Toshiba พัฒนาโมดูล MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) แบบคู่ 2200V ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่ช่วยลดขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรอุตสาหกรรม

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–29 สิงหาคม 2023

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("Toshiba") ได้พัฒนา “MG250YD2YMS3” ซึ่งเป็นโมดูล MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) แบบคู่ 2200V ตัวแรกของอุตสาหกรรม[1] สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม โมดูลใหม่นี้มีระดับกระแสไฟเดรน (DC) ที่ 250A และใช้ชิป SiC MOSFET รุ่นที่สามของบริษัท เหมาะสำหรับการใช้งานที่ใช้ DC1500V เช่น ระบบพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน โดยจะเริ่มทำการจัดส่งเครื่องตั้งแต่วันนี้

Toshiba: MG250YD2YMS3, the industry's first 2200V dual silicon carbide(SiC) MOSFET module. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: MG250YD2YMS3 โมดูล MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) แบบคู่ 2200V ตัวแรกในอุตสาหกรรม (กราฟิก: Business Wire)

การใช้งานทางอุตสาหกรรมดังที่กล่าวข้างต้นโดยทั่วไปจะใช้ไฟ DC1000V หรือต่ำกว่า และอุปกรณ์จ่ายไฟส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ 1200V หรือ 1700V อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคาดว่าจะมีการใช้งาน DC1500V อย่างแพร่หลายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Toshiba จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 2200V ตัวแรกของอุตสาหกรรมออกมา

MG250YD2YMS3 มีการสูญเสียการนำไฟฟ้าต่ำโดยมีแรงดันไฟฟ้า (sense) จากแหล่งเดรนต่ำที่ 0.7V (typ.)[2] นอกจากนี้ยังมีการสูญเสียเมื่อเปิดและปิดที่ต่ำกว่าที่ 14mJ (typ.)[3] และ 11mJ (typ.)[3] ตามลำดับ ซึ่งลดลงประมาณ 90%[4] เมื่อเทียบกับ IGBT ซิลิคอน (Si) ทั่วไป คุณลักษณะเหล่านี้ส่งผลให้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การสูญเสียเมื่อเปิดปิดที่ต่ำยังทำให้วงจรสามระดับแบบเดิมถูกแทนที่ด้วยวงจรสองระดับที่มีจำนวนโมดูลต่ำกว่า ซึ่งมีส่วนทำให้เครื่องจักรมีขนาดเล็กลง

Toshiba จะยังคงตอบสนองความต้องการของตลาดในด้านประสิทธิภาพสูงและการลดขนาดเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่อไป

หมายเหตุ:
[1] ในบรรดาโมดูล SiC MOSFET แบบคู่ จากการสำรวจของ Toshiba ณ เดือนสิงหาคม 2023
[2] เงื่อนไขการทดสอบคือ ID=250A, VGS=+20V, Tch=25°C
[3] เงื่อนไขการทดสอบคือ VDD=1100V, ID=250A, Tch=150°C
[4] การเปรียบเทียบการสูญเสียเมื่อเปิดปิดของ Toshiba สำหรับโมดูล Si 2300V และ MG250YD2YMS3 ซึ่งเป็นโมดูล SiC MOSFET ใหม่ทั้งหมด ณ เดือนสิงหาคม 2023 (ค่าประสิทธิภาพสำหรับโมดูล Si 2300V เป็นการประมาณการของ Toshiba โดยอ้างอิงจากเอกสารที่เผยแพร่ในหรือก่อนเดือนมีนาคม 2023)

การใช้งาน

เครื่องจักรอุตสาหกรรม

– ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน (ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ฯลฯ)

– ระบบกักเก็บพลังงาน

– อุปกรณ์ควบคุมมอเตอร์สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม

– ตัวแปลง DC-DC ความถี่สูง ฯลฯ

คุณสมบัติ

  • แรงดันไฟฟ้า (sense) จากแหล่งเดรนต่ำคือ
  • DS(on)sense=0.7V (typ.) (ID=250A, VGS=+20V, Tch=25°C)
  • การสูญเสียเมื่อเปิดต่ำคือ

Eon=14mJ (typ.) (VDD=1100V, ID=250A, Tch=150°C)

  • การสูญเสียเมื่อปิดต่ำคือ

Eoff=11mJ (typ.) (VDD=1100V, ID=250A, Tch=150°C)

  • ความเหนี่ยวนำลัดวงจรต่ำคือ

LsPN=12nH (typ.)

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Tc=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

MG250YD2YMS3

ชื่อแพ็คเกจของ Toshiba

2-153A1A

ระดับกระแสไฟสูงสุดโดยสัมบูรณ์

แรงดันไฟฟ้าจากแหล่งเดรนต่ำ VDSS (V)

2200

แรงดันไฟฟ้าจากแหล่งเกท VGSS (V)

+25 / -10

กระแสเดรน (DC) ID (A)

250

กระแสเดรน (พัลส์) IDP (A)

500

อุณหภูมิช่อง Tch (°C)

150

แรงดันไฟฟ้าแยก Visol (Vrms)

4000

คุณลักษณะทางไฟฟ้า

แรงดันไฟฟ้าจากแหล่งเดรน (sense)

VDS(on)sense (V)

ID=250A, VGS=+20V,

Tch=25°C

typ.

0.7

แรงดันไฟฟ้าจากแหล่งเดรนเมื่อเปิด (sense)

VSD(on)sense (V)

IS=250A, VGS=+20V,

Tch=25°C

typ.

0.7

แรงดันไฟฟ้าจากแหล่งเดรนเมื่อปิด (sense)

VSD(off)sense (V)

IS=250A, VGS=-6V,

Tch=25°C

typ.

1.6

การสูญเสียเมื่อเปิด

Eon (mJ)

VDD=1100V,

ID=250A, Tch=150°C

typ.

14

การสูญเสียเมื่อปิด

Eoff (mJ)

typ.

11

ความเหนี่ยวนำลัดวงจร LsPN (nH)

typ.

12

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
MG250YD2YMS3

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องไฟฟ้า SiC ของ Toshiba
เครื่องไฟฟ้า SiC

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัทจำนวน 21,500 คนทั่วโลก มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่เข้าใกล้ 800 พันล้านเยน (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) บริษัท Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทั่วโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53545285/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้า
โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba เปิดตัวอุปกรณ์จ่ายไฟอัจฉริยะขนาดเล็ก 600V สำหรับไดรฟ์มอเตอร์กระแสตรงแบบไร้แปรงถ่าน

Logo

– แพ็กเกจขนาดเล็กชนิดยึดพื้นผิวช่วยลดพื้นที่ในการติดตั้งและขนาดของแผงวงจรสำหรับมอเตอร์ขับเคลื่อน –

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–24 สิงหาคม 2023

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวอุปกรณ์จ่ายไฟอัจฉริยะ (IPD) ขนาดเล็ก 600V สองเครื่องสำหรับการใช้งานขับเคลื่อนมอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่าน เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ และปั๊ม การจัดส่งตามปริมาณของ “TPD4163F” และ “TPD4164F” ซึ่งมีพิกัดกระแสเอาต์พุต (DC) ที่ 1A และ 2A ตามลำดับ เริ่มตั้งแต่วันนี้

Toshiba: 600V small intelligent power devices for brushless DC motor drives. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: อุปกรณ์จ่ายไฟอัจฉริยะขนาดเล็ก 600V สำหรับไดรฟ์มอเตอร์กระแสตรงไร้แปรงถ่าน (ภาพ: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสองนี้บรรจุอยู่ในแพ็กเกจ HSSOP31 แบบยึดบนพื้นผิว ซึ่งลดพื้นที่การติดตั้งลงประมาณ 63% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ก่อนหน้าของ Toshiba[1] ทำให้แผงวงจรขับมอเตอร์ขนาดเล็กลงได้ และยังช่วยลดความสูงของมอเตอร์อีกด้วย

เนื่องจากแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟอาจผันผวนอย่างมากในภูมิภาคที่มีแหล่งจ่ายไฟไม่เสถียร แรงดันไฟฟ้าจึงเพิ่มขึ้นจาก 500V ของผลิตภัณฑ์ Toshiba รุ่นก่อนหน้า[1] เป็น 600V ซึ่งปรับปรุงความน่าเชื่อถือ

การออกแบบอ้างอิวสำหรับวงจรไดร์ฟมอเตอร์กระแสตรงแบบไร้เซ็นเซอร์และแปรงถ่าน” ที่ใช้ฟังก์ชันของ TPD4164F ใหม่พร้อมไมโครคอนโทรลเลอร์ TMPM374FWUG พร้อมกลไกควบคุมเวกเตอร์ มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเว็บไซต์ของ Toshiba

Toshiba จะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับการควบคุมมอเตอร์ประหยัดพลังงานต่อไปด้วยแพ็กเกจต่างๆ และคุณลักษณะของอุปกรณ์ที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งนำไปสู่ความยืดหยุ่นในการออกแบบและความเป็นกลางของคาร์บอน

หมายเหตุ:

[1] ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ DIP26 (ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุการใช้งาน): TPD4123K, TPD4123AK, TPD4144K, TPD4144AK, TPD4135K และ TPD4135AK

การใช้งาน

มอเตอร์กระแสตรงไร้แปรงถ่านสำหรับเครื่องใช้ในบ้าน

  • มอเตอร์พัดลม (เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ พัดลมระบายอากาศ พัดลมเพดาน ฯลฯ)
  • ปั๊ม

คุณสมบัติ

  • แพ็กเกจเล็ก

ประเภทการติดตั้งบนพื้นผิว HSSOP31: 17.5 มม.×11.93 มม. (ทั่วไป), t=2.2 มม. (สูงสุด)

  • อัตราแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟสูงเพื่อรักษาขอบเขตการทำงานสำหรับความผันผวนของแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ: VBB=600V

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Ta=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

TPD4163F

TPD4164F

อัตราสูงสุดสัมบูรณ์

แรงดันไฟฟ้าจ่าย VBB (V)

600

กระแสไฟฟ้าขาออก (DC) Iout (A)

1

2

ช่วงการทำงาน

แรงดันไฟฟ้าจ่ายที่ทำงาน VBB (V)

สูงสุด

450

คุณลักษณะทางไฟฟ้า

แรงดันไฟฟ้าอิ่มตัวขาออก

VCEsatH (V)

ประเภท

2.6

(IC=0.5A)

3.0

(IC=1A)

VCEsatL (V)

แรงดันไฟฟ้าก้าวหน้า FWD

VFH (V)

ประเภท

2.0

(IF=0.5A)

2.5

(IF=1A)

VFL (V)

แพ็กเกจ

ประเภท

ติดตั้งบนพื้นผิว

ชื่อ Toshiba

HSSOP31

ขนาด (มม.)

17.5×11.93 (ประเภท), t=2.2 (สูงสุด)  

ฟังก์ชันป้องกัน

กระแสไฟฟ้าสูงเกิน/การปิดด้วยอุณหภูมิ/แรงดันไฟฟ้าต่ำเกิน/ฟังก์ชันการปิดที่ควบคุมโดยพิน SD

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมการใช้งาน

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TPD4163F
TPD4164F

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Intelligent Power ICs
Intelligent Power ICs

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:
TPD4163F
ซื้อออนไลน์

TPD4164F
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัทจำนวน 21,500 คนทั่วโลก มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่เข้าใกล้ 800 พันล้านเยน (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) บริษัท Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53543846/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

แผนกให้คำปรึกษาลูกค้า:

ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้า
โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

แผนกให้คำปรึกษาด้านสื่อ:
Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation


ปฏิวัติวงการโซลูชั่น SASE ด้วย Sangfor Access Secure ่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ที่ประเทศไทย

Logo

เปิดตัวบริการ SASE ที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย POP ภายในประเทศเพื่อยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–23 สิงหาคม 2023

Sangfor Technologies ผู้บุกเบิกการให้บริการโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และระบบคลาวด์คอมพิวติ้งระดับโลก ได้เปิดตัว Sangfor Access Secure ซึ่งเป็นโซลูชั่น Secure Access Service Edge (SASE) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับลูกค้าในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Sangfor ในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย และ ตอบโจทย์กับธุรกิจองค์กรที่มีมาตรการการเก็บข้อมูลภายในประเทศ

การเปิดตัวโซลูชั่นดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการผสานรวมการให้บริการเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยไว้ด้วยกันโดยมีระบบคลาวด์เป็นศูนย์กลาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดความซับซ้อนในการจัดการ และไม่ต้องลงทุนสูง

ความโดดเด่นของ Sangfor Access Secure คือการเน้นไปที่การเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล โดยข้อมูลจะถูกประมวลผลภายในประเทศ  ี้ตอบโจทย์สำหรับองค์กรที่มีมาตรการการเก็บข้อมูลิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลภายในประเทศได้ พร้อมทั้งสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อระดับพรีเมียมและมีประสิทธิภาพโซลูชั่น SASE นี้เหมาะสำหรับธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมโดยมีการออกแบบมาเพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ว่าจะเป็นการทำงานระยะไกล หรือความต้องการใช้งานแอปพลิเคชันที่เพิ่มมากขึ้น การออกแบบที่โดดเด่นช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเชื่อมต่อที่ลื่นไหล ปลอดภัย และรวดเร็ว ่เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มแบบ Cloud-Native Sangfor Access Secure จึงมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดได้ตามการขยายตัวของธุรกิจคุณ พร้อมรับประกันการเชื่อมต่อที่มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านี้ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นการทำงานภายในเครือข่ายได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพเสริมความปลอดภัยได้อีกด้วย

Sangfor Access Secure ยังภาคภูมิใจในคุณสมบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง เพราะมีการตรวจจับภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยจะปกป้องเครือข่ายและข้อมูลของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน ความสามารถทั้งหมดนี้สามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เฟซการจัดการจากส่วนกลางที่ใช้งานง่าย ช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจต่างๆ จะสามารถมองเห็นเครือข่ายของตนได้อย่างครอบคลุมและง่ายยิ่งขึ้น

คุณ ธัชพล อินตาพรหมผู้จัดการแห่งประเทศไทยบริษัท Sangfor Technologies กล่าวว่า “การเปิดตัว Sangfor Access Secure ในประเทศไทยถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับเรา ซึ่งนี่เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะช่วยให้ทุกการเชื่อมต่อผ่านโครงข่ายสากลเป็นไปได้อย่างปลอดภัย โดยไม่สูญเสียความสามารถในการปกครองข้อมูลให้อยู่ภายในประเทศ  ทั้งนี้เราเชื่อมั่นว่าโซลูชั่นของเราช่วยประหยัดต้นทุนได้สูงสุดถึง 80% เมื่อเทียบกับโซลูชั่นแบบดั้งเดิม อย่าง NGFW, SWG, EDR และอื่นๆ”

เพื่อฉลองการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Sangfor จะจัดงานสัมมนาภาษาไทยออนไลน์ผ่าน Zoom ในวันที่ 28 สิงหาคม 2023 เวลา 14.00 – 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย (GMT+7) ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sangfor Access Secureโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชั่น์ได้ในงานสัมมนาครั้งนี้

หากต้องการเข้าร่วมการสัมมนาออนไลน์ ท่านสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ “ลิงก์” นี้ พร้อมลุ้นรับรางวัลในช่วงสุดท้ายของการสัมมนา

สำหรับภาพรวมโดยละเอียดของ Sangfor Access Secure โปรดดูที่ลิงก์นี้

เกี่ยวกับ Sangfor

Sangfor Technologies คือผู้จำหน่ายโซลูชั่นความปลอดภัยทางไซเบอร์และระบบคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำระดับโลกที่มีฐานอยู่ใน APAC เยี่ยมชมเว็บไซต์ www.sangfor.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Sunny Sun
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
Marketing@sangfor.com

แหล่งที่มา: Sangfor Technologies

เปิดตัวเทคโนโลยีลมที่ล้ำสมัยของ Cargill และ BAR Technologies กำหนดเส้นทางใหม่ของอุตสาหกรรมการเดินเรือแบบคาร์บอนต่ำ

Logo

นวัตกรรมความร่วมมือระหว่าง Cargill, BAR Technologies, Mitsubishi Corporation และ Yara Marine Technologies เพิ่มศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของเรือบรรทุกสินค้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2023

BAR Tech WindWings โดย Yara Marine นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ Cargill และ BAR Technologies ได้ออกเดินทางในน่านน้ำเปิด เพื่อทดสอบเทคโนโลยีใหม่ที่นำระบบขับเคลื่อนลมที่ทันสมัยมาใช้ในการขนส่งเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก

Cargill and BAR Technologies’ ground-breaking wind technology sets sail, chartering a new lower-carbon path for the maritime industry. (Photo: Business Wire)

เปิดตัวเทคโนโลยีลมอันล้ำสมัยของ Cargill และ BAR Technologies กำหนดเส้นทางใหม่ของอุตสาหกรรมการเดินเรือแบบคาร์บอนต่ำ (ภาพ: Business Wire)

Pyxis Ocean ของบริษัท Mitsubishi Corporation ซึ่งเช่าเหมาลำโดย Cargill เป็นเรือลำแรกที่ติดตั้ง WindWings สองใบ ซึ่งเป็นใบเรือขนาดใหญ่ที่มีความสูง 37.5 เมตร สามารถติดตั้งบนดาดฟ้าของเรือบรรทุกสินค้าเพื่อควบคุมพลังลมได้ คาดว่า WindWings ที่ผลิตโดย Yara Marine Technologies พันธมิตรด้านอุตสาหกรรมของ Cargill จะประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับเรือต่อใหม่ ซึ่งอาจสูงกว่านี้หากใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงทางเลือก การติดตั้งใบเรือดังกล่าวได้ดำเนินการที่อู่ต่อเรือ COSCO ในประเทศจีน และ Pyxis Ocean ก็ได้ล่องลงสู่มหาสมุทรเพื่อออกเดินทางเป็นครั้งแรก

Jan Dieleman ประธานธุรกิจการขนส่งทางทะเลของ Cargill กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการเดินเรือกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อลดปริมาณคาร์บอน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ที่ Cargill เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการบุกเบิกโซลูชันการลดคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของเรา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและความต้องการของโลก ซึ่งเทคโนโลยีอย่าง WindWings ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน แต่ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้ที่ร่วมมือกับเจ้าของเรือที่มีวิสัยทัศน์อย่าง Mitsubishi Corporation เราไม่กลัวที่จะลงทุน กล้าเสี่ยง และเปิดเผยการเรียนรู้ของเราเพื่อช่วยเหลือพันธมิตรของเราในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน”

การติดตั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อเทคโนโลยีที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายทางพลังงานสำหรับเรือที่มีอยู่ โครงการ WindWings ซึ่งได้รับการร่วมทุนจากสหภาพยุโรปโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CHEK Horizon 2020 สามารถช่วยให้อุตสาหกรรมบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นโดยนำเสนอโซลูชันการปรับปรุงใหม่ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนจากเรือที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือบรรทุกสินค้าทั่วโลกที่มีอายุไม่เกินเก้าปีที่คิดเป็น 55%

ประสิทธิภาพของ WindWings จะได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อปรับปรุงการออกแบบ การดำเนินงาน และประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายว่าจะใช้ Pyxis Ocean เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการขยายขนาดและการนำไปใช้ในกองเรือของ Cargill และในอุตสาหกรรม BAR Technologies และ Yara Marine Technologies กำลังวางแผนที่จะสร้างใบเรืออีกหลายร้อยใบในอีกสี่ปีข้างหน้า และ BAR Technologies กำลังทำการวิจัยการต่อเรือรุ่นใหม่ที่มีรูปแบบตัวถังแบบไฮโดรไดนามิกที่ดีขึ้น

“หากการเดินเรือระหว่างประเทศต้องการบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 นวัตกรรมจะต้องเป็นหัวใจหลัก พลังงานลมเป็นเชื้อเพลิงที่แทบไม่มีต้นทุนและมีโอกาสมากในการลดการปล่อยมลพิษควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนการเดินเรืออย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของการบุกเบิกการวิจัยเป็นเวลาหลายปีของเรา ซึ่งเราได้ลงทุนในเทคโนโลยีใบเรือที่ไม่เหมือนใคร และแสวางหาพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญของ Yara Marine Technologies เพื่อให้เจ้าของเรือและผู้ให้บริการเรือได้รับโอกาสในการตระหนักถึงประสิทธิภาพเหล่านี้” John Cooper ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BAR Technologies กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ WindWing

  • โครงการ WindWing เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการวิจัยและนวัตกรรม Horizon 2020 ของสหภาพยุโรป ภายใต้ข้อตกลงการให้ทุนหมายเลข 955286
  • การควบคุมพลังลมของ WindWings สามารถช่วยเจ้าของเรือให้ปฏิบัติตามกฎ CII ใหม่ได้ เนื่องจากพลังงานลมเป็นพลังงานที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ไม่หมดสิ้น และมีความแน่นอนอย่างมาก จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนการเดินเรือได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • ในเส้นทางทั่วโลกโดยเฉลี่ย WindWings สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 1.5 ตันต่อวัน และมีความเป็นไปได้ที่จะประหยัดได้มากขึ้นสำหรับเส้นทางข้ามมหาสมุทร ซึ่งหมายความว่าเจ้าของเรือสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงหนัก (HFO) ได้ถึง 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งจะยิ่งสำคัญมากขึ้นในการประหยัดเชื้อเพลิงในอนาคตซึ่งจะแพงขึ้นอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับ Cargill

Cargill ทำงานด้านระบบอาหารของโลกเพื่อคุณ เราเชื่อมต่อเกษตรกรกับตลาด ลูกค้ากับวัตถุดิบ และครอบครัวกับสิ่งจำเป็นประจำวัน ตั้งแต่อาหารที่เรากินไปจนถึงพื้นที่เราเดิน พนักงานกว่า 160,000 คนของเราทั่วโลก สร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยจุดมุ่งหมาย ส่งเสริมพันธมิตรและชุมชนของเราในขณะที่เราทำงานเพื่อหล่อเลี้ยงโลกด้วยวิธีที่ปลอดภัย รับผิดชอบ และยั่งยืน

ศักยภาพของเรานั้นไร้ขอบเขต ตั้งแต่อาหารที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนไปจนถึงเชื้อเพลิงหมุนเวียนจากของเสีย ค่านิยมของเราไม่เคยเปลี่ยนไป เราให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก เราพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง นั่นคือวิธีที่เราได้ตอบสนองความต้องการของผู้คนที่เราเรียกว่าเพื่อนบ้านและโลกที่เราเรียกว่าบ้านมาเป็นเวลา 158 ปี และเราจะทำเช่นนั้นต่อไปในอนาคต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ Cargill.com และศูนย์ข่าวสารของเรา

เกี่ยวกับ BAR Technologies

BAR Tech เป็นบริษัทที่ให้บริการคำปรึกษาด้านวิศวกรรมและด้านการออกแบบที่มีประสบการณ์และมีชื่อเสียง เดิมทีบริษัทก่อตั้งขึ้นโดย America’s Cup Team ของอังกฤษ และปัจจุบันให้บริการแก่ลูกค้าในหลากหลายภาคส่วน ได้แก่ เรืองานและเรือพาณิชย์ การขนส่ง โครงการพิเศษ รวมถึงเรือสำราญและเรือยอทช์

BAR Technologies มีทีมนักสถาปัตยกรรมทางเรือและผู้เชี่ยวชาญด้านการเพิ่มประสิทธิภาพชั้นนำของโลกที่ประสานงานกันอย่างดีเยี่ยม ประกอบด้วย นักพลศาสตร์ของไหล วิศวกรเครื่องกล วิศวกรโครงสร้างและวิศวกรวัสดุคอมโพสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การควบคุมและระบบ วิศวกรข้อมูลและวิศวกรจำลอง โดยใช้เครื่องมือออกแบบเฉพาะภายในที่เข้าถึงความรู้เชิงพาณิชย์ล่าสุด

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.bartechnologies.uk/

เกี่ยวกับ Yara Marine Technologies

Yara Marine (YMT) ให้บริการเทคโนโลยีที่ช่วยให้อุตสาหกรรมการเดินเรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2010 YMT เป็นแนวหน้าในการลดการปล่อยมลพิษทางทะเล โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าของเรือ อู่ต่อเรือ และสถาปนิกเรือในฐานะพันธมิตรด้านความพยายามของเราในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่การขนส่งที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Yara Marine นำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องขัดผิว SOx ระบบเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิง – FuelOpt และ Fleet Analytics โซลูชันพลังงานชายฝั่งแบบเบ็ดเสร็จ และระบบ WindWings ที่ทันสมัยและช่วยขับเคลื่อนด้วยลม Yara Marine มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ออสโล ประเทศนอร์เวย์ และมีสำนักงานในสวีเดน โปแลนด์ และจีน

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.yaramarine.com หรือติดตาม YMT บน LinkedIn

เกี่ยวกับ Mitsubishi Corporation

สำนักงานใหญ่: 3-1, Marunouchi 2-Chome, Chiyoda-ku, Tokyo, 100-8086, Japan

ตัวแทน: Katsuya Nakanishi กรรมการตัวแทน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

วันที่ก่อตั้ง: 1 กรกฎาคม 1954 (วันที่จดทะเบียน 1 เมษายน 1950)

การดำเนินงานหลัก: MC ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายในหลายอุตสาหกรรมและอยู่ภายใต้การดูแลของ Industry DX Group, Next-Generation Energy Business Group และ 10 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ แก๊สธรรมชาติ วัสดุอุตสาหกรรม โซลูชันเคมีภัณฑ์ ทรัพยากรแร่ โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม ยานยนต์และระบบขับเคลื่อน อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมผู้บริโภค โซลูชันพลังงาน และการพัฒนาเมือง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53531038/en

ติดต่อ

Nicole Marlor, media@cargill.com

แหล่งที่มา: Cargill

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Black & Veatch ขยายบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ Beca เพื่อให้บริการโซลูชันที่หลากหลายยิ่งขึ้นในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

Logo

ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทั้งสองประเทศที่ต้องการเร่งดำเนินการด้านสภาพอากาศโดยค้นหาโอกาสทางเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้สำเร็จ

เมลเบิร์น ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–22 สิงหาคม 2023

Beca และ Black & Veatch จะขยายความร่วมมือเพื่อนำเสนอโซลูชันด้านความยั่งยืนและการลดการปล่อยคาร์บอนที่หลากหลายยิ่งขึ้นในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ได้มีการขยายเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับให้เข้ากับและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ MoU ฉบับนี้ครอบคลุมไปถึงความร่วมมือด้านวิศวกรรมและโครงการก่อสร้างในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงระบบน้ำและน้ำเสีย พลังงานหมุนเวียน การผลิตและส่งออกไฮโดรเจนและแอมโมเนีย การทำเหมืองและการแปรรูปโลหะ ศูนย์ข้อมูล การส่งและจ่ายไฟฟ้า การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม

การลดการปล่อยคาร์บอนนั้นมีความยุ่งยากและซับซ้อน แต่ก็จำเป็นต่อการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การสร้างอนาคตที่มีพลังงานคาร์บอนเป็นศูนย์นั้นจำเป็นต้องบูรณาการเทคโนโลยีอย่างหลากหลายและไร้รอยต่อ โดยการเตรียมการ การวางแผน และการลงทุนที่เหมาะสมจะช่วยให้สาธารณูปโภค ผู้ผลิตพลังงาน และองค์กรอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมอื่น ๆ ที่ใช้พลังงานปริมาณมากสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนได้

Narsingh Chaudhary ประธาน Black & Veatch ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอินเดีย กล่าวว่า “ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีโอกาสมากมายในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และการลงทุนที่วางแผนไว้อย่างรอบคอบในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนสามารถทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อรวมประสบการณ์ระดับโลกของเราเข้ากับการมีตัวตนในท้องถิ่นที่แข็งแกร่งของ Beca และประสบการณ์ในภูมิภาคออสตราเลเซีย เราหวังว่าจะเร่งแผนการดำเนินการครั้งนี้และดำเนินโครงการด้านวิศวกรรมทางเทคนิคที่ท้าทาย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคให้ทันสมัยได้”

Clive Rundle ผู้อำนวยการกลุ่ม ฝ่ายสาธารณูปโภคของ Beca กล่าวว่า “บริษัทของเราทำงานร่วมกันในโครงการด้านน้ำซึ่งสามารถเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมทั่วออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มาเป็นเวลามากกว่าห้าปี รวมถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านน้ำชั้นนำ เช่น Melbourne Water, Yarra Valley Water และ Wellington City Council เราได้สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและร่วมแรงร่วมใจกัน ซึ่งเป็นผลมาจากที่สององค์กรของเรามีค่านิยมที่คล้ายกันและความสามารถที่สอดคล้องกัน การขยายความร่วมมือของเรากับ Black & Veatch นอกเหนือจากโครงการด้านน้ำนั้นถือเป็นความก้าวหน้าที่จะช่วยให้ลูกค้าทั่วออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้รับประสบการณ์จากความเชี่ยวชาญทั่วโลกที่ไม่เหมือนใครซึ่งจำเป็นต่อการแก้ปัญหาความท้าทายที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต”

MoU ของ Beca และ Black & Veatch ที่มีการขยายเพิ่มเติมนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในการเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานโดยมีการแสวงหาโอกาสและหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่การเปลี่ยนผ่านเพื่อคาร์บอนเป็นศูนย์จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และระบุขอบเขตความร่วมมือที่มีศักยภาพ

วัฒนธรรมที่มีร่วมกันอย่างแข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของความร่วมมือระหว่าง Beca และ Black & Veatch ทั้งสองบริษัทมีพนักงานเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จให้กับทั้งสององค์กรมานานกว่าศตวรรษ เป้าหมายสำคัญอันดับแรกที่มีร่วมกันของทั้งสองบริษัทคือความมุ่งมั่นในการนำเสนอและจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างปลอดภัย มีความยั่งยืน และความรับผิดชอบในการดูแลองค์กร

ติดต่อ Black & Veatch สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หมายเหตุบรรณาธิการ:

  • MoU ฉบับก่อนหน้าที่ดำเนินการในปี 2019 ระหว่างสองบริษัทมุ่งเน้นเกี่ยวกับโครงการด้านน้ำและน้ำเสียในนิวซีแลนด์

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีประวัติผลงานด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานยั่งยืนมากว่า 100 ปี นับตั้งแต่ปี 1915 เราได้ช่วยลูกค้าของเราปรับปรุงชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่ความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา รายได้ของเราในปี 2022 อยู่ที่ 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

เกี่ยวกับ Beca

Beca เป็นบริษัทด้านบริการระดับมืออาชีพที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ ซึ่งให้บริการด้านวิศวกรรม การให้คำแนะนำ และการให้คำปรึกษาด้านการจัดการเพื่อพัฒนาชุมชนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากว่า 100 ปี เรามีพนักงานมากกว่า 4,000 คนในสำนักงาน 21 แห่งซึ่งให้บริการโครงการในกว่า 70 ประเทศ เรามีสำนักงานในออสเตรเลียตั้งแต่ปี 1969 และเราภูมิใจที่ได้สนับสนุนลูกค้าของเราในทุกกลุ่มตลาด ได้แก่ แร่และโลหะ การขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน น้ำ อาหารและชีววิทยาศาสตร์ การผลิตขั้นสูง สุขภาพ และการป้องกันประเทศ

วิสัยทัศน์ของเราคือการรวมกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงโลกของเรา ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรม แรงบันดาลใจ และจุดประสงค์ของเราในการทำให้ทุกวันดีขึ้น เราสร้างค่านิยมผ่านความเข้าใจและนำเสนอโซลูชันที่ประสบความสำเร็จ บริการที่ยอดเยี่ยมและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนของเรา และใช้ทักษะและระบบของเราเพื่อส่งเสริมนวัตกรรม ช่วยให้ลูกค้าของเราพัฒนาชุมชนในรูปแบบที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์ รวมถึงเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน ติดตามเราได้ที่ www.beca.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อฝ่ายสื่อ Black & Veatch:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
อีเมลฝ่ายสื่อตลอด 24 ชม. | Media@bv.com

ติดต่อฝ่ายสื่อ Beca:
REBECCA ADAM I +61 403 502 654 I rebecca.adam@beca.com

แหล่งที่มา: Black & Veatch

Toshiba เปิดตัวพาวเวอร์มอสเฟตยานยนต์ N-Channel 40V ที่มาพร้อมแพ็กเกจใหม่ที่ให้การกระจายความร้อนสูง และช่วยลดขนาดอุปกรณ์ยานยนต์ลงได้

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น — (BUSINESS WIRE)–17 สิงหาคม 2023

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("Toshiba") ได้เปิดตัวพาวเวอร์มอสเฟตยานยนต์ N-channel 40V อย่าง “XPJR6604PB” และ “XPJ1R004PB” ที่ใช้แพ็กเกจ S-TOGL™ (Small Transistor Outline Gull-wing Leads) จาก Toshiba พร้อมชิปประมวลผล U-MOS IX-H พร้อมจัดส่งจำนวนมากแล้ววันนี้

Toshiba: automotive 40V N-channel power MOSFETs with new package that contributes to high heat dissipation and size reduction of automotive equipment. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: พาวเวอร์มอสเฟตยานยนต์ N-channel 40V มาพร้อมแพ็กเกจใหม่ที่ให้การกระจายความร้อนสูงและช่วยลดขนาดอุปกรณ์ยานยนต์ลงได้ (ภาพประกอบ: Business Wire)

การใช้งานที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูงอย่างในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้น จะใช้การออกแบบที่มีความซ้ำซ้อนเพื่อรับรองความเชื่อถือได้ของระบบ ซึ่งส่งผลให้ต้องใช้อุปกรณ์มากขึ้นและอาศัยพื้นที่ติดตั้งมากกว่าระบบมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้ หากต้องการลดขนาดอุปกรณ์ยานยนต์ลง ก็ต้องอาศัยพาวเวอร์มอสเฟตที่สามารถติดตั้งในสภาวะที่มีความหนาแน่นของกระแสไฟฟ้าสูงได้

XPJR6604PB และ XPJ1R004PB ใช้แพ็กเกจ S-TOGL™ โฉมใหม่ (7.0 มม. X 8.44 มม.[1]) ที่มาพร้อมโครงสร้างที่ไม่ต้องพึ่งพาเสาในการยึดชิ้นส่วนเชื่อมต่อของซอร์สกับขั้วต่อภายนอกเข้าด้วยกัน โครงสร้างที่ประกอบด้วยหลายพินสำหรับขั้วต่อซอร์สช่วยลดแรงต้านทานของแพ็กเกจลงได้

การจับคู่กันของแพ็กเกจ S-TOGL™ และชิปประมวลผล U-MOS IX-H จาก Toshiba ช่วยให้ได้ค่าความต้านทานระหว่างทำงานลดลงอย่างยิ่งถึง 11% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์แพ็กเกจ TO-220SM (W)[2] จาก Toshiba ซึ่งมีลักษณะความต้านทานทางความร้อนเดียวกัน แพ็กเกจใหม่นี้ยังตัดทอนพื้นที่ติดตั้งที่ต้องใช้ออกไปได้ราว 55% เมื่อเทียบกับแพ็กเกจ TO-220SM(W) นอกจากนี้ อัตรากระแสเดรน 200A ของแพ็กเกจใหม่นี้ยังสูงกว่าแพ็กเกจ DPAK + จาก Toshiba ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน (6.5 มม.×9.5 มม.[1]) อีกด้วย กระแสไฟจึงไหลได้คล่องตัวสูง ในภาพรวมแล้ว แพ็กเกจ S-TOGL™ นี้ให้ความหนาแน่นสูงแต่มีรูปลักษณ์กะทัดรัด ลดขนาดอุปกรณ์ยานยนต์ลง และช่วยกระจายความร้อนได้สูง

เนื่องจากอุปกรณ์ยานยนต์ใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสุดขั้ว ความแน่นอนของรอยบัดกรีสำหรับติดตั้งบนพื้นผิวจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา แพ็กเกจ S-TOGL™ ใช้ขั้วต่อแบบปีกนกนางนวลที่จะช่วยลดแรงตึงในการติดตั้ง จึงเพิ่มความแน่นอนให้กับรอยบัดกรีได้ด้วย

Toshiba เล็งเห็นว่าในการใช้งานที่ต้องการการปฏิบัติงานกับกระแสไฟในระดับสูงอาจมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายชิ้นให้ทำงานไปพร้อม ๆ กัน บริษัทจึงให้บริการการจัดส่งเป็นกลุ่ม[3] สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วย โดยจะพิจารณาแรงดันขีดเริ่มของเกตในการจัดกลุ่ม ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับการออกแบบที่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะไม่แตกต่างกันมากนัก

Toshiba จะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ไฟฟ้าต่อไป และสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

การใช้งาน

•         อุปกรณ์ยานยนต์: อินเวอร์เตอร์, รีเลย์เซมิคอนดักเตอร์, สวิตช์โหลด, มอเตอร์ไดร์ฟ เป็นต้น

คุณสมบัติ

•         แพ็กเกจ S-TOGL™ โฉมใหม่: 7.0 มม. × 8.44 มม. (ทั่วไป)

•         อัตรากระแสเดรนสูง

XPJR6604PB: ID=200A

XPJ1R004PB: ID=160A

•         ผ่านการทดสอบ AEC-Q101 แล้ว

•         IATF 16949/PPAP พร้อมให้บริการ[4]

•         ความต้านทานขณะทำงานต่ำ :

XPJR6604PB: RDS(ON)=0.53mΩ (ทั่วไป) (VGS=10V)

XPJ1R004PB: RDS(ON)=0.8mΩ (ทั่วไป) (VGS=10V)

หมายเหตุ:

[1] ขนาดแพ็กเกจทั่วไป รวมขั้วต่อด้วย

[2] TKR74F04PB บรรจุในแพ็กเกจ TO-220SM (W)

[3] Toshiba สามารถให้บริการการจัดส่งเป็นกลุ่ม โดยที่ช่วงแรงดันขีดเริ่มของเกตจะเป็น 0.4V ต่อแต่ละรีล อย่างไรก็ตาม เราอาจไม่สามารถระบุกลุ่มที่เฉพาะเจาะจงได้ ดังนั้นโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายของ Toshiba เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม

[4] โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายของ Toshiba เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม

ข้อกำหนดเฉพาะหลัก

ผลิตภัณฑ์ใหม่

ผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน

หมายเลขชิ้นส่วน

XPJR6604PB

XPJ1R004PB

TKR74F04PB

TK1R4S04PB

ขั้ว

N-channel

ซีรีส์

U-MOS IX-H

แพ็กเกจ

ชื่อ

S-TOGL™

TO-220SM(W)

DPAK+

ขนาด (มม.)

ทั่วไป

7.0×8.44, t=2.3

10.0×13.0, t=3.5

6.5×9.5, t=2.3

อัตราสูงสุดสัมบูรณ์

แรงดันไฟฟ้าจากเดรน-ซอร์ส VDSS (V)

40

กระแสเดรน (DC) ID (A)

200

160

250

120

กระแสเดรน (เพิ่มกำลัง) IDP (A)

600

480

750

240

อุณหภูมิชาเนล Tch (°C)

175

ลักษณะทางไฟฟ้า

ความต้านทานขณะทำงานจากเดรน-ซอร์ส

RDS(ON) (mΩ)

VGS=10V

สูงสุด

0.66

1.0

0.74

1.35

ความต้านทานต่อการผ่านของความร้อนจากชาเนล-เคส

Zth(ch-c) (°C/W)

Tc=25°C

สูงสุด

0.4

0.67

0.4

0.83

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

XPJR6604PB
XPJ1R004PB

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอสเฟตยานยนต์ของ Toshiba

มอสเฟตยานยนต์

* S-TOGL™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท ผลิตภัณฑ์ และบริการนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดเฉพาะ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ คือข้อมูล ณ วันที่ประกาศและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำสำหรับโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และพื้นที่จัดเก็บ บริษัทมีประสบการณ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ชนิดแยกชิ้น, LSI ของระบบ และ HDD ที่มีคุณภาพโดดเด่นให้แก่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ

บริษัทมีพนักงาน 21,500 คนทั่วโลก ซึ่งต่างมุ่งมั่นเพิ่มพูนคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่ทะยานขึ้นแตะ 800,000 ล้านเยน (6.1 billion ดอลลาร์สหรัฐฯ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation จึงตั้งเป้าสร้างสรรค์และอุทิศตนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคนทั่วโลก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53525044/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้า
โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

ช่องทางติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

TVS Motor Company และ BMW Motorrad เฉลิมฉลอง 10 ปีแห่งความรุ่งโรจน์ของการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา ในการส่งมอบแรงบันดาลใจระดับโลก

Logo

บังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–16 สิงหาคม 2023

ต้นฉบับการเป็นหุ้นส่วนที่เป็นแบบอย่างในอุตสาหกรรมรถสองล้อ TVS Motor Company และ BMW Motorrad เฉลิมฉลอง 10 ปีอันรุ่งโรจน์ของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ยาวนานของพวกเขา ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ เทคโนโลยี การแบ่งปันความรู้ และการพัฒนาแพลตฟอร์มร่วมกันสำหรับลูกค้าทั่วโลก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างบริษัททั้งสองได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทั่วโลก

TVS Motor และ BMW Motorrad ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวในเดือนเมษายน 2013 เพื่อผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดต่ำกว่า 500cc สำหรับตลาดทั่วโลก ความร่วมมือนี้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์สี่รายการบนแพลตฟอร์ม 310cc ได้แก่ BMW G 310 R, BMW 310 GS, BMW G310 RR และรถจักรยานยนต์เรือธงของ TVS Motor, TVS Apache RR 310 ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 140,000 ราย รถจักรยานยนต์ภายใต้ความร่วมมือนี้จึงเป็นที่ยอมรับในตลาดชั้นนำต่าง ๆ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย

ความสำเร็จของความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญในการขยับขยายความร่วมมือของทั้งสองบริษัทในเดือนธันวาคม 2021 เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งนี้ TVS Motor และ BMW Motorrad กำลังร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึง EV นอกจากนี้ ในฐานะส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ขยายออกไปนี้ ขอบเขตของ TVS Motor ยังรวมถึงการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ BMW Motorrad ในอนาคต การส่งมอบคุณภาพระดับโลก การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และความเป็นอุตสาหกรรม

เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในการเดินทางร่วมกับ BMW Motorrad ความสัมพันธ์อันยาวนานนับทศวรรษของ TVS Motor กับ BMW Motorrad เป็นข้อพิสูจน์ถึงค่านิยมร่วมกันของเราในด้านนวัตกรรม คุณภาพ ความพึงพอใจของลูกค้า ความสามารถด้านวิศวกรรม และการมุ่งเน้นที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นแรงบันดาลใจทั่วโลก เราได้บรรลุจุดสุดยอดแห่งความสำเร็จร่วมกันด้วยการกำเนิดของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งรวมถึง TVS Apache RR 310, BMW G310 RR, BMW G 310 R, BMW 310 GS ที่มีจำหน่ายในตลาดกว่า 100 แห่ง ด้วยการขยับขยายความร่วมมือนี้ไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตและโซลูชันการสัญจรที่ยั่งยืน เรากำลังหารือกันเพื่อขยายเครือข่ายการผลิตของเราออกไปนอกอินเดีย เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตภายใต้ความร่วมมือนี้ รวมถึง BMW CE 02 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราตั้งตารอที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่มุ่งสู่ตลาดใจกลางเมืองทั่วโลกและผู้บริโภครุ่นต่อไปที่ยอดเยี่ยม”Mr. KN Radhakrishnan กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท TVS Motor Company

การครบรอบ 10 ปีนี้เป็นบทพิสูจน์ที่น่าประทับใจถึงความสำเร็จและความแข็งแกร่งของความร่วมมือระหว่าง BMW Motorrad และ TVS Motor สิ่งที่เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้พัฒนาเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา การทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่งของเราได้นำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอที่น่าประทับใจในกลุ่มเครื่องยนต์ต่ำกว่า 500cc นับตั้งแต่เปิดตัว BMW G 310 R และ BMW G 310 GS รุ่นสูบเดี่ยวยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่มีใครเทียบได้ และกลายเป็นเสาหลักของความสำเร็จทั่วโลกของ BMW Motorrad การขยับขยายความร่วมมือนี้ไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตและโซลูชันการสัญจรที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงผลงานชิ้นเอกที่มีเอกลักษณ์และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ BMW CE 02 จึงเป็นขั้นตอนที่สอดคล้องกันในการกำหนดอนาคตร่วมกับ TVS Motor Company”ดร. Markus Schramm หัวหน้า BMW Motorrad

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Nikita Verma: Nikita.verma@tvsmotor.com

แหล่งที่มา: TVS Motor Company

LogiNext ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ค้าปลีกที่ บริษัท Cp Axtra Public Company Limited

Logo

การยอมรับกระบวนการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วโลกกำลังสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของประสบการณ์ลูกค้าในโลกค้าปลีกแบบหลายช่องทางในปัจจุบัน LogiNext เป็นแนวหน้าของการปฏิวัติทางดิจิทัลในการผลักดันประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่าสำหรับองค์กรต่างๆ

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–10 สิงหาคม 2023

LogiNext แพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติด้านลอจิสติกส์ระดับโลกที่ใช้ AI เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัท Cp Axtra Public Company Limited ผู้ดำเนินการ Makro ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งอันดับหนึ่งของประเทศไทย และ Lotus’s ผู้ค้าปลีกชั้นนำ

การใช้งาน LogiNext อยู่ระหว่างเร่งการปรับปรุงในการดำเนินการจัดส่งและประสบการณ์ของลูกค้าสำหรับ Makro และ Lotus โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับปรุงการมอบหมายคำสั่งซื้อ การจัดการยานพาหนะ การวางแผนการเดินทาง การกำหนดเส้นทาง การหยิบและบรรจุหีบห่อ การมองเห็นคำสั่งซื้อและการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม ซึ่งได้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการด้านห่วงโซ่อุปทานโดยรวมสำหรับ Makro และ Lotus สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ Cp Axtra ปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตอีกด้วย

ด้วยพันธกิจในการเป็นผู้ค้าปลีก B2B และ B2C อันดับหนึ่งในเอเชียที่ผสมผสานทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการในแต่ละวันของลูกค้าด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ร่วมกับผู้คนและพันธมิตรในแนวทางที่ยั่งยืน Cp Axtra มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อผ่านแพลตฟอร์มแบบหลายช่องทาง

Dhaval Thanki รองประธาน APAC & MEA ของ LogiNext กล่าวว่า "Cp Axtra ให้ความสำคัญกับลูกค้าอย่างไม่ย่อท้อ และแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจัดส่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบในบริบทของสิ่งที่แพลตฟอร์มของเราแก้ปัญหาให้กับพวกเขา" เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “LogiNext ช่วยให้ธุรกิจของ Makro และ Lotus ได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีลอจิสติกส์ใหม่ล่าสุดและยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังลดต้นทุนการจัดส่ง และขับเคลื่อนการเติบโต”

Paul Stephen Howe หัวหน้ากลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศบริษัท Cp Axtra Public Company Limited กล่าวว่า “LogiNext ให้บริการโซลูชันระบบอัตโนมัติด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร (end-to-end) ซึ่งช่วยให้เราดำเนินการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก" เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วย LogiNext ที่เปิดใช้งานการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลและการมองเห็นแบบเรียลไทม์ในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของเรา เราจึงสามารถมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นให้กับลูกค้าของเรา ในขณะที่เชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันได้”

เทคโนโลยีของ LogiNext กำลังปฏิวัติการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ทั่วโลก ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับปรุงการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ ปรับเส้นทางให้เหมาะสม และปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า ด้วยการติดตามตามเวลาจริง การวิเคราะห์ขั้นสูง และความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพ บริษัทต่างๆ สามารถนำทางภูมิทัศน์ด้านลอจิสติกส์ที่ซับซ้อนได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่อุตสาหกรรมการค้าปลีกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง LogiNext ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเสริมศักยภาพให้ธุรกิจต่างๆ ยอมรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าปลายทาง ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติและข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกระดับใหม่ของความเป็นเลิศในการดำเนินงาน เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดได้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Shreyas Mulgund
รองประธานฝ่ายการตลาด LogiNext
โทรศัพท์มือถือ: +91-9819399139
อีเมล์: shreyas.m@loginextsolutions.com

แหล่งที่มา: LogiNext

Kioxia เปิดตัว PCIe® 5.0 SSD ใหม่สำหรับองค์กรและโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

Logo

KIOXIA CD8P Series Data Center NVMe™ Drives ใหม่ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพ ความหน่วง และคุณภาพการบริการในรูปแบบ E3.S และ 2.5 นิ้ว (U.2)

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–8 สิงหาคม 2023

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ประกาศเปิดตัว KIOXIA CD8P Series ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Solid State Drives (SSD) ระดับศูนย์ข้อมูล KIOXIA CD8P Series เหมาะสมอย่างยิ่งกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานทั่วไปและสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่สามารถใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพ PCIe® 5.0 (32GT/s x4) แอปพลิเคชันศูนย์ข้อมูลเหล่านี้สามารถสร้างปริมาณงานผสมที่ซับซ้อนกระจายไปทั่วระบบเวอร์ชวลไลเซชันขนาดใหญ่ในศูนย์ข้อมูลการปฏิบัติงาน 24×7 ไดรฟ์ใหม่มีความจุสูงถึง 30.72 เทราไบต์ (TB) [1] และใน Enterprise and Datacenter Standard Form Factor (EDSFF) ทั้ง E3.S และ 2.5 นิ้ว (U.2)

PCIe(R) 5.0 SSDs for Enterprise and Data Center Infrastructures: KIOXIA CD8P Series (Photo: Business Wire)

PCIe(R) 5.0 SSD สำหรับองค์กรและโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล: KIOXIA CD8P Series (ภาพ: Business Wire)

KIOXIA CD8P Series ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ความหน่วง พลังงานที่ลดลงและความร้อนของสภาพแวดล้อมศูนย์ข้อมูลที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการระบายความร้อนเป็นสิ่งสำคัญ KIOXIA CD8P Series มอบความสามารถในการคาดการณ์และความสม่ำเสมอที่จำเป็นสำหรับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

KIOXIA CD8P Series ตระหนักถึงประสิทธิภาพการอ่านตามลำดับที่เพิ่มขึ้นประมาณ 60% ถึง 80% เมื่อเทียบกับ PCIe 4.0 SSD รุ่นก่อนหน้า ซึ่งรวมถึง:

• ประสิทธิภาพการอ่านแบบสุ่ม [2] สูงถึง 2,000K IOPS [3] และประสิทธิภาพการเขียนแบบสุ่ม [2] สูงถึง 400K IOPS

• เวลาแฝงเปอร์เซ็นไทล์ต่ำและสม่ำเสมอที่ 99.999 ซึ่งต่ำกว่า 250us ในปริมาณงานการอ่านแบบสุ่มมาตรฐาน [4] และต่ำกว่า 1.8ms ในปริมาณงานผสมสไตล์ OLTP มาตรฐาน [5]

• การออกแบบพอร์ตเดียว ปรับให้เหมาะสมสำหรับปริมาณงานระดับศูนย์ข้อมูล

ไดรฟ์ศูนย์ข้อมูลใหม่ใช้เทคโนโลยี KIOXIA BiCS FLASH™ generation 5 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี 3D flash memory triple-level cell (TLC) และใช้คอนโทรลเลอร์ที่พัฒนาขึ้นเอง KIOXIA CD8P Series SSD เป็นไปตามข้อกำหนด PCIe 5.0 และ NVMe™ 2.0 รวมถึง NVM Express™ Management Interface (NVMe-MI™) v1.1d และรองรับ Open Compute Project (OCP) Datacenter NVMe Specifications (ไม่ใช่ข้อกำหนดทั้งหมด)

คุณสมบัติและประโยชน์เพิ่มเติมรวมถึง:

• ความน่าเชื่อถือของข้อมูลเต็มรูปแบบพร้อมการปกป้องข้อมูลแบบ end-to-end, การป้องกันไฟฟ้าดับ และการกู้คืนความล้มเหลวของแฟลชไดย์

• ตัวเลือกความปลอดภัย: Non-SED, SIE และ SED (TCG Opal และ Ruby SSCs) [6]

ไดรฟ์ KIOXIA CD8P Series สามารถสุ่มตัวอย่างเพื่อเลือกลูกค้าได้แล้ว

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ซีรีส์ KIOXIA CD8P Series
https://www.kioxia.com/en-jp/business/ssd/data-center-ssd.html#cd-series

หมายเหตุ

[1] ผลิตภัณฑ์ฟอร์มแฟกเตอร์ E3.S จะมีจำหน่ายในความจุตั้งแต่ 1.6TB ถึง 15.36TB

ผลิตภัณฑ์ฟอร์มแฟกเตอร์ขนาด 2.5 นิ้วจะมีจำหน่ายในความจุตั้งแต่ 1.6TB ถึง 30.72TB

[2] เงื่อนไข: ขนาดบล็อก 4KiB, จัดแนว 4KiB, สุ่ม 100%

[3] IOPS: อินพุตเอาต์พุตต่อวินาที (หรือจำนวนการดำเนินการ I/O ต่อวินาที)

[4] เงื่อนไข: ขนาดบล็อก 4KiB, จัดแนว 4KiB, QD = 32, สุ่ม 100%, อ่าน 100% สำหรับความจุ 3,200 GB ถึง 7,680 GB

[5] เงื่อนไข: ขนาดบล็อก 4KiB, จัดแนว 4KiB, QD = 32, สุ่ม 100%, อ่าน 70% สำหรับความจุ 3,200 GB ขึ้นไป

[6] ความพร้อมใช้งานของตัวเลือกความปลอดภัย/การเข้ารหัสอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

คำจำกัดความของความจุ: Kioxia Corporation กำหนดเมกะไบต์ (MB) เป็น 1,000,000 ไบต์ กิกะไบต์ (GB) เป็น 1,000,000,000 ไบต์ และเทราไบต์ (TB) เป็น 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุในการจัดเก็บโดยใช้ยกกำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1 GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1 TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุในการจัดเก็บน้อยลง ความจุที่ใช้ได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์โฮสต์ เงื่อนไขการอ่านและเขียน และขนาดไฟล์

SIE: โมเดลตัวเลือก Sanitize Instant Erase รองรับ Crypto Erase ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการด้านเทคนิค (T10) ของ INCITS (คณะกรรมการระหว่างประเทศสำหรับมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ)

SED: โมเดลตัวเลือก Self-Encrypting Drive รองรับ TCG Opal และ Ruby SSC ไม่รองรับคุณสมบัติบางอย่างของ TCG Opal SSC

PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

NVMe, NVM Express และ NVMe-MI เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

ข้อมูลทั้งหมดที่ระบุในบทความนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งอุทิศให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและ Solid-State Drives (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 Toshiba Memory รุ่นก่อนหน้าได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและหน่วยความจำ – คุณค่าต่อสังคม BiCS FLASH™ เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Kioxia กำลังกำหนดอนาคตของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

ติดต่อสอบถามสำหรับลูกค้า:
Kioxia Group
Global Sales Offices
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53512769/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
โทร: +81-3-6478-2404

แหล่งที่มา: Kioxia Corporation

Lynk และ Vodafone Cook Islands เริ่มต้นการบริการ Sat2Phone สำหรับผู้ใช้งาน

Logo

ประกาศเปิดตัวใช้งานบริการ sat2phone โดยเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายที่สองในโลกที่ใช้บริการนี้

FALLS CHURCH, Va.–(BUSINESS WIRE)–8 สิงหาคม 2023

Lynk Global, Inc. (Lynk) ผู้ให้บริการโทรคมนาคม sat2phone ชั้นนำของโลก และ Vodafone Cook Islands ได้ประกาศร่วมกันในวันนี้ถึงการเริ่มให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมโดยตรงขั้นต้นแก่ผู้ใช้งาน Vodafone Cook Island โดยใช้ "เสาส่งสัญญาณในอวกาศ " ของ Lynk โดย Vodafone Cook Islands เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (MNO) รายที่สองในโลกที่เปิดตัวใช้งานเทคโนโลยี sat2phone ของ Lynk โดยเป็นบริการสำหรับผู้ใช้งาน

Vodafone เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำใน Cook Islands โดยให้บริการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์ โทรศัพท์พื้นฐาน ตลอดจนบริการและโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมอื่นๆ อีกมากมายทั่วทุกเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม บริษัทจึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดภูมิทัศน์ดิจิทัลของ Cook Islands โดยบริษัทมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีต่างๆ ที่ล้ำสมัยและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อจัดหาเครือข่ายที่เสถียรและเชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการโทรด้วยเสียง การรับส่งข้อความ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือโซลูชันสำหรับองค์กร Vodafone Cook Islands พร้อมนำเสนอบริการที่ครอบคลุมซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล ที่อยู่อาศัย รวมถึงธุรกิจด้วยเช่นกัน

"ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่มหาศาลของ Cook Islands พวกเราที่ Vodafone จึงแสวงหาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อสำหรับหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกล อะทอลล์ ซึ่งอยู่ท่ามกลางทะเลให้ดียิ่งขึ้นตลอดเวลา บริการของ Lynk มีเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถตอบสนองความต้องการของเราสำหรับการขยายขอบเขตครอบคลุมสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเรา แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายสูงมหาศาลจนเกิดเป็นภาระต่อเนื่องสำหรับผู้ใช้งาน เราเล็งเห็นความต้องการในชุมชนที่อยู่ห่างไกล กลุ่มชาวประมงของเรา และเรือยอทช์ที่มาเยือน สามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อและขอบเขตครอบคลุมเพิ่มเติมที่ Lynk สามารถให้บริการ " Phillip Henderson, CEO ของ Vodafone Cook Islands กล่าว

"Lynk ได้รับความไว้วางใจให้นำเสนอบริการขั้นต้นสำหรับ Vodafone Cook Islands โดยจะมีการครอบคลุม 15 เการะ และระยะทางกว่า 1,960,027 ตารางกิโลเมตรในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Exclusive Economic Zone – EEZ) ที่อยู่ภายใต้ Cook Islands" Dan Dooley หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าพาณิชย์ของ Lynk กล่าว "ขอบเขตครอบคลุมนี้มีขนาดที่ใหญ่มาก และ Lynk มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกันกับ Vodafone เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานทั้งหมด บริการ Sat2Phone ขั้นต้นของเราจะเริ่มต้นในระดับเบต้าในพื้นที่ที่เรียกว่า `Manuae Route' และจะค่อยขยายขอบเขตครอบคลุม เช่นเดียวกับบริการที่เรานำเสนอสำหรับ PNCC ใน Palau ทาง Lynk ก็จะให้บริการสำรองที่เพิ่มความยืดหยุ่นของเครือข่ายเมื่อหากเกิดภัยธรรมชาติขึ้น และทำความเสียหายให้กับเครือข่ายภาคพื้นดิน" Dooley กล่าว

เกี่ยวกับ Vodafone Cook Islands

Vodafone Cook Islands เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมเต็มรูปบบที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านโทรคมนาคม โทรศัพท์พื้นฐาน (สายทองแดง & สายไฟเบอร์) โทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์ โซลูชัน IPTV โซลูชัน PABX และโซลูชันเฉพาะ ข้อเสนอบริการรวมถึงโซลูชันการโฮสต์ โคโลเคชัน การเข้าถึงเครือข่าย และการเชื่อมต่อโครงข่าย Vodafone ยังมีการจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการด้านการไปรษณีย์ บริการตรวจตราและออกใบอนุญาตสำหรับระบบวิทยุสื่อสารทางทะเล รวมถึงบริการสนับสนุนการบรอดคาสต์  สำนักงานใหญ่ของ Vodafone ตั้งอยู่บนเกาะหลักของ Rarotonga โดยมีสำนักงานสาขาของ Cook Islands อยู่ในทุกเกาะอื่นๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vodafone.co.ck

เกี่ยวกับ Lynk

Lynk เป็นระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมโดยตรงสู่เครื่องมาตรฐานที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ผ่านการตรวจสอบ และได้รับอนุญาตในเชิงพาณิชย์ (sat2phone) เพียงรายเดียวในโลก เรามีการขยายบริการของเราไปกว่า 20 ประเทศ โดยมีสัญญาบริการเชิงพาณิชย์ MNO มากกว่า 30 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมมากกว่า 50 ประเทศ ในวันนี้ Lynk มีความโดดเด่นเฉพาะในการส่งและรับข้อความเข้าและออกจากอวกาศเข้าไปยังอุปกรณ์พกพามาตรฐานที่ไม่มีการดัดแปลงใดๆ ได้สำเร็จ เครือข่ายของ Lynk ซึ่งปัจจุบันให้บริการการแจ้งเตือนการออกอากาศผ่านมือถือ (ฉุกเฉิน) และการส่งข้อความ SMS แบบสองทาง โดยสามารถใช้งานได้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครื่องที่มีอยู่ในโลก ในอนาคต Lynk จะเปิดให้บริการเสียงและบรอดแบนด์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยการเป็นพันธมิตรร่วมมือกันกับ Lynk ภายใต้ข้อตกลงการโรมมิ่งแบบเรียบง่าย จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสามารถเปิดโอกาสส่วนแบ่งการตลาดที่ยังไม่มีการใช้งานในปัจจุบันนี้ให้เป็นแหล่งรายได้ใหม่ ทำให้ผู้ใช้งานเครือข่ายรู้สึกอุ่นใจด้วยการเชื่อมต่อที่แพร่หลาย และเป็นหนทางส่งเสริมเศรษฐกิจสำหรับพลเมืองหลายพันล้านคนทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lynk.world หรือติดตามเราได้ที่ @lynktheworld

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tony DeTora
tdetora@lynk.world

แหล่งที่มา: Lynk Global, Inc.

The Bangkok Reporter