InVeris Training Solutions เปิดตัว SRCE™ ระบบการฝึกอบรมเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริงในระดับปฏิวัติวงการ

Logo

ซูวานี รัฐจอร์เจีย–(BUSINESS WIRE)–30 พ.ย. 2564

InVeris Training Solutions ผู้ให้บริการชั้นนำด้านระบบการฝึกใช้อาวุธปืนจริงแบบโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง สำหรับทหาร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และสนามยิงปืนเชิงพาณิชย์ ได้เปิดตัว SRCE™ ( ย่อมาจาก See, Rehearse, Collectively Experience หรือ "Source") ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริงที่ก้าวล้ำ แบบที่เป็นเครื่องจำลองการฝึกอาวุธแบบไร้สาย โดย InVeris Training Solutions นำเสนอเทคโนโลยีความจริงเสมือนผสานโลกแห่งความจริงขั้นสูงสุดที่มีอยู่ในเครื่องจำลองการฝึกอบรมด้านการทหารและการบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบัน ซึ่งเป็นความสำเร็จที่หลายคนในอุตสาหกรรมเคยคิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสำเร็จ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211129005628/en/

SRCE is the only untethered AR training solution on the market—allowing up to 4 participants to train with simulated weapons and tactical gear. (Photo: Business Wire)

SRCE เป็นโซลูชันการฝึกอบรม AR แบบไร้สายเพียงตัวเดียวในตลาด ที่อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมสูงสุด 4 คนฝึกอาวุธจำลองและอุปกรณ์ยุทธวิธี (ภาพ: Business Wire)

Al Weggeman ซีอีโอของ InVeris กล่าวว่า "เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง ช่วยมอบสิ่งที่ดีที่สุดในโลกเสมือนจริงและโลกเสมือนจริงในแบบที่สมจริง ราบรื่น ปรับแต่งได้ และประหยัด" "สถานที่ฝึกทางกายภาพสามารถถูกสแกนและเพิ่มให้กลายเป็นสถานที่ฝึกยิงได้ทันที โดยการบูรณาการเนื้อหาภายนอกในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ที่สำคัญไปกว่านั้น เราสามารถเปรียบเทียบและวัดประสิทธิภาพบุคคลและทีมด้วยการติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ที่มีความแม่นยำสูงของผู้เข้าร่วมทุกคน อาวุธ และแม้แต่กระสุน"

การฝึกใช้อาวุธที่สำคัญ ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ ณ จุดที่ต้องการ หรือที่ใดก็ได้ในโลก เทคโนโลยีที่สมจริงมีความสมบูรณ์แบบ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ สามารถให้ประสบการณ์วิธีการดู ซ้อม เทคนิค กลยุทธ์ และขั้นตอนต่าง ๆ ด้วยตำแหน่งแบบเรียลไทม์ การเคลื่อนไหว การวางแนว และการตรวจจับไบโอเมตริกซ์สำหรับการฝึกอบรมและการปฏิบัติงาน เทคโนโลยีการสแกนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ SRCE ช่วยให้ผู้สอนสามารถจับภาพพื้นที่ที่มีไว้สำหรับใช้เป็นบ้านถ่ายภาพโดยใช้แท็บเล็ตหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มีกล้องความละเอียดสูง กองกำลังที่เป็นปฏิปักษ์ ผู้ต้องสงสัย ตัวล่อ ตัวประกัน และฝ่ายอื่น ๆ ล้วนถูกส่งผ่านระบบดิจิทัล ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้เล่นที่มีบทบาทอยู่ฝ่ายตรงข้าม ความสามารถของ SRCE ในการสร้างบ้านยิงเสมือนจริงในทันทีนั้นเข้ามาช่วยในด้านการฝึกยิงปืนและการซ้อมภารกิจ เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้และไร้รอยต่อ ซึ่งรวมถึงจอแสดงผลแบบสวมศีรษะ AR ให้การดื่มด่ำสถานการณ์ที่สมจริงโดยไม่สูญเสียอิสระในการเคลื่อนไหว และยังสามารถใช้ได้อย่างสมบูรณ์กับอาวุธจำลอง BlueFire® ที่มีความแม่นยำสูงของ InVeris อีกด้วย

การตรวจสอบหลังการกระทำ หรือ after-action review (AAR) แบบโต้ตอบที่ไม่มีใครเทียบได้ ยังรวมถึงข้อมูลประสิทธิภาพสำหรับการวิเคราะห์ทางสถิติของพารามิเตอร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งรวมถึงทิศทางของปากกระบอกปืน การปล่อยอาวุธ กระสุนที่ยิงไม่โดน การติดตามดวงตา และการจัดตำแหน่งศีรษะ เซ็นเซอร์ร่างกายจะตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ การจ้องมอง และสัญญาณทางชีววิทยาอื่น ๆ ของผู้เข้ารับการฝึกแบบเรียลไทม์ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมยังสามารถเดินผ่านเซสชั่นก่อนหน้าของตนได้ โดยเห็นทุกองค์ประกอบที่เล่นอยู่รอบตัวพวกเขาเป็นภาพเพื่อทบทวนประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน AAR ที่ดื่มด่ำอย่างสูงนี้สร้างโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้สอนเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการฝึกอบรมและการรักษาสมรรถภาพ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SRCE ได้ที่ https://www.inveristraining.com/srce.

เกี่ยวกับ InVeris Training Solutions

InVeris Training Solutions มอบโซลูชันการฝึกอบรมที่ล้ำสมัยสำหรับกองทัพ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเจ้าของสนามยิงปืนพาณิชย์ทั่วโลก ด้วยการมีตำนานบริษัทดั้งเดิมอย่าง FATS® และ Caswell จึงทำให้ InVeris Training Solutions ได้ลงพื้นที่ไปใช้สนามจริงมากกว่า 15,500 แห่ง และระบบเสมือน 7,500 ระบบทั่วโลกตลอดประวัติศาสตร์ 95 ปีของบริษัท บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในเมืองซูวานี รัฐจอร์เจีย และเป็นพันธมิตรกับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกจากสำนักงานในห้าทวีป

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211129005628/en/

ติดต่อ:

Michelle Henderson

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด

InVeris Training Solutions

+1-678-288-1090

michelle.henderson@inveristraining.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Celonis เร่งสร้างความเป็นผู้นำด้านเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานในอินเดีย

Logo

เปิดตัวโครงการบริหารการปฏิบัติงานใหม่ในอินเดีย ศูนย์กลางด้านกระบวนการของโลก

บังกาลอร์, อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2564

Celonis ผู้นำระดับโลกด้านการบริหารการปฏิบัติงานให้เกิดผลสำเร็จ (execution management) ประกาศในวันนี้ว่าจะขยายการดำเนินงานด้านการทำเหมืองกระบวนการ (process mining) และการบริหารการปฏิบัติงานให้เกิดผลสำเร็จสู่อินเดีย โดย Celonis เชื่อว่าโอกาสสำหรับลูกค้า ผู้ให้บริการการรวมระบบทั่วโลก (GSI) และกิจการรับจ้างบริหารธุรกิจ (BPO) รวมถึงที่ปรึกษาและนักวิชาการนั้นใหญ่พอ ๆ กับการเปลี่ยนจากการใช้ระบบไอทีภายในองค์กร (on-prem) สู่ระบบคลาวด์

นอกจากการขยายงานด้านการบริหารการปฏิบัติงานในอินเดียแล้ว Celonis ยังได้ให้คำมั่นที่จะลงทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมกระบวนการของอินเดียและคาดว่าจะมีการสร้างงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง การขยายไปยังอินเดียยังช่วยให้ผู้ที่ทำงานและผู้เชี่ยวชาญทางด้านกระบวนการทางธุรกิจระดับโลกได้ปลดล็อคกระบวนการใหม่ ๆ และมูลค่าจากการปฏิบัติงานนับพันล้านให้กับทั้งลูกค้าของตนและภายในบริษัทของตัวเอง โครงการการบริหารการปฏิบัติงานของ Celonis ได้รับการเปิดตัวในงานแถลงข่าวและงานระบบนิเวศพันธมิตรที่จัดขึ้น ณ กรุงบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย เป็นเวลาหลายวัน

โอกาสทางด้านเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานในอินเดียนั้นมหาศาลมาก เพื่อให้เห็นภาพ Everest Group รายงานว่าตลาด BPO ในอินเดียเฉพาะบริการด้านการเงินอย่างเดียวมีศักยภาพที่จะเติบโตจาก 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ถึง 2.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยปัจจุบันมีมูลค่าเกือบครึ่งของตลาดเอาท์ซอร์สทั่วโลก นอกจากนี้ IDC ยังประเมิณว่าบริการและธุรกิจด้านไอทีในตลาดอินเดีย1 จะโตจาก 7 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568

Amardeep Modi รองประธานแห่ง Everest Group กล่าวว่า “การทำเหมืองกระบวนการควรเป็นแกนหลักของความพยายามในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และสามารถสร้างบทบาทสำคัญในการช่วยให้ประสบความสำเร็จในขนาด ความคล่องแคล่ว และการรับรู้ถึงมูลค่าทางธุรกิจที่สูงกว่า แน่นอนว่าพันธมิตรและลูกค้าของ Celonis ในอินเดียจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการที่มีฮับแห่งใหม่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ฝึกอบรม และส่งเสริมวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศให้กับภูมิภาค รวมถึงการเข้ามาช่วยเจาะฐานผู้ที่มีความสามารถขนาดใหญ่ของอินเดียเพื่อเติมเต็มความต้องการต่อผู้ที่มีทักษะด้านเหมืองกระบวนการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก”

Reetika Fleming, หัวหน้าด้านวิจัยของ HFS Research กล่าวว่า “ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอินเดียคือศูนย์กลางของผู้ที่มีความสามารถอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นฐานที่มั่นด้านไอทีและการดำเนินงานสำหรับองค์กรระดับ Global 2000 มากมายหลายแห่ง สำหรับการลงทุนครั้งนี้ Celonis ได้พาเทคโนโลยีของตนมาอยู่ในสถานที่ทีควรแล้ว ซึ่งจะทำให้ง่ายขึ้นต่อผู้ให้บริการในการพัฒนาแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลรวมถึงมอบโอกาสอันน่าตื่นเต้นให้กับนักเรียนในอินเดียและที่ปรึกษาในการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะทางด้านกระบวนการมากมาย”

โครงการด้านการบริหารการปฏิบัติงานของ Celonis ในอินเดียริเริ่มขึ้นจาก 3 สิ่งที่เป็นเสาหลักเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งอุตสาหกรรมกระบวนการของอินเดีย รวมถึงทุกบริษัทในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมในที่สุด สามารถนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาใช้ในการดำเนินงานหลัก ๆ ได้ทันที:

  • Execution Management Without Limits: เสาหลักที่หนึ่งคือการเริ่มต้นโครงการ Celonis Execution Management Without Limits และ Celonis for BPO โครงการที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกเหล่านี้จะเปิดให้ผู้ที่ทำงานด้าน BPO, GSI และการให้คำปรึกษาเข้าถึงเทคโนโลยีด้านเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานของ Celonis ได้แบบไม่จำกัด
  • Celonis Academy: เสาหลักที่สองคือการจัดการฝึกอบรมแบบไม่มีค่าใช้จ่ายและให้สิทธิ์การเข้าถึงวิธี กระบวนการ และโปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับการทำเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานให้กับทั้งอุตสาหกรรมที่ปรึกษาด้านกระบวนการของอินเดีย Celonis มีแผนที่จะจัดฝึกอบรมให้กับที่ปรึกษา นักเรียนนักศึกษา และนักวิชาการของอินเดียกว่า 100,000 คนในช่วงเริ่มต้น โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มระดับโลกที่ Celonis ต้องการจัดการฝึกอบรมให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานกว่า 1 ล้านคน
  • Celonis Center of Excellence: เสาหลักที่สามเป็นศูนย์ความเป็นเลิศ Celonis หรือ CoE แห่งใหม่ ซึ่งจะเป็นร้านค้าแบบครบวงจรสำหรับลูกค้า พันธมิตร และผู้ให้บริการในอินเดีย ศูนย์ CoE นี้รวมการสนับสนุนด้านการเตรียมการสำหรับพันธมิตร บริการมืออาชีพต่าง ๆ และที่ปรึกษาด้านมูลค่าสำหรับลูกค้า ทีมวิศวกรรมที่ดูแลงานด้านผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ และทีมช่วยเหลือลูกค้าเข้าไว้ด้วยกันเพื่อส่งมอบความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมตลอด 24 ชั่วโมง

Bastian Nominacher ซีอีโอร่วมและผู้ร่วมก่อตั้ง Celonis กล่าวว่า “ทุกคลื่นนวัตกรรมด้านกระบวนการที่สำคัญ ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ไคลเอนต์ สู่อินเทอร์เน็ต ไปจนถึงระบบคลาวด์ได้ผ่านช่วงสำคัญของอุตสาหกรรมกระบวนทางธุรกิจในอินเดียมาแล้ว Celonis รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เจเนอเรชันถัดไปในการทำให้อุตสาหกรรมกระบวนการในอินเดียทันสมัยขึ้นโดยวางรากฐานเทคโนโลยีด้านการทำเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานที่ล้ำสมัยไว้ในบริษัท BPO, GCC, GSI และบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก”

ระบบนิเวศพันธมิตรของ Celonis ปัจจุบันประกอบด้วยผู้ให้คำปรึกษา ผู้ให้บริการรับจ้างบริหารธุรกิจ (BPO) และบริษัทที่ปรึกษาระดับแถวหน้าหลายแห่งจากทั่วโลก เช่น AccentureCognizantDeloitte, EY, Firstsource, HCL, IBMInfosysKPMGPWCTCSTech MahindraWipro, WNS และอีกมากมาย โดยทั้งหมดใช้ระบบบริหารการปฏิบัติงานของ Celonis ในการขับเคลื่อนโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและกระบวนการให้กับทั้งตัวเองและกับลูกค้า

Malhar Kamdar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าของ Celonis และหัวหน้าทีมบริหารของอินเดีย กล่าวว่า “Celonis ได้กำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคออกไปทั้งหมดเพื่อให้ทั้งระบบนิเวศกระบวนการของอินเดียสามารถนำข้อมูลไปใช้งานและติดตั้งระบบบริหารการปฏิบัติงาน หรือ EMS ของเราในบริษัทและองค์กรในทุกอุตสาหกรรม โดยระบบ EMS นี้ถูกขนานนามโดยลูกค้าของเราว่าเป็น ‘มันสมองของกระบวนการ’ ในธุรกิจของพวกเขา Celonis ได้เปิดแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบโดยมีเป้าหมายที่จะปลดล็อคมูลค่าหลายพันล้านให้กับผู้ใช้ ธุรกิจ และสังคม พวกเราตื่นเต้นที่จะได้นำพลังของการใช้ข้อมูลมาสู่ลูกค้าและพันธมิตรในอินเดีย”

Jens Bockholt รองประธานฝ่ายผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Bosch กล่าวว่า "Celonis เป็นพันธมิตรที่สำคัญของ Bosch ทั่วโลกขณะที่เราทำงานร่วมกันเพื่อนำบริการด้านซอฟต์แวร์และการวิเคราะห์กระบวนการสู่ระดับถัดไป ซึ่งจำเป็นต่อการสนับสนุนความทะเยอทะยานของเราที่จะเป็นบริษัท AIoT ชั้นนำที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เรารู้สึกยินดีกับ Celonis ที่เดินหน้าขยายบริษัทไปทั่วโลกพร้อมทั้งตั้งศูนย์ความเป็นเลิศในอินเดีย และเราหวังที่จะได้สานต่อความร่วมมือและใช้ประโยชน์จาก Celonis เพื่อให้บริการลูกค้าของเราให้ดียิ่งขึ้นไป เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้ง Celonis และตลาดอินเดียที่กำลังเติบโต”

ในงาน 2021 World Tour ที่ผ่านมา Celonis ได้ประกาศถึงแผนลงทุนในสามด้านที่สำคัญต่อระบบบริหารการปฏิบัติงาน (EMS) ของ Celonis ได้แก่ ข้อมูล ความอัจฉริยะ และการปฏิบัติ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อ Lenses.io ที่เป็นเทคโนโลยีข้อมูลสตรีมมิ่งแบบเรียลไทม์ การเปิดตัว Celonis Execution Graph ที่เชื่อมเหตุการณ์จากกระบวนการที่ต่างกันของทั้งบริษัทเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้การดำเนินงานติดขัด และตลาดที่มีการกำหนดความเป็นพันธมิตรกับ ServiceNow

Anitha Scaria George รองประธานและหัวหน้า Celonis ประจำอินเดีย กล่าวว่า “ตลาดและการเป็นฐานบุคลากรที่มีความสามารถของอินเดียสะท้อนถึงโอกาสที่ไร้ข้อเปรียบเทียบในการสร้างรายได้จากการนำการทำเหมืองกระบวนการและการบริหารการปฏิบัติงานไปใช้ทั่วโลก ในแต่ละช่วงจะมีบริษัทที่เป็นผู้นำทางและพัฒนาอย่างก้าวล้ำในทางแข่งขันและผู้ที่เป็นรั้งท้าย Celonis จะฝึกผู้นำด้านการบริหารการปฏิบัติงานรุ่นใหม่ให้นำข้อมูล ความอัจฉริยะ และการปฏิบัติมาใช้ในทุกกระบวนการ ทุกธุรกิจ และทุกอุตสาหกรรม”

เกี่ยวกับ Celonis

Celonis ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ นำข้อมูลมาใช้ได้สำเร็จ ระบบบริหารการปฏิบัติงาน (EMS) ของ Celonis ซึ่งทำงานด้วยระบบเหมืองกระบวนการชั้นนำของตลาดที่เป็นของบริษัทเอง ให้บริการชุดแอปพลิเคชัน สตูดิโอสำหรับผู้พัฒนาและความสามารถทางด้านแพลตฟอร์มสำหรับผู้บริหารในธุรกิจต่าง ๆ และผู้ใช้เพื่อกำจัดความไร้ประสิทธิภาพในองค์กรหลายพันล้านรูปแบบ มอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้ลูกค้า และลดการปล่อยคาร์บอน Celonis มีลูกค้าหลายพันเจ้าจากทั่วโลกและมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี และในนิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งมีสำนักงาน 16 แห่งทั่วโลก

© 2021 Celonis SE. สงวนลิขสิทธิ์ Celonis และโลโก้ “หยดน้ำ” ของ Celonis เป็นเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Celonis SE ในประเทศเยอรมนีและเขตอำนาจศาลอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์และชื่ออื่น ๆ ของบริษัทเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ


1tps://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prAP48371321

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211129005271/en/

ติดต่อ:

0Isabell Horvath
รองประธานฝ่ายสื่อสาร
i.horvath@celonis.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้บรรยายระดับสูงประกาศเปิดตัวการประชุม Global Business Forum ASEAN ครั้งแรกในดูไบ

Logo

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2564  

รัฐมนตรีของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามคนจะเข้าร่วมกับรัฐมนตรีจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ในการประชุม Global Business Forum ASEAN ครั้งแรก ซึ่งจะจัดขึ้นที่งาน Expo 2020 Dubai ในวันที่ 8-9 ธันวาคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211129005531/en/

HE Hamad Buamim, President and CEO, Dubai Chamber (Photo: AETOSWire)

HE Hamad Buamim, ประธานและซีอีโอของ Dubai Chamber (ภาพ: AETOSWire)

การประชุมนี้จัดโดย Dubai Chamber ร่วมกับงาน Expo 2020 Dubai โดยการประชุม GBF ASEAN จะจัดขึ้นภายใต้เรื่อง The New Frontiers ที่ประชุมประกอบไปด้วยผู้บรรยายมากกว่า 40 คนและการอภิปรายกันเป็นคณะ 25 กลุ่ม โดยจะสำรวจแรงผลักดันที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศอาเซียนและโอกาสในการเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้า ธุรกิจ และการลงทุนระดับทวิภาคีระหว่างสองภูมิภาค

H.E Reem Al Hashemi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศ และผู้อำนวยการใหญ่ของงาน Expo 2020 Dubai; H.E Omar Sultan Al Olama รัฐมนตรีว่าการกระทรวงด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัลและการประยุกต์ใช้งานทางไกล และ H.E. Dr Thani Al Zeyoudi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศ จะเป็นผู้แทนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่การประชุม GBF ASEAN

รัฐมนตรีทั้งสามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นผู้บรรยายในงานนี้ร่วมกับ H.E. Abdul Aziz Al Ghurair ประธานคณะกรรมการของ Dubai Chambers และ H.E. Hamad Buamim ประธานและ ซีอีโอ ของ Dubai Chamber

รัฐมนตรีจากภูมิภาคอาเซียนที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่ H.E Ramon Lopez เลขาธิการ (รัฐมนตรี) กรมการค้าและอุตสาหกรรม สาธารณรัฐฟิลิปปินส์; H.E William Dar เลขาธิการ (รัฐมนตรี) กรมวิชาการเกษตร สาธารณรัฐฟิลิปปินส์; H.E. Fortunato De La Pena เลขาธิการ (รัฐมนตรี) เลขานุการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองประธานสภาอวกาศแห่งฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์; H.E. Dato Lim Jock Hoi เลขาธิการใหญ่ สำนักเลขาธิการอาเซียน; และ Mohmed Razip Haji Hasan ผู้อำนวยการใหญ่ ศูนย์การท่องเที่ยวอิสลาม

“กลุ่มผู้บรรยายที่มีความสามารถสูงเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และประเทศในกลุ่มอาเซียนในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการประสานความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนที่มีอยู่ โดยมีศักยภาพมากมายที่จะสร้างความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่างธุรกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคู่ค้าในอาเซียน และเราตั้งตารอที่จะสำรวจสิ่งนั้นในที่เข้าร่วมการประชุมที่จะเกิดขึ้น” H.E. Hamad Buamim ประธานและ CEO ของ Dubai Chamber กล่าว

หมายเหตุบรรณาธิการ

หน่วยงานการค้าและอุตสาหกรรมแห่งดูไบก่อตั้งขึ้นในปี 2508 เป็นหน่วยงานสาธารณะที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีภารกิจในการเป็นตัวแทน สนับสนุน และปกป้องผลประโยชน์ของชุมชนธุรกิจในดูไบด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจ และ โดยส่งเสริมให้ดูไบเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ

*แหล่งที่มา: AETOSWire

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211129005531/en/

ติดต่อ:

Ruba Abdel Halim
Manager, PR & Corporate Communications, +97142028450
ruba.halim@dubaichamber.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

งานแสดง HKTDC Lifestyle Sourcing Show เปิดวันที่ 1 ธันวาคมนี้

Logo

งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ทางออนไลน์และกายภาพ

ช่วยให้ธุรกิจคว้าโอกาสใหม่ ๆ

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2564

ด้วยการจัดซื้อทั่วโลกกลายเป็นรูปแบบดิจิทัลมากขึ้นหลังจากเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) กำลังจัดแสดง HKTDC Lifestyle Sourcing Show | Physical + Online งานมหกรรมการค้าที่จัดขึ้นทั้งในรูปแบบออนไลน์และทางกายภาพ เพื่อช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้ากับรูปแบบการจัดซื้อใหม่และเอาชนะความท้าทายที่เกิดจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนือหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211128005240/en/

HKTDC Lifestyle Sourcing Show (Photo: Business Wire)

งานแสดง HKTDC Lifestyle Sourcing Show (ภาพ: Business Wire)

ด้วยธีม "การจัดซื้ออย่างมีสไตล์ หรือ Sourcing in Style" งานแสดงนี้จะรวบรวมผู้แสดงสินค้ามากกว่า 580 รายจาก 9 ประเทศและภูมิภาค โดยจัดแสดงของเล่น ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ของขวัญและสินค้าพรีเมียม ของใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตา ไวน์และสุราใหม่ล่าสุด งานแสดงทางกายภาพจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 3 ธันวาคมศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (HKCEC) หลังจากเข้าร่วมงานแสดงทางกายภาพแล้ว ผู้ซื้อและซัพพลายเออร์สามารถมีส่วนร่วมผ่านแพลตฟอร์มนิทรรศการออนไลน์ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 10 ธันวาคม

งานแสดง Lifestyle Sourcing Show ฉบับกายภาพของ HKCEC จะจัดแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคและไลฟ์สไตล์และโซลูชั่นในรูปแบบ showcase สำหรับการแสดงออนไลน์ ผู้แสดงสินค้าจะได้รับบูธ 3 มิติเพื่อใช้โปรโมตแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของตนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สร้างสรรค์ด้วยภาพ ผู้ซื้อและผู้แสดงสินค้าสามารถหารือเกี่ยวกับข้อตกลงผ่านแพลตฟอร์มการจับคู่ธุรกิจของ HKTDC ที่ Click2Match ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการจับคู่อัตโนมัติระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจที่มีศักยภาพ แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมจัดกำหนดการประชุม ประชุมทางวิดีโอ สนทนาแบบเรียลไทม์ และแลกเปลี่ยนนามบัตร e-business ได้ตามความต้องการในการจัดซื้อ

การแสดงจะติดตามเทรนด์ไลฟ์สไตล์ล่าสุดอย่างเต็มที่ โดยจะประกอบไปด้วยซุ้มนิทรรศการ 12 กลุ่ม อย่างเช่น Fujian, Jiangsu, Jiaxing, Pinghu และ Zhejiang จากจีนแผ่นดินใหญ่ Fukui Optical Industrial Association ของญี่ปุ่น KOTRA จากเกาหลี และสมาคมต่าง ๆ ของไต้หวัน ซึ่งรวมถึงของขวัญ ของใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ของเล่น ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตาและการศึกษา

เพื่อเติมเต็มงานแสดงผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้รับเชิญให้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของพวกเขาที่งานในระหว่างการออกอากาศ งานสัมมนาหัวข้อเรื่อง "Stay Ahead in a Reshaped Business Landscape" จัดขึ้นในระหว่างการแสดงทางกายภาพ โดยมีหัวข้อที่ครอบคลุมในเรื่อง "we-media" เกี่ยวกับการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ การจับโอกาสทางธุรกิจด้วยกลยุทธ์แบบผสมผสาน และโซลูชันออนไลน์สู่ออฟไลน์สำหรับสนับสนุนกิจกรรมแบบผสมผสาน มีการสัมมนาและการสัมมนาทางออน์ไลน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ และหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของเล่นและออปติคอล

เว็บไซต์: https://LSShow.hktdc.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211128005240/en/

สอบถามสื่อ

กรุณาติดต่อฝ่ายนิทรรศการ HKTDC:
Clavel Mui
โทร: (852) 2240 4136
อีเมล: clavel.sl.mui@hktdc.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เศรษฐกิจทางทะเลเริ่มเฟื่องฟูในเซียะเหมินในช่วงแผน 5 ปีที่ 14

Logo

เซียะเหมิน จีน–(บิสิเนสไวร์)–26 พ.ย. 2564

เศรษฐกิจทางทะเลของเซียะเหมินคาดว่าจะเปิดรับการพัฒนาคุณภาพสูงในช่วงแผนห้าปีที่ 14 (พ.ศ. 2564-2568) เนื่องจากเพิ่งได้รับการรับรองสถานะเมืองชั้นนำในภาคส่วนทางทะเลที่กำลังพัฒนาในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน

ทางเทศบาลได้ออกแผนพัฒนาสองแผน ซึ่งระบุว่าควรมีการส่งเสริมบทบาทของตนในการหนุนเศรษฐกิจทางทะเลของจังหวัด

ตามแผนดังกล่าว เซียะเหมินจะจัดตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมทางทะเลโดยส่งเสริมความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเชิงพาณิชย์

โดยจะเร่งสร้างเขตสาธิตระดับชาติสำหรับเศรษฐกิจทางทะเล จะมีการสนับสนุนอุตสาหกรรมชีวภาพทางทะเลและสร้างฐานอุปทานทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ทะเล

เซียะเหมินจะส่งเสริมแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ของการเติบโตทางเศรษฐกิจทางทะเล เช่น การสร้างตัวเองเป็นศูนย์การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตะวันออกเฉียงใต้ และปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบขนส่งทางเรือเดินทะเล

แผนดังกล่าวระบุว่าในปี 2565 เซี่ยเหมินจะจัดตั้งระบบอุตสาหกรรมทางทะเลที่ทันสมัย ​​โดยได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมทางทะเลที่เกิดขึ้นใหม่ การประมงสมัยใหม่ การขนส่งท่าเรือ และการท่องเที่ยวชายฝั่งระดับไฮเอนด์

รัฐบาลท้องถิ่นยังได้เพิ่มความพยายามในการปรับปรุงความสามารถในการวิจัยขั้นพื้นฐาน และสร้างกลุ่มสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทางทะเล โดยได้ออกมาตรการสนับสนุนมากมายเพื่อกระตุ้นพลังของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นอกจากนี้ยังคาดว่าจะสร้างสวนอุตสาหกรรมไฮเทคสำหรับอุตสาหกรรมทางทะเลในเซียะเหมินซึ่งจะผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมทางทะเลระดับไฮเอนด์

ด้วยการสนับสนุนจากความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมทางทะเลของเซียะเหมินจะสูงถึง 3 แสนล้านหยวนภายในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะคิดเป็น 30% ของจีดีพีทั้งหมดของเมือง

ในฐานะเมืองท่าสำคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 เซียะเหมินจะพยายามดึงดูดผู้ประกอบการทางทะเลระดับโลกและเทคโนโลยีหลัก ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในเซียะเหมินไปต่างประเทศ และเปิดกว้างขึ้นเพื่อร่วมมือในเศรษฐกิจทางทะเล

เมืองนี้จะพัฒนาตนเองให้เป็นเมืองท่าระดับโลก เมืองท่องเที่ยวริมชายฝั่งระดับนานาชาติ ศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางทะเลสำหรับประเทศและภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ตลอดจนแบบจำลองระดับโลกสำหรับการกำกับดูแลระบบนิเวศทางทะเล

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/2021126005477/en/

ติดต่อ:

Lorraine Yuan
lorraine@hehutech.cn 
13911130781

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ZOVOO จัดการประชุมผู้จัดจำหน่ายเพื่อสร้างสีสันในวงการอุตสาหกรรม Atomization

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–26 พฤศจิกายน 2564

ZOVOO บริษัทผลิตละอองชั้นนำของอุตสาหกรรมแห่งใหม่ได้จัดการประชุมผู้จัดจำหน่ายปี 2564 ทางออนไลน์เมื่อเวลา 21.30 น. (GMT +8) ของวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยมีผู้จัดจำหน่ายจากประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน ZOVOO ยังได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ชุด DRAGBAR แบบใช้แล้วทิ้งที่พัฒนาขึ้นใหม่ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211126005521/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

ZOVOO ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 ซึ่งมีการวิจัยที่ล้ำหน้าสลับซับซ้อนและการพัฒนาประสิทธิภาพ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มองกาลไกล และระบบซัพพลายเชนที่สมบูรณ์แบบ ทีมผู้ก่อตั้ง ZOVOO มีความแข็งแกร่งและประสบการณ์เป็นเวลา10 ปีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว พวกเขามีความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ในมุมมองของวัสดุทำความร้อน การออกแบบโครงสร้างช่องอากาศ ฯลฯ และสร้างเกณฑ์ห้าประการของสารที่ให้รสชาติและกลิ่นที่ดี การกำเนิดของแต่ละผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต การทดสอบ และอื่น ๆ ทุกรายละเอียดสมบูรณ์แบบ เพียงเพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายและปลอดภัย ตัวอย่างเช่น การกำเนิดของสารที่ให้รสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นมาจากแนวคิดนวัตกรรม 5 ประการของ ZOVOO ในความหวาน นุ่ม กลมกล่อม หอมกรุ่น และทรงพลัง ZOVOO ค้นคว้าวิจัยผู้ใช้ทั่วโลก 3,000 รายและทำการวิจัยล่วงหน้ากว่า 300 รสชาติ เพื่อสร้างระบบเนบิวลาของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

ZOVOO มุ่งมั่นที่จะสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับผู้ผลิต ICCPP โดยอาศัยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ZOVOO บรรลุการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนผ่านการสนับสนุนและความร่วมมือในมาตรฐานความปลอดภัย ค่านิยมทางสังคม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ZOVOO มีส่วนสนับสนุนความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย เพิ่มประสิทธิภาพบรรจุภัณฑ์ ใช้วัสดุใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการรีไซเคิล และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่ความพึงพอใจทางประสาทสัมผัสของผู้ใช้ ซึ่งแปลเป็นตัวชี้วัดทางวิทยาศาสตร์ มาตรฐานการผลิต และข้อควรพิจารณาด้านความปลอดภัยเพื่อให้ตรงกับความต้องการที่แตกต่างกัน

ผลิตภัณฑ์สามอย่างของ DRAGBAR ที่กำลังจะมาถึงมีชื่อว่า DRAGBAR 600, DRAGBAR 1000 และ DRAGBAR 2200 โดย DRAGBAR ใช้กระบวนการฉีดขึ้นรูปคู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและใช้สีสันจัด ๆ ที่ตัดกันอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดูดี มีรสนิยมดี และมีคุณภาพดีเยี่ยม เพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค อย่างเช่น การรั่วไหลของน้ำยาและมีกลิ่นไหม้ ZOVOO ได้ใช้คอตตอนพอลิเมอร์และปากเป่าที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็รับประกันรสชาติและฟื้นฟูผลิตภัณฑ์ ซึ่ง DRAGBAR มีถึงสิบรสชาติที่แตกต่างกัน รวมถึงกลิ่นแตงโม มะม่วง องุ่น และ OMG ฯลฯ ซึ่งเป็นที่นิยมในตลาด

ZOVOOไม่ได้กำหนดโดยป้ายกำกับ ไม่ผูกพันตามวัย กล้าที่จะไม่เหมือนใคร สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง ZOVOO เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ในอนาคต ZOVOO จะทุ่มเทเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของไอระเหยทั่วโลกและจัดหาทางเลือกสำหรับผู้สูบบุหรี่ การสร้างโลกใบใหม่ที่มีบุคลิกภาพและจิตวิญญาณ ZOVOO จะนำประสบการณ์ที่แตกต่างและยอดเยี่ยมมาสู่ไอระเหยทั่วโลก

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211126005521/en/

ติดต่อสื่อ: Tingkai Xu
ตำแหน่ง: ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ (Senior PR Manager):
หมายเลขโทรศัพท์: 15957944779

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ไต้หวันและญี่ปุ่นร่วมมือกันในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต ด้วยการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ

Logo

ชิงหัว ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–25 พ.ย. 2564

ญี่ปุ่นบริจาควัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า COVID-19 จำนวน 5 ชุดให้กับไต้หวัน และไต้หวันได้ตอบแทนโดยให้การรักษาที่ศูนย์บำบัดซึ่งให้การบำบัดด้วยการดักจับนิวตรอนโบรอน Boron Neutron Capture Therapy Center (BNCTC) ของ NTHU สำหรับหญิงสาวชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปีที่ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง โดยการรักษาประสบความสำเร็จ และตอนนี้เธอสามารถกลับไปโรงเรียนได้แล้ว

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211125005795/en/

A Japanese woman (center, holding teddy bear with a graduation cap) in front of the NSTDC with the medical team after receiving BNCT for a malignant brain tumor. (Photo: National Tsing Hua University)

หญิงสาวชาวญี่ปุ่น (คนกลาง ถือตุ๊กตาหมีสวมหมวกรับปริญญา ยืนอยู่หน้า NSTDC กับทีมแพทย์ หลังจากได้รับการรักษา BNCT สำหรับเนื้องอกในสมองที่ร้ายแรง (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหัว)

แพทย์ที่ดูแลการรักษา ได้แก่นายแพทย์ Yi-Wei Chen จากแผนกเนื้องอกวิทยาที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกไทเป (TVGH) เขากล่าวว่ามีเพียงไต้หวันและญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีศูนย์การแพทย์ที่ใช้การบำบัดด้วยการดักจับนิวตรอนโบรอน (BNCT) เพื่อรักษามะเร็ง อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นยังไม่อนุมัติให้ใช้วิธีการ BNCT รักษาเนื้องอกในสมอง ส่งผลให้ไต้หวันเป็นที่เดียวเท่านั้นในการรักษาเนื้องอกในสมองที่ร้ายแรงซึ่งรักษาได้ยากโดยการผ่าตัด

Chen กล่าวว่าผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น rhabdomyosarcoma ในช่องหูขวาเมื่ออายุได้ 6 ขวบ ซึ่งหลังจากการผ่าตัดและเคมีบำบัด อาการทรงตัวในชั่วขณะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เนื้องอกกลับมาอีกครั้งในปี 2561และเนื้องอกแพร่กระจายไปยังสมองส่วนหลัง หลังจากที่ตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกที่ปลอกประสาทส่วนปลายที่ร้ายแรง เธอได้รับการรักษาด้วยอนุภาคหนักและ CyberKnife ในญี่ปุ่น แต่เนื้องอกยังคงเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ

ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจมาไต้หวันเพื่อรับการรักษาแบบ BNCT และได้มาถึงที่นี่ในเดือนเมษายน 2564 ในเวลานั้นเนื้องอกมีขนาด 6-7 ซม. แต่หลังจากการฉายรังสีรอบแรกที่ศูนย์มะเร็ง THOR BNCT เนื้องอกของเธอลดลง 80% และ การกดทับที่คอของเธอก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก ส่งผลให้ทีมแพทย์พอใจมาก และเธอก็เดินทางกลับญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม พบสัญญาณการกลับเป็นซ้ำบางจุด และเธอได้รับคำแนะนำให้กลับไปไต้หวันเพื่อฉายรังสีรอบที่สอง

เธอได้ไปที่ศูนย์มะเร็ง THOR BNCT เพื่อรับการรักษาเมื่อวันที่ 17 กันยายน หลังจากการฉีดยาโบรอน-10 และการฉายรังสีนิวตรอนเป็นเวลา 20 นาที เธอได้ถ่ายรูปด้านหน้าอาคาร NSTDC  กับทีมแพทย์ที่ มอบตุ๊กตาหมีสวมหมวกรับปริญญาให้กับเธอเพื่ออวยพรให้เธอ "สำเร็จการศึกษา"จากการป่วยโรคมะเร็งโดยเร็ว หลังจากนั้น เธอกล่าวขอบคุณทีมแพทย์เป็นภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว

BNTCC ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ TVGH เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยกว่าร้อยรายจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงสเปน บราซิล ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน

BNCT เป็นการฉายรังสีแบบเจาะจงเป้าหมาย ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับยาที่ประกอบด้วยโบรอนในเบื้องแรก เมื่อยาสะสมในเนื้องอกแล้ว ลำแสงนิวตรอนจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะถูกใช้ในการฉายรังสีเนื้องอก และอนุภาคพลังงานสูงที่เกิดจากปฏิกิริยาการจับนิวตรอนของโบรอนจะฆ่าเซลล์เนื้องอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติที่อยู่ใกล้เคียง ดังนั้น BNCT จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรักษามะเร็งระยะแพร่กระจายและในกรณีที่มีข้อห้ามในด้านการผ่าตัด

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211125005795/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh

NTHU

(886)3-5162006

hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LightCON เปิดตัวเว็บไซต์ทีเซอร์ระดับโลกสำหรับเกมมือถือใหม่ ‘Rise of Stars (ROS)’

Logo

  • เปิดเว็บไซต์ทีเซอร์ทั่วโลกสำหรับชื่อใหม่ 'Rise of Stars (ROS)'
  • เกมกลยุทธ์ SF ที่พัฒนาบน WEMIX
  • ตั้งเป้าเปิดตัวทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ปี 2565

ซ็องนัม เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–26 พ.ย. 2564

Rise of Stars (ROS) เกมมือถือใหม่ที่พัฒนาโดย LightCON บริษัทลูกของ WEMADE MAX (ที่มี Hyunguk Chang กับ Gilhyung Lee เป็นซีอีโอร่วม:) (KOSDAQ: 101730) ได้เปิดเว็บไซต์ทีเซอร์ทั่วโลกแล้ว

LightCON unveils global teaser site for new mobile game 'Rise of Stars (ROS).' ROS is a new mobile SF strategy game featuring elaborately designed warships and planets set in the vast universe. Under the slogan, 'The 4x Blockchain Game for the Greatest Conqueror,' the teaser site was designed to help users experience the unique atmosphere of ROS and the game concept with the representative image of the game. ROS will be building a system for players to obtain game tokens through resource mining within planets. It aims for a global launch in the 1st quarter of 2022. (Graphic: Business Wire)

LightCON เปิดตัวเว็บไซต์ทีเซอร์ทั่วโลกสำหรับเกมมือถือใหม่ 'Rise of Stars (ROS)' ROS เป็นเกมกลยุทธ์ SF บนมือถือเกมใหม่ที่มีเรือรบและดาวเคราะห์ที่ออกแบบอย่างประณีตในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ภายใต้สโลแกน 'The 4x Blockchain Game for the Greatest Conqueror' โดยเว็บไซต์ทีเซอร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของ ROS และแนวคิดของเกมด้วยภาพลักษณ์ที่แสดงออกถึงเกม ทั้งนี้ ROS จะสร้างระบบสำหรับผู้เล่นเพื่อรับโทเค็นเกมผ่านการขุดทรัพยากรภายในดาวเคราะห์ มีเป้าหมายสำหรับการเปิดตัวทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 (กราฟิก: Business Wire)

ภายใต้สโลแกน 'เกมบล็อคเชน 4x สำหรับผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด' เว็บไซต์ทีเซอร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของ ROS และแนวคิดของเกมด้วยภาพลักษณ์ที่แสดงออกถึงตัวเกม

ROS เป็นเกมกลยุทธ์ SF บนมือถือเกมใหม่ที่มีเรือรบและดาวเคราะห์ที่ออกแบบอย่างประณีตในจักรวาลอันกว้างใหญ่

นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบที่สนุกสนาน เช่น เพื่อให้ผู้เล่นค้นหาดาวเคราะห์ที่มีทรัพยากรมากมายในกาแลคซี่ และเข้าร่วมในการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม นอกเหนือจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายอำนาจผ่านการทำสงครามครั้งใหญ่แบบเรียลไทม์

ในเวลาเดียวกัน ROS จะสร้างระบบสำหรับผู้เล่นเพื่อรับโทเค็นเกมผ่านการขุดทรัพยากรภายในดาวเคราะห์

ผ่านแอพพลิเคชั่นเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Wemade ทาง ROS จะแนะนำโทเค็นเกมใหม่และโทเค็นแบบ non-fungible token (NFT) บนแพลตฟอร์ม WEMIX

ROS จะให้บริการทั่วโลกภายใต้ชื่อ 'Rise of Stars on WEMIX' ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าการเปิดตัวบริการทั่วโลกจะประสบความสำเร็จในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ROS จะเปิดเผยข้อมูลเกมและเล่นวิดีโอตามลำดับหลังการเปิดตัวเว็บไซต์ทีเซอร์

* 'Rise of Stars' Teaser site: https://www.riseofstars.io

สามารถรับชมคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52536936/en

ติดต่อ:

สำหรับ LightCON

Wemade Co., Ltd.

Young Ahn

+82-2-3709-2065

ay2000@wemade.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation มุ่งมั่นที่จะป้องกันและยุติความรุนแรงทางเพศทั่วโลก

Logo

ความมุ่งมั่นสู่แนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศและความร่วมมือครั้งใหม่กับกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรี (UN Trust Fund to End Violence against Women) และ CARE ตอกย้ำพันธกิจของแบรนด์ในการปกป้องสตรีและเด็กผู้หญิงทั่วโลก

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2564

เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลที่กำลังจะมาถึงเพื่อรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงทางเพศเป็นเวลา 16 วัน Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ในวันนี้ประกาศคำมั่นสัญญาร่วมกันในการป้องกันและยุติความรุนแรงทางเพศโดยเข้าร่วมกลุ่มแนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศ ความมุ่งมั่นที่องค์กรต่าง ๆ ได้เปิดเผยต่อสาธารณะในระหว่างการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมล่าสุดขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ในกรุงปารีส เป็นเพียงแค่ขั้นตอนล่าสุดสตอรี่บิวตี้แบรนด์และกำลังด้านการกุศลที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้หญิงในทุก ๆ ที่

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211124005749/en/

Vesna Jaric, Officer-In- Charge, UN Trust Fund to End Violence against Women (Photo: Mary Kay Inc.)

Vesna Jaric เจ้าหน้าที่ดูแลกองทุน UN Trust Fund เพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรี (ภาพ: Mary Kay Inc.)

แนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศนำโดย UN Women และกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) ท่ามกลางผู้นำคนอื่น ๆ เป็นขบวนการระดับโลกที่ทรงพลังที่ระดมรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ การกุศล และภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การยุติความรุนแรงทางเพศผ่านการกระทำที่เป็นรูปธรรมสี่ประการ:

  • การสร้างนโยบายที่เอื้ออำนวยสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและทรัพยากร;
  • ขยายขนาดโปรแกรมป้องกันที่ขับเคลื่อนด้วยหลักฐาน;
  • ขยายบริการที่ครอบคลุม เข้าถึงได้ และมีคุณภาพสำหรับผู้รอดชีวิต
  • เปิดใช้งานและเพิ่มขีดความสามารถองค์กรอิสระที่นำโดยเด็กผู้หญิงและสิทธิสตรีเพื่อฝึกฝนความเชี่ยวชาญของพวกเขา

เป้าหมายของแนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศ คือการมีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมากกว่า 550 ล้านคน อาศัยอยู่ในประเทศที่มีกฎหมายและนโยบายของการยุติการใช้ความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบต่อสตรีและเด็กผู้หญิงภายในปี 2569 รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในระหว่างการประชุม UN Women มุ่งมั่นที่จะขยายการสนับสนุนและให้เงินช่วยเหลือแก่องค์กรด้านสิทธิสตรีด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อจัดหาเงินสนับสนุนขั้นต่ำที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อจัดสรรผ่านกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) ในอีกห้าปีข้างหน้า

“มีวิกฤตการณ์ระดับโลกเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ” Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Mary Kay Inc. และรองประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM กล่าว “ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงนั้นไม่ได้รับการรายงานเป็นจำนวนมาก แต่คาดว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงและ 1 ใน 4 ของเด็กผู้หญิงวัยรุ่นเคยประสบกับความรุนแรงทางร่างกายหรือทางเพศจากคู่รักที่สนิทสนม เราต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ปี 2543 มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้มอบเงินมากกว่า 58 ล้านดอลลาร์ให้กับที่พักพิงสำหรับความรุนแรงในครอบครัว ความมุ่งมั่นของเราต่อแนวร่วมปฏิบัติการว่าด้วยความรุนแรงทางเพศจะช่วยให้เราสามารถขยายความช่วยเหลือนั้นออกไปได้อีก”

“ตั้งแต่ปี 2506 Mary Kay ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงชีวิตของเด็กผู้หญิงและผู้หญิงในทุกที่” Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมกับรัฐบาล ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลกที่มีความปรารถนาคล้ายคลึงกันในคำมั่นสัญญาที่จะป้องกันและยุติความรุนแรงทางเพศ การบรรลุถึงความเท่าเทียมที่แท้จริงจะเปลี่ยนแปลงโลกตามที่เรารู้กัน การลงทุนในสตรีคือความดีที่ทรงอานุภาพที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย”

ปีที่แล้ว Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้ร่วมมือกับกองทุน United Nations Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) และ CARE ซึ่งเป็นสองผู้สนับสนุนสิทธิสตรีเพื่อสานต่อภารกิจเพื่อบรรลุโลกที่ปราศจากความรุนแรงต่อผู้หญิง

ตั้งแต่ปี 2539 กองทุน UN Trust Fund ได้สนับสนุนองค์กร 609 แห่งมูลค่ารวม 198 ล้านดอลลาร์ใน 140 ประเทศและภูมิภาค โดยลงทุนในนวัตกรรมและแนวทางแก้ปัญหาที่นำโดยประชาสังคมตามหลักฐาน และการริเริ่มที่เปลี่ยนแปลงชีวิตในระดับชาติและระดับท้องถิ่นผ่านการเป็นพันธมิตรกับกองทุน UN Trust Fund ซึ่ง Mary Kayได้สนับสนุนการระดมทุนโครงการที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อปกป้องผู้หญิงและเด็กผู้หญิงใน 68 ประเทศและภูมิภาคในปี 2564

ในปี 2564 กองทุน UN Trust Fund ครบรอบ 25 ปีของการให้ทุน การสนับสนุน และความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรสิทธิสตรี ในวันครบรอบการก่อตั้ง กองทุนขอเชิญชวนทุกคนให้ลงมือทำและเข้าร่วมโครงการผ่านการระดมทุน crowdfunding challenge #Give25forUNTF25 เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรสิทธิสตรีจะได้รับเงินทุนระยะยาวและยืดหยุ่นได้

“กองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women ซึ่ง Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้ร่วมมือกันเพื่อบรรลุความทะเยอทะยานของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 5 และยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงด้วยการรับประกันเงินทุนระยะยาว เป็นแกนหลัก และยืดหยุ่นเพื่อองค์กรสิทธิสตรีต่าง ๆ ทั่วโลกที่ตอบสนองต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่รอดชีวิตเป็นครั้งแรก” Vesna Jaric เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women กล่าว “ในขณะที่โลกยังคงประสบกับวิกฤตหลายครั้งและเกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอัตราการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงที่เพิ่มมากขึ้น การคุกคามต่อสิทธิสตรี การเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชนมีความสำคัญเท่าที่เคยมีมาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก”

CARE ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ทำงานทั่วโลกเพื่อช่วยชีวิต ขจัดความยากจน บรรลุความยุติธรรมทางสังคม และต่อสู้เพื่อสตรีและเด็กหญิง ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงเป็นจุดสนใจหลักของ CARE เนื่องจากหลักฐานแสดงให้เห็นว่าการจัดการกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศเป็นกุญแจสำคัญในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ การเอาชนะความยากจน และทำให้มั่นใจว่าทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมั่นคง ในปี 2563 Mary Kay ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรระดับโลกกับ CARE เพื่อสนับสนุนแคมเปญ Crisis Response Campaign ขององค์กร และมุ่งมั่นที่จะขจัดความรุนแรงทางเพศในทุก ๆ ที่ ซึ่งรวมถึงเกณฑ์การตั้งค่าด้านมนุษยธรรม

“เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่จะบรรลุความเท่าเทียมกัน เมื่อความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศคุกคามความปลอดภัยของพวกเขาทุกวัน” Michelle Nunn ประธานและซีอีโอของ CARE กล่าว “ทั่วทั้งโลกในกรณีของความรุนแรงทางเพศได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ด้วยมีการโทรเข้าสายด่วนเพิ่มขึ้น 5 เท่าในบางประเทศและผู้หญิงถูกกักขังอยู่กับผู้ล่วงละเมิด Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ร่วมมือกับ CARE เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถลดความเสี่ยงของความรุนแรงทางเพศและให้การดูแลที่ครอบคลุมสำหรับผู้รอดชีวิต ในช่วง 16 วันของกิจกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง เราขอร้องให้สาธารณชนเข้าร่วมกับเราในการตอบรับการโทรและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและสังคมเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงทั่วโลก”

Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ร่วมสนับสนุนสิทธิสตรีทั่วโลกในการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women และครบรอบ 75 ปีของ CARE

สาระสำคัญระดับโลกที่กำหนดโดยแคมเปญ UN Secretary-General’s UNiTE Campaign สำหรับกิจกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง 16 วัน ของปี 2564 เพื่อต่อต้านความรุนแรงทางเพศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ในหัวข้อ Orange the world: ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงเดี๋ยวนี้! หรือ Orange the world: End violence against women now!”

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ MaryKay.com

เกี่ยวกับมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM

เพื่อสานต่อความฝันของ Mary Kay Ash ในการส่งเสริมชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้ระดมทุนและทำการแจกจ่ายเพื่อลงทุนในการวิจัยโรคมะเร็งเพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่มักเกิดกับผู้หญิง และเพื่อยุติผลกระทบความรุนแรงต่อผู้หญิงภายในประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา มูลนิธฺ Mary Kay FoundationSM ได้มอบเงินบริจาคมากกว่า 80 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานสอดคล้องกับพันธกิจของมูลนิธิโดยให้ความสำคัญอย่างเท่ากัน นอกเหนือจากนั้นมูลนิธิยังสนับสนุนโครงการสร้างการรับรู้ โครงการเข้าถึงชุมชน และการสนับสนุนช่วยเหลือการร่างกฏหมายเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพดีและปลอดภัย พร้อมกันนั้นก็สร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับผู้หญิง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ความรู้ การสนับสนุน อาสาสมัคร และการบริจาค รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือชีวิตเพื่อสร้างแรงผลักดันแก่ผู้หญิง กรุณาเยี่ยมชม marykayfoundation.org ค้นหาเราได้ทาง Facebook และ Instagram หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับ United Nations Trust Fund to End Violence against Women

กองทุน United Nations Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) ซึ่งบริหารจัดการโดย UN Women ในนามของระบบ UN system เป็นการให้ทุนระดับโลกเพียงกลไกเดียวที่อุทิศให้กับการขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงในทุกรูปแบบโดยเฉพาะ ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้สนับสนุนองค์กร 609 แห่ง ลงทุนในโซลูชั่นที่นำโดยภาคประชาสังคมที่เป็นนวัตกรรมและอิงตามหลักฐาน และโครงการที่เปลี่ยนแปลงชีวิต โครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนมุ่งเน้นไปที่การป้องกันความรุนแรง การนำกฎหมายและนโยบายไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขและยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และการปรับปรุงการเข้าถึงบริการที่จำเป็นสำหรับผู้รอดชีวิต เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ untf.unwomen.org  และติดตามเราบน FacebookInstagram และ Twitter

เกี่ยวกับ CARE

CARE ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 โดยมีการสร้าง CARE Package® เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมชั้นนำที่ต่อสู้กับความยากจนทั่วโลก CARE มีประสบการณ์มากกว่าเจ็ดทศวรรษในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินในช่วงวิกฤต การตอบสนองวิกฤตการณ์ของเรามุ่งเน้นไปที่ความต้องการของกลุ่มประชากรที่เปราะบางที่สุดโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงและผู้หญิง ซึ่งปีที่แล้ว CARE ทำงานใน 100 ประเทศและเข้าถึงผู้คนเกือบ 70 ล้านคนทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.care.org

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211124005749/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย








Milrem Robotics นำกลุ่ม iMUGS Consortium สาธิตการใช้งานระบบไร้คนขับ

Logo

อะดาชิ ลัตเวีย–(บิสิเนสไวร์)–24 พ.ย. 2564

iMUGS Consortium ซึ่งรับผิดชอบโครงการ 32,6 MEUR ที่พัฒนาระบบภาคพื้นดินไร้คนขับมาตรฐานยุโรป (UGS) ได้สาธิตการใช้เครือข่ายการสื่อสารทางยุทธวิธี 4G/5G และ UGS ที่ติดตั้ง ISR และเครื่องกระจายข้อมูลข่าวกรอง เครื่องสกัดเรดาร์ เซ็นเซอร์อะคูสติก และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจ

Two THeMIS UGVs during the iMUGS Demonstration. One THeMIS UGV is equipped with an Intelligence, surveillance, and reconnaissance (ISR) payload, Signal Intelligence antenna (SIGINT), Rheinmetall’s Rapid Obscuring System (ROSY) Smoke Grenade Launcher, Bittium’s Vehicular Software Defined Radios), and FN Herstal’s deFNder Light Remote Weapon Station (RWS). The second THeMIS, used as a mule for transporting the squad’s equipment, is equipped with Rantelon’s Improvised Explosive Device (IED) Jammer and Bittium’s Tough SDR Vehicular. (Photo: Business Wire)

THEMIS UGV สองคันในระหว่างการสาธิต iMUGS THeMIS.  UGV หนึ่งคันมาพร้อมกับข้อมูลข่าวสาร การเฝ้าระวัง และการลาดตระเวน (ISR), เสาอากาศสัญญาณอัจฉริยะ (SIGINT), Rheinmetall's Rapid Obscuring System (ROSY) เครื่องยิงระเบิดควัน ระบบสื่อสารวิทยุ Bittium’s Vehicular Software Defined Radios และอาวุธ FN Herstal's deFNder Light Remote Weapon สถานี (RWS).  THeMIS คันที่สองซึ่งใช้เป็นล่อสำหรับขนส่งยุทโธปกรณ์ของทีม ได้ติดตั้งระบบ Jammer Improvised Explosive Device (IED) ของ Rantelon และยานพาหนะ Tough SDR ของ Bittium (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

การสาธิตได้ดำเนินการในเดือนกันยายนในลัตเวีย นำโดย LMT ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มบริษัท integrated Modular Unmanned Ground System (iMUGS) โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ประสานงานโครงการ Milrem Robotics และนำเสนอเทคโนโลยีต่างๆ ที่หลากหลาย

กองกำลังติดอาวุธแห่งชาติลัตเวียใช้ยานพาหนะไร้คนขับ THeMIS (UGV) ของ Milrem Robotics สองคันในสองสถานการณ์เพื่อแสดงประโยชน์ของการร่วมทีมกับหน่วยควบคุมด้วยระบบไร้คนขับ THEMIS UGV สองคันในระหว่างการสาธิต iMUGS THeMIS.  UGV หนึ่งคันมาพร้อมกับข้อมูลข่าวสาร การเฝ้าระวัง และการลาดตระเวน (ISR), เสาอากาศสัญญาณอัจฉริยะ (SIGINT), Rheinmetall's Rapid Obscuring System (ROSY) เครื่องยิงระเบิดควัน ระบบสื่อสารวิทยุ Bittium’s Vehicular Software Defined Radios และอาวุธ FN Herstal's deFNder Light Remote Weapon สถานี (RWS)  การใช้งาน RWS เป็นส่วนหนึ่งของการสาธิต แต่ไม่ใช่ของโครงการ iMUGS เอง

THeMIS คันที่สองซึ่งใช้เป็นล่อสำหรับขนส่งอุปกรณ์ของทีม ได้รับการติดตั้ง Improvised Explosive Device (IED) ของ Rantelon และ Tough SDR Vehicular ของ Bittium.  UGV ใช้เครือข่ายการสื่อสารทางยุทธวิธีของ Bittium TAC WIN ร่วมกับ 4G เชิงพาณิชย์ของ LMT และ 5G-SA bubble ทางยุทธวิธีที่ Bittium และ Cumucore จัดหาให้

นอกจากนี้ ได้ใช้งานยานพาหนะเคลื่อนที่ของทหารราบ Dingo ของ Krauss-Maffei Wegmann (KMW) เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการจากที่ซึ่งใช้งาน UGV ในโหมด Line of Sight (LOS) และ Beyond the Line of Sight (BLOS) โดยใช้วิทยุ SDR ของ Bittium และฟีดเซ็นเซอร์ ISR และ Signal Intelligence ถูกถ่ายทอดและรวมเข้ากับระบบการจัดการการต่อสู้ของ LMT Viedsargs

“สถานการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าระบบไร้คนขับ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบสื่อสารที่เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีการป้องกันต่างๆ สามารถใช้สำหรับการรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลยุทธวิธี ปรับปรุงการรับรู้สถานการณ์ ลดภาระทางกายภาพของทหาร และเพิ่มการป้องกันกำลัง” Kuldar Väärsi ซีอีโอของ Milrem Robotics

''เป็นครั้งแรกที่ใช้เครือข่ายพิเศษกับเครือข่ายยุทธวิธีเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G แบบสแตนด์อโลน ทำให้สามารถสื่อสารระหว่างหน่วยและหุ่นยนต์ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์และการวางข้อมูลนี้ลงในระบบการจัดการการต่อสู้ของ LMT Viedsargs" Ingmars Pukis รองประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ LMT กล่าว

อุปกรณ์เพิ่มเติมที่ใช้ในการสาธิตได้แก่: SRC Brasa ของ NATRIX UGV ใช้สำหรับ CASEVAC โดรนความเร็วสูง UAV STAR แบบ Vertical Take-off, and Landing และการตรวจสอบกระสุนปืนและการรับรู้แหล่งที่มาเซ็นเซอร์เสียงโดย Riga Technical University (RTU)

โครงการ iMUGS เปิดตัวในปี 2563 เพื่อพัฒนาสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้สำหรับระบบไร้คนขับแบบไฮบริดโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับระบบนิเวศทั่วทั้งยุโรปสำหรับแพลตฟอร์มภาคพื้นดิน อุปกรณ์สั่งการ ควบคุมและสื่อสาร เซ็นเซอร์ น้ำหนักบรรทุก และอัลกอริธึม การจัดการกับความท้าทายในการปฏิบัติงาน ได้แก่ ความสามารถในการทำงานร่วมกันที่เพิ่มขึ้น การรับรู้สถานการณ์ที่เพิ่มขึ้น และการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น

ระบบจะใช้ UGV – Milrem Robotic THEMIS ที่มีอยู่และรายการเฉพาะของเพย์โหลด

จะมีการสาธิตความคืบหน้าของโครงการรวมหกครั้ง “จนถึงตอนนี้ Milrem Robotics และ LMT Innovations ได้สร้างมาตรฐานที่สูงมาก ซึ่งหมายความว่าเรามีสิ่งที่ยอดเยี่ยมรออยู่ เนื่องจากผลลัพธ์หลักของโครงการ iMUGS ยังไม่ปรากฏให้เห็น" Martin Jõesaar Estonian Center for Defence Investments ตัวแทนของประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมในโครงการ iMUGS กล่าว การสาธิตครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ในประเทศฟินแลนด์

iMUGS เป็นความร่วมมือระหว่าง 13 ฝ่าย: Milrem Robotics (ผู้ประสานงานโครงการ), Bittium, Diehl Defence, dotOcean, GMV Aerospace and Defense, Insta Advance, Krauss-Maffei Wegmann, Latvijas Mobilais Telefons (LMT), NEXTER Systems, Royal Military Academy of Belgium, Safran Electronics & Defense, Sol.One และ Talgen Cybersecurity

ชมตัวอย่าง 2 สถานการณ์ได้ที่นี่:

https://www.youtube.com/watch?v=-_iLCV3Ob2I

https://www.youtube.com/watch?v=HbK_ixrTuWU

ติดต่อ:

Gert Hankewitz
Milrem Robotics
gert.hankewitz@milrem.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter