การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติจัดขึ้นที่ริยาด

Logo

ริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–09 พฤศจิกายน 2024

คณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดีอาระเบียประกาศจัดการประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติครั้งที่ 2 ที่ริยาด โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึง 10 พฤศจิกายน 2024 การประชุมครั้งนี้มีความโดดเด่นจากผู้สร้างภาพยนตร์ นักวิจารณ์ และผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์จากต่างประเทศที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

The International Film Criticism Conference is launched in Riyadh (Photo: AETOSWire)

การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติที่เปิดตัวที่ริยาด (ภาพ: AETOSWire)

การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์ครั้งที่ 2 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสียงในภาพยนตร์” เพื่อสำรวจผลกระทบต่างๆ ของเสียงที่มีต่อประสบการณ์การชมภาพยนตร์และอิทธิพลที่มีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ การหารือจะครอบคลุมถึงองค์ประกอบต่างๆ เช่น ดนตรีประกอบภาพยนตร์ เอฟเฟกต์เสียง รวมถึงเสียงธรรมชาติต่างๆ นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ยังมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ การฉายภาพยนตร์ และนิทรรศการแบบโต้ตอบอีกด้วย

พิธีเปิดได้เริ่มต้นด้วยวิดีโอแนะนำเกี่ยวกับการประชุม วัตถุประสงค์ และความสำเร็จที่ผ่านมา ตามด้วยสุนทรพจน์ของซีอีโอของคณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดิอาระเบีย นายอับดุลลาห์ บิน นาสเซอร์ อัล-กาห์ทานี (Mr. Abdullah bin Nasser Al-Qahtani) ที่ได้แสดงความคิดเบื้องหลังธีมของปีนี้ว่า “คณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดิอาระเบียมุ่งมั่นที่จะสร้าง พัฒนา และรักษาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่แข็งแกร่งและมีชีวิตชีวาให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ซาอุดิอาระเบีย 2030” อัล-กาห์ทานียังกล่าวอีกว่า “คณะกรรมการภาพยนตร์มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการวิจารณ์ให้เป็นเครื่องมือทางปัญญาและศิลปะที่ส่องสว่างเส้นทางของภาพยนตร์และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมนี้” เขากล่าวเสริมว่า “จากมุมมองนี้ การประชุมนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่นำพานักวิจารณ์และผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์ให้มารวมตัวกัน โดยให้โอกาสพวกเขาในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมถึงประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว จะมีการนำไปสู่การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์อาหรับที่มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเราไปสู่ระดับนานาชาติ ในขณะที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่แท้จริงของเรา”

พิธีดังกล่าวยังรวมถึงสุนทรพจน์ของผู้กำกับภาพยนตร์ชาวซาอุดิอาระเบียที่มีชื่อเสียง นายอับดุลลาห์ อัล-โมไฮเซน (Mr. Abdullah Al-Mohaisen) ซึ่งกล่าวว่า “การวิจารณ์ภาพยนตร์นั้นอาศัยการวิจารณ์ที่จริงใจ มีเจตนารมณ์ชัดเจน ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับ ภาพยนตร์นั้นจะเป็นและจะยังคงเป็นข้อความที่ส่งต่อถึงผู้รับชมก่อนที่จะเป็นอย่างอื่น” หลังจบสุนทรพจน์ของอัล-โมไฮเซน ได้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง “Assassination of a City” ซึ่งเป็นสารคดีแนวใหม่ของซาอุดิอาระเบียที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัล ต่อจากนั้นได้มีการหารือระหว่างผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้ดำเนินรายการโดยนักวิจารณ์ภาพยนตร์อย่างอาหมัด ชอว์กี (Ahmad Shawqi) และอาหมัด อาลัยยัด (Ahmad Alayyad)

การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติจัดโดยคณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดิอาระเบีย โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการจัดงานวิจารณ์ภาพยนตร์มาแล้วสองงานในปีนี้ ได้แก่ งาน Hail ในวันที่ 27 กันยายน และงาน Al-Ahsa ในวันที่ 25 ตุลาคม

*ที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54149706/en

ติดต่อ

Nasry Abou Zaki
nasry@jcn.marketing

ที่มา: International Film Criticism Conference

Perma-Pipe International Holdings, Inc. ประกาศได้รับสัญญามูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ในภูมิภาคอเมริกาและตะวันออกกลาง

Logo

สปริง เท็กซัส–(BUSINESS WIRE)–07 พฤศจิกายน 2024

Perma-Pipe International Holdings, Inc. (Nasdaq: PPIH) ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้รับรางวัลโครงการใหม่มูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศว่าได้รับรางวัลโครงการใหม่มูลค่า 9 ล้านดอลลาร์ในทวีปอเมริกา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค

รางวัลโครงการใหม่เหล่านี้จะใช้ความสามารถในการเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของ Perma-Pipe และระบบฉนวน XTRU-THERM® ซึ่งเป็นโฟมโพลียูรีเทนแบบสเปรย์หุ้มด้วยปลอกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง

รางวัลโครงการใหม่เหล่านี้ช่วยเสริมงานในมือของเราซึ่งมีการเติบโตอย่างมาก แบ็คล็อกอยู่ที่ 75.0 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2024 และขณะนี้เกิน 100.0 ล้านดอลลาร์

Marc Huber รองประธานอาวุโสประจําภูมิภาคอเมริกาของ Perma-Pipe กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีกับรางวัลเหล่านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในตลาดอเมริกา และการเสริมสร้างตําแหน่งของเราในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาอย่างต่อเนื่อง”

Saleh Sagr รองประธานอาวุโสประจําภูมิภาค MENA ของ Perma-Pipe กล่าวว่า “รางวัลล่าสุดใน MENA ส่วนใหญ่มอบให้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในเขตภูมิภาค GCC รางวัลเหล่านี้ยืนยันตําแหน่งผู้นําในตลาดของเรา และเปิดโอกาสให้เราได้สาธิตผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนําของอุตสาหกรรมให้กับลูกค้าใหม่ได้ชม”

David Mansfield ประธานและซีอีโอกล่าวว่า “การเติบโตในทุกภูมิภาคเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โดยรวมของเรา และเราภูมิใจที่ได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้ Perma-Pipe สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับตําแหน่งผู้นําในตลาดต่อไปได้

Perma-Pipe International Holdings, Inc.

Perma-Pipe International Holdings, Inc. (Nasdaq: PPIH, “Perma-Pipe” หรือ “บริษัท”) เป็นผู้นําระดับโลกในด้านระบบท่อหุ้มฉนวนล่วงหน้าและระบบตรวจจับการรั่วไหลสําหรับน้ำมันและก๊าซ ระบบทำความร้อนและความเย็นในเขตพื้นที่ และการใช้งานอื่นๆ บริษัทใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการประดิษฐ์ที่กว้างขวางเพื่อพัฒนาโซลูชันระบบท่อที่ช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการขนส่งของเหลวหลายประเภทอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยรวมแล้ว Perma-Pipe มีการดําเนินงานใน 15 แห่งใน 6 ประเทศ

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

ข้อความและข้อมูลอื่น ๆ ที่มีอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ซึ่งสามารถระบุได้โดยใช้คําศัพท์ที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ถือเป็น “ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต” ตามความหมายของมาตรา 27A ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ ปี 1993 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 21E ของบทบัญญัติกฎหมายหลักทรัพย์ ปี 1934 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ความปลอดภัยที่สร้างขึ้นโดยหลักเกณฑ์ดังกล่าว  ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับผลการดําเนินงานและการดําเนินงานที่คาดหวังในอนาคตของบริษัท ข้อความเหล่านี้ควรได้รับการพิจารณาว่าอยู่ภายใต้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากมายที่มีอยู่ในการดําเนินงานและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของบริษัท ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงสิ่งต่อไปนี้: (i) ผลกระทบของไวรัสโคโรนา (“COVID-19”) ต่อผลการดําเนินงาน สถานะทางการเงิน และกระแสเงินสดของบริษัท (ii) ความผันผวนของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติและผลกระทบต่อปริมาณการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทของลูกค้า (iii) ความสามารถของบริษัทในการปฏิบัติตามพันธสัญญาทั้งหมดในวงเงินสินเชื่อของบริษัท (iv) ความสามารถของบริษัทในการชําระหนี้และต่ออายุวงเงินสินเชื่อระหว่างประเทศที่กำลังจะหมดอายุ (v) ความสามารถของบริษัทในการดําเนินการตามแผนกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลกําไรและกระแสเงินสดที่เป็นบวก (vi) ผลกระทบจากความอ่อนแอและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก (vii) ความผันผวนของราคาเหล็กและความสามารถของบริษัทในการชดเชยการเพิ่มขึ้นของราคาเหล็กผ่านการเพิ่มขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์ (viii) ระยะเวลาในการรับคําสั่งซื้อ การดําเนินการ การส่งมอบ และการยอมรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท (ix) การใช้จ่ายของภาครัฐในโครงการที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทลดลง และความท้าทายต่อสภาพคล่องและการเข้าถึงเงินทุนของลูกค้าที่ไม่ใช่ภาครัฐของบริษัท (x) ความสามารถของบริษัทในการเจรจาข้อตกลงการเรียกเก็บเงินตามความคืบหน้าสําหรับสัญญาขนาดใหญ่ได้สําเร็จ (xi) การกําหนดราคาเชิงรุกของคู่แข่งที่มีอยู่และการเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ในตลาดที่บริษัทดําเนินธุรกิจอยู่ (xii) ความสามารถของบริษัทในการซื้อวัตถุดิบในราคาที่เหมาะสมและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับซัพพลายเออร์ (xiii) ความสามารถของบริษัทในการผลิตสินค้าที่ปราศจากข้อบกพร่องที่แฝงอยู่ และการกู้คืนจากซัพพลายเออร์ที่อาจจัดหาวัสดุที่มีข้อบกพร่องให้กับบริษัท (xiv) การลดหรือยกเลิกคําสั่งซื้อที่รวมอยู่ในแบ็คล็อกของบริษัท (xv) ความสามารถของบริษัทในการเรียกเก็บเงินลูกหนี้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการในตะวันออกกลาง (xvi) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจระหว่างประเทศของบริษัท (xvii) ความสามารถของบริษัทในการดึงดูดและรักษาผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรหลัก (xviii) ความสามารถของบริษัทในการบรรลุผลประโยชน์ที่คาดหวังจากความคิดริเริ่มการเติบโต (xix) ความสามารถของบริษัทในการตีความการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบและกฎหมายภาษี (xx) ความสามารถของบริษัทในการใช้ผลขาดทุนสุทธิจากการดําเนินงานที่ยกไป (xxi) การกลับรายการของรายได้และกําไรที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้อันเป็นผลมาจากการประมาณการที่ไม่ถูกต้องซึ่งทําขึ้นโดยเชื่อมโยงกับการรับรู้รายได้ตามเปอร์เซ็นต์ของงานที่แล้วเสร็จของบริษัท (xxii) ความล้มเหลวของบริษัทในการสร้างและรักษาการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพต่อการรายงานทางการเงิน และ (xxiii) ผลกระทบของภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์ต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท ผู้ถือหุ้น นักลงทุนที่มีศักยภาพ และผู้อ่านรายอื่น ๆ ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบในการประเมินข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า และควรระวังอย่าพึ่งพาข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมากเกินไป ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ทําในที่นี้จัดทําขึ้นเฉพาะ ณ วันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เท่านั้น และเราไม่มีภาระผูกพันในการอัปเดตข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่นๆ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจส่งผลต่อผลการดําเนินงานของเราสามารถดูได้จากเอกสารที่ยื่นต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสามารถดูได้ที่ https://www.sec.gov และภายใต้หัวข้อศูนย์นักลงทุนในเว็บไซต์ของเรา (http://investors.permapipe.com)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Perma-Pipe International Holdings, Inc.

David Mansfield ประธานและซีอีโอ

นักลงทุนสัมพันธ์ Perma-Pipe
investor@permapipe.com
847.929.1200

ที่มา: Perma-Pipe International Holdings, Inc.

จากการทำนาข้าวสู่ไบโอชาร์: Greenery นำเสนอเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำเชิงนวัตกรรมที่ COP29

Logo

Greenery บริษัทด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศที่นำเสนอโซลูชันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จะนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมสำหรับเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำในการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศครั้งที่ 29 (COP29) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศอาเซอร์ไบจานในปีนี้

โซล ประเทศเกาหลีใต้ (BUSINESS WIRE)–06 พฤศจิกายน 2024

Greenery, Inc. จะจัดงานสัมมนาและนิทรรศการในหัวข้อการเปลี่ยนผ่านสู่เกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์คาร์บอนต่ำที่ Korea Pavilion ในเขตบลูโซนของ COP29 ระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 พฤศจิกายน

A low-carbon farming project at Haenam, South Korea (Image: Greenery)

โครงการเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำที่แฮนัม ประเทศเกาหลีใต้ (ภาพ: Greenery)

Greenery, Inc. บริษัทด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเกาหลีใต้ ให้บริการที่ปรึกษาด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงการวางแผนการดำเนินการด้านสภาพอากาศ การประเมินวงจรชีวิต (LCA) และการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ

ในเดือนตุลาคมปีนี้ Greenery ได้เปิดตัว ENVION ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ LCA ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิต โดย ENVION นั้นได้ยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจากับยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมระดับโลกแล้ว

นอกจากนี้ Greenery ยังดำเนินการในส่วนของ POPLE ซึ่งเป็นศูนย์รับรองเครดิตคาร์บอนแบบสมัครใจและเป็นตลาดกลางด้วย โดยสำนักงานเลขาธิการ POPLE ยังคงรักษามาตรฐานในระดับสูงสำหรับการตรวจสอบเครดิตและให้ความราบรื่นในการทำธุรกรรมต่างๆ ในตลาด

ในงาน COP29 นี้ ทาง Greenery จะแนะนำวิธีการใหม่ๆ ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านกรณีศึกษาสองกรณีในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเกษตรคาร์บอนต่ำในงานสัมมนาวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้

กรณีศึกษากรณีแรกจะศึกษาระบบการทำฟาร์มอัจฉริยะซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นโปรแกรมเรือธงร่วมกันโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีใต้กับหน่วยงานสังคมสารสนเทศแห่งชาติ ระบบการทำฟาร์มนี้สามารถลดทั้งการปล่อยก๊าซมีเทนและประหยัดน้ำได้จากการตรวจสอบระดับน้ำในนาข้าวแบบเรียลไทม์

ในกรณีศึกษากรณีที่สอง ทาง Greenery จะสาธิตว่าของเสียจากปศุสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากฟาร์ม สามารถแปลงเป็นไบโอชาร์ได้อย่างไร ไบโอชาร์เป็นคำผสมระหว่างคำว่า “biomass (ชีวมวล)” และ “charcoal (ถ่านไม้)” ซึ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนได้นานประมาณหนึ่งร้อยปี ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดก๊าซคาร์บอนได้

การบรรยายในงานสัมมนาจะประกอบด้วยการอภิปรายกลุ่มเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิธีการลดปริมาณคาร์บอนจากภาคเกษตรกรรม โดยมี Saskia Sanders ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายของสำนักงานเกษตรแห่งสหพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์, Pankaj Kumam ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Enviance และ Soojeong Myeong หัวหน้าคณะนักวิจัยของสถาบันสิ่งแวดล้อมเกาหลีเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ด้วย

ในช่วงนิทรรศการที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 พฤศจิกายน ผู้เข้าร่วมจะได้รับชมการนำเสนอที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนต่างๆ

“การประชุมของภาคีต่างๆ ได้รวบรวมผู้นำระดับโลกเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน” Yoosik Hwang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Greenery กล่าว “เราอยู่ที่นี่เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาคเกษตรกรรมไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาภาวะโลกร้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของแนวทางแก้ไขอีกด้วย”

COP29 ถือเป็นการประชุมครั้งล่าสุดของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ซึ่งรัฐบาลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วน การประชุมในปีนี้ที่ประเทศอาเซอร์ไบจานจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเจรจาระดับโลกเกี่ยวกับการบรรเทาก๊าซเรือนกระจกและความยั่งยืน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54147821/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Greenery, Inc.
Na Yeon Kim
+82-2-6274-3600
annettenayeon@greenery.im

ที่มา: Greenery, Inc.


ผู้ประกอบการหญิง 35 รายจากอาเซียนและญี่ปุ่น หารือเกี่ยวกับความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม และความยั่งยืนในเวียงจันทน์

Logo

เวียงจันทน์ ลาว–(BUSINESS WIRE)–06 พฤศจิกายน 2024

ผู้ประกอบการหญิงสาว 35 รายจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นมารวมตัวกันที่สปป.ลาวเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและความยั่งยืนในองค์กรของตน การอภิปรายโต๊ะกลมผู้ประกอบการหญิงสาวในอาเซียนและญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5-6 พฤศจิกายน ณ โรงแรมคราวน์พลาซ่า จัดขึ้นโดยศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นร่วมกับองค์กรเยาวชนอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการประสานงานอาเซียนด้าน วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย  ASEAN ACCESS, สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเชียตะวันออก และสมาคมนักธุรกิจสตรีลาว

Thirty five women entrepreneurs from ASEAN and Japan discuss economic resilience, innovation and sustainability in Vientiane on Nov. 5-6. (Photo: Business Wire)

ผู้ประกอบการสตรี 35 รายจากอาเซียนและญี่ปุ่นหารือเกี่ยวกับความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม และความยั่งยืนในเวียงจันทน์เมื่อวันที่ 5-6 พฤศจิกายน (ภาพ: Business Wire)

การอภิปรายที่โต๊ะกลมถือเป็นเวทีสําคัญในการจัดการกับอุปสรรคสําคัญที่ผู้ประกอบการหญิงสาวต้องเผชิญในภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบรรลุทั้งนวัตกรรมและความยั่งยืนในธุรกิจของตน โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุวิธีแก้ปัญหาในทางปฏิบัติเพื่อเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจที่นําโดยผู้หญิง เพื่อปูทางไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น

การอภิปรายมุ่งเน้นไปที่สองประเด็นสําคัญ ได้แก้ การเสริมสร้างความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัว สําหรับการเชื่อมโยง ผู้เข้าร่วมได้สํารวจวิธีต่างๆ ในการปรับปรุงการเข้าถึงทางการเงิน ส่งเสริมการลงทุนซึ่งคำนึงถึงเพศสภาพ และสร้างทักษะดิจิทัลและความรู้ทางการเงินเพื่อให้แน่ใจว่ามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างปลอดภัย ภายใต้หัวข้อการฟื้นตัว ผู้เข้าร่วมได้กล่าวถึงการลดความไม่เสมอภาคทางเพศในการเป็นเจ้าของ MSME และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนที่ช่วยให้ผู้หญิงเป็นผู้นําธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ผู้เข้าร่วมงานยังได้เข้าร่วมเยี่ยมชมธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ 2 แห่งในสปป.ลาว ได้แก่ Enterprise & Development Consultants Co., Ltd. (EDC) และ Leuxay Construction Co., Ltd.การเยี่ยมชมเหล่านี้ทำให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าเกี่ยวกับกลยุทธ์การดําเนินงานและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของที่ประสบความสําเร็จใน สปป.ลาว ซึ่งช่วยอํานวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้ และเปิดช่องทางที่เป็นไปได้สําหรับความร่วมมือในอนาคต

งานนี้มีการหยิบยกประเด็นความท้าทายในการเข้าถึงเงินช่วยเหลือและเงินกู้สําหรับผู้ประกอบการสตรี เนื่องจากกฎระเบียบด้านการบริหาร การแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ และการขาดความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาด้านเงินทุน นอกจากนี้ ยังมีการหยิบยกประเด็นความท้าทายในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นพื้นฐาน การระบุโซลูชันดิจิทัลที่เหมาะสมกับความต้องการ และการทําให้มั่นใจว่าพนักงานมีทักษะที่จําเป็นในการตอบสนองต่อวิวัฒนาการที่รวดเร็วของเทคโนโลยี และความสามารถในการปกป้องลูกค้า ผู้เข้าร่วมยังเรียกร้องให้มีเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีที่มีการฟื้นตัวมากขึ้นเพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดความไม่เสมอภาคทางเพศต่อการเป็นเจ้าของธุรกิจของผู้หญิง

ผลการหารือทั้งหมดจะเผยแพร่ในรายงานการประชุมสุดยอดผู้ประกอบการหญิงสาวอาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54147820/en

ติดต่อ

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น

URL: https://www.asean.or.jp/
TEL: +81 (0)3-5402-8118

อีเมล: toiawase_ga@asean.or.jp

ที่มา: ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น

SMART Modular ขอแนะนำ SSD T6EN ที่ทนทาน ความเร็วสูง ความจุสูง และความปลอดภัยสูง สำหรับการบิน การป้องกันประเทศ และการใช้งานในอุตสาหกรรม

Logo

SSD ใหม่เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชที่ทนทานของ SMART

NEWARK, Calif.–(BUSINESS WIRE)–04 พฤศจิกายน 2024

SMART Modular Technologies®, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Penguin Solutions, Inc. (Nasdaq: PENG) และเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ไดรฟ์โซลิดสเตต และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริดแบบบูรณาการ ประกาศเปิดตัวแฟลชไดรฟ์ T6EN PCIe/NVMe ที่ทนทานรุ่นใหม่สำหรับการบิน การป้องกันประเทศ และการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดย SSD ตระกูลใหม่นี้มีจำหน่ายในรูปแบบ U.2, E1.S และ M.2 2280 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ปลายทางมีความยืดหยุ่นมากขึ้นตามความต้องการในการใช้งานและการกำหนดค่าเฉพาะของตน

SMART Modular's new ruggedized T6EN PCIe/NVMe flash drives for aerospace, defense, and industrial applications are available in a broad range of capacities and three form factors. (Photo: Business Wire)

แฟลชไดรฟ์ T6EN PCIe/NVMe ที่ทนทานรุ่นใหม่ของ SMART Modular สำหรับการใช้งานด้านการบิน การป้องกันประเทศ และอุตสาหกรรมต่างๆ มีจำหน่ายในความจุที่หลากหลายและมีสามฟอร์มแฟคเตอร์ (รูปภาพ: Business Wire)

T6EN SSD เหล่านี้มีความจุสูงสุดถึง 15TB (เทราไบต์) สำหรับเวอร์ชัน U.2 และสูงสุดถึง 8TB สำหรับเวอร์ชัน E1.S และ M.2 2280 โดยทั้งสามเวอร์ชันนี้ใช้หน่วยความจำแฟลช 3D TLC

“SSD T6EN ใหม่ของเรามอบชุดคุณสมบัติที่ทนทานและสมบูรณ์พร้อมทั้งอัลกอริธึมความปลอดภัยที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ทริกเกอร์การลบข้อมูล และการป้องกันการเขียนด้วยฮาร์ดแวร์” Mike Guzzo ผู้อำนวยการอาวุโสของผลิตภัณฑ์แฟลช RUGGED™ ของ SMART อธิบาย

การส่งมอบ SSD ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นนั้นเริ่มต้นในขั้นตอนการออกแบบ ซึ่ง SMART กำหนดระยะขอบที่สูงขึ้นสำหรับการกำหนดเส้นทางสัญญาณ แผงวงจรพิมพ์ที่หนาขึ้น และตัวเครื่องที่ทนทานยิ่งขึ้น ในระหว่างกระบวนการออกแบบและการพัฒนา SMART จะคัดเลือกเฉพาะส่วนประกอบที่มีความน่าเชื่อถือที่สูงที่สุดและทำการทดสอบแบบบูรณาการอย่างลึกซึ้ง ซึ่งรวมถึงการทดสอบการเบิร์นอิน 8 ชั่วโมงภายใต้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในช่วงกว้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมดสำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยและทนทาน

T6EN SSD ทุกเวอร์ชันมีการเข้ารหัสแบบ AES-XTS 256 บิต ที่สามารถปกป้องข้อมูลที่เขียนลงในไดรฟ์โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังรองรับ OPAL 2.0 ซึ่งเป็นโปรโตคอลความปลอดภัยมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันข้อมูลบน SSD ที่ไม่ให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงได้

จากมุมมองของสภาพแวดล้อมการทำงาน T6EN SSD ของ SMART ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำงานภายใต้อุณหภูมิและสภาวะการทำงานที่รุนแรงเพื่อรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และการจัดเก็บหน่วยความจำที่ปลอดภัย สำหรับเลเยอร์ในการป้องกันเพิ่มเติมต่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การเคลือบแบบคอนฟอร์มัลเป็นตัวเลือกที่เราใช้งานสำหรับในทุกรุ่นเพื่อให้การป้องกันเพิ่มเติมสำหรับความชื้น การเปลี่ยนอุณหภูมิฉับพลัน ไฟฟ้าสถิตย์ การสั่นสะเทือน และการปนเปื้อน

สำหรับข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ T6EN ฉบับสมบูรณ์และข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่โซลูชันที่ทนทานของ SMART ได้ที่ smartm.com

Penguin Solutions, “S”, “SMART” รวมถึง “SMART Modular Technologies” และ “RUGGED” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่เป็นเจ้าของโดยกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของโดย Penguin Solutions, Inc. ส่วนเครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies, Inc.

บริษัทในเครือ Penguin Solutions

SMART Modular Technologies ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงได้ผ่านการออกแบบ พัฒนา และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำแบบบูรณาการ ผลิตภัณฑ์ของเราประกอบด้วยเทคโนโลยีหน่วยความจำล้ำสมัยในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล DRAM และ Flash แบบมาตรฐานและแบบดั้งเดิม เป็นเวลากว่าสามทศวรรษที่เรามอบโซลูชันหน่วยความจำและที่จัดเก็บข้อมูลแบบมาตรฐาน ทนทาน และกำหนดเอง ซึ่งตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง www.smartm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54146332/en

ติดต่อ

ข้อมูลติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Michael Guzzo
SMART Modular Technologies
ผู้อำนวยการอาวุโส
+1 (602) 524-0299
michael.guzzo@smartm.com

ข้อมูลติดต่อฝ่ายสื่อ
John Crook
SMART Modular Technologies
การสื่อสารการตลาด
+1 (510) 474 8326
john.crook@smartm.com

Morris Yang
SMART Modular Technologies
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
+886 (2) 7705-2770
apac@smartm.com

Maureen O’Leary
Penguin Solutions
ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสาร
+1 (602) 330-6846
pr@penguinsolutions.com

แหล่งที่มา: SMART Modular Technologies, Inc.

teamLab Planets TOKYO เริ่มขยายพื้นที่ครั้งใหญ่: เตรียมเปิดให้บริการโซน “Athletic Forest” ขนาดใหญ่และโซนอื่น ๆ อีกมากมายในวันที่ 22 มกราคม 2025

Logo

โครงการเพื่อการศึกษา “Athletic Forest” “Catching and Collecting Extinct Forest” และ “Future Park” จะนำเสนองานศิลปะจัดวางใหม่กว่า 10 ชิ้น

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 พฤศจิกายน 2024

teamLab Planets TOKYO DMM” ในเมืองโทโยสุ โตเกียว (ต่อไปนี้จะเรียกว่า teamLab Planets) จะเปิดตัวการขยายพื้นที่โซนขนาดใหญ่ในวันที่ 22 มกราคม 2025

teamLab, Rapidly Rotating Bouncing Spheres in the Caterpillar House, Courtesy teamLab Borderless, Jeddah (c) teamLab

teamLab, Rapidly Rotating Bouncing Spheres in the Caterpillar House, Courtesy teamLab Borderless, Jeddah (c) teamLab

การขยายพื้นที่ครั้งนี้จะเพิ่มพื้นที่ของ teamLab Planets ขึ้น 1.5 เท่า ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ธีมอย่างกว้างขวางให้กับรอบ ๆ โซนโครงการเพื่อการศึกษา โซนที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่ ได้แก่ โซน Athletic Forest ซึ่งเป็นพื้นที่กีฬาสร้างสรรค์ซับซ้อนหลากมิติ โซน Catching and Collecting Extinct Forest ที่ให้นักท่องเที่ยวได้จับและศึกษาสัตว์สูญพันธุ์ และโซน Future Park พื้นที่สำหรับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน งานศิลปะใหม่กว่า 10 ชิ้นจะนำมาจัดแสดงในพื้นที่เหล่านี้

นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งพื้นที่ Sketch Factory แห่งใหม่เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้นำผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมกลับบ้าน (เช่น ป้ายดีบุก ผ้าเช็ดมือ เสื้อยืด กระเป๋าโท้ต และงานฝีมือจากกระดาษ) ที่มีภาพวาดที่ผู้เยี่ยมชมวาดขึ้นภายในพื้นที่งานศิลปะ นอกจากนี้ พื้นที่กลางแจ้งจะได้รับการปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน

ตั๋วสำหรับการเข้าชมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 มีวางจำหน่ายแล้วบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

* ผู้เข้าชมในโซน Athletics Forest Catching and Collecting Extinct Forest และ Future Park จะได้สวมรองเท้าสบาย ๆ สำรวจพื้นที่สามมิติซับซ้อน ซึ่งจะต่างจากโซน Water Area และ Garden Area ที่ผู้เข้าชมจะได้เดินเท้าเปล่าเพื่อสัมผัสกับงานศิลปะ

ATHLETICS FOREST
Athletics Forest เป็นพื้นที่กีฬาสร้างสรรค์ที่มีแนวคิดในการเข้าใจโลกผ่านทางร่างกายและการคิดเกี่ยวกับโลกในแบบสามมิติ ผู้คนสามารถใช้ร่างกายทั้งหมดของพวกเขาเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่สามมิติที่ซับซ้อนและท้าทายทางกายภาพของโลกแบบอินเตอร์แอคทีฟ

“มนุษย์รับรู้โลกด้วยร่างกายและคิดด้วยร่างกาย เมื่อคุณสำรวจโลกสามมิติที่ซับซ้อนด้วยร่างกายของคุณเอง คุณจะรับรู้โลกในแบบสามมิติทางกายภาพ และความคิดของคุณก็จะกลายเป็นสามมิติ เราเริ่มโครงการนี้ Athletics Forest ด้วยความหวังที่จะเสริมสร้างการคิดแบบสามมิติและการคิดในมิติที่สูงขึ้น

ความตระหนักรู้ในเชิงพื้นที่กล่าวกันว่ามีความสัมพันธ์กับนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์  ผมเติบโตในพื้นที่ชนบทและเล่นในภูเขา แต่ในสังคมและโรงเรียนปัจจุบัน ร่างกายถูกจำกัดให้อยู่นิ่งๆ ผมคิดว่าเมืองต่างๆ รายล้อมไปด้วยข้อมูลที่เป็นพื้นราบมากเกินไป เช่น หนังสือ โทรทัศน์ และหน้าจอสมาร์ทโฟน นั่นเป็นเหตุผลที่เราสร้างพื้นที่สามมิติที่เรียกร้องการใช้ร่างกายอย่างมาก มันเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถรับรู้ศิลปะด้วยร่างกายของพวกเขา”

– โทชิยูกิ อิโนโกะ ผู้ก่อตั้ง teamLab

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Athletics Forest:
https://www.teamlab.art/concept/athletics-forest/

Rapidly Rotating Bouncing Spheres in the Caterpillar House
teamLab ปี 2020- การติดตั้งระบบดิจิทัลเชิงโต้ตอบ เสียง: teamLab
Rapidly Rotating Bouncing Sphere เป็นโซนที่ประกอบด้วยดาวฤกษ์ให้ผู้เข้าชมสามารถกระโดดขึ้นไปได้ ดาวฤกษ์จะหมุนด้วยความเร็วสูง แต่ดาวฤกษ์เหล่านี้จะหยุดหมุนเมื่อมีผู้ชมเข้าให้ ทำให้ก้าวขึ้นไปเหยียบได้ง่ายขึ้น

Multi Jumping Universe
teamLab, 2018-, Interactive Digital Installation, Sound: DAISHI DANCE
Multi Jumping เป็นพื้นผิวที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งเข้าชมสามารถกระโดดขึ้นไป แล้วจมลงไป หรือกระโดดได้สูงกว่าปกติ

Aerial Climbing through a Flock of Colored Birds
teamLab, 2018-, Interactive Digital Installation, Sound: teamLab
Aerial Climbing เป็นโซนที่มีแท่งแนวนอนหลากสีตึงเชือกแขวนไว้และลอยอยู่ในอากาศสามมิติ ผู้เข้าชมสามารถเดินเหยียบบนแท่งเหล่านี้เพื่อเคลื่อนตัวผ่านอวกาศบนกลางอากาศผ่านปริภูมิสามมิติ โดยไม่พยายามไม่ให้ตกลงไป

Balance Stepping Stones in the Invisible World
teamLab ปี 2020- การติดตั้งระบบดิจิทัลเชิงโต้ตอบ เสียง: teamLab
Balance Stepping Stones เป็นโซนที่มีทางเดินหินเหยียบซึ่งจะเปลี่ยนแปลงตามการมีปฏิสัมพันธ์เมื่อผู้ชมก้าวขึ้นไปเหยียบ โดยเปล่งสีและโทนสีที่ส่งผลกับพื้นที่ในโซน เมื่อผู้เข้าชมก้าวเหยรบ ทางเดินก็จะโยกเยกในลักษณะต่าง ๆ

Inverted Globe Graffiti Nature – Red List
teamLab, 2016-, Interactive Digital Installation, Sound: ฮิเดอากิ ทาคาฮาชิ
สิ่งมีชีวิตที่ทุกคนวาดจะอาศัยอยู่ในโลกกลับหัวนี้ คุณสามารถลองลงสีสิ่งมีชีวิตบนกระดาษที่ให้มา แล้วคอยดูรูปที่คุณวาดมีชีวิตขึ้นมาและเคลื่อนมาข้างหน้าคุณ

Sliding through the Fruit Field
teamLab, 2016-, Interactive Digital Installation
ผลไม้นานาชีวิตจะเติบโตอยู่บนสไลเดอร์ แถมยังมีลูกบอลเด้งไปมาด้วย ผู้เข้าชมจะได้กลายเป็นแสงอาทิตย์และสไลด์ลงมาบนสไลเดอร์

CATCHING AND COLLECTING FOREST
Catching and Collecting Forest เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่มีแนวคิดการ จับ ศึกษา ปล่อย โดยที่ผู้คนสำรวจโลกด้วยร่างกายของพวกเขา ค้นพบ จับ และขยายความสนใจตามสิ่งที่พวกเขาจับได้ ผู้เข้าชมสำรวจด้วยสมาร์ทโฟน จับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ศึกษามัน และสร้างหนังสือสะสมของตัวเอง

โซน Catching and Collecting Forest ที่ teamLab Planets เป็นป่าแห่งการสูญพันธุ์ ซึ่งก็คือป่าสัตว์สูญพันธุ์

“การสำรวจทางกายภาพร่วมกับผู้อื่น การค้นพบและจับบางสิ่ง และใช้โอกาสนี้เพื่อขยายความสนใจตามสิ่งที่จับได้ นี่คือสิ่งที่เราได้ทำตามธรรมชาติมาเป็นเวลานานในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
สำหรับมนุษยชาติ การจับและรวบรวมเป็นเรื่องสนุก การศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”

– โทชิยูกิ อิโนโกะ ผู้ก่อตั้ง teamLab

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Catching and Collecting Forest:
https://www.teamlab.art/concept/catching/

Catching and Collecting Extinct Forest
teamLab, 2020, Interactive Digital installation, Endless, Sound: ฮิเดอากิ ทาคาฮาชิ

สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าและมหาสมุทรนี้จะเปลี่ยนแตกต่างกันไปตามกระแ เมื่อคุณสัมผัสกับสัตว์ มันก็จะหันมาที่คุณหรือวิ่งหนีไป

ดาวน์โหลดแอป Catching and Collecting Forest บนสมาร์ทโฟน
เมื่อผู้เข้าชมใช้กล้องของสมาร์ทโฟนดูสัตว์ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่และยิง Study Arrow ไปที่สัตว์ในมุมมองของกล้อง ลูกศรจะพุ่งออกจากโทรศัพท์เข้าสู่พื้นที่จริง เมื่อ Study Arrow ไปถึงสัตว์ สัตว์นั้นจะหายไปจากพื้นที่และถูกเพิ่มเข้าไปในคอลเลกชันของผู้เข้าชมในสมาร์ทโฟนของตัวเอง ข้อมูลสัตว์ที่คุณจับได้จะเก็บไว้ในหนังสือคอลเลกชันบนแอป
เมื่อผู้เข้าชมปัดสัตว์ที่จับได้ไปยังตำแหน่งที่เห็นในกล้องของแอป สัตว์นั้นจะถูกปล่อยและกลับไปยังตำแหน่งนั้น

FUTURE PARK
Future Park เป็นโครงการการศึกษาที่มีแนวคิดการสร้างสรรค์ร่วมกัน (co-creation) เป็นสวนสนุกที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับการสร้างโลกอย่างอิสระร่วมกับผู้อื่น ผลงานศิลปะเกิดขึ้นจากกระบวนการที่ผู้คนสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ร่วมกัน และเมื่อผู้คนยังคงสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป ผลงานศิลปะนั้นก็จะพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Future Park:
https://www.teamlab.art/concept/future-park/

Sketch Umwelt World
teamLab, 2025, Interactive Digital Installation, Sound: teamLab
คุณสามารถลองลงสีเครื่องบิน ผีเสื้อ หรือเหยี่ยวบนกระดาษที่ให้มา แล้วคอยดูรูปที่คุณวาดปรากฏขึ้นมาในรูปแบบสามมิติและบินผ่านโลกที่เบื้องหน้าคุณ หากคุณสัมผัสพวกมัน มันก็จะเร่งหรือบินหนีไป

A Table where Little People Live
teamLab, 2013-, Interactive Digital Installation
นี่คือโต๊ะที่มนุษย์จิ๋วอาศัยอยู่ หากคุณวางบางอย่าง เช่น มือของคุณลงบนโต๊ะ มนุษย์จิ๋วก็จะโดดขึ้นไป มนุษย์จิ๋วจะสไลด์ กระโดด หรือปีน โดยขึ้นอยู่กับรูปร่างของวัตถุที่คุณวางลงบนโต๊ะ

A Musical Wall where Little People Live
teamLab, 2017-, Interactive Digital Installation, Sound: teamLab
นี่คือผนังมิวสิคัลที่มนุษย์จิ๋วอาศัยอยู่ เมื่อแปะสแตมป์รูปร่างต่าง ๆ เช่น เห็ด โรงนาแกะ หรือแท่งน้ำแข็งยาว ๆ ไว้บนผนัง วัตถุเหล่านี้ก็จะปรากฏในโลกของมนุษย์จิ๋วด้วย มนุษย์จิ๋วจะเริ่มเห็นของเหล่านี้แล้วเริ่มกระโดขึ้นไป

A Window to the Universe where Little People Live
teamLab, 2022-, Interactive Digital Installation, Sound: teamLab
นี่คือหน้าต่างสู่จักรวาลที่มนุษย์จิ๋วอยู่ คุณสามารถสร้างรูปภาพได้โดยการวาดเส้นด้วยปากกาแสงหรือสร้างรูปทรงด้วยการประทับสแตมป์แสง แต่ละเส้นจะมีพลังพิเศษตามสีของมัน และมีผลต่อโลกของมนุษย์จิ๋ว รูปทรงที่สแตมป์แสงสร้างขึ้นจะปรากฏในโลกของมนุษย์จิ๋วและเริ่มเคลื่อนที่

ART
นอกจากนี้ Athletic Forest จะมีโซนศิลปะจัดวางใหม่สองโซนมาเพิ่มด้วย: Autonomous Abstraction และ Existence in the Flow Creates Vortices

Autonomous Abstraction
teamLab, 2022-, Interactive Digital Installation, Endless, Sound: teamLab
Autonomous abstraction
จุดไฟจะกะพริบและเปลี่ยนสีเป็นวงจรเฉพาะของแต่ละจุด ปรากฏการณ์ธรรมชาติจะเกิดขึ้นตามลำดับระหว่งาจุดที่อยู่ใกล้ ๆ กัน โดยที่เฉดสีและจังหวะกะพริบของจุดไฟจะค่อย ๆ ประสานกัน”

Existence in the Flow Creates Vortices
teamLab, 2022, Interactive Digital Installation, Endless, Sound: teamLab
กระแสน้ำวนจะถูกสร้างขึ้นด้านหลังผู้เข้าชมขณะที่ค่อย ๆ สูงขึ้นตามกระแสน้ำ แม้ว่ากระแสน้ำวนจะคงที่ แต่มันก็จะเคลื่อนไหวและขยายตัวอยู่ตลอดเวลาราวกับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง

SKETCH FACTORY
นี่คือโรงงานที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่คุณวาดจะถูกนำมาทำเป็นสินค้าออริจินัล  (ป้ายดีบุก ผ้าเช็ดมือ เสื้อยืด กระเป๋าโท้ต หรืองานฝีมือจากกระดาษ) และให้คุณได้นำกลับบ้านไปด้วย

คุณสามารถนำรูปที่คุณวาดจากโซน Inverted Globe Graffiti Nature และ Sketch Umwelt World มาสั่งทำได้ที่ Sketch Factory จากนั้นรูปที่คุณวาดก็จะปรากฏอยู่ใน Sketch Factory และเริ่มเคลื่อนที่ไป เมื่อรูปวาดเข้าเครื่องพิมพ์ กระบวนการผลิตก็จะเริ่มขึ้นแล้วเปลี่ยนรูปวาดเป็นป้ายดีบุก ผ้าเช็ดมือ เสื้อยืด กระเป๋าโท้ต หรืองานฝีมือจากกระดาษ

* คุณจำเป็นต้องเข้าชม teamLab Planets เพื่อรับประสบการณ์จาก Sketch Factory และซื้อผลิตภัณฑ์

แนวคิด TeamLab Planets
พร้อมกับผู้อื่น ลงตัวทั้งร่างกาย รับรู้ด้วยร่างกาย และกลายเป็นหนึ่งกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณเดินผ่านน้ำและสวนที่คุณกลายเป็นหนึ่งกับดอกไม้ ประกอบด้วยผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 พื้นที่และสวน 2 พื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมศิลปะ collective teamLab

ผู้คนเดินเท้าเปล่าและจมอยู่ในผลงานศิลปะที่ใหญ่ให้กับร่างกายทั้งหมดพร้อมกับผู้อื่น ผลงานศิลปะเปลี่ยนแปลงภายใต้การมีอยู่ของคน ทำให้เกิดความสับสนในการรับรู้ของขอบเขตระหว่างตัวเองกับผลงานศิลปะ ผู้คนอื่นๆ ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงในผลงานศิลปะเช่นกัน ทำให้ขอบเขตระหว่างตัวเองกับผลงานศิลปะสับสนกัน และสร้างความต่อเนื่องระหว่างตัวเอง ศิลปะ และผู้อื่น

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: teamlab.art.planets

เกี่ยวกับ teamLab Planets
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ได้รับการยกย่องในระดับสากลและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปี “Year in Search 2023” ของ Google ทาง teamLab Planets ได้รับการจัดอันดับใน 5 อันดับแรกสำหรับ “Most Popular Museums in the World” (*1) ท่ามกลางพิพิธภัณฑ์โลกที่มีประวัติศาสตร์มากกว่าหลายศตวรรษ ทาง teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์เดียวจากประเทศญี่ปุ่นที่ติดอันดับนี้ ยิ่งกว่านั้น ทาง teamLab Planets ยังได้รับรางวัล “Asia's Leading Tourist Attraction 2023”(*2) ในงาน World Travel Awards ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลที่เรียกได้ว่าเป็นรางวัลออสการ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นแห่งแรกที่ได้รับรางวัลนี้
*1 “พิพิธภัณฑ์เหล่านี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกตาม Google’s‘Year in Search’” artnet. 20 ธันวาคม 2023
https://news.artnet.com/art-world/google-trends-top-museums-teamlab-ark-encounter-2411845
*2 “Asia's Leading Tourist Attraction 2023, teamLab Planets TOKYO DMM, Japan”
https://www.worldtravelawards.com/award-asias-leading-tourist-attraction-2023

ข้อมูลำหรับผู้เยี่ยมชม
teamLab Planets TOKYO DMM
Toyosu, Tokyo (6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo)
teamLab Planets ในโทโยสุ โตเกียวสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น โอไดบะ ตลาดสึกิจิ และกินซ่า
เปิด: ทุกวัน 9:00 – 22:00
*31 ธันวาคม (อังคาร) – 2 มกราคม (พฤหัสบดี): 09.00 – 21.00 น.
*17 มกราคม (ศุกร์) – 18 มกราคม (วันเสาร์) 21 มกราคม (อังคาร) – 9:00 – 16:00 น.
ปิด: 7 พฤศจิกายน (พฤหัสบดี) 2 ธันวาคม (จันทร์) – 13 ธันวาคม (ศุกร์) 20 มกราคม (จันทร์) และ 6 กุมภาพันธ์ (พฤหัสบดี)
*โปรดทราบว่าพิพิธภัณฑ์จะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 (จันทร์) ธันวาคม ถึง 13 ธันวาคม (ศุกร์) เพื่อปรับปรุง
*เข้าได้ช้าสุดหนึ่งชั่วโมงก่อนปิด
*เวลาเปิด-ปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง
*โปรดตรวจสอบราคาตั๋วจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ร้านขายตั๋ว teamLab Planets TOKYO DMM
https://teamlabplanets.dmm.com

ชุดข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน
https://www.dropbox.com/sh/ir7d2aui794eo6z/AAChbzX5wPsQm8cgkQ2ViFD4a?dl=0

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54144483/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

แผนกประชาสัมพันธ์ PLANETS
อีเมล: pr-info@planets.art
แบบฟอร์มสอบถามสำหรับสื่อมวลชน: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

แหล่งข้อมูล: PLANETS Co., Ltd.















Black & Veatch ได้รับเลือกให้เป็นวิศวกรที่ปรึกษาของเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในมาเลเซียตะวันออก

Logo

โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงาน Sarawak Gas Roadmap ซึ่งมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของรัฐซาราวักในการเพิ่มเศรษฐกิจเป็นสองเท่าภายในปี 2030

รัฐซาราวัก, มาเลเซีย –(BUSINESS WIRE)–05 พฤศจิกายน 2024

Black & Veatch  ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้รับเลือกให้เป็นวิศวกรที่ปรึกษาของเจ้าของโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซพลังความร้อนร่วม Miri (Miri CCGT) ของ PETROS Power Sdn Bhd (PETROS Power) ในรัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย

โรงไฟฟ้า Miri CCGT จะเป็นทางเลือกที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่าโรงไฟฟ้าแบบถ่านหิน ซึ่งโรงไฟฟ้า Miri CCGT นั้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิต 500 เมกะวัตต์ (MW) และมีวัตถุประสงค์เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบสายส่งไฟฟ้าของรัฐซาราวัก

“ความรู้ด้านกฎและมาตรฐานทางวิศวกรรมระดับนานาชาติและเฉพาะประเทศ ตลอดจนโครงสร้างสัญญาของ Black & Veatch ช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุนและกำหนดเวลาของโครงการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะดำเนินไปได้อย่างแน่นอน”  Narsingh Chaudhary ประธาน Black & Veatch ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอินเดียกล่าว “Black & Veatch มอบความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มีความก้าวหน้า เช่น PETROS Power ว่าผู้รับเหมาด้านวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (EPC) จะส่งมอบโครงการตามคำมั่นสัญญาได้อย่างคุ้มค่ากับต้นทุน โดยการเชื่อมช่องว่างระหว่างมาตรฐานทางวิศวกรรมที่แตกต่างกัน”

Black & Veatch จะให้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสนับสนุนสำหรับการจัดการและบริหารสัญญาทางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การก่อสร้าง และการทดสอบระบบ (EPCC)

Black & Veatch มีประสบการณ์อันยาวนานในการออกแบบและสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมสำหรับสถานที่ต่างๆ รวมถึงสถานที่ใหม่ การขยายโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำที่มีอยู่ และการแปลงโรงไฟฟ้าแบบวงจรธรรมดา ( Simple cycle) ที่มีอยู่ให้เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม

ติดต่อ Contact Black & Veatch สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทวิศวกรรม จัดซื้อ ที่ปรึกษา และก่อสร้างระดับโลกที่พนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีประสบการณ์ด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมานานกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี 1915 เราได้ช่วยให้ลูกค้าของเราพัฒนาชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยเน้นที่ความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และใน LinkedIn Facebook X (Twitter) และ Instagram

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ข้อมูลการติดต่อสำหรับสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | Chialp@bv.com
อีเมลสื่อตลอด 24 ชั่วโมง| Media@bv.com

แหล่งที่มา: Black & Veatch

อาบูดาบีเปิดตัว SteerAI บริษัทเทคโนโลยีใหม่ที่เตรียมเปลี่ยนโฉมยานยนต์อุตสาหกรรมให้กลายเป็นยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

Logo

ชุดซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงของ SteerAI ช่วยให้ยานยนต์อุตสาหกรรมขับเคลื่อนอัตโนมัติได้

บริษัทใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดย VentureOne ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าของ ATRC จะเริ่มต้นด้วยยานยนต์ภาคพื้นดินและขยายออกไปสู่ท้องทะเล

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–04 พฤศจิกายน 2024

VentureOne ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council – ATRC) ได้เปิดตัว SteerAI ซึ่งเป็นระบบการขับเคลื่อนขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่จะแปลงโฉมยานยนต์อุตสาหกรรมมาตรฐานให้กลายเป็นยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้

Abu Dhabi unveils SteerAI, a new tech venture set to transform industrial vehicles into autonomous powerhouses (Photo: AETOSWire)

อาบูดาบีเปิดตัว SteerAI ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมยานยนต์อุตสาหกรรมให้กลายเป็นโรงงานผลิตยานยนต์ไร้คนขับ (รูปภาพ: AETOSWire)

SteerAI ใช้ชุดฮาร์ดแวร์ ชุดซอฟต์แวร์ และระบบการจัดการกองยานพาหนะเพื่อให้บริการทั้งภาคโลจิสติกส์และการป้องกันประเทศ รวมถึงเพื่อให้ยานยนต์ภาคพื้นดินขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถรับมือกับภารกิจที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร และปกป้องภารกิจที่ต้องใช้มนุษย์ โดยเทคโนโลยีของ SteerAI นั้นได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี (Technology Innovation Institute – TII) ที่เป็นหน่วยงานวิจัยประยุกต์ของ ATRC

H.E. Faisal Al Bannai ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเลขาธิการ ATRC กล่าวว่า “การเปิดตัว SteerAI ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติ ที่ ATRC วิสัยทัศน์ของเราคือการผลักดันขอบเขตของนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และ SteerAI เป็นตัวอย่างว่าเราเปลี่ยนการวิจัยที่ก้าวล้ำให้กลายเป็นโซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริงที่สร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร”

“เราไม่ได้สร้างยานยนต์อัตโนมัติแต่เพียงอย่างเดียว แต่เราได้สร้าง ‘สมอง’ ของยานยนต์อัตโนมัติขึ้นมาด้วย” ดร. Najwa Aaraj ซีอีโอของ TII กล่าว “อัลกอริทึมการนำทางขั้นสูงทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโมดูลาร์ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถทำงานกับยานยนต์ได้ทุกประเภท และมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเคลื่อนที่ของเรา”

ยานยนต์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยระบบของ SteerAI จะสามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำระหว่างจุดนำทางโดยมีเวลาหยุดทำงานที่น้อยที่สุด ชุดซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ยานพาหนะตอบสนองต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย รวมถึงพื้นที่ที่ยังไม่ได้อยู่ในแผนที่

นอกจากจะช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติเต็มรูปแบบแล้ว ซอฟต์แวร์ของ SteerAI ยังอำนวยความสะดวกในการจัดการกองยานพาหนะจากระยะไกล การวางแผนและการตรวจสอบภารกิจ ตลอดจนการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่ายานพาหนะถูกนำไปใช้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Reda Nidhakou รักษาการ CEO ของ VentureOne กล่าวว่า “การเปิดตัว SteerAI ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางของเราในการสร้างผลกระทบเชิงบวกผ่านการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยความต้องการด้านการเคลื่อนที่ในด้านโลจิสติกส์และการป้องกันประเทศนั้นเข้มข้น ซับซ้อน และมีค่าใช้จ่ายสูง ระบบอัตโนมัติที่ไม่ขึ้นกับยานพาหนะของเราจะช่วยกำหนดประสิทธิภาพและความแม่นยำในการปฏิบัติงานใหม่ในขณะที่ปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของบริษัท นั่นคือบุคลากรของบริษัท ภารกิจของเราคือการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการของพวกเขา”

SteerAI เป็นโครงการที่สองที่ VentureOne เปิดตัว โดย AI71 ที่ได้เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2023 นั้น ได้สร้างโซลูชันทางธุรกิจโดยใช้โมเดล Falcon generative AI ของ TII

*แหล่งข้อมูลAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54145916/en

ติดต่อ

Audrey Fernandes
Audrey.fernandes@edelman.com

แหล่งข้อมูล: สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council)

NielsenIQ (NIQ) แต่งตั้ง Steen Lomholt-Thomsen เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์

Logo

Lomholt-Thomsen มุ้งเน้นที่การเติบโตและกลยุทธ์ด้านลูกค้าในระดับโลก

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–01 พฤศจิกายน 2024

NIQ ที่เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชั้นนำของโลก ได้ประกาศแต่งตั้ง Steen Lomholt-Thomsen เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์คนใหม่ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 โดย Steen จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านลูกค้าและส่งเสริมการเติบโตในระดับโลก เนื่องจาก NielsenIQ ขยายขีดความสามารถเพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจในมุมมองที่ครอบคลุมที่สุดของพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค โดยความสามารถด้าน AI ของ NIQ ร่วมกับสินทรัพย์ข้อมูลหลัก รวมถึงการดำเนินงานระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบได้นั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อมอบ Full View™ ให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นมุมมองที่ครอบคลุมที่สุดของพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค

Steen Lomholt-Thomsen NIQ Chief Commercial Officer (Photo: Business Wire)

Steen Lomholt-Thomsen NIQ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ (รูปภาพ: Business Wire)

Steen มีประสบการณ์มากมายในการเป็นผู้นำการเติบโตของรายได้และความเป็นเลิศในการดำเนินงานในองค์กรระดับโลกที่ซับซ้อน อาทิ BullWall, Clarivate และ Aveva และเคยดำรงตำแหน่งผู้นำในบริษัทต่างๆ เช่น IBM, HP และ IHS (ปัจจุบันคือ S&P Global) โดยเขามีความเข้าใจในตลาดระดับโลก การมีส่วนร่วมของลูกค้า ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง และจะสานต่อภารกิจของ NIQ ในการส่งเสริมให้ธุรกิจต่างๆ สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ถูกต้องได้

Tracey Massey ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ NIQ กล่าวว่า “NIQ ดำเนินงานในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก โดย Steen เป็นผู้นำที่ได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้วและมีประวัติในด้านความสำเร็จในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงประสบการณ์ของเขาในด้านความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทำให้เขาเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเรา”

Lomholt-Thomsen กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับ NIQ และจะช่วยส่งมอบข้อมูลเชิงลึกรวมถึงการวิเคราะห์ผู้บริโภคที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรมสู่ตลาด ผมตั้งตารอที่จะร่วมงานกับลูกค้าที่ยอดเยี่ยมของเราและช่วยให้พวกเขาไปถึงจุดสูงสุดจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและความสามารถของ NIQ”

Steen จะประจำอยู่ที่สำนักงานของ NIQ ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เกี่ยวกับ NIQ

NielsenIQ (NIQ) เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชั้นนำของโลก ซึ่งมอบความเข้าใจที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคและเปิดเผยเส้นทางใหม่ๆ สู่การเติบโต โดย NIQ ได้รวมตัวกับ GfK ในปี 2023 โดยการนำผู้นำอุตสาหกรรมทั้งสองที่มีการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้มาอยู่รวมกัน ปัจจุบัน NIQ มีการดำเนินงานในกว่า 95 ประเทศ ครอบคลุม 97% ของ GDP ด้วยการอ่านข้อมูลค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด ซึ่งนำเสนอด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ทำให้ NIQ สามารถมอบ Full View™ แก่ลูกค้าได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.niq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Sweta Patra
swetapatra@nielseniq.com

แหล่งข้อมูล: NIQ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54145329/en

CRH พัฒนาฟาร์มกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานปูนซีเมนต์ในโรมาเนีย

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–01 พฤศจิกายน 2024

CRH (NYSE: CRH) ที่เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันวัสดุก่อสร้าง ได้พัฒนาฟาร์มกังหันลมแห่งใหม่เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับโรงงานปูนซีเมนต์ Medgidia ในประเทศโรมาเนีย ฟาร์มกังหันลมแห่งนี้เป็นแห่งแรกในประเทศที่ผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานปูนซีเมนต์โดยเฉพาะ ฟาร์มกังหันลมจะตอบสนองความต้องการด้านพลังงานต่อปีของโรงงาน Medgidia ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นได้ ในขณะเดียวกันก็มีส่วนสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของโรมาเนียอีกด้วย

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

Eunice Heath ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของ CRH กล่าวว่า “นี่คือโครงการพลังงานสะอาดที่สำคัญของ CRH และเป็นหนึ่งในหลายๆ วิธีที่เรากำลังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น การสร้างฟาร์มกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับหนึ่งในโรงงานปูนซีเมนต์ของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการลดการปล่อยคาร์บอนและจัดหาโซลูชันวัสดุก่อสร้างที่มีคาร์บอนต่ำให้กับลูกค้าของเรา เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของการก่อสร้าง”

CRH ได้ลงทุนอย่างแข็งขันในพลังงานสะอาดเพื่อช่วยให้สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และโซลูชันคาร์บอนต่ำให้กับลูกค้าได้ โดยการเพิ่มการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในการดำเนินงาน รวมถึงการผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนในสถานที่ CRH กำลังก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายชั้นนำของอุตสาหกรรมในการลดการปล่อยคาร์บอนลงร้อยละ 30 ภายในปี 2030

โครงการดังกล่าวเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2023 และปัจจุบันฟาร์มกังหันลมได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งประกอบด้วยกังหันลม 5 ตัว ที่มีกำลังการผลิตที่ติดตั้งแล้วทั้งหมดประมาณ 30 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตสุทธิต่อปีประมาณ 80 กิกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานของประเทศโรมาเนียได้ 40,000 ตัน

เกี่ยวกับ CRH

CRH (NYSE: CRH, LSE: CRH) เป็นผู้ให้บริการโซลูชันวัสดุก่อสร้างชั้นนำที่สร้าง เชื่อมต่อ และปรับปรุงโลกของเรา CRH มีพนักงานประมาณ 78,500 คน ในสถานที่ปฏิบัติงานประมาณ 3,390 แห่งใน 28 ประเทศ และเป็นผู้นำตลาดทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรป ในฐานะพันธมิตรที่สำคัญสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและสาธารณูปโภคที่สำคัญ การก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยที่ซับซ้อน และโซลูชันการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์วัสดุ และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มที่ไม่เหมือนใครของ CRH ได้ช่วยส่งมอบสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนยิ่งขึ้น บริษัทได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมโดยหน่วยงานจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) โดย CRH เป็นบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 มีหุ้นของบริษัทจดทะเบียนใน NYSE และ LSE สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: www.crh.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

media@crh.com

แหล่งข้อมูล: CRH

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54145959/en


The Bangkok Reporter