่งมีความถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250804179531/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายบริหารการส่งเสริมการขาย
Satoshi Shindo
โทร.: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

The Bangkok Reporter