i2c สร้างสถิติด้านอุตสาหกรรมพร้อมการใช้งานใหม่มากกว่า 20 รายการผ่าน 10 ตลาดในเดือนพฤศจิกายน

Logo

ผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลกและธนาคารดิจิทัลรายงานความต้องการทางด้านบริการทั่วโลกที่แข็งแกร่ง พร้อมการใช้งานใหม่อีก 50 รายการซึ่งมีกำหนดจะแล้วเสร็จก่อนไตรมาสที่ 1 ปี 2565

เรดวูดซิตี้ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–07 ธันวาคม 2564

i2c Inc. ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการชำระเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีการธนาคาร ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ปรับใช้โปรแกรมการชำระเงินและธนาคารดิจิทัลใหม่มากกว่า 20 รายการ สำหรับลูกค้าผ่าน 10 ตลาดและ 4 ทวีป ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว

"ระดับการเติบโตที่ผสมผสานกับความหลากหลายของลูกค้าและโปรแกรมต่าง ๆ ที่เราพบเห็นในธุรกิจของเราในวันนี้ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงกลยุทธ์การเติบโตและทีมงานระดับโลกของเรา" Amir Wain ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ i2c Inc. กล่าว "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นทางเลือกสำหรับผู้มีวิสัยทัศน์ในด้านการชำระเงินและพื้นที่ธนาคารดิจิทัล ขณะที่พวกเขาทำงานเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมทางการเงินและขยายการเข้าถึงไปยังผู้ใช้ปลายทางหลายล้านคนทั่วโลก” เขากล่าว

i2c ขับเคลื่อนผู้นำด้านอุตสาหกรรมในฟินเทค ธนาคารดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัล และสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมบนแพลตฟอร์มเดียวทั่วโลกที่คล่องตัว ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีงบประมาณนี้รวมถึงพันธมิตรองค์กรรายใหม่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และการขยายโปรแกรมทั่วโลกสำหรับโปรแกรมต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ รวมถึง: 1derful (ออสเตรเลีย), BEYON Money (บาห์เรน), Caary (แคนาดา), Crypto.com (บราซิล), Standard International Bank (เปอร์โตริโก), Solid (สหรัฐอเมริกา) และ TAG (ปากีสถาน)

i2c ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์และบริการการชำระเงินที่หลากหลายตั้งแต่บัตรเดบิตและบัตรเติมเงินไปจนถึงการให้สินเชื่อ (ทั้งสินเชื่อผู้บริโภคและสินเชื่อเชิงพาณิชย์ รวมถึง BNPL และ LOC) ที่มีการเข้าถึงพันธมิตรเครือข่ายรายใหญ่ทุกราย (American Express, Discover, Mastercard, Visa และ Union Pay) นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการด้านการธนาคารและการชำระเงินที่มีมูลค่าเพิ่มแก่พันธมิตร เช่น การป้องกันการฉ้อโกง ศูนย์ติดต่อ การบริหารข้อพิพาท ตลอดจนเว็บในรูปแบบ white-label และแอปมือถือต่าง ๆ

เกี่ยวกับ i2c Inc.

i2c เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันการชำระเงินและการธนาคารที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ด้วยการใช้เทคโนโลยี "building block" ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ i2c ลูกค้าสามารถสร้างและจัดการชุดโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับเครดิต เดบิต การชำระล่วงหน้า การให้ยืม และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า i2c มอบความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือที่เหนือชั้นจากแพลตฟอร์ม SaaS เดียวทั่วโลก i2c ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 และมีสำนักงานใหญ่ในซิลิคอนแวลลีย์ เทคโนโลยียุคหน้าของ i2c รองรับผู้ใช้หลายล้านคนในกว่า 200 ประเทศ/เขตแดนและในทุกเขตเวลา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.i2cinc.com และติดตามเราได้ที่ @i2cinc

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211207005335/en/

ติดต่อ:

Heather Clifton
Chief Marketing Officer
media@i2cinc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี ด้วยพลังของชาวเกาหลี! มาสัมผัสกับ Metaverse โดยการเปิดคอนเสิร์ต ‘K-VIBE CONCERT’ คอนเสิร์ตที่ใช้ Metaverse เพื่อเพิ่มความเสมือนจริง

Logo

– คอนเสิร์ต metaverse ครั้งแรกในเกาหลีโดยใช้ ZEPETO Live –

– 'HAHAHOHO Gyeongju World' ที่คุณสามารถสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมของชิลลาและเสน่ห์ของคยองจูได้ในเวลาเดียวกัน

โซล, เกาหลีใต้–กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (รัฐมนตรีฮวังฮี) และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (ประธาน อัน ยอง แบ) ได้มีการ จัดคอนเสิร์ต 'K-VIBE CONCERT' Metaverse โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง(XR) สอดคล้องกับยุคของไวรัสโควิด (ฟื้นฟูชีวิตประจำวันที ละขั้นตอน) และกระแสการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล       

The Ministry of Culture, Sports, and Tourism and the Korea Tourism Organization have organized the K-VIBE CONCERT, a metaverse concert made possible through XR. The K-VIBE CONCERT is held on December 8th. It will feature leading musical artists representing K-Pop from the 1st to the 4th generation, including BoA, SHINee's Key, aespa, DJ Raiden, Brave Girls, Mommy Son, and Wonstein. The dance crew LACHICA, immensely popular following their appearance on the Street Woman Fighter TV program, will also be in attendance, performing a dance highlighting Korea's unique character. (Graphic: Business Wire)

K-VIBE CONCERT ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 (วันพุธ) ของเดือนนี้โดยใช้ XR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของ Metaverse นำเสนอความงดงาม ของทั่วประเทศเกาหลีให้กับคนเจนใหม่ทั่วโลก พร้อมทั้งจัดเตรียมการต่างๆมาเพื่อนำเสนอประสบการณ์ และแรงบันดาลใจใหม่ๆ สำหรับการท่องเที่ยวในเกาหลี

คอนเสิร์ตนี้จะตกแต่งด้วยองค์ประกอบที่มีสีสันและอุดมไปด้วยคอลเลกชันของเนื้อหาเกี่ยวกับการเต้นรำ, ละคร, ความงาม และเว็บตูนซึ่งเริ่มต้นจาก K-POP โดยในคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังมีตัวแทนของคลื่นเกาหลีในแต่ละยุคตั้งแต่ยุคที่ 1 ถึงยุคที่ 4  นักร้องคีย์ของ SHINee และโบอา ที่เปรียบเสมือนผู้บุกเบิกของ K-POP และศิลปินรุ่นใหม่เช่น aespa, Brave Girls, DJ Raiden, Mommy Son, Wonstein เพื่อเข้ามาดึงดูดสายตาของคนเจนใหม่ทั่วโลก

ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ยังมีการเข้าร่วมของนักเต้น 'LACHICA' ซึ่งได้รับความรักมากมายผ่าน 'Street Woman Fighter' โดยจะเข้ามานำเสนอการเต้นที่แสดงสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีด้วย พร้อมทั้งนักเขียนเว็บตูนระดับโลก 'ยาองอี' จะปรากฏตัวและเข้าร่วมกิจกรรมในหัวข้อ 'เคล็ดลับและกลเม็ดสำคัญ K-BEAUTY' ซึ่งจะไม่เพียงแต่กำหนดเป้าหมายรสนิยม ของคนเจนใหม่ทั่วโลก แต่ยังกระตุ้นความต้องการที่จะไปเยือนเกาหลีอีกด้วย ในคอนเสิร์ตนี้จะมีพิธีกรที่ดำเนินรายการและเป็นล่าม โดยคุณอัน ฮยอน โม และอนุปัม ตรีปาฐิ ที่โด่งดังไปทั่วโลกผ่านละครของ Netflix เรื่อง 'Squid Game' และคาดว่าจะมอบความสนุก อีกครั้งด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา

K-VIBE CONCERT เป็นคอนเสิร์ต metaverse ครั้งแรกในเกาหลีที่ใช้ฟังก์ชันสดของ ZEPETO บนแพลตฟอร์ม metaverse ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีวางแผนที่จะอนุญาตให้คนเจนใหม่ทั่วโลกรับชมคอนเสิร์ต K-VIBE ผ่าน ZEPETO Live และในวันที่ 2 ธันวาคม(พฤหัส)มีแผนการจะเปิดแผนที่เหมือนจริงด้วย metaverse ของ ZEPETO เพื่อดู 'HAHAHOHO Gyeongju World' ที่ยังคงสงวนไว้ถึงมรดกทางวัฒนธรรมสมัยชิลลา

โบราณสถานของคยองจูที่ยังคงหลงเหลือรวมถึงวัฒนธรรมที่รุ่งโรจน์ของชิลลา เช่น Cheomseongdae, Cheonmachong , Poseokjeong Pavilion Donggung Palace and Wolji Pond และ Royal Tomb of King Michu และถนนฮวังรีทัลที่มี ความสมัยใหม่ ถูกนำมาแสดงด้วย metaverse ผ่านงาน ' HAHAHOHO Gyeongju World' ตั้งอยู่ในเมืองคยองจูพร้อมกับการผสมผสาน มรดกทางวัฒนธรรมในปัจจุบัน จนกลายเป็นพื้นที่ ที่คุณสามารถสัมผัสวัฒนธรรม 'สุดฮิป' ของเกาหลีได้ในที่เดียว  องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีต้องการเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมของชิลลา ไปพร้อมกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองคยองจู เช่น Gyeongju Gyochon Traditional Village เพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นถึงความงดงามของเกาหลีใต้

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจะใช้สถานที่ยอดนิยมของเมืองคยองจู เช่น Hwangnam Bakery, Yangji Coffee Shop และ Sina Self Photography Studio ในพื้นที่ metaverse และให้การส่งเสริมความร่วมมือกับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในแง่ของ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล) องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีกำลังวางแผนที่จะมอบคูปองส่วนลดและคูปองอัดรูปให้กับผู้เข้าชม HAHAHOHO Gyeongju World' คูปองส่วนลดที่ให้ในครั้งนี้ สามารถใช้ได้จริงเมื่อไปที่ร้านธุรกิจขนาดเล็กทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ Hwangnam Bakery, Yangji Coffee Shop และ Sina Self Photography Studio ดาวน์โหลดคูปองส่วนลดและคูปองอัดรูปนี้ ใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2021 และสามารถใช้ได้จริงที่เมืองคยองจูจนถึงสิ้นปี 2022  องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ได้จัดทำโซนภาพถ่ายร่วมกับ สายการบิน Korean Air และมอบเป็นของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมถ่ายรูปที่ระลึกสำหรับการสัมผัส ประสบการณ์แผนที่ในงานด้วย

โอ ชุง ซ็อป หัวหน้าทีมการตลาดแบรนด์ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีกล่าวว่า “ในขณะที่โลกให้ความสนใจเกาหลีผ่านความสำเร็จ ของคอนเทนต์ ฮันรยูต่างๆ K-VIBE CONCERT จะเป็นโอกาสสร้างความประทับใจให้คนเจนใหม่ทั่วโลก ได้มีความต้องการท่องเที่ยวเกาหลี” เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า  K-VIBE CONCERT คอนเสิร์ต metaverse ครั้งแรกในเกาหลีที่จะจัดขึ้นและ 'HAHAHOHO Gyeongju World' ซึ่งคุณสามารถพบกับมรดกทางวัฒนธรรมของคยองจูและวัฒนธรรมสมัยใหม่ในปัจจุบันจะได้รับความสนใจและเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก”

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52544577/en

ติดต่อ:

Korea Tourism Organization

Brand Marketing Team

Choongsub Oh

+82-33-738-3331

ocs@knto.or.kr

Kichan Nam

+82-33-738-3335

yuki4@knto.or.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ต้นแบบด้านความยั่งยืน

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–2 ธันวาคม 2564

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ได้รับรางวัล Taiwan University Sustainability Award ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับองค์กรและบริษัทที่อยู่ในไต้หวันและได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืน จากงาน Taiwan Corporate Sustainability Awards (TCSA) ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดโดยสถาบัน Taiwan Institute for Sustainable Energy (TAISE) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวามีความโดดเด่นจาก 38 มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในการประเมินภาพรวม และในการแข่งขันรายบุคคลยังได้รับรางวัล Social Inclusion Leadership Award และ University Sustainability Report Gold Award อีกด้วย

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูออย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211202005031/en/

National Tsing Hua University was awarded the Taiwan University Sustainability Award. President Hocheng Hong (center) and Chief Sustainability Officer Tai Nyan-hwa (second from the left), Sustainability Office Director Lin Fu-ren (first from the left), Vice President and Chief of Staff King Chung-Ta (second from the right), Dean of International College Doong Ruey-an (first from the right). (Photo: National Tsing Hua University)

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ได้รับรางวัล Taiwan University Sustainability Award. Hocheng Hong (กลาง) อธิการบดี และ Tai Nyan-hwa (คนที่สองจากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน, Lin Fu-ren (คนแรกจากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานความยั่งยืน, King Chung-Ta (คนที่สองจากขวา) รองอธิการบดีและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพนักงาน), Doong Ruey-an (คนแรกจากขวา) คณบดีวิทยาลัยนานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา)

คณะกรรมการตัดสินกล่าวถึงแนวทางที่เป็นแบบอย่างซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาได้บ่มเพาะจากความสามารถหลัก ๆ ด้านการสอนและการวิจัยเพื่อตอบสนองต่อการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมตามข้อกำหนดของการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการดำเนินโครงการรณรงค์ทั่วทั้งวิทยสาขาเพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ พวกเขายังประทับใจในจรรยาบรรณการทำงานของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาที่เน้นความหลากหลายและความเท่าเทียม ตลอดจนการมอบรางวัลให้แก่คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่มีผลงานโดดเด่นในด้านการวิจัย การสอน การให้คำปรึกษา และการบริการสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อสังคมในวงกว้างและช่วยยกระดับชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติ ในแง่ของความยั่งยืนนั้น มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาได้แสดงออกตามคำขวัญของมหาวิทยาลัยเสมอมา โดยคำขวัญนั้นคือ การเป็นตัวของตัวเองและช่วยดูแลธรรมชาติ “To Oneself Be True, Give Nature Its Due” 

Hocheng Hong อธิการบดีมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ความงามตามธรรมชาติของมหาวิทยาลัยเดินหน้าไปพร้อมกับหลักการของความยั่งยืน นอกเหนือจากการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในไต้หวันที่แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความยั่งยืนแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวายังมีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนในระดับปริญญาตรีทั้งหมด 517 หลักสูตร และระดับบัณฑิตศึกษา 216 หลักสูตร ซึ่งรวมกันเป็น 13% ของหลักสูตรในมหาวิทยาลัย

Tai Nyan-hwa รองอธิการบดีอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาชี้ให้เห็นว่า เพื่อให้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนในทุกระดับลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฝ่ายธุรการและวิชาการแต่ละแห่งจึงได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน โดยทั้ง 26 คนเป็นสมาชิกของคณะกรรมการความยั่งยืน ซึ่งจะมีการประชุมกันทุก ๆ สองเดือนเพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงและพัฒนาล่าสุดและประสานงานการดำเนินการต่าง ๆ

Lin Fu-ren ผู้อำนวยการสำนักงานความยั่งยืน กล่าวว่า เนื่องจากการวิจัย การสอน และการบริการสาธารณะเป็นงานที่สำคัญที่สุดของมหาวิทยาลัย ความพยายามในช่วงแรก ๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนจึงเน้นที่การส่งเสริมให้ครู นักวิจัย และนักศึกษาบูรณาการหลักการของความยั่งยืนเข้าไว้ในงานที่กำลังปฏิบัติอยู่ คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาจำนวนมากกำลังดำเนินการวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ 17 เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ในกระบวนการนี้ พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าการมุ่งความสนใจไปที่ปัญหาจะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้อย่างไร

Lin Fu-ren กล่าวอีกว่านอกเหนือจากทุน Rising Sun ที่สนับสนุนนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการเงินอย่างต่อเนื่องแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวายังได้จัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบความยากลำบากอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เชื่อมโยงกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติที่ว่า "ความยากจนจะต้องไม่มี" และ “การศึกษาที่มีคุณภาพ”

Lin Fu-ren ยังชี้ให้เห็นอีกว่าการทำให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นจริงนั้นต้องหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนไว้ในหัวใจของนักศึกษา ดังนั้นเมื่อเรียนจบ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะงอกงามและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในสังคม

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211202005031/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Honor to Knight! เปิดตัวผลิตภัณฑ์ DRAG S/X PnP-X Kit

Logo

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE)–02 ธันวาคม 2564

ในเดือนพฤศจิกายน VOOPOO ได้ประกาศเปิดตัว DRAG S/X PnP-X KIT ในต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ดำเนินการอัปเกรดทางเทคนิคอย่างครอบคลุมบนพื้นฐานของ DRAG S/X มอบแนวคิดหลักของ "ความกล้าหาญ" ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ และยกย่องความรุ่งโรจน์และคุณธรรมของอัศวิน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211202005381/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

โดยมีต้นกำเนิดมาจากจิตวิญญาณแห่งศิลปะการต่อสู้ของเยอรมันในยุคกลาง จิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญจึงถูกรวมไว้ในทหารของสนามรบยุโรปในศตวรรษที่ 11 และผู้พิทักษ์จักรพรรดิและนักรบของพระคริสต์ ทุกวันนี้ ความกล้าหาญยังคงดำเนินต่อไปในวัฒนธรรมและแสดงออกอย่างมีเกียรติในฐานะสุภาพบุรุษ แม้กาลเวลาจะผ่านไป สิ่งเดียวที่คงอยู่คือศรัทธาที่อัศวินยึดมั่นและคุณธรรมแปดประการของอัศวินที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของพวกเขา หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคกลางในตำนานและขุดค้นแก่นของความกล้าหาญ การออกแบบของ VOOPOO และบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาก็ประทับใจอย่างสุดซึ้ง ข้อเสนอหลักสี่ประการของ " เกียรติยศ" " ความกล้าหาญ" "ความยุติธรรม" และ "จิตวิญญาณ" รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ DRAG S/X PnP-X KIT เพื่อให้ผู้บริโภคได้ค้นพบ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกครั้งเป็นการหลอมรวมของ VOOPOO และความหมายแฝงของอัศวิน และก้อนเมฆทุกชิ้นเป็นภาพจิตวิญญาณของอัศวินที่รีบเร่งไปยังสนามรบอย่างกล้าหาญ

DRAG S/X PnP-X KIT มีให้เลือกสีอัศวินใหม่ถึงห้าสี ซึ่งแต่ละสีแสดงถึงภาษาการออกแบบที่หลากหลาย Shield Gold – Knight Templar เพื่อปกป้องความยุติธรรม Knight Red – อัศวินสวมหน้ากากเพื่อการแสวงหาความยุติธรรม Knight Chestnut – อัศวินมังกรผู้พิทักษ์เกียรติยศ Eagle Black – อัศวินดำผู้กล้าหาญและไม่เกรงกลัว Knight Grey – ผู้พิทักษ์เพื่อจิตวิญญาณ

PnP-X Pod นั้นแสดงจิตวิญญาณของอัศวิน โดยวัสดุโลหะและปุ่มเติมที่ด้านบนได้รับการอัปเกรด และสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ปากสูบ 510 drip tip ได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ป้องกันการรั่วซึม สะดวก และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มาปลดปล่อยจิตวิญญาณของอัศวินด้วย PnP-X Pod จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่สนุกสนานในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ผลิตภัณฑ์ชุดอัศวินนำเสนอ "ระบบไหลเวียนของอากาศที่ไม่มีที่สิ้นสุด" ที่รองรับการปรับทางเดินหายใจ ยิ่งไปกว่านั้น อัศวินเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความเป็นวีรบุรุษ DRAG S/X PnP-X KIT รวบรวมจิตวิญญาณความกล้าหาญของอัศวิน มาพร้อมกับชิป GENE.TT อันทรงพลัง และกำลังไฟที่ปรับได้ตั้งแต่ 5-60/80w ผลิตภัณฑ์สามารถเริ่มใช้ได้ใน 0.001 วินาที มีฮาร์ดแวร์อันทรงพลังเพียงพอที่อัศวินทุกคนสามารถพุ่งเข้าสู่การต่อสู้โดยไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ

ภารกิจของอัศวินคือการปกป้องประเทศและดินแดน ความรุ่งโรจน์ ศรัทธา และเจ้าหญิงอันเป็นที่รักในหัวใจของพวกเขา DRAG S/X PnP-X KIT ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ในตัว 2500 mAh และแบตเตอรี่ภายนอก 18650 ตามลำดับ อินเทอร์เฟซการชาร์จอย่างรวดเร็วของ Type-C 5V/2A ช่วยให้อัศวินทุกคนได้รับเลือดอย่างเต็มที่เพื่อให้ฟื้นคืนชีพในทันที เพื่อปกป้อง DRAG S/X PnP-X KIT คือการปกป้องจิตวิญญาณของอัศวิน ความหมายแฝงทางวัฒนธรรมที่สืบทอดและสร้างสรรค์มาเป็นเวลานับพันปี

DRAG S/X PnP-X KIT ได้รับการอัปเกรดโดยอิงจาก DARG S&DARG X จุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดคือการอัปเกรดเครื่องทำละอองแบบครอบคลุม และอีกประการหนึ่ง PnP X Pod ได้อัปเกรดแหวนตกแต่งโลหะด้วยพื้นผิวแบบอัศวิน อีกทั้งปุ่มเติมด้านบนใช้งานสะดวกมากขึ้น โดยการออกแบบป้องกันการรั่วซึมมีความรัดกุมมากขึ้น และสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ปากสูบ 510 drip tip ได้ทุกเมื่อ กล่าวโดยย่อว่าการอัปเกรด DRAG S/X PnP-X KIT นั้นครอบคลุมและคุ้มค่าที่จะซื้อ ในขณะเดียวกันนักสูบที่ชอบรูปลักษณ์ของอัศวินก็ไม่ควรพลาดผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดนี้ด้วย "จิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ" มาร่วมแสดงความยกย่องสรรเสริญแด่อัศวินไปด้วยกัน!

ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของ DRAG S/X PnP-X KIT และ DARG S/X PRO นั้นแตกต่างกัน DARG S/X PRO เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักสูบมืออาชีพที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์กับพลังที่มากขึ้นและหมอกควันที่ใหญ่ขึ้น

VOOPOO ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 มีการเติบโตอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้นและขณะนี้จำหน่ายออกไปทั่วโลกแล้ว VOOPOO เป็นองค์กรไฮเทคที่รวมการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต และการดำเนินงานของแบรนด์ โดยมีชุดผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดสี่ชุดด้วยกันคือ: DRAG, VINCI, ARGUS และ V Series ทั้งนี้ VOOPOO มีพนักงานมากกว่า 3000 คนทั่วโลก และธุรกิจของบริษัทครอบคลุมกว่า 70 ประเทศและภูมิภาคในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

คำเตือน: ผลิตภัณฑ์นี้อาจใช้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำยาที่มีนิโคติน ทั้งนี้นิโคตินเป็นสารเคมีมีฤทธิ์ในทางการเสพติด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://www.voopoo.com/ และสามารถติดตามเพจของเราได้ที่ IGFacebook และ TikTok 

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211202005381/en/

ติดต่อ:

สื่อ: Tingkai Xu
ตำแหน่ง:ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ (Senior PR Manager):
หมายเลขโทรศัพท์: 15957944779

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LintonPharm ประกาศว่ามีผู้ป่วยรายแรกที่ไม่ตอบสนองต่อ BCG ได้รับ Catumaxomab ในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 ในการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามกล้ามเนื้อ

Logo

กวางโจ, จีน–(BUSINESS WIRE)–01 ธันวาคม 2564

LintonPharm Co., Ltd. บริษัทชีวเภสัชกรรมทางคลินิกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาที-เซลส์ (T-cell) ของแอนติบอดีชนิด bispecific สำหรับการรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด วันนี้ประกาศว่ามีผู้ป่วยรายแรกที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วย Bacillus Calmette-Guerin (BCG) ได้รับ catumaxomab (clinicaltrials.govNCT04799847) ในโครงการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1/2 ของบริษัท ซึ่ง catumaxomab เป็นโมโนโคลนัลแอนติบอดีชนิด bispecific ที่กำลังมีการศึกษาสำหรับการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลาม (NMIBC)

Robert Li, PH.D., DABT, ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ LintonPharm กล่าวว่า “การเริ่มทดลองใช้ catumaxomab ระยะที่ 1 สำหรับการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามเป็นขั้นตอนสำคัญในโปรแกรมทดลองทางคลินิกของเราเพื่อประเมิน catumaxomab ว่าเป็นการรักษาแบบกำหนดเป้าหมายในมะเร็งประเภทต่าง ๆ ได้หรือไม่ ผู้ป่วยที่ล้มเหลวจากการรับ BCG เพื่อรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามต้องมีวิธีการรักษาใหม่เนื่องจากข้อจำกัดของการรักษาในปัจจุบันที่นำมาซึ่งการวินิจฉัยที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น อัตราการกลับมาเป็นเนื้องอกอยู่ในระดับสูง ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ และอาการแทรกซ้อนตลอดอายุขัย จากข้อมูลก่อนการทดลองและประสบการณ์ทางคลินิกกับผู้ป่วยที่เคยได้รับ catumaxomab ในอดีตผ่านโปรแกรมการนำยามาใช้รักษาผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้าร่วมการวิจัย เราหวังว่า catumaxomab จะเป็นการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามที่ล้มเหลวจากการรับยา BCG”

การตีพิมพ์ล่าสุดระบุถึงประโยชน์ของการรักษาโดยใช้ catumaxomab ในฐานะยาที่นำมาใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามและมีโมเลกุลยึดเกาะของเซลล์เยื่อบุผิว (EpCAM) มีการบันทึกไว้ว่า catumaxomab นั้นมีความทนทานและประสิทธิภาพที่ดีในการควบคุมเนื้องอก[1] จากข้อมูลและศักยภาพในการพัฒนา catumaxomab สามารถมอบการรักษาที่เป็นเห็นผล ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วย มะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามหากได้รับการอนุมัติ

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่ได้รับการวินิจฉัยมากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ของโลก โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 573,000 รายในปี 2563 และประมาณ 75% ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลาม[2][3] ปัจจุบัน การรักษาหลักของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลาม ได้แก่ การผ่าตัดผ่านท่อปัสสาวะ เคมีบำบัด และการให้ยา BCG ทางเส้นเลือด[3]

เกี่ยวกับ Catumaxomab

Catumaxomab ได้รับการอนมัติจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ในปี 2552 สำหรับการรักษาโรคท้องบวม แอนติบอดีชนิด bispecific นี้จับกับไกลโคโปรตีนชนิดทรานส์เมมเบรนบนเซลล์เนื้องอก ซึ่งเป็นโมเลกุลยึดเกาะของเซลล์เยื่อบุผิว (EpCAM) และ CD3 บนที-เซลล์ (T-cell) และยังคัดเลือกเซลล์เสริมภูมิคุ้มกันผ่านการจับ FcγR ซึ่ง Catumaxomab จะทำลายเซลล์เนื้องอกโดยกระตุ้นที-เซลส์และเซลล์เสริมที่เป็นสื่อกลางในการเกิด cytotoxicity และมีศักยภาพในการก่อให้เกิดผลของวัคซีนในระยะยาวซึ่งได้รับการตรวจสอบแล้วในสัตว์ทดลอง

เมื่อเร็วๆ นี้ catumaxomab ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน ไต้หวัน และ เกาหลีใต้ให้ทำการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ระดับโลกสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลาม (clinicaltrials.govNCT04222114)

เกี่ยวกับ LintonPharm

LintonPharm Co. , Ltd. เป็นบริษัทชีวเภสัชกรรมที่มุ่งเน้นการวิจัยทางคลินิกซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรม ที-เซลส์ (T-cell) ที่เกี่ยวข้องกับแอนติบอดีชนิด bispecific โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนมะเร็งร้ายให้เป็นโรคที่สามารถจัดการได้และอาจรักษาให้หายได้ LintonPharm กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มแอนติบอดีชนิด bispecific หลายแบบที่มาพร้อมกับศักยภาพด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การเกิดผลของวัคซีนในระยะยาว และประสิทธิภาพของ CMC โครงการในปัจจุบันได้แก่การพัฒนาแนวทางการรักษามะเร็งเม็ดเลือดและเนื้องอกชนิดแข็ง โมเลกุลชั้นนำอย่าง catumaxomab กำลังได้รับการประเมินในการทดลองทางคลินิกสำหรับรักษาทั้งมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลามและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามกล้ามเนื้อ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.lintonpharm.com

[1]. Ruf P, Bauer HW, Schoberth A, Kellermann C, Lindhofer H (2021). First time intravesically administered trifunctional antibody catumaxomab in patients with recurrent non muscle invasive bladder cancer indicates high tolerability and local immunological activity. Cancer Immunology, Immunotherapy. http://doi.org/10.1007/s00262-021-02930-7

[2]. World Health Organization (WHO). Globocan 2020. Global Cancer Observatory. สืบค้นเมื่อ 7 มกราคม 2564. https://gco.iarc.fr/

[3]. Kamat AM, Hahn NM, Efstathiou JA, et al. (2016) Bladder cancer. Lancet 2016. 388: 2796-810. http://dx.doi.org/10.1016/S0140-6736(16)30512-8

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211201005307/en/

สื่อในสหรัฐฯ ติดต่อ:
Tim Hay
The Grace Communication Group
tim@gracegroup.us

สื่อในเอเชียแปซิฟิกติดต่อ:
Mia He
LintonPharm
jingyi.he@lintonpharm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Square Inc. เปลี่ยนชื่อเป็น Block

Logo

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้แบรนด์ Square ซึ่งเป็นผู้ให้บริการผู้ขาย มีชื่อที่แตกต่างจากองค์กร

ซานฟรานซิสโก–(บิสิเนสไวร์)–02 ธ.ค. 2564

Square, Inc. (NYSE: SQ) ประกาศในวันนี้ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น Block โดย Block จะเป็นชื่อของบริษัท  ชื่อของ Square เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการผู้ขาย ซึ่งนำเสนอระบบนิเวศแบบบูรณาการของโซลูชันการค้า ซอฟต์แวร์ธุรกิจ และบริการด้านการธนาคารสำหรับผู้ขาย  และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ธุรกิจผู้ขายสามารถเป็นเจ้าของแบรนด์ Square ที่สร้างขึ้นได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211201006139/en/

Block logo in white

โลโก้ Block บนพื้นสีขาว

การเปลี่ยนชื่อเป็น Block เป็นการเน้นย้ำถึงการเติบโตของบริษัท  นับตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2552 บริษัทได้เพิ่ม Cash App, TIDAL และ TBD54566975 และการเปลี่ยนชื่อจะช่วยสร้างพื้นที่สำหรับการเติบโตต่อไป  Block เป็นระบบนิเวศที่ครอบคลุมธุรกิจจำนวนมากที่รวมกันเป็นหนึ่งโดยจุดประสงค์ในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจ และให้บริการผู้คนจำนวนมาก ได้แก่ บุคคล ศิลปิน แฟนๆ นักพัฒนา และผู้ขาย

“เราสร้างแบรนด์ Square สำหรับธุรกิจผู้ขายของเรา และควรเป็นเช่นนั้นต่อไป” Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Block กล่าว “Block เป็นชื่อใหม่ แต่จุดประสงค์ในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของเรายังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าเราจะเติบโตหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราจะยังคงสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงเศรษฐกิจ”

การเปลี่ยนชื่อเป็น Block ทำให้บริษัทแตกต่างจากธุรกิจและองค์ประกอบอื่นๆ อย่างไรก็ตามจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร และ Square, Cash App, TIDAL และ TBD54566975 จะยังคงรักษาแบรนด์ของตนต่อไป  บุคลากรพื้นฐาน รวมถึงทีมต่างๆ เช่น ที่ปรึกษา บุคลากร และฝ่ายการเงิน จะยังคงช่วยแนะนำระบบนิเวศในระดับองค์กรต่อไป  เนื่องจากการเปลี่ยนชื่อนี้ ทาง Square Crypto ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มแยกต่างหากของบริษัทที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนา Bitcoin จะเปลี่ยนชื่อเป็น Spiral

ชื่อนี้มีความหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทมากมาย เช่น การสร้างบล็อค, กลุ่มเพื่อนบ้านและธุรกิจในท้องถิ่น ชุมชนที่มารวมตัวกันที่งานปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยดนตรี บล็อคเชน ส่วนของโค้ดโปรแกรม และอุปสรรคที่เราจะก้าวข้าม

Square, Inc. ถูกเรียกว่า “Block” ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ชื่อตามกฎหมาย “Square, Inc.” คาดว่าจะเปลี่ยนเป็น “Block, Inc.” อย่างถูกกฎหมายในหรือประมาณวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 หลังจากปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งหมด  สัญลักษณ์หุ้นสามัญ NYSE ของบริษัท “SQ” จะไม่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้  การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอนาคตจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ผู้ถือหุ้นปัจจุบันไม่ต้องดำเนินการใดๆ  หุ้นสามัญ Class A ของบริษัทจะยังคงจดทะเบียนอยู่ใน NYSE และ CUSIP จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.block.xyz หรือติดตามข่าวสารของบริษัทผ่านทาง Twitter @blocks และ @blockIR  สำหรับมีเดียสื่อโปรดไปที่ www.block.xyz/mediakit  เราตั้งใจที่จะใช้เว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ของ Block เช่นเดียวกับบัญชี Twitter @blocks และ @blockIR เป็นวิธีการเผยแพร่ข้อมูลที่ภายในและเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันในการเปิดเผยของเราภายใต้ Regulation FD

เกี่ยวกับ Block

Block (NYSE: SQ) เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่เน้นบริการทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย Square, Cash App, Spiral, TIDAL และ TBD54566975  เราสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจ  Square ช่วยให้ผู้ขายดำเนินและขยายธุรกิจด้วยระบบนิเวศแบบบูรณาการของโซลูชันการค้า ซอฟต์แวร์ธุรกิจ และบริการด้านการธนาคาร  ด้วยแอพเงินสด ใครๆ ก็สามารถส่ง ใช้ หรือลงทุนในหุ้นหรือ Bitcoin ได้อย่างง่ายดาย  Spiral (เดิมชื่อ Square Crypto) สร้างและให้เงินสนับสนุนโครงการ Bitcoin โอเพ่นซอร์สฟรี  ศิลปินต่างๆ ใช้ TIDAL เพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการและเชื่อมต่อกับแฟนๆ อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น  TBD54566975 กำลังสร้างแพลตฟอร์มนักพัฒนาแบบเปิดเพื่อให้เข้าถึง Bitcoin และเทคโนโลยีบล็อคเชนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องผ่านสถาบัน

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211201006139/en/

สื่อติดต่อ: press@block.xyz 
ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์: ir@block.xyz

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Wella Company ฉลองปีแรกในฐานะบริษัทเอกเทศด้วยการก้าวข้ามเป้าหมายการเติบโตในการแนะนำนวัตกรรมที่ก้าวล้ำและขยายขีดความสามารถในการเป็นผู้นำ

Logo

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–01 ธันวาคม 2564

Wella Company ผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมความงามมูลค่า 1 แสนล้านเหรียญ ในวันนี้ฉลองครบรอบหนึ่งปีในฐานะบริษัทแบบสแตนด์อโลน Wella Company มีความเชี่ยวชาญและการค้าปลีกในด้านผลิตภัณฑ์ทำสีและดูแลเส้นผม กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีความงามและสีทาเล็บที่สุดแห่งแบรนด์ รวมถึง Wella Professionals, Clairol, OPI, Nioxin, Sebastian Professional และ ghd บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ประเทศเยอรมันนีในปี 2423 และกลับสู่สถานะการดำเนินงานอิสระในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ซึ่งนำโดย Kohlberg Kravis and Roberts (“KKR”) บริษัทด้านการลงทุนระดับโลกที่ลงทุนในหุ้นส่วนใหญ่โดยเพิ่มขึ้นสองเท่าในปีที่ผ่านมา

Wella Company ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วโลก ในระหว่างนั้นอุตสาหกรรมร้านเสริมสวยมืออาชีพเกือบทั้งหมดที่เป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทได้ถูกล็อกดาวน์ แม้จะมีสภาพแวดล้อมระดับโลกที่ท้าทายเช่นนี้ บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งเน้นในการสร้างรากฐานการดำเนินงานเพื่อความสำเร็จแบบสแตนด์อโลน และรับสมัครพนักงานเกือบ 1,100 คนทั่วโลก รวมถึงรายชื่อผู้นำด้านความงาม ร้านค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำมาร่วมในทีมผู้บริหาร

“ในปีแรกของบริษัท ทีมงานของเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เราได้รับสถานะอิสระในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมความงามและมีรายได้เติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับทั้งปี 2563 และ 2562 โดยปีงบประมาณของเราซึ่งเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนั้นได้เริ่มต้นอย่างมั่นคง ธุรกิจโดยรวมของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก และผลประกอบการทางการเงินของเรากำลังส่งมอบเกินเป้าหมายประจำปีในทุกธุรกิจและทุกภูมิภาค” Annie Young-Scrivner ซีอีโอของ Wella Company กล่าว “เราพร้อมแล้วสำหรับการเติบโตไปยังทั่วโลก และยังคงมุ่งเน้นในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง โดยจะเดินหน้าขยายช่องทางและภูมิศาสตร์ต่อไปในขณะที่ปลดล็อกศักยภาพแบรนด์ของเรา”

ประสิทธิภาพและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์

Wella Company มีกระบวนการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งในการผลิตผลงานในปีแรกนี้

หัวข้อเด่นจากผลิตภัณฑ์ที่ออกภายใต้แบรนด์ที่ดีที่สุดของ Wella Professionals ได้แก่:

  1. True Grey ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่ยอมรับผมสีเทาของพวกเขา มีการลงทะเบียนร้านเสริมสวย 10 แห่งทุก ๆ ชั่วโมงในช่วงสองเดือนแรกทั่วภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)
  2. Koleston Perfect ผลิตภัณฑ์ทำสีผมถาวรสำหรับมืออาชีพที่ขายดีที่สุดในโลก ได้มาถึงจุดที่ใช้อ้างอิงใหม่ – ทั้งนี้มีการซื้อหนึ่งหลอดทุก ๆ วินาทีทั่วโลก
  3. ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Wella Professional Hair Care ยังคงเติบโตในอัตราเลขสองหลักอย่างแข็งแกร่งทั่วโลก

Clairol และ Wella ซึ่งเป็นสองแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำสีและดูแลเส้นผมสำหรับค้าปลีกของบริษัท โดยได้รับประโยชน์จากการลงทุนใหม่และการปรับเปลี่ยนแบรนด์ ทั้งนี้ Clairol กำลังประกาศผลกำไรที่แข็งแกร่งกว่าเจ็ดเดือนติดต่อกัน ในส่วนของทาง Wella Retail แบรนด์ดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 24% ในเม็กซิโก และปัจจุบันครองตำแหน่งทางการตลาดอันดับ 1 ในตะวันออกกลาง และเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมอันดับ 1 ในบราซิลอีกด้วย

OPI แบรนด์ผลิตภัณฑ์ทาเล็บชั้นนำจากลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากชื่อเฉดสีที่น่าจดจำ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทาเล็บวีแก้นที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติอย่าง Nature Strong ในตลาดกว่า 20 แห่งในช่วงซัมเมอร์นี้ Nature Strong ดำเนินการได้ดีเกินคาด ช่วยให้ผลงานเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลัก

ตลอดปี 2564 Nioxin มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราตัวเลขสองหลักในปี 2563 เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองและการบำรุงรักษาที่บ้านมากขึ้น รวมถึงการดูแลหนังศีรษะและผมร่วงในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

Ghd (good hair day) ในลอนดอน ซึ่งกำลังนิยามเทคโนโลยีความงามใหม่ ghd ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเส้นผมที่เป็นเอกสิทธิ์ของตนเองเพื่อเปิดตัว Unplugged เครื่องจัดแต่งทรงผมไร้สายที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก การเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลักอย่างสม่ำเสมอของพวกเขาเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเปิดตัวสู่ตลาดจีน โดยขายเครื่องจัดแต่งทรงผม 2,500 เครื่องได้ในห้านาที

ความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรม

การสนับสนุนให้ศิลปินในอุตสาหกรรมเสริมสวยอยู่นำหน้าเทรนด์และฝึกฝนฝีมือและทักษะต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของตัวตน Wella Company ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Wella Company ได้เปิดสอนชั้นเรียนการศึกษาออนไลน์หลายร้อยชั้นเรียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและฝึกอบรมสไตลิสต์ ในเดือนเมษายนเมื่อโลกส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะล็อกดาวน์ บริษัทได้จัดงานเสมือนจริงระดับโลกขึ้นเป็นครั้งแรกชื่อว่า “WeCreate” ซึ่งจัดประชุมสไตลิสต์และนักการศึกษาระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมเพื่อสัมผัสทักษะใหม่ ๆ และค้นพบความหลงใหลในงานฝีมืออีกครั้ง เพื่อให้สามารถเปิดร้านใหม่ได้สำเร็จหลังจากการล็อกดาวน์ WeCreate เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมากกว่า 100,000 คนใน 100 ประเทศ และบริษัทได้บริจาคค่าเล่าเรียนเพื่อตอบแทนอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนมูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมเสริมสวยและเชื่อมั่นในพลังของการยกระดับสไตลิสต์และช่างเทคนิคที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” Young-Scrivner กล่าว “เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้เป็นกำลังที่สำคัญของชุมชนของพวกเขา เราเชื่อว่าเมื่ออุตสาหกรรมประสบความสำเร็จ เราก็ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน การสนับสนุนของเราสำหรับเจ้าของร้านเสริมสวยทั่วโลกเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่เรากำลังสร้างธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมาย”

ความเป็นผู้นำ

ทีมผู้นำของ Wella Company ประกอบด้วยผู้บริหารจากทั่วทั้งยุโรป เอเชีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง บริษัทยังคงลงทุนในความสามารถระดับสูง การนัดหมายครั้งล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนเพื่อขยายขีดความสามารถของอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกของทีมผู้บริหารดังนี้:

Yannis Rodocanachi ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งประธานบริษัทของอเมริกา Yannis นำประสบการณ์ด้านความงามระดับโลกที่ละเอียดครอบคลุม โดยได้ร่วมงานกับทั้งบริษัทผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่มีมูลค่าตลาดสูง และการเริ่มธุรกิจใหม่ด้านความงามและเส้นผมที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้นนอกตลาดที่มีการเติบโตสูง เขาใช้เวลาเกือบ 20 ปีที่ L’Oréal ขยายผลงานผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมและความงามไปทั่วโลก และทำงานด้านการขาย การตลาด และการจัดการทั่วไปในยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาดำรงตำแหนงซีอีโอของ BH Cosmetics ในแอลเอ ซึ่งเขาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบริษัทที่กำหนดเป้าหมาย Gen Z ไปสู่ธุรกิจที่หลากหลาย ยุติธรรม และยั่งยืน พร้อมปรับขนาดเพื่อการเติบโตในการขายสินค้าแบบปลีกผ่านช่องทางการขายเฉพาะที่เป็นของแบรนด์เอง

Emmanuel Miran ได้เข้าร่วมในบทบาทที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีระดับโลก โดยเป็นการบูรณาการและเร่งรัดความมุ่งมั่นด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีของบริษัทภายใต้องค์กรเดียวกัน Miran นำประสบการณ์ด้านความงาม, CPG, สื่อ และการดูแลสุขภาพมาอย่างละเอียดครอบคลุม และเคยดำรงตำแหน่งผู้นำหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึง CIO, CTO และ CDO การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีในการสร้างรายได้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต โดยใช้เวลามากกว่า 16 ปีที่ L’Oréal ในตำแหน่งผู้นำด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ก่อนหน้านั้นเขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและดิจิทัลของ Mondelez International, News Corp. และครั้งล่าสุดที่ International SOS

ทีมผู้บริหารของบริษัทยังรวมถึงการเพิ่ม Virginie Costa ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินระดับโลก Gretchen Koback Pursel ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลระดับโลก และ Hugh Dineen ประธานของ Global Brands และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดระดับโลก ซึ่งทั้งหมดได้เข้าร่วมในเดือนสิงหาคม Costa เป็นหนึ่งในเจ็ด CFO ระดับโลกที่เป็นผู้หญิงจาก 25 บริษัทด้านความงามชั้นนำ

Wella Company มีพนักงานมากกว่า 6,000 คนในกว่า 100 ประเทศ ในปัจจุบันพนักงานของ Wella 57 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเป็นผู้หญิง และ 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ Wella อยู่ในระดับตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 การจ้างงานใหม่เกือบ 70% เป็นผู้หญิง และประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของการเลื่อนตำแหน่งทั้งหมดที่ได้รับก็เป็นผู้หญิง

“เราเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นบนกำลังสำคัญของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นช่างทำสีผม สไตลิสต์ ช่างทำเล็บ ในความเป็นจริงแล้วเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของอุตสาหกรรมร้านเสริมสวยมืออาชีพในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรประกอบด้วยผู้หญิง แต่เป็นเจ้าของธุรกิจจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น” Young-Scrivner กล่าว “เราต้องการสนับสนุนความสำเร็จของอุตสาหกรรมทั้งหมด และเชื่อว่านั่นหมายถึงการทำในส่วนของเราเพื่อสนับสนุนผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้”

เกี่ยวกับ Wella Company

Wella Company เป็นหนึ่งในบริษัทด้านความงามชั้นนำของโลก ซึ่งประกอบด้วยที่สุดแห่งแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Wella Professionals, Clairol, OPI, Nioxin, Sebastian Professional และ ghd ที่ Wella Company เราเป็นนวัตกรที่พยายามสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคและผู้เชี่ยวชาญด้านความงามผ่านแบรนด์ของเราเพื่อให้มีรูปลักษณ์ สัมผัส และเป็นตัวตนที่แท้จริง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างบริษัทด้านความงามที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม โดยที่พนักงานกว่า 6,000 คนของเราในกว่า 100 ประเทศสามารถทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการทำงาน ด้วยค่านิยมของบริษัทและนำโดยวัตถุประสงค์ในการส่งผลลัพธ์เชิงบวกต่อผู้คนผ่านผลิตภัณฑ์และต่อโลกและสังคม เรามอบการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wella Company สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.wellacompany.com และติดตามเราบน LinkedInInstagram และ Facebook

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211201005310/en/

ติดต่อ:

Hilary Crnkovich
+1 646 217 1700
Hilary.crnkovich@wella.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การแข่งขัน APPETIZER HACKATHON จะจัดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมอบโอกาสการเข้าใช้งาน API ที่หลากหลายจากเกาหลี

Logo

– จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ภายใต้หัวข้อ “New Normal in the Post-COVID-19 – The beginning of Innovation using Cloud” หรือ การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่หลังยุคโควิด-19 จุดเริ่มต้นแห่งนวัตกรรมที่ใช้ระบบคลาวด์

– ทีมที่ได้อันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัลรวม 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และเครดิตประมาณ 17,000 ดอลล่าร์สหรัฐ จาก Naver Cloud

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–2 ธันวาคม 2564

APPETIZER HACKATHON ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งเกาหลีและมี Naver Cloud เป็นเจ้าภาพ จะเปิดรับสมัครเพื่อเข้าร่วมแข่งขันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม เวลา 9.00 น. ไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 15.00 น. (ตามเวลามาตรฐานของประเทศเกาหลีใต้)

Hosted by Naver Cloud and organized by the Korea Software Industry Association, 1st APPETIZER HACKATHON is an opportunity to use various Korean APIs for Southeast Asian region teams. It accepts applications for participation from December 6th 9 am to December 23rd 3 pm (KST). Document screening will be carried out for two days from December 28th to 29th to select 30 finalists to participate in APPETIZER HACKATHON, and 30 teams of successful applicants will be announced on December 30th. ​The final online announcement and awards ceremony will be held on Jan 27th. (Graphic: Business Wire)

การแข่งขัน APPETIZER HACKATHON ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งเกาหลีและมี Naver Cloud เป็นเจ้าภาพ โดยจะมอบโอกาสการเข้าใช้งาน API ที่หลากหลายจากเกาหลี การรับสมัครเพื่อเข้าร่วมแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม เวลา 9.00 น. ไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 15.00 น. (ตามเวลามาตรฐานของประเทศเกาหลีใต้) การคัดกรองเอกสารจะใช้เวลาดำเนินการเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-29 ธันวาคม เพื่อคัดเลือกผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายที่จะเข้าร่วมแข่งขัน APPETIZER HACKATHON และจะมีการประกาศทีมที่ผ่านการคัดเลือก 30 ทีมในวันที่ 30 ธันวาคม การประกาศผลรอบตัดสินและพิธีมอบรางวัลผ่านทางออนไลน์จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มกราคม (กราฟิก: Business Wire)

การแข่งขัน APPETIZER HACKATHON จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ภายใต้หัวข้อ “New Normal in the Post-COVID-19 Era – The Beginning of Innovation using Cloud” หรือ การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่หลังยุคโควิด-19 จุดเริ่มต้นแห่งนวัตกรรมที่ใช้ระบบคลาวด์ เพื่อเพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นด้วยการใส่ความคิดสร้างสรรค์ไปยังกระแสธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากโรคโควิด-19

การคัดกรองเอกสารจะใช้เวลาดำเนินการเป็นเวลา 2 วันตั้งแต่วันที่ 28-29 ธันวาคม เพื่อเลือกผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน APPETIZER HACKATHON และจะมีการประกาศรายชื่อทีมที่ผ่านการคัดเลือก 30 ทีมในวันที่ 30 ธันวาคม

การปฐมนิเทศและสัมมนาออนไลน์เพื่อประกาศการเริ่มแข่งขัน APPETIZER HACKATHON สำหรับผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 5 มกราคม 2565 นอกจากนี้ บริษัท API ที่เข้าร่วม 10 แห่งจะให้คำปรึกษาออนไลน์โดยตรงแก่ผู้เข้ารอบสุดท้ายที่ต้องการรับคำปรึกษาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมถึง 14 มกราคมอีกด้วย

ผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายจะต้องส่งวิดีโอการนำเสนอผลงานของตนภายในวันอังคารที่ 18 มกราคม ซึ่งจะได้รับการประเมินสำหรับการพิจารณาในรอบตัดสินเป็นเวลา 2 วันตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมถึง 21 มกราคม วิดีโอจะถูกประเมินให้คะแนนตามความแตกต่าง ความคิดริเริ่ม ความเหมาะสมของธีม ความเป็นไปได้ และประสิทธิผล ทีม 8 ทีมจะถูกคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดสินในวันจันทร์ที่ 24 มกราคมผ่านการคัดกรองรอบสุดท้ายนี้ การประกาศผลรอบตัดสินและพิธีมอบรางวัลผ่านทางออนไลน์ของการแข่งขัน Hackathon จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม

เงินรางวัลรวมของการแข่งขัน APPETIZER HACKATHON นี้อยู่ที่ประมาณ 27,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทีมที่ได้อันดับ 1 ของการแข่งขัน Hackathon จะได้รับเงินรางวัลรวม 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทีมที่ได้อันดับ 2 ทั้งหมด 2 ทีมจะได้รับเงินรางวัลทีมละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และทีมอันดับที่ 3 ทั้งหมด 5 ทีมจะได้รับเงินรางวัลทีมละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทุกทีมที่เข้าร่วมในโปรแกรมการแข่งขัน Hackathon จนจบจะได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าจะไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายก็ตาม

นอกจากเงินรางวัลแล้ว การแข่งขัน APPETIZER HACKATHON ยังมอบสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้อีกด้วย ทีมที่เข้าร่วมทั้งหมด 30 ทีมที่ผ่านการคัดกรองเอกสารจะได้รับเครดิตมูลค่าประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสามารถใช้ใน Naver Cloud ได้ นอกจากนี้ ทีมอันดับที่ 1 ในการแข่งขันจะได้รับรางวัลเป็นเครดิตมูลค่าประมาณ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้งานบน Naver Cloud เป็นเวลา 1 ปี

กิจกรรม Early Bird จะจัดขึ้นเป็นเวลา 5 วันนับจากวันที่เริ่มลงทะเบียนในวันที่ 6 ถึง 10 ธันวาคม และ 15 ทีมที่อยู่แข่งขันจนจบจะได้รับของขวัญต่าง ๆ เช่น Apple iPad รุ่นที่ 9

สุดท้าย การแข่งขันนี้จะอนุญาตเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่สามารถสมัครเข้าร่วมได้ ทีมที่เข้าร่วมสามารถใช้ API ที่แตกต่างกันจำนวน 10 อันในการแข่งขัน รายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขัน APPETIZER HACKATHON และการลงทะเบียนออนไลน์สามารถดูได้จากเว็บไซต์ (www.api-appetizer.com) สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท API ที่เข้าร่วม Hackathon ได้ที่ www.appetizer.kr  ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ หน้า Facebook หรือ หน้า LinkedIn

รูปภาพและมัลติมีเดียสามารถดูได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52541357/en

ติดต่อสำนักเลขาธิการ APPETIZER HACKATHON

Yeongrok Lim
+82-70-4225-5045
yr@prime-c.co.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Interactive Brokers ขยายเครื่องมือสำหรับนักลงทุนทั่วโลก

Logo

GlobalAnalyst ช่วยให้นักลงทุนหาโอกาสใหม่ๆ ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต

กรีนิช คอนเนตทิคัต–(บิสิเนสไวร์)–30 พฤศจิกายน 2564

Interactive Brokers Group (Nasdaq: IBKR) บริษัทโบรกเกอร์ระดับโลก เปิดตัว GlobalAnalyst ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบการประเมินมูลค่าและตัวชี้วัดทางการเงินของหุ้นทั่วโลก

GlobalAnalyst ได้รับการออกแบบสำหรับนักลงทุนที่สนใจในการกระจายพอร์ตการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อค้นหาบริษัทที่มีมูลค่าต่ำที่อาจมีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่า  เนื่องจากตระหนักว่าอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนในการประเมินข้อดีของหุ้นที่ซื้อขายในสกุลเงินต่างๆ Interactive Brokers ได้สร้างเครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังเพื่อเปรียบเทียบจำนวนหุ้นตามเมตริกต่างๆ ในหนึ่งใน 27 สกุลเงินที่ผู้ใช้เลือก ในทำนองเดียวกัน ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย และติดตามหุ้นเหล่านี้ในสกุลเงินที่พวกเขาเลือกทั้งหมดในบัญชีเดียวบนหน้าจอเดียว

เมื่อใช้ GlobalAnalyst นักลงทุนสามารถค้นหาหุ้นตามภูมิภาค ประเทศ อุตสาหกรรม มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และสกุลเงิน เพื่อระบุหุ้นที่มีราคาต่ำทั่วโลก ตารางแสดงตลาดปัจจุบันและตัวชี้วัดทางการเงินต่างๆ เช่น P/E/G Ratio (PE หารด้วยอัตราการเติบโตของรายได้รวม 3 ปี) PEG ที่ต่ำกว่า 1.0 แสดงว่าบริษัทนั้นถูกตีราคาต่ำเกินไป ในขณะที่ PEG ที่สูงกว่า 1.0 หมายถึงบริษัทที่มีมูลค่าสูงเกินไป

“นอกเหนือจากการนำเสนอทางเลือกการลงทุนจากตลาดกว่า 135 แห่งทั่วโลก เรายังคงให้บริการเทคโนโลยีและเครื่องมือชั้นนำแก่นักลงทุน เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจลงทุนโดยอิงข้อมูล” Thomas Peterffy ประธานและผู้ก่อตั้ง Interactive Brokers กล่าว “GlobalAnalyst เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนรายย่อยและนักเทรดที่เชี่ยวชาญในการเริ่มต้นการค้นหา  โดยมองหาประโยชน์จากการลงทุนทั่วโลก เราเน้นว่าการวิเคราะห์อย่างละเอียดต้องเป็นองค์ประกอบหลักในการศึกษาหุ้นเสมอ”

ความเรียบง่ายของ GlobalAnalyst ทำให้เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ค้นหาหุ้นต่างประเทศอย่างรวดเร็ว และให้บริการฟรีบนเว็บไซต์ Interactive Brokers:

สหรัฐอเมริกา: ibkr.com/ganalyst

สหราชอาณาจักร: ibkr.co.uk/ganalyst

ยุโรปกลาง: interactivebrokers.hu/ganalyst

ยุโรปตะวันตก: ibkr.ie/ganalyst

สิงคโปร์: ibkr.com.sg/ganalyst

ออสเตรเลีย: ibkr.com.au/ganalyst

ฮ่องกง: ibkr.hk/ganalyst

แคนาดา: ibkr.ca/ganalyst

เกี่ยวกับ Interactive Brokers Group, Inc .:

บริษัทในเครือ Interactive Brokers Group ให้บริการดำเนินการซื้อขายอัตโนมัติและการดูแลหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตลอดเวลาในตลาดกว่า 135 แห่งในหลายประเทศและหลายสกุลเงิน  ตั้งแต่บัญชีการลงทุนแบบบูรณาการ IBKR บัญชีเดียวไปจนถึงลูกค้าทั่วโลก เราให้บริการแก่นักลงทุนรายย่อย กองทุนป้องกันความเสี่ยง กลุ่มการค้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ ที่ปรึกษาทางการเงิน และโบรกเกอร์ให้แนะนำ  การมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติตลอดสี่ทศวรรษทำให้เราสามารถจัดเตรียมแพลตฟอร์มที่มีความซับซ้อนเฉพาะตัวแก่ลูกค้าเพื่อจัดการพอร์ตการลงทุนของพวกเขา เรามุ่งมั่นที่จะมอบราคาดำเนินการและเครื่องมือการซื้อขาย ความเสี่ยงและพอร์ตโฟลิโอ สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าของเรา โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำหรือไม่มีเลย โดยวางตำแหน่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหนือกว่า  Barron ได้จัดอันดับ Interactive Brokers เป็น #1 ด้วยคะแนน 5 จาก 5 ดาวในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นรีวิวโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุด

อ่านจากต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211130005343/en/

ติดต่อ:

Interactive Brokers Group, Inc.
สื่อ: Katherine Ewert, media@ibkr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Farmhouse Aurora Bangkok Bank Café Amazon King Power M-150 PTT Station Thai Life Insurance และ TrueOnline คว้ารางวัล World Branding Awards ประจำปี 2564 ที่จัดขึ้นเสมือนจริง

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2564

งานประกาศรางวัล World Branding Awards ครั้งที่สิบสี่ มีแบรนด์มากกว่า 500 แบรนด์จากกว่า 60 ประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” หรือ “Brand of the Year” และต้อนรับบรรดาผู้เยี่ยมเยือนกว่า 100 คนทั่วโลกเพื่อเชื่อมต่อจากระยะทางไกลและเฉลิมฉลองความสำเร็จของพวกเขาในพิธีเสมือนจริงครั้งแรกของฟอรั่ม

Spotify, Zoom, Yakult, Netflix, Amazon, The Lego Group, Neutrogena, Nescafé, Heinz, L'Oréal, Starbucks, Google และ VISA เป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของโลกที่ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะระดับโลกในพิธีออนไลน์ครั้งแรกที่พระราชวังเคนซิงตัน

ผู้ชนะจากประเทศไทย ได้แก่ Aurora, Bangkok Bank, Café Amazon, King Power, M-150, PTT Station, Thai Life Insurance และ TrueOnline ผู้ชนะระดับประเทศอื่น ๆ ได้แก่ Airland (ฮ่องกง), Sinarmas Land (อินโดนีเซีย), Tanduay (ฟิลิปปินส์), ToastBox (สิงคโปร์), Tanishq (อินเดีย), Nahdi (ซาอุดีอาระเบีย), Natural Aqua Gel Cure (ญี่ปุ่น) เป็นต้น

โดยมีเพียงสิบสองแบรนด์เท่านั้นที่ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลระดับภูมิภาคในปีนี้ ได้แก่ Farmhouse, H&M, Mr D.I.Y., De’Longhi และ Pandora ซึ่งเป็นผลงานที่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นสามารถผ่านกระบวนการเสนอชื่อ ตัดสิน และประเมินผลที่ไม่เหมือนใครของฟอรั่ม ทั้งนี้ต้องใช้ 70 % ของการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคเพื่อค้นหาแบรนด์ที่ชื่นชอบของสาธารณชน

“ปี 2564 เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยโควิด-19 บีบคั้นแบรนด์ต่าง ๆ มากมายให้ปรับตัวสู่ความปกติใหม่ และรางวัลดังกล่าวก็เฉลิมฉลองให้กับความพยายามที่ธุรกิจเหล่านี้ได้ทุ่มเทให้กับการสร้างแบรนด์และการตลาด ผู้ชนะแต่ละคนได้รับความรักและความไว้วางใจจากผู้บริโภค และรางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสิ่งนี้” Richard Rowles ประธาน World Branding Forum กล่าว

โดยมีการโหวตของผู้บริโภคมากกว่า 1.3 ล้านคนตั้งแต่เริ่มต้นของรางวัล และในปีนี้ผู้บริโภคมากกว่า 345,000 คนเข้าร่วมในกระบวนการเสนอชื่อทั่วโลก โดยเฉลี่ยแล้วมีแบรนด์ที่ชนะเพียง 7 แบรนด์ในแต่ละประเทศ การพิสูจน์ว่าการได้รับรางวัล World Branding Award ถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นอย่างแท้จริง

งานนี้จัดโดยพิธีกรรายการโทรทัศน์ Jemma Forte และฟอรั่มวางแผนที่จะกลับไปจัดที่พระราชวังเคนซิงตันในปีหน้า

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะทั้งหมด สามารถเยี่ยมชมได้ที่ awards.brandingforum.org

###

เกี่ยวกับ the World Branding Awards

World Branding Awards เป็นรางวัลระดับพรีเมียร์ของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่จดทะเบียน รางวัลดังกล่าวเป็นการยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำของโลกบางส่วน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ https://awards.brandingforum.org

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211130005606/en/

ติดต่อ:

Kira Heather
media@brandingforum.org
+44(0)2037439880

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย