Hansoh Pharma และ Atomwise เปิดตัวความร่วมมือค้นคว้าตัวยาผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อใช้ในการรักษาต่าง ๆ

Logo

Hansoh Pharma วางแผนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างโมเลกุลขนาดเล็กที่ดีที่สุดครั้งแรก

เซี่ยงไฮ้และซานฟรานซิสโก—(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2562

Hansoh Pharmaceutical Group Company Limited (“Hansoh Pharma”) บริษัทชีวเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีน และ Atomwise, Inc. (“Atomwise”) ผู้นำเทคโนโลยี AI เพื่อการค้นคว้ายารักษาโรค ประกาศความร่วมมือในการออกแบบและค้นหาชนิดตัวยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโปรตีนเป้าหมายที่ยังไม่ระบุ 11 ตัวเพื่อการรักษาโรคหลากหลายชนิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005825/en/

ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Atomwise และ Hansoh Pharma จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด การผสมผสานกันระหว่างความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มีให้จะมอบประสิทธิภาพในการช่วยเร่งให้โครงการนี้สำเร็จอย่างมหาศาล และจะย่นระยะเวลาการค้นคว้าหาตัวยาและการพัฒนาทางคลินิก

นายแพทย์ Aifeng Lyu ประธาน Jiangsu Hansoh Pharmaceutical Group Co., Ltd., บริษัทในเครือของ Hansoh Pharma กล่าวว่า “Atomwise เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสมกับ Hansoh Pharma ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และสร้างชนิดโมเลกุลขนาดเล็กสำหรับรักษาโรคเนื้องอกและโรคอื่น ๆ เรารู้สึกประทับใจในแพลตฟอร์มและประสิทธิภาพของ AI และทีมของ Atomwise จากการทำงานร่วมกัน เราเชื่อว่าเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาการรักษาที่ดีที่สุดครั้งแรก”

Dr. Abraham Heifets ซีอีโอ Atomwise กล่าวเสริมว่า “Hansoh Pharma ให้พันธสัญญาสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและปฏิบัติภารกิจเพื่อเปลี่ยนโลกการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย”

แพลตฟอร์ม AI ระดับโลกของ Atomwise สำหรับการออกแบบตัวยาตามโครงสร้างจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวเลือกอันดับต้น และเป็นความพยายามในการบุกเบิก Hansoh Pharma จะมอบศักยภาพการทดสอบทางชีววิทยาและเคมีเพื่อการรักษา รวมทั้งบุกเบิกกิจกรรมการพัฒนาในระดับพรีคลินิกและคลินิกต่าง ๆ

ภายใต้ข้อกำหนดของความร่วมมือ Atomwise จะได้รับค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เปิดเผย ค่าธรรมเนียมการทดลอง ค่าลิขสิทธิ์ และรายได้จากการออกใบอนุญาตหรือการขายทรัพย์สินที่เกิดจากความร่วมมือ จากรายได้เฉลี่ยในประวัติศาสตร์สำหรับตัวยาโมเลกุลขนาดเล็ก มูลค่าทั้งหมดจากการทำสัญญากับ Atomwise ที่ประสบผลสำเร็จทั้งหมดนับเป็นผลพลอยได้ Hansoh Pharma จะได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาและดำเนินการค้าในทุกสาขาและภูมิภาค

เกี่ยวกับ Hansoh Pharma

Hansoh Pharma (3692:HK) บริษัทชีวเภสัชกรรมชั้นนำในประเทศจีนที่อุทิศตนเพื่อค้นหาและพัฒนาตัวยาที่เปลี่ยนชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นจากอาการโรคร้ายแรง ปัจจุบันมีพนักงานราว 8,900 คน Hansoh ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 มีระบบการวิจัยและพัฒนา ศักยภาพการผลิตและค้าขายแบบครอบคลุม ช่วยส่งเสริมความเป็นผู้นำการรักษาระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) โรคเนื้องอก โรคเบาหวานและยาต้านการติดเชื้อ และอื่น ๆ จากผู้เชี่ยวชาญราว 1,400 คนในแผนกการวิจัยและพัฒนา Hansoh ถูกจัดอันดับที่ 2 เป็นบริษัทนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีววิทยาและเภสัชกรรมในประเทศจีนสำหรับโมเลกุลที่ใช้ผลิตยาชนิดใหม่เพื่อการพัฒนาระดับคลินิกตั้งแต่ปี 2554 รายได้ของบริษัท Hansoh Pharma ในปี 2018 อยู่ราว 11,000 ล้านดอลล่าร์ เติบโตปีต่อปี 25% สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมที่ www.hspharm.com

เกี่ยวกับ Atomwise

Atomwise, Inc. นำเทคโนโลยี AI มาศึกษาค้นคว้าตัวยาโมเลกุลขนาดเล็กตามโครงสร้าง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน Atomwise ร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทด้านเภสัชกรรมและเคมีเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลมากกว่าร้อยแห่งใน 19 ประเทศเพื่อจัดทำโครงการหลายร้อยโครงการต่อปี Atomwise ได้ระดมเงินกว่า 50 ล้านดอลล่าร์จากบริษัทลงทุนชั้นนำเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20190911005825/en/ 

ติดต่อ:

Hansoh Pharma

ชื่อ​: Paul Lu

อีเมล​: communications@hspharm.com

Atomwise

ชื่อ: Sara Dunn

อี​เมล: SDunn@jpa.com

Aptorum Group ประกาศพัฒนาชนิดตัวยาไมโครไบโอมเพื่อรักษาโรคอ้วน และชนิดตัวยาที่ดัดแปลงใหม่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเนื้อเยื่อประสาท

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) (“Aptorum Group”) บริษัทผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ที่เน้นการพัฒนายารักษาโรคชนิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกาศการคิดค้นพัฒนาตัวยา 2 ชนิดในขั้นตอนพรีคลินิก โดยเน้นการรักษาโรคอ้วนและโรคมะเร็งเนื้อเยื่อประสาทตามลำดับ

เกี่ยวกับ CLS-1: การรักษาโรคอ้วนโดยปรับสมดุลของการสื่อสารทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ในลำไส้

ภายใต้แพลตฟอร์มการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายหรือไมโครไบโอต้าที่ประกาศเปิดตัวล่าสุดโดย  Claves Life Sciences Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Aptorum Group ทางบริษัทได้คิดค้นพัฒนาสายพันธุ์โมเลกุลระดับมาโครอย่าง CLS-1 ในขั้นพรีคลินิกเพื่อรักษาโรคอ้วน CLS-1 กำลังอยู่ระหว่างการปรับสภาพ และมีแผนการจะนำไปสู่ขั้นตอน IND ในปี 2563

ปัจจุบันโรคอ้วนได้แพร่ขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผลสูงสุด1 สำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนส่วนใหญ่แล้ว วิธีการรักษาแบบพื้นบ้าน (เช่น ลดอาหาร ออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม) มักจะล้มเหลวในระยะยาว2 เราเชื่อว่าเภสัชบำบัดที่คิดค้นล่าสุดนี้จะมีประสิทธิภาพที่จำกัด และเกี่ยวข้องกับประเด็นความปลอดภัยของสารเคมี ซึ่งจะมอบโอกาสทางการตลาดมหาศาลแก่ CLS-1

การสื่อสารทางเคมีของจุลินทรีย์ในลำไส้รู้จักกันในฐานะสาเหตุหลักของโรคอ้วน1 CLS-1 คือมาโครโมเลกุลที่ให้ทางปากโดยไม่มีการดูดซับ ซึ่งจะปรับสมดุลการเผาผลาญของจุลินทรีย์ในลำไส้ผ่านความจำเพาะและความสัมพันธ์ที่สูง วิธีนี้เราเชื่อว่าการดูดซึมของกระบวนการเผาผลาญที่เกี่ยวเนื่องกับโรคอ้วนจะถูกยับยั้งได้

Aptorum Group กำลังทดลองตังบ่งชี้อีก 2 ชนิดผ่านการปรับสมดุลของการสื่อสารทางเคมีของไมโครไบโอต้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางโมเลกุลขนาดใหญ่ ซึ่งทางเราเชื่อว่าจะสามารถปรับตัวใช้งานได้ดี และเราหวังว่าจะได้ประกาศให้ผู้คนทราบถึงการคิดค้นของเราในครั้งนี้ด้วย

เกี่ยวกับ SACT-1: ชนิดยาที่นำมาดัดแปลงใหม่สำหรับการรักษานิวโรบลาสโตมาหรือโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อประสาท

ภายใต้แพลตฟอร์มการคิดค้นยาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของ Smart-ACTTM ซึ่งประกาศเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยบริษัทลูกของ Aptorum Group อย่าง Smart Pharma Group โดย Aptorum Group ได้สกรีนตัวยาราว 1,615 ชนิดผ่านโปรตีนเป้าหมายเพื่อการรักษา 3 ชนิดสำหรับแก้ปัญหาการคาดคะเนโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อประสาทที่ไม่แม่นยำ เช่น ชนิดของโรคมะเร็งที่หายากในเด็กที่เกิดจากเนื้อเยื่อประสาท และที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ กับบริเวณต่อมหมวกไต รวมทั้งกระดูกไขสันหลัง หน้าอก ช่องท้อง หรือคอ3 สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง อัตราการรอดชีวิตของโรคนี้มีประมาณ 40-50% สำรวจโดยสมาคมโรคมะเร็งแห่งอเมริกา4 Aptorum Group ได้ระบุชนิดตัวยาที่นำมาดัดแปลงใหม่ และประเมินตัวยาเหล่านี้ในระดับเซลล์และการทดลองกับสัตว์เพื่อรับรองว่าตัวยาชนิดนี้ใช้ได้กับข้อบ่งชี้ใหม่และประสิทธิภาพที่พัฒนาได้

Aptorum Group กำลังทดลองตัวบ่งชี้อีก 2 ชนิดบนแพลตฟอร์มวิจัย Smart-ACTTM เราหวังว่าจะได้ประกาศให้ผู้คนทราบถึงการคิดค้นของเราในครั้งนี้ด้วย

เกี่ยวกับ Aptorum Group Limited

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) คือบริษัทเวชภัณฑ์ที่อุทิศตนในการพัฒนาและทำธุรกิจการรักษาโรคแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Aptorum Group ยังเดินหน้าคิดค้นโปรแกรมการรักษาโรคต่าง ๆ เช่นโรคประสาท โรคติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับทางเกินอาหาร โรคเนื้องอก และโรคอื่น ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aptorum Group โปรดดูที่ www.aptorumgroup.com

เกี่ยวกับ Claves Life Sciences Limited

Claves Life Sciences Limited เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจยารักษาโรค โดยเป็นบริษัทในเครือของ Aptorum Group Limited ทำหน้าที่คิดค้นพัฒนาตัวยารักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โดยตัวยาที่กำลังวิจัยและมีแนวโน้มพัฒนาต่อไปคือการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ที่มาจากการเผาผลาญอาหารเพื่อป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ Claves ยังค้นหาแพลตฟอร์มการปรับสมดุลจุลินทรีย์ที่สร้างสายพันธุ์โมเลกุลใหม่ ๆ ที่สามารถปรับตัวเข้ากับระดับของกระบวนการเผาผลาญในลำไส้ และยังสามารถใช้รักษาอาการทางการแพทย์ต่าง ๆ ได้อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Smart Pharma Group

Smart Pharma Group ประกอบด้วย Smart Pharmaceutical Limited Partnership, SMTPH Limited และบริษัทในเครืออื่น ๆ Smart Pharma Group เป็นบริษัทในเครือของ Aptorum Group Limited เน้นการนำยารักษาโรคที่ผ่านการรับรองมาใช้ใหม่อย่างเป็นระบบเพื่อการรักษาโรคหายากต่าง ๆ Smart Pharma Group ทำการสกรีนและคิดค้นวินิจฉัยผ่านระบบคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาตัวยาให้มีความทันสมัย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Pharma Group โปรดดูที่ www.smtph.com

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบและข้อความที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Aptorum Group Limited และความคาดหวังในอนาคต แผน และโอกาสในอนาคตซึ่งเป็น “แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปกฎหมายฟ้องร้องหลักทรัพย์เอกชนปี พ.ศ. 2538 ข้อความที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่แถลงการณ์ของข้อเท็จจริงในอดีตอาจถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ในบางกรณีคุณสามารถระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้คำเช่น“ อาจ” “ควร” “คาดว่า” “มีแผนจะ” “คาดการณ์” “อาจจะทำได้” “ตั้งใจว่า” “มีเป้าหมายว่า” “มีโครงการว่า" "พิจารณาจะ" "เชื่อว่า" "ประเมินว่า" "พยากรณ์" "มีศักยภาพจะ" หรือ "จะดำเนินการต่อ"  หรือคำตรงข้ามของคำเหล่านี้หรือสำนวนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน กลุ่ม Aptorum ได้ใช้แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้โดยส่วนใหญ่มาจากความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคตซึ่งบริษัท เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้พูดเฉพาะวันที่ของเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐาน รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ประกาศไว้และการเปลี่ยนแปลงองค์กร การให้บริการอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการขยายการจัดประเภทผลิตภัณฑ์โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มเติม กลยุทธ์การเติบโตของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มและความท้าทายที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจของบริษัท และความคาดหวังเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงอย่างเต็มที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์ม 20-F ของกลุ่ม Aptorum และเอกสารอื่น ๆ ที่กลุ่ม Aptorum อาจทำกับ กลต. ในอนาคต กลุ่ม Aptorum ไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่มีอยู่ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

1 Protein Cell. May; 9(5): 397–403.

2 Obes Surg. 2012 Jun;22(6):956-66

3 https://www.cancer.gov/publications/dictionaries/cancer-terms?expand=N

4 ดู https://www.cancer.org/cancer/neuroblastoma/detection-diagnosis-staging/survival-rates.html.

ติดต่อ:

นักลงทุน: 
โทร: +852 2117 6611 
อีเมล: investor.relations@aptorumgroup.com

สื่อ: 
โทร: + 852 2117 6611 
อีเมล: info@aptorumgroup.com

Aptorum Group ศึกษาวิจัยตัวยาชนิดใหม่ในโมเลกุลสายพันธุ์เล็ก ALS-4 เพื่อรักษาการติดเชื้ออันเกิดจากแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus และ MRSA

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2562

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) (“Aptorum Group”) บริษัทผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ที่เน้นการพัฒนายารักษาโรคชนิดใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกาศว่าบริษัทได้เริ่มวิจัยและพัฒนายาชนิดใหม่ (IND) เพื่อศึกษาในชื่อ ALS-4 ซึ่งเป็นตัวยาโมเลกุลขนาดเล็กสำหรับใช้รักษาโรคติดต่อที่เกิดจากแบคทีเรียสแตฟีโลคอกคัส ออเรียส หรือ Staphylococcus aureus (S. aureus) รวมถึงสแตฟิโลคอกคัส ออเรียสที่ดื้อยา (หรือ MRSA หนึ่งในเชื้อโรคที่รู้จักกันดีในชื่อเชื้อแบคทีเรียดื้อยา) บนพื้นฐานการทดลองต่อต้านเชื้อโรคชนิดใหม่

ตัวยา ALS-4 ได้พัฒนามาเป็นอย่างดีและการศึกษาเกี่ยวกับพิษวิทยาผ่านระบบคุณภาพที่ช่วยจัดการห้องปฏิบัติการให้มีมาตรฐาน (GLP) ได้ประสบความสำเร็จโดยสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ โดยทั่วไปแล้ว ตัวยา ALS-4 จะไม่แสดงการเปลี่ยนพันธุกรรมในการทดสอบฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การพัฒนา ALS-4 อยู่ระหว่างการดำเนินงานและบริษัทวางแผนเสนอการวิจัยและพัฒนายาชนิดใหม่นี้ในครึ่งปีแรก 2563 ส่วนการทดสอบกึ่งคลินิกเฟส 1 ได้ถูกวางแผนในอเมริกาเหนือจากทั้งอาสาสมัครสุขภาพดีและผู้ป่วยที่ได้รับผลของประสิทธิภาพขั้นแรกเริ่ม

S. aureus คือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางกระแสเลือด ปอด ผิวหนัง กระดูก และอุปกรณ์ รวมทั้งโรคที่เกิดจากสารพิษ1 มีการประเมินว่าผู้ป่วยที่เกิดจากแบคทีเรีย S. aureus มีอัตราการเสียชีวิต 30%2 และสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อเอดส์ วัณโรค และไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง3 MRSA, vancomycin-intermediate และ S. aureus ที่ดื้อยาทั้งหมดได้ถูกระดับเป็นโรคสำคัญสำหรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องวิจัยและพัฒนา4

เกี่ยวกับ ALS-4

ALS-4 คือตัวยาที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่เชื่อว่าสามารถยับยั้ง dehydrosqualene desaturase  ของ S. aureus (รวมถึง MRSA) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ staphyloxanthin หรือเม็ดสีทองหุ้มแบคทีเรียที่เห็นได้ชัด หรือช่วยแบคทีเรียต่อต้านอนุพันธ์ออกซิเจนที่ว่องไว (ROS) ที่ส่งจากเซลล์ฟาโกไซต์และเม็ดเชือดขาวนิวโตรฟิล5 ในกรณีนี้ ALS-4 ไม่ใช่การฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และการยับยั้งกระบวนการผลิต staphyloxanthin และ S. aureus จะว่องไวต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ทดลอง ALS-4 ใช้วิธีจับใหม่ ๆ ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งต่างจากวิธีกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่มักพบในยาปฏิชีวนะที่ส่งเสริมการดื้อยา

เกี่ยวกับ Aptorum Group Limited

Aptorum Group Limited (Nasdaq: APM) คือบริษัทเวชภัณฑ์ที่อุทิศตนในการพัฒนาและทำธุรกิจการรักษาโรคแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Aptorum Group ยังเดินหน้าคิดค้นโปรแกรมการรักษาโรคต่าง ๆ เช่นโรคประสาท โรคติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับทางเกินอาหาร โรคเนื้องอก และโรคอื่น ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aptorum Group โปรดดูที่ www.aptorumgroup.com

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบและข้อความที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Aptorum Group Limited และความคาดหวังในอนาคต แผน และโอกาสในอนาคตซึ่งเป็น “แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติปฏิรูปกฎหมายฟ้องร้องหลักทรัพย์เอกชนปี พ.ศ. 2538 ข้อความที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่แถลงการณ์ของข้อเท็จจริงในอดีตอาจถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ในบางกรณีคุณสามารถระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้คำเช่น“ อาจ” “ควร” “คาดว่า” “มีแผนจะ” “คาดการณ์” “อาจจะทำได้” “ตั้งใจว่า” “มีเป้าหมายว่า” “มีโครงการว่า" "พิจารณาจะ" "เชื่อว่า" "ประเมินว่า" "พยากรณ์" "มีศักยภาพจะ" หรือ "จะดำเนินการต่อ"  หรือคำตรงข้ามของคำเหล่านี้หรือสำนวนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน กลุ่ม Aptorum ได้ใช้แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้โดยส่วนใหญ่มาจากความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคตซึ่งบริษัท เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้พูดเฉพาะวันที่ของเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐาน รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการที่ประกาศไว้และการเปลี่ยนแปลงองค์กร การให้บริการอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการขยายการจัดประเภทผลิตภัณฑ์โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มเติม กลยุทธ์การเติบโตของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มและความท้าทายที่คาดการณ์ไว้ในธุรกิจของบริษัท และความคาดหวังเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงอย่างเต็มที่อธิบายไว้ในแบบฟอร์ม 20-F ของกลุ่ม Aptorum และเอกสารอื่น ๆ ที่กลุ่ม Aptorum อาจทำกับ กลต. ในอนาคต กลุ่ม Aptorum ไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่มีอยู่ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

Clin Microbiol Rev. 2015 Jul;28(3):603-61.

2 Clin Microbiol Rev. 2012 Apr;25(2):362-86

3 Van Hal et al. Clin Microbiol Rev 2012

4 https://www.who.int/news-room/detail/27-02-2017-who-publishes-list-of-bacteria-for-which-new-antibiotics-are-urgently-needed

5 mBio 2017 8(5): e01224-17

ติดต่อ:

นักลงทุน: 
โทร: +852 2117 6611 
อีเมล: investor.relations@aptorumgroup.com

สื่อ: 
โทร: + 852 2117 6611 
อีเมล: info@aptorumgroup.com

The Bangkok Reporter