Tommy Hilfiger แต่งตั้ง Alegra O’Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

Logo

อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–25 มีนาคม 2564

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Alegra O'Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 เมษายน 2564 โดยบทบาทและหน้าที่ของ O'Hare จะพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค TOMMY HILFIGER ในรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อ ๆ ไป

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

Alegra O’Hare, Chief Marketing Officer, Tommy Hilfiger Global (Photo: Business Wire)

Alegra O’Hare ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global (ภาพ: Business Wire)

 “การแต่งตั้งของ Alegra ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญในยุคใหม่ของ TOMMY HILFIGER” Avery Baker ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้าของ Tommy Hilfiger Global กล่าว “เธอจะเป็นแรงผลักดันในการนำวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์เราให้ดูมีชีวิตชีวาผ่านการสร้างสรรค์ระดับโลก กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและการตลาดแบบบูรณการทุกช่องให้รวมเป็นหนึ่งเดียว การเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งด้วยวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่พิสูจน์แล้วของเธอที่จะช่วยในการเติบโตที่มีความเกี่ยวข้องและธุรกิจกับผู้บริโภคทั่วโลกจะเป็นทรัพย์สินที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเรา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ Alegra ได้เข้าร่วมทีมของเราเพื่อเป็นผู้นำในการสร้างแฟนๆ ของ Tommy ในรุ่นต่อไป”

 “TOMMY HILFIGER เป็นแบรนด์ที่ก้าวนำหน้ามาโดยตลอด และฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับทีมท่ามกลางภูมิทัศน์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก” O’Hare กล่าว “เมื่อร่วมมือกันแล้วเราจะพบกับความเป็นจริงใหม่ ๆ เหล่านี้ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่น่าดึงดูดและน่าประหลาดใจให้กับผู้บริโภคและพัฒนาตำแหน่งของเราในฐานะนักการตลาดระดับโลกด้วยการผลักดันขอบเขตทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์”

ด้วยประสบการณ์ด้านการตลาดกว่า 25 ปีของ O’Hare เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์ผู้บริโภคระดับโลกเช่น adidas, Bang & Olufsen, Champion, Lee และ Wrangler และล่าสุดเธอดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ GAP ซึ่งเธอเป็นผู้นำทีมการตลาดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคในทุกช่องทางติดต่อของแบรนด์รวมถึงการสื่อสาร การค้าปลีก ดิจิทัล โซเชียลมีเดียและการประชาสัมพันธ์ ผ่านการตลาดดิจิทัลเป็นอันดับแรกและการค้าปลีกทุกช่องทาง ก่อนหน้านี้ O’Hare เป็นผู้นำด้านการตลาดให้กับแบรนด์ Adidas Originals โดยเธอรับผิดชอบแคมเปญของแบรนด์ทั้งหมด การร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Pharrell Williams, Alexander Wang และ Childish Gambino และการกระตุ้นการสื่อสารการตลาดทั้งหมดทั่วโลก

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกด้วยเอกลักษณ์เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ความคิดริเริ่มทางการตลาดของบริษัทมีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนฟุตพริ้นท์ของ TOMMY HILFIGER โดยผ่านการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการรับรู้แบรนด์ทั่วโลกและกลยุทธ์ที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางซึ่งสร้างและรักษาฐานแฟน ๆ ที่เหนียวแน่น ปัจจุบันการนำออกแสดงของแบรนด์อยู่ในระดับสูงสุดตลอดเวลาอันเป็นผลมาจากคอลเลกชันที่โดดเด่น แคมเปญ การเป็นพันธมิตรและการกระตุ้นผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER  และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของTOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น Calvin KleinTOMMY HILFIGERVan HeusenIZOD, ARROW, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True&Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายสู่ผู้บริโภคภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์เป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่าย ซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ ทั้งหมดนี่คือพลังของเรา และนี่คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

รับชมเวอรชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger:
Virginia Ritchie
Vice President, Global Communications
E-mail: virginia.ritchie@tommy.com
Tel: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Open Group OSDU™ Forum ประกาศเปิดตัว OSDU Data Platform Mercury Release

Logo

~ แพลตฟอร์มข้อมูลมาตรฐานที่ใช้กระตุ้นนวัตกรรม ส่งเสริมการจัดการข้อมูล และลดเวลาการวางตลาดสำหรับโซลูชันใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมพลังงาน ~

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–24 มีนาคม 2564

The Open Group ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรเทคโนโลยีที่เป็นกลางสำหรับผู้ขาย วันนี้ประกาศเปิดตัว OSDU Data Platform Mercury Release โดย The Open Group OSDU™ Forum เป็นผู้พัฒนา OSDU Data Platform ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเปิด และแพลตฟอร์มข้อมูลที่อิงตามมาตรฐานและเทคโนโลยีล้วน ๆ สำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อช่วยกระตุ้นนวัตกรรมการจัดการข้อมูลเชิงอุตสาหกรรมและลดเวลาในการวางตลาดสำหรับโซลูชันใหม่ ๆ

OSDU Data Platform จะให้เวลาเพิ่มเติมในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ของแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยผู้ขาย ซึ่งเปิดให้เข้าถึงและได้รับการยอมรับจากแหล่งข้อมูลด้านพลังงานมากมาย จากการเข้าถึงระบบนิเวศนี้ ผู้พัฒนาจะไม่ต้องพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างขนาดมหึมาเพื่อใช้ส่งมอบบริการเสริมอีกต่อไป ด้วย API ชุดเดียวที่กำหนดไว้เฉพาะอุตสาหกรรมในปัจจุบัน องค์กรต่างๆ สามารถเร่งการออกแบบแพลตฟอร์มและพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นกรรมสิทธิ์บน OSDU Data Platform ได้อย่างง่ายดาย

ด้วยวิธีการของ Open Source บริษัททุกแห่งตั้งแต่องค์กรที่ก่อตั้งมานานไปจนถึงบริษัทสตาร์ทอัพ สามารถมีส่วนร่วมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ มายังแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนขั้นตอนการทำธุรกิจที่หลากหลาย งานทุกชิ้นจะถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการจัดการโปรแกรม OSDU หรือ OSDU Program Management Committee (PMC) เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่างานนั้นจะล้อไปกับทิศทางโดยรวมของประชาคม

ด้วยมุมมองเดียวของข้อมูลเชิงอุตสาหกรรม OSDU Data Platform สามารถนำไปใช้งานเพื่อนวัตกรรมแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ปัจจุบัน OSDU Data Platform Mercury Release พร้อมให้บริการแก่ผู้ปฏิบัติงานและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ต้องการใช้เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้

  • ปลดปล่อยข้อมูลจากไซโลแบบเดิมและทำให้ข้อมูลทั้งหมดสามารถค้นพบและใช้งานได้ในแพลตฟอร์มข้อมูลเดียว
  • เปิดใช้งานขั้นตอนพัฒนาและค้นหาแบบบูรณาการใหม่ ๆ ที่ช่วยลดเวลาในการทำงานโดยรวม
  • ใช้ประโยชน์จากโซลูชันดิจิทัลที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและช่วยเร่งการตัดสินใจ

Steve Nunnประธานและซีอีโอแห่ง The Open Group ให้ความเห็นว่า “The OSDU Data Platform Mercury Release คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่พัฒนาโดย OSDU Forum ในระยะเวลาอันสั้น OSDU Forum ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 มีสมาชิกองค์กรเพิ่มขึ้น 185 แห่ง โดยมาร่วมมือกันเพื่อกระตุ้นนวัตกรรมและลดค่าใช้จ่ายภาคพลังงาน ด้วยแพลตฟอร์มข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน บริษัทด้านพลังงานต่าง ๆ จะสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลและการใช้ระบบมาตรฐานเปิดเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ในอนาคต สิ่งนี้มีความจำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นของโลก พร้อมยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย”

Johan Krebbers ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเทคโนโลยีเกิดใหม่ และ รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท Shell กล่าวว่า “หัวใจสำคัญเกี่ยวกับกลยุทธ์ของบริษัทด้านพลังงานส่วนใหญ่คือการใช้เทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและพาเราก้าวไปข้างหน้าในยุคดิจิทัลในปัจจุบัน สิ่งนี้ทำให้ความจำเป็นในการออกแบบโครงสร้างทั่วไปมีความชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนว่าอุตสาหกรรมของเราทำงานร่วมกับข้อมูลได้อย่างไร”

ด้าน David Eyton รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายนวัตกรรมและวิศวกรรม บริษัท bp กล่าวว่า “ข้อมูลคือหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลง bp ไปเป็นบริษัทพลังงานครบวงจร เราเชื่อว่าอนาคตของอุตสาหกรรมพลังงานจะขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการข้อมูลในรูปแบบการแบ่งปันข้อมูลกับพันธมิตร ส่งเสริมนวัตกรรมผ่านข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และกระตุ้นการตัดสินใจอย่างรวดเร็วตลอดวงจรชีวิตห่วงโซ่พลังงาน จากการเป็นสมาชิกก่อตั้งของ OSDU Forum นั้น bp ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่เปลี่ยนรากฐานภูมิทัศน์ของข้อมูลแก่อุตสาหกรรมของเรา และจากการรวมองค์กรด้านพลังงาน ผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ไว้ด้วยกัน OSDU Forum จึงมอบโอกาสสำหรับความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น Mercury Release ของ OSDU Data Platform และหวังว่าจะขยายวิธีการนี้ไปยังงานด้านวิศวกรรม การปล่อยก๊าซ และพลังงานใหม่ ๆ ในอนาคต”

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาแอปพลิเคชันของ OSDU Data Platform เข้าไปที่หน้าชุมชนนักพัฒนาแอปพลิเคชันได้ที่นี่

ดูรายชื่อสมาชิกปัจจุบันของ OSDU Forum ได้ที่นี่

-สิ้นสุดเนื้อหา-

เกี่ยวกับ The Open Group OSDU Forum

The Open Group OSDUTM Forum ช่วยให้อุตสาหกรรมพลังงานพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานของโลกที่เปลี่ยนไป The OSDU Forum เปิดรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน รวมถึงผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเทคโนโลยี บริษัทซอฟท์แวร์ มหาวิทยาลัย และอื่น ๆ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The OSDU Forum ดูได้ที่นี่

เกี่ยวกับ The Open Group

The Open Group ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรระดับโลกที่ช่วยกันผลักดันความสำเร็จของธุรกิจผ่านมาตรฐานของเทคโนโลยี ด้วยสมาชิกองค์กรที่มากถึง 800 แห่ง อันประกอบด้วยลูกค้า ซัพพลายเออร์โซลูชันและระบบ ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือ ผู้รวบรวม สถาบันการศึกษา และที่ปรึกษาในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ศึกษาได้ที่ www.opengroup.org

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210324005005/en/

ข้อมูลติดต่อสื่อ:
Jenny Morris
Hotwire
+44 (0)7393465529
UKOpengroup@hotwirepr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Liquid Instruments เปิดตัว Moku:Go โซลูชันการศึกษาในห้องปฏิบัติการที่แข็งแกร่งสำหรับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรแห่งอนาคต

Logo

Moku: Go นำเสนอชุดเครื่องมือและคุณสมบัติที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักศึกษาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมสามารถก้าวข้ามขอบเขตดั้งเดิมของห้องปฏิบัติการและห้องเรียน

ซานดิเอโก้ และ แคนเบอร์รา ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–23 มี.ค. 2563

วันนี้ Liquid Instruments ผู้ริเริ่มด้านเครื่องมือวัดที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ที่มีความแม่นยำได้เปิดตัว Moku:Go ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบพกพาที่สมบูรณ์แบบที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณนำห้องปฏิบัติการวิศวกรรมไปได้ทุกที่ ซึ่งจะนำไปสู่ยุคใหม่ของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมในมหาวิทยาลัยทั่วโลก

ในการศึกษาระดับอุดมศึกษา เครื่องมือในห้องปฏิบัติการที่ใช้ในปัจจุบันเป็นแบบตั้งอยู่กับที่ มีราคาแพง มีฮาร์ดแวร์จำกัด และได้รับการติดตั้งข้อมูลตั้งแต่เมื่อซื้อ โซลูชันแบบพกพาที่มีอยู่ในปัจจุบันขาดอินเทอร์เฟซซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ง่ายซึ่งนักศึกษารุ่นปัจจุบันและอนาคตคาดต้องการ นอกจากนี้ยังไม่มีเครื่องมือและคุณสมบัติที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกห้องปฏิบัติการ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันการเรียนรู้จากระยะไกลและประสบการณ์จริงทั้งในและนอกห้องเรียนทำให้ตลาดต้องการแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและที่ให้นักศึกษาเป็นเจ้าของได้โดยตรง เพื่อให้สามารถรองรับวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อ ๆ ไปได้

แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ใช้ซอฟต์แวร์ Moku: Go เป็นห้องปฏิบัติการทางวิศวกรรมที่สามารถใส่ไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพา ความยืดหยุ่น และความทนทานสูงสุด ไม่เพียงแต่สำหรับนักศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักศึกษาฟิสิกส์ วิศวกรรมชีวภาพ วิศวกรรมเคมี และสาขาวิชาอื่น ๆ ตลอดทั้งสี่ปีของการศึกษาและมากไปกว่านั้น ฮาร์ดแวร์ใหม่ประกอบด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและได้รับการพิสูจน์แล้ว 8 ชนิด ได้แก่ ออสซิลโลสโคป ตัวควบคุม PID เครื่องวิเคราะห์ลอจิกเครื่องกำเนิดรูปคลื่นตามใจ (arbitrary waveform generator)เครื่องบันทึกข้อมูล เครื่องวิเคราะห์สเปกตรัมและอื่น ๆ นอกจากนี้ยังให้การเชื่อมต่อเต็มรูปแบบด้วยฮอตสปอต Wi-Fi และ USB-C คุณสมบัติฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่งและการป้องกันไฟฟ้าที่ช่วยให้แน่ใจว่านักศึกษาสามารถศึกษาวิจัยโครงการใหม่ ๆ ได้โดยไม่ต้องนำตัวเองหรืออุปกรณ์ของพวกเขาเข้าไปเสี่ยง อุปกรณ์จ่ายไฟในตัวที่ไม่เหมือนใครสามารถตั้งโปรแกรมได้โดยผู้ใช้ โดยมีตัวเลือกแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าให้เลือกใช้ในระดับสูงสำหรับทุกโครงการ

“นักศึกษาของเราตื่นเต้นมากเมื่อเราได้นำ Moku: Lab เข้ามาใช้ในห้องเรียนของเราเมื่อ 2 ปีก่อน และหลังจากได้เห็นความสามารถใหม่ ๆ ของ Moku:Go ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เป็นที่ชัดเจนว่ามันจะช่วยนำประสบการณ์ทางการศึกษาของนักศึกษาไปสู่ยุคสมัยใหม่” พันเอก Brian J. Neff หัวหน้าแผนกวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ของ United States Air Force Academy กล่าว “ผมหวังว่าจะได้เห็นสิ่งนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานหลักสูตรของเรา”

ซอฟต์แวร์ของ Moku:Go ออกแบบมาเพื่อดึงดูดคนในยุคที่คุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ และสามารถใช้งานได้ในวงกว้างกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย Liquid Instruments ได้พาผู้ใช้ออกจากยุคโทรศัพท์แบบพับปิดเปิด และได้ออกแบบอินเทอร์เฟซสำหรับ Windows และ Mac ที่ใช้งานง่าย ดูน่าใช้ และทรงพลังสำหรับนักศึกษา ทั้งยังมีความสามารถในการเข้าถึงระยะไกลและมุมมองที่เป็นไดอะแกรมอย่างชัดเจนของห่วงโซ่การประมวลผลสัญญาณ ซึ่งทำให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้แนวคิดที่ยากได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะอยู่กับตัวผู้สอนหรือแบบการเรียนการสอนระยะไกล การออกแบบที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางช่วยให้มั่นใจได้ว่าพวกเขากำลังเรียนรู้แนวคิดหลักแทนที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์แต่เพียงอย่างเดียว

Moku: Go ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียน แต่การรวมมันเข้ากับหลักสูตรยังช่วยลดภาระงานของอาจารย์และผู้ช่วยสอน แพลตฟอร์มนี้รองรับทั้ง Python, LabVIEW และ MATLAB API และได้เผยแพร่ตัวอย่างของสคริปต์สดของ MATLAB สำหรับการเรียนการสอนระยะไกล การช่วยเหลือนักศึกษาแบบสด ๆ และการควบคุมการคัดลอกงาน (plagiarism control)

ชุดคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนยังสามารถปลดล็อกความสามารถขั้นสูงสำหรับผู้ผลิตและแม้แต่นักเรียนมัธยมปลายที่ต้องการเรียนรู้ด้านวิศวกรรม ไม่ว่าพวกเขาจะเรียนรู้พื้นฐานของตัวต้านทานและออปแอมป์ (op-amps) หรือการออกแบบควอดคอปเตอร์ขั้นสูงพร้อมเซ็นเซอร์และระบบนำทางอัตโนมัติ Moku:Go จะช่วยให้เข้าถึงแนวคิดที่ซับซ้อน และโครงการด้านวิศวกรรมได้อย่างง่ายขึ้น ทุกที่ทุกเวลา ในราคาที่เข้าถึงได้

Liquid Instruments กำลังเปิดตัว Moku:Go สำหรับนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านโซลูชันเครื่องมือวัดที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งพัฒนาโดยทีมนักฟิสิกส์ทดลองและวิศวกรที่รู้โดยตรงว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นในการเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้และการวิจัยในทุกระดับ ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ปัจจุบันของ Moku:Lab ถูกนำไปใช้โดยสถาบันชั้นนำทั่วโลกมาหลายปีโดยถูกนำไปใช้ค้นคว้าวิจัยในสาขาโฟโตนิกส์อิเล็กทรอนิกส์และวัสดุศาสตร์

“Moku: Lab ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของเรา  ทำให้นักวิจัยและพัฒนามีเครื่องมือและความยืดหยุ่นที่จำเป็นในการทำงานทั้งหมดรวมอยู่ในแพลตฟอร์มที่คล่องตัวและประหยัดต้นทุนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่ง Moku:Go จะนำข้อดีเหล่านั้นมาปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยรวมและสร้างแรงกระตุ้นให้นักศึกษาที่เรียนวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม” ศาสตราจารย์ Daniel Shaddock ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Liquid Instruments กล่าว “ นักศึกษาสมควรมีอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการที่ทรงพลังและยืดหยุ่น แต่ยังสามารถใช้งานได้ง่ายและสนุกไปพร้อม ๆ กัน การปรับปรุงการเข้าถึงเครื่องมือทางการศึกษาที่สำคัญจะช่วยให้นักศึกษาจากทุกสาขาอาชีพสามารถประกอบอาชีพในสาขา วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์(Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) หรือ STEM ได้”

Moku: Go เริ่มต้นที่ราคา 499 เหรียญและสามารถปรับแต่งให้เข้ากับสีของสถาบันการศึกษาได้ เมื่อซื้อไปใช้สำหรับสถาบันการศึกษา สำหรับข้อมูลส่วนลดการศึกษา อุปกรณ์เสริม และข้อมูลจำเพาะทั้งหมดโปรดไปที่หน้าผลิตภัณฑ์ ที่นี่

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Liquid Instruments และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดโปรดไปที่ https://liquidinstruments.com.

เกี่ยวกับ Liquid Instruments

Liquid Instruments เป็นผู้นำด้านเครื่องมือวัดที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ที่มีความแม่นยำ และบริษัทกำลังปฏิวัติวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักศึกษา เพิ่มพูนความรู้และดำเนินการวิจัยและพัฒนา กลุ่มผลิตภัณฑ์ของโซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของบริษัทใช้ประโยชน์จากพลังการคำนวณ FPGA สมัยใหม่เพื่อสร้างเครื่องมือที่ปรับแต่งได้สูงสำหรับการควบคุมการทดลองและการรับและวิเคราะห์ข้อมูล อนึ่ง สิทธิบัตรของทีมในด้านฮาร์ดแวร์ที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ Moku สามารถกำหนดค่าใหม่ได้แบบไดนามิกในภาคสนาม โดยให้บริการสถานการณ์การทดลองและการควบคุมกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา Moku: Lab ถูกใช้โดยสถาบัน R&D ชั้นนำหลายร้อยแห่งทั่วโลก และนำเครื่องมือมูลค่าสูงกว่า 12 ชนิดมารวมกันเป็นอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่ใช้งานง่าย ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับขั้นตอนการทดลอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://liquidinstruments.com.

รับชมคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52397899/en

ติดต่อสำหรับสื่อ

Kalyn Schieffer

kos@anzupartners.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Premas Biotech และ Oramed เผยวัคซีน COVID-19 ทางปากที่ได้ผลิตแอนติบอดีหลังจากการให้ยาเพียงครั้งเดียว

Logo

  • ส่งผลอย่างมากต่อความสะดวกในการแจกจ่ายวัคซีนแบบทุกที่ทุกเวลา
  • การป้องกันไวรัส COVID-19 ที่ดีกว่าเนื่องจากการเจาะแอนติเจน 3 ชนิด
  • เปิดตัว Oravax Medical Inc. เพื่อเร่งเส้นทางวัคซีนสู่ตลาด
  • การทดลองทางคลินิกคาดว่าจะเริ่มในไตรมาสที่ 2 2564

คุรุคราม อินเดีย–(บิสิเนสไวร์)–22 มี.ค. 2564

Premas Biotech ผู้พัฒนายารักษาโรคและวัคซีนประกาศการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด -19 ชนิดรับประทานที่แสดงประสิทธิภาพหลังจากการให้ยาเพียงครั้งเดียว โดยร่วมกับ Oramed Pharmaceuticals Inc. (Nasdaq/TASE: ORMP)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210319005359/en/

ด้วยการเร่งเส้นทางของวัคซีนสู่ตลาด Premas, Oramed และผู้ถือหุ้นรายอื่นได้ก่อตั้ง Oravax Medical Inc. ซึ่งได้รับใบอนุญาตพิเศษจาก Oramed และ Premas เพื่อพัฒนาวัคซีน COVID-19 ทางช่องปาก

สัตว์ทดลองที่ได้รับแคปซูล Oravax COVID-19 เพียงครั้งเดียวสามารถเห็นประสิทธิภาพได้ชัดด้วยการผลิตแอนติบอดี  วัคซีนของ Oravax ส่งเสริมภูมิคุ้มกันทั้งระบบผ่านอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ซึ่งเป็นแอนติบอดีที่พบบ่อยที่สุดในเลือดและของเหลวในร่างกายที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัสและอิมมูโนโกลบูลินเอ (IgA) ซึ่งช่วยปกป้องระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหารจากการติดเชื้อ

วัคซีน VLP (Virus Like Particle) ที่ใช้โปรตีนของ Premas จะสร้างการป้องกันสามชั้นต่อเป้าหมาย Spike, Membrane และ Envelope ของไวรัส SARS นอกจากนี้ วัคซีนนั้นปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และรับประทานได้ในปริมาณปกติถึงสูงและสร้างแอนติบอดีที่เป็นกลางในระดับสูง  VLP ผลิตโดยใช้แพลตฟอร์ม D-Crypt™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Premas ซึ่งสามารถผลิตในปริมาณสูงได้  ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Premas Biotech Dr. Prabuddha Kundu ให้ความเห็นว่า “วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด -19 ชนิดรับประทานที่ผสมผสานศักยภาพที่แท้จริงของแพลตฟอร์มเทคโนโลยี D-Crypt™ ของ Premas เข้ากับแพลตฟอร์มการส่งมอบโปรตีนในช่องปากของ Oramed POD® เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการทำงานร่วมกันที่แท้จริงและสามารถก้าวไปสู่การทดลองทางคลินิกระยะสุดท้ายได้อย่างรวดเร็ว  ประสบการณ์และความสำเร็จของ Oramed ในการดำเนินการทดลองโปรตีนในช่องปากระยะที่ 2 และ 3 ทำให้โปรแกรมของเราได้รับความนิยมอย่างมากในการแข่งขันเพื่อค้นหาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด -19 ชนิดรับประทานที่มีประสิทธิภาพที่สามารถแจกจ่ายให้ทุกคนได้  เรารอคอยที่จะแบ่งปันข้อมูลทางคลินิกในเร็วๆ นี้”

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากในศักยภาพของวัคซีนเราในการช่วยยุติการแพร่ระบาดได้” Nadav Kidron ซีอีโอของ Oramed กล่าว “การฉีดวัคซีน COVID-19 ในช่องปากจะช่วยขจัดอุปสรรคหลายประการในทำให้ผู้คนสามารถรับวัคซีนได้เองที่บ้าน  ในขณะที่ความสะดวกในการแจกจ่ายเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันเพื่อเร่งอัตราการฉีดวัคซีนนั้น วัคซีนแบบรับประทานทางปากอาจมีค่ามากยิ่งขึ้นในกรณีที่อาจต้องฉีดวัคซีน COVID-19 เป็นประจำทุกปีหรือทุก 2 ปีเหมือนกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั่วไป”

เกี่ยวกับ Oravax Medical Inc.

Oravax ก่อตั้งขึ้นในปี 2564 โดย Oramed Pharmaceuticals Inc. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน Oravax พร้อมด้วย Premas Biotech และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ที่มีภารกิจในการนำวัคซีน COVID-19 แบบรับประทานทางปากออกสู่ตลาด  Oravax ผสมผสานเทคโนโลยีวัคซีนล้ำสมัยที่ได้มาจาก Premas Biotech และเทคโนโลยีการรับยาทางปาก POD™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Oramed Pharmaceuticals  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ www.ora-vax.comPremasสไบ

เกี่ยวกับ Premas Biotech

Premas Biotech พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และเป็นพันธมิตรกับบริษัทชีวเวชภัณฑ์ระดับโลกเพื่อสร้างและพัฒนาชีวบำบัดและวัคซีนใหม่ๆ  ประเด็นสำคัญของ Premas ได้แก่ โรคติดเชื้อ มะเร็ง ความผิดปกติของระบบเผาผลาญและการอักเสบ  นอกจาก D-Crypt™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการแสดงออกของโปรตีนที่ยากต่อการแสดงออกแล้ว เทคโนโลยีชั้นนำของ Premas ยังรวมถึง Axtex-4D™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสร้างเนื้อเยื่อชและ C-Qwence™ คลังแอนติบอดี scFv ของอินเดีย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัท www.premasbiotech.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210319005359/en/

ติดต่อ:

Ambar Mehrotra
มือถือ: +91 89684 82266
โทร: + 91-124-454 6600 contact@premasbiotech.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Egon Zehnder รายงานผลประกอบการปี 2563 สุดแกร่งท่ามกลางโรคระบาดและวิกฤตเศรษฐกิจ

Logo

ซูริก–(BUSINESS WIRE)–18 มีนาคม 2564

วันนี้ Egon Zehnder บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ได้ประกาศผลประกอบการประจำปี 2563 ที่แข็งแกร่งแม้จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจเกือบทุกประเภท บริษัทได้รายงานรายได้ทั่วโลกที่ 678 ล้านฟรังก์สวิส ลดลง 4.6 เปอร์เซ็นต์จากผลประกอบการปี 2562 ซึ่งเป็นผลประกอบการสูงสุดตลอดกาล ณ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่

“ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่เกิดการระบาดของโควิด-19 วิกฤตทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ไม่สงบในสังคม ผลประกอบการของเราได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและมีคุณภาพระหว่างผู้ให้คำปรึกษาและลูกค้าของ Egon Zehnder” Edilson Camara ซีอีโอของ Egon Zehnder กล่าว “การเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่เกิดจากการประเมินความเป็นผู้นำ ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว การลงทุนในหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ และแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการบริหารในปีก่อนหน้าทำให้เรามั่นใจในอนาคตที่สดใสของบริษัทในปี 2564 และในปีต่อ ๆ ไป ผลลัพธ์เหล่านี้ยังสนับสนุนการตัดสินใจของเราในการขยายฐานที่ปรึกษาของเรา โดยเราได้ทำการจ้างที่ปรึกษาใหม่เพิ่มถึง 40 คนในปี 2563”

ผลประกอบการดังกล่าวยังเป็นผลจากความยืดหยุ่นและความสามารถในการฟื้นตัวของ Jill Ader ประธานบริษัท Egon Zehnder กล่าวเสริม “ความสามารถในการปรับตัวของเราต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นรองใคร” เธอกล่าว “ในฐานะบริษัทที่มีค่านิยมที่แข็งแกร่ง เราได้ตัดสินใจสร้างความปลอดภัยทางจิตใจโดยไม่มีการเลิกจ้างพนักงานเพื่อให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เพื่อนร่วมงานของเราจากทั่วทุกมุมโลกได้ทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะให้บริการลูกค้าของเราในเวลาที่พวกเขาต้องการเรามากที่สุดเช่นนี้”

เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมในช่วงที่เกิดการระบาด ที่ปรึกษาของ Egon Zehnder ได้จัดการประชุมออนไลน์ร่วมกับผู้นำหลายพันคนจากบริษัททั่วโลกที่มาร่วมพูดคุยกันว่าวิกฤตครั้งนี้ทำให้เกิดความเป็นผู้นำอย่างไร ดังที่บริษัทได้รายงานผ่านเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ “การปลดล็อกศักยภาพของมนุษย์เพื่อเป็นผู้นำในการฝ่าความซับซ้อนจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในขณะที่เราทุกคนกำลังพยายามสร้างเศรษฐกิจและแนวทางการทำงานของเราขึ้นใหม่” Ader กล่าวเสริม Egon Zehnder ยังได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับในความแตกต่างที่ทำมาอย่างต่อเนื่องด้วยการเริ่มต้นปีที่ 16 ของกิจกรรม Global Board Diversity Tracker ที่จัดขึ้นทุก ๆ สองปี ในปี 2564 และปีต่อ ๆ ไป บริษัทจะยังคงดำเนินการตามเจตนารมณ์ที่ว่าความเป็นผู้นำสู่โลกที่ดีกว่าต่อไป

เกี่ยวกับ Egon Zehnder

Egon Zehnder เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเป็นผู้นำแถวหน้าของโลก โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือช่วยให้บุคลากรและองค์กรพัฒนา เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สามารถทำได้ และเรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการให้คำปรึกษาด้านความเป็นผู้นำที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา บริษัทของเราประกอบด้วยที่ปรึกษามากกว่า 500 คน ประจำสำนักงาน 68 แห่ง ใน 40 ประเทศ ซึ่งนำจุดแข็งของแต่ละคนมารวมกันเพื่อสร้างทีมงานที่มีพลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียว บริการของเราประกอบด้วย การพัฒนาความเป็นผู้นำ ประสิทธิพลระดับบุคคล ทีม และองค์กร การเฟ้นหาซีอีโอและการสืบทอดตำแหน่ง การเฟ้นหาผู้บริหารและการประเมิน ที่ปรึกษาคณะกรรมการ และการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.egonzehnder.com และติดตามเราได้ทาง LinkedIn และ Twitter

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210317005769/en/

ติดต่อ:

Stacy Drumtra, ชิคาโก
Global Marketing Co-Lead
stacy.drumtra@egonzehnder.com
โทร: +1 312 805 6736

Martin Klusmann, เบอร์ลิน
Global Marketing Co-Lead
martin.klusmann@egonzehnder.com
โทร: +49 170 236 0101

Jennifer Reingold, นิวยอร์ก
Global Head of Content
jennifer.reingold@egonzehnder.com
โทร: +1 646 337 5566

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Power Integrations ประกาศระงับข้อพิพาททางกฎหมายกับ Silanna Semiconductor

Logo

วิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์–(BUSINESS WIRE)–18 มีนาคม 2564

Power Integrations (Nasdaq: POWI) ผู้นำด้านวงจรรวมไฟฟ้าแรงสูงสำหรับการแปลงพลังงานอย่างประหยัด ในวันนี้ประกาศการระงับข้อพิพาทแบบเบ็ดเสร็จทางกฎหมายกับ Silanna Semiconductor บริษัทในสหรัฐอเมริกา และอดีตพนักงานของ Power Integrations ในฟิลิปปินส์หลายคน (PI) โดย PI ได้ยื่นฟ้อง Silanna และอดีตพนักงาน ว่าทราบถึงการละเมิดข้อตกลงการจ้างงานของ PI กับพนักงานและการแทรกแซงโดย Silanna ภายใต้เงื่อนไขของการระงับข้อพิพาท Silanna ได้ชำระเงินสดที่ไม่ระบุรายละเอียดให้กับ Power Integrations โดยตกลงที่จะเลิกจ้างอดีตพนักงาน PI และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงการจ้างงานของ PI ในอนาคต

Clifford Walker รองประธาน Power Integrations ให้ความเห็นว่า “เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้แก้ปัญหาคดีความเหล่านี้ได้สำเร็จ และเราจะยังคงยืนยันว่าคู่แข่งจะเคารพข้อตกลงการจ้างงานของเราซึ่งออกแบบมาเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรารวมถึงความลับทางการค้าด้วย”

เกี่ยวกับ Power Integrations

Power Integrations, Inc. เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์สำหรับการแปลงพลังงานไฟฟ้าแรงสูง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบนิเวศพลังงานสะอาดทำให้สามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนได้ตลอดจนการส่งผ่านและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในการใช้งานตั้งแต่มิลลิวัตต์ถึงเมกะวัตต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.power.com

Power Integrations และโลโก้ Power Integrations เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Power Integrations, Inc. เครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210317005077/en/

ติดต่อ:

Joe Shiffler
Power Integrations, Inc.
(408) 414-8528
jshiffler@power.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดตัวเซนเซอร์ภาพเส้นตรงแบบลดเลนส์ชนิด CCD สำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น A3

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–17 มี.ค. 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("โตชิบา") เปิดตัว "TCD2726DG" เซ็นเซอร์ภาพเส้นตรงแบบลดเลนส์ชนิด CCD ซึ่งสามารถทำการสแกนความเร็วสูงสำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น A3  การจัดส่งตัวอย่างทางวิศวกรรม[1] เริ่มตั้งแต่วันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210316006126/en/

Toshiba: TCD2726DG, a lens reduction type CCD linear image sensor that achieves high-speed scanning for A3 multifunction printers. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: TCD2726DG เซนเซอร์ภาพเส้นตรงแบบลดเลนส์ชนิด CCD ที่สามารถสแกนด้วยความเร็วสูงสำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น A3 (กราฟฟิค: บิสิเนสไวร์)

ความต้องการสำหรับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น A3 ที่มีความเร็วในการสแกนสูงนั้นได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  TCD2726DG ตอบโจทย์นี้โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเร็วขึ้นด้วยอัตราการส่งข้อมูล 100MHz (50MHz x 2ch) เพื่อเทียบกับ 70MHz (35MHz x 2ch) จากเซ็นเซอร์ปัจจุบันโตชิบา[2]

เพื่อป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น (EMI) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงเชิงลบของอัตราการทำงานที่เร็วขึ้น เซ็นเซอร์ใหม่นี้ได้รวมวงจรกำเนิดเวลาและมีจำนวนพินไดรเวอร์ CCD ที่ต่ำกว่า ซึ่งจะช่วยลด EMI และการปรับเวลาสำหรับลูกค้า พร้อมกับลดจำนวนชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วงทำให้การพัฒนาระบบง่ายขึ้น

[1] ตัวอย่างใช้สำหรับการประเมินผลการทำงาน ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจแตกต่างไปจากการผลิตจำนวนมาก

[2] TCD2724DG-1

คุณสมบัติหลัก

  • อัตราข้อมูล 100MHz (50MHz x 2ch) เซ็นเซอร์ภาพเส้นตรง CCD
  • วงจรกำเนิดเวลา Timing Genertor ในตัวและไดรเวอร์ CCD ช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาระบบ
  • ใช้พลังงานต่ำ: แรงดันไฟฟ้า 10V สำหรับวงจรเครื่องขยายเสียงได้ลดลงเหลือ 3.3V[ 3]

[3] ใช้แหล่งจ่ายไฟ 10V บางส่วน แหล่งจ่ายไฟคู่ 3.3V และ 10V

การใช้งาน

เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น A3 อุปกรณ์ตรวจสอบภาพอัตโนมัติ

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TCD2726DG

แรงดันไฟฟ้า (ช่วงการทำงาน)

AVDD, DVDD, CKDVDD: 3.1 V ถึง 3.5 V

VDD10: 9.5 V ถึง 10.5 V

ขนาดพิกเซล

4.7 μm

จำนวนองค์ประกอบการตรวจจับภาพ

7500 ชิ้นบน 3 เส้น

อัตราข้อมูล

100MHz (50MHz × 2ch)

แพ็คเกจ

WDIP32 (ขนาด: 53.60 มม. × 9.65 มม.)

อื่นๆ / คุณสมบัติเพิ่มเติม

วงจร Timing Generator

ไดร์เวอร์ CCD

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่โปรดไปที่: TCD2726DG

คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอแนะนำสินค้า วิดีโอแนะนำสินค้า TCD2726DG

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ภาพเชิงเส้นของ Toshiba โปรดไปที่: เซนเซอร์ภาพเส้นตรง

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:
System Devices Marketing Dept.I (ฝ่ายการตลาดสำหรับอุปกรณ์ระบบ)
Industry Marketing Group II (ฝ่ายการตลาดสำหรับอุตสาหกรรม)
โทร: +81-3-3457-3249
https://toshiba.semicon -storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศแต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation รวมความกระตือรือร้นของบริษัทใหม่เข้ากับประสบการณ์ที่ยาวนาน  ตั้งแต่ได้แยกจาก Toshiba Corporation ในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เราได้เข้าเป็นบริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์ทั่วไปและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSI และ HDD

พนักงานของเราจำนวน 24,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเราและให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ  เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะต่อยอดจากยอดขายรายปีที่ในขณะนี้สูงกว่า 750 พันล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และเพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210316006126/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department  (แผนกการตลาดดิจิทัล) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: + 81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ทีมวิจัย NTHU พัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–13 มี.ค. 2564

ฤดูหนาวเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูไข้หวัดใหญ่ประจำปี และในทุก ๆ ปี องค์การอนามัยโลก (WHO) พยายามคาดการณ์ว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใดจะแพร่ระบาดในวงกว้างมากที่สุด เพื่อที่จะสามารถเตรียมการฉีดวัคซีนที่จำเป็น และด้วยการคำนึงถึงสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Wu Suh-Chin จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้พัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ โดยการฉีดวัคซีนสามารถทำได้ในรูปแบบของการฉีดพ่นจมูกแทนการฉีดแบบเข็ม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210312005008/en/

A research team led by Professor Wu Suh-Chin of the Department of Medical Science has developed a mucosal vaccine providing protection against all strains of influenza, and is currently planning to develop a mucosal COVID-19 vaccine. (Photo: National Tsing Hua University)

ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Wu Suh-Chin จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนาวัคซีนภูมิคุ้มกันแบบฉีดพ่นจมูกเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์และกำลังวางแผนที่จะพัฒนาวัคซีน COVID-19 แบบนี้ด้วย (ภาพ: National Tsing Hua University)

การวิจัยเชิงนวัตกรรมของทีมได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์และได้รับรางวัล Future Tech Award ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปี 2562 และ 2563

วัคซีนที่ให้ประสิทธิผลแบบสากล

เนื่องจากความชุกของไข้หวัดใหญ่และการที่สายพันธุ์มีความแตกต่างกันไปในแต่ละปี การตัดสินใจเลือกวัคซีนที่จะเตรียมสำหรับฤดูไข้หวัดใหญ่ครั้งต่อไปจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย การคาดการณ์ที่ผิดจึงอาจทำให้ได้วัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำ ทั้งนี้ Wu กล่าวว่าสาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะ ฮีแมกกลูตินิน ของไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันของคนเราจดจำได้ยาก

แอนติเจนฮีแมกกลูตินิน ส่วนใหญ่ประกอบด้วยส่วนหัวทรงกลมและบริเวณลำตัว โดยเป็นที่ส่วนหัวทรงกลมนี่เองซึ่งทำให้ไวรัสแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะเฉพาะ ทีมของ Wu ได้ใช้พันธุวิศวกรรมเพื่อทำให้หัวทรงกลมเติบโตเป็นชั้นของคาร์โบไฮเดรต สิ่งเหล่านี้จะช่วยปิดคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของไวรัส ดังนั้นจึงไปทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถสร้างแอนติบอดีต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดใดก็ได้ที่พวกมันเข้าไปเจอ

ทีมของ Wu ยังทำการย่อยสลายบริเวณลำตัวของแอนติเจน ฮีแมกกลูตินิน ซึ่งทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันจดจำและกำจัดไวรัสได้ง่ายขึ้น Wu กล่าวว่าการย่อยสลายของฮีแมกกลูตินิน จะช่วยเพิ่มการกระตุ้นของแอนติบอดีจำเพาะของส่วนลำตัว ทำให้สามารถพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสากลให้กับแอนติเจนประเภทที่แตกต่างกันได้

ต่อสู้กับไวรัสด้วยสารพิษ

เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางเดินหายใจ ทีมของ Wu จึงคิดค้นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการฉีด เนื่องจากการหายใจและการรับประทานอาหารจะนำแอนติเจนแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เยื่อเมือกในระบบทางเดินหายใจและทางปาก จึงมีความทนทานต่อเยื่อเมือกต่อเชื้อโรค ส่งผลให้ผลิตวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเยื่อเมือกได้ยาก นี่คือสิ่งที่ทำให้การพัฒนาวัคซีนแบบพ่นมีความท้าทายมากกว่าการฉีดวัคซีน

เพื่อเอาชนะความทนทานต่อภูมิคุ้มกันของระบบเยื่อเมือก แนวทางหนึ่งคือ“ ต่อสู้กับไวรัสด้วยสารพิษ” และทีมงานจึงตัดสินใจใช้สารพิษจากแบคทีเรียที่เรียกว่า“heat-labile enterotoxin A subunit” กับแอนติเจน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นวัคซีนที่สร้างฤทธิ์เสริมได้เอง หรือ self-adjuvanting vaccine โดยวัคซีนที่สร้างฤทธิ์เสริมได้เองที่สร้างขึ้นด้วยวิธีนี้สามารถกระตุ้นการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันของเยื่อเมือกและระบบภูมิคุ้มกันได้ดี

ทีมงานได้ใช้แพลตฟอร์มวัคซีนที่สร้างฤทธิ์เสริมได้เอง ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วในไต้หวันและสหรัฐอเมริกาแล้ว เพื่อพัฒนาเป็นวัคซีนสำหรับโรคไข้หวัดนก และการทดลองเบื้องต้นได้ยืนยันว่ามีการระงับการสร้างแอนติบอดีในซีรั่มในไก่ที่สูดดมวัคซีนพ่นนั้น เมื่อเห็นผลที่น่าตื่นเต้นดังนี้ ทีมงานจึงกำลังวางแผนที่จะพัฒนาวัคซีนแบบพ่นเพื่อป้องกัน COVID-19

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210312005008/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh

NTHU

(886)3-5162006

hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การวิจัยของ Standard Chartered พบว่าบริษัทในยุโรปและสหรัฐอเมริกามีความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในการเติบโตของตลาดนอกประเทศ

Logo

เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตที่สำคัญ โดยแอฟริกาและตะวันออกกลางมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลอนดอนและนิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–11 มี.ค. 2564

การศึกษาวิจัยที่สองโดย Standard Chartered ในด้านกลยุทธ์การเจริญเติบโตระหว่างประเทศและความท้าทายที่ซีเอฟโอและฝ่ายการเงินประสบในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสสื่อให้เห็นว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนที่เกิดจากโลกการแพร่ระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ตามมา ตลาดต่างประเทศนั้นยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโต  การศึกษายังเผยให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล การปลดล็อกเงินสดที่ติดค้างอยู่ และการเพิ่มความสนใจไปที่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและห่วงโซ่อุปทาน

นับตั้งแต่การศึกษาครั้งแรกเมื่อ 6 เดือนก่อน ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ามีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในการเติบโตข้ามพรมแดน โดยบริษัท 42% (เพิ่มขึ้นจาก 37%) มองเห็นโอกาสในการเติบโตที่ดีที่สุดอยู่ในตลาดต่างประเทศ

เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตที่สำคัญ (โดยบริษัทมากกว่า 85% ที่ดำเนินงานในเอเชียหรือกำลังพิจารณาเพิ่มกิจกรรมทางธุรกิจ)  แอฟริกาและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (เพิ่มขึ้น 4%) ในฐานะตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในอีกหกถึงสิบสองเดือนข้างหน้า  แม้จะมีความทะเยอทะยานในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ แต่การทำความเข้าใจกฎระเบียบในตลาดต่างประเทศยังคงเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (35%) สำหรับบริษัทที่ต้องการขยายหรือเสริมสร้างการดำเนินงานระหว่างประเทศ  สิ่งนี้จึงทำให้มีความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์และปรับตัวโลจิสติกส์อุปทาน (21%)

ในขณะที่บริษัทต่างๆ มองไปยังสภาพแวดล้อมหลังการระบาดของโรค ลำดับความสำคัญสามอันดับแรกของผู้ตอบแบบสอบถามได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากปัญหาต่างๆ รวมถึงความล้มเหลวของห่วงโซ่อุปทาน (ลดลง 2% เป็น 50%) ความต้องการสภาพคล่อง (ลดลง 2% เป็น 47%) และการเพิ่มการลงทุนในรูปแบบดิจิทัลเพื่อระดมสภาพคล่อง (เพิ่มขึ้น 4% เป็น 66%) และ ESG (เพิ่มขึ้น 5% เป็น 23%)

Torry Berntsen ซีอีโอของ Standard Chartered ในยุโรปและอเมริกาส กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าธุรกิจต่างๆ เริ่มให้ความสนใจกับการเติบโตในต่างประเทศและการลงทุนในอนาคตมากขึ้น  ความยั่งยืน การแปลงเป็นดิจิทัล และความจำเป็นในการทำความเข้าใจกฎระเบียบไม่ได้เป็นเพียงกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับบริษัทต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เติบโตในระดับสากล และอยู่เหนือคู่แข่ง”

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับการศึกษาธุรกิจไร้พรมแดน

โดยดำเนินการระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2563 ทางซีเอฟโอและผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอาวุโสกว่า 1,000 คนของบริษัทที่มีมูลค่าการซื้อขายเกิน 500 ล้านดอลลาร์ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสเข้าร่วมในการสำรวจ

  • แต่ละประเทศมีตัวแทนเท่ากัน 25%
  • ผู้ตอบแบบสอบถาม 50%เป็นตัวแทนบริษัทที่มีมูลค่าการซื้อขาย 500 ล้านถึง 1 พันล้านเหรียญ  ส่วนที่เหลืออีก 50% เป็นตัวแทนของบริษัทที่มีมูลค่าการซื้อขายเกิน 1 พันล้านดอลลาร์
  • 16% มาจากภาคเทคโนโลยีประกอบ โดยตัวแทนภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ จะมีสัดส่วนราวๆ 6-8% และไม่รวมภาคบริการทางการเงินในแบบสำรวจ

Standard Chartered

เราเป็นกลุ่มธนาคารระหว่างประเทศชั้นนำที่มีตัวตนใน 59 ตลาดที่มีพลวัตมากที่สุดในโลกและให้บริการลูกค้าในอีก 85 แห่ง  จุดประสงค์ของเราคือการขับเคลื่อนการค้าและความเจริญรุ่งเรืองผ่านความหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา โดยภูมิหลังและคุณค่าของเราอยู่ในคำมั่นสัญญาแบรนด์ของเรา การอยู่เพื่อความดี

Standard Chartered PLC จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนและฮ่องกง

สำหรับเรื่องราวและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ โปรดเยี่ยมชมข้อมูลเชิงลึกที่ sc.com  ติดตาม Standard Chartered บน Twitter, LinkedIn, Instagram และ Facebook

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210311005310/en/

ติดต่อ:

Simon Kutner
Regional Head of Communications, Europe (Interim) (ตัวแทนหัวหน้าฝ่ายการสื่อสารระดับภูมิภาค)
Standard Chartered Bank
โทร: +44 (0)7880 296 947
อีเมล: simon.kutner@sc.com

Chris Teo
Head of Corporate & Business Communications, Americas (หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจในภูมิภาคอเมริกา)
Standard Chartered Bank
โทร: +1 212 667 0446
อีเมล: Chris.Teo@sc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เอเชียเปิดตัวพอร์ทัลข้อมูลเปิดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน Open Data Day 2021

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–11 มีนาคม 2564

สมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป (Taipei Computer Association) ในฐานะสำนักเลขาธิการโครงการความร่วมมือด้านการเปิดเผยข้อมูลแห่งเอเชีย หรือ Asia Open Data Partnership (AODP) ร่วมกับงานประชุมเชิงปฏิบัติการการประยุกต์ใช้ข้อมูลซึ่งจัดโดย AODP ในกิจกรรม Open Data Day 2021 ได้ประกาศเปิดตัวพอร์ทัลข้อมูลเปิดอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเอเชีย พอร์ทัลข้อมูลเปิดแห่งเอเชีย จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการเข้าถึงข้อมูลแบบเปิดที่เผยแพร่โดยสถาบัน หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ในประเทศสมาชิกของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการส่งสัญญาณถึงยุคใหม่ของการเข้าถึงข้อมูลอย่างเสรี หรือ democratization ทั่วทั้งเอเชีย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210310006082/en/

Screenshot from the Asia Open Data Portal launch and data application workshop, organized by Asia Open Data Partnership (AODP) at Open Data Day 2021. (Photo: Business Wire)

ภาพสกรีนช็อตจากการเปิดตัวพอร์ทัลข้อมูลเปิดแห่งเอเชียและการประชุมเชิงปฎิบัติการด้านการประยุกต์ใช้ข้อมูล จัดโดยโครงการความร่วมมือด้านการเปิดเผยข้อมูลแห่งเอเชีย (AODP) ในกิจกรรม Open Data Day 2021 (รูปภาพ: Business Wire)

พอร์ทัลปัจจุบันประกอบด้วยชุดข้อมูลมากกว่า 73.1 พันชุด จัดเป็น 20 แคตตาล็อก และ 12 หมวดหมู่ ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น มลพิษในเมือง และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือ PPE ข้อมูลถูกจัดเก็บจากประเทศสมาชิก AODP ที่จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และอินเดีย ส่วนความท้าทายที่โครงการต้องเผชิญคือเรื่องความหลากหลายของภาษาที่ใช้ในเอเชีย และรูปแบบข้อมูลที่ใช้โดยภาครัฐและเอกชนของประเทศสมาชิกที่แตกต่างกัน ซึ่ง AODP กำลังเอาชนะด้วยการใช้เทคโนโลยีการแปลด้วยเครื่องและความพยายามทางการทูตในการกำหนดมาตรฐานข้อมูล

การเปิดตัวพอร์ทัลข้อมูลเปิดแห่งเอเชียและการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการประยุกต์ใช้ข้อมูลมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ช่อง DataEconomy.Taiwan บน YouTube รวมถึงมีการเสวนาโดยตัวแทน AODP จากประเทศไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น อินเดีย ไทย และกัมพูชา และมีการนำเสนอผลงานพิเศษจากผู้ชนะรางวัล Invincible Award จากการประกวด Asia Open Data Challenge ในปีก่อนหน้าสามทีม โดยอันดับแรก สมาชิกจากทีม GliaCloud (ไต้หวัน) ได้แนะนำแพลตฟอร์มสร้างวิดีโอโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GliaStar ซึ่งนำเสนอข้อมูลแบบเปิดเป็นภาพเคลื่อนไหวโดยใช้ตัวละครจากการ์ตูน ถัดมา สมาชิกทีม Smart Delivery (ญี่ปุ่น) ได้นำเสนอนวัตกรรมทางด้านลอจิสติกส์ โดยนำข้อมูลเปิดมาใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจและช่วยให้พนักงานส่งอาหารและยาให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ชนบทของประเทศญี่ปุ่น สุดท้าย สมาชิกทีม Dbdbdeep (เกาหลีใต้) ได้อธิบายเกี่ยวกับ “แบบจำลองเหตุวุ่นวายทางสังคมในระดับภูมิภาค” ซึ่งใช้ข้อมูลเปิดมาตรวจหาผลกระทบจากโรคติดเชื้อต่อสังคม

โครงการความร่วมมือด้านการเปิดเผยข้อมูลแห่งเอเชีย หรือ AODP ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดยมีเป้าหมายหลักในการอำนวยความสะดวกทางด้านการสื่อสารและความร่วมมือเกี่ยวกับข้อมูลเปิดและการประยุกต์ใช้ข้อมูลระหว่างประเทศในเอเชีย พอร์ทัลข้อมูลเปิดแห่งเอเชียริเริ่มขึ้นโดย Organization for Data-driven Application (ไต้หวัน) ในปี 2560 โดยใช้พอร์ทัลข้อมูลเปิดของสหภาพยุโรปเป็นต้นแบบ และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดยประเทศสมาชิก AODP ในปี 2562 เป้าหมายของโครงการความร่วมมือคือการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมของเอเชียในทุกภาคส่วนรวมถึงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่อย่างเช่น AI และ IoT

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210310006082/en/

สื่อ: Daniel Cunningham, daniel.cunningham@ddg.com.tw +886 223117007

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter