อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander โดยบริษัทอะไลน์ เทคโนโลยี เริ่มวางจำหน่ายพร้อมให้บริการในประเทศไทยสำหรับการขยายกระดูกเพดานและฟันในคนไข้ที่กำลังเจริญเติบโต

Logo

  • Invisalign® Palatal Expanders มอบทางเลือกใหม่สำหรับทันตแพทย์ ด้วยอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและถอดออกได้ง่ายเมื่อเทียบกับการรักษาแบบดั้งเดิม ไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่เป็นลวดโลหะและสกรู
  • เมื่อใช้ร่วมกับ อุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign First™  จะมอบการรักษาแบบครบวงจรสำหรับทั้งการขยายกระดูกเพดาน (orthopedic) และฟัน (orthodontic)

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 20 กุมภาพันธ์ 2025 –บริษัทอะไลน์ เทคโนโลยี. (“Align”) (Nasdaq: ALGN) บริษัทอุปกรณ์การแพทย์ชั้นนำระดับโลกที่ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign®, เครื่องสแกนภายในช่องปาก iTero™ และซอฟต์แวร์ CAD/CAM exocad™ สำหรับการจัดฟันและทันตกรรมฟื้นฟูแบบดิจิทัล ประกาศในวันนี้ว่า อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander ของบริษัทอะไลน์ เทคโนโลยี ได้รับการรับรองเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภท2 โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย และพร้อมให้บริการในประเทศไทยสำหรับคนไข้ทุกกลุ่มอายุ รวมถึงเด็กที่กำลังเจริญเติบโต วัยรุ่น และผู้ใหญ่ (ที่ต้องใช้การผ่าตัดหรือเทคนิคอื่นๆ)

อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตโดยใช้นวัตกรรมการพิมพ์ 3 มิติ โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์และจดสิทธิบัตร มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายและรักษาความกว้างของขากรรไกรบนในคนไข้ที่มีฟันน้ำนม ฟันผสม หรือฟันแท้

“อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาการจัดฟันแบบดิจิทัลด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรักษาของคนไข้” David Carr รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการของ Align Technology ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะขยายการให้บริการอุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดฟันที่พิมพ์ 3 มิติโดยตรงตัวแรกของ Align ให้กับแพทย์และคนไข้ในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากยิ่งขึ้น”

อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander ประกอบไปด้วยชุดของอุปกรณ์ที่ถอดออกได้ ซึ่งจะขยายขากรรไกรบนที่แคบของคนไข้ทีละน้อยตามที่ทันตแพทย์กำหนด อุปกรณ์แต่ละชิ้นที่พิมพ์ 3 มิติโดยตรงจะถูกปรับแต่งให้เข้ากับช่องปากของคนไข้เฉพาะบุคคล โดยอิงจากการสแกนภายในช่องปากด้วยเครื่องสแกนช่องปาก iTero™ แผนการรักษาและการออกแบบอุปกรณ์ขยายขากรรไกรบนจะถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ซอฟต์แวร์จัดฟันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัทอะไลน์ เทคโนโลยี

เมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign First™ อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander จะมอบการรักษาเบื้องต้นแบบครบวงจรสำหรับการรักษาระยะที่ 1 ซึ่งเป็นการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันเบื้องต้นสำหรับคนไข้เด็ก การรักษาระยะที่ 1 มักทำผ่านการขยายขากรรไกรหรือการใช้เครื่องมือจัดฟันโลหะบางส่วน ก่อนที่ฟันแท้ทั้งหมดจะขึ้น ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงอายุ 6 ถึง 10 ปี อุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign First™ ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาการสบฟันที่หลากหลายในคนไข้เด็ก รวมถึงคนไข้ที่มีฟันสั้น การจัดการฟันที่กำลังขึ้นและการขยายขากรรไกรที่คาดการณ์ได้

“การรักษาระยะที่ 1 หรือการรักษาเบื้องต้นคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของการเริ่มต้นเคสจัดฟันในแต่ละปีและกำลังเติบโต” ดร. Mitra Derakhshan รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางคลินิกของบริษํทอะไลน์ เทคโนโลยี กล่าว “เมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign First™ อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander จะมอบทางเลือกให้ทันตแพทย์ในการรักษาปัญหาการสบฟันที่พบบ่อยที่สุดในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต การเพิ่มคุณสมบัติการขยายขากรรไกรล่างให้กับอุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign® ยังมอบทางเลือกเพิ่มเติมให้ทันตแพทย์ในการรักษาความไม่สมดุลของขากรรไกรและการแก้ไขการสบฟันในคนไข้วัยรุ่น”

อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander มีจำหน่ายในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม และญี่ปุ่น และคาดว่าจะมีจำหน่ายในประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2025 ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

เกี่ยวกับ บรษัทอะไลน์ เทคโนโลยี

อะไลน์ เทคโนโลยี ออกแบบและผลิต อุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign®, เครื่องสแกนภายในช่องปาก iTero™ และซอฟต์แวร์ CAD/CAM exocad™ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านทันตกรรมจัดฟันและทันตกรรมบูรณะแบบดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสำหรับลูกค้าทันตแพทย์กว่า 271,000 ราย อีกทังยังเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงโอกาสทางการตลาดของผู้บริโภค 600 ล้านคนทั่วโลก กว่า 27 ปีที่ผ่านมาบริษัทอะไลน์ ได้มีส่วนช่วยทันตแพทย์ในการรักษาคนไข้ 19 ล้านคนด้วยระบบ Invisalign และกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาในทันตกรรมดิจิทัลผ่าน Align Digital Platform™ ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีและบริการที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ รวมกันเป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับคนไข้และผู้บริโภค ทันตแพทย์จัดฟันและทันตแพทย์ทั่วไป และห้องแล็บพันธมิตร ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.aligntech.com 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ Invisalign หรือค้นหาทันตแพทย์ Invisalign ในพื้นที่ของคุณ โปรดเยี่ยมชม www.invisalign.co.th  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบสแกนดิจิทัลiTero โปรดเยี่ยมชม www.itero.com/en-APAC  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอ CAD/CAM ทางทันตกรรมของ exocad และรายชื่อพันธมิตรผู้จำหน่าย exocad โปรดเยี่ยมชม www.exocad.com

Invisalign, iTero, exocad, Align, Align Digital Platform และ iTero Lumina เป็นเครื่องหมายการค้าของ Align Technology, Inc.

เกี่ยวกับอุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander

อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expanderเป็นอุปกรณ์จัดฟันที่พิมพ์ 3 มิติ โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์และจดสิทธิบัตร มีวัตถุประสงค์เพื่อการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันของการสบฟันผิดปกติ ระบบนี้ใช้สำหรับการขยายขากรรไกรบนอย่างรวดเร็วและการรักษาความกว้างของขากรรไกรบน (ขากรรไกร ฟัน และเพดานปาก) ที่แคบในคนไข้ที่มีฟันน้ำนม ฟันผสม หรือฟันแท้ในระหว่างการรักษาทางศัลยกรรมกระดูกในเด็กหรือวัยรุ่น ในผู้ใหญ่จะใช้ร่วมกับการผ่าตัดหรือการรักษาอื่นๆ เมื่อจำเป็น อุปกรณ์ถูกพิมพ์ 3 มิติและผลิตขึ้นตามข้อมูลการสแกนดิจิทัลจากเครื่องสแกนภายในช่องปาก iTero™ ที่มีจำหน่ายในโดยบริษัทอะไลน์ เทคโนโลยี อุปกรณ์สามารถถอดออกได้เพื่อสุขอนามัยในช่องปากที่เหมาะสม ผลิตขึ้นให้พอดีกับช่องปากของคนไข้แต่ละรายเพื่อความสะดวกสบายและความสวยงามที่ดีที่สุด อุปกรณ์ขยายขากรรไกรบนจะใส่พอดีกับปากของคนไข้ และจะถูกเปลี่ยนทุกวัน (ไม่ต้องใช้สกรู)

ระบบของอุปกรณ์ขยายขากรรไกรบน Invisalign® Palatal Expander (ระยะการขยาย แต่ละขั้นตอนมาพร้อมกับอุปกรณ์การขยายที่กำหนดไว้สูงสุด 0.25 มม./ขั้นตอน เปลี่ยนทุกวันหรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์) และอุปกรณ์ Invisalign Palatal Holders (สำเนาของขั้นตอนสุดท้ายของระยะการขยายที่ออกแบบมาเพื่อยึดขากรรไกรบนหลังระยะการขยาย และเปลี่ยนทุก 2-4 สัปดาห์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้รักษา) Invisalign Attachment Templates และซอฟต์แวร์สร้างรูปทรง 3 มิติที่ลิขสิทธิ์เฉพาะ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่มีจำหน่ายสำหรับประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายจากทันตแพทย์และทันตแพทย์จัดฟันที่ผ่านการฝึกอบรมจาก Invisalign®

ติดต่อ

Align Technology                                                                       Zeno Group                 

Madelyn Valente                                                                       Sarah Johnson

(909) 833-5839                                                                         (828) 551-4201

mvalente@aligntech.com                                                          sarah.johnson@zenogroup.com

Xsolla Cloud Gaming ขยายการเข้าถึงของนักพัฒนาไปยังผู้ใช้รายใหม่ด้วยการเข้าถึงทั่วโลก

Logo

ขยายการเข้าถึงผู้เล่นด้วยเดโมที่เปิดใช้งานบนคลาวด์และประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นบนแพลตฟอร์มพีซีและมือถือ

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–06 มีนาคม 2025

Xsolla บริษัทค้าเกมชั้นนำระดับโลก ประกาศอัปเดตโซลูชัน Xsolla Cloud Gaming ซึ่งขับเคลื่อนโดย Amazon GameLift Streams บน AWS ใหม่ โซลูชันนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมบนพีซีและมือถือคุณภาพสูงให้กับผู้เล่นจากระยะไกลบนคลาวด์ในเบราว์เซอร์โดยใช้โมเดลการสร้างรายได้แบบจ่ายตามการใช้งานและการรวมผู้ให้บริการคลาวด์ ตลาดเกมบนคลาวด์ทั่วโลกซึ่งมีมูลค่า 6.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 คาดว่าจะเติบโตเป็น 22.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 33.59% โดย Xsolla Cloud Gaming เตรียมที่จะใช้ประโยชน์จากการเติบโตนี้ด้วยการเสนอโซลูชันสำหรับนักพัฒนาที่เพิ่มการเข้าถึง ปรับปรุงการเข้าถึงผู้ใช้ และขยายการเข้าถึงในระดับภูมิภาค โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ล่าสุดและความร่วมมือระดับโลก

Graphic: Xsolla

กราฟิก: Xsolla

โดย Xsolla Cloud Gaming จะนำเสนอฟีเจอร์นวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักพัฒนาและผู้เล่นต่างจากแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์แบบเดิม การอัปเดตเหล่านี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเอาชนะข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ปรับปรุงการเข้าถึงทั่วโลก และสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ที่ปรับขนาดได้ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้เล่นด้วย

การอัปเดตที่สำคัญสำหรับ Xsolla Cloud Gaming ประกอบด้วย:

  •  เล่นก่อนซื้อ: ผู้เล่นเกมสามารถเข้าถึงเดโมแบบจำกัดเวลาและ/หรือเต็มเกมได้ทันทีผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ก่อนการซื้อ ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้เผยแพร่สามารถสาธิตเกมของตน ขายคีย์เกมโดยตรงผ่านสตรีมคลาวด์ และ/หรือเล่นต่อบนคลาวด์ ช่วยเพิ่มการเข้าถึงผู้ใช้และการเติบโตของรายได้
  •  ความเข้ากันได้อย่างราบรื่นระหว่างแพลตฟอร์ม: ความเข้ากันได้กับเบราว์เซอร์บนมือถือโดยเฉพาะ รวมถึงการวางซ้อนเกมแพดเสมือนจริง ช่วยนำประสบการณ์การเล่นเกมพีซีมาสู่อุปกรณ์มือถือได้อย่างรวดเร็ว
  •  กระบวนการเปิดตัวทั่วโลกที่คล่องตัว: นักพัฒนาสามารถเปิดตัวเกมได้ในทุกพื้นที่ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงโดยการเลือกภูมิภาคและประเภทเครื่องที่ต้องการ แพลตฟอร์มจะจัดการส่วนที่เหลือด้วยสถาปัตยกรรมที่ปรับให้เหมาะสมและการกำหนดเส้นทางผู้จำหน่ายขั้นสูงเพื่อเชื่อมต่อผู้เล่นกับผู้จำหน่ายคลาวด์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของพวกเขา
  •  ความร่วมมือระดับโลก: ปัจจุบัน Xsolla Cloud Gaming ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น AWS และ Tencent Cloud ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและการบูรณาการอย่างลึกซึ้ง เราจึงสามารถแก้ไขปัญหาและนำฟีเจอร์ใหม่ๆ มาใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมมือกับ Aethir เพื่อมอบเครดิตคลาวด์สูงสุดถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่พาร์ทเนอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

ผ่านอินเทอร์เฟซนักพัฒนาเกมบนคลาวด์ของ Xsolla บัญชีผู้เผยแพร่ ผู้พัฒนาสามารถโปรโมตเกมของตนต่อไปได้ด้วยรางวัลต่างๆ เช่น โบนัสต้อนรับสำหรับการลงทะเบียนใหม่ การทดลองเล่นฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป การทดลอง “เล่นก่อนซื้อ” เป็นเวลา 15 นาที และโบนัสอ้างอิงสำหรับผู้เล่น ตัวเลือกการมีส่วนร่วมเหล่านี้สร้างประสบการณ์ที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้สำหรับผู้เล่นทั่วโลก

“Xsolla Cloud Gaming ให้นิยามใหม่เกี่ยวกับวิธีที่นักพัฒนานำเกมมาสู่ผู้เล่น” Chris Hewish ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Xsolla กล่าว “ฟีเจอร์ใหม่ของเราสามารถตอบโจทย์ความท้าทายหลักของอุตสาหกรรมได้อย่างดี เช่น ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ การจัดหาและการรักษาผู้เล่น ในขณะเดียวกันก็มอบโอกาสในการสร้างรายได้ที่ปรับขนาดได้ให้กับนักพัฒนาโดยไม่ต้องพยายามพัฒนาใดๆ”

นักพัฒนาทั่วโลกกำลังนำอัปเดต Xsolla Cloud Gaming มาใช้แล้ว

ในตอนนี้ เวอร์ชันอัปเดตของ Xsolla Cloud Gaming พร้อมให้บริการแก่นักพัฒนาและผู้เผยแพร่ทั่วโลกแล้ว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Cloud Gaming โปรดไปที่: https://xsolla.pro/rws25cloudg

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าเกมวิดีโอชั้นนำระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยให้ผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่เกมหลายพันรายในทุกขนาดระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของตนทั่วโลกและบนแพลตฟอร์มต่างๆ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่นเกมทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่างๆ ทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com| x.la/cloud-gaming

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/54219505/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Xsolla ประกาศการอัปเดต Web Shop ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยนักพัฒนาในการพัฒนาเกมของตนให้เติบโตผ่านการเปิดใช้งานตรงถึงผู้บริโภค

Logo

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–05 มีนาคม 2025

Xsolla ผู้นำระดับโลกด้านการค้าวิดีโอเกม ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับโซลูชัน Web Shop ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม โดย Xsolla Web Shop นั้นอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมมานานกว่าสี่ปี โดยมีการขับเคลื่อน Web Shop มากกว่า 500 แห่งทั่วโลกในประเภทและขนาดเกมที่หลากหลาย โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมบนมือถือ การพัฒนาที่ล้ำสมัยเหล่านี้ได้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่ม LTV และสร้างความภักดีของผู้เล่นอย่างแน่นแฟ้น การปรับแต่งส่วนบุคคลที่ได้รับการพัฒนา การบูรณาการที่คล่องตัว การกำหนดราคาตามภูมิภาคแบบอัตโนมัติ และชุดเครื่องมือเกี่ยวกับความภักดีเพื่อช่วยในการพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ใช้ เพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งาน และช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

Graphic: Xsolla

กราฟิก: Xsolla

ขณะนี้ผู้ใช้ Web Shop ทุกคนสามารถเข้าถึงการอัปเดตอันทรงพลังเหล่านี้ได้ และการอัปเดตที่ทรงพลังเหล่านี้ยังได้มอบผลลัพธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วทั่วทั้งอุตสาหกรรม:

  •  เพิ่มการเติบโตของ LTV ของ Web Shop LTV +30% ด้วยโปรแกรมความภักดีที่ปรับแต่งได้ซึ่งผสานรวมเข้ากับประสบการณ์ของ Web Shop ของคุณได้อย่างราบรื่น ชุดฟีเจอร์ความภักดีของ Web Shop ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ เพิ่มความถี่ในการชำระเงิน และขยายอายุของลูกค้า โดยผู้เล่นจะได้รับคะแนนสะสมและเข้าถึงร้านค้าความภักดีพิเศษเฉพาะได้ ซึ่งช่วยจูงใจให้เกิดการมีส่วนร่วมในระยะยาวและการใช้จ่ายบนเว็บอย่างยั่งยืน
  •  เพิ่มการแปลงการชำระเงิน +13% ด้วยระดับการกำหนดราคาในระดับภูมิภาคอัตโนมัติ นักพัฒนาสามารถกำหนดราคาอัตโนมัติเป็น USD สำหรับการแปลงในคลิกเดียวได้อย่างราบรื่น โดยสามารถปรับอัตราภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนแบบไดนามิกได้ กลยุทธ์นี้จะช่วยปรับราคาให้เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อในท้องถิ่น เพิ่มปริมาณธุรกรรม และเพิ่มการชำระเงินที่เสร็จสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็อนุญาตให้มีการปรับเปลี่ยนราคาได้ด้วยตนเอง
  •  เพิ่มการเข้าชมร้านค้าบนเว็บ +300% ด้วยฟังก์ชันการทำงาน Progressive Web App (PWA) ที่ได้รับการพัฒนา ผู้เล่นสามารถเพิ่ม Web Shop ลงในหน้าจอหลักบนมือถือของตนได้โดยตรงเพื่อการเข้าถึงเพียงคลิกเดียวโดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบซ้ำหลายครั้ง
  •  ขับเคลื่อน ARPPU เพิ่มขึ้น +35% ด้วยการปรับแต่งส่วนบุคคลสำหรับพันธมิตร ช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่งประสบการณ์ของ Web Shop แบบเรียลไทม์ได้ โดยแค็ตตาล็อก โปรโมชั่น และข้อเสนอต่างๆ จะปรับเปลี่ยนตามข้อมูลของผู้เล่นในเกม

“ภารกิจของ Xsolla คือการลดความซับซ้อนของการค้าเกม และช่วยให้นักพัฒนาเติบโตและขยายการสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น” Berkley Egenes ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการเติบโตของ Xsolla กล่าว “การอัปเดต Web Shop เหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงภารกิจของเรา โดยนำเสนอโซลูชั่นเพื่อช่วยให้การจัดการ Web Shop มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมมากขึ้น เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนนักพัฒนาต่อไปด้วยเครื่องมือที่ขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่วัดผลได้ รวมถึงการเติบโตที่มีความหมาย”

Xsolla Web Shop เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาเกมมือถือที่ต้องการขยายกลยุทธ์ด้านการสร้างรายได้และการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เล่น ด้วยการรวมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การจัดการแค็ตตาล็อก การสนับสนุน LiveOps และการปรับแต่งเว็บไซต์ โดยโซลูชันดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความสำคัญต่อกลยุทธ์การสร้างรายได้โดยตรงสู่ผู้บริโภค โดยมอบ ROI ที่สม่ำเสมอและมูลค่าระยะยาวสำหรับพันธมิตรต่างๆ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่และวิธีที่ Xsolla Web Shop สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต โปรดไปที่: xsolla.pro/rws25ws

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่หลายพันรายในทุกขนาดระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกในหลากหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่างๆ ทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54218821/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Zeitview ได้ระดมทุน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเร่งการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ขั้นสูง

Logo

  • หลังจากเติบโตเป็นสองเท่าไปสู่การตรวจสอบสินทรัพย์มากกว่า 200,000 รายการใน 80 ประเทศในปี 2024 Zeitview ได้เร่งลงทุนใน Insights ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Visual AI
  •  Climate Investment เป็นผู้นำในการระดมทุน พร้อมการเข้าร่วมจากนักลงทุนที่มีอยู่
  •  แพลตฟอร์ม Zeitview ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภท รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ และโทรคมนาคม

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–05 มีนาคม 2025

Zeitview ผู้นำด้าน Visual AI สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ประกาศระดมทุน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำโดย Climate Investment พร้อมการเข้าร่วมจากนักลงทุนปัจจุบันอย่างเช่น Valor Equity Partners, Union Square Ventures, Upfront Ventures, Euclidean Capital, Energy Transition Ventures, Hearst Ventures และ Y Combinator

ผู้นำตลาดด้าน Visual AI สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดยซอฟต์แวร์ Zeitview จะช่วยปรับปรุงเวลาในการตรวจสอบและข้อกำหนดด้านต้นทุน พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะรวมถึงความถี่ในการตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากผู้ให้บริการโซลูชันที่เน้นเฉพาะสินทรัพย์ประเภทเดียว แพลตฟอร์มของ Zeitview นั้นรองรับหมวดหมู่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลายประเภท รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ และโทรคมนาคม ทำให้สามารถเป็นพันธมิตรรายเดียวสำหรับเจ้าของสินทรัพย์ที่ดำเนินงานในภาคส่วนต่างๆ

“โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับอันตราย ความตึงเครียด และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น” Dan Burton ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Zeitview กล่าว “Zeitview จะช่วยให้องค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสามารถป้องกันความล้มเหลวจากภัยพิบัติ โดยประเมินและคาดการณ์ความเสี่ยง รวมถึงจัดลำดับความสำคัญค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้”

“ด้วยเงินทุนนี้ Zeitview จะเร่งการสร้าง Visual AI ของเราที่รวดเร็ว คาดการณ์ได้ และไม่จำกัด” Burton กล่าว “และจะเพิ่มการลงทุนในแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Insights ของเราเพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราในสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญตลอดวงจรชีวิตของพวกเขาในทุกๆ ที่ในโลก”

Patrick Yip กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่าย Growth Equity ของ Climate Investment กล่าวว่า “Climate Investment ได้ลงทุนในเทคโนโลยีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ชั้นนำและแตกต่าง พร้อมการใช้งานในหลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เพิ่ม Zeitview ในกลุ่มนี้เพื่อรองรับการเติบโตในขั้นต่อไป โดยการลงทุนนี้จะช่วยเร่งการปรับใช้แพลตฟอร์มของ Zeitview ในประเภทโครงสร้างพื้นฐานปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็เปิดทางให้ขยายสู่ตลาดใหม่ผ่านเครือข่ายนักลงทุนระดับโลกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Climate Investment ซึ่งมีหลายรายเป็นลูกค้าของเราอยู่แล้ว”

“เจ้าของโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ปฏิบัติงาน และ OEM ต้องการโซลูชันการตรวจสอบที่สามารถรองรับพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดของตนได้ ซึ่งครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภทที่ดำเนินงานทั่วโลก และรองรับวงจรชีวิตของสินทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ” Mike Bishop ผู้อำนวยการด้านการลงทุนของ Climate Investment ซึ่งจะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของ Zeitview กล่าว “Zeitview สามารถตอบสนองต่อความต้องการนี้อย่างมีเอกลักษณ์ผ่านแพลตฟอร์มข้อมูลภาพ ซึ่งผสมผสานการวิเคราะห์เข้ากับความเชี่ยวชาญในเชิงลึกเพื่อมอบโซลูชันการจัดการสินทรัพย์ที่ดีกว่า เร็วขึ้น และคุ้มต้นทุนมากขึ้น”

เนื่องจากความต้องการทั่วโลกสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน การสื่อสาร และสถานที่อำนวยความสะดวกเพิ่มสูงขึ้นในโลกที่มีความผันผวนมากขึ้นและเสี่ยงต่อภัยพิบัติ Zeitview จึงมุ่งมั่นที่จะจัดเตรียมองค์กรต่างๆ ด้วย Visual AI เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของสินทรัพย์ หลังจากมีการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในสินทรัพย์ 200,000 รายการใน 80 ประเทศในปี 2024 โดย Zeitview ได้แสดงให้เห็นถึงขนาดในการส่งมอบพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่มีการขยายตัวมากที่สุด

เกี่ยวกับ Zeitview

Zeitview เป็นผู้นำตลาดด้าน Visual AI สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ด้วยการตรวจสอบสินทรัพย์มากกว่า 200,000 รายการใน 80 ประเทศในปี 2024 โดย Zeitview ได้ช่วยให้องค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสามารถป้องกันความล้มเหลวจากภัยพิบัติได้ รวมถึงช่วยประเมินและคาดการณ์ความเสี่ยง อีกทั้งยังจัดลำดับความสำคัญค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอีกด้วย

เยี่ยมชม Zeitview.com เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Climate Investment

Climate Investment (CI) เป็นนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญที่มีการจัดการอิสระ ซึ่งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรม บริษัทให้บริการในระยะเริ่มต้นผ่านการลงทุนในหุ้นเพื่อการเติบโตแก่บริษัทที่มีนวัตกรรมและมีหุ้นส่วนกับบริษัทขนาดใหญ่ รัฐบาล และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อขยายการยอมรับและผลกระทบในตลาด โดย CI ได้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2017 โดยลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศมากกว่า 40 บริษัท ทั้งในด้านพลังงาน การขนส่ง อาคาร และอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมได้ 95 MT CO2e ในช่วงปี 2019-2023

Climate Investment ก่อตั้งโดยบริษัทสมาชิกของ Oil & Gas Climate Initiative (“OGCI”) ที่ได้ลงทุนในกองทุน Climate Investment และนำนวัตกรรมในพอร์ตโฟลิโอจำนวนมากมาปรับใช้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในช่วงแรกๆ เยี่ยมชมได้ที่ www.climateinvestment.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อของ Zeitview
Rebecca Wilson ที่ rebecca.wilson@zeitview.com

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อของ Climate Investment
Jason Dela Cruz ที่ marketingci@climateinvestment.com

ที่มา: Zeitview

UTS เพิ่มความเร็วในการลงทะเบียนและผลการสอบของนักเรียนด้วย Boomi

Logo

 มหาวิทยาลัยออสเตรเลียใช้บริการคลาวด์ที่บริหารจัดการโดย Boomi เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์ของนักศึกษาที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลาง และสร้างกลไกบูรณาการที่ปรับขนาดได้

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–04 มีนาคม 2025

Boomi™ ผู้นำด้านการบูรณาการและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ประกาศในวันนี้ว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (UTS) ได้ใช้แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ด้วยการใช้แนวทางที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลาง UTS ได้พัฒนาปรับปรุงประสบการณ์ของนักศึกษาพร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในด้านการบริหารจัดการไปด้วย

UTS Speeds Student Enrolment and Exam Results With Boomi (Graphic: Business Wire)

UTS เพิ่มความเร็วในการลงทะเบียนและผลการสอบของนักเรียนด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

UTS รับนักศึกษาเข้าเรียนมากกว่า 40,000 คน ซึ่งสร้างข้อมูลจำนวนมากให้มหาวิทยาลัยจัดเก็บ จัดระเบียบ และใช้ในการตัดสินใจ รวมถึงโปรแกรมต่างๆ ด้วย จากเป้าหมายในการแข่งขันเพื่อดึงดูดและรักษานักศึกษาไว้ มหาวิทยาลัยจึงได้ริเริ่มโครงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีให้ทันสมัย และสร้างระบบนิเวศที่เน้นข้อมูล ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมประสบการณ์ของนักศึกษา

การสร้างการเชื่อมต่อที่ปรับขนาดได้ระหว่างระบบดิจิทัลถือเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุแผนของมหาวิทยาลัย UTS ได้เปิดตัว Boomi Managed Cloud Services (MCS) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์แบบหลายผู้เช่าที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการผสานรวมข้อมูลใน Amazon Web Services (AWS) ซึ่งกลายมาเป็นรากฐานสำหรับโครงการเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งของมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบัน

“ในเดือนเมษายนปีนี้ เราได้ย้ายแพลตฟอร์มการจัดการนักศึกษาหลักภายในองค์กรของเราไปยังคลาวด์ ทำให้ Technology One เป็นผู้ใช้ MCS รายใหญ่รายแรกของเรา” Anthony Heiler หัวหน้าฝ่ายแพลตฟอร์มองค์กรที่ UTS กล่าว “เป็นงานชิ้นใหญ่ที่ต้องปรับระบบบูรณาการใหม่ถึง 400 ระบบ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้แทบจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งถือเป็นความโล่งใจอย่างมากสำหรับองค์กร เนื่องจากเราทำงานร่วมกับ Boomi เพื่อให้แน่ใจว่า MCS มีขนาด “เหมาะสม” ที่จะรองรับภาระงานได้ นักเรียนจึงไม่รู้สึกอะไรเลย”

ด้วย MCS ทำให้ UTS สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว ปรับขนาดได้ และไม่ต้องลงมือทำเอง ทำให้องค์กรไม่ต้องทำงานด้านการกำหนดค่า การตรวจสอบ และการจัดการกระบวนการต่างๆ ของ Boomi ซึ่งหมายความว่าทีมงานของ Heiler สามารถมุ่งเน้นไปที่การทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นอัตโนมัติ ซึ่งเดิมเป็นภาระของธุรกิจมาก่อน

“แทนที่จะรักษาระบบบูรณาการไว้ เราได้ลงทุนสร้างระบบบูรณาการที่เสริมสร้างประสบการณ์ของนักศึกษา ตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนต้องใช้เวลา 16 วันในการให้สัตยาบันเกรดของนักศึกษา ตอนนี้เราได้ลดขั้นตอนนั้นลงเหลือเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่สำหรับนักศึกษา 40,000 คน และตามข้อมูลของฝ่ายบริการนักศึกษา เราได้รับตั๋วสนับสนุนน้อยลง ซึ่งถือเป็นชัยชนะของค่าใช้จ่ายด้านธุรการและความสุขของนักศึกษา” Heiler กล่าว

การนำ MCS ไปใช้งานนั้นจะช่วยขยายขอบเขตการใช้งานแพลตฟอร์มของ Boomi ของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 เพื่อสร้างมุมมองข้อมูลแบบองค์รวม ในปัจจุบัน สภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับ Boomi สร้างความชัดเจนให้กับข้อมูลนักศึกษา การดำเนินงาน และการวิจัยของ UTS โดยเชื่อมโยงระบบการจัดการนักศึกษา Technology One กับการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ของ Salesforce รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ

Jennifer Leech ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบูรณาการแพลตฟอร์ม ITU Enterprise Platforms ที่ UTS กล่าวว่า “เราประทับใจมากกับการสนับสนุนของ Boomi ในระหว่างที่เราทำการโยกย้ายจาก Boomi on-prem ไปยัง Boomi MCS ทีมงานของพวกเขาได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทีมบูรณาการของ UTS เพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์ม MCS ตอบสนองความต้องการปริมาณงานที่หลากหลายของมหาวิทยาลัยได้ แพลตฟอร์มนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ UTS และเราตื่นเต้นที่จะได้ใช้ประโยชน์จากความสามารถใหม่ที่ Boomi แนะนำในพื้นที่ APIM”

ตามที่ Heiler กล่าว Boomi เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขัน

“ตลอดภาคการศึกษา UTS ประมวลผลเอกสารมากถึง 10,000 ฉบับต่อวัน แต่ในสัปดาห์ที่มีการลงทะเบียนเรียน จำนวนเอกสารจะพุ่งสูงถึง 300,000 ฉบับ ในช่วงเวลานี้ นักศึกษาจะต้องเข้าสู่ระบบและส่งคำขอตารางเรียน ซึ่งโดยปกติจะอยู่ภายในชั่วโมงเดียวกัน แต่สิ่งนี้จะไม่ใช่ภาระอีกต่อไป” Heiler กล่าว “นับตั้งแต่มี Boomi เราได้รับพลังในการปรับขนาดและประมวลผลปริมาณข้อมูลในขณะที่ยังรักษาเวลาการทำงานได้ ดังนั้น การตัดสินใจด้านเทคโนโลยีของเราจึงช่วยให้นักศึกษาสามารถจัดชั้นเรียนกับเพื่อนๆ ได้ ซึ่งทำให้พวกเขามีส่วนร่วมและมีความกระตือรือร้น”

David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี APJ ของ Boomi กล่าวว่า “เนื่องจากการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยมีความเข้มข้นมากขึ้น จึงไม่มีช่องทางให้ปวดหัวกับงานธุรการในห้องเรียนหรือในห้องไอทีอีกต่อไป ด้วยการลงทุนในระบบอัจฉริยะและความเรียบง่ายของกรอบข้อมูล UTS ไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการดึงดูดและรักษานักศึกษาไว้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสภาพแวดล้อมด้านไอทีแบ็กเอนด์เมื่อมหาวิทยาลัยมีการขยายตัวอีกด้วย”

 แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านการบูรณาการและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามารถทำงานอัตโนมัติและปรับกระบวนการที่สำคัญให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เร็วขึ้น แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ขั้นสูง จึงเชื่อมต่อระบบและจัดการการไหลของข้อมูลได้อย่างราบรื่นด้วยการจัดการ API การบูรณาการ การจัดการข้อมูล และการประสานงาน AI ในโซลูชันที่ครอบคลุมหนึ่งเดียว ด้วยลูกค้ากว่า 23,000 รายทั่วโลกและเครือข่ายพันธมิตรมากกว่า 800 รายที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว Boomi กำลังปฏิวัติวิธีที่องค์กรทุกขนาดบรรลุความคล่องตัวทางธุรกิจและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2025 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ตัว 'B' และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54217659/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายประสานงานกับอินฟลูเอนเซอร์, APJ
jasmine.ee@boomi.com

Monster Hunter Wilds เวอร์ชันใหม่ของ Capcom มียอดขายทะลุ 8 ล้านชุดด้วยความรวดเร็วเป็นประวัติการณ์!

Logo

– การดำเนินกิจกรรมระดับโลกช่วยให้ Capcom บรรลุเป้าหมายยอดขายได้ภายในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งถือเป็นสถิติของบริษัท –

โอซาก้า, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–04 มีนาคม 2025

Capcom Co., Ltd. (TOKYO:9697) ประกาศในวันนี้ว่ายอดขายทั่วโลกของ Monster Hunter Wilds ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 มียอดจำหน่ายทะลุ 8 ล้านชุดใน 3 วัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท

Monster Hunter Wilds (Graphic: Business Wire)

Monster Hunter Wilds (กราฟิก: Business Wire)

Monster Hunter Wilds เป็นภาคใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Monster Hunter ที่มีฉากที่อยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งตอนหนึ่งจะเป็นป่าดงดิบอันโหดร้าย เต็มไปด้วยฝูงสัตว์ประหลาดที่เข้ามาโจมตี ในอีกตอนหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่างๆ โดย Monster Hunter Wilds ได้นำเสนอภาพที่สวยงามอลังการด้วย RE ENGINE ซึ่งเป็นเอ็นจิ้นการพัฒนาเกมที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Capcom รวมถึงการเล่นข้ามระบบที่ช่วยให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับเกมร่วมกันโดยไม่ต้องคำนึงถึงแพลตฟอร์มเกมของพวกเขา

หลังจากการประกาศเกี่ยวกับเกม ทาง Capcom ได้โปรโมตเกม Monster Hunter Wilds สู่ผู้ติดตามในวงกว้างทั่วโลก โดยจัดแสดงเกมดังกล่าวในงานอีเวนต์วิดีโอเกมระดับโลก และจัดการทดสอบแบบโอเพ่นเบต้าออนไลน์เพื่อให้ผู้เล่นหลายคนได้มีโอกาสลองเล่น ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับเกมผ่านกิจกรรมออนไลน์ เช่น Monster Hunter Wilds Showcase โดยจากการดำเนินกิจกรรมระดับโลกอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ Monster Hunter Wilds ได้ทำให้เกิดความตื่นเต้นอย่างมากและมียอดขายถึง 8 ล้านชุดใน 3 วัน ซึ่งถือเป็นการขายเกมที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Capcom

Capcom ยังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะตอบสนองความคาดหวังของผู้เล่นทุกคนโดยใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านการพัฒนาเกมชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่สนุกสนานอย่างสูงสุด

เกี่ยวกับ ซีรีส์ Monster Hunter:
ซีรีส์ Monster Hunter ประกอบด้วยเกมแอ็คชั่นการไล่ล่าที่ให้ผู้เล่นต่อสู้กับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันสวยสดงดงาม เริ่มต้นด้วยภาคแรกในปี 2004 ซีรีส์นี้ได้สร้างเกมประเภทใหม่ที่ผู้เล่นได้ร่วมมือกันเพื่อล่าสัตว์ประหลาดอันดุร้ายกับเพื่อนๆ ของพวกเขา และได้เติบโตจนกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกด้วยยอดขายสะสมของซีรีส์นี้เกินกว่า 108 ล้านชุด (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2024)

เกี่ยวกับ CAPCOM

Capcom คือผู้พัฒนา ผู้เผยแพร่ และผู้จัดจำหน่ายความบันเทิงแบบโต้ตอบชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมคอนโซล พีซี อุปกรณ์พกพา และอุปกรณ์ไร้สาย บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1983 และได้สร้างเกมต่างๆ หลายร้อยเกม รวมถึงแฟรนไชส์ที่ล้ำหน้าอย่าง Resident Evil™, Monster Hunter™, Street Fighter™, Mega Man™, Devil May Cry™ และ Ace Attorney™ โดย Capcom มีการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และโตเกียว มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Capcom สามารถดูได้ที่ https://www.capcom.co.jp/ir/english/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54218561/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ของ Capcom
+81-6-6920-3623

ที่มา: CAPCOM CO., LTD.


Xsolla Offerwall กระตุ้นการสร้างรายได้จากเกมและเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเล่นเกมที่ไม่ได้จ่ายเงิน

Logo

 มอบโอกาสในการแบ่งปันรายได้และประสบการณ์ต่างๆ ของผู้เล่นสำหรับการสร้างรายได้และการโฆษณา

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–04 มีนาคม 2025

Xsolla บริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกชั้นนำ ประกาศเปิดตัว Xsolla Offerwall ซึ่งเป็นโซลูชันแบบไดนามิกที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มรายได้จากเกมและการมีส่วนร่วมของผู้เล่น โดยหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดสำหรับนักพัฒนาคือการสร้างรายได้จากผู้เล่นที่ไม่ได้ทำการซื้อในแอป ซึ่ง Xsolla Offerwall จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่สมดุลโดยอนุญาตให้ผู้เล่นได้รับรางวัลเสมือนจริงจากการทำภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ จากผู้ลงโฆษณาให้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมและการเติบโตของรายได้

Graphic: Xsolla

กราฟิก: Xsolla

Xsolla Offerwall มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมโดยเสนอส่วนแบ่งรายได้ให้กับนักพัฒนาและผู้เผยแพร่มากถึง 90% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมทั่วๆ ไปที่อยู่ที่ 30–60% เป็นอย่างมาก โมเดลที่มีน้ำใจนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่านักพัฒนาจะสามารถเพิ่มรายได้สูงสุดในขณะที่ยังคงความยืดหยุ่นในกลยุทธ์การสร้างรายได้ทั่วโลก

นักพัฒนาสามารถรวม Xsolla Offerwall เข้ากับเกมที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่นและจะได้รับประโยชน์จากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้:

  •  การมีส่วนร่วมของผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น: ดึงดูดผู้เล่นด้วยภารกิจที่หลากหลาย รวมถึงต้นทุนต่อการติดตั้ง (CPI), ต้นทุนต่อการมีส่วนร่วม (CPE), ต้นทุนต่อการเข้าซื้อ (CPA) และต้นทุนต่อคลิก (CPC)
  •  ขอบเขตและการเข้าถึงการสร้างรายได้ที่กว้างขึ้น : การให้ภารกิจและรางวัลที่ดึงดูดผู้ชมทั่วโลก นักพัฒนาสามารถสร้างรายได้จากตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์และสามารถขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้ในวงกว้าง
  •  การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า : การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ผ่าน SMS ช่วยปรับปรุงคุณภาพการรับส่งข้อมูลและป้องกันการฉ้อโกงก่อนที่ข้อเสนอจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจถึงการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยและประสบการณ์ที่ราบรื่นสำหรับผู้เล่นและนักพัฒนา
  •  การรักษาผู้เล่นด้วยคะแนน Xsolla ที่เพิ่มขึ้น: ให้รางวัลแก่ผู้เล่นมากกว่าสกุลเงินในเกมด้วยคะแนน Xsolla ที่สามารถแลกได้ สิ่งจูงใจเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้นักเล่นเกมมีส่วนร่วม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของข้อเสนอที่สูงขึ้น และมอบคุณค่าที่ยั่งยืนผ่านรางวัลในเกม

“ด้วย Xsolla Offerwall เรากำลังช่วยให้นักพัฒนาเกมสามารถปลดล็อกแหล่งรายได้ใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็มอบคุณค่าให้กับผู้เล่นผ่านประสบการณ์ที่คุ้มค่าและการมีส่วนร่วม” Chris Hewish ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Xsolla กล่าว “โซลูชันนี้เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการขยายความพยายามในการสร้างรายได้และดึงดูดผู้เล่นในหลากหลายวิธี”

ในตอนนี้ Xsolla Offerwall พร้อมใช้งานสำหรับการสร้างรายได้และโอกาสในการโฆษณาในสหรัฐอเมริกา โดยมีแผนจะขยายไปทั่วโลก ปลดล็อกแหล่งรายได้ใหม่ และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับผู้เล่นทั่วโลก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือเริ่มต้นใช้งาน โปรดไปที่: xsolla.pro/rws25offerwall

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 โดย Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ในการระดมทุนทุกระดับ การตลาด การเปิดตัว และการสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่างๆ ทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  www.businesswire.com/news/home/54218142/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

teamLab Planets (โตเกียว, โทโยสุ) ประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายตั๋วมากถึงประมาณ 130% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ เวลาอยู่ของผู้เข้าชมก็มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

Logo

 ดอกซากุระจะบานในสองพื้นที่ที่สร้างประสบการณ์เสมือนจริง เริ่มต้นวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 กุมภาพันธ์ 2025

teamLab Planets TOKYO DMM.com(ซึ่งจะขอเรียกในที่นี้ว่า teamLab Planets) ได้บันทึกการเพิ่มขึ้นของยอดขายตั๋วถึง 130% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ในเดือนมกราคมปี 2025*1เวลาอยู่ของผู้เข้าชมก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจากการสำรวจล่าสุดพบว่า สัดส่วนของผู้เข้าชมที่อยู่ “2 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นประมาณ 48% ในขณะที่ผู้ที่ “อยู่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นประมาณ 20%*2 .

teamLab Planets, a museum in Toyosu, Tokyo, where you can immerse yourself with your entire body, has unveiled a cherry blossom-themed artwork by the international art collective teamLab. (teamLab, Floating in the Falling Universe of Flowers, Video: teamLab)

teamLab Planets พิพิธภัณฑ์ในโทโยสุ โตเกียว ที่คุณสามารถดื่มด่ำกับศิลปะด้วยร่างกายทั้งหมดของคุณ ได้เปิดตัวผลงานศิลปะธีมดอกซากุระโดยกลุ่มศิลปะนานาชาติ teamLab (teamLab, ลอยอยู่ในจักรวาลดอกไม้ที่ร่วงหล่น, วิดีโอ: teamLab)

ฤดูใบไม้ผลินี้ สองพื้นที่ศิลปะขนาดใหญ่ที่ teamLab Planets จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่งเต็มที่ลอยอยู่ในจักรวาลดอกไม้ที่ร่วงหล่นที่ซึ่งดอกไม้ตามฤดูกาลจะบานและเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ดอกซากุระจะกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่การวาดบนผิวน้ำที่สร้างขึ้นจากการเต้นรำของปลาคราฟและผู้คนอินฟินิตี้ที่ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเดินเท้าเปล่าในน้ำ โดยปลาคราฟที่ว่ายอยู่บนผิวน้ำจะกลายเป็นดอกซากุระและร่วงเมื่อชนกับผู้คน ดอกซากุระเหล่านี้จะจัดแสดงตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ถึงวันพุธที่ 30 เมษายน

ผลงานศิลปะใหม่กว่า 20 ชิ้นถูกเปิดตัวในโครงการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่
ในเดือนมกราคม teamLab Planets ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่า นำเสนอผลงานศิลปะใหม่กว่า 20 ชิ้นที่มุ่งเน้นโครงการด้านการศึกษา เช่นAthletics Forest, Catching and Collecting ForestและFuture Parkและนอกจากนี้Sketch Factoryได้ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ผู้เข้าชมสามารถเปลี่ยนภาพวาดที่พวกเขาสร้างขึ้นภายในพื้นที่ศิลปะให้เป็นผลิตภัณฑ์ต้นฉบับเพื่อนำกลับบ้าน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ กรุณาอ้างอิงจากแถลงข่าวนี้

*1

จากข้อมูลการซื้อตั๋วบนเว็บไซต์ทางการของ teamLab Planets เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาประมาณหนึ่งเดือน ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมถึง 16 กุมภาพันธ์ 2025 กับวันที่ 24 มกราคมถึง 18 กุมภาพันธ์ 2024

*2

แบบสำรวจที่จัดทำขึ้นที่ teamLab Planets TOKYO DMM.com

ช่วงเวลาสำรวจ: 1 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ปี 2025

วิธีการสำรวจ: แบบสอบถามออนไลน์สำหรับผู้เข้าชม

จำนวนคำตอบที่ใช้ได้: 2,525 (1 มกราคม – 21 มกราคม: 669 คำตอบ, 22 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์: 1,856 คำตอบ)

ผลการสำรวจ: สัดส่วนของผู้เข้าชมที่ใช้เวลาอยู่ “2 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นจากประมาณ 12% ก่อนการขยาย เป็นประมาณ 60% ส่วนผู้ที่อยู่ “3 ชั่วโมงขึ้นไป” เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1% เป็นประมาณ 20%

ผลงานศิลปะที่มีดอกซากุระบาน
ลอยอยู่ในจักรวาลดอกไม้ที่ร่วงหล่น

ดอกไม้ตามฤดูกาลบานและเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ชีวิตกระจายออกไปสู่จักรวาล
นอนหรือนั่งอยู่ในพื้นที่ และในที่สุดร่างกายของคุณจะลอยขึ้นและหลอมรวมเข้าสู่โลกของผลงานศิลปะ

ดอกไม้เติบโต แตกหน่อ บานสะพรั่ง และเมื่อเวลาผ่านไป กลีบดอกก็ตกหล่น ดอกไม้เหี่ยวเฉาและตาย วงจรแห่งการเกิดและการตายยังคงดำเนินต่อไปตลอดกาล
ผลงานศิลปะนี้ไม่ใช่ภาพที่บันทึกไว้ล่วงหน้าและนำมาแสดงซ้ำ แต่จะถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำการเรนเดอร์ผลงานศิลปะแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้วมันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง และสภาวะภาพก่อนหน้านี้จะไม่ถูกทำซ้ำ จักรวาลในขณะนี้จะไม่สามารถเห็นได้อีกครั้ง

การวาดบนผิวน้ำที่สร้างขึ้นจากการเต้นรำของปลาคราฟและผู้คนอินฟินิตี้

ปลาคราฟว่ายบนผิวน้ำที่ขยายออกไปสู่อนันต์ ผู้คนสามารถเดินเข้าไปในน้ำได้

การเคลื่อนไหวของปลาคราฟได้รับอิทธิพลจากการมีอยู่ของผู้คนในน้ำและปลาคราฟตัวอื่นๆ เมื่อปลาชนกับผู้คน มันจะกลายเป็นดอกไม้และร่วงหล่น ดอกไม้ที่บานในแต่ละปีจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล

เส้นทางการเคลื่อนที่ของปลาคราฟจะถูกกำหนดโดยการมีอยู่ของผู้คน และเส้นทางเหล่านี้จะสร้างเส้นบนผิวน้ำ

ผลงานนี้ถูกเรนเดอร์ในเวลาจริงโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มันไม่ใช่การบันทึกล่วงหน้าหรือการเล่นซ้ำ การโต้ตอบระหว่างผู้ชมและการติดตั้งจะทำให้ผลงานศิลปะเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง สภาวะภาพก่อนหน้านี้จะไม่สามารถทำซ้ำได้และจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก

แนวคิดของ teamLab Planet
ดื่มด่ำ สัมผัส และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะด้วยร่างกายทั้งหมดของคุณ

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถเดินผ่านน้ำได้ ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่มศิลปินทีมแล็บ (teamLab)

ผลงานศิลปะจะเปลี่ยนแปลงไปตามการมีอยู่ของผู้คน และการมีอยู่ของผลงานศิลปะจะเชื่อมต่อกับร่างกายของคุณและของผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
ดื่มด่ำไปกับพื้นที่ผลงานศิลปะขนาดใหญ่ด้วยร่างกายของคุณ สัมผัสมันด้วยร่างกาย และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะ

teamLab Planets TOKYO DMM
https://www.teamlab.art/e/planets/
#teamLabPlanets
Toyosu, Tokyo ( teamLab Planets TOKYO, Toyosu 6-1-16, Koto-ku, Tokyo )

วิดีโอไฮไลต์
https://youtu.be/F7nODEETR4s

ชุดสื่อประชาสัมพันธ์
https://www.dropbox.com/sh/ir7d2aui794eo6z/AAChbzX5wPsQm8cgkQ2ViFD4a?dl=0

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54214108/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ teamLab Planets
อีเมล: pr-info@planets.art
สำหรับการสอบถามข้อมูลการสัมภาษณ์:  https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.

NIQ รายงานมูลค่าการเติบโตในอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน

Logo

  •  การเติบโตที่แข็งแกร่งในลาตินอเมริกา (+19.1%) ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกกลาง (+27.1%)
  •  41% ของยอดขายผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลในสหรัฐอเมริกาขับเคลื่อนโดยอีคอมเมิร์ซ
  •  โซเชียลคอมเมิร์ซกระตุ้นยอดซื้อผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลกถึง 68%

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–24 กุมภาพันธ์ 2025

NielsenIQ (NIQ) บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 7.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยภูมิภาคลาตินอเมริกาและแอฟริกา-ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตสูงสุด ขณะที่อเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกก็มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่ +7.8% และ +7.7% ตามลำดับ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เกาหลีใต้ อินเดีย ไทย สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ กำลังกลายเป็นตลาดชั้นนำ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเติบโตของมูลค่าโดยรวม อัตราเงินเฟ้อเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการขยายตัวทั่วโลก แต่การเติบโตนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการหลั่งไหลเข้ามาของผู้บริโภครายใหม่ๆ

อีคอมเมิร์ซกำลังเป็นผู้นำการปฏิวัติการค้าปลีก:

อีคอมเมิร์ซเป็นแรงขับเคลื่อนยอดขายผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ในจีน ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมด 87% มาจากออนไลน์ ในอินเดีย ยอดขายผลิตภัณฑ์ความงาม 17% มาจากออนไลน์ ในขณะที่ในบราซิล ตัวเลขนี้ต่ำกว่า 10% แม้จะมีความแตกต่างเหล่านี้ แต่แนวโน้มหลักประการหนึ่งก็คือยอดขายออนไลน์มีมากกว่ายอดขายในร้านค้า

ยอดขายออนไลน์ในสหรัฐฯ ยังคงเติบโตแซงหน้ายอดขายในร้านอย่างมีนัยสำคัญ โดยคิดเป็น 41% ของยอดขายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลทั้งหมดผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มอย่าง Amazon ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 7.3 จุดจากการนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ การจัดส่งที่รวดเร็ว และตัวเลือกที่หลากหลาย ลูกค้าหันมาใช้ Amazon เพื่อเติมสินค้าที่ตนชื่นชอบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกปี แม้ว่าการพาณิชย์ดิจิทัลจะเติบโตอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่การขายปลีกในร้านค้ายังคงเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่ ผู้ค้าปลีกในอนาคตจะต้องปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในร้านค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

แรงดึงดูดของผู้บริโภคต่ออีคอมเมิร์ซเป็นการผสมผสานระหว่างการขยายตลาดและการแย่งส่วนแบ่งจากร้านค้า การเปลี่ยนแปลงไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ไม่ได้เป็นเพียงกระแสที่เกิดจากการแพร่ระบาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

การเติบโตของโซเชียลคอมเมิร์ซทั่วโลก:

โซเชียลคอมเมิร์ซเป็นกระแสระดับโลก โดย 68% ของการซื้อของบนแพลตฟอร์มเหล่านี้เกิดจากแรงกระตุ้น ร้านค้า TikTok เติบโตขึ้นมาเป็นอันดับ 8 ของผู้ค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามผ่านอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มียอดขายผลิตภัณฑ์ความงาม 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผู้ซื้ออีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกา 12.5% ​​เคยซื้อผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามผ่านแอป และหลายคนกลับมาซื้อซ้ำ ในประเทศจีน 31% ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาจาก Douyin/TikTok Shop โดย TikTok Shop เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้บริโภคใช้ค้นหาแบรนด์ เรียนรู้ และทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

แม้ว่าการค้าดิจิทัลจะเติบโตขึ้น แต่การขายปลีกในร้านค้ายังคงมีความสำคัญ ลูกค้ายังชื่นชอบประสบการณ์แบบสัมผัสและการให้คำปรึกษาแบบเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผู้ค้าปลีกจะต้องสร้างสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและความพึงพอใจของลูกค้า และลงทุนในโมเดลไฮบริดที่ผสานการค้นหาทางออนไลน์ให้เข้ากับประสบการณ์ในร้านค้าได้อย่างลงตัว

Tara James Taylor รองประธานอาวุโสฝ่ายความงามและการดูแลส่วนบุคคลที่ NIQ กล่าวว่า “ในอุตสาหกรรมความงามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จในปี 2025 ถือเป็นความสมดุลที่ละเอียดอ่อน พลวัตระหว่างนวัตกรรมและประเพณี ความสามารถในการซื้อและความหรูหรา ความยั่งยืนและความสามารถในการปรับขนาด ตลอดจนการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคลและการรวมเอาทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน กำลังปรับเปลี่ยนตลาดสำหรับผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกด้านความงาม การค้นหาสมดุลที่เหมาะสมจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ตั้งเป้าจะเติบโตในตลาดความงามระดับโลกที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์”

สำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ความงามและสถานะความงามปี 2025 โปรด คลิกที่นี่ และเข้าร่วม Beauty inner Circle เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกระดับพรีเมียม

เกี่ยวกับ NIQ

NielsenIQ (NIQ) เป็นบริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค ซึ่งนำเสนอความเข้าใจที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคได้ครบถ้วนที่สุดและเผยให้เห็นเส้นทางใหม่สู่การเติบโต NIQ ได้รวมตัวกับ GfK ในปี 2023 เพื่อรวมผู้นำอุตสาหกรรมสองรายที่มีการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้ การเข้าถึงทั่วโลกของเราครอบคลุมกว่า 90 ประเทศ ครอบคลุมประมาณ 85% ของประชากรโลกและการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกมากกว่า 7.2 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยการอ่านข้อมูลค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด ซึ่งนำเสนอด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ​​NIQ จึงมอบ Full View™ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.niq.com

ข้อสงวนสิทธิ์: ชื่อผลิตภัณฑ์และชื่อบริษัททั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้า™ หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน® ของผู้ถือที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายการค้าเหล่านี้ไม่ได้หมายความถึงความเกี่ยวข้องหรือการรับรองจากผู้ถือเครื่องหมายการค้าเหล่านั้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Sweta Patra
sweta.patra@nielseniq.com

ที่มา: NielsenIQ

GIGABYTE จัดแสดงพอร์ตโฟลิโอการประมวลผล AI ที่ครอบคลุมที่ MWC 2025 โดยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมจากการพัฒนาไปสู่การใช้งาน

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–02 มีนาคม 2025

GIGABYTE ผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการประมวลผล จะจัดแสดงโซลูชันการประมวลผล AI แบบเต็มสเปกตรัมที่เชื่อมโยงจากการพัฒนาไปสู่การใช้งานที่ MWC 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคมนี้

GIGABYTE Showcases Comprehensive AI Computing Portfolio at MWC 2025, Leading Industry Transformation from Development to Deployment (Photo: Business Wire)

GIGABYTE จัดแสดงพอร์ตโฟลิโอการประมวลผล AI ที่ครอบคลุมที่ MWC 2025 โดยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมจากการพัฒนาไปสู่การใช้งาน (Photo: Business Wire)

“AI+” และ “Enterprise-Reinvented” เป็นสองธีมสำหรับงานที่ MWC ในขณะที่องค์กรต่างๆ นั้นเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการอัพเกรดอัจฉริยะ แต่การเปลี่ยนแปลงแอปพลิเคชัน AI จากการพัฒนาเชิงทดลองไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ของทุกคนจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในอุตสาหกรรม โดยทาง GIGABYTE ได้ดำเนินการในโครงการริเริ่ม “ACCEVOLUTION” อย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม ซึ่งได้ครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์บนคลาวด์ไปจนถึงเทอร์มินัลการประมวลผลแบบ Edge โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนาครั้งต่อไปและเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมในการปรับขนาดแอปพลิเคชัน AI อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนา: การประมวลผลคู่ขนานที่ปรับขนาดได้มีประสิทธิภาพสูงวางรากฐานสำหรับโมเดล AI ต่างๆ

ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของ GIGABYTE กับผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นแบรนด์แรกในตลาดที่นำเสนอเซิร์ฟเวอร์ AIที่หลากหลายที่สุด เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของชิป AI ทาง GIGABYTE ได้ใช้การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ HGX เรือธง และเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ G893 AI รุ่นต่อไปเพื่อรองรับ GPU ที่ล้ำสมัย เช่น NVIDIA B200, AMD MI325X และ Intel Gaudi-3 ด้วยความจุสำหรับการ์ดเร่งความเร็วเต็มความสูง 12 ใบ และแหล่งจ่ายไฟสำรองเต็มรูปแบบ โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทั้งการทำงานของคลัสเตอร์ในศูนย์ข้อมูล และการใช้งานแบบสแตนด์อโลนขององค์กร ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันชาญฉลาด

GIGABYTE ยังได้เปิดตัว GIGAPOD ที่เป็นโซลูชันการประมวลผลแบบคลัสเตอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล AI บนคลาวด์ โดยนำเสนอโซลูชันที่ปรับขนาดได้แบบครบวงจรในที่เดียวสำหรับการเทรนโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดย GIGAPOD สามารถรองรับเซิร์ฟเวอร์ G893 AI ได้ในขณะที่รวมการประมวลผลและฮาร์ดแวร์เครือข่ายไว้ในโซลูชันระดับแร็คที่สมบูรณ์ พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์เสริม โดยโซลูชันนี้ครอบคลุมบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ การใช้งาน ไปจนถึงการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูล AI นั้นมีประสิทธิภาพ ซึ่งโมเดลที่จัดแสดงในงาน MWC สามารถรองรับ NVIDIA B200 และมีแร็คเซิร์ฟเวอร์ G4L3 พร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว DLCที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ GIGABYTE ในการขยายการพัฒนา AI เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

การปรับใช้งาน: เวลาแฝงต่ำ ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และโซลูชันการประมวลผล Edge ที่ยืดหยุ่นซึ่งเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางสุดท้ายของ AI

เมื่อโมเดลขนาดใหญ่เติบโตขึ้น AI ก็จะพัฒนาจากการพัฒนาระบบคลาวด์ไปสู่การใช้งานและแอปพลิเคชัน Edge โดยต้องการเซิร์ฟเวอร์และโซลูชันการประมวลผลที่เน้นการใช้งานที่ยืดหยุ่นและ ROI ที่เป็นวัตถุประสงค์ทั่วไปของ GIGABYTE โดยเซิร์ฟเวอร์ซีรีย์ R จะใช้เทคโนโลยี CXL ซึ่งใช้ประโยชน์จากเลน PCIe เพื่ออยู่ร่วมกับหน่วยความจำ DDR5 ทำให้สามารถแชร์หน่วยความจำและทรัพยากร ปรับปรุงการรองรับแบนด์วิดท์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมด้วยความต้องการพื้นที่และต้นทุนการใช้งานที่ลดลง เซิร์ฟเวอร์ซีรีส์ X นำเสนอการออกแบบโมดูลาร์ NVIDIA MGX™ ที่ช่วยให้สามารถอัพเกรดแพลตฟอร์ม GPU รุ่นถัดไปของ NVIDIA ได้อย่างราบรื่นเพียงแค่เปลี่ยนบอร์ดหลัก โดยรับประกันมูลค่าในระยะยาวสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีระดับองค์กร และอำนวยความสะดวกในการใช้งานที่ยืดหยุ่นในสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ AI ที่ล้ำหน้า อาทิ เมืองอัจฉริยะ และ IoT สำหรับอุตสาหกรรม

ที่งาน MWC GIGABYTE ยังจัดแสดงเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่ง Edge หลายตัว รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ประมวลผล Edge มาตรฐาน EIA ด้วยซีพียู AMD และ Intel และการเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์เบลด 3U ใหม่ โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะนำเสนอตัวเลือกการประมวลผลที่มีความหนาแน่นและสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของแอปพลิเคชัน Edge ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดต้นทุนการปรับใช้ AI และการใช้พลังงานได้ ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพการประมวลผลให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งและความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ใกล้ชิดต่างๆ ทาง GIGABYTE ได้สร้างระบบนิเวศการประมวลผล AI ที่สมบูรณ์ตั้งแต่คลาวด์ไปจนถึง Edge ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่โซลูชันการประมวลผลแบบคลัสเตอร์ศูนย์ข้อมูลไปจนถึงตัวเลือกการใช้งานการประมวลผลแบบ Edge ทาง GIGABYTE จึงเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม” ที่ช่วยให้เกิดนวัตกรรม AI ในองค์กรและสถาบันการวิจัยทุกขนาด ในขณะที่แอปพลิเคชัน AI ยังคงขยายตัว กลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ GIGABYTE ซึ่งสนับสนุนชิปคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุด พร้อมด้วยการพัฒนาการออกแบบฮาร์ดแวร์ การรวมซอฟต์แวร์ การจัดการระบบ และบริการการใช้งานต่างๆ ยังคงสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถปรับขนาดได้

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.gigabyte.com/Events/MWC

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54212481/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE



The Bangkok Reporter