ประธาน FIA Mohammed Ben Sulayem ร่วมฉลองเปิดตัว FIA Karting Arrive and Drive World Cup ที่มาเลเซีย

Logo

  • ประธาน FIA สนับสนุนการส่งเสริมการเข้าถึงรถโกคาร์ทระดับโลก ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการแข่งขัน FIA Karting Arrive and Drive World Cup ครั้งแรกในมาเลเซีย

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2025

Mohammed Ben Sulayem ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) กล่าวว่า การแข่งขันครั้งแรกนี้จะช่วยลดอุปสรรคทางการเงินและอุปสรรคต่างๆ ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถโกคาร์ท เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและขยายการมีส่วนร่วมในระดับโลก

107 drivers from 50 nationalities at the FIA Karting Arrive and Drive World Cup

นักแข่ง 107 คนจาก 50 สัญชาติในการแข่งขัน FIA Karting Arrive and Drive World Cup

การแข่งขัน FIA Karting Arrive and Drive World Cup ที่ทุกคนรอคอยจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ โดยมีนักแข่งหน้าใหม่ใน 2 ประเภท (รุ่นจูเนียร์และรุ่นซีเนียร์) เข้าร่วมแข่งขันในสนามโกคาร์ทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียที่ LYL International Circuit ในมาเลเซีย

การแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน โดยจะมีนักแข่ง 107 คน จาก 50 สัญชาติทั่วโลก เข้าร่วมแข่งขันในรถโกคาร์ทมาตรฐานเดียวกันจาก OTK Group นอกจากนี้ยังมีนักแข่งหญิงอีก 15 คนเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน FIA Karting มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

โดยมีนักแข่ง 17 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งสำคัญนี้ด้วย

การพัฒนานักแข่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขัน โดยมีการจัดเวิร์กช็อปของ FIA ก่อนการแข่งขัน โดยเน้นที่ความปลอดภัยของนักแข่ง โภชนาการ การต่อต้านการใช้สารกระตุ้น การฝึกอบรมสื่อมวลชน และการเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับระบบการจัดอันดับรถแข่งโกคาร์ทนานาชาติของ FIA โดยเวิร์กช็อปเหล่านี้จะช่วยให้นักแข่งมีโอกาสพัฒนาฝีมือทั้งบนสนามและนอกสนาม

Mohammed Ben Sulayem ประธาน FIA กล่าวว่า: การแข่งขัน FIA Karting Arrive and Drive World Cup ครั้งแรกนี้ ถือเป็นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับรากหญ้าทั่วโลก ขอขอบคุณสโมสรสมาชิก FIA ของเราที่เข้าร่วมการแข่งขัน และขอขอบคุณประธาน Tan Sri Mokhzani Mahathir จาก MAM และรัฐบาลมาเลเซียที่เป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญครั้งนี้

การสนับสนุนรูปแบบใหม่นี้เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระดับโลกของเราในการเพิ่มการเข้าถึง เพิ่มการมีส่วนร่วมในกีฬามอเตอร์สปอร์ต และส่งเสริมความสามารถให้กับคนรุ่นต่อไป

Hon. Hannah Yeoh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา รัฐบาลกลางมาเลเซีย กล่าวว่า: เราภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งสำคัญนี้ในมาเลเซีย ซึ่งได้ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างการพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศ ซึ่งต้องขอขอบคุณ FIA สำหรับความร่วมมือครั้งนี้

Akbar Ebrahim ประธานคณะกรรมการ FIA Karting กล่าวว่า: “FIA Karting Arrive and Drive World Cup ไม่ใช่แค่การแข่งขันธรรมดาๆ แต่เป็นโอกาสสำหรับนักแข่งที่มีพรสวรรค์จากทั่วโลกในการพิสูจน์ฝีมือและพัฒนาตนเองให้เป็นนักแข่งที่มีความสามารถรอบด้านในช่วงเริ่มต้นอาชีพ

เนื่องจากเป็นงาน Arrive and Drive ซึ่งเป็นงานสำคัญบนปฏิทินการแข่งรถโกคาร์ท ทุกสายตาจึงจับจ้องไปที่มาเลเซียในเดือนนี้ โดยเราจะจัดแสดงกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่เข้าถึงได้และราคาไม่แพง โดยให้ความสำคัญกับนักแข่งเป็นหลัก

Lung-Nien Lee รองประธานฝ่ายกีฬา FIA ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า: กีฬามอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นเวทีให้นักแข่งดาวรุ่งจากทั่วโลกได้แสดงฝีมือ พร้อมกับพัฒนาฝีมือนักแข่งผ่านเวิร์กช็อปสุดล้ำ

ประธาน Tan Sri Mokhzani Mahathir ประธานสมาคมมอเตอร์สปอร์ตแห่งมาเลเซีย (MAM) กล่าวว่า: การทำงานร่วมกับ FIA เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของเรา ดังนั้น เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับนักแข่งกว่า 100 คนจาก 50 สัญชาติสู่มาเลเซียสำหรับการแข่งขันครั้งสำคัญนี้

รับชมสดและฟรีบน YouTube ได้ที่: http://www.youtube.com/@fiakartingchampionship9818

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับคำถามจากสื่อ โปรดติดต่อ:

  • Geri Sherwin, ผู้อำนวยการของ Presidential & Mobility Communications: gsherwin@fia.com
  • Joseph Kidd, เจ้าหน้าที่ของ Presidential Communications: jkidd@fia.com

ที่มา: FIA

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251113644246/en

Xsolla และ Airbridge ร่วมมือกันเพื่อส่งมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพบนมือถือและเว็บแบบครบวงจรสำหรับนักพัฒนาเกม

Logo

การผสานรวม S2S ใหม่จะเชื่อมต่อข้อมูลมือถือและเว็บ ที่ช่วยให้นักพัฒนามีมุมมองแบบรวมจากมูลค่าของผู้เล่นและประสิทธิภาพด้านการตลาด

ลอสแอนเจลิสและโซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2025

Xsolla บริษัทพาณิชย์ระดับโลกที่ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมในการเปิดตัว พัฒนา และสร้างรายได้จากเกม ประกาศในวันนี้ถึงการผสานรวมระบบแบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์ (S2S) ที่เน้นการใช้งานบนมือถือเข้ากับ Airbridge ที่เป็นแพลตฟอร์มการวัดผลแบบครบวงจรชั้นนำสำหรับนักการตลาดมือถือ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยให้นักพัฒนาเกมมือถือสามารถติดตามประสิทธิภาพข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างแม่นยำ โดยเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างความพยายามทางการตลาดมือถือและการซื้อผ่าน Xsolla Web Shop

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

เนื่องจากนักพัฒนาจำนวนมากหันมาใช้ Web Shop ในการขับเคลื่อนการสร้างรายได้โดยตรงสู่ผู้บริโภคนอกเหนือจากร้านค้าบนแอปแบบดั้งเดิม การทำความเข้าใจมูลค่าที่แท้จริงของธุรกรรมนอกแพลตฟอร์มจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ด้วยการผสานรวม S2S ใหม่ของ Xsolla ที่ขับเคลื่อนโดย Airbridge นักพัฒนาจึงสามารถมองเห็นประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำ โดยสามารถระบุการซื้อผ่านเว็บเป็นเหตุการณ์ภายในแอป และแสดงมูลค่าตลอดอายุการใช้งาน (LTV) รวมถึงผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณา (ROAS) ที่ถูกต้องในทุกๆ แพลตฟอร์ม

 การผสานรวม Xsolla Web Shop และ Airbridge S2S จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถ:

  • ติดตามการซื้อจาก Web Shop ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การใช้งานมือถือ
  • ระบุแหล่งที่มาของรายได้ผ่านแคมเปญการเข้าถึงผู้ใช้และการมีส่วนร่วมซ้ำ
  • เข้าใจ LTV ของผู้เล่นทั้งหมดจากธุรกรรมทั้งในแอปและบนเว็บ

การซื้อที่ทำผ่าน Xsolla Web Shop จะถูกส่งไปยัง Airbridge ในรูปแบบเหตุการณ์แบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย จากนั้นจึงระบุแหล่งที่มาของการติดตั้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือแคมเปญการมีส่วนร่วมซ้ำที่ถูกต้อง การเชื่อมโยงนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเห็นผลกระทบด้านประสิทธิภาพทั้งหมดของกลยุทธ์การตลาดบนอุปกรณ์เคลื่อนทั้งในและนอก App Store ได้ในที่สุด

“จากการที่ได้ให้บริการเว็บช็อปบนมือถือหลายร้อยแห่ง เรารู้ดีว่านักพัฒนาต้องการข้อมูลที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งเชื่อมโยงทุกการซื้อเข้ากับความพยายามบนมือถือของพวกเขา” Berkley Egenes ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการเติบโตของ Xsolla กล่าว “การผสานรวม S2S ใหม่ของเราเข้ากับ Airbridge จะช่วยให้ทีมงานมีความแม่นยำในการวัดผลสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือประสิทธิภาพที่แท้จริงทั้งบนแอปและเว็บ”

“ที่ Airbridge ภารกิจของเราคือการเสริมศักยภาพให้นักการตลาดด้วยความโปร่งใสและเครื่องมือที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน” Chris Oh ซีอีโอของ Airbridge กล่าว “ด้วยความร่วมมือครั้งนี้กับ Xsolla เราได้เชื่อมโยงข้อมูลเว็บและข้อมูลมือถือเข้าด้วยกัน เพื่อให้นักพัฒนาเกมได้รับข้อมูลที่ครอบคลุมและครบถ้วน ซึ่งจำเป็นต่อการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล”

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผสานรวม S2S สำหรับ Xsolla Web Shop และ Airbridge ได้ที่: xsolla.blog/airbridge

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์ระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยนักพัฒนาแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตั้งแต่เกมอินดี้ไปจนถึงเกมระดับ AAA บริษัทต่างๆ ร่วมมือกับ Xsolla เพื่อช่วยระดมทุน จัดจำหน่าย ทำการตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกมของพวกเขา ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของวิดีโอเกม Xsolla มุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเชื่อมโยงโอกาสต่างๆ เข้าด้วยกัน และจัดหาทรัพยากรใหม่ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยดำเนินงานในฐานะผู้ค้าเกม และได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมมากกว่า 1,500 คน ให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นและขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยเส้นทางสู่ผลกำไรและหนทางสู่ชัยชนะที่มากขึ้น นักพัฒนาเกมจึงมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเพลิดเพลินไปกับเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.com.

เกี่ยวกับ Airbridge

Airbridge คือแพลตฟอร์มการวัดผลแบบครบวงจรที่เสริมศักยภาพให้นักการตลาดยุคใหม่ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่โปร่งใสและคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว โดย Airbridge สร้างขึ้นเพื่อรวมข้อมูลผ่านช่องทางและแพลตฟอร์มต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้บริษัทที่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถวัดประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่าย และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแม่นยำ ทาง Airbridge ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์มือถือชั้นนำทั่วโลก ด้วยมอบข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนข้อมูลทางการตลาดให้เป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่มีความหมาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ airbridge.io

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20251111170674/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

รายชื่อผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลก Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

SBC Medical Group ประกาศเริ่มต้นการเสนอซื้อหุ้นของ Waqoo, Inc.

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2025

SBC Medical Group Holdings Incorporated (Nasdaq: SBC) (“SBC Medical” หรือ “บริษัท”) ผู้ให้บริการที่ปรึกษาและบริการจัดการที่ครอบคลุมระดับโลกแก่บริษัททางการแพทย์และคลินิกต่างๆ ประกาศในวันนี้ว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 บริษัท SBC Medical Group Co., Ltd. (“ผู้เสนอซื้อ”) ได้มีมติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท Waqoo, Inc. (รหัสหลักทรัพย์: 4937 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว Growth Market; “บริษัทเป้าหมาย”) ผ่านการเสนอซื้อหลักทรัพย์ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์”) ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือทางการเงินและการแลกเปลี่ยนของประเทศญี่ปุ่น (พระราชบัญญัติหมายเลข 25 ปี 1948 แก้ไขเพิ่มเติม; “FIEA”) ดังที่อธิบายไว้ด้านล่าง

ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เป็นบริษัทย่อยในประเทศญี่ปุ่นที่ SBC Medical Group Holdings Incorporated (“SBCHD”) ถือหุ้นสูงสุด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และดำเนินธุรกิจให้บริการสนับสนุนการบริหารจัดการคลินิกการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ณ ปัจจุบัน ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ถือหุ้นสามัญของบริษัทเป้าหมายจำนวน 353,600 หุ้น (อัตราส่วนการถือครอง: 9.49%) โดยทาง SBCHD เองไม่ได้ถือหุ้นของบริษัทเป้าหมายโดยตรง อย่างไรก็ตาม Yoshiyuki Aikawa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBCHD และกรรมการของผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (“ผู้ถือหุ้นผู้ขาย”) จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทเป้าหมาย โดยถือหุ้นจำนวน 989,802 หุ้น (อัตราส่วนการถือครอง: 26.58%) ดังนั้น ผู้ถือหุ้นผู้ขายจึงถือเป็น “บุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด” และ “บุคคลที่กระทำการร่วมกัน” กับผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ดังนั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จึงถูกจัดประเภทเป็น “บริษัทในเครืออื่น” ของบริษัทเป้าหมายภายใต้กฎหมายการบัญชีของญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ได้ตัดสินใจที่จะ (i) เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัทเป้าหมายที่ผู้ถือหุ้นผู้ขายถืออยู่ (“หุ้นที่โอน”) ผ่านการทำธุรกรรมนอกตลาด (“การโอนหุ้น”) และ (ii) ดำเนินการเสนอซื้อหลักทรัพย์ การโอนหุ้นและการเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยรวมเรียกว่า “ธุรกรรม”

สำหรับข้อกำหนดเกี่ยวกับการโอนหุ้น ผู้ทำคำเสนอซื้อและผู้ถือหุ้นที่ขายได้ลงนามในข้อตกลงการโอนหุ้น ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าผู้ถือหุ้นที่ขายจะไม่เสนอขายหุ้นที่โอนในข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ และจะโอนหุ้นทั้งหมดดังกล่าวให้แก่ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตามข้อตกลงการโอนหุ้น

การโอนหุ้นจะดำเนินการในวันที่ 19 ธันวาคม 2025 (วันเริ่มต้นการชำระราคาตามคำเสนอซื้อหลักทรัพย์) โดยขึ้นอยู่กับการเสร็จสิ้นและการชำระราคาคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้นและผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์มี “ความสัมพันธ์พิเศษอย่างเป็นทางการ” อย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรา 27-2 วรรค 7 ข้อ 1 ของ FIEA เป็นเวลากว่าหนึ่งปีก่อนวันที่ลงนามในข้อตกลงการโอนหุ้น การโอนหุ้นจึงถือเป็น “การซื้อที่ได้รับการยกเว้น” ภายใต้มาตรา 27-2 วรรค 1 ของ FIEA ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการเสนอซื้อหลักทรัพย์แยกต่างหาก

ภายใต้ข้อตกลงการโอนหุ้น ราคาโอนหุ้นต่อหุ้น (“ราคาโอน”) ตกลงกันไว้ที่ 1,445 เยนต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ (“ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์”) ที่ 1,900 เยนต่อหุ้น ราคาโอนหุ้นที่ต่ำกว่านี้สะท้อนถึงลักษณะของธุรกรรมนี้ในฐานะธุรกรรมระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะซื้อหุ้นจากกรรมการของบริษัทแม่สูงสุด

 วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของธุรกรรม

ด้วยธุรกรรมนี้ SBC มุ่งมั่นที่จะเร่งดำเนินการวิจัยและพัฒนาของ Waqoo ให้เร็วขึ้น และบูรณาการเทคโนโลยีขั้นสูงและความเชี่ยวชาญเข้ากับกลุ่ม SBC ด้วยการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ Waqoo โดยกลุ่ม SBC มุ่งมั่นที่จะยกระดับบริการด้านคลินิก เช่น AGA และศัลยกรรมกระดูก พัฒนาวิธีการรักษาและบริการที่เป็นกรรมสิทธิ์ใหม่ๆ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันโดยรวม

นอกจากนี้ บริษัททั้งสองจะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาและการนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไปใช้จริงโดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกทางคลินิก เพื่อสร้างกรอบการทำงานที่ราบรื่นตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยคาดว่าความรู้ความชำนาญด้านการประมวลผลและการวิจัยของ Waqoo จะเป็นรากฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการดำเนินงานระหว่างประเทศของ SBCHD และสนับสนุนความพยายามร่วมกันในการนำศาสตร์แห่งการฟื้นฟูไปปฏิบัติจริง

 ภาพรวมของการเสนอซื้อหลักทรัพย์

 รายการ

 รายละเอียด

 (1) ชื่อบริษัทเป้าหมาย

Waqoo, Inc.

 (2) ประเภทของหุ้นที่จะซื้อ

หุ้นสามัญ

 (3) ระยะเวลาเสนอซื้อหลักทรัพย์

 ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2025 (วันศุกร์) ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2025 (วันศุกร์) — 20 วันทำการ
 (หากบริษัทเป้าหมายขอขยายเวลาตามมาตรา 27-10 วรรค 3 ของ FIEA ระยะเวลาดังกล่าวจะขยายไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2025 (วันศุกร์))

 (4) ราคาเสนอซื้อ

1,900 เยนต่อหุ้น

 (5) จำนวนหุ้นที่จะซื้อ

575,000 หุ้น (จำนวนหุ้นสูงสุด: 575,000 หุ้น; ไม่มีจำนวนหุ้นต่ำสุด)

 (6) วันที่เริ่มต้นการชำระเงิน

 วันที่ 19 ธันวาคม 2025 (วันศุกร์)
 (หากขยายระยะเวลาดังกล่าว การชำระเงินจะเริ่มในวันที่ 7 มกราคม 2026 (วันพุธ))

 (7) ตัวแทนรับซื้อหลักทรัพย์

SBI SECURITIES Co., Ltd., 1-6-1 Roppongi, Minato-ku, Tokyo

โปรดดูแบบแสดงรายการการลงทะเบียนข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่จะยื่นโดยผู้เสนอซื้อหลักทรัพย์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2025 เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์

ประกาศสำคัญ (ข้อบังคับเกี่ยวกับการชักชวน)

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้เป็นการประกาศต่อสาธารณะเพื่อเปิดเผยการเริ่มต้นการเสนอซื้อหลักทรัพย์ และไม่ถือเป็นการชักชวนให้ขายหุ้น ผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะเสนอขายหุ้นของตน โปรดอ่านคำอธิบายการเสนอซื้อหลักทรัพย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน และตัดสินใจด้วยตนเอง

ประกาศเกี่ยวกับกฎระเบียบของสหรัฐอเมริกา

คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่อธิบายไว้ในที่นี้ไม่ได้ดำเนินการโดยตรงหรือโดยอ้อม ในหรือเข้า หรือเพื่อประโยชน์หรือผลประโยชน์ของผู้มีถิ่นพำนักหรือบุคคลที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา คำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะไม่ดำเนินการทั้งหมดหรือบางส่วนโดยใช้ไปรษณีย์ของสหรัฐอเมริกา หรือวิธีการหรือเครื่องมือใดๆ ที่ใช้ในการพาณิชย์ระหว่างรัฐหรือต่างประเทศ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ โทรสาร อีเมล หรือการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต) หรือผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การเสนอขายหุ้นใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่ทำโดยวิธีการ เครื่องมือ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว หรือจากภายในประเทศสหรัฐอเมริกา จะไม่ได้รับการยอมรับ

นอกจากนี้ ห้ามส่ง แจกจ่าย หรือส่งต่อคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หรือเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจดหมายส่งต่อหรือเอกสารเสนอขายหลักทรัพย์อื่นๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ทางไปรษณีย์หรือวิธีการอื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม เข้า ออก หรือออกจากสหรัฐอเมริกา หรือเพื่อประโยชน์หรือบัญชีของผู้มีถิ่นพำนักในสหรัฐอเมริกาหรือบุคคลที่พำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา ความพยายามใดๆ ในการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ฝ่าฝืนข้อจำกัดเหล่านี้จะไม่ได้รับการยอมรับ จะไม่มีการเรียกร้องหลักทรัพย์หรือสิ่งตอบแทนอื่นใดเพื่อการยอมรับในสหรัฐอเมริกา และข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นและจะไม่ถูกตีความว่าเป็นการเสนอหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาในรูปแบบใดๆ

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ไม่ถือเป็นหรือเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหรือการชักชวนให้ซื้อ ขาย หรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับหลักทรัพย์ใดๆ และจะไม่ถือเป็นพื้นฐานหรืออ้างอิงถึงสัญญาหรือข้อผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น การเสนอซื้อหุ้นใดๆ จะกระทำตามคำชี้แจงข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ซึ่งจัดทำขึ้นตามกฎหมายญี่ปุ่นเท่านั้น ผู้ถือหุ้นควรตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะเสนอขายหุ้นหรือไม่ และหากเสนอขาย จำนวนหุ้นที่จะเสนอขายจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตนเอง

ขั้นตอนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์จะดำเนินการเป็นภาษาญี่ปุ่น เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น แม้ว่าจะมีการเตรียมข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นภาษาอังกฤษ แต่หากมีความคลาดเคลื่อนระหว่างฉบับภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ให้ถือฉบับภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้มีคำกล่าวที่มองไปข้างหน้า ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่อธิบายไว้หรือโดยนัยในคำกล่าวที่มองไปข้างหน้าดังกล่าว เนื่องจากความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์และบริษัทในเครือไม่รับประกันความถูกต้องของคำกล่าวที่มองไปข้างหน้าดังกล่าว โดยคำกล่าวที่มองไปข้างหน้านี้จะอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ ณ วันที่ของข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ และผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์และบริษัทในเครือไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในอนาคต เว้นแต่กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

เกี่ยวกับ SBC Medical Group Holdings Incorporated

SBC Medical Group Holdings Incorporated เป็นกลุ่มธุรกิจทางการแพทย์ที่ครอบคลุม ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์หลากหลายสาขาครอบคลุมหลากหลายสาขาการแพทย์ ครอบคลุมตั้งแต่เวชศาสตร์ความงามขั้นสูง โรคผิวหนัง ศัลยกรรมกระดูกและข้อ การรักษาภาวะมีบุตรยาก ทันตกรรม AGA (การฟื้นฟูเส้นผม) และจักษุวิทยา บริษัทบริหารจัดการแบรนด์คลินิกที่หลากหลาย และกำลังขยายการดำเนินงานไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย ทั้งผ่านการดำเนินงานโดยตรงและโครงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ในเดือนกันยายน 2024 บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq และในเดือนมิถุนายน 2025 ได้รับเลือกให้รวมอยู่ในดัชนี Russell 3000® ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงที่ครอบคลุมของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ด้วยวัตถุประสงค์ของกลุ่มธุรกิจ “การสร้างเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทั่วโลกด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์” SBC Medical Group Holdings Incorporated ยังคงให้บริการทางการแพทย์ที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีคุณภาพสูง พร้อมกับเสริมสร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติในด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือในการดูแลรักษาทางการแพทย์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sbc-holdings.com/

คำกล่าวที่มองไปข้างหน้า

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้มีคำกล่าวที่มองไปข้างหน้า คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือคำกล่าวที่แสดงถึงสภาพปัจจุบัน แต่เป็นเพียงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลายกรณีมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าเหล่านี้สะท้อนมุมมองปัจจุบันของบริษัทเกี่ยวกับประสิทธิภาพทางการเงินของบริษัท การเติบโตของรายได้และกำไร แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจ แผนการจัดสรรเงินทุนและสภาพคล่อง ในบางกรณี คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าสามารถระบุได้โดยการใช้คำ เช่น “อาจ” “ควร” “คาดหวัง” “คาดการณ์ล่วงหน้า” “พิจารณา” “ประมาณการ” “เชื่อว่า” “วางแผน” “คาดการณ์” “ทำนาย” “ศักยภาพ” หรือ “หวัง” หรือคำเชิงลบของคำเหล่านี้หรือคำที่คล้ายคลึงกัน บริษัทขอเตือนผู้อ่านอย่าพึ่งพาคำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างมากเกินไป ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากต่อการคาดเดาหรือวัดผลได้ คำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากการคาดการณ์ปัจจุบันของฝ่ายบริหาร และไม่รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัทไม่ดำเนินการหรือยอมรับภาระผูกพันใดๆ ที่จะเผยแพร่ข้อมูลอัปเดตหรือแก้ไขคำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าต่อสาธารณะเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในการคาดการณ์ของบริษัทหรือการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่คำกล่าวดังกล่าวอ้างอิง ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนด ปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปจากการคาดการณ์ปัจจุบันอย่างมากอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ปัจจัยทั้งหมดได้ ปัจจัยดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือระดับท้องถิ่น สภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน การตลาด และกฎระเบียบ และปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และในที่อื่นๆ ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (“SEC”) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov.  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

SBC Medical Group Holdings Incorporated
Hikaru Fukui / หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ir@sbc-holdings.com

ICR LLC (เวลาสหรัฐอเมริกา)
Bill Zima / หุ้นส่วนผู้จัดการ bill.zima@icrinc.com

ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated

มูลนิธิ Mary Kay Ash ® มอบเงินสนับสนุน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมการวิจัยมะเร็งและการตรวจมะเร็งในระยะเริ่มต้นที่ Baylor Scott & White Health

Logo

เงินทุนจะประกอบด้วยการสนับสนุนการทดลองทางคลินิกที่ล้ำสมัยและเงินบริจาคจำนวนหลายปีให้แก่สถาบัน Texas Cancer Interception Institute ซึ่งมูลนิธิได้รับรางวัล Circle of Care Award จากการเป็นพันธมิตรกันมาถึงสองทศวรรษ

ดัลลัส –(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2025

มูลนิธิ Mary Kay Ash® ซึ่งเป็นผู้ผลักดันนวัตกรรมด้านสุขภาพสตรีมาเกือบสามทศวรรษ ประกาศมอบเงินสนับสนุน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่มูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas เพื่อเร่งการทดลองทางคลินิกสำหรับมะเร็งเต้านมชนิด Triple-Negative ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และผลักดันโครงการริเริ่มการตรวจหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นที่เปลี่ยนจากการดูแลจากเชิงรับเป็นเชิงรุกที่สถาบัน Texas Cancer Interception Institute ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่

In recognition of its steadfast, decades-long commitment to women’s health, the Mary Kay Ash Foundation was honored with the prestigious Circle of Care Award at the 2025 Celebrating Women Luncheon, hosted by the Baylor Scott & White Dallas Foundation. The award celebrates those who have made a profound impact in shaping the future of breast cancer care through advocacy, philanthropy, and innovation. Since its inception, the luncheon has raised more than $42 million to fund research, advance detection, and support programs that empower women and families facing breast cancer. Photo Credit: Kristina Bowman

เพื่อเป็นการยกย่องความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่และยาวนานหลายทศวรรษในการดูแลสุขภาพสตรี มูลนิธิ Mary Kay Ash ได้รับรางวัล Circle of Care Award อันทรงเกียรติในงาน Celebrating Women Luncheon ประจำปี 2025 ซึ่งจัดโดยมูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas โดยรางวัลนี้ยกย่องเชิดชูผู้ที่สร้างผลกระทบอย่างลึกซึ้งในการกำหนดอนาคตของการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ผ่านการสนับสนุน การกุศล และนวัตกรรมต่างๆ นับตั้งแต่ก่อตั้ง งานเลี้ยงอาหารกลางวันนี้ได้ระดมทุนมากกว่า 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการวิจัย การตรวจหาโรคขั้นสูง และโครงการสนับสนุนที่ส่งเสริมศักยภาพสตรีและครอบครัวที่เผชิญกับมะเร็งเต้านม เครดิตภาพ: Kristina Bowman

โดยเงินทุนสนับสนุนจะแบ่งออกเป็นสองส่วนประกอบด้วย:

  •  100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก TRIM-EBC ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าซึ่งนำโดยประธาน Celebrating Women ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้านการวิจัยมะเร็งเต้านม, แพทย์หญิง Joyce O’Shaughnessy การทดลองนี้จะสำรวจศักยภาพของยาลดน้ำหนักในการลดความเสี่ยงการเกิดซ้ำในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีน้ำหนักเกิน
  •  ส่วนที่สองจะเป็นเงินบริจาคจำนวนหลายปีให้แก่สถาบัน Texas Cancer Interception Institute ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อตรวจจับและสกัดกั้นมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งเป็นระยะที่สามารถรักษาได้มากที่สุด โดยจะช่วยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับมะเร็งของผู้หญิงจาก “ฉันเป็นมะเร็ง” ไปเป็น “ฉันเป็นมะเร็ง แต่เราตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น” โครงการนี้ได้รับการออกแบบให้ถูกนำไปใช้ในวงกว้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อปฏิวัติกลยุทธ์การตรวจพบและการแทรกแซงตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ป่วยรอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมและผู้ป่วยในระยะต่อไปได้ดีขึ้น

ความมุ่งมั่นล่าสุดนี้ได้ช่วยตอกย้ำพันธกิจร่วมกันระหว่างทั้งสององค์กร นั่นคือการลงทุนในการวิจัยมะเร็งเชิงปฏิรูปเพื่อพัฒนาผลลัพธ์และนำเราเข้าใกล้การรักษามะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงในสัดส่วนที่สูงขึ้นในตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา มูลนิธิ Mary Kay Ash® ได้บริจาคเงิน 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับมูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพันธมิตรที่ยั่งยืนซึ่งมีรากฐานมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และความเห็นอกเห็นใจ

“มูลนิธิ Mary Kay Ash ยังคงมุ่งมั่นที่จะค้นหาวิธีรักษามะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง เราสนับสนุนคุณแม่ ลูกสาว พี่สาวน้องสาว และผู้หญิงทุกคนในชีวิตของเรา” กล่าวโดย Michael Lunceford ประธานคณะกรรมการมูลนิธิ Mary Kay Ash “เงินทุนสนับสนุนนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดนิยามใหม่ของการดูแลรักษาโรคมะเร็ง จากเดิมที่เน้นการรักษาแบบป้องกัน ไปสู่การตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและทางเลือกการรักษาที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีหลังการรักษามะเร็ง เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือเคียงข้าง Baylor Scott & White ในการกำหนดอนาคตของสุขภาพสตรี”

เพื่อเป็นการยกย่องความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษในการดูแลสุขภาพสตรี มูลนิธิ Mary Kay Ash ได้รับรางวัล Circle of Care Award อันทรงเกียรติในงาน Celebrating Women Luncheon ประจำปี 2025 ซึ่งจัดโดยมูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas โดยรางวัลนี้จะยกย่องเชิดชูผู้ที่สร้างผลกระทบอย่างลึกซึ้งในการกำหนดอนาคตของการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ผ่านการสนับสนุน การกุศล และนวัตกรรมต่างๆ นับตั้งแต่ก่อตั้ง งานเลี้ยงอาหารกลางวันนี้ได้ระดมทุนมากกว่า 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการวิจัย การตรวจหาโรคขั้นสูง และโครงการสนับสนุนที่ส่งเสริมศักยภาพสตรีและครอบครัวที่เผชิญกับมะเร็งเต้านม

“Mary Kay Ash เชื่อมั่นในพลังของผู้หญิงในการเปลี่ยนแปลงโลก ความเชื่อมั่นนี้ยังคงอยู่ผ่านความมุ่งมั่นอันกล้าหาญของมูลนิธิที่เป็นชื่อเดียวกับเธอในการพัฒนาสุขภาพของผู้หญิงด้วยการลงทุนเพื่อการตรวจจับแต่เนิ่นๆ และการรักษาที่ดีขึ้น” กล่าวโดย Christina Goodman ประธานมูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas “เมื่อจิตใจอันปราดเปรื่องอย่างแพทย์หญิง ดร. Joyce O’Shaughnessy และจิตใจอันเปี่ยมด้วยความเมตตา มาบรรจบกัน สิ่งพิเศษสุดก็จะเกิดขึ้น โดยความร่วมมือนี้มุ่งเน้นที่จะมอบความหวัง การเยียวยา และโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัวทั่วชุมชนของเรา”

 คุณรู้หรือไม่ว่า

Mary Kay มุ่งมั่นที่จะยุติโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงทั่วโลก โดยขยายผลกระทบไปทั่วโลกผ่านการระดมทุนเพื่อการวิจัยและแคมเปญสร้างความตระหนักรู้ที่ขับเคลื่อนโดยตลาดของ Mary Kay ในหลายทวีป:

  •  ในสเปน Mary Kay ร่วมมือกับมูลนิธิ FEROเพื่อสนับสนุนการวิจัยมะเร็งเต้านมแพร่กระจาย
  •  ในบราซิล สถาบัน Mary Kay มอบทุนสนับสนุนการศึกษาและโปรแกรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งให้กับผู้หญิงหลายพันคนทุกปี
  •  ในมาเลเซีย Mary Kay ร่วมมือกับสมาคมโรคมะเร็งแห่งชาติของมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมการตรวจจับในระยะเริ่มต้น
  •  ในแคนาดา มูลนิธิการกุศล Mary Kay Ash สนับสนุนเวิร์กช็อป Look Good Feel Better® สำหรับผู้หญิงที่กำลังเข้ารับการรักษามะเร็ง และบริจาคผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกสวยงามหลังจากเป็นมะเร็ง

Mary Kay Inc. ตลาดต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงมูลนิธิและกองทุนการกุศลทั้งสี่แห่งที่บริษัทให้การสนับสนุน ได้ร่วมกันบริจาคเงินเกือบ 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก เพื่อช่วยกำจัดโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบระดับโลกอย่างต่อเนื่องของ Mary Kay ตั้งแต่การพัฒนาสุขภาพและการเสริมพลังสตรี ไปจนถึงการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ได้ในรายงานความยั่งยืนปี 2025

เกี่ยวกับมูลนิธิ Mary Kay Ash®

ด้วยความมุ่งมั่นของ Mary Kay Ash ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก มูลนิธิ Mary Kay Ash® จึงได้ระดมทุนและแจกจ่ายเงินทุนเพื่อยุติความรุนแรงในครอบครัวและลงทุนในการวิจัยโรคมะเร็งที่ก้าวหน้าเพื่อหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง ตั้งแต่ปี 1996 มูลนิธิ Mary Kay Ash ได้บริจาคเงินไปมากกว่า 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับองค์กรต่างๆ ที่สอดคล้องกับพันธกิจสองประการ นอกจากนี้ มูลนิธิยังสนับสนุนโครงการสร้างความตระหนักรู้ โครงการเข้าถึงชุมชน และสนับสนุนการออกกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าผู้หญิงมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย ร่วมกันสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับผู้หญิง หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ความรู้ การสนับสนุน การเป็นอาสาสมัคร การบริจาค และการเข้าร่วมงานช่วยชีวิตเพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิง โปรดไปที่ marykayashfoundation.org หรือติดตามเราบน Facebook และ Instagram

เกี่ยวกับมูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas

มูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas ระดมทุนเพื่อส่งเสริมพันธกิจของ Baylor Scott & White Health: ก่อตั้งขึ้นในฐานะพันธกิจคริสเตียนด้านการเยียวยา โดย Baylor Scott & White Health ได้ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน ครอบครัว และชุมชน ที่มูลนิธิ Baylor Scott & White Dallas การกุศลจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสู่การเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมนวัตกรรม ขยายการเข้าถึงการดูแลด้วยความเห็นอกเห็นใจ และส่งเสริมให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีมากขึ้น เรากำลังร่วมกันกำหนดอนาคตของการดูแลสุขภาพในเท็กซัสตอนเหนือ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/20251113339900/en

Contacts

มูลนิธิ Mary Kay Ash®
Newsroom.marykay.com
info@marykayashfoundation.org

ที่มา: Mary Kay


Hamdan bin Mohammed เป็นสักขีพยานในการเปิดตัว ICOM Dubai 2025

Logo

จัดขึ้นที่ดูไบเป็นครั้งแรกในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2025

HH Sheikh Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum มกุฎราชกุมารแห่งดูไบ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานสภาบริหารดูไบ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 27 ของสภาพิพิธภัณฑ์ระหว่างประเทศ (ICOM Dubai 2025) โดยการประชุมนี้จัดขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของ HH Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่ดูไบ ซึ่งเป็นครั้งแรกในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ ภายใต้หัวข้อ อนาคตของพิพิธภัณฑ์ในชุมชนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยงานดังกล่าวได้ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้านพิพิธภัณฑ์ ผู้นำด้านวัฒนธรรม และผู้มีอำนาจตัดสินใจจากทั่วโลกมากกว่า 4,500 ราย

Hamdan bin Mohammed Witnesses Launch of ICOM Dubai 2025 (Photo: AETOSWire)

Hamdan bin Mohammed ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัว ICOM Dubai 2025 (ภาพ: AETOSWire)

ในวันเปิดงานได้เริ่มต้นด้วยคำปราศรัยกิตติมศักดิ์จาก HH Sheikha Latifa bint Mohammed bin Rashid Al Maktoum ประธานสำนักงานวัฒนธรรมและศิลปะแห่งดูไบ ซึ่งทรงเน้นย้ำว่าการประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะกำหนดอนาคตของมนุษยชาติ พระองค์ตรัสว่าการเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกครั้งนี้เป็นการยกย่องบทบาทผู้นำของดูไบบนเวทีวัฒนธรรมโลก “ช่วงเวลาอันพิเศษนี้จะช่วยรักษามรดกของเราเอาไว้ และจุดประกายความทรงจำเกี่ยวกับเส้นทางที่เราเริ่มต้นด้วยความทะเยอทะยานและจุดมุ่งหมายต่างๆ ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายต่อไป โดยดูไบนั้นเป็นเมืองที่ยกย่องวัฒนธรรมในฐานะที่เป็นรากฐานของความก้าวหน้า”

พระองค์ทรงแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อ HH Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum ผู้ซึ่งเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและนำทางไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ โดยตรัสว่า “สำหรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หอคอยหรือเส้นขอบฟ้าไม่ได้เป็นเครื่องวัดความก้าวหน้า แต่เราวัดจากคุณค่าที่เรายึดถือ ความทะเยอทะยานที่เรามีร่วมกัน และอนาคตข้างหน้าที่เราร่วมกันสร้าง”

โปรแกรมนี้จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการจัดงาน ICOM Dubai 2025 โดยมีปาฐกถาสำคัญจากบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่าน อาทิ ประติมากรชื่อดังระดับโลกอย่าง El Anatsui, Emma Nardi ประธาน ICOM และ Medea S. Ekner ผู้อำนวยการทั่วไปของ ICOM

ในวันดังกล่าวยังมีพิธีเปิดงาน Museum Fair ซึ่งจัดแสดงโครงการบุกเบิกและนวัตกรรมจากสถาบันต่างๆ กว่า 100 แห่งทั่วโลก รวมถึงเซสชันที่น่าสนใจต่างๆ ในการประชุมที่ประกอบด้วยหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับพลังเยาวชน เทคโนโลยีใหม่ และมรดกที่จับต้องไม่ได้ อย่างเช่น 'AI และพิพิธภัณฑ์: จากวิสัยทัศน์สู่การดำเนินการระดับโลก'; 'การให้คำปรึกษาแบบย้อนกลับ: การส่งเสริมพลังเยาวชนสำหรับพิพิธภัณฑ์และมรดก' ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการเยาวชนของ Singapore Heritage Council; 'การพัฒนาวิชาชีพสำหรับพนักงานพิพิธภัณฑ์ (สำหรับผู้รับทุน)' และ 'กลยุทธ์เพื่อการอนุรักษ์: ความล้าสมัยทางเทคโนโลยี'

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20251113251251/en

*ที่มา: AETOSWire

Contacts

Joumana El Tarabulsi
joumana@ciceroandbernay.me

ที่มา: ICOM Dubai 2025

TOURISE Awards 2025: โตเกียว นิวยอร์ก อันคาช และปารีส คว้ารางวัลสูงสุดในงาน TOURISE Awards ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก

Logo

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2025

กลุ่มผู้ชนะแรกในงาน TOURISE Awards ได้รับการประกาศแล้ว โดยมอบให้แก่จุดหมายปลายทางที่ช่วยนิยามการสำรวจ การต้อนรับ และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมใหม่สำหรับนักเดินทางยุคใหม่ พร้อมทั้งกำหนดมาตรฐานใหม่ด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริงแก่ผู้มาเยือน

His Excellency Ahmed Al-Khateeb, Minister of Tourism and TOURISE Chairman, celebrates with the winners of the TOURISE Awards

ท่าน Ahmed Al-Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและประธาน TOURISE ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ชนะในงาน TOURISE Awards

งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสุดยอด TOURISE Summit ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชาย Mohammed bin Salman bin Abdulaziz Al Saud มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี โดยกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คว้ารางวัลอันทรงเกียรติในฐานะจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุด นอกจากนี้ โตเกียวยังได้รับการยกย่องให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารและการทำอาหาร และความบันเทิงที่ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งได้ช่วยตอกย้ำถึงสถานะความเป็นเมืองหลวงแห่งนวัตกรรม พลังงาน และประสบการณ์อันน่าจดจำระดับโลก

ผู้ชนะแต่ละประเภทประจำปี 2025

ผู้ชนะในปีนี้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการอิสระจากหลากหลายภาคส่วน และคัดเลือกจากรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลมากมายที่ส่งเข้ามาโดยนักเดินทาง ผู้นำในอุตสาหกรรม และองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ผู้ชนะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมที่ปลุกเร้าความรู้สึก ประสบการณ์ที่เหนือขีดจำกัด และความทรงจำที่มีความหมายและยั่งยืน ผู้ชนะจะเป็นตัวแทนของจุดหมายปลายทางที่ยกระดับวัฒนธรรมและศิลปะให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ ยกระดับการผจญภัยไปอีกขั้น พลิกโฉมผลผลิตท้องถิ่นสู่ระบบนิเวศน์อาหารระดับโลก นิยามการค้าปลีกใหม่ให้กลายเป็นสถานที่สร้างสรรค์ และภูมิทัศน์เมืองที่มีชีวิตชีวาด้วยความบันเทิงที่เหนือขีดจำกัด

ผู้ชนะในแต่ละประเภทในปีนี้ ประกอบด้วย:

  •  จุดหมายปลายทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่ดีที่สุด: นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา – มหานครที่พิพิธภัณฑ์ชื่อดังและเวทีระดับโลกมาบรรจบกับจิตวิญญาณของย่านนอกบรอดเวย์ ที่คุณสามารถพบเห็นที่ต่างๆ เหล่านี้ได้จากทุกมุมถนน
  •  จุดหมายปลายทางด้านการผจญภัยที่ดีที่สุด: อันคาช เปรู – สถานที่แห่งการผจญภัยอันเป็นสัญลักษณ์ของแอนดีสซึ่งเป็นหมุดหมายหลักของการผจญภัยสุดคลาสสิกในเทือกเขาแอนดีสท่ามกลางทะเลสาบสีฟ้าคราม เส้นทางเดินป่าบนที่สูง และยอดเขาสูงตระหง่านของเทือกเขาคอร์ดิเยราบลังกา
  •  จุดหมายปลายทางด้านอาหารและการทำอาหารที่ดีที่สุด: โตเกียว ญี่ปุ่น – เมืองหลวงที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ผสมผสานความล้ำลึกของอาหารที่ไม่มีที่ใดเทียบเคียงได้ ตั้งแต่เคาน์เตอร์ที่เรียบง่ายไปจนถึงนวัตกรรมอาหารไคเซกิแบบหลายคอร์ส
  •  จุดหมายปลายทางด้านการช็อปปิ้งที่ดีที่สุด: ปารีส ฝรั่งเศส – “เมืองแห่งแสงไฟ” อันหรูหราและเมืองหลวงแห่งแฟชั่นชั้นสูงระดับโลก ที่มีการผสมผสานมรดกแห่งชีวิตเข้ากับความร่วมสมัย พร้อมทั้งจินตนาการในการช้อปปิ้งใหม่ในรูปแบบการค้นพบทางวัฒนธรรมผ่านสตูดิโอ ร้านค้าที่นำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่มากกว่าการซื้อของทั่วไป และย่านต่างๆ ที่ได้รับการฟื้นฟู
  •  จุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงที่ดีที่สุด: โตเกียว ญี่ปุ่น – จากสวนสนุกที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกและสถานที่ท่องเที่ยวในร่มที่น่าดื่มด่ำไปจนถึงฉากดนตรีและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัย โตเกียวมีทุกสิ่งที่ตอบโจทย์ทุกคนอย่างแท้จริง

“ผู้ชนะในค่ำคืนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่บนแผนที่เท่านั้น แต่พวกเขาคือแรงบันดาลใจที่หล่อหลอมวัฒนธรรมและจุดประกายจินตนาการต่างๆ” ท่าน Ahmed Al-Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและประธานคณะกรรมการ TOURISE กล่าว โดยกล่าวต่อว่า “TOURISE กำลังกำหนดทิศทางการเดินทางในอีก 50 ปีข้างหน้า และจุดหมายปลายทางเหล่านี้คือนิยามของความสำเร็จของการท่องเที่ยวที่มีจุดมุ่งหมายและเปลี่ยนแปลงชีวิต ซึ่งแต่ละแห่งนั้นได้สะท้อนถึงสิ่งที่นักเดินทางในปัจจุบันแสวงหามากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ ความแท้จริง ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับสถานที่และจุดมุ่งหมาย เราได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของพวกเขา ขณะที่เราได้ร่วมกันสร้างอนาคตของการท่องเที่ยวที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความก้าวหน้า เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกันให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น”

ค่ำคืนที่น่าจดจำ

รางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้รับการมอบในงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดอลังการ ณ โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ริยาด พร้อมด้วยประสบการณ์การรับประทานอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟ Nawal Alkhalawi รวมถึงการแสดงสดอันน่าประทับใจจากนักร้องเสียงทรงพลังในระดับสากล Loren Allred ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแขกในงานด้วยชุดราตรีสุดหรูจาก Mashael Al Faris ดีไซเนอร์ชาวซาอุดีอาระเบีย ที่จับคู่กับเครื่องประดับชั้นเลิศจาก APOA (A Piece of Art) แบรนด์ซาอุดีอาระเบียที่ถือกำเนิดขึ้นในริยาด โดยค่ำคืนนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณในการต้อนรับขับสู้ระดับโลกและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์ TOURISE โดยเมนูต่างๆ จะเน้นถึงการเล่าเรื่องผ่านภาษาของอาหาร โดยนำเสนออาหารในหลากหลายภูมิภาคของซาอุดีอาระเบีย ผสมผสานกับอิทธิพลที่ได้รับจากทั่วโลกอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างความประหลาดใจและความประทับใจให้กับแขกทุกท่าน

ตัดสินโดยผู้มีชื่อเสียงระดับโลก

คณะกรรมการตัดสินอิสระจากหลากหลายภาคส่วนของรางวัลนี้ ประกอบด้วย อดีตผู้นำจาก Forbes Travel Guide, Michelin Guides, Tate Modern, Condé Nast, British Fashion Council และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งได้นำความเชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้จากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง แฟชั่น อาหาร และความบันเทิง

ซึ่งประกอบด้วย:

  • Filip Boyen อดีตซีอีโอ นิตยสาร Forbes Travel Guide
  • Michael Ellis อดีตผู้อำนวยการฝ่ายคู่มือมิชลินระดับโลก
  • Fiona Jeffery อดีตประธาน World Travel Market และอดีตประธานรางวัล Tourism for Tomorrow Awards
  • Renaud de Lesquen อดีตซีอีโอ Givenchy; อดีตประธาน Dior AM
  • Lars Nittve อดีตผู้อำนวยการก่อตั้ง Tate Modern
  • Albert Read อดีตกรรมการผู้จัดการ Condé Nast
  • Caroline Rush อดีตซีอีโอ British Fashion Council
  • Omar Samra ทูตสันถวไมตรีแห่งสหประชาชาติ นักปีนเขา และนักสำรวจขั้วโลก
  • Bernold Schroeder อดีตซีอีโอ Kempinski; Pan Pacific

การประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล TOURISE Awards ประจำปี 2025 ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านวัฒนธรรม อาหาร การผจญภัย และความบันเทิง โดย TOURISE ยังคงมุ่งมั่นที่จะค้นหาและเฉลิมฉลองจุดหมายปลายทางที่สร้างความประหลาดใจและความสุขให้กับนักเดินทางยุคใหม่ จุดหมายปลายทางที่จุดประกายความอยากรู้อยากเห็น เชื่อมโยงความสัมพันธ์ และสร้างความทรงจำอันน่าจดจำ เราและชุมชนทั่วโลกตั้งตารอที่จะก้าวสู่บทต่อไปและจุดหมายปลายทางอันน่าทึ่งแห่งต่อไป

เกี่ยวกับ TOURISE Awards

TOURISE Awards เป็นการเฉลิมฉลองความเป็นเลิศด้านจุดหมายปลายทางทั่วโลก โดยมอบให้กับสถานที่ต่างๆ ที่มอบประสบการณ์การเดินทางที่มีจุดมุ่งหมาย น่าจดจำ และสอดคล้องกับความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทางในปัจจุบัน

รางวัลนี้ตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพ โดยมอบรางวัลให้แก่จุดหมายปลายทางใน 5 สาขา ได้แก่ ศิลปะและวัฒนธรรม การผจญภัย อาหารและการทำอาหาร การช้อปปิ้ง และความบันเทิง ปิดท้ายด้วยรางวัลจุดหมายปลายทางยอดเยี่ยม โดยรางวัลนี้ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ความยั่งยืน การอนุรักษ์วัฒนธรรม และสิ่งที่สร้างผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว ที่นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ระดับโลกสำหรับสิ่งที่ทำให้จุดหมายปลายทางนั้นมีความพิเศษอย่างแท้จริง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOURISE Awards ได้ที่ https://www.tourise.com/en/awards

เกี่ยวกับ TOURISE

TOURISE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกที่สร้างขอบเขตใหม่ให้กับการท่องเที่ยวทั่วโลก

ภายใต้การดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย งานประชุม TOURISE Summit ครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 11–13 พฤศจิกายน 2025 ที่ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

งานนี้จะรวบรวมผู้มีวิสัยทัศน์จากภาครัฐ ธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนข้อตกลงที่สร้างการเปลี่ยนแปลง และส่งมอบโครงการริเริ่มที่มีผลกระทบสูงที่กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกใหม่

TOURISE มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมจากทั่วโลก พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจที่มีบทบาทในการกำหนดทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมได้เข้าถึง หลังจากการประชุมนี้ TOURISE จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ใช้งานได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแนวคิดที่โดดเด่นจะกลายเป็นทางออกในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือจุดกำเนิดของการท่องเที่ยวในอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อร่วมมือกัน เราจะไม่มีวันหยุดยั้ง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.tourise.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251112648089/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการสอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ โปรดติดต่อ: media@TOURISE.com

ที่มา: TOURISE



TOURISE 2025 เปิดตัวโครงการ Agentic Tourism Initiative ในการบุกเบิกโปรโตคอลเพื่อการเดินทางอัจฉริยะ

Logo

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2025

โครงการ Agentic Tourism Initiative ได้รับการเปิดตัวในวันนี้ในการประชุม TOURISE Summit ที่จัดเป็นทางการครั้งแรก โดยนำเสนอโปรโตคอล Agentic Tourism ฉบับแรกของโลก ซึ่งเป็นกรอบการทำงานดิจิทัลสากลที่มุ่งเปลี่ยนแปลงทุกขั้นตอนของการเดินทางของนักเดินทาง

His Excellency Ahmed Al Khateeb, Saudi Arabia's Minister of Tourism and Chairman of TOURISE, launches the Agentic Tourism Initiative on the second day of TOURISE. 

ฯพณฯ Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและประธาน TOURISE เปิดตัวโครงการ Agentic Tourism Initiative ในวันที่สองของงาน TOURISE

โครงการนี้เปิดตัวร่วมกันระหว่าง TOURISE และ Globant จากแรงผลักดันของสมุดปกขาวที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในชื่อ Tourism’s AI Takeover: Reinventing Travel through Agentic Tourism (การเข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของ AI: การปฏิรูปการท่องเที่ยวผ่าน Agentic ด้านการท่องเที่ยว) เพื่อสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน AI ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นการตอบรับคำเรียกร้องโดยตรงจากสมุดปกขาวในการสร้างโปรโตคอลแบบเปิดสำหรับ AI ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะกำหนดวิธีที่เอเจนต์ AI โต้ตอบตั้งแต่แรงบันดาลใจไปจนถึงการเดินทางกลับ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ประสบการณ์การเดินทางที่ชาญฉลาด ราบรื่น และยั่งยืนทั่วทั้งระบบนิเวศการท่องเที่ยวทั่วโลก

โครงการ Initiative นี้รวบรวมกลุ่มพันธมิตรผู้ก่อตั้งที่หลากหลายจากหลายอุตสาหกรรม ทั้งด้านเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน การบิน และผู้นำด้านจุดหมายปลายทาง ได้แก่ Globant, Red Sea Global, HUMAIN, Riyadh Air, ท่าอากาศยานนานาชาติ King Salman, สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก, Amazon Web Services, Salesforce, Hollibob และ Trip.com โดยแนวทางการทำงานร่วมกันนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า Agentic Protocol จะมีความแข็งแกร่งทางเทคนิค ครอบคลุม และสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทาง ผู้ประกอบการ และจุดหมายปลายทางทั่วโลกได้

“เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นโครงการ Agentic Tourism Initiative ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการกำหนดอนาคตของการเดินทางทั่วโลกผ่านนวัตกรรมและความร่วมมือ โปรโตคอลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผสานเทคโนโลยีเข้ากับจิตวิญญาณแห่งการสำรวจของมนุษย์ การยึด AI ไว้กับความเห็นอกเห็นใจและความชาญฉลาดทางวัฒนธรรม ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของนักเดินทางเท่านั้น แต่ยังช่วยให้จุดหมายปลายทางต่างๆ เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน ครอบคลุม และมีเป้าหมาย” ฯพณฯ Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย กล่าว

โครงการ Initiative นี้จะยึดหลักการ “เปลี่ยนสิ่งที่คาดหวังให้เป็นดิจิทัล สร้างความเป็นมนุษย์ในสิ่งที่ไม่คาดคิด” โดยมุ่งหวังที่จะขยายขอบเขต ไม่ใช่แทนที่ รวมถึงการมุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์ ความเห็นอกเห็นใจ และการเชื่อมโยงของมนุษย์ โดย AI จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วย เสริมศักยภาพให้กับผู้คนและสถานที่ที่ทำให้การเดินทางมีความหมาย ขณะเดียวกันก็สนับสนุนจุดหมายปลายทางต่างๆ ให้บรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

“เรากำลังเป็นสักขีพยานถึงรุ่งอรุณของยุคใหม่ของการท่องเที่ยว ที่ซึ่งเทคโนโลยีและความเฉลียวฉลาดของมนุษย์มาบรรจบกัน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่ชาญฉลาดขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นส่วนตัวและน่าจดจำอย่างแท้จริง โครงการ Agentic Tourism Initiative ไม่ได้เป็นเพียงแค่ก้าวสำคัญทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวกระโดดเชิงกลยุทธ์สู่การกำหนดทิศทางการใช้ AI ในการเดินทาง การสร้างโปรโตคอลที่ใช้ร่วมกันนี้ ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะครอบคลุม ปลอดภัย และเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน” Martín Migoya ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Globant กล่าว

เกี่ยวกับ TOURISE

TOURISE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกที่สร้างขอบเขตใหม่ให้กับการท่องเที่ยวทั่วโลก

ภายใต้การดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย งานประชุม TOURISE Summit ครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 11–13 พฤศจิกายน 2025 ที่ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

งานนี้จะรวบรวมผู้มีวิสัยทัศน์จากภาครัฐ ธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนข้อตกลงที่สร้างการเปลี่ยนแปลง และส่งมอบโครงการริเริ่มที่มีผลกระทบสูงที่กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกใหม่

TOURISE มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมจากทั่วโลก พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจที่มีบทบาทในการกำหนดทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมได้เข้าถึง หลังจากการประชุมนี้ TOURISE จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ใช้งานได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแนวคิดที่โดดเด่นจะกลายเป็นทางออกในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือจุดกำเนิดของการท่องเที่ยวในอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อร่วมมือกัน เราจะไม่มีวันหยุดยั้ง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tourise.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251112353634/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับการสอบถามจากสื่อ โปรดติดต่อ Media@TOURISE.com

ที่มา: TOURISE

TOURISE และ Oxford Economics เปิดตัวสมุดปกขาวเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความยืดหยุ่นและเสถียรภาพของการท่องเที่ยวท่ามกลางความผันผวนของโลก

Logo

  • การเดินทางระหว่างประเทศคาดว่าจะเกิน 2 พันล้านคนภายในปี 2030 แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและทางภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก
  •  การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในโครงสร้างพื้นฐาน นโยบาย และการเข้าถึงต่างๆ เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–10 พฤศจิกายน 2025

TOURISE ได้ร่วมมือกับ Oxford Economics เปิดตัวสมุดปกขาวใหม่ชื่อ “การเติบโตท่ามกลางความไม่แน่นอน: โอกาสและความเสี่ยงบนเส้นทางสู่นักเดินทางทั่วโลก 2 พันล้านคน สมุดปกขาวนี้เปิดตัวในงานประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก โดยเอกสารเผยแพร่นี้จะนำเสนอโอกาสและความเสี่ยงสำคัญที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องเผชิญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงกรอบแนวทางสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำด้านการท่องเที่ยว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม ในการเสริมสร้างศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก รวมถึงการส่งเสริมความยั่งยืนและความยืดหยุ่นในระยะยาว

TOURISE and Oxford Economics Release White Paper Charting Tourism’s Path to Resilience and Stability Amid Global Volatility

TOURISE และ Oxford Economics เปิดตัวสมุดปกขาวเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความยืดหยุ่นและเสถียรภาพของการท่องเที่ยวท่ามกลางความผันผวนของโลก

สมุดปกขาวนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเกี่ยวกับความสามารถในการฟื้นตัวที่เป็นหลักการพื้นฐานสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวในยุคที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ และความคาดหวังของนักเดินทางที่เปลี่ยนไป

“การท่องเที่ยวเป็นพลังขับเคลื่อนแห่งการเชื่อมโยงและโอกาสมาโดยตลอด แต่จุดแข็งที่แท้จริงอยู่ที่ความสามารถในการพัฒนาและคงความยืดหยุ่นเอาไว้ สมุดปกขาวจะนำเสนอทิศทางที่ชัดเจนสำหรับภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยนำทางเราไปสู่อนาคตแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” H.E. Ahmed Al-Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและประธาน TOURISE กล่าว

“เอกสารฉบับนี้แสดงให้เห็นว่าการวางแผนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนโยบายที่มองไปข้างหน้าสามารถช่วยให้จุดหมายปลายทางต่างๆ สามารถบริหารจัดการการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ รับมือกับผลกระทบ และสร้างงานและโอกาสต่างๆ อย่างต่อเนื่องได้อย่างไร ในขณะที่เรามุ่งสู่จำนวนนักเดินทาง 2 พันล้านคนภายในปี 2030 เราต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวที่มีความยืดหยุ่น ครอบคลุม และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายและความเป็นไปได้ของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง”

เอกสารฉบับนี้ใช้ข้อมูลจำนวนมากและแบบจำลองทางเศรษฐกิจ เพื่อระบุแนวโน้มสำคัญๆ ที่กำหนดอนาคตของการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการตัดสินใจโดยอิงหลักฐานเชิงประจักษ์และกรอบนโยบายที่ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้มั่นใจว่าจุดหมายปลายทางต่างๆ ยังคงมีความสามารถในการแข่งขันและครอบคลุม

“ความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มต้นจากความชัดเจน ซึ่งมาจากข้อมูลที่สำคัญ” Adam Sacks ประธานบริษัท Tourism Economics บริษัทในเครือ Oxford Economics กล่าว “เอกสารฉบับนี้จะนำเสนอแผนงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน ช่วยให้จุดหมายปลายทางต่างๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบรู้และลงทุนได้อย่างมั่นใจ”

จากผลการวิจัย รายงานคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 1.5 พันล้านคนในปัจจุบัน เป็น 2 พันล้านคนภายในปี 2030 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับคุณค่าเชิงประสบการณ์มากกว่าต้นทุน นักท่องเที่ยวกำลังมองหาประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวพักนานขึ้นและมีการใช้จ่ายต่อทริปสูงมากขึ้น

เพื่อรองรับความต้องการนี้ จุดหมายปลายทางต่างๆ ที่ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก เช่น การนำระบบวีซ่าแบบเปิดมาใช้ นโยบายที่เน้นนักเดินทางเป็นศูนย์กลาง และโครงสร้างพื้นฐานที่มองการณ์ไกล คาดว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะรองรับความต้องการการเดินทางทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40% ภายในปี 2030

โครงการริเริ่มร่วมกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ TOURISE ในการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวที่มีความยืดหยุ่น มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูล และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็มได้ที่ TOURISE.com

เกี่ยวกับ TOURISE

TOURISE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกที่สร้างขอบเขตใหม่ให้กับการท่องเที่ยวทั่วโลก

ภายใต้การดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย งานประชุม TOURISE Summit ครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 11–13 พฤศจิกายน 2025 ที่ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

งานนี้จะรวบรวมผู้มีวิสัยทัศน์จากภาครัฐ ธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนข้อตกลงที่สร้างการเปลี่ยนแปลง และส่งมอบโครงการริเริ่มที่มีผลกระทบสูงที่กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกใหม่

TOURISE มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมจากทั่วโลก พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจที่มีบทบาทในการกำหนดทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมได้เข้าถึง หลังจากการประชุมนี้ TOURISE จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ใช้งานได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแนวคิดที่โดดเด่นจะกลายเป็นทางออกในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือจุดกำเนิดของการท่องเที่ยวในอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อร่วมมือกัน เราจะไม่มีวันหยุดยั้ง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tourise.com

เกี่ยวกับ Oxford Economics

Oxford Economics คือบริษัทที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจอิสระชั้นนำของโลก ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศ 100 ภาคอุตสาหกรรม และ 8,000 เมืองและภูมิภาค เรามอบข้อมูลเชิงลึกและโซลูชันที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็วยิ่งขึ้นในโลกที่มีความซับซ้อนและความไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.oxfordeconomics.com/us/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251110254503/en

Contacts

สำหรับการสอบถามจากสื่อ โปรดติดต่อ: press@oxfordeconomics.com

ที่มา: TOURISE

ผู้นำระดับโลกและผู้นำอุตสาหกรรมร่วมมือกันภายใต้ BRIDGE Alliance เพื่อเสริมสร้างอนาคตของสื่อ ความบันเทิง และเนื้อหา

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2025

กลุ่มพันธมิตรนานาชาติใหม่ของผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์ และผู้ริเริ่มนวัตกรรมได้มารวมตัวกันภายใต้ชื่อ BRIDGE Alliance เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่ม การลงทุน และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเศรษฐกิจสื่อ ความบันเทิง และเนื้อหาในระดับโลก

World leaders and industry icons unite under BRIDGE Alliance to empower the future of media, entertainment and content (Photo: AETOSWire)

ผู้นำระดับโลกและผู้นำอุตสาหกรรมร่วมมือกันภายใต้ BRIDGE Alliance เพื่อเสริมสร้างอนาคตของสื่อ ความบันเทิง และเนื้อหา (ภาพ: AETOSWire)

BRIDGE Alliance มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นองค์กรระดับโลกแห่งแรกที่มีประธานคือ H.E. Abdulla bin Mohammed bin Butti Al Hamed โดยประกอบด้วยคณะกรรมการผู้ทรงอิทธิพล อาทิ อดีตประมุขแห่งรัฐ ผู้นำระดับโลก ผู้กำหนดนโยบาย และซีอีโอจากภาคส่วนสื่อ การสื่อสาร เทคโนโลยี การเงิน และภาคส่วนความสร้างสรรค์ต่างๆ

โดยคณะกรรมการก่อตั้ง ประกอบด้วย เจ้าหญิง Lamia bint Majed Al Saud, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Rotana Media Group และเลขาธิการมูลนิธิ Alwaleed Philanthropies; H.E. Macky Sall ประธานคนที่ 4 ของเซเนกัล; H.E. ดร. Jamal Mohammed Obaid Al Kaabi รองประธานของ BRIDGE Alliance; Jessica Sibley ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TIME; Janet Yang อดีตประธาน Academy of Motion Picture Arts and Sciences; ดร. Julie Gichuru ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Africa Leadership and Dialogue Institute; Daniil Shuleyko ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Yango Group; Sanford Climan ผู้ก่อตั้ง Entertainment Media Ventures; นักวางกลยุทธ์ Richard Attias; และ Maryam bin Fahad กรรมการผู้จัดการของ BRIDGE Alliance

BRIDGE Alliance ดำเนินงานในฐานะองค์กรอิสระที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ โดยนำกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมดไปลงทุนในการวิจัยขั้นสูง การพัฒนาศักยภาพ และนวัตกรรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ส่งเสริมแนวคิด เงินทุน และบุคลากรให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาคส่วนเป้าหมาย

H.E. Al Hamed กล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่าเป็น “โครงการด้านมนุษยธรรมและเศรษฐกิจ โดยถือกำเนิดขึ้นในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อนิยามความสัมพันธ์ระหว่างสื่อ สังคม และเศรษฐกิจใหม่ โดยสร้างสะพานแห่งความเข้าใจ ผลกระทบ และการเติบโตระหว่างประเทศต่างๆ” ฯพณฯ ยังกล่าวเสริมว่า โครงการ BRIDGE “เป็นเสมือนระบบนิเวศระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นบนพื้นฐานความร่วมมือ นวัตกรรม และความรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งความเชี่ยวชาญต่างๆ นั้นจะเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนความร่วมมือให้กลายเป็นความก้าวหน้า”

โครงการริเริ่มสำคัญแรกของความร่วมมือ คือ BRIDGE Summit 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม ณ ศูนย์แสดงสินค้าแห่งชาติอาบูดาบี (ADNEC) งานนี้เป็นงานเปิดตัวสื่อที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 60,000 คน วิทยากร 400 คน และผู้จัดแสดงสินค้า 300 ราย ครอบคลุม 7 หัวข้อหลัก ได้แก่ สื่อ เศรษฐกิจผู้สร้าง ดนตรี เกม เทคโนโลยี การตลาด และภาพยนตร์ โดยจะเปลี่ยนบทสนทนาให้กลายเป็นการปฏิบัติจริง และขยายการเข้าถึงเศรษฐกิจเนื้อหาระดับโลก

BRIDGE Alliance มีฐานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เป็นศูนย์กลางระดับโลกด้านนวัตกรรม การทำงานร่วมกัน และการเติบโตของสื่ออย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบทบาทของประเทศในฐานะจุดนัดพบสำหรับแนวคิด ความคิดสร้างสรรค์ และความก้าวหน้าร่วมกัน

แหล่งที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251112707768/en

Contacts

Natalie Habib
n.habib@nncpr.com

ที่มา: BRIDGE Alliance

Teachers Mutual Bank Limited ปรับปรุงการยืนยันตัวตนด้วย Boomi

Logo

ธนาคารร่วมชั้นนำมอบการประมวลผลข้อมูลประจำตัวที่เร็วขึ้น 95 เปอร์เซ็นต์ ลดความพยายามด้วยตนเองอย่างมาก และปลดล็อกข้อมูลแบบเรียลไทม์

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2025

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประกาศในวันนี้ว่า Teachers Mutual Bank Limited ซึ่งเป็นธนาคารร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย ได้นำแพลตฟอร์ม Boomi Enterpriseมาใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และสร้างรากฐานที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้สำหรับนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอนาคต

Teachers Mutual Bank Limited (TMBL) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยดำเนินธุรกิจแยกย่อยในสี่แบรนด์ ได้แก่ Teachers Mutual Bank, Health Professionals Bank, Firefighters Mutual Bank และ UniBank ในปัจจุบัน Teachers Mutual Bank Limited มีสมาชิกรวมกันเกือบ 220,000 ราย และมีสินทรัพย์รวมมากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

TMBL เป็นลูกค้าของ Boomi มาเป็นเวลา 10 ปี และเคยร่วมงานกับ Boomi เพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบ Omnichannelดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้น หลังจากความสำเร็จนี้ TMBL ได้ใช้ Boomi เพื่อผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานเดิมเข้าด้วยกัน โดยผสานรวมระบบธนาคารหลัก ระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (ERP) และระบบจากภายนอกเข้ากับสภาพแวดล้อมข้อมูลแบบเรียลไทม์ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สมาชิกธนาคารสามารถอัปเดตข้อมูลของตนผ่านช่องทางออนไลน์ สาขา และศูนย์บริการลูกค้าได้ภายในเวลาไม่ถึง 60 วินาที ซึ่งก่อนหน้านี้อาจใช้เวลานานถึงสามวันทำการและต้องดำเนินการด้วยตนเอง

“เรารู้ดีว่าการปรับปรุงระบบของเราให้ทันสมัยไม่ใช่แค่การอัปเกรดเทคโนโลยีเท่านั้น แต่มันคือการทำให้สมาชิกของเราใช้บริการธนาคารได้ง่ายขึ้นในทุกๆ วัน” Anureet Bal หัวหน้าฝ่ายแอปพลิเคชันองค์กรของ Teachers Mutual Bank Limited กล่าว “ไม่ว่าใครจะโทรติดต่อศูนย์บริการลูกค้าหรือเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์ รายละเอียดของพวกเขาก็อัปเดตได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่ใช่แค่ไม่กี่วัน การตอบสนองที่รวดเร็วแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนที่การผสานรวมแบบเรียลไทม์และการประสานข้อมูลจะกลายเป็นบรรทัดฐานของเรา”

ในขั้นตอนการเปิดตัว TMBL ได้นำบริการ API ของ Boomi มาใช้เพื่อสร้างแหล่งข้อมูลเดียวที่เชื่อถือได้สำหรับข้อมูลของลูกค้า ในขณะที่การจัดการ API ของ Boomiจะช่วยให้สามารถบูรณาการระหว่างระบบธนาคารและช่องทางดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและปรับขนาดได้

Boomi ช่วยให้ชุดเครื่องมือ RPA ของธนาคารสามารถทำงานอัตโนมัติในกระบวนการรู้จักลูกค้า (KYC) (การยืนยันตัวตน) การตรวจจับการฉ้อโกง และการจัดการข้อยกเว้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนด และทำให้พนักงานมีเวลาไปเน้นที่งานที่มีมูลค่าสูงกว่าได้

“แรงกดดันด้านกฎระเบียบกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เราไม่อยากถือว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นเพียงแค่หนึ่งสิ่งที่ต้องทำ” Bal กล่าวเสริม “การฝังระบบยืนยันตัวตนและการตรวจสอบการฉ้อโกงเข้าไปในระบบแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราตอบสนองได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่เรายังสร้างรากฐานดิจิทัลที่สามารถพัฒนาไปพร้อมกับความต้องการของสมาชิกและอนาคตของบริการทางการเงินอีกด้วย”

ในอนาคต TMBL วางแผนที่จะพัฒนาสถาปัตยกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย Boomi เพื่อรองรับขั้นตอนการปฏิรูป AML ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกให้ดียิ่งขึ้น

“มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจกับผลกระทบทางดิจิทัล” David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว “การผนวกการปฏิบัติตามกฎระเบียบเข้ากับกระบวนการบริการลูกค้า และมอบเครื่องมือให้พนักงานตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ Teachers Mutual Bank Limited ได้สร้างรากฐานที่เป็นเชิงรุก ไม่ใช่เชิงรับ นั่นคือสิ่งที่ธนาคารยุคใหม่ควรจะเป็น”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้องค์กรทั่วโลกเชื่อมต่อทุกสิ่ง จัดการกระบวนการอัตโนมัติ และเร่งผลลัพธ์ โดยแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ซึ่งรวมถึง Boomi Agentstudio จะผสานการบูรณาการและระบบอัตโนมัติเข้ากับการจัดการข้อมูล API และ AI Agent ไว้ในโซลูชันเดียวที่ครอบคลุม โดยทาง Boomi ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 25,000 ราย และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแบบ Agentic ที่จะช่วยให้องค์กรทุกขนาดมีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และมีนวัตกรรมในระดับที่กว้างกว่าเดิม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2025 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘Boomi’, โลโก้ ‘B’ และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Boomi, LP หรือบริษัทสาขาหรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251113137300/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสัมพันธ์อินฟลูเอนเซอร์, APJ
jasmine.ee@boomi.com

ที่มา: Boomi

The Bangkok Reporter