NPCI International ร่วมมือกับ Bank of Namibia เพื่อปรับใช้ UPI Stack ของอินเดียในนามิเบีย

Logo

มุมไบ, อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–03 พฤษภาคม 2024

NPCI International Payments Limited (NIPL) ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศของ National Payments Corporation of India (NPCI) ได้ลงนามในข้อตกลงกับ Bank of Namibia (BoN) เพื่อสนับสนุนพวกเขาในการพัฒนาระบบการชําระเงินทันที เช่น Unified Payment Interface (UPI) ในนามิเบีย

Mr. Johannes !Gawaxab, Hon'ble Governor of the Bank of Namibia (left) and Mr. Ritesh Shukla, CEO, NPCI International (Photo: Business Wire)

Mr. Johannes !Gawaxab ผู้ว่าการธนาคารแห่งนามิเบีย (ซ้าย) และ Mr. Ritesh Shukla, ซีอีโอ, NPCI International (ภาพ: Business Wire)

ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวกระโดดเชิงกลยุทธ์ในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของนามิเบีย และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและประสบการณ์จาก UPI ของอินเดีย ความร่วมมือนี้มุ่งมั่นที่จะช่วยให้นามิเบียปรับปรุงระบบนิเวศทางการเงินให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงการเข้าถึง ความสามารถในการจ่าย การเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชําระเงินทั้งในและต่างประเทศ และความสามารถในการทํางานร่วมกัน

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับบริการทางการเงินดิจิทัล และสนับสนุนธุรกรรมการชําระเงินแบบบุคคลต่อบุคคล (P2P) และผู้ค้า (P2M) แบบเรียลไทม์ในประเทศแอฟริกา คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่มีอยู่ในแพลตฟอร์ม UPI ไม่เพียงแต่สัญญาว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเท่านั้น แต่ยังรับประกันความสามารถในการปรับขนาดสําหรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคตและความต้องการของตลาด ด้วยความร่วมมือนี้ BoN จะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกที่ดีที่สุดจาก NIPL ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างแพลตฟอร์มที่คล้ายกันในนามิเบีย เพื่อสวัสดิการดิจิทัลของพลเมือง

Mr. Johannes !Gawaxab ผู้ว่าการธนาคารแห่งนามิเบียกล่าวว่าเป้าหมายของเราคือการเพิ่มการเข้าถึงและความสามารถในการจ่ายให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาส บรรลุความสามารถในการทํางานร่วมกันของเครื่องมือการชําระเงินได้อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2025 ปรับปรุงภาคการเงินให้ทันสมัย และรับประกันระบบการชําระเงินแห่งชาติที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ความพยายามนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของธนาคาร และวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ NPS ปี 2025 โดยจงใจใช้แนวทางที่นําโดยธนาคารกลางเพื่อลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานสําหรับสถาบันการเงิน  ซึ่งจะทําให้มั่นใจได้ถึงความยั่งยืนและความสามารถในการจ่ายของโซลูชันการชําระเงินทันทีสําหรับผู้ใช้ปลายทาง ระบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมโยงบุคคล ธุรกิจ และหน่วยงานของรัฐทั่วนามิเบีย รวมถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือทางสังคม ทําให้ปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการดิจิทัล

Mr. Ritesh Shukla ซีอีโอของ NPCI International กล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่า เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ Bank of Namibia เพื่อเปิดใช้ระบบการชําระเงินแบบเรียลไทม์แบบ UPI ในนามิเบีย เพื่อประโยชน์สาธารณะดิจิทัลของพลเมือง เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้พลเมืองนามิเบียสามารถทําธุรกรรมได้ทันทีโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและประสบการณ์จาก UPI ของอินเดียได้ทันที ด้วยการใช้เทคโนโลยีนี้ประเทศจะได้รับอํานาจอธิปไตยในภูมิทัศน์การชําระเงินดิจิทัล และได้รับประโยชน์จากการทํางานร่วมกันของการชําระเงินที่เพิ่มขึ้น และการเข้าถึงทางการเงินที่ดีขึ้นสําหรับประชาชนที่ด้อยโอกาส นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการขยายขนาดและความสามารถในการปรับตัวเพื่อรองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคตและความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

เมื่อเปิดใช้งานแล้ว แพลตฟอร์มจะอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมดิจิทัลในนามิเบีย ขับเคลื่อนการเข้าถึงทางการเงิน และลดการพึ่งพาเงินสด ด้วยการให้บริการกับประชาชนที่ด้อยโอกาส ความพยายามในการทํางานร่วมกันนี้ พยายามจะนําเสนอบริการทางการเงินที่จําเป็นและราคาไม่แพงแก่ทุกคน โดยมุ่งเน้นที่ภาคชนบทและนอกระบบเป็นพิเศษ

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NPCI International คลิกที่นี่

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53971411/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สําหรับคําถามของสื่อ: corporate.communications@npci.org.in

โทรศัพท์: +91 22 4050 8500

ที่มา: NPCI International Payments Limited

KLDiscovery ดำเนินการเพื่อเสริมสร้างงบดุลและรากฐานทางการเงินระยะยาว

Logo

บรรลุข้อตกลงในหลักการกับผู้ถือหุ้นกู้และผู้ให้กู้ยืมเงินระยะยาวเพื่อลดหนี้

โครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งจะสนับสนุนรูปแบบการเติบโตของ KLDiscovery และการลงทุนในโซลูชันลูกค้าชั้นนำของตลาด

คาดว่าจะปิดธุรกรรมได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้

อีเดน แพรรี, มินนิโซตา–(BUSINESS WIRE)–03 พฤษภาคม 2024

KLDiscovery Inc. (“KLDiscovery” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการจัดการข้อมูล การกำกับดูแลข้อมูล eDiscovery และบริการให้คำปรึกษา ได้ประกาศวันนี้ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในหลักการกับผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพหลักและเงินต้น ผู้ให้กู้ยืมระยะยาวจะช่วยลดหนี้ระยะยาวของบริษัทได้อย่างมาก และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการเงินของบริษัท ส่งผลให้ KLDiscovery สามารถมุ่งเน้นไปที่รูปแบบการเติบโตของบริษัท และขับเคลื่อนการลงทุนในโซลูชันลูกค้าชั้นนำของตลาดได้

“การประกาศในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทของเราในขณะที่เราก้าวไปสู่อนาคตด้วยโครงสร้างเงินทุนที่สนับสนุนทีมงานชั้นนำในอุตสาหกรรมของเรา และวัตถุประสงค์การเติบโตและผลกำไรในระยะยาว” Chris Weiler ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ KLDiscovery กล่าว “KLDiscovery เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยมีตำแหน่งทางการตลาดชั้นนำ มีแบรนด์ชั้นนำ และมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต ข้อตกลงนี้เน้นย้ำความเชื่อของพันธมิตรทุนรายสำคัญของเราในวิสัยทัศน์นั้น และจะทำให้บริษัทของเรามีความยืดหยุ่นทางการเงินที่จำเป็นในการส่งมอบนวัตกรรม การคิดขั้นสูง และข้อเสนอที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันที่ลูกค้าของเราคาดหวังจากเรา ทีมงาน KLDiscovery ทั่วโลกมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม และกำลังก้าวไปข้างหน้าโดยมุ่งเน้นที่การช่วยเหลือลูกค้าของเราในจัดการกับข้อมูลที่ท้าทายที่สุด ความต้องการด้านกฎหมาย และกฎระเบียบ”

ภายใต้การดำเนินการตามเอกสารขั้นสุดท้าย ธุรกรรมดังกล่าวทำให้เกิดการแปลงหุ้นกู้แปลงสภาพคงเหลือของบริษัทให้เป็นประมาณ 96% ของส่วนของหุ้นสามัญคงค้างเสมือนของ KLDiscovery นอกจากนี้ ระยะเวลาครบกำหนดของเงินกู้ของบริษัทจะขยายไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2027

ข้อตกลงในหลักการนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของผู้ถือหุ้นกู้ของ KLDiscovery รวมถึงผู้ให้กู้ยืมระยะยาวของ KLDiscovery อีกทั้งยังทำให้บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในการเติบโตและบริการและซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยี การแบ่งส่วนทุนโดยประมาณที่อธิบายไว้ข้างต้นอาจมีการปรับเปลี่ยนอันเป็นผลมาจากการหารืออย่างต่อเนื่องและเอกสารสรุปของการทำธุรกรรม

ข่าวนี้มาพร้อมกับผลการดำเนินงานทางการเงินที่ทำลายสถิติของ KLDiscovery ในปี 2023 ซึ่งสะท้อนถึงรายได้ทั้งปีที่แข็งแกร่ง EBITDA และ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้ว บริษัทกำลังสร้างแรงผลักดันนี้ด้วยการขยายขนาดอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการกับเรื่องที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดแทนฐานลูกค้าทั่วโลกที่กำลังเติบโต KLDiscovery ยังคงลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ซึ่งนำโดย Nebula ซึ่งเป็นโซลูชันขับเคลื่อน AI / ML แบบ end-to-end ระดับเรือธงของบริษัท ซึ่งทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเดียวในการมีส่วนร่วมสำหรับข้อมูลทางกฎหมายและข้อมูลประเภทอื่น ๆ

ที่ปรึกษา KLDiscovery

Gibson, Dunn & Crutcher LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย Guggenheim Securities, LLC ทำหน้าที่เป็นวาณิชธนากร AlixPartners ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ C Street Advisory Group ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์

เกี่ยวกับ KLDiscovery

KLDiscovery ให้บริการและซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยบริษัทกฎหมาย องค์กร และหน่วยงานภาครัฐในการแก้ปัญหาความท้าทายด้านข้อมูลที่ซับซ้อน ด้วยสำนักงานในสถานที่ตั้ง 26 แห่งใน 17 ประเทศ KLDiscovery เป็นผู้นำระดับโลกในการนำเสนอโซลูชั่นการจัดการข้อมูล การกำกับดูแลข้อมูล และ eDiscovery ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน เพื่อสนับสนุนความต้องการในการดำเนินคดี การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบภายในของลูกค้า KLDiscovery ให้บริการแก่องค์กรต่างๆ มานานกว่า 30 ปี โดยนำเสนอการรวบรวมข้อมูลและการสืบสวนทางนิติเวช การประเมินกรณีเบื้องต้น การประมวลผลข้อมูล แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ และการโฮสต์ข้อมูลสำหรับการตรวจสอบเอกสารบนเว็บ และบริการตรวจสอบเอกสารที่ได้รับการจัดการ นอกจากนี้ ด้วยธุรกิจการจัดการข้อมูลแบบ Ontrack ระดับโลก KLDiscovery ได้มอบการกู้คืนข้อมูลระดับโลก การกู้คืนระบบในกรณีที่ระบบหลักเกิดความเสียหาย การสกัดและกู้คืนอีเมล การทำลายข้อมูล และการจัดการเทปสำรองข้อมูล KLDiscovery ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในอเมริกาเหนือจากทั้ง Inc. Magazine (Inc. 5000) และ Deloitte (Deloitte's Technology Fast 500) อีกทั้ง CEO Chris Weiler ยังได้รับรางวัล Ernst & Young Entrepreneur of the Year™ ประจำปี 2014 อีกด้วย นอกจากนี้ KLDiscovery ยังเป็นพันธมิตรที่ได้รับการรับรองด้านสัมพัทธภาพและรักษาศูนย์ข้อมูลที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 27001 ทั่วโลก เยี่ยมชม www.kldiscovery.com เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้

บทความคาดการณ์ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วย “ข้อความคาดการณ์ในอนาคต” ตามความหมายของมาตรา 27A ของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21E ของกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 และกฎหมายการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลของสหรัฐอเมริกาปี 1995 ข้อความทั้งหมดอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ นอกเหนือจากแถลงการณ์ข้อเท็จจริงในอดีต ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับข้อกำหนดและระยะเวลาของธุรกรรมการแปลงหนี้ วิสัยทัศน์ของบริษัทในอนาคต และความเชื่อของพันธมิตรทุนรายสำคัญในวิสัยทัศน์ดังกล่าว ประโยชน์ของความยืดหยุ่นทางการเงินในอนาคต ที่จะมอบให้กับบริษัท การขยายบริษัท และการลงทุนของบริษัทในการเติบโตและบริการและซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า เมื่อใช้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ คำว่า “ประมาณการ” “คาดหวัง” “คาดคะเน” “คาดการณ์” “เชื่อ” “อาจ” “จะ” “ควร” “อนาคต” และรูปแบบต่างๆ ของคำเหล่านี้หรือ สำนวนที่คล้ายกัน (หรือคำหรือสำนวนเชิงลบดังกล่าว) มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ไม่ได้รับประกันผลการดำเนินงาน เงื่อนไข ผลลัพธ์ หรือเหตุการณ์ในอนาคต และเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน ข้อสมมติฐาน และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ทราบและไม่ทราบหลายประการ ซึ่งหลายปัจจัยอยู่นอกเหนือการควบคุมของฝ่ายบริหารของ KLDiscovery ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง หรือผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมากจากที่กล่าวถึงในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่แท้จริง ได้แก่: ผลที่ตามมาของระดับหนี้ที่มีนัยสำคัญของ KLDiscovery ซึ่งรวมถึงระยะเวลาครบกำหนดที่รอดำเนินการและศักยภาพในการเร่งของสิ่งนั้นในเดือนมิถุนายน 2024 และความสามารถในการชำระหนี้ตามภาระหนี้เมื่อถึงกำหนดหรือเพื่อรักษาหลักประกัน แหล่งเงินทุนทางเลือก การเข้าสู่ข้อตกลงขั้นสุดท้ายในส่วนที่เกี่ยวกับและการปิดธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงในหลักการที่อธิบายไว้ข้างต้นกับผู้ถือหุ้นกู้หลักของ KLDiscovery และผู้ให้กู้ยืมเงินกู้ยืมระยะยาวของ KLDiscovery ความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นของ KLDiscovery ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลที่ควบคุมชุดข้อมูลไคลเอนต์ที่ประมวลผลและจัดเก็บ ความสามารถของ KLDiscovery ในการดำเนินงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการแข่งขันครั้งนี้ ความเสี่ยงที่รายได้จะลดลงหาก KLDiscovery ไม่ปรับรูปแบบการกำหนดราคา ความสามารถในการดึงดูด จูงใจ และรักษาพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รวมถึงสมาชิกของทีมผู้บริหารอาวุโสของ KLDiscovery ความสามารถในการรักษาระดับการบริการลูกค้าและขยายการดำเนินงาน ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ KLDiscovery ที่อาจก่อให้เกิดการเปิดเผยทางกฎหมาย ความเสียหายต่อชื่อเสียง และการไม่สามารถให้บริการได้ ความสามารถของ KLDiscovery ในการพัฒนาและประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Nebula ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม ความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์และบริการของ KLDiscovery ไม่สามารถทำงานร่วมกับระบบของบุคคลที่สามได้ อาจไม่มีเทคโนโลยีของบุคคลที่สามที่ KLDiscovery ใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการของตน; การหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอ เว็บไซต์ และเครือข่ายของ KLDiscovery ปัญหาที่เกิดจากการนำระบบธุรกิจรวมแบบใหม่ของ KLDiscovery ไปใช้ ความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการหลังเกิดภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจ โรคหรือภัยคุกคามด้านสาธารณสุขที่คล้ายคลึงกัน เช่น โควิด-19 การใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเราโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยบุคคลที่สามและ/หรือการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลและเหตุการณ์อื่น ๆ การเรียกร้องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่อาจเกิดขึ้น และความสามารถในการปฏิบัติตามข้อจำกัดทางการค้าต่างๆ เช่น การคว่ำบาตรและการควบคุมการส่งออก ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานระหว่างประเทศของ KLDiscovery ความเสี่ยงเหล่านี้และปัจจัยอื่นๆ ที่มีการกล่าวถึงในส่วน “ปัจจัยความเสี่ยง” ของรายงานประจำปีของ KLDiscovery ในแบบฟอร์ม 10-K และรายงานรายไตรมาสในแบบฟอร์ม 10-Q ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“SEC”) และรายงานอื่นใดที่ KLDiscovery ยื่นต่อ SEC อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากที่แสดงหรือบอกเป็นนัยในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่จัดทำโดย KLDiscovery หรือในนามของบริษัท เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ นักลงทุนไม่ควรใช้ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไปในการคาดการณ์ผลลัพธ์หรือผลลัพธ์ที่แท้จริง ข้อความทั้งหมดกล่าวถึง ณ วันที่จัดทำเท่านั้น และเว้นแต่จะกำหนดไว้ตามกฎหมาย KLDiscovery ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออย่างอื่น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Danny Zambito
888.811.3789
danny.zambito@kldiscovery.com

แหล่งที่มา: KLDiscovery Inc.

บุกตลาดประเทศไทยด้วย K-Culture Curator เปิดตัวช่องมีเดีย K-คอนเทนต์ ‘KITTO’ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Logo

แนะนำคอนเทนต์บันเทิง แฟชั่น บิวตี้ และอาหาร ผ่านเว็บไซต์ KITTO และอินสตาแกรม

วางแผนที่จะอัปโหลดคอนเทนต์ KITTO Original  ผ่านการทำงานร่วมกันกับอินฟลูเอนเซอร์ไทย

มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทย Gen Z สามารถรับชมคอนเทนต์เกาหลี อินเทรนด์ได้รวดเร็วและละเอียดที่สุด

ซองนัม, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–03 พฤษภาคม 2024

KITTO’ สื่อที่แชร์ข้อมูลไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมเกาหลี ประกาศว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

'KITTO', a platform aimed at the dissemination of Korean lifestyle and cultural phenomena, has declared its formal debut in Thailand. (Photo: KITTO, kakaostyle Corp.)

‘KITTO’ สื่อที่แชร์ข้อมูลไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมเกาหลี ประกาศว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (รูปถ่าย: KITTO, kakaostyle Corp.)

KITTO ถูกสร้างขึ้นภายใต้สโลแกน 'K-Culture Curator' เพื่อเผยแพร่คุณค่าของคอนเทนต์เกาหลี ซึ่งดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก และเพื่อสื่อสารกับผู้ใช้ชาวไทยรุ่นใหม่ นอกจากเว็บไซต์แล้ว ยังสามารถดูคอนเทนต์ของ KITTO ได้ผ่านอินสตาแกรม เพื่อให้เหมาะกับคนยุคดิจิทัลเนทีฟที่คุ้นเคยกับมือถือ

KITTO สร้างคอนเทนต์รูปภาพและวิดีโอในด้านต่างๆ รวมถึงความบันเทิง อาหาร แฟชั่น บิวตี้ และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเกาหลี  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีลักษณะพิเศษคือการนำเสนอคอนเทนต์ท้องถิ่นคุณภาพสูงผ่านช่องทางต่างๆนอกเหนือจากวิธีการแปลและแนะนำเนื้อหาอินเทรนด์อย่างง่ายดาย

นอกจากประเทศไทยแล้ว KITTO ยังให้บริการในไต้หวันและญี่ปุ่นเพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าชมข่าว K-Wave ได้ในภาษาของตนเอง ในประเทศญี่ปุ่น บริการเบต้าเริ่มในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และกลายเป็นช่องทางหลักในการแชร์คอนเทนต์เกาหลีอย่างรวดเร็ว โดยมียอดผู้ติดตามโซเชียลมีเดีย 210,000 คนภายใน 6 เดือน

ในอนาคต KITTO มีกลยุทธ์ในการเพิ่มเวลาในการชมและเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ KITTO ของผู้ใช้ ผ่านคอนเทนต์ที่ลูกค้าในประเทศไทยสนใจ KITTO ยังวางแผนที่จะมุ่งเป้าไปที่คนหนุ่มสาวที่ชอบความสนุกและเทรนด์โดยการสร้างคอนเทนต์กับอินฟลูเอนเซอร์ไทย นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ในการทำงานร่วมกับบริษัทพันธมิตรหลายรายที่เป็นผู้นำเทรนด์เกาหลี และพัฒนาเพิ่มพลังของคอนเทนต์

มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทย Gen Z สามารถรับชมคอนเทนต์เกาหลี อินเทรนด์ได้รวดเร็วและละเอียดที่สุด เจ้าหน้าที่ KITTO กล่าวว่า “ทีมเราวางแผนที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งสู่ช่องทางที่คนหนุ่มสาวในประเทศไทยที่สนใจคอนเทนต์เกาหลี อินเทรนด์ได้รวดเร็วและละเอียดที่สุด” “เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยให้ KITTO กลายเป็นก้าวที่ดีสำหรับคอนเทนต์เกาหลี รวมถึงแฟชั่น ซึ่งมีศักยภาพและมีในการเติบโตสูง เพื่อขยายออกไปนอกประเทศไทยและไปทั่วโลก”

ส่วน KITTO เป็นบริการที่เปิดตัวโดย Kakao Style (CEO Seo Jung-hoon) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Kakao บริษัท Kakao Style ดำเนินการ 'Zig Zag' ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้าที่เป็นตัวแทนของเกาหลีที่รวบรวมและนำเสนอผลิตภัณฑ์แฟชั่น บิวตี้ และไลฟ์สไตล์

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53970872/en

Contacts

KITTO, kakaostyle Corp.

Seung Hak Cha

matthew.tea@kakaostyle.com

Shurick Agapitov ผู้ก่อตั้ง Xsolla จะไปบรรยายเกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ตที่ Qatar Economic Forum

Logo

การมีส่วนร่วมของผู้นำระดับโลกเกี่ยวกับนวัตกรรม Metaverse และโอกาสในการทำงานร่วมกันในด้านเกมและ Fintech

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–30 เมษายน 2024

Xsolla บริษัทด้านการค้าวิดีโอเกมระดับโลกประกาศว่า Shurick Agapitov ผู้ก่อตั้งบริษัท จะเป็นผู้เข้าร่วมหลักในเซสชั่นสำคัญที่ Qatar Economic Forum ซึ่งขับเคลื่อนโดย Bloomberg ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นที่โดฮาระหว่างวันที่ 14 ถึง 16 พฤษภาคม 2024 ฟอรัมที่มีอิทธิพลรวบรวมผู้นำทางความคิดระดับโลกมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการอภิปรายทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และการปรากฏตัวของ Xsolla ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีการค้าเกม

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

ในวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 14.50 น. AST (เวลามาตรฐานอาระเบีย) นาย Agapitov จะเข้าร่วมเซสชั่นในหัวข้อ “Metaverse: The Future of the Internet?” บทสนทนาที่น่าสนใจนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของอินเทอร์เน็ตให้กลายเป็นโลกเสมือนจริง 3 มิติที่เชื่อมต่อถึงกันมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ นาย Agapitov จะร่วมเสวนาร่วมกับ Jayesh Maganlal หัวหน้ากลุ่มข้อมูลและเจ้าหน้าที่ดิจิทัลของ ROSHN ภายใต้การดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญของ Abeer Abu Omar รองหัวหน้าสำนักงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ Bloomberg ทั้งสองคนจะร่วมกันประเมินความก้าวหน้าของโครงการริเริ่ม Metaverse และศักยภาพเพื่อปฏิวัติธุรกิจ เกม และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในระดับโลก เพื่อจุดประกายให้เกิดยุคใหม่ของนวัตกรรมและความเป็นไปได้ทางดิจิทัล

“ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สำรวจอนาคตที่กว้างขวางของอินเทอร์เน็ตที่ Qatar Economic Forum” Shurick Agapitov ผู้ก่อตั้ง Xsolla กล่าว “เซสชั่นนี้เป็นโอกาสอันเหลือเชื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า Metaverse สามารถปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลกได้อย่างไร ที่ Xsolla เรามุ่งมั่นที่จะบุกเบิกโซลูชันที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนี้ และรับประกันว่าสามารถเข้าถึงได้และเป็นประโยชน์ต่อชุมชนวิดีโอเกมทั่วโลกและที่อื่น ๆ “

Xsolla ก่อตั้งขึ้นในปี  2005 โดยขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาควิดีโอเกมมาโดยตลอดด้วยการจัดหาเครื่องมือและบริการที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยเหลือนักพัฒนาและผู้เผยแพร่ในการสร้างรายได้และทำการตลาดเกมของตนบนหลายแพลตฟอร์มทั่วโลก

นอกเหนือจากการสนทนาอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ Metaverse แล้ว Shurick Agapitov จะดำเนินการประชุมรายบุคคลในบรรยากาศชุมนุมสังสรรค์ที่โรงแรม Fairmont Doha ในเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เซสชั่นสุดพิเศษเหล่านี้มอบโอกาสพิเศษสำหรับการเจรจาเชิงกลยุทธ์เชิงลึกกับผู้นำในอุตสาหกรรมและนักสร้างสรรค์ ผู้เข้าร่วมได้รับเชิญให้ทำงานร่วมกันและแบ่งปันแนวคิด ความท้าทาย และโอกาสที่อุตสาหกรรมวิดีโอเกม Fintech และ Metaverse ต้องเผชิญ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วม โปรดไปที่หน้าเว็บไซต์เฉพาะของเรา: xsolla.events/qatar-economic-forum

Shurick Agapitov ยังเป็นผู้เขียนหนังสือ Once Upon Tomorrow ซึ่งเจาะลึกเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีในการกำหนดสังคมในอนาคตผ่านมุมมองของ Metaverse โดยสนับสนุนขีดความสามารถของเทคโนโลยีในการเพิ่มศักยภาพของมนุษย์ และทำให้การเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นประชาธิปไตย

การประชุม Qatar Economic Forum ได้รับการยอมรับในการส่งเสริมการอภิปรายระดับสูงเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม โดยดึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลายอุตสาหกรรมมาร่างแนวทางที่จะกำหนดภูมิทัศน์ทางการเงินในอนาคตทั่วโลก

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทด้านการค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่แข็งแกร่งและทรงพลังซึ่งออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันรายในการระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่และจัดตั้งขึ้นในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน ปักกิ่ง กวางโจว โซล โตเกียว กัวลาลัมเปอร์ ราลี และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla สนับสนุนค่ายเกมใหญ่ๆ เช่น Valve, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53967732/en

ติดต่อ

ติดต่อสื่อ
Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข่าว: Xsolla

TUM ชนะเข้าสู่เส้นชัยใน Abu Dhabi Autonomous Racing League ที่ ASPIRE จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Yas Marina Circuit

Logo

  • TUM คว้าชัยชนะเข้าสู่เส้นชัยในรอบสุดท้าย นำหน้า CONSTRUCTOR, POLIMOVE และ UNIMORE
  • H.H. Sheikh Theyab ได้รับรางวัล Championship Trophy พร้อมกับ H.E. Faisal Al Bannai
  • การแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกดึงดูดผู้ชมมากกว่า 10,000 คนในสนามแข่งและผู้ชมกว่า 600,000 คนทางออนไลน์ใน 12 ชั่วโมง
  • รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดย AI แบบเต็มรูปแบบจำนวนแปดคันต่อสู้เพื่อชัยชนะชิงเงินรางวัล2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสี่คันที่ขับโดยมนุษย์แข่งขันเพื่อชัยชนะในการแข่งขันครั้งแรกของโลก
  • Daniil Kvyat อดีตนักขับรถแข่ง F1 สร้างความประทับใจแก่ฝูงชนด้วยชัยชนะอันเฉียดฉิวด้วยเวลา 10.38 วินาทีในการแข่งขันระหว่าง AI และฝีมือขับโดยมนุษย์
  • การแข่งขันความเร็วเพื่อยกระดับและการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และสร้างสรรค์การเคลื่อนที่ในอนาคต

ABU DHABI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–28 เมษายน 2024

TUM (Technical University of Munich) จาก Germany คว้าชัยชนะใน Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Yas Marina Circuit เมื่อวันเสาร์ (27 เดือนเมษายน) เมื่อรถยนต์ทุกคันเรียงแถวกันตามเลนแข่ง พร้อมเสาอากาศ เซ็นเซอร์ ระบบควบคุม AI และระบบขับเคลื่อนด้วยสายไฟ แทนที่จะเป็นคนขับ ทั้งแปดทีมแข่งขันกันตลอดสองวัน  TUM เอาชนะการแข่งขันได้ด้วยทักษะการเขียนโปรแกรมและวิศวกรรมในรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันรถยนต์สี่คันครั้งแรกของโลก เพื่อชิงเงินรางวัล 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ

TUM Races to Victory at ASPIRE’s Inaugural Abu Dhabi Autonomous Racing League at Yas Marina Circuit - (Photo: AETOSWire)

TUM ชนะเข้าสู่เส้นชัยใน Abu Dhabi Autonomous Racing League ที่ ASPIRE จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Yas Marina Circuit – (ภาพถ่าย: AETOSWire)

ในการผสมผสานการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในสนามแข่ง เป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาใช้ในสนามแข่ง พร้อมยกระดับกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน A2RL ดึงดูดผู้ชมมากกว่า 10,000 คนเข้ามาในสนามแข่งและได้รับความสนใจจากผู้ชมทางออนไลน์ได้มากกว่า 600,000 คนในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง งานนี้จัดขึ้นโดย ASPIRE ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ของ Abu Dhabi A2RL ผสมผสานการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและ AI เข้าด้วยกันเพื่อการพัฒนาระบบและเทคโนโลยีอัตโนมัติระดับโลก

หลังจากใช้เวลาในการเตรียมงานอย่างพิถีพิถันเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อปรับแต่งอัลกอริทึ่ม AI เพื่อจำลองการขับเคลื่อนของรถยนต์ Dallara Super Formula SF23 ที่ปรับแต่งโดย A2RL เพื่อทดสอบขีดจำกัดความเฉลียวฉลาดของมนุษย์และความสามารถของ AI แต่ละทีมมีการใช้รถแข่ง Super Formula ที่เหมือนกัน ซึ่งเป็นรถแข่งแบบล้อเปิดที่เร็วที่สุดในโลกรองจาก Formula One ซึ่งมีการดัดแปลงเพื่อการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดย Technology Innovation Institute (TII) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ASPIRE

ทีมมีการเผชิญกับความซับซ้อนในการเขียนโปรแกรม นับจากการทำความเข้าใจในระดับการยึดเกาะ การจัดการกับอุณหภูมิของยาง การคาดการณ์การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ และการแซงให้สำเร็จ และการดำเนินงาน SF23 ที่ขีดจำกัดของการยึดเกะ AI จะต้องดำเนินการทุกสิ่งที่นักแข่งรถจะทำในช่วงขณะนั้นๆ นอกเหนือจากนี้ ด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสี่คันแข่งขันกันบนสนามแข่งพร้อมกัน เป็นก้าวแรกของโลกและเป็นการเพิ่มความท้าทายขึ้นอีกระดับหนึ่ง

ในการแข่งขันรอบสุดท้าย ทีมจากเยอรมัน TUM คว้าชัยชนะอันดับหนึ่งโดยแซงอย่างเฉียดฉิว เมื่อทีมจากอิตาลี UNIMORE ที่อยู่ข้างหน้าชะลอความเร็วลงและหยุดลงในสนาม ทีมงานได้รับการแสดงความยินดีบนสนามแข่งจาก H.H. Theyab bin Mohamed bin Zayed ผู้มอบถ้วยรางวัล Championship Trophy ร่วมกับ H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการ ATRC และที่ปรึกษาด้านการวิจัยเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีขั้นสูงของประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Simon Hoffmann ผู้อำนวยการทีม กล่าว “งานนี้เป็นงานที่พิเศษยิ่ง และตอนจบเป็นช่วงเวลาที่พีคที่สุดของพวกเรา พวกเรารู้สึกตื่นเต้นยิ่งนักกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะเป็นการแสดงถึงความสามารถด้านวิศวกรรมโดยรวมของเรา ความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรม และความมุ่งมั่นที่แท้จริง รวมถึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังอันเหลือเชื่อของ AI ในการผลักดันวิวัฒนาการระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไปสู่อนาคต!”

ผู้ชมล้วนเพลิดเพลินกับการแข่งขันระหว่าง AI และมนุษย์อันน่าตื่นตาตื่นใจ โดย Technology Innovation Institute (TII) มีการนำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมาปะทะแข่งขันกับนักแข่ง Formula One ผู้โด่งดังเช่น Daniil Kvyat โดย Kvyat ยังคงสามารถรักษาตำแหน่งและเอาชนะนักแข่งระบบอัตโนมัติได้ด้วยเวลา 10.38 วินาที ในการแข่งขันช่วงเวลา 45 นาทีนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความใกล้เคียงของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติกับคนขับที่เป็นมนุษย์

H.E. Al Bannai กล่าว “จาก Abu Dhabi Autonomous Racing League เราได้จุดประกายการปฏิวัติขึ้นในวงการแข่งรถ โดยการจัดการแข่งขันระหว่างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบและการขับเคลื่อนโดยมนุษย์ เป็นการกำหนดบทบาทใหม่ของ UAE สำหรับนวัตกรรมใหม่และเป็นแบบอย่างแก่วงการรถยนต์ระดับโลก งานนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการแข่งขันเท่านนั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนถ่ายช่วงเวลาสำหรับเทคโนโลยี จินตนาการ และความผสมผสานเข้าด้วยกัน A2RL เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นต่อไปทั้งการสร้างสรรค์ระบบใหม่ให้เป็นจริงยิ่งขึ้นและระบบเสมือนให้ดูสมจริง รวมทั้งยังสร้างสรรค์อนาคตเพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริงขึ้นมาในที่สุด”

H.E. Dr. Sultan Al Jaber รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง และ Group MD & CEO ของ ADNOC ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า “ความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์เป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนถ่ายสำหรับทุกอุตสาหกรรม A2RL แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ AI และในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ADNOC มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนช่วยผลักดันการสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม”

Stephane Timpano, CEO ของ ASPIRE กล่าวว่า “การเปิดตัว A2RL เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าวงการกีฬาและเทคโนโลยี โดยจะเกิดผลที่ยั่งยืนต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า และเราจะมีการขยายขอบเขตการมุ่งเน้นของเราให้ครอบคลุมยานพาหนะอื่นๆ ในประเภทต่างๆ ให้กว้างขึ้นอีกในอนาคต ขณะเดียวกัน ก็จะมีการดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูงทั่วโลกเพื่อแสดงศักยภาพของพวกเขาให้โลกได้ประจักษ์”

นอกเหนือจากกิจกรรมหลักในงานนี้ A2RL STEM Challenge สำหรับนักเรียนมัธยมปลายและระดับปริญญาตรีที่มีอายุระหว่าง 14 และ 21 ยังได้ดึงดูดความสนใจของโรงเรียนในท้องถิ่นถึง 18 แห่งให้เข้าร่วม นอกเหนือจาก Boys and Girls Club จาก Southeastern Michigan เพื่อเข้ามาแสดงองค์ความรู้ ทักษะ และนวัตกรรม โดยการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติขนาด 1:8 และผู้ชนะการแข่งขัน A2RL STEM Challenge ในครั้งนี้คือ Heriot-Watt University

A2RL เป็นผู้บุกเบิกการผสมผสานองค์ประกอบจริงและเสมือนเป็นครั้งแรกในการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยจะมีการกำหนดอวตาร์เฉพาะตัวให้กับแปดทีมที่เข้ารอบสุดท้าย และมีการผสมผสานเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) อันล้ำสมัยก่อนกาล F1 เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจุดประกายประสบการณ์สำหรับแฟนๆ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ แฟนๆ ในงานที่ Yas Marina Circuit สามารถเพลิดเพลินกับเวิร์คช้อป STEM เชิงลึก ความท้าทายสำหรับ VR ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เครื่องจำลอง Gran Turismo รถ doodle และพิพิธภัณฑ์ Raceum AI รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย งานในครั้งนี้ปิดตัวด้วยการแสดงพลุดอกไม้ไฟและโดรนอันตระการตา ส่องสว่างในสนาม Yas Marina Circuit

A2RL 2024 ได้รับการสนับสนุนความสำเร็จโดย ADNOC ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก และพันธมิตรชั้นนำ รวมถึง Du, DMT, AWS และ Mubadala ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของงานในครั้งนี้

สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งแปดทีมและอัปเดตอื่นๆ ได้ที่ A2RL.io

แหล่งข้อมูลAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53959012/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan, Senior Director of Communications
Jennifer.dewan@tii.ae

แหล่งข้อมูล: Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL)







กราเดียนท์ (Gradiant) เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ CURE Chemicals พร้อมลงสู่ตลาดอุตสาหกรรมสำคัญของโลก

Logo

จัดเต็มกับผลงานด้านสูตรทางเคมีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะกว่า 300 รายการ ที่มาพร้อมด้วยองค์ความรู้จากการทำงานจริงและประสบการณ์ด้านการให้บริการระดับโลกเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความยั่งยืน ทั้งยังช่วยลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด

เมืองบอสตัน (BOSTON)–(BUSINESS WIRE)–29 เมษายน 2024

ในวันที่ 16 เมษายน 2567 กราเดียนท์ (Gradiant) ผู้ให้บริการระบบบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูงระดับโลกแบบครบวงจร ได้แถลงเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ CURE Chemicals แล้ววันนี้ เพื่อสานต่อภารกิจด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการค้าของกราเดียนท์ (Gradiant) โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ CURE Chemicals พร้อมเป็นผู้สร้างหลักเกณ์ใหม่ด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพให้กับอุตสาหกรรมสำคัญต่าง ๆ ของโลก

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ CURE Chemicals นั้นประกอบด้วยสูตรสารยับยั้งการกัดกร่อนและตะกรัน สารเคมีแปรรูป ไบโอไซด์ เคมีล้างตะกรันและน้ำยาทำความสะอาด ไปจนถึงสารสร้างตะกอนและสารเร่งการรวมตะกอนที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะกว่า 300 รายการ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผ่านการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับกระบวนการบำบัดน้ำ โดยช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด

การเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ CURE Chemicals เป็นเหมือนหมุดหมายสำคัญสำหรับกราเดียนท์ (Gradiant) ในการขยายผลงานให้ครอบคลุมไปถึงสารเคมีชนิดพิเศษที่จะมาช่วยเสริมขีดความสามารถด้านการบำบัดน้ำของเราได้อย่างครบวงจร” ปรากาช โกวินตัน (Prakash Govindan)  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ กราเดียนท์ (Gradiant) กล่าว “ตอนนี้เราคือธุรกิจด้านการบำบัดน้ำที่มีผลงานทครอบคลุมครบจบในหนึ่งเดียว โดยให้บริการในรูปแบบที่สามารถออกแบบได้เองตามความต้องการ มีอุปกรณ์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ มีบริการการเดินระบบและซ่อมบำรุง (O&M) และมีสารเคมีชนิดพิเศษที่จัดเตรียมไว้แล้วโดยเฉพาะเพื่อส่งมอบความเชี่ยวชาญอย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยี SmartOps AI ที่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างอัจฉริยะและมีความถูกต้องแม่นยำสูง”

CURE ได้ผ่านการพัฒนาด้วยการวิจัยที่ล้ำสมัยผสมผสานกับข้อเสนอแนะด้านการปฏิบัติงานที่ได้มีการปรับแต่งให้ตรงตามข้อกำหนดของอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงพลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมเหมืองแร่ไปจนถึงอุตสาหกรรมพลังงาน และอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงอุตสาหกรรมยารักษาโรค “เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถนำวิธีการเชิงเคมีนี้ลงสู่ตลาดโลกได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำผลงานได้ดีกว่าบริษัทผู้ครองตลาด แต่ยังสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและความยั่งยืนได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี” Vipan Kalia หัวหน้าฝ่ายเคมีของกราเดียนท์ (Gradiant) กล่าว

หากคุณอยากรู้ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ CURE Chemicals มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของคุณอย่างไร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gradiant.com/solutions/cure-chemicals

เกี่ยวกับ กราเดียนท์ (Gradiant)

กราเดียนท์ (Gradiant) เป็นผู้ให้บริการระบบบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูงระดับโลกแบบครบวงจรที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะซึ่งขับเคลื่อนโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำ จึงทำให้บริษัทพร้อมให้บริการต่อภารกิจที่สำคัญของลูกค้าในอุตสาหกรรมสำคัญต่าง ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยารักษาโรค อาหารและเครื่องดื่ม ลิเทียมและแร่ธาตุที่สำคัญตลอดจนพลังงานหมุนเวียน นวัตกรรมของ (Gradiant) ช่วยลดการใช้น้ำและการปล่อยน้ำเสีย กเรียกคืนทรัพยากรที่มีคุณค่า และยังช่วยฟื้นฟูน้ำเสียให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่เป็นน้ำสะอาดได้ โดยบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบอสตันก่อตั้งขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,000 คนทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gradiant.com

     ช่องทางติดต่อบริษัท
     ฟิลิกซ์ หวัง (Felix Wang)
     กราเดียนท์ (Gradiant)
     ประธานฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ
     fwang@gradiant.com

     แหล่งที่มา: Gradiant

‘World of Coffee & World Barista Championship Busan 2024’ เตรียมเปิดตัวในวันที่ 1 เดือนพฤษภาคม

Logo

อีเว้นท์ Global Specialty Coffee จัดขึ้นที่ BEXCO, Busan เป็นครั้งแรกในเอเชีย

World of Coffee & World Barista Championship Busan จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 4 เดือนพฤษภาคม ที่ BEXCO

BUSAN, South Korea–(BUSINESS WIRE)–24 เมษายน 2024

บุคคลสำคัญในวงการกาแฟและบาริสต้าระดับโลกจะมารวมตัวกันที่ BEXCO, Busan ในเดือนพฤษภาคม

World of Coffee & World Barista Championship Busan is held from May 1st to 4th at BEXCO, Busan. (Graphic: EXPORUM)

World of Coffee & World Barista Championship Busan จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 4 เดือนพฤษภาคม ที่ BEXCO, Busan (กราฟิก: EXPORUM)

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกาแฟเฉพาะทางจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่ BEXCO, Busan ตั้งแต่วันที่ 1-4 เดือนพฤษภาคม ปี 2024 เพื่อร่วมงาน World of Coffee ที่จัดขึ้นครั้งแรกในเอเชีย โดยอีเว้นท์นี้ยังมีการจัดการแข่งขัน 2024 World Barista Championship อีกด้วย โดยจะมีบาริสต้าระดับท็อปจากทั่วโลกมารวมตัวกัน Specialty Coffee Association (SCA) มีการดำเนินงานร่วมกันกับเมือง Busan ผู้เป็นเจ้าภาพ และผู้จัดงาน EXPORUM โดยได้รับการสนับสนุนจาก 2024 Portrait Country จากอินโดนีเซีย เพื่อเปิดตัว World of Coffee ใน Busan ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟในเอเชีย โดยคาดว่า จะมีผู้ร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 20,000 คน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม 12,000 รายจากกว่า 70 ประเทศ มาร่วมอีเว้นท์นี้ที่ BEXCO โดยจะมีส่วนร่วมไม่เฉพาะสำหรับอีเว้นท์นี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นอีกด้วย

จะมีบริษัทกาแฟทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 280 แห่งจะมาเข้าร่วมงาน 'World of Coffee 2024' โดยจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ รวมถึงนิทรรศการ Roaster Village เพื่อแนะนำร้านกาแฟและแบรนด์โรงคั่วเมล็ดกาแฟทั้งในและต่างประเทศ นอกเหนือจากนี้ กิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างเครือข่ายกับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟทั่วโลกที่ 'SCA Community Lounge' สัมผัสประสบการณ์และประเมินกาแฟจากที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศใน 'Cupping Room' และจะมีการจัดสัมมนาเพื่อให้สามารถสัมผัสประสบการณ์และส่งเสริมวัฒนธรรมกาแฟใหม่ๆ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำหรับประสบการณ์ที่หลากหลายและแสดงเทรนด์ที่เป็นตัวแทนของกาแฟระดับโลก

World Barista Championship จะมีการจัดขึ้นอีกครั้งที่เกาหลีหลังจากที่มีการจัดขึ้นครั้งสุดท้ายที่ Cafe Show Seoul เจ็ดปี ผู้เข้าแข่งขันต่างแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์เอสเพรสโซที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทั้งหลักสูตรเอสเพรสโซ นม และเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยแนวทางและเครื่องมือที่ล้ำสมัย ซึ่งมีผลสะท้อนที่ดีและยั่งยืนต่ออุตสาหกรรม

Yannis Apostolopoulos ประธาน Specialty Coffee Association ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงาน 'World of Coffee & World Barista Championship Busan 2024' แสดงความคาดหวังในงานนี้ว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟของเกาหลี และเป็นก้าวใหม่สำหรับ 'World of Coffee Asia' เพื่อกำหนดภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมและอนาคตของตลาดกาแฟในเอเชีย

จะมีการจำหน่ายบัตรเข้าร่วมงานล่วงหน้าบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ World of Coffee Asia จนถึงวันที่ 28 เดือนเมษายน และจากนั้น จะมีการจำหน่ายเฉพาะในงานเท่านั้น สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมนิทรรศการและซื้อบัตรได้ที่ https://asia.worldofcoffee.org/

[ข้อมูลอ้างอิง] ภาพรวม ‘World of Coffee & World Barista Championship Busan 2024’

  • หัวข้อ: World of Coffee & World Barista Championship Busan 2024
  • หมายกำหนดการ: วันที่ 1 (พุธ) ~ 4 (เสาร์) เดือนพฤษภาคม ปี 2024 เป็นเวลา 4 วัน เวลา 10:00~17:00
  • สถานที่: Exhibition Center 1, BEXCO, Busan, Republic of Korea
  • จัดงานโดย: Specialty Coffee Association (SCA)
  • เจ้าภาพในการจัดงานโดย: Busan Metropolitan City
  • ดำเนินงานโดย: Busan Technopark, EXPORUM

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53951815/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

EXPORUM
Togo Communication
Park Min
mint@togocomm.kr

แหล่งข้อมูล: EXPORUM

The Bangkok Reporter