องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลเปิดตัว ‘Pick 3 Pass’ บัตร Discover Seoul Pass ที่ปรับแต่งได้เพื่อการเดินทางที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–15 กันยายน 2025

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซล เปิดตัว “Pick 3 Pass” ตัวเลือกใหม่ที่สามารถปรับแต่งได้และคุ้มค่าสำหรับบัตร Discover Seoul Passยอดนิยม โดยจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กันยายน บัตรใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวขาประจำและผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น โดยสามารถเลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้ 3 แห่งตามที่ต้องการ

The Pick 3 Pass allows the holder to select and enjoy a total of 3 partner attractions/services in Seoul for 5 days. (Image: Seoul Tourism Organization)

บัตร Pick 3 Pass ช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถเลือกและเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยว/บริการของพันธมิตรรวม 3 แห่งในกรุงโซลเป็นเวลา 5 วัน (ภาพ: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซล)

บัตร Discover Seoul Pass ซึ่งดำเนินการโดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลโดยตรง ได้สร้างชื่อให้ตนเองในฐานะเครื่องมือครบวงจรที่จำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ บัตรนี้มีให้เลือกทั้งแบบบัตรจริงและแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงสถานที่สำคัญและสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของโซลได้อย่างราบรื่น โดยการเปิดตัวครั้งนี้ทำให้บัตร Discover Seoul Pass มีให้เลือกถึงสี่แบบเพื่อให้เหมาะกับสไตล์การเดินทางทุกประเภท

บัตรผ่านสำหรับนักเดินทางทุกคน

บัตร Pick 3 Pass ใหม่นี้มีอายุใช้งาน 5 วันนับจากการใช้งานครั้งแรก และมีให้เลือก 2 ประเภท:

– บัตร Pick 3 Basic Pass (49,000 วอน หรือ 35.30 ดอลลาร์สหรัฐ): นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสถานที่ท่องเที่ยวใดก็ได้ 3 แห่งจากรายการสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงโซลที่คัดสรรมาแล้ว เช่น หอคอยเอ็นโซล, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซีไลฟ์ โคเอ็กซ์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโซล

– บัตร Pick 3 Theme Park Pass (70,000 วอน หรือ 50.41 ดอลลาร์สหรัฐ): เหมาะสำหรับครอบครัว โดยสามารถเลือกสวนสนุกหลักๆ ได้ 1 แห่ง (Lotte World Adventure, SeoulLand หรือ Everland) และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีก 2 แห่ง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจกรุงโซลให้ครอบคลุมมากขึ้น บัตรแบบระบุเวลาที่มีอยู่แล้ว เช่น บัตร Pass แบบ 72 ชั่วโมง (90,000 วอน หรือ 64.81 ดอลลาร์สหรัฐ) และบัตร Pass แบบ 120 ชั่วโมง (130,000 วอน หรือ 93.62 ดอลลาร์สหรัฐ) จะยังคงมีจำหน่ายต่อไป

ความสะดวกสบายครบวงจรสำหรับนักท่องเที่ยวยุคใหม่

บัตร Pick 3 Pass อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด ผู้ที่ซื้อบัตร Pick 3 Pass เวอร์ชันมือถือจะได้รับ eSIM ฟรี 5 วัน เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันทีเมื่อเดินทางถึงเกาหลี ส่วนบัตรแบบปกติจะมีฟังก์ชันบัตรโดยสารแบบเติมเงินเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานบนรถบัสและรถไฟใต้ดิน

นอกจากนี้ เพื่อสะท้อนถึงกระแสการเดินป่าในหมู่นักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ผู้ถือบัตรทุกคนจะได้รับสิทธิ์เช่าอุปกรณ์เดินป่าฟรี 1 ครั้ง ณ ศูนย์การท่องเที่ยวเดินป่าโซล ณ เทือกเขาบุคฮันซาน บูกักซาน และกวานักซาน

อีกหนึ่งการปรับปรุงล่าสุด นั่นคือ บัตร Discover Seoul Pass แบบบัตรจริงได้เพิ่มฟังก์ชันการชำระเงินแบบเติมเงิน ทำให้สามารถใช้ซื้อสินค้าทั่วไป ค่าเดินทาง และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ครบจบในบัตรเดียว โดยมูลค่าของบัตรจะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนสิงหาคม ด้วยการเพิ่มพันธมิตรส่วนลดใหม่อีกกว่า 20 ราย ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้า Lotte และร้านค้าปลอดภาษีด้วย

บัตร Discover Seoul Pass มีจำหน่ายบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถืออย่างเป็นทางการ รวมถึงเว็บไซต์ OTA ระดับโลกอย่าง Klook และ KKday

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซล อธิบายว่า การปรับปรุงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคที่การเดินทางเป็นส่วนตัว องค์การฯ จะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงโซลสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและอิสระยิ่งขึ้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/20250912774108/en

Contacts

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซล
Ha Yeong Lee
+82-2-1644 1060
support@discoverseoulpass.com

ที่มา: Seoul Tourism Organization

Illumination and Nintendo ประกาศสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros. ที่มีชื่อว่าThe Super Mario Galaxy Movie

Logo

ซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย และเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2025

Illumination (สำนักงานใหญ่: ซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา; ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ: Chris Meledandri) และ Nintendo Co., Ltd. (สำนักงานใหญ่: เกียวโต เขตมินามิ ประเทศญี่ปุ่น; กรรมการบริหารและประธานบริษัท: Shuntaro Furukawa ต่อไปนี้จะเรียกว่า “Nintendo”) ประกาศในวันนี้ว่าภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros. จะใช้ชื่อว่า The Super Mario Galaxy Movie ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกฉายทั่วโลกโดย Universal Pictures ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2026

นอกจากนี้ บริษัททั้งสองแห่งยังประกาศว่านักพากย์เสียงตัวละครที่จะกลับมาอีกครั้ง ประกอบด้วย Mario (พากย์โดย Chris Pratt), Princess Peach (พากย์โดย Anya Taylor-Joy), Luigi (พากย์โดย Charlie Day), Bowser (พากย์โดย Jack Black), Toad (พากย์โดย Keegan-Michael Key) และ Kamek (พากย์โดย Kevin Michael Richardson)

ส่วนตัวละครและนักพากย์เพิ่มเติมสำหรับภาพยนตร์ The Super Mario Galaxy Movie จะประกาศให้ทราบในภายหลัง

The Super Mario Galaxy Movie จะเข้าฉายในวันที่ 3 เมษายน 2026 ในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก และจะเข้าฉายในวันที่ 24 เมษายน 2026 ในประเทศญี่ปุ่น และจะออกฉายในบางพื้นที่ตลอดเดือนเมษายน

เกี่ยวกับ The Super Mario Galaxy Movie

The Super Mario Galaxy Movie Movie เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros. ต่อจาก The Super Mario Bros. Movie ซึ่งออกฉายในปี 2023 และทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งภาพยนตร์ปี 2023 และ The Super Mario Galaxy Movie อำนวยการสร้างโดย Chris Meledandri จาก Illumination และ Shigeru Miyamoto จาก Nintendo

ภาพยนตร์นี้ได้รับทุนสนับสนุนร่วมกันจาก Universal Pictures และ Nintendo และจะเผยแพร่ทั่วโลกโดย Universal Pictures

The Super Mario Galaxy Movie กำกับโดย Aaron Horvath และ Michael Jelenic ผู้กำกับภาพยนตร์ที่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง จากบทภาพยนตร์ของ Matthew Fogel นักเขียนบทภาพยนตร์ที่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง โดยมี Brian Tyler ที่กลับมาแต่งเพลงประกอบให้

เกี่ยวกับ Illumination

Illumination ก่อตั้งโดย Chris Meledandri ในปี 2007 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันชั้นนำของอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งรวมถึง Despicable Me ซึ่งเป็นแฟรนไชส์แอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ และภาพยนตร์ที่สร้างสถิติใหม่ อย่างเช่น The Super Mario Bros. Movie,Dr. Seuss' The Lorax , Dr. Seuss' The Grinch , Migration และ The Secret Life of Pets รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Sing โดยแฟรนไชส์อันโด่งดังและเป็นที่รักของ Illumination นั้นอัดแน่นไปด้วยตัวละครที่น่าจดจำและโดดเด่น มีเสน่ห์ดึงดูดใจทั่วโลก และมีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม สร้างรายได้เกือบ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก โดย Illumination เป็นพันธมิตรกับ Universal Pictures ในด้านการเงินและการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว

เกี่ยวกับ Nintendo

Nintendo Co., Ltd. มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น บริษัทได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1889 โดยเริ่มจากการผลิตและจำหน่ายไพ่ฮานาฟุดะ

นับตั้งแต่เปิดตัว Family Computer (Famicom) ในญี่ปุ่นเมื่อปี 1983 และต่อเนื่องมาจนถึง Nintendo Switch 2 Nintendo ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายระบบเกมและซอฟต์แวร์ต่างๆ จนถึงปัจจุบัน Nintendo มียอดขายวิดีโอเกมมากกว่า 5.9 พันล้านเกม และฮาร์ดแวร์มากกว่า 860 ล้านเครื่องทั่วโลก และได้สร้างแฟรนไชส์ต่างๆ มากมาย อาทิ Mario™, Donkey Kong™, The Legend of Zelda™, Pokémon™, Metroid™, Kirby™, Animal Crossing™, Pikmin™ และ Splatoon™

Nintendo มุ่งมั่นที่จะขยายจำนวนผู้คนที่สามารถเข้าถึงตัวละครและโลกของเกมได้ ภารกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัทคือการมอบรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ได้สัมผัสด้วยประสบการณ์ความบันเทิงที่ไม่เหมือนใคร โดยเน้นที่ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์วิดีโอเกมแบบบูรณาการ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Illumination
Sarah Levinson Rothman
sarah.rothman@ledecompany.com

ที่มา: Illumination

Parking Guidance Systems ประกาศควบรวมกิจการระดับโลกกับ INDECT และ ParkZen

Logo

ฮูสตัน–(BUSINESS WIRE)–11 กันยายน 2025

Parking Guidance Systems, LLC (PGS) ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบจอดรถเฉพาะทางในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศควบรวมกิจการเชิงกลยุทธ์กับ INDECT Electronics & Distribution GmbH (INDECT) และ ParkZen โดยในฐานะบริษัทผู้นำในการควบรวมกิจการ ทาง PGS กำลังขยายธุรกิจออกไปนอกสหรัฐอเมริกาเพื่อนำเสนอโซลูชันระบบจอดรถที่ครอบคลุมในระดับสากล ซึ่งธุรกิจที่ควบรวมกิจการนี้จะผสานรวมฮาร์ดแวร์ระดับโลกของ INDECT กับซอฟต์แวร์ที่มีความคล่องตัวสูงของ ParkZen รวมถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่พิสูจน์แล้วของ PGS ในการดำเนินงานขนาดใหญ่ ทำให้เกิดบริษัทเทคโนโลยีระบบจอดรถที่ครบวงจรที่สุดในอุตสาหกรรม

นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 12 ปีที่แล้ว PGS ได้สร้างชื่อเสียงในด้านบริการที่เป็นเลิศ นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และการมุ่งเน้นถึงความพึงพอใจของลูกค้า โดย PGS ได้ติดตั้งระบบนำทางการจอดรถที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบ การติดตั้ง และการบริการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ โดยหัวใจสำคัญในการบริการของ PGS คือโซลูชันนำทางการจอดรถของ INDECT โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเซนเซอร์เสียงและเซนเซอร์ออปติคัล เทคโนโลยีเซนเซอร์จอดรถของ INDECT ถือเป็นมาตรฐานปัจจุบันในด้านนวัตกรรมและด้านความแม่นยำของอุตสาหกรรม โดยเซนเซอร์ขนาดเล็กอัลตราโซนิกของ INDECT นั้นเป็นเซนเซอร์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการส่งมอบความแม่นยำสำหรับการตรวจจับพื้นที่เพียงพื้นที่เดียว ขณะที่เซนเซอร์กล้อง Upsolut นั้นจะผสานรวมกับการตรวจสอบพื้นที่ในหลายๆ พื้นที่ที่สามารถเชื่อถือได้ รวมถึงการจับภาพวิดีโอสตรีม และการจดจำป้ายทะเบียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการวิเคราะห์อัตราการครอบครองที่จอดรถ โดย PGS เป็นพันธมิตรช่องทางการจัดจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดของ INDECT ในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ PGS เริ่มก่อตั้ง การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้บริษัทที่ควบรวมกันสามารถปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน เร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างความร่วมมือทั่วโลก ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่าง PGS และ INDECT ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสหรัฐอเมริกา

โซลูชัน PGS ยังได้รับการยกระดับจากการเข้าซื้อกิจการ ParkZen ที่เป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบอัจฉริยะสำหรับที่จอดรถ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแบตันรูช รัฐลุยเซียนา โดยแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนอันล้ำสมัยของ ParkZen นั้นใช้ประโยชน์จากการระดมทุนจากมวลชนและอัลกอริทึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ เพื่อส่งมอบข้อมูลแบบเรียลไทม์และซอฟต์แวร์ระบบอัจฉริยะสำหรับที่จอดรถที่ช่วยให้ผู้ประกอบการที่จอดรถสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นสำหรับการดำเนินงาน และมอบความพร้อมใช้งานแบบเรียลไทม์ให้กับผู้จอดรถไม่ว่าจะมีหรือไม่มีฮาร์ดแวร์ก็ตาม แพลตฟอร์มนี้ยังปรับปรุงกระบวนการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีเครื่องมือจัดการการอนุญาตขั้นสูงสำหรับเจ้าของและผู้ถือใบอนุญาต ทำให้เกิดข้อเสนอที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ก่อนการเข้าซื้อกิจการ PGS ได้ร่วมมือกับ ParkZen ในหลายๆ โครงการในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงแอปพลิเคชันนำทางสำหรับผู้ใช้และซอฟต์แวร์การจัดการลานจอดรถด้วย

การเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ถือเป็นการบูรณาการในแนวตั้งอันทรงคุณค่าของ PGS และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการนำเสนอโซลูชันที่จอดรถที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงสนามบิน โครงการพัฒนาแบบผสมผสาน มหาวิทยาลัย วิทยาเขตขององค์กร สถานพยาบาล และจุดหมายปลายทางอื่นๆ ที่มีการจราจรหนาแน่นที่ต้องอาศัยป้ายบอกทางและการค้นหาเส้นทาง

“ด้วยการควบรวมกิจการครั้งนี้ เราขอให้ผู้ประกอบการทั่วโลกพิจารณาทบทวนสิ่งที่ระบบจอดรถของพวกเขาสามารถทำได้” กล่าวโดย Derek Frantz ซีอีโอของ PGS “PGS กำลังเป็นผู้นำในการกำหนดนิยามใหม่ของที่จอดรถในฐานะแหล่งสร้างรายได้ แทนที่จะเป็นศูนย์ต้นทุน ด้วยการนำฮาร์ดแวร์ที่แม่นยำของ INDECT, ซอฟต์แวร์อัจฉริยะของ ParkZen และผลงานที่ผ่านการพิสูจน์แล้วของ PGS ในการนำเสนอโซลูชันที่จอดรถที่ซับซ้อน เราจึงสามารถนำเสนอระบบที่ผสานรวมและแข็งแกร่ง ซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการของผู้ประกอบการทั่วโลกได้ โดยช่วยให้พวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน และปลดล็อกมูลค่าทางการเงินใหม่ๆ จากสินทรัพย์ที่จอดรถของพวกเขาเอง”

ปัจจุบัน PGS มีศักยภาพในการเพิ่มรายได้ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในอุตสาหกรรมที่จอดรถได้มากกว่าที่เคย โดยมี INDECT และ ParkZen เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน

เกี่ยวกับ Parking Guidance Systems, Inc.

Parking Guidance Systems (PGS) นำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีโรงจอดรถขั้นสูง ที่สร้างขึ้นจากผลงานที่พิสูจน์แล้วจากการใช้งานจริงในวงกว้างที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ปี 2013 ทาง PGS ได้ร่วมมือกับสนามบิน ระบบการดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย วิทยาเขตของบริษัทต่างๆ และโครงการพัฒนาแบบผสมผสาน เพื่อเปลี่ยนโฉมที่จอดรถจากศูนย์ต้นทุนให้กลายเป็นแหล่งรายได้และความพึงพอใจของลูกค้า ผลงานของบริษัทประกอบด้วยระบบนำทางที่จอดรถชั้นนำของอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์จดจำป้ายทะเบียนรถ https://cts.businesswire.com/ct/CT?id=smartlink&url=https%3A%2F%2Fparkingguidancesystems.com%2Fparking-solutions%2F%3Futm_campaig%2520n%3D22056732-PGS%2520M%2526A%2520Communications%26utm_source%3DBusinessWire%26u%2520tm_medium%3Dpress-release&esheet=54321018&newsitemid=54321018015&lan=en-US&anchor=software&index=6&md5=01a30e39f80328045cd9d64789b1729dการวิเคราะห์ที่จอดรถ รวมถึงป้ายบอกทาง และการค้นหาเส้นทางแบบดิจิทัล ด้วยการติดตั้งระบบมากกว่า 347 ระบบ การตรวจสอบพื้นที่จอดรถเกือบ 600,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา รวมถึงโอกาสใหม่ๆ ที่ขยายไปทั่วโลก PGS ยังคงสร้างมาตรฐานสำหรับโซลูชันที่จอดรถที่เป็นนวัตกรรม เชื่อถือได้ และมุ่งเน้นไปที่ลูกค้า เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ parkingguidancesystems.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Felicia Perez
felicia@farpublicrelations.com
(832) 222-2101
1811 First Oaks St, Suite 100 Richmond, TX 77406

ที่มา: Parking Guidance Systems, LLC

Veritas Capital ปิดการระดมทุนกองทุนหลักลำดับที่เก้าด้วยวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

Logo

การระดมทุนนี้เพิ่มขึ้น 35% จากกองทุน Fund VIII ทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ Veritas มีมูลค่ามากกว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งสานต่อภารกิจของบริษัทในการปฏิรูปเทคโนโลยีและธุรกิจที่สอดคล้องกับภาครัฐ

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2025

Veritas Capital (“Veritas”) เป็นนักลงทุนชั้นนำที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีและภาครัฐเข้าด้วยกัน ประกาศปิดการระดมทุนครั้งสุดท้ายของกองทุน Veritas Capital Fund IX (“กองทุน IX”) ด้วยยอดเงินลงทุนรวม 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กองทุน IX มียอดจองซื้อเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยมีความต้องการเกินกว่าวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ และสูงกว่าเป้าหมายเริ่มต้นที่ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ การระดมทุนครั้งนี้เพิ่มขึ้น 35% จากกองทุน VIII ซึ่งปิดการระดมทุนที่ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 โดยการปิดการระดมทุนครั้งนี้ทำให้ Veritas สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ได้มากกว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในทุกกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะนักลงทุนชั้นนำที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี

“กองทุน IX ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Veritas และผมมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในทีมงานและพันธมิตรที่ยั่งยืนที่ทำให้ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้” กล่าวโดย Ramzi Musallam ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Veritas “ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการระดมทุนที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการกองทุน IX ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นเครื่องยืนยันถึงกลยุทธ์และแพลตฟอร์มของเราอย่างชัดเจน ในขณะที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการกำหนดอนาคตของความมั่นคงแห่งชาติ ในการยกระดับการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวงกว้าง กองทุนนี้จะช่วยให้เราสามารถขยายผลกระทบ คว้าโอกาสใหม่ๆ และผลักดันนวัตกรรมในจุดที่สำคัญที่สุดต่อไปได้”

กองทุน IX ขับเคลื่อน Veritas ให้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่จำเป็นและมีความยืดหยุ่นในตลาดที่มีกฎระเบียบสูง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภาคส่วนเหล่านี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และ AI กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานของสังคม แพลตฟอร์มของ Veritas สร้างขึ้นจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นกรรมสิทธิ์ และกลยุทธ์ที่ทำซ้ำได้ โดยออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนมูลค่าในตลาดที่ซับซ้อนและมีความสำคัญระดับโลก

ความเป็นผู้นำและผลงานของ Veritas ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดอันดับ 10 อันดับแรกของโลกโดย HEC Paris–Dow Jones เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัทซื้อกิจการที่มีผลงานดีที่สุดในอเมริกาโดย Preqin ในปี 2023

เกี่ยวกับ Veritas Capital

Veritas เป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีมายาวนาน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีและภาครัฐ บริษัทลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ บริการ และซอฟต์แวร์ที่สำคัญต่อภารกิจ โดยเน้นที่เทคโนโลยีและโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยี แก่ลูกค้าภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลก Veritas มุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าโดยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทที่ลงทุนด้วยวิธีการทั้งแบบออร์แกนิกและแบบอนินทรีย์ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในสาขาที่สำคัญยิ่ง เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา พลังงาน และความมั่นคงแห่งชาติ ถือเป็นหัวใจสำคัญของบริษัท Veritas ภูมิใจที่ได้ดูแลสินทรัพย์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก การพัฒนาคุณภาพของการดูแลสุขภาพควบคู่ไปกับการลดต้นทุน การพัฒนาระบบการศึกษา การเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการปกป้องประเทศชาติและพันธมิตรของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.veritascapital.com

การที่ Veritas ได้รับรางวัลหรือการจัดอันดับใดๆ ที่อ้างอิงในที่นี้ ไม่ได้บ่งชี้ถึงประสบการณ์ของนักลงทุนรายบุคคลที่มีต่อ Veritas หรือผลการดำเนินงานในอนาคตของกองทุน Veritas แต่อย่างใด การจัดอันดับและรางวัลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นคำแนะนำหรือการประเมินธุรกิจการจัดการการลงทุนของ Veritas โดยสามารถอ่านประกาศสำคัญ ข้อสงวนสิทธิ์ และรายละเอียดเกี่ยวกับรางวัลหรือการจัดอันดับใดๆ ที่อ้างอิงได้ที่นี่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Veritas Capital:
 
สื่อใหม่
Prosek Partners
Pro-Veritas@Prosek.com

ที่มา: Veritas Capital

ท่ามกลางความต้องการวีซ่านิวซีแลนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทาง Greener Pastures New Zealand จึงได้เปิดตัวกองทุนเพื่อการลงทุนในกีวีฟรุตใหม่

Logo

กองทุนนี้มุ่งเป้าไปที่ภาคการเกษตรชั้นนำของนิวซีแลนด์ โดยเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าถาวรในนิวซีแลนด์ผ่านการลงทุน

โอ๊คแลนด์, นิวซีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2025

Greener Pastures New Zealand เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรแห่งแรกของนิวซีแลนด์ ในวันนี้ได้ประกาศเปิดตัวกองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures โดยกองทุนนวัตกรรมนี้จะช่วยให้บุคคลและครอบครัวต่างๆ ที่ต้องการพำนักถาวรในนิวซีแลนด์ผ่านวีซ่า Active Investor Plus หรือที่มักเรียกกันว่า “Golden Visa” ของนิวซีแลนด์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านการลงทุนด้วยการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ โดยกองทุนนี้จะลงทุนในภาคส่วนกีวีฟรุตของนิวซีแลนด์โดยเฉพาะ รวมถึงการเป็นเจ้าของที่ดินที่มีผลผลิตสูง เช่น สวนกีวีฟรุต รวมถึงหุ้นใน Zespri ที่เป็นผู้ส่งออกและจำหน่ายกีวีฟรุตรายใหญ่ที่สุดของโลก

Greener Pastures New Zealand ได้เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ โดยมอบเส้นทางที่ครอบคลุมสู่การพำนักอาศัยสำหรับบุคคลและครอบครัวที่มีสินทรัพย์สุทธิสูงผ่านโครงการวีซ่า Active Investor Plus เนื่องจากความต้องการวีซ่าเพื่อการลงทุนของนิวซีแลนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความสนใจจากทั่วโลกในการใช้ชีวิตอย่างมั่นคงและมีคุณภาพสูง ทำให้ Greener Pastures มีความโดดเด่นในฐานะที่เป็นบริษัทเดียวที่นำเสนอบริการครบวงจร ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่ผ่านการรับรอง การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า รวมถึงการวางแผนด้านไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ที่ครอบคลุมถึงการจัดหาที่เรียนในโรงเรียน การจัดหาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการบูรณาการด้านชุมชนต่างๆ

“เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวกองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures” กล่าวโดย Dominic Jones กรรมการผู้จัดการของ Greener Pastures New Zealand “กองทุนนี้ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านการลงทุนสำหรับวีซ่า Active Investor Plus ผ่านการลงทุนในหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาอย่างยาวนาน ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำให้กับโลก กีวีฟรุตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลงทุนในภาคส่วนนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศนิวซีแลนด์ อุตสาหกรรมนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของนิวซีแลนด์มาอย่างยาวนาน และแนวโน้มในอนาคตของภาคส่วนนี้นั้นน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก”

ความรู้เชิงสถาบันของ Greener Pastures New Zealand เกี่ยวกับภาคเกษตรกรรมนั้นเกิดมาจากความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินอย่างลึกซึ้งในตลาดการลงทุนของประเทศ ประกอบกับความผูกพันทั้งโดยส่วนตัวและครอบครัวที่มีต่อการเกษตร เกษตรกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมกีวีฟรุต โดยก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพในสายงานธนาคารและการเงินในลอนดอน รวมถึงการก่อตั้ง Origin Capital Partners ที่เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงและเป็นบริษัทแม่ของ Greener Pastures New Zealand นั้น Jones ได้เติบโตในชนบทของนิวซีแลนด์ โดยมีรากฐานมาจากครอบครัวในอุตสาหกรรมกีวีฟรุตและผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านมาหลายรุ่น เขามองว่ามรดกทางการเกษตรของนิวซีแลนด์นั้นเป็นหัวใจสำคัญของอัตลักษณ์และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ โดยสมาชิกคณะกรรมการของ Greener Pastures New Zealand และ Origin Capital Partners นั้นมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในด้านการลงทุนส่วนบุคคล รวมถึงการกำกับดูแลในอุตสาหกรรมกีวีฟรุตมาเป็นเวลานานหลายปี

กองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures ประกอบด้วยที่ดินในนิวซีแลนด์ที่ให้ผลผลิตสูงในรูปแบบของสวนกีวีเป็นหลัก โดยกองทุนจะเข้าซื้อสวนกีวีที่มีอยู่แล้วหรือพัฒนาสวนใหม่จากที่ดินเปล่า ที่มอบโอกาสพิเศษให้กับเหล่านักลงทุนในการปฏิบัติตามเกณฑ์การลงทุนของวีซ่าผ่านการเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ดินอันทรงคุณค่า อุตสาหกรรมกีวีของนิวซีแลนด์นั้นมีประวัติที่แข็งแกร่งในการสร้างมูลค่า โดยผลตอบแทนรวมจากที่ดินที่ปลูกกีวีนั้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าภาคการเกษตรอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน

กองทุนนี้ถือเป็นกองทุนที่สามที่ Greener Pastures New Zealand และ Origin Capital Partners ระดมทุนและบริหารจัดการในภาคธุรกิจกีวีฟรุต โดยกองทุนสองกองทุนแรกรวมกันนั้นจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจกีวีฟรุตที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ที่บริหารจัดการสินทรัพย์มากกว่า 225 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์

กองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนลำดับที่สองจาก Greener Pastures New Zealand ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองข้อกำหนดวีซ่า Active Investor Plus นอกจากนี้ บริษัทยังมีกองทุน Greener Pastures Diversified Fund ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับวีซ่าประเภทนี้ โดยให้การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำในตลาดหุ้นบริษัทเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงตราสารหนี้นอกตลาดอีกด้วย

เกี่ยวกับ Greener Pastures New Zealand

Greener Pastures New Zealand เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและไลฟ์สไตล์แบบบูรณาการแห่งแรกของนิวซีแลนด์ ที่ให้คำปรึกษาแก่คู่รักและครอบครัวชาวต่างชาติที่มีความมั่งคั่งสูงผ่านโครงการวีซ่า Active Investor Plus (AIP) ในฐานะบริษัทในเครือของ Origin Capital Partners โดยบริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ปรับแต่งตามความต้องการและการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ เพื่อให้มั่นใจว่าการย้ายถิ่นฐานมายังนิวซีแลนด์จะราบรื่น มีกลยุทธ์ ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดย Greener Pastures ได้ช่วยให้พลเมืองโลกสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าปรารถนาที่สุดของโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.greenerpastures.nz

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ: greenerpastures@misfittoyscomms.com

ที่มา: Greener Pastures New Zealand

Balsam Hill ประกาศอย่างภาคภูมิใจถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาต้นคริสต์มาสที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

Logo

เรดวูดซิตี้, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–08 กันยายน 2025

Balsam Hill® ผู้นำระดับโลกด้านต้นคริสต์มาสเทียมคุณภาพสูง ทนทานต่อธรรมชาติ และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมถึงของตกแต่งตามเทศกาลต่างๆ ภูมิใจนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในการผลิตต้นคริสต์มาสคุณภาพระดับมรดกตกทอด โดยใช้วัสดุที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

ตั้งแต่ปี 2006 Balsam Hill มุ่งมั่นในเรื่องการสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ คุณภาพ ความสมจริง และนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับต้นคริสต์มาสที่ลูกค้าหลายล้านคนต่างหลงรัก ด้วยจิตวิญญาณดังกล่าว Balsam Hill จึงภูมิใจที่ได้เป็นผู้ค้าปลีกรายแรกของโลกที่นำเสนอต้นคริสต์มาสที่มีปลาย True Needle® ที่ทำจากโพลีเอทิลีนจากพืช ซึ่งได้มาจากอ้อย ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิล และที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กันคือ ตั้งแต่สายการผลิตประจำฤดูกาลวันหยุดปี 2025 เป็นต้นไป ต้นคริสต์มาส True Needle อื่นๆ ทั้งหมดของแบรนด์จะใช้โพลีเอทิลีนรีไซเคิลที่ได้รับการรับรอง GRS 30% ซึ่งผลิตจากฝาขวดน้ำแบบฉีกได้ การเปลี่ยนแปลงทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นโดยไม่ลดทอนการควบคุมคุณภาพและข้อควรพิจารณาด้านความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับต้นคริสต์มาส Balsam Hill แต่ละต้น รวมถึงการรับประกันสามปีของบริษัทที่เป็นมาตรฐานสำหรับต้นคริสต์มาสทุกต้นที่จัดจำหน่าย

“พันธกิจสำคัญของ Balsam Hill คือการนำเสนอต้นคริสต์มาสที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการเฉลิมฉลองของลูกค้าไปอีกหลายๆ ปี แม้ว่าต้นคริสต์มาสของเราจะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้เสมอ แต่ความก้าวหน้าเหล่านี้ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับอุตสาหกรรมต้นคริสต์มาส” กล่าวโดย Mac Harman ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Balsam Hill “เราไม่เพียงแต่สร้างต้นคริสต์มาสเทียมต้นแรกจากโพลีเอทิลีนจากพืช รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิตต้นคริสต์มาสใหม่กว่า 85% ในปีนี้เท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้เรายังได้ทดสอบการผลิตต้นคริสต์มาสใหม่จากต้น Balsam Hill เก่าที่เรารีไซเคิล ซึ่งเป็นต้นคริสต์มาสที่สร้างแรงบันดาลใจที่เราได้นำมาจัดแสดงในสตูดิโอออกแบบของเราที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน”

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตต้นคริสต์มาส ทาง Balsam Hill ยังได้มุ่งเน้นไปที่การนำระบบที่ยั่งยืนมาใช้ในทุกการดำเนินงาน โดยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ นี้สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ เช่น การเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ ซึ่งรวมถึงการใช้กระดาษแทนเทปพลาสติก และการเลิกใช้พลาสติกกันกระแทกในบรรจุภัณฑ์ต้นไม้ส่วนใหญ่ในปี 2024 โดยในปีนี้ หลังจากที่ทุ่มเทวิจัยและพัฒนามาหลายปีเพื่อรับมือกับความท้าทายในการรีไซเคิลต้นคริสต์มาสเทียม บริษัทกำลังวางแผนสำหรับโครงการนำร่องในการเก็บและรีไซเคิลต้นคริสต์มาสในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา ต้นคริสต์มาสเทียมและไฟประดับเทศกาลจะถูกเก็บรวบรวมไว้เพื่อนำไปรีไซเคิลในอนาคตที่ Balsam Hill Outlet ในเมืองเบอร์ลิงเกม รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีแผนที่จะขยายบริการนี้ให้ครอบคลุมลูกค้ามากขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกาโดยเร็วที่สุด

ในปีนี้ ต้นคริสต์มาสของ Balsam Hill มากกว่า 85% จะทำจากวัสดุใหม่ที่ยั่งยืนมากขึ้น และจะวางจำหน่ายในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทั้งหมด รวมถึงสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางสู่ความยั่งยืนหลายปีของ Balsam Hill ได้ที่ www.balsamhill.com/sustainability รวมถึงลิงก์ไปยังรายงาน ESG ฉบับแรกของบริษัท

เกี่ยวกับ Balsam Brands

แบรนด์เรือธงที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกาของBalsam Brandsคือ Balsam Hill (www.balsamhill.com) ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดย Mac Harman โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์ต้นคริสต์มาสเทียมที่สมจริงและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ที่มีคุณภาพสูงที่สุดสำหรับลูกค้าและธุรกิจทั่วโลก ด้วยการมุ่งเน้นไปที่คุณภาพและงานฝีมือ ต้นคริสต์มาสของเราจึงเป็นสัมผัสสุดท้ายที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวและชุมชนต่างๆ ที่จะร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขร่วมกัน หลังจากเติบโตมา 19 ปี ผลิตภัณฑ์ของ Balsam Hill ได้ขยายขอบเขตครอบคลุมไปถึงเครื่องประดับ ต้นไม้ประดับตกแต่งสำหรับเทศกาล รวมถึงของตกแต่งตามฤดูกาล โดยมีเว็บไซต์ที่บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินการเองในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส และแคนาดา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Jill Osaka
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และความร่วมมือ
Balsam Hill
josaka@balsambrands.com

ที่มา: Balsam Hill

Hidetaka Kokubu ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายญี่ปุ่นของ Xsolla

Logo

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–08 กันยายน 2025

Xsolla ผู้นำระดับโลกด้านการค้าวิดีโอเกม (ซีอีโอ: Chris Hewish สำนักงานใหญ่: ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา) มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Eiko Kokubun ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายญี่ปุ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อเสริมสร้างการสนับสนุนบริษัทเกมญี่ปุ่นที่ต้องการขยายธุรกิจไปทั่วโลก

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

ก่อนร่วมงานกับ Xsolla นั้น Kokubun ดำรงตำแหน่งผู้นำสำคัญในด้านการพัฒนาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ หลังจากได้รับประสบการณ์ทางธุรกิจในต่างประเทศระหว่างที่ประจำการอยู่ที่ฮ่องกงให้กับบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง เขาได้ทำงานด้านการวางแผนและการวิเคราะห์ทางการเงิน (FP&A) และการพัฒนาธุรกิจให้กับบริษัทสื่อและบันเทิงระดับโลก อย่างเช่น Amazon และ Disney เขาดำรงตำแหน่งรองประธานและผู้จัดการทั่วไปที่ช่องโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกของบริษัท Sony Pictures โดยดูแลธุรกิจทั้งหมด ต่อมาเขาได้ร่วมงานกับ DAZN โดยดูแลการดำเนินงานด้านการสตรีมกีฬาสดและการขายธุรกิจใหม่แบบ B2B ในฐานะผู้บริหารระดับสูง ล่าสุด เขาดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารที่ Tsuburaya Productions โดยดูแลโครงการเชิงกลยุทธ์ระดับสูง

ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์และความรับผิดชอบต่อผลกำไรและขาดทุน Kokubun สามารถนำประสบการณ์และความเข้าใจอันลึกซึ้งมาสู่บทบาทใหม่ที่ Xsolla ได้

Kokubun แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งใหม่ของเขาว่า:

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Xsolla หนึ่งในบริษัทค้าเกมชั้นนำของโลก และมีโอกาสได้ร่วมสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมของญี่ปุ่น ตลอดอาชีพการงานในวงการบันเทิง ผมเคยดำรงตำแหน่งต่างๆ และได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่นมากมาย จากประสบการณ์ดังกล่าว ผมมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือนักพัฒนาให้เติบโตทางธุรกิจ ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ทั่วโลกด้วย โดยใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่ทันสมัยและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมของ Xsolla ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

Juyeon Lee รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Xsolla ให้ความเห็นว่า:

“ตอนนี้ Xsolla Japan ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่สี่แล้ว และได้ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น เพื่อสานต่อการเติบโตนี้และเสริมสร้างทิศทางเชิงกลยุทธ์ของเรา เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะค้นหาบุคลากรที่เหมาะสมเพื่อมารับบทบาทสำคัญนี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับผู้ที่จะนำความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำมาสู่ Xsolla ในญี่ปุ่น และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในตลาดญี่ปุ่น”

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla คือบริษัทค้าเกมระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยนักพัฒนาแก้ไขปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตั้งแต่เกมอินดี้ไปจนถึงเกมระดับ AAA บริษัทต่างๆ ร่วมมือกับ Xsolla เพื่อช่วยระดมทุน จัดจำหน่าย ทำการตลาด และสร้างรายได้จากเกม ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของวิดีโอเกม Xsolla มุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสต่างๆ ร่วมกัน และจัดหาทรัพยากรใหม่ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ค้าเกม และได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมมากกว่า 1,500 คน ให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นและขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยเส้นทางสู่ผลกำไรและหนทางสู่ชัยชนะที่มากขึ้น นักพัฒนาเกมจึงมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250907348708/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Nikkiso ตอบรับความต้องการอุปกรณ์จัดการแอมโมเนียที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมเปิดตัวปั๊มรุ่นใหม่ในงาน Gastech 2025

Logo

มิลาน–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2025

Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group (Nikkiso CE&IG) ได้ประกาศในงาน Gastech Conference วันนี้ว่า บริษัทได้เปิดตัวปั๊มแอมโมเนียแบบจุ่มใต้น้ำรุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้มากที่สุดในอุตสาหกรรม

แอมโมเนียเป็นส่วนประกอบสำคัญในปุ๋ย และถูกนำมาใช้เป็นตัวพาไฮโดรเจนสะอาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ความต้องการในการจัดการแอมโมเนียก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในภาคส่วนต่างๆ เช่น การผลิตไฟฟ้า โรงงานเคมี กองเรือขนส่ง รวมถึงท่าเรือส่งออก ทาง Nikkiso CE&IG จึงตอบสนองต่อความต้องการนี้ด้วยโซลูชันแรกที่ออกแบบมาเพื่อลดภาระการบำรุงรักษาทั่วไปสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ด้วยโครงสร้างที่ปราศจากซีลต่างๆ บำรุงรักษาง่าย ปราศจากทองแดง รวมถึงระบบมอเตอร์ปั๊มแบบบูรณาการ

โดยปั๊มมีความสามารถในการส่งน้ำได้มากกว่า 2,500 ม.3 ต่อชั่วโมง และมีประวัติการบำรุงรักษาที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม โดยชิ้นส่วนที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะทำให้ปั๊มมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะต้องมีการบำรุงรักษาใดๆ โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยระหว่างการหยุดทำงานแต่ละครั้งสูงกว่า 16,000 ชั่วโมง

Emile Bado ประธานฝ่ายปั๊มของ Nikkiso CE&IG กล่าวว่า “ความต้องการแอมโมเนียในการใช้งานที่หลากหลายกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสำคัญของแอมโมเนียในฐานะเชื้อเพลิงสะอาดทางเลือก บทบาทในภาคเกษตรกรรม และในฐานะตัวพาไฮโดรเจน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เรามีความยินดีที่จะเปิดตัวปั๊มที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดจากผู้ปฏิบัติงานต้องเผชิญ

“เรามีความภาคภูมิใจในนวัตกรรมของ Nikkiso CE&IG และความพยายามในการผลิตปั๊มนี้ก็ไม่ต่างกัน ส่งผลให้ปั๊มนี้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ การบำรุงรักษา และประสิทธิภาพ”

การเปิดตัวปั๊มนี้เกิดขึ้นจากความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของทั้ง Nikkiso CE&IG และ Nikkiso Co ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ในการให้บริการตลาดแอมโมเนียในหลากหลายรูปแบบ โดย Nikkiso CE&IG มีประสบการณ์กว่าสี่ทศวรรษในการสร้างปั๊มมอเตอร์แบบจุ่มสำหรับใช้กับแอมโมเนีย และเพิ่งได้รับการอนุมัติในหลักการสำหรับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแอมโมเนียแบบใหม่ ควบคู่ไปกับเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบอุณหภูมิแวดล้อมและแบบไฟฟ้าสำหรับแอมโมเนียที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะทางที่มีอยู่และได้รับการพิสูจน์แล้ว ฝ่ายอุตสาหกรรมของ Nikkiso Co ได้สร้างปั๊มมอเตอร์แบบกระป๋องมากกว่า 7,000 ตัวสำหรับใช้ในการจัดการแอมโมเนีย และมีแผนจะเปิดตัวปั๊มแอมโมเนียเหลวสำหรับการผลิตพลังงานความร้อนในปีหน้า

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

Eric Sensat ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ – ปั๊มมอเตอร์แบบจุ่มใต้น้ำของ Nikkiso CE&IG จะมีการนำเสนอปั๊มแอมโมเนียแบบจุ่มใต้น้ำรุ่นใหม่นี้ที่บูทของ Nikkiso CE&IG (J14) เวลา 10.30 น. และ 13.30 น. ในวันพุธที่ 10 กันยายน 2025

เกี่ยวกับ Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group

Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group คือผู้ให้บริการชั้นนำด้านอุปกรณ์และโซลูชันไครโอเจนิกทั่วโลกที่ตอบสนองความต้องการของตลาดพลังงานคาร์บอนต่ำและก๊าซอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและโซลูชันที่ทำงานร่วมกัน เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนอนาคตของตลาดพลังงาน การขนส่ง การเดินเรือ การบินและอวกาศ และก๊าซอุตสาหกรรม

กลุ่มบริษัทมีพนักงานมากกว่า 1,800 คนใน 12 ประเทศ และบริหารงานโดย Cryogenic Industries, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ถือหุ้นโดย Nikkiso Co., Ltd (TSE: 6376)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nikkiso CE&IG Group ได้ที่ NikkisoCEIG.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สื่อ
Ross Davidson
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+44 (0)7946 930741
Ross.davidson@nikkisoceig.com
pr@nikkisoceig.com

ที่มา: Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group

NIPPON KINZOKU เดินหน้าโปรโมต SFA Finish ในฐานะผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

Logo

SFA Finish ช่วยให้เหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าเครื่องมืออ่อนตัวลง แม้เป็นชิ้นงานที่ยากต่อการแปรรูป

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2025

NIPPON KINZOKU CO., LTD. (สำนักงานใหญ่: มินาโตะ-คุ โตเกียว) เตรียมผลักดันการจำหน่าย “SFA Finish” สำหรับเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าเครื่องมือ ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความง่ายในการแปรรูปด้วยการทำให้วัสดุอ่อนตัวลง ถือเป็นผลิตภัณฑ์ลำดับที่ 5 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Eco-Product” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Compared to standard annealed finishes, SFA finish offers greater elongation, preventing processing cracks.

เมื่อเทียบกับการอบอ่อนจะเห็นว่า SFA Finish ให้ความยืดหยุ่นสูงกว่า และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการแตกร้าวระหว่างแปรรูป

“SFA (Super Full Annealing) Finish” เป็นผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์เฉพาะของเรา ที่ช่วยให้วัสดุอ่อนตัวลงและไม่เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีด้วยการปรับสภาวะการผลิตให้เหมาะสมที่สุด การทำให้วัสดุอ่อนตัวลงทำให้การแปรรูปง่ายขึ้นและช่วยลดการคืนตัว ส่งผลให้กระบวนการมีประสิทธิภาพและเพิ่มอัตราผลผลิตมากขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ “SFA finish” สำหรับเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าเครื่องมือของเรา จึงได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อม “Eco-Product” ตามมาตรฐานของบริษัท เรามุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าอย่างยั่งยืนผ่านการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “NIPPON KINZOKU 2030” ตามแผนธุรกิจฉบับที่ 11 ภายใต้คีย์เวิร์ดสำคัญอย่าง “Near Net Performance” (บรรลุประสิทธิภาพที่ต้องการของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นวัสดุ) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราตั้งเป้าว่าจะขยายการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

คุณสมบัติและคุณประโยชน์ของ SFA Finish

  1. องค์ประกอบทางเคมี
    คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงโดยปรับสภาพการรีดเย็นให้เหมาะสม องค์ประกอบทางเคมีจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง
     
  2. คุณสมบัติเชิงกล
    เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการอบอ่อน SFA Finish ให้ความเหนียวที่เหนือกว่า พร้อมความอ่อนตัวที่มากกว่า (ความแข็งแรงต่ำกว่า)
     
  3. ความง่ายในการแปรรูป
    เนื่องจากมีการคืนตัวต่ำจึงทำให้ชิ้นงานค่อนข้างคงตัวหลังการแปรรูป
     
  4. โครงสร้างของโลหะ
    ขนาดของคาร์ไบด์ทรงกลมอยู่ที่ประมาณ 1.0-1.5 μm ซึ่งเทียบเท่ากับการอบอ่อนทั่วไป
     
  5. คุณสมบัติหลังอบชุบความร้อน
    โครงสร้างจุลภาคและความแข็งหลังชุบแข็งและการอบคืนตัวเทียบเท่าวัสดุพื้นฐานทั่วไป

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2025/09/934d41c708857ee8bb4409fafb7ffb18.pdf

ภาพรวมของผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดเย็น

บริษัทของเราเริ่มผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นตั้งแต่ปี 1930 ทำให้เราเป็นผู้ผลิตที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น เราภูมิใจที่ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตรงตามข้อกำหนดและขนาดที่หลากหลายในทุกอุตสาหกรรม

ภาพรวมของผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่น

ด้วยเครื่องจักรเฉพาะของบริษัทที่ออกแบบโดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการรีดเย็นและเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรม เราจึงสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้
URL: https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/corporate-profile/business/cold-rolled-stainless-steel-strip

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท NIPPON KINZOKU

ผลิตภัณฑ์ของเราถูกนำไปใช้ในหลายสาขา ตั้งแต่งานที่ต้องการความแม่นยำไปจนถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/20250908712511/en

Contacts

NIPPON KINZOKU CO., LTD. แผนกกระบวนการผลิตและสนับสนุน
โทร: +81-3-5765-8113
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป: การปฏิวัติองค์กรของ Halo ได้เปิดตัวแล้วสำหรับองค์กรระดับโลกที่ได้รับเลือก

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–08 กันยายน 2025

Halo ผู้นำอิสระด้านการจัดการบริการองค์กร (ESM) วันนี้ประกาศเปิดตัว “1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไปซึ่งเป็นแพ็คเกจองค์กรใหม่ที่โดดเด่นที่รับประกันค่าใช้จ่ายใบอนุญาต ESM ที่แน่นอนและคาดการณ์ได้ตลอดอายุการใช้งานให้กับองค์กร พร้อมทั้งมอบการใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ความคล่องตัวที่มากขึ้น และระดับความร่วมมือที่ผู้จำหน่ายแบบดั้งเดิมไม่สามารถเทียบได้

ทำไมต้องตอนนี้

องค์กรขนาดใหญ่หลายแห่งติดอยู่ในสัญญามูลค่าเจ็ดหลักกับแพลตฟอร์มเดิม ซึ่งต้องเผชิญกับต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ที่พุ่งสูงขึ้น การเปิดตัวโครงการที่ล่าช้า และเงื่อนไขที่ไม่ยืดหยุ่น โปรแกรม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป ของ Halo จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยตรง:

  •  โปร่งใส ราคายุติธรรม คาดการณ์มูลค่า ACV ไว้ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป
  •  การใช้งานรวดเร็วกว่าที่คุณคิดมาก – การเปิดตัวองค์กรหลักที่ส่งมอบในกรอบเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อน
  •  ความร่วมมือที่แท้จริง กับการจัดการระยะยาวที่สร้างขึ้นจากผลลัพธ์ที่วัดผลได้และการส่งมอบมูลค่าอย่างต่อเนื่อง
  •  สัญญาที่ยืดหยุ่น – ออกได้ทุกเมื่อโดยไม่มีค่าปรับ
  •  ทุนสนับสนุนนวัตกรรมอันทรงเกียรติ สำหรับเงินทุนทั้งหมดเพื่อครอบคลุมการโยกย้ายจากแพลตฟอร์มปัจจุบัน
  •  ไม่มีการชำระเงินจนกว่าการย้ายข้อมูลจะเสร็จสมบูรณ์และสัญญาปัจจุบันหมดอายุ

โอกาสสุดพิเศษ

1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป: การปฏิวัติองค์กรของ Halo มี ให้เฉพาะองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 20,000 คน หรือตัวแทนฝ่ายบริการมากกว่า 1,000 คนเท่านั้น การเข้าร่วมต้องอยู่บนพื้นฐานการสมัครเข้าร่วมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่เริ่มใช้งานในช่วงแรกจะได้รับความสนใจและอิทธิพลอย่างเหนือชั้นต่อแผนงานของ Halo

ผู้เข้าร่วมจะได้รับประโยชน์จาก:

  •  ราคาคงที่ตลอดชีพที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ไม่มีการอัพเซลล์
  •  การติดตั้งใช้งานได้เร็วกว่าที่คิดพร้อมความสามารถที่พิสูจน์แล้วในการจัดการบริการระดับองค์กรได้ในเวลาอันรวดเร็ว
  •  การผสานรวมและการกำหนดค่าความปลอดภัยที่ออกแบบเฉพาะ
  •  มีอิทธิพลโดยตรงต่อลำดับความสำคัญด้านนวัตกรรมของ Halo
  •  เงินทุนสนับสนุนการย้ายผ่านทุนนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านและเร่งการสร้างมูลค่าให้เร็วขึ้น

นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชั่วอายุคนที่จะปรับเปลี่ยนวิธีคิดขององค์กรเกี่ยวกับการจัดการบริการ กล่าวโดย Paul Hamilton ซีอีโอของ Halo การกำหนดราคาที่คาดการณ์ได้ตลอดชีพ และการมอบทุนสนับสนุนนวัตกรรมที่เอื้อเฟื้อเพื่อรองรับภาระหนักในการย้ายระบบ ช่วยให้เรามอบความมั่นใจและช่องทางให้ลูกค้าองค์กรเริ่มต้นของเราได้หลุดพ้นจากแพลตฟอร์มเก่าที่มีข้อจำกัดและมีราคาแพงเกินไป

ความพิเศษเฉพาะที่มาพร้อมวัตถุประสงค์

ด้วยการจำกัดจำนวนลูกค้า “1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป” Halo รับประกันว่าผู้เข้าร่วมทุกรายในช่วงแรกจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทรัพยากรระดับพรีเมียม และความสามารถในการกำหนดอนาคตของ Enterprise Service Management ควบคู่ไปกับทีมผู้นำของ Halo

เกี่ยวกับ Halo

Halo คือบริษัท SaaS เอกชนที่ก่อตั้งโดยผู้ก่อตั้ง นิยามใหม่ของ Enterprise Service Management โดย Halo สร้างขึ้นบนหลักการของความโปร่งใส ความยุติธรรม และความร่วมมือระยะยาว ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถส่งมอบบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดจากรูปแบบผู้ให้บริการแบบเดิม

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจ Halo Enterprise ได้ที่ https://usehalo.com/enterprise-package

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/ 20250908530996/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ: Richard Horvath – Richard.horvath@imaginehalo.com

ที่มา: Halo

The Bangkok Reporter