Mary Kay Inc. ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากกว่า 20 รางวัลในด้านการเป็นพลเมืองทางธุรกิจและความเป็นผู้นำตลอดทั้งปี 2562

Logo

ดัลลัส–(บิสิเนสไวร์)–31 ธ.ค. 2562

ในปี 2562 Mary Kay Inc. ได้สานต่อความมุ่งมั่นต่อเนื่องหลายทศวรรษเพื่อเพิ่มคุณค่าชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก สร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และส่งเสริมชุมชนที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนมากขึ้น  เพื่อเชิดชูความสำเร็จของ Mary Kay ตลอดทั้งปี ทางแบรนด์ได้รับรางวัลมากถึง 20 รางวัลในด้านธุรกิจ การเป็นพลเมืองขององค์กร และความเป็นผู้นำจากแหล่งที่น่าเชื่อถือต่างๆ

รางวัลต่างๆ ที่ได้รรับ ตั้งแต่รางวัล “นายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุดสำหรับปี 2562” ของ Forbes ถึงรางวัล “การแสดงดีเด่น” ของ Boston College Center for Corporate Citizenship Film Festival แสดงให้เห็นคุณค่าทางธุรกิจที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ Mary Kay และการอุทิศตนต่อหลักการที่กำหนดโดยผู้ก่อตั้งแบรนด์ Kay Ash

รางวัล 2562 รวมถึง:

ความเป็นเลิศในธุรกิจ

  • นายจ้างที่ดีที่สุดสำหรับความหลากหลาย, 2562 – Forbes
  • นายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุด, 2562 – Forbes
  • รางวัลระดับทองคำในหมวดหมู่การเรียนรู้ – รางวัล OMNI รอบฤดูใบไม้ผลิ 2562
  • Top 50 บริษัทในครัวเรือนและผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลของอเมริกา – HAPPI MAGAZINE
  • รางวัล DSA Empowerment Award, 2562 – Direct Selling Association
  • นายจ้างที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในการศึกษาสถานที่ทำงานทั่วโลกอันดับ 100 แรกของปี 2562 – Reputation Institute
  • รางวัล Compliance Award, 2562 – EXPANSION
  • แบรนด์ดีเด่น, 2019 – VIP Magazine
  • รางวัลผู้ประกอบการสตรี – Woman Who Matters Forum
  • นิตยาสารดีเด่นสำหรับลูกค้า, Mary Kay Russia Applause® – Media Leader
  • สื่อลูกค้าดีเด่น: เนื้อหาเว็บ, Mary Kay Russia MirrorMe App – Corporate Media Awards

ความเป็นเลิศด้านความเป็นพลเมืองขององค์กร:

  • วิดีโอที่แฟนๆ ชื่นชอบ: ความมุ่งมั่นของ Mary Kay ที่จะยุติความรุนแรงในครอบครัว – Boston College Center for Corporate Citizenship International Corporate Citizenship Film Festival
  • การแสดงดีเด่น – หมวดหมู่บริษัทขนาดเล็ก, วิดีโอ: ความมุ่งมั่นของ Mary Kay ที่จะยุติความรุนแรงในครอบครัว – Boston College Center for Corporate Citizenship International Corporate Citizenship Film Festival
  • การรับรองระดับเงินด้านความเป็นผู้นำด้านพลังงานและการออกแบบสิ่งแวดล้อม (LEED) 2562 – Mary Kay Richard R. Rogers Manufacturing and R&D Center
  • รางวัล CSR Brand และ CSR Strategy ที่ดีที่สุด, Mary Kay China – CSR China Education Awards

ความเป็นเลิศด้านการเป็นผู้นำ

  • 10 ซีอีโอที่โด่งดังที่สุดในโลก David Hall, Mary Kay CEO, RepTrak 2019 Study – Reputation Institute
  • ผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดในบริษัทอเมริกา 2562, Sheryl Adkins-Green, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด – นิตยสาร BLACK ENTERPRISE
  • ผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดในบริษัทอเมริกา 2562, Julia Simon หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและเลขานุการบริษัท – นิตยสาร BLACK ENTERPRISE
  • 500 ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสเปน, Gema Aznar, ผู้จัดการทั่วไป Mary Kay Spain – Yo Dona Magazine
  • ผู้นำธุรกิจหญิงที่มีอิทธิพลที่สุด, Claudia Maria Cardona ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Mary Kay Colombia – ALO Magazine
  • ผู้จัดการแห่งปี, Alla Sokolova, Mary Kay Russia ผู้จัดการทั่วไป – Russian Business Guide
  • ผู้จัดการดีเด่น 250 อันดับสูงสุด Alla Sokolova, Mary Kay Russia ผู้จัดการทั่วไป – The Association Managers of Russia and Kommersant Publishing House

เกี่ยวกับ Mary Kay

โดยเป็นหนึ่งในผู้ที่ก้าวผ่านเพดานสังคมรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอเมื่อ 56 ปีก่อนโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ: มอบโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้หญิง สร้างผลิตผลิตภัณฑ์มีเสน่ห์ที่ไม่อาจต้านทานได้  และทำให้โลกดียิ่งขึ้น   ความฝันดังกล่าวได้งอกงามเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ   Mary Kay ลงทุนกับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางสี และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและน้ำหอม   Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว การสร้างความสวยงามให้กับชุมชนต่างๆ และการกระตุ้นให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงส่องประกาย – ในลิปสติกทุกแท่ง  เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191230005280/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

Invicro LLC ประกาศให้ ดร. Matthew Silva ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ และ ดร. Jack Hoppin ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Konica Minolta Precision Medicine

Logo

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–23 ธ.ค. 2562

Invicro LLC บริษัท ในเครือ Konica Minolta ประกาศในวันนี้ว่า ดร. Matthew Silva ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่และมีผลทันที โดย ดร. Silva จะรับหน้าที่เป็นผู้นำในการจัดการในแต่ละวันของ บริษัท และจะเข้าร่วมคณะกรรมการของ Invicro ส่วน ดร.Jack Hoppin ผู้ร่วมก่อตั้ง Invicro จะเปลี่ยนบทบาทของเขาในฐานะซีอีโอของ Invicro มาดำรงตำแหน่งประธานของ Konica Minolta Precision Medicine (KMPM) ส่วน ดร. Hoppin จะยังคงอยู่ในบอร์ดคณะกรรมการของ Invicro รวมถึงยังคงทำหน้าที่ในบอร์ดคณะกรรมการ KMPM ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191223005320/en/

Invicro LLC Announces Dr. Matthew Silva as New Chief Executive Officer (Photo: Business Wire)

Invicro LLC ประกาศให้ ดร. Matthew Silva ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (รูปภาพ: Business Wire)

Konica Minolta, Inc. เข้าซื้อ Invicro LLC และ Ambry Genetics Corporation ในเดือนกันยายน 2560 เพื่อเร่งวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ในการยกระดับการแพทย์ส่วนบุคคลผ่านการส่งมอบบริการการวินิจฉัยผ่านทางพันธุศาสตร์ ความสามารถด้านการถ่ายภาพ และความสามารถด้านพยาธิวิทยาดิจิทัล ทั้งนี้ Konica Minolta Precision Medicine เกิดขึ้นได้เพราะเป็นผลมาจากการนำสามความสามารถทั้งสามสิ่งนี้มารวมกัน

“ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งซีอีโอของ Invicro นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2551” ดร. Hoppin กล่าว “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Invicro, Ambry และ KMPM เพราะเราทุกคนที่ทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนชุมชนการวิจัยทางการแพทย์ผ่านการรวมแพลตฟอร์มเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้การทดสอบระดับโมเลกุลและเสนอการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่จะก้าวไปสู่เวชศาสตร์ปริวรรต หรือ translational medicine”

ในบทบาทใหม่ของเขา ดร. Hoppin จะประสานงานกับบริษัท ต่างๆภายใต้ KMPM เพื่อช่วยผู้สนับสนุนด้านเวชภัณฑ์และช่วยเหล่าแพทย์ในการเร่งการพัฒนาวิธีการรักษาที่ตรงเป้าหมายผ่านการทำโปรไฟล์ทางพันธุกรรมและโมเลกุล

“ผมตั้งตารอที่จะได้เห็นบทต่อไปของ KMPM และ Invicro” นาย Kiyotaka Fujii ประธานของ Konica Minolta Global Healthcare และ CEO ของ KMPM กล่าว “ ในขณะที่ KMPM ยังคงให้ความสำคัญกับการปฏิวัติการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลผ่านจุดแข็งของ Konica Minolta, Invicro และ Ambry นั้น คุณ Jack จะเป็นผู้นำภารกิจ Konica Minolta Precision Medicine ผมมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า คุณ Matt จะก้าวสู่สู่บทบาทใหม่ของเขาอย่างราบรื่นและจะยังคงนำ Invicro ไปสู่การค้นพบใหม่ที่จะช่วยพัฒนาการค้นพบและพัฒนายาที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน”

ดร. Silva จะดำเนินภารกิจเชิงกลยุทธ์ของ Invicro เพื่อสนับสนุนการค้นคว้ายาและการพัฒนาชุมชน โดย Invicro จะยังคงใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ ด้านเคมีและการวิเคราะห์ชั้นนำของอุตสาหกรรมซึ่งครอบคลุมการค้นพบผ่านการวิจัยทางคลินิกในหลาย ๆ ด้านของการรักษาซึ่งรวมไปถึงด้านระบบประสาทส่วนกลาง เนื้องอกมะเร็งโรคที่หายาก และโรคทางระบบอื่น ๆ นอกจากนี้ Invicro จะยังคงลงทุนในแพลตฟอร์มข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การจัดการ การสร้างภาพ (visualizing) และการวิเคราะห์ข้อมูลการถ่ายภาพทางพยาธิวิทยาและรังสีวิทยาที่สอดคล้องกับ KMPM

“ ก่อนอื่นผมอยากจะขอบคุณ Jack ที่นำ Invicro มาสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะรับบทใหม่และในการปฏิบัติภารกิจต่อไป” ดร. Silva กล่าว “ มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Invicro ในขณะที่เรายังคงเดินหน้าก้าวต่อไปด้วยความสามารถในการให้บริการด้านเภสัชกรรมของเราที่นำเสนอ imaging biomarkers การวิเคราะห์ขั้นสูง เทคโนโลยีและนวัตกรรมเคมี และบริการห้องปฏิบัติการแล็บหลัก ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณทีมงานของ Invicro และผู้สนับสนุนด้านเภสัชกรรมของเรา ที่ช่วยให้พวกเราสามารถช่วยกันพัฒนายาใหม่ ๆ ที่จะปรับปรุงชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องการยาได้”

ด้วยประสบการณ์การถ่ายภาพ diverse imaging ที่หลากหลายตลอด 20 ปี ดร. Silva ได้เข้าร่วมกับ Invicro เป็นครั้งแรกในปี 2555 โดยล่าสุดดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารแผนกแอปพลิเคชั่นวิทยาศาสตร์ ที่ที่เขานำความพยายามเชิงกลยุทธ์มาขยายการพัฒนายารักษาเนื้องอกและการทดลองทางคลินิก ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยาของ ดร. Silva นั้นรวมไปถึง การดำรงตำแหน่งทางวิทยาศาสตร์และการเป็นผู้นำที่ Vertex, Amgen, Millennium และ Takeda Pharmaceuticals โดยดร. Silva จบปริญญาเอกและปริญญาโทสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์จาก Worcester Polytechnic Institute

เกี่ยวกับ Invicro

Invicro ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 มีสำนักงานใหญ่ในเมืองบอสตันรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยมีภารกิจในการปรับปรุงบทบาทและหน้าที่ของการเวชศาสตร์ปริวรรต และการพัฒนาในทุกด้านของการรักษา ในวันนี้ทีมสหสาขาวิชาชีพของ Invicro ได้ให้บริการโซลูชั่นแก่บริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพในทุกขั้นตอนของขั้นตอนการพัฒนายา (เฟส 0-IV) ทุกรูปแบบการถ่ายภาพ และการรักษาทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึง ประสาทวิทยา เนื้องอกวิทยา และโรคระดับทั่วร่างกาย (systemic diseases) และโรคหายาก บริการ biomarker เชิงปริมาณของ Invicro เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง และ AI และบริการปฏิบัติการทางคลินิกได้รับการสนับสนุนโดยแพลตฟอร์มข้อมูลสารสนเทศด้านซอฟต์แวร์ชั้นนำของอุตสาหกรรมของ Invicro VivoQuant® และ iPACS®

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร Konica Minolta precision medicine organization และร่วมกับบริษัท Ambry Genetics ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Invicro จึงได้พัฒนาและใช้ประโยชน์จากแนวทางล่าสุดในการเป็นผู้ให้บริการชีวภาพเชิงปริมาณ ซึ่งรวมไปถึง การถ่ายภาพ พยาธิวิทยาเชิงปริมาณ และจีโนม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.invicro.com.

เกี่ยวกับ Konica Minolta Precision Medicine

Konica Minolta Precision Medicine, Inc. (“KMPM”) ตั้งอยู่ใน Aliso Viejo, แคลิฟอร์เนีย เป็น บริษัท ย่อยของ Konica Minolta, Inc. เช่นเดียวกับบริษัท Ambry Genetics Corporation และ Invicro LLC โดย KMPM ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 บนความเชื่อที่ว่าการคิดค้นทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำนั้นเป็นไปได้โดยมุ่งเน้นไปที่แผนที่แสดงสุขภาพ (health expression map) กล่าวคือการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเขตแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบระหว่างพันธุศาสตร์และผลกระทบทางชีวภาพของบุคคล ควบคู่ไปกับการวัดสุขภาพในแต่ละช่วงเวลา หน่วยศึกษาด้านสุขภาพและแพลตฟอร์มการสร้างภาพข้อมูลของ KMPM ได้รวบรวมชุดข้อมูลที่น่าทึ่งและหลากหลายที่สุดมาจากยีนส์ โปรตีน เซลล์ และเนื้อเยื่อ ด้วยการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนและความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ชั้นนำระดับโลกจึงทำให้สามารถดูแลรักษาเชิงรุกและป้องกันได้มากขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่: www.KonicaMinoltaPrecisionMedicine.com

เกี่ยวกับ Konica Minolta

Konica Minolta, Inc. (Konica Minolta) เป็นบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลกที่มีจุดแข็งหลักในด้านการวิเคราะห์ภาพและข้อมูล, เลนส์, วัสดุและโครงสร้างนาโน ด้วยการใช้นวัตกรรมจึงทำให้ Konica Minolta สร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นดิจิทัลเพื่อธุรกิจและสังคมที่ดีขึ้นในปัจจุบันและสำหรับอนาคต ในส่วนของธุรกิจเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพและธุรกิจที่ต้องเผชิญกับอุตสาหกรรมนั้น ทางบริษัท Konica Minolta ก็ได้มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการที่มีมูลค่าอย่างบูรณาการซึ่งใช้ความเชี่ยวชาญอย่างเต็มรูปแบบเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมกับปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดของลูกค้าโดยทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน สามารถคาดการณ์ปัญหาและแก้ไขปัญหาในอนาคตได้ทันท่วงที และปรับแก้ปัญหาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า การใช้ประโยชน์จากความสามารถเหล่านี้ของ Konica Minolta มีส่วนช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานให้กับลูกค้าและนำเสนอโซลูชั่นบริการที่ทันสมัยในยุคอินเตอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง อนึ่ง Konica Minolta มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวและมีการดำเนินงานในกว่า 50 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 43,000 คนที่ให้บริการลูกค้าประมาณสองล้านคนในกว่า 150 ประเทศ Konica Minolta จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE4902) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่: https://www.konicaminolta.com/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191223005320/en/

ติดต่อ:

Amanda Harrell

รองประธาน, ฝ่ายการตลาดระดับโลก

media@invicro.com


MoEngage Inc. ได้การรับรองสถานะ AWS Competency

Logo

เบงกาลูรู อินเดีย และ ซานฟรานซิสโก –(BUSINESS WIRE)–10 ธันวาคม 2562

MoEngage Inc แพลตฟอร์มชาญฉลาดเพื่อการเชื่อมต่อกับลูกค้า วันนี้ประกาศว่าได้การรับรอง Retail Competency จาก Amazon Web Services (AWS) เป็นที่เรียบร้อย

พันธมิตรใน AWS Retail Competency แสดงให้เห็นความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและความสำเร็จเกี่ยวกับลูกค้าที่ได้รับพิสูจน์แล้วในสาขาโซลูชั่นด้านนวัตกรรมที่หลากหลายในวงการค้าปลีกเช่น Data Lakes, AI/ML, Voice, Recognition, IoT, Microservices และ Retail Transformation

พันธมิตรใน AWS Retail Competency ยังมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดย AWS เพื่อให้สอดรับกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ AWS ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ปลอดภัย ทำงานได้ดี ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพแก่การปฏิบัติงานในอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้าขณะทำการตัดสินใจ

AWS มอบการปฏิบัติงานด้านโซลูชั่นส์ในวงกว้าง มีความยืดหยุ่น และประหยัดงบประมาณให้แก่ตั้งแต่บริษัทสตาร์ตอัพไปจนถึงองค์กรระดับโลก เพื่อเป็นการรองรับการเริ่มใช้งานและการผสานพลังอย่างไร้รอยต่อ AWS จึงก่อตั้งโปรแกรม AWS Competency เพื่อช่วยลูกค้าระบุพันธมิตร APN สำหรับการปรึกษาและเทคโนโลยี พร้อมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะในอุตสาหกรรม

การรับรอง AWS Retail Competency จะช่วยสร้างความแตกต่างแก่ MoEngage ในฐานะสมาชิกของ AWS Partner Network (APN) ที่มอบความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเฉพาะขั้นสูง

Raviteja Dodda ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอแห่ง MoEngage กล่าวว่า “MoEngage ภูมิใจมากที่ได้การรับรองสถานะ AWS Retail Competency ทีมงานของเรามุ่งมั่นในการช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายทางเทคโนโลยีโดยการยกระดับความคล่องตัว ขอบเขตการบริการ และวิถีนวัตกรรมที่ทาง AWS มอบให้”

ในขณะเดียวกัน MoEngage ช่วยยกระดับ AWS เพื่อช่วยส่งข้อความเฉพาะแต่ละบุคคลได้แบบเรียลไทม์ในวงกว้างอีกด้วย

MoEngage ส่งข้อความเฉพาะแต่ละบุคคลกว่า 1 ล้านครั้งในแต่ละวัน มีฐานผู้ใช้มีถึง 500 ล้านคนจาก 35 ประเทศทั่วโลก

ผู้ค้าปลีกสามารถใช้ MoEngage เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาด คุณค่าตลอดการใช้งาน และการเก็บรักษาที่สูงขึ้น 

MoEngage ยังได้รับแต่งตั้งเป็น 2019 Gartner Magic Quadrant สำหรับแพลตฟอร์มการตลาดบนมือถือ และได้รับการจัดอันดับที่สูงขึ้นด้านความพึงพอใจของลูกค้า

นาย Anand Bhaskaran หัวหน้าแผนก Digital Marketing จาก bigbasket กล่าวว่า “MoEngage มีพันธมิตรที่มั่นคงและแข็งแกร่งมาช่วยผลักดันในการเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ดีที่สุดในอินเดีย การแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละบุคคลผ่านระบบ AI และความสามารถด้านการตลาดผ่านช่องทางที่หลากหลายมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ bigbasket ส่งต่อประสบการณ์ขายของออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อและเป็นกันเอง”

เกี่ยวกับ MoEngage

MoEngage เป็นแพลตฟอร์มชาญฉลาดที่เชื่อมต่อกับลูกค้า ออกแบบขึ้นครั้งแรกเพื่อรองรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ แบรนด์ค้าปลีกอย่าง FuturePay, Tokopedia, bigbasket และอื่น ๆ ได้ใช้ MoEngage เพื่อส่งต่อประสบการณ์แบบส่วนตัวเป็นกันเองกับลูกค้าในวงกว้างผ่านช่องทางดิจิทัล

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.moengage.com 

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191209005796/en/ 

ติดต่อ:

MoEngage | Suraj Dubey | suraj@moengage.com

Zihaad Wells กลับมายัง True Religion Apparel ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์

Logo

แมนฮัตตันบีช แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–09 ธ.ค. 2562

True Religion Apparel, Inc. ประกาศในวันนี้ว่า Zihaad Wells ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์โดยมีผลทันที  ก่อนหน้านี้คุณ Wells เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายออกแบบสำหรับ True Religion Apparel ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2560 และเป็นรองประธานด้านการออกแบบและสร้างสรรค์ล่าสุดที่ AG Jeans  คุณ Wells จะรับผิดชอบการออกแบบผลิตภัณฑ์ การตลาด และการขับเคลื่อนทิศทางความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์  คุณ Wells รายงานตรงต่อ Michael Buckley ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Zihaad Wells มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแบรนด์กางเกงยีนส์ ทั้งเรื่องแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ การขายส่ง การขายปลีก และอีคอมเมิร์ซโดยมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี  คุณ Wells เริ่มต้นอาชีพของเขาที่ Levi's Europe ซึ่งเขาได้ทำงานกับคอลเลคชั่น Levi's Red และ Levi’s Vintage ก่อนที่จะมาทำงานที่ True Religion Apparel ในปี 2549

Michael Buckley ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Zihaad Wells กลับมายัง True Religion Apparel  คุณ Zihaad เป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์ยีนส์และชุดกีฬาชั้นนำในอุตสาหกรรม”

คุณ Wells กล่าวเกี่ยวกับตำแหน่งใหม่ของเขาว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาสู่ True Religion ในฐานะผู้อำนวยการสร้างสรรค์  ผู้รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน  ผมหวังว่าจะทำงานร่วมกับ Michael และทีมงานเพื่อกลับไปยังดีเอ็นเอที่ทำให้ True Religion เป็นแบรนด์ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสมดุลระหว่างมรดกและความทันสมั่ยที่สมบูรณ์แบบ โดยมีรากฐานในเครื่องแต่งกายยีนส์ที่โด่งดัง

เกี่ยวกับ True Religion Apparel, Inc.

ในปี 2545 True Religion ถือกำเนิดในวงการยีนส์ลอสแองเจลิสโดยปฏิวัติรูปแบบยีนส์คลาสสิกห้ากระเป๋า  ด้วยกระบวนการด้ายห้าเข็มสองตะเข็บต่อนิ้ว True Religion Super T ได้รับการยอมรับเป็นสไตล์ที่แตกต่างจากแบรนด์ยีนส์อื่นๆ ในโลกทันที  True Religion เข้าถึงความเป็นตัวของตัวเองของเราทุกคน แบรนด์ดังกล่าวถูกสวมใส่โดยนักกีฬา นักดนตรี และศิลปินทั่วโลกเพื่อแสดงสไตล์ของแต่ละคน โดยนำเสนอการคัดสรรสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว True Religion Brand Jeans มุ่งเน้นผลิตยีนส์พรีเมี่ยมคุณภาพสูงและชุดกีฬาสำหรับบุรุษ สตรี และเด็ก

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191209005232/en/

ติดต่อ:

สำหรับ True Religion:
Kate Kaminsky
kate@michelemariepr.com
646.863.3923

VF Corporation ประกาศเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ตัวใหม่เพื่อเร่งโปรแกรมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

Logo

เป้าหมายใหม่เป็นส่วนหนึ่งของรายงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมล่าสุด (Made for Change Sustainability & Responsibility Report

เดนเวอร์–(BUSINESS WIRE)–5 ธ.ค. 2562

VF Corporation (NYSE: VFC) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และแอคเซสซอรี่รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ตีพิมพ์รายงานล่าสุดชื่อ Made for Change Sustainability & Responsibility ร่วมกับการประกาศเป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ชั้นนำของอุตสาหกรรม ( science-based targets หรือ SBTs) และวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญสำหรับการใช้วัสดุที่ยั่งยืน

VF's Made for Change รายงานรายละเอียดเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของบริษัทในการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในธุรกิจบริษัท, แบรนด์, ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและชุมชนทั่วโลก รายงานดังกล่าวยังเน้นถึงความสำเร็จจากปีที่แล้วซึ่งคือปี 2561

“เรามีพนักงานที่มีศักยภาพ 50,000 คนที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้บริษัทเป็นมากกว่าบริษัทเสื้อผ้าและรองเท้า เรามุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจของเราเพื่อส่งผลดีต่อผู้คนและโลกที่อยู่ร่วมกัน” Steve Rendle ประธานและซีอีโอของ VF กล่าว “ เราภูมิใจในความก้าวหน้าของเรา แต่เราก็รู้ว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เราสามารถทำได้ กลยุทธ์ Made for Change ของเราแสดงถึงการให้ความสำคัญกับอนาคตและแสดงความมุ่งเน้นในการที่เราจะผลักดันตัวเองมากขึ้นต่อ ๆ ไป ในช่วงที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาบางส่วนที่ท้าทายความสามารถมากที่สุดในอุตสาหกรรมของเราในปัจจุบัน“

กลยุทธ์ Made for Change มุ่งเน้นไปที่ 3 ด้าน

  • โมเดลธุรกิจแบบวงกลม หรือ Circular Business Models: การใช้โมเดลธุรกิจแบบวงกลมเชิงพาณิชย์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ VF ในขณะที่สร้างโอกาสแห่งการเติบโตใหม่
  • การใช้ประโยชน์จากขนาดบริษัท หรือ Scale for Good: การใช้ประโยชน์จากขนาดและอิทธิพลระดับโลกของ VF เพื่อผลักดันการลดผลกระทบในธุรกิจและอุตสาหกรรมในวงที่กว้างขึ้น
  • ผู้ก่อความเคลื่อนไหว หรือ Movement Makers: การใช้แบรนด์ VF และแบรนด์อื่น ๆ ของ บริษัทเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการขับเคลื่อนไปสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืนและกระตือรือร้นเพื่อประโยชน์ของผู้คนและโลกของเรา

ไฮไลท์ของรายงาน Made for Change

ตามที่ระบุไว้ในรายงานและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ VF ได้ทำการวัดความก้าวหน้าเทียบกับเป้าหมาย โดยไฮไลท์รวมถึง:

  • ร้อยละ 50 ของศูนย์กระจายสินค้าของ VF ทั่วโลกปล่อยของเสียเป็นศูนย์
  • อาคาร 16 แห่งของ VF ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED
  • การเปิดตัวของวิสัยทัศน์ด้านที่ยั่งยืนมุ่งเน้นที่แนวคิดหลักสามประการ คือ วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การหาแหล่งวัสดุทดแทนอย่างมีความรับผิดชอบ และวัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลได้
  • การปรับปรุงวิถีชีวิตของคนงานในบังคลาเทศ กัมพูชา อินเดีย สาธารณรัฐโดมินิกัน เวียดนาม จีนเคนยา และเลโซโทผ่านโครงการพัฒนาแรงงาน VG และชุมชน หรือ VF’s Worker and Community Development (WCD) Program

เป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ของ VF ได้รับการอนุมัติโดยเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ หรือ the Science Based Targets initiative

เป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของ VF (SBTs) ใหม่ เป็นหนึ่งในความพยายามอันทะเยอทะยานที่สุดในอุตสาหกรรมและสอดคล้องกับอุดมการณ์ของการใช้ระดับประโยชน์จากขนาดของบริษัทในระดับโลกที่ดี โดย SBTs เป็นเป้าหมายเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับเป้าหมายของข้อตกลงปารีส

“ VF เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในภาคสิ่งทอเครื่องแต่งกายและสินค้าฟุ่มเฟือยที่ได้กำหนดเป้าหมาย 1.5 องศาสำหรับการปล่อยก๊าซตามขอบเขต 1 และขอบเขต 2 และกำหนดเป้าหมายต่ำกว่า 2 องศาสำหรับการปล่อยก๊าซตามขอบเขต 3 ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ Ben Peel ที่ปรึกษาที่ปรึกษาคาร์บอนทรัสต์กล่าว

VF ได้ร่วมโครงการความร่วมมือที่ยาวนานสองปีในการพัฒนา SBTs ใหม่ โดยบริษัทได้ร่วมมือกับที่ปรึกษาระดับโลกอย่างคาร์บอนทรัสต์ในการสร้างแบบจำลองข้อมูลในโรงงานที่บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินการ รวมถึงการดำเนินงานทั้งหมดจากฟาร์มไปจนถึงร้านค้าปลีก และทำงานอย่างลึกซึ้งกับห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด ข้อมูลปฐมภูมิถูกรวบรวมจากโรงงานผลิตศูนย์กระจายสินค้าและโลจิสติกส์ระดับโลกของ VF 1,400 แห่งรวมถึงซัพพลายเออร์ระดับ Tier 1 และ Tier 2 กว่า 100 รายเพิ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการระบุปัจจัยและใช้กลยุทธ์การลด

เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนตามเป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของ VF นั้นรวมถึง:

  • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต 1 และ 2 ลงอย่างแน่นอนร้อยละ 55 ภายในปี 2573 จากปีพื้นฐานปี 2560; และ
  • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของขอบเขต 3 อย่างแน่นอนร้อยละ 30 ภายในปี 2573 จากปีฐานปี 2560 โดยมุ่งเน้นไปที่วัตถุดิบจากฟาร์มสู่การค้าปลีกการดำเนินการจัดหาและโลจิสติกส์

ความคิดริเริ่มตามเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการตั้งเป้าหมายตามวิทยาศาสตร์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทในช่วงการเปลี่ยนภาพไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ วิธีการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง CDP, United Global Global Compact (UNGC), World Resources Institute (WRI) และ World Wide Fund for Nature (WWF) และหนึ่งในพันธสัญญาของ We Mean Business Coalition

“นี่คือคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมที่สุดที่เราได้แนะแนวองค์กรว่าจะสามารถบรรลุ SBT ได้อย่างไรในการดำเนินงานและห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท” Tom Delay ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Carbon Trust กล่าว “งานนี้ส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งไปยังภาคเครื่องแต่งกายว่าด้วยระดับของการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในการจัดการกับการปล่อยมลพิษทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน การจัดจำหน่ายทั่วโลก และต่อแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งนี้กระบวนการพัฒนาความร่วมมือและการมุ่งเน้นในการชักจูงผู้อื่นถือเป็นความเป็นผู้นำขององค์กรที่แท้จริง เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็น VF บรรลุเป้าหมายที่ทะเยอทะยานนี้”

วิสัยทัศน์ใหม่สำหรับวัสดุที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศในวันนี้ว่า วิสัยทัศน์วัสดุยั่งยืนใหม่ของ VF จะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุ SBTs การสกัด การผลิต และการผลิตวัตถุดิบเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ VF ทั่วโลก วิสัยทัศน์ที่เป็นนวัตกรรมจะสร้างเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับการลดการปล่อยก๊าซไปอีกขั้น

ในปี 2573 VF ตั้งความมุ่งมั่นว่าร้อยละ  100 ของวัสดุเก้าอันดับแรก ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 90 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับวัสดุจะมาจากแหล่งกำเนิดใหม่แหล่งทดแทน หมุนเวียน หรือที่ใช้แหล่งรีไซเคิล

จากการใช้เครื่องมือ เช่น ดัชนีความยั่งยืนของวัสดุเครื่องนุ่งห่มที่ยั่งยืน และวิธีการวิเคราะห์วัฏจักรชีวิต ทำให้ VF กำลังประเมินทางเลือกวัสดุภายในสามด้านนี้เพื่อระบุโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อทำความเข้าใจว่าการเร่งตัวเลือกเหล่านี้จะนำไปสู่เป้าหมายทางวิทยาศาสตร์อย่างไร

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VF และรายงาน Made for Change Sustainability & Responsibility สามารถหาพบได้ที่ www.vfc.com.

เกี่ยวกับ VF

VF Corporation ก่อตั้งขึ้นในปี 2442 เป็นหนึ่งในบริษัท เครื่องแต่งกาย รองเท้า และแอคเซสซอรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เชื่อมต่อผู้คนกับวิถีชีวิต กิจกรรม และประสบการณ์ที่พวกเขาหวงแหนมากที่สุดผ่านหลากหลายแบรนด์ดังที่เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าเอาท์ดอร์ เสื้อผ้าทำงาน และเสื้อผ้ากีฬา รวมไปถึง Vans®, The North Face®, Timberland® and Dickies®.จุดประสงค์ของเราคือขับเคลื่อนวิถีชีวิตที่แอคทีฟและที่ยั่งยืนและกระตือรือร้นเพื่อประโยชน์ของผู้คนและโลกของเรา เราเชื่อมโยงจุดประสงค์นี้ด้วยแรงผลักดันอย่างไม่หยุดยั้งที่จะประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดและใช้บริษัทของเราเป็นแรงผลักดันที่ดี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม vfc.com.

เกี่ยวกับ Carbon Trust

คาร์บอนทรัสต์เป็นพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญขององค์กรชั้นนำทั่วโลกซึ่งช่วยให้องค์กรเหล่านั้นมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น

  • เราให้คำแนะนำแก่บริษัทธุรกิจ รัฐบาล และภาครัฐ เกี่ยวกับโอกาสในโลกที่ใช้คาร์บอนอย่างต่ำและยั่งยืน
  • เราทำการวัดและรับรองรอยเท้าสิ่งแวดล้อม (environmental footprint) ขององค์กรห่วงโซ่อุปทานและผลิตภัณฑ์
  • เราพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นคาร์บอนต่ำ เริ่มตั้งแต่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไปจนถึงพลังงานทดแทน

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191205005251/en/

ติดต่อ:

Molly Cuffe

ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรเพื่อความรับผิดชอบ

Molly_Cuffe@vfc.com

AJC จัดงานประชุม ASEAN Services Trade Forum ในโตเกียวเพื่อหารือเกี่ยวกับความต้องการใหม่ในบริการด้านสุขภาพและสังคมในอาเซียนและโอกาสทางการลงทุนในภูมิภาค

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 ธันวาคม 2562

ศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น หรือ ASEAN-Japan Centre (AJC) จัดงาน "ASEAN Services Trade Forum ในหัวข้อบริการด้านสุขภาพและสังคม" เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีตัวแทนจากภาคเอกชน หน่วยงานรัฐบาลและวิชาการของญี่ปุ่น รวมถึงผู้แทนจากเก้าประเทศกลุ่มอาเซียนและสถานเอกอัครราชทูตของประเทศกลุ่มอาเซียนในกรุงโตเกียวทั้งหมด 107 คนเข้าร่วม

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดีย ดูแบบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191204005993/en/

Government representatives from nine ASEAN countries who participated in the ASEAN Services Trade Forum held in Tokyo. (Photo: Business Wire)

ตัวแทนรัฐบาลจากเก้าประเทศในกุล่มอาเซียนที่เข้าร่วมงาน ASEAN Services Trade Forum ซึ่งจัดขึ้นในโตเกียว (รูปภาพ: Business Wire)

การพัฒนามนุษย์ขึ้นอยู่กับและเป็นตัวกำหนดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม กำลังการผลิตของแรงงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานะสุขภาพ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลผลิตโดยรวม ความสำคัญของการมีอยู่อย่างยั่งยืน และการทำให้การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับผู้อยู่อาศัยในอาเซียนเป็นเรื่องง่ายนั้นมีความสำคัญอย่างมาก รัฐบาลในอาเซียนได้กำหนดเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UHC)1 ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ประเทศญี่ปุ่นได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับประเทศในอาเซียนเพื่อทำให้เป้าหมายนี้ประสบผลสำเร็จ ผ่านโครงการส่งเสริมสุขภาพญี่ปุ่น-อาเซียน (Japan-ASEAN Health Initiative) ซึ่งสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งจะนำไปสู่การส่งเสริมการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ การป้องกันโรค และการยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพในอาเซียน และโครงการความร่วมมือสากลด้านสุขภาพญี่ปุ่น-อาเซียน (Japan-ASEAN UHC Initiative) โดยมุ่งเน้นไปที่ประชากรผู้สูงอายุ รวมถึงการทำวิจัยร่วมระหว่างญี่ปุ่นและอาเซียน และการมองหาเวทีเพื่อความร่วมมือในอนาคตหรือกลไกที่จะนำไปสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ยั่งยืน สำหรับการหารือด้านสุขภาพและพฤฒพลังหรือ active aging

ซึ่งเป็นที่มาให้ศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นได้จัดงาน ASEAN Services Trade Forum ขึ้น โดยมุ่งเน้นที่เรื่องสถานะและโอกาสในการลงทุนด้านบริการด้านสุขภาพและสังคมในอาเซียน ซึ่งเป็นเวทีให้กับผู้ให้บริการจากญี่ปุ่นได้พบปะหารือกับตัวแทนของหน่วยงานรัฐบาลจากประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านบริการด้านสุขภาพและสังคม

ในงานดังกล่าว ศาสตราจารย์ Keiichiro Oizumi แห่ง Asia University และ นายอุปลัทธิ์ กอวัฒนสกุล ผู้จัดการโครงการหน่วยวิจัยและวิเคราะห์นโยบายจาก AJC ได้กล่าวอภิปรายในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงสถานะในปัจจุบันและความต้องการใหม่ของบริการด้านสุขภาพและสังคมในอาเซียน โดยคณะอภิปรายซึ่งประกอบด้วยนาย Naoki Nomura ประธานคณะกรรมการ Social Medical Corporation Sanshikai ซึ่งเปิดบริการคลินิกทางการแพทย์ในย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ในปี 2562 รวมถึงนาย Kazumi Nishikawa ผู้อำนวยการกรมอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่น และศาสตราจารย์ Kaliappa Kalirajan แห่ง Australia National University ได้นำเสนอวิธีการที่ประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศอาเซียนจะสามารถต่อยอดความเป็นพันธมิตรในการยกระดับบริการด้านสุขภาพและสังคมในอาเซียนได้

ตัวแทนจากประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ได้ร่วมนำเสนอสรุปภาพรวมเกี่ยวกับบริการด้านสุขภาพและสังคมในประเทศของตน และอธิบายถึงโอกาสทางการลงทุนของธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่น

ภายหลังการประชุม ยังมีการจัดการประชุมทางธุรกิจทั้งหมด 38 งาน ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างตัวแทนรัฐบาลจากกลุ่มประเทศอาเซียนและบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือถึงโอกาสธุรกิจที่มีความเป็นรูปธรรมในประเทศต่าง ๆ

“งานประชุมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้พบปะพูดคุยโดยตรงกับธรุกิจจากประเทศญี่ปุ่น เราจะสานต่อความพยายามในการเชิญชวนให้มีการลงทุนในบริการด้านสุขภาพและสังคมจากประเทศญี่ปุ่นต่อไป” ตัวแทนจากประเทศอาเซียนกล่าวในช่วงท้ายของงาน

AJC เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นโดยประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นในปี 2524 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนอาเซียนกับญี่ปุ่น AJC ได้ทำการวิจัยและวิเคราะห์เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนบริการต่าง ๆ ในอาเซียนมาตั้งแต่ปี 2559 ในปี 2562 AJC ได้ศึกษาเกี่ยวกับบริการด้านสังคมในอาเซียน รวมถึงบริการด้านสุขภาพและสังคมและบริการด้านการศึกษา

1 “ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หมายถึง การทำให้ผู้คนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่จำเป็น (ได้แก่ การป้องกัน การส่งเสริม การรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการบรรเทาทุกข์) ที่มีคุณภาพเพียงพอได้จริง ไปพร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นว่าการใช้บริการเหล่านี้จะไม่ทำให้ผู้ใช้ได้รับความยากลำบากทางการเงิน” (องค์การอนามัยโลก)

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20191204005993/en/

ติดต่อ:

ศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น
Tomoko Miyauchi
โทร +81-3-5402-8118
แฟกซ์ +81-3-5402-8003
อีเมล: toiawase_ga@asean.or.jp
1F, Shin Onarimon Bldg., 6-17-19 Shimbashi,
Minato-ku, Tokyo 105-0004 Japan
URL: https://www.asean.or.jp/en/

Parsons Paris ประกาศหลักสูตรการศึกษาออนไลน์แฟชั่นหรูใหม่สำหรับนักเรียนระดับมัธยม

Logo

หลักสูตรมอบมุมมองเบื้องหลังธุรกิจแฟชั่นและตลาดหรู

นิวยอร์กและปารีส–(บิสิเนสไวร์)–02 ธ.ค. 2562

Parsons Paris วิทยาเขตยุโรปของ Parsons School of Design ของ The New School ประกาศหลักสูตรการศึกษาออนไลน์สำหรับนักเรียนระดับมัธยมที่มีชื่อว่า Inside the Business of Fashion and Luxury การเดินทางสู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยสำรวจประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เทรนด์ และวัฒนธรรมของแฟชั่น หลักสูตรสหสาขาวิชาชีพนี้สอนโดยคณาจารย์ผู้มีชื่อเสียงจาก Parsons Paris และมีการสัมภาษณ์และเนื้อหาพิเศษโดยผู้นำอุตสาหกรรมแฟชั่นชั้นนำในปารีสและแบรนด์หรูรวมถึง Louis Vuitton, Dior, Balmain และอื่นๆ อีกมากมาย

ด้วยหลักสูตรการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟรวม 30 ชั่วโมง Inside the Business of Fashion and Luxury ให้นักเรียนรุ่นเยาว์มีโอกาสที่ไม่เหมือนใครในการเข้าถึงวงการแฟชั่นและการออกแบบระดับโลกในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่สนุกสนานและให้การสนับสนุน  นักเรียนจะได้เรียนรู้จากอาจารย์ที่ได้รับรางวัลและผู้นำอุตสาหกรรมในหลากหลายหัวข้อและธีมที่สร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตในอุตสาหกรรมแฟชั่นและการออกแบบ  หลักสูตรนี้จะนำไปสู่ Parsons Paris Insider’s Challenge ซึ่งนักเรียนสามารถใช้การเรียนรู้จากหลักสูตรและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาสำหรับสถานการณ์แฟชั่นและความหรูจริง

หลักสูตรใหม่นี้นำเสนอภาพรวมของเส้นทางอาชีพในแฟชั่น สินค้าหรูหรา อุปกรณ์เสริม และการตลาด มีการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับความยั่งยืนของเทคโนโลยีและประเด็นทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม และวิธีที่แบรนด์สามารถคิดค้นและประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21  นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแฟชั่นเฮ้าส์ที่มีชื่อเสียง องค์ประกอบสำคัญที่กำหนดแบรนด์หรู สิ่งที่สร้างผลิตภัณฑ์ขายดี และอื่นๆ

“ในขณะที่ Parsons Paris มองไปยัง 100 ปีในปี 2564 เรารู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจที่ได้เปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตรใหม่นี้สำหรับนักเรียนมัธยม” Florence Leclerc-Dickler คณบดี Parsons Paris กล่าว “หลักสูตรนวัตกรรมของโปรแกรม มุมมองภายใน และการแนะแนวส่วนตัวจากผู้ให้คำปรึกษาของ Parsons มอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใครสำหรับนักเรียนที่สนใจศึกษาอาชีพในแฟชั่นและการออกแบบ”

หลักสูตรสหวิชาชีพประกอบด้วยการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว การบรรยายที่สนุกและมีคุณภาพ วิดีโอมากกว่า 100 รายการที่มีผู้นำด้านแฟชั่นและความหรู และคณะ Parsons Paris การบ้านที่ให้คำติชมแก่นักเรียนเป็นรายบุคคล และการอภิปรายนอกชั้นเรียน  ทั้งหมดนี้ดำเนินการออนไลน์ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย 

ชั้นเรียนนำโดยอาจารย์ Parsons Paris Eros Erotokritos นักออกแบบแฟชั่นที่มีร้านบูติกสองแห่งในปารีส Anna Krutiy ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ Badara Ndiaye อินฟลูเอนเซอร์และผู้อำนวยการฝ่ายครีเอเทีฟ

Inside the Business of Fashion and Luxury มอบการเข้าถึงโลกที่น่าตื่นเต้นในช่วงหลักสูตรสองหรือสี่สัปดาห์เพื่อรองรับตารางการเรียนที่ยุ่งของนักเรียน  นักเรียนระดับมัธยมปลายทั่วโลกสามารถเริ่มสมัครเรียนในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 และฤดูร้อนปี 2020 ได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการสมัครโปรแกรมนี้ โปรดไปที่ เว็บไซต์ของ Parsons Paris สำหรับข้อเสนอใหม่นี้

ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2464 ในฐานะโรงเรียนสอนศิลปะและการออกแบบอเมริกันแห่งแรกในปารีส Parsons Paris ในวันนี้เป็นชุมชนนานาชาติของนักศึกษาและคณาจารย์ที่มีชื่อเสียง โดยมุ่งมั่นที่จะจัดการกับความท้าทายของโลกด้วยความคิดสร้างสรรค์และความเฉียบแหลมทางปัญญา  โดยการนำเสนอปริญญาตรีและปริญญาโทภาษาอังกฤษในด้านแฟชั่น การจัดการการออกแบบเชิงกลยุทธ์ และศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี หลักสูตรได้รวบรวมการเรียนการสอนอันดับต้นๆ ของ Parsons School of Design และทรัพยากรที่เป็นเอกลักษณ์ของปารีส ด้วยแบรนด์มรดกของตน – วัฒนธรรมผู้ประกอบการ และการเข้าถึงยุโรปและอื่นๆ  Partners รวมถึง Parsons ในนิวยอร์กและ The New School – มหาวิทยาลัยแม่ของ Parsons – รวมถึงเครือข่ายของมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นและระดับโลก สถาบันทางวัฒนธรรม องค์กรและธุรกิจต่างๆ  ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองที่มีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมสหวิทยาการได้ทำงานร่วมกันของเรา ผู้สำเร็จการศึกษาจะไปบุกเบิกอุตสาหกรรมใหม่และแสวงหาอาชีพที่สร้างสรรค์ในปารีสและทั่วโลก

The New School ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2462 เพื่อส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ การยอมรับ และการทดลอง  อีกหนึ่งศตวรรษต่อมา The New School ยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของนวัตกรรมด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษากว่า 10,000 คนเพื่อท้าทายสถานะงานศิลปะและการออกแบบ สังคมศาสตร์ ศิลปะเสรีศาสตร์ การจัดการ ศิลปะการแสดง และมีเดีย  มหาวิทยาลัยยินดีต้อนรับผู้เรียนผู้ใหญ่หลายพันคนต่อปีสำหรับหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องและหลักสูตรผู้บริหารและโปรแกรมสาธารณะ  The New School ดำรงอยู่ทั่วโลกผ่านทางพอร์ทัลการเรียนรู้ออนไลน์ สถาบันวิจัย และพันธมิตรระหว่างประเทศ  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.newschool.edu

อ่านฉบับที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191202005133/en/

ติดต่อสำหรือสื่อ: Will Wilbur, wilburw@newschool.edu, 212.229.5667 x3990

Twitter: @ParsonsParis @TheNewSchool

โครงการ JENESYS 2019 ASEAN การเดินทางเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ณ ประเทศญี่ปุ่น กลุ่มที่ 12

Logo

หัวข้อ; วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเทศ; ไทย

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 พฤศจิกายน 2562

นักเรียนระดับมัธยมปลายจำนวน 16 คน (สิบหก) ที่มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมผู้ดูแล 1 คน (หนึ่ง) จากประเทศไทย มีกำหนดเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ JENESYS 2019 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมโดยกระทรวงการต่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น หรือ MOFA

คณะเดินทางจะได้สัมผัสประสบการณ์ของโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศภายใต้หัวข้อ “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ผ่านการเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองโตเกียวและเมืองนีงาตะ ในโตเกียว พวกเขาจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว และเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น พิพิธภัณฑ์ MIRAIKAN (เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ) ที่คณะเดินทางจะได้สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีสุดล้ำต่าง ๆ สำหรับในเมืองนีงาตะ คณะจะเดินทางไปเยือนบริษัท NAMICS ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ พวกเขายังจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนากาโอกะ ซึ่งคาดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและไทยให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

ผ่านโครงการดังกล่าว เราหวังว่าผู้เข้าร่วมจะช่วยเผยแพร่สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง หลังจากเดินทางกลับประเทศของตนแล้ว

[สำหรับการอ้างอิง]: โครงการแลกเปลี่ยน ณ ประเทศญี่ปุ่น JENESYS 2019

ผู้คนที่มีความสามารถและมีภารกิจแห่งอนาคตในการส่งสารระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียจะได้รับเชิญให้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ นโยบายต่างประเทศและอื่น  ๆ รวมถึงเป็นการค้นหาผู้ที่ชื่นชอบและเชี่ยวชาญด้านประเทศญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมให้ข้อความที่ญี่ปุ่นต้องการส่งไปยังนานาประเทศมีความแกร่งมากขึ้น พร้อมขยายรากฐานทางการทูตของญี่ปุ่นโดยให้แขกรับเชิญเป็นผู้ส่งสารเกี่ยวกับจุดยืนทางการทูต เสน่ห์ของประเทศ และแง่มุมอื่น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น

(กำหนดการเดินทาง)

  1. วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน
    [เดินทางถึง]
  2. วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน
    [ปฐมนิเทศ]
    [การบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง] "ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างญี่ปุ่นและไทย และนโยบายด้านต่างประเทศของญี่ปุ่น" โดยนายเซอิจิ โคจิมะ อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
    [กิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างสถาบัน] Tokyo University of Institute
    [เยี่ยมชมสถานที่] Panasonic Center Tokyo
  3. วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน
    [เยี่ยมชมสถานที่] พิพิธพันธ์ MIRAIKAN (เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ) บริษัท Leave a Nest Co., Ltd และสถานเอกอัครราชทูตไทยในญี่ปุ่น
  4. วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน
    [ชมเมือง] พระราชวังอิมพีเรียล, นิจูบาชิ
    [เดินทาง] สู่นีงาตะ
    [เยี่ยมชมบริษัท] NAMICS
  5. วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน
    [เยี่ยมคารวะ] ศาลาว่าการเมืองนากาโอกะ
    [กิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างสถาบัน] สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ วิทยาลัยนากาโอกะ
  6. วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน
    [ชมเมือง] พิพิธภัณฑ์วัสดุอุตสาหกรรม TSUBAME, SANJŌ Kaji-Dojō
    [โฮมสเตย์] Ojiya-shi เมืองนีงาตะ
  7. วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม
    [โฮมสเตย์] Ojiya-shi เมืองนีงาตะ
    [เยี่ยมชมสถานที่] Chūetsu องค์การเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของสังคม
  8. วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม
    [กิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างสถาบัน] มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งนากาโอกะ
    [เดินทาง] สู่โตเกียว
    [การประชุมเชิงปฏิบัติการ]
    [ช่วงรายงาน]
  9. วันอังคารที่ 3 ธันวาคม
    [เดินทางกลับ]

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20191124005100/en/

สอบถามเกี่ยวกับโครงการ
JENESYS 2019 ASEAN + Timor-Leste Project Implementing Agency
ฝ่ายปฏิบัติการ JTB Kasumigaseki
ติดต่อ: Junji Mise, Yutaka Shintani, Takashi Iwashita
โทร: +81-3-6737-9447 วันจันทร์ถึงศุกร์: 9:00-18:00 (ปิดวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
อีเมล: jenesys2019asean@jtb.com

The Amazing Group เข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทย

Logo

Bangkok–(BUSINESS WIRE)–23 พฤศจิกายน 2562

บริษัทเดอะอะเมซซิ่งกรุ๊ปเทคโนโลยีจำกัด เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีบริษัท เดอะอะเมซซิ่งกรุ๊ป จำกัด (LLC) เป็นเจ้าของ โดย บริษัทเดอะอะเมซซิ่งกรุ๊ปเทคโนโลยีจำกัดก่อตั้งขึ้นในปี2556ด้วยทุนจดทะเบียน10,000,000ดอลลาร์สหรัฐ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่840 ถนนไกรเออร์ ไดรฟ์เมืองลาสเวกัสมลรัฐเนวาดา89119สหรัฐอเมริกา

เราดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ การพัฒนาเกม การตลาดเครือข่ายและบริการอื่นๆ เรามีทีมงานด้านเทคนิคมากกว่า200คน รวมถึงบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนามากกว่า150คน และนักออกแบบฟรอนท์เอ็นด์เกือบ50คน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ของเราจะมีประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีมากอยู่เสมอ ทำให้การอัปเดตและวนซ้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว เราทำงานตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดีเสมอ

หลังจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วผ่านไป 6 ปี บริษัทของเรามีประสบการณ์มากมายในการออกแบบและพัฒนา ในสิ่งเหล่านี้ ชุดของผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมได้รับการพัฒนาออกมา ซึ่งเป็นที่ชอบพอของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ตอนนี้เราได้เพิ่มช่องทางธุรกิจของเรา ผลิตภัณฑ์แอปพลิเคชันได้รับการพัฒนาสำหรับทุกประเทศในโลก ส่วนใหญ่จะเสริมเนื้อหาทางธุรกิจแต่ก็ยังเข้าใจจุดเจ็บปวดของผู้ใช้ได้ดีขึ้น ในเวลาเดียวกัน ก็มีความท้าทายมากขึ้น เราหวังว่าเราจะเปิดกว้างมากขึ้นๆ และหวังว่าจะร่วมมืออย่างแฮปปี้กับพันธมิตรมากขึ้น

David Andrew

davidandrew@foxmail.com

Mary Kay เป็นผู้สนับสนุนผู้ประกอบการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงทั่วโลกและด้านความเสมอภาคในการประชุมผู้หญิงระดับผู้นำหลายการประชุมทั่วโลก

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–19 พ.ย. 2562

เดือนนี้ Mary Kay Inc. ยังคงให้การสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงทั่วโลกในการเป็นผู้ประกอบการและความเสมอภาคโดยการยกประเด็นปัญหาที่สตรีเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ในการประชุมระดับสูงของผู้หญิงทั่วโลก บริษัท Mary Kay ได้เข้าร่วมในการประชุมระดับนานาชาติที่สำคัญสองครั้งอย่างแข็งขัน ได้แก่ การประชุมผู้นำสตรีสากลระดับโลก (International Women’s Forum World Leadership Conference)ในโตรอนโต แคนาดา และฟอรัมสากลเรคยาวิก – ผู้นำสตรีในเรคยาวิก (the Reykjavik Global Forum – Women Leaders) ประเทศไอซ์แลนด์

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่:https://www.businesswire.com/news/home/20191119005354/en/

L to R: Marijana Klapcic, Manager Communications, Public Relations & Creative Marketing, MK Canada; Pat Mitchell, author Becoming a Dangerous Woman; Michelle Haurilak, Director, Public Relations, Digital & Product Marketing, MK Canada (Photo: Mary Kay Inc.)

ซ้ายไปขวา: Marijana Klapcic, ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร, ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดเชิงสร้างสรรค์ จาก MK Canada; Pat Mitchell ผู้แต่ง Becoming a Dangerous Woman ; Michelle Haurilak ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์การตลาดดิจิทัลและผลิตภัณฑ์ MK Canada (ภาพ: Mary Kay Inc.)

“มากกว่า 56 ปีแล้วที่ Mary Kay Ash ได้ก่อตั้งบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำในด้านการส่งเสริมพลังอำนาจของผู้หญิง” Deb Gibbins หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay, Inc. กล่าว“ เพื่อเป็นเกียรติแก่มรดกของเธอและของผู้หญิงในทุก ๆ ที่ เรามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับผู้นำระดับโลกเพื่อช่วยให้ผู้หญิงมีหนทางไปสู่อิสรภาพ ความมั่นคงทางการเงิน และสถานที่ทำงานที่เปิดโอกาสด้านความเท่าเทียมกันมากขึ้น”

ในระหว่างการประชุมผู้นำสตรีสากลระดับโลก หรือ World Leadership Conference ในโตรอนโต ประเทศแคนาดา ผู้นำที่เป็นสถาปนิกหญิง ผู้สนับสนุน ผู้เร่งปฏิกิริยา (catalysts) และผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงจากกว่า 50 ประเทศ ได้มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่ผู้หญิงเผชิญในปัจจุบัน ซึ่ง Michelle Haurilak จาก Mary Kay ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์การตลาดดิจิทัลและผลิตภัณฑ์ที่ Mary Kay Canada ได้พูดคุยและแนะนำเซสชัน "Becoming a Dangerous Woman" ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ Pat Mitchell  ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงโทรทัศน์และผู้อำนวยการกองบรรณาธิการของ TEDWomen

ที่ Reykjavik Global Forum  ใน เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์, Julia Simon, หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและเลขานุการบริษัท Mary Kay ได้เข้าร่วมกับผู้นำสตรีคนอื่น ๆ เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมต่อไป เพื่อเพิ่มความเสมอภาคระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำ โดยในระหว่างการประชุม Simon ยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันในหมู่ผู้นำซึ่งจัดโดย Concordia ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่อุทิศตนเพื่อสนับสนุนการยกระดับการเป็นหุ้นส่วนข้ามภาคเพื่อผลกระทบทางสังคม งานเลี้ยงอาหารกลางวันมีการยกประเด็นสำคัญ เช่น การลงทุนในผู้ประกอบการหญิง สุขภาพระดับโลกของผู้หญิง ความเป็นผู้นำทางการเมืองของผู้หญิง และการศึกษาของผู้หญิง

“Mary Kay เป็นมากกว่าแบรนด์ความงาม เพราะเป็นแบรนด์ที่เสริมสร้างพลังอำนาจผู้หญิงและเป็นแบรนด์ส่งเสริมผู้ประกอบการ” Gibbins กล่าวเพิ่ม “ ในขณะที่มีการก้าวย่างครั้งใหญ่เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของผู้หญิง แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ เพื่อทำให้มั่นใจว่าความก้าวหน้าจะดำเนินต่อไปในระดับโลก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อยู่แถวหน้ากับผู้นำด้านนโยบายคนอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้”

การมีส่วนร่วมในการประชุมเหล่านี้เป็นเพียงการดำเนินงานล่าสุดที่ Mary Kay ได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mary Kay ได้ประกาศโครงการตัวเร่งกิจการผู้ประกอบการสตรี หรือ Women’s Entrepreneurship Accelerator empowered by Mary Kay ด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ของสหประชาชาติหกแห่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Mary Kay ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของพันธมิตรระยะเวลาหลายปี ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และช่วยให้พลังอำนาจแก่ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการจะช่วยดำเนินการหลักสูตรดิจิทัลที่เสริมด้วยการฝึกอบรมและการให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการขจัดสิ่งกีดขวางผู้ประกอบการผู้หญิง เริ่มตั้งแต่ การรู้หนังสือและการตามทันโลกดิจิทัล ไปจนถึงการปฏิรูปกฎหมายที่ช่วยให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่นและระดับชาติ โครงการจะสนับสนุนความพยายามระดับโลกในการสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ เพื่อสร้างและขยายความสัมพันธ์กับธุรกิจของผู้หญิงรวมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กร การขยายตัวในอนาคตของโครงการจะรวมถึงโอกาสการระดมทุนที่เข้าถึงได้สำหรับผู้หญิงที่จบหลักสูตรนี้

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิงผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kayทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็งการปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆ ให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20191119005354/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

marykay.com/newsroom

972.687.5332 or media@mkcorp.com

The Bangkok Reporter