Toshiba เปิดตัว IC ไดรเวอร์มอเตอร์ H-bridge แบบคู่พร้อม PWM Control สำหรับอุปกรณ์พกพาและเครื่องใช้ภายในบ้าน

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–22 ต.ค. 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("โตชิบา") ได้เปิดตัวไดรเวอร์มอเตอร์ H-bridge รุ่น "TC78H660FNG" ซึ่งอยู่ในแพ็คเกจ TSSOP16 พร้อมการกำหนดพินที่กว้าง  อุปกรณ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Toshiba ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไดร์เวอร์สำหรับ DC แบบแปรงและสเต็ปปิ้งมอเตอร์สำหรับการใช้งานที่รวมถึงอุปกรณ์พกพาและเครื่องใช้ภายในบ้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201021006141/en/

Toshiba: an H-bridge motor driver TC78H660FNG (Graphic: Business Wire)

Toshiba: ไดรเวอร์มอเตอร์ H-bridge รุ่น TC78H660FNG (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

กระบวนการ DMOS รุ่นใหม่ของ Toshiba ช่วยให้ TC78H660FNG มีความต้านทาน ON ต่ำ 0.48Ω ที่พิกัดสูงสุด 18V/2.0A[1] และลดการสร้างความร้อนเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Toshiba

ไดรเวอร์ใหม่มีตัวควบคุมสำหรับการขับเคลื่อนวงจรภายในและสามารถขับเคลื่อนมอเตอร์ที่มีแหล่งจ่ายไฟเดียวตั้งแต่ 2.5V ถึง 16V  การใช้งาน ได้แก่ อุปกรณ์พกพาที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 3.7V, อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจาก USB 5V และอุปกรณ์ระบบ 12V สำหรับเครื่องใช้ภายในบ้าน  นอกจากนี้ยังรองรับอินเทอร์เฟซ 1.8V ต่ำ

คุณสมบัติ

  • ไดรฟ์พลังงานเดียว มีการควบคุม PWM ที่ง่ายดาย
  • ความต้านทาน ON resistance ต่ำช่วยลดการสร้างความร้อนเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของโตชิบา (Ron=0.48Ω (upper + lower: typ.) @VM=12V, Ta = 25°C)
  • การสิ้นเปลืองกระแสไฟต่ำ (กระแสสแตนด์บายต่ำพิเศษ: 0.1μAหรือน้อยกว่า @Ta=25°C)

การใช้งาน

อุปกรณ์พกพาที่ใช้แบตเตอรี่ รวมทั้งหุ่นยนต์และของเล่น เครื่องใช้ในบ้านรวมทั้งตู้เย็น สมาร์ทมิเตอร์ ฯลฯ

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TC78H660FNG

แรงดันไฟฟ้า (ช่วงการทำงาน)

2.5V ถึง 16V

แรงดันขาออก (ค่าสูงสุด)

18V @ เอาต์พุตเปิด

20V @ เอาต์พุตปิด

กระแสเอาต์พุต (ค่าสูงสุด)

2A

จำนวน ช่องสัญญาณ H-bridge

2ch

มอเตอร์ที่รองรับ

แปรงมอเตอร์ DC (สามารถควบคุมมอเตอร์คู่ได้) เต็ปปิ้งมอเตอร์แบบสองขั้ว

ความต้านทานเอาท์พุท (บน + ล่าง)

0.48Ω (typ.)@VM=12V, Ta=25℃

ฟังก์ชันความปลอดภัย

การตรวจจับกระแสเกิน การปิดเครื่องเพราะความร้อน การล็อกเอาท์แรงดันไฟฟ้า

ฟังก์ชันเอาท์พุทสำหรับการตรวจจับกระแสเกินและการปิดเครื่องเพราะความร้อน

คุณสมบัติ

การใช้กระแสไฟในโหมดสแตนด์บาย: 0.1μA หรือน้อยกว่า

ไดรฟ์พลังงานเดี่ยว

รองรับการควบคุม 1.8V I/F

การควบคุม PWM แบบตรง

หรือ

การควบคุมกระแสคงที่โดยไม่มีกระแสตัวต้านทานความรู้สึก

แพคเกจ

TSSOP16 (ขนาด: 5.0มม.×6.4มม.)

การตรวจสอบสต๊อกและการซื้อ

ซื้อทางออนไลน์

[1] กระแสของมอเตอร์ขับเคลื่อนจริงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งานและปัจจัยต่างๆ เช่นอุณหภูมิแวดล้อมและแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TC78H660FNG

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IC ไดรเวอร์มอเตอร์ของ Toshiba โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/motor-driver-ics.html

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TC78H660FNG.html

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:

System Devices Marketing Dept.I (ฝ่ายการตลาดอุปกรณ์)

Industry Marketing Group II (ฝ่ายการตลาดอุตสาหกรรม)

โทร : +81-3-3457-3249  https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ผสมผสานความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาแห่งประสบการณ์  นับตั้งแต่กลายเป็นบริษัทอิสระในเดือนกรกฎาคม 2560 บริษัท ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์ทั่วไปและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSI และ HDD

พนักงาน 24,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  บริษัทตั้งตารอที่จะสร้างยอดขายต่อปีได้ทะลุ 750 พันล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201021006141/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department (แผนกการตลาดดิจิทัล)
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mediacorp จากสิงคโปร์แต่งตั้ง Srijan Technologies เป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–21 ตุลาคม 2563

Srijan Technologies Pte Ltd บริษัทสาขาในสิงคโปร์ของ Srijan Technologies Private Limited ซึ่งเป็นบริษัท Drupal ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Mediacorp เครือข่ายสื่อแห่งชาติของสิงคโปร์ เพื่อยกระดับพอร์ทัลด้านประสบการณ์ของลูกค้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัยในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ดิจิทัล (เว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ) ของ Mediacorp ต่อไป

Mediacorp เป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์รายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์และเป็นเครือข่ายสื่อแห่งชาติ เจ้าของช่องโทรทัศน์ 6 ช่อง สถานีวิทยุ 11 สถานี และแพลตฟอร์มดิจิทัลมากมาย รวมถึงแอปพลิเคชันข่าวที่มีผู้ใช้มากที่สุดในสิงคโปร์อย่าง CNA และแพลตฟอร์มวิดีโอดิจิทัลอย่าง meWATCH

Srijan คว้าธุรกิจนี้ไปได้ผ่านการยื่นประมูลแข่งขัน และจะเข้าไปมีส่วนในภารกิจนี้เป็นระยะเวลา 36 เดือน ร่วมกับพันธมิตรด้านการออกแบบและเอเจนซีที่มีประสบการณ์ด้านแบรนด์อย่าง VMLY&R โดยขอบเขตของภารกิจครั้งนี้ประกอบด้วยงานออกแบบ UI-UX งานสถาปัตยกรรมโซลูชัน การพัฒนาแพลตฟอร์มหลัก การเปิดตัวเว็บไซต์ของแบรนด์และงานสนับสนุนต่าง ๆ

Srijan ใช้เทคนิค Component-and-Layouts ซึ่งเป็นที่ยอมรับของบริษัท ในการสร้างขั้นตอนการทำงานด้านบรรณาธิการที่มีความทันสมัยและส่วนประสบการณ์ผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในทุกช่องทางดิจิทัลของแบรนด์ โดยส่วนประสบการณ์ดิจิทัลจะครอบคลุมตลอดเส้นทางของผู้บริโภคตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และรวมถึงประสบการณ์ของลูกค้าในแบรนด์ดิจิทัลทั้งหมด

"Srijan ตื่นเต้นที่ได้รับเลือกจาก Mediacorp ให้เป็นพันธมิตรที่จะเข้ามาพลิกโฉมประสบการณ์ด้านบรรณาธิการของพวกเขาเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันในแต่ละแบรนด์ โดยใช้สถาปัตยกรรมดิจิทัลที่ทันสมัย มีความคล่องตัว ปลอดภัย และสามารถขยายขนาดรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้ การร่วมงานกับ VMLY&R ในฐานะพันธมิตรด้านการออกแบบ ช่วยให้เราสามารถนำเสนอแผนงานที่ชัดเจนในการสร้างแบรนด์ดิจิทัลให้กับ Mediacorp ที่จะส่งมอบประสบการณ์อันเข้มข้นให้กับผู้ชม และสร้างการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นกับผู้บริโภคในหลากหลายช่องทางด้วยเนื้อหาที่มีบริบทสมบูรณ์และทันท่วงที" – Ashish Goyal ซีอีโอแห่ง Srijan Technologies กล่าว

“การรวมความเชี่ยวชาญด้าน CX และกระบวนการคิดเชิงออกแบบของเราเข้ากับการพัฒนาเทคโนโลยีและศักยภาพในการส่งมอบของ Srijan ช่วยให้เราสามารถเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางใหม่ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับประสบการณ์ให้กับผู้อ่านและบรรณาธิการในทุกแพลตฟอร์มของ Mediacorp และเราหวังถึงโอกาสที่จะได้เสริมสร้างความเป็นพันธมิตรกับ Srijan ในภูมิภาคนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” – Preethi Sanjeevi กรรมการผู้จัดการ VMLY&R Singapore

Srijan Technologies เป็นบริษัท Drupal ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ผู้สร้างสรรค์โซลูชันด้านการสร้างตัวตนและเนื้อหาบนโลกดิจิทัลที่ออกนอกกรอบให้กับธุรกิจต่าง ๆ Srijan เป็นผู้สร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัลและโซลูชันที่ทันสมัยให้กับลูกค้า เช่น Johnson and Johnson, Globe Telecom, CrownWorldWide, PTT Global Chemical, Insurance Australia Group, Estee Lauder, TUI, OnCorps, Related.com, Diversey และอื่น ๆ อีกมากมาย

Srijan ยังได้รับการรับรองต่าง ๆ อย่าง Acquia Preferred Partner, AWS Advanced Consulting Partner และ Apigee Consulting Partner อีกด้วย Srijan ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศอินเดีย มีสำนักงานใน 9 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201020006346/en/

ติดต่อ:

Rajat Lal
rajat.lal@srijan.net
9818643521

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Jefferies ประกาศ เป็นพันธมิตรด้านแบรนด์กับบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ในประเทศไทย

Logo

นิวยอร์ก ฮ่องกง ลอนดอน และกรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–21 ต.ค. 2563

Jefferies ประกาศในวันนี้ว่าได้สร้างพันธมิตรร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด สำหรับธุรกิจตราสารทุนในประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว Jefferies จะเผยแพร่การวิจัยด้านตราสารทุนเกี่ยวกับบริษัทในประเทศไทยที่จัดทำโดยบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ให้กับกับฐานลูกค้าทั่วโลกของ Jefferies บนพื้นฐานการเป็นพันธมิตรด้านแบรนด์ร่วม นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จะให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศแก่ Jefferies และลูกค้าต่างประเทศด้วย

บริษัทหลักทรัพย์  ทิสโก้ จำกัด ก่อตั้งมายาวนานและเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย ทีมงานในประเทศให้บริการการวิจัย การขายและการซื้อขาย การเข้าถึงการซื้อขายขององค์กร หรือ corporate access trading และการบริการลูกค้าสถาบันต่าง ๆ ในท้องถิ่นและทั่วโลก  ทิสโก้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 ในฐานะวาณิชธนกิจแห่งแรกในประเทศไทยโดยได้เข้าเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี พ.ศ. 2518 และได้รับการยอมรับจากสาธารณชนในฐานะผู้นำด้านความคิด การวิจัยและให้คำปรึกษาด้านตราสารทุนและได้รับรางวัล Best Equity House และ Best Research House หลายรางวัลจากสถาบันในประเทศ และรางวัลด้านสิ่งพิมพ์ระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงรางวัล SET Awards จาก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analysts Association หรือ IAA) และ Asiamoney

บริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้เป็น บริษัท ย่อยของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SET:  ทิสโก้) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับรางวัล Best Company Performance จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2561-2562 ติดต่อกัน

การเป็นพันธมิตรกับทิสโก้ช่วยยกระดับแฟรนไชส์หุ้นที่เติบโตของ Jefferies ในเอเชียและเป็นอีกก้าวในการลงทุนระยะยาวของ Jefferies ในภูมิภาคนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Jefferies ได้ขยายธุรกิจอย่างมากในภูมิภาคนี้โดยเพิ่มพนักงานของ Jefferies อีกประมาณ 200 คนในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพื่อให้บริการฐานลูกค้าสถาบันทั่วโลกได้ดียิ่งขึ้น

Murray Wilson ประธาน บริษัท Jefferies Asia กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้ในความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและขยายธุรกิจการวิจัยการขายและการค้าที่มีมายาวนานของ Jefferies โดยเน้นที่การตอบสนองความต้องการของฐานลูกค้านักลงทุนทั่วโลกของเรา  เราตั้งตาคอยการได้ร่วมงานกับทีมงานที่ทิสโก้ในครั้งนี้”

ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นความร่วมมือกับ Jefferies เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสในการให้บริการคำปรึกษาและการดำเนินการที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าสถาบันทั่วโลกโดยอาศัยเครือข่ายทั่วโลกของ Jefferies และ  ทิสโก้ ที่มีชื่อเสียงในตลาดตราสารทุนไทยมายาวนาน เรามั่นใจว่า Jefferies และบล. ทิสโก้ จะสามารถสร้างความร่วมมือสำหรับความร่วมมือในอนาคตเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรในธุรกิจนี้

Jefferies มีข้อตกลงที่คล้ายกันกับบริษัทหลายแห่งทั่วเอเชียรวมถึง Mandiri Sekuritas ในอินโดนีเซีย KAF Securities ในมาเลเซีย JB Securities ในศรีลังกา Fubon Securities ในไต้หวันและ Regis Partners, Inc ในฟิลิปปินส์ โดยรวมแล้ว Jefferies และพันธมิตรครอบคลุมบริษัทประมาณ 1,500 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิค โดยให้บริการลูกค้าด้วยงานวิจัยด้านหุ้นที่มีประสิทธิภาพและมีความครอบคลุมการวิจัยตราสารทุนที่ในภูมิภาค Jefferies และมีพันธมิตรในกว่า 3,000 บริษัท ทั่วโลก

Jefferies Group LLC เป็น บริษัทวาณิชธนกิจอิสระระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยมุ่งเน้นที่การให้บริการลูกค้ามาเกือบ 60 ปี Jefferies เป็นผู้นำในการให้ข้อมูลเชิงลึก ความเชี่ยวชาญ และการดำเนินการแก่นักลงทุน บริษัท และรัฐบาล บริษัทของเราให้บริการด้านวาณิชธนกิจที่ปรึกษาการขายและการค้าการวิจัยและการบริหารความมั่งคั่งในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย Jefferies Group LLC เป็น บริษัทในเครือของ Jefferies Financial Group Inc. (NYSE: JEF) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201020006152/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Richard Khaleel, +1 212 284 2556, rkhaleel@jefferies.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ฝ่ายการธนาคารพาณิชย์ของ Goldman Sachs จับมือกับทีมบริหารโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลชั้นนำและลงทุนเงินถึง 500 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มศูนย์ประมวลผลข้อมูลระดับโลก

Logo

นิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–20 ต.ค. 2563

Goldman Sachs Merchant Banking Division (“GS MBD”) ประกาศในวันนี้ว่าได้ร่วมมือกับทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์นำโดย Scott Peterson ผู้มีประสบการณ์ยาวนานในการบริหารอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลเพื่อก่อตั้ง Global Compute Infrastructure LP (“Global Compute” หรือ “บริษัท ”) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลระดับโลกที่ได้ก่อตั้งขึ้นใหม่

ในช่วงแรก GS MBD ได้ลงทุนสูงถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่มาจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน West Street Infrastructure Partners III, LP (“WSIP III”) เพื่อให้สามารถลงทุนระยะสั้นได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา  Global Compute มุ่งมั่นที่จะเติบโตผ่านการรวมกันของการเข้าซื้อกิจการและการพัฒนาตามปกติเพื่อให้บริการลูกค้าในพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่มีแนวโน้มและมีศักยภาพต่อการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล  การใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และผลงานของทีมผู้บริหาร Global Compute จะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาและพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผล การจัดเก็บ การเชื่อมต่อ และการปรับใช้โคโลเคชั่นที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ต่างๆ ในโลก

ทีมผู้บริหาร Global Compute นำโดยซีอีโอ Scott Peterson อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนและผู้ร่วมก่อตั้ง Digital Realty (“DLR”) ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลมากกว่า 18 ปีและกว่า 30 ปีในเวทีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์  ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งที่ DLR ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปี 2561 คุณ Scott เป็นผู้นำกิจกรรมการลงทุนทั้งหมดและรับผิดชอบปริมาณการซื้อขายรวม 17 พันล้านดอลลาร์ทั้งในการควบรวมกิจการและการพัฒนาตามปกติ คุณ Scott จะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารจำนวนมากในวงการศูนย์ข้อมูล ได้แก่ Christopher Kenney ผู้ร่วมก่อตั้ง DLR ในฐานะซีโอโอ และอดีตผู้บริหารอาวุโส DLR ใน EMEA Stephen Taylor ในฐานะหัวหน้าฝ่ายยุโรป  คุณ Chris เป็นผู้รับผิดชอบส่วนใหญ่ในการขยาย DLR ในระดับสากลและ Stephen เป็นผู้นำโครงการริเริ่มเหล่านั้นมากมายทั่วทั้ง EMEA  ทีม Global Compute มีประสบการณ์เฉพาะทาง ความสัมพันธ์เชิงลึกกับลูกค้า และความสามารถในการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลที่ดีที่สุดในระดับโลก  เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 Global Compute ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ ATM S.A. (“ATM”) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลและธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารชั้นนำในโปแลนด์จากกลุ่มกองทุนที่บริหารจัดการโดย MCI Capital ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำที่เน้นหุ้นนอกตลาดใน CEE และ Mezzanine Management ซึ่งเป็นกองทุนชั้นลอยชั้นนำในภูมิภาค  โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงวอร์ซอ ศูนย์ข้อมูลระดับโลกของ ATM  เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร ฐานลูกค้า และชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในตลาดทำให้ Global Compute เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจในตลาดศูนย์ข้อมูลในยุโรปกลางและยุโรปที่เติบโตอย่างรวดเร็ว  Global Compute มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสำเร็จของ ATM และความเป็นผู้นำทางการตลาดด้วยการวางตำแหน่งบริษัทเพื่อให้บริการตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันในโปแลนด์และภูมิภาค CEE ที่กว้างขึ้น

“Goldman Sachs เป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเราในขณะที่เรามองหาโอกาสการลงทุนระดับโลกในด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล” Scott Peterson ซีอีโอของ Global Compute กล่าว “ประสบการณ์และเครือข่ายระดับโลกที่รวมกันของเรา พร้อมกับการเข้าถึงเงินทุนที่เติบโตอย่างกว้างขวางของ GS MBD จะช่วยให้แพลตฟอร์ม Global Compute ไม่เพียง แต่ตอบสนองความต้องการที่สำคัญของลูกค้าทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังสร้างและปลดล็อคคุณค่าให้กับคู่ค้าของเราด้วย  การลงทุนครั้งแรกของเราใน ATM S.A. เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับความร่วมมือนี้  เรามีความกระตือรือร้นอย่างมากเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรกับ Goldman Sachs ซึ่งทำให้เราสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์สำหรับลูกค้าทั่วโลก

“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับ Scott และทีม Global Compute” Leonard Seevers กรรมการผู้จัดการของ Goldman Sachs กล่าว “เราเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในพื้นที่ศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการด้านคอมพิวเตอร์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและเราเชื่อว่าทีม Global Compute ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทรัพยากรทั่วโลกของ Goldman Sachs อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในการนำเสนอโซลูชันระดับโลกเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว”

GS MBD ได้รับคำปรึกษาจาก Davis Polk & Wardwell LLP  ทีมผู้บริหาร Global Compute ได้รับคำปรึกษาจาก PJT Park Hill และ Mayer Brown ในขณะที่ Global Compute ได้รับคำปรึกษาจาก Torch Partners และ White & Case LLP ในส่วนที่เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ ATM SA

เกี่ยวกับ Goldman Sachs Merchant Banking Division

โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2412 The Goldman Sachs Group, Inc. เป็นบริษัทวาณิชธนกิจ หลักทรัพย์ และการจัดการการลงทุนชั้นนำระดับโลก  Goldman Sachs Merchant Banking Division (MBD) เป็นศูนย์กลางหลักสำหรับกิจกรรมการลงทุนหลักในระยะยาวของ บริษัท  MBD เป็นหนึ่งในนักลงทุนนอกตลาดชั้นนำของโลกที่มีการลงทุนนอกตลาด โครงสร้างพื้นฐาน หนี้ส่วนบุคคล การเติบโต และอสังหาริมทรัพย์

เกี่ยวกับ Global Compute

Global Compute เป็นหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล  นำโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมระหว่างประเทศรวมกันมากกว่า 50 ปี  บริษัทตั้งใจที่จะซื้อ พัฒนา และดำเนินการสินทรัพย์ศูนย์ข้อมูลทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา  เรามุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกและลูกค้าของพวกเขาด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และสร้างสรรค์สำหรับความสามารถในการประมวลผลและความต้องการในการเชื่อมต่อในตลาดที่มีการเติบโตสูงและเป็นที่ยอมรับ  Global Compute ได้รับการสนับสนุนโดย Goldman Sachs Merchant Banking Division

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201020005407/en/

ติดต่อ:

Goldman Sachs
Leslie Shribman
+1 212 902 5400

leslie.shribman@gs.com

Global Compute
Christopher J Kenney
+1 213 810-8732
ckenney@gc-infra.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Fiorano ขับเคลื่อนการแปลงดิจิตอลที่ Seylan Bank

Logo

ธนาคารบรรลุผสสำเร็จในด้านการทำการตลาดอย่างรวดเร็วและนำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ มาใช้เร็วขึ้น

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–20 ต.ค. 2563

Fiorano Software ผู้นำด้าน Enterprise Integration Middleware ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ API และโซลูชันการธนาคาร ประกาศในวันนี้ว่า Seylan Bank ประเทศศรีลังกา ประสบความสำเร็จในการใช้งาน Fiorano Hybrid Integration Platform  (HIP) ทำให้กลายเป็นธนาคารแห่งแรกในศรีลังกาที่เปิดเผย API ทั้งหมดในบนเว็บ อนึ่ง โซลูชันนี้ดำเนินการโดย Fiorano ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Transnational Group

ในปี 2562 Seylan ได้เริ่มต้นใช้งาน Digital Drive ที่มีความทะเยอทะยาน การย้ายไปยังแพลตฟอร์มที่ใช้ไมโครเซอร์วิสอย่างเช่น Fiorano นี้ ได้ช่วยในความพยายามผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ผ่านบริการบนเว็บบนแพลตฟอร์ม ESB ของเรา เพื่อบูรณาการและพัฒนาบริการใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น และมีความปลอดภัยและความคล่องตัวมากขึ้น เราได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมากในการพัฒนาความปลอดภัยด้านไอทีการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านคลังข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วทั้งธนาคาร การนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทันสมัยมาใช้และการเติบโตทางดิจิตอลของเราซึ่งเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับลูกค้าของเราอย่างมากในขณะที่การใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการของเราก็เพิ่มขึ้นด้วยHarsha Wanigatunga, CIO, Seylan Bank กล่าว

เรามีความยินดีที่ประสบความสำเร็จในการใช้งาน Fiorano middleware stack ที่ Seylan Bank” Sunimal Weerasooriya,  ผู้อำนวยในการในประเทศ

Fiorano HIP ผสานรวมระบบ Core Banking System, Finastra Equation และ Payment Switch (Euronet) ของธนาคารบน AS / 400, เซิร์ฟเวอร์ iSeries IBM เข้ากับแอปพลิเคชันอื่น ๆ บนระบบที่ใช้ Unix และ Microsoft ได้อย่างง่ายดาย

เกี่ยวกับ Seylan Bank:

Seylan Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่มีหัวใจ ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 ธนาคารได้รับรางวัล "ธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับการดำเนินงาน Back-end อย่างราบรื่น" และได้รางวัล "ธนาคารแห่งปีสำหรับการผนวกรวมทางการเงิน" ซึ่งเป็นธนาคารที่มีนวัตกรรมระดับแนวหน้าซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสินทรัพย์ 2.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอันดับที่สองสำหรับความโปร่งใสในการรายงานขององค์กรจาก Transparency Global นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองว่ามีความมั่นคงทางการเงินโดยมีการจัดอันดับระยะยาวของ Fitch ไว้ให้อยู่ในระดับ "A (lka)" ตอนนี้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี S&P Dow Jones SL 20

เกี่ยวกับ Fiorano:

Fiorano Software ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ใน Silicon Valley เป็นผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้สำหรับการผสานรวมแบบไฮบริดและเทคโนโลยี API ที่ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันสร้างความสามารถในการทำกำไร และสร้างแหล่งรายได้ใหม่ตั้งแต่ปี 2538 โดย Fiorano ดำเนินงานผ่านสำนักงานทั่วโลกและเครือข่ายพันธมิตรด้านเทคโนโลยีทั่วโลกและผู้ค้าปลีกที่มีมูลค่าเพิ่ม บริษัทระดับโลกรวมถึง Federal Bank, NASA, Bank of Kigali, Commercial Bank of Africa, Canadia Bank และ US Coast Guard ได้ใช้บริการ Fiorano เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยโซลูชันที่ให้ผลิตผลสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201019005829/en/

ติดต่อ:

Sumit Kuhite

+1 650 326 1136

mediarelations@fiorano.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Prevailion ได้รับเลือกให้เป็น “ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม” ด้านการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยและข่าวกรองด้านภัยคุกคาม ในรายงานประจำปี 2563 โดยการ์ทเนอร์

Logo

โคลัมเบีย, แมรีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 ตุลาคม 2563

Prevailion ผู้นำระดับโลกด้านข่าวกรองไซเบอร์ ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้รับเลือกจากการ์ทเนอร์ (Gartner) ให้เป็นผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม (Cool Vendor) ในรายงานผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมด้านการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยและข่าวกรองด้านภัยคุกคามฉบับล่าสุด

ในรายงานของการ์ทเนอร์กล่าวว่า “ผู้จำหน่ายที่ผู้นำด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงควรพิจารณาเมื่อประเมินภัยคุกคามอุบัติใหม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีสำหรับปฏิบัติการด้านความปลอดภัยที่ใหม่ที่สุด” การ์ทเนอร์ยังเขียนไว้ว่า “ผู้นำด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงต่างกำลังมองหาโซลูชันที่ให้พวกเขามองเห็นสภาพแวดล้อมของระบบไอทีได้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ทัศนคติทางด้านความปลอดภัยของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงจัดลำดับความสำคัญช่องโหว่ในการควบคุมด้านความปลอดภัยและวิธีในการรับมือกับปัญหาที่จำแนกตามความเสี่ยงของธุรกิจ” นอกจากนี้ ในรายงานยังกล่าวว่า “องค์กรกำลังประสบปัญหาในการลดความเสี่ยงต่าง ๆ เป็นเพราะไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญความเสี่ยงเหล่านั้นได้ เนื่องจากขาดความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เป็นภัยคุกคาม”*

การขาดความสามารถในการมองเห็นภัยคุกคามในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่กลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับองค์กร และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ Prevailion ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ Prevailion ใช้เซ็นเซอร์ลับที่กระจายอยู่ทั่วโลกในการตรวจจับการโจมตีทางไซเบอร์หลายพันครั้งแบบเรียลไทม์ รวมถึงตรวจจับการสื่อสารของมัลแวร์หลายพันล้านครั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งสุดยอดข้อมูลข่าวกรองที่บริษัทสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันเครือข่ายของพวกเขา

“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกโดยการ์ทเนอร์ในครั้งนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นการยืนยันถึงเทคโนโลยีหลักที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มของเรา รวมถึงการทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมงาน” Karim Hijazi ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Prevailion กล่าว “ที่ Prevailion เราได้กำหนดทิศทางใหม่ให้กับการข่าวกรองด้านภัยคุกคามด้วยการช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถมองเห็นผู้คุกคามที่ตั้งเป้าโจมตีเครือข่ายของพวกเขาและเครือข่ายของพันธมิตรที่ใกล้ชิดมากที่สุดได้มากขึ้น การไล่ล่าในโครงสร้างพื้นฐานของผู้โจมตีทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอาชญากรรมและกิจกรรมที่เป็นการมุ่งร้ายของเเฮกเกอร์ระดับชาติและรายชื่อเป้าหมายได้ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งนี้ช่วยให้ทีมที่ดูแลด้านความปลอดภัยขององค์กรสามารถจัดลำดับความสำคัญของภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการพุ่งเป้าไปที่การโจมตีที่ได้รับการยืนยันแล้วเท่านั้น แทนที่การพึ่งพาระบบแจ้งเตือนที่ส่งเสียงดังและมีแนวโน้มเป็นข้อผิดพลาดหรือดัชนีชี้วัดความเสี่ยงที่มีความคลุมเครือ”

ข้อมูลเชิงลึกพิเศษด้านกิจกรรมภัยคุกคามทางไซเบอร์

ปัจจุบัน Prevailion ติดตามองค์กรต่าง ๆ ที่ถูกคุกคามราว 28,000 แห่งทั่วโลก ทั้งบริษัทมหาชนและพันธมิตรที่เป็นซัพพลายเชน ไปจนถึงหน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและอื่น ๆ อีกมากมาย หลายครั้ง การคุกคามทางไซเบอร์ที่ Prevailion ตรวจพบหลุดรอดการตรวจจับหรือไม่ถูกรายงานโดยองค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ

จากข้อมูลข่าวกรองของ Prevailion พบว่า 22% ของบริษัทที่มีรายชื่อในการจัดอันดับ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกโดยฟอร์จูน (Fortune 500) พบกิจกรรมที่เป็นภัยคุกคามหรือมีการตรวจพบกิจกรรมที่เป็นภัยคุกคามโดยอาชญากรหรือแฮกเกอร์ที่มีหน่วยงานของรัฐอยู่เบื้องหลังเมื่อไม่นานมานี้ และจากกิจกรรมทางด้านไซเบอร์เมื่อไม่นานมานี้ ยังพบว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (79%) และเภสัชกรรม (64%) เป็นสองอุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าสูงสุด

ความสามารถด้านข่าวกรองทางไซเบอร์ที่มีความเฉพาะช่วยให้ Prevailion ตรวจจับการบุกรุกภายในเครือข่ายขององค์กรขณะที่เกิดขึ้นได้แบบทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในเครือข่ายหรือรอการยืนยันจากองค์กรที่ได้รับผลกระทบ การที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้ ทีมข่าวกรองของ Prevailion จะต้องพุ่งเป้าไปที่เครือข่ายของอาชญากรเพื่อยับยั้งการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นตัว “สั่งการและควบคุม” ของแฮกเกอร์ กับมัลแวร์ที่แฮกเกอร์ปล่อยออกมา ความสามารถในการดักฟังกิจกรรมของอาชญากรช่วยให้ Prevailion มีข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ที่สำคัญอย่างมากเกี่ยวกับปฏิบัติการเจาะระบบที่เกิดขึ้นทั่วโลก และยังช่วยให้สามารถคาดการณ์การโจมตีครั้งใหม่ได้ล่วงหน้าอีกด้วย

แพลตฟอร์ม APEX ของ Prevailion เป็นแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งรวบรวมข้อมูลหลายพันชุดเกี่ยวกับการบุกรุกที่ไม่ถูกรายงาน และยังให้ข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับการโจมตีครั้งใหม่ การบุกรุกที่มีการยกระดับ และความพยายามในการรับมือขององค์กรแบบ 24 ชั่วโมง

*“ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมด้านการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยและข่าวกรองด้านภัยคุกคาม” โดยการ์ทเนอร์ Mitchell Schneider, Ruggero Contu, John Watts, Craig Lawson, 13 ตุลาคม 2563.

ข้อสงวนสิทธิ์ของการ์ทเนอร์

การ์ทเนอร์ไม่ได้ให้การรับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ปรากฏชื่อในรายงานการวิจัยของบริษัท และไม่ได้แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกใช้เฉพาะผู้จำหน่ายที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดเท่านั้น รายงานการวิจัยของการ์ทเนอร์ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรการวิจัยของการ์ทเนอร์ และไม่ควรตีความเสมือนเป็นข้อเท็จจริง การ์ทเนอร์ปฏิเสธการรับรองทั้งหมดที่ปรากฏในรายงานการวิจัยฉบับนี้ ทั้งที่ระบุชัดเจนหรือบอกเป็นนัย รวมถึงไม่รับประกันว่าเนื้อหาที่ปรากฏจะตรงตามความต้องการของตลาดหรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ หรือไม่

เกี่ยวกับ PREVAILION

Prevailion เป็นบริษัทด้านข่าวกรองภัยคุกคามผู้พลิกโฉมวิธีในการลดความเสี่ยงและการตัดสินใจด้านธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ ข้อมูลที่มีรูปแบบเฉพาะและก้าวล้ำไปอีกขั้น รวมถึงแพลตฟอร์มที่มีการทำงานอย่างลื่นไหลช่วยให้ Prevailion จัดเตรียม “หลักฐานภัยคุกคาม” หรือ EOC ที่ยืนยันแล้ว ให้กับลูกค้าซึ่งครอบคลุมถึงระบบนิเวศของพันธมิตรได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Prevailion ได้ที่ www.prevailion.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201019005166/en/

ติดต่อ:

Michael Sias
inquiry@firm19.com
954-361-3963

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mevion ร่วมมือกับ Hermes Advanced Therapy Systems เพื่อขยายการเข้าถึงในเอเชีย

Logo

ลิตเติลตัน, แมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–19 ต.ค. 2563

Mevion Medical Systems มีความยินดีที่จะประกาศว่าได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับ Hermes Advanced Therapy Systems Corp (HATS) สำหรับการจัดจำหน่าย MEVION S250i Proton Therapy System®ในไต้หวันและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงมาเลเซีย ไทย และสิงคโปร์ ในฐานะ บริษัท ย่อยของ Hermes-Ethoughk Corp., ผู้ให้บริการอุปกรณ์และบริการไฮเทคที่เชื่อถือได้ตั้งแต่ปี 2520 โดย HATS จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและสนับสนุน Mevion ตั้งแต่การวางแผนโครงการไปจนถึงการสนับสนุนลูกค้า

การรักษาด้วยโปรตอนเป็นรูปแบบการฉายรังสีที่เหนือกว่าซึ่งสามารถลดปริมาณรังสีที่ไม่จำเป็นต่อเนื้อเยื่อดีและอวัยวะที่บอบบางโดยรอบซึ่งอาจเผชิญความเสี่ยงจากรังสี การใช้โปรตอนบำบัดได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากการพัฒนาระบบบำบัดโปรตอนขนาดกะทัดรัด อนึ่ง Mevion เป็นบริษัทแรกที่คิดค้นแนวทางใหม่ในการบำบัดด้วยโปรตอนและให้บริการระบบที่กะทัดรัดที่สุดในปัจจุบัน.

“เราภูมิใจที่มีพันธมิตรที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อย่างเช่น Hermes Advanced Therapy Systems ในฐานะทีมขยายของเราในไต้หวันและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” James Meng, Ph.D. ประธาน Mevion Medical Systems “ ตลาดการรักษาด้วยโปรตอนในภูมิภาคนี้มีการเติบโตและความร่วมมือกับ HATS จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งที่จำเป็นที่จะได้รับการรักษามากที่สุดสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยโปรตอน”

“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Mevion เพื่อเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรมนี้ไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้น และขยายความเชื่อของกลุ่มเรา สิ่งนี้คือ ‘บริการจาก Hermes-Epitek’” Eddy Peng ประธาน Hermes Advanced Therapy Systems Corp. กล่าว

MEVION S250i Proton Therapy System ด้วย HYPERSCAN® Pencil Beam Scanning ช่วยเพิ่มประโยชน์ของการบำบัดโปรตอนโดยใช้เครื่อง collimator แบบหลายใบมีดดัดแปลงเพื่อทำให้ลำแสงคมขึ้นและให้ปริมาณที่แม่นยำและสม่ำเสมอมากขึ้นกว่าเดิม ความสามารถทางคลินิกขั้นสูงของระบบพร้อมกับขนาดที่กะทัดรัดได้เปลี่ยนแนวการบำบัดโปรตอน

เกี่ยวกับ Mevion Medical Systems

ตั้งแต่ปี 2004 Mevion Medical Systems เป็นผู้ให้บริการชั้นนำของระบบการรักษาด้วยโปรตอนขนาดกะทัดรัดสำหรับการดูแลโรคมะเร็ง ด้วยความทุ่มเทในการพัฒนาความก้าวหน้าในการออกแบบและการให้การเข้าถึงการบำบัดด้วยโปรตอนทั่วโลก โดย Mevion เป็นบริษัทแรกที่คิดค้นแพลตฟอร์มแบบซิงเกิลรูมแบบใหม่นี้ และยังคงพัฒนาวิทยาศาสตร์และการประยุกต์ใช้การบำบัดด้วยโปรตอน ผลิตภัณฑ์หลักของ Mevion คือ MEVION S250i Proton Therapy System พร้อมการสแกนด้วยลำแสงดินสอ HYPERSCAN ซึ่งเป็นระบบการบำบัดด้วยโปรตอนที่เล็กที่สุดในโลกซึ่งขจัดอุปสรรคด้านขนาดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับระบบการบำบัดโปรตอนอื่น ๆ Mevion มีสำนักงานใหญ่ใน ลิตเติลตัน, แมสซาชูเซตส์ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในยุโรปและเอเชีย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mevion.com.

ตามเราบนทวิตเตอร์: @MevionMedical

เชื่อมต่อเราบน LinkedIn: Mevion Medical Systems

กดไลค์บน Facebook: MevionMedical

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201019005068/en/

ติดต่อ:

Melanie Benton

Mevion Medical Systems

Mbenton@mevion.com 1-978-540-1551

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดตัว MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1200V ที่ช่วยในการจ่ายไฟอย่างมีประสิทธิภาพสูง

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–19 ต.ค. 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) เปิดตัว “TW070J120B” MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1200V (SiC) สำหรับการใช้งานอุตสาหกรรมที่มีแหล่งจ่ายไฟความจุสูง การจัดส่งเริ่มตั้งแต่วันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201018005077/en/

Toshiba: a 1200V silicon carbide (SiC) MOSFET TW070J120B for industrial equipment including large capacity power supply. (Graphic: Business Wire)

MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1200V (SiC) สำหรับการใช้งานอุตสาหกรรมที่มีแหล่งจ่ายไฟความจุสูง (กราฟฟิค: บิสิเนสไวร์)

MOSFET พลังงานที่ใช้ SiC ซึ่งเป็นวัสดุใหม่มีความต้านทานไฟฟ้าแรงสูง การสลับความเร็วสูง และความต้านทาน On-resistance ต่ำเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ซิลิคอน (Si) MOSFET, IGBT ทั่วไป ดังนั้นจะช่วยลดการใช้พลังงานและลดขนาดระบบ

โดยสร้างจาก การออกแบบชิปรุ่นที่สองของโตชิบา [1] ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรของ SiC MOSFET อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้มีความจุอินพุตต่ำ ค่าอินพุตเกตต่ำ และความต้านทาน On-resistance ต่อการระบายไปยังแหล่งที่มาต่ำ  เมื่อเทียบกับ “GT40QR21” ทรานซิสเตอร์สองขั้วแบบเกทไบโพลาร์ที่หุ้มฉนวนซิลิคอน 1200V ของโตชิบา (IGBT) จะลดการสูญเสียการปิดสวิตช์ลงประมาณ 80% และเวลาในการเปลี่ยน (เวลาตก) ประมาณ 70% ในขณะที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำ และมีค่าการระบายกระแสไฟที่ 20A หรือน้อยกว่า[2]

แรงดันไฟฟ้าของเกตตั้งอยู่ในช่วงสูงตั้งแต่ 4.2V ถึง 5.8V ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานผิดพลาด (การเปิดหรือปิดโดยไม่ได้ตั้งใจ)  การรวม SiC Schottky barrier diode (SBD) ที่มีแรงดันไฟฟ้าช่วงหน้าต่ำยังช่วยลดการสูญเสียพลังงาน

MOSFET ใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยการลดการสูญเสียพลังงานในงานอุตสาหกรรม เช่นตัวแปลง AC-DC ความจุสูง อินเวอร์โฟโตวอลเทอิก และตัวแปลง DC-DC แบบสองทิศทางความจุขนาดใหญ่ และยังช่วยลดขนาดอุปกรณ์

หมายเหตุ:

[1] ข่าวประชาสัมพันธ์ขอโตชิบาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2020: “โครงสร้างอุปกรณ์ใหม่ของโตชิบาช่วยปรับปรุงความเสถียรของ SiC MOSFET”

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/company/news/news-topics/2020/07/mosfet-20200730-1.html

[2] อุณหภูมิห้อง 25°C

การใช้งาน

  • ตัวแปลง AC-DC ความจุขนาดใหญ่
  • อินเวอร์เตอร์โฟโตวอลเทอิก
  • ตัวแปลง DC-DC แบบสองทิศทางที่มีความจุสูง

คุณสมบัติ

  • ชิปรุ่นที่สอง (แบบมี SiC SBD ติดตั้งไว้)
  • ไฟฟ้าแรงสูงต่ำ ความจุอินพุต ค่าเกตรวมต่ำ ความต้านทานต่ำ แรงดันช่วงหน้าของไดโอดต่ำ, แรงดันไฟฟ้าเกตสูง:

VDSS=1200V, Ciss=1680pF (typ.), Qg=67nC (typ.), RDS(ON)=70mΩ (typ.), VDSF=-1.35V (typ.), Vth=4.2~5.8V

  • การเพิ่มประสิทธิภาพที่จัดการได้ง่าย

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Ta=25℃ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

แพ็กเกจ

ระดับสูงสุด

ลักษณะทางไฟฟ้า

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมในการส่งมอบ

แรงดันไฟฟ้าจากแหล่งระบาย

VDSS

(V)

กระแสไฟฟ้าระบาย

(DC)

ID

@Tc=25℃

(A)

แหล่งระบายไฟฟ้า  ความต้านทาน On-resistence

RDS(ON)

typ.

@VGS=20V

(mΩ)

แรงดันไฟฟ้าช่วงเกต

Vth

@VDS=10V,

ID=20mA

(V)

ค่าเกตทั้งหมด

Qg

typ.

(nC)

การป้อนความจุไฟฟ้า

Ciss typ. (pF)

แรงดันช่วงหน้าของไดโอด

VDSF

typ.

@IDR=10A,

VGS=-5V

(V)

TW070J120B

TO-3P (N)

1200

36.0

70

4.2 ถึง 5.8

67

1680

-1.35

ซื้อออนไลน์

เปิดลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

https://toshiba.semicon-storage.com/info/lookup.jsp?pid=TW070J120B

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TW070J120B.html

ไปที่ลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SiC MOSFET ของโตชิบา

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/mosfets/sic-mosfets.html

ไปที่ลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ SiC ของโตชิบา

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/sic-power-devices.html

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:

Power Device Sales & Marketing Department (ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้า)

โทร: + 81-3-3457-3933
https: // toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ผสมผสานความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาแห่งประสบการณ์  นับตั้งแต่กลายเป็นบริษัทอิสระในเดือนกรกฎาคม 2560 บริษัท ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์ทั่วไปและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSI และ HDD

พนักงาน 24,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  บริษัทตั้งตารอที่จะสร้างยอดขายต่อปีได้ทะลุ 750 พันล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201018005077/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ:
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Digital Marketing Department (แผนกการตลาดดิจิทัล)
Chiaki Nagasawa
โทร: + 81-3-3457-4963 semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

AJC พบอุตสาหกรรมเปราะบางด้วยการคำนวณระดับความเสี่ยงที่โซ่มูลค่ามีต่อปัจจัยภายนอกในรายงานล่าสุดเกี่ยวกับห่วงโซ่มูลค่าที่ทนทานในอาเซียน

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–16 ต.ค. 2563

ในรายงานที่มีชื่อว่า ห่วงโซมูลค่าระดับโลกที่ทนทาน (GVCs) สำหรับอาเซียนและความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้า ที่เผยแพร่โดยศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) ทาง AJC เสนอให้แต่ละประเทศและบริษัทในอาเซียนที่มีส่วนร่วมในเครือข่ายการผลิตระหว่างประเทศตรวจสอบช่องโหว่ของห่วงโซ่คุณค่าต่อความเสี่ยงภายนอกในอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยอ้างอิงถึงการคำนวณความเสี่ยงของ AJC

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201015006128/en/

The report "Resilient Global Value Chains for ASEAN and its Relationship with Partner Countries" is available for download on AJC website. (Graphic: Business Wire)

รายงาน "Resilient Global Value Chains for ASEAN and its Relationship with Partner Countries" มีให้ดาวน์โหลดบนเว็บไซต์ AJC (กราฟฟิค: บิสิเนสไวร์)

ได้มีการเรียกร้องหลายครั้งในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคให้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่นับตั้งแต่การระบาดของ COVID-19  แม้ว่าจะเป็นธรรมชาติของระบบการจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพ ห่วงโซ่อุปทานหรือการจัดจำหน่ายที่กระจุกตัวอยู่ในบริษัทไม่กี่แห่งและไม่กี่ประเทศทำให้บริษัทต่างๆ มักจะมีข้อกังวลว่าจะยังคงได้รับวัสดุและปัจจัยการผลิตที่จำเป็นต่อไปหรือไม่ คำถามต่อไปคือห่วงโซ่คุณค่ากระจุกตัวที่ใดและในขั้นตอนใด

ในการตอบคำถามนี้ AJC ได้คำนวณระดับความเสี่ยงของห่วงโซ่คุณค่าต่อปัจจัยภายนอกและได้ระบุอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบ  ความเสี่ยงนั้นมีสองประเภท ได้แก่ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อส่วนต้นน้ำของ GVC (การกระจุกตัวของตลาดซัพพลายเออร์) และความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อส่วนปลายน้ำของ GVC (การกระจุกตัวของตลาดผู้ซื้อ)

เมื่อพิจารณาถึงการกระจุกตัวของคู่ค้าในตลาดซัพพลายเออร์ จีนเป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญที่สุดสำหรับหลายอุตสาหกรรมในอาเซียน  ประเทศจีนครองส่วนแบ่งการตลาดที่สร้างอำนาจทางการตลาดมากพอที่จะก่อให้เกิดความกังวลในการแข่งขันใน 129 ใน 222 อุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยญี่ปุ่นครอง 38 อุตสาหกรรม  สำหรับการกระจุกตัวของตลาดผู้ซื้อ ประเทศจีนไม่ได้เป็นผู้ซื้อหลักในหลายอุตสาหกรรม (มีเพียง 11 อุตสาหกรรมที่การกระจุกตัว) โดยญี่ปุ่นครอง 24 อุตสาหกรรม

นอกจากนี้ AJC ได้เสนอ 5 กลยุทธ์เพื่อสร้าง GVC ที่แข็งแกร่งในอาเซียน ซึ่งได้แก่

  • การใช้นโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรคที่กำลังดำเนินการโดยประเทศสมาชิกอาเซียน
  • การปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงโดยภาคเอกชน
  • การผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยทั้งภาครัฐและเอกชนอุตสาหกรรม
  • การส่งเสริมอุตสาหรรมใหม่และที่ทนต่อวิกฤต
  • พิจารณากลยุทธ์ของบริษัทสำหรับการผลิตระหว่างประเทศ: การผลิตในหรือนอกประเทศ

ในการจัดการกับ COVID-19 และวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายที่จะงดใช้แนวทางแก้ปัญหาทางลัดและลัทธิการคุ้มครองทางการค้า  และรักษาบรรยากาศทางธุรกิจที่ดี

สามารถดาวน์โหลดสิ่งพิมพ์ได้บนเว็บไซต์ AJC: https://www.asean.or.jp/en/centre-wide/resilient_gvcs/

อ่านต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201015006128/en/

ติดต่อ:

Tomoko Miyauchi
Office of Secretary General, PR (เลขาธิการฝ่ายประชาสัมพันธ์)
ASEAN-Japan Center
URL: https://www.asean.or.jp/en/
E-mail: toiawase_ga@asean.or.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MetLife ประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูง

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–15 ต.ค. 2563

MetLife, Inc. (NYSE: MET) ได้ประกาศในวันนี้ถึงการเปลี่ยนแปลงหลายประการในทีมผู้นำระดับสูง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

Oscar Schmidt รองประธานบริหารและประธานประจำภูมิภาคละตินอเมริกา จะเกษียณอายุหลังจากทำงานร่วมกับบริษัท มา 26 ปี เขาจะก้าวออกจากตำแหน่งผู้บริหารในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และจะอยู่ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 เพื่อช่วยในการเรื่องการส่งต่อตำแหน่งผู้นำ

“ในช่วงสองทศวรรษครึ่งที่ผ่านมา Oscar ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาธุรกิจละตินอเมริกาของเรา โดยการสร้างผลงานธุรกิจที่หลากหลายทั่วทั้งภูมิภาค” Michel Khalaf ประธานและซีอีโอของ MetLife กล่าว “ ภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของเขา เราได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ หลายครั้ง”

เมื่อได้รับการอนุมัติทุกครบแล้ว Eric Clurfain จะมารับหน้าที่ต่อจาก Schmidt ในฐานะประธานประจำภูมิภาคละตินอเมริกาในตำแหน่ง รองประธานบริหารและประธานกรรมการประธานและซีอีโอของ MetLife Japan K.K. โดยเขา เขาจะรายงานตรงต่อ Khalaf

“ด้วยประสบการณ์ด้านการประกันภัยมากว่าสองทศวรรษ Eric มีผลงานที่พิสูจน์แล้วในด้านการสร้างทีมงานและธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูง “ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขามุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจและการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในญี่ปุ่นและสร้างผลลัพธ์ที่สนับสนุนกลยุทธ์ Next Horizon ภายใต้การนำของเขาผมมั่นใจว่า LatAm จะยังคงเป็นกลไกในการเติบโตของ MetLife ต่อไป”

เส้นทางอาชีพของ Clurfain ครอบคลุมหลายภูมิภาคและหลากความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน Clurfain ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภูมิภาคของ EMEA ซึ่งดูแลตลาด 25 แห่งในภูมิภาค ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าภูมิภาคของยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกหลังจากดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ MetLife ในตุรกี และก่อนหน้านั้นในอาชีพของเขากับ AIG / Alico Clurfain อาศัยและทำงานในละตินอเมริกา

เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว ผู้ที่จะเข้ามาแทน Clurfain ในตำแหน่งรองประธานบริหารและประธานกรรมการประธานและซีอีโอของ MetLife Japan K.K. ได้แก่ Dirk Ostijn หัวหน้า EMEA โดย Ostijn จะรายงานต่อ Kishore Ponnavolu รองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย

“Dirk ประสบความสำเร็จในการนำภูมิภาค EMEA ของเราผ่านสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทาย” Khalaf กล่าว “ภายใต้การนำของเขา ทีม EMEA ได้สร้างโมเมนตัมที่แข็งแกร่งด้วยโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้งและรูปแบบที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมมากกว่า 25 ตลาด ผมรู้ว่าความเป็นผู้นำที่เป็นต้นแบบ ความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยที่ลึกซึ้งและความหลงใหลในลูกค้าของเขา จะได้รับการต้อนรับและชื่นชมจากทีมงานของเราในญี่ปุ่น”

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีอาชีพของ Ostijn ซึ่งครอบคลุมทุกด้านของอุตสาหกรรมประกันชีวิต ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์การเงิน การดำเนินงานการบริการลูกค้าและเทคโนโลยี นอกจากนี้เขายังใช้เวลามากกว่าทศวรรษในการบริหารการดำเนินงานนายหน้าประกันภัยจากการดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในเบลเยียม และมีบทบาทในระดับภูมิภาค เช่น หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินและหัวหน้าฝ่ายริเริ่มเชิงกลยุทธ์

ผู้ที่จะมารับตำแหน่งต่อจาก Ostijn ในตำแหน่งหัวหน้า EMEA คือ Nuria Garcia รองประธานอาวุโสและรองหัวหน้า EMEA โดยเธอเธอจะรายงานต่อ  Khalaf

“Nuria ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจและการเป็นหุ้นส่วนตลอดจนความใส่ใจในลูกค้า” Khalaf กล่าว “เธอเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง ผู้ที่สามารถเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในและภายนอกเพื่อทำงานร่วมกันในธุรกิจ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ และการตลาด ความเป็นผู้นำของเธอมีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของภูมิภาคนี้และผมมีความมั่นใจทุกครั้งว่าเธอจะยังคงสร้างผลงานที่ดีต่อไปในอนาคต”

Garcia มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีใน EMEA ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดจำหน่ายการตลาด การปฏิบัติการ และการเงิน ทั้งกับ MetLife และ GE

“เมื่อนำมารวมกัน แล้วการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาคนและการวางแผนสืบทอดตำแหน่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านผู้นำในระดับลึกของเราที่พร้อมจะทำงานทันทีและส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นของเรา” Khalaf กล่าว

เกี่ยวกับ MetLife

MetLife, Inc. (NYSE: MET) ผ่านบริษัทย่อยและบริษัทในเครือ ("MetLife") เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกที่ให้บริการประกันภัย เงินรายปี ผลประโยชน์ของพนักงาน และการจัดการสินทรัพย์เพื่อช่วยให้ลูกค้าบุคคลและสถาบันสามารถไปต่อได้โลกที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ MetLife ก่อตั้งขึ้นในปี  พ.ศ. 2411 มีการดำเนินงานในกว่า 40 ตลาดทั่วโลกและดำรงตำแหน่งผู้นำในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ละตินอเมริกา เอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.metlife.com.

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในการเปิดเผยนี้ใช้คำตัวอย่างเช่น "พินัยกรรม" ตั้งอยู่บนสมมติฐานและความคาดหวังที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนรวมถึง "ปัจจัยเสี่ยง" ที่ MetLife, Inc. อธิบายไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ผลลัพธ์ในอนาคตของ MetLife อาจแตกต่างออกไป และ MetLife  ไม่มีหน้าที่ในการแก้ไขหรือปรับปรุงข้อความเหล่านี้

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201015005425/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ: Randy Clerihue, 646-552-0533

ติดต่อสำหรับนกลงทุน: John Hall, 212-578-7888

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter