Toshiba เปิดตัว SiC MOSFETs รุ่นที่ 3 ขนาด 650V ในแพ็กเกจ TOLL

Logo

– 3 อุปกรณ์ใหม่ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพ และความหนาแน่นพลังงานของอุปกรณ์อุตสาหกรรม –

คาวาซิกิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–28 สิงหาคม 2025

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เปิดตัว SiC MOSFETs ขนาด 650V จำนวน 3 ตัวที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด[1] ชิป SiC MOSFET รุ่นที่ 3ในแพ็กเกจ TOLL แบบติดตั้งบนพื้นผิว อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่เหมาะกับเครื่องจักรอุตสาหกรรม เช่น แหล่งจ่ายไฟแบบสวิตช์และตัวปรับกำลังไฟสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ การจัดส่ง MOSFETs, “ TW027U65C,” “ TW048U65C,” และ “ TW083U65C,” เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้

Toshiba: 650V 3rd generation SiC MOSFETs in TOLL package.

Toshiba: SiC MOSFETs รุ่นที่ 3 ขนาด 650V ในแพ็กเกจ TOLL

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้คือ SiC MOSFETs รุ่นที่ 3 ของ Toshiba ในแพ็กเกจ TOLL แบบติดตั้งบนพื้นผิวสำหรับการใช้งานทั่วไป ช่วยลดขนาดของอุปกรณ์ได้มากกว่า 80% เมื่อเทียบกับแพ็กเกจแบบทะลุผ่านรู อย่าง TO-247 และ TO-247-4L(X) พร้อมเพิ่มความหนาแน่นพลังงานของอุปกรณ์อีกด้วย

นอกจากนี้ แพ็กเกจ TOLL มีค่าความต้านทานปรสิต[2]ต่ำกว่าแพ็กเกจแบบทะลุผ่านรู ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานขณะสลับสวิชต์เปิดปิด และเนื่องจากเป็นแพ็กเกจแบบ 4 [3]ขั้วจึงสามารถใช้การเชื่อมต่อแบบเคลวินเป็นขั้วต่อแหล่งสัญญาณสำหรับวงจรขับเกตได้ วิธีนี้ช่วยลดผลกระทบการเหนี่ยวนำจากสายไฟต้นทางภายในแพ็กเกจ ส่งผลให้การสลับสวิตช์มีประสิทธิภาพและความเร็วสูง อย่างในกรณีของ TW048U65C การสูญเสียพลังงานขณะเปิดและปิดลดลงประมาณ 55% และ 25% [4]ตามลำดับ เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ของ Toshiba ในปัจจุบัน[5]ซึ่งส่งผลให้การสูญเสียพลังงานของอุปกรณ์ลดลง

Toshiba จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อไป เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพของอุปกรณ์และเพิ่มความสามารถในการจ่ายพลังงาน

กลุ่มผลิตภัณฑ์แพ็กเกจ SiC MOSFET รุ่นที่ 3

ประเภท

แพ็กเกจ

แบบทะลุผ่านรู

 TO-247

 TO-247-4L(X)

แบบติดตั้งบนพื้นผิว

 DFN8×8

 TOLL

หมายเหตุ:
[1] ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2025
[2] ความต้านทาน ความเหนี่ยวนำ และอื่นๆ
[3] ผลิตภัณฑ์ที่ขั้วสัญญาณต้นทางเชื่อมต่อใกล้ชิป FET
[4] ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2025 วัดค่าโดย Toshiba สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรูปที่ 1 ในข่าวประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ Toshiba.
[5] SiC MOSFET รุ่นที่ 3 ขนาด 650V กับแรงดันเทียบเท่าและความต้านทานขณะเปิดที่ใช้แพ็กเกจ TO-247 โดยไม่มีการเชื่อมต่อแบบเคลวิน

การใช้งาน

  • แหล่งจ่ายไฟแบบสวิตช์โหมดในเซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ
  • สถานีชาร์จรถไฟฟ้า
  • ตัวแปลงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
  • แหล่งจ่ายไฟสำรอง

คุณสมบัติ

  • แพ็กเกจ TOLL แบบติดตั้งบนพื้นผิว: ช่วยลดขนาดของเครื่องจักร รองรับการประกอบอัตโนมัติ และลดการสูญเสียพลังงานขณะสลับสวิชต์
  • SiC MOSFETs รุ่นที่ 3 ของ Toshiba:
     – ปรับอัตราส่วนระหว่างความต้านทานดริฟต์และความต้านทานช่องสัญญาณ ทำให้ความต้านทานขณะเปิดระหว่างขั้วเดรนและขั้วซอร์สมีความคงที่ตามอุณหภูมิ
     – ค่าความต้านทานขณะเปิดระหว่างเดรน-ซอร์ส x ประจุเกตและเดรนต่ำ
     – แรงดันตกคร่อมของไดโอดต่ำ: VDSF =-1.35V(typ.) (VGS =-5V)

 รายละเอียดสำคัญ

 (เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น, Ta =25 องศาเซลเซียส)

หมายเลขผลิตภัณฑ์

 TW027U65C

 TW048U65C

 TW083U65C

แพ็กเกจ

ชื่อ

TOLL

ขนาด (มิลลิเมตร)

ประเภท

9.9×11.68×2.3

 ค่า
สูงสุด
สัมบูรณ์

แรงดันระหว่างเดรน-ซอร์ส VDSS (โวลต์)

650

แรงดันระหว่างเกต-ซอร์ส VGSS (โวลต์)

-10 ถึง 25

กระแสเดรน (DC) ID (แอมแปร)

 Tc =25°C

57

39

28

 คุณลักษณะทางไฟฟ้า

ความต้านทานขณะเปิดระหว่างเดรน-ซอร์ส RDS(ON) (mΩ)

 VGS =18V

ประเภท

27

48

83

แรงดันเกต Vth (V)

 VDS =10V

3.0 ถึง 5.0

 ประจุเกตรวม Qg (nC)

 VGS =18V

Typ.

65

41

28

ประจุเกต-เดรน Qgd (nC)

 VGS =18V

Typ.

10

6.2

3.9

ความจุอินพุต Ciss (pF)

 VDS =400V

Typ.

2288

1362

873

แรงดันตกคร่อมของไดโอด VDSF (V)

 VGS =-5V

Typ.

-1.35

ดูตัวอย่างและความพร้อมของสินค้า

 สั่งซื้อออนไลน์

 สั่งซื้อออนไลน์

 สั่งซื้อออนไลน์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
TW027U65C
TW048U65C
TW083U65C

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์พลังงาน SiC ของ Toshiba ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
SiC Power Devices

ตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ได้ที่:
TW027U65C
สั่งซื้อออนไลน์

TW048U65C
สั่งซื้อออนไลน์

TW083U65C
สั่งซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ บริการด้านเนื้อหา และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูล ณ วันที่ประกาศ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมมากกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ

โดยมีพนักงานกว่า 19,400 คนทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน บริษัทมุ่งหวังที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนโดยทั่วไป

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250827523831/en

Contacts

ช่องทางการติดต่อสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์พลังงานและสัญญาณขนาดเล็ก
โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อสอบถาม

ช่องทางการติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:
C. Nagasawa
ฝ่ายสื่อสารและวิเคราะห์ตลาด
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Marriott Vacation Clubs™ ขยายธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกด้วยการเปิดตัวรีสอร์ตแห่งใหม่ที่เขาหลัก ประเทศไทย และพร้อมขยายธุรกิจทั้งในบาหลีและเซี่ยงไฮ้

Logo

Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort ถือเป็นรีสอร์ตการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม แห่งที่ 7 ของแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ช่วยตอกย้ำถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค

ออร์แลนโด, ฟลอริดา–(BUSINESS WIRE)–28 สิงหาคม 2025

Marriott Vacation Clubs™ เป็นกลุ่มแบรนด์ของการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมภายใต้บริษัท Marriott Vacations Worldwide กำลังขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการเปิดตัว Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort ในประเทศไทยในเดือนสิงหาคมนี้ รีสอร์ตแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาใหม่ที่ Enclave at Bali Nusa Dua Terrace ของ Marriott และอพาร์ตเมนต์ใหม่ที่ Bali Nusa Dua Terrace ของ Marriott รวมถึงการขยายศูนย์บริการทางโทรศัพท์ด้านการตลาดของ Marriott Vacation Club ในเซี่ยงไฮ้

Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort provides scenic views of the Andaman Sea. Photograph depicts the JW Marriott, Khao Lak Resort & Spa.

Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort มอบทัศนียภาพอันงดงามของทะเลอันดามัน ภาพถ่ายแสดงโรงแรม JW Marriott, Khao Lak Resort & Spa

“การลงทุนอย่างต่อเนื่องของเราในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงการเปิดรีสอร์ตแห่งใหม่และการขยายการดำเนินงานด้านศูนย์บริการลูกค้า สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของเราในภูมิภาคนี้” กล่าวโดย John Geller ประธานและซีอีโอของ Marriott Vacations Worldwide “เนื่องจากความสนใจในการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่นักเดินทางชาวเอเชีย เจ้าของ และสมาชิกชาวต่างชาติ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขยายธุรกิจและมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสมผสานความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมเข้ากับคุณภาพที่เชื่อถือได้ของ Marriott Vacation Clubs”

แนะนำ Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort

ในเดือนสิงหาคม 2025 Marriott Vacation Clubs จะเปิดตัวจุดหมายปลายทางใหม่ล่าสุด นั่นคือ Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort ตั้งอยู่ภายใน JW Marriott Khao Lak Resort & Spa อันสวยงาม ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 90 นาที ห้องแฟมิลี่สวีท 52 ห้อง กำลังได้รับการแปลงโฉมอย่างพิถีพิถันให้เป็นอพาร์ตเมนต์แบบเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมที่มีห้องนอน 2 ห้องที่กว้างขวาง โดยมีห้องพักประเภทที่แตกต่างกันถึงสี่ประเภท อพาร์ตเมนต์แต่ละห้องได้รับการออกแบบเพื่อรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดห้าท่าน ผสมผสานความอบอุ่นของสถาปัตยกรรมไทยภาคใต้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์แบบดั้งเดิมและงานศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากท้องถิ่น เหมาะสำหรับการเข้าพักระยะยาว ที่พักมีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่กว้างขวางและห้องนอนแสนสบาย

สถาปัตยกรรมของรีสอร์ตแห่งใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านไร่สไตล์ล้านนาดั้งเดิม โดดเด่นด้วยรายละเอียดไม้สัก หลังคาจั่วที่เรียบง่าย ผนังไม้ที่อบอุ่น และระเบียงแบบเปิดโล่งที่มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาเขาหลัก โดยที่นี่ เจ้าของ สมาชิก และแขกผู้มีเกียรติสามารถเข้าชมสวนของ JW Marriott Khao Lak Resort & Spa ที่เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของรีสอร์ตในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนได้ โดยสวน JW Garden นี้เป็นแหล่งผลิตผลผลิตออร์แกนิกสดใหม่ให้กับรีสอร์ต โดยมีการปลูกผัก ผลไม้ และสมุนไพรกว่า 200 สายพันธุ์ที่ใช้ในร้านอาหารต่างๆ และแขกยังสามารถเข้าร่วมชั้นเรียนและเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการที่เน้นเรื่องการทำเกษตร ความยั่งยืน และความเป็นอยู่ที่ดีได้อีกด้วย ความยั่งยืนยังถูกผสานเข้ากับประสบการณ์ของแขกที่ Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort ด้วยโครงการริเริ่มที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความพยายามต่างๆ รวมถึงการเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทั่วทั้งรีสอร์ต การใช้ขวดน้ำแก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในห้องพัก และการใช้คีย์การ์ดไม้ไผ่ ซึ่งเป็นทางเลือกจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพแทนพลาสติก

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ JW Marriott Khao Lak Resort & Spa เจ้าของ สมาชิก และแขกของ Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort จะได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงสระว่ายน้ำแบบลากูนยาวหนึ่งไมล์ครึ่ง ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ร้านอาหารและบาร์ริมสระว่ายน้ำ 11 แห่ง และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2026 สนามพิกเคิลบอลและบาสเกตบอล กอล์ฟผจญภัย และจักรยานสำหรับสำรวจพื้นที่

“ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะการท่องเที่ยวที่มีฟื้นตัวเป็นอย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการริเริ่มที่ก้าวหน้าของรัฐบาล อาทิ การยกเว้นวีซ่า การเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน แคมเปญระดับชาติที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว และความสนใจจากทั่วโลกที่กลับมาอีกครั้งจากการถ่ายทำภาพยนตร์เมื่อเร็วๆ นี้ ความสนใจในจุดหมายปลายทางที่หลากหลายของประเทศกำลังเพิ่มสูงขึ้น” กล่าวโดย Lee Dowling รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และตะวันออกกลาง “การเปิดตัว Marriott Vacation Club, Khao Lak Beach Resort ถือเป็นการขยายธุรกิจอย่างทันท่วงทีและเป็นเชิงกลยุทธ์สำหรับ Marriott Vacation Clubs โดยเรายังคงสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากเจ้าของ สมาชิก และแขกของเราสำหรับประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในเอเชียแปซิฟิก ด้วยชายหาด มรดกทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น รวมถึงชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อน เขาหลักจึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนที่ดื่มด่ำอย่างที่เจ้าของและสมาชิกของเราคาดหวัง”

การก่อสร้างอพาร์ตเมนต์เพิ่มเติมได้เริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม ด้วยพิธีวางศิลาฤกษ์อันประกอบด้วยพิธีพราหมณ์และพิธีบวงสรวงของพระสงฆ์ไทยเพื่อแสดงความเคารพและบูชาผืนแผ่นดิน นอกจากนี้ สำนักงานขายแห่งใหม่จะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2026 พื้นที่แห่งนี้ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำอย่างเต็มรูปแบบ และจะแนะนำแขกผู้เข้าพักสู่โลกแห่งการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม ผ่านการนำเสนอพอร์ตโฟลิโอระดับโลกของแบรนด์และจุดหมายปลายทางที่หลากหลาย พื้นที่นี้ยังจัดแสดงองค์ประกอบการออกแบบแบบไทยๆ อย่างเช่น ต้นไม้เขตร้อนสีเขียวชอุ่ม รวมถึงโทนสีกลางโทนอบอุ่น สีเขียวเซลาดอน และสีฟ้าอมเทาอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกถึงสถานที่อย่างแท้จริง โดยขณะนี้เปิดให้จองที่พักสำหรับการเข้าพักในอนาคตได้ที่ www.MarriottVacationClubs.com และเจ้าของและสมาชิก Abound by Marriott Vacations™ สามารถใช้คะแนนคลับพอยท์เพื่อจองที่พักได้แล้ววันนี้ โดยสามารถเช็คอินได้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2025

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของข้อเสนอวันหยุดพักผ่อนในบาหลี

Marriott Vacation Clubs วางแผนที่จะเปิดตัวอพาร์ตเมนต์ใหม่ 32 ห้อง ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการขยายพื้นที่ Bali Nusa Dua Terrace ของ Marriott ในช่วงต้นปี 2026 ที่พักใหม่ประกอบด้วยอพาร์ตเมนต์แบบหนึ่งห้องนอน 16 ห้อง และแบบสองห้องนอน 16 ห้อง ทุกห้องมีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครันและสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยเจ้าของ สมาชิก และแขกยังสามารถใช้สระว่ายน้ำขนาด 2,200 ตารางฟุต และระเบียงอาบแดดขนาด 4,500 ตารางฟุต พร้อมบาร์ริมสระและคาบานาส่วนตัวได้อีกด้วย

นอกจากนี้ แบรนด์จะเปิดตัว Marriott’s Enclave ที่ Bali Nusa Dua Terrace ในปีหน้า ภายในโครงการ Marriott’s Bali Nusa Dua Terrace เดิม อพาร์ตเมนต์สองชั้นแบบสแตนด์อโลนนี้ประกอบด้วยห้องชุดแบบสองห้องนอน 13 ห้อง และแบบสามห้องนอน 13 ห้อง แต่ละห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัวและห้องครัว โดย Marriott’s Enclave ที่ Bali Nusa Dua Terrace ยังมีล็อบบี้/พื้นที่เช็คอินเฉพาะ คิดส์คลับ ฟิตเนสสตูดิโอ บาร์ริมสระว่ายน้ำ และเลานจ์สำหรับเจ้าของอีกด้วย

เจ้าของ สมาชิก และแขกของทั้งสองโรงแรมจะสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของ Renaissance Bali Nusa Dua Resort ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งรวมถึงสิทธิ์ในการใช้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มห้าแห่ง สระว่ายน้ำ สปาครบวงจร และฟิตเนสเซ็นเตอร์

การขยายการดำเนินงานศูนย์บริการทางโทรศัพท์ในเซี่ยงไฮ้

Marriott Vacation Clubs กำลังขยายศูนย์บริการทางโทรศัพท์ด้านการตลาดในเซี่ยงไฮ้ และเปิดสำนักงานแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงฤดูร้อนปี 2025 พร้อมเพิ่มจำนวนพนักงานจาก 80 คน เป็น 125 คน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในหมู่เจ้าของธุรกิจ สมาชิก และนักท่องเที่ยวชาวจีน ศูนย์บริการทางโทรศัพท์แห่งนี้ให้การสนับสนุนด้านการตลาดและการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั่วทั้งภูมิภาค

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Marriott Vacation Clubs ได้ที่ www.MarriottVacationClubs.com

เกี่ยวกับ The Marriott Vacation Clubs™        

The Marriott Vacation Clubs™ เป็นส่วนหนึ่งของ Marriott Vacations Worldwide Corporation และเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำด้านการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม โดยมีโรงแรมและรีสอร์ตรวมกันกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมทั่วสหรัฐอเมริกา แคริบเบียน เม็กซิโก อเมริกากลาง ยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย รวมถึงแบรนด์ Marriott Vacation Club®, Sheraton® Vacation Club และ Westin® Vacation Club โดยเจ้าของ สมาชิก และแขกสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าพักในจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนที่ดีที่สุดตลอดทั้งปี พร้อมที่พักสไตล์วิลล่า โดยโปรแกรมการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมแบบสะสมคะแนนของ Marriott Vacation Clubs จะมอบความยืดหยุ่นให้กับเจ้าของ สมาชิก และครอบครัวในการเพลิดเพลินกับประสบการณ์การพักผ่อนคุณภาพสูง ติดตาม Marriott Vacation Clubs ได้ทาง FB/IG: @MarriottVacationClub, @SheratonVacationClub, @WestinVacationClub หรือ TikTok @themarriottvacationclubs

เกี่ยวกับ Marriott Vacations Worldwide Corporation

Marriott Vacations Worldwide Corporation เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการด้านการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม การแลกเปลี่ยน การให้เช่า และการจัดการรีสอร์ตและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีรีสอร์ตที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมประมาณ 120 แห่ง และครอบครัวเจ้าของประมาณ 700,000 ครอบครัว ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงแบรนด์เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมที่มีชื่อเสียงที่สุด นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจเครือข่ายการแลกเปลี่ยนและโปรแกรมสมาชิก ซึ่งประกอบด้วยรีสอร์ตในเครือกว่า 3,200 แห่งในกว่า 90 ประเทศและเขตแดน และให้บริการด้านการจัดการแก่รีสอร์ตและที่พักอื่นๆ ในฐานะผู้นำและผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพักผ่อน บริษัทยึดมั่นในมาตรฐานความเป็นเลิศสูงสุดในการให้บริการลูกค้า นักลงทุน และพนักงาน ควบคู่ไปกับการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับ Marriott International, Inc. และบริษัทในเครือของ Hyatt Hotels Corporation ในการพัฒนา การขาย และการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการในการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมได้ที่ www.marriottvacationsworldwide.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250827899958/en

Contacts

Neal Goldner
นักลงทุนสัมพันธ์
IR@mvwc.com

Cameron Klaus
ฝ่ายสื่อสารทั่วโลก
407-206-6300
media@mvwc.com

ที่มา: Marriott Vacations Worldwide Corporation



Frontline International แต่งตั้ง Zack Palazzo เป็นรองประธานฝ่ายขายและการเงิน

Logo

คลีฟแลนด์–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2025

Frontline International ผู้นำด้านโซลูชันอัจฉริยะสำหรับการจัดการไขมัน น้ำมัน และไขมันในร้านอาหารและครัวเชิงพาณิชย์ ได้เลื่อนตำแหน่ง Zack Palazzo เป็นรองประธานฝ่ายขายและการเงิน Palazzo ทำงานกับบริษัทมานานกว่าทศวรรษ โดยก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและการเงิน

Zack Palazzo, Vice President of Sales and Finance

Zack Palazzo รองประธานฝ่ายขายและการเงิน

เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) จากมหาวิทยาลัยเคนต์สเตต ในบทบาทใหม่นี้ Palazzo จะยังคงเป็นผู้นำฝ่ายขาย พร้อมกับรับผิดชอบด้านสุขภาพทางการเงินของบริษัทให้มากขึ้น เขาจะมุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ การสนับสนุนลูกค้า และการพัฒนากลยุทธ์เพื่อความสำเร็จในระยะยาว

Palazzo มีประสบการณ์อันยาวนานในการดูแลโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาฐานลูกค้าของ Frontline การเพิ่มยอดขาย การพัฒนาเครื่องมือและการฝึกอบรมสำหรับทีมขายของบริษัท นอกจากนี้ เขายังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญของเทคโนโลยีซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของครัวบริการอาหารในปัจจุบัน

“เทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่เสมอ และความสำเร็จของ Frontline เกิดจากการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ครัวบริการอาหารดำเนินงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” Palazzo กล่าว “เป้าหมายของเราคือการสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและช่วยยกระดับคุณภาพและความสม่ำเสมอของอาหาร บทบาทใหม่นี้ช่วยให้ผมสามารถสานต่อพันธกิจของเราในการยกระดับความปลอดภัย การประหยัด และความยั่งยืน ฝังรากลึกในทีมขายของเรา และใช้ประโยชน์จากพันธกิจนี้เพื่อผลกำไรในตลาด”

“Zack เป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมผู้นำของเรา และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะมอบคุณค่าเพิ่มเติมให้กับองค์กรและลูกค้าของเราในบทบาทใหม่นี้” Giovanni Brienza ประธานบริษัทกล่าว “ความเข้าใจที่กว้างขวางของเขาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ธุรกิจ และลูกค้าของเรา ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงคุณค่าที่เรานำเสนอ วิธีการสื่อสารที่ดีที่สุด และวิธีที่คุณค่าเหล่านั้นจะนำไปสู่การเติบโต เราตั้งตารอความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นเมื่อเขารับตำแหน่งใหม่นี้”

“ในขณะที่เรายังคงเติบโตไปทั่วโลก ฝ่ายขายที่แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายธุรกิจของเราไปยังพื้นที่ใหม่ๆ” John Palazzo ผู้ก่อตั้งและซีอีโอกล่าวว่า “ความรู้ความเชี่ยวชาญของ Zack เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ของเรา ช่วยให้เราพร้อมรับมือกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Frontline International ไปที่www.frontlineii.com

เกี่ยวกับ Frontline International

Frontline International, Inc. ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับธุรกิจบริการอาหารเชิงพาณิชย์คุณภาพสูงสำหรับการจัดเก็บ จัดการ และกำจัดน้ำมันปรุงอาหาร ลูกค้าเป็นเจ้าของอุปกรณ์ของตนเอง เจรจาต่อรองส่วนลดน้ำมันด้วยตนเอง และมีอิสระในการเลือกผู้จำหน่ายน้ำมันด้วยตนเอง นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการจัดการน้ำมันแบบครบวงจรภายใต้ชื่อ OilCare® โปรแกรมบริการแบบรวม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Frontline International, Inc. ที่ 187 Ascot Parkway, Cuyahoga Falls, OH 44223 โทร: +1 330-861-1100 โทรฟรี: 1-877-776-1100 เว็บไซต์: http://www.frontlineii.com Email: info@frontlineii.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250826298027/en

Contacts

Christina Campbell: 216.579.6100 ext. 8
e-mail: christina@CunninghamBaron.com

ที่มา: Frontline International, Inc.

Toyoda Gosei ได้พัฒนาเทคโนโลยีการพ่นสี “METEOCOAT” ที่ช่วยให้ยานยนต์ออฟโรดมีรูปลักษณ์อันทรงพลัง

Logo

คิโยสุ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–26 สิงหาคม 2025

Toyoda Gosei Co., Ltd. (TOKYO:7282) ได้พัฒนา “METEOCOAT” ที่ช่วยเพิ่มพื้นผิวที่ไม่เรียบให้กับพื้นผิวสีของชิ้นส่วนภายนอกที่เป็นพลาสติกเพื่อใช้เป็นลวดลายตกแต่งเพื่อตอบสนองต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้ใช้รถยนต์

Racing vehicle to which METEOCOAT has been applied (Used on bumpers and fenders)

รถแข่งที่ใช้ METEOCOAT (ใช้กับกันชนและบังโคลน)

METEOCOAT โดดเด่นด้วยพื้นผิวขรุขระที่มีลวดลายจางๆ เหมาะสำหรับรถออฟโรด โดยเฉพาะรถที่ขับขี่บนถนนลูกรังบ่อยครั้ง พื้นผิวที่ยื่นออกมาเป็นเอกลักษณ์ของ METEOCOAT โดยเกิดจากการปรับความหนืดของสี นอกจากนี้ยังมีขนาดและสีของส่วนที่ยื่นออกมาให้เลือกในหลากหลายแบบ

บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายยอดขาย METEOCOAT ให้เป็นสินค้าสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของรถยนต์ได้ในทันทีที่ซื้อ โดยเทคโนโลยี METEOCOAT จะถูกนำไปใช้กับรถยนต์จาก Toyota Customizing & Development Asia ที่เข้าร่วมการแข่งขัน Asia Cross Country Rally (AXCR) 2025 ที่ประเทศไทย ในเดือนสิงหาคม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250825076790/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Toyoda Gosei Co., Ltd.
ติดต่อ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์
inquiry@mlist.toyoda-gosei.co.jp

ที่มา: Toyoda Gosei Co., Ltd.


มหาวิทยาลัยฮามัด บิน คาลิฟา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่องจริยธรรม AI

Logo

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ นักจริยธรรม รวมถึงผู้กำหนดนโยบายจะเข้าร่วมงานนี้สองวันในโดฮา

โดฮา กาตาร์–(BUSINESS WIRE)–25 สิงหาคม 2025

มหาวิทยาลัยฮามัด บิน คาลิฟา (HBKU) จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญ ณ กรุงโดฮาในหัวข้อจริยธรรม AI: การบรรจบกันของเทคโนโลยีและประเพณีทางศีลธรรมที่หลากหลาย ระหว่างวันที่ 28–29 กันยายน 2025

Hamad Bin Khalifa University to Host Conference on AI Ethics (Infographic: AETOSWire)

มหาวิทยาลัยฮามัด บิน คาลิฟา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่องจริยธรรม AI (อินโฟกราฟิก: AETOSWire)

งานสำคัญครั้งนี้จะเป็นจุดบรรจบที่สำคัญสำหรับนักวิชาการชั้นนำ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นักจริยธรรม และบุคคลอื่นๆ เพื่อสำรวจว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างไร และระบบคุณค่าที่หลากหลายทั่วโลกควรกำหนดกรอบการพัฒนาและการนำ AI ไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบอย่างไร เทคโนโลยีที่ก่อกวนสังคมกำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่ากรอบการกำกับดูแลทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการระดับนานาชาติที่เป็นรูปธรรมเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติอย่างมีจริยธรรมเพื่อปกป้องบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและมนุษย์

การประชุมจะเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาและมาตรฐานด้าน AI ถูกต้องตามจริยธรรมในหกหัวข้อหลัก ได้แก่ การดูแลสุขภาพ การออกแบบเมือง ความปลอดภัย การศึกษา การเงิน รวมถึงอนาคตของสถานที่ทำงาน

โดยการประชุมนี้มุ่งพัฒนาไปที่มาตรฐานสากลที่เชื่อมโยงกัน เพื่อลดความเสี่ยงที่สถาบันอาจเผชิญความรับผิด และปกป้องบุคคลรวมถึงชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการพัฒนาที่รวดเร็วเหล่านี้ ความจำเป็นในการพิจารณาความรับผิดชอบร่วมกันและความร่วมมือแบบข้ามสาขาวิชานั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย การประชุมครั้งนี้จะนำเสนอกรอบการทำงานเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างมีสติและร่วมมือกัน โดยยึดถือค่านิยมและความต้องการที่หลากหลายของสังคมโลกของเราเป็นแนวทาง

สถานที่: ศูนย์การประชุมแห่งชาติกาตาร์ (QNCC), โดฮา, กาตาร์

ภารกิจ: เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบทางจริยธรรมของ AI อย่างมีวิจารณญาณ และส่งเสริมการสนทนาข้ามวัฒนธรรมและสาขาวิชาเพื่อให้แน่ใจว่าความก้าวหน้าของ AI นั้นสอดคล้องกับกรอบคุณธรรมระดับโลก

วิทยากรหลัก: Ibtihal Aboussad อดีตพนักงานของ Microsoft; Amr Awadallah จาก Vectara; Daniel González-Bootello จาก Smart City Cluster; Mark Coeckelbergh จากมหาวิทยาลัยเวียนนา; Yali Cong จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง; Munther Dahleh จาก MIT; Corey Gray จาก Smart Cities Council; David Gunkel จากมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นอิลลินอยส์; Jeroen van den Hoven จากสถาบัน Delft Design for Values; Nancy Jecker จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน; David Leslie จากสถาบัน Alan Turing; Yuan Luo จากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น; Beth McGinty จากวิทยาลัยการแพทย์ Weill Cornell

การเข้าถึงของสื่อ: นักข่าวที่ได้รับการรับรองจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมฟังเซสชันสำคัญ รับฟังการอภิปรายจากผู้เชี่ยวชาญ และสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ โดยสามารถดูรายชื่อวิทยากรและวาระการประชุมโดยละเอียดได้ที่นี่

ข้อสงวนสิทธิ์ : การเข้าร่วมงานประชุมของแขกผู้มีเกียรติอาจมีการเปลี่ยนแปลงและอาจมีการอัปเดต

*แหล่งที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250825570906/en

Contacts

สำหรับการสอบถามสำหรับสื่อหรือเพื่อขอการรับรอง โปรดติดต่อ:
Ms. Taiba Saoud Al-Rodaini
media@hbku.edu.qa
โทร.: +974 44540934

ที่มา: Hamad Bin Khalifa University

Thoma Bravo เข้าซื้อกิจการ Verint เพื่อผนึกกำลังกับ Calabrio ในการสร้างพลังแห่งประสบการณ์ลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Logo

มินนิอาโปลิสและซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–25 สิงหาคม 2025

Thoma Bravo เป็นบริษัทลงทุนด้านซอฟต์แวร์ชั้นนำ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการเข้าซื้อกิจการ Verint Systems, Inc. (Nasdaq: VRNT) (“Verint”) ด้วยเงินสดทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากิจการ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ธุรกรรมนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดบัญชีตามปกติ รวมถึงการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และคาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนสิ้นปีงบประมาณปัจจุบันของ Verint ในช่วงต้นปี 2026 โดยท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกรรมนี้ได้ที่หน้านักลงทุนสัมพันธ์ของ Verint และในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแล

หลังจากธุรกรรมเสร็จสิ้น Calabrio และ Verint จะถูกรวมเข้าเป็นบริษัทเดียว และจะเป็นผู้ให้บริการโซลูชันระบบอัตโนมัติสำหรับประสบการณ์ของลูกค้า (CX) ชั้นนำในตลาดที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่พวกเขาให้บริการ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว ทั้งสองบริษัทจะนำเสนอพอร์ตโฟลิโอที่ครอบคลุมเพื่อยกระดับความสำคัญขององค์กรที่ให้บริการด้าน CX ในทุกขนาดและทุกความซับซ้อน การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับบริษัทต่างๆ ในการบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างรวดเร็วในการติดต่อกับลูกค้า โดย Calabrio มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาและลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่รองรับระบบที่มีการติดตั้งแล้วรวมถึงเวิร์กโฟลว์ของลูกค้า

“การร่วมมือกันระหว่าง Calabrio และ Verint จะนำเสนอชุดผลิตภัณฑ์อันทรงพลังเพื่อเร่งวิสัยทัศน์ร่วมกัน นั่นคือการส่งมอบแพลตฟอร์ม CX แบบเปิดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้กับลูกค้าที่มุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในการดำเนินงาน ในฐานะบริษัทที่ควบรวมกันแล้ว เรามีความพร้อมที่จะนำพาอุตสาหกรรมไปข้างหน้า” กล่าวโดย Dave Rhodes ซีอีโอของ Calabrio

Mike Hoffmann หุ้นส่วนของ Thoma Bravo กล่าวเสริมว่า “เราดำเนินธุรกิจด้าน CX มาอย่างยาวนานหลายปี และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำทั้งสองบริษัทมาควบรวมกันเพื่อนำนวัตกรรมและการเติบโตมาสู่ตลาดมากขึ้น โดย Calabrio และ Verint ต่างก็มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทรงพลังและกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดที่ครอบคลุมต่อความต้องการของตลาดในวงกว้าง เมื่อรวมกันแล้ว บริษัทที่ควบรวมกันนี้จะมีแพลตฟอร์ม CX ที่ครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยให้แบรนด์ทุกขนาดสามารถขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและยังขับเคลื่อนด้วย AI อีกด้วย”

เกี่ยวกับ Thoma Bravo

Thoma Bravo เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มุ่งเน้นธุรกิจซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 184,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 โดยบริษัทลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นการเติบโตและมีนวัตกรรม ที่มีการดำเนินธุรกิจในภาคซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีผ่านกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเอกชน การลงทุนในหุ้นเติบโต และกลยุทธ์สินเชื่อ ด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกในภาคส่วน รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานของ Thoma Bravo โดยบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทในพอร์ตโฟลิโอเพื่อนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการดำเนินงานมาใช้และผลักดันการริเริ่มในการเติบโต ในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อกิจการหรือลงทุนในบริษัทประมาณ 535 แห่ง คิดเป็นมูลค่าองค์กรประมาณ 275,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมถึงการลงทุนที่ควบคุมและการลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุม) บริษัทมีสำนักงานอยู่ในชิคาโก ดัลลัส ลอนดอน ไมอามี นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Thoma Bravo ที่ thomabravo.com

เกี่ยวกับ Calabrio

Calabrio เป็นพันธมิตรที่แบรนด์ชั้นนำไว้วางใจ โดยชุดโปรแกรม Calabrio ONE Workforce Performance Suite นั้นเป็นรากฐานดิจิทัลของศูนย์ติดต่อที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ช่วยเสริมสร้างและทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มอบผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทุกครั้ง เราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้สูงสุดเหนือความคาดหมายของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วยข้อมูลที่เชื่อมต่อกัน การวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI การจัดการพนักงานแบบอัตโนมัติ และการฝึกสอนเฉพาะบุคคล โดยมีเพียง Calabrio ONE เท่านั้นที่ผสานรวมโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน (WFO) การมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ และ Business Intelligence เข้าไว้ด้วยกันในชุดโปรแกรมที่ผสานรวมอย่างสมบูรณ์แบบบนคลาวด์เนทีฟ ซึ่งปรับให้เข้ากับธุรกิจของคุณ โดย Calabrio, Calabrio ONE และโลโก้ Calabrio เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ Calabrio, Inc. เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดที่กล่าวถึงในเอกสารนี้เป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ Calabrio ดำเนินงานในประเทศแคนาดาภายใต้บริษัท Calabrio Canada, Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ ดังนี้

สำหรับ Thoma Bravo

Megan Frank
+1.212.731.4778
mfrank@thomabravo.com

หรือ

FGS Global
Liz Micci/Abby Farr
ThomaBravo-US@fgsglobal.com

สำหรับ Calabrio

Dillon Nugent
dillon.nugent@calabrio.com

 หรือ

TouchDown PR
Lauren Curley
+1. 617.529.6463
lauren.curley@touchdownpr.com

ที่มา: Calabrio, Inc.

Toshiba เปิดตัวโฟโตรีเลย์สำหรับยานยนต์ในแพ็กเกจขนาดเล็กที่ทนแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุตสูงถึง 1500 โวลต์ สำหรับระบบแบตเตอรี่รถยนต์

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวโฟโตรีเลย์สำหรับยานยนต์[1]TLX9161T” ในแพ็กเกจ SO12L-T ขนาดเล็กที่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุตสูงถึง 1500 โวลต์ (ขั้นต่ำ) ซึ่งเป็นระดับที่จำเป็นสำหรับการรองรับแบตเตอรี่รถยนต์แรงดันสูง โดยจะเริ่มจัดส่งในปริมาณมากได้แล้วในวันนี้

Toshiba: “TLX9161T” โฟโตรีเลย์รุ่นใหม่ที่มีแรงดันไฟฟ้าทนต่อเอาต์พุต 1500 โวลต์ซึ่งบรรจุอยู่ในแพ็กเกจขนาดเล็ก

ความท้าทายที่สำคัญในการทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยม คือ การลดเวลาในการชาร์จ และการเพิ่มระยะการเดินทาง การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการทำงานของระบบแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบการจัดการแบตเตอรี่ (BMS) จะทำหน้าที่ตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และยังตรวจสอบการแยกส่วนระหว่างแบตเตอรี่และตัวถังรถเพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่แรงดันสูงสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยโฟโตรีเลย์แบบแยกไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้ใน BMS ที่รองรับแรงดันไฟฟ้าสูง

 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Toshiba คือ โฟโตรีเลย์แรงดันสูงที่ทนแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุตสูงถึง 1500 โวลต์ (ขั้นต่ำ) ที่เป็นโฟโตรีเลย์ TLX9160T ที่ย่อส่วนลงของ Toshiba การย่อขนาดชิป MOSFET ในตัวของ TLX9160T ทำให้สามารถรวมเข้ากับแพ็กเกจ SO12L-T ที่มีพื้นที่ติดตั้งประมาณ 25%[2] ซึ่งน้อยกว่าแพ็กเกจ SO16L-T ของ TLX9160T โดยการลดขนาดนี้ยังช่วยลดขนาดและลดต้นทุนของ BMS อีกด้วย ระยะพิทช์และรูปแบบพินเหมือนกับของ SO16L-T ทำให้สามารถใช้รูปแบบแผงวงจรแบบเดียวกันได้

 โฟโตรีเลย์รุ่นใหม่นี้ใช้เรซินที่มีค่าดัชนีการติดตามเชิงเปรียบเทียบ (CTI[3] ) เกิน 600 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มวัสดุ I[4] ของมาตรฐานสากล IEC 60664-1[5] การกำหนดค่าพินทำให้ระยะห่างตามผิวฉนวนมากกว่า 5 มม.[6] ที่ด้านตัวตรวจจับ เป็นไปตามมาตรฐาน IEC 60664-1 และรองรับแรงดันไฟฟ้าใช้งานที่ 1000 โวลต์

Toshiba จะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์โฟโตรีเลย์ยานยนต์และนำเสนอโซลูชันที่ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายในการเผยแพร่รถยนต์ไฟฟ้า โดยมุ่งหวังที่จะมีส่วนในการสนับสนุนให้เกิดสังคมปลอดคาร์บอน

 หมายเหตุ:
[1] โฟโตรีเลย์: ด้านหลัก (ด้านควบคุม) และด้านรอง (ด้านสวิตช์) ถูกแยกออกทางไฟฟ้า สวิตช์จะเชื่อมต่อโดยตรงกับสายไฟ AC และสวิตช์ระหว่างอุปกรณ์ที่มีค่าศักย์ไฟฟ้าดินต่างกันสามารถควบคุมได้ผ่านแผงกั้นฉนวน
[2] การเปรียบเทียบขนาดแพ็กเกจของ SO16L-T (10.3×10.0×2.45 มม.) กับขนาดแพ็กเกจของ SO12L-T (7.76×10.0×2.45 มม.)
[3] ดัชนีการติดตามเชิงเปรียบเทียบ (CTI): ดัชนีที่ระบุความสามารถในการทนต่อแรงดันไฟฟ้าของวัสดุฉนวนก่อนที่เส้นทางไฟฟ้า (เส้นทางนำไฟฟ้า) จะก่อตัวขึ้นบนพื้นผิว
[4] กลุ่มวัสดุ I: การจำแนกประเภทของวัสดุขึ้นรูปตามมาตรฐาน IEC 60664-1 ซึ่งหมายถึงวัสดุที่มีดัชนีการติดตามเชิงเปรียบเทียบ (CTI)[3] ) ที่ 600 หรือมากกว่า
[5] IEC 60664-1: มาตรฐานที่ระบุหลักการ ข้อกำหนด และวิธีการทดสอบสำหรับการประสานงานฉนวนสำหรับระบบไฟฟ้ากระแสสลับสูงสุด 1000 โวลต์ หรือกระแสตรง 1500 โวลต์
[6] มากกว่า 5 มม.: ระยะห่างตามผิวฉนวนที่กำหนดสำหรับแรงดันไฟฟ้าใช้งาน 1000 โวลต์, วัสดุกลุ่ม I, ระดับมลพิษ 2 (ระดับมลพิษของสภาพแวดล้อมการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า สารมลพิษไม่นำไฟฟ้าเลย แต่อาจกลายเป็นสารนำไฟฟ้าได้จากการควบแน่น)

การใช้งาน

  • อุปกรณ์ยานยนต์: BMS (การตรวจสอบแรงดันแบตเตอรี่, การตรวจจับการติดขัดของรีเลย์เชิงกล, การตรวจจับไฟรั่วลงกราวด์ เป็นต้น)
  • การเปลี่ยนรีเลย์เชิงกล

คุณสมบัติ

  • แพ็กเกจขนาดเล็ก: SO12L-T (7.76×10.0×2.45 (มม.) (ทั่วไป))
  •  แรงดันไฟฟ้าขั้วเอาต์พุตสถานะปิด: VOFF =1500 โวลต์ (ขั้นต่ำ)
  • อุปกรณ์แบบเปิดปกติ (1-Form-A)
  •  พิกัดกระแสอะวาลานซ์: IAV =0.6mA
  • แรงดันไฟฟ้าการเป็นฉนวนสูง: 5000Vrms (ขั้นต่ำ)
  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน AEC-Q101
  • เป็นไปตามมาตรฐานสากล IEC 60664-1

ข้อมูลจำเพาะหลัก

 (เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น Ta =25℃)

หมายเลขชิ้นส่วน

 TLX9161T

หน้าสัมผัส

1-Form-A

อัตราสูงสุดสัมบูรณ์

 กระแสไฟขาเข้า IF (mA)

30

 กระแสไฟสถานะเปิด ION (mA)

30

 อุณหภูมิในการทำงาน Topr (°C)

-40 ถึง 125

กระแสอะวาลานซ์ IAV (mA)

0.6

ลักษณะ
ทางไฟฟ้า

 กระแสไฟสถานะปิด IOFF (nA)

 VOFF =1000V

สูงสุด

100

 แรงดันไฟฟ้าขั้วเอาต์พุตสถานะปิด VOFF (V)

 IOFF =10μA

ต่ำสุด

1500

 สภาพทำงาน
ที่แนะนำ

 แรงดันไฟฟ้าจ่าย VDD (V)

สูงสุด

1000

 ลักษณะ
 ไฟฟ้าคู่

 กระแสไฟทริกเกอร์ LED IFT (mA)

 ION =30mA, t=10ms

สูงสุด

3

 กระแสไฟ LED ย้อนกลับFC (mA)

 IOFF =100μA,

 Ta =-40 ถึง 125°C, t=40ms

ต่ำสุด

0.05

 ความต้านทานสถานะเปิด RON (Ω)

 ION =30mA, IF =10mA, t<1s

สูงสุด

500

 ลักษณะ
การสวิชชิง

 เวลาเปิด tON (ms)

 IF =10mA, RL =20kΩ, VDD =40V

สูงสุด

1

 เวลาปิด tOFF (ms)

สูงสุด

1

 ลักษณะ
 ไอโซเลชัน

 แรงดันไฟฟ้าฉนวน BVSS (Vrms)

AC, 60s

ต่ำสุด

5000

ระยะห่าง (มม.)

ต่ำสุด

8

ระยะห่างตามผิวฉนวน (มม.)

ต่ำสุด

8

แพ็กเกจ

ชื่อ

SO12L-T

ขนาด (มม.)

ทั่วไป

7.76×10.0×2.45

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมใช้งาน

 ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TLX9161T

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอโซเลเตอร์/โซลิดสเตทรีเลย์ของ Toshiba
ไอโซเลเตอร์/โซลิดสเตทรีเลย์

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ยานยนต์ของ Toshiba
อุปกรณ์ยานยนต์

หากต้องการตรวจสอบการวางจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้จัดจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:
TLX9161T
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมมากกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ

โดยมีพนักงานกว่า 19,400 คนทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน บริษัทมุ่งหวังที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนโดยทั่วไป

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย    

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250820514873/en

Contacts

ช่องทางสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์
โทร.: +81-44-548-2218
ติดต่อเรา

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
C. Nagasawa
ฝ่ายสื่อสารและข่าวกรองการตลาด
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

แจ้งเตือนสื่อ | Masdar ได้รับการจัดอันดับเครดิต ‘AA-’ พร้อมแนวโน้มคงที่จาก S&P Global Ratings เพื่อเป็นการยอมรับความแข็งแกร่งทางการเงินของธุรกิจ

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

Masdar ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ 'AA-' พร้อมแนวโน้มคงที่จาก S&P Global Ratings ที่ช่วยตอกย้ำถึงสถานะผู้นำด้านพลังงานสะอาดระดับโลกของบริษัท

อันดับเครดิตใหม่นี้สะท้อนถึงสถานะที่หลากหลายของ Masdar ในระดับโลก โดยมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง และนโยบายการเงินที่มีวินัย รวมถึงการจัดสรรรายได้จากตราสารหนี้สีเขียวเพื่อระดมทุนสำหรับการก่อสร้างโครงการใหม่ๆ

ด้วยอันดับเครดิตชั้นนำที่ได้รับการจัดอันดับจาก Moody’s (A1), Fitch (AA-) และ S&P (AA-) ทำให้ Masdar ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินมากที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถขับเคลื่อนการขยายตัวอย่างมีความรับผิดชอบและสร้างความก้าวหน้าอย่างครอบคลุมในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลก

อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากผู้ถือหุ้นทั้งสามรายของบริษัท ได้แก่ บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC), บริษัท Mubadala Investment และบริษัทพลังงานแห่งชาติอาบูดาบี PJSC (TAQA) รวมทั้งรัฐบาลอาบูดาบีอีกด้วย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

press@masdar.ae

ที่มา: Masdar

L&T Technology Services เปิดตัว PLxAI กรอบการทำงาน GenAI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ เพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์

Logo

PLxAI ช่วยเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกช่วงวงจรชีวิต ด้วยสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นทำให้สามารถปรับใช้กับระบบฝังตัวและซอฟต์แวร์ PDLC ได้

บังคาลอร์ ประเทศอินเดีย–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

 L&T Technology Services (BSE: 540115, NSE: LTTS), ประกาศเปิดตัว PLxAI กรอบการทำงาน GenAI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท เพื่อเร่งวงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ทั้งในด้านโมบิลิตี้ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี กรอบการทำงานนี้พัฒนาโดย PDLC SMEs ที่มีประสบการณ์ยาวนาน โดยใช้การผสมผสานระหว่าง Generative AI และ Conventional AI เพื่อให้บริการครบวงจรในการพัฒนาโซลูชันที่ปรับขนาดได้และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในทุกขั้นตอนของ PDLC ตั้งแต่การออกแบบแนวคิดไปจนถึงการสนับสนุนบริการหลังการขาย

By accelerating the rate of innovation and optimizing costs across product development, PLxAI is poised to redefine how businesses approach product development.

ด้วยการเร่งอัตราการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ PLxAI พร้อมแล้วที่จะกำหนดนิยามใหม่สำหรับแนวทางที่ธุรกิจต่างๆ ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์

กรอบการทำงานนี้ผสานรวมคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การรวบรวมและใช้ประโยชน์จากความรู้ที่มีอยู่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับองค์กรและความรู้เกี่ยวกับชุมชน เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เข้าใจบริบท ซึ่งจะช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพวิศวกรรมผลิตภัณฑ์

PLxAI ผสานรวมระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะและระบบวิเคราะห์บริบท เพื่อยกระดับวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่แนวคิดและการออกแบบ ไปจนถึงการตรวจสอบความถูกต้องและการสนับสนุนหลังการขาย จนถึงปัจจุบัน ทีม LTTS ได้กระจายงานไปแล้วกว่า 36 กรณีที่ครอบคลุมทุกช่วงวงจรชีวิต (อยู่ในขั้นตอนการปรับใช้ต่างๆ) และมีกรณีการใช้งานเพิ่มเติมอีก 35 กรณีที่อยู่ในขั้นตอนการออกแบบ ได้แก่

  • การออกแบบแนวคิด: ผู้ช่วยด้านนวัตกรรมสำหรับการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการแข่งขันและการค้นหาเทคโนโลยี
  • การออกแบบส่วนประกอบ : ผู้ช่วยด้านการออกแบบสำหรับการสร้างข้อมูลจำเพาะ ไดอะแกรม และการคำนวณ
  • การวางแผนการตรวจสอบความถูกต้อง : การสร้างแผนการตรวจสอบความถูกต้องของการออกแบบและเทมเพลต DFMEA โดยอัตโนมัติ
  • การวิเคราะห์โหมดความล้มเหลว : การสร้าง FMEA ที่ปรับแต่งได้โดยใช้เทมเพลตขององค์กร
  • การผสานรวมของฝาแฝดดิจิทัล : รองรับเวิร์กโฟลว์การทดสอบทั้งแบบกายภาพและแบบเสมือน และ
  • เวิร์กโฟลว์แบบ Agentic : ตัวแทนเชิงรุกที่ช่วยทำให้งานวิศวกรรมหลายขั้นตอนเป็นแบบอัตโนมัติ

ในโอกาสนี้ Alind Saxena, ประธานและผู้อำนวยการบริหาร – Mobility & Tech ของ L&T Technology Services Limited ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า นี่คือก้าวสำคัญอันน่าภาคภูมิใจของทีม LTTS การพัฒนา PLxAI โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ภายในองค์กรของเราเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพในด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของ LTTS ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเราในการขับเคลื่อนความสำเร็จของลูกค้าทั่วโลก ทั้งในด้านโมบิลิตี้ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี โดยใช้ประโยชน์จากพลังของ AI และ Gen-AI ซึ่งความกระตือรือร้นจากลูกค้าทั่วโลกของเรานั้นน่าทึ่งมาก โดยขณะนี้ได้มีการเริ่มนำไปปรับใช้ในหลายๆ ด้านแล้ว

ด้วยการเร่งอัตราการสร้างสรรค์นวัตกรรมและปรับต้นทุนให้เหมาะสมที่สุดในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ PLxAI จะเป็นข้อเสนอที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับวิธีที่ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเปิดเส้นทางใหม่ๆ สำหรับการเติบโตและประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ L&T Technology Services Ltd

L&T Technology Services (LTTS) เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี เป็นบริษัทในเครือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ Larsen & Toubro (L&T) เราให้บริการออกแบบ พัฒนา ทดสอบ และบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่างๆ

มุ่งมั่น คล่องตัว นวัตกรรม คือวิธีที่เราขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจโมบิลิตี้ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี ฐานลูกค้าของเราประกอบด้วยบริษัทใน Fortune 500 จำนวน 69 บริษัท และบริษัทชั้นนำด้าน ER&D จำนวน 57 บริษัท ครอบคลุมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ การขนส่ง โทรคมนาคมและเทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมกระบวนการต่างๆ เรามีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอินเดีย มีพนักงานมากกว่า 23,600 คนในศูนย์ออกแบบ 23 แห่งทั่วโลก สำนักงานขาย 30 แห่งทั่วโลก และห้องปฏิบัติการนวัตกรรม 105 แห่ง ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.LTTS.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250820777125/en

Contacts

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
Aniruddha Basu
L&T Technology Services Limited
อีเมล: Aniruddha.Basu@LTTS.com

ที่มา: L&T Technology Services

NIPPON KINZOKU: เปิดตัวผลิตภัณฑ์สเตนเลสสตีล “STA Finish” ใหม่ สำหรับงานกัดกรดความแม่นยำสูงในฐานะ “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

Logo

บรรลุกระบวนการที่แม่นยำด้วยการกำจัดความบิดเบี้ยวจากการกัดกรดและปรับขนาดเกรนให้ละเอียด

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

NIPPON KINZOKU CO., LTD. (สำนักงานใหญ่: มินาโตะ โตเกียว) มีความยินดีที่จะประกาศเปิดตัว “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ซีรีส์ที่ 4 ซึ่งก็คือ สเตนเลสสตีลเคลือบ STA (การอบด้วยแรงดึงพิเศษ) ซึ่งช่วยลดความบิดเบี้ยวและปรับขนาดเกรนผลึกให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อการกัดกรดที่มีความละเอียดสูง

Conventional TA (Tension Annealing) finish has been highly evaluated as a stainless spring material with excellent flatness, low residual stress, and dimensional stability after processing. STA finish, which is a further evolution of this finish, minimizes residual stress and is optimized for etching processing.

การเคลือบผิวแบบ TA (การอบด้วยแรงดึง) แบบดั้งเดิมได้รับการยกย่องอย่างสูงว่าเป็นวัสดุสปริงสเตนเลสที่มีความเรียบที่ดีเยี่ยม ความเค้นตกค้างต่ำ และมีเสถียรภาพเชิงมิติหลังการแปรรูป การเคลือบผิวแบบ STA ซึ่งเป็นวิวัฒนาการอีกขั้นของการเคลือบผิวแบบนี้ ช่วยลดความเค้นตกค้างและปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการกัด

ในกระบวนการกัดกรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการกัดกรดแบบครึ่งเดียว ปัญหาการบิดเบี้ยวของวัสดุสปริงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย การเคลือบ STA ช่วยลดความบิดเบี้ยวนี้ได้อย่างมาก รวมถึงช่วยเพิ่มเสถียรภาพในด้านของมิติได้เป็นอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น เราสามารถผลิตเกรนผลึกที่มีขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับการใช้งานในด้านไมโครแฟบริเคชั่นที่มีความแม่นยำสูง

คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยลดขั้นตอนและลดความซับซ้อนของกระบวนการ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้นยังช่วยให้สามารถปรับรูปทรงและรายละเอียดต่างๆ ให้เหมาะสมที่สุดได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตของกระบวนการผลิต

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์ของเราจึงได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนสมาร์ทโฟน หน้ากากโลหะ และตัวห่อหุ้ม

ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รับการรับรอง STA Finish ในฐานะ “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” จากมุมมองเหล่านี้ เรากำลังดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์2 ภายในปี 2050 และมุ่งมั่นในการผลิตอย่างยั่งยืนผ่านการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแพร่หลาย

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังสอดคล้องกับแผนบริหารฉบับที่ 11 ของเรา “NIPPON KINZOKU 2030” และเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยยึดหลัก “ประสิทธิภาพเกือบสุทธิ” (บรรลุประสิทธิภาพที่ต้องการของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายด้วยวัสดุ) โดยเราตั้งเป้าที่จะขยายยอดขายให้ครอบคลุมมากขึ้นในสาขาต่างๆ เช่น การสื่อสาร 5G, อุปกรณ์เคลื่อนที่ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์

คุณสมบัติ

  1. วัสดุผ่านกระบวนการอบด้วยความร้อนและการแก้ไขรูปทรงไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้มีความเรียบดีเยี่ยม
  2. ความเค้นภายใน (ความบิดเบี้ยว) ที่สะสมระหว่างการแปรรูปลดลงอย่างมาก ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง
  3. ผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเกรนที่ละเอียดจะช่วยให้พื้นผิวการกัดมีความเรียบเนียนยิ่งขึ้นก็มีจำหน่ายเป็นทางเลือกเช่นกัน
    https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2025/08/Examples-of-Cross-Sectional-Photographs-after-Etching.png

ข้อมูลจำเพาะ
1) เกรดเหล็ก: SUS304, SUS301, SUS430 เป็นต้น
2) ความหนา: 0.1–0.5 มม.
3) ความกว้าง: สูงสุด 600 มม.
* เกรนละเอียดมีให้เลือกเฉพาะ SUS304 เท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2025/08/New-Launch-of-STA-Finish-Stainless-Steel-for-High-Precision-Etching-as-an-Eco-Product.pdf

เกี่ยวกับ NIPPON KINZOKU Group
มีการนำผลิตภัณฑ์ของเราไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่อุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงไปจนถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250820626946/en

Contacts

ฝ่ายกระบวนการผลิตและสนับสนุน
NIPPON KINZOKU CO., LTD.
อีเมล: sisaku-sc@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

The Bangkok Reporter