Standard Industries เผย Bob Patel เตรียมเข้าร่วมบริษัทในฐานะซีอีโอแห่ง W. R. Grace

Logo

การแต่งตั้งจะมีผลในเดือนมกราคม 2565

พร้อมนำประสบการณ์กว่า 30 ปีมาพลิกโฉมธุรกิจอุตสาหกรรม

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2564

วันนี้ Standard Industries Holdings (“Standard”) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนด้านอุตสาหกรรมระดับโลก ประกาศว่า Bhavesh V. (Bob) Patel จะเข้าร่วมงานกับบริษัทในฐานะซีอีโอของ Grace โดยจะมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปิดดีลเข้าซื้อกิจการ WR Grace (“Grace”)

“David Winter และ David Millstone ซีอีโอร่วมของ Standard Industries กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Bob เข้าสู่ครอบครัว Standard ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ W. R. Grace โดย Bob เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในอุตสาหกรรมมาเป็นเวลาหลายสิบปี พร้อมประวัติการทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เขาได้พิสูจน์ว่าตัวเองมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำทีมยอดเยี่ยมของ Grace และช่วยก่อร่างการลงทุนของ Standard ในด้านวัสดุขั้นสูง เขาจะมีบทบาทสำคัญในการพา Grace เข้าสู่เส้นทางธุรกิจข้างหน้า ขณะที่เรามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนผ่านหลังจากปิดดีลซื้อขายจะราบรื่นและเริ่มดำเนินกลยุทธ์การเติบโตที่หวังผลได้ต่อไป”

Patel จะร่วมงานกับ Standard หลังจากสิ้นสุดการทำงานกับ LyondellBasell ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) มาตั้งแต่ปี 2558 และเป็นผู้นำในช่วงเวลาแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับบริษัท ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2557 Patel เป็นผู้นำในการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อปรับโครงสร้างต้นทุนและร่องรอยทางภูมิศาสตร์ของบริษัทให้เหมาะสม ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ LyondellBasell เขาได้ขยายโครงการด้านความยั่งยืนของบริษัทมากมายและเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้อย่างมหาศาลผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยการเข้าซื้อกิจการของ A. Schulman และการสร้างโรงงานผลิตระดับโลก ขณะที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่นั้น LyondellBasell ได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลก หรือ “World’s Most Admired Companies” ของนิตยสาร Fortune เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ก่อนที่จะร่วมงานกับ LyondellBasell ในปี 2553 Patel ได้ทำงานกับ Chevron Phillips Chemical Co. เป็นเวลา 20 ปี โดยดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการผลิตและเป็นผู้นำธุรกิจหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย

Patel กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Standard Industries และได้รับคำขอให้นำพา W. R. Grace เข้าสู่เส้นทางใหม่ทางธุรกิจ Grace เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นธุรกิจที่มีพื้นฐานมั่นคง ซึ่งขับเคลื่อนโดยพนักงานที่มีทักษะและความสามารถโดดเด่น ฉันหวังว่าจะได้ร่วมงานกับทีมผู้นำที่ Grace เพื่อนำพาบริษัทไปสู่จุดสูงสุด”

Patel จะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Hudson La Force ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Grace มาตั้งแต่ปี 2561 ภายใต้การนำของ La Force บริษัท Grace ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อให้การเติบโตสูงขึ้นในธุรกิจตัวเร่งปฏิกิริยาและวัสดุ La Force จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อไปจนถึงสิ้นปีและจะเข้าร่วมคณะกรรมการที่ปรึกษาของ Standard ในเดือนมกราคม 2565

Winter และ Millstone กล่าวว่า “Hudson เป็นผู้นำแบบอย่างที่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง Grace ให้กลายเป็นธุรกิจเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน เรารู้สึกขอบคุณในการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับเขาเข้าสู่คณะกรรมการที่ปรึกษาของ Standard”

เกี่ยวกับ Standard Industries:

Standard Industries เป็นบริษัทอุตสาหกรรมเอกชนระดับโลกที่ดำเนินงานใน 80 กว่าประเทศและมีพนักงานมากกว่า 15,000 คน ระบบนิเวศของ Standard ครอบคลุมความหลากหลายของการถือครอง เทคโนโลยี และการลงทุน ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทภาครัฐและเอกชนตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงระยะสุดท้าย ตลอดจนสินทรัพย์วัสดุก่อสร้างระดับโลกและโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นต่อไป ตลอดระยะเวลา 140 ปีที่ผ่านมา Standard ได้สนับสนุนความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์เชิงลึกในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเกินมาตรฐานในธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยบริษัทที่กำลังดำเนินงาน ได้แก่ GAF, BMI, Siplast, GAF Energy, Schiedel และ SGI ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่าง 40 North ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ 40 North Ventures และ Winter Properties

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210831005554/en/

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:

Patrick Ryan
Edelman
610-306-7536
Patrick.Ryan@edelman.com

Josh Hochberg
Edelman
Josh.Hochberg@edelman.com

Beth Kseniak
Standard Industries
917-509-7031
beth.kseniak@standardindustries.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

คุมาโมโตะและผลการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหว 5 ปีต่อมา

Logo

ความคืบหน้าของการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวในคุมาโมโตะและแนวคิดสำหรับโตเกียว 2020 “โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์แห่งการฟื้นฟู”

คุมะโมะโตะ ญี่ปุ่น–(บิสิเนสไวร์)–31 ส.ค. 2564

เป้าหมายของการประมูลโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวคือเพื่อให้งานนี้เป็นสัญญาณของการฟื้นตัวของญี่ปุ่นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในโทโฮกุในปี 2554

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005307/en/

Post-Earthquake Recovery, Kumamoto 5 years later (Graphic: Business Wire)

คุมาโมโตะและผลการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหว 5 ปีต่อมา (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

การแพร่กระจายที่คาดการณ์ไม่ได้ของ COVID-19 ได้ทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกล่าช้าไปถึงหนึ่งปีและทำให้การแข่งขันต้องจัดขึ้นโดยไม่มีผู้ชม  นี่หมายความว่าความคืบหน้าหลังแผ่นดินไหวทั้งหมดในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งใจจะเปิดเผยต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส่วนใหญ่ไม่ได้มีใครสังเกต

ในปี 2559 คุมาโมโตะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวหลายครั้ง  โดยเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดสองครั้งวัดขนาด 6.2 และ 7.0 ริกเตอร์  คุมาโมโตะเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเพื่อเป็นมาตรการในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติของตัวเอง

แต่เช่นเดียวกับในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น โควิด-19 ได้ขัดขวางไม่ให้ผู้มาเยือนจากต่างประเทศได้เข้ามาดูความคืบหน้าด้วยตนเอง  เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เราต้องการแสดงสิ่งที่คุมาโมโตะประสบความสำเร็จในช่วงห้าปีที่ผ่านมาให้คุณได้เห็นในเว็บไซต์ของเรา

การฟื้นฟูแผ่นดินไหวในคุมาโมโตะ 5 ปีต่อมา ได้แก่

  1. การฟื้นฟูพื้นที่ภูเขาอาโสะ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นและบริเวณแคลดีรา
    ภูเขาอาโสะ หนึ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากแผ่นดินไหว  ห้าปีต่อมา ความพยายามในการฟื้นฟูได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งอีกครั้ง หากการระบาดไม่ได้เป็นปัญหา พื้นที่ภูเขาอาโสะจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ในการต้อนรับผู้มาเยือนจำนวนมาก
  2. การสร้างปราสาทคุมาโมโตะขึ้นใหม่
    ปราสาทคุมาโมโตะคุมาโมโตะ ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2150 เป็นสัญลักษณ์ หัวใจ และจิตวิญญาณของชาวคุมาโมโตะ  แผ่นดินไหวทำให้อาคารถล่ม กระเบื้องหลังคาแตก และทำให้กำแพงหินกลายเป็นซากปรักหักพัง  ตอนนี้ การบูรณะปราสาทยังคงดำเนินต่อไป โดยได้เสร็จสิ้นการสร้างทางยกกระดับเพื่อให้เข้าถึงภายในปราสาทได้ และตอนนี้หอปราสาทเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมแล้ว
  3. มังงะและอนิเมะยอดนิยม “วันพีซ” มอบความช่วยเหลือในการสร้างใหม่
    เรื่องราวดั้งเดิมของวันพีซ “Hinokuni Recovery” ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนคุมาโมโตะ  ในนั้น ตัวละครแต่ละตัว (ลูฟี่และสมาชิก 9 คนของกลุ่มหมวกฟาง) ใช้พลังของพวกเขาเพื่อช่วยคุมะโมะโตะ รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของตัวละครแต่ละตัวกำลังถูกเปิดเผยผ่านจังหวัดคุมาโมโตะ

    กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราสำหรับรายละเอียด
    https://kumamoto.guide/en/season/detail/145

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005307/en/

ติดต่อ:

Kumamoto Prefectural Tourism Federation (การท่องเที่ยวแห่งคุมาโมโตะ)
Takayuki Kubo
โทร: 81 -96-382-2660
อีเมล: kubo@minamiaso.info

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SPRIX ส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาในญี่ปุ่นโดยสำรวจเด็กและผู้ปกครองจำนวน 22,000 รายใน 11 ประเทศทั่วโลกด้านการเรียนรู้

Logo

การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและแรงจูงใจของเด็กที่เกี่ยวข้องกับอัตราการจดจำในการเรียนรู้ของเด็ก

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2564

สถาบันวิจัย SPRIX ซึ่งดำเนินการโดย SPRIX (สำนักงานใหญ่: Toshima Ward, Tokyo) (ตัวแทนผู้อำนวยการและประธาน: Hiroyuki Tsuneishi) ได้นำสองแบบสำรวจที่ออกแบบมาใช้เพื่อทำความเข้าใจการศึกษาของรัฐทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น แบบสำรวจทั้งสองมุ่งเป้าไปที่เด็กและพ่อแม่หรือผู้ปกครองใน 11 ประเทศที่แตกต่างกัน แบบสำรวจแรกเป็นแบบสำรวจความตระหนัก เน้นการเรียนรู้ และแบบที่สองเป็นแบบสำรวจความรู้ เน้นการวัดทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005018/en/

Average Response Rates (as Percentages) for Basic Academic Skills Survey Directed at Children Aged Fifteen and Younger Across Eleven Countries (Graphic: Business Wire)

อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ย (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) สำหรับแบบสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุสิบห้าหรือน้อยกว่าใน 11 ประเทศ (กราฟิก: Business Wire)

การสำรวจแต่ละครั้งเกี่ยวข้องกับผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนหนึ่งพันรายในแต่ละประเทศ รวมเด็ก พ่อแม่ และผู้ปกครองเป็นจำนวน 22,000 ราย ผลการสำรวจพบว่าประเทศที่มีระดับความสม่ำเสมอในการเรียนรู้และการจดจำสำหรับทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่สูงขึ้นยังมีอัตราการมีส่วนร่วมของพ่อแม่หรือผู้ปกครองในการเรียนรู้ของเด็กที่สูงขึ้น ผลการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มอัตราการตอบสนองที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทราบถึงอาชีพในอนาคตของเด็กอย่างชัดเจน

ผลสำรวจที่สำคัญ

1. อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ยสำหรับผลการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานเกินร้อยละเจ็ดสิบในเอเชีย และพบว่าผลลัพธ์ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาโดยทั่วไปต่ำกว่า

เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจนในการเรียนรู้ที่สม่ำเสมอและการจดจำสำหรับเด็กอายุสิบห้าหรือต่ำกว่า

2. เด็กจากประเทศที่มีอัตราของความสม่ำเสมอในการเรียนรู้และการจดจำที่สูงขึ้นจะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคตของพวกเขา

เด็กที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตจะมีความสนใจในชั้นเรียนและการศึกษาด้วยตนเอง

3. ประเทศที่ทำการสำรวจทั้งหมดตระหนักถึงความสำคัญของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

ที่กล่าวมานั้น ได้เห็นความแตกต่างบางประการในแนวทางการเรียนรู้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

4. ความพึงพอใจในชั้นเรียนเกินร้อยละแปดสิบ การระบาดใหญ่เปลี่ยนแปลงไปสู่การเรียนรู้ออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่และผู้ปกครองมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ต้องการให้แบบสำรวจความรู้มีการตรวจสอบถึงความยากลำบากเป็นประจำของการเรียนออนไลน์ในช่วงที่เกิดโรคระบาด อย่างเช่น โควิด-19

หมายเหตุ: เมื่อต้องการแชร์เนื้อหาจากข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ให้ระบุว่าจัดทำโดยสถาบันวิจัย SPRIX

ภาพรวมของการสำรวจ

ประเทศเป้าหมาย:

ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส โปแลนด์ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา

ผู้ตอบแบบสอบถาม:

เด็กอายุ 6 ถึง 15 ปี จำนวน 1,000 คนจากแต่ละประเทศที่ทำการสำรวจ รวมผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 11,000 คน

พ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กดังกล่าว จำนวน 1,000 คนจากแต่ละประเทศที่ทำการสำรวจ รวมผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 11,000 คน

วิธีการสำรวจ:

ออนไลน์

เนื้อหาแบบสำรวจ:

แบบสำรวจความตระหนักสอบถามคำถามเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทั้งเด็กและพ่อแม่หรือผู้ปกครอง

แบบสำรวจทักษะทางวิชาการสอบถามคำถามทั้งหมด 50 ข้อในรูปแบบการทดสอบพื้นฐานสำหรับเด็ก

ระยะเวลาการสำรวจ:

สิงหาคม ถึง กันยายน 2563

1. อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ยสำหรับผลการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานเกินร้อยละเจ็ดสิบในเอเชีย และพบว่าผลลัพธ์ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาโดยทั่วไปต่ำกว่า

เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจนในการเรียนรู้ที่สม่ำเสมอและอัตราในการจดจำสำหรับเด็กอายุสิบห้าหรือต่ำกว่า

ภายในการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่จัดทำโดย SPRIX ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่เด็กอายุสิบห้าหรือต่ำกว่าใน 11 ประเทศที่ต่างกัน อัตราการตอบกลับสำหรับประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับต่ำ ในทางกลับกัน อัตราการตอบกลับสำหรับประเทศต่าง ๆ ภายในเอเชีย โดยเฉลี่ยอยู่ที่เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์หรือสูงกว่านั้น เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคในด้านความสม่ำเสมอในการเรียนรู้ทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานและอัตราในการจดจำ

ชื่อแผนภูมิ: อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ย (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) สำหรับแบบสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุสิบห้าหรือน้อยกว่าในสิบเอ็ดประเทศ

2. เด็กจากประเทศที่มีอัตราของความสม่ำเสมอในการเรียนรู้และการจดจำที่สูงขึ้นจะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคตของพวกเขา

เด็กที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตจะมีความสนใจในชั้นเรียนและการศึกษาด้วยตนเอง

การสำรวจเด็ก ๆ เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาพบว่าคะแนนสูงอย่างต่อเนื่องในวิชาชีพด้านการแพทย์ วิชาชีพด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม และวิชาชีพด้านการศึกษาในหลายประเทศ โดยไม่มีความแตกต่างที่สำคัญสำหรับอาชีพในอนาคตทั่วทั้ง 11 ประเทศ เนื่องจากนวัตกรรมทางด้านเทคนิคเพิ่มบทบาทในด้านไอทีและเทคโนโลยีดิจิทัลภายในบทบาทบริการของแต่ละอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในวิชาชีพด้านเทคนิค วิศวกรรม และการเขียนโปรแกรม

ชื่อแผนภูมิ: อาชีพที่เด็กสนใจ

อย่างไรก็ตาม เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของเด็กเกี่ยวกับอาชีพในอนาคต ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น เด็ก ๆ ในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอาชีพในอนาคตมากกว่าเมื่อเทียบกับเด็กในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เมื่อพิจารณาอย่างใกล้ชิดจากผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กับการกระจายผลลัพธ์สำหรับประเทศที่ยังคงทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานไว้ เราเชื่อว่าผลลัพธ์เหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน

ชื่อแผนภูมิ: อัตรา (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของเด็กที่ไม่มีอาชีพในอนาคตหรือยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอาชีพในอนาคต

นอกจากนี้ เด็กในประเทศที่ผลลัพธ์ชี้ให้เห็นถึงอาชีพในอนาคตที่ชัดเจน ยังแสดงความรู้สึกเชิงบวกต่อชั้นเรียนในโรงเรียนด้วย นอกจากนี้ เส้นแนวโน้มความสนใจเรียนนอกโรงเรียนยังอยู่ในระดับสูง แบบสำรวจแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงระดับแรงจูงใจในการเรียนรู้ที่สูงมาก

ชื่อแผนภูมิ: อัตรา (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของเด็กที่คิดว่างานชั้นเรียนน่าสนใจ

ชื่อแผนภูมิ: เวลาเรียนเฉลี่ย (คิดเป็นชั่วโมง) นอกชั้นเรียน

3. ประเทศที่ทำการสำรวจทั้งหมดตระหนักถึงความสำคัญของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

ที่กล่าวมานั้น ได้เห็นความแตกต่างบางประการในแนวทางการเรียนรู้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

การตระหนักรู้สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองเกี่ยวกับทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของบุตรหลานนั้นสูงมาก เกินกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองจาก 11 ประเทศที่ทำการสำรวจซึ่งเชื่อว่าทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานมีความสำคัญ การสำรวจยังระบุอย่างชัดเจนว่าพ่อแม่และผู้ปกครองประมาณร้อยละเก้าสิบต้องการพัฒนาระดับทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของบุตรหลานและต้องการมีส่วนร่วมกับพวกเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เราเห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเห็นด้วยกับความสำคัญของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน เนื่องจากเชื่อว่าความรู้ดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หรืออย่างอื่นที่ขาดไม่ได้สำหรับการศึกษาของบุตรหลาน

ชื่อแผนภูมิ: ความตระหนัก (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของความรู้พื้นฐานสำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองในสิบเอ็ดประเทศ

ชื่อแผนภูมิ: ทักษะ (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ที่เชื่อว่าจำเป็นนอกเหนือจากการเรียน

นอกจากนี้ พ่อแม่และผู้ปกครอง ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ที่เข้าใจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานมีอยู่ในระดับสูง ในประเทศส่วนใหญ่พ่อแม่และผู้ปกครองเข้าใจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของบุตรหลาน และเราสามารถเห็นได้ว่าความตระหนักในทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของพวกเขาก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน

ชื่อแผนภูมิ: อัตรา (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของเด็กและพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่เข้าใจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

เมื่อเราสำรวจความตระหนักเฉพาะเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของพ่อแม่หรือผู้ปกครองในการเรียนรู้ของบุตรหลานของพวกเขา พ่อแม่และผู้ปกครองใน 11 ประเทศมีส่วนร่วมอย่างมาก ด้วยผลลัพธ์โดยเฉลี่ยมากกว่าร้อยละเก้าสิบสำหรับการมีส่วนร่วมซึ่งรวมถึงการกระตุ้นให้เด็กศึกษาและให้รางวัลเด็กในการศึกษา อย่างไรก็ตาม เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคสำหรับเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในเรื่องการมีส่วนร่วม อย่างเช่น พ่อแม่หรือผู้ปกครองที่สอนบุตรหลานของตนเอง ให้คะแนนการบ้านแก่เด็ก หรือการพัฒนาตารางเรียนสำหรับเด็ก พ่อแม่และผู้ปกครองจากประเทศที่มีอัตราการตอบแบบสำรวจทักษะทางวิชาการสูงกว่าจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในรายละเอียดการเรียนของเด็กมากขึ้น รวมถึงการจัดตารางการเรียนรู้ที่เป็นอิสระของเด็ก และการให้คะแนนการบ้านของเด็ก แทนที่จะปล่อยไว้ให้แล้วแต่บุตรหลานของพวกเขา

ชื่อแผนภูมิ: การมีส่วนร่วม (เป็นเปอร์เซ็นต์) ในการเรียนรู้ของเด็กทั่วทั้งสิบเอ็ดประเทศ

4. ความพึงพอใจในชั้นเรียนเกินร้อยละแปดสิบ การระบาดใหญ่เปลี่ยนแปลงไปสู่การเรียนรู้ออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่และผู้ปกครองมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ต้องการให้แบบสำรวจความรู้มีการตรวจสอบถึงความยากลำบากเป็นประจำของการเรียนออนไลน์ในช่วงที่เกิดโรคระบาด อย่างเช่น โควิด-19

เราสำรวจว่าพ่อแม่และผู้ปกครองสนับสนุนโรงเรียนที่เป็นศูนย์กลางของการศึกษาทักษะทางวิชาการของเด็กอย่างไร ผู้ตอบแบบสอบถามจาก 11 ประเทศให้คะแนนโรงเรียนในระดับที่สูง ด้วยคำตอบรวมถึงความพึงพอใจต่อบทเรียนที่ทางโรงเรียนจัดให้ การเข้าเรียนของบุตรหลานของพวกเขา และทักษะทางวิชาการที่เพียงพอที่ได้รับการสอนในชั้นเรียนของโรงเรียน เนื่องจากประมาณร้อยละแปดสิบของผู้ตอบแบบสอบถามในทั้งหมด 11 ประเทศ ระบุว่าพวกเขาเชื่อมั่นในผลการทดสอบของโรงเรียน เราเชื่อว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงความพึงพอใจในระดับสูงสำหรับการศึกษาในโรงเรียน ในทางกลับกัน โรงเรียนหลายแห่งถูกบังคับให้พิจารณารูปแบบชั้นเรียนใหม่เพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของการติดเชื้อโควิด-19 และมีการใช้กลยุทธ์หลายอย่างสำหรับการเรียนรู้ออนไลน์ รวมถึงชั้นเรียนออนไลน์ผ่านแอปการประชุมทางไกล เช่น Zoom การเสนอเนื้อหาดิจิทัล และการแชร์วิดีโอของชั้นเรียนโดยคุณครู

ชื่อแผนภูมิ: การให้คะแนน (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของชั้นเรียนโดยพ่อแม่และผู้ปกครองในสิบเอ็ดประเทศ

ชื่อแผนภูมิ: การตอบสนองของโรงเรียน (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ในสิบเอ็ดประเทศต่อโควิด-19

เป็นที่ชัดเจนว่าผลกระทบของโควิด-19 ต่อการเรียนรู้ของเด็กมีความสำคัญ และพ่อแม่หรือผู้ปกครองจำนวนมากเชื่อว่าต้องใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การเรียนรู้เฉพาะบุคคล การทบทวนระดับทักษะทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ และโอกาสในการเรียนรู้นอกโรงเรียนที่จำเป็น พ่อแม่หรือผู้ปกครองสี่ในห้าต้องการให้ใช้มาตรฐานแห่งชาติเพื่อประเมินทักษะทางวิชาการ และสามในสี่ต้องการให้ใช้มาตรฐานสากล ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่าพ่อแม่และผู้ปกครองหลายรายตระหนักถึงสภาพการเรียนรู้ของบุตรหลาน

ชื่อแผนภูมิ: สิ่งที่จำเป็น (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เพื่อการเรียนรู้ของเด็กในสิบเอ็ดประเทศ

ชื่อแผนภูมิ: ความตระหนัก (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของการประเมินทักษะทางวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศในสิบเอ็ดประเทศ

คำพูดบางส่วนจาก Shuhei Umeda ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย SPRIX

เป็นเวลากว่ายี่สิบปีที่ SPRIX ได้ให้บริการด้านการศึกษาแก่เด็กชาวญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งและที่จะได้รับการจัดอันดับในรระดับกลางหรือต่ำกว่าของทักษะทางวิชาการ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในการเรียนรู้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศในเอเชีย ระดับแรงจูงใจในการเรียนรู้ทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้เรายังได้เรียนรู้แนวทางต่าง ๆ ที่ใช้ในการเรียนรู้ เราเชื่อว่าผลลัพธ์จะเป็นข้อมูลอ้างอิงที่ดีเยี่ยมสำหรับประเทศที่ผลการทดสอบทักษะทางวิชาการไม่สูงนัก

การสำรวจวิจัยประเภทนี้ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานอย่างที่ไม่เคยมีการดำเนินการในระดับโลกมาก่อน อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ นอกจากนี้การทดสอบของ Fundamental Academic Skills (TOFAS) ที่เปิดตัวซึ่งเติบโตจากผลการวิจัยที่ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 30,000 คนในสิบประเทศทั่วโลก โดยมีแผนเรียกร้องเพื่อให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในภายภาคหน้า หากบุคคลในต่างประเทศสนใจงานวิจัยประเภทนี้ และต้องการทดสอบและศึกษาวิธีพัฒนาทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานสำหรับเด็ก เรายินดีที่จะพัฒนาการวิจัยต่อไป

ภาพรวมของสถาบันวิจัย SPRIX

สถาบันวิจัย SPRIX มุ่งเน้นที่ทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน และจัดตั้งขึ้นเพื่อประเมินทักษะทางวิชาการของเด็กอย่างถูกต้อง และเพื่อให้มั่นใจว่ามีความสม่ำเสมอและการจดจำของทักษะเหล่านั้น โดยมุ่งเน้นที่ทักษะทางวิชาการที่เป็นพื้นฐานขั้นต้นซึ่งทำหน้าที่เป็นบรรทัดเริ่มต้นของสถาบันวิจัยสำหรับการพัฒนาทักษะเหล่านั้น เมื่อทักษะเหล่านั้นเหมาะสมแล้ว เด็ก ๆ จะมีอนาคตที่หลากหลายให้เลือก โดยมอบโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชีวิตของพวกเขา ภารกิจของเราในฐานะสถาบันวิจัยคือการต่อยอดการวิจัยและพัฒนาที่จำเป็นสำหรับการจดจำที่สม่ำเสมอของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานสำหรับเด็ก ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ไปยังทั่วโลกด้วย

ชื่อสถาบัน:

สถาบันวิจัย SPRIX

ผู้อำนวยการสถาบัน:

Shuhei Umeda

เว็บไซต์:

https://tofas.education/

บัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ:

Twitter https://twitter.com/SprixBasri

Facebook https://www.facebook.com/SprixBasri

ภาพรวมของ SPRIX

ชื่อบริษัท:

SPRIX

สำนักงานใหญ่:

12F, Metropolitan Plaza Building, 1-11-1 Nishi-Ikebukuro, Toshima Ward, Tokyo

ตัวแทน:

Hiroyuki Tsuneishi, Representative Director and President

เว็บไซต์:

https://sprix.jp/

สอบถามโดยตรงไปที่:

tofas@sprix.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210831005018/en/

สมาชิกของสื่อมวลชนควรส่งคำถามไปที่:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ SPRIX (สำหรับการติดต่อเบื้องต้น)
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์: Ririna Matsui, Nao Aoyama
โทร: +81-3-5572-6062
โทรสาร: +81-3-5572-6065
อีเมล์: sprix@vectorinc.co.jp










การลงทุนจาก EIG ให้กำเนิด ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระแห่งใหม่ของสหราชอาณาจักร

Logo

EIG เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วม (CCGT) ขนาด 1332 เมกะวัตต์ และแบตเตอรี่ขนาด 49 เมกะวัตต์ ในเมืองนอตติงแฮมเชียร์ ประเทศอังกฤษ

West Burton Energy ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน

นอตติงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ–(BUSINESS WIRE)–31 ส.ค. 2564

West Burton Energy ถูกก่อตั้งขึ้นในวันนี้ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านการผลิตไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร หลังจากที่ EIG ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันในภาคพลังงานทั่วโลกและเป็นหนึ่งในนักลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของโลก เข้าซื้อสินทรัพย์ด้านการผลิตไฟฟ้าจาก EDF Energy ธุรกรรมดังกล่าวซึ่งปิดตัวลงอย่างสำเร็จเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ประกอบด้วยโรงไฟฟ้า West Burton B ซึ่งเป็น โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วมขนาด 1332 เมกะวัตต์ ("CCGT") และแบตเตอรี่ขนาด 49 เมกะวัตต์ในเมืองนอตทิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ

R. Blair Thomas ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EIG กล่าวว่า "ธุรกรรมนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเราในการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง ทีมงานที่ดีที่สุด และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระบบการจ่ายไฟฟ้าของสหราชอาณาจักร และการลงทุนของเราใน West Burton Energy ตอกย้ำความมั่นใจของเราในบทบาทที่ต่อเนื่องของก๊าซในการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน”

West Burton B เป็นโรงงาน CCGT ที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีประสิทธิภาพสูง โดยมีหน่วยวงจรรวมสามชุด ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับจ่ายพลังงานให้กับบ้านประมาณ 1.5 ล้านหลัง และเชื่อมโยงกับการเก็บแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เทคโนโลยีเหล่านี้ร่วมกันมอบผลิตภัณฑ์พลังงานตามความต้องการที่จำเป็น ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนภูมิทัศน์กริดที่เปลี่ยนแปลงไปของสหราชอาณาจักร และการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำ

Mike Nason ผู้จัดการสถานีพลังงาน West Burton อธิบายว่า “ประสิทธิภาพสูงของสถานีย่อมหมายความว่ามีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลน้อยลงและมีการปล่อยมลพิษในระดับที่ต่ำลงสำหรับทุกๆ หน่วยการผลิตไฟฟ้า” “เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้ ประกอบกับความจริงที่ว่าสถานีอิสระแห่งใหม่ของเราเป็นหนึ่งในอาคารล่าสุดในประเทศ West Burton Energy จึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีในระดับแนวหน้าของตลาดพลังงานที่กำลังพัฒนาของสหราชอาณาจักร”

Walid Mouawad กรรมการผู้จัดการของ EIG กล่าวเสริมว่า "นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนของเรา เนื่องจาก West Burton Energy ได้เริ่มดำเนินการบนเส้นทางข้างหน้าเพื่อนำเสนอโซลูชันที่สามารถรองรับอนาคตที่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ได้ ด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการผลิตพลังงานทดแทน เราเชื่อว่าเทคโนโลยีการจัดเก็บแบตเตอรี่จะยังคงสนับสนุนความเสถียรของเครือข่ายกริดแห่งชาติของสหราชอาณาจักร EIG ยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับทีมที่น่าทึ่งทีมนี้ และได้เป็นส่วนหนึ่งของบทต่อไปที่น่าตื่นเต้นของ West Burton Energy”

Cantor Fitzgerald ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ EIG เกี่ยวกับการทำธุรกรรมดังกล่าว และ White & Case ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย

เกี่ยวกับ West Burton Energy

West Burton Energy เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระที่เพิ่งได้รับจัดตั้งขึ้นใหม่ และเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำในสหราชอาณาจักร บริษัทดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม หรือ Combined Cycle Gas Turbine  (CCGT) ขนาด 1332 เมกะวัตต์ และแบตเตอรี่ขนาด 49 เมกกะวัตต์ พร้อมทั้งยังมีสถานที่ตั้งที่ได้รับอนุญาตสำหรับโครงการกังหันก๊าซธรรมชาติรอบเปิด หรือ Open Cycle Gas Turbine  (OCGT) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนอตทิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ West Burton Energy ที่ www.westburtonenergy.com.

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานทั่วโลกด้วยเงิน 22.5 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 EIG เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 39 ปี EIG ได้ให้คำมั่นสัญญามูลค่ากว่า 38.0 พันล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 373 โครงการใน 38 ประเทศในหกทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วย แผนบำเหน็จบำนาญชั้นนำมากมาย บริษัทประกันภัย การบริหารเงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งอธิปไตยในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005838/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

West Burton Energy

FTI Consulting

Stephanie Randall

+1 212-850-5603

WestBurtonEnergy@fticonsulting.com

EIG

Sard Verbinnen & Co.

Kelly Kimberly / Brandon Messina

+1 212-687-8080

EIG-SVC@sardverb.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Taiwan Plus แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอแห่งแรกของไต้หวัน เปิดให้ใช้งานจริงแล้ว

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–30 ส.ค. 2564

Taiwan Plus (Taiwan+) แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระหว่างประเทศที่เป็นภาษาอังกฤษแพลตฟอร์มแรกของไต้หวัน ได้ถูกเปิดตัวโดย Lai Ching-te รองประธานาธิบดี You Si-kun โฆษกสภานิติบัญญัติ  Lee Yung-te รัฐมนตรีวัฒนธรรม Liu Ka -shiang ประธานสำนักข่าวกลาง (CNA)  Joanne Tsai ซีอีโอของ Taiwan+  และ เอกอัครราชทูต Jasmine E. Huggins แห่งสถานทูตเซนต์คริสโตเฟอร์และเนวิส ณ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันในไทเป เมื่อวันที่ 30 ส.ค.

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20210830005449/en/

Taiwan's Vice President Lai Ching-te (center) waves to the audiences at the launch party of Taiwan+, the first English-language international streaming platform of the nation on Monday. The Central News Agency Chairman Liu Ka-shiang (from right), H.E. Ambassador Jasmine E. Huggins of Embassy of Saint Christopher and Nevis in Taiwan, Culture Minister Lee Yung-te, Legislative Speaker You Si-kun, Taiwan+ CEO Joanne Tsai along with Taiwan+ News Center Director Divya Gopalan attended the event held at National Taiwan Museum. (Photo: Business Wire)

รองประธานาธิบดี Lai Ching-te (กลาง) ของไต้หวันโบกมือให้กับผู้ชมที่งานเปิดตัว Taiwan+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาษาอังกฤษระดับนานาชาติแห่งแรกของประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Liu Ka-shiang ประธานสำนักข่าวกลาง (จากขวาไปซ้าย) เอกอัครราชทูต Jasmine E. Huggins แห่งสถานทูตเซนต์คริสโตเฟอร์และเนวิสในไต้หวัน, รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lee Yung-te, โฆษกสภานิติบัญญัติ You Si-kun, ซีอีโอ Joanne Tsai แห่ง Taiwan+ พร้อมด้วย Divya Gopalan ผู้อำนวยการศูนย์ข่าว Taiwan+ ได้เข้าร่วมงานที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน (ภาพ: Business Wire)

Taiwan+ ซึ่งมุ่งเป้าหมายไปที่ผู้ชมที่พูดภาษาอังกฤษ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมในประเทศที่ทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับไต้หวัน กิจการระหว่างประเทศ และหัวข้ออื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ แพลตฟอร์มนี้ยังรวบรวมเรื่องราวที่มาจากองค์กรสื่อของทั้งรัฐและเอกชนของไต้หวันเอาไว้อีกด้วย

Sanpuy Katatepan Mavaliyw  นักร้องเจ้าของรางวัลเมโลดี้ทองคำ เปิดงานด้วยการแสดงดนตรี โดยมีตัวแทนจากหลายประเทศเข้าร่วมด้วย เช่น Izumi Hiroyasu จากญี่ปุ่น Jordan Reeves จากแคนาดา Andrew Wylegala กับ Don Shapiro จากสหรัฐอเมริกา และ Henry Chang กับ Giuseppe Izzo จากยุโรป ซึ่งงานถูกจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19

เอกอัครราชทูต Jasmine E. Huggins แห่ง สถานทูตเซนต์คริสโตเฟอร์และเนวิสในไต้หวัน กล่าวว่า แพลตฟอร์มวิดีโอระดับนานาชาตินี้ถูกคาดหมายว่าจะเชื่อมต่อไต้หวันกับโลก

ประธานาธิบดี Tsai Ing-wen  แสดงความยินดีที่ได้เข้าร่วมการเปิดตัว Taiwan+ ด้วยข้อความวิดีโอ โดยกล่าวว่า “Taiwan+ เป็นความคิดริเริ่มใหม่ที่น่าตื่นเต้นในการบอกเล่าเรื่องราวของไต้หวัน ชาวไต้หวันหลายรุ่นต่อสู้เพื่อเปลี่ยนประเทศนี้ให้เป็นประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง ซึ่งปกป้องเสรีภาพในการพูดและการแสดงออก”

นายกรัฐมนตรี Su Tseng-chang ได้อวยพรให้แพลตฟอร์มประสบความสำเร็จ เขาเน้นว่าไต้หวันเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เสรีภายใต้หลักนิติธรรม และใส่ใจในคุณค่าสากลของสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความเห็น และความหลากหลาย โดยสังเกตว่านี่คือเหตุผลที่หลายประเทศยินดีผูกมิตรและทำธุรกิจกับไต้หวัน

รองประธานาธิบดี Lai กล่าวว่า “ ผมหวังว่าเวทีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ชาวไต้หวันคิดและต้องการ สิ่งที่ไต้หวันกำลังทำ และสิ่งที่เราสามารถมีส่วนร่วมกับโลกได้”

โฆษกสภานิติบัญญัติ You ตั้งข้อสังเกตว่า เพราะการมีอยู่ของการข่มขู่และการกดขี่ทางการเมืองของจีนต่อไต้หวัน การก่อตั้ง Taiwan+ ทำให้ไต้หวันสามารถบอกเล่าเรื่องราวของตนให้โลกได้รับรู้ผ่านเสียงเล่าของไต้หวันเอง

Taiwan+ ซึ่งเป็นโครงการที่ CNA ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรม นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์สื่อมวลชนของประเทศ รัฐมนตรี Lee กล่าว ทั้งนี้ เขายังได้แสดงความขอบคุณต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติและผู้เชี่ยวชาญที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้

“ฉันหวังว่าจะทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นรูปแบบของการขยายตัว การเชื่อมต่อ และความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด เช่นเดียวกับที่ไต้หวันผสมผสานความหลากหลายทางชาติพันธุ์ วัฒนธรรม และภาษาเข้าไว้ด้วยกัน และยังแนะนำไต้หวันให้โลกได้รู้จัก ผ่านการเล่าเรื่องและข่าวสารแบบไดนามิก” Tsai ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่ออาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีในสื่อต่างประเทศ เช่น NBC/CNBC, National Geographic และ Fox International Channels กล่าว

เนื้อหาของ Taiwan+ สามารถเล่นได้บนแอพ Taiwan Plus หรือดูบนเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, YouTube, Twitter และ Instagram

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210830005449/en/

ติดต่อ:

Taiwan+

Hanna Liu

0988-653-078

hanna.liu@taiwanplus.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

EngageSmart ยื่นคำชี้แจงการลงทะเบียนสำหรับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรก

Logo

เบรนทรี แมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2564

EngageSmart, LLC (“EngageSmart”) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบแนวตั้งและโซลูชันการชำระเงินแบบบูรณาการ ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการลงทะเบียนในแบบฟอร์ม S-1 ต่อสาธารณะและต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (“SEC”) ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปในเบื้องต้น โดยยังไม่ได้กำหนดจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายและช่วงราคาเสนอขาย EngageSmart ตั้งใจที่จะแสดงหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ "ESMT"

J.P. Morgan, Goldman Sachs & Co. LLC, BofA Securities และ Citigroup จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้จัดการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนสำหรับข้อเสนอที่เสนอ Deutsche Bank Securities, Raymond James, Truist Securities และ William Blair จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุนสำหรับข้อเสนอที่เสนอ KeyBanc Capital Markets, Needham & Company, Penserra Securities LLC, R. Seelaus & Co., LLC และ Roberts และ Ryan จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับข้อเสนอที่เสนอ

การเสนอขายจะทำโดยใช้หนังสือชี้ชวนเท่านั้น สำเนาหนังสือชี้ชวนเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายสามารถได้รับจาก: JP Morgan Securities LLC, c/o Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, NY 11717 ทางโทรศัพท์ที่ (866) 803-9204 หรือทางอีเมล์ที่ prospectus-eq_fi@jpmchase.com; Goldman Sachs & Co. LLC, Attention: Prospectus Department, 200 West Street, New York, NY 10282, ทางโทรศัพท์: (866) 471-2526 หรือทางอีเมล: prospectus-eq_fi@jpmchase.com; BofA Securities Attention: Prospectus Department, NC1-004-03-43, 200 North College Street, 3rd Floor, Charlotte, NC 28255-0001 ทางโทรศัพท์ที่ (800) 299-1322 หรือทางอีเมล์ที่ dg.prospectus_requests@bofa.com; หรือ Citigroup Global Markets Inc., c/o Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, NY 11717, หมายเลขโทรฟรี: (800) 831-9146 หรือ Credit Suisse Securities (USA) LLC, Attention: Prospectus Department, Eleven Madison Avenue, New York, NY 10010

แบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนในแบบฟอร์ม S-1 ที่เกี่ยวข้องกับการขายหลักทรัพย์ที่เสนอ ได้ยื่นต่อ SEC แล้วและยังไม่มีผลบังคับใช้ ห้ามขายหลักทรัพย์เหล่านี้ หรือรับข้อเสนอซื้อก่อนเวลาที่แบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนมีผลใช้บังคับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใด ๆ ที่ข้อเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะผิดกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ EngageSmart LLC

EngageSmart, LLC (“EngageSmart”) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบแนวตั้งและโซลูชันการชำระเงินแบบบูรณาการ ที่ EngageSmart ภารกิจของเราคือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้ได้รับการบริการให้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถทุ่มเทเวลาและพลังงานกับความคิดริเริ่มที่จะปรับปรุงธุรกิจและให้บริการชุมชนของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น EngageSmart มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเบรนทรี รัฐแมสซาชูเซตส์ ให้บริการโซลูชั่นแนวตั้งในการให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ (“SaaS”) อินสแตนซ์เดี่ยว การบริการแบบ multi-tenant ซึ่งรวมถึง SimplePractice, InvoiceCloud, HealthPay24 และ DonorDrive ที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการสร้างสัมพันธ์ของลูกค้ากับผู้ได้รับการบริการของพวกเขาโดยขับเคลื่อนการนำดิจิทัลมาใช้และการบริการตนเอง EngageSmart ให้บริการลูกค้ามากกว่า 68,000 รายในกลุ่ม SMB Solutions และลูกค้ามากกว่า 3,000 รายในกลุ่ม Enterprise Solutions ใน 5 ประเภทธุรกิจหลัก ได้แก่ Health & Wellness, Government, Utilities, Financial Services และ Giving

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210827005155/en/

ติดต่อนักลงทุน:

David Calusdian
dcalusdian@investorrelations.com
617-542-5300

ติดต่อสื่อมวลชน:

Nicole Bestard
nicole@qh-pr.com
646-627-3644

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Seafood Legacy Co. Ltd. ประกาศเปิดให้ลงทะเบียนการประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ประจำปี 2564

Logo

สร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินสู่ปี 2573: พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารทะเลญี่ปุ่นผ่านการลงทุนแบบ DX และ ESG

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2564

การประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ประจำปี 2564 (TSSS2021) จะจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 11 ถึงวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2564 โดย Seafood Legacy Co., Ltd. (จากนี้เรียก "Seafood Legacy '') และ Nikkei ESG ร่วมกับ Walton Family Foundation และ David and Lucile Packard Foundation

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาแบบมัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210826005032/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

ธีมของการประชุมในปีนี้คือ "สร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินสู่ปี 2573: พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารทะเลของญี่ปุ่นผ่านการลงทุนแบบ DX และ ESG" จากการให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจสีน้ำเงินและความสำเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573 การประชุมจึงมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีมาดำเนินธุรกิจ (DX) และการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ที่มุ่งเร่งการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของญี่ปุ่น

การประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ต่อยอดมาจาก Tokyo Sustainable Seafood Symposium ที่จัดก่อนหน้า โดยจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2558 และได้เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในการประชุมชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับอาหารทะเลที่ยั่งยืน โดยมีอัตราการเข้าร่วมที่เพิ่มขึ้นทุกปี ปีที่แล้วมีผู้บรรยาย 108 คน และผู้เข้าร่วมประชุม 3,800 คน (ยอดชมทางออนไลน์)

การเคลื่อนไหวต่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลและเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่อิงกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีการเติบโตขึ้นจากความสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และเป็นสัญลักษณ์จากแนวคิด "เศรษฐกิจสีน้ำเงิน"

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขพระราชบัญญัติการประมงของญี่ปุ่นที่มีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคม 2563 โดยมีการออกกฎหมายเพื่อปรับใช้และปรับปรุงการจำหน่าย (พระราชบัญญัติการค้าสัตว์และพืชเฉพาะทางทะเลในประเทศ) นโยบายดังกล่าวสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการปรับปรุงความยั่งยืน นอกจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว ยังมีสัญญาณว่าการนำเทคโนโลยีทางดิจิทัลมาใช้จะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล ส่วนสถาบันการเงินก็ได้เปิดตัวโครงการที่สนับสนุนการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อปรับปรุงความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอีกด้วย

ชื่องานได้ถูกเปลี่ยนจาก "การประชุมสัมมนา" เป็น "การประชุมสุดยอด" เพื่อให้สะท้อนถึงเป้าหมายในการตระหนักถึงการเคลื่อนไหวที่ได้ผลมากขึ้น โดยเป้าหมายคือการทำให้การประชุมเป็นงานที่นอกจากจะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนโดยใช้เทคโนโลยีทางดิจิทัลและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลแล้ว เรายังสามารถพูดคุยกับผู้บรรยายและผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับวิธีสร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินให้ดีที่สุดภายใน 10 ปีจนถึงปี 2573 ได้อีกด้วย

นอกจากการแบ่งปันข้อมูลล่าสุดที่เคยทำในการประชุมก่อนหน้าแล้ว การประชุมในปีนี้จะใช้ฟังก์ชันออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้กับผู้ที่ต้องการส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลได้สามารถโต้ตอบกัน

การประชุมครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศหารือกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลของญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 วัน โดยมีเป้าหมายในการส่งต่อทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์และเศรษฐกิจที่ยั่งยืนไปสู่รุ่นต่อไป เราขอขอบคุณสำหรับการแบ่งปันข้อมูลนี้ผ่านสื่อของท่าน

โครงร่างการประชุม

  • หัวข้อ: การประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ประจำปี 2564 (TSSS2021)
  • ธีม: สร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินสู่ปี 2573: พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารทะเลญี่ปุ่นผ่านการลงทุนแบบ DX และ ESG
  • วัน/เวลา: วันจันทร์ที่ 11 ถึงวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2564
  • สถานที่: ออนไลน์
  • ค่าธรรมเนียมการเข้าร่วม: 5,000 เยนต่อคนสำหรับ 3 วันเต็ม (ไม่รวมภาษี)
  • บริการล่ามแปลภาษา ญี่ปุ่น-อังกฤษ พร้อมกันในงาน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการลงทะเบียน โปรดดูที่: https://sustainableseafoodnow.com/2021/en/

ระหว่างการประชุม เราจะจัดงานมอบรางวัล Japan Sustainable Seafood Award ครั้งที่ 3 ซึ่งจะยกย่องถึงความพยายามในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวทางอาหารทะเลที่ยั่งยืนของญี่ปุ่น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210826005032/en/

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศได้ที่:
Miki Yamaoka miki.yamaoka@seafoodlegacy.com
Mariko Arikawa mariko.arikawa@seafoodlegacy.com
โทร: +81-80-3550-2920
Seafood Legacy Co., Ltd.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Analog Devices เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Maxim Integrated

Logo

วิลมิงตัน, แมสซาชูเซตส์–(บิสิเนส ไวร์)–26 ส.ค. 2564

Analog Devices, Inc. (NASDAQ: ADI) ประกาศในวันนี้ว่า การเข้าซื้อกิจการ Maxim Integrated Products, Inc. (NASDAQ: MXIM) ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เสร็จสมบูรณ์แล้ว การรวมกันดังกล่าวช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของ ADI ในฐานะบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แอนะล็อกที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยรายรับตลอด 12 เดือนที่มากกว่า 9 พันล้านดอลลาร์1 อัตราส่วนแบ่งของตลาดระดับผู้นำอุตสาหกรรม และกระแสเงินสดอิสระกว่า 3 พันล้านดอลลาร์1 ตามธรรมเนียม

“วันนี้เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ADI และผมดีใจที่ได้ต้อนรับทีม Maxim ซึ่งมีความหลงใหลในการแก้ปัญหาเทคโนโลยีที่ซับซ้อนที่สุดของลูกค้าเหมือนกับเรา” Vincent Roche ประธานและ CEO กล่าว “ด้วยวิศวกรมากกว่า 10,000 คน และเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของเราที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะพัฒนาโซลูชันที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา เราจะร่วมกันขับเคลื่อนคลื่นลูกต่อไปของนวัตกรรมเซมิคอนดักเตอร์แบบอะนาล็อก ในขณะเดียวกันก็สร้างอนาคตที่แข็งแรง ปลอดภัย และยั่งยืนมากขึ้นสำหรับทุกคน”

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงขั้นสุดท้าย ผู้ถือหุ้นของ Maxim ได้รับหุ้นสามัญของ ADI 0.63 หุ้น ต่อหนึ่งหุ้นสามัญของ Maxim โดย หุ้นสามัญของ Maxim จะไม่มีการซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ อีกต่อไป

คณะกรรมการบริษัทร่วม

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปิดการทำธุรกรรม Tunç Doluca อดีตประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Maxim และ Mercedes Johnson อดีตผู้ก่อตั้งบริหารของ Avago Technologies จะเข้าร่วมคณะกรรมการ ADI Mr. Doluca และ Ms. Johnson ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของ Maxim จนกว่าจะปิดธุรกรรม

การประชุมทางโทรศัพท์และเว็บคาสต์พิเศษสำหรับผู้ลงทุน

ADI วางแผนที่จะโฮสต์เว็บคาสต์เพื่อหารือเกี่ยวกับลำดับความสำคัญในการจัดสรรทุนที่จะเกิดขึ้นและแนวโน้มไตรมาสที่สี่ของปีงบประมาณ 2021 ที่ได้รับการอัปเดต การออกอากาศทางเว็บมีกำหนดจะเริ่มในเวลาประมาณ 8:30 น. ตามเวลาตะวันออกของวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564 โดยมี Vincent Roche ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Prashanth Mahendra-Rajah รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และ Michael Lucarelli ผู้อำนวยการอาวุโสของฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ เข้าร่วม

เว็บคาสต์และการนำเสนอที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ สามารถเข้าถึงได้แบบสด ๆ ทางอินเทอร์เน็ตบนเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ของ Analog Devices ที่  investor.analog.com หรือทางโทรศัพท์ดังนี้:

ผู้เข้าร่วมที่โทรเข้ามา (ในประเทศและต่างประเทศ): (833) 423-0297

รหัสผ่านผู้เข้าร่วมระหว่างประเทศ: 8334230297

*ไม่ต้องใช้รหัสผ่านสำหรับการโทรภายในประเทศ

การประชุมทางโทรศัพท์จะพร้อมฉายซ้ำ หลังจากสิ้นสุดการประชุมประมาณสองชั่วโมง และอาจเข้าถึงได้นานถึงสองสัปดาห์ โดยกด 855-859-2056 และเข้าการประชุมรหัส 7115409

ทั้งข่าวประชาสัมพันธ์และเวอร์ชันก่อน ๆ ของเว็บคาสต์สามารถหาได้ที่ investor.analog.com.

เกี่ยวกับ Analog Devices

Analog Devices, Inc. (NASDAQ: ADI) ดำเนินงานที่ศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลสมัยใหม่ โดยเปลี่ยนปรากฏการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงด้วยชุดสัญญาณแอนะล็อกและผสมที่ครอบคลุม การจัดการพลังงาน ความถี่วิทยุ (RF) และ เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และดิจิตอล ทั้งนี้ ADI ให้บริการลูกค้า 125,000 รายทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 75,000 รายการในตลาดอุตสาหกรรม การสื่อสาร ยานยนต์ และผู้บริโภค ADI มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เยี่ยมชมที่ http://www.analog.com.

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

การสื่อสารนี้เป็น "ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า" ตามความหมายของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ากล่าวถึงหัวข้อต่าง ๆ เช่น ข้อความเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของการทำธุรกรรม ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของธุรกรรมต่อธุรกิจขององค์กรที่ควบรวมกันและผลประกอบการทางการเงินและการดำเนินงานในอนาคต จำนวนและระยะเวลาที่คาดหวังจากการทำงานร่วมกันจากการทำธุรกรรม ข้อความที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต รวมถึงข้อความเกี่ยวกับความเชื่อ แผนงาน และความคาดหวังของ ADI ถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความดังกล่าวอิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบันของ ADI และขึ้นอยู่กับปัจจัยและความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่กล่าวไว้ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้ามักประกอบด้วยคำต่างๆ เช่น "คาดหวัง" "คาดการณ์" "ตั้งใจ" "วางแผน" "เชื่อ" "น่าจะ" "ประมาณการ" "จะ" "กำหนดเป้าหมาย" และสำนวนที่คล้ายคลึงกันนี้ รวมถึงนิเสธของคำเหล่านี้ ปัจจัยและความไม่แน่นอนที่สำคัญดังต่อไปนี้ อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่อธิบายไว้ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ เช่น ความไม่แน่นอนในขอบเขตของระยะเวลา ขอบเขต และผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ COVID-19; ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำหรือเสถียรภาพของตลาดสินเชื่อและการเงิน การพังทลายของความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการใช้จ่ายของลูกค้าที่ลดลง ความไม่พร้อมของวัตถุดิบ บริการ วัสดุหรือกำลังการผลิต การเปลี่ยนแปลงในขอบเขตทางภูมิศาสตร์หรือผลิตภัณฑ์หรือส่วนประสมของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงประเภทการส่งออก กฎระเบียบหรือภาษีนำเข้าและส่งออก; การเปลี่ยนแปลงในการประมาณการของ ADI เกี่ยวกับอัตราภาษีที่คาดหวังตามกฎหมายภาษีปัจจุบัน ความสามารถของ ADI ในการบูรณาการธุรกิจและเทคโนโลยีของ Maxim ได้สำเร็จ ความเสี่ยงที่ผลประโยชน์และการทำงานร่วมกันที่คาดหวังของธุรกรรมและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทที่ควบรวมกันอาจไม่สำเร็จอย่างสมบูรณ์ในเวลาหรืออาจไม่สำเร็จเลย อาจส่งผลเสียในเรื่องคดีความ รวมทั้งความเป็นไปได้ในการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม; ความเสี่ยงที่ ADI จะไม่สามารถะจ้างและรักษาบุคลากรหลักเอาไว้ได้ ความยากลำบากหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับการทำธุรกรรม การตอบสนองของคู่ค้าทางธุรกิจ และการรักษาคู่ค้าอันเป็นผลมาจากการทำธุรกรรม ความไม่แน่นอนของมูลค่าหุ้นระยะยาวของหุ้นสามัญของ ADI และการผันเวลาในการจัดการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรายการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่ได้อธิบายไว้ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า โปรดดูที่รายงานตามระยะเวลาของ ADI และ Maxim และการยื่นเอกสารอื่น ๆ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่มีอยู่ใน ADI และรายงานประจำไตรมาสล่าสุดของ Maxim ในแบบฟอร์ม 10-Q และรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 10-K ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าแสดงถึงการคาดการณ์ในปัจจุบันของผู้บริหารและมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และจัดทำขึ้น ณ วันที่ในที่นี้เท่านั้น ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด ADI จะไม่ดำเนินการหรือรับภาระผูกพันใด ๆ ในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่หรือเพื่อสะท้อนเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ตามมาหรืออย่างอื่น

(ADI-WEB)

________________________________

1 สำหรับ Analog Devices อิงตามสิบสองเดือนต่อมา ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564  และสำหรับ Maxim อิงจากสิบสองเดือนต่อมาซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 26 มิถุนายน  2564  กระแสเงินสดอิสระหมายถึงเงินสดสุทธิที่ได้จากกิจกรรมดำเนินงาน ซึ่งกำหนดตาม GAAP หักส่วนเพิ่มในที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210826005486/en/

การติดต่อสำหรับ ADI

ติดต่อสำหรับนักลงทุน:

Mr. Michael Lucarelli

781-461-3282

investor.relations@analog.com

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Ms. Brittany Stone

917-935-1456

Brittany.Stone@teneo.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

P&G Studios และ Harder Than You Think Foster Game เปลี่ยนการสนทนาในซีรีส์พอดแคสต์ใหม่ในเรื่อง “Equal Too: Achieving Disability Equality”

Logo

ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังสารคดี Rising Phoenix ที่ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ได้ขอการสนับสนุนจากผู้อำนวยการสร้าง Sophie Morgan และผู้อำนวยการสร้าง Sinéad Burke ช่วยเน้นย้ำบทสนทนาที่ก้าวล้ำในประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับชุมชนผู้พิการ

ซินซินแนติ–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2564

วันนี้ P&G Studios และทีมงาน Harder Than You Think เปิดตัวซีรีส์พอดแคสต์เรื่องใหม่ “Equal Too: Achieving Disability Equality” เพื่อจุดประกายความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ชุมชนผู้พิการต้องเผชิญ และเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนในความเท่าเทียมกัน พอดแคสต์ซึ่งจัดโดย Sophie Morgan ผู้นำเสนอรายการโทรทัศน์และผู้ให้การสนับสนุนด้านความทุพพลภาพของสหราชอาณาจักร จะมุ่งเน้นไปที่การรับรู้ที่ท้าทาย เฉลิมฉลองความสำเร็จ และสำรวจวิธีการเปลี่ยนโลกสำหรับผู้ที่มีและไม่มีความทุพพลภาพ Sophie จะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ อินฟลูเอนเซอร์ และนักเคลื่อนไหวที่มีข้อมูลและมีชื่อเสียงมากที่สุดเกี่ยวกับประเด็นสำคัญของความทุพพลภาพและการไม่แบ่งแยก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210826005660/en/

P&G Studios and the team at Harder Than You Think launch a new podcast series, “Equal Too: Achieving Disability Equality,” to shine a light on the biggest challenges faced by the disabled community and start a conversation about what is needed to drive equality. (Graphic: Business Wire)

P&G Studios และทีมงานที่ Harder Than You Think เปิดตัวซีรีส์พอดแคสต์เรื่องใหม่ “Equal Too: Achieving Disability Equality” เพื่อจุดประกายความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ชุมชนผู้พิการต้องเผชิญ และเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนในความเท่าเทียมกัน (กราฟิก: Business Wire)

“Equal Too” เป็นซีรีส์หกตอนพิเศษที่นำเสนอบทสนทนาเรื่องอำนาจและวัตถุประสงค์ในพอดแคสต์ Seneca และนำเสนอโดยเครือข่ายพอดแคสต์ Seneca Women และ iHeart Radio ซีรีส์จะดำเนินไปจนถึงเดือนสิงหาคมและกันยายน และจะสำรวจหัวข้อที่กระตุ้นความคิด อย่างเช่น

  • อิทธิพลที่ดำรงต่อไปในการเคลื่อนไหวพาราลิมปิกและผลกระทบที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในการจัดการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีต่อเมืองเจ้าภาพและอื่นๆ
  • กฎหมายสำหรับผู้พิการมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรและอะไรที่ต้องทำมากกว่านี้
  • เส้นทางการจ้างงานสำหรับผู้พิการใน 70 ปี หลังจากที่ Sir Ludwig Guttmann เริ่มใช้กีฬาในการสร้างพื้นที่สำหรับผู้พิการในสังคม

สำหรับ “Equal Too” ทีมงานที่มากความสามารถผู้อยู่เบื้องหลังสารคดี Rising Phoenix  ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของ Netflix ได้รวบรวมเสียงจากผู้กำหนดนโยบาย นักเคลื่อนไหว นักกีฬา และพันธมิตรจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน ซึ่งรวมถึง:

  • Jameela Jamil นักแสดงและพิธีกรที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้สนับสนุนสิทธิความทุพพลภาพ สิทธิ LGBTQ+ ความเป็นกลางทางร่างกาย และผลงานของเธอในฐานะผู้ก่อตั้งชุมชน I Weigh
  • RJ Mitte นักแสดงชาวอเมริกัน ผู้สนับสนุน และผู้ใจบุญ ซึ่งเป็นแชมป์โลกในการพูดถึงประสบการณ์ของเขากับ Cerebral Palsy ด้วยความหวังว่าจะลบมลทินที่เกี่ยวข้องกับความพิการ
  • Tatyana McFadden นักกีฬาชาวรัสเซีย – อเมริกัน ผู้ถือเหรียญพาราลิมปิก 17 เหรียญ ที่มีความพยายามจะสนับสนุนความเท่าเทียมกันของผู้ทุพพลภาพนำไปสู่การออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนที่มีความพิการสามารถเข้าถึงการแข่งขันกรีฑาได้อย่างเท่าเทียมกัน
  • Andrew Parsons ผู้บริหารกีฬาชาวบราซิล และประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (IPC) โดย IPC และ International Disability Alliance เป็นผู้นำในการเปิดตัวแคมเปญ #WeThe15 ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวระดับโลกเพื่อเป็นตัวแทนของผู้พิการ 1.2 พันล้านคนทั่วโลก

Greg Nugent ผู้ร่วมก่อตั้ง Harder Than You Think และผู้สร้าง Rising Phoenix กล่าวว่า “ด้วย 'Equal Too' ที่รวบรวมเสียงที่ทรงอิทธิพลและทรงพลังไว้มากมาย จะช่วยให้เราค้นหาว่าเรื่องราวของ Rising Phoenix จะต้องดำเนินต่อไปอย่างไร” “หัวข้อในการสนทนามีความพิเศษและสำคัญ และความจำเป็นสำหรับการเล่าเรื่องมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็น”

ในขณะที่โลกหันมาให้ความสนใจกับนักกีฬาที่น่าทึ่งในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ และได้รับแรงบันดาลใจจากการเปิดตัวโครงการ #WeThe15 ของ IPC ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มีความเท่าเทียมด้านความทุพพลภาพที่ใหญ่ที่สุด โดย P&G มอบเงินบริจาค 100,000 ดอลลาร์ให้กับมูลนิธิ Agitos Foundation สิ่งนี้จะช่วยเติมพลังให้กับงานของ IPC เพื่อเปลี่ยนวิธีที่คนหนุ่มสาวรับรู้ถึงผู้ทุพพลภาพ

“เราเชื่อว่าทัศนวิสัยที่มากขึ้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการเปลี่ยนการรับรู้บนเส้นทางสู่ความเท่าเทียมของผู้ทุพพลภาพ” Phil Duncan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบและผู้บริหารโอลิมปิกเกมส์ของ P&G กล่าว “เราทุกคนยังต้องเรียนรู้อีกมาก ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องให้ความสำคัญกับบทสนทนาที่สำคัญอย่างมหาศาลใน 'Equal Too' นอกจากนี้เรายังภูมิใจที่ได้ช่วยบริจาคเงินให้กับมูลนิธิ Agitos Foundation ผู้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อในการปลุกจิตสำนึกมาอย่างยาวนานสำหรับคนรุ่นหลัง”

เนื่องจากบทสนทนาที่มีความหมายเกี่ยวกับการไม่แบ่งแยกจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการแสดงเสียงที่เท่าเทียมกัน ทีมจึงสร้าง "Equal Too" ขึ้นได้ ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงแขกรับเชิญและผู้มีส่วนร่วม ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ระบุว่าเป็นผู้พิการมากกว่า 60% ผู้นำของโครงการคือผู้หญิงทรงอิทธิพลสองคน ได้แก่ Sophie Morgan เจ้าภาพและผู้อำนวยการสร้าง และ Sinéad Burke ผู้อำนวยการสร้างและที่ปรึกษาด้านเรื่องราว Sophie เป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนเธออายุ 18 ปี เธอเป็นผู้ประกาศข่าวที่ได้รับรางวัลโดยนำเสนอให้กับทางช่อง 4 ในทุกการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ตั้งแต่พาราลิมปิกเกมส์ลอนดอน 2012 และเป็นหนึ่งในคนแรกและผู้หญิงในพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่พิการของโลก Sinéad ผู้ก่อตั้งที่ปรึกษาด้านการเข้าถึงข้อมูล Tilting the Lens เป็นคนตัวเล็ก ๆ คนนึงที่รณรงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานพื้นฐานของความสามารถในการเข้าถึงเพื่อสร้างโลกที่ออกแบบโดยผู้พิการเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม

ทุกตอนของพอดแคสต์จะเผยแพร่พร้อมบทบันทึกที่สามารถดาวน์โหลดได้จากเวลานั้นเป็นต้นไป นอกจากนี้พวกเขาจะมากับวิดีโอพร้อมคำบรรยายที่มี Rinkoo Barpaga ล่ามภาษามือชาวอังกฤษที่มีความบกพร่องในการได้ยิน คุณสามารถดาวน์โหลดและฟัง “Equal Too” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาของ Seneca ได้บนแอป iHeartradio, Apple Podcasts หรือเครื่องเล่นพอดแคสต์ใดก็ตามที่คุณใช้

เกี่ยวกับ Procter & Gamble

P&G ให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกด้วยเป็นหนึ่งในพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งที่สุดของแบรนด์ชั้นนำที่มีคณภาพและน่าเชื่อถือ รวมทั้ง Always®, Ambi Pur®, Ariel®, Bounty®, Charmin®, Crest®, Dawn®, Downy®, Fairy®, Febreze ®, Gain®, Gillette®, Head & Shoulders®, Lenor®, Olay®, Oral-B®, Pampers®, Pantene®, SK-II®, Tide®, Vicks® และ Whisper® ชุมชน P&G มีการดำเนินงานในประมาณ 70 ประเทศทั่วโลก สำหรับข่าวสารและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ P&G และแบรนด์ต่าง ๆ กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ http://www.pg.com สำหรับข่าวสารอื่นๆ ของ P&G เยี่ยมชมเราได้ที่ www.pg.com/news

เกี่ยวกับ P&G Studios

P&G Studios พัฒนาและจัดทำเรื่องราวเพื่อช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม โดยมักจะจุดประกายให้กับเสียงที่โดนมองข้ามและการกระทำที่ดี นวัตกรเชิงสร้างสรรค์ที่มีใจและมีภารกิจเดียวกันและพันธมิตรองค์กร NGO ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ร่วมกับ P&G Studios เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเรื่องราวที่แท้จริงในการยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจ โปรแกรมล่าสุด ได้แก่ ภาพยนตร์ The Queen Collective และ 8:46, ซีรีส์ National Geographic ACTIVATE, ซีรีส์สารคดี The Tent Mender, รายการพิเศษหนึ่งชั่วโมง TIME 100 Most Influencer of the Year และ TIME Person of the Year, สารคดีสั้น Coded และการเปิดตัวของเครือข่ายพอดแคสต์ของ Seneca Women

เกี่ยวกับ Harder Than You Think

Harder Than You Think เป็นบริษัทผู้ผลิตอิสระที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเปลี่ยนวิธีที่เราคิดโดยใช้พลังของเรื่องราว Harder Than You Think ก่อตั้งและร่วมก่อตั้งโดย Greg Nugent และ Godric Smith อดีตกรรมการของ London 2012 Olympics and Paralympics ผลงานของ Greg และ Godric รวมถึงการสร้าง Heads Together Campaign for their Royal Highnesses โดยใช้ภาพยนตร์ ซึ่งได้เปลี่ยนมุมมองของประเทศในด้านสุขภาพจิต และการสร้าง Earthshot Prize ซึ่งเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดต่อโรงงานสำหรับการปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม

Rising Phoenix เป็นภารกิจระยะเวลา 10 ปี โดย Harder Than You Think ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนวิธีที่โลกคิดเกี่ยวกับศักยภาพของมนุษย์ โครงการนี้ถือกำเนิดจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องแรกของ Harder Than You Think เรื่อง 'Rising Phoenix' ซึ่งเป็นสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการเคลื่อนไหวพาราลิมปิกที่เป็นแลนด์มาร์คและคว้ารางวัล Emmy ถึงสองครั้งที่ออกฉายในปี 2563 บน Netflix และผ่านภาพยนตร์และโครงการเสียงต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของทศวรรษหน้า

เกี่ยวกับ Seneca Women

ผู้ร่วมก่อตั้งโดยเอกอัครราชทูต Melanne Verveer เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนแรกของ Global Women's Issues และ Kim Azzarelli ที่ปรึกษาด้านองค์กร กฎหมายและการกุศล ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนหนังสือที่ขายดีที่สุดเรื่อง Fast Forward: How Women Can Achieve Power and Purpose และร่วมกับ Sharon Bowen อดีตกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์แห่งสหรัฐอเมริกา Seneca Women ได้พยายามเร่งความก้าวหน้าของผู้หญิงผ่านกิจกรรมความเป็นผู้นำทางความคิดอันเป็นเอกลักษณ์ที่ดาโวส พิพิทธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตลอดจนผ่านแอป Seneca Women จดหมายข่าวรายสัปดาห์ และความร่วมมือที่สำคัญกับภาครัฐและเอกชน เครือข่ายพอดแคสต์ Seneca Women เป็นแพลต์ฟอร์มสำหรับเสียงของผู้หญิงตลอดจนเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจ เน้นวัตถุประสงค์และครอบคลุม

เกี่ยวกับ iHeartMedia

iHeartMedia (NASDAQ: IHRT) เป็นบริษัทด้านเสียงอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา โดยเข้าถึงชาวอเมริกัน  เก้าใน 10 คนทุกเดือน – และด้วยจำนวนผู้ฟังนับพันล้านรายต่อเดือน เข้าถึงได้มากกว่าบริษัทสื่ออื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งผู้นำด้านเสียงครอบคลุมหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงสถานีถ่ายทอดสดมากกว่า 850 สถานีในกว่า 160 ตลาดทั่วประเทศ ผ่านบริการดิจิทัล iHeartRadio ที่มีอยู่ในมากกว่า 250 แพลตฟอร์มและอุปกรณ์ 2,000 เครื่อง ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ โซเซียล งานแสดงดนตรีสดอันเป็นสัญลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลและจดหมายข่าวอื่น ๆ และพอดแคสต์ในฐานะผู้เผยแพร่พอดแคสต์เชิงพาณิชย์อันดับ #1 iHeartMedia ยังเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านเสียงในการวิเคราะห์ การกำหนดเป้าหมาย และการระบุแหล่งที่มาสำหรับพันธมิตรทางการตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ SmartAudio โดยใช้ข้อมูลจากฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210826005660/en/

ติดต่อ:

Samantha Policano, MMK+
(202) 835-9495
samantha.policano@ketchum.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ศูนย์วอลโว่ เอ็มดับบลิววัน ส่งมอบรถยนต์ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกของศูนย์ฯ

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS)–26 สิงหาคม 2564

imgนายวรศักดิ์ ชาญไพบูลย์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดับบลิว มอเตอร์วัน จำกัด ศูนย์รถยนต์วอลโว่ เอ็มดับบลิววัน (VOLVO MWOne) ผู้จัดจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์วอลโว่แห่งเดียวในนนทบุรี พร้อมทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ร่วมแสดงความยินดีและส่งมอบรถยนต์วอลโว่ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์และเป็นคันแรกของศูนย์ให้กับ นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด และนางจันดา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงลามิน่า ฟิล์มลูมาร์ ฟิล์มนิรภัยติดกระจกด้านนอกรถเบรย์ ฯลฯ โดยรถยนต์ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric เป็นความสำเร็จก้าวแรกของวอลโล่ ในการเดินหน้าสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว

ผู้สนใจสามารถนัดหมายทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ VOLVO MWOne พร้อมรับแคมเปญพิเศษ ฟรีบริการหลังการขาย รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) บริการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และบริการให้ความช่วยเหลือ 24 ชม.ระยะเวลา 5 ปี ฟรีประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 เป็นเวลา 3 ปี* ฟรีเครื่องชาร์จไฟแบตเตอรี่แรงดันสูงแบบติดผนังและฟรีบริการตรวจสภาพระบบไฟฟ้าและติดตั้ง ฟรีค่าชาร์จไฟด้วย EA Anywhere application* และบริการประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงดันสูงเป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 150,000 (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)*

ทั้งนี้ ศูนย์บริการรถยนต์วอลโว่ เอ็มดับบลิววัน (VOLVO MWOne) พร้อมให้ความมั่นใจด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วยการฉีดพ่นสเปรย์และทำความสะอาด เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสทั้งภายในห้องโดยสาร ภายนอกตัวรถของรถยนต์ทุกคัน และบริเวณโชว์รูมทั้งหมด สร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ตลอดจนศูนย์มีจุดคัดกรองและดำเนินการตามนโยบายการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างเคร่งครัด

สำหรับลูกค้าที่จองวันนี้กับ VOLVO MWOne รับโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ โทร. 099 444 9399 หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม www.swedencar-mw.com

เกี่ยวกับรถยนต์วอลโว่ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric

รถยนต์ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric เป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าที่มีสมรรถนะเทียบเคียงได้กับรถยนต์เครื่องสันดาปตัวท็อปของโลก โดดเด่นด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไออน 78 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่พัฒนาขึ้นใหม่ ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% เพียง 6-8 ชั่วโมงด้วยเครื่องชาร์จไฟมาตรฐานขนาด 11 กิโลวัตต์ (Wall-Box EV Charger) และสามารถเลือกใช้ระบบชาร์จเร็วได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 40 นาที ซึ่งเมื่อชาร์จเต็ม 100% สามารถวิ่งได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP) ถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับวงการยานยนต์โลกเพื่อมุ่งสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรโลกไปพร้อมๆ กับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ รถยนต์วอลโว่ The New Volvo XC40 Recharge Pure Electric ใหม่ มาพร้อม Volvo Care Package ประกอบด้วย บริการหลังการขาย Volvo Premium Service Program ประกันภัยรถยนต์ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงและการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงดันสูง เป็นเวลา 8 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)*

* โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

The Bangkok Reporter