“Free2Move eSolutions” เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง Stellantis และ ENGIE EPS เพื่อสร้างผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการ E-mobility ชั้นนำระดับโลกแห่งใหม่

Logo

ปารีส & ตูริน ประเทศอิตาลี–(บิสิเนสไวร์)–31 มี.ค. 2564

ข่าวกฎข้อบังคับ:

ในก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จของโครงการร่วมทุนตามที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564, Stellantis และ Engie EPS (Paris: EPS) ได้ประกาศองค์รายชื่อคณะกรรมการและชื่อบริษัทของ หน่วยงานใหม่:

Free2Move eSolutions มุ่งสนับสนุนและลดความสะดวกในการเปลี่ยนไปสู่ความคล่องตัวทางไฟฟ้าด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมและปรับแต่งได้สำหรับทั้งภาคเอกชนและนักธุรกิจของห่วงโซ่คุณค่า

มีบทบาทในการสนับสนุนการมีความคล่องตัวในราคาที่ประหยัดและสะอาด

ทุกสายผลิตภัณฑ์ขอบเขตของกิจกรรม Free2Move eSolutions จะครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ (การติดตั้ง การให้บริการ และการดำเนินการ) ระบบสมาชิกการชาร์จไฟสาธารณะและที่บ้านด้วยค่าบริการรายเดือน ไปจนถึงวงจรใช้งานแบตเตอรี่ การจัดการการและบริการพลังงานขั้นสูง เช่นการผสานรวม Vehicle-to-Grid (V2G) และโซลูชันการจัดการพลังงานเพื่อลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของรถยนต์

การร่วมทุนระหว่าง Stellantis และ Engie EPS จะทำให้การเข้าถึง e-mobility ง่ายขึ้นและจะเสริมพอร์ตโฟลิโอปัจจุบันของ Free2Move ด้วยชุดข้อเสนอใหม่สำหรับการเคลื่อนที่ด้วยไฟฟ้า 100%

Free2Move (ส่วนหนึ่งของ Stellantis Group) เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้นในปี 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความซับซ้อนและรับประกันความคล่องตัวสำหรับทั้งลูกค้าส่วนตัวและธุรกิจด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เข้ากับทุกความต้องการทุกที่ทุกเวลาตั้งแต่ 1 ชั่วโมง 1 วันถึง 1 เดือนขึ้นผ่านแพลตฟอร์มเดียว  นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนการเปลี่ยนถ่ายพลังงานและการจัดการยานพาหนะสำหรับมืออาชีพ

บริษัทใหม่นี้ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทนานาชาติและได้รับการสนับสนุนจากทีมงานที่มีทักษะและความรู้เฉพาะในด้านการออกแบบ พัฒนา ผลิต ขนส่ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเคลื่อนย้ายไฟฟ้าที่เรียบง่ายและเป็นนวัตกรรมใหม่ทั่วยุโรป โดยมีศักยภาพและมีแผนสำหรับการขยายธุรกิจระหว่างประเทศในอนาคต

คณะกรรมการของ Free2Move eSolutions

คณะกรรมการของ Free2Move eSolutions จะประกอบด้วยสมาชิก 6 คนโดยขึ้นอยู่กับการเสร็จสิ้นการร่วมทุน  Roberto Di Stefano ซึ่งเป็นตัวแทนของ Stellantis จะดำรงตำแหน่งซีอีโอและ Carlalberto Guglielminotti จาก Engie EPS และ Young Global Leader 2020 ของ World Economic Forum จะเป็นประธาน  สมาชิกคณะกรรมการท่านอื่นๆ ได้แก่ Brigitte Courtehoux (CEO ของ Free2Move Brand และสมาชิกของ Stellantis 'Global Executive Committee) และ Davide Mele (รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Enlarged Europe) จาก Stellantis กับ Luigi Michi (เดิมคือหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และระบบ การดำเนินงานใน Terna และรองประธานบริหารใน Enel) และ Giovanni Ravina (ประธานเจ้าหน้านวัตกรรม) ซึ่งเป็นตัวแทนของ Engie EPS

หลังจากการอนุมัติจากคณะกรรมการการต่อต้านการผูกขาดทั้งหมดแล้ว คาดว่าการร่วมทุนจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสที่สองของปี 2564

เกี่ยวกับ Engie EPS

Engie EPS เป็นเทคโนโลยีและผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมในกลุ่ม ENGIE ซึ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อปฏิวัติระบบพลังงานโลกไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียนและการเคลื่อนย้ายไฟฟ้า  โดยจดทะเบียนในตลาดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Euronext Paris (EPS.PA), Engie EPS เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีทางการเงิน CAC® Mid & Small และ CAC® All-Tradable  สำนักงานจดทะเบียนตั้งอยู่ในปารีสโดยกิจกรรมวิจัยพัฒนาและการผลิตตั้งอยู่ในอิตาลีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: www.engie-eps.com

ติดตามเราได้ที่ LinkedIn

เกี่ยวกับ Stellantis

Stellantis เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกและเป็นผู้ให้บริการด้านการเคลื่อนที่โดยมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน: เพื่อมอบอิสระในการเคลื่อนไหวด้วยโซลูชันการเคลื่อนที่ที่โดดเด่น ราคาไม่แพง และเชื่อถือได้  นอกเหนือจากประวัติอันยาวนานของกลุ่มบริษัทและการมีอยู่ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กว้างขวางแล้ว จุดแข็งที่สำคัญที่สุดของกลุ่มอยู่ที่ผลการดำเนินงานที่ยั่งยืน ประสบการณ์เชิงลึก และความสามารถที่หลากหลายของพนักงานที่ทำงานอยู่ทั่วโลก  Stellantis จะใช้ประโยชน์จากพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ที่กว้างขวางซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยผู้มีวิสัยทัศน์ที่หลอมรวมความรักและจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันแก่พนักงานและลูกค้า  Stellantis มุ่งสู่ความยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ขนาดใหญ่ที่สุด โดยจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงชุมชนที่ตนดำเนินการอยู่

Twitter: @Stellantis | Facebook: Stellantis | LinkedIn: Stellantis | YouTube: Stellantis

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210331005421/en/

Engie EPS
สื่อติดต่อ
สำนักข่าว: Simona Raffaelli, Image Building, +39 02 89011300, eps@imagebuilding.it 

Corporate and Institutional Communication (ฝ่ายสื่อสารองค์กร): Cristina Cremonesi, +39 345 570 8686, ir@engie-eps.com

Stellantis
สื่อติดต่อ
Marco Belletti, +39 334 6004837, marco.belletti@stellantis.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Global Youth Problem-Solvers ประกาศเป็นผู้ชนะของ Mary Kay Inc. ที่สนับสนุน NFTE World Series of Innovation Challenge

Logo

World Series of Innovation Challenge ของ NFTE ซึ่งเป็นการศึกษาระดับโลก และประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการ ได้เชิญชวนเยาวชนให้แก้ปัญหาที่ท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยเผชิญหน้ากับโลกของเราและช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–31 มีนาคม 2564

Mary Kay Inc. เป็นผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำในการเสริมสร้างศักยภาพและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงได้ประกาศในวันนี้สำหรับผู้ชนะ 3 อันดับแรกของ World Series of Innovation (WSI) Challenge ร่วมกับ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) ในปีแรกที่ร่วมมือกับ NFTE โดย Mary Kay ได้ให้การสนับสนุนงาน 2020 NFTE World Series of Innovation ซึ่งเป็นประสบการณ์ด้านการศึกษาระดับโลกที่เชิญชวนให้เยาวชนอายุ 13-24 ปีใช้ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหาเพื่อค้นหาวิธีในการแก้ไขปัญหาสำหรับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เผชิญอยู่ในโลกปัจจุบันและยังช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมวิธีคิดของผู้ประกอบการ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210331005187/en/

Mary Kay sponsors Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge to inspire young entrepreneurs to solve the world’s most pressing problems. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ผู้สนับสนุน Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในการแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดในโลก (ภาพ: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay สนับสนุนให้เยาวชนจากทั่วโลก ยื่นเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 12: การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ ในทั่วโลกคาดว่า 80% ของสิ่งทอที่ถูกทิ้งจะถูกฝังกลบในหลุมฝังกลบ สถิติดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอเป็นอันดับที่ 2 ในรายชื่ออุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษเลวร้ายที่สุดรองจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สำหรับความท้าทายนี้ นักเรียนได้ถูกขอให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการหรือความคิดริเริ่มที่จะสร้าง “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ที่ช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลเครื่องแบบ และ/หรือเสื้อผ้าใช้แล้วอื่น ๆ ลดของเสียที่ต้องฝังกลบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการย่อยสลายสิ่งทอ

ผู้ชนะทั้งสามของ Mary Kay’s Challenge ได้แก่:

  • อันดับที่หนึ่ง: Loop Tee Loop

o        Loop Tee Loop เป็น clothing loop แบบยั่งยืนที่รวมโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไลโอเซลล์เข้ากับการบริการรีไซเคิลเครื่องแบบจากมหานครมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์

  • อันดับที่สอง: SwagSwap

o        SwagSwap เป็นเครือข่ายโซเชียลในสหรัฐอเมริกาสำหรับเสื้อผ้ามือสอง โดยเปิดการใช้งานการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ peer-to-peer สำหรับวัยรุ่น

  • อันดับที่สาม: Project DBrand

o        Project DBrand เป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง de-brands เครื่องแบบที่ใช้แล้ว เพื่อว่าพวกเขาสามารถนำไปรีไซเคิลสร้างสิ่งใหม่ได้ในสหรัฐอเมริกา

 “วันนี้นักเรียนเติบโตมาในโลกแห่งความยั่งยืน โดยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การสนทนาทั่วโลก และพวกเขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเพื่อผลักดันในการเปลี่ยนแปลงนี้”  Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “Mary Kay ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ NFTE องค์กรที่ไม่เพียงช่วยจุดประกายความคิดของผู้ประกอบการในวัยหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้พวกเขาคิดวิเคราะห์เพื่อจัดการกับปัญหาระดับโลกที่ท้าทายอีกด้วย บริษัทระดับโลกอย่างเช่น Mary Kay มีความรับผิดชอบในการส่งเสริมนวัตกรรมของผู้ประกอบการที่สามารถช่วยทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นไป”

NFTE เป็นองค์กรการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของการเป็นผู้ประกอบการมาสู่เยาวชนในชุมชนที่มีรายได้น้อย World Series of Innovation (WSI) Challenge ได้เชิญชวนความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ด้วยการเข้าถึงนักเรียน 100,000 คนทั่วโลก ในปี 2020 NFTE ได้รับนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 4,000 คนจากทุกภูมิหลังที่ยื่นส่งแนวคิดใน WSI Challenges และนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 350 คน ที่ได้รับจาก Mary Kay-sponsored challenge

 “World Series of Innovation ส่งเสริมให้เยาวชนในการใช้วิธีคิดของผู้ประกอบการเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก”  J.D. LaRock ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NFTE กล่าว “ในแต่ละปี เรายังคงได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดสร้างสรรค์ที่ผู้ประกอบการรุ่นต่อไปที่คาดเดาไม่ถึง เรารู้สึกขอบคุณ Mary Kay Inc. ได้แสดงความท้าทายระดับโลกที่ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนได้คิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนของเสื้อผ้าและสิ่งทอในรูปแบบใหม่”

นอกเหนือจาก World Series of Innovation ดังกล่าวแล้ว Mary Kay ยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน United Nations Global Goals Conversation ของ NFTE ในปี 2020 ซึ่งเป็นกิจกรรมผู้นำทางความคิดประจำปีที่รวม เยาวชน อุตสาหกรรม องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และการกุศล เพื่อพัฒนาบทสนทนาเกี่ยวกับโซลูชันการประกอบการเพื่อสังคม ซึ่งจัดขึ้นในช่วง Global Entrepreneurship Week หัวข้อของการอภิปรายคือ “การมีส่วนร่วมให้ผู้ประกอบการคิดค้นและดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ต่อสังคม” ผู้ร่วมอภิปรายได้อภิปรายถึงวิธีการใหม่ ๆ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก เช่น การว่างงาน ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความไม่สงบในสังคมที่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมกันและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในโลกหลัง COVID ซึ่ง UN Global Goals Conversation 2020 นำเสนอโดย Citi Foundation, Ernst & Young LLP (EY) และ Mary Kay Inc. พร้อมการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก Bank of the West BNP Paribas

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด โปรดไปที่ https://innovation.nfte.com.

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆจากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็กๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

เกี่ยวกับ NFTE

Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพสูงแก่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากชุมชนที่มีทรัพยากรน้อย รวมถึงโปรแกรมสำหรับนักศึกษาและผู้ใหญ่ NFTE เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 70,000 คนต่อปี ใน 25 รัฐ ทั่วสหรัฐอเมริกา และเปิดสอนโปรแกรมในอีก 12 ประเทศเพิ่มเติม เราได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนมากกว่าหนึ่งล้านคนผ่านช่องทางในโรงเรียน นอกโรงเรียน วิทยาลัย และค่ายฤดูร้อน ที่เปิดสอนโดยตรงและทางออนไลน์ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราส่งเสริมระบบทุนนิยมรอบด้าน และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลาย โปรดไปที่ www.nfte.com

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210331005187/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การมีส่วนร่วมเชิงรุกในห่วงโซ่มูลค่าโลกเป็นเส้นทางการพัฒนาที่แนะนำเพื่อสปป. ลาว กล่าวรายงานโดยศูนย์อาเซียน – ญี่ปุ่น เผยแพร่วันนี้

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 มีนาคม 2564

สปป. ลาว เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและเกี่ยวข้องกับการผลิตที่ด้อยพัฒนา ประเทศจำเป็นต้องได้รับเทคโนโลยีและความรู้เพิ่มเติมในด้านการเกษตร การผลิตและการบริการทางด้านการผลิต โดยการขยายมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลก (GVCs) กล่าวคือห่วงโซ่มูลค่าโลกในอาเซียน: สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (https://www.asean.or.jp/en/centre-wide-info/gvc_database_paper5/) เผยแพร่โดยศูนย์อาเซียน – ญี่ปุ่น (AJC) วันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210330006159/en/

“Global Value Chains in ASEAN: Lao People’s Democratic Republic” is available for download on AJC website. (Graphic: Business Wire)

 “ห่วงโซ่มูลค่าโลกในอาเซียน: สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ AJC (กราฟิก: Business Wire)

รายงานนี้ยังจัดทำขึ้นในบริบทของการเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น – ลาว

การมีส่วนร่วมของ GVC อยู่ในระดับต่ำดังที่แสดงโดยการมีส่วนแบ่งเนื้อหาจากต่างประเทศหรือมูลค่าเพิ่มจากต่างประเทศ (FVA) เพียงเล็กน้อยในมูลค่าการส่งออกรวม ซึ่งมีเพียง 6% มูลค่าเพิ่มภายในประเทศ (DVA) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94 เนื่องจากผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มส่วนใหญ่ใช้ทรัพยากรเป็นฐาน (เช่น แร่ทองแดง ไฟฟ้า) และไม่ต้องใช้ปัจจัยการผลิตจากบริษัทต่างประเทศ

สปป. ลาว ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีสินค้าที่ผลิตได้จำกัด ภาคการผลิตเป็นผู้นำในการมีส่วนร่วมของ GVC แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าในประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ตามมาด้วยภาคการสกัด (เกษตรกรรมและเหมืองแร่) จากนั้นภาคการบริการ การมีส่วนร่วมที่ต่ำใน GVC แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศยังไม่ถึงขั้นตอนการผลิตทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเหมือนในประเทศสมาชิกอาเซียนขั้นสูงหลายประเทศ

ประเทศไทย จีน และเวียดนาม เป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในลาว FVA ในขณะที่สหภาพยุโรป (EU) และญี่ปุ่นมีบทบาทน้อยกว่า ประเทศเหล่านี้ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักในการเพิ่มมูลค่าเพิ่มของลาวที่รวมอยู่ในสินค้าส่งออกของประเทศอื่น ๆ (DVX) ส่วนแบ่งเล็กน้อยของ FVA บ่งชี้ว่าสปป. ลาวนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสำหรับการผลิตน้อยลง และเพื่อการบริโภคมากขึ้น บริษัทที่ตั้งอยู่ในสปป. ลาวที่เกี่ยวข้องกับ GVC ยังมีจำนวนจำกัด

เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของ GVC และการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปในเชิงบวก การมีส่วนร่วมใน GVC เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจของลาวแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขยายการมีส่วนร่วมของ GVC และยกระดับอุตสาหกรรมโดยการส่งเสริมปัจจัยการมีส่วนร่วมที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ โลจิสติกส์ นโยบาย ความสามารถในการเข้าถึงตลาด และแรงงานและการระดมทุน เพื่อกระจายผลประโยชน์ให้ทั่วถึง รัฐบาลควรปรับปรุงการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน

หากต้องการรับชมและดาวน์โหลดรายงาน โปรดไปที่เว็บไซต์ AJC ด้านล่าง
https://www.asean.or.jp/en/centre-wide-info/gvc_database_paper5/

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210330006159/en/

ติตด่อ:

ASEAN-Japan Centre (AJC) PR Unit
Tomoko Miyauchi (MS)
URL: https://www.asean.or.jp/en/
TEL: +81-3-5402-8118
E-mail: toiawase_ga@asean.or.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Walgreens ประกาศขยายเพิ่มกลยุทธ์ธุรกิจบริการด้านการเงินด้วย InComm Payments

Logo

Walgreens เสนอบัญชีธนาคารรูปแบบใหม่พร้อมบัตรเดบิตมาสเตอร์การ์ดที่ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม InComm Payments

InComm Payments เพื่อยกระดับโปรแกรมบัตรของขวัญแบรนด์ Walgreens

เดียร์ฟีลด์ อิลลินอยส์ และ แอตแลนตา–(BUSINESS WIRE)–30 มีนาคม 2564

วันนี้ Walgreens ได้ประกาศข้อตกลงกับ InComm Payments ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีการชำระเงินชั้นนำระดับโลก โดยมอบตัวเลือกบริการทางด้านการเงินที่สะดวกและเข้าถึงได้ให้กับลูกค้า บริษัทจะเปิดตัวบัญชีธนาคารรูปแบบใหม่ที่เสนอให้กับลูกค้าที่จะจัดตั้งขึ้นที่ MetaBank * ด้วยบัตรเดบิตมาสเตอร์การ์ดที่จะให้บริการแก่นักช้อปของ Walgreens ทั้งในร้านค้าและทางออนไลน์และช่วยให้พวกเขาได้รับรางวัล myWalgreens Cash จากการซื้อสินค้าทั้งหมดโดยเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมความภักดีของลูกค้า myWalgreens ในรูปแบบใหม่ซึ่งได้เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา

ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การทำกำไรทางเลือกของ Walgreens และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ประกาศความคิดริเริ่มที่กว้างขึ้น ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ ๆ ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการนำเสนอบริการและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างให้กับลูกค้า โซลูชันการธนาคารรูปแบบใหม่จะช่วยเสริมแผนการของ Walgreens ในการมุ่งเน้นด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีต่อไปและยกระดับโปรแกรมความภักดีและการปรับเปลี่ยนในแบบของลูกค้า โซลูชันนี้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งที่ทันสมัยของ InComm Payments นักช้อปของ Walgreens จะสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ในร้านค้าหรือลงทะเบียนโดยตรงทางออนไลน์จากนั้นสามารถจัดการด้านการเงินในชีวิตประจำวันของพวกเขาได้อย่างง่ายดายในแอปธนาคารบนมือถือใหม่ที่ใช้งานง่าย บัญชีธนาคารดังกล่าวคาดว่าจะสามารถใช้ได้ที่ร้านค้าและทางออน์ไลน์ของ Walgreens เกือบ 9,000 แห่ง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

 “Walgreens มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าเกี่ยวกับความต้องการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีและเรายินดีที่จะขยายบริการทางด้านการเงินของเราเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และวิธีที่เราตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น”  John Standley ประธาน Walgreens กล่าว “เราหวังว่าจะได้บุกเบิกและแนะนำโครงการด้านสุขภาพและการชำระเงินเพื่อความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้พร้อมกับสร้างช่องทางรายได้ใหม่ ๆ ”

 “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Walgreens ได้เลือกโซลูชันบริการทางด้านการเงินของ InComm Payments เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้กับลูกค้าและชุมชน”  Stefan Happ ประธานของ InComm Payments กล่าว “การนำเสนอผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่นี้จะทำให้ Walgreens เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับบริการทางด้านการเงิน โดยสร้างจากชื่อเสียงของ Walgreens ในฐานะร้านค้าแบบครบวงจร (one-stop shop) สำหรับร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ”

นอกจากนี้ Walgreens และ InComm Payments มีแผนที่จะเปิดตัวโปรแกรมบัตรของขวัญแบรนด์ Walgreens อีกครั้ง InComm Payments จะดูแลการจัดการโปรแกรมบัตรของขวัญที่มีอยู่แล้วของ Walgreens โดยเปิดตัวบัตรของขวัญดิจิทัลของ Walgreens และเปิดใช้งานการซื้อสินค้าและแลกของกำนัลแบบดิจิทัลบน walgreens.com InComm Payments ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการกระจายบัตรของขวัญ Walgreens ให้กว้างขึ้นผ่าน B2B โปรแกรมความภักดี รางวัลและช่องทางอีคอมเมิร์ซ การขยายตัวนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการเป็นหุ้นส่วน 12 ปีของ InComm Payments และ Walgreens ในขณะที่ยกระดับแบรนด์ Walgreens และประสบการณ์ของลูกค้าทั้งในร้านค้า ออนไลน์ และผ่านมือถือ

* บัญชีธนาคารจะเป็นบัญชีเงินฝากตามความต้องการที่จัดตั้งขึ้นโดยมีบัตรเดบิตที่ออกโดยMetaBank®, N.A. สมาชิก FDIC ตามใบอนุญาตของ Mastercard International Incorporated

เกี่ยวกับ Walgreens

Walgreens (www.walgreens.com) รวมอยู่ในแผนก Retail Pharmacy USA ของ Walgreens Boots Alliance, Inc. (Nasdaq: WBA) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านร้านขายยาในรูปแบบขายปลีกและขายส่ง ในฐานะร้านขายยา บริษัทดูแลสุขภาพและความงาม ที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในอเมริกา Walgreens มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชุมชนในอเมริกา โดยดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกมากกว่า 9,000 แห่งทั่วอเมริกา เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา Walgreens ภูมิใจที่จะเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพในบริเวณใกล้เคียงที่ให้บริการลูกค้าประมาณ 8 ล้านคนในแต่ละวัน เภสัชกรของ Walgreens แสดงบทบาทที่สำคัญในระบบการดูแลสุขภาพของสหรัฐอเมริกา โดยให้บริการร้านขายยาและบริการด้านการดูแลสุขภาพที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้ป่วยให้ดีที่สุด Walgreens นำเสนอประสบการณ์ในทุกช่องทางโดยมีแพลตฟอร์มที่รวบรวมทางกายภาพและดิจิทัลเข้าด้วยกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงในชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ

เกี่ยวกับ InComm Payments

InComm Payments เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการชำระเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแบบไดนามิกและความเชี่ยวชาญที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว InComm Payments นำเสนอแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบ end-to-end ที่ได้รับการยกระดับและโซลูชันเทคโนโลยีทางการเงินที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรมรวมถึงการค้าปลีก การดูแลสุขภาพ การเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางและการขนส่ง เงินจูงใจ การชำระเงินผ่านมือถือ และบริการทางด้านการเงิน ด้วยการเปิดใช้งานการเชื่อมต่อในทุกช่องทางกับฐานผู้บริโภคที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระบบนิเวศดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น InComm Payments จะสร้างประสบการณ์การค้าที่ราบรื่นและมีประโยชน์ทั่วโลก ด้วยประสบการณ์มากกว่า 27 ปี การจัดจำหน่ายมากกว่า 500,000 จุด ถือสิทธิบัตรทั่วโลก 386 รายการ และปรากฎอยู่ในกว่า 30 ประเทศ InComm Payments เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการชำระเงินจากสำนักงานใหญ่ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.InCommPayments.com

เกี่ยวกับ MetaBank®, N.A.

MetaBank®, N.A. เป็นธนาคารแห่งชาติในเครือของ Meta Financial Group, Inc.® (Nasdaq: CASH) และบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น ตั้งอยู่ในเซาท์ดาโกตา MetaBank ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านการเงินที่ประกอบธุรกิจเพื่อเพิ่มความพร้อมทางด้านการเงิน ทางเลือก และโอกาสสำหรับทุกคน MetaBank มุ่งมั่นที่จะขจัดอุปสรรคที่สถาบันดั้งเดิมได้วางไว้ในการเข้าถึงทางการเงิน และส่งเสริมความคล่องตัวทางเศรษฐกิจด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง ซึ่งมีส่วนทำให้เข้าถึงบุคคลและชุมชนซึ่งเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจที่แท้จริง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.metapay.com หรือ www.metafinancialgroup.com

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210330005424/en/

ติดต่อ:

Walgreens
Emily Hartwig-Mekstan
media@walgreens.com

InComm Payments
Nilce Piccinini
npiccinini@incomm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Ripple เข้าซื้อหุ้น 40% ในบริษัท Tranglo ผู้เชี่ยวชาญด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนชั้นนำของเอเชีย

Logo

เสริมสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเพื่อขยายสภาพคล่องตามความต้องการของ RippleNet ในตลาดสำคัญ โดยเริ่มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สิงคโปร์–(บิสิเนสไวร์)–30 มี.ค. 2564

Ripple ผู้ให้บริการโซลูชั่นบล็อกเชนระดับองค์กรสำหรับการชำระเงินทั่วโลกประกาศว่าได้ตกลงที่จะเข้าซื้อหุ้นบริษัท Tranglo ผู้เชี่ยวชาญด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนชั้นนำของเอเชียถึง 40%  ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ Ripple สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคและขยายการเข้าถึงของ On-Demand Liquidity (ODL) ซึ่งใช้สินทรัพย์ดิจิทัล XRP เพื่อส่งเงินได้ทันทีและลดความต้องการเงินทุนหมุนเวียน

ในฐานะผู้บุกเบิกบริการชำระเงินข้ามพรมแดน Tranglo จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนตลาดที่มีอยู่เช่นฟิลิปปินส์และแนะนำเส้นทาง ODL ใหม่ภายในเครือข่ายปัจจุบัน  ในขณะที่ Ripple ขยายขอบเขต ODL ในภูมิภาคนี้ ลูกค้าของ RippleNet ที่ใช้ ODL จะสามารถใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ Ripple เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนและขยายการชำระเงินข้ามพรมแดนไปยังตลาดต่างๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม  Tranglo จะให้บริการและขยายบริการการชำระเงินในปัจจุบันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเร็วขึ้น ถูกลง และปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า

ตลาดการชำระเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการแยกส่วนอย่างมาก แต่ละประเทศมีกระบวนการและโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง – การขาดการบูรณาการมาตรฐานสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนในระดับภูมิภาคในปัจจุบันต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่มีราคาแพง  ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทผสานความเชี่ยวชาญเชิงลึกในท้องถิ่นเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินข้ามพรมแดน

การลงทุนของ Ripple ใน Tranglo เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ลึกซึ้งของบริษัทในการเสริมสร้างระบบนิเวศการชำระเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับการนำ RippleNet มาใช้  เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัทได้ประกาศให้ Brooks Entwistle เป็นกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเป็นผู้นำและขยายการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Jacky Lee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tranglo กล่าวว่า “Tranglo มีความภาคภูมิใจในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้เร็วขึ้น ถูกลง และปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Ripple และการนำเสนอสภาพคล่องตามความต้องการสู่ตลาดใหม่ๆ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเป้าหมายดังกล่าวในการให้บริการทางการเงินที่สามารถเข้าถึงได้และเป็นธรรมแก่คนทั่วไป”

Asheesh Birla ผู้จัดการทั่วไปของ RippleNet ที่ Ripple กล่าวว่า “โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่แข็งแกร่งของ Tranglo ควบคู่ไปกับการบริการลูกค้าและคุณภาพที่เหนือชั้นทำให้พวกเขาเป็นพันธมิตรที่เหมาะอย่างยิ่งในการรองรับการขยายตัวของสภาพคล่องตามความต้องการโดยเริ่มจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะสานต่อและปฏิบัติภารกิจร่วมกันในการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนให้เร็วขึ้น ถูกลง และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนและทรัพย์สินดิจิทัล”

การเสร็จสมบูรณ์ของการเข้าซื้อนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับและเงื่อนไขการปิดบัญชีตามปกติและคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2564  เมื่อเสร็จสิ้น Amir Sarhangi รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการจัดส่งที่ Ripple และ Brooks Entwistle จะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของ Tranglo.  TNG Fintech Group จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน Tranglo และจะทำงานร่วมกับ Ripple เพื่อขยายเครือข่ายการโอนเงินทั่วโลกของ Tranglo

RippleNet ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์เพื่อส่งมอบโซลูชันทางการเงินตั้งแต่การส่งข้อความแบบสองทิศทาง การชำระบัญชี การจัดการสภาพคล่อง และวงเงินสินเชื่อ ไปจนถึงการมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก  เมื่อปีที่แล้ว Ripple ได้ประกาศผลิตภัณฑ์สินเชื่อซึ่งเป็นบริการบน RippleNet ที่ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ On-Demand Liquidity (ODL) สามารถจัดหาแหล่งเงินทุนตามความต้องการเพื่อเริ่มการชำระเงินข้ามพรมแดนตามขนาดโดยใช้ XRP ของสินทรัพย์ดิจิทัล

เกี่ยวกับ Ripple

Ripple ช่วยให้สามารถชำระเงินได้ทุกที่ทุกทางสำหรับทุกคนโดยใช้พลังของบล็อกเชน  ด้วยการเข้าร่วมเครือข่ายทั่วโลก (RippleNet) ที่กำลังเติบโตของ Ripple สถาบันการเงินสามารถประมวลผลการชำระเงินของลูกค้าได้ทุกที่ในโลกได้ทันทีอย่างเชื่อถือได้และคุ้มค่า  ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล XRP เพื่อลดต้นทุนและเข้าถึงตลาดใหม่ๆ  ด้วยสำนักงานในซานฟรานซิสโก วอชิงตันดีซี นิวยอร์ก ลอนดอน มุมไบ สิงคโปร์ เซาเปาโล เรคยาวิก และดูไบ Ripple มีลูกค้าหลายร้อยรายทั่วโลก

เกี่ยวกับ Tranglo

Tranglo เป็นศูนย์กลางการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีประวัติในด้านการชำระเงินทางธุรกิจการโอนเงินต่างประเทศและโซลูชันการชำระเงินผ่านมือถือ  ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 เรามีสำนักงานในกัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ จาการ์ตา ดูไบ และลอนดอน  เครือข่ายทั่วโลกของเราครอบคลุมมากกว่า 100 ประเทศ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 2,500 ราย ธนาคาร/กระเป๋าเงิน 1,300 แห่ง และจุดรับเงินสด 130,000 จุด

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210329005796/en/

ติดต่อ:

Stacey Ngo
press@ripple.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

วิดีโอแนะนำระบบเพื่อการรับรองทักษะการปรุงอาหารญี่ปุ่น เผยแพร่โดย TOW Co. Ltd. (โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) หน่วยงานการรับสมัครการรับรอง/การจัดการ (the Certification Application/Management Body)

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–30 มีนาคม 2564

TOW Co., Ltd.:

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210329005028/en/

 [https://tow.co.jp/certification/]
ไปที่ลิงก์นี้เพื่อดูสารคดีที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของระบบการรับรองผ่านเรื่องราวของเชฟชาวต่างชาติที่พยายามทดสอบ Gold Certification ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ระบุไว้สูงสุดของระบบ

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงญี่ปุ่น ได้กำหนดแนวทางการรับรองทักษะการปรุงอาหารสำหรับอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศเมื่อเดือนเมษายน 2559

ระบบนี้กำหนดมาตรฐานเฉพาะที่องค์กรเอกชนอาจใช้เพื่อยกย่องเชฟชาวต่างชาติที่ได้รับระดับความรู้และทักษะการปรุงอาหารที่จำเป็นสำหรับการเตรียมการปรุงอาหารญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าอาหารญี่ปุ่นและวัฒนธรรมการบริโภคอาหารจะดึงดูดความสนใจตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทางทะเลของญี่ปุ่นได้รับการสื่อสารอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิผลทั่วโลก *

และด้วยวิธีการนี้ ภาคเอกชนสามารถวางตำแหน่งตัวเองโดยเป็นแรงผลักดันในการส่งเสริมความพยายามในการรับรองทักษะการปรุงอาหารญี่ปุ่น การเพิ่มจำนวนผู้ได้รับการรับรองรายบุคคล และส่งเสริมการเติบโตของเชฟชาวต่างชาติที่ได้รับความรู้และทักษะที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมการปรุงอาหารญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายสูงสุดในการเสริมสร้างชื่อเสียงระดับโลกของอาหารญี่ปุ่นและวัฒนธรรมการบริโภคอาหารและขยายการบริโภคผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทางทะเลของญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้ TOW Co. , Ltd. จึงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในฐานะระบบการรับรองของหน่วยงานการรับสมัคร/การจัดการ  (Application/Management Body of the Certification System) ในเดือนมีนาคม 2564 บริษัทได้อนุมัติหน่วยงานรับรอง 11 แห่ง ซึ่งได้รับการยอมรับเชฟ 14 คน ว่ามีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานการรับรองระดับโกลด์ โดย 187 คนได้รับรางวัลระดับซิลเวอร์ และระดับบรอนซ์ 389 คน

แม้ว่าการระบาดใหญ่ของ COVID-19 จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการบริการด้านอาหารทั่วโลก TOW Co. , Ltd. ยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามภารกิจของบริษัท และสนับสนุนให้เชฟชาวต่างชาติทุกคนที่ต้องการได้รับความรู้และทักษะในการเตรียมการปรุงอาหารญี่ปุ่น โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างและแบ่งปันวิดีโอแนะนำระบบการรับรองทักษะการปรุงอาหารสำหรับอาหารญี่ปุ่นจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

* มาตรฐานการรับรอง

ระดับทอง

ผู้ที่มีประสบการณ์ประมาณสองปีในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีหัวหน้าเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นและถือว่าได้รับความรู้และทักษะตามที่ระบุไว้

ความรู้และทักษะที่จะได้รับ

• ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น สไตล์การทาน สาเกและชาญี่ปุ่น

• ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขอนามัย

ประเภทและการป้องกันอาหารเป็นพิษ เสื้อผ้า การจัดการส่วนประกอบอาหาร การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ส่วนประกอบอาหารและอาหารที่ต้องใช้ความร้อน

• เทคนิค

วิธีการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วิธีการเลือกส่วนผสมอาหาร วิธีหั่นและปลอกส่วนประกอบอาหาร ขั้นตอนและชั่วโมงที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร ระดับความร้อน /กลไกการใช้ความร้อน วิธีทำดาชิ (น้ำซุปญี่ปุ่น) การผสมอัตราส่วนของเครื่องปรุง การนำเสนอวิธีการถนอมอาหาร การจัดเตรียมเมนู

• ความใส่ใจในการบริการ (โอโมเทนาชิ)

ถ้อยคำ คำทักทาย ข้อควรคำนึง มารยาท วิธีการจัดวางอาหาร

ระดับซิลเวอร์

ผู้ที่เรียนและได้รับความรู้และทักษะเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นระบุไว้ประมาณหนึ่งปีที่โรงเรียนสอนทำอาหารที่ตั้งอยู่ในและนอกประเทศของตน และจบการศึกษาจากโรงเรียนดังกล่าว

หรือ

ผู้ที่มีประสบการณ์ประมาณหนึ่งปีในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีหัวหน้าเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นและถือว่าได้รับความรู้และทักษะตามที่ระบุไว้

ความรู้และทักษะที่จะได้รับ

• ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น สไตล์การทาน

• ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขอนามัย

ประเภทและการป้องกันอาหารเป็นพิษ เสื้อผ้า การจัดการส่วนประกอบอาหาร การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ส่วนประกอบอาหารและอาหารที่ต้องใช้ความร้อน

• เทคนิค

วิธีการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วิธีการเลือกส่วนผสมอาหาร วิธีหั่นและปลอกส่วนประกอบอาหาร การผสมอัตราส่วนของเครื่องปรุง ขั้นตอนและชั่วโมงที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร ระดับความร้อน /กลไกการใช้ความร้อน วิธีทำดาชิ (น้ำซุปญี่ปุ่น) การนำเสนอวิธีการถนอมอาหาร

• ความใส่ใจในการบริการ (โอโมเทนาชิ)

มารยาท วิธีการจัดวางอาหาร

ระดับบรอนซ์

ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความรู้และทักษะที่ระบุไว้ในช่วงระยะสั้น ฯลฯ ซึ่งจัดโดยโรงเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่นและ /หรือหน่วยงานเอกชนที่ตั้งอยู่ในและนอกประเทศของตนและผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่รับรอง

ความรู้และทักษะที่จะได้รับ

• ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

• ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขอนามัย

การป้องกันอาหารเป็นพิษ เสื้อผ้า การจัดการส่วนประกอบอาหาร การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ส่วนประกอบอาหารและอาหารที่ต้องใช้ความร้อน

• เทคนิค

วิธีการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วิธีการเลือกส่วนผสมอาหาร วิธีหั่นและปลอกส่วนประกอบอาหาร การผสมอัตราส่วนของเครื่องปรุง ขั้นตอนและชั่วโมงที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร การนำเสนอ วิธีการถนอมอาหาร

• ความใส่ใจในการบริการ (โอโมเทนาชิ)

มารยาท

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210329005028/en/

ติดต่อ:

Japanese Cuisine Cooking Skill Certification Application/Management Body:
TOW Co., Ltd. Secretariat
Aya Hamasuna
Mail: nihonshoku.ginou@tow.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Rush Gold ลงนามความร่วมมือรายใหญ่เพื่อมอบบริการใช้จ่ายด้วยทองคำให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือหลายรายใน 10 ประเทศอาเซียน

Logo

ซิดนีย์–(บิสิเนสไวร์)–30 มี.ค. 2564

Rush Gold Global (Rush Gold) แพลตฟอร์มฟินเทคที่มอบการใช้จ่ายทองคำทางช่องทางดิจิทัลให้กับตลาดค้าปลีกและธุรกิจได้ลงนามในความร่วมมือครั้งใหม่กับ ZAFA Group Sdn. Bhd. ในมาเลเซียเพื่อนำบริการออมและใช้จ่ายด้วยทองคำให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (MNO) ทั่วภูมิภาคอาเซียน

ข้อตกลงของ Rush Gold กับ ZAFA Group Sdn. Bhd. ในมาเลเซียจะช่วยให้ MNO ในสิบประเทศอาเซียนสามารถเสนอบริการชำระค่าใช้จ่ายโดยใช้ทองคำเป็นสกุลเงินร่วมกัน  โมเดลที่ใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมนี้ทำให้ซุปเปอร์แอพพลิเคชันเช่น m-Pesa สามารถครองตลาดส่วนใหญ่ของแอฟริกาได้

แอพ Dnar.Cash ที่พัฒนาโดย MVNX Alliance บริษัทย่อยของ ZAFA เปิดตลาดที่มีศักยภาพของผู้ใช้มือถือ 650 ล้านคนทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยทำให้พวกเขาสามารถลงทุนในทองคำ ใช้เพื่อจ่ายค่าเติมเงินมือถือ จ่าย zakat (tithing) และรับรางวัลทองคำและเงินคืน

“เรามองบริษัททองคำดิจิทัลหลายแห่ง” Aimi Aizal Bin Nasharuddin ผู้อำนวยการ MVNX กล่าว “แต่มีเพียง Rush Gold เท่านั้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งด้านเทคนิค ความปลอดภัย การเป็นเจ้าของสินทรัพย์ และความสามารถในการดำเนินงานที่เราต้องการ  การสนับสนุนของทีม Rush นั้นยอดเยี่ยมในทุกขั้นตอน”

“เราสร้างแพลตฟอร์มของเราเพื่อให้บริษัทต่างๆ เช่น ZAFA รวมถึงธนาคารและโปรแกรมลอยัลตี้สามารถรวมทองคำเข้ากับข้อเสนอของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว” Mark Pey ผู้อำนวยการของ Rush Gold กล่าว “ออสเตรเลียมีกฎระเบียบควบคุมการเงินและสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เข้มงวด นวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก และปัจจุบันเป็นผู้ผลิตทองคำแท่งรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเรารู้สึกว่าล้วนเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญของเรา”

MVNX ได้ลงนามกับพันธมิตรการเปิดตัวในมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้าและบริการโทรคมนาคมให้กับลูกค้า 9 ล้านราย โดยมีข้อตกลงการจัดจำหน่ายที่อยู่ระหว่างดำเนินการในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเปิดตัว Rush Mastercard พร้อม EML ผ่านวอลเล็ทมือถือรายใหญ่

ZAFA Group ดำเนินงานในหลายประเทศโดยมีสำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย ซึ่งทำงานในด้านการผลิตยานยนต์ บริการโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ และหุ้นเอกชน และเป็นบริษัทในเครือของ ASEAN Co-operative Organization (ACO).  Rush Gold เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินโดยใช้ทองคำที่มีการควบคุมโดยกฏหมายซึ่งช่วยให้ธุรกิจและลูกค้าสามารถออม มอบเป็นของขวัญ โอน และใช้ทองคำทั่วโลกอย่างทันใจ  Rush มีลูกค้าใน 13 ประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://rush.gold/

ติดต่อ:

Mark Pey ผู้อำนวยการ
Rush Gold
mark.pey@rush.gold 
+61 1800183424

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

UVD Robots นำทีมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้ออัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดไปใช้ในหนึ่งเขตการศึกษาของสหรัฐอเมริกา

Logo

หุ่นยนต์ 37 ตัวมีบทบาทสำคัญในการนำนักเรียนในโรงเรียนในนิวเม็กซิโกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID กลับเข้าไปในห้องเรียน

โอเดนเซ่, เดนมาร์ก และ GALLUP รัฐนิวเม็กซิโก–(BUSINESS WIRE)–25 มี.ค. 2564

Blue Ocean Robotics ผู้ผลิตหุ่นยนต์ฆ่าเชื้ออัตโนมัติ UVD Robots โดยใช้แสง UV-C ได้รับเลือกจาก Gallup McKinley County Schools (GMCS) แห่งเมืองนิวเม็กซิโกให้จัดหาหุ่นยนต์ UVD 37 ตัวให้กับโรงเรียนในเขตต่าง ๆ เพื่อช่วยต่อสู้กับไวรัสโคโรนา และ โรคติดเชื้ออื่น ๆ

Students from GMCS’ Twin Lakes School participated in a naming contest for the robot to help with socialization and morale. The school’s robot will now be known as Mr. Fox. UVD Robots were originally developed to fight Hospital Acquired Infections (HAI’s) and are now deployed in more than 60 countries worldwide in the healthcare sector, the hospitality industry, office complexes and educational facilities, meeting new and heightened expectations for safety and cleanliness. (Photo: Business Wire)

นักเรียนจากโรงเรียน Twin Lakes ของ GMCS เข้าร่วมการประกวดการตั้งชื่อหุ่นยนต์เพื่อช่วยในการกระตุ้นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ โดยตั้งแต่นี้ไป หุ่นยนต์ของโรงเรียนได้ถูกตั้งชื่อว่า Mr. Fox เดิมทีหุ่นยนต์ UVD ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อในโรงพยาบาล หรือ Hospital Acquired Infections (HAI’s) และในปัจจุบันมีการนำไปใช้งานในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกในภาคการดูแลสุข ภาพอุตสาหกรรม การบริการ อาคารสำนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ในด้านความปลอดภัยและความสะอาดได้ (ภาพ: Business Wire)

“COVID ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อชุมชนของเรา โดยข้อกังวลหลักของเราคือความปลอดภัยของนักเรียนและเจ้าหน้าที่ และการพัฒนาแผนเพื่อนำพวกเขาทั้งหมดกลับไปโรงเรียนอย่างปลอดภัยที่สุด” Michael Hyatt ผู้อำนวยการ Gallup McKinley กล่าว “ เราต้องการโซลูชันการฆ่าเชื้อโรคในระยะยาวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ที่เพิ่มชั้นการป้องกันที่จะฆ่าเชื้อบนพื้นผิวและอากาศในอาคารของเราและช่วยต่อสู้กับโควิด หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อในอีกหลายปีข้างหน้า"

งานของ GMCS ครอบคลุมชุมชนที่มีพื้นที่ในชนบทจำนวนมากที่เผชิญปัญหาโครงสร้างพื้นฐานซึ่งทำให้การเรียนรู้เสมือนจริงยังเป็นเรื่องท้าทายจากข้อเท็จจริงว่านักเรียนประมาณ 1,500 คน ไม่มีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน งานของเขตนี้ยังรวมถึงการให้การศึกษาแก่นักเรียนอีกหลายคนที่มีความต้องการด้านการศึกษาพิเศษ ซึ่งเป็นนักเรียนกลุ่มที่เรียนรู้ได้ดีกว่าในการเรียนแบบห้องเรียน

“ หุ่นยนต์ UVD Robot ไม่เหมือนกับหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคที่ตั้งอยู่กับที่ ตรงที่มันเป็นหุ่นยนต์ที่เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระเต็มที่ เทคโนโลยีผสานรวมการใช้แสง UV-C เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบนพื้นผิวและในอากาศ และสามารถฆ่าจุลินทรีย์ร้อยละ 99.99 ภายในเวลาประมาณ 10 นาทีในทุกห้องที่ฆ่าเชื้อ” Claus Risager ซีอีโอของ Blue Ocean Robotics กล่าว

“เราได้เลือกหุ่นยนต์ UVD หลังจากได้พิจารณาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อจำนวนมากอย่างเข้มงวด” Hyatt กล่าว “ หุ่นยนต์ UVD มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการทั้งหมดของเรารวมถึงความเป็นเลิศทางเทคนิค วุฒิภาวะและประวัติการทำงาน คุณภาพของการใช้งาน การสนับสนุนทางเทคนิคและการบำรุงรักษา และมูลค่าโดยรวม”

“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศสิ่งที่เราเชื่อว่าจะเป็นการติดตั้งหุ่นยนต์ฆ่าเชื้ออัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในเขตการศึกษาของสหรัฐอเมริกา” Per Juul Nielsen ซีอีโอของ UVD Robots กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ GMCS เพื่อก้าวไกลเอาชนะ COVID โดยนำการฆ่าเชื้อโรคในระดับโรงพยาบาลมาสู่เขตการศึกษา”

เอกสารสำหรับสื่อ

เกี่ยวกับ

UVD Robots  เป็นหนึ่งในกลุ่มชั้นนำของโลกในการพัฒนาหุ่นยนต์บริการที่มีชื่อเรียกว่า Blue Ocean Robotics ซึ่งรวมถึงแบรนด์ GoBe Robots และ PTR Robots อนึ่ง UVD Robots มีสำนักงานใหญ่ในเดนมาร์กและเพิ่งถูกรวมอยู่เป็น 1 ใน 10 อันดับแรก ของFast Company ในสาขา "Most Innovative Robotics Companies 2021 หรือ บริษัทหุ่นยนต์ที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในปี 2564"

รับชมคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52401125/en

ติดต่อ:

Camilla Almind Knudsen, Blue Ocean Robotics

+45 61 10 02 74

cak@blue-ocean-robotics.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Takeda ยื่นคำร้องทดสอบวัคซีนไข้เลือดออกในสหภาพยุโรปและประเทศที่โรคไข้เลือดออกระบาด

Logo

− หน่วยงานควบคุมยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) จะดำเนินการประเมินแบบคู่ขนานครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์ยาซึ่งเป็นวัคซีนโรคไข้เลือดออกทดลองของ Takeda (TAK-003) สำหรับใช้ในสหภาพยุโรปและประเทศนอกสหภาพยุโรปผ่านขั้นตอน EU-M4all (บทความที่ 58 ก่อนหน้านี้)

− Takeda ตั้งใจจะเสนอคำร้องในประเทศอาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เม็กซิโก สิงคโปร์ ศรีลังกา และไทย ในช่วงปี 2564 นี้

− TAK-003 กำลังได้รับศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่มาจากซีโรไทป์ของไวรัสไข้เลือดออกในบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 4-60 ปี

โอซาก้า, ประเทศญี่ปุ่น & แคมบริดจ์, รัฐแมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–26 มีนาคม 2564

วันนี้ Takeda Pharmaceutical Company Limited (TSE:4502/NYSE:TAK(“Takeda”) ได้ประกาศว่าหน่วยงานควบคุมยาแห่งสหภาพยุโรป EMA)ได้รับชุดคำร้องการทดสอบวัคซีนไข้เลือดออก (TAK-003) ซึ่งกำลังได้รับการตรวจสอบการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากซีโรไทป์ของไวรัสไข้เลือดออกในบุคคลอายุ 4-60 ปี โดย Takeda ตั้งใจยื่นคำร้องในประเทศอาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เม็กซิโก สิงคโปร์ ศรีลังกา และไทย ในช่วงปี 2564 นี้

Derek Wallace รองประธานกรรมการและหัวหน้าโครงการป้องกันโรคไข้เลือดออกระดับโลกแห่ง Takeda กล่าวว่า “การยื่นคำร้องทดสอบวัคซีนไข้เลือดออก TAK-003 นั้นถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญแก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหรือเดินทางไปยังชุมชนต่าง ๆ และได้รับผลกระทบจากภัยของโรคไข้เลือดออก การระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 500,000 คนทั่วโลกที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในแต่ละปี สามารถสร้างความเสียหายแก่ชุมชนและรัฐบาลได้ เนื่องจากมีผลกระทบในวงกว้างต่อระบบการดูแลสุขภาพ ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่อย่างจำกัดในการป้องกันโรค วัคซีนไข้เลือดออกที่หาได้ทั่วไปจึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน Takeda มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลและแนะนำหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการประเมินคำร้องและช่วยให้ TAK-003 ได้รับการอนุมัติ”

Takeda อยู่ระหว่างเข้าร่วมในการประเมินผลิตภัณฑ์ยาแบบคู่ขนานครั้งแรกของหน่วยงานควบคุมยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) สำหรับใช้ในสหภาพยุโรป (EU) และขั้นตอน EU-M4all (บทความ 58 ก่อนหน้านี้) สำหรับประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรป นอกเหนือจากความเห็นทางวิทยาศาสตร์ที่เสนอโดยคณะกรรมการยาสำหรับใช้ในมนุษย์ (CHMP) แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลระดับชาติในประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในกระบวนการ EU-M4all จะดำเนินการประเมินตนเองเพื่อพิจารณาว่าหากทำการซื้อขาย TAK-003 ในตลาดระดับประเทศจะได้รับอนุมัติหรือไม่ นอกจากนี้ Takeda ยังขออนุมัติ TAK-003 ในประเทศที่เป็นโรคไข้เลือดออกที่ไม่ได้เข้าร่วมในขั้นตอน EU-M4all อีกด้วย

การยื่นคำร้องสำหรับTAK-003 ประกอบด้วยข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพระยะยาวตลอด 36 เดือนจากการทดลองศึกษาประสิทธิภาพของการสร้างภูมิคุ้มกัน Tetravalent เพื่อต่อสู้กับไข้เลือดออก (TIDES) เฟส 3 Takeda ตั้งใจนำเสนอและเผยแพร่รายละเอียดของข้อมูลในระยะเวลา 36 เดือนนี้ในการประชุมทางวิทยาศาสตร์และในวารสารวิชาการที่ผ่านการตรวจสอบในปีนี้

Takeda ยังตั้งใจที่จะยื่นคำร้องขอในสหรัฐอเมริกา ตามด้วยประเทศอื่น ๆ ในเอเชียและละตินอเมริกาอีกด้วย

EU-M4all1

EU-M4all (หรือ EU-Medicines for all) เป็นขั้นตอนที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาหรือวัคซีนที่จำเป็นเพื่อป้องกันหรือรักษาโรคอันเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของสาธารณะ โดยหน่วยงานควบคุมยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ในความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) สามารถให้ความเห็นทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับยาและวัคซีนสำหรับโรคที่สำคัญต่อระบบสาธารณสุข ซึ่งมีไว้สำหรับตลาดที่อยู่นอกสหภาพยุโรปผ่านขั้นตอน EU-M4all (รู้จักกันในชื่อบทความ 58 ก่อนหน้านี้)

เกี่ยวกับ TAK-003

วัคซีนไข้เลือดออกทดลอง Tetravalent ของ Takeda (TAK-003) ขึ้นอยู่กับไวรัสไข้เลือดออกซีโรไทป์ 2 ที่มีชีวิต ซึ่งสร้าง "กระดูกสันหลัง" ผ่านทางพันธุกรรมให้กับไวรัสวัคซีนทั้ง 4 ชนิด2 ข้อมูลทางคลินิกในเด็กและวัยรุ่นเฟส 2 พบว่าTAK-003 กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อซีโรไทป์ของไข้เลือดออกทั้ง 4 ชนิด ทั้งในผู้เข้าร่วมที่มี seropositive และ seronegative ซึ่งสามารถอยู่ได้ตลอด 48 เดือนหลังการฉีดวัคซีน ส่วนวัคซีนโดยรวมนั้นปลอดภัยและทนได้ดี3 การทดลอง TIDES ที่สำคัญเฟส 3 พบจุดสิ้นสุดปฏิกิริยาครั้งแรกของประสิทธิภาพวัคซีนโดยรวม (VE) ที่ป้องกันโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากไวรัสจากการติดตามผล 12 เดือน และ จุดสิ้นสุดปฏิกิริยาครั้งที่สองจากการติดตามผล 18 เดือน ซึ่งมีผู้ป่วยไข้เลือดออกจำนวนเพียงพอ รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออกและประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับคนที่มี seropositive และ seronegative4,5  ประสิทธิภาพจะแตกต่างกันไปตามซีโรไทป์ โดยผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นทั่วไปของ TAK-003 เป็นที่ยอมรับได้ดีและยังไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับความปลอดภัยจนถึงปัจจุบัน

เกี่ยวกับการทดลอง TIDES (DEN-301) เฟส 3

การทดลอง TIDES เฟส 3 แบบสุ่มโดยการปิดข้อมูลทั้งสองทาง (Double-blinded) และควบคุมด้วยยาหลอก จะประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ TAK-003 สองโดสในการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ได้รับการยืนยันจากห้องแล็บว่ามีความรุนแรงและเกิดจากซีโรไทป์ของไวรัสไข้เลือดออก 4 ชนิดในเด็กและวัยรุ่น4 การทดลอง TIDES เป็นการทดลองทางคลินิกที่ใหญ่ที่สุดของ Takeda ในปัจจุบันและมีการลงทะเบียนจากเด็กและวัยรุ่นสุขภาพดีอายุ 4 ถึง 16 ปีกว่า 20,000 คน และอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีโรคไข้เลือดออกระบาด ผู้เข้าร่วมการศึกษาได้รับการสุ่มให้รับ TAK-003 หรือไม่ก็ยาหลอกปริมาณ 0.5 มิลิลิตร โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังในวันที่ 1 และฉีดอีกครั้ง 3 เดือนถัดไป4 การศึกษาประกอบด้วย 5 ส่วนด้วยกัน ส่วนที่ 1 และการวิเคราะห์จุดสิ้นสุดปฏิกิริยาครั้งแรกจะประเมินประสิทธิภาพของวัคซีน (VE) และความปลอดภัยภายใน 15 เดือนหลังจากรับวัคซีนครั้งแรก (12 เดือนหลังจากได้รับครั้งที่สอง)4 ส่วนที่ 2 ดำเนินต่อไปอีก 6 เดือนเพื่อให้การประเมินจุดสิ้นสุดปฏิกิริยาครั้งที่สองของประสิทธิภาพวัคซีนโดยใช้ซีโรไทป์ ซีโรไทป์พื้นฐาน และความรุนแรงของโรค รวมทั้งประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการนอนโรงพยาบาลจากไข้เลือดออก4 ประสบผลสำเร็จ ส่วนที่ 3 คือการประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนและความปลอดภัยในระยะยาว โดยติดตามผู้เข้าร่วมอีก 2.5-3 ปี6 ส่วนที่ 4 จะประเมินความปลอดภัยเป็นเวลา 13 เดือนหลังการฉีดวัคซีนกระตุ้น และส่วนที่ 5 จะประเมินความปลอดภัยในระยะยาวเป็นเวลา 1 ปีหลังจากเสร็จสิ้นส่วนที่ 4 แล้ว6

การทดลองจัดขึ้นในพื้นที่ท้องถิ่นในละตินอเมริกา (บราซิล โคลอมเบีย ปานามา สาธารณรัฐโดมินิกัน และนิการากัว) และเอเชีย (ฟิลิปปินส์ ไทย และศรีลังกา) ซึ่งมีการป้องกันไข้เลือดออกได้ยังไม่ดีพอ และเป็นพื้นที่ที่ไข้เลือดออกรุนแรงนำไปสู่อาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงและเสียชีวิตในเด็ก4 ตัวอย่างเลือดพื้นฐานถูกเก็บรวบรวมจากผู้เข้าร่วมการทดลองทุกคนเพื่อที่จะประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพตามซีโรไทป์ Takeda และคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลอิสระของผู้เชี่ยวชาญกำลังตรวจสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกเป็นโรคไวรัสที่แพร่กระจายได้รวดเร็วที่สุดโดยมียุงเป็นพาหะ และเป็นหนึ่งใน 10 โรคที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชากรโลกในปี 25627,8  ไข้เลือดออกส่วนใหญ่แพร่กระจายโดยยุงลายบ้าน และยุงลายสวนซึ่งอยู่ในระดับที่น้อยกว่า โดยสาเหตุเกิดจากซีโรไทป์ของไวรัสไข้เลือดออก 4 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดอาจทำให้เกิดไข้เลือดออกหรือไข้เลือดออกชนิดรุนแรง ซึ่งอัตราความชุกของแต่ละซีโรไทป์จะแตกต่างกันไปตามเขตภูมิศาสตร์ ประเทศ ภูมิภาค ฤดูกาล และช่วงเวลาผ่านไป9 การฟื้นตัวจากการติดเชื้อจากซีโรไทป์หนึ่งจะให้ภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตกับซีโรไทป์นั้น และการสัมผัสกับซีโรไทป์ที่เหลือในภายหลังอาจมีความเสี่ยงต่อโรครุนแรงเพิ่มขึ้น

ไข้เลือดออกสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย การระบาดจะพบในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ การระบาดได้เกิดขึ้นในบางส่วนของทวีปอเมริกาและยุโรป10,11 ปัจจุบัน ผู้คนประมาณครึ่งหนึ่งของโลกอาศัยอยู่ภายใต้การคุกคามของไข้เลือดออก ซึ่งคาดว่าผู้คนจำนวน 390 ล้านคนจะติดเชื้อ และประมาณ 20,000 คนทั่วโลกจะเสียชีวิตในแต่ละปี10,12 ไวรัสไข้เลือดออกสามารถติดได้กับคนทุกวัย และเป็นสาเหตุสำคัญของอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงในเด็กในประเทศแถบละตินอเมริกาและเอเชีย10

ความมุ่งมั่นในการจัดหาวัคซีนของ Takeda

วัคซีนช่วยป้องกันการเสียชีวิต 2-3 ล้านคนในแต่ละปี และได้พลิกโฉมการสาธารณสุขทั่วโลก ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา Takeda ได้จัดหาวัคซีนเพื่อปกป้องสุขภาพของผู้คนในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน ธุรกิจวัคซีนของ Takeda ทั่วโลกมีการนำนวัตกรรมมาใช้จัดการกับโรคติดเชื้อที่ท้าทายที่สุดในโลก เช่น ไข้เลือดออก โควิด-19 โรคไข้ซิกา และโนโรไวรัส ทีมงานของ Takeda นำเสนอผลงานที่โดดเด่น และแหล่งความรู้มากมายในการพัฒนา การผลิต และการเข้าถึงวัคซีนทั่วโลก เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของวัคซีนและตอบสนองความต้องการด้านสาธารณสุขที่เร่งด่วนที่สุดในโลก ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.TakedaVaccines.com

เกี่ยวกับt Takeda Pharmaceutical Company Limited

Takeda Pharmaceutical Company Limited (TSE: 4502/NYSE: TAK) เป็นบริษัทยาระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมุ่งเน้นคุณค่าและขับเคลื่อนด้วยการวิจัยและพัฒนา โดยให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้ มุ่งมั่นที่จะนำสุขภาพที่ดีและอนาคตที่สดใสมาให้กับผู้ป่วยโดยผ่านการแปลงผลงานด้านวิทยาศาสตร์ไปสู่นวัตกรรมยาที่เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยได้ เรามุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยเป็นอย่างมากโดยมุ่งเน้นแขนงการรักษาหลัก ๆ ทั้งสี่ด้าน ได้แก่ มะเร็งวิทยา ทางเดินอาหาร โรคหายาก และประสาทวิทยา อีกทั้งเรายังได้มีการลงทุนในการวิจัยในเรื่องของการบำบัดโดยพลาสม่าและวัคซีนอีกด้วย เราให้ความสำคัญกับการพัฒนายาที่มีนวัตกรรมสูงซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้คนด้วยการนำเสนอตัวเลือกการรักษาใหม่ที่มีความก้าวหน้า และใช้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนาร่วมกันของเรารวมถึงความสามารถในการสร้างการบริการที่หลากหลายและแข็งแกร่ง พนักงานของเรามุ่งมั่นที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยนั้นดีขึ้น และมีความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพในกว่า 80 ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://www.takeda.com

ประกาศสำคัญ

ในประกาศนี้ “ข่าวประชาสัมพันธ์” หมายถึง เอกสารชิ้นนี้ การนำเสนอด้วยวาจา ช่วงถามและตอบ และการเจรจาที่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือวาจาใด ๆ ที่กล่าวถึงหรือเผยแพร่โดย Takeda Pharmaceutical Company Limited (“Takeda”) ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ (รวมถึงการบรรยายสรุปด้วยวาจาและการถามและตอบคำถามใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง) ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อ และไม่ได้ประกอบด้วย เป็นตัวแทน หรือส่วนหนึ่งของข้อเสนอ คำเชิญ หรือการชี้ชวนให้ซื้อหรือเข้าถือสิทธิ์ สมัคร แลกเปลี่ยน ขาย หรือขายทิ้งหลักทรัพย์ หรือการเชิญให้ลงคะแนนหรืออนุมัติใด ๆ ในเขตอำนาจตามกฎหมายใด ๆ ไม่มีการเสนอขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปโดยผ่านข่าวประชาสัมพันธ์นี้ หลักทรัพย์นี้ไม่สามารถเสนอขายในสหรัฐอเมริกาได้หากมิได้มีการจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ ค.ศ. 1933 (U.S. Securities Act of 1933) และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือได้รับการยกเว้นจากนั้น ข่าวประชาสัมพันธ์นี้แจกจ่าย (พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่อาจมอบให้แก่ผู้รับ) บนเงื่อนไขที่ว่าผู้รับจะใช้เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น (และไม่ใช่เพื่อการประเมินการลงทุน การเข้าซื้อ การเทขาย หรือการทำธุรกรรมอื่น ๆ ) การไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดเหล่านี้อาจเป็นการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ที่บังคับใช้

บริษัทที่ Takeda เป็นเจ้าของการลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ บางครั้งมีการใช้คำว่า “Takeda” เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงถึง “Takeda” และบริษัทในเครือโดยทั่วไป เช่นเดียวกัน คำว่า“ เรา” “พวกเรา” และ“ ของเรา” ถูกใช้เพื่ออ้างถึงบริษัทในเครือโดยทั่วไป หรือผู้ที่ทำงานให้บริษัทเหล่านั้น ข้อความเหล่านี้ยังถูกใช้ในกรณีที่ไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวถึงบริษัทหรือบริษัทอื่น ๆ โดยเฉพาะเจาะจง

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้และเนื้อหาใด ๆ ที่แจกจ่ายพร้อมกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ความเชื่อหรือความเห็นที่เกี่ยวกับธุรกิจในอนาคต สถานะและผลประกอบการในอนาคตของ Takeda รวมถึงการประเมิน การคาดการณ์ เป้า และแผนต่าง ๆ ของ Takeda ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตจะประกอบด้วยคำที่ไม่จำกัดเฉพาะ “เป้า” “แผน” “เชื่อว่า” “หวังว่า” “เดินหน้า” “คาดว่า” “ตั้งเป้า” “ตั้งใจ” “รับรองว่า” “จะ” “อาจจะ” “ควร” “คาดการณ์” “ประเมิน” “ขึ้นอยู่กับ” หรือคำอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน หรือคำในความหมายเชิงลบของคำเหล่านี้ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตในเอกสารนี้อ้างอิงจากการประเมินและสมมิตฐานของ Takeda ในวันที่เอกสารนี้เผยแพร่เท่านั้น และไม่ได้การันตีถึงการดำเนินการของ Takeda หรือฝ่ายบริหารของบริษัทในอนาคต และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับทั้งความเสี่ยงที่ทราบและไม่ทราบ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ธุรกิจของ Takeda ทั่วโลก รวมถึงสภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ความกดดันด้านการแข่งขันและการพัฒนาต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายและข้อกำหนด ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลและช่วงเวลาของหน่วยงานนั้น ๆ ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน ข้ออ้างหรือข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดแล้วหรือผลิตภัณฑ์ที่เตรียมออกสู่ตลาด ช่วงเวลาและผลกระทบหลังความพยายามในการควบรวมธุรกิจกับบริษัทที่ซื้อกิจการมา และความสามารถในการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้เป็นสินทรัพย์หลักของ Takeda และช่วงเวลาที่มีการขาย ซึ่งอาจส่งผลให้การดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง การดำเนินการ ความสำเร็จ หรือสถานะทางการเงินของ Takeda แตกต่างไปจากที่กล่าวไว้ทั้งทางตรงและทางอ้อมในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้และปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง การดำเนินงาน ความสำเร็จหรือสถานะทางการเงินของ Takeda โปรดดูที่หัวข้อ “Item 3. Key Information—D. Risk Factors” ในรายงานประจำปีฉบับล่าสุดของ Takeda ในฟอร์ม 20-F และรายงานอื่น ๆ ของ Takeda ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ Takeda ที่: https://www.takeda.com/investors/ reports/sec-filings/ หรือ www.sec.gov Takeda ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการปรับปรุงหรือแก้ไข ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ หรือข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตอื่น ๆ ที่อาจทำขึ้น นอกจากว่าจะกำหนดไว้โดยกฎหมายหรือกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้แสดงถึงผลการดำเนินงานในอนาคต และผลการดำเนินงานของ Takeda ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ไม่อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึง และไม่ใช่การประเมิน การคาดการณ์ หรือการคาดคะเนถึงผลการดำเนินงานของ Takeda ในอนาคต

ข้อมูลทางการแพทย์

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่อาจไม่ได้วางจำหน่ายในทุกประเทศ หรืออาจวางจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ต่างกัน สำหรับอาการที่ต่างกัน ในปริมาณการใช้ที่ต่างกัน หรือมีผลในการรักษาที่ต่างกัน ข้อความในเอกสารนี้ไม่ใช่การชี้ชวน ส่งเสริม หรือโฆษณายาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ รวมทั้งยาที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

###


1The European Medicines Agency. Medicines for use outside the EU — EU-M4all. กรกฎาคม 2563. วันที่ค้นข้อมูล มีนาคม 2564.

2 Huang CY-H, et al. Genetic and phenotypic characterization of manufacturing seeds for tetravalent dengue vaccine (DENVax). PLoS Negl Trop Dis. 2013;7:e2243.

3Tricou, V, Sáez-Llorens X, et al. Safety and immunogenicity of a tetravalent dengue vaccine in children aged 2-17 years: a randomised, placebo-controlled, phase 2 trialLancet. 2563. doi:10.1016/S0140-6736(20)30556-0.

4 Biswal S, et al. Efficacy of a tetravalent dengue vaccine in healthy children and adolescents. N Engl J Med. 2562; 2562;381:2552-2562.

5 Biswal S, et al. Efficacy of a tetravalent dengue vaccine in healthy children aged 4-16 years: a randomized, placebo controlled, phase 3 trial. Lancet. 2563. 2563;395:1423-1433.

6 ClinicalTrials.Gov. Efficacy, Safety and Immunogenicity of Takeda's Tetravalent Dengue Vaccine (TDV) in Healthy Children (TIDES). วันที่สืบค้น มีนาคม 2564.

7 World Health Organization. Factsheet. Dengue and Severe Dengue. April 2019. วันที่สืบค้น กุมภาพันธ์ 2564.

8 World Health Organization. Ten threats to global health in 2019. 2019. วันที่สืบค้น กุมภาพันธ์ 2564.

9 Guzman MG, et al. Dengue: a continuing global threatNature Reviews Microbiology. 2010;8:S7-S16.

10 Knowlton K, et al. Mosquito-Borne Dengue Fever Threat Spreading in the Americas. The Natural Resources Defense Council (NRDC). 2009. วันที่สืบค้น กุมภาพันธ์ 2564.

11 Chan E, et al. Using web search query data to monitor dengue epidemics: a new model for neglected tropical disease surveillance. PLoS Negl Trop Dis. 2011;5:e1206.

12 Centers for Disease Control and Prevention. About Dengue: What You Need to Know. พฤษภาคม 2562. วันที่สืบค้น กุมภาพันธ์ 2564.

13 UNICEF. Vaccination and Immunization Statistics. 2562. วันที่สืบค้น กุมภาพันธ์ 2564.

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210325005752/en/

สำหรับสื่อในญี่ปุ่น
Kazumi Kobayashi
kazumi.kobayashi@takeda.com
+81 (0) 3-3278-2095

สำหรับสื่อนอกญี่ปุ่น
Rachel Wiese
rachel.wiese@takeda.com
+1 917-796-8703

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Tommy Hilfiger แต่งตั้ง Alegra O’Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

Logo

อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–25 มีนาคม 2564

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Alegra O'Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 เมษายน 2564 โดยบทบาทและหน้าที่ของ O'Hare จะพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค TOMMY HILFIGER ในรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อ ๆ ไป

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

Alegra O’Hare, Chief Marketing Officer, Tommy Hilfiger Global (Photo: Business Wire)

Alegra O’Hare ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global (ภาพ: Business Wire)

 “การแต่งตั้งของ Alegra ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญในยุคใหม่ของ TOMMY HILFIGER” Avery Baker ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้าของ Tommy Hilfiger Global กล่าว “เธอจะเป็นแรงผลักดันในการนำวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์เราให้ดูมีชีวิตชีวาผ่านการสร้างสรรค์ระดับโลก กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและการตลาดแบบบูรณการทุกช่องให้รวมเป็นหนึ่งเดียว การเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งด้วยวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่พิสูจน์แล้วของเธอที่จะช่วยในการเติบโตที่มีความเกี่ยวข้องและธุรกิจกับผู้บริโภคทั่วโลกจะเป็นทรัพย์สินที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเรา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ Alegra ได้เข้าร่วมทีมของเราเพื่อเป็นผู้นำในการสร้างแฟนๆ ของ Tommy ในรุ่นต่อไป”

 “TOMMY HILFIGER เป็นแบรนด์ที่ก้าวนำหน้ามาโดยตลอด และฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับทีมท่ามกลางภูมิทัศน์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก” O’Hare กล่าว “เมื่อร่วมมือกันแล้วเราจะพบกับความเป็นจริงใหม่ ๆ เหล่านี้ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่น่าดึงดูดและน่าประหลาดใจให้กับผู้บริโภคและพัฒนาตำแหน่งของเราในฐานะนักการตลาดระดับโลกด้วยการผลักดันขอบเขตทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์”

ด้วยประสบการณ์ด้านการตลาดกว่า 25 ปีของ O’Hare เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์ผู้บริโภคระดับโลกเช่น adidas, Bang & Olufsen, Champion, Lee และ Wrangler และล่าสุดเธอดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ GAP ซึ่งเธอเป็นผู้นำทีมการตลาดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคในทุกช่องทางติดต่อของแบรนด์รวมถึงการสื่อสาร การค้าปลีก ดิจิทัล โซเชียลมีเดียและการประชาสัมพันธ์ ผ่านการตลาดดิจิทัลเป็นอันดับแรกและการค้าปลีกทุกช่องทาง ก่อนหน้านี้ O’Hare เป็นผู้นำด้านการตลาดให้กับแบรนด์ Adidas Originals โดยเธอรับผิดชอบแคมเปญของแบรนด์ทั้งหมด การร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Pharrell Williams, Alexander Wang และ Childish Gambino และการกระตุ้นการสื่อสารการตลาดทั้งหมดทั่วโลก

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกด้วยเอกลักษณ์เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ความคิดริเริ่มทางการตลาดของบริษัทมีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนฟุตพริ้นท์ของ TOMMY HILFIGER โดยผ่านการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการรับรู้แบรนด์ทั่วโลกและกลยุทธ์ที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางซึ่งสร้างและรักษาฐานแฟน ๆ ที่เหนียวแน่น ปัจจุบันการนำออกแสดงของแบรนด์อยู่ในระดับสูงสุดตลอดเวลาอันเป็นผลมาจากคอลเลกชันที่โดดเด่น แคมเปญ การเป็นพันธมิตรและการกระตุ้นผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER  และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของTOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น Calvin KleinTOMMY HILFIGERVan HeusenIZOD, ARROW, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True&Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายสู่ผู้บริโภคภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์เป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่าย ซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ ทั้งหมดนี่คือพลังของเรา และนี่คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

รับชมเวอรชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger:
Virginia Ritchie
Vice President, Global Communications
E-mail: virginia.ritchie@tommy.com
Tel: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter