Florasis ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศจีน เปิดตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่ MBK ในกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2563

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแต่งหน้าแบบจีนและแบรนด์เครื่องสำอางจีนเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย ในบรรดาแบรนด์เครื่องสำอางยอดนิยมของประเทศจีน แบรนด์ Florasis มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

เมื่อเร็ว ๆ นี้  ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ Florasis  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection" เปิดตัวบนจอขนาดใหญ่ MBK ในกรุงเทพฯ  หลังจากนี้  China Beauty ฮอตมาก  ผลิตภัณฑ์ชุดนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Florasis,  Jiaqi Li ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวแฟชั่นชื่อดังในประเทศจีนและช่างเครื่องเงินแม้วจีน แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของการแต่งหน้าแบบจีนและความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน

ผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับแวดวงความงามจะพบแน่นอน   ชุด  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ได้จุดประกายการพูดคุยกันบ่อยครั้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลเช่น Instagram และ YouTube ตั้งแต่เดือนตุลาคม ชาวเน็ตหลายคนกล่าวว่า "ว้าว! ฉันอยากรู้ว่าจะซื้อได้ที่ไหน"  "ผลิตภัณฑ์ของ Florasis มีคุณภาพสูงเหมือนนำมาจากวังโดยตรง"  พวกเขาแสดงความรักต่อ Florasis โดยไม่ลังเล

แบรนด์เครื่องสำอาง Florasis ก่อตั้งขึ้นในปี 2560  ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีพันธกิจในการสืบทอดและส่งเสริมสุนทรียภาพแบบตะวันออก  ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน คาดว่ายอดขายทั้งปีในปี 2563 จะเกิน 500 ล้านดอลล่าร์ 

ตามที่เรารู้กันดีว่า  ผลิตภัณฑ์ ชุด "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ของ Florasis ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มชาวหนึ่งที่เป็นชนกลุ่มน้อย-ชาวแม้ว คนสัญชาติแม้วเป็นคนที่มีความสามารถในการทำเครื่องประดับเงินและงานปัก  เครื่องประดับเงินและงานปักต้องใช้หลายกระบวนการ  และสามารถทำได้ด้วยมือเท่านั้น  ด้วยการพัฒนาในยุคอุตสาหกรรม   ฝีมือเครื่องประดับเงินแม้วก็ยังประสบปัญหาเรื่องมรดก  ดังนั้น Florasis จึงทำเครื่องประดับเงินแม้วบนเครื่องสำอางด้วย เพื่อให้คนอื่น ๆ รู้ว่าประเทศจีนมีเครื่องประดับเงินชาติพันธุ์ที่สวยงามเช่นนี้ 

ดูที่ผลิตภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของ Florasis เราสามารถพบได้อย่างง่ายว่า Florasis ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แต่งหน้ามากมายที่มีลักษณะเฉพาะของประเทศจีน Florasis ได้ทำซ้ำงานฝีมือจีนโบราณจำนวนมาก   แสดงให้เห็นถึงสุนทรียภาพและระดับการผลิตของจีนด้วยเครื่องสำอาง  ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของ  Florasis แตกต่างกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยอดนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก  ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยสร้างความสดชื่นเกี่ยวกับเครื่องสำอางจีน

ชุด  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ของ Florasis ได้เปิดตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่ MBK ที่กรุงเทพฯในครั้งนี้  แสดงให้เห็นถึงความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน  ความงามของชาติก็คือความงามของโลก  ในความหลากหลายทางสุนทรียภาพในปัจจุบันนี้ ความสวยงามแห่งชาติสามารถกระตุ้นอารมณ์สะท้อนของผู้คนทั่วโลกได้มากขึ้น ทำให้บุคคลรู้สึกถึงเสน่ห์และอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive และ Jennifer Rade สไตลิสต์ของคนดัง Jennifer Rade ประกาศการประชุมสุดยอดด้านสไตล์และความงามแบบดิจิทัลสำหรับฤดูใบไม้ร่วง หรือ Digital Fall Style and Beauty Summit

Logo

การประชุมจะนำผู้นำในอุตสาหกรรมด้านสไตล์และความงามมารวมกัน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่น ความงาม และสุขภาพ

ซีแอตเทิล และลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–6 พ.ย. 2563

Glamhive ประกาศการประชุมออนไลน์ครั้งที่สามที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน การประชุม Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามระดับแนวหน้าตั้งแต่สไตลิสต์ของ Sarah Jessica Parker ไปจนถึงช่างทำผมของ Kim Kardashian โดย ผู้นำด้านนวัตกรรมจะพูดคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ ความงามและอีกหลากหลายประเด็น โดย Stephanie Sprangers และ Jennifer Rade จะเป็นพิธรกรจัดงานร่วมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201106005072/en/

The Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit will bring together top fashion and beauty leaders (Graphic: Mary Kay Inc.)

The Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

"ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด Glamhive LIVE Fall Style and Beauty กับ Stephanie เรารวบรวมเอาสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซเนอร์ และผู้ประกอบการที่น่าทึ่งที่สุดในโลกมาไว้ที่นี่ เพื่อแบ่งปันทุกสิ่งที่เราเรียนรู้ ตั้งแต่วิธีเริ่มต้นไปจนถึงกลเม็ดเคล็ดลับในการมีสไตล์ส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม "Jennifer Rade สไตลิสต์คนดังและนักออกแบบเครื่องแต่งกายกล่าว Jennifer เป็นหนึ่งในสไตลิสต์ที่มีงานเยอะที่สุดในปัจจุบัน ลูกค้าของเธอมีตั้งแต่ดารา A-List อย่าง Angelina Jolie, Abbie Cornish, Cher และ Jenna Fischer ไปจนถึงนักดนตรี Lady A, Pink, Marilyn Manson, Dave Matthews, Amy Winehouse, Motley Crue และ Tina Turner ผลงานของเธอได้รับการนำเสนอในสิ่งพิมพ์หลายฉบับเช่น W, Vanity Fair, Marie Claire, GQ, Esquire และ Harper's Bazaar

"วิสัยทัศน์ของ Glamhive คือการจัดแต่งทรงผมให้กับทุกคน ทุกที่ และงานดิจิทัลของเราเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมในปีนี้ ทำให้เราสามารถนำกิจกรรมของเราไปสู่ทุกคนได้ทุกที่เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและความงามหรือที่ทำงานในอุตสาหกรรมสามารถเรียนรู้จากผู้ที่มีความสามารถเยี่ยมยอดที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ได้ "Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive กล่าว โดย Sprangers เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Glamhive ซึ่งเป็นบริการจัดแต่งทรงผมส่วนตัวออนไลน์ที่นำเสนอสไตลิสต์ส่วนตัวและช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญจากการคัดเลือกโดยตรงจากฮอลลีวูดและอินสตาแกรม ส่งตรงให้กับทุกคน อนึ่ง Glamhive ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งช่วยให้สไตลิสต์สามารถทำให้ลูกค้าพบกับประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมออนไลน์ได้ 100% ทำให้ผู้คนสามารถทำงานร่วมกับกับสไตลิสต์ได้ทุกที่ในโลก

กิจกรรมที่ต้องมีตั๋วสำหรับการเข้าร่วมงานนี้ จะเป็นกิจกรรมตลอดทั้งวัน โดยจะมี 22 กลุ่ม (segments) พร้อมกับวิทยากร 50 คน ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมของหัวข้อบางส่วนที่จะจะมีการอภิปรายโดยกลุ่มวิทยากรระดับ All-Star ณ งาน

หัวข้อ

  • Zoom Style: สไตล์ที่ยอดเยี่ยม (และสวมใส่สบาย)
  • การกลายมาเป็นแฟชั่นสไตลิสต์
  • Foundations First (การลงรองพื้นเป็นอันดับหนึ่ง)
  • สภาพแวดล้อมในบ้านของคุณส่งผลต่ออารมณ์และสะท้อนสไตล์ของคุณอย่างไร
  • How to Build the Wardrobe of Your Dreams
  • 360 Style — การผสมผสานระหว่างทรงผมการแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้า
  • การเป็นผู้ประกอบการ – ความกล้าที่จะก้าวไปเพื่อความฝันของคุณ
  • อนาคตของการเดินพรมแดง
  • สาวฝรั่งเศสสุดชิคและความหลงใหลของเราต่อ Emily in Paris
  • Shape Matters — รักตัวเองและรูปร่างของคุณ
  • Style Your Health –  เพิ่มพลังงานและภูมิคุ้มกันของคุณ
  • Skincare Basics:  การฝึกสอนลูกค้าเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
  • Iconic Style + วิธีสร้างความแตกต่างแบบมีสไตล์ของคุณ

วิทยากร:

วิทยากร ได้แก่ สไตลิสต์ของคนดัง ช่างแต่งหน้า ผู้สร้างอิเมจที่ทำงานกับคนดังในฮอลลีวูดและอื่น ๆ ได้แก่ :

Angelina Jolie, Mandy Moore, Sarah Jessica Parker, Kristen Bell, Khloe Kardashian, Robert Downey Jr, Keanu Reeves, Dwayne Johnson, Donald Glover, Sharon Stone, Serena Williams, Miranda Lambert, Julianne Moore, Liv Tyler, และอื่น ๆ

สไตลิสต์ของคนดัง:

Jennifer Rade, Ilaria Urbinati, Erin Walsh, Nicole Chavez, Jeanne Yang, Janelle Miller, Lindsey Dupuis, Tiffany Gifford, Sonia Young, Rachel Wirkus, Kesha McCloud

เมคอัพอาร์ติสต์คนดัง + แฮร์สไตลิสต์:

Danesa Myricks, Andrew Fitzsimons, Daniel Martin, Colleen, Runne, Quinn Murphy, Sheridan Ward, Simedar Jackson และ  Mia Santiago

ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และผู้นำทางธุรกิจ

Cindy Eckhert (The Pink Ceiling Fund), Jonathan Sposato (ผู้ก่อตั้ง PicMonkey), Carrie Colbert (Curated Capital), Summer Holl (ประธาน Elyse Walker), Christian Juul Nielsen (Herve Leger | Aknvas), Lucy Aylen (Never Fully Dressed), Dr. Shrereene Idress, Dr. Avanti Kumar Singh

โมเดอเรเตอร์:

Brian Underwood (O the Oprah Magazine), Brooke Jaffe (อดีตผู้อำนวยการฝ่ายแฟชั่น Bloomingdales), Jack Eustace, Nicole Young (E! News), Kibwe Chase Marshall, ผู้ร่วมก่อตั้ง, The Kelly Initiative), Jezlan Moyet

ตั๋วเข้าร่วมการประชุมมีราคา 99 เหรียญ สำหรับการร่วมงานตลอดทั้งวันและยังรวมเพลย์ลิสต์ที่ She-J Nikki Pennie จัดทำขึ้นเป็นพิเศษด้วย ผู้สนับสนุนการนำเสนองาน Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit ได้แก่ Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio ส่วนผู้สนับสนุนอื่น ๆ ได้แก่ NuBra USA, LEO, AKNVAS, NYDJ และอีกมากมาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.glamhive.com/upcoming.

เกี่ยวกับ Glamhive

Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการ Stephanie Sprangers ในปี 2560 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้การเสริมภาพลักษณ์และสไตล์ส่วนบุคคลเป็นเรื่องของคนทั่วไป และความเชื่อมั่นที่มาพร้อมกับความงามเย้ายวนใจ (glamour) ไม่ควรเป็นเฉพาะของคนรวยและคนดัง

ประสบการณ์การจัดสไตล์แบบออนไลน์ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับสไตลิสต์ผ่าน WiFi โดยสไตลิสต์จะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง สำหรับสไตลิสต์แล้วมันเป็นแพลตฟอร์มแบบคบวงจรที่ไร้รอยต่อเพื่อช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจได้เกือบ 100% แบบโลกออนไลน์

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201106005072/en/

ติดต่อ:

Stephanie Sprangers, ผู้ก่อตั้ง + CEO, Glamhive

stephanie@glamhive.com

+1.206.851.0446

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Tommy Hilfiger เร่งการเดินทางสู่ความยั่งยืนด้วยโครงการ “สร้างขึ้นให้ได้”

Logo

ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ที่จะ 'ไม่สร้างขยะและต้อนรับทุกคน' โปรแกรมเพื่อความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ที่มีชื่อว่า Make it Possible (สร้างขึ้นให้ได้) กำหนดเป้าหมาย 24 ประการและมุ่งสู่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายภายในปี 2573

  • Tommy Hilfiger เข้าใกล้ความยั่งยืนทั้งจากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมโดย Make it Possible มุ่งเน้นไปที่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายตามลำดับ
  • ภารกิจของ Make it Possible คือการสร้างแฟชั่นที่ ‘Wastes Nothing and Welcomes All.’ (ไม่สร้างขยะและต้อนรับทุกคน)
  • โครงการนี้มี 24 เป้าหมายใน 4 เสาหลักภายในปี 2573
  • www.sustainability.tommy.com
  • #TommyHilfiger

AMSTERDAM–(อัมสเตอร์ดัม)–31 ส.ค. 2563

Tommy Hilfiger บริษัทของ PVH Corp. [NYSE: PVH] ประกาศโครงการ Make it Possible แนวทางเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรในการสร้างสรรค์แฟชั่นที่ 'Wastes Nothing and Welcomes All'  ด้วย Make it Possible, Tommy Hilfiger มุ่งสู่ 24 เป้าหมายซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายโดยสรุปไว้ในสี่เสาหลักภายในปี 2030:

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200830005002/en/

  • ระบบหมุนเวียนอย่างรอบด้าน: สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีระบบหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ที่ยั่งยืน
     
  • สร้างขึ้นเพื่อชีวิต: การดำเนินงานที่คำนึงถึงขอบเขตของโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ที่ดิน มลพิษทางน้ำจืดและเคมี จากสิ่งที่เราซื้อถึงที่ที่เราขาย
     
  • ต้อนรับทุกฝ่าย: เป็นแบรนด์ที่เหมาะสมสำหรับแฟน TOMMY ทุกคน โดยต้อนรับทุกฝ่ายและเข้าถึงได้เสมอ
     
  • โอกาสสำหรับทุกคน: สร้างการเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกันอย่างไม่มีอุปสรรคต่อความสำเร็จที่ Tommy Hilfiger
     

โครงการของ Tommy Hilfiger ขับเคลื่อนโดยของบริษัทแม่ PVH Corp ที่มีกลยุทธ์ Forward Fashion ซึ่งเป็นชุดลำดับความสำคัญ 15 ประการที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบด้านลบให้เป็นศูนย์ เพิ่มผลกระทบเชิงบวกถึง 100% และปรับปรุงชีวิตกว่า 1 ล้านคนในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท

“ผมเปิดร้านแห่งแรกของผม People's Place ในปี 1969 ในบ้านเกิดของผมที่ Elmira เพื่อให้ผู้คนจากทุกพื้นฐานได้มารวมตัวกันและแบ่งปันประสบการณ์วัฒนธรรมร่วมสมัยที่น่าตื่นเต้น” Tommy Hilfiger กล่าว “ในขณะที่แบรนด์ของเรามีการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงผลักดันจากจิตวิญญาณการต้อนรับทุกฝ่ายนี้ เราจึงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม  ด้วยโครงการ Make it Possible เราจะก้าวไปอีกขั้นด้วยความมุ่งมั่นของเรา  เรากำลังดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเราด้วยทั้งองค์กรที่มุ่งเน้นและจะบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้”

“ในช่วงวิกฤตด้านสุขภาพ มนุษย์ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เรามีความรับผิดชอบร่วมกันในการค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมที่จะส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวกันและสร้างอนาคตที่เป็นระบบหมุนเวียนมากขึ้น” Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าว “เป็นธรรมชาติของเราที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด  ด้วยเหตุนี้เราจึงประกาศโครงการ Make it Possible ที่เป็นความทะเยอทะยานของเราโดยสรุปเป้าหมาย 24 ประการภายในปี 2573  Tommy Hilfiger มีประวัติยาวนานนับหลายสิบปีในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงการบุกเบิกกระบวนการผลิตยีนส์ที่มีผลกระทบต่ำ การสนับสนุนการดูแลน้ำ และการสร้างคอลเลกชันที่ต้อนรับทุกฝ่ายมากขึ้น  Make it Possible คือวิธีหนึ่งที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยั่งยืนยึ่งขึ้น”

Make it Possible ถือเป็นก้าวล่าสุดในการเดินทางสู่ความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger  ความสำเร็จที่สำคัญ ได้แก่ การเปิดตัว Tommy Hilfiger Adaptive ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้การแต่งกายง่ายขึ้นสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีความพิการและ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพและสเกลอัพที่พัฒนาโซลูชันที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความยั่งยืนในแฟชั่น  เมื่อไม่นานมานี้ Tommy Hilfiger ได้เปิดตัวโครงการ People's Place เพื่อพัฒนาตัวแทนของชุมชนคนผิวดำ คนพื้นเมือง และคนผิวสี (BIPOC) ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์  ในปัจจุบันนักออกแบบ Tommy Hilfiger มากกว่า 80% ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับกลยุทธ์การออกแบบระบบหมุนเวียนและในปี 2019 ผ้าฝ้าย 72% ที่ใช้ทั่วโลกมาจากแหล่งที่ยั่งยืน  นอกจากนี้ผ้ายีนส์กว่า 2 ล้านชิ้นยังได้รับการออกแบบให้ลดแรงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำและพลังงานที่ใช้ตามฤดูกาล  แต่ละคอลเลกชั่นคอลเลกชั่นของ TOMMY HILFIGER มีสไตล์ที่ยั่งยืนมากขึ้นในคอลเลกชั่นโดยเห็นได้จากรูปแบบที่ยั่งยืนมากขึ้น 50% สำหรับฤดูใบไม้ผลิปี 2564 ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าจากฤดูใบไม้ผลิปี 2563

โดยตระหนักว่าไม่มีบริษัทใดสามารถเปลี่ยนแนวความยั่งยืนได้เพียงลำพัง Tommy Hilfiger ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ PVH Corp. ได้เข้าร่วมพันธมิตรในอุตสาหกรรมโดยการลงนาม The Fashion Pact ในเดือนสิงหาคม 2562 รวมทั้งเข้าร่วมโครงการ Ellen MacArthur Foundation Make Fashion Circular และ Jeans Redesign  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Tommy Hilfiger ได้ร่วมมือกับ WWF เพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านน้ำในสถานที่ตั้งของห่วงโซ่อุปทานเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงด้านน้ำสำหรับซัพพลายเออร์และนิคมอุตสาหกรรมในลุ่มแม่น้ำไท่หูของจีนและทำหน้าที่เป็นพันธมิตรผู้ก่อตั้งโครงการดูแลแหล่งน้ำใหม่ในเวียดนามในลุ่มน้ำโขง

ตลอดการเดินทาง Tommy Hilfiger จะแบ่งปันความคืบหน้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Make it Possible และภาพรวมความสำเร็จทั้งหมด ไปที่: sustainability.tommy.com

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

ด้วยผลงานแบรนด์ที่มี TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS, Tommy Hilfiger เป็นหนึ่งในดีไซเนอร์พรีเมี่ยมที่ได้รับการยอมรับที่สุดของโลก โดยมุ่งเน้นที่การออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาสำหรับผู้ชาย เครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสำหรับผู้หญิง เสื้อผ้าเด็ก คอลเลกชันเดนิม ชุดชั้นใน (รวมทั้งเสื้อคลุม ชุดนอน และชุดใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ  Tommy Hilfiger ได้รับลิขสิทธิ์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่ครบครันเช่นแว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังขนาดเล็ก ของใช้ในบ้าน และกระเป๋าเดินทาง  กลุ่มผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนส์และรองเท้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เครื่องประดับและน้ำหอม Tommy Hilfiger    สินค้าภายใต้แบรนด์TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS วางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกผ่านทางเครือข่ายร้านค้าที่กว้างขวางของ Tommy Hilfiger และ TOMMY JEANS ร้านปลีกชั้นนำพิเศษและห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกออนไลน์และ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลก  เรานำแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้า โดยแบรนด์ของเราประกอบด้วย CALVIN KLEIN, TOMMY HILFIGER, Van Heusen, IZOD, ARROW, Warner's, Olga และ Geoffrey Beene แบรนด์ตลอดจนแบรนด์เน้นดิจิทัล True&Co.  เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์โด่งดังที่เหล่านี้ทั้งในและต่างประเทศ  PVH มีผู้ร่วมงานกว่า 40,000 คนที่ดำเนินงานในกว่า 40 ประเทศและมีรายได้ 9.9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี  นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200830005002/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger
Baptiste Blanc
Sr. Director, Communications and Earned Media (ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการสื่อสาร)
Baptiste.Blanc@tommy.com
+31 62904 2334

Mary Kay Inc. สนับสนุนให้เกิดการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิงและสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความปลอดภัยและให้เกียรติกันระหว่างการสัมมนาออนไลน์ International Women’s Forum โดย TIME’S UP UK

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–22 กรกฎาคม 2563

เมื่อ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนเพื่อการเสริมสร้างพลังและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง ได้เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ International Women's Forum (IWF) ในหัวข้อ “SAFE SETS: An online panel discussion with TIME’S UP UK”

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200722005187/en/

Carolyn Passey, General Manager, Mary Kay United Kingdom & Ireland (Photo: Mary Kay Inc.)

Carolyn Passey ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ประจำสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

การสัมนาออนไลน์ดังกล่าวเป็นการต่อสู้กับปัญหาที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญในปัจจุบัน ได้แก่ การล่วงละเมิดทางเพศและการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในสถานที่ทำงาน TIME’S UP UK ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญอันยิ่งยวดของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพื่อให้สถานที่ทำงานเป็นที่ที่ปลอดภัยและปราศจากการล่วงละเมิด และกล่าวถึงกิจกรรมที่กำลังดำเนินการเพื่อสร้างนิยามความปลอดภัยสำหรับผู้หญิงในภาพยนตร์ผ่านแนวทางปฏิบัติในฉากที่นักแสดงต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด

ผู้ที่มาร่วมพูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับ TIME’S UP UK ประกอบด้วย:

  • Dame Heather Rabbatts ประธานของ TIME’S UP UK กรรมการผู้จัดการแห่ง Cove Pictures ประธานแห่ง Soho Theatre และคณะกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารของ Arts Alliance
  • Ita O’Brien ผู้ดูแลฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิดชื่อดังของสหราชอาณาจักร และเป็นผู้ก่อตั้ง Intimacy on Set ซึ่งเป็นบริษัทที่เธอมีส่วนในการสร้างแนวปฏิบัติที่ดีในฉากนู้ดและฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งในงานภาพยนตร์ โทรทัศน์ และโรงละคร และเธอยังใช้สถานที่แห่งนี้จัดการฝึกอบรมให้กับผู้ดูแลฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิดอื่น ๆ จากทั่วโลกอีกด้วย

“ความพยายามของ TIME’S UP จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในสถานที่ทำงานสำหรับผู้หญิงทั่วทั้งโลกและในทุกอุตสาหกรรม” Carolyn Passey ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ประจำสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ กล่าว “ในฐานะหนึ่งในองค์กรชั้นนำผู้ให้การสนับสนุนการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิง Mary Kay มีความภาคภูมิใจที่ร่วมกับ IWF ให้การสนับสนุนผู้นำหญิงที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้เพื่อนหญิง ช่วยให้พวกเขาเปิดรับความเป็นตัวตน และรู้ขอบเขตของตัวเอง”

“สิ่งที่เห็นชัดขึ้นระหว่างการสนทนาก็คือ อิทธิพลอันมากมหาศาลในทางบวกที่แคมเปญ #MeToo และ TIME’S UP มีต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานด้านการผลิตและการเปลี่ยนแปลงสู่แนวทางปฏิบัติใหม่ ๆ ที่ดีขึ้นหลาย ๆ ด้าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบทบาทใหม่ของผู้ดูแลฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิด” Dame Heather Rabbatts กล่าว “บทสนทนาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยคือการพูดคุยถึงวิธีที่เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรม เริ่มจากอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งและขยายสู่อุตสาหกรรมอื่นต่อไป จนกระทั่งเราไม่จำเป็นต้องนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันอีกเลย”

“‘ใช่’ ก็คือใช่ ‘ไม่’ ก็คือไม่ และ ‘อาจจะ’ ก็คือไม่ เราให้ความสำคัญและอ้าแขนรับการกล่าวปฏิเสธด้วยคำว่า ‘ไม่’” Ita O’Brien กล่าวย้ำเมื่อพูดถึงกระบวนการระหว่างที่นักแสดงสามารถแสดงความสะดวกใจเมื่อต้องถ่ายทำในฉากที่มีความสัมพันธ์ใก้ลชิดกับนักแสดงรายอื่น บริษัทซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย O’Brien อย่าง Intimacy on Set ได้นำแนวปฏิบัติมาใช้เพื่อให้มีช่องทางในการสื่อสารอย่างชัดเจนและการยินยอมไม่เพียงเฉพาะระหว่างนักแสดงเอง แต่รวมถึงทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องในการถ่ายทำฉากที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและฉากอารมณ์ “ขอบเขตที่ชัดเจนทำให้เกิดอิสระ และช่วยให้เกิดความเข้าใจว่าอะไรที่เหมาะสำหรับคุณ”

“เส้นทางนี้จะนำไปสู่ส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ และวิธีที่เราทั้งหมดจะได้เรียนรู้เพื่อแสดงให้เห็นว่าอะไรคือขอบเขตของเราและไม่กลัวที่จะแชร์สิ่งนั้นกับผู้อื่น” Dame Heather Rabbatts สรุป “การมีกลไกบางอย่างในการปกป้องตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะเราจะได้รู้ว่าเราสามารถที่จะกล่าวปฏิเสธด้วยคำว่า ‘ไม่’ ได้ สิ่งนี้ควรเสริมสร้างพลังให้กับในทุกสถานการณ์ที่มีความกระอักกระอ่วนใจและยากลำบากที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องการทำงาน”

“มันน่าชื่นมื่นที่ได้เห็นงานที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งผู้นำทางความคิดและผู้สนับสนุนหญิงสร้างขึ้นจนสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงในสถานที่ทำงานของผู้หญิง ผู้หญิงเหล่านี้ บางคนเป็นผู้นำทางความคิดที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสหราชอาณาจักร ต่างกำลังทำภารกิจในการสนับสนุนผู้หญิงในรุ่นถัดไปให้เป็นผู้นำในอนาคต” Marty Wikstrom สมาชิกองค์กร IWF ประจำสหราชอาณาจักรและประธานร่วมของ Cornerstone Conference กล่าว “IWF ได้ทำงานเพื่อขับเคลื่อความเป็นผู้นำของผู้หญิงให้ก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมทั่วโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 และ Mary Kay เองก็ได้สนับสนุนผู้ประกอบการหญิงและความเป็นผู้นำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 การสัมมนานี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่เหมือนกัน และเราภาคภูมิใจที่ได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เกิดจากพลังขับเคลื่อนของผู้หญิงนี้”

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 56 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนใน 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

เกี่ยวกับ International Women’s Forum (IWF) และ Leadership Foundation

IWF เป็นองค์กรที่สงวนเฉพาะสมาชิกที่ได้รับเชิญ ประกอบด้วยผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จและมาจากพื้นเพที่หลากหลายมากกว่า 7,000 ราย ใน 33 ชาติทั่วโลก IWF ได้ทำงานเพื่อขับเคลื่อความเป็นผู้นำของผู้หญิงให้ก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมทั่วโลกด้วยการเชื่อมโยงผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จจากทั้งในประเทศและทั่วโลกเข้าด้วยกัน สมาชิกนั้นประกอบด้วยผู้บริหารในองค์กรที่ได้รับการจัดอันดับฟอร์จูน 500 ผู้นำรัฐบาลจากทั้งระดับท้องถิ่นและระดับสูงสุด ผู้นำองค์กรไม่แสวงหากำไรในระดับนานาชาติ และ ผู้มีชื่อเสียงจากสมาคม ทางด้านศิลปะ และวิทยาศาสตร์: www.iwforum.org

เกี่ยวกับ TIME’S UP UK

TIME’S UP เป็นองค์กรที่รณรงค์ให้เกิดงานที่มีความปลอดภัย ยุติธรรม และมีเกียรติสำหรับผู้หญิงทุกกลุ่ม เพื่อตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นของ TIME’S UP ในสหรัฐอเมริกา กลุ่มผู้หญิงจากสหราชอาณาจักรซึ่งประกอบด้วยนักแสดง ผู้ผลิต นักเขียนบท และผู้อยู่ในแวงวงภาพยนตร์ โทรทัศน์ และโรงละครอื่น ๆ ได้ริเริ่มให้เกิดโครงการพี่โครงการน้องขึ้นในสหราชอาณาจักรขึ้น เพื่อให้เกิดผลกระทบสูงสุด ได้มีการจัดตั้งโครงการดังกล่าวขึ้นภายใต้ชื่อของ TIME’S UP และตั้งเป้าเป็นกระบอกเสียงในการสื่อสารข้อความที่มีการรณรงค์ไปแล้วในสหรัฐฯ ให้ดังและทรงพลังมากขึ้น

การเคลื่อนไหวในสหราชอาณาจักรมุ่งที่จะต่อยอดองค์ประกอบที่เป็นหัวใจของแถลงการเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวที่เผยแพร่โดย TIME’S UP และการแถลงโดยนักเคลื่อนไหวที่เข้าร่วมกิจกรรม Globes ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นต่อการให้ความสำคัญถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเปิดเผยเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในฮอลลีวูด กับลักษณะโดยทั่วไปที่มีความเป็นระบบและเกิดขึ้นในวงกว้างของการล่วงละเมิดทางเพศและความรุนแรงต่อผู้หญิงในทุกอุตสาหกรรม บริบทและประเทศ พร้อมกับการเล็งเห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาในระดับสากล เราต้องการเห็นพลังในความสามัคคีและความร่วมมือในระดับสูงสุด แถลงการณ์ของนักเคลื่อนไหวยังชี้ให้เห็นถึงแนวทางซึ่งโครงการ TIME’S UP ได้ร่วมกับองค์กร การเคลื่อนไหว และผู้นำที่เติบโตอย่างต่อเนื่องอื่น ๆ ในการทำงานร่วมกันเพื่อหยุดความรุนแรงทางเพศ การทำงานขององค์กรในสหราชอาณาจักรนั้นยืดหยัดเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และขณะนี้ TIME’S UP UK ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นองค์กรการกุศล และในฐานะองค์กรการกุศล เราจะสามารถสานต่องานของเราได้ด้วยการสนับสนุนและการบริจาคเท่านั้น เราทุกคนตระหนักว่าเราต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ขณะที่ TIME’S UP มุ่งให้ความสำคัญกับผู้หญิงทุกคนเรื่องความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และขยายรวมถึงความปลอดภัยที่บ้านในตอนนี้ เราหวังว่าท่านจะสามารถให้การสนับสนุนเราผ่านทาง www.timesupuk.org

เกี่ยวกับ Intimacy on Set

Intimacy on Set ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 และเป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ ด้านโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และโรงละครในการจัดการกับฉากที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดของนักแสดง เนื้อหาทางเพศ และฉากเปลือย ผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นผู้ดูแลฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิดชื่อดังของสหราชอาณาจักรอย่าง Ita O’Brien เป็นผู้ริเร่มบทบาทของผู้ดูแลฉากความสัมพันธ์ใกล้ชิดมาตั้งแต่ปี 2557 และได้สร้างแนวปฏิบัติที่ดีซึ่งเป็นคู่มือปฏิบัติสำหรับการเข้าฉากที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด และมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม นอกจากจะได้รับการสนับสนุนโดย TIME’S UP และการเคลื่อนไหวอื่น ๆ บริษัทยังได้รณรงค์เกี่ยวกับการทำงานที่ปลอดภัย ยุติธรรม และมีเกียรติสำหรับทุกคน O’Brien ได้ร่วมงานในกองถ่ายภาพยนต์ชื่อดังหลายเรื่อง รวมถึง Normal People (BBC3/Hulu), Sex Education 1&2 (Netflix), Gangs of London (Sky Atlantic), The Great (Hulu) และ I May Destroy You (BBC/HBO) รวมถึงได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรเพื่อให้ผู้ทางด้านนี้โดยสื่อทั้งในและต่างประเทศ: www.intimacyonset.com/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200722005187/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com


Tara Swennen สไตล์ลิสต์ชื่อดัง และ Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive เตรียมเชิญเหล่าคนดังด้านสไตล์ แฟชัน ความงามและการสร้างพลังให้ผู้หญิงจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันอีกครั้งในงาน Glamhive Digital Summer Bazaar ซึ่งเป็นการจัดงานในรูปแบบดิจิทัลเป็นครั้งแรก

Logo

ซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–09 กรกฎาคม 2563

Tara Swennen สไตล์ลิสต์ชื่อดัง และ Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive เตรียมเชิญเหล่าคนดังด้านสไตล์ แฟชัน ความงามและการสร้างพลังให้ผู้หญิงจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันอีกครั้งในงาน Glamhive Digital Summer Bazaar ซึ่งเป็นการจัดงานในรูปแบบดิจิทัลเป็นครั้งแรก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200708005857/en/

Adir Abergel, Celebrity Hair Stylist (Photo: Glamhive)

Adir Abergel สไตล์ลิสต์ผมชื่อดัง (รูปภาพ: Glamhive)

ระหว่างงาน Glamhive LIVE Style Summit ซึ่งเป็นการจัดงาน Glamhive ในรูปแบบดิจิทัลเป็นครั้งแรก ผู้ชมได้รับการเชื้อเชิญให้มีส่วนร่วมกับผู้ร่วมวงเสวนาผ่านกิจกรรมถามตอบแบบสด โดยบทสนทนาครอบคลุมตั้งแต่คำถามที่มีความเป็นส่วนตัวสูงอย่างเช่นวิธีทลายอุปสรรคทางเพศเมื่อเริ่มต้นธุรกิจ ไปจนถึงการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการตลาด และด้วยความสำเร็จอันล้นหลามของกิจกรรมดังกล่าว Swennen และ Sprangers จึงได้ตัดสินใจยกระดับมาตรฐานการจัดงานระดับโลกของพวกเขาในครั้งถัดไป

“สไตล์ ความงาม และคอมมิวนิตีของดีไซเนอร์มีความใกล้ชิดกันอย่างมาก พวกเราหลายคนเคยร่วมงานกันมาก่อนหรือรู้จักกันมาเป็นเวลาหลายปี และปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับพวกเรา ฉันตื่นเต้นอย่างมากกับโอกาสที่จะได้นำพวกเราทุกคนให้มารวมตัวกันและแบ่งปันสิ่งที่พวกเราถนัด ประสบการณ์ และคำแนะนำให้กับทุกคนที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในคอมมิวนิตีของเรา” Tara Swennen สไตล์ลิสต์ชื่อดัง กล่าว Swennen ได้รับเชิญให้อยู่ในคณะ Costume Designers Guild ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 25 สไตล์ลิสต์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดโดย The Hollywood Reporter ต่อเนื่องกันเป็นเวลาสี่ปี และได้รับมอบรางวัล Best Vegan Fashion Stylist จากงาน Vegan Fashion Week ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ลูกค้าของเธอมีตั้งแต่ Kristen Stewart, Matthew McConaughey, Lana Condor รวมถึง Allison Janney และเธอยังเคยทำงานให้กับแคมเปญที่สำคัญ ๆ ของ Chanel, Ralph Lauren, Neutrogena, E!, Target และ Netflix นอกจากนี้ผลงานของเธอยังปรากฎให้เห็นใน FlauntInStyleNylonTeen VogueEsquire UKMaxim และอีกมากมาย

งาน Glamhive Digital Summer Bazaar ได้รับการยกย่องว่าเป็นการรวมตัวในรูปแบบดิจิทัลของเหล่าผู้มากความสามารถแห่งวงการแฟชัน สไตล์ และความงานที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งบุคคลเหล่านี้มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยมีผู้เข้าชมร่วมพูดคุยด้วย การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยเนื้อหาในสามสาขาหลัก ๆ ผู้ร่วมเสวนา 32 คน และผู้บรรยายกว่า 100 คน รวมถึงมีการจัดกิจกรรม “มาสเตอร์คลาส” สุดเข้มข้น โดยจะเน้นในที่เฉพาะด้านและมีการพูดคุยกันแบบเชิงลึกแบบหมดเปลือกกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก

“วิสัยทัศน์ของ Glamhive คือการได้ทำให้ทุกคนจากทุกที่ทั่วโลกสามารถเข้าถึงบริการดูแลภาพลักษณ์ได้ และงานที่จัดขึ้นในรูปแบบดิจิทัลของเรานี้เป็นการต่อยอดอันงดงามจากวิสัยทัศน์นั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้คนที่สนใจเรื่องแฟชันและความงามหรือทำงานในอุตสาหกรรมนี้ได้เรียนรู้จากบรรดากูรูในธรุกิจนี้” Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive กล่าว โดย Sprangers เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารแห่ง Glamhive ผู้ให้บริการดูแลภาพลักษณ์ส่วนบุคคลออนไลน์ที่ให้ทุกคนได้เข้าถึงสไตล์ลิสต์และช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญที่ส่งตรงจากฮอลลีวูดและอินสตาแกรม Glamhive ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง ซึ่งให้สไตล์ลิสต์มอบประสบการณ์ดูแลภาพลักษณ์ให้กับลูกค้าผ่านทางออนไลน์ได้แบบ 100% ให้ผู้คนสามารถร่วมงานกับสไตล์ลิสต์ได้จากทุกที่ทั่วโลก

ค่าบัตรร่วมงานประชุมครั้งนี้อยู่ที่ 99 ดอลลาร์ ขณะที่บัตรราคา 149 ดอลลาร์จะมาพร้อมกล่องของขวัญวีไอพี Glamhive จะมอบรายได้ 15% จากการจำหน่ายตั๋วครั้งนี้ให้กับสมาคมแห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของผู้คนหลาก (NAACP) สำหรับผู้ที่ใช้โค้ดส่วนลด GLAMHIVEGLOBAL จะได้รับส่วนลด 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อซื้อตั๋วประเภททั่วไป 

สำหรับการจัดงาน Glamhive Digital Summer Bazaar ครั้งนี้มี Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio เป็นผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงผู้สนับสนุนรายอื่น ได้แก่ 11 Honore, Michael Stars และอื่น ๆ

สาขาที่ 1: ภาพลักษณ์ส่วนบุคคล

ภาพลักษณ์ส่วนบุคคลคือการแสดงออก การสื่อสาร การสร้างสัมพันธ์ และการให้คุณค่ากับตัวเองมากพอที่จะไปถึงศักยภาพสูงสุดในตัว ในสาขานี้ ภาพลักษณ์ส่วนบุคคลคือสิ่งที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน

  • Every BODY is Welcome Here—Size Inclusive Dressing ผู้บรรยายประกอบด้วย Brooke Jaffe, Mary Katrantzou, Mary Alice Haney, Amber Tolliver, Amanda Lim และ Sarah Ahmed
  • Pivot to Success—A discussion of pivoting your company in times of change ผู้บรรยายประกอบด้วย Andrew Bevan, Ripley Rader, Cynthia Sakai, Emily P Wheeler, Victor Glemaud และ Suzanne Lerner
  • Glow Up: Express Yourself Through Hair and Makeup—ผู้บรรยายประกอบด้วย Mark Townsend, Kira Nasrat, Mary Wiles และ Christine Symonds
  • Leading the Change—Female founder perspective on building a purpose-driven business ผู้บรรยายประกอบด้วย Rose Apodaca, Arianne Phillips, Carineh Martin, Jill Lincoln, Jordan Johnson, Camila Alves McConaughey, Adir Abergel และ Melisse Shaban
  • Routines and Rituals—A step by step guide to skincare and makeup ผู้บรรยายประกอบด้วย Kelly Atterton, Sarah Akram, Jamie Greenberg และ Tamah Krinsky
  • Shape Matters—A discussion on loving yourself and loving your shape ผู้บรรยายประกอบด้วย Simone Harouche, Jamie Mizrahi, Andrea Racey, Laurel Berman และ Christian Juul Nielsen
  • Stuart Weitzman— Stuart Weitzman—Maximize your look with accessories ผู้บรรยายประกอบด้วย Edmundo Castillo, Sharon Kanter, Kesha McLoud และ Dani Michelle
  • Professional Style in the Age of Zoom ผู้บรรยายประกอบด้วย Shaye Strager

สาขาที่ 2: ธุรกิจด้านแฟชัน

นวัตกรรม ความสร้างสรรค์ ความยั่งยืน ความหลากหลาย ธุรกิจแฟชันทั่วโลกมีมูลค่าถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ ผู้บริโภค ครีเอทีฟ ผู้มีใจรักเพื่อนมนุษย์ ผู้ประกอบการและธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องส่งเสียงที่มีพลังยิ่งกว่านี้ในการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมนี้ให้ดีขึ้น

  • The Future of Fashion—How innovations in tech will change the industry ผู้บรรยายประกอบด้วย Stephanie Sprangers, Andrew Bevan, David Schottenstein, Lindsay Albanese, Irina Sulemanovic, Alexandra Mandelkorn และ David Sheinkopf
  • Fashion in the Age of Globalization ผู้บรรยายประกอบด้วย Louise Roe, Aimee Croysdill และ Elisa Nalin
  • Looking Forward, Acting Now—A conversation on sustainability ผู้บรรยายประกอบด้วย Marcy Medina , Evet Sanchez, Tara Swennen, Umberto De Marco, Jennifer Stucko, Vanessa Barboni Hallick, Saima Chowdhurry และ Samata
  • The Future We Choose-Representation in Fashion—The leaders we need when it comes to the progress of diversity in fashion ผู้บรรยายประกอบด้วย Booth Moore, Courtney Mays, Joan Reidy, Tracy Reese, Mecca Cox, Jeanne Yang และ Kibwe Chase Marshall
  • The Conscientious Consumer—Shop from your heart and use your dollars to shape the marketplace ผู้บรรยายประกอบด้วย Booth Moore, Stefan Siegel, Sasha Skoda, and Dana Rebecca, Negar Ali Kline และ Chloe Gosselin
  • Stand Up, Stand Out, Stand Proud! ผู้บรรยายประกอบด้วย Scott Studenberg, Ruthie Davis, Kimberly Van Schoyck-Riojas, Rebecca Lay, Sam Ratelle, Christina Pacelli, Brett Heyman และ Nicolas Bru
  • Women in Fashion-Female Leadership ผู้บรรยายประกอบด้วย Melinda Maria, Dani Michelle, Lindsey Dupuis, Stephanie Walters Abramow และ Mollie Faithe Good
  • Makeup prep ผู้บรรยายประกอบด้วย Tracy O’Connor และ Megumi Asai

สาขาที่ 3: ธุรกิจความงาม

ความงามเฉพาะบุคคลเป็นความงามรูปแบบใหม่ และธุรกิจกำลังปรับเปลี่ยนสู่การสร้างธุรกิจ กลุ่มสินค้า และด้านต่าง ๆ ของธรุกิจให้มีความเฉพาะและแตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

  • New Beauty: How Ethics Are Changing the Industry—Highlighting new innovations and how the future of beauty looks. ผู้บรรยายประกอบด้วย Amy Nadine, Jill Crosby และ Frédéric Fekkai
  • All Hair is Good Hair—Breaking the beauty ideal. ผู้บรรยายประกอบด้วย Saisha Beecham, Miles Jeffries, Marc Mena, Ken O’Rourke และ Ben Skervin
  • Filling the Void: Advocating for Inclusivity—A discussion of skin tone palettes, varying hair types, and what it means to the beauty industry. ผู้บรรยายประกอบด้วย Riley Blanks, Amber Amos, Vincent Oquendo, Georgie Eisdell, Anastasia Stylianou และ Tasha Reiko Brown
  • Breaking into Beauty—Hear founders and leaders on how they carved out a piece of the pie for themselves. ผู้บรรยายประกอบด้วย Camara Aunique, Etienne Ortega, Kelsey Deenihan, Allan Avendaño และ Tracey Cunningham
  • This Is Who I Am—Inner beauty vs. outer beauty: a discussion of what the idea truly means. ผู้บรรยายประกอบด้วย Molly Stern, Joey Maalouf, Alexx Mayo, Pati Dubroff, Sheridan Ward, Anton Khachaturian และ Kara Yoshimoto Bua
  • Staying Safe: From Set to Salon—The new rules, from working on set, to getting a blow out at a salon. ผู้บรรยาย Ted Gibson, Jason Backe, Laura Rugetti, Denis De Souza และ Mikey Koffman
  • Facing Change—How artists and leaders have pivoted to face the world head on ผู้บรรยายประกอบด้วย Marcy Medina, Beau Nelson, Africa Miranda, Tracy O’Connor และ Matthew Collins

กิจกรรมมาสเตอร์คลาส

สาขาสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลายตั้งแต่การสร้างแบรนด์เพื่อเริ่มธุรกิจ การให้ความสำคัญกับข้อมูลวงใน และการทลายอุปสรรคใด ๆ เพื่อเริ่มต้น สร้างการเติบโต และเพิ่มพูนความรู้ด้านแฟชัน ความงาม และสไตล์

  • Here Comes the Bride ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย Micaela Erlanger, Mark Badgley & James Mishka
  • Paths to Success—Paving YOUR OWN way to becoming a stylist ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย Meg Chapman, Jordan LaValle, Shani Thomas, Shatora Adrell และ Tiffany Gifford
  • The ROI of Style—How standout personal style leads to confidence and life success ผู้บรรยายประกอบด้วย Andrew Weitz และ Quentin Thrash
  • Nubra Style Out โดย Jennifer Rade
  • Media Mastery Workshop—Learn how to develop a digital presence that gets you noticed and gets you paid โดย Africa Miranda
  • Creating Your Brand—How to create your brand, build an audience, and authentically express who you are โดย Carrie Colbert
  • Building Your Styling Business—Learn how to turn your current business into a profitable one โดย Sarah Cohen ผู้ก่อตั้ง The Styling Advisory
  • The Essential “How to Guide” to Styling—Find your calling in the creative and styling field โดย Kesha McCloud

บทสัมภาษณ์จากผู้บรรยาย/ผู้ร่วมการเสวนา

Pati Dubroff ช่างแต่งหน้าชื่อดัง
Dubroff ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในช่างแต่งหน้าระดับตำนานและเป็นที่เคารพสูงสุดตลอดกาลแห่งฮอลลีวูด
“ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของบรรดาบุคคลอันน่าประทับใจซึ่งเป็นที่เป็นที่สุดแห่งที่สุดในโลกแห่งความงาม แฟชัน และการออกแบบ ที่จะมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันและสร้างแรงบันดาลใจ ถึงแม้จะต้องรักษาระยะห่าง แต่เรายังสามารถส่งต่อความสร้างสรรค์ และมาร่วมกันเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับคอมมิวนิตี Glamhive อันยอดเยี่ยมนี้ได้”

Adir Abergel สไตล์ลิสต์ผมชื่อดัง
Abergel เป็นผู้สร้างสรรค์ทรงผมที่เป็นที่จดจำให้กับศิลปินผู้มากความสามารถแห่งฮอลลีวูดอย่าง Gwyneth Paltrow, Anne Hathaway, Kristen Stewart, Jennifer Garner, Charlize Theron และอีกมากมาย
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบรรดาผู้หญิงเก่งและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของเรา”

Africa Miranda พิธีกรรายการทีวี | นักประพันธ์ | ผู้ประกอบการความงาม | ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างตัวตนผ่านสื่อดิจิทัล | ผู้ก่อตั้ง Beauty by Africa Miranda
นักพูดมากความสามารถ พิธีกร นักแสดง และนางแบบที่มีสไตล์เป็นของตัวเองและความปราดเปรียว รวมถึงดาวรุ่งพุ่งแรงจากละครเรื่อง “The New Atlanta” แห่ง Bravo TV
“สำหรับครีเอทีฟ ไม่ว่าจะทางด้านใดก็ตาม หากพวกเขาต้องการเพิ่มบทบาทด้านดิจิทัลอย่างเต็มที่ พวกเขาจะสามารถทำได้อย่างไม่สิ้นสุด ฉันรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นที่ได้ร่วมกับ Glamhive ในฐานะผู้บรรยายในงาน Digital Summer Bazaar ครั้งนี้ นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับสไตล์ลิสต์และผู้ที่หลงใหลในแฟชันที่จะได้เพิ่มความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ และสร้างแบรนด์ของพวกเขาให้เติบโต”

Mark Badgley ผู้ร่วมก่อตั้ง Badgley Mischka
James Mischka ผู้ร่วมก่อตั้ง Badgley Mischka

Badgley และ Mischka ได้รับการชื่นชมโดย Vogue ว่าเป็นหนึ่งใน “10 ที่สุดแห่งอเมริกันดีไซเนอร์” และเป็นขวัญใจของวงการฮอลลีวูด คู่หูนักออกแบบได้สร้างชื่อเสียงของพวกเขาตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา
“พวกเราตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน GlamHive Live Digital Summer Bazaar” Mark Badgley กล่าว “การได้ร่วมพูดคุยกับ Micaela และแบ่งปันความรู้และความคิดของพวกเราในทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับเจ้าสาวจะต้องสนุกแน่นอน เราตื่นเต้นที่จะได้พบกับแฟน ๆ แฟชันที่น่ารัก” James Mischka เสริม

เกี่ยวกับ Glamhive

Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดยนักธุรกิจที่ชื่อ Stephanie Sprangers ในปี 2560 พร้อมวิสัยทัศน์ที่จะให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการสร้างภาพลักษณ์เฉพาะบุคคลได้อย่างเท่าเทียม และข้อสนับสนุนที่ว่าความมั่นใจทีเกิดจากความงามจะต้องไม่ถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มคนรวยและผู้ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ประสบการณ์สร้างบุคลิกภาพออนไลน์ให้ใครก็ตามที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สามารถเข้าถึงสไตล์ลิสต์ที่จะคอยให้การสนับสนุนต่าง ๆ ตามที่พวกเขาต้องการเพื่อพัฒนาตัวเองในแบบที่ดีที่สุด สำหรับสไตล์ลิสต์ นี่คือแพลตฟอร์มที่มีความครบวงจรและไร้รอยต่อ ที่ช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจให้เติบโตได้แบบ 100%

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200708005857/en/

ติดต่อ:

Stephanie Sprangers
206-851-0446
steph@glamhive.com






Mary Kay Inc. ยังคงให้การสนับสนุนแฟชั่นความงามและการออกแบบในกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 ก.ค. 2563

ไม่นานมานี้ Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio ได้ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมในกิจกรรมความงามแฟชั่นและการออกแบบต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมศิลปะของปัจเจกชน ความงามที่หลากหลาย และยังสนับสนุนศิลปินด้านความงามอีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นการปูทางสำหรับเทรนด์และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสำหรับฤดูกาลที่จะมาถึง

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200707005913/en/

Mary Kay beauty experts were on hand to tailor looks before the 27th Czech Lion Awards Show (Photo: Mary Kay)

ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของ Mary Kay พร้อมที่จะปรับแต่งลุคความงามต่าง ๆ ก่อนงาน Czech Lion Awards Show ครั้งที่ 27 (ภาพ: Mary Kay)

Glamhive Live และ  Glamhive Digital Summer Bazaar

Mary Kay เป็นผู้สนับสนุนพรีเซ็นเตอร์สำหรับการเปิดตัว Glamhive Live Digital Summit ครั้งแรก ในวันที่ 9 พฤษภาคม ทั้งนี้ Glamhive ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นดิจิตัลซึ่งเริ่มต้นก่อตั้งโดย Stephanie Sprangers ผู้เป็นสไตลิสต์เซเลบริตี้ Glamhive ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถได้รับคำแนะนำจากสไตลิสต์ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกผ่านช่องทางออนไลน์ สไตลิสต์ของ Glamhive รวมถึง Tara Swennen, Ilaria Urbinati, Nicole Chavez, Jeanne Yang, Samantha McMillen, Sonia Young, Micah Schifman และ Jason Bolden ตลอดจนถึงผู้เชี่ยวชาญที่กำลังมาแรงผู้ที่รู้ว่าอะไรกำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนั้น

การประชุมสุดยอดดิจิตอลครั้งนี้ ได้นำเสนอหัวข้อที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงแฟชั่นที่ยั่งยืน ความงาม และวิธีการใช้ชีวิตในฝันของคุณผ่านการเป็นผู้ประกอบการ วิทยากรรับเชิญที่มาจากอุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมการออกแบบ อุตสาหกรรมโทรทัศน์ และอุตสาหกรรมเครื่องประดับยังได้พูดถึงการเอาชนะและการทำลายอุปสรรค ผู้ดำเนินรายการและผู้บรรยายในงานประกอบด้วย Livia Firth, Louise Roe, Rebecca Minkoff, Kendra Scott, Jezlan Moyet, Jessica Paster, Cindy Eckert, Lela Rose, Anita Patrickson, Jenny Packham, Olivier Theyskens, Babi Ahluwalia, Sonia Young, Erica Cloud, Cynthia Rowley, Ilaria Urbinati, Jennifer Fisher และ Lisa Levinson และอื่น ๆ อีกมากมาย

Martelle ศิลปินด้านความงามของ Mary Kay Ukraine ซึ่งเป็นทูตความงามและช่างแต่งหน้าทางโทรทัศน์ได้ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายในงาน Glamhive Live โดยในระหว่างการอภิปรายโต๊ะกลมหัวข้อ “ Beauty x Fashion” Martelle เน้นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการสื่อสารที่ชัดเจนกับนักออกแบบและสไตลิสต์เวลาแต่งหน้านางแบบ ลูกค้า หรือคนดังของเธอสำหรับการถ่ายภาพหน้าปกแฟชั่นโชว์สำคัญ ๆ งานเดินพรมแดง และอื่น ๆ

15% ของรายได้จากการประชุมสุดยอด Glamhive Live Digital ได้บริจาคให้กับ Feeding America เพื่อสนับสนุนความพยายามบรรเทาทุกข์ COVID-19 โดยเครือข่าย Feeding America เป็นองค์กรบรรเทาทุกข์ด้านการขาดอาหารภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio จะเป็นผู้สนับสนุนการนำเสนอ Glamhive Digital Summer Bazaar อีกครั้งในวันที่ 11 กรกฎาคม ซึ่งนั่นจะเป็นครั้งแรกที่ประสบการณ์ดิจิตอลสดใหม่นี้จะขยายตัวไปทั่วโลก เพื่อให้เป็นจุดนัดพบระดับโลกสำหรับมืออาชีพในอุตสาหกรรม ผู้ที่ชื่นชอบสนใจด้านความงามและสไตล์ ทั้งนี้ ผู้พูดและผู้ดำเนินรายการจะมาจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งรวมถึงแคนาดา สหราชอาณาจักร เบลเยียม ฝรั่งเศส อิตาลี อินเดีย เวียดนามและแอฟริกาใต้

เหล่าสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า และช่างทำผมตัวท็อปที่ทำงานกับดาราซึ่งรวมถึง Kristen Stewart, Lupita Nyong'o, Tom Brady และอีกหลาย ๆ คน จะมาแบ่งปันประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้ รวมไปถึงความเชี่ยวชาญและข้อมูลเชิงลึกออนไลน์ ในฐานะส่วนหนึ่งของ Glamhive Digital Summer Bazaar

ตั๋วสำหรับงานอีเวนท์ทั้งวันจะมีประสบการณ์สามประสบการณ์มานำเสนอ ได้แก่, พาเนลกว่า 32 พาเนล, ผู้พูด 100 คนที่ไม่ซ้ำกัน และ "มาสเตอร์คลาส" ที่เข้มข้นซึ่งเน้นไปที่หัวข้อเฉพาะต่าง ๆ ด้วยการสนทนาเชิงลึกและการได้ใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงระดับโลก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดไปที่ https://www.glamhive.com/live. Glamhive จะบริจาคร้อยละ 15 ของยอดขายตั๋วทั้งหมดให้กับ NAACP.

ยูเครนแฟชันวีค (Ukraine Fashion Week)

Ukrainian Fashion Week(UFW) ได้เกิดขึ้นในวันที่ 1 – 5 กุมภาพันธ์ในเมืองเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ มีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 16,000 คน ที่มาชื่นชมกับการสร้างสรรค์ของนักออกแบบแฟชั่นชาวยูเครน โดยได้  Martelle ผู้นำด้านการแต่งหน้าจาก  Mary Kay Ukraine มาแต่งหน้าในลุคนำสมัย ทั้งนี้ Martelle พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของ Mary Kay ได้แต่งหน้าให้นางแบบมากกว่า 50 คน ที่ใส่เครื่องแต่งกายที่มาจากการออกแบบล่าสุดจาก Elena Burenina, Iryna DIl, Przhonskaya, Ksenia Schnaider, Sonya Monina, Chuprina, ARaise, Kass, Kami Kami และอีกมากมาย

Mary Kay Ukraine ยังได้ร่วมมือกับ Dastish Fantastish นักออกแบบแฟชั่นแนวสตรีทแฟชั่นเพื่อสร้างคอลเล็กชั่นแคปซูล (capsule collection) สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของ Mary Kay โดยคอลเล็กชั่น Mary Kay Dastish Fantastish ยังรวมถึงการรวมเอาสไตล์คลาสสิกเชิงธุรกิจที่มีอยู่แล้วในแบรนด์ Mary Kay เข้ากับแนวโน้มแฟชั่นที่กำลังมาแรงในช่วงนั้น ได้แก่ แนวอนาคตและแนวสตรีต สีหลักของคอลเล็กชันคือเฉดสี "สีชมพูบานเย็น" และ "สีแดงคลาสสิก" นอกจากนี้คอลเล็กชันพิเศษนี้ยังรวมเอาการเย็บปักถักร้อย เสื้อผ้าทรงโคร่ง และการใช้หนังสัตว์ เป็นองค์ประกอบด้วย

นิวยอร์กแฟชันวีค (New York Fashion Week)

New Fashion Fashion Week (NYFW) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ Angel Orensanz Foundation ในแมนฮัตตัน โดย Mary Kay ได้เป็นหุ้นส่วนด้านการแต่งหน้าอย่างเป็นทางการสำหรับสองโชว์ โดยร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นสุดหรู Monse (จัดขึ้นที่ย่านการเงิน) และ Adam Lippes (จัดขึ้นที่ Veronika ในชั้นบนของ Fotografiska New York) Luis Casco ซึ่งเป็นทูตความงามระดับโลกของ Mary Kay เป็นหัวหน้าช่างแต่งหน้าในการแสดงโชว์ทั้งสองโชว์ เขานำทีมช่างแต่งหน้าเพื่อการทำงานอย่างใกล้ชิดกับดีไซเนอร์เพื่อสร้างลุคที่จะเติมเต็มและปลุกชีวิตให้กับคอลเล็กชั่นแต่ละคอลเล็กชัน

งานประกาศผลรางวัล Czech Lion Awards

Mary Kay  ผู้สนับสนุนองค์กรด้านแฟชั่นและศิลปะมานานยังสนับสนุนรางวัล Czech Lion Awards ณ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นสถานที่เฉลิมฉลองความสำเร็จของผลงานภาพยนตร์ของประเทศประจำปี ในงานประกาศผลรางวัล Czech Lion Awards ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งเทียบเท่ากับรางวัลออสการ์ของสหรัฐอเมริกาสำหรับศิลปินสาธารณรัฐเช็ก

งานประกาศผลรางวัล Czech Lion Awards ครั้งที่ 27 ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐเช็กเมื่อวันที่ 7 มีนาคม จากโรงแรม Rudolphinum อันเก่าแก่ในเมืองปราก มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,200 คน สุดยอดศิลปินของประเทศเช็กได้เข้าร่วมเพื่อค้นหาผู้ชนะรางวัล Czech Lion Awards ซึ่งในปีนี้ Mary Kay เป็นหุ้นส่วนด้านการแต่งหน้าอย่างเป็นทางการ โดยทีม ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของ Mary Kay ได้ทำการแต่งหน้าและตบแต่งรายละเอียดบนใบหน้าให้กับเหล่าดารา

#Shero Style Fashion Trends กับ Mary Kay China

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีที่ ทาง Mary Kay China ได้ถ่ายทอดสด #Shero Style Fashion Trends : พลังแห่งความงาม, พลังแห่งเทคโนโลยี, พลังแห่งสุขภาพ และพลังแห่งความโดดเด่น หรือ Power of Beauty, Power of Technology, Power of Health, and Power of Shine ทั้งนี้ แฟชั่นโชว์ดิจิตอลได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Global Design Studio, นิตยสาร Baazar, Swarovski และอื่น ๆ

The Mary Kay Foundation℠ กับ Kendra Scott

ในปีนี้ The Mary Kay Foundation℠ ได้ร่วมมือกับ Kendra Scott เพื่อเสนอต่างหูที่สวยงามให้กับผู้อำนวยการฝ่ายขายอิสระ รายได้ทั้งหมดจากต่างหูได้สร้างประโยชน์ให้กับมูลนิธิ Mary Kay ในการสนับสนุนโลกที่ผู้หญิงมีอำนาจมีสุขภาพดีและมีความปลอดภัย โดยรวมรายได้ทั้งหมดเกือบ 200,000 เหรียญสหรัฐ

Mary Kay เป็นหุ้นส่วนกับนักออกแบบผู้เซ็ตเทรนด์สำหรับเครื่องแต่งกายสำหรับการทำงานและอุปกรณ์เสริมเครื่องแต่งกาย

เป็นเวลานานกว่า 55 ปีที่ Mary Kay ได้ร่วมมือกับนักออกแบบชั้นนำในแต่ละยุคเพื่อร่วมมือจัดทำเครื่องแต่งกายสำหรับการทำงาน โดย ชุดและอุปกรณ์เครื่องแต่งกายเสริมได้ถูกนำเสนอให้กับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระในระดับต่างๆของธุรกิจอิสระของพวกเขา เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mary Kay ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ:

  • St. John x Mary Kay / NSD Suit Option Unveil – US Leadership
  • Nicole Miller x Mary Kay / 2564-2565 Suit Unveil
  • Ted Baker x Mary Kay US / Star 2563 Prize Collection
  • Kate Spade x Mary Kay US / Kendra Scott X Mary Kay US – Gifting
  • Kendra Scott x Mary Kay / Rock it in Red Jacket Challenge 2563

การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอันเป็นผลมาจาก COVID-19

เนื่องจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทั่วโลก อีเวนท์ความงามแฟชั่นและการออกแบบที่ได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay จำนวนมากได้ถูกเลื่อนออกไปหรือถูกยกเลิกในปี 2563 ซึ่งรวมถึง:

ถูกยกเลิก

  • Mercedes-Benz Fashion Week รัสเซีย ฤดูใบไม้ผลิ 2563 การแสดงสำหรับฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาว 2563/64
  • งาน GLOW Beauty Convention ประเทศเยอรมนี
  • Bratislava Fashion Days จัดโดย Mercedes-Benz – โชว์ฤดูใบไม้ผลิ 2563 สำหรับฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาว 2564

ถูกเลื่อน

  • Anketa OTO 2020 – เลื่อนออกไปจนกว่าจะมีประกาศ

เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์แฟชั่น Mary Kay

  • 25 ปีที่แล้ว หรือปี 2538 Mary Kay ได้รับรางวัลแฟชั่นและรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติเป็นครั้งแรก
  • 30 ปีที่แล้ว หรือ ปี 2533: ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของเครื่องแต่งกายทำ
  • งานในหมู่สมาชิกขององค์กร Mary Kay สะท้อนออกมาภายนอกบริษัท ชุด Mary Kay® Sales Director ได้รับรางวัล“ ครื่องแต่งกายทำงานแห่งทศวรรษ” ที่โดดเด่นในทศวรรษ 1980
  • 40 ปีที่แล้ว หรือปี 2523 : โครงการ The Red Jacket เกิดขึ้นในปี 2516 เมื่อ Star Recruiters สวมเสื้อแจ็คเกตแดงในสนามบอลเพื่อเป็นเกียรติแก่พระคาร์ดินัลเซนต์หลุยส์ใน“ Mary Kay Night” ครั้งแรก  และในปีพ. ศ. 2523 บริษัท ได้ดำเนินโครงการ Red Jacket Program เป็นเครื่องแต่งกายอย่างเป็นทางการ
  • 55 ปีที่แล้ว หรือปี 2508: ชุดผู้อำนวยการฝ่ายขายอิสระชุดแรก  หรือ Independent Sales Director ถูกเปิดตัว – ชุดสูทถักขนสัตว์สองชิ้นสีดำพร้อมหมวกคาวบอยสไตล์เท็กซัส

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่   MaryKay.com.

เกี่ยวกับ The Mary Kay Foundation

โดยการทำตามความฝันของ Mary Kay Ash ที่จะยกระดับชีวิตของผู้หญิงทุกหนทุกแห่ง มูลนิธิ The Mary Kay FoundationSM ได้ระดมทุนและจัดสรรกองทุนเพื่อการลงทุนในการวิจัยโรคมะเร็งขั้นสูงเพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงและยุติความรุนแรงในครอบครัวต่อสตรี ตั้งแต่ปี 2539 มูลนิธิ The Mary Kay FoundationSM ได้บริจาคเงินกว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับองค์กรที่มีภารกิจสอดคล้อง นอกจากนี้มูลนิธิยังสนับสนุนโครงการริเริ่มสร้างจิตสำนึก โครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ชุมชน และสนับสนุนกฎหมายเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่ดีและได้รับความปลอดภัย โดยการทำงานร่วมกันเราสามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นสำหรับผู้หญิง หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการให้การศึกษา การสนับสนุน การเป็นอาสาสมัคร และการบริจาคและการเข้าร่วมงานช่วยชีวิตและเพื่อสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง เยี่ยมชมได้ที่ marykayfoundation.org, ค้นหาเราบน Facebook และ Instagram หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200707005913/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายการสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com





PVH Corp. ประกาศการเปลี่ยนแปลงด้านผู้นำ ณ Tommy Hilfiger และ PVH Europe

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–2 มิ.ย. 2563

PVH Corp. (NYSE:PVH) เจ้าของพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งรวมถึง TOMMY HILFIGER และ CALVIN KLEIN ประกาศในวันนี้ว่า Daniel Grieder จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tommy Hilfiger Global & PVH Europe หลังจากการทำงาน 23 ปีในบทบาทการจัดการต่าง ๆ มากมายภายในองค์กร โดยเขาจะออกจากบริษัทเพื่อไปทำสิ่งอื่น ๆ ที่เขาสนใจ ทั้งนี้ Martijn Hagman จะมาดำรงตำแหน่งแทน Grieder และจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe ซึ่งมีผลในวันที่ 2 มิถุนายน 2563

ปัจจุบัน Hagman ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe และหัวหน้าฝ่ายการเงิน Tommy Hilfiger Global ดูแลการดำเนินงานการเงิน การเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นดิจิทัล เทคโนโลยี การพัฒนาธุรกิจและโครงการความยั่งยืนระดับโลกของ Tommy Hilfiger เขาทำงานเป็นเวลา 12 ปีในทีมผู้นำของ Tommy Hilfiger และเป็นบุคคลสำคัญในการขยายตัวทั่วโลกที่น่าประทับใจของ Tommy Hilfiger ตลอดจนถึงกลยุทธ์ที่นำไปสู่การเติบโตที่มั่นคงของ PVH ยุโรป ทุก ๆ ปี ตลอดมานี้

“Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe เริ่มต้นปีนี้บนเส้นทางที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับที่พวกเขาเป็นมาตลอดโดยมีแนวโน้มการขายที่แข็งแกร่งและมีการพัฒนาการรับรู้ของแบรนด์และการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค” Manny Chirico ประธานและซีอีโอ PVH Corp. กล่าว "Daniel เป็นบุคคลที่กระตุ้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของบริษัทเราและขยายขอบเขตการเข้าถึง TOMMY HILFIGER ไปทั่วโลก ช่วยผลักดันมายด์เซ็ตแบบที่ให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นการทำงานในรูปแบบดิจิทัลที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่งมาก”

“มันเป็น 23 ปีที่พิเศษมาก” Grieder กล่าว “ ขณะที่เราอยู่ท่ามกลางจุดหัวเลี้ยวหัวต่อในอุตสาหกรรมของเรา เราพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ผมเชื่อว่าจะขับเคลื่อนเราไปสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้รู้ว่าผมสามารถส่งต่อเก้าอี้ของผมให้แก่ Martijn เพราะเขาเป็นเพื่อนแท้ที่สนิทไว้ใจได้ และเป็นเพื่อนร่วมงานที่เชื่อถือได้มาตลอด 12 ปีที่ผ่านมาของการเดินทางครั้งนี้ ไม่เคยมีเวลาใดที่เหมาะสำหรับการออกจากองค์กรที่คุณรัก คุณมีทางเลือกสองอย่างคือไม่ออกช้าไปก็ออกเร็วเกินไป และผมรู้ว่าผมต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ยังคงมองโลกในแง่ดี ยังมีเรี่ยวแรงและแรงผลักดันที่ผมยึดถือมาตลอดในอาชีพของผม”

ภายใต้ความเป็นผู้นำของ Grieder บริษัท Tommy Hilfiger ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในสินค้าประเภทเดียวกัน มีความเป็นผู้นำในด้านความผูกพันกับผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบดิจิทัลและความรับผิดชอบต่อองค์กร ตั้งแต่ Grieder กลายเป็น CEO ของ Tommy Hilfiger Global & PVH Europe ในปี 2557 ธุรกิจ Tommy Hilfiger เติบโตขึ้นจาก 6 พันล้านดอลลาร์สู่ 9 พันล้านดอลลาร์ในยอดค้าปลีกในปี 2562 และธุรกิจ Calvin Klein ในทวีปยุโรปเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทั้งในส่วนของรายได้และกำไร

Stefan Larsson ประธาน PVH กล่าวว่า“ Daniel และ Martijn ร่วมกันปลูกฝังวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการไปสู่อนาคต การทำให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและการสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลิตภัณฑ์ เราขอขอบคุณสำหรับความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ Daniel ผมมีความมั่นใจอย่างมากใน Martijn ในฐานะผู้นำที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตัวขับเคลื่อน มูลค่าพื้นฐานของธุรกิจ ความคิดที่ว่าผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของเขา และความเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัลจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในยุคต่อไปของการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลกำไรให้กับ Tommy Hilfiger และภูมิภาคยุโรป”

Hagman กล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ PVH Europe ควบคู่ไปกับทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยแรงผลักดัน ผมยังต้องขอขอบคุณ Daniel สำหรับการสนับสนุนที่ไม่เสื่อมคลายและโอกาสในการพัฒนาและความเป็นผู้นำที่เขามอบให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามีความมั่นใจในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งเน้นของเราในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่การฟื้นตัวและการกลับคืนตัวของธุรกิจทั่วโลกของเราหลังจากที่มีการระบาดของ COVID-19 "

Grieder จะช่วยส่งต่อความรับผิดชอบของ  Hagman ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้านี้ เพื่อทำให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่นและประสบความสำเร็จ

ทั้ง Grieder และ Hagman ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ก่อตั้งแบรนด์และหัวหน้าดีไซเนอร์ คุณ Tommy Hilfiger มาเป็นเวลาหลายปี

“ความเชื่อและความตื่นเต้นของผมสำหรับอนาคตของแบรนด์ของเรานั้นไม่เคยแข็งแกร่งไปกว่านี้” Tommy Hilfiger กล่าว “ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Daniel สู่องค์กรของเรานั้น คือการเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับผู้บริโภคของเรามากขึ้น และสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรที่อุทิศให้กับการอยู่บนความทันสมัยของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และวัฒนธรรม ตัว Martijn เองก็เดินทางอยู่ในเส้นทางนี้แล้ว และเราจะร่วมกันเขียนอนาคตของแบรนด์ของเรา ควบคู่ไปกับเหล่าพันธมิตรและผู้บริโภคทั่วโลก”

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH ได้สร้างมาตรฐานของสไตล์ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้ามาโดยตลอด ผลงานที่โดดเด่นของเรารวมถึงTOMMY HILFIGER, CALVIN KLEIN, Van Heusen, IZOD, ARROW, Speedo*, Warner’s, Olga และ Geoffrey Beene, ตลอดไปจนถึงแบรนด์ชุดชั้นใน True & Co. ที่มีความเป็นดิจิตอลสูง เราทำการตลาดสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศและเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ของตนเอง PVH มีพนักงานมากกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศและมีรายรับต่อปีเกือบ 9,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ระดับการขายของเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องของบริษัท ทั้งกับลูกค้าขายส่งและในร้านค้าปลีกระดับการขายใบอนุญาตของ บริษัท ในการค้าส่งและค้าปลีกและขอบเขตของส่วนลดและราคาโปรโมชั่น ซึ่งบริษัทและผู้รับใบอนุญาตและพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ จะต้องมีส่วนร่วม ซึ่งทั้งหมดนี้อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน การลดลงของการเดินทาง แนวโน้มแฟชั่น การรวมกันของบริษัทและการล้มละลายในอุตสาหกรรมค้าปลีก การเปลี่ยนตำแหน่งแบรนด์โดยผู้อนุญาตของบริษัท และปัจจัยอื่น ๆ (iv) ความสามารถของบริษัทในการจัดการการเติบโตและสินค้าคงคลัง รวมไปถึงความสามารถของบริษัทในการหาประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการ เช่น การเข้าซื้อกิจการที่รอดำเนินการซึ่งระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ (v) ข้อจำกัดด้านโควต้า การกำหนดมาตรการควบคุม ป้องกัน และการกำหนดหน้าที่หรือภาษีศุลกากรของสินค้าจากประเทศที่บริษัทหรือที่ผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ประหยัดต้นทุน หรือในประเทศที่ต้องการแรงงานและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค เช่น ภาษีศุลกากรที่ถูกกำหนดเมื่อไม่นานมานี้และที่คุกคามการเพิ่มภาษีศุลกากรของสินค้าที่นำเข้าสหรัฐฯ จากประเทศจีน ซึ่งอาจจะจำกัดความสามารถในการผลิตสินค้าในประเทศที่ประหยัดต้นทุนกว่าหรือในประเทศที่มีแรงงานและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเฉพาะ หรือที่กำหนดให้บริษัทต้องรับภาระต้นทุนหรือพยายามผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้และกำไรของบริษัท (vi) ความพร้อมและต้นทุนของวัตถุดิบ (vii) ความสามารถของบริษัทในการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบทางการค้าและการโยกย้ายและการพัฒนาของผู้ผลิต (ซึ่งอาจส่งผลต่อที่ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถผลิตได้ดีที่สุด) ได้อย่างทันเวลา (viii) การเปลี่ยนแปลงในโรงงานและความสามารถในการขนส่ง การเพิ่มค่าจ้างและค่าขนส่ง ความขัดแย้งทางพลเรือน ทางสงคราม หรือการก่อการร้าย การคุกคามของสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น หรือความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือแรงงานในประเทศใด ๆ หรือผลิตภัณฑ์ของคู่ค้าทางธุรกิจอื่น ๆ ที่มีการขาย มีการผลิตหรือวางแผนที่จะขายหรือผลิต (ix) การระบาดของโรคและข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น การระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันซึ่งอาจส่งผล (และในกรณีของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อไปนี้) ให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเนื่องจากโรงงานปิด แรงงานลดลง การขาดแคลนวัตถุดิบ การตรวจสอบหรือห้ามส่งสินค้าที่ผลิตในพื้นที่ได้รับผลกระทบ การปิดร้านค้า การลดปริมาณการใช้และการซื้อของผู้บริโภคเพราะผู้บริโภคป่วยหรือมีข้อจำกัดหรือหยุดช้อปปิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือการที่รัฐบาลกำหนดให้ปิดกิจการ ข้อจำกัดการเดินทางหรือมาตรการที่คล้ายกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และการเปลี่ยนแปลงของตลาดหรืออื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการเสื่อมค่าของค่าความนิยมของบริษัทและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น ๆ การดำเนินงานด้านสิทธิการดำเนินงานตามสัญญาเช่า และที่ดินอาคารและอุปกรณ์ (x) การได้มาและการขายกิจการและปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อการขายกิจการและการทำธุรกรรมที่เสนอ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความสามารถในการรวมกิจการหรือธุรกิจที่ได้มาเข้ากับบริษัท โดยไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจการที่ได้มา การดำเนินงานที่มีอยู่ ความสัมพันธ์ของพนักงาน ความสัมพันธ์กับผู้ขาย ความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือผลประกอบการทางการเงินและความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัทหลังจากการขายหรือการขายบริษัทย่อย ธุรกิจ หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ของบริษัท (xi) ความล้มเหลวของผู้ได้รับใบอนุญาตของบริษัทในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ หรือเพื่อรักษาคุณค่าของแบรนด์ของบริษัท หรือการใช้เครื่องหมายการค้าของบริษัทในทางที่ผิด (xii) ความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศซึ่งบริษัทมีการทำธุรกรรมในระดับธุรกิจที่สำคัญในค่าเงินนั้น (xiii) ค่าใช้จ่ายในการวางแผนการเกษียณอายุของบริษัท ที่บันทึกไว้ตลอดทั้งปีคำนวณโดยใช้การประเมินตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งรวมถึงข้อสมมติฐาน และการประมาณการเกี่ยวกับตลาดการเงิน ภาวะเศรษฐกิจและประชากร และความแตกต่างระหว่างผลลัพธ์โดยประมาณกับผลลัพธ์จริง ที่บันทึกไว้ในผลกำไรโดยทั่วไปในไตรมาสที่สี่ของปี; (xiv) ผลกระทบของกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีใหม่และที่ได้รับการแก้ไข; และ (xv) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200602005248/en/

ติดต่อ:

Dana Perlman

เหรัญญิกและรองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์

ออฟฟิศ (212) 381-3502

มือถือ (917) 579-1374

investorrelations@pvh.com

Virginia Ritchie

รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรการตลาด อินฟลูเอ็นเซอร์และประสบการณ์

+31643184870

Virginia.Ritchie@Tommy.com

Tommy Hilfiger ฉลองภูมิทัศน์แฟชั่นที่มีความครอบคลุมกลุ่มคนต่าง ๆมากขึ้นในการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รุ่นที่สอง

Logo

ผู้ชนะสองคนได้รับการคัดเลือกมาจากคณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งรวมถึง คุณ Tommy Hilfiger คุณ Daniel Grieder ซึ่งเป็น CEO ของTommy Hilfiger Global และ PVH Europe และ Noor Tagouri ซึ่งเป็น นักข่าว นักกิจกรรมด้านสิทธิ และวิทยากร

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)– 14 กุมภาพันธ์  2563

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp.  [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ ได้ประกาศ ว่า Apon Wellbeing และ A Beautiful Mess เป็นผู้ชนะการประกวด Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ปี 2562 โดยมีผู้สมัครแข่งขันมากกว่า 400 รายการสำหรับโครงการระดับโลกครั้งที่สองนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ตอัพและธุรกิจขนาดขั้นตอนการพัฒนา หรือ scale-up stage ที่จัดหาโซลูชั่นที่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่มและที่เป็นบวกในด้านแฟชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคุณสมบัติเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200213005895/en/

Shannon Keith (Sudara), Lisa Flynn (Sudara), Katrin Ley, Yasir Arafat (Apon Wellbeing), Steven Serneels, Saif Rashid (Apon Wellbeing), Daniel Grieder, Tommy Hilfiger, Martijn Hagman, Naz Kawan (A Beautiful Mess), Fleur Bakker (A Beautiful Mess) and Noor Tagouri (Photo: Business Wire)

Shannon Keith (ทีม Sudara), Lisa Flynn (ทีม Sudara), Katrin Ley, Yasir Arafat (ทีม Apon Wellbeing), Steven Serneels, Saif Rashid (ทีมApon Wellbeing), Daniel Grieder, Tommy Hilfiger, Martijn Hagman, Naz Kawan (ทีม A Beautiful Mess), Fleur Bakker (ทีม A Beautiful Mess) และ Noor Tagouri (ภาพ Business Wire)

“ที่ Tommy Hilfiger เรามุ่งมั่นที่จะไม่ทิ้งใครไปและจะต้อนรับทุกคน  ผมได้รับแรงบันดาลใจตั้งแต่เริ่มต้นจนจบมาจากกลุ่มผู้ประกอบการทางสังคมที่มีความสามารถที่มีนวัตกรรมที่กำลังทำให้ภูมิทัศน์แฟชั่นยั่งยืนและครอบคลุมคนกลุ่มต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น” Tommy Hilfiger กล่าว “ ผมภูมิใจที่ได้แสดงความยินดีกับผู้ชนะซึ่งได้แก่ Apon Wellbeing และ A Beautiful Mess นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นสำหรับบริษัทสตาร์ตอัพกลุ่มนี้และเราจะยังคงให้คำปรึกษาและส่งเสริมผู้ประกอบการเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกในอุตสาหกรรมของเรา”

“ผู้ชนะของการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่สอง เป็นตัวแทนอนาคตของอุตสาหกรรมแฟชั่น” Daniel Grieder ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าว “ ในขณะที่อุตสาหกรรมของเรายังคงพัฒนาอย่างรวดเร็วจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องร่วมมือกันทั้งในและนอกวงการแฟชั่น และนำนวัตกรรมที่มีความสามารถในการเปลี่ยนธุรกิจของเราให้ดีขึ้นมาใช้ ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะและผู้เข้ารอบสุดท้ายทุกคน”

Apon Wellbeing ได้รับรางวัล 75,000 ยูโร การขยายขนาดจากบังคลาเทศเปิดก่อให้เกิดร้านค้าราคายุติธรรมซึ่งมีของใช้จำเป็นภายในโรงงานทุกวันพร้อมผลิตภัณฑ์ที่มอบส่วนลด 10% จากราคาภายนอก และโครงการให้แต้มที่คนงานเก็บเอาไว้เพื่อรับประกันสุขภาพและบริการด้านสุขภาพฟรี

Saif Rashid ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Apon Wellbeing ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการกล่าวว่า“ เมื่อคุณกำลังก่อร่างสร้างบริษัทในห่วงโซ่คุณค่าแฟชั่น การได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์อย่าง TOMMY HILFIGER ช่วยให้สตาร์ตอัพและสเกลอัพเติบโตและสร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสนับสนุนเชิงกลยุทธ์และการเป็นที่ปรึกษาของ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ตอบโจทย์นั้น การสนับสนุนของ TOMMY HILFIGER นั้นช่วยสร้างรูปร่างให้แก่ธุรกิจ กลยุทธ์ การสื่อสาร และวิธีคิดเกี่ยวกับอนาคตของเรา”

A Beautiful Mess สตาร์ตอัพสัญชาติเนเธอร์แลนด์  ได้รับรางวัล 75,000 ยูโร โดย Beautiful Mess ใช้พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในการสร้างความเป็นอิสระทางสังคมและเศรษฐกิจโดยการใช้การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายที่ยั่งยืน

“เราต้องการผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นเพื่อจุดประเด็นการขยายการผลิตแบบหมุนเวียน หรือ scale-up circular production initiatives และนั่นคือสิ่งที่ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้นำเสนอ” Naz Kawan ผู้อำนวยการ Beautiful Mess Makerspace กล่าว “ วิธีการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการเป็นสิ่งจำเป็นหากเราต้องการเปลี่ยนอุตสาหกรรมซัพพลายเชน เรากำลังทำงานในแนวแฟชั่นแนวหมุนเวียนที่โปร่งใสและครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนของโครงการระดับโลกนี้”

ผู้ชนะยังได้รับการให้คำปรึกษาเป็นเวลาหนึ่งปีกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของ Tommy Hilfiger และ INSEAD รวมถึงสถานที่ในโครงการ INSEAD Social Entrepreneurship Program (ISEP)

Sudara เป็นสตาร์ตอัพลำดับที่สามที่ได้รับโหวตให้เป็น "ขวัญใจผู้ชม" และได้รับรางวัล 10,000 ยูโร ทั้งนี้ Sudara ตั้งอยู่ในประเทศอินเดียและสหรัฐอเมริกา และเป็นบริษัท scale-up ชุดนอนและชุดลำลองที่พัฒนาทักษะระดับมืออาชีพด้านการเย็บผ้าสำหรับผู้หญิงที่หนีออกจากการค้ามนุษย์ได้ หรือที่มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกค้ามนุษย์ทางเพศ

“การแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge คือการใช้แฟชั่นเป็นแรงผลักดันในเชิงบวก ซึ่งพูดถึงวัตถุประสงค์ของแบรนด์ของเราโดยตรง” Shannon Keith ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Sudara Inc. กล่าว “ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล 'ขวัญใจผู้ชม' เพราะมันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เรากำลังทำเป็นไปในทิศทางเดียวกับของทีมที่ TOMMY HILFIGER ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรมแฟชั่น”

ในกระบวนการหลายขั้นตอนที่ใช้เวลาหลายเดือนซึ่งเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2562 ผู้สมัครกว่า 420 ราย ถูกลดจำนวนให้เข้ารอบแค่ 6 รายในรอบสุดท้าย ซึ่งได้รับเชิญให้พัฒนาและปรับปรุงแผนธุรกิจด้วยการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ประกอบการทางสังคม โดยเฉพาะ ในช่วงกิจกรรมรอบชิงชนะเลิศของโครงการซึ่งจัดขึ้นที่ Campus of the Future ของ Tommy Hilfiger ในเมืองอัมสเตอร์ดัม Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้งหกทีมได้ส่งแนวคิดของตนไปยังคณะลูกขุนที่มีชื่อเสียงซึ่งรวมถึง Mr. Tommy Hilfiger, Daniel Grieder ซึ่งเป็น CEO ของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe, Noor Tagouri นักข่าว นักกิจกรรมและนักพูด, Martijn Hagman ซึ่งเป็น CFO ของ Tommy Hilfiger Global & COO, Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe, Willemijn Verloop, ผู้ร่วมก่อตั้ง Social Impact Venture, Steven Serneels, ซีอีโอและสมาชิกคณะกรรมการ EVPA และ Katrin Ley กรรมการผู้จัดการ Fashion for Good

วิสัยทัศน์ของ Tommy Hilfiger คือการสร้างแฟชั่นที่ไม่ปล่อยให้ใครถูกทอดทิ้งและยินดีต้อนรับทุกคน ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวของแบรนด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเข้าถึงทุกคนและวัฏจักรของแบรนด์ ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-sustainability.

ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ติดตามของแบรนด์ทุกคนร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger.

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

ด้วยพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่มีทั้ง TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS จึงทำให้ TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ดีไซเนอร์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก โดยมุ่งเน้นการออกแบบและการตลาดเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสำหรับบุรุษ เสื้อผ้าสตรี ชุดกีฬา เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าคอลเล็คชั่น ผ้ายีนส์ ชุดชั้นใน (รวมถึงชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลอง) รองเท้าและอุปกรณ์เสริม ที่มีคุณภาพสูง โดย Tommy Hilfiger นำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เสริม เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม เครื่องแต่งกายกีฬา ชุดกอล์ฟและชุดว่ายน้ำ) ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ สินค้าไลฟ์สไตล์ และกระเป๋าเดินทาง สายผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ยีนส์และรองเท้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เครื่องประดับ และน้ำหอม สินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS มีให้บริการสำหรับผู้บริโภคทั่วโลกผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ตามห้างร้าน ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกออนไลน์บน tommy.com.

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH ได้สร้างมาตรฐานของสไตล์ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้ามาโดยตลอด ผลงานที่โดดเด่นของเรารวมถึงTOMMY HILFIGER, CALVIN KLEIN, Van Heusen, IZOD, ARROW, Speedo*, Warner’s, Olga และ Geoffrey Beene, ตลอดไปจนถึงแบรนด์ชุดชั้นใน True & Co. ที่มีความเป็นดิจิตอลสูง เราทำการตลาดสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศและเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ของตนเอง PVH มีพนักงานมากกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศและมีรายรับต่อปีเกือบ 9,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้คือพลังของ PVH

* Speedo เป็นแบรนด์ได้รับใบอนุญาตสำหรับอเมริกาเหนือและแคริบเบียนแบบถาวรจาก Speedo International Limited

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200213005895/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger

Baptiste Blanc

Sr. Director, Communications and Earned Media

อีเมล: Baptiste.Blanc@tommy.com

โทร: +31 62904 2334



ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ประกาศชื่อธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้ารอบสุดท้ายในกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์

Logo

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2563

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ (Tommy Hilfiger) ซึ่งมี พีวีเอชคอร์ป เป็นเจ้าของ [NYSE: PVH] ประกาศรายชื่อหกทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายในกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ประจำปี 2562 สำหรับการจัดกิจกรรมในปีที่สอง รายการระดับโลกนี้มีเป้าหมายสนับสนุนผู้เริ่มต้นธุรกิจและธุรกิจที่กำลังขยายในการพัฒนาโซลูชั่นที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนเชิงบวกครอบคลุมทุกด้านของธุรกิจแฟชั่น การคัดเลือกทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายคือขั้นถัดไปของการชี้ให้เห็นและสนับสนุนโอกาสด้านนวัตกรรมที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมนี้ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 หกทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายจะเดินทางไปยัง Campus of the Future ของ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนำเสนอแนวคิดธุรกิจของตนให้คณะกรรมการจากธุรกิจทั้งภายในและภายนอกรวมถึงผู้นำด้านความยั่งยืนได้ทราบในกิจกรรมระดับโลก ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ รอบสุดท้าย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200112005011/en/

TOMMY HILFIGER Fashion Frontier Challenge Finalists 2018 (Photo: Business Wire)

ผู้เข้ารอบสุดท้ายการประกวดทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ปี 2561 (รูปภาพ: Business Wire)

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ กล่าวว่า “การได้เห็นกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ในปีที่สองได้รับความสนใจจากผู้สมัครที่ทำงานเพื่อให้อุตสาหกรรมแฟชั่นมีความเป็นหนึ่งเดียวและยั่งยืนมากขึ้นเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก พวกเรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์โซลูชันที่ทันสมัยและชาญฉลาด สำหรับรับมือกับความท้าทายบางประการที่อุตสาหกรรมนี้ต้องเผชิญ และผมตั้งตารอที่จะได้กลับมาเป็นคณะกรรมการตัดสินผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมปีนี้ ความหวังและความตั้งใจต่ออนาคตที่สดใสที่พวกเขามีร่วมกันควรสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคนร่วมมือกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น”

ตลอดกระบวนการต่าง ๆ ที่กินระยะเวลาทั้งหมดสี่เดือน ทีมผู้สมัครกว่า 420 ทีมถูกคัดเลือกให้เหลือเพียงหกทีมสุดท้าย ซึ่งได้รับเชิญให้ร่วมพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขแผนธุรกิจของตนให้ดียิ่งขึ้น โดยรับความสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งมั่น ณ Campus of the Future สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายประกอบด้วย:

  • ธุรกิจจากบังกลาเทศที่กำลังขยายขนาด Apon Wellbeing เปิดร้านจำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันภายในโรงงานในราคายุติธรรม โดยสินค้ามีราคาถูกกว่าที่จำหน่ายภายนอก 10% และมีโปรแกรมสะสมแต้มที่คนงานสามารถสะสมเพื่อนำไปแลกประกันสุขภาพหรือใช้บริการทางสุขภาพได้ฟรี
  • ธุรกิจจากอเมริกาที่กำลังขยายขนาด Stony Creek Colors เป็นผู้จัดหาพืชที่ให้สีครามธรรมชาติกับเกษตรกรผู้ทำไร่ยาสูบขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะสูญเสีรายได้เนื่องจากยอดขายยาสูบที่ตกต่ำ พืชที่ทำรายได้ที่จัดหาให้โดย Stony Creek Colors ช่วยให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงชีพได้
  • ธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติดัชต์ A Beautiful Mess ประกอบธุรกิจพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อช่วยผู้ลี้ภัยให้สามารถเลี้ยงตัวเองและใช้ชีวิตในสังคมได้ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายที่มีความยั่งยืน
  • บริษัทสตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกา Lab 141 ตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดพอดีกับผู้สวมใส่ในปริมาณน้อยโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ ด้วยวิธีการเช่นนี้ Lab 141 ได้ช่วยสนับสนุนและทำให้แนวคิดของแฟชั่นเสื้อผ้า “ที่ไม่ระบุขนาด” เกิดขึ้นจริง
  • บริษัทชุดนอนสัญชาติอินเดียที่กำลังขยายขนาด Sudara พัฒนาทักษะอาชีพและทักษะการเย็บในกลุ่มผู้หญิงที่หนีจากหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกค้ามนุษย์ในธุรกิจทางเพศ
  • บริษัทจากฝรั่งเศสที่กำลังขยายขนาด Constant & Zoe สร้างสรรค์เสื่อผ้าที่มีความทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กที่มีความพิการ

คณะกรรมการผู้ทรงเกียรติที่ทำหน้าที่ตัดสินในรอบสุดท้าย ประกอบด้วย:

  • Tommy Hilfiger
  • Ankiti Bose ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอจาก Zilingo
  • Noor Tagouri นักข่าว นักรณรงค์ และวิทยากร
  • Daniel Grieder ซีอีโอจาก Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Martijn Hagman ซีเอฟโอจาก Tommy Hilfiger Global และ COO จาก Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Willemijn Verloop ผู้ร่วมก่อตั้ง Social Impact Venture
  • Steven Serneels ซีอีโอและกรรมการบริหาร EVPA
  • Katrin Ley กรรมการผู้จัดการ Fashion for Good

คณะกรรมการผู้ตัดสินจะมอบเงินรางวัลมูลค่า 150,000 ยูโรให้กับทีมผู้ชนะสองทีมเพื่อนำไปเป็นทุนสำหรับข้อเสนอทางธุรกิจ ผู้ชนะยังจะได้รับคำปรึกษาตลอดเวลาหนึ่งปีจาก ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ และผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจาก INSEAD รวมถึงพื้นที่ในโครงการผู้ประกอบการเพื่อสังคม (ISEP) ของ INSEAD นอกจากนี้ยังมีรางวัลเงินสดเพิ่มเติมมูลค่า 10,000 ยูโรสำหรับมอบให้กับทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายที่ชนะ “การโหวตผลงานที่ชื่นชอบจากผู้ชม”

วิสัยทัศน์ของ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ คือการได้สร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เปิดกว้างและปิดช่องว่างในด้านต่าง ๆ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความตั้งใจด้านความยั่งยืนในระยะยาวของแบรนด์ โดยเฉพาะด้านการมีส่วนร่วมของคนทุกกลุ่มและการหมุนเวียน ได้ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-sustainability

ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ที่ติดตามแบรนด์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาผ่านสื่อสังคมโดยใช้แฮชแท็ก #TommyHilfiger, #FashionFrontierChallenge, #MakeNewPossible และ @TommyHilfiger

# # #

เกี่ยวกับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชั่นเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ พีวีเอชคอร์ป

พีวีเอช เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น TOMMY HILFIGERCALVIN KLEINVan HeusenIZODARROWSpeedo*, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True & Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์ตนเป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ พีวีเอช มีพนักงานกว่า 38,000 คนในกว่า 40 ประเทศ และมีรายรับต่อปีเกือบ 9.7 พันล้านดอลลาร์ฯ ทั้งหมดนี่คือพลังของ พีวีเอช

*แบรนด์ Speedo ได้รับอนุญาตในอเมริกาเหนือและแคริบเบียนแบบถาวรจาก Speedo International Limited

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200112005011/en/

ข้อมูลติดต่อ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์
Baptiste Blanc
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารและสื่อประเภท Earned Media
อีเมล: Baptiste.Blanc@tommy.com
โทร: +31 62904 2334

Mary Kay จุดประกายเทรนด์ความงามในงานแฟชันวีคสปริง/ซัมเมอร์ 2020 ในยุโรป

Logo

ช่างแต่งหน้าจาก Mary Kay สร้างสรรค์เทรนด์ความงามประจำซีซันสปริง/ซัมเมอร์ 2020 ในงานแฟชันวีค 173 งานซึ่งจัดขึ้นในห้าประเทศ

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–20 ธันวาคม 2562

Mary Kay Inc. เดินหน้าสร้างชื่อเสียงในอุตสาหกรรมความงามผ่านความเป็นพันธมิตรร่วมกับงานยูเครเนียนแอนด์เบลารุสแฟชันวีค เมอร์เซเดส-เบนซ์แฟชันวีครัสเซีย และบราติสลาวาแฟชันเดย์ส ในประเทศสโลวะเกียและสาธารณรัฐเช็ก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20191219005838/en/

Mercedes-Benz Fashion Week Russia (Photo: Mary Kay Inc.)

งานเมอร์เซเดส-เบนซ์แฟนชันวีครัสเซีย (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

“ในฐานะผู้นำนวัตกรรมเทรนด์ความงาม Mary Kay ได้ร่วมกับศิลปินความงาม เผยลุคประจำรันเวย์สำหรับปี 2020 นี้ในงานแฟชันวีคหลายแห่งซึ่งจัดขึ้นในยุโรป” Tara Eustace ประธาน Mary Kay ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าว “รันเวย์ในงานแฟชันวีคคือเวทีที่จะสร้างแรงบันดาลใจ แนะนำนวัตกรรมใหม่สู่โลกแฟชัน และยกระดับเทรนด์การแต่งหน้าในประเทศเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี”

ดีไซเนอร์ อินฟลูเอนเซอร์ เซเลบริตี ช่างแต่งหน้า บล็อกเกอร์และบรรณาธิการด้านความงามต่างเข้าร่วมงานแฟชันวีคประจำซีซันสปริง/ซัมเมอร์ 2020 ทั้งห้างานซึ่ง Mary Kay ร่วมเป็นพันธมิตรการจัดงานอย่างเป็นทางการ

“สตูดิโอออกแบบระดับโลกของ Mary Kay ก่อตั้งมาแล้วกว่า 10 ปี เพื่อจุดประกายเทรนด์ความงามและขับเคลื่อนวัตกรรม เติมความสร้างสรรค์และความเป็นตัวตนผ่านความร่วมมือทางแฟชันทั่วโลก” Sheryl Adkins-Green ผู้อำนวยการสูงสุดด้านการตลาด และเจ้าหน้าที่ด้านความสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจประจำสตูดิโอออกแบบระดับโลกของ Mary Kay กล่าว “ในช่วงการจัดงานแฟชันวีค ช่างแต่งหน้าที่ร่วมงานกับ Mary Kay จะเผยให้เห็นเทรนด์แต่งหน้าที่สำคัญ ๆ ประจำซีซัน ซึ่งผู้ที่สนใจเรื่องความงามสามารถลองแต่งหน้าแบบเดียวกับ ‘ที่แสดง’ บนรันเวย์ หรือ สามารถนำลุคนั้นไปเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์การแต่งหน้าในสไตล์ของตัวเองได้”

ไฮไลต์ในงานแฟชันวีค:

งานยูเครเนียนแฟชันวีค หรือ UFW จัดขึ้นในกรุงเคียฟระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 4 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นงานแรกในยุโรปที่ Mary Kay เป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน ภายใต้การควบคุมงานศิลป์โดยหัวหน้าช่างแต่งหน้าอย่าง MartElle ทีมศิลปินความงามทั้งหมด 40 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกทีมขายอิสระของ Mary Kay แต่งหน้าให้กับผู้ที่เดินแบบให้กับดีไซเนอร์จากยูเครนทั้งหมด 30 แบรนด์ และสร้างสรรค์ลุคแต่งหน้าทั้งหมด 350 ลุคตลอดการจัดงาน โดยหนึ่งในการแสดงเป็นแคปซูลคอลเลกชันบราสีชมพูสุดเอ็กซ์คลูซิฟ ผลงานจากความร่วมมือระหว่าง Mary Kay ประเทศยูเครนกับแบรนด์ชุดชั้นในอย่าง Keòsme โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนสตรีที่ถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม สิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการจำหน่ายสินค้าคอลเลกชันนี้จะถูกนำไปบริจาคให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของยูเครนที่ทำงานเพื่อสนับสนุนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสตรี

ถัดมาเป็นงานบราติสลาวาแฟชันเดย์ส โดย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งจัดขึ้นในกรุงบราติสลาวาระหว่างวันที่ 16 ถึง 19 กันยายน และในกรุงปรากระหว่างวันที่ 5 ถึง 6 ตุลาคม โดย Mary Kay ประเทศสโลวะเกีย ได้รับมอบหมายให้เป็นทีมช่างแต่งหน้าอย่างเป็นทางการของงานดังกล่าวเป็นปีที่สองติดต่อกัน ทีมช่างแต่งหน้าได้แต่งหน้าให้กับนางแบบด้วยลุคที่สะกดทุกสายตา และร่วมแสดงในรายการที่บอกเล่าการทำงานหลังเวทีของช่อง Fashion TV ลุคการแต่งหน้าสุดพิเศษอย่าง “Sparkling Pewter,” “Sultry Glam,” “Sweet Champagne,” และ “Garnet Gold” แรงบันดาลใจจากทูตความงามระดับโลกของ Mary Kay อย่าง Luis Casco ได้กลายเป็นไฮไลต์ของการแสดง และการแสดงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ในกรุงบราติสลาวาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดงานแฟชันเดยส์ประจำซีซัน 2019

Mary Kay ในรัสเซียได้รับเลือกให้เป็นทีมช่างแต่งหน้าอย่างเป็นทางการของงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์แฟชันวีครัสเซีย หรือ MBFW Russia เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน 13 ซีซันต่อเนื่อง งาน MBFW Russia ซึ่งเป็นงานแฟชันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ถึง 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา Luis Casco และช่างแต่งหน้าชื่อดังอย่าง Andrey Shilkov ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ลุคให้กับการแสดงทั้งหมด 109 การแสดง จากทั้งหมด 119 การแสดง ขณะที่ช่างแต่งหน้าที่เป็นทีมขายอิสระจาก Mary Kay ในรัสเซีย ยังได้เป็นตัวแทนแบรนด์ในการทำงานเบื้องหลัง ลุคความงามอันน่าทึ่งที่ถูกรังสรรค์ให้กับการแสดงบนรันเวย์ของแบรนด์ Te Amo Couture นั้นเป็นผลงานความร่วมมือสุดเอ็กซคลูซิฟระหว่าง Casco และ Shilkov

สำหรับงานเบลารุสแฟชันวีค หรือ BFW จัดขึ้นในกรุงมินสก์ระหว่างวันที่ 17 ถึง 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการปิดท้ายฤดูกาลแห่งการจัดงานแฟชันวีคที่ประสบความสำเร็จของ Mary Kay ในยุโรปตะวันออก Mary Kay เป็นทีมช่างแต่งหน้าอย่างเป็นทางการของงาน BFW เป็นฤดูกาลที่ 7 ติดต่อกัน ทีมช่างแต่งหน้าที่เป็นทีมขายอิสระจาก Mary Kay ในเบลารุส ได้สร้างสรรค์ลุคสำหรับรันเวย์ทั้งหมด 650 ลุค และได้ทำการแปลงโฉมลุคไม่ต่ำกว่า 500 ครั้ง ภายใต้การนำของศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอย่าง Alexander Kiryniuk ซึ่งได้นำเสนอเทรนด์ประจำซีซันในงานนี้ด้วย

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 55 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนใน 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20191219005838/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com










The Bangkok Reporter