LogiNext ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ค้าปลีกที่ บริษัท Cp Axtra Public Company Limited

Logo

การยอมรับกระบวนการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วโลกกำลังสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของประสบการณ์ลูกค้าในโลกค้าปลีกแบบหลายช่องทางในปัจจุบัน LogiNext เป็นแนวหน้าของการปฏิวัติทางดิจิทัลในการผลักดันประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่าสำหรับองค์กรต่างๆ

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–10 สิงหาคม 2023

LogiNext แพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติด้านลอจิสติกส์ระดับโลกที่ใช้ AI เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัท Cp Axtra Public Company Limited ผู้ดำเนินการ Makro ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งอันดับหนึ่งของประเทศไทย และ Lotus’s ผู้ค้าปลีกชั้นนำ

การใช้งาน LogiNext อยู่ระหว่างเร่งการปรับปรุงในการดำเนินการจัดส่งและประสบการณ์ของลูกค้าสำหรับ Makro และ Lotus โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับปรุงการมอบหมายคำสั่งซื้อ การจัดการยานพาหนะ การวางแผนการเดินทาง การกำหนดเส้นทาง การหยิบและบรรจุหีบห่อ การมองเห็นคำสั่งซื้อและการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม ซึ่งได้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการด้านห่วงโซ่อุปทานโดยรวมสำหรับ Makro และ Lotus สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ Cp Axtra ปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตอีกด้วย

ด้วยพันธกิจในการเป็นผู้ค้าปลีก B2B และ B2C อันดับหนึ่งในเอเชียที่ผสมผสานทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการในแต่ละวันของลูกค้าด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ร่วมกับผู้คนและพันธมิตรในแนวทางที่ยั่งยืน Cp Axtra มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อผ่านแพลตฟอร์มแบบหลายช่องทาง

Dhaval Thanki รองประธาน APAC & MEA ของ LogiNext กล่าวว่า "Cp Axtra ให้ความสำคัญกับลูกค้าอย่างไม่ย่อท้อ และแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจัดส่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบในบริบทของสิ่งที่แพลตฟอร์มของเราแก้ปัญหาให้กับพวกเขา" เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “LogiNext ช่วยให้ธุรกิจของ Makro และ Lotus ได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีลอจิสติกส์ใหม่ล่าสุดและยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังลดต้นทุนการจัดส่ง และขับเคลื่อนการเติบโต”

Paul Stephen Howe หัวหน้ากลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศบริษัท Cp Axtra Public Company Limited กล่าวว่า “LogiNext ให้บริการโซลูชันระบบอัตโนมัติด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร (end-to-end) ซึ่งช่วยให้เราดำเนินการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก" เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วย LogiNext ที่เปิดใช้งานการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลและการมองเห็นแบบเรียลไทม์ในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของเรา เราจึงสามารถมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นให้กับลูกค้าของเรา ในขณะที่เชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันได้”

เทคโนโลยีของ LogiNext กำลังปฏิวัติการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ทั่วโลก ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับปรุงการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ ปรับเส้นทางให้เหมาะสม และปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า ด้วยการติดตามตามเวลาจริง การวิเคราะห์ขั้นสูง และความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพ บริษัทต่างๆ สามารถนำทางภูมิทัศน์ด้านลอจิสติกส์ที่ซับซ้อนได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่อุตสาหกรรมการค้าปลีกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง LogiNext ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเสริมศักยภาพให้ธุรกิจต่างๆ ยอมรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าปลายทาง ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติและข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกระดับใหม่ของความเป็นเลิศในการดำเนินงาน เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดได้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Shreyas Mulgund
รองประธานฝ่ายการตลาด LogiNext
โทรศัพท์มือถือ: +91-9819399139
อีเมล์: shreyas.m@loginextsolutions.com

แหล่งที่มา: LogiNext

Kioxia เปิดตัว PCIe® 5.0 SSD ใหม่สำหรับองค์กรและโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

Logo

KIOXIA CD8P Series Data Center NVMe™ Drives ใหม่ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพ ความหน่วง และคุณภาพการบริการในรูปแบบ E3.S และ 2.5 นิ้ว (U.2)

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–8 สิงหาคม 2023

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ประกาศเปิดตัว KIOXIA CD8P Series ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Solid State Drives (SSD) ระดับศูนย์ข้อมูล KIOXIA CD8P Series เหมาะสมอย่างยิ่งกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานทั่วไปและสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่สามารถใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพ PCIe® 5.0 (32GT/s x4) แอปพลิเคชันศูนย์ข้อมูลเหล่านี้สามารถสร้างปริมาณงานผสมที่ซับซ้อนกระจายไปทั่วระบบเวอร์ชวลไลเซชันขนาดใหญ่ในศูนย์ข้อมูลการปฏิบัติงาน 24×7 ไดรฟ์ใหม่มีความจุสูงถึง 30.72 เทราไบต์ (TB) [1] และใน Enterprise and Datacenter Standard Form Factor (EDSFF) ทั้ง E3.S และ 2.5 นิ้ว (U.2)

PCIe(R) 5.0 SSDs for Enterprise and Data Center Infrastructures: KIOXIA CD8P Series (Photo: Business Wire)

PCIe(R) 5.0 SSD สำหรับองค์กรและโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล: KIOXIA CD8P Series (ภาพ: Business Wire)

KIOXIA CD8P Series ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ความหน่วง พลังงานที่ลดลงและความร้อนของสภาพแวดล้อมศูนย์ข้อมูลที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการระบายความร้อนเป็นสิ่งสำคัญ KIOXIA CD8P Series มอบความสามารถในการคาดการณ์และความสม่ำเสมอที่จำเป็นสำหรับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

KIOXIA CD8P Series ตระหนักถึงประสิทธิภาพการอ่านตามลำดับที่เพิ่มขึ้นประมาณ 60% ถึง 80% เมื่อเทียบกับ PCIe 4.0 SSD รุ่นก่อนหน้า ซึ่งรวมถึง:

• ประสิทธิภาพการอ่านแบบสุ่ม [2] สูงถึง 2,000K IOPS [3] และประสิทธิภาพการเขียนแบบสุ่ม [2] สูงถึง 400K IOPS

• เวลาแฝงเปอร์เซ็นไทล์ต่ำและสม่ำเสมอที่ 99.999 ซึ่งต่ำกว่า 250us ในปริมาณงานการอ่านแบบสุ่มมาตรฐาน [4] และต่ำกว่า 1.8ms ในปริมาณงานผสมสไตล์ OLTP มาตรฐาน [5]

• การออกแบบพอร์ตเดียว ปรับให้เหมาะสมสำหรับปริมาณงานระดับศูนย์ข้อมูล

ไดรฟ์ศูนย์ข้อมูลใหม่ใช้เทคโนโลยี KIOXIA BiCS FLASH™ generation 5 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี 3D flash memory triple-level cell (TLC) และใช้คอนโทรลเลอร์ที่พัฒนาขึ้นเอง KIOXIA CD8P Series SSD เป็นไปตามข้อกำหนด PCIe 5.0 และ NVMe™ 2.0 รวมถึง NVM Express™ Management Interface (NVMe-MI™) v1.1d และรองรับ Open Compute Project (OCP) Datacenter NVMe Specifications (ไม่ใช่ข้อกำหนดทั้งหมด)

คุณสมบัติและประโยชน์เพิ่มเติมรวมถึง:

• ความน่าเชื่อถือของข้อมูลเต็มรูปแบบพร้อมการปกป้องข้อมูลแบบ end-to-end, การป้องกันไฟฟ้าดับ และการกู้คืนความล้มเหลวของแฟลชไดย์

• ตัวเลือกความปลอดภัย: Non-SED, SIE และ SED (TCG Opal และ Ruby SSCs) [6]

ไดรฟ์ KIOXIA CD8P Series สามารถสุ่มตัวอย่างเพื่อเลือกลูกค้าได้แล้ว

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ซีรีส์ KIOXIA CD8P Series
https://www.kioxia.com/en-jp/business/ssd/data-center-ssd.html#cd-series

หมายเหตุ

[1] ผลิตภัณฑ์ฟอร์มแฟกเตอร์ E3.S จะมีจำหน่ายในความจุตั้งแต่ 1.6TB ถึง 15.36TB

ผลิตภัณฑ์ฟอร์มแฟกเตอร์ขนาด 2.5 นิ้วจะมีจำหน่ายในความจุตั้งแต่ 1.6TB ถึง 30.72TB

[2] เงื่อนไข: ขนาดบล็อก 4KiB, จัดแนว 4KiB, สุ่ม 100%

[3] IOPS: อินพุตเอาต์พุตต่อวินาที (หรือจำนวนการดำเนินการ I/O ต่อวินาที)

[4] เงื่อนไข: ขนาดบล็อก 4KiB, จัดแนว 4KiB, QD = 32, สุ่ม 100%, อ่าน 100% สำหรับความจุ 3,200 GB ถึง 7,680 GB

[5] เงื่อนไข: ขนาดบล็อก 4KiB, จัดแนว 4KiB, QD = 32, สุ่ม 100%, อ่าน 70% สำหรับความจุ 3,200 GB ขึ้นไป

[6] ความพร้อมใช้งานของตัวเลือกความปลอดภัย/การเข้ารหัสอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

คำจำกัดความของความจุ: Kioxia Corporation กำหนดเมกะไบต์ (MB) เป็น 1,000,000 ไบต์ กิกะไบต์ (GB) เป็น 1,000,000,000 ไบต์ และเทราไบต์ (TB) เป็น 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุในการจัดเก็บโดยใช้ยกกำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1 GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1 TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุในการจัดเก็บน้อยลง ความจุที่ใช้ได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์โฮสต์ เงื่อนไขการอ่านและเขียน และขนาดไฟล์

SIE: โมเดลตัวเลือก Sanitize Instant Erase รองรับ Crypto Erase ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการด้านเทคนิค (T10) ของ INCITS (คณะกรรมการระหว่างประเทศสำหรับมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ)

SED: โมเดลตัวเลือก Self-Encrypting Drive รองรับ TCG Opal และ Ruby SSC ไม่รองรับคุณสมบัติบางอย่างของ TCG Opal SSC

PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

NVMe, NVM Express และ NVMe-MI เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

ข้อมูลทั้งหมดที่ระบุในบทความนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งอุทิศให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและ Solid-State Drives (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 Toshiba Memory รุ่นก่อนหน้าได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและหน่วยความจำ – คุณค่าต่อสังคม BiCS FLASH™ เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Kioxia กำลังกำหนดอนาคตของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

ติดต่อสอบถามสำหรับลูกค้า:
Kioxia Group
Global Sales Offices
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53512769/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
โทร: +81-3-6478-2404

แหล่งที่มา: Kioxia Corporation

Lynk และ Vodafone Cook Islands เริ่มต้นการบริการ Sat2Phone สำหรับผู้ใช้งาน

Logo

ประกาศเปิดตัวใช้งานบริการ sat2phone โดยเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายที่สองในโลกที่ใช้บริการนี้

FALLS CHURCH, Va.–(BUSINESS WIRE)–8 สิงหาคม 2023

Lynk Global, Inc. (Lynk) ผู้ให้บริการโทรคมนาคม sat2phone ชั้นนำของโลก และ Vodafone Cook Islands ได้ประกาศร่วมกันในวันนี้ถึงการเริ่มให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมโดยตรงขั้นต้นแก่ผู้ใช้งาน Vodafone Cook Island โดยใช้ "เสาส่งสัญญาณในอวกาศ " ของ Lynk โดย Vodafone Cook Islands เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (MNO) รายที่สองในโลกที่เปิดตัวใช้งานเทคโนโลยี sat2phone ของ Lynk โดยเป็นบริการสำหรับผู้ใช้งาน

Vodafone เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำใน Cook Islands โดยให้บริการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์ โทรศัพท์พื้นฐาน ตลอดจนบริการและโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมอื่นๆ อีกมากมายทั่วทุกเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม บริษัทจึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดภูมิทัศน์ดิจิทัลของ Cook Islands โดยบริษัทมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีต่างๆ ที่ล้ำสมัยและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อจัดหาเครือข่ายที่เสถียรและเชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการโทรด้วยเสียง การรับส่งข้อความ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือโซลูชันสำหรับองค์กร Vodafone Cook Islands พร้อมนำเสนอบริการที่ครอบคลุมซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล ที่อยู่อาศัย รวมถึงธุรกิจด้วยเช่นกัน

"ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่มหาศาลของ Cook Islands พวกเราที่ Vodafone จึงแสวงหาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อสำหรับหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกล อะทอลล์ ซึ่งอยู่ท่ามกลางทะเลให้ดียิ่งขึ้นตลอดเวลา บริการของ Lynk มีเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถตอบสนองความต้องการของเราสำหรับการขยายขอบเขตครอบคลุมสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเรา แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายสูงมหาศาลจนเกิดเป็นภาระต่อเนื่องสำหรับผู้ใช้งาน เราเล็งเห็นความต้องการในชุมชนที่อยู่ห่างไกล กลุ่มชาวประมงของเรา และเรือยอทช์ที่มาเยือน สามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อและขอบเขตครอบคลุมเพิ่มเติมที่ Lynk สามารถให้บริการ " Phillip Henderson, CEO ของ Vodafone Cook Islands กล่าว

"Lynk ได้รับความไว้วางใจให้นำเสนอบริการขั้นต้นสำหรับ Vodafone Cook Islands โดยจะมีการครอบคลุม 15 เการะ และระยะทางกว่า 1,960,027 ตารางกิโลเมตรในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Exclusive Economic Zone – EEZ) ที่อยู่ภายใต้ Cook Islands" Dan Dooley หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าพาณิชย์ของ Lynk กล่าว "ขอบเขตครอบคลุมนี้มีขนาดที่ใหญ่มาก และ Lynk มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกันกับ Vodafone เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานทั้งหมด บริการ Sat2Phone ขั้นต้นของเราจะเริ่มต้นในระดับเบต้าในพื้นที่ที่เรียกว่า `Manuae Route' และจะค่อยขยายขอบเขตครอบคลุม เช่นเดียวกับบริการที่เรานำเสนอสำหรับ PNCC ใน Palau ทาง Lynk ก็จะให้บริการสำรองที่เพิ่มความยืดหยุ่นของเครือข่ายเมื่อหากเกิดภัยธรรมชาติขึ้น และทำความเสียหายให้กับเครือข่ายภาคพื้นดิน" Dooley กล่าว

เกี่ยวกับ Vodafone Cook Islands

Vodafone Cook Islands เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมเต็มรูปบบที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านโทรคมนาคม โทรศัพท์พื้นฐาน (สายทองแดง & สายไฟเบอร์) โทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์ โซลูชัน IPTV โซลูชัน PABX และโซลูชันเฉพาะ ข้อเสนอบริการรวมถึงโซลูชันการโฮสต์ โคโลเคชัน การเข้าถึงเครือข่าย และการเชื่อมต่อโครงข่าย Vodafone ยังมีการจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการด้านการไปรษณีย์ บริการตรวจตราและออกใบอนุญาตสำหรับระบบวิทยุสื่อสารทางทะเล รวมถึงบริการสนับสนุนการบรอดคาสต์  สำนักงานใหญ่ของ Vodafone ตั้งอยู่บนเกาะหลักของ Rarotonga โดยมีสำนักงานสาขาของ Cook Islands อยู่ในทุกเกาะอื่นๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vodafone.co.ck

เกี่ยวกับ Lynk

Lynk เป็นระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมโดยตรงสู่เครื่องมาตรฐานที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ผ่านการตรวจสอบ และได้รับอนุญาตในเชิงพาณิชย์ (sat2phone) เพียงรายเดียวในโลก เรามีการขยายบริการของเราไปกว่า 20 ประเทศ โดยมีสัญญาบริการเชิงพาณิชย์ MNO มากกว่า 30 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมมากกว่า 50 ประเทศ ในวันนี้ Lynk มีความโดดเด่นเฉพาะในการส่งและรับข้อความเข้าและออกจากอวกาศเข้าไปยังอุปกรณ์พกพามาตรฐานที่ไม่มีการดัดแปลงใดๆ ได้สำเร็จ เครือข่ายของ Lynk ซึ่งปัจจุบันให้บริการการแจ้งเตือนการออกอากาศผ่านมือถือ (ฉุกเฉิน) และการส่งข้อความ SMS แบบสองทาง โดยสามารถใช้งานได้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครื่องที่มีอยู่ในโลก ในอนาคต Lynk จะเปิดให้บริการเสียงและบรอดแบนด์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยการเป็นพันธมิตรร่วมมือกันกับ Lynk ภายใต้ข้อตกลงการโรมมิ่งแบบเรียบง่าย จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสามารถเปิดโอกาสส่วนแบ่งการตลาดที่ยังไม่มีการใช้งานในปัจจุบันนี้ให้เป็นแหล่งรายได้ใหม่ ทำให้ผู้ใช้งานเครือข่ายรู้สึกอุ่นใจด้วยการเชื่อมต่อที่แพร่หลาย และเป็นหนทางส่งเสริมเศรษฐกิจสำหรับพลเมืองหลายพันล้านคนทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lynk.world หรือติดตามเราได้ที่ @lynktheworld

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tony DeTora
tdetora@lynk.world

แหล่งที่มา: Lynk Global, Inc.

Black & Veatch เดินหน้าพัฒนาการบินคาร์บอนต่ำในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

Logo

บริษัทได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรของ Bioenergy Australia ในขณะที่มีการประกาศกองทุนมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์เพื่อการพัฒนาเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน

เมลเบิร์น ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–07 สิงหาคม 2023

Black & Veatch ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ หรือ Sustainable Aviation Fuel Alliance of Australia and New Zealand (SAFAANZ) ของ Bioenergy Australia (BA)

BA เป็นสมาคมอุตสาหกรรมระดับชาติที่มีสมาชิกมากกว่า 150 ราย ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเร่งพัฒนาระบบเศรษฐกิจชีวภาพของออสเตรเลีย โดย BA ก่อตั้ง SAFAANZ ขึ้นเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาการผลิต นโยบาย การศึกษา และการตลาดของ SAF ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) คือการผลิตเชื้อเพลิงที่แปรรูปจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น น้ำมันปรุงอาหาร น้ำมันจากพืช และเศษวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสำหรับใช้ในเครื่องบินพาณิชย์ เชื้อเพลิงดังกล่าวสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงการบินแบบดั้งเดิม

Shahana McKenzie ซีอีโอของ Bioenergy Australia กล่าวว่า “การเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเสาหลักสำคัญของระบบพลังงานมากมาย แต่ก็ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการแก้ปัญหาการลดการปล่อยมลพิษเท่านั้น อุตสาหกรรมหนัก การบิน ทางทะเล เกษตรกรรม และเหมืองแร่ของออสเตรเลียยังคงต้องการทางเลือกในการลดคาร์บอนที่มีราคาไม่แพงและทำได้ทันที เช่น เชื้อเพลิงหมุนเวียน เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Black & Veatch ในการค้นหาเส้นทางการผลิตเชื้อเพลิงในราคาที่จับต้องได้และเพียงพอต่อความต้องการ”

“เช่นเดียวกับการลดคาร์บอนในภาคการบิน เชื้อเพลิงที่ยั่งยืนจะลดคาร์บอนในทุกรูปแบบของการขนส่ง ทั้งการขนส่งผู้คนและสินค้า การเข้าร่วม SAFAANZ หมายความว่า Black & Veatch จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยประยุกต์ใช้ประสบการณ์ด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างระดับโลกอันกว้างขวางของเราทั้งในด้านเชื้อเพลิงการบิน เมทานอลไปจนถึงน้ำมันเบนซิน ก๊าซชีวภาพ และก๊าซธรรมชาติหมุนเวียน” Mick Scrivens รองประธานและผู้อำนวยการของ Black & Veatch ออสเตรเลียแปซิฟิกกล่าว

ประมาณร้อยละ 2.5 ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมดของโลกนั้นเกิดจากภาคอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก โดยในออสเตรเลีย อุตสาหกรรมนี้คิดเป็นประมาณร้อยละ 1 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ประมาณการว่า SAF สามารถช่วยลดการปล่อยมลพิษของภาคการบินได้ประมาณร้อยละ 65 ที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ปัจจุบันความต้องการ SAF มากเกินกว่าอุปทานที่มีอยู่ ออสเตรเลียที่มีทรัพยากรเหลือทิ้ง และเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมากมาย จึงมีศักยภาพสูงในการตอบสนองความต้องการต่ออุปทาน SAF ทั้งในและต่างประเทศ

เพื่อให้ตระหนักถึงศักยภาพ สำนักงานพลังงานหมุนเวียนแห่งออสเตรเลีย (ARENA) ได้จัดสรรเงิน 30 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในเดือนกรกฎาคมเพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาอุตสาหกรรม SAF ด้วยการผลิตจากวัตถุดิบหมุนเวียนที่มีอยู่ในท้องถิ่น โครงการ Sustainable Aviation Fuels Funding Initiative จะประเมินโอกาสต่างๆ ทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบหมุนเวียนไปจนถึงการผลิตเชื้อเพลิงขั้นสุดท้าย โดยค้นหาข้อกำหนดเพื่อใช้งานและปรับขนาดอุตสาหกรรม SAF ในประเทศ

การใช้งาน SAF ที่แพร่หลายมากขึ้นจะได้รับการสนับสนุนจากการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ รวมถึงราคาที่จับต้องได้ การแข่งขันด้านวัตถุดิบในการผลิต ความยั่งยืน โครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน และการขยายขนาดการผลิตที่คุ้มค่า

ติดต่อ Black & Veatch สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หมายเหตุบรรณาธิการ:

  • Black & Veatch และ DG Fuels LLC ผู้นำด้านเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนที่ผลิตจากเซลลูโลส ได้ลงนามและเริ่มข้อตกลงที่ผูกมัดให้ Black & Veatch จัดทำรายงานวิศวกรรมการวางแผนตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หรือ front-end loading (FEL-3) engineering report สำหรับโครงการเปิดตัวของ DG Fuels ซึ่งจะตั้งอยู่ในรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา รายงานนี้เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตเชื้อเพลิงที่มีปริมาณการปล่อยมลพิษต่ำในเซนต์ เจมส์ แพริช ริมแม่น้ำมิสซิสซิปปี คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 8 ถึง 9 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ DG Fuels ที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในการบรรลุข้อสรุปการลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ของโครงการในต้นปี 2024

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ ที่ปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติผลงานด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1915 เราได้ช่วยลูกค้าของเราปรับปรุงชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยจัดการกับความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา รายได้ของเราในปี 2022 อยู่ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

เกี่ยวกับ Bioenergy Australia

Bioenergy Australia (BA) เป็นสมาคมอุตสาหกรรมระดับชาติที่มีสมาชิกกว่า 150 ราย ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเร่งพัฒนาระบบเศรษฐกิจชีวภาพของออสเตรเลีย ภารกิจของเราคือการส่งเสริมภาคส่วนพลังงานชีวภาพเพื่อสร้างงาน สร้างความมั่นคงในการลงทุน เพิ่มมูลค่าของทรัพยากรในท้องถิ่น ลดขยะเหลือทิ้งและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาและส่งเสริมความเชี่ยวชาญด้านพลังงานชีวภาพระดับประเทศสู่ตลาดต่างประเทศ

Bioenergy Australia ทำงานร่วมกับ Renewable Gas Alliance (RGA), Sustainable Aviation Fuel Alliance of Australia and New Zealand (SAFAANZ) และ Cleaner Fuels Alliance (CFA) พันธมิตรเหล่านี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเร่งการพัฒนาและปรับใช้เชื้อเพลิงเหลวหมุนเวียนและไบโอมีเทนสำหรับการใช้งานในออสเตรเลีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ Black & Veatch:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
อีเมลสำหรับสื่อ 24 ชั่วโมง | Media@bv.com

ฝ่ายสื่อ Bioenergy Australia:
SHAHANA MCKENZIE | Bioenergy Australia | +61 439 555 764

แหล่งที่มา: Black & Veatch

Gradiant ร่วมมือกับ SpaceAge Labs เพื่อขับเคลื่อนระบบสาธารณูปโภค สำหรับการจัดการน้ำ โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาปรับใช้

Logo

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นผสานเทคโนโลยีดิจิทัลของ Gradiant สำหรับการบำบัดน้ำและน้ำเสีย รวมเข้ากับประสบการณ์ของ SpaceAge Labs สำหรับการจัดการการจ่ายน้ำ เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–3 สิงหาคม 2023

Gradiant ผู้ให้บริการระบบจัดการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูงระดับโลก ได้ประกาศความร่วมมือระดับโลกกับ SpaceAge Labs (SAL) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับระบบการจ่ายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย โดยทมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดการน้ำในรูปแบบดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาปรับใช้กับรูปแบบเฉพาะของ Gradiant ในโรงบำบัดน้ำและน้ำเสีย เพื่อสร้างบริการแบบบูรณาการสำหรับระบบการจัดการสาธารณูปโภค ด้านน้ำทั้งหมด โดยอาศัยการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในด้านเครือข่ายและทรัพยากรด้านการจ่ายน้ำของ SAL เป็นหลัก ความร่วมมือนี้จะส่งผลให้เกิดระบบการจัดการน้ำที่แตกต่างและสมบูรณ์แบบ ให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก

Gradiant today announced a global partnership with SpaceAge Labs to expand Gradiant’s digital AI solutions for water and wastewater facilities into an integrated offering in total water infrastructure. (Photo: Business Wire)

Gradiant ประกาศความร่วมมือระดับโลกกับ SpaceAge Labs เพื่อขยายโซลูชันดิจิทัล AI ของ Gradiant สำหรับโรงบำบัดน้ำและน้ำเสียให้เป็นบริการแบบบูรณาการสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำทั้งหมด (ภาพ: Business Wire)

Gradiant จะนำเทคโนโลยี hydroEye AI ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ SAL มาปรับใช้ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นดั่งคู่เสมือนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือAI ที่ทำงานบนคลาวด์มาใช้ โดยเริ่มจากการจำลองภาพระบบการจัดการน้ำ น้ำเสีย และน้ำฝนภายใต้สภานการณ์จริง โดยแสดงผลผ่านเว็บแดชบอร์ดในมือถือและเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ข้อมูลอัจฉริยะดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้า ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสามารถวิเคราะห์ และคาดการณ์ปริมาณน้ำ และระบบการบริหารจัดการน้ำ โดยการตรวจจับความเคลื่อนไหว ผ่านระบบดิจิทัลก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใดก็ตามขึ้น รวมถึงวิเคระห์แหล่งที่มาของเหตุการณ์ และดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในเชิงรุกได้อีกด้วย

Prakash Govindan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Gradiant กล่าวว่า “เราเชื่อว่า ความร่วมมือกันระหว่าง Gradiant ในด้านระบบจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ หรือAI ที่ที่เป็นที่ยอมรับ ผสานการกับความเชี่ยวชาญของ SAL ในการเทคโนโลยี จะส่งผลให้เราสามารถนำเสนอระบบการจัดการน้ำที่ยอดเยี่ยม และเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย ให้แก่ลูกค้าของเราทั่วโลก ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและอื่นๆ” เขากล่าวอีกว่า “เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AIการวิเคราห์ และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยใช้อัลกอริทึมแมชชีนเลิร์นนิ่งและการวิเคราะห์ข้อมูลในแพลตฟอร์มบูรณาการและสมบูรณ์ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้”

เทคโนโลยีของ SAL จะช่วยเสริมประสิทธภาพของระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI SmartOps ของ Gradiant ซึ่งเป็นระบบ หรือช่องทางที่ใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากร ผลผลิตของโรงบำบัด หรือจัดการน้ำ ทั้งนี้ระบบเทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องพิจารณาควบคู่ไปกับขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเข้าติดตั้งอุปกรณ์เสริมสำหรับระบบการจัดการน้ำ เช่นต้องพิจารณาถึงอนาคต หากต้องมีการเข้าแก้ไข ทำความสะอาจตัวแผ่นกรอง หรือเมมเบรนต่างๆ

Deepak Pitta ซีอีโอของ SAL กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือ กับ Gradiant ในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกนี้ และได้รวมอุปกรณ์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และ IoT ที่ล้ำสมัยของเราเข้ากับระบบการจัดการน้ำ และการบำบัดน้ำและน้ำเสีย” และกล่าวอีกว่า “การร่วมมือกันครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น และ เพื่อปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรน้ำและน้ำเสีย”

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการระบบการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูงระดับโลก ด้วยระบบแบบครบวงจรที่มีความแตกต่างและเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของบริษัท บริษัทให้บริการการจัดการนำที่สำคัญต่อลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จำเป็นต่อโลก เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมผลิตยา อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียม และแร่ธาตุที่สำคัญ รวมถึงพลังงานทดแทน ระบบการจัดการน้ำที่เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ Gradiant ช่วยลดการใช้น้ำและการปล่อยน้ำเสีย คืนสู่ธรรมชาติ และเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำสะอาด บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่บอสตัน ก่อตั้งขึ้นที่ MIT และมีพนักงานมากกว่า 900 คนทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ gradiant.com

เกี่ยวกับ SpaceAge Labs
SpaceAge Labs เป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล IoT/AI ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเชิงลึกและความเชี่ยวชาญด้านโดเมนเพื่อจัดหาระบบการจัดการที่ล้ำสมัยและยั่งยืน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดแก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและเทศบาล ความเชี่ยวชาญของบริษัทอาศัยการรวมข้อมูลเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์, อัลกอริทึม AI/ML, ข้อมูล GNSS ที่แม่นยำ และการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ขั้นสูงเพื่อตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากรการจ่ายน้ำ ซึ่งลูกค้าของบริษัทได้แก่ PUB (สำนักงานน้ำแห่งชาติของสิงคโปร์), Xylem, Severn Trent, Detectronic และ DHI เรียนรู้เพิ่มเติมที่ spaceage-labs.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53485938/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Felix Wang
รองประธานฝ่ายการตลาดของ Gradiant
fwang@gradiant.com

แหล่งที่มา: Gradiant

ชาร์จ เชื่อมต่อ ครอบคลุม: Autel Energy สนับสนุนคู่ค้าของตนให้ประสบความสำเร็จในการติดตั้ง MaxiChargers ทั่วโลก เพื่อเร่งการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วโลก และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–3 สิงหาคม 2023

Autel Energy ผู้ให้บริการชั้นนำด้านนวัตกรรมโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบถึงการปรับใช้ MaxiChargers ใหม่ล่าสุดทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ละตินอเมริกา และ IMEA (อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา)

Autel Energy ปรับใช้ MaxiChargers อันล้ำสมัยผ่านทางคู่ค้าของตนในแต่ละภูมิภาค โดยได้ติดตั้ง MaxiChargers ในสถานที่ของคู่ค้า ได้แก่ ระบบไฟ AC Ultra และระบบไฟ DC Fast ช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จรถยนต์ EV ได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ โดยที่สถานที่เหล่านี้ได้มอบโอกาสอันมีค่าให้แก่ลูกค้าในการเป็นสักขีพยาน และสัมผัสกับกระบวนการชาร์จที่ราบรื่นของ Autel เชื่อมต่อเป้าหมายการขับเคลื่อนด้วยรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน และได้รับประโยชน์จากการบริการในท้องถิ่น และระดับโลกที่ยอดเยี่ยมของ Autel

“ตอนนั้นเรากำลังมองหาเครื่องชาร์จระบบไฟ DC เพื่อชาร์จไฟรถบัสและรถบรรทุกไฟฟ้าของเรา เราจึงได้พบกับผลิตภัณฑ์ของ Autel เราประทับใจกับคุณภาพที่ได้รับทันที และตัดสินใจติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ที่โรงงานของเรา" Ryan Woon ผู้อำนวยการของ Hup Hin EV Technologies ในสิงคโปร์กล่าว "นับตั้งแต่การติดตั้ง พนักงานขับรถของเรายังบอกเราว่าที่ชาร์จนั้น เป็นที่ชาร์จที่ใช้งานง่ายมากและน่าเชื่อถือมากด้วย”

ความสำเร็จของ Autel Energy เกิดจากความทุ่มเทในการสร้างโซลูชันการชาร์จแบบครบวงจร เพื่อเร่งการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการออกแบบและผลิตเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และโซลูชันการชาร์จที่ไม่เป็นสองรองใคร โดยที่ Autel เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ EV ที่เชื่อถือได้แก่โลก และเป็นแบบอย่างในการพัฒนาโซลูชันการชาร์จที่สมบูรณ์และการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ Autel Energy ยังมุ่งมั่นในการให้บริการทั้งในประเทศและทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละภูมิภาค ด้วยศูนย์บริการที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งเชิงกลยุทธ์และเครือข่ายที่แข็งแกร่งที่ได้รับอนุญาตจากคู่ค้า Autel จึงสามารถรับประกันได้ถึงการรองรับลูกค้าที่รวดเร็ว และช่วยให้ Autel สามารถให้บริการโซลูชันที่สอดคล้องกับกฎข้อบังคับในพื้นที่ ข้อกำหนดด้านโครงสร้างพื้นฐาน และความต้องการของตลาดได้

การปรับใช้ MaxiChargers ใหม่ล่าสุดของ Autel นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและยกระดับประสบการณ์การชาร์จของคู่ค้า ตอกย้ำการเป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้ให้บริการด้านการชาร์จ EV ทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของ Autel ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ความน่าเชื่อถือ และความพึงพอใจของลูกค้า ช่วยให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าทั่วโลกได้ในระยะยาว

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศถึงการปรับใช้ MaxiCharger ใหม่ล่าสุดของเราทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นของ Autel ในการให้บริการเฉพาะพื้นที่ ช่วยให้คู่ค้ารู้สึกสบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบริการหลังการขายและการบำรุงรักษา ความมุ่งมั่นในการให้บริการที่เชื่อถือได้ช่วยให้สามารถตอบสนอง และให้การสนับสนุนในสถานที่ได้อย่างรวดเร็ว” Kelvin Cao รองประธานของ Autel Energy กล่าว "ผ่านสถานที่ของคู่ค้า เราได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการจัดหานวัตกรรมโซลูชันการชาร์จที่น่าเชื่อ ถือได้แก่ลูกค้าทั่วโลก และช่วยให้คู่ค้าประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เราหวังว่าจะยังคงร่วมมือกับพวกเขาต่อไป เพื่อกำหนดอนาคตของการขับเคลื่อน รวมถึงประสบความสำเร็จมากขึ้นในอนาคตข้างหน้า พร้อมไปกับเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ที่ Autel Energy เราพร้อมให้การสนับสนุนคุณด้วยการชาร์จ เชื่อมต่อ และครอบคลุม"

ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว Autel Energy ก็ยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม โดยพร้อมที่จะนำเสนอโซลูชันการชาร์จอันล้ำสมัยที่ปฏิวัติอนาคตของการขับเคลื่อน ด้วยการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดยั้ง Autel Energy มุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่สะอาดและยั่งยืนมากขึ้นผ่านโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จขั้นสูง

รับข้อมูลเกี่ยวกับโซลูชันการชาร์จแบบครบวงจรของคุณได้ที่นี่: https://autelenergy.com/pages/become-a-partner

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เป็นฉบับที่เชื่อถือได้ และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และ ควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทาง กฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อฝ่ายสื่อ
Jia Hui Huang
marketing.jp@autel.com

แหล่งที่มา: Autel Energy

Cyble เพิ่มทุน 24 ล้านเหรียญสหรัฐจากการระดมทุน Series B เพื่อพัฒนาโซลูชันข่าวกรองภัยคุกคามขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI

Logo

ATLANTA–(BUSINESS WIRE)–2 สิงหาคม 2023

Cyble ผู้ให้บริการข่าวกรองภัยคุกคามที่เติบโตเร็วที่สุด ซึ่งผสมผสานระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์และระบบ AI เพื่อพัฒนาโซลูชันข่าวกรองภัยคุกคามที่ล้ำสมัย มีการประกาศเพิ่มทุน 24 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านการระดมทุน Series B

Beenu Arora (CEO and Co-Founder, Cyble) with Manish Chachada (COO & Co-Founder, Cyble) (Graphic: Business Wire)

Beenu Arora (CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble) พร้อม Manish Chachada (COO & ผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble) (กราฟิก: Business Wire)

Cyble ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องว่า เป็นโซลูชันยอดนิยมสำหรับ Dark Web และ Threat Intelligence ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วยเสริมสถานะของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นในฐานะแชมเปี้ยนแห่งระบบดิจิทัลในอนาคตที่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง

รอบการระดมทุนซึ่งนำโดย Blackbird Ventures และ King River Capital ร่วมกับ Spider Capital, January Capital, Summit Peak Ventures และรายอื่นๆ จะช่วยขับเคลื่อนแผนงานทางเทคนิคของ Cyble โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยกระดับโซลูชันระบบความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการขยายธุรกิจไปทั่วโลก

Zeb Rice นักลงทุนรายใหม่ และผู้ร่วมก่อตั้ง King River Capital และสมาชิกใหม่ล่าสุดในคณะกรรมการของ Cyble แสดงความคิดเห็นว่า จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นใน AI ของเราในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นได้ชัดว่า Cyble มีการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการความปลอดภัยในระบบไซเบอร์กันเลย แพลตฟอร์มนี้สามารถระบุและป้องกันภัยคุกคามที่หลากหลายจากทั่วทั้งเว็บในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน การเติบโตและฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นเครื่องยืนยันการได้รับการยอมรับจากบริษัทต่างๆ ระดับโลกที่ต้องการการปกป้องอย่างดีที่สุด ในภูมิทัศน์ระบบดิจิทัลที่มีการพัฒนาตลอดเวลา เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Cyble ในช่วงเวลาอันสำคัญเช่นนี้

Tom Humphrey นักลงทุนของ Blackbird Ventures กล่าวว่า การเติบโตของ Cyble เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง ในเวลาเพียงปีเดียว บริษัทมีขนาดทีมที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่า และขยายครอบคลุมไปยังตะวันออกกลาง ยุโรป และละตินอเมริกา Beenu และ Manish เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้นำ และสร้างทีมผู้นำที่แข็งแกร่งสำหรับทีมของพวกเขา

เรามีพนักงานอยู่ใน 11 ประเทศ Cyble มีการขยายไปทั่วทั้งตลาดที่มีการพัฒนาแล้วและตลาดที่เพิ่งเกิดใหม่ Cyble ได้สร้างโซลูชันข่าวกรองภัยคุกคามแบบปรับแต่งตามความต้องการได้สำหรับทุกหน่วยงาน ตั้งแต่หน่วยงานรัฐบาล บริษัทใน Fortune 50 ไปจนถึงบริษัทสตาร์ทอัพ

เมื่อพูดถึงการระดมทุน Series B ผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นศิษย์เก่าของ Columbia Business School และ London Business School ได้แสดงความคิดเห็นไว้ Beenu Arora, CEO และผู้ร่วมก่อตั้งของ Cyble กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานอย่างหนักที่ทีมดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเรา ที่ Cyble เราให้ความสำคัญกับภารกิจของเรา เพื่อทำให้ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์โปร่งใส ด้วยโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม เช่น Cyble VisionCyble HawkAmIBreachedCyble Odin และ The Cyber Express เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบดิจิทัลให้มีความปลอดภัยและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ในขณะที่ยังคงมีการพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นในการปกป้องระบบไซเบอร์ด้วยเช่นกัน ที่ Cyble เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการข้อมูลเชิงลึกที่ทันสมัยยิ่งแก่ธุรกิจและบุคคลทั่วไป รวมถึงเครื่องมือ AI ที่จำเป็นต่อการรักษาความปลอดภัยสำหรับโลกดิจิทัลแก่ทุกคน

Manish Chachada, COO และผู้ร่วมก่อตั้งของ Cyble กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่รัสเซียรุกล้ำยูเครน กระแสสงครามไซเบอร์ทั่วโลกได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สำคัญยิ่งยวดสำหรับบริษัทต่างๆ ในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและตรวจสอบการดำเนินการสำหรับ dark web และ Threat Intelligence มีความสำคัญยิ่งยวดมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

เกี่ยวกับ Cyble

Cyble (YC W21) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านข่าวกรองภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และมีความเชี่ยวชาญด้าน Deep Web, Dark Web และ Surface Web โดยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศและนวัตกรรมของ Cyble ทำให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ รวมถึงได้รับการยอมรับในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดของอเมริกาโดย Forbes และคว้ารางวัลหลายรายการจาก Global InfoSec Awards 2023 นอกจากนี้ ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2023 ในอเมริกาเหนือจาก Cybersecurity Excellence Awards Cyble ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจในที่ทำงาน จึงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2023 โดย Team Marksmen

สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cyble ได้ที่: www.cyble.com/request-demo

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53487988/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media Contact:
Cyble Inc
enquiries@cyble.com
โทร: +1 678 379 3241

แหล่งข้อมูล: Cyble

Medisca ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อผลักดันให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงตัวยาที่วิกฤต

Logo

MONTREAL–(BUSINESS WIRE)–27 กรกฎาคม 2023

Medisca ประกาศขยายเครือข่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความเสถียรภาพและการเข้าถึงทั่วโลกสำหรับส่วนผสมยา (API) ที่มีคุณภาพสูงสำหรับการเตรียมยาที่จำเป็น ภารกิจนี้เริ่มต้นจากการร่วมมือเพื่อ Thyroid USP ในปี 2021 และขณะนี้มีการขยายไปยัง Progesterone USP (Special Micronized), Testosterone USP (Micronized), Diclofenac Sodium USP และ Ketamine Hydrochloride USP

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Medisca มองเห็นความต้องการ API ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และมีการขาดแคลนยาในเชิงพาณิชย์ และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีความโปร่งใส เป็นสาเหตุหลัก การมีส่วนร่วมในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ Medisca รักษาตำแหน่ง Partner In Wellness และเป็นผู้ขับเคลื่อนในการจัดหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมยาและการดูแลสุขภาพ

เรายึดมั่นในคำมั่นสัญญาของเราที่จะส่งเสริมส่วนผสมของยาให้ถูกต้องตามกฏหมาย มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อเอาชนะความท้าทายในการเข้าถึงยา และมองหาทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงสำหรับการดูแลผู้ป่วยแต่ละราย” Panagiota Danopoulos รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมระดับโลกที่ Medisca กล่าว “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เราสานต่อพันธกิจในการสร้างความร่วมมือกับผู้นำด้านการผลิต API ที่รวมเป็นหนึ่งและมุ่งมั่นในคุณภาพ ความเสถียรภาพ และคุณค่า” Danopoulos กล่าวต่อ

เพื่อตรวจสอบคู่ค้าที่เหมาะสม Medisca จะดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้แน่ใจว่า เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุดจากแหล่งที่มา พันธมิตรทุกรายผ่านโปรแกรมการรับรองผู้จำหน่ายที่เข้มงวดพร้อมหลักฐานการจดทะเบียน FDA มีข้อตกลงด้านคุณภาพ และการทดสอบเพื่อยืนยันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดสอบ USP เต็มรูปแบบ การทดสอบสิ่งเจือปนในส่วนประกอบ การทดสอบตัวทำละลายตกค้าง และการทดสอบขนาดอนุภาคสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับไมครอน

ความร่วมมือจากพันธมิตรในการผลิต API และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของรัฐ ช่วยให้ Medisca มีศักยภาพในการรองรับตลาดสำหรับ API ที่สำคัญ และตอบสนองความต้องการที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและผู้ป่วยทั่วโลก

เกี่ยวกับ Medisca

Medisca เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพโดยใช้ประโยชน์จากพันธมิตรที่เหนียวแน่น และนำเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล พร้อมคุณภาพและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ Medisca ได้รับการสนับสนุนมากว่า 30 ปี และมีรากฐานที่ดีในการจัดหาส่วนผสมของยา เป็นบริษัทที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจเป็นพื้นฐาน และมอบข้อเสนอที่ครอบคลุม โดยเน้นคุณค่า ความเสถียรภาพ การตอบสนองที่ดี และความมุ่งมั่นในแบรนด์ ในฐานะพันธมิตรด้านสุขภาพ Medisca อุทิศตนเพื่อพัฒนาชีวิตท่ามกลางความคาดหวังและความต้องการของผู้คนมากมายมาตลอด สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medisca.com และติดตามเราได้ที่ LinkedInFacebookTwitter และ YouTube

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230727308061/en/

ติดต่อ

Gayle Padvaiskas
Vice President, Global Marketing
Medisca
gpadvaiskas@medisca.com
1-800-665-6334

แหล่งที่มา: Medisca

Lynk สาธิตการโทรด้วยเสียงแบบสองทางครั้งแรกโดยใช้โทรศัพท์ทั่วไปผ่านสัญญาณดาวเทียม

Logo

เผยแพร่วิดีโอซึ่งเป็นหลักฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการโทรด้วยเสียงผ่านบริการ sat2phone ของ Lynk

FALLS CHURCH, Va.–(BUSINESS WIRE)–26 กรกฎาคม 2023

Lynk Global, Inc. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม sat2phone ชั้นนำของโลก เปิดตัววิดีโอชุดแรกของบริการโทรด้วยเสียงแบบสองทางระหว่างโทรศัพท์มือถือทั่วไปที่เชื่อมต่อผ่านสัญญาณดาวเทียม วิดีโอนี้แสดงการโทรด้วยเสียงแบบหลายสายโดยใช้โทรศัพท์มือถือทั่วไปที่เชื่อมต่อผ่านเสารับสัญญาณดาวเทียมที่มีอยู่ทั่วไปของ Lynk ในวงโคจร

Charles Miller, CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Lynk กล่าว “Carl Sagan เคยกล่าวไว้ว่า ‘การกล่าวอ้างสมมติฐานที่เหนือความเป็นจริงจะต้องมีหลักฐานที่เด่นชัด’ วิดีโอที่เราเปิดตัวในวันนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Lynk ที่ก้าวขึ้นสู่มาตรฐานที่ล้ำหน้า” Miller กล่าวต่อ “เมื่อ Lynk สามารถเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมไปยังโทรศัพท์ทั่วไปบนโลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2020 เรามีการแชร์วิดีโอเพื่อสาธิตผลการดำเนินการของเราสู่สายตาของโลก วันนี้ เราก็ทำเช่นเดียวกันสำหรับบริการโทรด้วยเสียงแบบสองทาง”

ทุกวันนี้ ข่าวสารเป็นหัวใจพันธกิจของเราในการเชื่อมโยงทุกคนจากทุกที่” Tyghe Speidel, CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Lynk กล่าว “ด้วยบริการตั้งต้นของเราที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการใน Palau สำหรับการส่งข้อความ SMS และจะมีการขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆ ภายในปีนี้ ทีมงานของ Lynk รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้สาธิตความสามารถในการโทรด้วยเสียง ในขณะเดียวกัน เรายังคงให้ความสำคัญกับบริการส่งข้อความ SMS สำหรับพันธมิตร MNO ของเราในระยะเวลาอันใกล้ ผลลัพธ์การโทรด้วยเสียงก็ยังคงเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าในเทคโนโลยีของเรา และอีกก้าวใหม่สำหรับภารกิจของเรา” เขากล่าวต่อ

คลิกที่นี่ เพื่อดูวิดีโอเกี่ยวกับการโทรด้วยเสียงแบบสองทางที่ประสบความสำเร็จของ Lynk

เกี่ยวกับ Lynk

Lynk เป็นระบบโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณดาวเทียมโดยตรงที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและได้รับอนุญาตในเชิงพาณิชย์เพียงรายเดียวในโลก เรามีการสาธิตเกี่ยวกับบริการของเราและมีการใช้งานแล้วในกว่า 20 ประเทศ โดยมีสัญญาบริการเชิงพาณิชย์ >30 MNO และครอบคลุม  >50 ประเทศ ปัจจุบัน เครือข่ายของ Lynk มีการให้บริการแจ้งเตือนการส่งสัญญาณ (ฉุกเฉิน) และส่งข้อความ SMS แบบสองทาง และสามารถใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่มีอยู่บนโลกนี้ ในอนาคต Lynk จะเปิดให้บริการโทรด้วยเสียงและบรอดแบนด์บนมือถือ สามารถเป็นพันธมิตรกับ Lynk โดยผ่านข้อตกลงโรมมิ่งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยเปิดโอกาสสร้างรายได้ใหม่สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในการบริการที่ยังไม่มีใครให้บริการ มีการเชื่อมต่อที่แพร่หลายรองรับผู้ใช้จำนวนมาก และเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสำหรับพลเมืองอีกหลายพันล้านคน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lynk.world หรือติดตามเราได้ที่ @lynktheworld

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53473269/en

ติดต่อ

Tony DeTora
tdetora@lynk.world

แหล่งที่มา: Lynk Global, Inc.

PowerSchool และ Samart Telcoms ร่วมมือกันเพื่อขยายเทคโนโลยีการเรียนรู้เฉพาะบุคคลในประเทศไทย

Logo

ความร่วมมือระหว่าง PowerSchool กับ Samart Telcoms PCL จะช่วยขยายการเข้าถึงของนักการศึกษาและนักเรียนในการเข้าถึงโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและมีความสำคัญต่อพันธกิจของ PowerSchool ในประเทศไทย

ฟอลซัม แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–26 กรกฎาคม 2023 

PowerSchool (NYSE: PWSC) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์สำหรับการศึกษาระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลายในอเมริกาเหนือ ประกาศความร่วมมือกับบริษัท Samart Telcoms Public Company Limited (PCL) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายโครงการ PowerPartner ของ PowerSchool อย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับบริษัท Samart Telcoms Public Company Limited (PCL) จะสนับสนุนการขยายตัวทั่วโลกของโครงการพันธมิตรช่องทางจำหน่ายของ PowerSchool และนำเสนอ PowerSchool Schoology Learning, PowerSchool SIS และ PowerSchool Enrollment ให้กับสถาบันการศึกษาในประเทศไทย

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับบริษัท Samart Telcoms Public Company Limited (PCL) เพื่อขยายโซลูชันเทคโนโลยีด้านการศึกษาที่สำคัญต่อพันธกิจของ PowerSchool ให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย” Tony Kender ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ PowerSchool กล่าว “เรามีพันธกิจที่สอดคล้องกันในการจัดหาเทคโนโลยีให้กับนักการศึกษาและนักเรียนซึ่งช่วยให้พวกเขาได้ตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขา และเรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ Samart Telcoms เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในด้านการศึกษาต่อไป”

การร่วมมือกับ Samart Telcoms PCL จะเน้นสนับสนุนนักการศึกษาและนักเรียนกว่า 10 ล้านคนที่ลงทะเบียนเรียนทั่วประเทศไทย โดยมีแผนให้บริการนักเรียนมากกว่า 100,000 คนทั่วประเทศไทยในปีหน้า นักการศึกษาทั่วประเทศสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่สำคัญต่อพันธกิจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรอบงานการแปลภาษาระหว่างประเทศของ PowerSchool รวมถึงระบบการจัดการการเรียนรู้ชั้นนำของ PowerSchool (LMS), Schoology Learning, PowerSchool SIS และ PowerSchool Enrollment เพื่อสนับสนุนนักการศึกษา นักเรียน และครอบครัวจำนวนมากขึ้น และช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาเฉพาะบุคคล

“ที่ Samart Telcoms เราทำงานเพื่อส่งมอบเทคโนโลยีที่แตกต่างและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ” Chotika Kamloonwesaruch รองประธานกรรมการบริหาร Samart Telcoms PCL กล่าว “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ PowerSchool เพื่อขยายโซลูชันนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการศึกษาในประเทศไทยต่อไป”

โครงการ PowerPartner ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของพันธมิตรช่องทางจำหน่ายทั่วโลก ใช้ประโยชน์จากพันธมิตรช่องทางระดับภูมิภาคของ PowerSchool เพื่อสนับสนุนการตลาด การขาย และการปรับใช้ของลูกค้าในท้องถิ่น ปัจจุบัน พันธมิตรช่องทางจำหน่ายของ PowerSchool ให้บริการลูกค้าในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ คูเวต อนุภูมิภาคทะเลทรายซาฮารา ไทย อินเดีย ฟิลิปปินส์ และอุรุกวัย โดยมีแผนจะขยายโครงการอย่างรวดเร็วในปีนี้

เกี่ยวกับ Samart Telcoms Group

Samart Telcoms Group มุ่งมั่นในการนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อสนับสนุนการบริหารงานในองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนยกระดับคุณภาพบริการพร้อมร่วมขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน Samart Telcoms PCL แบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจที่แตกต่างกัน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Network Solutions ให้บริการทั้งเทคโนโลยีไร้สายและแบบมีสาย กลุ่มธุรกิจ Enhanced Technology ทำการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีเฉพาะต่าง ๆ สุดท้ายกลุ่มธุรกิจ Business Application นำเสนอโซลูชันและบริการที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับลูกค้า บริษัทยึดถือมาตรฐาน ISO 20000 และ ISO 27001 สำหรับการจัดการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่นเดียวกับมาตรฐาน ISO 9001 สำหรับการควบคุมคุณภาพการบริการ นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการ 30 แห่งทั่วประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอีกด้วย

เกี่ยวกับ PowerSchool

PowerSchool (NYSE: PWSC) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์สำหรับการศึกษาระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลายในอเมริกาเหนือ มีพันธกิจคือเพื่อขับเคลื่อนระบบนิเวศการศึกษาด้วยเทคโนโลยีแบบครบวงจรที่ช่วยให้นักการศึกษาและนักเรียนตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดในแบบของพวกเขา PowerSchool เชื่อมต่อนักเรียน ครู ผู้บริหาร และผู้ปกครอง โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการปรับปรุงผลการเรียนของนักเรียน ตั้งแต่สำนักงานไปจนถึงห้องเรียนไปจนถึงที่บ้าน ช่วยให้โรงเรียนและเขตปกครองจัดการการรายงานของรัฐและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การศึกษาพิเศษ การเงิน ทรัพยากรมนุษย์ ความสามารถพิเศษ การลงทะเบียน การเข้าร่วม เงินทุน การเรียนรู้ คำแนะนำ การให้เกรด การประเมิน และการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่สำนักงานไปจนถึงที่บ้าน แพลตฟอร์มแบบครบวงจร PowerSchool รองรับนักเรียนมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลกและลูกค้ามากกว่า 15,000 ราย รวมถึงนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนมากกว่า 90 เขตจาก 100 เขตชั้นนำในสหรัฐอเมริกา และจำหน่ายโซลูชันในกว่า 90 ประเทศ ไปที่ www.powerschool.com เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

© PowerSchool. PowerSchool และเครื่องหมาย PowerSchool อื่น ๆ เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาของ PowerSchool Holdings, Inc. หรือบริษัทในเครือ *ชื่อและตราสินค้าอื่นอาจถูกอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของผู้อื่น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อช่องทางจำหน่ายโครงการ PowerPartner:
Tim Russell
tim.russell@powerschool.com

ติดต่อฝ่ายสื่อ:
WE Communications for PowerSchool
WE-PowerSchool@we-worldwide.com
(503) 443-7155

แหล่งที่มา: PowerSchool Holdings, Inc.

The Bangkok Reporter