LiveRamp และ Yahoo ร่วมมือกันขยายความสามารถในการระบุตัวตนผู้ใช้งานทั่วทั้งระบบนิเวศโฆษณา

Logo

ผู้เผยแพร่โฆษณา นักการตลาด และอีกมากมายจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อหลังการส่งสัญญาณได้ดียิ่งขึ้น

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2023

LiveRamp (NYSE: RAMP) แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลชั้นนำ และ Yahoo ประกาศในวันนี้ถึงการขยายความร่วมมือเพื่อขยายขอบเขตความสามารถในการระบุตัวตนผู้ใช้งาน และปรับปรุงการเข้าถึงและการทำงานร่วมกันภายในระบบนิเวศการโฆษณา ความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้เผยแพร่ที่ใช้ Authenticated Traffic Solution (ATS) ของ LiveRamp สามารถใช้ประโยชน์จากโซลูชันการระบุตัวตนแบบไม่มีคุกกี้, Yahoo ConnectID และปลดล็อกความต้องการที่ระบุตัวตนผู้ใช้งานเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ แบรนด์ที่ใช้ Yahoo DSP ยังสามารถได้รับการเข้าถึงได้มากขึ้นผ่าน Yahoo ConnectID ซึ่งได้รับประโยชน์จาก RampID และการขยายขนาดของ Authenticated Traffic Solution ของ LiveRamp

Yahoo ConnectID ขับเคลื่อนโดยความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ใช้งานที่มีการยืนยันตัวตนเกือบ 200 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานในทุกช่องทางได้ทั่วทั้งทรัพย์สินที่ Yahoo เป็นเจ้าของและดำเนินการและโดเมนผู้เผยแพร่อื่นๆ อีกหลายพันโดเมน RampID และ Authenticated Traffic Solution ของ LiveRamp ขับเคลื่อนแนวทางการระบุตัวตนเฉพาะบุคคลของ LiveRamp ทำให้สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริงในเบราว์เซอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ และ CTV ทั่วทั้งปลายทางหลายร้อยแห่ง ลูกค้าจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างมูลค่าตลอดการเดินทางของผู้ใช้งาน และรักษาการควบคุมข้อมูล

ผู้เผยแพร่ที่ใช้ Authenticated Traffic Solution ของ LiveRamp จะสามารถทำงานร่วมกับ Yahoo ConnectID ได้โดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย และสร้างรายได้จากข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ดีขึ้น แบรนด์มากกว่า 450 แบรนด์ทำงานร่วมกับ LiveRamp เพื่อใช้ข้อมูลที่แบรนด์เป็นผู้เก็บรวบรวมด้วยตนเองในการปรับแต่งประสบการณ์ของผู้บริโภคให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล

ผู้เผยแพร่และนักการตลาดจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือนี้โดยไม่ต้องมีการกำหนดค่าหรือทรัพยากรเพิ่มเติมสำหรับผู้ชมที่ได้รับการยืนยันตัวตน โดยมอบประสบการณ์ที่ปรับแต่งตามความต้องการได้ทุกส่วนที่สำคัญ ผู้เผยแพร่ควรคาดหวังว่าจะได้เห็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากคลังข้อมูลที่ได้รับการยืนยันตัวตนผ่านทาง Authenticated Traffic Solution เนื่องจาก Yahoo ConnectID พร้อมใช้งานเป็นตัวระบุแล้ว นอกจากนี้ นักการตลาดที่กำลังมองหาโซลูชันการสูญเสียสัญญาณหลังการส่งสัญญาณจะมีการเข้าถึงผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันตัวตนเพิ่มขึ้นจากผู้เผยแพร่โฆษณาที่ใช้ RampID และ/หรือ Yahoo ConnectID ผ่านทาง Yahoo DSP

"เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในความสามารถในการระบุตัวตนผู้ใช้งานที่ได้รับการยืนยันตัวตน และความร่วมมือนี้ช่วยให้เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งจะคงอยู่ได้นอกเหนือจากการสูญเสียสัญญาณของบุคคลที่สาม" Elizabeth Herbst-Brady ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Yahoo กล่าว "เรากำลังทำให้นักการตลาดและผู้เผยแพร่โฆษณาใช้ประโยชน์จากโซลูชันเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นและเพิ่มผลลัพธ์สูงสุด ขณะเดียวกันก็สนับสนุนธุรกรรมที่ราบรื่นยิ่งขึ้นทั่วทั้งเว็บแบบเปิด"

"Yahoo เป็นผู้สนับสนุนที่ทรงพลังสำหรับการระบุตัวตนผู้ใช้งานที่ได้รับการยืนยันตัวตน และการเชื่อมต่อที่เราร่วมมือกันเพื่อเปิดใช้งานทั่วทั้ง DSP และ Yahoo ConnectID ของพวกเขาจะช่วยทำให้การเชื่อมต่อหลังส่งสัญญาณเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับนักการตลาดมากกว่าในปัจจุบัน" Travis Clinger รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเปิดใช้งานและการระบุตัวตนผู้บริโภคของ LiveRamp กล่าว "ตอนนี้นักการตลาดและผู้เผยแพร่สามารถมีส่วนร่วม ปรับแต่ง และวัดผลการเดินทางของผู้ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น"

เกี่ยวกับ LiveRamp

LiveRamp เป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลที่บริษัทนวัตกรรมเลือกใช้มากที่สุดในโลก LiveRamp ซึ่งเป็นผู้นำที่ก้าวล้ำในด้านความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค จริยธรรมของข้อมูล และเอกลักษณ์องค์กร กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการสร้างมุมมองของลูกค้าที่เชื่อมต่อด้วยความชัดเจนและบริบทที่ไม่มีใครเทียบได้ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องแบรนด์อันมีค่าและความไว้วางใจของผู้บริโภค LiveRamp นำเสนอความยืดหยุ่นที่ครอบคลุมในการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะมีข้อมูลอยู่ที่ไหนก็ตาม เพื่อสนับสนุนกรณีการใช้งานการทำงานร่วมกันของข้อมูลที่หลากหลายที่สุด ทั้งภายในองค์กร ระหว่างแบรนด์ และทั่วทั้งเครือข่ายชั้นนำระดับโลกของพันธมิตรคุณภาพสูง

นักนวัตกรรมระดับโลกหลายร้อยราย ตั้งแต่แบรนด์ผู้บริโภคที่โดดเด่นและยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีไปจนถึงธนาคาร ผู้ค้าปลีก และผู้นำด้านการดูแลสุขภาพหันมาใช้ LiveRamp เพื่อสร้างแบรนด์และมูลค่าทางธุรกิจที่ยั่งยืนโดยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างความร่วมมือใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับข้อมูลบุคคลที่หนึ่งของตน ขณะเดียวกันก็ยังคงก้าวทันข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามและความเป็นส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว LiveRamp ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ LiveRamp.com

เกี่ยวกับ Yahoo

Yahoo เข้าถึงผู้คนเกือบ 900 ล้านคนทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการเงิน กีฬา ช้อปปิ้ง เกม และข่าวสารมากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ เนื้อหา และเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ซึ่งช่วยขับเคลื่อนชีวิตประจำวันของพวกเขา สำหรับพันธมิตร เราให้บริการแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจเพื่อขยายการเติบโตและขับเคลื่อนการเชื่อมต่อที่มีความหมายมากขึ้นในการโฆษณา การค้นหา และสื่อ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ yahooinc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Michelle Millsap
pr@liveramp.com

ที่มา: LiveRamp

          

ASPIRE ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำหนดนิยามใหม่ของกีฬาแข่งรถเอ็กซ์ตรีมอัตโนมัติ: A2RL เผยโฉมรถ Dallara Super Formula “อัตโนมัติ” ที่งาน GITEX Global 2023

Logo

  • การแข่งรถอัตโนมัติครั้งแรกจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 ที่ Yas Marina Circuit ของอาบูดาบีโดยมีเงินรางวัลรวม 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • 10 ทีมชั้นนำจากสถาบันที่มีชื่อเสียง ได้แก่: University of California, Berkeley, Technical University of Munich และ Nanyang Technological University, Singapore
  • ผู้เข้าร่วมงาน GITEX จะได้ชมรถยนต์รุ่น Dallara SF23 ที่เป็นรถยนต์อัตโนมัติเป็นครั้งแรก

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2023

ASPIRE ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังความท้าทายอันยิ่งใหญ่และการแข่งขันระดับโลกสำหรับสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของอาบูดาบี ได้ประกาศรายละเอียดของ Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ที่เป็นที่รอคอยอย่างยิ่ง ในวันแรกของงาน GITEX Global ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีชั้นนำของโลก A2RL เผยโฉมรถยนต์รุ่นแรกที่เป็น Dallara Super Formula SF23 อัตโนมัติ ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ สิ่งมหัศจรรย์อันทันสมัยนี้สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและทำงานได้โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ จะเปลี่ยนแปลงวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการแข่งขันรอบปฐมฤกษ์ครั้งใหญ่ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2024 ที่ Yas Marina Circuit ของอาบูดาบี

Abu Dhabi Autonomous Racing League - 28th April 2024 - (Photo - AETOSWire)

Abu Dhabi Autonomous Racing League – 28 เมษายน 2024 – (รูปภาพ – AETOSWire)

A2RL เป็นงานประเภทแรกของภูมิภาคที่ผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความเป็นอิสระ และกีฬาเอ็กซ์ตรีมเพื่อผลักดันขอบเขตของการขับเคลื่อนในอนาคต งานนี้กำลังได้รับความสนใจว่าเป็นลีกการแข่งรถอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะจัดแสดงการแข่งรถอัตโนมัติ การแข่งโดรน และการแข่งรถบักกี้บนเนินทราย

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการของ ATRC ซึ่งเป็นองค์กรแม่ของ ASPIRE กล่าวว่า "ที่จุดบรรจบกันของวิทยาศาสตร์ กีฬา และเทคโนโลยี ความเป็นอิสระกำลังจะปฏิวัติอนาคตของการคมนาคมขนส่ง Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของ Abu Dhabi ในฐานะศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับนานาชาติ และเป็นพื้นที่ทดสอบชั้นนำสำหรับทดลองโซลูชันอัตโนมัติแบบพิสูจน์แนวคิด โดยการนำนักวิทยาศาสตร์ ผู้พัฒนา และผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดจากทั่วโลกมารวมตัวกันในสนามกีฬาเอ็กซ์ตรีม เราจึงทดสอบความสามารถต่อความทนทานอย่างแข็งขัน เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของเรา"

วันแข่งรอบปฐมฤกษ์ (การแข่งรถยนต์) จะนำเสนอภาพรวมของอนาคตของ AI ซึ่งเป็นการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นระหว่างประสบการณ์เสมือนจริงและชีวิตจริง และการแนะนำความบันเทิงกีฬาเอ็กซ์ตรีมยุคใหม่

ทีมชั้นนำ 10 ทีมจากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยระดับนานาชาติได้ยืนยันการเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์อัตโนมัติ และจะแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัล 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทีมที่เข้าร่วมได้แก่ Beijing Institute of Technology และ Khalifa University (จีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), Code19 Racing และ Indiana University (สหรัฐอเมริกา), Constructor Group (สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์), Hungarian Mobility Development Agency (ฮังการี), Kinetiz & Nanyang Technological University (สิงคโปร์), Politecnico di Milano (อิตาลี), Technical University of Munich (เยอรมนี), Technology Innovation Institute (UAE), University of California, Berkeley และ University of Hawaii (สหรัฐอเมริกา), University of Modena and Reggio Emilia (อิตาลี)

ทีมที่เข้าร่วมแต่ละทีมจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงรถยนต์ Dallara Super Formula SF23 ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ A2RL รถยนต์คันนี้ผลิตจากวัสดุคอมโพสิตชีวภาพที่ยั่งยืน ซึ่งมีน้ำหนัก 690 กิโลกรัม และปัจจุบันเป็นรถแข่งแบบเปิดล้อที่เร็วที่สุดในโลกรองจาก Formula One ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม.รถยนต์คันนี้มีระบบเบรกขั้นสูง ชุดระบบอัตโนมัติที่สร้างขึ้นเอง และระบบควบคุมคันเร่งแบบขับเคลื่อนด้วยลวด ทั้ง 10 ทีมจะมีโอกาสปรับใช้อัลกอริธึมซอฟต์แวร์ของตนบนยานพาหนะที่ล้ำสมัยคันนี้เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง ผู้เยี่ยมชม GITEX Global สามารถชมโมเดลอัตโนมัติได้ที่บูธ Advanced Technology Research Council (ATRC) – B10 ในฮอลล์ 17 ที่ Dubai World Trade Centre ตลอดช่วงห้าวันของการจัดงาน

ดร. Tom McCarthy กรรมการบริหารของ ASPIRE แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับโครงการริเริ่มนี้ว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำกิจกรรมการแข่งรถอัตโนมัติมาสู่อาบูดาบี และแสดงให้โลกเห็นผ่าน A2RL โครงการริเริ่มนี้ไม่เพียงแต่กำหนดนิยามใหม่ของอนาคตของการขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่คิดและสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นในการแข่งขันระดับนานาชาติอันน่าตื่นเต้น การเตรียมทีมแข่งขันด้วยรถยนต์ Dallara SF23 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ พร้อมด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ได้มุ่งเน้นที่ทักษะของผู้ขับขี่ แต่มุ่งเน้นเกี่ยวกับเทคโนโลยี การเขียนโปรแกรม และอัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ช่วยให้ยานพาหนะเหล่านี้สามารถขับเคลื่อนในสนามแข่งที่ซับซ้อนด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ”

A2RL คืองานแข่งขันแข่งรถยนต์ประจำปีระดับโลก ซึ่งมอบโอกาสอันมีค่าสำหรับความร่วมมือและการทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา งานนี้เน้นให้เห็นประเด็นสำคัญระดับประเทศ เช่น การเป็นผู้บุกเบิกอนาคตของการคมนาคมขนส่ง การสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรด้าน STEM รุ่นต่อไป การเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจความรู้ของอาบูดาบี และสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมนอกเหนือจากสนามแข่งรถ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม A2RL.io.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604224/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

*ที่มา: AETOSWire

รายชื่อติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร 
jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: ASPIRE

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียกร้องให้มีฉันทามติระดับโลกเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI

Logo

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง AI ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า “รัฐบาลต่างๆ ต้องหยุดพยายามกำกับดูแล AI โดยรวม และหันมาเน้นที่การควบคุมการใช้งานแทน”

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2023

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง AI ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ก่อนข้อตกลงปารีส ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างและมีผลบังคับใช้

An installation of how AI views Museum of the Future (Photo: AETOSWire)

การติดตั้งมุมมองที่ AI มีต่อพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต (ภาพ: AETOSWire)

Omar Al Olama รัฐมนตรีกระทรวงปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และแอปพลิเคชันการทำงานระยะไกลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวในการประชุมสภาดูไบว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI) ว่า ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ในการกำกับดูแล AI

“ผมคิดว่าการอภิปรายระดับโลกในปัจจุบันเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ยังไม่บรรลุผล แทนที่จะพยายามกำกับดูแลเทคโนโลยี เราสามารถกำกับดูแลการใช้งานได้” เขากล่าว

ระหว่างการประชุม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ เช่น Microsoft, Deloitte, PwC และ IBM Dubai Future Foundation ได้เปิดตัว Dubai Generative AI Alliance ซึ่งเป็นการรวมตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยี เพื่อช่วยดูไบเร่งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้และสร้างรัฐบาลที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Khalfan Belhoul ซีอีโอของ DFF เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ และนักนวัตกรรมเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาโครงการนำร่องเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดยใช้ประโยชน์จาก AI, metaverse และ Web3

รัฐบาลดูไบยังได้เปิดตัว “Dubai AI” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในเมืองดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI แพลตฟอร์มดิจิทัลทั่วเมืองจะนำเสนอข้อมูลและบริการที่ครอบคลุม ครอบคลุมด้านสุขภาพ ธุรกิจ และการศึกษา แก่ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน โดยจะเปลี่ยนแปลงการให้บริการของรัฐบาล

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับฟังว่าภาคการธนาคารทั่วโลกจะได้รับประโยชน์มากถึง 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐจากการเติบโตของ AI ได้อย่างไร

เวทีระดับโลกนี้ได้รับฟังจากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเทคโนโลยีและที่ปรึกษาระดับนานาชาติ PwC กล่าวว่าการทำงานอัตโนมัติในสถานที่ทำงานกำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ โดย Generative AI น่าจะสามารถปฏิบัติงานประจำวัน เช่น การจองเที่ยวบินและการสร้างรายงานโดยอัตโนมัติ ในวงกว้างภายใน 18-20 เดือนข้างหน้า

ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลชั้นนำของ Deloitte กล่าวว่า การหลอมรวมนิวเคลียร์ การดำเนินการด้านสภาพอากาศ และการค้นพบยาจะเป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์หลักของ Generative AI ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและเภสัชกรรมเป็นกลุ่มที่ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีเกิดใหม่ได้เร็วที่สุด

Adel Al Redha ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Emirates กล่าวว่าภายในเดือนพฤศจิกายน สายการบินจะ "เสริมอำนาจให้ลูกเรือสามารถใช้ประโยชน์จาก [Generative AI] ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับโมเดลที่ซับซ้อน"

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604113/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ที่มาAETOSWire

รายชื่อติดต่อ

Sara Al Qarout
salqarout@apcoworldwide.com

ที่มา: Dubai Future Foundation

Medisca ดำเนินการขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อปกป้องเทคโนโลยีซึ่งเป็นนวัตกรรมของบริษัท

Logo

Medisca ยื่นฟ้อง FlackTek ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร

PLATTSBURGH, N.Y.–(BUSINESS WIRE)–13 ตุลาคม 2023

Medisca ได้ดำเนินการอีกหนึ่งก้าวเพื่อปกป้องการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ (R&D) ที่ดำเนินการไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นเครื่องผสม Medisca MAZ® ชั้นนำของอุตสาหกรรม โดยเครื่องผสม Medisca MAZ นี้มอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ มีความสม่ำเสมอ และมีคุณภาพสูงสำหรับการผสมสูตรหลายร้อยสูตร และได้รับการคุ้มครองโดยสิทธิบัตรทั่วโลก

ในขณะที่ Medisca ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่สำคัญเพื่อแจ้งให้อุตสาหกรรมทราบเกี่ยวกับพอร์ตโฟลิโอสิทธิบัตรของตน บริษัทบางแห่งยังคงมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งละเมิดสิทธิบัตรของ Medisca อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์อันมีค่าของตนและเพื่อสร้างความมั่นใจในการแข่งขันกันอย่างยุติธรรม เมื่อเดือนที่แล้ว Medisca จึงมีการยื่นฟ้อง Fagron B.V., HiperScan GmbH และ Gako Deutschland GmbH ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรทางยุโรปของ Medisca German หมายเลข 3,538,071 คดีดังกล่าวได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงที่ Munich และเป็นคำร้องเพื่อบรรเทาทุกข์ เป็นคำสั่งห้าม และเยียวยาทางการเงิน

ในวันนี้ ความพยายามเพื่อบังคับใช้ของ Medisca ได้ขยายเข้าไปในสหรัฐอเมริกา โดยมีการยื่นฟ้องคดีละเมิดสิทธิบัตรที่ศาลแขวงของ South Carolina เพื่อให้ดำเนินคดีกับ FlackTek ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรของ Medisca ในสหรัฐอเมริกา หมายเลข 10,420,705, 10,765,600, 11,090,224, 11,096,864, 10,231,903 และ 10,993,876 เช่นเดียวกับการดำเนินการยื่นฟ้องคดีที่เยอรมันก่อนหน้านี้ คำร้องในสหรัฐอเมริกาฉบับนี้เป็นคำร้องเพื่อบรรเทาทุกข์ เป็นคำสั่งห้าม และเยียวยาทางการเงิน นอกจากนี้ ยังรวมถึงข้อกล่าวหาในการที่ PCCA ใช้และจำหน่าย SpeedMixer ของ FlackTek และส่วนผสมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิบัตรของ Medisca

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจในการแข่งขันอย่างยุติธรรมในตลาดระดับโลก ซึ่งมีการเคารพในนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา” Panagiota Danopoulos รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมระดับโลกของ Medisca กล่าว “ดังนั้น นอกเหนือจากการฟ้องร้องล่าสุดของเราในเยอรมนีแล้ว เรายังมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่า สิทธิบัตรของเราจะได้รับการรับรองทั่วโลก”

Medisca หวังว่าการยื่นฟ้องในวันนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจให้คู่แข่งทั้งหมดทราบถึงความสำคัญของการเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของ Medisca อุตสาหกรรมส่วนผสม (เช่น ยา และกัญชา) ต้องอาศัยคุณภาพและประสิทธิภาพที่นำเสนอโดยเครื่องผสม Medisca MAZ กลยุทธ์ด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาที่ Medisca ดำเนินการมาอย่างเนื่อง จะเป็นตัวรับประกันว่า บริษัทส่วนผสมทั้งหมดจะได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่พวกเขาสมควรได้รับ

เกี่ยวกับ Medisca:

Medisca เป็นองค์กรระดับโลกที่มีสำนักงานอยู่ทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งมีส่วนสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพ โดยใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับพันธมิตรที่ดีและแข็งแกร่ง จึงสามารถนำเสนอโซลูชันที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยความมุ่งมั่นในด้านคุณภาพและนวัตกรรมที่แน่วแน่ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี และด้วยพื้นฐานที่ดีในการจัดหาส่วนผสมทางเภสัชกรรม จึงเสริมให้ Medisca เป็นบริษัทแบบธุรกิจต่อธุรกิจ ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม โดยมอบคุณค่า ความสม่ำเสมอ การตอบสนอง และความภักดี ในฐานะพันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพ Medisca ทุ่มเทอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อปรับปรุงชีวิตให้ครอบคลุมความต้องการของผู้คนมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.medisca.com และติดตามเราได้ที่ LinkedInFacebookTwitter และ YouTube

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Adam Pinsky
Director of Communications
apinsky@medisca.com
1-800-932-1039

แหล่งข้อมูล: Medisca

Alpaca และ SBI Holdings ของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเร่งธุรกิจของ Alpaca ในเอเชีย

Logo

Alpaca แซงหน้าธุรกิจ 150 แห่ง ที่เปิดตัวบนแพลตฟอร์มนายหน้า และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตแบบเร่งตัวร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในแต่ละภูมิภาคหลัก

ซานมาเทโอ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE )–13 ตุลาคม 2023

Alpaca แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ระดับโลกสำหรับการซื้อขายหุ้นและสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับการเปิดตัวธุรกิจการลงทุนหลายร้อยแห่งทั่วโลก วันนี้ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ SBI Group ("SBI") ซึ่งเป็นกลุ่มบริการทางการเงินในญี่ปุ่นที่มีนายหน้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด (บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง) ในญี่ปุ่นโดยมีรายได้และมีสินทรัพย์มากกว่า 400 พันล้านเยนภายใต้การจัดการการลงทุน VC/PE

Alpaca and Japan’s SBI Holdings Announce Partnership and Strategic Investment to Accelerate Alpaca’s Asian Business (Graphic: Business Wire)

Alpaca และ SBI Holdings ของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งธุรกิจของ Alpaca ในเอเชีย (กราฟิก: Business Wire)

ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้ Alpaca สามารถเร่งการขยายธุรกิจและขยายการเข้าถึงไปยังสถาบันการเงินระดับองค์กรเพื่อการเคลียร์และดำเนินการหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ในเอเชีย

ในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งใหม่ SBI ได้ลงทุน 15 ล้านเหรียญสหรัฐใน Alpaca นอกจากนี้ SBI ยังได้ตกลงกับ Alpaca เพื่อให้คำมั่นสัญญาในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตของ Alpaca ผ่านความพยายามในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันและการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม

Alpaca ยังคงจัดหาทรัพยากรที่ทุ่มเทให้กับการขยายธุรกิจในเอเชียผ่านใบอนุญาตนายหน้า-ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับเมื่อเร็ว ๆ นี้ภายใต้ Japan FSA ด้วยใบอนุญาตในญี่ปุ่น Alpaca สามารถจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับสถาบันการเงินระดับองค์กรและบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อเสนอบริการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ให้กับลูกค้าปลายทางได้อย่างง่ายดาย

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ SBI ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเรา และเพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานของเราในภูมิภาคเอเชีย" กล่าวโดย Yoshi Yokokawa ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Alpaca "ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเร่งภารกิจของเราในการเปิดบริการทางการเงินแก่ทุกคนบนโลกอย่างมีนัยสำคัญ เงินทุนพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ SBI ช่วยให้เราสามารถเพิ่มสถานะของเราในภูมิภาคเอเชียได้อย่างมีนัยสำคัญ เร่งการให้บริการสถาบันการเงินระดับองค์กร และเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของท้องถิ่น เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ปลดล็อกศักยภาพอันมหาศาลนี้"

"การลงทุนของเราใน Alpaca สอดคล้องโดยตรงกับวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของเรา เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของเราในการเร่งสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าปลายทาง" กล่าวโดย Shohei Yamada รองผู้จัดการทั่วไปของ SBI Investment "เรารู้สึกประหลาดใจกับการเติบโตและความเร็วของนวัตกรรมที่ Alpaca ได้แสดงให้เห็น และรู้สึกตื่นเต้นที่จะสนับสนุนการขยายธุรกิจต่อไปในภูมิภาคเอเชีย"

นอกจากการเติบโตของ Alpaca ในญี่ปุ่นแล้ว แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของ Alpaca ยังสนับสนุนธุรกิจหลายร้อยรายในเกือบ 30 ประเทศ เช่น ตุรกี ซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย ไทย และอินเดีย Alpaca ระดมทุนได้มากกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุนชั้นนำในอุตสาหกรรมทั่วโลก

เกี่ยวกับ Alpaca

Alpaca เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ API แห่งแรกของนักพัฒนาที่รองรับธุรกิจหลายร้อยแห่งทั่วโลก Alpaca นำเสนอการซื้อขายหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบ end-to-end ผ่าน API ที่ทันสมัย Alpaca ระดมทุนได้มากกว่า 120 ล้านดอลลาร์ และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำในอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Portage Ventures, Spark Capital, Tribe Capital, Social Leverage, Horizons Ventures, Unbound, SBI Group, Eldridge, Positive Sum, Elefund และ Y Combinator

เกี่ยวกับ SBI Group

SBI Group ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ในฐานะผู้บุกเบิกบริการทางการเงินบนอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น เป็นกลุ่มการเงินทางอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจรที่ดำเนินงานทั่วโลก ครอบคลุมธุรกิจหลัก 5 ประเภท ได้แก่ "ธุรกิจบริการทางการเงิน" เช่น ธุรกิจหลักทรัพย์ การธนาคาร และประกันภัย "ธุรกิจการลงทุน" ซึ่งดำเนินธุรกิจการลงทุนในหุ้นนอกตลาด รวมถึงการร่วมลงทุน "ธุรกิจบริหารสินทรัพย์" ที่ให้บริการด้านการบริหารสินทรัพย์ที่หลากหลาย "ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล" ซึ่งดำเนินการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยน และ "ธุรกิจที่ไม่ใช่ทางการเงิน" ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ การดูแลสุขภาพและสารสนเทศทางการแพทย์, Web3 และตลาดใหม่ในต่างประเทศ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbigroup.co.jp/english/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604043/en

รายชื่อติดต่อ

press@alpaca.markets
ทีมการตลาด Alpaca

ที่มา: Alpaca

การถ่ายทอดสดงาน Tokushima International Consumer’s Forum 2023 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2023

Logo

โทคุชิมะ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–12 ตุลาคม 2023

จังหวัดโทคุชิมะจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน "Tokushima International Consumer’s Forum 2023" ภายใต้หัวข้อ "การเสริมพลังผู้บริโภคในยุคดิจิทัล" เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยจากภายในจังหวัดโทคุชิมะและภูมิภาคอาเซียนและอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงของผู้บริโภคและมาตรการรับมือที่เกิดจาก "ความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล”

The world famous Awa Dance has a 400 years’ history. The story of its origin varies. It is said that Awa Dance was performed often around the time Hachisuka Iemasa, a feudal load of Tokushima, entered Tokushima in 1586, and hoarded the wealth produced by the indigo and salt trades. Later, indigo traders played an active part and made the dance even more gorgeous year by year. Awa Dance was established in the civil society and flourished as a free-form of mass entertainment. Especially, after World War II, it developed rapidly as a symbol of reconstruction. Nowadays, Awa Dance is well-known around the world as a representative of Japan’s traditional arts. (Photo: Business Wire)

การเต้นรำอาวะซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกนั้นมีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ต้นกำเนิดของมันมีเรื่องราวที่มาแตกต่างกันไป กล่าวกันว่าการเต้นรำอาวะได้จัดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงยุคสมัยของ Hachisuka Iemasa ซึ่งเป็นกลุ่มศักดินาของโทคุชิมะได้เข้ามาสู่โทคุชิมะในปี 1586 และสะสมความมั่งคั่งที่เกิดจากการสีย้อมและเกลือ ต่อมาบรรดาผู้ค้าสีย้อมก็เข้ามามีส่วนร่วมและทำให้การเต้นรำนี้งดงามยิ่งขึ้นทุกปี การเต้นรำอาวะถือกำเนิดขึ้นในสังคมพลเมืองและเจริญรุ่งเรืองในฐานะความบันเทิงของมวลชนอันมีรูปแบบอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การเต้นรำอาวะได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนเป็นสัญลักษณ์ของการบูรณะใหม่ ปัจจุบันกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะตัวแทนของศิลปะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (รูปภาพ: Business Wire)

ผู้บริโภคต้องเผชิญกับอันตรายอะไรบ้างในสังคมดิจิทัลที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ ผู้บริโภคจะป้องกันตัวเองได้อย่างไรในขณะที่ยังคงเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายของสังคมดิจิทัล อีกทั้งผู้บริโภคมีบทบาทอย่างไรในยุคใหม่นี้

เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ ผู้นำผู้บริโภคและผู้นำรุ่นต่อไปจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่โทคุชิมะ ซึ่งเป็นผู้นำของญี่ปุ่นในด้านนโยบายผู้บริโภคร่วมกับสำนักงานใหญ่เชิงกลยุทธ์ของหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคญี่ปุ่น (Consumer Affairs Agency: CCA) บัดนี้ เราเสนอแนวทางบริโภคนิยมรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัลจากโทคุชิมะสู่โลก

การประชุมแสดงความคิดเห็นจะมีการถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ด้านล่าง เราหวังว่าการประชุมที่กำลังจะมาถึงนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการอภิปรายอันมีความหมายซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าของนโยบายผู้บริโภคระหว่างประเทศและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อสังคมอันยั่งยืนสำหรับทุกคนทั่วโลก

  1. หัวข้อหลัก
    การเสริมพลังผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
  2. วันที่และเวลา (ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น JST)
    วันที่ 31 ตุลาคม (วันอังคาร) 2023 เวลา 10.30–17.00 น. (ถ่ายทอดสด)
  3. กำหนดการ (ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น JST)
  • 10.30–10.50 น. กล่าวเปิดงาน
  • 10.50–11.50 น. คำปราศัยสำคัญ
    [ 30 ปีแห่งผู้บริโภคดิจิทัล – ความดี ความเลวร้าย และอนาคต – ]
  • 13.00–14.30 น. การประชุมร่วมกับหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคญี่ปุ่น
    [ การคุ้มครองผู้บริโภคในยุคดิจิทัล – ปัจจุบันและอนาคต – ]
  • 15.00–16.40 น. การประชุมเพื่ออนาคตกับเยาวชนจากโทคุชิมะและกลุ่มประเทศอาเซียน

[ พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล – คำแนะนำของเรา – ]

  • 16.40–17.00 น. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั่วไป

* สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Tokushima International Consumer’s Forum 2023 ด้านล่างนี้

Tokushima International Consumer’s Forum 2023
https://www.pref.tokushima.lg.jp/en/world.consumer.forum/2023/

ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดโทคุชิมะ (ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี)
https://discovertokushima.net/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53584759/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

เพื่อสอบถามข้อมูล

กองนโยบายผู้บริโภค สำนักพัฒนาผู้บริโภคและความปลอดภัย

ฝ่ายบริหารจัดการวิกฤติและสิ่งแวดล้อม

สำนักงานจังหวัดโทคุชิมะ
โทร: +81-88-621-2499
อีเมล : shohishaseisakuka@pref.tokushima.jp

ที่มา: สำนักงานจังหวัดโทคุชิมะ

Xsolla ประกาศเข้าซื้อกิจการ Lightstream, Rainmaker และ API.stream

Logo

Xsolla เข้าซื้อกิจการ Lightstream, Rainmaker และ API.stream เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้สร้าง และปรับปรุงการสร้างและเผยแพร่เนื้อหา

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–11 ตุลาคม 2023

Xsolla บริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลก รู้สึกยินดีที่จะประกาศการเข้าซื้อกิจการ Lightstream, Rainmaker และ API.stream จาก Videndum ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ชุดเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปฏิวัติวงการการสร้างและการเผยแพร่เนื้อหา

Xsolla Acquires Lightstream (Graphic: Business Wire)

Xsolla เข้าซื้อกิจการ Lightstream (ภาพ: Business Wire)

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงการยอมรับของ Xsolla ถึงคุณค่าอันมหาศาลที่ผู้สร้างนำมาสู่ระบบนิเวศเกมและมุ่งมั่นที่จะสร้างและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเอเจนซี่ ผู้สร้างมากความสามารถ และผู้ชมของพวกเขา

Xsolla Partner Network ทำหน้าที่เป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับนักพัฒนาและผู้เผยแพร่ที่มีส่วนร่วม และสำรวจโอกาสในการสร้างรายได้และรางวัลใหม่ๆ การซื้อกิจการ Lightstream, Rainmaker และ API.stream ของ Xsolla จะช่วยให้ผู้สร้างสามารถถ่ายทอดสดได้ภายในไม่กี่วินาทีผ่านบริการสตรีมมิ่งบนคลาวด์ ขอคีย์ฟรีจากนักพัฒนาเกม เข้าร่วมในโปรแกรมการแนะนำ สร้างร้านค้าบนเว็บที่มีแบรนด์ของตน และขายสินค้าดิจิทัลสำหรับเกมในพอร์ตโฟลิโอของ Xsolla

Lightstream เป็นสตูดิโอสตรีมมิ่งบนคลาวด์ที่ช่วยให้ผู้สร้างสามารถผลิตและแบ่งปันเนื้อหาสดได้อย่างง่ายดาย การบูรณาการเทคโนโลยีของ Lightstream เข้ากับ Xsolla จะช่วยให้ผู้สร้างสามารถเริ่มการสตรีมสดได้อย่างง่ายดายโดยมีข้อกำหนดทางเทคนิคเพียงเล็กน้อย เพิ่มความสะดวกให้กับประสบการณ์การสตรีมที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับผู้ใช้

แพลตฟอร์ม Rainmaker ช่วยให้ผู้สร้างสามารถจัดการและเพิ่มจำนวนผู้ชมพร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อย่างสูงสุด การบูรณาการเครื่องมือของ Rainmaker เข้ากับ Xsolla Partner Network จะทำให้ผู้สร้างได้รับชุดฟีเจอร์ที่ครอบคลุมซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของผู้ชม การสร้างรายได้ และการแจกจ่ายคีย์ฟรี

API.stream เป็นทีมวิศวกรที่เก่งกาจและน่าทึ่ง ซึ่งอุทิศตนเพื่อพัฒนาอนาคตของการผลิตสตรีมมิ่งสด ด้วยประสบการณ์หลายปีในการจัดการกับความท้าทายและความเป็นไปได้ของเอาต์พุตแบบสดบนคลาวด์ API.stream ได้ปลดล็อกช่องทางใหม่สำหรับการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในการสตรีมมิ่งแบบสด

"Xsolla มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้สร้างและมอบเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จ" Chris Hewish ซีอีโอของ Xsolla กล่าว "การเข้าซื้อกิจการ Lightstream, Rainmaker และ API.stream ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบคุณค่าพิเศษให้กับชุมชนเกม และทำให้ Xsolla Partner Network กลายเป็นโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับนักพัฒนา ผู้เผยแพร่ ผู้สร้าง และผู้ชมของพวกเขา"

Xsolla ให้ความมั่นใจแก่ผู้ใช้ Lightstream ในปัจจุบันว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะยังคงทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ Microsoft, Xbox, Twitch และ Steelseries การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ และจัดหาทรัพยากรและฟีเจอร์เพิ่มเติม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ Lightstream, Rainmaker และ API.stream โปรดไปที่xsolla.pro/lightstream-acquisition

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ในการระดมทุนทุกระดับ การตลาด การเปิดตัว และการสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก Xsolla รองรับเกมหลักๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Ubisoft, Epic Games, Take-Two, KRAFTON , Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในกรุงเบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่: xsolla.com

เกี่ยวกับ Videndum

Videndum คือผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และโซลูชันซอฟต์แวร์ระดับพรีเมียมแก่ตลาดการสร้างเนื้อหาที่กำลังเติบโต ลูกค้าของเราประกอบด้วยผู้ออกอากาศ สตูดิโอภาพยนตร์ บริษัทผลิตและให้เช่า ช่างภาพ ผู้สร้างเนื้อหาอิสระ ("ICC") วล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ เกมเมอร์ ทีมงานเสียงมืออาชีพ และองค์กรต่างๆ เราออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันประสิทธิภาพสูง รวมถึงตัวรองรับและตัวป้องกันกล้อง ระบบส่งสัญญาณวิดีโอและจอภาพ โซลูชันสตรีมมิ่งสด อุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน ระบบกล้องหุ่นยนต์ เครื่องบอกบท ไฟ LED พลังงานเคลื่อนที่ โซลูชันพกพา พื้นหลัง อุปกรณ์บันทึกเสียง และลดเสียงรบกวน เรามีพนักงานประมาณ 1,800 คนใน 11 ประเทศ และแบ่งออกเป็น 3 แผนก ได้แก่ โซลูชันสื่อ โซลูชันการผลิต และโซลูชันเชิงสร้างสรรค์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่: videndum.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53593457/en

รายชื่อติดต่อ

ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลก Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

LiveRamp เปิดตัวการเปิดใช้งาน Clean Room และการปรับปรุงการระบุตัวตนที่ประมวลผลบนคลาวด์หลักทั้งหมด

Logo

ความสามารถการประมวลผลบนคลาวด์ (cloud-native) ที่เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลักแบบใหม่ช่วยให้ลูกค้าหมดปัญหาสัญญาณขาดหาย เชื่อมต่อมุมมองของลูกค้าทั่วทั้งองค์กรได้อย่างแม่นยำ และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นทั่วทั้งระบบนิเวศ

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–10 ตุลาคม 2023

LiveRamp (NYSE: RAMP) ประกาศในวันนี้ถึงการเปิดใช้งาน Clean Room ใหม่ และความสามารถด้านการระบุตัวตนบนคลาวด์เป็นหลัก ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเปิดใช้งานและเชื่อมต่อข้อมูลพร้อมทั้งเข้าถึงการวิเคราะห์เชิงลึกและข้อมูลเชิงลึกของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ ผู้เผยแพร่ และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจึงสามารถเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับข้อมูลที่ตนเป็นผู้รวบรวมโดยตรง รวบรวมและใช้งานข้อมูลจากทุกสภาพแวดล้อมได้อย่างราบรื่น และเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคผ่านการวัดผลที่ละเอียดยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้อยู่ภายในชุดเครื่องมือเทคโนโลยีที่องค์กรหรือระบบนิเวศของพันธมิตรมีอยู่

สำหรับการปรับปรุงแพลตฟอร์มเหล่านี้ ลูกค้าของ LiveRamp มากกว่า 900 รายจึงได้รับประโยชน์ต่อไปนี้

การทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายร้อยรายโดยตรงจาก Data Clean Room ของ Snowflake และ LiveRamp ลูกค้าสามารถใช้ความสามารถของ Clean Room รุ่นใหม่ที่ประมวลผลบนคลาวด์ของ LiveRamp ใช้งานข้อมูลของตนร่วมกับพันธมิตรหลายร้อยรายได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันที่พวกเขาเลือก รวมถึง Snowflake และ LiveRamp Clean Room ด้วยความแม่นยำและการเชื่อมต่อที่ปรับปรุงแล้ว

ลูกค้า LiveRamp สามารถใช้ RampID™ ที่เป็นตัวระบุตัวบุคคลที่แข็งแกร่งและเน้นความเป็นส่วนตัวมากที่สุดสำหรับการเชื่อมต่อระบบนิเวศดิจิทัล เพื่อดำเนินการกับข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่ปลอดภัยได้ทันที ในขณะที่ยังคงขนาดและการเข้าถึงที่ไม่มีใครเทียบได้ LiveRamp ยังนำเสนอความสามารถในการทำงานร่วมกันทั่วทั้งระบบนิเวศนี้โดยไม่จำเป็นต้องใช้หลายโซลูชัน หรือสร้างการบูรณาการใหม่สำหรับพันธมิตรและแพลตฟอร์มแต่ละราย ด้วยการเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับเครือข่ายที่มีข้อมูลกว้างขวางที่สุดในอุตสาหกรรม

"การเป็นพันธมิตรกับ LiveRamp เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของ Clean Room ผ่านแพลตฟอร์ม Converged และระบบนิเวศของเรา ได้ช่วยปรับปรุงการใช้งานข้อมูลที่เรารวบรวมโดยตรง และสร้างกลุ่มผู้ชมที่ตรงเป้าหมายและแม่นยำ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากสภาพแวดล้อมเดียวกัน" Mike Bregman ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเปิดใช้งานของ Havas Media Network อเมริกาเหนือ กล่าว "สิ่งนี้ทำให้ Havas Media สามารถช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกข้ามช่องทางมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ"

"Data Clean Room กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งมอบข้อมูลลูกค้าอัจฉริยะแก่พันธมิตรแบรนด์ของเรามากขึ้น ในขณะเดียวกันก็รักษาความโปร่งใสและการควบคุมที่เราต้องการในฐานะผู้ดูแลข้อมูลผู้ชมของเรา" Brian Lin รองประธานอาวุโสฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ การโฆษณาของ TelevisaUnivision กล่าว "ความสามารถในการเปิดใช้งานโดยตรงจาก Clean Room รุ่นใหม่ของ LiveRamp ช่วยเพิ่มการขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเราให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็รักษาระดับการปกป้องความเป็นส่วนตัวในระดับสูงสุด"

การระบุตัวตนของผู้ใช้งานบนคลาวด์หลักทั้งหมดรายแรกของอุตสาหกรรม ลูกค้าสามารถใช้ความสามารถในการระบุตัวตนของผู้ใช้งานแบบฝังและแบบประมวลผลบนคลาวด์ เพื่อเลือกที่จะขยายข้อมูลที่ใช้นามแฝงที่ตนรวบรวมเพื่อรวมองค์ประกอบข้อมูลที่รู้จัก เช่น CRM และที่อยู่อีเมล ได้โดยตรงในแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ต้องการ รวมถึง AWS, Azure Google Cloud, Databricks และ Snowflake ลูกค้า LiveRamp สามารถเพิ่ม ROI ทางการตลาดได้สูงสุดจากทุกที่ที่มีข้อมูลอยู่

การกระจายตัวของข้อมูลลูกค้าทำให้การเข้าถึงข้อมูลระบุตัวตนตามบุคคลในระบบคลาวด์เป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น 86% ของผู้บริโภค มีที่อยู่อีเมลหลายอีเมล ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขเป็นรายบุคคลเพื่อให้สามารถเปิดใช้งานและวัดผลได้ดีที่สุด นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อโดยเฉลี่ย 13 เครื่อง  ที่อาจนำไปใช้ในการโฆษณาแบบองค์รวมและกลยุทธ์การวัดผล รูปแบบการซื้อเฉพาะครัวเรือนก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทำให้วัดการระบุแหล่งที่มาอย่างแม่นยำเป็นเรื่องยาก การใช้ความสามารถด้านการระบุตัวตนบนคลาวด์เป็นหลักของ LiveRamp ทำให้บริษัทสามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้โดยการแก้ไขตัวระบุตัวตนบุคคลหลายรายการกลับไปเป็นบุคคลเดียวและครัวเรือน จึงปรับปรุงการวัดผลและเปิดใช้งานการโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดความจำเป็นในการเคลื่อนย้ายข้อมูลให้เหลือน้อยที่สุด

"ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีของ LiveRamp โดยไม่ต้องออกจากสภาพแวดล้อมคลาวด์ของเรานั้นเป็นประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ" Seth Hirsh พันธมิตร หัวหน้าฝ่ายการวิเคราะห์ของ Acadia กล่าว "ในขณะที่เราวางแผนอนาคตของเราบน Snowflake นั้น LiveRamp จะเป็นเครื่องมือให้เราในการปรับปรุงกระบวนการนำข้อมูลขึ้นสู่คลังข้อมูลบนคลาวด์ กำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวางทั่วทั้งระบบนิเวศ และปรับปรุงผลลัพธ์การวัดผลสำหรับลูกค้าของเราโดยไม่ต้องย้ายข้อมูลระหว่างสภาพแวดล้อม"

Kimberly Bloomston รองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ LiveRamp กล่าวเสริมว่า "การนำความสามารถด้านการเปิดใช้งานและการระบุตัวตนที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมบนระบบคลาวด์ของ Clean Room มาสู่ตลาด ทำให้มั่นใจได้ว่าองค์กรต่างๆ จะมีความสามารถในการยกระดับแนวปฏิบัติด้านข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลเชิงลึก และสร้างความยืดหยุ่นสำหรับอนาคต คุณสมบัติใหม่นี้มอบการเข้าถึงชุดข้อมูลที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ช่วยให้การเปิดใช้งานแคมเปญง่ายขึ้น และเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคในลักษณะที่แม่นยำสม่ำเสมอ ธุรกิจต่างๆ จะได้รับพลังจาก LiveRamp ในการพัฒนาความคิดริเริ่มในการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ควบคู่ไปกับความต้องการของระบบนิเวศที่กระจัดกระจายอย่างมาก และการเดินทางที่ซับซ้อนของลูกค้าและพันธมิตร รวมถึงระบบคลาวด์และ Clean Room"

LiveRamp ยังคงพัฒนาโซลูชันและขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลต่อไปในองค์ประกอบที่สำคัญสี่ประการดังนี้

  • Live/Identity (การระบุตัวตน): สร้างโครงสร้างพื้นฐานการระบุตัวตนขององค์กรเพื่อระบุและจับคู่ลูกค้าทั่วทั้งช่องทาง พันธมิตร และแพลตฟอร์มอย่างแม่นยำ เพื่อเชื่อมต่อมุมมองของลูกค้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • Live/Access (การเข้าถึง): ขยายมูลค่าของข้อมูล เพิ่มความเข้าใจลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเข้าถึงกลุ่มผู้ชมใหม่ๆ ด้วยเครือข่ายพันธมิตรข้อมูลคุณภาพสูงของ LiveRamp
  • Live/Connectivity (การเชื่อมต่อ): หมดปัญหาสัญญาณขาดหาย เปิดรับอนาคตของความสามารถในการระบุที่อยู่ และเชื่อมต่อกับผู้ชมที่มีมูลค่าสูงในวงกว้าง ไม่ว่าพวกเขาจะใช้เวลาอยู่ที่ใดก็ตาม
  • Live/Insights (ข้อมูลเชิงลึก): กระตุ้นนวัตกรรมและปลดล็อกการวัดผลและการวิเคราะห์อันทรงพลังด้วยความสามารถของ Clean Room ที่แข็งแกร่ง พร้อมการควบคุมและการอนุญาตขั้นสูง และเทคโนโลยีปรับปรุงความเป็นส่วนตัวที่ล้ำสมัยในตัว

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับแต่งโซลูชันของ LiveRamp สำหรับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะคุณ บนเว็บไซต์ของเรา

เกี่ยวกับ LiveRamp

LiveRamp เป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลที่บริษัทนวัตกรรมเลือกใช้มากที่สุดในโลก LiveRamp ซึ่งเป็นผู้นำที่ก้าวล้ำในด้านความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค จริยธรรมของข้อมูล และเอกลักษณ์องค์กร กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการสร้างมุมมองของลูกค้าที่เชื่อมต่อด้วยความชัดเจนและบริบทที่ไม่มีใครเทียบได้ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องแบรนด์อันมีค่าและความไว้วางใจของผู้บริโภค LiveRamp นำเสนอความยืดหยุ่นที่ครอบคลุมในการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะมีข้อมูลอยู่ที่ไหนก็ตาม เพื่อสนับสนุนกรณีการใช้งานการทำงานร่วมกันของข้อมูลที่หลากหลายที่สุด ทั้งภายในองค์กร ระหว่างแบรนด์ และทั่วทั้งเครือข่ายชั้นนำระดับโลกของพันธมิตรคุณภาพสูง

นักนวัตกรรมระดับโลกหลายร้อยราย ตั้งแต่แบรนด์ผู้บริโภคที่โดดเด่นและยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีไปจนถึงธนาคาร ผู้ค้าปลีก และผู้นำด้านการดูแลสุขภาพหันมาใช้ LiveRamp เพื่อสร้างแบรนด์และมูลค่าทางธุรกิจที่ยั่งยืนโดยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างความร่วมมือใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับข้อมูลบุคคลที่หนึ่งของตน ขณะเดียวกันก็ยังคงก้าวทันข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามและความเป็นส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว LiveRamp ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.liveramp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Michelle Millsap
PR@liveramp.com

ที่มา: LiveRamp

Soren Bjorn ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอของ Driscoll’s

Logo

J. Miles Reiter ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ Driscoll's จะเกษียณอายุในเดือนมกราคม 2024 และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

วัตสันวิลล์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–10 ตุลาคม 2023

คณะกรรมการบริหารของ Driscoll’s ได้เลือก Soren Bjorn ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานของ Driscoll's อเมริกา ให้เป็นซีอีโอคนใหม่ของบริษัท เขาจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2024 และดูแลการดำเนินงานทั่วโลกของบริษัทในแต่ละวัน J. Miles Reiter ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ Driscoll's ได้ประกาศแผนการของเขาที่จะเกษียณในสิ้นปีนี้และก้าวขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัทครอบครัวแห่งนี้

Soren Bjorn, Driscoll's incoming CEO (Photo: Business Wire)

Soren Bjorn ซีอีโอคนใหม่ของ Driscoll's (ภาพ: Business Wire)

Bjorn เข้าร่วมกับ Driscoll's ซึ่งเป็นบริษัทขายผลเบอร์รี่ของโลกในปี 2006 และมีส่วนร่วมในธุรกิจเกือบทุกด้านในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ในฐานะอดีตรองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและเทคโนโลยีระดับโลก เขาเป็นผู้นำการพัฒนาธุรกิจในยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย รวมถึงการวิจัยและพัฒนาและการปรับปรุงพันธุ์ระดับโลก เขากลายเป็นผู้นำหน่วยธุรกิจของ Driscoll’s ในอเมริกาเหนือในปี 2013 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นประธานของ Driscoll's อเมริกาในปี 2017 ที่เป็นตำแหน่งปัจจุบันของเขา

ผลเบอร์รี่ของ Driscoll’s เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั่วโลก ทำให้เป็นหนึ่งใน แบรนด์ร้านค้าปลีกชั้นนำ ในฐานะซีอีโอคนใหม่ Bjorn ให้ความสำคัญกับการรักษาวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองของบริษัท และเร่งการเติบโตทั่วโลกต่อไปเป็นลำดับแรก เขายังจะชี้นำความพยายามของบริษัทในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและรับประกันว่าธุรกิจยังคงมีความยืดหยุ่นต่อความท้าทายของอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยนำประสบการณ์ในการเป็นผู้นำงานวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรมมาใช้

"ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ Miles คณะกรรมการ และสมาชิกในทีมของ Driscoll’s หลายพันคนทั่วโลกไว้วางใจให้ผมนำทางบริษัทไปสู่อนาคต" Bjorn กล่าว "มรดกของ Miles คือพลังและความชัดเจนของภารกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมของ Driscoll’s Miles ได้ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการดำเนินการทั้งหมดของบริษัท ในฐานะผู้ดูแลคนใหม่ของ Driscoll's ผมขอให้คำมั่นสัญญากับพนักงาน พันธมิตร และลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ว่าผมจะต่อยอดมรดกของ Miles และรักษาหลักการเหล่านี้ไว้เช่นกัน"

มรดกอันยาวนาน

Miles Reiter มีส่วนร่วมในธุรกิจเบอร์รี่ในด้านใดด้านหนึ่งมาเป็นเวลาเกือบ 70 ปี หลังจากเรียนจบวิทยาลัย เขากลายเป็นคนปลูกเบอร์รี่ใน Pajaro Valley ของรัฐแคลิฟอร์เนียในช่วงทศวรรษ 1970 และได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการบริหารในปี 1988 Reiter ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทถึงสองครั้ง ครั้งแรกระหว่างปี 2000-2015 และต่อมาตั้งแต่ปี 2018 ถึงปัจจุบัน

"ผมคิดว่าหลายชั่วอายุคนของครอบครัวผมก่อนหน้าผม และหลายชั่วอายุคนหลังจากนี้ได้เคยมีส่วนร่วมและจะมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในธุรกิจที่น่าสนใจนี้เสมอ" Reiter กล่าว "ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักผู้คนที่ประกอบเป็นทีมงานระดับโลกของเราซึ่งประกอบด้วยพนักงาน เกษตรกรอิสระ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และลูกค้ารายย่อย ไม่ว่าจะเป็นในไร่ ในสถานที่ทำงาน ในตลาด ขณะดื่มไวน์และรับประทานอาหาร ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น"

เขากล่าวเสริมว่า "ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอแล้ว ผมร่วมกับคณะกรรมการบริหารได้ค้นหาผู้นำคนใหม่ที่มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อค่านิยม ภารกิจของเรา และอนาคตที่ Driscoll's จะกลายเป็นบริษัทเบอร์รี่ของโลก ที่ช่วยยกระดับชีวิตของทุกคนที่เราสัมผัส เราแต่งตั้ง Soren เป็นซีอีโอคนใหม่ด้วยความกระตือรือร้นและความมั่นใจอย่างยิ่ง ความรู้อันลึกซึ้งของเขาในธุรกิจเบอร์รี่ระดับโลก สติปัญญาอันทรงพลัง การตัดสินอย่างมีเหตุผล และอารมณ์ขันที่ส่งต่อผู้อื่น ทำให้เขามีคุณสมบัติพิเศษสำหรับบทบาทนี้"

เกี่ยวกับ Driscoll's

Driscoll's เป็นผู้นำตลาดโลกด้านสตรอเบอร์รี่สด บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่ Driscoll's เป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรมรสชาติเบอร์รี่และแบรนด์ผู้บริโภคที่เชื่อถือได้ของ Only the Finest Berries™ ด้วยประสบการณ์การทำฟาร์มมากกว่า 100 ปี Driscoll’s พัฒนาพันธุ์เบอร์รี่ที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะโดยใช้เพียงวิธีการปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการปลูกผลเบอร์รี่รสชาติดี ด้วยผู้ปลูกอิสระมากกว่า 900 รายทั่วโลก ทีมนักวิทยาศาสตร์การเกษตร ผู้เพาะพันธุ์ นักวิเคราะห์ประสาทสัมผัส นักพืชวิทยา และนักกีฏวิทยาที่ทุ่มเทช่วยปลูกต้นกล้าอ่อน จากนั้นจะปลูกบนฟาร์มครอบครัวในท้องถิ่น ผลเบอร์รี่ของ Driscoll’s ปลูกในกว่า 20 ประเทศ และมีจำหน่ายสำหรับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53584740/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Frances Dillard
press@driscolls.com

ที่มา: Driscoll's


12Go เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวในเอเชีย

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–11 ตุลาคม 2023

12Go ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียและให้บริการด้านการท่องเที่ยวในเอเชียเป็นหลัก โดยขายตั๋วออนไลน์สำหรับรถบัส เรือเฟอร์รี่ และรถไฟ เผยรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของหมู่นักเดินทางแบบครอบครัวในช่วงฤดูร้อนปี 2023

รายชื่อสถานที่นี้อิงตามข้อมูลตั๋วที่ครอบคลุมและรวบรวมโดยบริษัท 12Go ระบุสถานที่ท่องเที่ยวที่โดนใจลูกค้ามากที่สุดจากการวิเคราะห์ตั๋วที่ขายได้ตลอดทั้งปี

การวิเคราะห์แสดงให้เห็นถึง 10 ประเทศในเอเชียที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางของ 12Go ประกอบไปด้วยข้อมูลเชิงลึกของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย สิงคโปร์ และศรีลังกา

ไทยนำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเชียงใหม่ กรุงเทพฯ และเกาะสมุยนับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่โดดเด่นสำหรับครอบครัว

อินโดนีเซียคว้าอันดับสองมาด้วยซานูร์ นูซาเปอนีดา และหมู่เกาะกีลี สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีชายหาดสวยงามและกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ที่มอบประสบการณ์ตราตรึงใจในช่วงฤดูร้อน

เวียดนามอยู่ที่อันดับสามโดยมีฮานอย ดานัง และนิญบิ่ญเป็นที่น่าจับตามอง ครอบครัวนักเดินทางสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ

ฟิลิปปินส์นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัวอย่าง โบโฮล เซบู และมะนิลา

อันดับที่ 5 เป็นของมาเลเซีย โดยมีสามเมืองที่ฮอตที่สุด นั่นคือกัวลาลัมเปอร์ มะละกา และปะหัง ซึ่งรวบรวมเมืองน่าสำรวจและการผจญภัยกลางแจ้งไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่รอบด้าน

กัมพูชาคว้าอันดับที่ 6 ด้วยพนมเปญและเสียมราฐ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศและความน่าทึ่งของโบราณสถานเหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่อยากเจาะลึกถึงอดีต

อันดับที่ 7 เป็นของอินเดีย นำมาโดยเมืองที่โดดเด่นอย่างอัครา  ชัยปุระ และเดลี ครอบครัวนักเดินทางสามารถดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และลิ้มลองอาหารเลิศรส

ศรีลังกาครองอันดับ 8 ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูร้อนมากมายรวมถึงแคนดี้ และนูวาราเอลิยา ครอบครัวนักเดินทางสามารถเดินทางไปทั่วศรีลังกาเพื่อเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์เขียวขจีและไร่ชา

อันดับที่ 9 นั้นเป็นของญี่ปุ่น ผู้นำเสนอเมืองที่มีชีวิตชีวาอย่างโตเกียวและเกียวโต ครอบครัวนักเดินทางสามารถสัมผัสกับความผสมผสานที่ลงตัวกันของประเพณีและความทันสมัย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เหมาะสำหรับครอบครัว

ปิดท้ายด้วยนครรัฐที่มีชีวิตชีวาอย่างสิงคโปร์ การผสมผสานกันของเมืองที่ทันสมัยและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวที่มองหาวันหยุดพักผ่อนสุดตื่นเต้น

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวสิบอันดับแรกของ 12Go ล้วนเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งสำหรับประสบการณ์ที่มีคุณค่า การผจญภัยที่น่าจดจำ และการใช้เวลากับครอบครัว

12Go  https://12go.asia/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Tetiana But
tetiana.but@12go.asia

ที่มา: 12Go

The Bangkok Reporter